มนุษย์แฟนเด็ก
19
มีความ Have a nice day
จริงใจดึงหูฟังที่ใส่อยู่ออกจากใบหูเมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา แผ่นหลังกว้างยืดตรงอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นใคร
“พี่ฟ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?”
“เพิ่งมาถึงครับ ไม่เห็นเจเจข้างล่างเลยขึ้นมาหา”
จริงใจพยักหน้ารับเบา ๆ เขารู้สึกไม่ค่อยวางใจสักเท่าไหร่ การที่พี่ฟ้าเข้ามาหาถึงห้องแบบนี้ต้องมีเรื่องแน่ ๆ
“ผมกำลังแกะเพลงน่ะครับ แล้วพี่ฟ้ามีเรื่องอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่า?”
“มีสิ!” เพลิงฟ้าบอกแล้วเดินไปนั่งที่ปลายเตียงของจริงใจ “พี่ชายเราจะกลับเมื่อไหร่ครับ?”
“น่าจะสาย ๆ มั้งครับ ผมก็ไม่แน่ใจ” วันนี้เป็นวันเสาร์และเป็นวันที่จันทร์เจ้าจะกลับจากบ้านคุณย่าเพื่อนอนที่บ้านนี้ปกติ และโดยปกติแล้วพวกเขาสามพี่น้องจะสลับกันไปนอนบ้านคุณย่าบ้างแล้วแต่ว่าจะไปวันไหน เพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นน้อยใจว่าหลานไม่รัก
“พี่ฟ้าอยากรู้เรื่องเจเจกับเด็กทิวากาล เล่าให้พี่ฟ้าฟังหน่อยได้ไหมครับ?”
“อ่า...”
“พี่ฟ้ารู้ว่าเจเจรู้ เพราะฉะนั้นเล่ามาทุกอย่างห้ามโกหก และห้ามเล่าไม่หมดนะครับ”
แล้วเขาจะทำอะไรได้ล่ะ... จริงใจพรูลมหายใจออกก่อนจะเริ่มเล่า
ทุกอย่างให้เพลิงฟ้าฟัง ซึ่งเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบจริงใจก็ลอบมองอาการของพี่ฟ้า ตอนนี้เพลิงฟ้าคนนี้ของเจเจทั้งสามได้นิ่งค้างกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว...
โอ๊ย!! นี่มันอะไรกันเนี่ย! ขอยาดมให้เพลิงฟ้าหน่อย หรือยาดมจะไม่พอวะ เอาถังออกซิเจนมาเลย เพลิงฟ้าจะเป็นลม! ไม่ได้อยู่ด้วยไม่กี่วันทำไมเจเจของเขาถึงได้ไปสนิทสนมกับทิวากาลถึงขนาดปันใจให้แบบนั้น
“พี่ฟ้า... ใจเย็น ๆ นะครับ”
“เจเจ พี่ฟ้าจะเป็นบ้า” เพลิงฟ้าพูดเสียงสั่น มือสวยยกขึ้นกุมขมับ จริงใจเห็นท่าทางของพี่ฟ้าคนดีแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้ง นึกสงสารจันทร์เจ้าขึ้นมาดื้อ ๆ แต่ก็สงสารแค่จันทร์เจ้านั่นแหละนะ กับอีกคนน่ะ... หึ
“พี่ฟ้ายังไม่อยากให้เจเจมีแฟนเลย...”
“ผมแค่ให้ชอบเฉย ๆ ครับ ไม่อนุญาตให้คบกัน”
“เฮ้อ...”
“พี่ฟ้าเครียดแบบนี้เดี๋ยวจันทร์เจ้าก็พลอยนอยด์ไปด้วย”
มันก็จริงอย่างที่จริงใจว่า ถ้าเขาเป็นแบบนี้จันทร์เจ้าก็จะไม่สบายใจไปด้วย “เฮ้อ... นอกจากเจเจแล้วมีใครรู้เรื่องนี้บ้างครับ?”
“เพื่อนเขานั่นแหละครับ”
“อ๋อ...”
“สวัสดีค้าบบบ หนูกลับมาแล้ววววว~” ลูกหมูตะโกนเสียงร่าเริงพร้อมกับวิ่งเข้าไปในบ้านเมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นก็ทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่พื้นอย่างไม่ใยดีแล้วเข้าไปกอดและหอมแก้มทุกคนด้วยความคิดถึง
“คิดถึงหนูไหม หนูคิดถึงทุกคนเลย~”
“ไม่มีหนูบ้านสงบมาก ต้องคิดถึงอยู่แล้วสิ”
“มันแปลก ๆ นะป่าป๊ะ” ลูกหมูหน้ายู่กับคำพูดของคุณพ่อ แต่ก็สะบัดหัวไม่สนใจแล้วเข้าไปกอดซบหาความอุ่นจากอ้อมแขนป่าป๊ะ
“ไม่มาหาพี่ฟ้าหรอ?” เพลิงฟ้าถามขึ้น ปกติถ้าหากมีเขาอยู่เจ้าลูกหมูต้องวิ่งเข้ามาอ้อนเขาแล้วนี่ อะไรกัน... หรือเพราะว่ามีแฟนก็เลยลืมเขา
“หนูไม่ไปหาพี่ฟ้าหรอก น้าเจ้าจะไม่ให้ตังค์กินขนม” ลูกหมูยิ้มซุกซน ก่อนจะออกจากบ้านคุณย่า น้าเจ้าส่งข้อความมาถามว่าจะกลับบ้านกี่โมง ทีแรกก็กะว่าจะกลับตอนเช้า พอน้าเจ้าพูดแบบนั้นก็เลยกลับตอนบ่ายแทน น้าเจ้าบอกว่าเจอลูกหมูที่ไรพี่ฟ้าก็ไม่สนใจน้าเจ้า เพราะฉะนั้นเมื่อกลับบ้านก็ห้ามอ้อนไม่อย่างนั้นจะไม่ให้เงินไปซื้อขนม
“หนูรักพี่ฟ้านะ แต่ขนมก็สำคัญ...” จันทร์เจ้าบอกหลังจากเล่าถึงสาเหตุที่ไม่เข้าไปคลอเคลียพี่ฟ้าคนดี เมื่อเล่าจบทุกคนก็ขำ เพลิงฟ้าก็ทำหน้ามึนงง และเจ้าชีวันที่ชี้หน้าคาดโทษหลานตัวแสบ
“ไหน เล่าให้ยายฟังซิลูกว่าสัปดาห์นี้ทำอะไรบ้าง?”
“ได้เลยครับผม~~” เมื่อรับคำเสร็จสรรพลูกหมูก็เริ่มเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นความทรงจำ รวมทั้งเรื่องทิวากาล...
“ดูหนูสนิทกับรุ่นพี่คนนี้จังเลยนะ” จอมจิตตรีว่าพร้อมกับลูบเส้นผมนุ่มของลูกชาย ลูกหมูพยักหน้าหงึกรับคำพูดคุณแม่ก่อนจะไปสนใจขนมที่แม่บ้านยกมาเสิร์ฟเป็นของว่าง จนไม่ได้มองว่าสายตาของทุกคนเป็นแบบไหน โดยเฉพาะเพลิงฟ้าที่ดูจะกังวลเป็นพิเศษ... ถ้าจริงใจยังไม่ออกไปข้างนอกก็คงจะมีสายตาแบบเดียวกับเขา ...ล่ะมั้ง
เจ้าชีวันตบหลังมือคนรักเบา ๆ เขารู้ว่าเพลิงฟ้ากำลังคิดมากเรื่องอะไร
“เจเจครับ”
“อ๊ะ! พี่ฟ้ามีอะไรหรอฮะ?” ลูกหมูขึ้นนั่งบนเตียงและวางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว รู้สึกช่วงนี้จะติดโทรศัพท์แฮะ
“ขอพี่ฟ้าคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ครับ”
“หนูกำลังทำอะไรอยู่พี่ฟ้ามากวนหรือเปล่า?”
“หนูแค่เล่นมือถือเฉย ๆ ไม่กวนคับ”
เพลิงฟ้ายิ้มบางพร้อมรั้งตัวลูกหมูเข้าไปกอด จันทร์เจ้าเองก็กอดตอบสัมผัสคุ้นเคย “ไม่ได้เจอแค่อาทิตย์เดียว อ้วนขึ้นหรือเปล่าเจเจ!?”
“เท่าเดิม! ไม่อ้วนนะ พี่ฟ้ามั่ว”
“ไม่อ้วนได้ไง ดูซิ จับไปตรงไหนก็มีแต่เนื้อทั้งนั้นเลย พอแล้วนะครับ ไม่มากไปกว่านี้แล้วนะ” ตอนนี้ลูกหมูกำลังน่ารัก น่ากอด แต่ถ้าหากมากไปกว่านี้มันจะกลายเป็นตรงกันข้ามได้ เพลิงฟ้าบีบไปตามเนื้อนิ่มเบา ๆ เห็นหน้ากังวลของเจเจแล้วก็หัวเราะ
“งั้นหนูจะออกกำลังกายแล้ว เพราะทิวาเลย พาหนูไปหาอะไรกินอยู่เรื่อย”
เพลิงฟ้ายิ้มค้าง หรี่ตามองเด็กน้อยตรงหน้า “หนูสนิทกับทิวากาลมากเหรอครับ?”
“สนิทครับ แต่ไม่มาก”
“งั้นเหรอ...”
“พี่ฟ้าเป็นอะไรครับ?”
“เป็นสถาปนิก”
“หนูหมายถึงอารมณ์ตอนนี้ต่างหากล่ะ ไม่ได้หมายถึงอาชีพสักหน่อย”
“ฮ่าฮ่า เปล่า พี่ฟ้าไม่ได้เป็นอะไร” วางมือขยี้กลุ่มนุ่มและส่งยิ้มยืนยันไปให้
ใครจะบอกกันล่ะว่าเขากำลังคิดหนักกับความสัมพันธ์ของเจเจและทิวากาล ระดับความสนิทสนมที่เพิ่มมากขึ้น จากคนแปลกหน้าสู่การเป็นคนรู้จัก เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิท แล้วหลังจากนั้นล่ะ... คำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้ว คำถามที่ไม่ควรถามให้เจ็บใจเอง การที่ได้ฟังเจเจเอ่ยปากเล่าถึงรุ่นพี่คนสนิทได้อย่างไม่ติดขัดและสนุกกับการแชร์เรื่องที่ตัวเองได้ทำร่วมกันให้คนในครอบครัวฟังนั้นทำให้เพลิงฟ้าหายใจติดขัดอย่างที่ไม่ควรจะเป็น และเขาแทบจะเสียสติเมื่อหมูน้อยแห่งอัศวโยธินทร์หน้าแดงเป็นระยะระหว่างที่กำลังเจื้อยแจ้ว
“พี่ฟ้ากังวลอะไรหรอฮะ?” ราวกับมีอะไรปักลงกลางใจ... เพลิงฟ้ายังคงยิ้มให้เจเจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เปล่านี่ครับ พี่ฟ้าจะกังวลอะไรล่ะ หือ?”
“พี่ฟ้ายิ้มให้หนู แต่ตาพี่ฟ้าไม่ยิ้ม คิ้วก็ขมวดจนแทบชนกัน หน้าผากก็ย่น”
คราวนี้ศรนับร้อยพุ่งชนอกเขาเต็ม ๆ เพลิงฟ้าเองก็ลืมคิดไปว่าเขาควบคุมสีหน้าและความรู้สึกไม่เก่ง เป็นมาแต่ไหนแต่ไร แก้ไม่เคยหาย ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจเจก็ยิ่งยาก การออกแบบสิ่งก่อสร้างให้ตรงใจลูกค้ายังดูง่ายไปเลยหากเทียบกับเรื่องนี้แล้ว และเขาก็คงลืมไปอีกว่าเจเจของเขาเป็นเด็กฉลาดและช่างสังเกต บันทึกรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้แล้วค่อยพูดออกมาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
“อ่า...”
“พี่ฟ้ากังวลเรื่องของหนูหรอครับ เรื่องหนูกับทิวาเหรอ?” จันทร์เจ้าเอ่ยถามออกไปโดยไม่ปล่อยให้เพลิงฟ้าได้เตรียมใจเพื่อหาคำตอบ เจ้าตัวกระเปี๊ยกขมวดคิ้วฉับเมื่อปฏิกิริยาของพี่ฟ้าตอบกลับมาแม้จะไม่มีคำพูด รู้แล้วล่ะ...
“จริงใจบอกพี่ฟ้าแล้วเหรอ...” คราวนี้เอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตากลมที่จ้องมองพี่ฟ้ากำลังสั่นไหว เพลิงฟ้าเผลอกลั้นหายใจไปชั่วครู่เมื่อเห็นแววตาของเจเจ ไม่ได้สิ เขาต้องใจแข็งไว้ ร่างโปร่งหลับตาตั้งสติชั่ววินาทีก่อนจะลืมตาขึ้นและสบตากับเจเจด้วยสายตาจริงจัง
โธ่ มีใครบอกหรือเปล่าว่าการทำใจแข็งกับเจเจน่ะมันยากนะโว้ย! เพลิงฟ้าจะบ้าตาย อยากจะเอาหัวไปโขกกับขอบโต๊ะก็กลัวจะเสียภาพลักษณ์คนแมน
“ครับ”
คำตอบแค่คำเดียวจากปากพี่ฟ้าก็สามารถทำให้จันทร์เจ้าหายใจสะดุดได้เช่นกัน “ละ แล้ว... พี่ฟ้า ... คิดยังไง?”
“อยากได้คำตอบจากพี่ฟ้าจริง ๆ หรอครับ หนูก็น่าจะรู้ว่าพี่ฟ้าคิดยังไง”
“ได้ยินจากปากก็ดีกว่าคิดไปเองนี่ครับ ...พี่ฟ้าเคยบอกหนูไม่ใช่เหรอ?” เพลิงฟ้าแอบถอนหายใจเฮือก ไม่คิดว่าคำพูดที่เคยบอกกับเจเจจะย้อนกลับมาเล่นงานตัวเอง เขาเคยบอกให้เจเจมีสติ เมื่อเจอเรื่องอะไรก็ตามให้ตั้งสติ และหาความจริง อย่าตีโพยตีพายคิดไปเอง เพราะความจริงอาจจะไม่ได้เป็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรือที่เราเห็น บางทีความเข้าใจผิดคิดไปไกลโดยไม่ถามสาเหตุที่แท้จริงจะนำพาถึงการสูญเสียได้... เหมือนตอนที่เขาโดนเจ้าชีวันเข้าใจผิดว่านอกใจจนเกือบจะต้องเลิกกัน...
“ครับ ถ้าหนูอยากฟังพี่ฟ้าก็จะบอก พี่ไม่ชอบครับ”
“ไม่ชอบอะไรครับ?”
“ไม่ชอบที่หนูชอบทิวากาล”
“ทำไมพี่ฟ้าถึงไม่ชอบล่ะครับ?”
“ไม่ชอบเพราะไม่ชอบครับ”
“พี่ฟ้าไม่มีเหตุผล!”
“คนเราไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลทุกเรื่องหรอกเจเจ ก็เหมือนที่หนูไม่ชอบกินบล็อกโคลี่นั่นแหละ”
“หนูมี หนูไม่ชอบเพราะมันไม่อร่อย นั่นคือเหตุผลของหนู”
“หนูไม่เข้าใจพี่” หลังจากพูดจบเพลิงฟ้าก็ชะงักเมื่อได้เห็นน้ำคลอหน่วยตาของเจเจ ทนมองไม่ได้จนต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“พี่ฟ้าก็ไม่เข้าใจหนู... พี่ฟ้าจะห้ามหนูใช่ไหม จะไม่ให้หนูชอบทิวาใช่ไหมครับ...?”
“ถ้าใช่หนูจะทำตามไหม?”
เจเจของเขาเงียบไปนานจนน่าใจหาย ดวงตากลมโตใส่แจ๋วเริ่มแดงก่ำเพราะกำลังกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เพลิงฟ้าทำได้เพียงแค่สะกดจิตตัวเอง ไม่ให้เผลอใจอ่อน ถึงแม้จะแทบทนไม่ไหวแล้วก็ตาม ใจก็สงสาร แต่ที่เขาต้องโหดก็เพราะเป็นห่วงเจเจ ทั้งห่วง ทั้งหวง ไม่อยากยกให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น
ตาคมปรายมองโทรศัพท์สีขาวของเจเจที่ส่งเสียงเตือนขึ้นมา จันทร์เจ้าก็มองมันเช่นเดียวกัน ลูกหมูยิ้ม แต่เป็นยิ้มขืน ๆ มองชื่อ
TW. บนจอแล้วก็ปวดแปลบในอก จึงเงยหน้าสบตากับพี่ฟ้า พี่ฟ้าก็คงจะเห็นว่าใครคือคนที่ส่งข้อความมา ถึงได้ยิ้มเย็นแบบนั้น
“ถ้า … ถ้าพี่ฟ้าบอกแบบนั้นหนูก็จะทำตาม หนูจะไม่ชอบทิวาก็ได้”
“………..”
“แต่มันง่ายขนาดนั้นเลยหรอครับ…?” น้ำเสียงสั่นเครือของเจเจทำเอาเพลิงฟ้าแทบน้ำตาร่วง เขาใจร้ายมากไหมที่ทำแบบนี้ แต่ที่เขาทำไปก็เพราะเป็นห่วงทั้งนั้น
ก๊อก ก๊อก ระหว่างที่ความอึดอัดโรยตัว เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงของผู้เป็นน้าจะเดินเข้ามา จันทร์เจ้าตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นน้าเจ้า หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบเช่นกัน น้าเจ้าจะมาพูดเหมือนพี่ฟ้าหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจันทร์เจ้ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แน่
“คุยอะไรกัน ทำไมบรรยากาศเครียดแบบนี้”
“เรื่องไร้สาระ” หันขวับมองพี่ฟ้าทันที พี่ฟ้าบอกว่าไร้สาระได้ยังไง! ลูกหมูเม้มปาก คลานไปหาน้าเจ้าที่ยืนอยู่ปลายเตียงแล้วโผลกอด ซบหน้ากับหน้าท้องของน้า
“อ้อนอะไรเนี่ยลูกหมู”
“หนูรักน้าเจ้า…” เจ้าชีวันเลิกคิ้วแล้วมองหน้าคนรัก แม้จะเป็นเรื่องปกติที่ลูกหมูจะเข้ามาอ้อนและบอกรัก แต่มันไม่ปกติตรงน้ำเสียงของหลานที่เปล่งออกมา เพลิงฟ้ารู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดของเจเจ แม้จะได้ยินบ่อยก็ตาม ที่ผ่านมาเจเจจะบอกรักทั้งสองคน แต่ครั้งนี้ลูกหมูน้อยของเขากลับบอกรักแค่เจ้าชีวันเพียงคนเดียว
จันทร์เจ้าไม่รักพี่ฟ้าแล้วใช่ไหม? เพราะพี่ฟ้าห้ามไม่ให้ชอบทิวากาลใช่ไหม? ทำไมเพลิงฟ้าถึงได้รู้สึกแย่ขนาดนี้วะ
“น้าก็รักหนู … คุณยายทำวุ้นกะทิไว้เยอะเลย น้ามาชวนหนูไปกิน ไปไหมครับ? หรือจะอยู่คุยกับพี่ฟ้า”
ลูกหมูส่ายหน้า รัดแขนกอดน้าเจ้าแน่นกว่าเดิม “ไม่ครับ ไม่คุยกับพี่ฟ้า ฮึก…”
อึ้งกันทั้งหมดกับประโยคที่พูดเอ่ยออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น เพลิงฟ้ากัดริมฝีปากแน่นไม่กลัวว่ามันจะปริแตก ขอบตาร้อนผ่าว อีกไม่นานน้ำตาของเขาต้องไหลออกมาแน่
“พี่ฟ้าแกล้งอะไร หือ บอกน้ามาซิ เดี๋ยวน้าจัดการให้”
“พี่ฟ้า อึก ใจร้าย ฮือ”
เจ้าชีวันส่งสายตาเป็นคำถามไปให้คนรัก จากที่จะดุก็ต้องโยนมันทิ้งไปเมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาของเพลิงฟ้า เจ้าชีวันควรจะทำยังไงดี รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมา เขาคิดผิดหรือคิดถูกที่เข้ามาหาสองคนนี้ตอนนี้ จากสถานการณ์ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องที่ทั้งสองคุยกันคือเรื่องอะไร เรื่องที่ทำให้เพลิงฟ้ากังวลมาก ๆ เกี่ยวกับเจเจมีอยู่แค่เรื่องเดียว นั่นก็คือเจเจมีแฟน สาเหตุก็เพราะหวงมาก และเป็นห่วงมาก แต่เหนือประการทั้งปวงเหล่านั้น คือกลัวว่าถ้าเจเจมีแฟนแล้วเจเจจะไม่รักพี่ฟ้าแล้ว
“โอเค เดี๋ยวน้าตีพี่ฟ้าให้”
“ไม่เอา ฮึก ไม่ให้ตี…”
“อ้าว ทำไมล่ะ พี่ฟ้าใจร้ายจนหนูร้องไห้ไม่ใช่หรอ?”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าเจ็บ…”
เพลิงฟ้าปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น ตื้นตันที่เจเจยังเป็นห่วง และรู้สึกเสียใจที่ทำให้เจเจต้องร้องไห้ เด็กน้อยในอ้อมกอดเจ้าชีวันน่าเป็นห่วง แต่เพลิงฟ้าก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เจ้าชีวันผละมือหนึ่งข้างออกจากการกอดลูกหมูไปเช็ดน้ำตาให้กับเพลิงฟ้า อายุก็เยอะแล้วยังร้องไห้เป็นเด็ก ๆ อีก ถ้าเขาพูดออกไปไอ้ดื้อของเขาคงได้สวนกลับมา ‘อายุเยอะแล้วแล้วร้องไห้ไม่ได้หรือไง!’ หึหึ และที่ไม่พูดก็เพราะเพลิงฟ้าคงไม่อยากให้ลูกหมูรู้ว่ากำลังร้องไห้
“ไม่ต้องห่วงมันหรอก ตีให้ร้องไห้เลยดีไหม จะได้ไม่ใจร้ายกับลูกหมูของน้าอีก”
“ไม่เอา ไม่ ไม่ให้ตี”
“อ่า ๆ ไม่ดีก็ไม่ตี ถ้าอย่างนั้นหนูก็หยุดร้องนะครับ ไปล้างหน้าให้สดชื่นแล้วไปกินวุ้นกัน”
“พี่ฟ้าไปไหนฮะ?”
จันทร์เจ้าเอ่ยถามเมื่อผละจากกอดของน้าเจ้าแล้วไม่เห็นพี่ฟ้า เจ้าชีวันยิ้มเป็นคำตอบแล้วไล่ลูกหมูไปล้างหน้าล้างตา จะให้บอกได้ยังไงว่าเพลิงฟ้าวิ่งออกจากห้องนอนลูกหมูไปตั้งแต่ที่เขายังพูดไม่จบประโยคดี คงพอจะเดาได้ว่าลูกหมูต้องยอมทำตามเขา และถ้าอย่างนั้นก็ต้องเห็นแน่ว่าเพลิงฟ้ากำลังร้องไห้ เจ้าตัวจึงรีบชิ่งหนีไปก่อนที่ลูกหมูจะเห็น
เดี๋ยวคงต้องคุยกันอย่างจริงจังแล้ว
“เจเจไปไหนหรอครับ?” ถามแม่บ้านเมื่อลงมาที่ครัวหลังจากสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้วไม่เจอเจเจอย่างที่ตั้งใจ เพราะเพลิงฟ้าไปหาคุณแม่ที่สวนหลังบ้านแล้วก็ไม่พบและก็ไม่ได้ถามอะไรพวกท่าน
“คุณหนูบอกว่าไปปั่นจักรยานเล่นที่สวนหน้าหมู่บ้านค่ะ”
“อ่า… ครับ”
(มีต่อค่ะ)