มนุษย์แฟนเด็ก
27
มีความคุมโทนไม่อยู่
เวลาเที่ยงวันตะวันตรงหัว ภายในโรงอาหารเต็มไปด้วยนักศึกษาทั้งในคณะและต่างคณะ ลูกหมูและผองเพื่อนนั่งทานข้าวและคุยเล่นไปตามประสา ที่พิเศษไปกว่าทุกวันก็คือวันนี้มีพี่รหัสสุดสวยมานั่งด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม จันทร์เจ้าเองก็หัวเราะสนุกสนาน และยิ้มขำเมื่อฟินน์หัวเราะจนสำลัก ไม่รู้เรื่องที่รุ่นพี่เล่ามันตลกจริง ๆ หรือพวกเราเส้นตื้นกันแน่
“แล้วตอนนั้นพี่ทำยังไงคะ?”
“โอ๊ยยย วิ่งสิคะ จะรออะไร หน้างี้ชาไปหมด” เราหัวเราะกันเสียงดังอีกครั้ง นึกภาพออกเลยว่าเป็นยังไง พี่ซันนี่เล่าว่าเคยทักคนผิด เข้าไปกอดแขนแบบมั่นใจมากว่านี่เพื่อนแน่นอน แต่พอหันมากลับไม่ใช่ แถมยังเกือบโดนแฟนเขาตบอีกด้วย
“ผมไม่คิดว่าพี่จะเด๋อขนาดนี้ ฮ่า ๆๆ”
“ซันนี่มันเด๋อกว่านี้อีกค่ะน้องเบสท์ขา ที่เห็นสวยเรียบร้อยนี่สร้างภาพค่ะ!!”
“เชื่อแล้วค่ะพี่ ฮ่า ๆๆ”
“โอ๊ย เลิกหัวเราะกันได้แล้ว เดี๋ยวแม่เอาช้อนตีปาก” ซันนี่พูดพร้อมกับชูช้อนขึ้นชี้หน้าคาดโทษทุกคนที่หัวเราะขบขันไม่เว้นแม้แต่น้องรหัสตัวนุ่มแก้มนิ่มอย่างจันทร์เจ้า
“สวยมักนกตลกมักได้นะพี่”
“พี่ทั้งสวยทั้งตลกยังไม่ได้ผู้สักคนเลยค่ะคุณน้อง!” จันทร์เจ้าหัวเราะกลิ้งอีกครั้งหลังจากพี่ซันนี่เอ่ยออกมา ซ้ำยังสะบัดผมและเชิดหน้าขึ้นประกอบด้วย
“คุยอะไรกันน่าสนุกจังเลยนะจ๊ะ” ทุกคนพร้อมใจกันกลอกตาเมื่อมีคนเข้ามาแทรกบทสนทนา “เสียงดังจนได้ยินทั่วโรงอาหารเลย อยากคุยด้วยจัง”
“สาระแน” เบลล์เพื่อนของซันนี่กัดฟันพูดก่อนจะปั้นหน้ายิ้มให้กับฟาง “ไม่มีเพื่อนคุยด้วยเหรอจ๊ะ ถึงจะมาคุยกับคนอื่นเขา”
“แหม ก็แค่เห็นว่าหัวเราะกันเลยสงสัยว่าคุยเรื่องอะไรเท่านั้นแหละจ้ะ”
“ฟางมีอะไรหรือเปล่า พูดมาตรง ๆ ดีกว่า”
“โธ่ ซันนี่ ทำไมถามแบบนั้นล่ะ ฟางก็แค่เข้ามาทักเฉย ๆ นะ” ฟางฉีกยิ้มหวาน แต่ใครมองก็รู้ว่าเสแสร้ง “อุ๊ย นั่นเด็กพี่กาลไม่ใช่เหรอ ว้าย คู่หมั้นกับกิ๊กนั่งด้วยได้ด้วยเหรอเนี่ย”
คนถูกพาดพิงตวัดตามอง ฟางยิ้มหยันส่งให้กับจันทร์เจ้า ผู้คนรอบข้างที่ได้ยินเริ่มส่งเสียงฮือฮาเซ็งแซ่
“รักกันหรือหน้าด้านเนี่ย หืม น้องไม่ละอายใจเลยเหรอคะ ที่แย่งแฟนพี่รหัสตัวเอง เอ๊ะ หรือจะสามัคคีชุมนุม”
จันทร์เจ้ายังคงเงียบ ไม่เอ่ยอะไรออกไป เพียงแค่ยิ้มบาง ๆ และปล่อยให้ฟางพล่ามไปคนเดียว
“ฉันกับพี่กาลไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าปากพล่อยให้คนเขาสมเพชเลยฟาง”
“ซันนี่!!” ฟางตวาดลั่น “ใคร ๆ เขาก็รู้กันไม่ใช่เหรอว่าเธอเป็นคู่หมั้นพี่กาล อย่าโง่ให้หน้าซื่อ ๆ ของอีเด็กนั่นหลอกเอาสิ เธอไม่ได้โง่ไม่ใช่เหรอซันนี่”
“ใช่ ฉันไม่ได้โง่ เธอนั่นแหละที่โง่ อย่ามากวนน้องฉันดีกว่า จะไปไหนก็ไป ก่อนเรื่องมันจะใหญ่ไปมากกว่านี้”
“คิดว่าฉันจะกลัวหรือไง”
“พี่ฟางต้องการอะไรครับ?”
“ต้องการให้แกเลิกยุ่งกับพี่กาลไง พี่กาลน่ะ เขาต้องคู่กับคนดี ๆ สิ!”
“อ๋อ” จันทร์เจ้าลากเสียงยาว “คนดี ๆ แบบไหนเหรอฮะ? แบบพี่ฟางเหรอ?”
“อย่ามากวนประสาทฉันนะอีตุ๊ด!”
“ผมแค่ถามเอง ทำไมต้องว่ากันแบบนี้ด้วยล่ะครับ”
“เหอะ! เชิดไปเถอะ คอยดูพี่กาลทิ้งเมื่อไหร่ฉันจะสมน้ำหน้าให้ พี่กาลน่ะ เขาไม่จริงจังกับตุ๊ดอย่างแกหรอก”
“เหมือนที่ทิวาไม่จริงจังแล้วทิ้งพี่ฟางใช่ไหมครับ?”
“แก!!!” ฟางชี้หน้าและกรีดร้องเสียงแหลม ในขณะที่ฟินน์กับเบสท์แปะมือกัน คนอื่น ๆ ที่ได้ยินก็หัวเราะกันเบา ๆ ลูกหมูเอียงคอเล็กน้อยและระบายยิ้มหวาน ทว่ามันกลับยิ่งยั่วไฟโมโหของฟางให้ยิ่งโหมกระหน่ำ
“พอเถอะฟาง คนมองกันเยอะแล้ว ไม่อายหรือไง”
“หุบปากซันนี่! เธอยอมให้อีเด็กนี่แย่งพี่กาลไป แต่ฉันไม่ยอม!!”
“ผมไม่ได้แย่งทิวาจากใครสักหน่อย”
“หน้าด้าน!”
“สงสัยเพื่อนผมจะมีพี่ฟางเป็นไอดอลนะครับ”
“ใครพูดกับแกอีตุ๊ด พวกแกมันก็วิปริตกันหมด ยี๋!!”
“อ้าวเฮ้ย พูดแบบนี้อยากตายหรือไง ตุ๊ดก็ทำคุณท้องได้นะครับ!!” เบสท์เอ่ยอย่างฉุดเฉียวพร้อมพับแขนเสื้อขึ้น
“กรี๊ดดดดด!”
“มีเรื่องอะไรกัน!” เสียงเข้มตวาดลั่น ทิวากาลกวาดมองรอบ ๆ ด้วยสายตาคมกริบที่ทำเอาทุกคนหลบสายตา ยกเว้นอยู่คนเดียวก็คือเด็กแสบของเขา จันทร์เจ้ายักไหล่และเบ้ปากในเวลาเดียวกัน ฟางที่เห็นทิวากาลเข้ามาก็รีบปรี่เข้าไปหาแขนเรียวที่กำลังจะยกกอดต้องค้างไว้เพราะสายตาของร่างสูง
“พี่กาลขา ช่วยฟางด้วยนะคะ ฟางโดนแกล้ง”
“ใครกันที่หน้าด้าน” จันทร์เจ้าพูดกับตัวเองเสียงเบา มือเล็กจับช้อนขึ้นมาตักข้าวทานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ตอแหลหรือเปล่าคะคุณน้อง หนังหน้าอย่างน้องฟางไม่น่าปล่อยให้ใครแกล้งนะคะ” ชมพู่เหยียดยิ้มหวานเดินเข้าไปแทรกกลางและกระแทกฟางให้กระเด็นออกไปก่อนกอดแขนทิวากาลเอาไว้
“พี่ชมพูหาว่าฟางโกหกหรอคะ!”
“แหม ยังจะให้แปลอีกเหรอจ๊ะ?”
“เตี้ย มีเรื่องอะไร?”
“พี่ฟางเข้ามาระหว่างที่เราคุยกันอยู่ แล้วก็มาบอกว่าเราไปแย่งแฟนพี่รหัสตัวเอง แล้วก็แย่งพี่ทิวาจากพี่ฟางกับพี่ซันนี่ด้วย เราไม่ได้แย่งสักหน่อย แถมยังบอกว่าเดี๋ยวพี่ก็ทิ้งเรา เพราะไม่จริงจังด้วย”
“ม ไม่จริงนะ มันโกหก!” ฟางลนลานเมื่อทิวากาลจ้องเขม็ง
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับเด็กนี่ อยากตายนักใช่ไหม!!!” เสียงตะคอกทำให้ทุกคนสะดุ้งและกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาด ๆ “เขาไม่ได้แย่งฉันจากใคร เพราะฉันไม่เคยมีแฟน และฉันกับซันนี่ก็ไม่ได้เป็นคู่หมั้นกัน บอกดี ๆ แล้วทำไมไม่ฟัง ฉันกะจะไม่ทำอะไรเธอแล้ว แต่เธอหาเรื่องเองนะ”
“ฟางก็แค่ปกป้องของของฟาง ฟางผิดตรงไหนคะ!”
“ผิดตรงที่ฉันไม่ใช่สิ่งของ และฉันไม่ได้เป็นของเธอไง!”
“แล้วที่ผ่านมาคืออะไรคะ! ระหว่างเราล่ะ พี่กาลไม่คิดจะจริงจังกับฟางเลยเหรอ ฟางรักพี่กาลนะคะ ฟางไม่ยอมให้คนมาแย่งพี่กาลไปหรอก!”
“ที่ผ่านมาก็อดีตไงอีโง่” ชมพู่พูดขึ้น แต่พอเห็นสายตาของเพื่อนสนิทก็หุบปาก ปล่อยมือจากแขนแกร่งของเพื่อนแล้วเดินนวยนาดไปหาน้องชับบี้ที่กินข้าวไม่สนใจบรรยากาศตึงเครียดระดับเส้นเลือดในสมองแตก
“ตกลงกันชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือไง”
“พี่ไม่คิดจะรักฟางเลยเหรอคะ?”
“ไม่”
“พี่กาล!!!”
“อย่าทำให้คนเขาสมเพชไปมากกว่านี้เลยฟาง พอเถอะ”
“ไม่!! ฟางไม่ยอม ใครหน้าไหนก็แย่งพี่กาลจากฟางไม่ได้ทั้งนั้น! พี่กาลเป็นของฟาง ของฟางคนเดียว!”
“ช่วยมีสติหน่อย ฉันไม่มีวันเป็นของเธอ!”
“เพราะมันใช่ไหมคะ!?” ปลายนิ้วเรียวตวัดไปที่จันทร์เจ้า “เพราะมันใช่ไหมพี่ถึงไม่รักฟาง!”
“ต่อให้ไม่มีจันทร์เจ้าฉันก็ไม่รักเธอ”
“พ พี่กาล... ทำไมพี่ต้องใจร้ายขนาดนี้ด้วย แก! อีตุ๊ด อีเกย์ วิปริต! แกทำให้พี่กาลไม่รักฉัน!”
“หุบปาก!! อย่ามาว่าคนของฉันแบบนั้น ขอโทษเขาซะ!”
“ไม่! ฟางไม่ขอโทษ ฟางไม่ขอโทษคนหน้าด้านแย่งของคนอื่นอย่างมันหรอก ร่าน!!”
เพี๊ยะ! ฝ่ามือหน้ากระทบกับผิวแก้มของหญิงสาววัยยี่สิบปี ฟางหน้าหันไปตามแรงตบ ทุกอย่างเงียบกริบราวกับถูกหยุดเวลาเอาไว้ จันทร์เจ้าอ้าปากค้าง ตาโตเบิกโพลงอารามตกใจ ไม่คิดว่าทิวากาลจะตบพี่ฟางแบบนั้น ถึงจะน่าโมโหแต่อีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิง น่าสงสารแต่ก็สมควรแล้ว ...ดวงตาคมดุวาวโรจน์ไปด้วยโทสะ ฟางสะอื้นฮัก มือสวยกุมแก้มตัวเองที่ขึ้นรอยนิ้วชัดเจนและมองหน้าทิวากาลอย่างตัดพ้อ ทำไม ทั้ง ๆ ที่เธอรักเขามากขนาดนี้ ทำไมต้องตอบแทนเธอด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจแบบนี้ด้วย
“ฉันเตือนเธอแล้ว”
“ฟางไม่ยอมหรอก ยังไงก็ไม่ยอม!!! ฟางจะบอกพ่อแม่ของพี่ คอยดูสิ ลูกชายเป็นเกย์จะทำยังไง พวกเขาไม่ยอมให้พี่คบกับมันหรอก” ทิวากาลแสยะยิ้ม ย่างก้าวเข้าไปใกล้เธอเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ ไล่ต้อนจนกระทั้งอีกฝ่ายจนมุม แผ่นหลังบางแนบชิดติดกับเสาต้นใหญ่ มือหน้าบีบแก้มหญิงสาวเอาไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก แม้หยาดน้ำตาที่กำลังหลั่งรินก็ไม่อาจได้รับความเห็นใจจากทิวากาล
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” เสียงเข้มย้ำคำช้า ๆ โน้มใบหน้าลงไปจนริมฝีปากอยู่ใกล้กับใบหู ฟางตัวสั่นด้วยความกลัว ทว่าใบหน้ายังคงเชิดอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าเธอจะเอาไปบอกพ่อแม่ของฉันก็ตามใจ ขอบใจล่วงหน้าเลยแล้วกันที่ทำให้ไม่เสียเวลา รักฉันมากเลยเหรอ หือ? โทษทีนะ ฉันไม่เคยรักเธอหรือคิดจะรัก
ถ้าอยากมีผัวมากฉันช่วยหาไหม? ถ้าคนเดียวไม่พอ ฉันก็ช่วยหาแบบหลาย ๆ คนให้ได้นะ”
ทิวากาลผละออกหลังจากพูดจบ ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มร้าย ฝ่ามือหนาตบหน้าฟางเบา ๆ หญิงสาวร่างบางตัวสั่นระริก น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย แววตาเรียบนิ่งดุดันของทิวากาลยังจ้องเธอไม่ละไปไหน ใคร ๆ ก็อยากอยู่ในสายตาของทิวากาล หากไม่ใช่ในกรณีแบบนี้ ฟางเองก็เช่นกัน ที่ร่างสูงพูดออกมาไม่ใช่แค่ขู่ แต่เขาเอาจริงแน่นอน
“ต้น มึงช่วยพาผู้หญิงคนนี้ออกไปหน่อยดิ ท่าทางจะไม่มีแรงเดิน หึ” เมื่อต้นเข้ามาพยุงฟางให้เดินออกไป ทิวากาลก็เข้าไปหาเด็กแก้มกลม ทุกคนสะดุ้งเฮือก แม้แต่ชมพู่เอง เออ รู้ว่ามันโหด แต่ไม่เคยเห็นมันจะน่ากลัวแบบนี้สักครั้ง ชมพู่ไม่อยากเสี่ยงตายค่ะคุณขา สละที่นั่งให้คุณชายท่านได้นั่งข้างน้องชับบี้ดีกว่า ใคร ๆ ก็รักตัวกลัวตายทั้งนั้นแหละ เนอะ
“ปิดตาพี่ทำไม” ทิวากาลถามขึ้นเมื่อจู่ ๆ เจ้าเด็กแก้มกลมก็ส่งมือนิ่มมาปิดตาเขาเอาไว้ “เอามือออกไป”
“อื้อ ไม่เอา ตาพี่น่ากลัว เราไม่อยากมอง” ทิวากาลหลับตาเหยียดริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ และปลายนิ้วเล็ก ๆ ที่ช่วยนวดขมับและหัวคิ้วก็ช่วยเขาได้มาก ร่างสูงลืมตาขึ้นมากครั้ง ยิ้มให้เด็กแก้มกลมแล้วยื่นมือไปยีผมนุ่ม
“บอกกูทีว่านี่มันคนเดียวกับเมื่อกี้ อีห่า!”
“เสือกไรมึง”
“อยู่กับคนอื่นเป็นราชสีห์พอมาอยู่กับน้องชับบี้ล่ะเป็นแมวเชียว” ชมพู่จีบปากจีบคอว่าเพื่อน ทิวากาลปรายตามองแต่ก็ไม่สนใจ เด็กแก้มกลมตรงหน้าน่าสนใจกว่าเยอะ...
“เออ เชี่ย เมื่อกี้กูตกใจฉิบหาย” รถถังพูดเสริม และมีคนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย
“น้องจันทร์เจ้ากลัวแล้วเลิกชอบมึงแน่” ทิวากาลตวัดตามองคนพูด มิคไหวไหล่ซ้ำยังยักคิ้วลิ่วตาไม่เกรงกลัวต่ออำนาจมืดของเพื่อนเลยสักนิด ตาคมจึงหันมาจ้องคนที่ถูกกล่าวถึง จันทร์เจ้าเลิกคิ้ว และยกมุมปากขึ้น
“ไม่เลิกชอบหรอก”
“จริงเหรอ?” ลูกหมูพยักหน้า “แล้วไม่กลัวใช่ไหมครับ?” ตอนนั้นโมโหมากจนลืมทุกอย่าง ลืมไปว่ามีใครอยู่บ้าง และลืมไปว่าหากเด็กแก้มกลมเห็นเขาในด้านนี้จะรู้สึกอย่างไร อารมณ์ชั่ววูบแม่งน่ากลัวจริง ๆ
“ฮึ ไม่กลัว แต่ตกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าพี่จะตบผู้หญิง”
“แล้วงี้ถ้าพี่โมโหจะตบไอ้หมูป่ะเนี่ย” เบสท์พูดขึ้น ทุกคนจ้องหน้าทิวากาลเพื่อฟังคำตอบ จันทร์เจ้าเองก็เช่นกัน
“ไม่มีทาง”
“Good boy~” ลูกหมูหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ยื่นมือไปเกาคางทิวากาล คนตัวสูงกลอกตาขึ้นฟ้าคล้ายรำคาญทว่าริมฝีปากกลับขยับยิ้ม แม้จะมีเสียงโห่ร้องและเสียงแหวะเป็นแบ็กกราวด์เขาก็ไม่สน
“โว้ยยยย ไปจีบกันไกล ๆ โว้ย หมั่นไส้!”
“พี่มิคจะมาหมั่นไส้อะไร มีให้จีบเหมือนกันไม่ใช่เหรอฮะ?”
“อะไร อะไร พี่มีให้จีบอะไรครับน้องจันทร์เจ้า” จันทร์เจ้ายิ้มกริ่ม ตากลมชำเลืองมองเบสท์ที่นั่งข้าง ๆ เล็กน้อย เพื่อนตัวเล็กนั่งหลังตรงกลอกตาหลุกหลิกเหมือนทำตัวไม่ถูก
“อ้าว พี่มิคไม่ได้จีบใครอยู่หรอกเหรอฮะ ว้า เราจำผิดหรอพี่ทิวา?”
“จำไม่ผิดหรอก ไอ้มิคมันจีบหลายคน หึหึ”
“อ๋อออออ อย่างนี้นี่เอง...”
“เหี้ย เหี้ย เหี้ย ไอ้พวกเหี้ย!” ลูกหมูแลบลิ้นใส่พี่มิคก่อนเอนศีรษะไปพิงไหล่เบสท์เอาไว้ ยักคิ้วใส่พี่มิคด้วยสองที คิคิ “มายักคิ้วใส่ เดี๊ยะ ๆ อะไรที่ทำให้คิดว่าอยู่เหนือคนอื่นฮะจั่นเจา!”
“อยู่เชียงรายคับ!” จันทร์เจ้ายกมือขึ้นสุดแขนแล้วเอ่ยตอบเสียงดังฟังชัด เหมือนกับตอนที่อาจารย์เรียกตอบคำถามแล้วสุ่มได้ชื่อตัวเองพอดี
“กล้าเล่นได้ไง?”
“ก็พี่มิคอุตส่าห์ชงมาขนาดนี้แล้วนี่นา”
“ชงอะไร! บ้านพี่ไม่ได้ขายกาแฟนะครับ!”
“ฮอล” ทุกคนพร้อมใจกันกลอกตา ลูกหมูเบะปากแถมให้ด้วยเลย “คนที่ขอเบอร์เบสท์เมื่อวันก่อนเขาโทรมาหรือยังครับ?”
“หือ? อ๋อ กูไม่ได้ให้ ทำไมวะ”
“เราก็นึกว่าให้ พี่คนนั้นหล่อมากเลยเนอะฟินน์เนอะ”
“เออ เพื่อนมึงดันเล่นตัวไม่ให้เบอร์เขาไป ไม่ได้ดั่งใจเลย!”
“เอ๋า ก็กูไม่ได้ชอบ!” ฟินน์จิปสกขัดใจ แต่จันทร์เจ้ายิ้มกริ่ม สบตากับทิวากาลอย่างรู้กันแล้วยักคิ้วให้พี่มิคอีกที
“โห่ เบสท์ก็บ่นอยากมีแฟนไม่ใช่หรอ โอกาสมาแล้วก็คว้าไว้เลยสิ เอ๊ะ! หรือเบสท์มีคนที่ชอบแล้ว!”
“เดี๋ยว ๆ คุยเรื่องมึงอยู่ดี ๆ วกมาหากูได้ยังไง ไปสนใจเรื่องชะนีนั่นดีกว่าไหม หา!!?”
“ไรอ่ะ ช่างเขาสิ เราไม่สนหรอก ปวดประสาทตายเลย เราเป็นห่วงเบสท์นะ เราเลยใส่ใจเป็นพิเศษไง”
“เสือก!”
“เต็มหน้าเลย ฮ่า ๆ”
“พี่ซันนี่ต้องช่วยเราสิ ไม่ใช่หัวเราะ เง่อ”
“โอ๋ ๆ ขอโทษน้า เดี๋ยวพี่ซื้อขนมมาปลอบขวัญ”
“ใช่ใช่ ขวัญเราหายหมดแล้ว ต้องซื้อขนมมาปลอบเรานะ ไอศกรีมด้วย ขนมเค้กกับพุดดิ้งด้วยครับ!”
“ตะกละ!!” สองเพื่อนซี้รวมพลังกันประสานเสียง หนอย! ทำไมเป็นบอกว่าเสียขวัญ หน้าตามึงเชื่อได้มากเลย
“ลืมเลย หนูมีเรื่องสงสัยค่ะพี่ขา~” ฟินน์ดัดเสียงเล็กแหลมพร้อมยกมือขึ้น “พี่ซันนี่กับพี่กาลเป็นคู่หมั้นกันเหรอ?”
หน้างง ๆ ของรุ่นน้องทำเอาทิวากาลด่าไม่ออก เขาสบตากับเด็กแก้มกลม เด็กน้อยคงยิ้มให้เขาอยู่ เมื่อมองซันนี่ หญิงสาวรุ่นน้องก็ระบายยิ้มจริงใจส่งมาให้
“ไม่ได้เป็นคู่หมั้น แต่ก็เกือบ ผู้ใหญ่เขาอยากให้พี่กับซันนี่หมั้นกัน แต่ซันนี่ปฏิเสธเลยถูกยกเลิก” ทิวากาลบอก ระหว่างที่พูดมือหนาก็กุมมือเล็กไว้ไม่ปล่อยของจันทร์เจ้าไว้ไม่ปล่อย คู่กรณีอีกคนก็แย้มยิ้มกับคำตอบ รู้สึกขอบคุณที่ทิวากาลยังให้เกียรติเธอโดยไม่บอกว่าตนเป็นฝ่ายปฏิเสธเอง เพราะหากทิวากาลไม่พูดแบบนั้น ต่อให้ซันนี่ปฏิเสธจริง ๆ พ่อแม่ของเธอก็คงจะไม่ยอมฟัง
“บุญของซันนี่แล้วลูกเอ๊ยที่ไม่ได้ไอ้กาล” ชมพู่เอ่ยขึ้นจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะประกอบ
“แปลว่าเป็นกรรมของเราหรอฮะพี่ชมพู่?”
“กรรมของไอ้กาลต่างหากน้องชับบี้ เพราะแม้แต่แฟนหนูมันก็ยังไม่ได้เป็นเลย”
“กร้ากกกกกกก!~”
ไอ้พวกเวร!!!!!
“อยากไปไหนไหม?” ทิวากาลเอ่ยถามเด็กข้าง ๆ เมื่อทานข้าวเสร็จแล้วและแยกออกมากันสองคน
“เราง่วง…” เชื่อแล้วว่าง่วงจริง ๆ ตาปรือมาเชียว มือหนาวางลงบนศีรษะกลมแล้วยีเบา ๆ จากนั้นจึงเลื่อนมือไปกุมมือเล็กเอาไว้แล้วพาไปที่รถ วันนี้เขาได้ตัวเด็กแก้มกลมมาเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ขับรถเอง โดยมีน้องชายปีศาจมาส่ง “แต่มีเรียนอีก”
“เรียนกี่โมง?”
“บ่ายสามครับ”
“ไปนอนห้องพี่ไหม?” ลูกหมูแหงนหน้ามองคนพูดทันที ทิวากาลเลิกคิ้ว เด็กน้อยก็สั่นหัวก่อนจะพยักหน้า
“โอเค งั้นไปกัน”
“พี่ไม่มีเรียนแล้วเหรอ?”
“มี แต่อีกชั่วโมงสองชั่วโมงเลย”
“แล้วแบบนี้พี่มิคจะมาลักพาตัวเบสท์ไปหรือเปล่า?”
“ช่างเขาเถอะน่า” บีบจมูกรั้นเบา ๆ ก่อนจะดันให้คนตัวเล็กกว่าเข้าไปนั่งในรถแล้วปิดประตูลง
ลูกหมูยู่ปาก จากการที่ได้วอแวกับทิวาบ่อย ๆ ทำให้ได้เจอกลุ่มเพื่อนทิวาบ่อย ๆ เช่นกัน บางครั้งก็ยกกันไปทั้งกลุ่ม บางครั้งก็มีแค่จันทร์เจ้าที่ถูกทิวาเรียกให้ไปหา และนั่นจึงทำให้ลูกหมูมีโอกาสได้ทำหน้าที่ตอบสนองความอยากรู้ของตัวเองด้วยการหลอกล่อให้พี่มิคหลุดปากเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง กว่าจะรู้ตัวพี่มิคก็ตกเป็นเหยื่อของเราไปแล้ว (วะฮาฮ่า) ทิวาสืบไม่ได้เรื่องเลย เอาแค่คอยช่วยเพื่อนปกปิดอยู่นั่นแหละ นิสัยไม่ดี!
“พี่ทิวาครับ”
“ครับ?” ชำเลืองมองเด็กแก้มกลมเล็กน้อยเพราะกำลังขับรถ
“พี่ว่าพี่มิคกับเบสท์จะตะมุ้งตะมิ้งกันไหม?”
“อะไรคือตะมุ้งตะมิ้ง?”
“ก็แบบ… มี something คบกัน เป็นแฟน กุ๊กกิ๊ก ไรงี้อ่าาาา …มั้ง”
“อ้าว ทำไมมีมั้งล่ะเตี้ย”
“ก็เราไม่แน่ใจนี่นา พี่มีนพาใช้แต่ไม่บอกความหมายจริง ๆ แต่เราเข้าใจนะว่าหมายถึงอะไร แต่เราอธิบายให้พี่เข้าใจไม่ได้”
“หึหึ โอเค พี่ว่าพี่เข้าใจ และพี่ก็คิดว่าเราอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า” ยอมพยักหน้าตกลง ไม่ยุ่งได้ จะใส่ใจอยู่ห่าง ๆ ก็ได้ ถ้าเปิดช่องเมื่อไหร่เราบุกแน่!!
เมื่อมาถึงห้องพักคนนิสัยไม่ดี ลูกหมูก็ตรงดิ่งไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟาหนานุ่มทันที ฮ้าาาา สบายจังเลยยยยยยย ยิ่งมาเจอแอร์เย็น ๆ จากเครื่องปรับอากาศยิ่งไกกันใหญ่ จะหลับแล้ว อีกนิดเดียว….
“ทำไมดูง่วงขนาดนั้นล่ะเตี้ย?”
“เราก็ไม่รู้เหมือนกันฮะ ตอนเรียนก็เผลอหลับไปตั้งสองรอบแหนะ” บอกพร้อมชูสองนิ้วขึ้นมาด้วย
“นอนดึกเหรอ?”
“น่าจะ… เมื่อคืนเราทำรายงานจนถึงตีสองเลย ใช่ ใช่แน่ ๆ” นึกขำกับคนที่พูดเองเออออเอง แต่มันก็น่าเอ็นดูไม่น้อย “นอนไม่พอแล้วยังมาโดนวีนใส่อีก thank you three times”
ทิวากาลหน้าตึงขึ้นมาทันที ลูกหมูที่อ้าปากหาววอดพอเห็นสีหน้าทิวาก็กะพริบตาปริบ ๆ
“เขาเคยมาหาเรื่องหรือเปล่า?”
“พี่ฟางเหรอ? ไม่เคยครับ เจอกันพี่เขาก็แค่มองหน้าเฉย ๆ มีวันนี้แหละที่เข้ามาหา”
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็น แค่โมโหนิดเดียว ไม่เยอะ องค์ท่านไม่ประทับ คิคิ” ลูกหมูยิ้มทะเล้น “พี่ฟางคงรักพี่มากเลยเนอะ ถึงได้ทำอะไรแบบนั้น”
“พี่ไม่ได้รักเขา”
“น่าสงสาร แต่พี่ฟางออกจะสวย หาได้ดีกว่าพี่ทิวาแน่ ๆ” เจ้าเด็กแก้มกลมพูดพลางสั่นหัวไปมา ทิวากาลขมวดคิ้ว นั่นคือด่าเขา?
“ช่างเขา เราไม่ต้องไปสนใจ”
“เราไม่ได้สนใจนะ แต่โมโหนิดหน่อย กับหงุดหงิดอีกเล็กน้อยค่อนไปปานกลาง พอคิดว่าเออ เขาก็ไม่ได้ซื้อข้าวให้เรากินนี่นา เราก็เลยไม่สนใจ”
“ดีแล้ว อย่าไปสนใจเลย ถ้ามีใครมากวน บอกพี่นะ”
“ครับผม! แต่ไม่น่าจะมีแล้วล่ะ กิ๊กเก่าของพี่คงกลัวโดนตบ คิคิ”
ทิวากาลหน้านิ่ง ไม่รู้สึกสนุกเลย ตอนนี้เริ่มกังวลแล้วว่าเด็กตรงหน้าจะคิดยังไง รับเขาได้จริง ๆ เหรอ?
“ทำไมพี่ทำหน้าแบบนั้นอะ? เราแค่พูดเล่น ขอโทษครับ”
“พี่ไม่ได้โกรธ แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
“คิดอะไร?”
“คิดว่าเราจะเลิกชอบพี่หรือเปล่า พี่ไม่ใช่คนดี พูดก็หยาบคาย แถมยังทำร้ายผู้หญิงอีก”
จันทร์เจ้ายิ้ม ยื่นมือทั้งสองไปโอบใบหน้าของคนนิสัยไม่ดีเอาไว้
“เราบอกแล้วว่าไม่เลิกชอบ ถ้าเราชอบแล้วเราไม่เลิกชอบง่าย ๆ หรอกนะครับ”
“...”
“เราเองก็ไม่ใช่คนดี บางทีเราก็พูดหยาบคายเหมือนกัน”
“...”
“และหากพี่ทำร้ายใคร มันคงมีสาเหตุทำแบบนั้น ไม่แน่ วันพรุ่งนี้เราก็อาจจะพลั้งมือไปทำร้ายใครเข้าก็ได้”
“...”
“พี่เป็นคนดีของเรานะครับ”TBC
อย่ามาทำให้พี่พระเอกโมโหนะ!!
ตอนนี้ก็ตามชื่อตอนเลยอ่ะ คุมโทนไม่อยู่ พี่พระเอกเกรี้ยวกราดแล้วตัดมาเป็นแมวกับน้องชับบี้เฉยเลย 555555
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ไว้เจอกันตอนหน้าเน้อ
ขออภัยด้วยที่มาช้าครับผม ♥