มนุษย์แฟนเด็ก
29
มีความหมดเวลาสนุกแล้วสิ
“ทำอะไรคะ?”
“ทำข้าวต้มให้ทิวาครับ” ตอบคนถามอย่างสุภาพ พี่สาวที่ยังไม่รู้จักชื่อเดินเข้ามาชะโงกหน้าดูแล้วยิ้มเหมือนพอใจกับอะไรสักอย่าง โชคดีที่ห้องของทิวามีของสดและอาหารแห้งอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงต้องลงไปซื้อที่ด้านล่าง
“ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอคะ?”
“พอทำได้ฮะ” ถึงแม้จะเกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม มีบริวารรอบด้าน ถึงอย่างนั้นก็ถูกสอนให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง แม้จะมีคนคอยทำทุกอย่างให้ แต่ก็ต้องทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนกัน ป่าป๊ะเคยบอกว่าไม่มีใครสามารถช่วยเราได้ตลอด เพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักพึ่งพาตัวเองให้เป็น และนั่นทำให้พวกเราได้รับการถ่ายทอดวิชาการเอาชีวิตรอดมาประยุกต์ใช้...
“เก่งจังค่ะ พี่นะ ทำกับข้าวไม่เป็นเลย”
ลูกหมูยิ้ม “ขอโทษนะครับ พี่ชื่ออะไรเหรอครับ?”
“อุ๊ย! ลืมแนะนำตัวไปเลย พี่ชื่อรพินทร์ค่ะ เรียกพี่พินทร์ก็ได้ เป็นน้องสาวของพี่กาลจ้า” ตากลมกะพริบปริบ ๆ ก่อนจะเดาะลิ้นเมื่อสติกลับคืนมา ก็ว่าแล้วทำไมคุ้น ๆ คือคนที่อยู่กับทิวาตอนนั้นนี่เอง... “ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ? ตกใจเหรอ? พี่ไม่ใช่กิ๊กพี่กาลนะ สบายใจได้ลย!”
“แฮะ... ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอกครับ แค่รู้สึกคุ้นแต่นึกไม่ออกเลยงง ๆ น่ะฮะ”
“อย่างนี้เองสิเนอะ แต่ว่าน้องจันทร์เจ้ายิ้มแล้วน่ารักจังเลย ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมพี่กาลถึงได้ละเมอเพ้อพกขนาดนี้ คิคิ”
“เอ๋?”
“พี่พินทร์รู้ด้วยเหรอครับ?”
“รู้สิจ๊ะ ก็พี่กาลน่ะ โทรมาปรึกษาพี่เองเลยนี่ คนนั้นน่ะ ไม่เคยชอบใคร พอมาเจอคนที่ชอบเลยไม่รู้จะทำยังไง”
“ทิวากาก” ลูกหมูว่า ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา พี่พินทร์ใจดีและน่ารักมาก แถมยังคุยเก่ง เราเลยสนิทกันได้เร็ว ระหว่างที่ทำข้าวต้มพี่คนสวยก็ถามตลอดไม่ว่าจะใส่อะไรลงหม้อ เชื่อแล้วล่ะว่าคงทำอาหารไม่เป็นจริง ๆ ผักชีกับขึ้นฉ่ายยังแยกไม่ออกเลย
“เสร็จแล้ว~”
“เดี๋ยวผมยกไปให้ทิวาก่อนนะครับ”
“พี่ไปด้วยค่ะ”
“โอเคครับ” ลูกหมูตักข้าวต้มใส่ชาม แล้ววางใส่ถาดไว้ ก่อนจะไปหาน้ำให้คนป่วยด้วย จันทร์เจ้าเป็นคนยกถาดข้าวต้ม และมีรพินทร์ตามมาอยู่ไม่ห่าง หญิงสาวอาสาเปิดประตูห้องนอนให้คนของพี่ชายเข้าไปด้านใน
“ทิวา พี่ทิวาครับ” เขย่าไหล่ปลุกเบา ๆ คนไม่สบายปรือตาขึ้น ดวงตาคมฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำหล่อเลี้ยง มือหน้ายกกุมขมับก่อนหลับตาลงอีกครั้ง ลูกหมูเข้าไปประคองให้ลูกขึ้นนั่ง แตะหลังมืออังหน้าผากและต้นคอ “เราทำข้าวต้มมาให้ ทานหน่อยนะจะได้กินยา”
“ไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกิน ฝืนหน่อยนะครับ”
“ป้อนหน่อย” เอ่ยเสียงอ่อยและช้อนตามองอ้อน
“อะแฮ่ม! ไม่ได้อยู่กันสองคนนะคะ” ทิวากาลขมวดคิ้วมองบุคคลที่สาม มาตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วมาทำไม? “พินทร์เหงาเลยแวะมาหาพี่กาล แต่มาเจอตอนไม่สบายพอดี เป็นอะไรมากไหมคะ?”
ร่างสูงส่ายหน้า ก่อนอ้าปากรับข้าวอุ่น ๆ จากคนตัวเล็ก
“อร่อยไหม?” ทิวากาลไม่ตอบ แต่การอ้าปากรอนั่นถือว่าข้าวต้มที่เราทำนั้น ผ่าน!! ตักข้าวต้มในชามขึ้นพร้อมกับเนื้อหมูสับ เป่าให้หายร้อนแล้วยื่นไปให้คนที่นั่งรออยู่
“ปกติคนไม่สบายเขาไม่ค่อยกินอาหารกันไม่ใช่เหรอ ทำไมพี่กาลซัดเรียบแบบนี้ล่ะ?”
“นั่นสิฮะ พี่ไม่เจ็บหรือขมคอเหรอ?”
“กินได้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง?” ลูกหมูย่นจมูก ส่งยาให้คนตัวสูง ทิวากาลกินยาอย่างว่าง่าย เผยอปากพ่นลมหายใจออกมาและหลับตาลงระหว่างรอให้เด็กแกล้มกลมแกะเจลบนหน้าผากออกให้
“เราจะกลับแล้วนะ” บอกออกไปหลังจากที่จัดการอะไรเรียบร้อย ตอนนี้ในห้องมีแค่เราอยู่สองคน พี่รพินทร์บอกขอไปข้างนอก ไม่อยากเห็นคนสวีทกัน
“ไม่เอา”
“มันค่ำแล้ว เรามีการบ้านต้องทำด้วย อย่างอแงสิครับ”
“ก็บอกว่าอ่อนแอ ดูแลหน่อย” จันทร์เจ้านิ่งเงียบ สบตากับคนตัวโต ทิวากาลถอนหายใจ “โอเค จะกลับยังไง? เอารถพี่ไปแล้วกัน”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราโทรให้จริงใจมารับ”
“.....”
“ไม่ต้องห่วงน่า เดี๋ยวนั่งรออยู่นี่จนจริงใจมาเลย”
“น้องว่างมารับเหรอ?”
“ว่างสิ จริงใจปิดเทอมแล้ว”
“ก็ได้”
“เด็กดี~” ยื่นมือไปลูบกลุ่มผมสีปีกกาชื้นเหงื่อ เห็นแล้วสงสารจัง ปกติทิวาก็ขี้ร้อนอยู่ด้วย “พรุ่งนี้พี่มีเรียนไหม?”
“ไม่”
“งั้นนอนพักนะ”
“จะมาหาไหม?”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันแฮะ ถ้างานเยอะก็ไม่มา แต่เดี๋ยวดูอีกที ไม่ต้องรอนะ”
“จะรอ” คว้ามือเล็กมาจับเอาไว้ “ถ้าไม่มาเดี๋ยวพี่ไปหาเอง”
“ดื้อ ตัวเองไม่สบายอยู่ นอนพักให้หายดีกว่านะครับ เดี๋ยวเรามาหาก็ได้”
“เด็กดี”
รู้ทั้งรู้ว่าเป็นกับดักแต่ก็ยังเดินเข้าไปหาจนได้
“พี่จะนอนอีกไหม เราจะออกไปข้างนอกแล้ว” ลูกหมูบอก ทิวากาลส่ายหน้า ตามออกมาข้างนอกด้วย พี่รพินทร์ที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่โบกมือให้แล้วกลับไปสนใจมือถือตามเดิม จันทร์เจ้าเปิดกระเป๋าของตัวเอง ส่งข้อความไปบอกให้น้องชายมารับ
หืม...? เลิกคิ้วแปลกใจกับการแจ้งเตือน ปัดหน้าจอด้านบนลงแล้วแตะเข้าไปดู เป็นแจ้งเตือนจากการถูกแท็กเมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน
TEAMCHANTIWA ‘ทดลองเป็นเต้าหู้ไข่’ *แนบรูปที่จันทร์เจ้าเป็นคนโพสต์*
น้องจันทร์เจ้าอัพไอจีค่ะยูวววว รูปคู่กับพี่กาลค่า แล้วอะไรคือการที่พี่นอนบนเตียงแล้วน้องถ่ายรูปค้า? เขาอยู่ด้วยกันใช่ไหมคะ กรี๊ดดดดดดดดดดด เหมือนพี่กาลจะไม่สบาย หายไว ๆ นะคะ #TeamChanTiwa #JJInDaHouse #TiwakanInYourArea #โพสต์เองนักเลงพอ #เอฟซีไม่ต้องจันทร์เจ้าจัดให้
‘กรี๊ดดดดด น่ารักจังเลยแกกกกกกกก’
‘พี่กาลเป็นอะไร หายไว ๆ นะคะ’
‘พยาบาลดีแบบนี้พี่กาลต้องหายไว ๆ นะคะ’
‘อร้ายยยยย ไม่รู้จะรู้สึกยังไงก่อน ฉันจะฟินหรือจะเป็นห่วง ฮือ สับสนโว้ยยยย’
‘พวกเธอออออ นั่นมันห้องนอนพี่กาล ฉันเคยเห็นตอนพี่กาลอัพรูป’ *แนบรูปทิวากาลที่เคยถ่ายในห้องนอน* “ทำไร?”
“หืม อ๋อ ดูในเพจ เขาแท็กมาเลยเข้าไปส่อง” เอียงจอโทรศัพท์ให้อีกคนดู
“ไปถ่ายไว้ตอนไหน?”
“ตอนพี่หลับ” ยิ้มแฉ่งใส่ตาคนป่วย ทิวากาลยื่นมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มเบา ๆ
“ดูอะไรกันคะ ขอพินทร์ดูบ้าง”
“ยุ่ง! แค่ก ๆ”
“สมน้ำหน้า! บาปกรรมเพราะกีดกันน้องนี่ไง” พี่ชายถลึงตาใส่น้อง โดยมีลูกหมูนั่งหัวเราะ ทิวากาลยอมแพ้ให้รพินทร์ยึดเด็กแก้มกลมของเขาไป ดีที่น้องเข้ากับว่าที่แฟนของเขาได้ ราวสิบนาทีต่อมาเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เด็กแก้มกลมก็ดังขึ้น
หมดเวลาสนุกแล้วสิ ทิวากาลเดินมาส่งจันทร์เจ้าถึงชั้นล่าง เด็กปีศาจยืนพิงรถมอร์เตอร์ไซค์คันใหญ่รอ หมวกกันน็อกไม่ได้ถอด เพียงเปิดช่องกระจกขึ้นเท่านั้น เห็นแค่สายตาก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดีมากแค่ไหน
“ถึงแล้วโทรมาด้วย”
“อือ ๆ พี่ก็นอนพักเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ”
“ครับผม!” รับคำพร้อมตะเบะมือเหมือนทหาร “ภัค!”
“สวัสดีครับ” ร่างบอบบางที่กำลังจะเดินเข้าไปในตึกแล้วจำต้องหยุดแล้วเดินเข้ามาหารุ่นพี่ที่ร้องเรียก “มีอะ...ไร?” คำสุดท้ายแทบไม่ได้ยิน เมื่อเห็นใครอีกคนเขา ณภัคมองหน้าคนที่สวมหมวกกันน็อกแวบหนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี จริงใจยืดตัวตรงทันที แฟนพี่ชายแม่งจะเล่นอะไรวะ จันทร์เจ้าที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้แต่มองคนนั้นคนนี้อย่างงง ๆ
“งั้น... เราไปละนะ”
“คนนี้ที่มีข่าวกับพี่กาลใช่ป่ะ?”
“อือ” ทิวากาลตอบรับสั้น ๆ ส่วนจันทร์เจ้าแสยะยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงข่าวที่ว่า ลืมไปแล้วแฮะว่าไปสร้างเรื่องไว้ที่โรงอาหาร ไม่สิ เราไม่ได้สร้าง มีคนหามาให้ต่างหากล่ะ น่าเบื่อ แล้วทิวาจะเอายังไงอ่ะ จะคุยกับคนรู้จักก็อย่าจับมือเราไว้สิ จะกลับบ้าน!! เจ้าเด็กปีศาจหน้าบึ้งแล้วนั่น
“พี่เรียกภัคไว้ทำไมอะ?”
“ทักเฉย ๆ อ๋อ รพินทร์อยู่ข้างบน”
“เหรอ? ยัยนั่นมาทำไม งั้นภัคขอไปห้องพี่นะ”
“จะไปได้ยังหมู” จริงใจพูดเสียงห้วน สายตาบ่งบอกว่าเบื่อและรำคาญสุด ๆ
“อือ ๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ” ปลดมือทิวากาลออกแล้วเดินไปหาน้องชาย รับหมวกกันน็อกมาสวม แหงนหน้าให้น้องเช็กความเรียบร้อยให้ หมุนตัวกลับไปหาทิวากาลและโบกมือบั๊บบัย ก่อนจะปืนขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายรถ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดีเจ้าเด็กปีศาจก็บิดรถออกไปแทบจะทันที
เป็นอะไรของเขานะ
“พี่กาลรู้จักพวกเขาเหรอ?”
“อืม เขาเป็นพี่น้องกัน”
“จริง!?” ทิวากาลยกยิ้ม เดินล้วงกระเป๋ากลับเข้าไปในตึก “ไม่เหมือนกันเลย นึกว่าแฟนกัน”
“แย่ละ ไอ้เตี้ยนั่นของพี่ จะไปเป็นแฟนคนอื่นได้ยังไง”
“จะไปรู้เหรอ ก็เห็นอัพรูปคู่กัน” บ่นงุบงิบกับตัวเองในประโยคสุดท้าย ณภัคเบะปากเมื่อนึกถึงรูปถ่ายใกล้ชิดของคนทั้งคู่ เมื่อตอนที่เห็นรูปกับเรื่องเมื่อกลางวันของพี่กาลกับเด็กคนนั้นถึงได้งงยังไงล่ะ เป็นแฟนกับเด็กไฟแดงแล้วมามีข่าวแย่งพี่กาลได้ยังไง
“ภัครู้จักเหรอ?”
“เปล่า”
“หึหึ”
“กรี๊ดดด มาได้ยังไงงงงง!” รพินทร์รีบพุ่งเข้าไปกอดเพื่อนเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นตัว ทิวากาลเมินสัญญาณขอความช่วยเหลือจากณภัคแล้วชิ่งเข้าห้องนอนตัวเอง หากยังอยู่ตรงนี้เรื่องวุ่นวายต้องมาเยือนเขาแน่นอน
ร่างสูงนั่งลงที่ข้างเตียง มองถุงยาที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วระบายยิ้มออกมา ถ้าใครมาเห็นตอนนี้คงหาว่าเขาบ้าแน่นอน ท่าจะเป็นเอามาก แค่มองถุงยาก็ยิ้มเนี่ยนะ หึหึ ทิวากาลเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มา เปิดกล้องถ่ายรูปแล้วโฟกัสไปที่ถุงยาบนโต๊ะ
Tiwakan Thanaphummeathi with
Chantiman Jj ขอบคุณครับ *แนบรูป*
TEAMCHANTIWA tagged you and
Chantiman Jj in a post. To add this to your Timeline. Go to
Timeline Review.
ทิวากากดเข้าไปดูเมื่อเห็นว่ามีแจ้งเตือน แต่ยังไม่กดอนุญาตให้โพสต์บนไทม์ไลน์ของเขา สิ่งที่ถูกแท็กมาคือการแคปรูปโพสต์ที่เขาลงไปโพสต์อีกที
TEAMCHANTIWA [Tiwakan’s update] ‘ขอบคุณครับ’ w/
Chantiman Jj ว้าย ๆ ๆ ๆ อยากจะไม่สบายแล้วมีคนดูแลจังเลยค่ะซิส เขาเป็นห่วงเป็นใยกันแบบนี้เจ๊ปริ่มในอก น้ำตามันคลอมาแล้วแก ดีกับใจเจ๊ #จันทิวา
P.S. ขอบคุณสายข่าวที่แคปรูปส่งมาให้นะเจ้าคะ /กราบตัก
‘ฉันอยากส่องไทม์ไลน์พี่กาลลลลลล’
‘สมัยนี้เขาจีบกันด้วยถุงยาเหรอแก กรี๊ดดดดด’
‘พี่กาลเปิดพับบลิคเถอะ อยากส่องค่า!!’ อืม... ก็ว่า ทำไมตัวเลขคำขอเป็นเพื่อนกับเขามันถึงได้เพิ่มขึ้นเยอะนัก กดดู แต่ไม่ได้รับใคร ไม่รู้จักกันไม่อยากจะรับรู้ชีวิตความเป็นไป ไลฟ์สไตล์ของเขา นิ่งคิด จะเปลี่ยนเป็นสาธารณะที่คนอื่นสามารถเห็นทุกอย่างได้หรือเปล่า ข้อเสียก็คือไม่เป็นส่วนตัวแล้วและมีคนจับตามองเนอะขึ้น ในทางกลับกันก็คงยังมีข้อดีอยู่ นั่นก็คือการที่เพจ TEAMCHANTIWA เอาไปโพสต์ มันก็เป็นการบอกกลาย ๆ นะว่าเด็กแก้มกลมเป็นของเขา แม้ความจริงยังไม่ 100%
กดเมนูเลื่อนการตั้งค่าแบบพับบลิคและเปิดให้ติดตามแทนการแอดเฟรนด์
ไม่นานจากนั้นจำนวนคนติดตามของเขาก็เพิ่มขึ้นมาเป็นพัน
ยอมแล้ว...
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
เสียงข้อความเข้าดังต่อเนื่อง ทิวากาลจิปาก ถ้าไม่มีอะไรสำคัญจะด่าให้จริง ๆ ไม่รู้หรือไงว่ามันน่ารำคาญมากแต่ไหน
Rapin_pin *สติ๊กเกอร์ราวยี่สิบตัว*
Rapin_pin พินทร์ไปห้องภัคนะคะ
Rapin_pin แล้วก็จะกลับเลย
Rapin_pin แม่รู้แล้วว่าพี่ไม่สบาย
Rapin_pin แต่พินทร์บอกว่าไม่เป็นอะไรมากเพราะมีคนดูแลดี
Rapin_pin *รูปจันทร์เจ้ายื่นมือไปแตะหน้าผากทิวากาล*
Rapin_pin อิอิ
ทิวากาลกดเข้าไปดูรูปแล้วยิ้มออกมา ตอนนั้นเขาคงหลับอยู่เลยไม่ได้ลืมตามามอง ในรูปนั้นเห็นจันทร์เจ้าแค่ด้านข้าง แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน รพินทร์นี่ก็ถ่ายรูปเก่งนะ
TW. ถ่ายไว้กี่รูป
TW. ส่งมาให้หมด
Rapin_pin ต้องมาข้อแลกเปลี่ยนนะคะ
TW. เดี๋ยวซื้อกระเป๋าที่อยากได้ให้ จะส่งมาได้หรือยัง
Rapin_pin กรี๊ดดดด รอแป๊บค่ะ
Rapin_pin *ส่งรูปภาพประมาณสิบกว่ารูป*
TW. *เซฟรูปทั้งหมดลงเครื่องและเซฟซ้ำไปสามรูป*
ร่างสูงนอนดูรูปที่เพิ่งจะได้จากน้องสาวมาซ้ำ ๆ ทั้งรูปเด็กแก้มกลมกำลังเช็ดตัวให้เขา รูปที่กำลังติดเจลลดไข้บนหน้าผาก ตอนยืนอยู่หน้าเตากำลังทำข้าวต้ม ตอนตักข้าวใส่ชาม ตอนยกถาด ตอนเดินเข้ามาในห้อง ตอนปลุกเขาขึ้นมาทานข้าว ตอนป้อนข้าวและกินยา และตอนที่นั่งคุยกัน... ถ้ารพินทร์ไม่ใช่น้องสาวเขาคงคิดว่าเป็นพวกสตอล์กเกอร์ไปแล้ว ถ่ายมาทุกอิริยาบถเลยหรือไง และทุกรูปก็เป็นรูปที่แอบถ่ายทั้งนั้น
ทิวากาลเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นสำหรับโพสต์รูปภาพโดยเฉพาะ ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากัน คิ้วขมวดอย่างคิดหนัก ไม่รู้ว่าจะเลือกรูปไหนลงดี หรือจะโพสต์มันทุกรูปเลยวะ ไม่ดี เดี๋ยวคนจะเห็นความน่ารักของเด็กแก้มกลมมากเกินไป เอาตรง ๆ นะ โคตรอยากอวดเลย! สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเลือกรูปภาพตอนที่เด็กแก้มกลมกำลังป้อนข้าวต้มเขาลงโดยไม่ลืมแท็กเด็กแก้มกลมในรูปภาพและให้เครดิตรพินทร์
charissa.cp เป็นง่อยเหรอออออออ แดกเองไม่เป็นแหงะ!! *อีโมจิโมโห*
tonthachat สำออย
itsmick ใกล้ตายยังเพื่อนรัก
tankthang_ ซอกคอขาวจังเลยครับ เลิกมองไม่ได้เลย
@jjindahouse tiwathana ไอ้สัด
@tankthang_ ‘เป็นแฟนกันเหรอคะ’
‘กรี๊ดดด จันทิวาน่ารักกกก’
‘ฟินนนนนนนนน’
‘อุ๊ยยย มีหวงกับเพื่อนด้วยค่ะ กรี๊ดดดด’
‘พี่กาลอัพรูปในรอบสามพันปี แถมยังอัพรูปคู่อีก พฮืออออ #ไม่รู้ว่าฉันอิจฉาหรือว่าสุขใจน้ำตาที่ไหลนั้นไหลมาจากจุดไหน *อีโมจิร้องไห้แบบนับจำนวนไม่ได้*’ ทิวากาลขยับยิ้มขณะอ่านความเห็นของคนอื่น ๆ บางอันก็ตลก บางอันก็เฉย ๆ และบางอันก็ทำให้อารมณ์เสีย...
‘เด็กบริหารที่มีเรื่องกลางโรงอาหารวันนี้เหรอแก @เพื่อน’
‘ใช่ ๆ เขาว่าคนนี้แย่งแฟนพี่รหัสตัวเองนะเว้ย @เพื่อน’
‘ไม่ได้คบกับพี่ฟางอยู่เหรอคะ?’
‘หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิง’
‘สงสารฟางต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้’ เหรอ? แล้วยังไงล่ะ? เขาต้องพูดอะไรหรือเปล่า? แล้วถ้าเขาบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกับข้อความพวกนั้นเขาจะกลายเป็นคนแย่ ๆ คนหนึ่งใช่ไหม? ใครจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ซึ่งเขาไม่แคร์อยู่แล้ว ตอนนี้มีคนที่เขาต้องแคร์มากกว่า ทิวากาลเลือกลบความเห็นไม่ดีออกไป ไม่อยากให้เด็กแก้มกลมมาเห็น ที่ลบทิ้งไม่ใช่ว่ากลัวจะดูไม่ดี เพราะยังไงภาพลักษณ์ของเขามันก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว แต่นั่นก็เพราะเขาไม่อยากให้จันทร์เจ้าต้องมาเจอกับอะไรมันทำลายสุขภาพจิต ถึงแม้บางทีเด็กนั่นอาจจะเฉย ๆ เหมือนเขาก็ได้ ดีไม่ดีอาจจะหัวเราะแล้วบอกว่า ‘ตลกจัง’ พร้อมรอยยิ้ม
เอาจริง ๆ ถ้าบอกว่าเขาลืมเรื่องเมื่อกลางวันไปแล้วคงโดนด่าว่าไอ้เหี้ยแบบโอเปร่าเลยล่ะมั้ง หึหึ
ติ๊ง!
นี่จันทร์เจ้าเอง ถึงบ้านแย้วววววววววววว
นี่จันทร์เจ้าเอง 
ร่างสูงขยับตัว ปรือตาขึ้นอย่างงัวเงีย และหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหมอนขึ้นมาดูหลังจากที่เสียงเตือนของมันทำให้เขาตื่น ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าฟ้าเปลี่ยนสีไปแล้ว ก้านนิ้วยาวกดโทรออกหาคนที่เพิ่งส่งข้อความมา นอนหลับตารอให้อีกฝ่ายรับสาย
(“Hellooooooooooooo~”) เสียงสดใสมาเชียว
“อือ... ช้า”
(“สองชั่วโมงเอง คิดถึงเราเหยอ?”)
“ใช่ คิดถึงมาก”
(“โม้ คิคิ แล้วนี่พี่เป็นยังไงบ้างครับ?”)
“เป็นหนักเลย มาดูแลหน่อย”
(“ตอแหล”) ทิวากาลหลุดหัวเราะเบา ๆ ดูไว้นะ ใครบอกเด็กนี่มันน่ารัก
“เดี๋ยวจะโดน”
(“เลิกเป็นเต้าหู้ไข่ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันเถอะ แบร่!”)
(“พี่ทิวาทานอะไรหรือยังครับ?”)
“ยัง เพิ่งตื่น อีกอย่างผมเพิ่งกินไปไม่นานเองครับคุณจันทิมันตุ์”
(“เอ๋า ก็เราลืมนี่นา เอ้อ! นี่ ๆ เรามีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วยแหละ เมื่อตอนนั่งรถกลับบ้านกับจริงใจนะ เราเจองูด้วย”)
“หือ งูอะไร แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า?”
(“งูเห่าคับ ไม่ได้เป็นอะไรเพราะคุณงูไม่ได้ทำอะไรเรา ตรงนั้นมันมีป่าข้างทางด้วยง่ะ แล้วทีนี้คุณงูก็คงจะข้ามถนนมั้ง แล้วตรงนั้นไม่มีทางม้าลายไง...”)
“งูมันรู้จักทางม้าลายที่ไหนกันเล่า!”
(“พี่อย่าขัดสิ! ไม่มีมารยาทเลย ...ต่อนะ แล้วทีนี้พอเห็นใช่ป่ะ จริงใจก็เบรกเอี๊ยดเลย หัวเรากระแทกกับน้องด้วย พอเราหยุด คุณงูก็หยุดด้วย ตอนคุณงูหันมามองนะ หัวใจเราเต้นตึกตักเลย แล้วคุณงูก็ชูคอขึ้น ขยายคอได้ด้วย โคตรเท่!!”)
มันใช่เรื่องที่จะมาชมงูเห่าว่าเท่ไหมล่ะไอ้เด็กบ้าเอ๊ย!!! ความง่วงของทิวากาลหายไปหมดเหมือนชีวิตนี้ไม่เคยง่วงหลังจากที่ฟังเรื่องราวสุดแฟนตาซีของเจ้าเด็กแก้มกลม ไม่รู้จะโกรธหรือไม่โกรธดี ความรู้สึกของเขาตอนนี้รวนไปหมดแล้ว
(“คุณงูเห็นว่าพวกเราอยู่เฉย ๆ ก็ลดคอลงแล้วก็เลื้อยไปเลย ฮี่ น่าย้ากกกกกก”)
“จันทร์เจ้า”
(“คับ?”)
“ไม่กลัวหรือไง นั่นงูเห่านะเว้ย! ถ้าเกิดโดนมันฉกขึ้นมาตายได้เลยนะ!”
(“ไม่กลัว ตื่นเต้นนนนน คุณงูน่ารักกกกก ถ้าไม่ติดว่าเป็นงูพิษเราจะลงไปจับเล่นแล้ว”)
“ไอ้เตี้ยยยยยยย”
(“คิคิ ใจจริงอยากพูดว่าไอ้เหี้ยล่ะสิ แต่พูดไม่ได้เพราะเราน่ารักใช่ม้า~”)
“เหี้ย!” ทิวากาลล่ะปวดหัว ไม่ใช่เพราะไข้หรอกแต่เพราะไอ้เด็กนี่แหละ
(“55555555555”) แล้วดู คนอะไรโดนด่าแล้วหัวเราะ มันปกติที่ไหนกันล่ะ กูเครียดเลย (“โอ๊ะ!”)
“อะไร?”
(“เราเพิ่งเห็นรูปที่พี่โพสต์ลง พี่พินทร์ถ่ายรูปสวยจัง”)
“หึหึ โดนพินทร์แกล้งหรือเปล่า?”
(“ไม่โดน พี่พินทร์น่ารักกกกกกกก หอมแก้มเราด้วย อ้อ! ตอนแรกก็กอดเรา”)
“ว่าไงนะ!!”
(“พี่พินทร์บอกว่าแก้มเราเหมือนซาลาเปา แล้วก็บอกว่าเราตัวหอมด้วย คิคิ”)
“ทำไมไปยอมให้เขาหอมให้เขากอดง่าย ๆ แบบนั้นวะ!”
(“พี่อย่าตะโกนเยอะสิ เดี๋ยวเจ็บคอนะครับ”)
“มาดูแลสิ”
(“โตแล้วก็ดูแลตัวเองเถ๊อะ~ อู้หูย คอมเมนต์พี่ทิวาเยอะจัง”)
“ไม่ต้องไปอ่าน” ทิวากาลสั่งเสียงเข้ม เริ่มจะปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
(“มีคนเมนต์ว่าเรานิสัยไม่ดีไปแย่งแฟนคนอื่นด้วย”)
“ไม่ต้องอ่าน ไร้สาระ เดี๋ยวลบรูปทิ้งแม่ง”
(“อย่าลบเลย นั่นรูปคู่รูปแรกของเราเลยน้า~”) ก็จริง นั่นเป็นรูปคู่แรกที่ถูกโพสต์ลงโซเชียล แต่มีอีกเป็นแสนในแกลลอรี่ (“เราอ่าน แต่เราไม่ได้เก็บมาใส่ใจสักหน่อย ความจริงเป็นยังไงก็รู้ เราไม่สนหรอก พี่ก็อย่าซีเรียส”)
“นี่พี่เป็นห่วงเรานะ”
(“ขอบคุณครับ”)
“เตี้ยยยยย เอางั้นเหรอ? โอเค ก็ได้ ช่างแม่งก็ช่างแม่ง”
(“Good boy~”)
คุยกันอีกหลายประโยคถึงวางสาย ทิวากาลสั่งข้าวขึ้นมากินและกินยาหลังอาหาร จากนั้นจึงเอาหนังสือออกมาอ่าน ความง่วงเริ่มเข้าโจมตีเพราะฤทธิ์ยาและพิษไข้อ่อน ๆ เขาจึงต้องปิดหนังสือแล้วเข้านอนตั้งแต่ยังไม่ดึก
หลังจากวางสายจากทิวากาลเจ้าตัวเล็กทิ้งตัวนอนหงายบนเตียงกดโทรศัพท์เข้าไปในแอพพลิเคชั่นเกม ตอนนี้เลยเวลาอาหารเย็นไปแล้ว และจันทร์เจ้าก็แวะทานจากข้างนอกกับเจ้าเด็กปีศาจก่อนจะถึงบ้าน เจ้าเด็กนั่นถามใหญ่เลยว่าทำไมถึงไปอยู่กับทิวาได้ พอบอกว่าทิวาไม่สบายเจ้าเด็กนั่นก็หาว่าตอแหล จริงใจดูหงุดหงิด ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ถามก็ด่าว่าสาระแน พี่เป็นห่วงแท้ ๆ
ตอนทานมื้อเย็นกันอยู่เจ้าเด็กปีศาจถามเรื่องข่าวที่รุ่นน้องของทิวากาลพูดด้วย ไม่ค่อยอยากบอก แต่ก็บอกไป เพราะหากให้เจ้าเด็กเวรนั่นรู้เองคงกลายเป็นวาระแห่งชาติ จริงใจดูไม่ค่อยพอใจอยู่มาก เมื่อเล่าถึงตอนทิวาตบหน้าพี่ฟางจนหน้าสะบัดเจ้าเด็กปีศาจก็แสยะยิ้มร้ายเฉยเลย น่ากลัวมาก...
และส่วนกระแสโชเชียลในวันนี้... มีคนชมยังไงก็ต้องมีคนด่า มีคนชอบก็มีคนไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา พวกความเห็นแย่ ๆ นั้นจันทร์เจ้าเองก็เห็นและได้อ่าน ทั้งในโชเชียลของเขาเอง ของทิวากาล หรือแฟนเพจทีมจันทิวา เอาตรง ๆ ก็ไม่ชอบที่โดนใครก็ไม่รู้มาด่าเสีย ๆ หาย ๆ แต่ในทางกลับกันก็ไม่เห็นต้องไปสนใจใครก็ไม่รู้พวกนั้นเลย เรื่องแบบนี้อีกไม่นานเดี๋ยวคนก็ลืม เพราะฉะนั้น... ไม่ต้องสนใจดีกว่า เสียเวลากินของอร่อย เย้
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะถ่ายรูปตัวจากมุมสูงและโพสต์ลงโซเชียลสำหรับโพสต์รูป
jjindahouse don’t grow up, it’s a trap
TBCฮาโหลลลลลลลลล เรามาแล้วววววว
พี่สาวคนสวยคือรพินทร์เองค่าาาา

เต้าหู้ไข่ก็ยังคงเป็นเต้าหู้ไข่อยู่ /ถอนหายใจ
อยากจะบอกช่วงคงอัพช้าหน่อยนะคะ แต่ไม่ดองแน่ ๆ เพราะจะต้องไปอ่านหนังสือเตรียมทำใบขับขี่ด้วย (ซึ่งยากมากกกกก และอ่านไม่ออกด้วย ฮือออออ) จึงเรียนมาเพื่อทราบ....
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ และอาจจะมีคำผิดอยู่ขออภัยด้วยคับ
ไว้เจอกันตอนหน้าเน้อ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าวันไหน TwT
บายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ♥
เกือบลืม... WAIT FOR LOVE รักแล้วรอหน่อย เปิดจองแล้วนะคะ ถ้าใครสนใจอยากเก็บก็ไปจองกันเด้อ ♥