[จบแล้ว]ผิดที่ใคร [Right or Wrong] บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ (24-10-2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]ผิดที่ใคร [Right or Wrong] บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ (24-10-2017)  (อ่าน 97945 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โหยยยยยย มั่นใจมากเลยนะคุณแว่น

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
อ่านแล้วหน่วงในใจมาก
ชาร์ปทำแบบนี้ทำไม ก็รู้ว่าตี้เป็นแฟนกับอรรถ
คืออยากเอาชนะหรืออยากจะทำให้ตี้รู้สึกอะไร
แต่ถึงจะอะไรก็เถอะแต่ตัวเองก็ยังไม่เคยให้คำตอบตี้เลย

ผมว่าแบบนี้ก็ไม่แฟร์กับคุณอรรถอ่ะ ตี้บอกกับคุณอรรถไปตรงๆเถอะ
สงสารคนที่ไม่รู้เรื่อง

หน่วงๆมากๆๆ อ่านแล้วลุ้นตลอดเลยครับว่าจะเจอเหตุการณ์อะไร

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
พอกลายมาเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามแล้วตื่นเต้นใช่ไหมตี้กับแว่น 55

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :katai1:  ชอบเขา ทำไมไม่ขอคบอ่าาา ทำไมต้องมาแอบหึงทีหลังด้วย!!!! แต่แอบชอบแบบชาร์ปนะ หื่นดี 55.  อยากให้เปิดตัวคบกันเร็วๆ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 24
ยุติความสัมพันธ์





ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่าง มือผมควานหาโทรศัพท์มือถือที่แผดเสียงอยู่ เมื่อเห็นเบอร์ที่คุ้นเคย ทำให้ผมกดรับ วางโทรศัพท์ไว้ที่หูก่อนจะหลับตาลง ไม่ได้สนใจนักเพราะยังรู้สึกเพลียอยู่

“อย่าบอกนะว่ายังนอนอยู่”ผมมองหานาฬิกาก่อนจะเห็นว่าตอนนี้ เกือบจะ 5 โมงเย็นแล้ว ผมตอบอีกฝ่ายกลับไปว่าตื่นนานแล้ว

“ออกไปหาอะไรกินก่อนเลยนะ สงสัยวันนี้จะดึก”ปลายสายบอกกลับมาก่อนจะวางสายไป แล้วนี่ผมจะถ่อมาถึงที่นี่ทำไมเนี่ย ผมถอนหายใจให้กับตัวเอง ตอนนี้ผมอยู่ที่ระยองครับ ทำไมผมถึงมาโผล่ที่นี่นะเหรอครับ ก็ไอ้ประโยคคำถามของคุณแว่นเมื่อคืนนั่น ผมไม่ยอมตอบ มันเลยทำให้เค้าโชว์ฝีมือเสียจนผมแทบจะไม่เหลือน้ำในร่างกาย นี่ผมยังงงว่าเค้าตื่นเพื่อเตรียมตัวมาทำงานต่างจังหวัดแบบนี้ไหวได้ยังไง ผมเองตื่นพร้อมเค้าในตอนเช้า แต่แค่กะว่าจะตื่นมาโทรลางาน แล้วจะนอนต่อเท่านั้น

“ไหนๆ ตี้ก็ลางานแล้ว นั่งรถไประยองเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”ผมควรที่จะปฏิเสธหลังจากได้ยินประโยคนี้ แต่การที่ผมมาอยู่ที่โรงแรม ในจังหวัดระยองแบบนี้ ชัดเจนเลยครับว่าผมไม่ได้ปฏิเสธเค้า ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมยอมมากับเค้าถึงที่นี่ ทั้งที่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ทำแบบนี้กับเค้าอีก ทั้งที่รู้แล้วว่าเค้าเริ่มจีบผู้หญิงคนนึงอยู่ และทั้งที่ผมตกลงเป็นแฟนกับคุณอรรถแล้ว แม้หลังจากกลับมาจากหัวหิน เค้าจะไม่โทรหาผม ไม่ไลน์มาหาเลยก็ตามที แต่ผมก็เข้าใจเค้านะครับว่าคงเสียเซลฟ์จากเหตุการณ์ที่หัวหิน เค้าอาจจะต้องการเวลาในการปรับความรู้สึก

ผมสลัดเรื่องต่างๆ ออกจากหัว ไหนๆ ก็มาแล้วผมลุกอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปหาอะไรกิน แม้จะไม่คุ้นเคยหรือชำนาญพื้นที่มากนัก แต่ก็ต้องขอบคุณโลกนี้ที่มีอินเตอร์เน็ตและกูเกิ้ล ที่พร้อมช่วยเหลือผมทุกปัญหา กูเกิ้ลพาผมมาถึงตลาดโต้รุ่งแห่งนึงที่เกือบจะหาที่จอดรถไม่ได้ คุณแว่นทิ้งรถไว้ให้ผมใช้ครับ ส่วนเค้าให้ผมเข้าไปส่งที่ทำงานตอนที่มาถึง ส่วนตอนกลับโรงแรมเค้าจะให้รถของที่ทำงานมาส่งอีกที

“โอ๊ย”เสียงของเด็กผู้ชายคนนึงที่วิ่งมาชนผม ร้องขึ้นเพราะแรงชนทำให้ตัวเด็กคนนั้นล้มลง ก็แน่ละเด็กอายุน่าจะ 4-5 ขวบมาชนผู้ใหญ่อย่างผมก็แน่นอนว่าผมคงไม่ใช่คนที่ล้ม ผมกำลังจะเอื้อมมือไปช่วย แต่เจ้าตัวลุกขึ้นเสียก่อน พร้อมกับหญิงดูมีอายุคนนึง ที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ผม วิ่งเข้ามาหา

“ยายบอกแล้วใช่ไหมครับน้องแมทว่าอย่าซน เห็นไหมชนน้าเค้าเลยเนี่ย ขอโทษหน้าเค้ารึยัง”เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวขอโทษผม ตามด้วยผู้เป็นยายที่ขอโทษผมด้วยอีกคน ผมรีบบอกว่าไม่เป็นไรเพราะดูท่าน้องแมทจะเจ็บกว่าผมเสียด้วยซ้ำ

“น้องแมทเดินไปหาคุณแม่ตรงนู้นก่อนนะครับ เดี๋ยวยายซื้อผลไม้แล้วจะตามไป”ผมมองตามเด็กน้อยที่เดินไปหาแม่ก่อนจะสบตากับหญิงสาวที่ยายของน้องแมทบอกว่าเป็นแม่ของน้องแมท หญิงสาวที่ทำให้ผมแปลกใจ

“แพท”ผมเรียกชื่อของเธอ แพทที่ดูจะตกใจไม่น้อยที่เจอผมที่นี่ แพทที่ผมรับรู้จากไอ้เหมาว่ามาเยี่ยมแม่ที่ป่วยเข้าโรงพยาบาล แพทที่ทั้งผมหรือไอ้เหมาเองไม่เคยรู้ว่าเธอมีลูกแล้ว คำถามผุดขึ้นในหัวของผมมากมาย

“ตี้...มาได้ยังไง”เอาแล้วไงละจากที่กำลังจะเป็นคนซักเค้าเรื่องลูก ไหงกลายเป็นผมจะโดนซักแทนหรือเปล่าเนี่ย

“เอ่อ...พอดีขี้เกียจทำงานเลยลาหยุดนะ”ผมตอบออกไป แม้จะไม่ได้พูดทั้งหมดแต่ผมก็ไม่ได้โกหกละน่า

“แล้วนี่...เอ่อ”ผมหันมองน้องแมทที่กำลังเรียกแพทว่าแม่ ก่อนจะวิ่งหาผู้เป็นยาย ซึ่งเดินมาหาพวกผมพอดี ผมยกมือไหว้พร้อมกับแนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนกับแพท แต่ตอนนี้ผมกับแพทมองหน้ากันอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ผมจะต้องมารับรู้ความลับอะไรอีกหรือเปล่าเนี่ย แพทบอกให้แม่พาน้องแมทกลับบ้านไปก่อน เพราะมีธุระที่ต้องคุยกับผม

“ไอ้เหมายังไม่รู้ใช่ไหม”ผมเอ่ยถามในสิ่งที่คาใจทันทีที่เหลือกัน 2 คนกับแพท

“ไปคุยกันที่อื่นไหม”ผมพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพาแพทเดินมาที่ตรงผมจอดรถทิ้งไว้ โดยลืมไปว่ารถที่ผมเอามามันไม่ใช่รถผม

“เอ่อ...คือพอดีชาร์ปมาทำงานที่นี่ และเห็นว่าเราลาหยุด พอดีเลยชวนมาเที่ยวด้วย ก็..เท่านั้น”ผมยิ้มแห้งๆ ให้กับแพทที่ยิ้มมุมปากอยู่ก่อนแล้ว แพทพาผมมานั่งที่ร้านริมน้ำร้านนึง เราสั่งอาหารนิดหน่อย ก่อนแพทจะเริ่มเล่าอย่างเครียดๆ ว่าน้องแมทเป็นลูกของแพทกับแฟนคนก่อนที่จะมาคบกับไอ้เหมา แต่พอแพทท้องพ่อของน้องแมทกลับขอให้แพททำแท้ง เพราะไม่พร้อมรับผิดชอบ ทำให้แพทต้องกลายเป็นคนท้องไม่มีพ่อ แต่แพทก็เก็บน้องแมทไว้และมียายเป็นคนคอยช่วยเลี้ยงดูน้องแมท และที่แพทกลับมาระยองวันนี้เพราะน้องแมทเปิดเทอม วันแรก

ถึงตรงนี้เหตุการณ์ชักเริ่มจะคุ้นๆ อีกแล้วสิครับ แม้เหตุการณ์จะต่างกัน แต่สถานการณ์แทบไม่ต่างเลย ชะเอมแอบสวมเขาให้คุณแว่น ผมก็เป็นคนรับรู้ แพทปิดบังไอ้เหมาผมก็ยังมารับรู้ แต่ความรู้สึกของผมต่อสองเหตุการณ์นี้มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง ครั้งนี้ผมเห็นใจแพท แพทไม่ผิดที่เคยพลาดท้องก่อนแต่ง แพทไม่ผิดที่มีลูกแล้ว ถ้าจะผิด ก็ผิดที่แพทปิดบัง

“ทำไมแพทไม่บอกไอ้เหมามันตั้งแต่แรก”นั่นคือสิ่งที่แพทผิดเต็มๆ ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าไอ้เหมาจะรับได้หรือเปล่า แต่ผมคิดว่าถ้ามันรู้ทีหลังแบบนี้ มันคงรู้สึกแย่กว่าการรับรู้มาตั้งแต่ต้นแน่นอน

“เราก็แค่ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนท้องไม่มีพ่อ”แพทเริ่มน้ำตาคลอตอนที่พูดออกมา แสดงว่าเรื่องนี้มันคงเป็นปมในใจอย่างนึงของแพท แพทถึงไม่เคยให้ใครที่กรุงเทพฯ รับรู้เรื่องนี้เลย การที่แพทไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็คงเพราะอยากหลีกหนีจากสายตา หรือคำนินทาของคนที่นี่

“แพท คนเราทุกคนมันก็เคยก้าวพลาดด้วยกันทั้งนั้นแหละ แต่ตอนนี้เรามองว่าแพทกำลังลดคุณค่าในตัวเองเพราะอดีตที่แพทเคยพลาดมา ทั้งที่ความจริง คุณค่าในตัวแพทมันก็ยังเท่าเดิม ถ้าตัวเราเองยังไม่เห็นค่าของตัวเอง แล้วจะให้คนอื่นมาเห็นค่าของเราได้ยังไง”ผมรู้จักทั้งไอ้เหมาทั้งแพทมานาน แล้วก็คิดว่าแพทเองจริงๆ ก็คงไม่ได้ตั้งใจจะหลอกไอ้เหมา

“เราจะยังไม่บอกเรื่องนี้กับไอ้เหมานะ แต่แพทต้องรีบบอกเรื่องนี้กับมันให้เร็วที่สุด”แพทเช็ดน้ำตาพร้อมกับบอกขอบคุณที่ผมเข้าใจเธอ เราคุยกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนผมจะไปส่งแพทที่บ้าน

“ตี้...ถ้าเล่าให้ชาร์ปฟังก็กำชับชาร์ปให้ด้วยละ ว่าขอให้เราได้เป็นคนบอกเหมาเอง”

“ทำไมถึงคิดว่าเราจะเล่าให้ชาร์ปฟังล่ะ”ผมเผลอเกาหัวอย่างลืมตัว เหมือนคนโดนจับผิดได้ เพราะรอยยิ้มของแพทที่พูดถึงผมกับคุณแว่น มันดูเป็นรอยยิ้มที่บ่งบอกว่า เค้ากำลังรู้บางอย่างอยู่ ซึ่งแน่นอนแพทอาจจะสงสัยเหมือนที่ไอ้เหมาเคยสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับคุณแว่น แต่ตราบใดที่แพทไม่พูดออกมา และไม่ได้มีหลักฐานอะไรมามัดตัว ผมว่าผมก็ยังปฏิเสธเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปากเต็มคำอยู่ดี



“ชาร์ปว่าไอ้เหมามันจะรู้สึกยังไง”ผมถามออกไปหลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดให้เค้าฟัง

“ไม่มีใครตอบแทนตัวมันได้หรอก แต่เราว่ามันก็คงรู้สึกไม่ต่างจากที่เราเคยรู้สึก ว่าทำไมเพื่อนรู้แล้วถึงไม่ยอมบอก”เอาแล้วไง นี่เรื่องนี้กลับมาจี้จุดอีกรึไงเนี่ย แต่ผมว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน เมื่อครั้งชะเอมกับคุณแว่น ผมไม่ได้บอกหรือพูดให้ชะเอมบอกความจริง แต่ครั้งนี้ถ้าแพทไม่ยอมบอกสักทีผมก็คงต้องคุยกับแพทอีกรอบว่าหากไม่ยอมบอกผมจะเป็นคนบอกเอง

“แล้วนี่ไอ้เหมาไม่รู้แล้วเหรอว่าเรามาด้วยกัน”เค้าพูดขำๆ ล้อเลียนผมที่แต่ก่อน พยายามปิดเรื่องระหว่างผมกับเค้าไม่ให้ไอ้เหมารู้

“เป็นเพราะชาร์ปแหละที่ลากเรามานี่ ถ้าไม่มาก็ไม่ต้องมารับรู้เรื่องแพท ไม่ต้องมากังวลว่าไอ้เหมาจะสงสัยอะไรอีก โอ้ยไม่น่ามาเล้ย”ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด พร้อมมองอีกคนอย่างเคืองๆ

“ไอ้เหมารู้ว่าเรามาด้วยกันอ่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าคุณอรรถของตี้รู้ว่า เรามาด้วยกัน แถมเราซ้ำรอยเค้าไปทุกจุดแล้วขนาดนี้ น่าจะเรื่องใหญ่กว่านะ”เค้าพูดเหมือนเป็นเรื่องสนุก แต่ผมเงียบและมองเค้าด้วยสายตาที่ไม่พอใจ ที่เค้าพูดแบบนั้น

“โกรธเหรอ”เมื่อเห็นทีท่าของผม ทำให้น้ำเสียงของเค้าอ่อนลง แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดี ผมไม่ได้โกรธเค้า

“เราโกรธตัวเอง โกรธที่ทำผิดกับคนที่เราได้ชื่อว่าเป็นแฟนกับเค้าแล้ว โกรธตัวเองที่ทำผิดต่อคนที่เค้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย”ผมรู้สึกผิด ผิดหวังกับตัวเองที่ปล่อยให้มันเกิดเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ ผมหยิบมือถือเดินลุกออกไปยืนริมระเบียง คุณแว่นทำท่าจะลุกลามผมออกมา แต่ผมบอกว่าขอคิดอะไร คนเดียวสักหน่อย ผมมองออกไปนอกระเบียง จากตรงนี้มองเห็นทะเลอยู่ไม่ไกล ทะเลที่มีแต่ความมืดปกคลุม ไม่มีใครรู้ว่ามันสงบนิ่งหรือบ้าคลั่ง ก็คงเหมือนผมกับคุณแว่น ที่มีความสัมพันธ์กันโดยไม่ให้ใครรู้  ผมเลื่อนโทรศัพท์กดโทรหาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนผม

“ขอโทษ”นั่นคือคำแรกที่ผมพูดทันทีที่เค้ารับสาย เค้าอาจจะคิดว่าผมขอโทษเรื่องวันที่ไปหัวหิน แต่สำหรับผม มันคือขอโทษในทุกเรื่องที่ผมไม่ได้บอกเค้า โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคุณแว่น ผมอาจยังไม่ได้รู้สึกชอบคุณอรรถเท่าคุณแว่น แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรทำลับหลังเค้าแบบนี้

“ขอโทษเหมือนกัน”ยิ่งเค้าพูดมาแบบนี้ผมยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่ ผมไม่น่ามานี่เลยจริงๆ

“พรุ่งนี้เจอกันหน่อยไหม”ผมถามพร้อมกับยิ้มเยาะตัวเองอยู่ในที นี่ผมกลายเป็นพวกนอกใจแฟนไปแล้วสินะ

“คิดถึงอรรถละซี้”เค้าถามกลับมาอย่างอารมณ์ดีเราพูดคุยเรื่องสรรพเพเหระ ตามประสา ทั้งที่จริงเราก็แค่ไม่ได้คุยกันแค่วันสองวัน แต่เรากลับมีเรื่องพูดคุยกันมากมาย แม้ผมจะยังรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องระหว่างผมเค้าและคุณแว่น อีกทั้งเรื่องไอ้เหมาอีก ที่ผมก็กังวลอยู่ไม่น้อย แต่การได้คุยกับคุณอรรถ ก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาบ้าง

“โอเคเปล่า”เสียงคนที่นั่งอยู่บนเตียงเอ่ยถามหลังจากที่ผมกดวางสายจากคุณอรรถแล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง ผมว่าครั้งนี้เราคงต้องคุยกันอย่างจริงจังเสียที ในเมื่อเค้าเองก็เริ่มจีบใครเป็นเรื่องเป็นราว และผมเองก็ตกลงคบกับคุณอรรถไปแล้ว เรื่องนี้มันก็ควรจบจริงๆ เสียที

“ชาร์ป ขอให้นี่เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ นะ เราไม่อยากรู้สึกแย่กับตัวเองไปมากกว่านี้แล้วจริงๆ”ผมบอกเค้าด้วยท่าทีจริงจัง ซึ่งครั้งนี้เค้าก็ดูตั้งใจฟัง โดยที่ไม่ได้มีอาการไม่เชื่อในคำพูดของผมเหมือนครั้งก่อนๆ

“ตี้ชอบคุณอรรถเค้าจริงๆ ใช่ไหม”เค้าลุกขึ้นมายืนตรงหน้าผม พร้อมกับตั้งคำถาม สายตาเค้าจ้องมองมาที่ดวงตาของผม เหมือนกำลังค้นหาบางอย่าง

“ชอบสิ ไม่ชอบเราจะคบกับเค้าทำไมละ”แม้ในใจจริงผมจะยังไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น แต่เพื่อจบความสัมพันธ์ sex friends ของเราอย่างเด็ดขาดผมว่าผมควรยืนยันกับเค้าให้ชัดเจน

“งั้นเราขอกอดครั้งสุดท้ายได้ไหม”



TBC
แวะมาต่อคร๊าบบบ

ใครเชียร์คุณแว่นกับปาร์ตี้นี่คงลุ้นกันเหนื่อยหน่อย

เพราะไรท์ใจร้าย 555

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
อ่านตอนนี้  เห็นว่าตี้ทำถูกต้องแล้วที่ยุติความสัมพันธ์กับชาร์ปอย่างเป็นจริงเป็นจังซะที
เหอๆๆ  ไม่ชอบชาร์ปที่คิดเอาชนะตี้ด้วยวิธีแบบนี้เลยอ่ะ
ชาร์ปน่าจะเปิดใจ  คบจริงจังกับตี้ไปเลยนะ  ชิส์  หนุ่มแว่น

แต่ถึงยังไงเราก็เชียร์หนุ่มแว่นไม่เปลี่ยนแปลงนะจ๊ะ  อิอิ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แต่ละคนมีเรื่องปิดบังกันทั้งนั้นเลย เห้อออ

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เจอประโยคสุดท้าย ทำเอาลุ้นต่อไม่ขึ้นเลยอ่ะ. แต่สงสารอรรค 

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คุณแว่นเคยบอกว่ายังไม่ได้ขอ(ใครคนนั้น)คบอย่างจริงจัง
รอให้ตัวเองมั่นใจซะก่อน..แล้วถึงจะบอกให้รู้

ยังไม่ได้มีคำพูดไหนเลยที่บ่งบอกว่าคุณแว่นคุยกับหญิงสาวอยู่
คนนั้นอาจจะเป็นตี้ก็ได้..เพียงแต่ตี้ไม่ได้คาดเดาไว้ เข้าใจผิดไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
หุหุ


มันหนุกมาก
ชอบเรื่องนี้

บวกหนึ่งบวกเป็ดให้เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ว่าจะเชียร์ตาแว่นซะหน่อยแต่ทำตัวไม่ได้ดั่งใจเลย

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 25
ขอเวลาจัดการกับความรู้สึก



“เหมา”เจ้าของชื่อหันมามองผม เพื่อรอฟังว่าผมจะพูดอะไร ตอนนี้เราอยู่ในห้องกาแฟ ที่ประจำของเราเวลาพักเบรค ปกติคนอื่นๆ ก็จะมาชงกาแฟ แล้วก็ถือกลับไปที่โต๊ะทำงานบ้าง แต่เราสองคน อาจจะด้วยความอยู่คนละแผนกเลยจะอยู่พูดคุยกันที่ตรงนี้สักพัก คงเป็นความเคยชินตั้งแต่แรกที่เราเข้ามาทำงานที่นี่ แล้วตอนนั้นเรายังไม่ค่อยรู้จักใคร เป็นเด็กใหม่ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไร คิดแล้วก็ขำ

“เป็นอะไรมองหน้ากูแล้วยิ้มเนี่ย กูขนลุกนะมึง”มันทำท่าแขยงผมด้วยท่าทางรังเกียจเสียเต็มประดา แต่ผมไม่ถือสาหรอกครับเพราะรู้ว่ามันไม่ได้จริงจัง ผมยังคงมองหน้ามันนิ่งอย่างตัดสินใจ การที่มันยังปกติอยู่แบบนี้แสดงว่าแพทคงยังไม่ได้บอกเรื่องลูกกับมัน ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าถ้ามันได้รู้ มันจะรู้สึกยังไง แต่คนอย่างไอ้เหมาถ้ารู้แล้วมันคงมาปรึกษาไม่ผมก็คุณแว่นไปแล้ว เห็นมันแบบนี้เวลาตัดสินใจอะไรยังต้องมาถามพวกผม แต่ก็เหมือนถามไปงั้นๆ เพราะสุดท้ายมันก็เลือกตามความคิดของมันเองอยู่ดี

“ไม่มาทำงาน 2 วันนี้คิดถึงกูขนาดต้องมาจ้องกูแบบนี้เลยเหรอวะ เดี๋ยวปั๊ดกูเคลิ้มแล้วจะเรื่องใหญ่นะมึง”ผมหัวเราะเบาๆ ออกมา ตามที่ผมรับปากแพทไว้ ผมก็คงต้องรอให้แพทเป็นคนบอกเองสินะ

“ตั้งแต่รู้จักกันมา กูเคยทำผิดอะไรให้มึงไม่พอใจกูบ้างปะวะ”ผมปรับท่าทีให้ดูสบายๆ ไม่อยากให้มันคิดไปไกลว่าผมมีเรื่องอะไรใหญ่โตมาพูดกับมัน ไอ้นี่ยิ่งประหนึ่งเป็นญาติกับคุณเจน ญานทิพย์อยู่ด้วย

“นี่มึงยังต้องถามอีกเหรอ กูว่ามันนับไม่ถ้วนเลยนะ เวลามีผัวก็ทิ้งกูไปกับผัวตลอด มีเพื่อนสวยๆ ก็ไม่ยอมแนะนำให้กู เวลาไปดื่มแมร่งหารก็เท่ากันทั้งที่มึงแดกเยอะกว่ากู”มันตอบกลับมาขำๆ อย่างไม่ได้จริงจังเท่าไหร่

“เอาดีๆ ดิ”ผมถามย้ำไปใหม่ จนไอ้เหมามีสีหน้าสงสัย จนต้องย้อนถามผมว่าซีเรียสขนาดไหน แต่ผมก็บอกกลับไปว่าไม่ได้ซีเรียสมาก แค่ขอคำตอบเป็นจริงเป็นจังหน่อย เอาอะไรที่มันรู้สึกไม่โอเคกับผมจริงๆ

“เมื่อก่อนกูเคยไม่ชินกับบางคำพูดมึง บางครั้งมึงก็พูดแรงจนกูเก็บไปนอยด์ก็มี แต่พอสนิทกันมากขึ้นกูก็โอเคนะ เพราะเริ่มรู้ว่ามึงปากหมา อีกอย่างกูเองก็หมากับมึงเหมือนกัน ก็เลยถือว่าเจ๊าๆ กันไป”มันตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มให้ผม เป็นยิ้มจริงใจ ที่ผมรู้สึกได้ว่ามันเป็นเพื่อนที่หวังดีกับผมจริงๆ คนนึง ซึ่งผมเองก็หวังดีกับมันเหมือนกัน เพียงแต่เรื่องนี้ ถ้ามันรู้จากปากของแพทเอง มันก็น่าจะดีกว่า

“กูขอโทษนะ สำหรับทุกเรื่องที่เคยทำไม่ดี”ขอโทษที่รู้เรื่องนี้แต่ไม่ยอมบอกมึง ประโยคหลังผมได้แต่พูดกับตัวเองในใจ

“เป็นไรป่ะเนี่ย ไมวันนี้พูดจาแปลกๆ”มันตบไหล่ผมเบาๆ สองที พร้อมยักคิ้วเป็นเชิงถาม

“รู้สึกเฟลนิดหน่อย”จริงๆ ตอนนี้ในหัวผมมันไม่ใช่แค่เรื่องไอ้เหมาหรอกครับ เพราะไหนจะเรื่องคุณแว่น คุณอรรถอีก มันเหมือนทุกอย่างมันพร้อมใจกันเข้ามาในเวลาเดียวกัน

“แล้วนี่หยุดไปตั้งสองวัน ไม่ดีขึ้นบ้างเลยรึไง”ผมบอกเหตุผลการไม่มาทำงานกับไอ้เหมาไปว่าแค่เซ็งๆ เบื่อๆ เลยขอหยุด นี่ก็ยังไม่รู้ว่าถ้าแพทบอกเรื่องลูก แล้วต่อด้วยการบอกว่าเจอผมไปกับคุณแว่นด้วย ไม่รู้มันจะเซอร์ไพรส์สองต่อเลยหรือเปล่า

“งั้นเย็นนี้ไปดื่มกัน จะได้ลืมเรื่องแย่ๆ เดี๋ยวชวนไอ้แว่นด้วย”ถ้าไปดื่มพร้อมคุณแว่นอีกเนี่ยผมว่ามันอาจกลายเป็นยิ่งแย่กว่าเดิม เสียด้วยซ้ำ ผมส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะบอกเหตุผล

“วันนี้กูนัดกับอรรถเค้าไว้”ไอ้เหมาเบ้ปากใส่ผม

“นัดกับแฟน แล้วยังจะมาทำซังกะตาย....หรือว่า”ไอ้เหมาเว้นวรรค พร้อมกันหันมามองผมที่ถอนหายใจออกมายาวๆ

“สรุปที่ว่าเฟลๆ นี่คือทะเลาะกะผัว กูก็นึกว่าเรื่องอะไร”เอิ่มเพื่อนเหมาครับ เข้าใจว่าเราสนิทกัน แต่นี่ที่ทำงาน จะมาพูดเรื่องผมมีผัวนี่มันก็ดูไม่ค่อยเหมาะกระมั้ง อีกอย่างก็เป็นแค่แฟน ยังไม่ได้กันด้วยซ้ำ

“มันก็ส่วนนึง แต่กูไม่ได้ทะเลาะกับเค้า กูแค่...”ผมหยุดไว้แค่นั้น เพราะคงไม่เหมาะที่จะพูดรายละเอียดทั้งหมดให้มันฟัง เวลาพักเบรคหมดลงพอดี ทำให้เราทั้งคู่ต้องแยกย้ายกันกลับแผนกของตัวเอง เพื่อไปทำงานต่อ





“เอ่อ...คือ”คุณอรรถเงยหน้ามามองผมที่อ้ำอึ้งไม่พูดอะไรสักที ตอนนี้เราอยู่ในร้านอาหารแห่งนึงหลังจากที่ช่วงบ่ายเราได้ตกลงว่จะออกมาเจอกันหลังเลิกงาน และทั้งที่คิดมาแล้ว ว่าผมจะคุยกับเค้าตรงๆ แต่พอมาเจอ ผมกลับพูดไม่ออกซะงั้น

“ถ้าเป็นเรื่องที่หัวหิน...อย่าคิดมากเลย อรรถไม่เร่งรัดตี้หรอก”เค้าเอื้อมมือมาแตะที่ผม ก่อนจะยิ้มให้

“คือมันก็ไม่เชิงว่าเรื่องนั้น...มันเอ่อ...เริ่มยังไงดีละ”ยิ่งเค้าดีกับผมเท่าไหร่ ผมกลับยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม เค้ายังคงมองมาที่ผมเพื่อรอฟังในสิ่งที่ผมยังคงอ้ำอึ้ง

“เราชอบอรรถนะ”ผมเว้นจังหวะพ่นลมหายใจ เค้ายังคงยิ้มให้ผมเหมือนเดิม

“เราเคยคิดว่าถ้าไม่มีแฟนเราก็คงไม่ไขว่คว้า อยู่คนเดียวก็มีความสุขดี ดีกว่าคบๆ เลิกๆ ขออยู่กับเพื่อนยังจะสบายใจเสียกว่า จนอรรถเข้ามา เราคิดว่าถ้าเจอคนที่คิดเหมือนๆ กัน คิดว่าอยากจะคบใครไปนานๆ นั่นคือเหตุผลที่เราตกลงยอมคบกับอรรถ”เค้ายังคงยิ้มเช่นเดิม แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกกับเค้ามันยังไม่ได้หมดแค่นี้

“แต่เราไม่อยากเอาเปรียบอรรถ”รอยยิ้มของเค้าค่อยๆ จางลง จางลงเรื่อยๆ ก่อนที่ใบหน้านั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นความสงสัย ไม่เข้าใจ

“นี่ตี้กำลังจะบอกอะไร”ผมพ่นลมหายใจอีกครั้งพร้อมกับกุมมือเค้าแน่น

“เรากลับมาเป็นแค่เพื่อนกันก่อนได้ไหม”

“ทำไมล่ะ ตี้จะไปคบคนอื่นเหรอ”เค้าสวนขึ้นมาอย่างเร็วจนผมต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนที่เค้าจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้

“เราไม่ได้จะคบใคร หรือมีใคร เพียงแต่ตอนนี้ในใจเรามันมีคนอื่นเข้ามารบกวน เราอยากเคลียร์ความรู้สึกตัวเองให้ได้ก่อน เพราะถ้าขืนดันทุรังคบกันไปต่อ เราก็จะรู้สึกผิด รู้สึกแย่กับตัวเองที่คบกับคนนึง แต่ในความรู้สึกกลับยังมีอีกคนอยู่ในนั้นด้วย”ผมไม่ได้หวังให้เค้าเข้าใจผม แต่ผมแค่อยากบอกออกไป เพื่อให้ตัวผมเองรู้สึกดีขึ้น ผมก็แค่คนเห็นแก่ตัวคนนึงแหละครับ คนเห็นแก่ตัวที่ทำเพื่อตัวเอง

“สรุปคือเราต้องเลิกกัน”เค้าพูดออกมาเสียงแผ่ว โดยไม่ได้โวยวาย ไม่ได้มีท่าทีว่าโกรธเคืองผม แต่อย่างใด

“เราขอโทษนะ มันไม่ใช่ความผิดอะไรของอรรถเลย ผิดที่เราเอง...เราผิดที่จัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้”ใช่ผมผิด ผิดที่ดันไปเกิดความรู้สึกมากเกินกว่าที่ตกลงไว้กับอีกคน ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ กับคนที่เค้ายังคิดจะแต่งงาน มีลูก สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์

“อรรถจะรอนะ”ผมรีบยกมือขึ้นห้าม เพราะไม่อยากให้เค้ามาปิดกั้นตัวเองเพราะผม ผมไม่รู้ว่าผมเองต้องใช้เวลาอีกนานขนาดไหนในการที่จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไง รู้ตัวอีกทีภาพใบหน้าของอีกคน ก็มักจะเข้ามาในหัวของผมเสมอ

“งั้นอรรถจะไม่บอกว่ารอ แต่อรรถขอตี้อย่างนึงว่าไม่ต้องบอกให้อรรถไปมองคนอื่น ตี้เองยังเคลียร์ใครบางคนออกจากใจไม่ได้ แล้วตี้คิดว่าอรรถจะเคลียร์ตี้ออกจากใจได้ง่ายๆ เหรอ”คำพูดเค้าทำเอาผมพูดไม่ออก ทำไมนะ ทำไมผมไม่รู้สึกกับเค้าอย่างที่รู้สึกกับอีกคน ไม่งั้นเรื่องมันอาจจะง่ายกว่านี้

“ถ้างั้น...ก็ปล่อยให้ทุกอย่างมันดำเนินไป เวลาอาจจะช่วยให้ทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ก็เป็นได้”ถ้ารู้อนาคตได้ก็คงจะดีนะครับ ถ้ารู้ก่อนเราจะได้ไม่ต้องทำอะไรที่จะเป็นวาเหตุให้เกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ เราก็คงต้องยอมรับและเผชิญกับสิ่งที่เราเคยทำไว้

“อรรถถามได้ไหม ว่าใครที่รบกวนจิตใจตี้อยู่”แม้จะดูไม่ได้จริงจังกับคำถามมากนัก แต่แววตาที่เค้ามองมา มันก็ทำให้ผมลำบากใจเหมือนกันที่จะตอบ ผมไม่อยากจะโกหกเค้า แต่ก็ไม่ได้อยากพูดออกไปว่าคนที่ผมอ้างถึง คือใคร เพราะผมเองก็ตั้งใจไว้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณแว่นคงปล่อยให้มันเป็นแค่ความลับระหว่างผมกับเค้าเท่านั้น

“พี่ตี้ พี่อรรถ สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานเลย”เสียงใสของหญิงสาวคนนึงขัดจังหวะ ความคิดของผม ไม่รู้ผมจะขอบคุณหรือตกใจก่อนดี ทั้งผมและคุณอรรถรับไหว้จากสองคนที่เข้ามาทักทาย

ชะเอมหญิงสาวที่ผมคิดว่าไม่น่าจะได้เจอกันอีก เพราะตั้งแต่ที่มีผู้หวังดีส่งรูปของเธอให้คุณแว่นตาสว่าง ชะเอมก็ตัดการติดต่อกับผมทุกช่องทาง เพราะเธอคิดว่าผมเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งในการทำลายชีวิตรักของเธอ แต่วันนี้เธอกลับเป็นคนเข้ามาทักผมก่อน ดูเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

“ทีแรกเอม มองไม่เห็น ถ้าพี่อาร์ทไม่ชี้ให้ดูคงไม่ได้เข้ามาทักแล้วเนี่ย”แสดงว่าจริงๆ ชะเอมก็คงไม่ได้อยากเข้ามาทักทายผมสักเท่าไหร่สินะ แต่คงอาจต้องรักษาภาพพจน์ตอนอยู่ต่อหน้าอาร์ท มันเลยทำให้ผมนึกอยากแกล้งแหย่เธอเล่นสักหน่อย โดยการบอกกับเธอว่าไม่เจอกันตั้งนานแบบนี้ ขอถ่ายรูปคู่ด้วยหน่อยสิ

“จะถ่ายไปให้ใครดูป่ะเนี่ย”ชะเอมพูดลอดไรฟันขณะที่มานั่งชิดกับผมเพื่อถ่ายรูป แวปแรกที่ผมบอกจะขอถ่ายรูปผมว่าผมเห็นสีหน้าเจื่อนๆ ของเธออยู่เหมือนกัน แต่มันก็แค่แปปเดียวเท่านั้น ก่อนที่เธอจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว

ผมปฏิเสธคำถามของเธอ เพราะใครที่เธอหมายถึง ก็คงเป็นคุณแว่น และแน่นอนว่าผมคงไม่เอารูปนี้ไปอวดคุณแว่นหรอกครับ อย่างที่บอกผมแค่อยากจะแหย่เธอเล่นเฉยๆ

“แล้วเพื่อนพี่ตี้ สบายดีไหม มีแฟนใหม่ไปยัง”กลับกลายเป็นผมเองที่ชะงักไปกับคำถามของชะเอม แม้จะรู้ว่าที่ชะเอมถามมันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับผม แต่พอนึกถึงสิ่งที่ผมต้องตอบมันกลับรู้สึกใจมันโหวงๆ แปลกๆ

“ก็มีคนที่ดูๆ กันอยู่มั้ง น่าจะใกล้เปิดตัวเร็วๆ นี้แหละ”ผมตอบออกไปตามตรงเท่าที่ผมได้รับรู้มา แต่ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำกับตัวเองด้วยว่า ต้องรีบเคลียร์เค้าออกจากความรู้สึกของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด เพราะอีกไม่นานเค้าคงได้เจอคนที่พร้อมจะเดินร่วมทางกับเค้าแล้ว

“ดีแล้ว เค้าจะได้ไม่เหงา”ชะเอมตอบรับอย่างไม่ได้ยินดียินร้ายกับสิ่งที่รับรู้ คงเพราะตอนนี้ชะเอมก็ไปกันได้ด้วยดีกับอาร์ทแล้ว ระหว่างชะเอมกับคุณแว่น มันก็คงแค่อดีต ผมก็ได้แต่หวังว่าวันนึงผมคงทำได้อย่างชะเอมที่ปล่อยเรื่องราวในอดีตทิ้งไป แล้วเริ่มต้นใหม่กับปัจจุบัน ชะเอมกับอาร์ทขอตัว แยกออกไปนั่งโต๊ะที่จองไว้ ทำให้ตอนนี้ระหว่างผมกับคุณอรรถ เกิดความเงียบเข้ามาแทนที่

เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเราคุยเรื่องอะไรค้างกันไว้อยู่ ผมเลือกที่จะเงียบ เพราะไม่รู้ว่าจะตอบเค้าออกไปยังไงดี แต่เค้าเองก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม เหมือนตอนนี้เราต่างคนต่างรอให้อีกคนพูดก่อน จริงๆ วันนี้ผมแค่อยากจะมาตกลงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเค้าแค่นั้น ไม่ได้เตรียมตัวมาว่าจะต้องบอกถึงความสัมพันธ์กับคนอื่น แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะผมเองที่เป็นคนอ้างถึงบุคคลอื่นอีก

“คุณชาร์ปหรือเปล่า”

“ห๊ะ”ผมเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ แต่พยายามเก็บอาการไว้

“ก็อีกคนที่อยู่ในใจตี้ คือคุณชาร์ปใช่ไหม”เค้าบอกพร้อมกับยิ้มให้ผม แต่เป็นยิ้มขื่นๆ เหมือนฝืนยิ้มเสียมากกว่า

“คน คนนั้นจะเป็นใคร ก็ไม่สำคัญหรอก เพราะระหว่างเรากับเค้า มันจบไปแล้วตั้งแต่ยังไม่เริ่มเสียด้วยซ้ำ”



TBC
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคร๊าบบบ

แค่เห็นมีคนชอบก็ปลื้มมากแล้ว

ตอนนี้มีใครสงสารเฮียอรรถของเราบ้างไหมน้า


 :bye2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตี้บอกเหมาไปเถอะ แพทไม่บอกแน่ๆ เรื่องลูกอ่าา

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ทำผิดซ้ำซ้อนอีกแล้ว

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
มันก็ดีที่ตี้ไปพูดกับอรรถตรงๆ ปล่อยไว้ก็คงรู้สึกอึดอัดกับตัวเอง
ตี้คงรู้สึกอะไรกับคุณแว่นแล้วละ ก็นะถึงเริ่มต้นแบบ sex friend แต่มันก็ทำให้ผูกพันกันมากอยู่
จะทำไงละนี่ เฮ้อๆๆ สงสารอรรถ เหมือนรักสามเศร้าเลย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มั่นใจว่าตี้เคลียร์ชาร์ปออกไปจากใจไม่ได้
ยังไงๆ อรรถก็ต้องผิดหวัง

เชื่อดิ
หุหุ
 :z1:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 26
ชัดเจน




“ไอ้ตี้ มึงมานี่ ควิกๆ”ไอ้เหมาทำท่ากวักมือเรียกผมอย่างมีลับลมคมใน เหมือนมีเรื่องน่าตื่นเต้นอยากจะเล่า แต่ดูท่าทางคงไม่ใช่เรื่องที่แพทไม่ยอมให้ผมบอกมันแน่ๆ พูดถึงเรื่องแพทนี่ผมก็ยังกังวลไม่หาย แต่ผมยื่นคำขาดกับแพทไปแล้ว ว่าภายในอาทิตย์นี้ ถ้าแพทยังไม่ยอมบอกไอ้เหมา ผมจะเป็นคนบอกเอง

“มึงดูนี่ มึงดูนี่”ไอ้เหมาทำเสียงสูงพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้ผม แต่ผมยังไม่ได้รับมาดู เพราะสองมือไม่ว่างเลย มือนึงถือจานข้าว อีกมือก็ถือแก้วน้ำ ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวันทานข้าว ตอนนี้เราอยู่กันที่ร้านข้าวแกงใกล้ๆ บริษัทนี่แหละครับ

“อะไรของมึง”ผมวางจานข้าวกับแก้วน้ำ ก่อนจะหยิบมือถือจากไอ้เหมามา มันให้ผมเลื่อนดูรูป รูปที่ทุกอย่างบ่งบอกความเป็นคู่ มีรูปมือของคนสองคนที่กุมมือกัน รูปรองเท้าที่วางคู่กัน แก้วเครื่องดื่มที่วางคู่กัน และอีกหลายๆ รูปลักษณะนี้

“แล้วยังไง”ผมเงยหน้าขึ้นถามเพราะไม่เข้าใจว่ามันจะเอารูปพวกนี้มาให้ผมดูทำไม หรือถ้าในรูปนี้คือคนที่ผมรู้จัก กูพูดๆ มาให้รู้เรื่องรู้ราว ไม่ต้องมาทำเป็นลับลมคมในแบบนี้

“มึงดูดีๆ มึงไม่คุ้นๆ มือ รองเท้าอะไรพวกนั้นบ้างเหรอ มือใคร เท้าใคร ติ๊กตอกติ๊กตอก”ผมเลื่อนดูรูปอีกครั้ง อย่างละเอียด จริงสินะทีแรกไม่ได้คิดอะไรผมเลยไม่ได้สังเกต มองแค่ผ่านๆ เพราะคิดว่าคงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผม

“ชาร์ป???”รู้สึกเหมือนในใจมันกระตุกเบาๆ

“ถูกต้องละคร๊าบบบ เนี่ยมึงดูกูจำรองเท้ามันได้ จำ...”ไอ้เหมายังคงพูดอวดความสำเร็จในการเผือกของมัน ที่เก่งยิ่งกว่านักสืบพันธ์ ดูภูมิใจที่ไขความลับได้ แต่สิ่งที่มันพูด ดูล่องลอยผ่านไป ไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทของผมเลย ผมรู้สึกตื้อๆ ยังไงบอกไม่ถูก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเค้ากำลังเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับใครสักคน ทั้งที่เราสองคนก็เป็นแค่เพื่อนกัน แต่ทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้กันนะ “เจ็บ”

“...แล้วยิ่งไปกว่านั้นนะมึง...ไอ้ตี้...ไอ้ตี้!!! มึงฟังกูปะเนี่ย”ผมดึงสติให้กลับมาอยู่ที่ไอ้เหมา ก่อนจะบอกกับมันว่าฟังอยู่

“มึงรู้ไหมว่ากูเอารูปพวกนี้มาจากไหน”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับก้มลงเขี่ยข้าวในจาน ทำไมความรู้สึกผมมันกลายเป็นแบบนี้ ยิ่งพยายามไม่รู้สึก มันกลับยิ่งรู้สึก จริงๆ เรื่องที่ไอ้เหมากำลังอยากเล่าเนี่ย ผมว่าแค่รับรู้ว่าเค้าเริ่มต้นกับใครสักคนไปแล้ว ชัดเจนแบบนี้มันก็เพียงพอแล้ว ผมไม่ได้อยากจะรู้รายละเอียดลงลึกไปมากกว่านี้ แต่อย่างว่า ไอ้เหมาคงต้องยัดเยียดให้ผมรู้ทุกเรื่องที่มันรับรู้มาให้ผมทั้งหมดอยู่แล้ว

“กูเอารูปทั้งหมดมาจากเฟซบุ๊คน้องปลาเว้ย”น้องปลางั้นเหรอ ทำไมมันกลายมาเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นที่ผมไม่ได้รู้จักมันก็น่าจะดีกว่านี้

“มึงไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟซปลาใช่ไหม กูนี่เห็นมานานล่ะ ทีแรกกะคิดแค่ว่าน้องมันมีแฟน กูก็แซวก็เค้นอยู่ตั้งนาน ก็ไม่ยอมบอกกูสักที วันนี้แหละกูจะต้อนให้จนมุมทั้งปลาทั้งไอ้แว่นเลยคอยดู”ไอ้เหมาดูมาดมั่นเหลือเกินในการจะให้คนทั้งคู่ยอมรับ แต่สำหรับผม แค่นี้มันก็ชัดเจนเพียงพออยู่แล้ว

ไอ้เหมานั่งกินข้าวพร้อมกับใบหน้ายิ้มร้าย ส่วนผมก็กินข้าวด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไอ้เหมาเสนอว่าเย็นนี้จะต้องนัดทั้งคู่ไปดื่มสักหน่อย พร้อมสอบสวน ส่วนผมกำลังคิดหาเรื่องปฏิเสธ แต่ไม่รู้จะสำเร็จไหม



สุดท้ายพอเลิกงานผมโล่งใจที่ไอ้เหมาหว่านล้อมน้องปลาไม่สำเร็จ ทำให้ผมอาจไม่ต้องไปเผชิญกับสถานการณ์ลำบากใจ เพราะผมเองก็หาเหตุผลปฏิเสธไอ้เหมามันไม่ได้

“นี่ไม่ใช่คำชวน นี่เป็นคำสั่ง”แต่ดูไอ้เหมายังไม่ลดความพยายามครับ มันยังคงกักตัวน้องปลาไม่ให้กลับ ทั้งที่น้องก็บอกแล้วว่ามีธุระจริงๆ

“น้องเค้าไม่ว่างจริงๆ มึงจะบังคับเค้าทำไมเนี่ยไอ้เหมา เราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรสำคัญขนาดนั้นสักหน่อย”ผมเสริมเข้าไป เพราะกะว่าในเมื่อน้องปลาไม่ไป ผมเองก็จะปฏิเสธไม่ไปแล้วเช่นเดียวกัน

“ไม่สำคัญที่ไหน นี่มันเรื่องสำคัญมาก”ทั้งผมและน้องปลามองหน้ากันอย่างเหนื่อยหน่าย จนในที่สุดน้องปลาก็ทนไม่ไหว ถามกลับว่าไอ้เรื่องสำคัญนี่มันเรื่องอะไร ถ้ามันสำคัญจริงๆ ปลาจะยอมไปด้วย ไอ้เหมาเลยหยิบมือถือออกมาส่งรูปที่เคยให้ผมดู

“หนูบอกพี่ไปแล้วไง ว่าถ้าทั้งหนูและเค้าพร้อมเมื่อไหร่ หนูจะบอกพี่เอง ถ้าเรื่องนี้หนูขอตัวกลับละกัน”น้องปลาทำท่าไม่สนใจกับสิ่งที่ไอ้เหมาบอกว่าสำคัญนักหนา

“ถ้าพี่บอกว่าอีกคนคือไอ้แว่น และพี่นัดไอ้แว่นไว้แล้ว ทีนี้จะยอมไปกะพี่ยัง”ไอ้เหมายิ้มอย่างผู้มีชัย ซึ่งเป็นยิ้มที่ผมอยากจะเกลียดมันจริงๆ น้องปลาดูตกใจเล็กน้อย ก่อนใบหน้าของน้องจะค่อยๆ แดงขึ้นด้วยความเขินอาย

“หนูเป็นผู้หญิงนะ จะมาเค้นอะไรจากหนู พี่ก็ไปถามเพื่อนพี่สิ”น้องปลาก้มหน้าพูด คงเพราะด้วยความเขิน ก่อนจะวิ่งหนีไอ้เหมากับผมไปอย่างรวดเร็ว

“เอาไงละทีนี้”สำหรับผมอาการของน้องปลาก็เป็นคำตอบอยู่แล้วแหละครับว่าเค้าคบหาดูใจกันแล้ว หวังว่านี่ไอ้เหมาก็ได้คำตอบแล้ว น้องปลาก็หนีกลับไปแล้ว ผมคงไม่ต้องไปตามนัดเพื่อเจออีกคนหรอกนะ

“เอาไง เราก็ไปเหมือนเดิมไง กูต้องไปซักฟอกไอ้แว่น ว่าหันมากินหลานรหัสตัวเองได้ยังไงกัน รู้จักกันมาตั้งนาน ทำไมเพิ่งจะมากิ๊กกั๊กอะไรกันตอนนี้ เรื่องชาวบ้านคืองานของกู เพราะงั้นกูต้องรู้ทุกเรื่อง”อยากจะบอกเหลือเกินว่าเอาเรื่องของมึงก่อนไหม ถ้ารู้เรื่องของแพทนี่มันจะเป็นยังไงบ้างนะ

“แพทไปด้วยไหมวันนี้”ผมถามหยั่งเชิงไว้ เพราะนี่อีกไม่กี่วันก็จะครบกำหนดที่ผมตกลงกับแพทแล้ว ว่าให้บอกเรื่องลูกกับเหมา ถ้าถึงวันแพทไม่ยอมบอก ผมเองคงต้องเป็นคนต้องบอก และเตรียมรับมือกับผลที่จะตามมาด้วย

“ไม่ว่ะ ช่วงนี้แพทเป็นไรไม่รู้วะ ดูเครียดๆ เหมือนมีอะไรในใจ แต่ไม่ยอมเล่าให้กูฟัง ถามทีไรก็บอกไม่มีอะไร นี่ไม่ใช่วันดีคืนดี มาเซอร์ไพร์สกูว่าท้องงี้ บันเทิงเลยนะมึง”มันบอกอย่างอารมณ์ดี

“ถ้าแพทท้องจริงๆ นี่มึงโอเคปะวะ”แม้การมีลูกของมันเองกับการที่จะมีลูกเลี้ยง อาจจะเป็นคนละความรู้สึกกัน แต่ถ้ามันโอเคกับการมีลูก เรื่องนี้อาจจะไม่มีปัญหาอะไรมาก อย่างที่แพทกังวลก็เป็นได้

“โอเคสิวะ ถึงจะดูว่ากูทำตัวแบบนี้ แต่การสร้างครอบครัว ผมก็พร้อมนะ เรื่องแต่งงานกูก็คุยกับแพทตั้งนานแล้ว รอแค่แพทแหละพร้อม ถ้าท้องนี่หาฤกษ์แต่งเลย มึงเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวได้เลย”ผมยิ้มเจื่อนๆ เพราะไม่มั่นใจว่า พอเรื่องจริงไม่ได้เป็นแบบที่มันคิด มันจะเอายังไงต่อกับการที่จะมีชีวิตคู่ของมัน



“ช่ะ ช่ะ ช่า มารอก่อนซะด้วยนะครับพ่อคนมีความรัก”ไอ้เหมาทักทายคุณแว่นก่อนจะนั่งลงข้างๆ กับคุณแว่น ส่วนผมเลือกนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับเค้า ตอนนี้พวกเราก็อยู่ร้านประจำของเราเรียบร้อยแล้ว

“เล่ามา”ทันทีที่ไอ้เหมานั่งลงก็ไม่รอให้เสียเวลาแต่อย่างใด ผมหยิบเมนูจากเด็กเสิร์ฟมาดู เพราะไม่ค่อยจะอยากรู้เรื่องของเค้าสักเท่าไหร่ จริงๆ ผมยังไม่ควรมาเจอหน้าเค้าด้วยซ้ำ ผมอยากรอให้ในใจผมมันนิ่งกว่านี้ก่อน แต่ผมต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ คุณแว่นลุกพรวดขึ้น ข้ามมานั่งข้างๆ ผม

“กูไม่เล่า ตี้ช่วยเราหน่อยนะ”เค้าจับไหล่ผม เพื่อผลักไปให้เหมือนเป็นกำบังจากไอ้เหมา ผมไม่ได้หันไปมองเค้าแต่ขืนตัวและ ขยับออก พร้อมกับหันมาสั่งอาหารกับเด็กเสิร์ฟแทน

“ไม่เล่า งั้นตอบคำถามกู”ไอ้เหมาจ้องหน้าคุณแว่นอย่างจับผิด แต่คุณแว่นกลับเองหลังพิงพนักเก้าอี้ อย่างสบายๆ เค้ากางแขนออก วางจนเลยไหล่ผมไป ผมเหลือบหันมองเค้าเล็กน้อยก่อนจะมองดูไอ้เหมา ว่ามันจะเล่นอะไรอีก

“มึงแค่พยักหน้าถ้าใช่ และส่ายหน้าถ้าไม่ใช่ แค่นี้เอง ง่ายๆ คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงไหม”คุณแว่นไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธในข้อเสนอของไอ้เหมา แต่เค้ากลับทำเหมือนไม่สนใจ ยกแก้วเบียร์ ยื่นมาชนแก้วกับผม จนไอ้เหมาต้องย้ำอีกรอบ

“กูก็แค่คบกับน้องปลาแล้ว แค่นั้น พอใจยัง”คุณแว่นบอกกับไอ้เหมาอย่างสบายๆ ก่อนจะหันมามองผม ผมยิ้มให้กับเค้าพร้อมกับบอกตัวเองในใจ ว่าผมโอเค ผมต้องยินดีกับเค้าสิ จากนี้ความฝันที่จะสร้างครอบครัวของเค้า ก็คงมีโอกาสเป็นไปได้แล้ว น้องปลาเองก็น่ารัก นิสัยดี ถ้ามองภาพรวมก็เป็นคนที่เหมาะกับคุณแว่นมากว่าชะเอมเยอะเลยทีเดียว

“ไม่พอ มึงกับปลารู้จักกันมาตั้งนาน อยู่ๆ มาสปาร์คกันได้ยังไง กูขอรายละเอียด”เอาครับงานเผือกนี่ขอให้บอกเหมา

“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่พอดีได้คุย ได้ปรึกษากันหลายๆ เรื่อง คุยกันแล้วก็ดูเข้ากันได้ ก็คบกันดู”ในขณะที่เค้าพูดไป ผมรู้สึกได้ถึงมือของเค้าที่ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณแผ่นหลังของผม ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“เดี๋ยว...ขอตัวไปห้องน้ำแปปนะ”ผมลุกขึ้น เพื่อเลี่ยงจากสถานการณ์นี่สักพัก แม้จะพยายามไม่รู้สึกอะไร แต่ใจมันก็ยังไม่นิ่งสักที  ผมลุกออกจากโต๊ะตรงไปยังห้องน้ำ

ขณะที่กำลังยืนทำธุระที่โถฉี่ คุณแว่นกลับเดินเข้ามา ในห้องน้ำตอนนี้ไม่ได้มีคนอื่นอีก ทำให้ตอนนี้มีแค่ผมกับเค้า สองคน ผมไม่เข้าใจว่าเค้าต้องการอะไร ถึงได้จงใจตามผมมาแบบนี้ เพราะนี่เค้าไม่ได้มาฉี่หรือทำอะไร แต่เดินมาหยุด อยู่ข้างๆ ผม จนผมต้องเบี่ยงตัวบังเพื่อทำธุระส่วนตัว

“จะปิดทำไม มากกว่านี้เราก็เคยเห็นแล้ว”เค้าพูดอย่างอารมณ์ดี แม้จะเข้าใจว่าเราเคยตกลงกันมีความสัมพันธ์ทางกาย แต่ตอนนี้เราหยุดความสัมพันธ์นั้นไปแล้ว ผมว่าเราทั้งคู่ก็ไม่ควรที่จะพูดถึงความสัมพันธ์นี้อีก ผมรีบทำธุระส่วนตัว ก่อนจะเดินหลบเค้ามาล้างมือที่อ่างล้างหน้า

“ตี้กับแฟน เป็นไงบ้างอ่ะ”เค้าเดินตามผมมา พร้อมกับที่เราสบตากันในกระจก ต่างคนต่างมอง สายตาของเค้าที่ผมเองคงยากที่จะคาดเดาว่าเค้าคิดอะไรอยู่

“ก็ดี”ผมตอบเลี่ยงๆ เพราะผมยังไม่ได้บอกใครว่า ผมกับคุณอรรถลดความสัมพันธ์กันลงเหลือแค่เพื่อนในตอนนี้

“กับน้องปลานี่จริงจังแล้วใช่ไหม”ผมรู้ว่าไม่ควรถามแบบนี้ เพราะดูจะละลาบละล้วงเค้ามากเกินไป แต่ปากผมมันดันไวกว่าความคิด คุณแว่นดูมีสีหน้า จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย

“ไม่กล้าที่จะไม่จริงจัง”






TBC

ยิ่งนานวัน

สถานการณ์ยิ่งเหมือนจะยุ่งยากขึ้นไปอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
แว่นคบกับคนนี้จริงดิ ทำไมใกล้ตัวมาก แอบอึ้งเหมือนกัน
นี่จะลองใจตี้หรือจริงจังเนี้ยพี่แว่น

ตี้เอ้ย รู้สึกแบบนี้ชอบแว่นจริงๆละใช่ไหม
เฮ้อออออ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เล่นกับไฟ ไหม้ไฟ ไม่เหลือซาก
เล่นกับไฟ ดับยาก ซากไม่เหลือ
เล่นกับใจ ใจไหม้ ให้คลุมเคลือ
เล่นกับใจ ยากเชื่อ ไม่เหลือใจ

วางยาเบื่อ เมื่อหนู สิงรูอยู่
วางยาเบื่อ เมื่อรู้ หนูอยู่ไหน
วางกับดัก เหยื่อล่อ รอใจใคร
วางกับดัก คนใด ให้ได้มา

หุหุ
+1 โดนใจจริงเรื่องนี้
 :mew1:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
เล่นกับไฟ ไหม้ไฟ ไม่เหลือซาก
เล่นกับไฟ ดับยาก ซากไม่เหลือ
เล่นกับใจ ใจไหม้ ให้คลุมเคลือ
เล่นกับใจ ยากเชื่อ ไม่เหลือใจ

วางยาเบื่อ เมื่อหนู สิงรูอยู่
วางยาเบื่อ เมื่อรู้ หนูอยู่ไหน
วางกับดัก เหยื่อล่อ รอใจใคร
วางกับดัก คนใด ให้ได้มา

หุหุ
+1 โดนใจจริงเรื่องนี้
 :mew1:

ชอบกลอน
ขอบคุณนะคร๊าบ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แว่น กับ น้องปลา วางแผนอะไรกันอยู่
น้องปลา สาววาย คงเริ่มจับอะไรๆ ได้?
ชาร์ป ทำตัวเหมือนเดิมกับตี้ นะ
เอาให้แน่ ชาร์ป ปากก็ยังยืนยันว่า ชอบผู้หญิง อยากแต่งงาน มีลูก
แต่พฤติกรรม กับตี้ มันไม่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย เอาซะเลย
ปาก อย่างหนึ่ง ใจอย่างหนึ่ง ใช่มั้ย :z6: :z6: :z6:
รอ ใจจดจ่อ :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อิแว่นนนนนน นึกว่าโกหกอ่าาาา เง้ออออ
เสียใจ  :hao5:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 27
ปลอบเพื่อน



“มึงรู้อยู่แล้วใช่ไหม”ไอ้เหมาเอ่ยถามเมื่อเห็นผมไม่ได้แสดงท่าทีตกใจ วันนี้ผมเพิ่งยื่นคำขาดกับแพทไป ว่าถ้ายังไม่ยอมบอกเรื่องลูกกับไอ้เหมา ผมจะชิงบอกก่อน ซึ่งเป็นอันว่าแพทเลือกที่จะเป็นคนบอกเอง หลังไอ้เหมารู้ มันไม่ได้โวยวายอะไร แต่มันเงียบ เงียบจนแพทเองก็ตกใจ แพทโทรมาบอกผมหลังจากที่ไอ้เหมาออกจากบ้าน เพราะเป็นห่วง แต่ผมก็บอกให้แพทใจเย็นๆ เพราะไอ้เหมาโทรหาผม ก่อนแล้วว่าจะแวะเข้ามาหาผมที่บ้าน

ผมไม่รู้หรอกว่าจะปลอบหรือให้คำแนะนำมันยังไง รู้แค่ว่าผมอยู่เป็นเพื่อนมันได้ บางทีคนเราเวลาเจอปัญหา หรือทางเลือกที่ต้องตัดสินใจ ก็คงไม่ได้ต้องการคำแนะนำเสียทั้งหมดหรอก อย่างไอ้เหมาเอง ผมรู้ว่ามันมีคำตอบของตัวเองในใจแล้ว แต่มันแค่ต้องการเวลา เวลาที่จะยอมรับในการตัดสินใจของตัวเอง

“ก็รู้ก่อนมึงไม่นานหรอก”ผมบอกพร้อมกับยื่นแก้วเบียร์ส่งให้ไอ้เหมา เหล้าเบียร์มันไม่ใช่ทางออกหรอกนะครับ แต่จะให้มานั่งเครียดกันเฉยๆ ก็ดูจะไม่ใช่ทางของพวกเราสักเท่าไหร่

“ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับมึง มึงเข้าใจกูใช่ไหม”ไอ้เหมาพยักหน้ารับ อย่างไม่ได้ถือสาอะไรนักที่ผมรู้เรื่องก่อนแล้วไม่ได้บอกมัน

“กูควรรู้สึกยังไงดีวะ”ดูมันคงสับสนอยู่ไม่น้อยแหละครับ

“กูต้องแสดงความเห็นไหม”ผมพยายามถามยิ้มๆ ไม่อยากให้มันเครียดมาก

“ถ้าเป็นมึง มึงจะทำไงวะ”มันก็กล้าถามเนอะ ทั้งที่รู้ว่าผมเป็นเกย์ ชีวิตนี้ผมคงไม่มีทางจะได้เจอสถานการณ์แบบนี้แน่นอน

“กูคงตอบมึงไม่ได้หรอก ชาตินี้กูคงไม่มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว อีกอย่างต่อให้กูแนะนำอะไรไป มันก็คือมุมมองกู ความรู้สึกกู มึงต้องตัดสินใจจากความรู้สึกของมึงเอง”ผมก็คงบอกมันได้เท่านี้ จริงๆ ไอ้เหมามันก็รักแพทมากแหละครับ ขนาดมีการวางแผนถึงการแต่งงานขนาดนี้แล้ว

“ถ้ากูคบเค้าเหมือนเดิมนี่ กูจะดูเป็นคนโง่มากไหมวะ”อ้าวไหงมันคิดอะไร ไปไกลขนาดนี้ละเนี่ย

“โง่เชี่ยไรละมึง เค้าไม่ได้สวมเขามึง ไม่ได้แอบคบใครระหว่างที่คบมึง เค้าแค่มีลูกกับแฟนเก่า แค่นั้นเอง สิ่งที่เค้าผิดมีเรื่องเดียว คือเค้าปิดบังมึงเรื่องนี้ เอาเป็นว่ากูพูดแค่นี้นะ ที่เหลือมึงต้องตัดสินใจเอาเอง ไม่ว่ามึงจะตัดสินใจยังไง กูก็ยังเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม”ผมก็คงพูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละครับ คงต้องให้เวลากับไอ้เหมาในการตัดสินใจสักพัก

เราต่างนั่งดื่มกันเงียบๆ ดีที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่งั้นทั้งผมและไอ้เหมาคงได้ลางานเป็นแน่ ทั้งเบียร์ทั้งน้ำแข็งพร้อมขนาดนี้ คืนนี้คงไม่ได้นอนกันง่ายๆ คาดว่ากว่าจะได้เลิกดื่มคงต้องมีใครเมาพับไปก่อนนั่นแหละครับ เพราะวันนี้ไอ้เหมาก็คงค้างที่บ้านผม และอาจจะค้างอีกหลายวัน จากที่มันพูดนะครับ แต่บางทีถ้ามันตัดสินใจได้เร็วก็คงอยู่บ้านผมไม่กี่วัน

“กูกำลังคิดว่า ถ้าวันนึงกูกับแพทมีลูกด้วยกันขึ้นมา”หลังจากนั่งเงียบไปนานไอ้เหมาก็พูดขึ้น ผมมองหน้ามันรอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ

“ถ้ากูมีลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง จริงๆ กูจะรักลูกเค้าได้เท่าลูกของกูเองหรือเปล่า”ถ้าไอ้เหมาพูดมาแบบนี้ ผมว่ามันคงตัดสินใจแล้วแหละครับ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมันกับแพทจะไปต่อยังไง

“แสดงว่ามึงได้คำตอบแล้ว”ผมย้อนถามพร้อมกับยิ้มให้มัน

“ช่างเหอะ ตอนนี้ขอดื่มให้เมาพับ ไม่อยากคิดอะไรแล้ว ชนๆ”แก้วอยู่ในมือผมและไอ้เหมากระทบกันครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้ผมเริ่มจะตึงๆ แล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่ถึงกับเมาหรอกครับ นี่ยังดื่มเป็นเพื่อนมันได้อีกพักใหญ่

“อ้าว...อ้ายแว่น ทามมายเพิ่งมาเอาป่านนน เน้”เสียงไอ้เหมาเอ่ยทักทายอีกคนที่มาใหม่ อีกคนที่ไอ้เหมาเป็นคนโทรไปตามมา เค้าเดินไปหาแก้วจากในครัวก่อนจะกลับมานั่งร่วมวงกับผมสองคน ตอนนี้เรื่องของไอ้เหมากับแพทสำคัญกว่า จนทำให้ผมปล่อยผ่านเรื่องความรู้สึกของตัวผมเองต่อคุณแว่น

“แปลกดีเนอะ ครั้งก่อนกูเป็นคนที่รู้เรื่องคนสุดท้ายทั้งที่เป็นเรื่องของตัวเอง มารอบนี้ก็เป็นมึงที่รู้เป็นคนสุดท้าย กูไม่ขอโทษนะ ถือว่ากูกับมึงหายกัน”คุณแว่นบอกกับไอ้เหมา นี่เค้าเองก็คงพูดเพื่ออยากให้ไอ้เหมามันสบายใจขึ้น

“เพื่อนเลว แทนที่จะมาปลอบกู”ไอ้เหมาหันมาว่าคุณแว่นอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนเราทั้งสามจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“หัวเราะไปเถอะไอ้ตี้ กูว่าสักวันต้องกลายเป็นมึงที่พวกกูต้องมานั่งปลอบแบบนี้”สุดท้ายก็วนมาที่ผม แต่ผมก็ยิ้มเยาะกลับไป เพราะผมคงไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องให้ทั้งสองมาปลอบแน่ๆ

“เอ้าหมดแก้ว แด่เพื่อนเหมาที่กำลังจะเมาเป็นหมา”ผมยกแก้วชูขึ้นเพื่อให้อีกสองคนมาชนแก้ว แล้วบรรยากาศการดื่มก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เราไม่ได้พูดถึงเรื่องของแพทกับไอ้เหมาอีกเลย ซึ่งก็อย่างที่ผมคิด ไอ้เหมามันคงมีคำตอบในใจมาอยู่แล้ว ตอนนี้มันอาจแค่ต้องการเพื่อนที่มานั่งดื่มกับมันในคืนนี้ก็เท่านั้น ไอ้เหมาเป็นคนที่พับหลับไปก่อนเป็นคนแรก และมันยึดโซฟาตัวยาวหน้าทีวีของผมไปเรียบร้อย บอกให้ลุกไปนอนในห้องก็ไม่ไป

“ถ้าง่วงทำไมไม่ไปนอนในห้องละ”ผมกำลังจะเป็นอีกคนที่พับตามไอ้เหมาไป ผมนอนหันหัวชนกับไอ้เหมา เพราะยังมีพื้นที่โซฟาอีกด้าน ด้วยความที่โซฟาบ้านผมมันเป็นรูปตัวแอล จริงๆ ผมก็อยากไปขึ้นไปนอนบนห้องสบายๆ นะครับ ถ้าไม่ติดว่ามีอีกคนที่จะค้างที่นี่ด้วย แล้วดื่มกันไปหนักขนาดนี้ ผมว่าผมนอนหัวชนไอ้เหมาแบบนี้ น่าจะเป็นการดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยก็การันตีได้ว่า มันจะไม่มีเรื่องอื่นเกิดขึ้น

ผมค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง เพราะเริ่มฝืนร่างกายไม่ไหวแล้ว เสียงขวดแก้วกระทบกันส่งเสียงให้ผมรู้ว่าอีกคนที่ยังไม่พับเหมือนผมกับไอ้เหมา กำลังเก็บเศษซาก ที่เกิดจากการดื่มของพวกเรา ทั้งที่ผมก็บอกไปแล้วว่าค่อยเก็บพรุ่งนี้ก็ได้ แต่ผมง่วงเกินกว่าจะเอ่ยปากห้าม แล้วผมก็ผลอยหลับไป



ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นหลังจากที่หลับไปสักพักเพราะรู้สึกปวดฉี่ ผมค่อยๆ งัวเงียลืมตาขึ้นแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบของใครอีกคนอยู่ห่างจากผมเพียงไม่กี่เซน เค้าเองก็ดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมลืมตาขึ้นมา

“ทำอะไร”ผมเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าเค้ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง

“แค่จะปลุกลงมานอนนี่”เค้าชี้ตรงที่นอนปิกนิคที่ถูกปูไว้ข้างโซฟา โต๊ะกลางที่เคยอยู่ตรงนั้นถูกย้ายออกไปที่อีกมุมนึง ผมค่อยๆ ยันตัวขึ้นอย่างยากลำบากเพราะมีอาการมึนๆ หัวจากการที่ดื่มไปเสียเยอะ เหลือบมองนาฬิกาทำให้รู้ว่าผมเพิ่งหลับไปไม่น่าจะเกิน 20 นาที ผมรีบลุกไปห้องน้ำโดยไว และจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย

“ตี้นอนนั่นแหละ จะได้นอนสบายๆ เดี๋ยวเรานอนโซฟาเอง”พอกลับมาจากห้องน้ำ พื้นที่โซฟาของผมก็ถูกคุณแว่นจับจองไปเรียบร้อย ในเมื่อไม่เห็นความจำเป็นที่จะโต้เถียง ผมเลยเลือกที่จะนอนลงบนที่นอนปิกนิคที่เค้าปูไว้ ก่อนจะหลับไปในที่สุด


ผมตื่นอีกครั้งตอนเกือบจะ 10 โมงเช้าไอ้เหมายังนอนอยู่ที่เดิม แต่คุณแว่นไม่อยู่ตรงโซฟาแล้ว ผมลุกเพื่อจะเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา กลิ่นหอมของบางอย่างทำให้ผมต้องเดินตามกลิ่นไปถึงห้องครัว

“อ้าวตื่นแล้ว เหรอไปล้างหน้าล้างตาดิ จะได้มากินข้าวต้ม”คุณแว่นที่น่าจะตื่นมาพักใหญ่แล้วบอกพร้อมกับมาดันหลังให้ผมออกจากห้องครัว เพื่อไปล้างหน้าแปรงฟัน หลังจากผมล้างหน้าแปรงฟันพอเป็นพิธี ก็ทำการปลุกไอ้เหมา เพราะตอนนี้ข้าวต้มฝีมือคุณแว่น พร้อมเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว

“ปวดหัวชิบหาย แถมยังปวดเมื่อยไปทั้งตัว”เสียงไอ้เหมาโอดโอยทันทีที่มานั่ง

“บ้านกูก็มีที่ให้หลับให้นอนดีๆ มึงก็ไม่นอนดันจะนอนโซฟา ตื่นมาแล้วก็ยังจะบ่นอีก ใครเค้าบังคับมึงเหรอครับเพื่อนเหมา”ผมบ่นมันกลับก่อนจะส่งถ้วยข้าวต้มให้กับมัน

“ไอ้แว่นนี่มึงเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ลุกมาทำข้าวต้มให้พวกกูกินด้วย”ไอ้เหมาหรี่ตามองคุณแว่นด้วยความสงสัย แต่สำหรับผม จริงๆ หลายๆ ครั้งที่เค้ามาค้างบ้านผม เค้าก็มักจะตื่นมาทำอะไรให้ผมทานเสมอ ผมพยายามหยุดความคิดตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นระหว่างผมกับเค้า

“มึงแดรกๆ ไปเหอะไม่ต้องพูดมาก”เค้าพูดกับไอ้เหมาผ่านๆ แต่หันมาส่งยิ้มจางๆ ให้ผม บางทีผมก็คิดนะว่าเค้าเองก็คงทำตัวปกติ คงมีแต่ผมที่ดันหวั่นไหวจนเริ่มคิดเกินเลยไปเอง อย่างเช่นเรื่องลุกมาทำอาหารเช้าแบบนี้ มันก็แสดงให้เห็นว่าที่เค้าเคยทำให้ผมมันอาจไม่ได้พิเศษอะไร อยู่กับเพื่อนปกติอย่างวันนี้เค้าก็ทำ

“พวกมึงจากนี้ไปเรามาตกลงกันไหม”ต่างคนต่างทานกันเงียบๆ สักพัก ไอ้เหมาก็พูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง จนทั้งผมและคุณแว่นต้องหยุดการตักข้าวต้มเข้าปากแล้วหันมองหน้ามัน

“ว่า”ผมและคุณแว่นเอ่ยถามขึ้นพร้อมๆ กัน

“ต่อไปมีเรื่องอะไร เราต้องบอกให้กันรู้ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาบอกให้รู้”จะว่าไปทั้งเรื่องของชะเอม เรื่องของแพท ในพวกเรา 3 คนก็มีคนรู้เรื่องก่อนตลอด แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่เกี่ยวข้องดันรู้หลังสุดทุกรอบ ตอนเรื่องชะเอม อันนั้นคงเป็นผมเองแหละที่ผิด ตอนแรกก็ผิดที่ไม่ห้ามชะเอม จากนั้นก็ผิดที่ไม่ยอมบอกคุณแว่น

“กรณีมึง มันคนอื่นที่ไหนละไอ้เหมา แพทก็แฟนมึง แถมมีแผนจะแต่งงานกันอยู่แล้ว”แต่ในกรณีไอ้เหมากับแพท ผมว่าอันนี้มันเหมาะแล้วที่แพทควรจะเป็นคนบอกเรื่องนี้ ถึงแม้แพทเองจะไม่เต็มใจบอกด้วยตัวเองตั้งแต่แรกก็เถอะ

“นั่นสิกูว่ามันก็ต้องแล้วแต่กรณี”คุณแว่นกล่าวเสริมความเห็นของผม แต่ดูเหมือนไอ้เหมาจะยังไม่ยอมแพ้

“ไม่รู้แหละ แต่จากวันนี้ไปเราสามคนจะไม่มีความลับต่อกันอีก เพราะงั้นวันนี้ใครมีความลับอะไรเปิดออกมาให้หมด วันนี้ถือเป็นวันเปิดใจของเราทั้ง 3 คน”ไอ้เหมาทำเสียงขรึมหน้าตาจริงจัง แต่ดูๆ แล้วไม่เข้ากับบุคลิคมันเท่าไหร่ แถมผมว่าบางเรื่องมันก็ต้องเว้นพื้นที่ส่วนตัว ให้เป็นความลับกันบ้าง อย่างเรื่องระหว่างผมกับคุณแว่น เป็นต้น

“งั้นกูเริ่มคนแรก กูเป็นเกย์นะรู้ยัง”ผมบอกออกไปขำๆ เพื่อเบรคอารมณ์ของไอ้เหมา

“ไอ้เชี่ย อันนี้ไม่น่าใช่ความลับแล้วมั้ง”ไอ้เหมาทำท่าฟึดฟัดใส่ผมก่อนจะมองผมกับคุณแว่นสลับกันไปมา

“สรุปพวกมึงไม่มีอะไรปิดบังกูใช่ไหม”มันหรี่ตามองพวกผมอย่างจับผิด ทั้งผมและคุณแว่นต่างมองหน้ากัน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมๆ กัน

“ไม่มี”





TBC

ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรนะคร๊าบบบ

แค่เอาเพื่อนๆ มาปลอบใจพี่เหมาเค้าเฉยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2016 04:04:13 โดย norita_boyV2 »

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เหมาไปรู้ทีหลัง นางจะงอนไหมเนี่ยยยย. โถ่วววว... แอบโมโหอิแว่น!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด