บทที่ 21
หยุดไว้หรือไปต่อ
“พี่อรรถอยากรู้เรื่องหลุดๆ ของใครเพิ่มอีกไหมคะ เรื่องของทั้งสามคนนี้ปลาเก็บรายละเอียดไว้หมดแล้ว”เสียงรุ่นน้องสาวเจื้อยแจ้ว ตอนนี้ทั้งไอ้เหมาและน้องปลากำลังแข่งกันขุดเรื่องน่าอายของพวกผมมาเล่าให้คุณอรรถฟังครับ ไอ้เรื่องของไอ้เหมากะคุณแว่นนี่ผมไปแปลกใจเท่าไหร่นะครับที่น้องปลารู้เพราะน้องปลาก็เรียนคณะเดียวกับคุณแว่นและไอ้เหมา แต่เรื่องผมนี่สิ ผมไม่น่าหลวมตัวเล่าให้ไอ้เหมามันฟังเลย นี่มันคงไปเล่าให้น้องปลาฟังอีกทอดแน่ๆ
นี่เป็นอีกกิจกรรมเวลาเรามีปาร์ตี้เล็กๆ แบบนี้ครับ พออาหาร เครื่องดื่มพร้อม มันก็ต้องมีบทสนทนาในวงเหล้าครับ ซึ่งปกติก็จะมีเรื่องสัพเพเหระมาคุยกัน แต่อะไรก็ไม่สนุกเท่าคุยเรื่องความหลังครับ ยิ่งพวกผมจบจากสถาบันเดียวกัน คุยเรื่องสมัยเรียนมันยิ่งช่วยให้แต่ละคนเห็นภาพและอินกับเรื่องราวได้ไม่ยาก
วันนี้ปาร์ตี้เล็กๆ ของพวกเรามีสมาชิกที่แตกต่างไปจากแต่ก่อนเล็กน้อย เมื่อก่อนจะเป็น ผม เหมา แพท คุณแว่นกับชะเอม มีบ้างที่น้องปลามาด้วย หรือพี่ชาญหัวหน้าผม แต่วันนี้มีคุณอรรถเพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งคน จริงๆ ปาร์ตี้แบบนี้ของพวกเราก็ถี่บ้าง ห่างบ้างแล้วแต่ว่าสะดวกกันขนาดไหน แล้วก็ยินดีหากใครจะชวนสมาชิกอื่นๆ มาทำความรู้จักกันเพิ่มเติม เพราะงั้นวันนี้ผมเลยชวนคุณอรรถมาด้วย
แม้ทุกคนจะรู้จักคุณอรรถกันอยู่แล้ว แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ต้องมาร่วมสังสรรกันแบบนี้ ทำให้ทุกๆ คนต่างพยายามพูดคุยกับคุณอรรถเพื่อไม่ให้ ตัวคุณอรรถเกร็งหรือไม่สนุก ก็หายห่วงเพราะดูวันนี้ทั้งคุณอรรถและทุกคนดูสนุกสนาน เข้ากันได้ดี ยกเว้น...ก็แต่ คุณแว่น ที่ดูจะไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่ จากที่ผมแอบลอบมองเค้าหลายที วันนี้เค้าดูนิ่งผิดปกติ ทุกทีถ้าอยู่ครบสามศรีพี่น้อง คุณแว่น ไอ้เหมา และน้องปลา ทั้งสามต้องแย่งกันพูดจนคนอื่นฟังไม่ทันเลยทีเดียว
“ไม่เห็นต้องถามเลยว่าคุณอรรถจะอยากรู้เรื่องใคร จริงไหมครับคุณอรรถ”พูดจบไอ้เหมากับน้องปลาก็ทำเสียงวี๊ดวิ้วกันสองคน แน่นอนว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน ต้องมีคุณแว่นอีกคนที่จะผสมโรงไปด้วย แล้ววันนี้เค้าเป็นอะไรของเค้านะ ตอนแรกก็เห็นดีๆ อยู่นี่นา แม้จะสงสัยแต่ผมก็คงต้องเก็บความสงสัยไว้คนเดียวก่อน ผมหันมองคุณอรรถที่นั่งข้างๆ ผม เค้าไม่ต้องตอบรับหรือปฏิเสธ คำถามของไอ้เหมา เค้าแค่ยิ้มมุมปากเลยน้อย พร้อมกับเอากุ้งเผาที่เห็นเค้านั่งแกะอยู่พักใหญ่แล้ว มาวางใส่จานผม ผมบอกขอบคุณออกไป รู้สึกแปลกๆ นิดๆ เพราะไม่ค่อยชินกับการมีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้
“เรื่องไอ้ตี้นะครับคุณอรรถมันเคยต้องวิ่งออกจากห้องเรียนไปอ๊วก เพราะเมาค้าง”นั่นไงปฏิบัติการแฉ เริ่มอีกแล้ว แต่เรื่องนี้สำหรับผมมันจิ๊บๆ ครับ ไม่สะทกสะท้านเพราะมันมีคนหนักกว่าผมในเรื่องนี้
“แต่ของมึงนี่ได้ข่าวว่าอ๊วกคาห้องเรียนนะ เรียกว่าเป็นบุรุษในตำนานให้กล่าวขานรุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียว”เจอสวนดอกนี้เข้าไปไอ้เหมาถึงกับไปไม่เป็นแถมแยกเขี้ยวใส่ผมอีก
“ใคร ใครเป็นคนเล่าเรื่องนี้ให้ไอ้ตี้ฟัง”สะใจครับ เพราะมันคงคิดว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรของมันตอนสมัยเรียนมากนัก เพราะมันก็หลุดเล่ามาบ้างแค่บางส่วน แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ผมรับรู้มาจากคุณแว่น คุณแว่นที่วันนี้เป็นอะไรของเค้าเนี่ย เค้าทำตัวผิดปกติ ผิดปกติจนผมรู้สึกหงุดหงิด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิด แต่ผมไม่ชอบที่เค้าเป็นแบบนี้เลย
แม้จะรู้สึกหงุดหงิดไปบ้างแต่ผมก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเพราะไม่อยากให้ทุกคนหมดสนุก ผมยังคงแย่งกันขุดเรื่องบ้าๆ บอๆ ของไอ้เหมามาทำสงครามกับมันอย่างไม่ลดล่ะ ตอนนี้บทสนทนาเลยกลายเป็นเรื่องของผมกับไอ้เหมาไปโดยปริยาย คนอื่นๆ ดูจะขำไปกับเรื่องที่คุยกัน ผิดกับคุณแว่นที่นานๆ จะพูดออกมาสักคำแล้วก็เอาแต่ดื่ม
“คุณชาร์ปดูดื่มหนักขนาดนี้ จะขับรถกลับไหวรึเปล่าครับเนี่ย”คุณอรรถเอ่ยถามขึ้น คงเพราะเห็นเหมือนทุกคนเห็นนั่นแหละครับว่าวันนี้คุณแว่นดื่มหนักจริงๆ เรียกว่ายกเอา ยกเอา จนน้องปลาที่ทำหน้าที่ริน รินให้ไม่ทัน ทั้งไอ้เหมาทั้งน้องปลาต่างก็ หันมาย้ำคำถามเดียวกันกับคุณอรรถ
“ถ้ากลับไม่ไหวก็คงค้างที่นี่เหมือน “เมื่อวาน” แหละครับ”คุณแว่นตอบมานิ่งๆ แต่เน้นคำว่าเมื่อวานอย่างจงใจ จนทุกคนเงียบไปกับคำพูดของเค้า เพราะทุกคนคงรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติของประโยคนี้ ยิ่งคุณอรรคยิ่งดูชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทั้งไอ้เหมา แพทที่รู้อยู่แล้วว่าคุณแว่นค้างที่นี่ ก็มีอาการไม่เข้าใจกับสิ่งที่คุณแว่นพูดเช่นกัน แน่นอนมันอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเพื่อนมานอนค้างกับผมที่บ้าน และก็จะไม่แปลกอีกเช่นกันถ้าคุณแว่นพูดประโยคนี้อย่างปกติ แต่นี่น้ำเสียงที่เค้าใช้ มันทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกว่ามันต้องมีอะไร ผมกำลังจะเอ่ยปากอธิบาย แต่คุณแว่นเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นก่อนผม
“อ๋อคือเมื่อวานพวกผมไปดื่มด้วยกันมานะครับ แล้วตี้ไม่ได้เอารถไป ผมเลยมาส่ง แล้วก็เห็นว่ามันดึกแล้วก็เลยขอค้างที่นี่ อีกอย่างวันนี้เราก็นัดกันที่นี่อยู่แล้วด้วย”เค้าปรับน้ำเสียง สีหน้าและท่าทางมาพูดเหมือนปกติ ทั้งแพททั้งไอ้เหมาต่างช่วยรีบเสริมว่าเมื่อวานเหตุการณ์มันเป็นยังไงบ้าง เหมือนกับว่าตอนนี้ทุกคนกลัวคุณอรรถเข้าใจผิดเรื่องผมกับคุณแว่นกันอยู่
“งั้นแบบนี้ถ้าผมเมาแล้วกลับไม่ไหว ตี้จะให้ผมค้างที่นี่ด้วยบ้างได้รึเปล่าน้า”เค้าทำเป็นพูดเล่น กับไอ้เหมา แต่หันมาส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ผม จนไอ้เหมาและน้องปลาโห่แซว ผมเลยตอบกลับไปอย่างนึกสนุก
“ค้างได้สิครับ บ้านผมมีหลายห้อง”
“นอนห้องเดียวกันก็ได้ครับ จะได้ไม่ลำบากต้องจัดห้องให้ใหม่”พอคุณอรรถพูดจบ เสียงไอ้เหมากับน้องปลาก็ตามมาอีกเช่นเดิมครับ
“แต่ผมนอนดิ้นนะครับ”ผมแกล้งตอบกลับไปขำๆ อย่างไม่ได้คิดอะไร
“ตี้ไม่เห็นจะนอนดิ้นเลย”ทุกคนหันไปมองคุณแว่นเป็นตาเดียว เพราะถ้าให้ตีความจากคำพูดของเค้ามันก็ตีความได้ไม่ยากว่าไอ้ที่เค้าพูดหมายถึงการที่เค้านอนค้างบ้านผมนั้น เค้านอนเตียงเดียวกับผมชัดๆ
“ใช่ไอ้ตี้ มึงอย่าไปอำคุณอรรถดิ ตอนกูมาค้างกับมึงไม่เห็นมึงจะนอนดิ้นอะไรเลย กูเห็นนิ่งยังกะนอนตาย”ถ้าผมไม่รู้สึกไปเอง นี่ผมกำลังคิดว่าไอ้เหมากำลังช่วยแก้สถานการณ์นี้ให้ผมอยู่ เพราะดูบรรยากาศตอนนี้มันเริ่มอึมครึมแปลกๆ ตอนนี้เลยเหมือนทุกคนพยายามเปลี่ยนบทสนทนา ชวนกันคุยเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการนอนของผม คุณอรรถเองแม้จะดูยังคาใจกับคำพูดของคุณแว่น แต่ดูคุณอรรถก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรอีก
“ผมว่าเรายังขาดเสียงเพลง เเรามาเพิ่มบรรยากาศกันอีกหน่อยดีกว่า”ไอ้เหมาเสนอก่อนจะ ลุกไปเปิดรถ หยิบกีตาร์ติดมือกลับมาด้วย
“จัดมาครับใครอยากร้อง อยากฟังเพลงอะไรวันนี้พี่เหมาจัดให้ได้ทุกเพลงครับ”บรรยากาศกลับมาสนุกสนานอีกครั้ง เรื่องเล่นกีตาร์นี่ต้องยกให้ไอ้เหมามันครับ เล่นได้แทบทุกเพลงจริงๆ ขอแค่เป็นเพลงที่มันเคยผ่านหู หรือถ้ามันไม่เคยฟัง แต่ถ้าเราสามารถฮัมเพลงนั่นให้มันจับจังหวะได้ ไอ้เหมาก็สามารถครับ เล่นได้หมด แต่อย่าไปบอกชื่อเพลงให้มันเล่นนะครับ ไอ้นี่ไม่ค่อยจำชื่อเพลง แต่ถ้าบอกเนื้อร้องขึ้นมามันจะรู้จักทันที
ไอ้เหมารับหน้าที่เล่นกีตาร์เป็นหลักครับ ส่วนคนอื่นๆ ก็ช่วยกันประสานไปมาอย่างสนุกสนาน จบเพลงบ้าง ล่มกลางเพลงบ้าง เล่นได้แค่ท่อนฮุคบ้าง ก็ขำๆ กันไป
“คุณอรรถลองสักเพลงไหมครับ”ไอ้เหมายื่นกีตาร์ให้คุณอรรถ ซึ่งตอนแรกคุณอรรถออกตัวปฏิเสธว่าเล่นไม่เก่งเท่าไอ้เหมา แถมไม่ได้เล่นมานานแล้ว แต่ไอ้เหมาขอร้องแกมยัดเยียดเพราะมันปวดฉี่ ต้องไปเข้าห้องน้ำ คุณอรรถเลยรับไปอย่างเสียไม่ได้ แต่คุณอรรถต้องขอตัวช่วยเพิ่มนิดหน่อย เป็นไอแพดของผมเอง เพื่อไปกูเกิ้ลหาคอร์ด เพลงที่คุณอรรถจะร้อง
“...สุดท้ายแล้วเราจะเป็นคนรักหรือเป็นแค่คนรู้จัก
ช่วยบอกสักครั้ง บอกให้ฉันหยุดทรมาน
จุดหมายของเราที่เดียวกันไหม หรือเพียงร่วมทางแค่ชั่วคราว
โปรดบอกกันทีว่าควรจะหวัง...ได้แค่ไหน..”
“ฝีมือขนาดนี้ไม่น่าถ่อมตัวเลยนะครับคุณอรรถ”ไอ้เหมาที่มาทันท่อนสุดท้ายของเพลงพอดี กล่าวชมขึ้นก่อนจะรับกีตาร์ที่คุณอรรถส่งคืนให้
“ว่าแต่เพลงที่จบไปเนี่ย เป็นการขอคำตอบใครรึเปล่าครับ”จนได้สิเนี่ยไอ้เหมา ผมอุตส่าห์พยายามไม่คิดแล้วเชียว ยังจะมาย้ำอีก ตอนแรกก็ไม่อะไรนะครับ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ คุณอรรถแม่งก็จ้องผมด้วยสายตาแฝงความนัยเหลือเกิน นี่ถ้าไอ้เหมาอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบเพลงนี้ มีหวัง บิ้วผมมากกว่านี้แน่ๆ คุณอรรถไม่ได้ตอบคำถามของไอ้เหมา เค้าเพียงยิ้มรับโดยไม่ได้ปฏิเสธเท่านั้นเอง
“เฮ้ยกูเล่นบ้างดิ”คุณแว่นที่วันนี้ดูไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับปาร์ตี้วันนี้สักเท่าไหร่ เอ่ยขึ้นแล้วเค้าก็เอื้อมมือไปแย่งกีตาร์จากไอ้เหมา ก่อนจะเริ่มเล่น เค้าเลือกเล่นเพลงเก่าที่ดูเค้าจะอินกับเพลงเป็นพิเศษ
“...สองรัก ฉันรับไม่ไหว เธอมีหนึ่งใจ ให้ไปตั้ง
สองรัก ทั้งเขาและฉัน ฝันไปหรือเธอ
มีใคร ยอมทนบ้างไหม ลืมตาตื่นมาสักทีเถอะ
สองหัวจิตหัวใจอย่างนี้ เลือกสักทีเถอะ เอาสักทาง...”
“เพื่อนชาร์ป นี่ไม่ใช่ชีวิตจริงถูกม่ะ เลิกกันไปแล้วก็หาใหม่ อย่าเก็บมาคิดให้เสียเวลาอีกเลยว่ะ”ไอ้เหมาบอกยิ้มๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะถึงแม้จะคิดว่าเพลงนี้คุณแว่น ร้องเพื่อมอบให้ชะเอม แต่มันก็เป็นเรื่องที่จบไปนานพอควร จนผมเองก็คงคิดไม่ต่างกับไอ้เหมาที่คิดว่าคุณแว่นน่าจะทำใจได้แล้ว แต่คุณแว่นกลับทำหน้าเรียบเฉยก่อนจะขอตัว แยกออกไปสูบบุหรี่ ให้ห่างจากที่พวกเรานั่งกันอยู่
“มึงตามไปดูหน่อยดิไอ้เหมา”ผมบอกไอ้เหมา ที่ชี้หน้าตัวเองพร้อมทำปากว่า “ทำไมต้องเป็นกู” แต่สุดท้ายมันก็หยิบบุหรี่ตามไป
“ตี้จะนั่งกันต่ออีกเปล่า พอดีเราว่าอีกสักพักจะกลับแล้ว ไม่อยากให้ดึกมาก”ผมยกข้อมือดูนาฬิกาทันทีที่แพทถามผม นี่ก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว เลยตัดสินใจว่าสลายตัวน่าจะดีกว่าเพราะถ้าแพทกลับ นั่นหมายความว่าไอ้เหมาต้องกลับ แถมด้วยน้องปลาอีกคนที่ไอ้เหมาต้องไปส่ง
ผมเดินออกมาส่งคุณอรรถที่บอกลาแพทกับน้องปลา แล้วมาบอกไอ้เหมากะคุณแว่น
“ขับรถไหว แน่นะครับ”ผมถามเพื่อความชัวร์เพราะเค้าก็ดื่มไปพอสมควรเหมือนกัน แต่เค้าก็ยืนยันว่าขับไหว แน่นอน แต่อาการเค้าเองก็ไม่ได้ดูเมาเท่าไหร่หรอกครับ
“ขอบคุณนะครับที่ชวนมาด้วย วันนี้ แล้วก็อย่าลืมคิดทบทวนกับเพลงที่ผมร้องให้วันนี้นะครับ ไว้จะขอคำตอบอีกที”พูดจบก็เดินออกไป ไม่รอให้ผมได้ตั้งตัวอะไรเลย ผมได้แต่ตะโกนบอกให้เค้าขับรถดีๆ ถ้าถึงแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย ว่าแต่ไอ้ที่เค้าจะขอคำตอบผมนี่ หรือมันถึงเวลาที่ผมต้องตัดสินในเรื่องนี้แล้ว
ผมยังไม่ทันได้คิดอะไรอีกเพราะต้องส่งคนอื่นๆ กลับอีก ผมบอกแพทกับน้องปลาที่ยังช่วยกันเก็บแก้ว ช้อน จาน ชาม ว่าไว้ให้ผมทำเองพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะถ้าปล่อยให้สาวๆ เก็บจนเสร็จคงจะยิ่งดึกเข้าไปอีก
“ขับรถดีๆ เจอกันๆ”ผมบอกลาพวกไอ้เหมา ก่อนจะหันมามองอีกคนที่เดินขึ้นรถไป ทีแรกผมนึกว่าเค้าจะค้างที่นี่เสียอีก แต่ถ้าค้างจริงๆ ก็คงต้องอธิบายให้ไอ้เหมาฟังอีกยาวแน่นอนครับ ผมมองรถของคุณแว่นที่ออกไปเป็นคันสุดท้าย ก่อนจะปิดรั้ว เดินเข้าบ้าน กะว่าคงจะอาบน้ำแล้วนอนเลย
ในระหว่างที่ผมกำลังจะอาบน้ำ ก็ได้ยินเหมือนเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน ทำให้ผมต้องสวมเสื้อคลุมเดินไปเปิดม่านดู สิ่งที่ผมเห็นทำเอาแปลกใจนิดหน่อย ที่เห็นคุณแว่นกำลังเปิดประตูรั้ว ก่อนจะขับรถเข้ามาจอดในบ้าน
“ทำไมเปลี่ยนใจกลับมา”ผมถามออกไปอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
“ไม่ได้คิดจะกลับตั้งแต่แรก แค่ออกไปเพื่อไม่ให้ไอ้เหมามันสงสัยเฉยๆ”ว่าแต่ผมกังวลมากไปที่กลัวไอ้เหมาจะรู้เรื่องระหว่างเรา แต่เค้าก็ระแวงกลัวไอ้เหมารู้เหมือนกันแหละ
เค้าถอดเสื้อ กางเกง จนเหลือแต่บอกเซอร์ก่อนจะเดินมาหาผม แล้วก้มกระซิบข้างๆ หู “อาบน้ำกัน” ผมรู้ในทันทีว่ามันคงไม่ใช่แค่การอาบน้ำเฉยๆ แน่นอน มันเหมือนหลายๆ ครั้งที่เราอาบด้วยกัน เราต่างถึงจุดหมายกันไปคนละหนึ่งครั้งในห้องน้ำ และอีกคนละหนึ่งที่เตียงนอน
“ทำไมวันนี้ต้องพูดแปลกๆ ด้วย”ผมถามออกไปตามตรง แม้ไม่ได้อธิบายให้ละเอียดแต่ผมคิดว่าเค้าใจ ว่าผมหมายถึงสิ่งที่เค้าพยายามพูดให้คุณอรรถเข้าใจผิด หรือจริงๆ อาจจะเข้าใจถูกก็เป็นได้ เค้าไม่ได้ตอบผมแต่เอื้อมมือมาลูบที่ต้นแขนผม ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน มีผ้าห่มผืนนึงคลุมตั้งแต่ช่วงเอวของเราลงไป
“ไม่อยากให้เราคบกับคุณอรรถเหรอ”ผมไม่อยากจะทึกทักเอาเองหรอกนะครับ ว่านี่เค้ากำลังหวงผม
“แล้วตี้ตัดสินใจแล้วเหรอว่าจะคบคุณเซลล์นี่”คำถามของผมไม่ได้รับคำตอบ แต่กลับได้รับการตั้งคำถามจากเค้าแทน สายตาเค้ายังจ้องมองผมนิ่ง แต่มือของเค้าค่อยๆ เลื่อนจากต้นแขนมาที่ลำคำ พลิกหลังมือถูที่แก้มผมเบาๆ ถูซ้ำไปซ้ำมา
“ชาร์ปละ ช่วงนี้ได้คุยๆ กับใครอยู่บ้างหรือเปล่า”ดูเหมือนตอนนี้ทั้งผมและเค้ากำลังเล่นเกมกันอยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับแข่งกันตั้งคำถามกลับไปกลับมา เค้าละมือจากใบหน้าผมเปลี่ยนเป็นใช้มือดึงร่างผมให้ชิดเข้าหาเค้ามากกว่าเดิม จนตอนนี้ตัวเราแทบจะแนบกัน จมูกชนจมูก
“ตี้จะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่าเราคุยๆ กับคนอื่นอยู่”และเหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบจากผม เพราะเค้ากดริมฝีปากของเค้าเองมาประกบที่ปากผม ก่อนจะค่อยๆ ดันลิ้นเข้ามาในปากของผม ลิ้นพยายามเข้ามาพันเกี่ยวกับลิ้นของผม แล้วมีเหรอที่ผมจะยอมแพ้ ผมจูบตอบอยู่เนินนาน มันเป็นจูบที่ให้ความรู้สึก ปนเปกันอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ว่าเราต่างต้องการความสุขทางกายร่วมกัน แต่บางครั้งผมก็คิดว่าผมจะทำได้จริงๆ เหรอ ที่จะไม่คิดอะไรเลย ไม่รู้สึกอะไรเลยกับสิ่งที่เราสองคนกำลังทำอยู่ ความสัมพันธ์ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้มันดีแล้ว จริงๆ เหรอ
“ที่ร้องเพลงวันนี้เพราะยังนึกถึงชะเอมอยู่เหรอ”หลังจากเค้าถอนปากออกและสูดอากาศเข้าไปจนหายใจได้ปกติ ผมก็เริ่มตั้งคำถามกับเค้าอีกครั้ง
รอบนี้เค้าไม่ได้ตั้งคำถามกลับมาแต่เค้ากลับส่ายหน้าปฏิเสธ ว่าไม่ใช่อย่างที่ผมถาม มือเค้าที่กอดกระชับร่างผม ค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ จนถึงบั้นท้ายผม ก่อนขย้ำเบาๆ สองสามทีพร้อมๆ กับที่ปลายจมูกของเค้าที่ค่อยๆ กดลงมาที่ซอกคอผม แน่นอนว่าไม่มีคำถามโต้กลับไปมาระหว่างเราอีก เพราะภาษากายของเรากำลังจะเริ่มขึ้นอีกรอบแล้ว
แวะมาต่อคร๊าบ
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ใกล้จะถึงจุดเปลี่ยนเข้าไปทุกทีแล้ววว