[จบแล้ว]ผิดที่ใคร [Right or Wrong] บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ (24-10-2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]ผิดที่ใคร [Right or Wrong] บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ (24-10-2017)  (อ่าน 97950 ครั้ง)

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 19
ทานข้าวกันไหม


“เป็นไรป่าววะมึง”ผมหันไปมองไอ้เหมาที่เดินเข้ามาทัก แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร ยังคงใช้ช้อนชงกาแฟหมุนวนในแก้วต่อไป สมองผมกำลังคิดถึงเรื่องของคุณแว่น นี่ก็ 2 อาทิตย์ได้แล้วมั้งที่ผมไม่ได้เจอกับเค้า ตั้งแต่วันนั้นที่ผมบอกกับเค้าไปแบบนั้น



“เราหยุดทำแบบนี้กันสักพักไหม”ผมบอกกับคุณแว่นหลังจากที่ได้ทบทวนมาทั้งคืน ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกดีนะครับ ที่มีเค้าเข้ามาในชีวิต แม้ความสัมพันธ์เรามันจะไม่ปกติเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า เราควรลองเว้นระยะห่างจากกัน

“หมายความว่ายังไง”ผมว่าเค้าเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดนะ แต่ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าผมต้องการแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า ผมอธิบายให้เค้าเข้าใจว่า อยากให้เราต่างคน ต่างได้ลองไปเปิดรับความสัมพันธ์ ที่จริงจังกับคนอื่นบ้าง ในเมื่อความสัมพันธ์ของเราวันนึงมันก็ต้องจบลง

“ตี้จะคบกับเซลล์คนนั้นเหรอ”เค้าเอ่ยถามเสียงเรียบ

“ก็แค่ลองคุยๆ กันดู ยังไม่รู้หรอกว่าจะออกมายังไง”ผมตอบออกไปตามตรง แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดของผม เพราะผมก็ยังกังวลอีกเรื่องที่ผมกลัวคือ ถ้าเรายังเจอกันบ่อยๆ แบบนี้ วันนึงผมเองอาจกลายเป็นคนที่จะเคยชินกับการมีเค้าอยู่ เกิดพอวันนึงที่เค้าคิดจะมีครอบครัวขึ้นมา ถึงตอนนั้นมันคงไม่ดีแน่ ผมเลยต้องเว้นระยะห่างของเราเพิ่มขี้นให้มันเหลือแค่ความสัมพันธ์ทางกาย แต่ไม่ให้ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง

“อยากให้เราลองไปจีบคนอื่นใช่ไหม”ผมพยักหน้ารับ นี่มันอาจจะดีที่สุดสำหรับเราสองคนแล้ว

“เอางั้นก็ได้”เค้าตอบก่อนจะหันหลังเดินออกไป และตั้งแต่วันนั้นผมก็ยังไม่ได้เจอเค้าอีกเลย รวมทั้งการติดต่อช่องทางอื่นๆ ก็ไม่มีเช่นเดียวกัน มันทำให้ผมก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน ทั้งที่เป็นคนบอกกับเค้าเองให้เว้นระยะห่างแต่ก็ไม่นึกว่าเค้าจะหายไปเลยขนาดนี้




“มึงโอเคไหมเนี่ย”เสียงไอ้เหมาเข้ามาหยุดความคิดผมอีกครั้ง ผมเพียงตอบปฏิเสธว่าไม่เป็นไร บอกแค่ว่านอนน้อยเลยไม่ค่อยสดชื่น เดี๋ยวได้กาแฟไปก็ดีขึ้นเอง

“ช่วงนี้ไม่ได้ไปดื่มกันเลยเนอะ มึงก็งานยุ่ง ว่างก็ไปกับแฟน”

“ยัง กูกับคุณอรรถยังไม่ได้เป็นแฟนกัน”ผมรีบแย้งเพราะแม้เราจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น แต่ผมก็ยังคงสถานะกับเค้าไว้แค่เพื่อน จริงๆ เค้าเองก็ไม่ได้พูดออกมาว่าสถานะของเราตอนนี้คืออะไร

“ไม่ใช่แฟน แต่ไปกินข้าว ดูหนัง ซื้อของ ด้วยกันบ่อยๆ นี่เค้าเรียกว่าอะไรกันนะ”ไอ้เหมาเน้นเสียงเพื่อแซวผม

“ก็เป็นเพื่อนไง”ผมตอบออกไปอย่างไม่ถือสา ไอ้เหมาพยักหน้าทำเป็นเชื่ออย่างขอไปที

“มึงก็ไม่ค่อยว่าง ไอ้แว่นช่วงนี้ก็ออกงานต่างจังหวัด นี่ถ้ามันกลับมา มึงต้องปลีกตัวจาก “เพื่อน...สนิท” ของมึงมาให้เวลากับพวกกูด้วยนะ”ผมไม่ได้สนใจเนื้อหาอื่นในคำพูดของไอ้เหมาเลย ที่ผมสนใจมีเพียงสิ่งที่ไอ้เหมาบอกว่าคุณแว่นไปทำงานต่างจังหวัด หรือเพราะเค้าไปต่างจังหวัดนี่ด้วย ถึงไม่ได้ติดต่ออะไรผมมาเลย

“อือ”ผมตอบรับไอ้เหมาก่อนจะเดินกลับแผนก ผมเริ่มคิดเรื่องคุณแว่นอีกครั้งว่า สิ่งที่เราต้องหยุดคือการมีเซกส์กัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ติดต่อกันเลยนี่นา ผมควรจะทักเค้าไปก่อนดีไหม หรือจะโทรไปทักทาย พอถึงโต๊ะทำงานผมก็เอาแต่จ้องมือถือของตัวเองว่าจะเอายังไงดี ยังไงซะเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน จะถามสารทุกข์สุขดิบกัน มันก็ไม่ได้แปลกนี่นา ผมกับไอ้เหมาก็ยังโทรปรึกษาอะไรกันบ่อยๆ คิดแบบนั้น ผมเลยกะว่าจะโทรหาเค้าสักหน่อยเพื่อทักทาย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้กดโทรออก ผมก็ต้องสะดุ้งกับเสียงมือถือของตัวเองที่ดังขึ้น

“ครับคุณอรรถ”กลับกลายเป็นอีกคนที่ช่วงนี้ผมได้คุยกับเค้าบ่อยขึ้น เรียกว่าออกจะบ่อยเกินไปด้วยซ้ำครับ ถ้าคิดในแง่ว่า เราเป็นเพื่อนกัน แต่ก็อย่างว่า ผมเองก็รู้ว่าเค้าไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อน เพียงแค่ผมยังไม่ยอมรับเค้าในฐานะอื่นก็แค่นั้น จริงๆ ความสัมพันธ์ครั้งก่อนๆ ของผมมันก็ไม่ค่อยมีช่วงศึกษากันแบบนี้สักเท่าไหร่ เรียกได้ว่า คุยกันเจอกันไม่เท่าไหร่ ก็รีบตกลงเป็นแฟนกัน แล้วค่อยๆ เรียนรู้กันไป แต่ก็นั่นแหละ ไปไม่ค่อยรอดมันเสียแทบทุกครั้ง

“เย็นนี้ดูหนังกันไหมครับ เห็นเรื่องที่คุณตี้บอกอยากดูเข้าแล้ว”จริงๆ ผมก็ว่างนะครับ แต่วันนี้รู้สึกไม่ค่อยอยากดูหนังสักเท่าไหร่ เลยบอกออกไปตามตรง คือผมเป็นคนที่ถ้าจะไปดูหนังเราก็รู้สึกอยากเต็มที่ไปกับเนื้อเรื่อง แต่ตอนนี้ผมเหมือนมีอะไรให้คิด เลยกลัวว่าถ้าไปดูหนังก็จะพาลไม่สนุกไปด้วย

“งั้นไปหาอะไรกินกันไหมครับ”พอรู้แหละครับว่าเค้าอยากเจอ ซึ่งผมเองก็เห็นว่าการมีเพื่อนกินข้าวด้วย มันก็น่าจะดีกว่าการต้องนั่งเหงากินข้าวคนเดียว ผมเลยตอบรับเค้าไป พร้อมนัดแนะว่าจะไปเจอกันที่ไหน หลังเลิกงาน



“ตี้รีบไปไหนรึเปล่า”เสียงหัวหน้าผมทักขึ้นตอนที่กำลังจะถึงเวลาเลิกงาน เค้าเพิ่งประชุมกับผู้บริหารเสร็จ และกลับเข้าในแผนก ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาเหลืออีกไม่ถึง 10 นาทีจะเลิกงาน แต่ประโยคที่หัวหน้าผมถามนี่แสดงว่าน่าจะมีงานด่วนให้ผมช่วยทำอีกเป็นแน่ และยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ก็มีอีกหนึ่งคน ตามหัวหน้าผมเข้ามา

“ลุยเลยไหมคะพี่ตี้”น้องปลาจากแผนกของไอ้เหมา นี่แสดงว่าหัวหน้าผมกะไม่ให้ผมมีทางเลือกอยู่แล้วสินะ ว่ายังไงผมก็ต้องทำ แม้จะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แต่ผมก็ถามถึงรายละเอียดที่ผมต้องทำ ถึงได้รู้ว่างานชิ้นนี้ต้องพร้อมนำเสนอนายภายใน 9 โมงเช้าพรุ่งนี้ จริงๆ มันจะไม่กระชั้นชิดขนาดนี้ถ้าหัวหน้าผมไม่ไปรับปากว่าสามารถทำทัน

สิ่งที่ผมต้องทำคืองานนำเสนอรูปแบบ อาคารจัดเก็บขยะหรือของเสียที่เกิดขึ้นภายในบริษัท เพื่อรอส่งกำจัด ซึ่งหัวหน้าผมเสนอเป็นอาคารอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลายในตัว ซึ่งทางนายอยากเห็นภาพชัดๆ ว่ามันคุ้มค่าที่จะทำจริงๆ รึเปล่า แน่นอนผมต้องเป็นคนทำไฟล์นำเสนอ ส่วนน้องปลามาแทนไอ้เหมา เพราะหัวหน้าผมจะอาศัยความสนิทสนมของผมกับไอ้เหมา มาขอร้องให้ไอ้เหมาเป็นคนเขียนแบบทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ นี่หัวหน้าผมคิดว่าทุกอย่างมันเสร็จได้ในชั่วพริบตารึไงเนี่ย

ไอ้เหมาชิงตัดช่องน้อยบอกไม่ว่าง ส่วนน้องปลายังไม่เคยเจอลูกตื้อของหัวหน้าผม เลยใจอ่อนยอมมาช่วย ดูจากปริมาณงาน ส่วนของผมอาจใช้เวลาไม่มาก แต่ของน้องปลานี่สิ แต่หลังจากคุยรายละเอียด น้องปลาก็บอกสัก 3 ชั่วโมงน่าจะพอไหว ไอ้ผมก็ไหวนะครับ แต่มีนัดนี่สิ แม้จะไม่สบอารมณ์กับหัวหน้านัก แต่ผมก็รับคำ ก่อนจะต้องโทรไปบอกคุณอรรถว่าคงต้องเลื่อนนัดเป็นวันอื่น

“งั้นผมทำอะไรให้ทานไหม เดี๋ยวกลับไปทำรอที่บ้าน เสร็จงานค่อยแวะมาบ้านผม”ทันทีที่ผมบอกปฏิเสธไป เค้าก็มีข้อเสนอใหม่มาให้ผม ทีแรกผมก็เกรงใจและปฏิเสธ แต่ดูอีกฝ่ายจะตั้งใจเสียเหลือเกินในการคะยั้นคะยอผม เลยตอบตกลงไปเพราะไม่อยากให้เค้าเสียน้ำใจ

ผมเริ่มทำงานในส่วนที่ผมสามารถใส่ข้อมูลได้ก่อน พร้อมกับอธิบายถึงรายละเอียดเพิ่มเติม ที่อยากให้น้องปลาใส่เข้าไปในแบบ นอกเหนือจากที่ทางหัวหน้าผมได้ ฟรีแฮนด์ มาเบื้องต้น ส่วนหัวหน้าผมสั่งงานเสร็จเรียบร้อยก็ปัดตูดกลับบ้านครับ อยากจะแกล้งทำงานไม่เสร็จให้แกจริงๆ อยากรู้แกจะทำยังไง แต่โชคดีที่น้องปลาทำงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว เพียง 2 ชั่วโมงเศษๆ งานทุกอย่างก็เรียบร้อย

“น้องปลากลับไงอ่ะ”ผมเอ่ยถามเพราะคุ้นๆ ว่าน้องไม่ได้เอารถมาเอง และถ้าจำไม่ผิด คอนโดน้องปลาก็อยู่ทางเดียวกับที่ผมจะไปบ้านคุณอรรถ และไม่รอให้น้องปฏิเสธ ผมอาสาจะไปส่งน้องที่บ้าน จริงๆ อยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณเสียด้วยซ้ำ ที่อยู่ช่วยงานวันนี้ ติดตรงที่ ผมมีนัดแล้วนี่สิ

น้องปลาปฏิเสธในทีแรก แต่ผมใช้อภิสิทธิ์ของการเป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบัน เป็นการบังคับ แต่ไม่ได้จริงจังมาก น้องเลยยอมให้ผมไปส่ง

“ครอก แคร๊ก”ทั้งผมและน้องปลาหันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา เสียงกระเพาะของเราทั้งคู่ประท้วงขึ้นมา เพราะนี่ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว แถมรถก็เคลื่อนตัวช้าเหลือเกิน จริงๆ อีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านคุณอรรถแล้ว ถ้าผมพาน้องปลาไปทานข้าวด้วยนี่จะเป็นไรไหมนะ ไวเท่าความคิด ผมกดเบอร์พร้อมใส่สมอลทอล์ค ต่อสายหาคุณอรรถ ว่าขอพาน้องสาวไปฝากท้องด้วยหนึ่งคน ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ย้อนไปย้อนมา และถือโอกาสเลี้ยงข้าวน้องด้วย แม้จะไม่ใช่ผมเลี้ยงแต่ก็ถือว่าเป็นโปรโมชั่นให้น้องก่อนผมเลี้ยงจริงอีกรอบแล้วกัน

จะเพราะคุณอรรถไม่กล้าปฏิเสธคำขอของผม หรือน้องปลาที่ติดรถผมมาอย่างไม่มีทางเลือก สุดท้ายผมก็พาน้องปลามาถึงบ้านคุณอรรถ โต๊ะอาหารถูดจัดไว้สำหรับ 3 คน เรียบร้อยพร้อมทาน

“ตามสบายนะครับน้องปลา แต่ไม่รู้ฝีมือพี่จะพอทานได้หรือเปล่า”คุณอรรถออกตัวหลังจากที่ผมแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน ดีที่น้องปลาก็เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เลยไม่ต้องกังวลว่าบรรยากาศจะเกร็งหรือกร่อย อาหารที่คุณอรรถเตรียมไว้เป็นสปาเก้ตตี้ผัดขี้เมา ซึ่งน้องปลาก็ออกมาชมว่าอร่อยมาก ยิ่งฟรีแบบนี้ยิ่งอร่อย แทบอยากมาฝากท้องที่นี่บ่อยๆ เลย

“หนูก็อุส่าห์จิ้นพี่ตี้กับพี่รหัสหนู สุดท้ายพี่ตี้ก็ชิงมีแฟนดับต่อมจิ้นหนูซะงั้น”เดี๋ยวๆ เท่าที่จำได้หนูบอกจะไม่จิ้นนะน้องปลา

“เพื่อน น้องปลา เพื่อน”ผมต้องพูดพร้อมแอบส่งสายตาพิฆาตให้น้องปลา แต่ดูน้องไม่ได้เกรงตัวสายตาผมเลย แถมดูคุณอรรถก็ชอบอกชอบใจ กับคำพูดน้องปลา จนหัวเราะออกมาเสียดังเชียว

“ว่าแต่นี่น้องปลาไปจิ้นตี้เค้ากับใครเหรอครับ พี่เคยเจอไหม”แล้วจะมาอยากรู้ทำไมละครับนั่น เดี๋ยวก็ได้มาจับสังเกตเรื่องผมกับคุณแว่นเหมือนไอ้เหมาอีกหรอก

“พี่ชาร์ปไง คุณอรรถน่าจะเคยเจอแล้วมั้ง”น้องปลาพูดไปพลางดูดเส้นสปาเกตตี้ไป อย่างไม่ได้ใส่ใจนัก แต่คนฟังอย่างคุณอรรถ หันมามองผมด้วยแววตาสงสัย แม้จะไม่รู้ว่าเค้าจะสงสัยอะไรรึเปล่า แต่ผมว่าคงต้องระวังตัวความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณแว่นเอาไว้ก่อน แม้ผมกับเค้าจะยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน แต่ผมก็รู้สึกว่าเค้าคงอาจจะจับตาดูคุณแว่นกับผมเป็นพิเศษขึ้นแน่นอน

“น้องปลาก็แค่จิ้นขำๆ ใช่ไหมปลา”ผมสะกิดปลาเพื่อให้เงยหน้าขึ้นมาช่วยผมพูดอะไรบ้าง เพราะดูคุณอรรถจะเริ่มมีสายตาแปลกๆ แต่เค้าก็คงไม่เดาอะไรแม่นขนาดนั้นมั้ง เพราะเค้าก็น่าจะพอรู้แล้วว่าคุณแว่นก็คือแฟนเก่าชะเอม

“นั่นแน่ ไหนว่าเป็นเพื่อนกัน อย่าบอกนะว่ามีหึงมีงอนกันเนี่ย”คำพูดน้องปลาทำเอาเจ้าของบ้านยิ้มเก้อๆ นี่ผมไม่ค่อยเห็นมุมแบบนี้เค้าสักเท่าไหร่นะเนี่ย อีกทั้งเรื่องทำอาหารนี่อีก ไม่คิดว่าคนอย่างเค้าจะมีมุมอะไรแบบนี้ด้วย บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับมาสนุกสนานอีกครั้ง น้องปลากับคุณอรรถดูจะพูดคุยรับส่งมุกกันอย่างถูกคอ

“เออ นี่ไงอาทิตย์หน้าที่พี่ชาร์ปบอกจะชวน ทำไรกินกัน พี่ตี้ก็ชวนพี่อรรถเค้าไปด้วยสิ หลายๆ คนจะได้สนุก”ผมเลิกคิ้วสงสัยเพราะ จำไม่ได้ว่ามีนัดกับคุณแว่นด้วยเหรอ ตั้งแต่วันนั้น ก็ยังไม่ได้คุยกันเลย แต่นี่น้องปลาพูดเหมือนกับว่ามีการนัดแนะ และมีชื่อผมที่จะไปร่วมแล้ว

“ก็ที่พี่ชาร์ปชวนไง วันนี้ปลายังคุยกับพี่เหมาอยู่เลย ว่าจะจัดที่บ้านพี่ตี้”เดี๋ยวนะ จะจัดปาร์ตี้ที่บ้านผม แต่เจ้าของบ้านอย่างผมยังไม่รู้เลย นี่มันหมายความว่ายังไง แต่ผมก็เออ ออ กับน้องปลาไป พร้อมเอ่ยปากชวนคุณอรรถไปร่วมด้วย เพราะแม้จะมีแต่เพื่อนๆ กัน แต่ถ้าจะจัดที่บ้านผม ผมก็คงมีสิทธิ์ที่จะชวนเค้าจริงไหมครับ อีกอย่างก็เพื่อเป็นการตอบแทนอาหารมื้อนี้ของเค้าด้วย

หลังจากทานเสร็จน้องปลาอาสาเก็บจานไปล้าง คงเพราะอยากเปิดโอกาสให้ผมได้คุยกับคุณอรรถนั่นแหละครับ

“วันนี้โทษทีนะครับ ทั้งเบี้ยวนัดแล้วยังมารบกวนให้ลำบากอีก”ผมบอกออกไปตามตรง เพราะก็รู้สึกเกรงใจเค้าอยู่ไม่น้อย

“ผมเต็มใจ ไว้ให้ผมไปบ้านคุณบ้างไง”เค้าตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี เราพูดคุยกันอีกพัก ผมกับปลาก็ขอตัวกลับ เพราะไม่อยากให้ดึกมาก กว่าผมจะไปส่งน้องปลาอีก

พอถึงบ้าน จากคำพูดน้องปลา ทำให้ผมต้องมาพิมพ์ข้อความหาอีกคน

“นัดกันบ้านเราเหรอ”ผมพิมพ์ข้อความส่งไป

“ไม่ติดปัญหาอะไรใช่ไหม??”เหมือนจะเป็นคำถาม แต่ก็แฝงไปด้วยความเผด็จการว่าต้องได้ตามที่เค้าขอ






มาต่อคร๊าบบบ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเช่นเคยนะครับ

 o13

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เชียร์คุณแว่นอ่ะ  รอดูคุณแว่นจะมีกลยุทธ์พิชิตใจอะไรบ้าง

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เชียร์คุณแว่น หวังว่าคราวนี้คงเดินเครื่องเต็มกำลังแล้วนะ ต่างฝ่ายต่างเริ่มหวั่นไหวในระยะแรกรักแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คุณแว่นจะเริ่มลุยอย่างเต็มที่รึยัง
เดี๋ยวตี้หลงความดีจองคุณอรรถพอดี

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Tinton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สนุกครับ ชอบเรื่องนี้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แน่ะ ชาร์ปแอบเผด็จการกับตี้ ซะด้วย
ที่ห่างไปคงรู้ว่าขาดตี้ไม่ได้แน่ๆ
กับชาร์ป เคมีทาง......เข้ากันกับตี้
และตี้ก็ดูจะชอบชาร์ปแต่แรกแล้ว
ส่วนคุณอรรถ ก็ดูดีนะ  :เฮ้อ:
รอ.... อย่างใจจดจ่อ   :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 20
แปรงสีฟันจุดประเด็น


“เฮ้ย ชาร์ปตื่น ตื่นเร็วเข้า”ผมรีบปลุกอีกคน เพราะนี่จะบ่าย 2 อยู่แล้ว แต่ทั้งผมและเค้ายังไม่ได้ลุกจากเตียงกันเลย ก็เมื่อคืนเล่นดื่มกันไปไม่น้อยเลยทีเดียว แถมไอ้คนที่มาค้างบ้านผมนี่ก็ไม่ได้ยอมนอนดีๆ  เมื่อคืนผมไปดื่มกับไอ้เหมาและคุณแว่น ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทั้งที่วันนี้ก็นัดกันจะมาทำปิ้งย่างอะไรกันที่บ้านผม แต่เมื่อคืนก็ยังจะไปดื่มอีก

“นี่มันคืนวันศุกร์แห่งชาติทั้งที มึงจะนอนอยู่บ้านดูละครหลังข่าวหรือไงไอ้ตี้ มันต้องจัดโว้ย”และนั่นเหมือนการบังคับกลายๆ ให้ทั้งผมและคุณแว่น ต้องไปชนแก้วกับมัน แก้วแล้วแก้วเล่าจนสุดท้ายไอ้เหมาก็เมาพับ ขับรถกลับไม่ไหว แต่ที่มันกล้าดื่มหนักขนาดนี้ คงเพราะวันนี้แพทมาด้วย และมันคงกะให้แพทขับรถพากลับบ้าน แต่มันไม่ดูเลยว่าตัวขนาดมันเนี่ยแพทจะลากไหวไหม ลำบากผมกับคุณแว่นต้องแบกมาส่งถึงรถ

“ยังไงฝากชาร์ปไปส่งตี้ด้วยนะ แพทไม่อยากอ้อมไปอ้อมมา”แพทบอกอย่างรู้สึกผิด เพราะวันนี้ผมให้ไอ้เหมากับแพทแวะรับก่อนออกมา เพราะไอ้เหมาต้องขับรถไปรับแพททำงาน ก่อนจะมาที่ร้านอยู่แล้ว แถมเป็นทางผ่านบ้านผม เลยถือโอกาสติดรถมาด้วย

“ได้ๆ ว่าแต่แพทจะพาไอ้หมา เอ้ยไอ้เหมานี่เข้าบ้านยังไง”คุณแว่นเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะขนาดพวกผมสองคนแบกมันมาที่รถยังถึงขั้นหอบ แล้วตัวเล็กๆ อย่างแพทจะทำยังไง

“ถ้าถึงบ้านแล้วปลุกไม่ตื่นก็จะ เปิดกระให้นอนในรถนี่แหละ ให้ยุงกัดซะให้เข็ด ดื่มอะไรไม่รู้จักประมาณตัวเอง”นี่คือมนุษย์เมียของแท้เลยครับเนี่ย นี่ขนาดไอ้เหมาเมาหลับยังบ่นได้ขนาดนี้ ถ้าตื่นมาจะโดนสวดยับขนาดไหน

“ไปแล้ว เจะกันพรุ่งนี้บ่าย 3 ที่บ้านตี้นะหนุ่มๆ เออถ้าชาร์ปไม่ไหว แพทว่าค้างบ้านตี้ไปเลยก็ดีนะ ยังไงพรุ่งนี้เราก็นัดกันที่บ้านตี้อยู่แล้ว”พูดจบแพทก็สตาร์ทรถออกไปด้วยความรวดเร็ว ปล่อยผมไว้กับคุณแว่นสองคน เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีกเพราะระหว่างทางกลับบ้านผมก็เลือกที่จะพักสายตา แม้จะไม่ได้หลับแต่ผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับเค้าเลยเลือกปิดเปลือกตาไว้จะดีกว่า

“ไม่เข้าบ้านเหรอ”เมื่อถึงบ้านผม เค้าสะกิดปลุกผมพร้อมด้วยกลับรถเตรียมพร้อมที่จะกลับออกไป ผมเลยต้องถามออกไปด้วยความแปลกใจเพาะนึกว่าคืนนี้เค้าจะค้างที่นี่กับผม

“ก็เจ้าของบ้านยังไม่ชวนเลย เราจะเข้าไปได้ไง ขนาดจะมาเรายังต้องรอคำอนุญาตจากเค้าก่อนเลย”แหมคุณแว่น ดูพูดเข้าเดี๋ยวนี้มีงอนด้วย ผมยิ้มขำๆ กับอาการน้อยใจเหมือนเด็กๆ ของเค้า

“เชื่อฟังคำพูดเราขนาดนั้นเชียว ป่ะ เข้าบ้านเดี๋ยวเราเปิดประตูให้เอารถเข้าไปจอดในบ้าน”ทำเป็นอิดออดเหมือนจะไม่ค้างบ้านผม แต่ถึงเตียงนอนก่อนผมอีกครับ แล้วก็เป็นไปเหมือนเดิม พอถึงเตียง เราต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไร ทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แถมไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่มันยิ่งทำให้เราทั้งสองต่างช่วยกันสนองความต้องการของอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร

พอตัดสินใจว่าจะอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อนจะได้นอนสักทีเพราะนี่เราก็มอบความสุขให้กันหลายต่อหลายรอบแล้ว แต่เหมือนเราทั้งสองต่างยังรู้สึกไม่เต็มอิ่ม เลยเกิดกิจกรรมในห้องน้ำเพิ่มขึ้นอีก

“คราวหลังอย่าหายไปแบบนี้อีกนะ”ด้วยความรู้สึกว่าไม่อยากขาดการติดต่อจากเค้านานๆ แบบนี้อีก ทำให้ผมพูดออกไปแบบนั้น แต่เหมือนอีกคนจะเข้าใจไปอีกแบบ

“ตี้เป็นคนบอกให้เราห่างไปเองไม่ใช่เหรอ”เค้าบอกยิ้มๆ พร้อมกับเอื้อมมือสอดเข้ามาที่เส้นผมด้านข้างของผมเพื่อปัดส่วนที่ตกลงมาปิดหน้า

“ต่อไปเราพูดอะไร ไม่ต้องเชื่อนะ”ผมตอบกลับไป ก่อนจะปิดเปลือกตาลง เพราะฝืนต่อสู้กับความง่วงและความอ่อนเพลียต่อไปไม่ไหวแล้ว นี่มันจะ 6 โมงเช้าอยู่แล้ว



“ไม่เห็นเป็นไรเลย แพทก็รู้นิว่าเราค้างที่นี่ ไม่ต้องกลัวใครสงสัยอะไรหรอก”เหมือนเค้าจะรู้ว่าผมกังวลเรื่องอะไร เลยแย้งผมมา แต่เค้าลืมไปหรือเปล่า ว่าถึงแม้แพท และอาจรวมถึงไอ้เหมา อาจจะรู้แล้วว่าคุณแว่นค้างที่นี่ แต่ แต่ แต่ สภาพของทั้งผมและคุณแว่นตอนนี้มันควรอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยกันดีกว่าไหม เพราะคนอย่างไอ้เหมา ถ้ามาถึงอาจจะพรวดพราดเข้ามาถึงห้องนอนนี่ก็เป็นได้ แล้วถ้าเกิดมันมาเห็นว่าพวกผมอยู่ด้วยกันในสภาพหมิ่นเหม่อย่างตอนนี้ คงความแตกกันพอดี

“ไปอาบน้ำ ได้แล้ว”ผมลุกขึ้นเขย่าตัวอีกคนเพื่อปลุกให้เค้าลุก แต่เค้ากลับลุกพรวดขึ้น พร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมม้วนเอาตัวผมเข้าไปด้วย ทำให้ตัวของเราแนบติดกันจนแทบไม่มีช่องว่าง หน้าผากชนกัน ปลายจมูกแทบจะบี้กันอยู่แล้ว

“เล่นอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็อาบน้ำแต่งตัวไม่ทันเพื่อนมากันพอดี”ผมพูดพร้อมกับพยายามขืนตัวออก แต่แทบขยับไม่ได้ เพราะเค้าล็อคตัวผมไว้ และแรงของเค้าก็ดูจะเยอะกว่าผมมาก

“อาบพร้อมกันดิจะได้เสร็จเร็วๆ”เค้าคลายอ้อมกอดออกหลวมๆ แล้วค่อยๆ เลื่อนมือมาประคองหน้าผม สายตาคู่นั้นจ้องมาที่ผม ผ้าห่มค่อยๆ เลื่อนตกลงไป พร้อมๆ กับใบหน้าของเค้าที่โน้มมาใกล้ๆ ผม ไม่นานริมฝีปากนั้นก็ประกบลงมา แต่ผมตั้งสติได้ก่อนว่าถ้าปล่อยไปมากกว่านี้มีหวังคนอื่นมาถึงก่อนเราอาบน้ำแต่งตัวแน่ๆ ผมรีบผละจากเค้าแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

“ให้เราเข้าไปอาบด้วยดิจะได้เสร็จเร็ว”เค้าตะโกนผ่านประตูเข้ามา

“ลงไปใช้ห้องน้ำข้างล่างเลย”ผมตอบกลับไป แล้วก็ไม่สนใจเค้าอีก แต่เสียงเงียบไปแล้ว น่าจะลงไปข้างล่างแล้ว

ไม่นานนักทั้งผมและเค้าก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย และก็ถือว่าโชคดีมากๆ ที่พวกผมแต่งตัวทันเวลา เพราะแพทกับไอ้เหมามาถึงบ้านผม หลังจากพวกผมแต่งตัวเสร็จแค่ 10 นาทีเอง เรียกว่าฉิวเฉียดมากเลยทีเดียว แพทมาไอ้เหมามาเร็วกว่าเวลานัดนิดหน่อย เพราะทั้งคู่เป็นคนอาสาไปซื้อของสดที่เราต้องใช้ในวันนี้

“หลีกๆๆ”ขณะที่เรากำลังช่วยกันยกของ จัดเตรียมสถานที่ ไอ้เหมาผู้ซึ่งอาการไม่สู้จะดีนักเพราะเมื่อคืนหนักมากไปหน่อย มันรีบวิ่งแหวกทาง มุ่งไปยังห้องน้ำ ไม่ต้องสืบครับมันแฮงค์หนักและแพทยังบอกอีกว่า มันอ๊วกจนจะหมดไส้หมดพุงอยู่แล้ว นี่แหละพวกกินไม่รู้ลิมิตตัวเอง

“ว่าไงครับ ไอ้อ่อน”ไอ้เหมาหันมามองผมตาขวางอย่างเคืองๆ แต่แล้วมันยิ้มร้ายๆ ออกมาพร้อมกับสายตาวิบวับเหมือนมีเรื่องสนุกให้มันเล่น มันค่อยเดินตบไหล่ผม และหัวเราะในลำคอ ตอนนี้ทั้งคุณแว่นทั้งแพทต่างก็มองดูอาการของไอ้เหมาว่าตกลงมันแฮงค์จนเพี้ยนหรือมันเป็นอะไรกันแน่

“น้องตี้จ๊ะ เดี๋ยวนี้ริอาจพาผู้ชายมาค้างอ้างแรมที่บ้านเหรอจ๊ะ”ก็นึกว่าเรื่องอะไร ถ้าจะแซวแค่เรื่องคุณแว่นมาค้างบ้านผม เรื่องนี้มันมีเหตุผลอันควรรองรับแล้ว และก็มีพยานรู้เห็นอีกต่างหาก มันจะเอามาแซวผมทำไม

“ก็ชาร์ปไง เมื่อคืนตัวเองเมามากแพทเลยให้ชาร์ปมาส่งตี้ อีกอย่างเห็นว่าดึกแล้วเลยแนะนำว่าให้ชาร์ปค้างที่นี่เลย ยังไงวันนี้เราก็นัดกันที่นี่อยู่แล้ว”ผมไม่ต้องเสียเวลาอธิบายอะไรเลยครับ เพราะแฟนไอ้เหมาเล่าไปหมดแล้ว ผมยักไหล่อย่างผู้มีชัย ที่ไอ้เหมาแพ้ไปในยกนี้ว่าแต่ถ้าแพทยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้มันฟัง แล้วทำไมมันถึงคิดว่าผมมีคนมาค้างด้วยล่ะ ทีแรกผมนึกว่ามันรู้จากแพทแล้วเลยมาแกล้งแซวผม แต่นี่มันยังไม่รู้แล้วทำไมถึงมาแซว

“งั้นแปรงสีฟันที่มีสองอันในห้องน้ำนั่น อีกอันก็ของไอ้แว่นสิ ว้าไม่สนุกเลย”เกือบไปแล้วไง นี่ผมลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง เพราะห้องน้ำทั้งสองห้องในบ้านมันมีแปรงสีฟัน 2 อันทุกห้องเลยนี่สิ นี่ถ้าพลาดมาเจอตอนที่ทุกคนไม่รู้ว่าคุณแว่นมาค้างนี่ซวยแน่ๆ

“ว่าแต่ถ้าไอ้แว่นค้างที่นี่”พอหาอะไรเล่นผมไม่ได้ตอนนี้มันเริ่มหันไปหาคุณแว่นแล้วครับ ไอ้เหมาเข้าไปจับดูเสื้อผ้าของคุณแว่น มีการดมกลิ่นด้วย นี่มันจะเล่นอะไรของมันอีก

“นี่ไม่ใช่เสื้อผ้าของไอ้ตี้”แล้วไอ้เหมาก็เดินกลับมาดมที่ผมด้วยอีกคน

“ก็เสื้อกูเองแล้วมันแปลกตรงไหนไอ้เหมา”คุณแว่นถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมมึงค้างที่นี่แต่มีเสื้อผ้าตัวเองเปลี่ยน มึงทิ้งเสี้ยผ้าไว้ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกมา”เชร็ดอะไรมันจะแม่นขนาดนั้น นี่มันเก็บรายละเอียดขนาดนี้เลยเหรอนี่

“มึงลืมไปแล้วเหรอว่ากูมีเสื้อผ้าติดรถไว้ประจำอยู่แล้ว”ผมยิ้มขำกับการแก้เกมของคุณแว่น จริงอยู่ที่เค้ามีเสื้อผ้าในรถ แต่ไอ้ตัวที่ใส่นั่นมันชุดที่เค้าทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้าผมชัดๆ เอาเถอะยังไงก็ถือว่าแก้เกมได้ดี

“ไม่อ่ะกลิ่นเสื้อที่ทิ้งไว้ในรถกับกลิ่นที่อยู่ในตู้เสื้อผ้ามันต่างกัน พวกมึงสองคนปิดบังอะไรกูอยู่หรือเปล่า”ไอ้นี่มันตัวอะไรกันเนี่ย มันแยกกลิ่นได้จริงๆ หรือมันแกล้งพูดมั่วๆ ไปเองแค่นั้นละเนี่ย แต่ถ้ามันเดานี่ถือว่าเดาได้แม่นมากเลยทีเดียว

“แบบนี้ต้องมีการพิสูจน์”ผมเกลียดรอยยิ้มของไอ้เหมาตอนนี้เหลือเกิน จากที่คิดว่าวันนี้จะไม่เพลี้ยงพล้ำให้มัน แต่ตอนนี้ผมจะแก้เกมมันยังไงดี สมองน้อยๆ ของผมคิดไม่ทันแล้วตอนนี้

“กูจะไปเปิดตู้เสื้อผ้ามึงดู”ชิปหาย ทำยังไงดี ทำยังไงดี ผมกับคุณแว่นสบตากันนิดนึงแต่พยายามเก็บอาการไม่แสดงพิรุธอะไรมาก แต่ถ้าไอ้เหมาบุกไปดูตู้เสื้อผ้าผมจริงๆ นี่ ด้วยความไม่ปกติของไอ้เหมาซึ่งอาจจะจำเสื้อผ้าของผมและคุณแว่นที่เคยใส่ได้ ต่อให้ผมแถว่าในตู้นั้นทั้งหมดมันเป็นของผมเอง แต่ก็ยังมีอีก 1 ชุดที่ผมแถไม่ได้แน่ๆ ก็คุณแว่นเล่นทิ้งยูนิฟอร์มชุดทำงานไว้ด้วยนี่สิ

“พอ เลิกเล่นได้แล้ว มโนเป็นเรื่องเป็นราว ไร้สาระจริงๆ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น มาช่วยกันเตรียมของนี่ เห็นไหมหมูก็ยังไม่หมัก กุ้งก็ยังไม่ล้าง ถ่านก็ยังไม่จุด ทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง ไม่ใช่มัวแต่เล่น แล้วรอเมาอย่างเดียว”โอ้แม่นางฟ้ามาโปรดของผม ต้องขอบคุณแพทที่เข้ามาแก้เกมนี้ได้ทัน แม้แพทจะไม่ได้รู้เรื่องอะไร แต่การดึงหูแฟนไปช่วยงานแบบนี้นับว่าเป็นผลดีกับพวกผมอย่างยิ่ง เสียงหัวเราะเยาะจากผมและคุณแว่นพุ่งไปทิ่มแทงไอ้เหมาแทบจะทันทีที่มันต้องไปรับคำสั่งจากแพท

“เราเชื่อแล้วว่าประมาทไอ้เหมามันไม่ได้จริงๆ”คุณแว่นที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมพูดขึ้น แล้วเราสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน แต่พอแพทเดินเข้าไปหยิบของในบ้านเพิ่ม ไอ้เหมาก็ได้ทีเดินกลับมาหาพวกผมอีกครั้ง พร้อมกับคำถามใหม่

“มึงสองคนนอนห้องเดียวกันหรือแยกกันนอน”มันยังไม่จบครับ

“ทำไม ก็นอนห้องเดียวกันนี่แหละ เพื่อนกันนอนห้องเดียวกันมันแปลกตรงไหน”คุณแว่นชิงตอบตัดหน้าผม

“มันก็ไม่แปลก เพราะกูก็เคยนอนเตียงเดียวกับไอ้ตี้ แต่ระหว่างมึงสองคนกูสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง”นี่มันจะเป็นเหมา ญาณทิพย์รึไงเนี่ย

“มึงนี่มันเพ้อเจ้อ จินตนาการกว้างไกลเหลือเกินนะ กลับไปทำหน้าที่ของมึงต่อเลยไม่งั้นกูจะฟ้องแพทให้ดึงหูมึงจนหูยานเลย”ผมคาดโทษมันก่อนที่จะโดนมันไล่ต้อนพวกผมไปมากกว่านี้

“เรื่องนี้กูอาจจะเพ้อเจ้อ แต่เรื่องจริงของมึงมาแล้วโน่น เซลล์รูปหล่อมึงมาแล้ว”ทั้งผมและคุณแว่นหันกลับไปมองที่ประตูบ้าน ผมส่งยิ้มทักทายให้คุณอรรถที่เพิ่งมาถึง ซึ่งเหมือนเค้าจะยิ้มมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว


TBC




โทษทีหายไปหลายวันเลย

แหะๆ

ขอบคุณที่ติดตามเช่นเคยนะคร๊าบบบ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เราว่าแพทมองออก นางต้องเป็นสาววายแน่ๆ 555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบ ชาร์ป ตี้   :mew1: :mew1: :mew1:
“คราวหลังอย่าหายไปแบบนี้อีกนะ”  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ชาร์ป ตี้ เคมีเข้ากั๊น เข้ากัน :ling1: :ling1: :ling1:
หมาเหมา ญานทิพย์ จมูกสัมผัสจริงๆ
ชาร์ป จะหึง ตี้ อรรถ มั้ย นะ :mew5:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เชียร์คุณแว่นค่ะ  รออ่านตอนหน้า 
หนุ่มแว่นจะหึงออกนอกหน้ารึป่าว  อิอิ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Tinton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบ ๆ กันแล้ว ก็เป็นแฟนกันเถอะครับ ^_^

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 21
หยุดไว้หรือไปต่อ



 “พี่อรรถอยากรู้เรื่องหลุดๆ ของใครเพิ่มอีกไหมคะ เรื่องของทั้งสามคนนี้ปลาเก็บรายละเอียดไว้หมดแล้ว”เสียงรุ่นน้องสาวเจื้อยแจ้ว ตอนนี้ทั้งไอ้เหมาและน้องปลากำลังแข่งกันขุดเรื่องน่าอายของพวกผมมาเล่าให้คุณอรรถฟังครับ ไอ้เรื่องของไอ้เหมากะคุณแว่นนี่ผมไปแปลกใจเท่าไหร่นะครับที่น้องปลารู้เพราะน้องปลาก็เรียนคณะเดียวกับคุณแว่นและไอ้เหมา แต่เรื่องผมนี่สิ ผมไม่น่าหลวมตัวเล่าให้ไอ้เหมามันฟังเลย นี่มันคงไปเล่าให้น้องปลาฟังอีกทอดแน่ๆ

นี่เป็นอีกกิจกรรมเวลาเรามีปาร์ตี้เล็กๆ แบบนี้ครับ พออาหาร เครื่องดื่มพร้อม มันก็ต้องมีบทสนทนาในวงเหล้าครับ ซึ่งปกติก็จะมีเรื่องสัพเพเหระมาคุยกัน แต่อะไรก็ไม่สนุกเท่าคุยเรื่องความหลังครับ ยิ่งพวกผมจบจากสถาบันเดียวกัน คุยเรื่องสมัยเรียนมันยิ่งช่วยให้แต่ละคนเห็นภาพและอินกับเรื่องราวได้ไม่ยาก

วันนี้ปาร์ตี้เล็กๆ ของพวกเรามีสมาชิกที่แตกต่างไปจากแต่ก่อนเล็กน้อย เมื่อก่อนจะเป็น ผม เหมา แพท คุณแว่นกับชะเอม มีบ้างที่น้องปลามาด้วย หรือพี่ชาญหัวหน้าผม แต่วันนี้มีคุณอรรถเพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งคน จริงๆ ปาร์ตี้แบบนี้ของพวกเราก็ถี่บ้าง ห่างบ้างแล้วแต่ว่าสะดวกกันขนาดไหน แล้วก็ยินดีหากใครจะชวนสมาชิกอื่นๆ มาทำความรู้จักกันเพิ่มเติม เพราะงั้นวันนี้ผมเลยชวนคุณอรรถมาด้วย

แม้ทุกคนจะรู้จักคุณอรรถกันอยู่แล้ว แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ต้องมาร่วมสังสรรกันแบบนี้ ทำให้ทุกๆ คนต่างพยายามพูดคุยกับคุณอรรถเพื่อไม่ให้ ตัวคุณอรรถเกร็งหรือไม่สนุก ก็หายห่วงเพราะดูวันนี้ทั้งคุณอรรถและทุกคนดูสนุกสนาน เข้ากันได้ดี ยกเว้น...ก็แต่ คุณแว่น ที่ดูจะไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่ จากที่ผมแอบลอบมองเค้าหลายที วันนี้เค้าดูนิ่งผิดปกติ ทุกทีถ้าอยู่ครบสามศรีพี่น้อง คุณแว่น ไอ้เหมา และน้องปลา ทั้งสามต้องแย่งกันพูดจนคนอื่นฟังไม่ทันเลยทีเดียว

“ไม่เห็นต้องถามเลยว่าคุณอรรถจะอยากรู้เรื่องใคร จริงไหมครับคุณอรรถ”พูดจบไอ้เหมากับน้องปลาก็ทำเสียงวี๊ดวิ้วกันสองคน แน่นอนว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน ต้องมีคุณแว่นอีกคนที่จะผสมโรงไปด้วย แล้ววันนี้เค้าเป็นอะไรของเค้านะ ตอนแรกก็เห็นดีๆ อยู่นี่นา แม้จะสงสัยแต่ผมก็คงต้องเก็บความสงสัยไว้คนเดียวก่อน ผมหันมองคุณอรรถที่นั่งข้างๆ ผม เค้าไม่ต้องตอบรับหรือปฏิเสธ คำถามของไอ้เหมา เค้าแค่ยิ้มมุมปากเลยน้อย พร้อมกับเอากุ้งเผาที่เห็นเค้านั่งแกะอยู่พักใหญ่แล้ว มาวางใส่จานผม ผมบอกขอบคุณออกไป รู้สึกแปลกๆ นิดๆ เพราะไม่ค่อยชินกับการมีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้

“เรื่องไอ้ตี้นะครับคุณอรรถมันเคยต้องวิ่งออกจากห้องเรียนไปอ๊วก เพราะเมาค้าง”นั่นไงปฏิบัติการแฉ เริ่มอีกแล้ว แต่เรื่องนี้สำหรับผมมันจิ๊บๆ ครับ ไม่สะทกสะท้านเพราะมันมีคนหนักกว่าผมในเรื่องนี้

“แต่ของมึงนี่ได้ข่าวว่าอ๊วกคาห้องเรียนนะ เรียกว่าเป็นบุรุษในตำนานให้กล่าวขานรุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียว”เจอสวนดอกนี้เข้าไปไอ้เหมาถึงกับไปไม่เป็นแถมแยกเขี้ยวใส่ผมอีก

“ใคร ใครเป็นคนเล่าเรื่องนี้ให้ไอ้ตี้ฟัง”สะใจครับ เพราะมันคงคิดว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรของมันตอนสมัยเรียนมากนัก เพราะมันก็หลุดเล่ามาบ้างแค่บางส่วน แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ผมรับรู้มาจากคุณแว่น คุณแว่นที่วันนี้เป็นอะไรของเค้าเนี่ย เค้าทำตัวผิดปกติ ผิดปกติจนผมรู้สึกหงุดหงิด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิด แต่ผมไม่ชอบที่เค้าเป็นแบบนี้เลย

แม้จะรู้สึกหงุดหงิดไปบ้างแต่ผมก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเพราะไม่อยากให้ทุกคนหมดสนุก ผมยังคงแย่งกันขุดเรื่องบ้าๆ บอๆ ของไอ้เหมามาทำสงครามกับมันอย่างไม่ลดล่ะ ตอนนี้บทสนทนาเลยกลายเป็นเรื่องของผมกับไอ้เหมาไปโดยปริยาย คนอื่นๆ ดูจะขำไปกับเรื่องที่คุยกัน ผิดกับคุณแว่นที่นานๆ จะพูดออกมาสักคำแล้วก็เอาแต่ดื่ม

“คุณชาร์ปดูดื่มหนักขนาดนี้ จะขับรถกลับไหวรึเปล่าครับเนี่ย”คุณอรรถเอ่ยถามขึ้น คงเพราะเห็นเหมือนทุกคนเห็นนั่นแหละครับว่าวันนี้คุณแว่นดื่มหนักจริงๆ เรียกว่ายกเอา ยกเอา จนน้องปลาที่ทำหน้าที่ริน รินให้ไม่ทัน ทั้งไอ้เหมาทั้งน้องปลาต่างก็ หันมาย้ำคำถามเดียวกันกับคุณอรรถ

“ถ้ากลับไม่ไหวก็คงค้างที่นี่เหมือน “เมื่อวาน” แหละครับ”คุณแว่นตอบมานิ่งๆ แต่เน้นคำว่าเมื่อวานอย่างจงใจ จนทุกคนเงียบไปกับคำพูดของเค้า เพราะทุกคนคงรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติของประโยคนี้ ยิ่งคุณอรรคยิ่งดูชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทั้งไอ้เหมา แพทที่รู้อยู่แล้วว่าคุณแว่นค้างที่นี่ ก็มีอาการไม่เข้าใจกับสิ่งที่คุณแว่นพูดเช่นกัน แน่นอนมันอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเพื่อนมานอนค้างกับผมที่บ้าน และก็จะไม่แปลกอีกเช่นกันถ้าคุณแว่นพูดประโยคนี้อย่างปกติ แต่นี่น้ำเสียงที่เค้าใช้ มันทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกว่ามันต้องมีอะไร ผมกำลังจะเอ่ยปากอธิบาย แต่คุณแว่นเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นก่อนผม

“อ๋อคือเมื่อวานพวกผมไปดื่มด้วยกันมานะครับ แล้วตี้ไม่ได้เอารถไป ผมเลยมาส่ง แล้วก็เห็นว่ามันดึกแล้วก็เลยขอค้างที่นี่ อีกอย่างวันนี้เราก็นัดกันที่นี่อยู่แล้วด้วย”เค้าปรับน้ำเสียง สีหน้าและท่าทางมาพูดเหมือนปกติ ทั้งแพททั้งไอ้เหมาต่างช่วยรีบเสริมว่าเมื่อวานเหตุการณ์มันเป็นยังไงบ้าง เหมือนกับว่าตอนนี้ทุกคนกลัวคุณอรรถเข้าใจผิดเรื่องผมกับคุณแว่นกันอยู่

“งั้นแบบนี้ถ้าผมเมาแล้วกลับไม่ไหว ตี้จะให้ผมค้างที่นี่ด้วยบ้างได้รึเปล่าน้า”เค้าทำเป็นพูดเล่น กับไอ้เหมา แต่หันมาส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ผม จนไอ้เหมาและน้องปลาโห่แซว ผมเลยตอบกลับไปอย่างนึกสนุก

“ค้างได้สิครับ บ้านผมมีหลายห้อง”

“นอนห้องเดียวกันก็ได้ครับ จะได้ไม่ลำบากต้องจัดห้องให้ใหม่”พอคุณอรรถพูดจบ เสียงไอ้เหมากับน้องปลาก็ตามมาอีกเช่นเดิมครับ

“แต่ผมนอนดิ้นนะครับ”ผมแกล้งตอบกลับไปขำๆ อย่างไม่ได้คิดอะไร

“ตี้ไม่เห็นจะนอนดิ้นเลย”ทุกคนหันไปมองคุณแว่นเป็นตาเดียว เพราะถ้าให้ตีความจากคำพูดของเค้ามันก็ตีความได้ไม่ยากว่าไอ้ที่เค้าพูดหมายถึงการที่เค้านอนค้างบ้านผมนั้น เค้านอนเตียงเดียวกับผมชัดๆ

“ใช่ไอ้ตี้ มึงอย่าไปอำคุณอรรถดิ ตอนกูมาค้างกับมึงไม่เห็นมึงจะนอนดิ้นอะไรเลย กูเห็นนิ่งยังกะนอนตาย”ถ้าผมไม่รู้สึกไปเอง นี่ผมกำลังคิดว่าไอ้เหมากำลังช่วยแก้สถานการณ์นี้ให้ผมอยู่ เพราะดูบรรยากาศตอนนี้มันเริ่มอึมครึมแปลกๆ ตอนนี้เลยเหมือนทุกคนพยายามเปลี่ยนบทสนทนา ชวนกันคุยเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการนอนของผม คุณอรรถเองแม้จะดูยังคาใจกับคำพูดของคุณแว่น แต่ดูคุณอรรถก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรอีก

“ผมว่าเรายังขาดเสียงเพลง เเรามาเพิ่มบรรยากาศกันอีกหน่อยดีกว่า”ไอ้เหมาเสนอก่อนจะ ลุกไปเปิดรถ หยิบกีตาร์ติดมือกลับมาด้วย

“จัดมาครับใครอยากร้อง อยากฟังเพลงอะไรวันนี้พี่เหมาจัดให้ได้ทุกเพลงครับ”บรรยากาศกลับมาสนุกสนานอีกครั้ง เรื่องเล่นกีตาร์นี่ต้องยกให้ไอ้เหมามันครับ เล่นได้แทบทุกเพลงจริงๆ ขอแค่เป็นเพลงที่มันเคยผ่านหู หรือถ้ามันไม่เคยฟัง แต่ถ้าเราสามารถฮัมเพลงนั่นให้มันจับจังหวะได้ ไอ้เหมาก็สามารถครับ เล่นได้หมด แต่อย่าไปบอกชื่อเพลงให้มันเล่นนะครับ ไอ้นี่ไม่ค่อยจำชื่อเพลง แต่ถ้าบอกเนื้อร้องขึ้นมามันจะรู้จักทันที

ไอ้เหมารับหน้าที่เล่นกีตาร์เป็นหลักครับ ส่วนคนอื่นๆ ก็ช่วยกันประสานไปมาอย่างสนุกสนาน จบเพลงบ้าง ล่มกลางเพลงบ้าง เล่นได้แค่ท่อนฮุคบ้าง ก็ขำๆ กันไป

“คุณอรรถลองสักเพลงไหมครับ”ไอ้เหมายื่นกีตาร์ให้คุณอรรถ ซึ่งตอนแรกคุณอรรถออกตัวปฏิเสธว่าเล่นไม่เก่งเท่าไอ้เหมา แถมไม่ได้เล่นมานานแล้ว แต่ไอ้เหมาขอร้องแกมยัดเยียดเพราะมันปวดฉี่ ต้องไปเข้าห้องน้ำ คุณอรรถเลยรับไปอย่างเสียไม่ได้ แต่คุณอรรถต้องขอตัวช่วยเพิ่มนิดหน่อย เป็นไอแพดของผมเอง เพื่อไปกูเกิ้ลหาคอร์ด เพลงที่คุณอรรถจะร้อง

“...สุดท้ายแล้วเราจะเป็นคนรักหรือเป็นแค่คนรู้จัก
ช่วยบอกสักครั้ง บอกให้ฉันหยุดทรมาน
จุดหมายของเราที่เดียวกันไหม หรือเพียงร่วมทางแค่ชั่วคราว
โปรดบอกกันทีว่าควรจะหวัง...ได้แค่ไหน..”

“ฝีมือขนาดนี้ไม่น่าถ่อมตัวเลยนะครับคุณอรรถ”ไอ้เหมาที่มาทันท่อนสุดท้ายของเพลงพอดี กล่าวชมขึ้นก่อนจะรับกีตาร์ที่คุณอรรถส่งคืนให้

“ว่าแต่เพลงที่จบไปเนี่ย เป็นการขอคำตอบใครรึเปล่าครับ”จนได้สิเนี่ยไอ้เหมา ผมอุตส่าห์พยายามไม่คิดแล้วเชียว ยังจะมาย้ำอีก ตอนแรกก็ไม่อะไรนะครับ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ คุณอรรถแม่งก็จ้องผมด้วยสายตาแฝงความนัยเหลือเกิน นี่ถ้าไอ้เหมาอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบเพลงนี้ มีหวัง บิ้วผมมากกว่านี้แน่ๆ คุณอรรถไม่ได้ตอบคำถามของไอ้เหมา เค้าเพียงยิ้มรับโดยไม่ได้ปฏิเสธเท่านั้นเอง

“เฮ้ยกูเล่นบ้างดิ”คุณแว่นที่วันนี้ดูไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับปาร์ตี้วันนี้สักเท่าไหร่ เอ่ยขึ้นแล้วเค้าก็เอื้อมมือไปแย่งกีตาร์จากไอ้เหมา ก่อนจะเริ่มเล่น เค้าเลือกเล่นเพลงเก่าที่ดูเค้าจะอินกับเพลงเป็นพิเศษ

“...สองรัก ฉันรับไม่ไหว เธอมีหนึ่งใจ ให้ไปตั้ง
สองรัก ทั้งเขาและฉัน ฝันไปหรือเธอ
มีใคร ยอมทนบ้างไหม ลืมตาตื่นมาสักทีเถอะ
สองหัวจิตหัวใจอย่างนี้ เลือกสักทีเถอะ เอาสักทาง...”

“เพื่อนชาร์ป นี่ไม่ใช่ชีวิตจริงถูกม่ะ เลิกกันไปแล้วก็หาใหม่ อย่าเก็บมาคิดให้เสียเวลาอีกเลยว่ะ”ไอ้เหมาบอกยิ้มๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะถึงแม้จะคิดว่าเพลงนี้คุณแว่น ร้องเพื่อมอบให้ชะเอม แต่มันก็เป็นเรื่องที่จบไปนานพอควร จนผมเองก็คงคิดไม่ต่างกับไอ้เหมาที่คิดว่าคุณแว่นน่าจะทำใจได้แล้ว แต่คุณแว่นกลับทำหน้าเรียบเฉยก่อนจะขอตัว แยกออกไปสูบบุหรี่ ให้ห่างจากที่พวกเรานั่งกันอยู่

“มึงตามไปดูหน่อยดิไอ้เหมา”ผมบอกไอ้เหมา ที่ชี้หน้าตัวเองพร้อมทำปากว่า “ทำไมต้องเป็นกู” แต่สุดท้ายมันก็หยิบบุหรี่ตามไป

“ตี้จะนั่งกันต่ออีกเปล่า พอดีเราว่าอีกสักพักจะกลับแล้ว ไม่อยากให้ดึกมาก”ผมยกข้อมือดูนาฬิกาทันทีที่แพทถามผม นี่ก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว เลยตัดสินใจว่าสลายตัวน่าจะดีกว่าเพราะถ้าแพทกลับ นั่นหมายความว่าไอ้เหมาต้องกลับ แถมด้วยน้องปลาอีกคนที่ไอ้เหมาต้องไปส่ง

ผมเดินออกมาส่งคุณอรรถที่บอกลาแพทกับน้องปลา แล้วมาบอกไอ้เหมากะคุณแว่น

“ขับรถไหว แน่นะครับ”ผมถามเพื่อความชัวร์เพราะเค้าก็ดื่มไปพอสมควรเหมือนกัน แต่เค้าก็ยืนยันว่าขับไหว แน่นอน แต่อาการเค้าเองก็ไม่ได้ดูเมาเท่าไหร่หรอกครับ

“ขอบคุณนะครับที่ชวนมาด้วย วันนี้ แล้วก็อย่าลืมคิดทบทวนกับเพลงที่ผมร้องให้วันนี้นะครับ ไว้จะขอคำตอบอีกที”พูดจบก็เดินออกไป ไม่รอให้ผมได้ตั้งตัวอะไรเลย ผมได้แต่ตะโกนบอกให้เค้าขับรถดีๆ ถ้าถึงแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย ว่าแต่ไอ้ที่เค้าจะขอคำตอบผมนี่ หรือมันถึงเวลาที่ผมต้องตัดสินในเรื่องนี้แล้ว

ผมยังไม่ทันได้คิดอะไรอีกเพราะต้องส่งคนอื่นๆ กลับอีก ผมบอกแพทกับน้องปลาที่ยังช่วยกันเก็บแก้ว ช้อน จาน ชาม ว่าไว้ให้ผมทำเองพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะถ้าปล่อยให้สาวๆ เก็บจนเสร็จคงจะยิ่งดึกเข้าไปอีก

“ขับรถดีๆ เจอกันๆ”ผมบอกลาพวกไอ้เหมา ก่อนจะหันมามองอีกคนที่เดินขึ้นรถไป ทีแรกผมนึกว่าเค้าจะค้างที่นี่เสียอีก แต่ถ้าค้างจริงๆ ก็คงต้องอธิบายให้ไอ้เหมาฟังอีกยาวแน่นอนครับ ผมมองรถของคุณแว่นที่ออกไปเป็นคันสุดท้าย ก่อนจะปิดรั้ว เดินเข้าบ้าน กะว่าคงจะอาบน้ำแล้วนอนเลย

ในระหว่างที่ผมกำลังจะอาบน้ำ ก็ได้ยินเหมือนเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน ทำให้ผมต้องสวมเสื้อคลุมเดินไปเปิดม่านดู สิ่งที่ผมเห็นทำเอาแปลกใจนิดหน่อย ที่เห็นคุณแว่นกำลังเปิดประตูรั้ว ก่อนจะขับรถเข้ามาจอดในบ้าน

“ทำไมเปลี่ยนใจกลับมา”ผมถามออกไปอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก

“ไม่ได้คิดจะกลับตั้งแต่แรก แค่ออกไปเพื่อไม่ให้ไอ้เหมามันสงสัยเฉยๆ”ว่าแต่ผมกังวลมากไปที่กลัวไอ้เหมาจะรู้เรื่องระหว่างเรา แต่เค้าก็ระแวงกลัวไอ้เหมารู้เหมือนกันแหละ

เค้าถอดเสื้อ กางเกง จนเหลือแต่บอกเซอร์ก่อนจะเดินมาหาผม แล้วก้มกระซิบข้างๆ หู “อาบน้ำกัน” ผมรู้ในทันทีว่ามันคงไม่ใช่แค่การอาบน้ำเฉยๆ แน่นอน มันเหมือนหลายๆ ครั้งที่เราอาบด้วยกัน เราต่างถึงจุดหมายกันไปคนละหนึ่งครั้งในห้องน้ำ และอีกคนละหนึ่งที่เตียงนอน

“ทำไมวันนี้ต้องพูดแปลกๆ ด้วย”ผมถามออกไปตามตรง แม้ไม่ได้อธิบายให้ละเอียดแต่ผมคิดว่าเค้าใจ ว่าผมหมายถึงสิ่งที่เค้าพยายามพูดให้คุณอรรถเข้าใจผิด หรือจริงๆ อาจจะเข้าใจถูกก็เป็นได้ เค้าไม่ได้ตอบผมแต่เอื้อมมือมาลูบที่ต้นแขนผม ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน มีผ้าห่มผืนนึงคลุมตั้งแต่ช่วงเอวของเราลงไป

“ไม่อยากให้เราคบกับคุณอรรถเหรอ”ผมไม่อยากจะทึกทักเอาเองหรอกนะครับ ว่านี่เค้ากำลังหวงผม

“แล้วตี้ตัดสินใจแล้วเหรอว่าจะคบคุณเซลล์นี่”คำถามของผมไม่ได้รับคำตอบ แต่กลับได้รับการตั้งคำถามจากเค้าแทน สายตาเค้ายังจ้องมองผมนิ่ง แต่มือของเค้าค่อยๆ เลื่อนจากต้นแขนมาที่ลำคำ พลิกหลังมือถูที่แก้มผมเบาๆ ถูซ้ำไปซ้ำมา

“ชาร์ปละ ช่วงนี้ได้คุยๆ กับใครอยู่บ้างหรือเปล่า”ดูเหมือนตอนนี้ทั้งผมและเค้ากำลังเล่นเกมกันอยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับแข่งกันตั้งคำถามกลับไปกลับมา เค้าละมือจากใบหน้าผมเปลี่ยนเป็นใช้มือดึงร่างผมให้ชิดเข้าหาเค้ามากกว่าเดิม จนตอนนี้ตัวเราแทบจะแนบกัน จมูกชนจมูก

“ตี้จะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่าเราคุยๆ กับคนอื่นอยู่”และเหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบจากผม เพราะเค้ากดริมฝีปากของเค้าเองมาประกบที่ปากผม ก่อนจะค่อยๆ ดันลิ้นเข้ามาในปากของผม ลิ้นพยายามเข้ามาพันเกี่ยวกับลิ้นของผม แล้วมีเหรอที่ผมจะยอมแพ้ ผมจูบตอบอยู่เนินนาน มันเป็นจูบที่ให้ความรู้สึก ปนเปกันอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ว่าเราต่างต้องการความสุขทางกายร่วมกัน แต่บางครั้งผมก็คิดว่าผมจะทำได้จริงๆ เหรอ ที่จะไม่คิดอะไรเลย ไม่รู้สึกอะไรเลยกับสิ่งที่เราสองคนกำลังทำอยู่ ความสัมพันธ์ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้มันดีแล้ว จริงๆ เหรอ

“ที่ร้องเพลงวันนี้เพราะยังนึกถึงชะเอมอยู่เหรอ”หลังจากเค้าถอนปากออกและสูดอากาศเข้าไปจนหายใจได้ปกติ ผมก็เริ่มตั้งคำถามกับเค้าอีกครั้ง

รอบนี้เค้าไม่ได้ตั้งคำถามกลับมาแต่เค้ากลับส่ายหน้าปฏิเสธ ว่าไม่ใช่อย่างที่ผมถาม มือเค้าที่กอดกระชับร่างผม ค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ จนถึงบั้นท้ายผม ก่อนขย้ำเบาๆ สองสามทีพร้อมๆ กับที่ปลายจมูกของเค้าที่ค่อยๆ กดลงมาที่ซอกคอผม แน่นอนว่าไม่มีคำถามโต้กลับไปมาระหว่างเราอีก เพราะภาษากายของเรากำลังจะเริ่มขึ้นอีกรอบแล้ว






แวะมาต่อคร๊าบ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ใกล้จะถึงจุดเปลี่ยนเข้าไปทุกทีแล้ววว



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2016 13:47:04 โดย norita_boyV2 »

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่น่ารอดนะเอาจิงงง  :sad4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
สงสารคุณแว่นอ่ะ  เพลงที่คุณแว่นร้อง  สะเทือนใจมาก
เมื่อไหร่ตี้กับคุณแว่นจะยอมรับกันซะที  ว่าความผูกพันมันกลายเป็นความรักแล้ว
เชียร์คุณแว่นอยู่นะจ๊ะ

ออฟไลน์ จั๊กหล่ะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ยิ่งอ่านยิ่งอึดอัด

ออฟไลน์ Wanatsuda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ มากๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณแว่น ตี้ คุยกันจริงๆจังๆ เถอะ
คุยกันนอกรอบ นอกเวลาสกินชิพ
น่าจะรู้ใจตัวเองกันแล้ว แต่ไม่แน่ใจอีกฝ่าย
เชียร์ ชาร์ป ตี้
แต่่คุณอรรถ ก็รุกตลอด น่าจะมีบทบาทมากกว่านี้อีก
คงเฉลียวใจคุณชาร์ป ตี้แล้วล่ะ
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 22
ฝืน




“กูว่าไอ้แว่นแม่งต้องกำลังจีบใครแน่ๆ”ผมคนถ้วยกาแฟในมือ พลางคิดถึงอีกคนที่ไอ้เหมาพูดถึง อีกคนที่ผมไม่ได้เจอมาพักใหญ่แล้ว จากวันที่ผมถามคำถามนั้นออกไป



“ชาร์ปยังอยากแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกใช่ไหม”แม้ผมจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องถามย้ำเค้าออกไป ซึ่งแน่นอนว่าเค้าพยักหน้าตอบรับกับคำถามของผม ผมมองเค้าที่ยืนอยู่ริมระเบียง ในมือคีบบุหรี่ สายตาทอดมองไกลออกไปเหมือนกำลังใช้ความคิด

“แล้วตอนนี้เริ่มมองใครรึยัง”เค้าเงียบไม่ตอบอะไรผม โดยที่ยังยืนพ่นควันอยู่ที่เดิม ผมเริ่มคิดทบทวนในความสัมพันธ์ของเราสองคน เพราะตอนนี้ผมยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับเค้า จริงอยู่ที่ผมสามารถมีเซกส์ได้โดยไม่ได้รักใคร แต่การที่มีอะไรกันซ้ำๆ บ่อยๆ แบบนี้แทนที่มันจะทำให้ผมเบื่อ มันกลับกลายเป็นว่าผมเริ่มมีความผูกพันธ์ เพราะทั้งผมและคุณแว่นแม้หลักๆ เวลาเราเจอกันจะด้วยเรื่องเซกส์เป็นหลัก ทว่าแต่ละครั้งที่ขลุกอยู่ด้วยกันทั้งวัน บางครั้งมันก็ทำให้ผมเผลอลืมตัวไปว่า เราใช้ชีวิตด้วยกันที่ไม่ใช่แค่ sex friends ผมรู้สึกมาพักนึงแล้ว เพียงแต่ไม่อยากจะยอมรับเท่านั้นเอง

“เราหยุดทำแบบนี้กันเถอะ”เค้าเพียงหันมายิ้มมุมปากให้ผม อย่างไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของผม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพูดในลักษณะนี้ ผมเคยบอกแบบนี้มาแล้วแต่สุดท้าย ผมกับเค้าก็ยังคงทำแบบเดิม แต่ครั้งนี้ผมตั้งใจจะไม่ให้มันเป็นแบบนั้นอีกแล้ว

“เราว่าจะลองคบกับคุณอรรถ”ใช่แล้วครับผมควรเลือกในเส้นทางที่มันเหมาะกับผมจะดีกว่า แม้ตอนนี้ผมอาจจะยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอรรถมากนัก หรือถ้าลองคบแล้ววันนึงมันไม่ใช่จริงๆ ผมว่าผมเองน่าจะทำใจยอมรับได้ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณแว่น ผมว่ายิ่งผมถลำลึกลงไปมากเท่าไหร่ ก็คงจะมีแค่ผมเองที่จะยิ่งเจ็บ

“รอบนี้ เราต้องเชื่อไหม”เค้าเดินกลับเข้ามานั่งลงข้างๆ ผม จ้องมองหน้าผมยิ้มๆ เหมือนยังไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของผม นี่ผมกลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“รอบนี้พูดจริงๆ ซีเรียสด้วย”เค้าพยักหน้าเหมือนเข้าใจ

“เราก็กลับไปเป็นเพื่อนกันธรรมดา เหมือนเดิม”ผมย้ำ อีกครั้ง บางแวปผมก็อยากให้เค้าแย้งคำพูดของผมบ้างนะครับแม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราก็ตกลงทำความเข้าใจกันตั้งแต่แรก เค้ายอมรับสิ่งที่ผมบอกได้อย่างง่ายดาย



“วันก่อน แม่งโทรมาถามแพทเรื่องเลือกรองเท้าผู้หญิง”เสียงของไอ้เหมา ดึงผมกลับมาสู่ปัจจุบัน แม้ในใจจะรู้สึกหวิวๆ อยู่บ้างที่ได้ยินไอ้เหมาพูดแบบนั้น แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมคิดไว้อยู่แล้ว ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ sex friends ของเราทั้งคู่คงจบลงแค่นี้ ก็ดีเหมือนกันที่ผมจะไม่ถลำไปมากกว่านี้

“กูละอยากรู้จริงๆ ว่ามันกำลังจีบใคร”เรื่องชาวบ้านคืองานของเหมาโดยแท้ครับ ผมทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีของไอ้เหมา เพราะไม่รู้จะแสดงความเห็นอะไร เพราะตั้งแต่วันนั้น ผมยังไม่ได้เจอเค้าเลย นี่ก็เกือบจะสองเดือนแล้ว คุณแว่นเองที่ทำงานต่างจังหวัดบ่อยขึ้นในช่วงนี้ หรือผมเองที่หลังๆ มักจะให้เวลากับคุณอรรถมากกว่าเพื่อนๆ มันเลยทำให้ทั้งผมและเค้าสวนกันแทบทุกครั้งที่ไอ้เหมาชวนไปดื่ม หรือสังสรรค์กัน

“แล้วมึงละ เป็นไง ไปถึงไหนกันแล้วกับคุณเซลล์หน้าหล่อของมึง”ผมกับคุณอรรถเหรอครับ ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเป็นยังไง คือเราก็มีไป กินข้าว ดูหนัง เดินห้าง หรือทำอาหารกินที่บ้านเค้าบ้าง มันก็ดี แต่มันดีจนราบเรียบไปหมด ดูมันไม่มีปัญหา อุปสรรคอะไรเลย ผมเคยคิดนะว่าถ้ามีแฟนแล้วไม่งี่เง่าง๊องแง้งใส่กันมันต้องดีมากๆ แน่ๆ แต่ตอนนี้ผมได้เจอแบบนั้นแล้ว รู้สึกได้เลยว่ามันดูเป็นชีวิตที่น่าเบื่อไม่น้อยเลยทีเดียว

“ก็ดีมั้ง”ผมยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ บอกกับไอ้เหมาไป แต่ไอ้เหมาขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย ก็แน่ละสิ ปากผมบอกไปว่าก็ดี แต่หน้าตาผม มันไม่ได้รู้สึกว่าดีตามคำพูด

“ไม่เวิร์คเหรอวะ”ไอ้เหมาหันมาถามอย่างสนใจ

“บอกไม่ถูกวะ คือเค้าก็ดีแหละ ดีกับกูทุกอย่าง ดีจนกูรู้สึกว่ามากไป  ถ้าเป็นแบบตอนแรกๆ ที่เค้ากวนตีนกู อาจจะดีกว่า”ผมบอกออกไปตามตรง เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าตอนนี้เค้าดูไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง อยู่หรือเปล่า

“มึงนี่ก็เยอะ แต่ก่อนกูจำได้ว่ามึงเคยบ่นแฟนเก่าๆ มึงให้ฟังว่าทนนิสัยแย่ๆ ของพวกนั้นไม่ได้ มาตอนนี้จะไม่ชอบแฟนที่ดีเกินไปอีก เลือกเอาสักทางไหมครับคุณเพื่อน”มันก็จริงอย่างไอ้เหมาว่าแหละครับ ปัญหามันอาจมาจากผมเองนี่แหละ

“ช่างเหอะ”ผมบอกปัด

“งั้นกลับมาเรื่องไอ้แว่น เสาร์นี้นัดมันดื่มดีไหม จะได้เค้นมันเรื่องสาว”ผมส่ายหน้าหน่ายๆ ให้กับไอ้เหมา ช่วงก่อนหน้านี้ก็จับผิดผมกับคุณแว่น พอมาตอนนี้คุณแว่นจะมีแฟนก็ยังเหมือนเดิมที่จะต้องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเค้าอีก

“เค้าพร้อมเมื่อไหร่ เค้าก็พามาแนะนำเองแหละ จะไปเค้นเค้าทำไม”พอพูดถึงเค้าทีไร ไม่รู้ทำไมภาพเวลาที่ผมและเค้าอยู่ด้วยกันมักจะผุดขี้นมาในหัวทุกที แต่ถ้าตอนนี้เค้าจะมีแฟนมันก็ดีแล้วแหละ ผมเองก็ตัดสินใจคบคุณอรรถแล้ว เราก็จะได้กลับไปเป็นเพื่อนกันได้อย่างสนิทใจขึ้น แม้ระหว่างเราสองคนอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยก็เถอะ

“แล้วตกลงไปไหม เสาร์นี้อ่ะ”เหมือนไอ้เหมาจะไม่ได้สนใจ คำพูดของผมสักเท่าไหร่

“ไม่ว่างวะ กูนัดกะอรรถเค้าไว้ ว่าจะไปทะเลกัน”ผมบอกออกไปตามตรง เพราะเสาร์นี้ผมนัดกับคุณอรรถไว้แล้ว และผมก็หวังว่าการไปทะเลครั้งนี้จะทำให้ความรู้สึกที่ผมมีต่อเค้ามันจะดีขึ้น

“มีแฟนละลืมเพื่อนตลอด”ไอ้เหมาแซวอย่างไม่จริงจังนักก่อนเราสองคนจะแยกย้ายกันกลับไปทำงาน






แล้วเวลาที่ผมกังวลก็มาถึง วันนี้ผมกับคุณอรรถเดินทางมาที่หัวหิน เราถึงกันตั้งแต่บ่ายแล้ว เช็คอินเข้าโรงแรง เล่นน้ำกันนิดหน่อย ตกเย็นก็ทานข้าว ดื่มกันไปอีกคนละนิด จนตอนนี้ผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนอยู่ที่เตียงเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีกคนยังอยู่ในห้องน้ำ ก็รู้นะครับว่าเป็นแฟนกันแล้ว และผมยอมมาค้างกับเค้าขนาดนี้มันหมายความว่ายังไง

ผมนอนตะแคงหันหลังให้ฝั่งที่ว่างของเตียง ไม่นานนักผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่ทิ้งลงข้างๆ ผม แขนของเค้าเอื้อมมากอดผม ผมสูดลมหายใจก่อนจะค่อยๆ พลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเค้า ซึ่งตอนนี้ระยะห่างระหว่างผมกับเค้าก็เพียงนิดเดียว นิดจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกคน

“อือ..อึม”ผมส่งเสียงออกมาเล็กน้อยเมื่อเค้าประกบริมฝีฝากเข้ามา แต่แทนที่ผมจะรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับรสจูบนี้ ผมกับไม่รู้สึกหวาบหวามอะไรเลย ทั้งที่บรรยากาศก็เป็นใจ ผู้ชายตรงหน้านี้ก็ไม่ได้มีที่ติอะไร แต่ทำไมผมไม่มีอารมณ์เลยละเนี่ย ที่ผมทำได้ตอนนี้คือพยายามจูบตอบเค้า ในเมื่อผมตกลงคบกับเค้าแล้วผมก็ไม่อยากให้เค้ารู้สึกแย่กับครั้งแรกระหว่างเรา

แน่นอนว่าเค้าต้องมีความต้องการเรื่องนี้อยู่แล้ว ผมเองก็ไม่ใช่คนไร้เดียงสาอะไร ใช่ว่าจะเพิ่งเคยมีเซกส์เสียเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกเกร็ง เกร็งเพราะไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ มือของเค้าเริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อของผม เค้าพลิกขึ้นมาคร่อมผมไว้ เค้ารวบข้อมือผมขึ้นก่อนจะดึงเสื้อผมตามออกไป ทำให้ตอนนี้ ด้านบนผมเปลือยเปล่า ส่วนเค้าเองเหมือนว่าภายใต้ชุดคลุมนั้น น่าจะไม่ได้ใส่อะไรอีก

เค้าก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง พร้อมกับดึงเสื้อคลุมของตัวเค้าเองออก ผมหลับตานิ่ง เริ่มคิดว่าผมควรหยุดแค่นี้หรือปล่อยให้เค้าทำให้มันจบๆ ไป เค้าถอนริมฝีปากออก ก่อนจะย้ายมากดลงที่ซอกคอผม ค่อยๆ เลื่อนลงมาที่ยอดอก ตอนนี้มือของเค้ากำลังเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ ลูบวนที่ท้องน้อย ต่ำลง ต่ำลงจนถึงขอบกางเกงนอนขอบผม

“พอเถอะ”ผมคว้ามือเค้าไว้ก่อนที่จะล้วงเข้าไปใต้กางเกงของผม เค้าชะงักไปเล็กน้อย และคงกำลังไม่เข้าใจปฏิกิริยาของผม

“ทำไม”ผมค่อยๆ ดันตัวเค้าออกเพื่อลุกขึ้นนั่ง และหันหน้าหนีจากเค้าที่แทบจะเปลือยทั้งตัวก็ว่าได้

“มันเร็วไปเหรอ”เค้าหันมาถามอีกครั้งเสียงราบเรียบ มันไม่ใช่เร็วไปหรือช้าไป เพราะการที่ผมยอมมามันก็เหมือนการยินยอมที่จะให้เหตุการณ์นี้เกิดขี้นอยู่แล้ว ตอนนี้ในใจของผมมันกลับรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ผิดที่ตกลงเป็นแฟนกับเค้า ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ให้ใจเค้าไปเต็มที่ แถมยังรู้สึกว่ามีอีกคนเข้ามาติดค้างในใจอีกต่างหาก

“ขอโทษ...”ผมจบคำพูดไว้แค่นั้นเพราะไม่รู้จะพูดคำไหนออกไป กลัวว่ายิ่งพูดสถานการณ์มันจะยิ่งแย่ หรือไปทำร้ายความรู้สึกของเค้ามากไปกว่านี้ เค้าหยิบเสื้อคลุมมาสวม หยิบฉวยบุหรี่ที่วางอยู่ใกล้ๆ เดินออกไปที่ระเบียง ผมถอนหายใจยาวเอื้อมมือขึ้นกุมขมับตัวเอง ทำไมผมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ไม่ชอบที่เป็นแบบนี้เลย

ผมมองอีกคนที่คงกำลังจัดการกับอารมณ์ของตัวเค้าเอง ใจนึงก็อยากเดินออกไปคุยกับเค้า อยากช่วยให้เค้ารู้สึกดีขึ้น แต่อีกใจก็รู้สึกว่าเค้าอาจจะต้องการพื้นที่ส่วนตัว ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผมนั่งมองแผ่นหลังของเค้าจากตรงนี้ เค้ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม บุหรี่มวนแล้วมวนเล่าถูกจุดและกดทิ้งลงในที่เขี่ย

“อรรถ...โอเครึเปล่า”ผมเอ่ยถามทันทีที่เค้าเดินกลับเข้ามา เค้ายิ้มจางๆ ให้ผม แต่ดูเป็นยิ้มที่ซ่อนความผิดหวังเอาไว้

“นอนเถอะ...ดึกแล้ว”เค้าก้าวขึ้นเตียงนอน จัดหมอนทั้งสองใบให้เข้าที่ ตบเบาๆ ที่หมอนของผม เป็นการเรียกให้ผมล้มตัวลงนอน เราทั้งคู่นอนลงโดยหันหน้าเข้าหากัน

“อรรถรอได้”เค้าบอกพร้อมกับยิ้มให้ผมอีกครั้ง แต่กลับเป็นผมเองที่ยิ่งรู้สึกผิดกับเค้า ผมค่อยๆ ขยับชิดเข้าหาเค้า ซบลงที่หน้าอก ก่อนจะปิดเปลือกตาลง มือของเค้าเอื้อมมากอดกระชับผมเข้าหา แล้วผมก็หลับไปกับอ้อมกอดนั้น



เช้านี้ผมตื่นมาพบว่าอีกคนลุกออกจากห้องไปแล้ว มีเพียงโน้ตแปะไว้ว่า ขอลงไปเดินเล่นที่ชายหาด เห็นผมหลับอยู่เลยไม่อยากปลุก ผมลุกอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย คุณอรรถกลับขึ้นมาหลังจากที่ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เราสองคนลงไปทานอาหารเช้าของทางโรงแรมที่จัดไว้ให้ จากนั้นก็เก็บของมุ่งตรงกลับเข้ากรุงเทพฯ จากที่ผมคิดว่าการมาครั้งนี้จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่ามันกลับยิ่งแย่ลงไปอีก ระหว่างทางของการเดินทางกลับผมรู้สึกได้ถึงความอึดอัดเล็กๆ ของเราทั้งคู่ ผมถึงบ้านในช่วงบ่ายๆ รู้สึกไม่อยากอยู่คนเดียวเลยให้ตายสิ และเหมือนเพื่อนอย่างไอ้เหมาจะมีญาณทิพย์จริงๆ เพราะข้อความในไลน์ที่มันส่งมาถึงผม

“กลับจากฮันนีมูนรึยังครับเพื่อนตี้ เย็นนี้กูนัดดื่มกับไอ้แว่น ถ้ามาไหวก็เจอกันนะ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 16:13:30 โดย norita_boyV2 »

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
มัยมันซ้ำ หว่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มีลงเรื่องซ้ำตอนแรกๆ อยู่ประมาณ 20 ช่วงย่อหน้านะ :mew1: :mew1: :mew1:
"ชาร์ปยังอยากแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกใช่ไหม”
ถึง “มีแฟนละลืมเพื่อนตลอด”

ชาร์ป ไม่ได้เป็นเกย์ตั้งแต่แรก
ไม่ผิดที่ตัวชาร์ป  ยังอยากแต่งงาน มีครอบครัว มี ลูก
แต่ก็ยังจะคบตี้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่แฟร์กับตี้
ตี้ ทำถูกแล้ว ที่บอกชาร์ปตรงๆ ว่า จะลองคบ อรรถ
เพราะตี้ เริ่มไหวหวั่นกับชาร์ปไปแล้ว ยิ่งนานจะยิ่งเจ็บ เจ็บคนเดียว :katai1: :katai1: :katai1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
แก้แล้วนะคร๊าบบบบ

โทษที พอดีไม่ได้เช็คไฟล์

ตอนนี้ตี้หวั่นไหวแล้ว

แต่ชาร์ปจะคิดยังไงในใจ ก็ต้องรอติดตามกันต่อนะคร๊าบบบ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ปวดหัวแทนตี้กับชาร์ปจริงๆ
งื้ออออ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หมั่นไส้อิคุณแว่นนนน
จะรักหรือจะกั๊กก ฮึ่ยๆๆ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทที่ 23
เปรียบเทียบ



“เมื่อวานมึงก็นัดกันไม่ใช่เหรอ”นั่งไปสักพัก ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมปฏิเสธคำชวนในคืนวันเสาร์ เพราะผมไปค้างหัวหินแล้วคืนวันอาทิตย์แบบนี้ ยังจะมานัดกันซ้ำอีกทำไม ตอนนี้ผมมานั่งที่ร้านประจำของพวกเรากับไอ้เหมาเป็นที่เรียบร้อย ไอ้เหมาฉายเดี่ยวเพราะแพทกลับไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด ส่วนอีกคนยังมาไม่ถึง

“เมื่อวานไอ้แว่นแม่งเบี้ยวกู สงสัยแม่งมีสาวแล้วจริงๆ ชัวร์ แต่นัดวันนี้ก็ดี วันอาทิตย์ร้านเค้ามีโปรเบียร์สด 1 แถม 1 แต่ต้องสั่งก่อนสี่ทุ่ม เพราะงั้นสปีดให้ไวเลยนะมึง”คุณแว่นมีสาวแล้ว มันก็ดีแล้วนี่เนอะ ยังไงเค้าก็ต้องเลือกทางนี้อยู่แล้วนิ ผมย้ำกับตัวเองให้ไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่านี้ ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มยิ้มขำกับตัวเอง ขำที่เคยมั่นใจว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเค้า ขำที่เป็นคนเอาตัวเองเข้าไปเล่นกับความรู้สึกแบบนี้

“เดี๋ยวๆ กูไม่ได้ให้มึงยกแก้วชนแก้วขนาดนี้ เดี๋ยวแม่งพรุ่งนี้ก็ไปทำงานไม่ไหวหรอกมึง”ไอ้เหมาที่ตอนแรกให้ผมเร่งสปีดการดื่ม แต่ตอนนี้กลับมาปรามไม่ให้ผมดื่มหนักมากซะงั้น

“ไปไม่ไหวก็ลาสิครับเพื่อนเหมา ช่วงนี้งานกูไม่ค่อยมีไร แถมวันลาก็เหลือเยอะ”ผมตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดี เพราะนี่ก็กะว่าจะลางานอยู่เหมือนกัน รู้สึกอยากนอนพักนิ่งๆ สักวัน

“เมื่อไหร่ไอ้แว่นจะมาสักทีว่ะ นี่ไม่ใช่แอบเบี้ยวอีกนะเนี่ย”ไอ้เหมาเริ่มบ่นอีกคน ที่ผมเห็นแล้วว่ากำลังเดินมาทางด้านหลังของไอ้เหมา เค้าหันมาสบตาพร้อมยิ้มทักทายผม ผมยิ้มตอบจนไอ้เหมาต้องหันกลับไปมอง เค้ากล่าวทักทายผมและไอ้เหมา ก่อนจะเลิกนั่งลงฝั่งเดียวกับไอ้เหมา

“อ่ะ อ่ะ อ่ะ พอต่างคนต่างมีแฟนนี่ไม่ยอมนั่งข้างกันเหมือนแต่ก่อนเลยน้า”ไอ้เหมาเอ่ยแซวตามประสา แต่ก็ทำเอาผมชะงักไปนิดหน่อยเหมือนกัน แต่ผมเลือกที่จะไม่ตอบโต้อะไรกับไอ้เหมา ผมยกแก้วขอชนกับอีกสองคน ก่อนจะดื่มจนหมดแก้ว

“พร้อมหน้าพร้อมตากัน แล้ว ทีนี้ก็มาถึงช่วงล้วงลับชีวิตรักของพวกมึง เริ่มจากมึงก่อนเลยไอ้ตี้”ไอ้เหมาพูดพร้อมกับเดินอ้อมมานั่งข้างผม ผมถอยห่างออกอย่างระแวง เพราะไม่คิดว่าการที่มันย้ายมานั่งข้างผมจะมาแค่ตั้งคำถามเฉยๆ

“ไอ้เชี่ย ทำไรเนี่ย”ผมรีบผลักมันออก เพราะไอ้เหมาเล่นมาดึคอเสื้อผม

“ชัดเลย ไม่ต้องสืบต่อ”ผมแทบจะรู้ทันทีว่าไอ้เหมา มันเห็นอะไร จริงอยู่ว่าผมไม่ได้มีอะไรกับคุณอรรถลึกซึ้ง แต่รอยจูบทั้งแถวๆ ซอกคอ ตามตัวผม มันก็ยังพอมองเห็นอยู่ ตอนอาบน้ำผมก็พอเห็นแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่คิดว่าจะมีใครมาเปิดดูใต้ร่มผ้าของผมขนาดนี้

“มึงนี่แมร่ง ไม่รักนวลสงวนตัวเลย คบกะเค้าไม่นานก็เสร็จเค้าซะแล้ว”ป่วยการที่จะปฏิเสธครับ ยิ่งมีร่องรอยขนาดนี้ ยิ่งยากที่ผมจะปฏิเสธ แต่ก็ดีเหมือนกันครับ ผมจะได้รีบย้ำสถานะกับคุณแว่น ซึ่งจริงๆ อาจจะไม่มีผลอะไรกับเค้าก็เป็นได้ เพราะตอนนี้เค้าเองก็คงมีคนที่คบแล้ว ผมมองหน้าเค้าที่ก็หันมองผมแวปนึงก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง

“ทีนี้ตามึงไอ้แว่น บอกมาว่ามึงจีบใครอยู่”เมื่อมันได้คำตอบจากผม แถมเป็นคำตอบที่มันทึกทักเอาเองเสร็จสรรพ มันก็กลับไปนั่งข้างคุณแว่น เค้าหันมาสบตาผมเล็กน้อยทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนถามเค้า

“ไว้ถ้ากูคบกันจริงๆ แล้วจะบอกละกัน ตอนนี้ยังไม่ได้คบ”เค้าบอกเรียบๆ แต่ไอ้เหมาดูจะฟึดฟัดพอสมควรที่ไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ มันเลยหยิบบุหรี่ลุกออกจากโต๊ะไป

“เหมือนเราไม่เจอกันนานเลยเนอะ”ทันทีที่ไอ้เหมาลุกออกไป เค้าก็เอ่ยถามขึ้น ผมเพียงตอบรับสั้นๆ เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเค้าเหมือนกัน แล้วเราก็ต่างเงียบกันไปพักใหญ่

“แล้วนี่ไปทะเลมาสนุกไหม”เค้าเริ่มถามต่ออีกครั้ง

“ก็ดี”ผมตอบผ่านๆ เพราะการไปหัวหินของผมมันก็ไม่ได้น่าประทับใจสักเท่าไหร่

“เป็นไรรึเปล่า”และเค้าคงจับสังเกตได้จากน้ำเสียง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรเพิ่มเติม ไอ้เหมาก็เดินกลับเข้ามาทำให้เราต้องจบบทสนทนาเพียงแค่นั้น เราดื่มกันต่อจนเกือบเที่ยงคืน จึงตกลงแยกย้ายกันกลับ เพราะต่างคนต่างต้องทำงานในตอนเช้า แต่ผมกะว่าจะลาหยุดอยู่แล้วเลยไม่ได้ซีเรียสมาก

“พวกมึงจอดรถตรงไหนกัน”ไอ้เหมาที่ถึงรถแล้วเพราะตอนมา มาถึงเร็วกว่าใครเพื่อน มันหันมาถามผมกับคุณแว่น

“ข้างในโน่นเลย”ผมชี้ไปด้านในของลานจอดรถ

“เหมือนกัน”อีกคนตอบ ไอ้เหมาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะขึ้นรถขับออกไป ผมกับคุณแว่นก็เดินกันต่อเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนมาถึงรถผม

“เราไม่ได้เอารถมา กลับด้วยนะ”นั่นไง ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่บอกว่ารถจอดแถวๆ เดียวกับผมแล้ว เค้าแย่งกุญแจรถในมือผม แล้วชิงขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับโดยไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ปฏิเสธ นี่เค้าจะทำอะไรอีก ในเมื่อเราก็ตกลงกันแล้วว่าจะเลิกความสัมพันธ์แบบเดิม แต่ไอ้การที่เค้าจงใจไม่เอารถมาและจะมากลับพร้อมผมแบบนี้

“เดี๋ยวไปส่งชาร์ปที่บ้านก่อน แล้วเราค่อยกลับละกัน”ผมว่านี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เค้าไม่ได้แย้งอะไรผม แต่การที่ผมยอมให้เค้าได้ถือกุญแจรถนี่เป็นสิ่งที่ผมพลาดมากๆ เพราะพอถึงบ้านเค้า เค้าดันไม่ยอมคืนกุญแจรถให้ผม

“เราตกลงกันแล้วนะชาร์ป ขอกุญแจรถคืน เราจะกลับบ้าน”ผมแสดงสีหน้าให้เค้ารู้ว่าไม่เล่นเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว

“มันดึกมากแล้ว ค้างที่นี่แหละ มันอันตราย เราไม่ทำอะไรหรอกน่า แค่เป็นห่วงจริงๆ”ผมจ้องมองเค้าที่มีท่าทีจริงจัง พยายามมองให้ดีว่านี่เค้ามีอะไรแอบแฝงอีกรึเปล่า เพราะถ้าต้องค้างกับเค้าจริงๆ ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าจะห้ามตัวเองไม่ให้เกิดเรื่องแบบเดิมขึ้นได้หรือเปล่า

เมื่อวิเคราะห์แล้วว่าเค้าคงไม่ปล่อยผมกลับบ้านแน่ๆ และคงไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นจากการตกปากรับคำของเค้า ผมตัดสินใจค้างที่บ้านเค้า เราต่างคนต่างแยกกันอาบน้ำ ผมเกือบลืมไปเลยว่านี่ผมยังมีเสื้อผ้าหลงเหลืออยู่ที่บ้านเค้าด้วย ตั้งแต่วันที่เราตกลงว่าจะหยุดความสัมพันธ์แบบ sex friends ผมก็ยังไม่ได้มาบ้านเค้า เค้าก็ยังไม่ได้ไปบ้านผมอีก เพราะงั้นข้าวของ ของทั้งผมและเค้าก็ยังมีอยู่ที่บ้านของอีกฝ่าย ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อยดี เค้าไม่ได้รุ่มร่ามหรือมาวอแวอะไรกับผม แต่แค่ผมหลับตาลง

“ทำอะไรเนี่ย”ผมลืมตาขึ้นมองคนที่ขึ้นมาคร่อมทับตัวผม ผมกำลังจะลุกขึ้น แต่โดนเค้าจู่โจม โน้มหน้าลงจูบผม ผมพยายามขัดขืน แต่เหมือนแรงผมจะสู้เค้าไม่ได้ มือที่พยายามดันเค้าออก ถูกเค้าใช้มือเดียวรวบข้อมือผมไปไว้เหนือศีรษะ พร้อมกับร่างของเค้าที่กดทับ เบียดมาที่ผม จนผมขยับหนีไม่ได้ ผมพยายามจะพูดกับเค้าแต่ปากผมก็ถูกบดเคล้าจากปากของเค้าอย่างเร่าร้อน ก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผม มืออีกข้างของเค้าตอนนี้สอดเข้ามาในเสื้อตัวบางของผม ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้แผงอก ลากลงไปที่หน้าท้อง

“อย่าทำแบบนี้”ผมพูดขึ้นทันทีที่เค้าถอนริมฝีปากออก พยายามฝืนพูดออกไปเผื่อเค้าจะหยุดการกระทำนี้ เพราะเรี่ยวแรงตอนนี้ผมสู้เค้าไม่ได้อยู่แล้ว แถมร่างกายผมมันก็ตอบรับสัมผัสของเค้าเสียจนผมรู้สึกเกลียดตัวเอง

“เฮือก”ผมสะดุ้งทันทีที่เค้าลากมือจากท้องน้อย ล้วงเข้าไปใต้กางเกงของผมอย่างรวดเร็ว เค้ากอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมรูดขึ้นลงโดยไม่ได้ขออนุญาต แม้จะอยากปฏิเสธ แต่ร่างกายของผมกลับทำในสิ่งตรงกันข้าม ผมบิดตัวเพราะความหวาบหวาม และเผลอครางออกมา จนต้องกัดริมฝีปากตัวเอง แต่อีกคนเหมือนจะยิ่งได้ใจ เพราะเค้าส่งเสียงในลำคออย่างผู้มีชัยเล็กน้อย ก่อนจะขบลงเบาๆ ที่ยอดอกของผม

“ยะ..หยุ..หยุด..เถอะ”แม้สติผมจะเริ่มกระเจิดกระเจิง แต่ผมก็ยังไม่ละความพยายามที่จะปฏิเสธเค้า เค้าหยุดดูดเม้มยอดอกผม เลื่อนหน้าขึ้นมากระซิบที่ข้างหูผม

“ตี้เคยบอกเราว่า อย่าเชื่อที่ตี้พูด จำได้ไหม”เค้าพูดก่อนจะหัวเราะในลำคอ

“ตรงไหนที่แฟนตี้ทำรอยไว้ เราจบทำรอยใหม่ทับไปให้หมด”พูดจบริมฝีปากเค้าก็เริ่มพรมจูบ ดูด กัด ตั้งแต่ต้นคอ ไล่ไปจนจะทั่วตัว เหมือนกำลังสร้างร่องรอยทิ้งไว้ในทุกพื้นผิวของผม ส่วนมือของเค้าที่กอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมไว้ก็เร่งจังหว่ะ ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดผมก็ฝืนร่างกายไว้ไม่ไหว ปล่อยเสียงครางออกมา

“มะ...ไม่...ไม่ไหวแล้ว...”ผมส่งเสียงออกไปแผ่วเบา แต่ก็ดังพอที่จะทำให้อีกคนได้ยิน เค้าเร่งจังหวะมือกระชั้นชิดขึ้น พร้อมกับเลื่อนขึ้นมาประกบปาก บดขยี้เข้ามาอย่างหนักหน่วง ผมเกร็งกระตุกปล่อยน้ำสีขาวขุ่น ที่คงเลอะเต็มฝ่ามือของเค้า ผมพยายามขืนตัวออกเพื่อให้หลุดจากจูบที่ดูดดื่มของเค้า

“แฮ่กๆ”ผมหอบหายใจ สูดอากาศเข้าปอด แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สูดหายใจเข้าเต็มปอดก็รู้สึกว่าขาผมถูกแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความรู้สึกเย็นวาบที่ช่องทางด้านล่าง นี่เค้าจะไม่ให้ผมหายใจหายคอเลยหรือยังไง ผมเกร็งตัวทันทีที่รับรู้ว่าอีกฝ่ายสอดนิ้วเข้ามา ผมเงยหน้ามองอีกคนที่ยิ้มหื่นมาที่ผม ผมต้องบิดตัวพร้อมกับบีบไหล่เค้าอย่างแรงเมื่อนิ้วของเค้าคว้านเข้ามาโดนจุดเร้าของผม คุณแว่นยิ้มพอใจก่อนจะก้มมากระซิบข้างหู

“รู้สึกดีใช่ไหม”ผมไม่ตอบแต่เอื้อมมือดึงศีรษะของเค้าเข้ามาหา ก่อนจะเป็นฝ่ายเริ่มจูบเค้า แววตาเค้าดูมีความพึงพอใจอย่างมากที่เห็นปฏิกิริยาของผม

“อยากให้เราใส่เข้าไปรึยัง”เค้าดึงมือผมไปจับแกนกลางลำตัวของเค้าที่ตอนนี้มันร้อนจนเหมือนพร้อมจะแผดเผามือของผม ผมพยักหน้าตอบรับอย่างยอมแพ้ ท้ายที่สุดผมก็ทำอย่างที่พูดไม่ได้

“เฮือก”ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเค้าใส่แกนกลางนั้นรวดเดียวเข้ามาในตัวผม จนผมต้องจิกเล็กลงบนแผ่นหลังของเค้า ผมยั้งเค้าไว้ยังไม่ให้ขยับ เพื่อรอให้ผมคุ้นเคยกับสิ่งที่เค้าใส่เข้ามา

เค้าค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ จนผมเริ่มคุ้นชินแล้ว จังหวะการเคลื่อนตัวเข้าออกของเค้าก็เริ่มเร็วขึ้น ผมเองก็ขยับไปตามจังหวะของเค้า เสียงกายกระทบกันของเราส่งเสียงตามจังหวะ แม้อุณหภูมิในห้องจะถูกปรับให้เย็นฉ่ำ แต่เม็ดเหงื่อของเราทั้งคู่ก็ยังพรั่งพรูออกมา เราต่างไม่มีใครยอมใคร

“ตี้...ตี้...อื้อ...อา”เค้าส่งเสียงเรียกชื่อผม พร้อมกับโหมกระหน่ำจังหวะเข้าหาผมอย่างหนักหน่วง แต่ผมกัดริมฝีปากแน่น บิดตัว ขาเกร็ง ปลายเท้าแทบจะจิกลงบนที่นอน และเมื่อเค้าเร่งจังหว่ะขึ้นอีก ผมก็ปลดปล่อยออกมาอีกรอบ เค้ากระแทกเข้ามาในตัวผมอีก สามสี่ครั้ง ก่อนผมจะรู้สึกอุ่นวาบจากน้ำรักที่เค้าปล่อยเข้ามาในตัวผม

ผมทิ้งตัวลงนอนหอบที่เตียง คุณแว่นค่อยๆ ถอนกายออกจากตัวผมช้าๆ ก่อนจะก้มลงมาพรมจูบที่ใบหน้าของผม เสียงหายใจกระเซ่าของเค้าบอกผมว่าคืนนี้มันคงยังไม่จบแค่นี้แน่ๆ เค้าล้มตัวลงนอนข้างๆ ดึงผมเข้าไปหา พร้อมพูดเสียงแผ่วเบา

“ระหว่างเรากับแฟนตี้ใครทำให้ตี้รู้สึกดีมากกว่ากัน”




TBC


มาต่อคร๊าบบบ

คาดว่าน่าจะมีคนหมั่นไส้ทั้งคุณแว่นและตี้




ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไมพี่แว่นทำงี้อ่าาา ฮือออ
ง้อดีๆไม่ได้เหรอออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด