}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31  (อ่าน 408237 ครั้ง)

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
กลับมาตามคำเรียกร้อง เร่าร้อนสมกับที่หายไปนาน :z1:
ตกลงคือชอบที่ต้องเสียสละทำให้ป๋าอารมณ์ดีใช่มั๊ยจ๊ะมิท
ดีใจด้วยนะที่ได้กลับไปเรียนตามปกติแล้ว ได้กลับไปหาเพื่อนๆ
แต่แค่ไปเรียนวันแรกก็ทำเอาหมดแรงเลยเนาะมิท
ไม่ใช่เรื่องเรียนแต่เป็นเรื่องป๋า ทั้งงานราษฎร์งานหลวง
จะมีใครเหนื่อยไปกว่ามิทอีกมั๊ยเนี่ย :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ชิ ขัดจังหวะซะได้ แหมะ :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอแรงๆซักตอนได้ไหมง่ะ ยังไม่สะใจเลยอารมณ์แบบจะเสร็จแต่ก็ไม่ต้องมานั่งจินตนาการเอง555555 กูพิมพ์อะไรลงไปเนี้ยยย ขอบคุณที่ยังมาลงต่อ รักคะ ติดตามตลอดเลยจ้าาา :hao3:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ขอแรงๆซักตอนได้ไหมง่ะ ยังไม่สะใจเลยอารมณ์แบบจะเสร็จแต่ก็ไม่ต้องมานั่งจินตนาการเอง555555 กูพิมพ์อะไรลงไปเนี้ยยย ขอบคุณที่ยังมาลงต่อ รักคะ ติดตามตลอดเลยจ้าาา :hao3:

ใจจริงก็อยากแต่งแบบจัดเต็มเหมือนกันนะ แต่คู่นี้ฉากเรทบ่อยมว้ากกกก เลยต้องหักห้ามใจเอาพอกรุบกริบ ไม่งั้นจะกลายเป็นนิยายเรท  :hao7:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
อยากอ่านต่อแล้ว คุณคนเขียนคะ มาต่อเถ้อ...

ออฟไลน์ Rabbitongrass

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตามมาจากคู่เมียทารุณกรรมผัว(ซัน-โป้) มาเปลี่ยนบรรยกาศผัวทารุณกรรมเมียบ้าง 555
เข้าใจว่าพล็อตเรื่องนนี้มันต้องฉีกเเนวไปจากไทม์ใลน์ของคู่อื่นเพราะอาชีพของป๋า เเต่อยากให้เฉลยว่าช่วงที่มันคู่ขนานไปกับเรื่องของคู่อื่นให้มากกว่านี้ จะได้ไม่ต้องอ่านไปงงไป ส่วนอีหนูของป๋าก็รีบๆบอกป๋าเรื่องเเม่ซะทีสิ(ชักอยาเผือกเเล้ว555)

ป.ล. พี่เดฟเอาน้องมะลิเขาตึกจะง่ายกว่านะ เผื่ออีหนูกะโทริจะได้ชวนไปตั้งสมาคมคนมีผัวเถื่อน+เข้าคอรส์ฝึกป้องกันตัวโดยครูในท์

ป.ล.2 ทำใมอีหนูชื่อมิททรี่เเทนที่จะเป็นดมิททรี่??

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่18 ก็แค่คนธรรมดา

   ผลของการเป็นเหยื่อบูชายัญคงไม่ต้องอธิบายให้มากความ วันต่อมาร่างกายหนักอึ้งเหมือนมีรถสิบล้อมาทับจมดับคาเตียง มึนหัวโลกหมุนถึงกับคลื่นไส้อาเจียนหลายรอบ ยังดีที่ไมค์เข้ามาดูแลยกถังขยะรองได้ทัน ไม่งั้นคงมีรายการซื้อเตียงใหม่ยกชุด

   ปกติผมเป็นพวกคอแข็งก็จริง แต่เจอเหล้าดีกรีแรงขนาดจุดไฟติดแบบเพียวๆ ไปหลายปาก(เพราะป๋าป้อนด้วยปาก) ผสมกับเพลิงกามที่ลุกโชติช่วงระยะหนึ่ง สังขารน้อยๆ ของผมก็พังทลายเหมือนผ่านสงครามโลกครั้งที่สาม ทรมานจนแทบอยากจะขอยาสลบให้มันรู้แล้วรู้รอด

   ไม่สิ ขอไปแล้วต่างหาก แต่ไมค์ไม่ให้เพราะผมอาจจะสลบไปตลอดกาล เลยทำได้แค่รักษาไปตามอาการ มึนหัวก็ให้นอนนิ่งๆ ปวดเมื่อยใช้ยาช่วยบีบนวดคลายกล้ามเนื้อ ส่วนด้านล่าง...ก็ใช้ยาทานั่นแหละ แน่นอนว่าผมทาเอง มีบางช่วงที่ป๋าแวะเข้ามาดูอาการแล้วช่วยทาให้

   ทาเฉยๆ นะ ไม่มีอะไรแอบแฝง ถึงลูเซียสจะมักมาก ต้องการไม่สิ้นสุดแต่ก็มีลิมิตของตัวเอง ไม่งั้นผมคงตายไปนานแล้ว ด้วยเหตุนี้เจ้าตัวเลยลั่นวาจาว่าจะไม่แตะต้องผมมากเท่าเดิม เพื่อให้ผมพักฟื้นร่างกายและทุ่มเทกับการเรียนให้เต็มที่

   ในใจก็นึกอยากเถียงนะ รู้สึกตัวช้าไปไหมป๋า เล่นอีหนูซะเดี้ยง อดไปมหา’ลัยหนึ่งวันเต็ม ชวดเลยสองคลาสรวด แม้ไมค์จะออกใบรับรองแพทย์ให้ก็เถอะ หยุดก็คือหยุด ต้องไปตามบทเรียนทีหลังอีก ผมโอดครวญได้แค่ในความคิดเท่านั้น ไม่อาจหาญพอจะพูดออกไปหรอก ยังไงป๋าก็ยอมถอยให้แล้วล่ะนะ ทั้งที่ฐานะของป๋าจะไม่สนใจใยดีผมก็ได้

   พูดวกไปวนมา เริ่มสับสนตัวเอง ช่างมันแล้วกัน เอาเป็นว่าวันนั้นทั้งวันผมนอนเป็นซากอยู่บนเตียง ตกกลางคืนเป็นหมอนข้างให้ลูเซียส พอเช้ามาเริ่มฟื้นสภาพก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวไปมหา’ลัย งานนี้คนที่ติดตามผมคือพี่อาคมกับการ์ดอีกสองคน

   ผมสำนึกแล้ว ไม่ดื้อไม่ซนใช้การ์ดแค่นี้ก็เพียงพอ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือ หลงยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาจากรัสเซีย ทุกคนในตึกไม่พูดถึงด้วย พอผมถามก็บอกว่าติดภารกิจส่วนตัวซึ่งไม่รู้อีกว่าภารกิจอะไร เอาเป็นว่าคงไม่ได้กลับมาเร็วๆ นี้ ทางฝั่งไมค์เองแม้จะยังเป็นหมอส่วนตัวผมตามเดิม เพิ่มเติมคือทำงานบางส่วนแทนพี่อาคม เป็นการฝึกงานเพื่อรับช่วงต่อในอนาคต ดังนั้นการจัดทีมการ์ดเลยเป็นแบบที่เห็น ไนท์ยังบอกว่าพี่อาคมมาดูแลผมก็ไม่ต่างจากการได้พักร้อน

   หนึ่งวันของพี่อาคม ตอนเช้าไปส่ง ระหว่างนั้นนั่งเฝ้า ตอนเย็นรับกลับ ตรวจงานของไมค์ เสร็จงานก็พักผ่อน หากเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ทำงานหนักวิ่งหัวหมุนทุกวัน มันก็คือการพักจริงๆ นั่นแหละ

   ผมพอเข้าใจนะว่าทำไมลูเซียสถึงทำแบบนี้ ไม่ได้คิดจะปลดพี่อาคมออกจากตำแหน่งหรอก พี่อาคมทำงานเก่งแถมลูเซียสกับไนท์เชื่อใจจะตาย แต่ที่ลดงานเพราะอายุของพี่อาคมก็ไม่ใช่น้อยๆ งานหนักๆ ก็ควรปล่อยให้รุ่นใหม่รับช่วงบ้าง ส่วนตัวเองมาเก็บรายละเอียดเช็คความเรียบร้อยอีกที

   ขอจบการรายงานความเคลื่อนไหวของคนรอบตัวผมไว้เพียงเท่านี้ กลับสู่สถานการณ์ปัจจุบัน ผมได้กลับมาเหยียบมหา’ลัยเป็นวันที่สองแล้วครับ! สุดแสนจะดีใจ ไม่เคยรักมหา’ลัยเท่านี้มาก่อนเลย

   ขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ พี่อาคมเรียกผมไว้ซะก่อน ในรถมีแค่ผมกับพี่อาคมนะ ส่วนการ์ดอีกสองคนขับรถอีกคันตามห่างๆ ไม่ได้ติดตามเป็นเงาเหมือนการ์ดอาวุโส

   “คุณหนู บอสฝากบอกว่า ถ้าจะเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกเรียนอนุญาตให้ไปได้ แต่ต้องแจ้งให้ผมทราบและห้ามกลับดึกเกินหนึ่งทุ่ม ดีใจด้วยนะครับ” หนุ่มใหญ่เอ่ยเสียงนุ่มยิ้มอย่างใจดี ผมยิ้มแห้งๆ ไปให้

   “มันก็น่าดีใจอยู่หรอก แต่กว่าจะเรียนก็เย็น ให้ไปเที่ยวแต่ห้ามกลับช้ากว่าหนึ่งทุ่มแบบนี้มันแทบไม่ได้ทำอะไรเลยนี่”

   “ก็ยังดีกว่าไม่มีเวลาเที่ยวนะ”

   มันก็จริง...พอนึกถึงช่วงโดนกักตัว รู้สึกเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงนี่มันช่างมีค่าเหลือเกิน! ผมเอ่ยปากขอบคุณยกมือไหว้พี่อาคม

   “ผมไปเรียนก่อนนะพี่อาคม ไว้เรียนเสร็จจะเที่ยวหรือไม่เที่ยว ผมจะโทรไปบอกอีกที ขอบคุณที่มาส่งครับ”

   “ด้วยความยินดี ขอให้สนุกกับการเรียนครับคุณหนู” พี่อาคมอวยพรทิ้งท้าย ก่อนจะขับรถจากไปหาที่เหมาะๆ ในการจอดรอ ผมเองก็หมุนตัวเดินเข้าคณะ ชื่นชมกับบรรยากาศในรั้วมหา’ลัยให้เต็มที่

   ระหว่างที่กำลังชมนกชมไม้ก็โดนคว้าไหล่ด้วยแรงไม่น้อย ผมที่ถูกครูฝึกจอมโฉดอย่างไนท์เคี่ยวกรำมาพอสมควร ปฏิกิริยาตอบรับสัมผัสนั่นทันที คว้าข้อมือหมุนได้องศาจบด้วยท่าล็อคแขนบุคคลปริศนาไว้ด้านหลัง มืออีกข้างยึดไหล่อีกฝ่ายไว้มั่น หากผมออกแรงเพียงนิดเดียว ข้อต่อไหล่ได้หลุดแน่

   “โอ๊ยยย!”

   เสียงร้องกับแผ่นหลังคุ้นเคยทำเอาผมรีบปล่อยมือแทบไม่ทัน ตายล่ะ มือลั่น...

   “เจ็บๆ ไม่เจอกันแค่พักเดียวทำไมมึงโหดขนาดนี้วะ” ริวหันมาโอดครวญกับผม ผมเพียงหัวเราะเบาๆ แบบที่ชอบทำ แล้วช่วยจับไหล่บีบนวดคลายอาการปวดให้ตามความรู้ที่เรียนมา

   “โทษทีๆ แล้วนี่มึงมีเรียนเช้าเหรอ” หวังว่าคงยังไม่ลืมกันนะครับ แม้ว่าสี่สหาย ผม ซัน ริว วา จะเรียนอยู่คณะเดียวกัน แต่ต่างสาขา จึงมีบางวิชาที่ไม่ได้เรียนตรงกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนดรอปเรียนอย่างผม ต้องตามเก็บวิชาในขณะที่เพื่อนไปเรียนวิชาอื่นกันแล้ว

   “มี วิชาเดียวกับมึงนั่นแหละ พอดีกูเห็นมึงเลยเข้าไปทัก ไม่คิดเลยว่าจะได้รับการตอบรับแสนอบอุ่นขนาดนี้” หนุ่มญี่ปุ่นตัวสูงโย่งหมุนๆ แขนอย่างรู้ทางว่าควรทำยังไง ความจริงริวมันก็ต่อสู้เก่งนะ ไม่ใช่วิชาหมูหมากาไก่ หมัดมวยของพวกนักเลงด้วย แต่เป็นวิชาการต่อสู้เลย มันไม่เคยบอกหรอก ผมแค่สังเกตเห็นเวลามีเหตุต่อยตีกับคนอื่น

   ถือว่ามันยังมีฝีมือมากกว่าผม สามารถยั้งสัญชาตญาณของตัวเองได้ทัน ไม่สวนกลับให้ผมได้รับบาดเจ็บแทน ถ้าไนท์มาเห็นคงจะชื่นชมพร้อมกับหันมาแขวะลูกศิษย์ไม่ได้เรื่องอย่างผมแน่นอน

   “กูก็ขอโทษแล้วไง โชคดีที่ได้เจอมึง คิดถึงว่ะ” ผมพูดไปตามที่คิด ริวหัวเราะฮ่า ตบหลังซะผมตัวเซ พวกเราเดินเข้าตึกด้วยกัน

   “ปากบอกคิดถึงแต่หายหัวไปเลยนะมึง กลับไทยแทนที่จะมาเจอเพื่อน ดันเอาของฝากให้พี่อาคมมาส่งอีก”

   ผมถอนหายใจ “เสียเวลาทำกายภาพบำบัดมาน่ะ แถมป๋ากูยังกักตัวอีก บอกว่าถ้ายังไม่หายห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”

   พูดถึงตรงนี้มันเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ก้มมองขาข้างซ้ายของผม หน้านิ่วคิ้วขมวดเคร่งเครียดอย่างกับเป็นตัวเองที่บาดเจ็บ

   “แล้วตกลงป๋ามึงปล่อยตัวมาแบบนี้ แสดงว่าหายแล้วสินะ มีอาการแทรกซ้อนอะไรรึเปล่า ขยับขาได้ปกติไหม ไม่เจ็บเวลาก้าวนะ” และอื่นๆ อีกเป็นชุด แม้จะอ่อนใจ แต่ผมรู้สึกตื้นตันมากกว่า ในกลุ่มเพื่อนทุกคนผมสนิทกับริวมากที่สุด มันคอยตามเป็นห่วงผมเสมอ มื้อเที่ยงวันไหนผมไม่ไปกินข้าว มันก็จะตามหาซื้อข้าวกล่องมาให้ แล้วยังช่วยผมโกหกซันอยู่หลายครั้ง

   มันเป็นเพื่อนที่ดีมากจริงๆ และผมกำลังโกหกเพื่อนตัวเอง...ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้สนใจ เพราะชีวิตมีเรื่องอื่นให้กลุ้มมากกว่า พอมาตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวก็เกิดรู้สึกละอายใจขึ้นมา สีหน้าผมเลยดูหม่นหมองไปหน่อย ไอ้ริวกลับคิดว่าผมเจ็บขาซะงั้น

   “ยังเจ็บอยู่สินะ ขึ้นบันไดไหวรึเปล่า จะจับกูก็ได้นะเดี๋ยวช่วยพยุง” ริวว่าพลางยื่นแขนมาให้จับระหว่างเดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นหน้าตึก ผมมองแขนมันเลยไปถึงใบหน้าที่ฉายชัดถึงความเป็นห่วง อกซ้ายของผมรู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนโดนเข็มทิ่มแทง

   ผมยกมือขึ้น ไม่ได้จะจับแขนมันเพื่อพยุง แต่ยกเพื่อโอบบ่าเพื่อนแน่นๆ บ่งบอกว่าผมไม่เป็นไร

   “ไม่เจ็บแล้วล่ะ ป๋ากูพาไปหาหมอถึงญี่ปุ่น จะยังเจ็บอยู่ได้ยังไง เพียงแค่กูใช้ขาไม่ได้มากอย่างเก่า ถ้าเดินหรือวิ่งเยอะจะเจ็บแปล๊บๆ เหมือนคนแก่เป็นโรคเส้นเท่านั้นเอง” ผมพูดแกมหยอกให้มันคลายกังวล สีหน้าริวค่อยดูดีขึ้น

   “งั้นเหรอ...ดีแล้วๆ” พวกเราไม่ได้พูดอะไรกันอีก ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทีแรกริวมันจะเดินขึ้นบันไดด้วยความเคยชิน ปกติเราจะชอบเดินขึ้นลงมากกว่าใช้ลิฟต์ เพราะไม่อยากเบียดและจะได้ออกกำลังกายไปในตัว แต่พอพูดเรื่องของผม ริวก็เปลี่ยนทิศมายืนรอลิฟต์แทน

   ตอนนี้ยังเช้า คนเลยยังไม่ค่อยมา แถวนี้เลยมีแค่ผมกับริวและคนอื่นๆ อีกไม่กี่คน จู่ๆ มันก็พูดขึ้นมาลอยๆ ทั้งที่ตายังจ้องตัวเลขนับถอยหลังเหมือนสภาพจิตใจของผมตอนนี้เลย
   
   “มิท เมื่อกี้กูเห็นมึงมามหา’ลัยด้วยรถสองคัน ดูยังไงก็ไม่ใช่รถธรรมดา แล้วยังป๋าที่มึงชอบพูดถึงบ่อยๆ อีก” มันหยุดแล้วเลื่อนสายตามามองผมพร้อมกับเสียงเตือนว่าลิฟต์มาถึงแล้ว “กูจะไม่ถามเพราะกูรู้ดีว่ามึงคงจะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกตามเคย แต่อยากให้มึงรู้ไว้ ว่ากูกำลังรอคำตอบจากปากมึงอยู่ตลอด”

   ผมมองเข้าไปในดวงตาแน่วแน่คู่นั้น สุดท้ายเป็นผมที่ละสายตา ทั้งที่ผ่านมาผมไม่เคยเป็นแบบนี้ แม้จะเป็นลูเซียสก็ตาม

   “เมื่อไหร่ที่กูพร้อม...กูจะบอกมึงเอง ช่วยรออีกหน่อย อีกไม่นานหรอก...” ผมพูดระหว่างเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วหันมาเห็นริวที่ยืนนิ่งอยู่ด้านนอกไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาสักที จนทุกคนในลิฟต์พากันมอง

   พวกเราจ้องตากันอยู่แบบนั้น ใบหน้าของริวไม่มีรอยยิ้มเช่นเคย ผมรู้สึกหน่วงจนต้องลอบผ่อนลมหายใจออกมา สวนทางกับท่าทีปกติภายนอก ดูเผินๆ เหมือนการเข้าลิฟต์ปกติ แต่เราสองคนรู้ดี หากก้าวตามมาก็เหมือนกับยอมรับคำพูดของผม แต่ถ้าไม่...

   และแล้วริวก็ก้าวเข้ามา พูดให้ได้ยินเพียงแค่สองคน

   “ครั้งสุดท้ายมิท...หวังว่าครั้งนี้มึงจะพูดความจริง”

   ผมกำหมัดแน่น รู้สึกตื่นตระหนก ริวพูดเหมือนมันรู้อะไรมา พอผมเงยหน้ามองมันกลับมายิ้มเป็นหมาปัญญาอ่อนเหมือนเคย แต่แววตาคู่นั้นไม่โกหก มันหมายความตามนั้นจริงๆ

   ผมหลับตา เข้าใจแล้ว เข้าใจทุกอย่าง ทุกคนย่อมมีขีดจำกัดของตัวเอง ผมปิดตามันมานานเกินไป คงถึงเวลาที่ผมจะบอกเรื่องทุกอย่าง แต่ยังก่อน ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน

   ขอให้ผมได้มั่นใจกว่านี้อีกนิด ว่าถ้าพูดไปแล้วผมจะไม่เสียพวกเพื่อนคนสำคัญไป ชีวิตของผมก็อย่างที่ทุกคนรู้ สิ่งสำคัญมีน้อยเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดเรื่องแย่ๆ ในชีวิต คนที่พอจะยึดเหนี่ยวผมไว้ได้ นอกจากแม่ก็คือพวกเพื่อนที่เพิ่งมาเจอกันตอนมหา’ลัย แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาไม่นาน แต่มันก็ทำให้ผมนึกถึงความสนุกของวัยเรียนอย่างในอดีต

   มันทำให้ผมมีความหวัง ฝันว่าจะออกจากโคลนตม ไขว่คว้าหาอนาคตที่อยู่ข้างหน้าและก้าวเดินไปพร้อมกับพวกมัน ผมถึงตั้งใจเรียน พยายามหาเงินให้ได้มากๆ วางแผนไว้ว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะหางานดีๆ ทำจะได้เลิกอาชีพเก่า เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ยืนหยัดอยู่กับเพื่อนด้วยประวัติหมดจน

   ความจริงมันโหดร้ายเสมอ ตัวตนของผมไม่ได้เข้าใกล้แสงสว่างเลยสักนิด กลับยิ่งถอยห่างและจมอยู่ในโคลนมากกว่าเก่า ผมเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เอง ว่าผมกำลังหลอกตัวเอง

   บอกว่าโอเค บอกว่าไม่เป็นไร ลูเซียสเป็นคนดี ทุกคนหวังดีกับผม แต่ความจริงมันก็ยังโหดร้ายเสมอ พวกเขาที่ผมเริ่มนับว่าเป็นครอบครัวกลับอยู่ในวงการมืดด้วยมือเปื้อนเลือด ต่อให้เบื้องหน้าสวยงามแค่ไหนก็ไม่อาจลบล้างความจริงไปได้ แม้ลูเซียสจะมีท่าทีกีดกันไม่ให้ผมมีส่วนร่วมกับงานเขาชัดเจน แต่ผ้า ไม่ว่าสีอะไรหากอยู่ใกล้หมึกสีดำไม่นานก็จะซึมซับสีดำมา

   ผมไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้ ต้องพึ่งพาลูเซียสเท่านั้น และผมไม่ใช่คนเนรคุณพอที่จะสลัดทิ้งไปใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉย ลูเซียสคือผู้มีพระคุณ ผมต้องตอบแทน แม้ว่าสิ่งที่ผมต้องแลกเปลี่ยนกับมันจะมีมากมาย หรือมือผมจะต้องเปื้อนเลือดด้วยก็ตาม

   ผมตัดสินใจแล้ว และไม่มีวันเปลี่ยนใจ แค่อยากจะยืดช่วงเวลานี้ออกไป ให้ผมได้สัมผัสกับความธรรมดา ก่อนจะก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ไม่อาจหวนคืน
   
   ในตอนเด็กแม่เคยบอกผม ช่วงที่พ่อเริ่มติดการพนัน ดื่มเหล้าและทำร้ายพวกเรา แม่บอกว่า ผมช่างเจิดจรัสเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ขอให้ผมเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

   ผมเลยเป็นผมอย่างทุกวันนี้ ไม่ว่าเกิดอะไรก็ยังไม่ละทิ้งความหวัง ดังนั้น...ผมขอหวังให้ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าพวกเพื่อนจะรู้ความจริงก็ตาม

   “เฮ้ยถึงแล้ว ไปกันเถอะ เดี๋ยวตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกัน ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้ามานานนน” ริวลากเสียงหัวเราะเริงร่า ออกแรงฉุดมือผมออกจากลิฟต์ เดินไปตามทางในระดับเดียวกัน

   แม่...ได้โปรดอวยพรให้ผมด้วย ให้ผมเป็นดวงดาวอย่างที่แม่บอก ไม่ใช่เพียงเศษหินที่รอเวลาดับแสงลงอย่างไร้ค่า…

   “เอ่อ...กูจะรอตอนเที่ยงใจจดจ่อเลย” ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่ก่อนเวลานั้นจะมาถึง ผมขอตักตวงความสุข ณ ตอนนี้ให้ได้มากที่สุดแล้วกัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตามมาจากคู่เมียทารุณกรรมผัว(ซัน-โป้) มาเปลี่ยนบรรยกาศผัวทารุณกรรมเมียบ้าง 555
เข้าใจว่าพล็อตเรื่องนนี้มันต้องฉีกเเนวไปจากไทม์ใลน์ของคู่อื่นเพราะอาชีพของป๋า เเต่อยากให้เฉลยว่าช่วงที่มันคู่ขนานไปกับเรื่องของคู่อื่นให้มากกว่านี้ จะได้ไม่ต้องอ่านไปงงไป ส่วนอีหนูของป๋าก็รีบๆบอกป๋าเรื่องเเม่ซะทีสิ(ชักอยาเผือกเเล้ว555)

ป.ล. พี่เดฟเอาน้องมะลิเขาตึกจะง่ายกว่านะ เผื่ออีหนูกะโทริจะได้ชวนไปตั้งสมาคมคนมีผัวเถื่อน+เข้าคอรส์ฝึกป้องกันตัวโดยครูในท์

ป.ล.2 ทำใมอีหนูชื่อมิททรี่เเทนที่จะเป็นดมิททรี่??

เดี๋ยวจะมีเหตุการณ์เชื่อมระหว่างมิทกับคู่อื่นจ้า
ส่วนเรื่องชื่อ ตั้งมาแบบนี้แต่แรกอยู่แล้วอะ 5555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2017 19:59:01 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มิท บอกความจริงกับริวเถอะ
ดีกว่าปกปิด แล้วเพื่อนระแวงแคลงใจ
เพื่อนดีๆ ไม่ดูถูกกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เพื่อนดีๆ ยอมฟังเหตุผลของเพื่อน
เพื่อนดีๆ ยอมรับในตัวตนของเพื่อน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เพื่อนเป็นห่วงนะมิท อย่าทิ้งช่วงไปนานล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อิหนูของป๋าคิดมากเหมือนกันนะเนี่ย สู้นะ

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มีหลายเรื่องให้คิดเลยนคุณหนูมิท

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หวังว่าทุกอย่างจะผ่านๆปด้วยดีนะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ตอนนี้เราเฉยๆ นะ เรื่องมันค่อนข้างส่วนตัว
คิดจะให้บอกว่าไร?

ตรูเป็นเด็กขาย ตอนนี้มีป๋าที่เป็นมาเฟียเลี้ยง เป็นอีหนู
ท่าทางจะยั่งยืน เพราะเป็นลูกบุญธรรม?

ถ้ามีผลต่อการคบหาเช่น อาจทำให้ตกอยู่ในอันตราย หรือเสี่ยงตามไปด้วย ก็เข้าใจได้ แต่นี่ก็ไม่ใช่
รอมิทพร้อมก็ได้มั้ง จะกดดันไปเพื่อ?

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
มิทมีเพื่อนที่ดีนะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aun.kimjae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี๊ดดดดดตอนใหม่มาแล้ว!!!!! :sad4: อยากจุดพลุฉลองสามวันเจ็ดวัน :hao7:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่19 เพื่อน

   ถึงห้องเรียนเห็นซันนั่งอยู่แถวหน้า พวกผมเลยลากขาไปนั่งขนาบข้าง แสดงว่าวันนี้มีเรียนด้วยกันหมดเลยสินะ วิชาพื้นฐานของคณะเรา

   หนุ่มผิวเข้มหันมาหาผมก่อนขมวดคิ้วจ้องเขม็ง “หายแล้วเหรอ มึงถึงมาเรียน” คำถามเดียวกับใครอีกหลายคน แต่ทำให้ผมอุ่นใจอย่างประหลาด ผมยิ้มเลิกคิ้วท่าทางกวนส้นเหมือนเคย

   “ไม่หายจะเห็นกูเหรอ คิดถึงกูละซี้” อาจารย์ยังไม่เข้า มีเวลาคุยเล่น

   “เออคิด คิดว่าเมื่อไรมึงจะทำตัวเหมือนมนุษย์ธรรมดาเสียที ชอบหายหัวอยู่เรื่อย ถ้าไม่ติดว่าเรียนอยู่คณะเดียวกันกูคงไม่ต้องหวังจะเจอมึงแล้วใช่มั้ย”

   อุ้ย...ท่านซันพิโรธ

   ผมหัวเราะงัดสกิลการแถเนียนมาใช้ “แหมๆ ทำเหมือนคนทั่วไปมันน่าเบื่อแย่ อย่างฉันมันคนพิเศษ ชอบที่จะทำอะไรแตกต่าง” กอดอกเชิดหน้าแบบมั่นมาก ซันทำหน้าเหมือนเหม็นขี้ มีริวแทรกขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองชักเป็นส่วนเกิน

   “มิทมันก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ปล่อยมันไปเถอะ” ริวยังคงเป็นริวคอยช่วยเหลือผมเช่นเคย ผมรีบต่อบทสนทนาเป็นลูกคู่ นึกขอบคุณมันในใจ
 
   “ใช่ๆ แถมเดี๋ยวนี้พวกมึงคงไม่มีเวลามาสนกูแล้วมั้ง คนหนึ่งตามจีบลุงรหัส อีกคนกำลังเห่อเมียได้ที่” อันนี้ผมเดานะ ไม่ได้เจอพวกมันมานาน ยังไม่ได้อัพเดตข่าวสารจากสายข่าวในมหา’ลัยด้วย แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง

   ริวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำตัวอ่อนไหลลงไปกองฟุบหน้ากับโต๊ะ ส่วนซันยักไหล่กระตุกยิ้มมุมปากแบบน่าเอาเท้าลูบหน้า เจ้าหมาริวเริ่มบ่นอุบอิบ

   “ความสัมพันธ์ของพี่ธันกับกู แม้จะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ไม่มีวี่แววจะคืบหน้าเลยว่ะ คงสถานะหลานรหัสอย่างเหนียวแน่น จนพี่รหัสแทบจะจับกูใส่พานยกกูให้พี่ธันดูแลแบบถาวร”

   “มึงลองวิธีนี้สิ เล่นกับหมา หมาเลียปาก เวลาที่พี่ธันเล่นด้วย มึงก็กระโดดเลียปากเลย” ข้อเสนอผมคงจะดีมากไป ซันถึงโบกซะหัวทิ่มโต๊ะ ดีนะเกร็งคอทันไม่งั้นเสียโฉมหน้าผากปูดพอดี

   “วิธีเหี้ยไรมึง แบบนั้นพี่ธันได้กระทืบริวตายคาบ้านพอดี ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไปนั่นแหละดีแล้ว ของงี้เร่งรีบไม่ได้ พี่ธันไม่เหมือนพวกเรา เขาป็นชายแท้ไม่มีประวัติญาติคนไหนมีรสนิยมแบบนี้”

   ซันพูดจามีสาระ ซึ่งไม่แปลก กลุ่มเราซันดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดแล้ว ส่วนริวมันยังส่งเสียงหงิงๆ ไม่เลิก

   “พี่ธันเป็นแบบโป้ก็ดีดิ ไม่ต้องพูดอะไรมาก กระโดดคร่อมตักซันทีเดียวเอง รู้เรื่องเลย” เห็นไอ้ซันสะดุ้ง ฉิบหาย เรื่องจริงสินะมึง ผมหัวเราะฮ่าๆ เอื้อมมือผ่านซันไปตบหัวหมาปุๆ

   “มึงชอบพี่ธันที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ไง อย่างที่ซันบอกแหละ ค่อยเป็นค่อยไป มีโอกาสก็รวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว” ริวจะหันมาอาละวาดใส่ จังหวะที่อาจารย์เดินเข้ามาพอดี เลยต้องสงบศึกชั่วคราว ยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงตามเดิม

   เห็นแบบนี้เวลาเรียนพวกเราตั้งใจกันหมดนะ ซันมันขยันอยู่แล้ว อาจารย์พูดอะไรก็จดตลอด สงสัยยกมือถามแบบไม่แคร์สายตาใคร พลอยให้เพื่อนๆ ในห้องได้รับอานิสงส์คลายข้อสงสัยไปด้วย ผมกับริวคอยจดเลคเชอร์ยิกๆ ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยทันเพราะเป็นพวกเขียนช้า ต้องเอาสมุดของริวมาลอกหลังจบคาบ สงสัยตรงไหนให้ซันช่วยอธิบาย เป็นอันจบวิชานี้โดยสวัสดิภาพ

   มื้อเที่ยงอย่างที่ริวพูดไว้ กินข้าวพร้อมหน้ากลุ่มเพื่อนในโรงอาหารใหญ่ของมหา’ลัย ทั้งที่คิดว่าพวกผมมาช้าแล้วนะ แต่วันนี้ยังไม่เห็นวี่แววของโป้กับปอนด์

   “มึงแน่ใจนะว่าสองคนนั้นจะมา” ผมหันไปถามซัน พวกเราสนิทกันทั้งกลุ่มก็จริง แต่คนที่คุยกับพวกปอนด์มากที่สุดก็คือไอ้ซัน ผมมันพวกชอบหายหัวเป็นพวกธุรกิจรัดพุง ส่วนริวมันตามพี่ธัน ไม่อยากเป็นก้างซันโป้ด้วย

   ซันก้มหน้าดูไลน์ “โป้บอกอาจารย์เพิ่งปล่อย ส่วนปอนด์ติดส่งงานอาจารย์ อาจจะมาช้าสักหน่อยให้พวกเรากินก่อนได้เลยเพราะมันไม่มีเรียนบ่าย”

   “กูไม่มีเรียนเหมือนกัน ไม่รีบ” ทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำ ความจริงพวกเราก็ไม่ได้แปะป้ายจองนะ แต่มาทีไรโต๊ะนี้ว่างเสมอ สงสัยทำเลไม่ดี ไกลร้านค้ามั้ง

   “กูด้วย แต่มึงมีเรียนสินะ” ซันว่าพลางเงยหน้ามองผม อยากจะยกมือปาดน้ำตา เพื่อนแลจะชิวค่อยๆ เรียนไปตามตาราง ของผมต้องยัดเท่าที่จะยัดได้ น่าเศร้าเหลือเกิน

   “งั้นกูไปซื้อข้าวมานั่งกินก่อนแล้วกัน คาบบ่ายอาจารย์ไม่โหด ไม่ต้องรีบ” นี่แหละสันดานเด็กมหา’ลัย ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เวลาปั่นงานก็ชอบผัดวันประกันพรุ่ง มานั่งโต้รุ่งทำตอนไฟรนก้น อีกอย่าง พวกอาจารย์ที่เหมือนจะใจดีนี่โหดเหี้ยมที่สุดนะ คะแนนเท่าไรเท่านั้น คุยยากด้วย ส่วนพวกอาจารย์เนียบๆ แม้จะชอบดุด่าแต่อะลุ้มอล่วยได้มาก ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูด้วยว่ามีพฤติกรรมยังไง

   “เดี๋ยวกูซื้อน้ำมาให้ เหมือนเดิมนะพวกมึง” ริววิ่งไปร้านน้ำปล่อยซันเฝ้าโต๊ะ ผมเองก็ปลีกตัวไปซื้อข้าวกิน แม้จะไม่อร่อยเท่าเดฟทำ แต่กินเพื่ออยู่ดีกว่านั่งหิวในคาบเรียน ผมสั่งข้าวแกงสองสามอย่าง จีบคนขายนิดหน่อยได้ของแถมเป็นไก่ทอดสองชิ้น พอเดินกลับโต๊ะก็เห็นโป้นั่งคุยกับซันแล้ว

   หนุ่มเหนือยิ้มยกมือแท๊ก “ไงมึง ไม่เจอกันนาน ยังไม่ตายนะ” ปากพอกันผัวเมียคู่นี้

   “รอซันตายก่อนกูค่อยตาย” สวนกลับแบบนิ่มๆ

   “เฮ้ย เกี่ยวอะไรกับกูวะ” ซันประท้วง โป้หัวเราะชอบใจไม่คิดช่วยแฟนตัวเอง คู่นี้มันเหมือนเพื่อนควบตำแหน่งแฟนแลชิวดี

   “เพราะมึงเป็นผัวมันไง เอ้าชามะนาวมึงมิท นี่โอเลี้ยงซัน โป้อยากกินน้ำไรไปซื้อเองนะ” แจกแก้วน้ำเสร็จหันไปบอกหน้าตาเฉย

   “ซัน มึงดำอยู่แล้วยังจะแดกโอเลี้ยงอีกเหรอวะ เห็นใจกูบ้าง เกิดเดินที่มืดๆ เดี๋ยวกูหามึงไม่เจอ” โป้เล่นใหญ่แย่งแก้วซันมาดูดหน้าตาเฉย ซันถลึงตาใส่เมีย ดูแล้วไอ้ซันมันไม่ดำนะ แค่ผิวแทน พอเทียบกับโป้ที่ผิวขาวแล้วเลยดูเข้มจัด แต่ใครคงไม่ขาวเท่าปอนด์ เดินสะท้อนแสงมาแต่ไกล ผลจากการฝังตัวอยู่แต่ในห้องไม่ค่อยออกแดด หรือต่อให้ออกก็ชอบใส่เสื้อกันหนาวตลอด ผมเข้าใจ แดดแม่งร้อนแสบผิว ในห้องเรียนบางห้องแอร์อย่างกับอยู่ขั้วโลกเหนือ

   “อย่ามัวแต่เถียงกันพวกมึง ไปซื้อข้าวให้หมดเดี๋ยวกูเฝ้าโต๊ะเอง” ผมโบกมือไล่พวกมันไปซื้อเพราะเพื่อนมาครบทีมแล้ว ปอนด์วางเป้ถอดเสื้อกันหนาวยัดใส่กระเป๋า พับแขนเสื้อนั่งข้างผม

   “โป้มึงแดกไร” ดูมันถามเมีย

   “แบบมึงแหละ ขี้เกียจคิด” ทางนี้ก็ยักไหล่ตอบชิวๆ ส่วนปอนด์หันไปมองริวตาวิ้งๆ

   “ริวจะไปซื้อข้าวใช่มั้ย ฝากซื้อด้วยนะ เอาแบบริวเลยขี้เกียจคิดเหมือนกัน ฮ่าๆ” โดนขอแบบนี้ ริวหัวเราะยื่นมือมาขยี้หัวปอนด์ คงเอ็นดูแบบน้องชาย ปอนด์ให้อารมณ์แบบนั้นจริงๆ นะ ถ้ากับผู้หญิงคงปลุกสัญชาตญาณความเป็นแม่ ส่วนผู้ชายความเป็นพ่อกับพระพี่เลี้ยงมั้ง

   คล้อยหลังซันกับริว ผมที่กินข้าวหมดแล้วยกน้ำมาดูดชวนอีกสองคนคุยให้สมกับที่ไม่เจอกันซะนาน

   “ของฝากเป็นไงมั้ง โทษทีนะที่ไม่ได้ซื้อเจลกับถุงยางส่งตรงจากญี่ปุ่นมาแจก พอดีขอให้พี่อาคมช่วยเลือก ส่วนใหญ่เลยเป็นพวกของกิน”

   “ของกินก็อร่อยดี แปลกๆ แต่หวานไปหน่อย ไอ้ซันมันก็บ่นเสียดายอยู่ บอกว่าเจลใกล้จะหมด ไม่รู้มีขายผ่านเน็ตมั้ย” โป้ตอบกลับไม่สะท้าน ผิดกับปอนด์หน้าแดงม้วนอยู่คนเดียว

   “พูดอะไรกันพวกนาย จริงสิ ขามิทเป็นไงมั่ง” รู้นะว่าปอนด์เปลี่ยนเรื่อง แต่คำถามแสดงความเป็นห่วงจริงๆ ผมเองก็ไม่นึกรำคาญที่จะตอบใครต่อใครซ้ำๆ ด้วย ในเมื่อทุกคนถามด้วยความปารถนาดี

   “ตอนนี้หายแล้ว แต่ใช้ขาหนักไม่ได้อย่างเก่า ดีที่ฉันไม่ใช่พวกนักกีฬา ไม่งั้นคงงานเข้า”

   “ยังไงการมีแขนขาครบขยับได้ก็ดีที่สุดแล้วนั่นแหละ” ปอนด์ผ่อนลมหายใจโล่งอก ดูภายนอกหน้าละอ่อนเหมือนเด็กมัธยม แต่ความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่พอสมควร ติดที่เจ้าตัวเป็นพวกขี้ใจอ่อนแถมยังขี้อ้อนเลยดูเป็นเด็กน้อยที่สุดในกลุ่ม

   พวกผมพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยกับความคิดปอนด์ ไม่พิการตรงไหนคือดีที่สุดแล้ว ต่อมาคุยเรื่องทั่วไป ปอนด์บ่นเรื่องงาน โป้เองก็ไม่ต่าง ผมก็ร่วมด้วยช่วยกันเซ็งเพราะต้องลงเรียนหนักกว่าชาวบ้าน ระหว่างนั้นกวาดตามองเห็นซันริวยังเข้าแถวรอซื้ออาหาร ช่วงนี้นักศึกษากำลังทยอยลงมากินข้าว คนเลยเยอะกว่าตอนผมซื้อ

   ผมคิดถึงคำพูดของพี่อาคมตอนผมปรึกษาเรื่องเพื่อน

   “เพื่อนของคุณหนูมีหลายคน จากที่ผมสังเกตตอนพวกเขามาเยี่ยม ผมจำได้ว่ามีสองคนน่าจะคุยง่าย ลองเล่าเรื่องราวให้พวกเขาฟังก่อน แล้วค่อยปรึกษาหาทางบอกพวกเพื่อนที่เหลือดีมั้ยครับ”

   มองโป้ที่กำลังคุยเรื่องงานวาดรูปกับปอนด์ นี่มันโอกาสดีไม่ใช่เหรอ พวกซันก็คงอีกนานกว่าจะมา ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วย ถ้านัดแยกก็เกรงว่าพวกซันจะสงสัย ตัดสินใจแล้ว ขอความคิดเห็นมันตอนนี้ ตรงนี้แหละ!

   “โป้ปอนด์ ฉันมีเรื่องจะปรึกษา” น้ำเสียงสีหน้าผมตอนนี้จริงจังไม่ติดเล่นเหมือนอย่างเก่า โป้มองตาปริบๆ ปอนด์เอียงคอสงสัยแสดงท่าทีว่าพร้อมจะฟัง ผมเริ่มพูดคล่าวๆ

   “ฉันมีความลับบางอย่างที่อยากบอก เพราะก่อนหน้านี้มีเหตุผลส่วนตัว ทำให้ต้องเก็บเงียบมาตลอด โป้กับปอนด์เป็นพวกคุยง่าย ฉันเลยอยากบอกไว้ก่อนเผื่อจะช่วยเกริ่นๆ กับพวกซันให้”

   โป้ยกมือห้าม “กูขอฟังพร้อมกับพวกซันดีกว่า”

   “ทำไม?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่มีความคิดในเชิงลบแต่อย่างใด

   ปอนด์เป็นฝ่ายตอบ มองด้วยรอยยิ้มนิดๆ “อาจจะดูไม่ดี ถ้าพวกเรารู้ก่อนแล้วพวกนั้นมารู้ที่หลัง ถึงฉันกับโป้จะพอเดาอะไรได้บ้างก็เถอะ” แขนผอมยกขึ้นมาโอบบ่าผม ตบเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ “อย่าห่วงเลย ถ้ายังไม่สะดวกพูดก็ไม่ต้องพูด เอาไว้ตอนที่มิทพร้อมค่อยบอกก็ได้ ส่วนพวกซันเดี๋ยวฉันกับโป้ช่วยเอง พวกนั้นไม่ใช่คนไร้เหตุผล ต้องเข้าใจความจำเป็นของมิทอยู่แล้ว”

   “เห็นด้วย ซันมันแข็งนอกอ่อนใน แรกๆ อาจจะมีปฏิกิริยารุนแรงบ้าง ผ่านไปสักพักปล่อยเวลาให้มันได้คิดเดี๋ยวก็กลับมาสงบเอง ประสบการณ์ตรงจากฉันเลย ส่วนริวบอกยาก แต่ไม่ต้องห่วง ถ้ามีปัญหามากๆ อัญเชิญพี่ธันมาช่วยกำราบซะก็สิ้นเรื่อง”

   พอได้ยินคำพูดของเพื่อน แม้จะยังไม่ได้เล่าแต่ก็รู้สึกร่างกายเบาลงอย่างประหลาด นี่สินะความเป็นเพื่อน ผมมัวกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดทำไม ต้องเชื่อใจในตัวพวกมันสิ รอจังหวะดีๆ ก่อนนะ จะเล่าให้หมดเปลือกเลย

   “พักเรื่องหนักๆ มาคุยเรื่องอื่นดีกว่า เที่ยวญี่ปุ่นเป็นไงมั้ง ได้แช่บ่อน้ำพุร้อนมั้ย” ปอนด์ถามตาเป็นประกาย เหมือนจะคาดหวังอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ พอหันไปหาโป้ ทางนั้นส่ายหัวขำๆ

   “อย่าเพิ่งมโนปอนด์ กลับยานแม่ก่อน”

   อ่อ...ปอนด์เป็นหนุ่มวายนี่นะ พวกนี้เดาเรื่องผมได้แสดงว่าต้องรู้เรื่องของป๋าบ้าง แบบผิวเผินอะนะ ผมคลี่ยิ้มตาวาว

   “แช่น้ำร้อนก็ไม่เลว แต่กิจกรรมระหว่างแช่สิเด็ดกว่า สถานที่ก็มีผลกับอารมณ์นะ ถ้าพวกนายมีโอกาสน่าจะลองดูบ้าง” น้ำเสียงยืดยาวลีลาเล็กน้อย ถ้าไนท์อยู่คงด่าเด็กตอแหลช่างยั่ว ส่วนป๋าจะกวักมือเรียกผมเข้าไปขย้ำ

   “แค่กๆ!” โป้ถึงกับสำลักโอเลี้ยง ปอนด์หน้าแดงกอดกระเป๋าด้วยความฟิน ไม่รู้ว่าคิดไปถึงไหน เดี๋ยวเขินเดี๋ยวส่ายหัวเปลี่ยนสีหน้าไปมา

   บรรยากาศกระอักกระอ่วนอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนโดนทำลายด้วยการกระแทกจานลงโต๊ะของซัน

   “เฮ้ย อะไรของพวกมึง” ขมวดคิ้วมองพวกผมสลับกันไปมาแล้วแยกเขี้ยวใส่เมีย “เหี้ยโป้ แดกโอเลี้ยงกูซะเกลี้ยง ไปซื้อใหม่ให้กูเลยนะ” โป้สติกลับเข้าร่างหันไปทะเลาะกับซัน ปอนด์ยังคงเหม่อจนริวต้องมาสะกิดถามผม

   “คุยอะไรกันวะ ท่าทางแปลกๆ” หนุ่มญี่ปุ่นตัวสูงเยี่ยงเสาไฟฟ้าวางจานนั่งลงเอนกายมาเบียดผม

   “ไม่มีอะไร แค่คุยว่าเวลาเห็นคนที่ตัวเองชอบแต่งตัวล่อแหลมจะรู้สึกยังไง มึงล่ะ เคยเห็นของพี่ธันยัง”

   คนถามเป็นฝ่ายผงะพูดจาอ้ำอึ้ง “เอิ่ม...คือ...เคยเห็นแต่ไม่ค่อยชัด มันผ่านผิวผ้า...” ท้ายเสียงเบาหวิว ริวหันมาเห็นผมยิ้มกรุ้มกริ่ม โฮ่ ดูท่าเจ้าหมาจะมีพัฒนาการเหมือนกัน คนหลุดปากผลักหัวผมออก “ถามอะไรของมึงเนี่ย!” มีโวยวายกลบเกลื่อน ผมหัวเราะในคอ

   “ใหญ่ปะ”

   “นิดนึง ขนาดกำลังพอดี...โว้ย!! กูไม่คุยกับมึงแล้ว แดกข้าวๆ” หมาริวก้มหน้าก้มตากินอย่างกับไม่เคยกินข้าวมาก่อน ผมหัวเราะลั่นแบบไม่เกรงใจ จนพวกซันหันมามอง

   “พวกมึงนี่ แน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน” คำถามซันทำเอาผมสำลักน้ำลาย จากขำเป็นไอหน้าดำหน้าแดง โอยยย ไอ้ซัน ไอ้บื้อ จะขำหรือสำลักผมไม่รู้จะเลือกอันไหนก่อนดี ปอนด์กลัวว่าผมจะขาดใจตายไปซะก่อน ถึงยื่นมือมาลูบหลังให้ โป้มองผัวตัวเองแบบหน่ายๆ บ่นพึมพำระดับเสียงที่ได้ยินกันทั้งโต๊ะ

   “หน้าตาก็ดี อะไรก็ดี เสียอย่างเดียว บื้อฉิบหาย กระบือเรียกพี่”

   “ไอ้โป้! กูผัวมึงนะ”

   “เออรู้ ไม่ได้ความจำเสื่อมว่าตัวเองหลงผิดเอาควายมาทำผัว”

   ซันทั้งหงุดหงิดและไม่เข้าใจว่ามันพลาดอะไร ยิ่งเห็นหน้าแบบนั้นพวกเรายิ่งหลุดขำ ฮาแตกกันทั้งโต๊ะ ข้าวแทบไม่ได้แตะ สุดท้ายโป้กลับลำได้คนแรกเตือนผมเรื่องมีเรียน

   “มิท จะบ่ายแล้วนะ” หนุ่มเหนือยกข้อมือแฟนที่กำลังงอนทำหน้าเป็นตูดมาชี้นาฬิกาให้ดู
   
   “ขอบใจที่เตือน กูไปละ ฝากเก็บจานด้วย ไม่แน่เร็วๆ นี้อาจไปดื่มจะชวนพวกมึงอีกที” สิ้นคำก็ผุดลุกจากโต๊ะหมายจะออกไปรอรถกลับคณะ ได้ยินเสียงไล่หลังมา

   “มิทค่าน้ำกู!”

   “อะไรกูไม่ได้ยินนนน” วิ่งหนีขึ้นรถแล้วหันกลับไปขยิบตาส่งจูบให้ริวที่กำลังชี้หน้าด่า รู้สึกปลอดโปร่งกว่าช่วงเช้ามาก กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง นี่มันสุขใจจริงๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2017 19:59:27 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เพื่อนดี มีความสุข

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ที่ไม่มี พอได้มาก็กลัวที่จะเสียไป

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
คบเพื่ิอนดี ชีวีมีสุข :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เพื่อนดีมีความสุข

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ตอนนี้ฮาจริงๆขำอ่ะ   :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด