}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31  (อ่าน 409523 ครั้ง)

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ลุ้นมาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มิท ต้องใช้ความกล้ามากมาย ที่จะบอกเรื่องตัวเองออกมาได้
ก็นะ ชีวิตที่ขาดความอบอุ่น พ่อติดการพนัน แม่ป่วยเป็นโรคร้าย
หาเลี้ยงชีวิต ส่งเสียตัวเองเรียน ทำงานด้วยการเป็นไซด์ไลน์
มันไม่ใช่พูดออกมากันง่ายๆ แม้ตอนนี้สบายเพราป๋าเลี้ยง
แต่เพื่อนมิทดีๆทั้งนั้น ทุกคนรักเพื่อน ยังไงก็ไม่รังเกียจ
อาจมีโกรธที่มิทลำบาก แล้วไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ
แต่บอกแล้วมิทสบายใจ ก็ดีกับตัวมิทเอง หายเครียด โล่งเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ในที่สุดก็ได้พูดออกมาสักที หวังว่าทุกคนจะเข้าใจมิทนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เป็นกำลังใจให้มิทรี่

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ลุ้นมาก แต่เพื่อนกันน่าจะรับได้  :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
จบตอนกันไปแบบงงๆ  อ่านเสร็จเเล้วรู้สึกเหมือนตัวเองยืนอยู่หน้าผับกับคนตรวจบัตรนานจริงๆ 55555555   รอลุ้นไปกับมิทด้วยค่ะตอนหน้ามาเร็วๆน้าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 02:37:17 โดย PEiPEishawol2977 »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


เพิ่งมาอ่านขอรับ

มาต่อไวๆนะขอรับ

ค้างมาก


ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่23 หมดเปลือก

   “มึงพูดจริง?” เสียงของซันดังขึ้นคนแรกท่ามกลางความเงียบ

   ผมเงยหน้าขึ้นสบตามันนิ่งตอบมันตรงๆ “ทุกอย่างที่กูพูดเป็นเรื่องจริง” ถึงเวลานี้ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องบ่ายเบี่ยงอีก เมื่อผมตัดสินใจแล้วก็ไม่คิดถอยหลังกลับ ผลจะออกมาเป็นยังไงขึ้นอยู่กับพวกเพื่อน

   “ทำไมมึงมีเรื่องอะไรไม่บอกพวกกู” ซันเอ่ยเสียงข่มอารมณ์

   “ซัน...” โป้เป็นฝ่ายยึดบ่าซันไว้กับที่ ในขณะที่ผมได้แต่รอรับแรงอารมณ์เพียงอย่างเดียว

   “มึงไม่ต้องมาพูด! ทำไมมึงไม่บอกพวกกู!! มึงเห็นพวกกูเป็นเพื่อนอยู่มั้ย เออ! กูอาจจะขี้โวยวายอารมณ์ร้อน แต่ริวล่ะ มันเป็นห่วงมึงมาตลอด ช่วยมึงสารพัดทำไมมึงไม่เคยบอกอะไรมันบ้าง!” เสียงตวาดก้องทำให้ใจผมสั่นสะท้าน ไม่ใช่จากความกลัวแต่เป็นความรู้สึกผิด ผมอยากก้มหน้าไม่สบตาใคร แต่ผมไม่อยากหนีปัญหาจึงนั่งกำมือแน่นจ้องนิ่งโดยไม่เถียงกลับ ปล่อยให้มันระบายออกมาเต็มที่

   “ก่อนมาเจอพวกกูไม่เท่าไร ความจำเป็นของมึงกูก็เข้าใจ แต่หลังจากเจอพวกกูแล้ว ทั้งที่พวกกูทุกคนคอยพล่ามบอกมึงเสมอว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก แล้วดูที่มึงทำ! เก็บเงียบคนเดียวมาเกือบปี มึงไม่ไว้ใจพวกกูเหรอ หรือพวกกูมันไม่มีค่าพอที่จะช่วยเหลืออะไรมึงได้ ถ้ามึงคิดอย่างนั้นมึงโคตรจะดูถูกความเป็นเพื่อนของพวกเราเลยว่ะ” ประโยคท้ายตรงใจใครหลายคน ทุกคนพร้อมใจกันนิ่งเงียบ แม้กระทั่งโป้ยังหลบสายตาถอนหายใจหนักเลิกยึดตัวซัน ราวกับจะปล่อยให้มันทำตามที่ต้องการแล้วพูดออกมาอย่างอัดอั้น

   “ตอนแรกกูคิดว่าตัวเองพอจะเดาเรื่องได้เลยรอให้มึงพร้อมค่อยบอก แต่นี่...เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้มึงกลับไม่เคยบอกอะไรพวกกูเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างน้อยๆ เรื่องพ่อที่ชอบมาไถตัง มึงก็ไม่พูดออกมา แม้พวกกูจะช่วยเรื่องอื่นไม่ค่อยได้ แต่กับเรื่องนี้แค่หาที่อยู่ให้มึงใหม่ คอยเป็นหูเป็นตาให้ก็ได้”

   เป็นผมที่ถอนหายใจบ้าง “ตอนนี้ก็บอกแล้วไง ต่อให้ด่ากูไป มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ปะวะ” ผมเริ่มหงุดหงิดเหมือนไปกระตุ้นให้ซันหมดความอดทน

   “ไอ้เหี้ยมิท! มึงกล้าพูดออกมาได้ยังไง!” มือใหญ่กระชากคอเสื้อผมจนตัวลอยจากเก้าอี้ ผมขมวดคิ้วยกมือห้ามไม่ให้พวกพี่อาคมเข้ามา

   “ไอ้ซันพอ ก็อย่างที่มันบอก เรื่องมันผ่านไปแล้วจะฟื้นฝอยหาตะเข็บให้มันได้อะไรขึ้นมา” วากลับเป็นฝ่ายห้าม เสียงผ่านวีดีโอคอลชวนให้ดังก้องแปลกๆ พอระงับอารมณ์ซันได้บ้าง มือที่กำคอเสื้อจึงคลายออกเล็กน้อย ซันหันไปเถียงกับเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองแทน

   “มันช่วยอะไรไม่ได้แต่กูจะพูดให้มันรู้ ว่าเพื่อนเขารู้สึกยังไงที่มันทำแบบนี้” สิ้นประโยคมันปรายมอง ถ้ามึงจะประชดกูทั้งที่ขยำคอเสื้อกูแบบนี้ ช่วยถ่มน้ำลายใส่หน้ากูเลยเหอะ ผมคิดอย่างเซ็งๆ จับมือซันออกแล้วจัดชุดให้เข้าที่ ผมไม่ได้ห่วงหล่อตอนนี้ แค่หาอะไรทำดึงความสนใจตัวเองเล็กๆ น้อยๆ

   “มิท เรื่องที่มึงจะพูดมีแค่นี้ใช่มั้ย” วากล่าวขึ้น ผมหันไปมองจอมือถือเห็นเฮียเฟย์ทำตัวเป็นคนนอกกับปอนด์ที่ดูเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง ซันโป้ก็อย่างที่เห็น ส่วนริว...ผมยังไม่กล้าสู้หน้ามันตอนนี้

   “อืม หมดแล้ว ที่เหลือกูพูดไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของพวกมึงเอง พ่อบุญธรรมกูไม่ใช่คนธรรมดา”

   วาพยักหน้ารับ “ขอบใจที่ยอมบอก แม้กูจะยังหมั่นไส้ที่มึงเก็บเงียบมานานก็เถอะ หลังจากนี้ ถ้าไม่ลำบากมึงนักก็บอกกันบ้างถ้ายังคิดว่าเป็นเพื่อนกันอยู่” น้ำเสียงเนิบๆ ไม่มีการด่าอะไรทั้งสิ้น แต่ความหมายช่างบาดเล็กจนมิทมุมปากกระตุก เถียงอะไรไม่ได้ ได้แต่รับคำเท่านั้นเพราะมีคดีเก่าอยู่

   สำหรับวาคิน เรื่องที่มันแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ควรจะปล่อยมันไป อีกอย่าง ตราบใดที่มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพวกเขา วาก็พร้อมที่จะเฝ้าดูเฉยๆ เรื่องของใครคนนั้นต้องตัดสินใจและรับผิดชอบเอง ทำแบบนี้ถือเป็นการเคารพในความคิดอีกฝ่ายด้วย เพราะวาเชื่อว่ามิทต้องมีเหตุผลที่เพิ่งมาเล่าเอาตอนนี้ แต่ดูเหมือนบางคนยังไม่ยอมจบง่ายๆ

   “มันจะจบเรื่องง่ายไปไหม คนมันเคยโกหกมาแล้ว ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าอนาคตจะไม่ทำอีก” คำพูดของซันทำให้อารมณ์ที่จวนสงบของผมพุ่งสูงขึ้นทันที

   ปอนด์เห็นท่าไม่ดีเลยลุกขึ้นมาห้าม “พวกนายใจเย็นก่อน ไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้ทุกคนต่างก็ร้อนกันหมด เดี๋ยวจะทะเลาะกันใหญ่โตซะเปล่าๆ” แม้จะเป็นความจริงแต่คำเตือนนี้ไม่มีใครสนใจฟัง สองคนยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมสงบโดยง่าย เฟย์เกรงว่าเด็กน้อยของตัวเองจะโดนลูกหลงเลยดึงกลับมากอดไว้ตามเดิม มองสถานการณ์เงียบๆ หากมันลุกลามใหญ่โตค่อยลุกขึ้นมาห้ามทัพ

   “ไม่งั้นมึงจะเอายังไง” ผมกำมือแน่นอดทนสุดชีวิต ท่องในใจว่าเรื่องนี้เราผิด พวกเพื่อนทำไปก็เพราะเป็นห่วง ผมไม่ควรจะอาละวาดใส่

   “บอกเหตุผลของมึงมาให้หมด”

   ผมนิ่ง มันนิ่ง สุดท้ายเลยตัดสินใจนั่งลงแล้วพยักหน้าให้มันนั่งตาม ถ้าการบอกเหตุผลจะทำให้พวกมันเข้าใจความจำเป็นของผมมากขึ้น ผมก็พร้อมที่จะบอก

   “ก่อนจะบอกกูขอพูดอะไรอย่าง กูก็คือกู พวกมึงก็คือพวกมึง ต่างคนต่างความคิด มีวิธีจัดการปัญหาไม่เหมือนกัน ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนที่เจอทุกอย่างด้วยตัวเอง ดังนั้นฟังแล้วช่วยอย่าลืมด้วยว่ากูไม่ใช่พวกมึง”

   ส่วนใหญ่เข้าใจกับสิ่งที่ผมบอก มีแค่ซันนั่งขมวดคิ้วกับริวที่ผมยังไม่กล้ามองหน้ามันตั้งแต่ต้น

   “เริ่มจากเรื่องพ่อกูก่อน มึงบอกว่าช่วยกูได้ใช่มั้ยโป้ แต่นั่นมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ได้แค่หนีไปเรื่อยๆ สักวันมันก็ไม่พ้น พวกมึงยังไม่รู้จักนิสัยของพ่อกูดีพอ ผู้ชายคนนั้นต่อให้ต้องขายกูเพื่อเงินเขาก็ทำได้และเคยทำด้วยแม้ว่าจะไม่สำเร็จก็ตาม ต่อให้ติดคุก ไม่นานก็ออกมาจองเวรจองกรรมกูอยู่ดี พวกมึงคงไม่คิดหรอกนะว่าจู่ๆ กูก็ทำงานไซด์ไลน์เลยโดยที่ไม่มีใครชี้ทาง”

   พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกขึ้นได้ ตั้งแต่เรื่องที่ผมโดนยิงผมก็ไม่เคยเจอพ่ออีกเลย ไม่รู้ว่าถูกคนของลูเซียสจัดการไปพร้อมกับเรื่องตอนนั้นหรือไปเตร่อยู่ที่ไหน ซึ่งผมเลิกสนใจไปนานแล้ว จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่าง ขอแค่ไม่มายุ่งเกี่ยวกับอีกตลอดชีวิตก็พอ

   ผมเล่าต่อไม่ปล่อยให้เพื่อนแทรก “ต่อมา เรื่องงานไซด์ไลน์ใช่มั้ย? มึงตอบกูที นอกจากค้ายากับเด็กขายมีอาชีพอะไรที่ทำให้ได้เงินครั้งละมากๆ ในวัยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กู้หนี้ยืมสิน? กูจะเอาที่ไหนไปกู้ ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีห่าอะไรเลย”

   “กูหาเงินได้ ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ขอแค่มึงมาถามกูสามารถช่วยสอน แนะนำมึงได้” ซันพูดอย่างไม่ยอม ผมกลอกตาเหนื่อยหน่าย

   “เป็นมึงก็พูดได้สิ มึงมีคนที่บ้านคอยหนุนหลัง” เห็นมันอ้าปากจะเถียงผมเลยยกมือห้าม “อย่าเพิ่งขัด ต่อให้มึงหาเงินด้วยตัวเอง มึงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าหากพลาดขึ้นมาก็ไม่ต้องกลัวในเมื่อมึงมีคนที่บ้านคอยเป็นกำลังให้ แล้วกูล่ะ กูไม่มีใครเลย กูต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง สมองกูก็ไม่เก่งเท่ามึง ถ้ากูมีทางเลือกอื่นกูก็ไม่มาทำงานนี้หรอก”

   “จะบอกให้ยืมเงินงั้นเหรอ เหอะ! เดือนหนึ่งมีรายจ่ายหลายหมื่นบาท ปีหนึ่งก็หลายแสน แม่กูไม่ได้เป็นหวัดหาหมอรับยามากินแล้วหายนะไอ้สัตว์ ต้องยืมเงินพวกมึงอีกนานเท่าไรกว่าแม่กูจะหาย ต่อให้กูหน้าด้านแต่กูก็ไม่ไร้ยางอายถึงขั้นเบียดเบียนเพื่อนเปล่าวะ หรือถ้าพวกมึงไปคุยกับพ่อแม่พี่น้องญาติโกโหติกาเอาเงินมาให้กูยืม มึงคิดรึเปล่าว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไง สมัยนี้ญาติกันยังโกงกันได้ พี่น้องยังฆ่ากันตายเพราะมรดก กับกูที่เป็นใครหน้าไหนไม่รู้ เป็นหนี้จำนวนเงินขนาดนั้นโดยไม่รู้ว่าจะคืนให้ได้เมื่อไหร่ ใครมันจะยอมเสี่ยงวะ!”

   ผมเริ่มใส่อารมณ์ตามความอัดอั้น ไม่ต่างจากการระบายความรู้สึกที่เก็บลึกไว้ภายใน หอบหายใจหนักร้อนรุ่มไปทั้งตัว ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากแอลกอฮอล์แต่ก็ต้องขอบคุณมันที่ทำให้ผมกล้าพูดทั้งหมดออกไป พี่อาคมเดินมาลูบหลังส่งแก้วน้ำเย็นให้อย่างเป็นห่วง ผมไม่มีอารมณ์จะทำตัวเป็นเด็กดีใส่ เลยพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณรับมากระดกหมดแก้ว พูดต่อเหมือนเบรกแตก กำแพงอารมณ์พังพินาศ

   “กูเข้าใจว่าพวกมึงเป็นห่วง แต่บอกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ งั้นจะบอกให้เสียสุขภาพจิตไปทำไม กูอยู่ของกูแบบนี้มาตั้งนาน ก่อนจะเจอพวกมึงด้วยซ้ำ และเหตุผลที่กูตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้ฟังก็เพราะพวกมึงเป็นเพื่อนกู”

   “มึง...เว้ย!!” ซันขยี้หัวเหมือนมีเรื่องจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก โป้กอดอกทำหน้ายุ่ง วาถอนหายใจไม่ได้พูดอะไร ปอนด์นั่งนิ่งคงกำลังย่อยข้อมูลที่ได้รับ สุดท้าย...ผมหันไปหาริวแล้วก้มหัวให้มัน

   “กูขอโทษที่กูโกหกมึงมาโดยตลอด กูรับรู้ถึงความห่วงใยที่มึงมีให้ ไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระแม้แต่น้อย พวกมึงคือความหวังของกู กูหวังว่าสักวันจะใช้ชีวิตแบบเดียวกับพวกมึงได้ อาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่ช่วยคบกูเป็นเพื่อนต่อไปที เพราะก็มีแค่พวกมึงเท่านั้นที่บอกว่าเป็นเพื่อนได้อย่างเต็มปาก” ผมเงยหน้าสบตาริวแล้วหันไปมองทุกๆ คนบอกบอกความในใจออกมาจนหมดเปลือก

   “เพื่อนกันทำแบบนี้เหรอ...” คำพูดแรกของริวไม่ต่างจากคมมีดกรีดเข้ากลางใจ “ช่างเถอะ...ฉันกลับก่อนล่ะ” พูดจบมันก็หมุนตัวเดินออกไป สิ่งที่ผมเห็นก่อนประตูจะปิดลง คือสีหน้าที่มีหลายอารมณ์ผสมปนเป ทั้งผิดหวัง โกรธ เสียใจและสับสน ผมก็ได้แต่หวังว่าในความสับสนของมันนั้นจะเป็นเรื่องดี เพราะผมผิดกับมันเยอะมากจริงๆ ต่อให้มันเลิกคบผมก็ไม่มีอะไรจะพูด

   เฮียเฟย์ลุกขึ้นมาไกล่เกลี่ยหลังเห็นลูกแมวมองคนนู่นทีคนนี่ทีจนน่าสงสาร “เอาล่ะๆ นั่งแช่กันแบบนี้ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา จะดื่มต่อก็คงไม่มีอารมณ์กัน แยกย้ายกันกลับบ้านซะ ให้เวลากับตัวเองแล้วค่อยมาเจอกันใหม่”

   ทุกคนเห็นด้วย พากันลุกจากที่นั่งเดินผ่านผมไปทีละคน ซันมองหน้าสุดท้ายก็ไม่พูดอะไร มีโป้เดินตามหลังตบบ่าผมเบาๆ ปอนด์จับแขนผมให้กำลังใจ

   “ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี” ใบหน้าน่ารักพยายามยิ้มทั้งที่ดูฝืนๆ ก็นะ พบกับบรรยากาศกระอักกระอวนแบบนี้จะให้ทำไงได้ เฮียเฟย์ไม่ได้พูดอะไร แค่จับหัวผมโยกไปมาเบาๆ ในที่สุดภายในห้องจึงเหลือเพียงผม พี่อาคมกับการ์ดอีกสองคน

   พี่อาคมหยิบมือถือผมยื่นส่งให้ วายังไม่วางสาย

   “กูถามแค่คำเดียว ‘ตอนนี้มึงมีความสุขรึเปล่า?’” วาดูจริงจังกับคำถามนี้มาก ผมจึงยอมตอบ

   “ถ้าไม่นับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ชีวิตกูมีความสุขดี แม้จุดเริ่มต้นจะไม่ดีเท่าไร แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา กูไม่คิดว่าตัวเองจะมีความสุขไปได้มากกว่านี้แล้ว”

   “หึหึ มักน้อยนะมึง อย่างที่กูบอก มึงว่าดีกูก็ว่าดี ขอให้โชคดีกับชีวิตที่มึงเลือกและกูยังเป็นเพื่อนกับมึงเสมอ ถึงจะไม่ค่อยสนิทและกูให้ความสำคัญกับเหี้ยซันมากกว่าก็เถอะ”

   ผมหัวเราะ ไม่นึกเคืองกับคำพูดอีกฝ่ายเลยสักนิด ความน่ารักของวาคือการพูดตรงๆ แบบแอบซึนนิดๆ นี่แหละ เล่เองก็น่าจะชอบในส่วนนี้เหมือนกัน

   “ขอบใจมาก”

   “เออ” แล้วมันก็กดวางสายไปทั้งแบบนั้น

   ผมยืนมองมือถือกำลังคิดวุ่นวายในหัว จู่ๆ ก็มีสายเข้าเล่นเอาผมสะดุ้งโหยงเกือบทำมือถือหลุดมือ พอจับดีๆ ถึงได้เห็นว่าใครโทรมา

   ชื่อคนโทรเข้า ‘ป๋า’ กับภาพคนหน้าบูดเพราะถูกสั่งห้ามเข้าใกล้ผมจนกว่ากองเอกสารจะหมดโดยมีไนท์คุม เห็นทีไรก็หลุดขำทุกที ผมกดรับสายด้วยรอยยิ้มนิดๆ แค่เห็นรูปป๋าก็เหมือนได้รับการเยียวยา

   /กลับ/

   “ครับ?”

   /เสร็จธุระแล้วก็กลับ ฉันรอเธออยู่/

   สายถูกตัดไปอีกครั้ง รอบนี้ผมได้รับการเยียวยาจริงๆ แค่ประโยคเดียวเท่านั้น

   ฉันรอเธออยู่

   ลูเซียสกำลังรอผม ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ที่สำคัญคือผมมีที่ให้กลับไป มือเก็บมือถือใส่ในกางเกงพลางบอกพี่อาคม

   “ป๋าโทรมาตามแล้วกลับ ‘บ้าน’ กันเถอะครับ พี่อาคมไปเตรียมรถเลยเดี๋ยวผมแวะไปบอกพวกพี่เขาก่อน”

   “รับทราบครับคุณหนู” พี่อาคมถอยฉากออกไป ทิ้งการ์ดสองคนให้ติดตามผม พอออกจากห้องวีไอพีก็สั่งให้พนักงานเข้าไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย ส่วนผมคุยกับเฮียโน้ตที่เริ่มเมา โดนกรอกเหล้าทิ้งท้ายไปเพียวๆ สองแก้วถึงยอมปล่อยผมกลับ ก่อนเข้าห้องก็ดื่มไปหลายแก้ว เจอเพียวเข้าไปต่อให้คอแข็งแค่ไหนก็เซได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 12:22:06 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่23 หมดเปลือก(ต่อ)

   ผมโบกมือลาทั้งที่มีการ์ดช่วยพยุง แน่นอนว่าไม่ลืมสั่งกำชับให้พนักงานรับรองพวกเฮียโน้ตดีๆ ถ้าเกิดหมดสภาพกันก็ให้เปิดห้องซะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดลงบิลไว้ด้วยชื่อของป๋า

   พี่อาคมจอดรถรออยู่หน้าผับ พอผมขึ้นไปก็หลับตลอดทางด้วยความเมาและอยากอยู่เงียบๆ ตื่นอีกทีก็ตอนถึงที่หมายพี่อาคมมาสะกิดปลุก ผมเลยลงจากรถแบบโลกเอียง ให้พี่อาคมพยุงมาส่งจนถึงห้องป๋า วันนี้สงสัยจะเคลียร์งานเสร็จเร็ว ถึงนอนเอนหลังดื่มวิสกี้อยู่บนเก้าอี้ตัวยาวในห้องนั่งเล่น

   ผมเดินเข้าไปปีนขึ้นบนตัวป๋าแล้วนอนซบแบบมึนๆ ฝ่ามือใหญ่ ลูบหัวอีหนูที่เข้ามาอ้อนราวกับลูกจิ้งจอกที่ต้องการที่พึ่ง ซึ่งสิงโตตัวนี้เต็มใจอย่างยิ่ง

   “ป๋าผมมีเรื่องจะบอก” ผมสัญญากับป๋าไว้แล้ว หลังคุยกับเพื่อนเสร็จจะมาคุยกับป๋าเช่นกัน

   “ยังไม่ใช่ตอนนี้ ไปอาบน้ำให้สร่างเมาค่อยมาคุย” ริมฝีปากร้อนกดจูบบนขมับ ข่มใจไม่ฟัดอีหนูที่เมาแล้วยั่วยวนยิ่งขึ้น ปล่อยให้มิทไหลลงจากตัวเดินโซเซไปอาบน้ำตามคำสั่ง

   หลังชำระกายด้วยน้ำเย็น สวมชุดคลุมอาบน้ำออกมาดื่มน้ำมะพร้าวสร่างเมา ด้วยความที่ผมชอบกินทุกอย่างที่เกี่ยวกับมะพร้าว เดฟเลยมักทำน้ำพร้อมเนื้อทิ้งไว้ในตู้เย็นเสมอ คนอื่นก็มีจิ๊กกินบ้าง ดังนั้นไม่แปลกที่พี่อาคมจะรู้และเอามาให้ผมดื่มเพื่อสร่างเมา

   เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่าง ผมก็กลับไปนอนอยู่บนตัวลูเซียสตามเดิม

   “พร้อมก็เล่ามา” แก้ววิสกี้ถูกวางไว้บนโต๊ะกลมด้านข้างบ่งบอกว่ากำลังรอรับฟังอยู่ ผมซุกหน้ากับแผ่นอกแน่น ค่อยๆ ถ่ายทอดเรื่องของแม่ออกมาจากปาก ตอนนี้ผมไว้ใจป๋าแล้ว ไม่มีเหตุที่ต้องปิดบังอีก แถมยังหวังเล็กๆ ด้วยว่าลูเซียสจะให้การช่วยเหลือเต็มที่

   เล่าจบผมช้อนสายตาขึ้นมองลูเซียสแบบลุ้นๆ แต่สิ่งที่แสดงออกมาคือนิ่งสนิท ผมก็เข้าใจทุกอย่างทันที

   “ป๋ารู้แต่แรก…ตั้งแต่เมื่อไหร่!?” พอเป็นเรื่องแม่ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ทันที ผมถามอย่างร้อนรนในระหว่างที่ป๋ากอดรวบตัวผมจนขยับไม่ได้ ผมนึกถึงไนท์ทันที อีกฝ่ายเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้และบอกว่าจะจัดการให้ หรือว่า!?

   “ไนท์ไม่ได้หักหลังเธอ หมอนั้นเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้อย่างไร้ที่ติ เพียงแต่พักหลังเจ้านั่นวุ่นกับคนรักของตัวเองทำให้ละเลยส่วนนี้ไป ฉันก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อไม่นานมานี้” ป๋าเอ่ยดักอย่างรู้ทันช่วยให้ผมสงบลงถาม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างกังวล ลูเซียสจะทำยังไงต่อไปกับแม่ผม

   “ถ้าอย่างงั้น...”

   “แม่เธอได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจ ฉันสั่งแล้วว่าใช้ทุกวิธีรักษาให้หายโดยไม่จำกัดค่าใช้จ่าย”

   ผมได้แต่อึ้ง ในช่วงที่ผมกำลังบ้าบออยู่กับตัวเอง ลูเซียสกลับเป็นคนจัดการทุกอย่างเพื่อรักษาแม่ ผมช่างเป็นลูกที่...

   “อย่าโทษตัวเอง สิ่งที่เธอทำนั่นถูกแล้ว เธอไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับพวกไม่สะอาด ยังนับว่าเธอโชคดีที่มาเจอฉัน หากเป็นคนอื่นคงบอกได้ยากว่าจะเป็นยังไงต่อไป” สีหน้าของมิทรี่ตอนนี้เปิดเผยความรู้สึกนึกคิดทุกอย่าง ระดับอย่างลูเซียสไม่ยากที่จะมองออกราวกับไปนั่งอยู่กลางใจ เวลานี้จิตใจของมิทรี่กำลังอ่อนไหว ลูเซียสจึงเรียกกลับมาทันทีที่อาคมส่งข้อความแจ้งการเคลื่อนไหว เพื่อที่จะได้อยู่ในสายตา ให้บอสใหญ่คนนี้ดูแลง่ายๆ

   เมื่อคิดทบทวนดูแล้ว ทางฝั่งมิทรี่ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำนี้ “ขอบคุณ...ขอบคุณมากครับ” สองมือพนมกราบบนอก ปล่อยให้น้ำตาแห่งความยินดีไหลรินเป็นสาย ลูเซียสลูบแผ่นหลังสั่นเทาพลางเอ่ยปลอบ

   “เด็กดี คิดได้แล้วก็ตั้งใจเรียนซะ ปิดเทอมเมื่อไรฉันจะพาเธอไปพบแม่ ก่อนจะย้ายไปโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนกว่านี้”

   ผมผงกหัวรับเงียบๆ ซุกหน้ากลั้นสะอื้นแล้วกอดป๋าแน่น ร้องไห้จนกระทั่งผล็อยหลับไปคาอก

   ลูเซียสก้มมองคนที่อยู่บนตัว อยู่กันมาหลายเดือนเคยเห็นมิทร้องไห้เพียงครั้งเดียวตอนอยู่โรงพยาบาล มาตอนนี้แค่เพียงหนึ่งอาทิตย์ มิทร้องไห้ถึงสองครั้ง แต่ร้องเพราะความรู้สึกด้านดีก็แล้วไป ถือว่าเป็นเด็กที่เข้มแข็งมากจนพวกคนในตึกพากันอ่อนใจ

   พวกการ์ดยิ่งแล้วใหญ่ ใจอ่อนเป็นเยลลี่หมดความน่าเกรงขามตอนยิงปืนแสกหน้าคนตาไม่กระพริบ ตามใจได้เท่าไรก็เท่านั้น คงคุมมิทไม่ได้ คิดถูกแล้วที่ให้อาคมตามประกบ การ์ดสองคนที่ตามไปวันนี้ก็ควรต้องเปลี่ยน ไว้ค่อยสั่งงานอาคมอีกที

   บอสใหญ่คิดในใจเสร็จสรรพ ก่อนอุ้มลูกบุญธรรมควบฐานะคลุมเครือไปนอนกอดบนเตียงนุ่ม

   ช่วงเวลาเดียวกันนี้ทุกคนต่างกลับไปพักผ่อนในแบบของตัวเอง เฮียเฟย์กล่อมปอนด์ที่กังวลเรื่องเพื่อนว่าทุกอย่างจะต้องไม่เป็นไร แค่ต้องใช้เวลาในการตกผลึกความคิด วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้เป็นช่วงเวลาที่ดี วันจันทร์ทุกคนคงจะได้คำตอบให้ตัวเอง

   ฝ่ายซันกับโป้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้านอนให้สร่างเมาค่อยมาถกปัญหาคุยต่อวันพรุ่งนี้ ไม่ต่างจากวา วางมือถือทิ้งเรื่องทุกอย่างไว้เบื้องหลังแล้วไปก่อศึกกับเล่บนเตียง ข้อหาที่อีกฝ่ายมาเบียดเบียนเตียงนอนทั้งที่ห้องตัวเองก็มี

   คนสุดท้ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด กำลังนอนหงายอยู่กลางบ้านคนอื่น บนหน้ามีผ้าชุบน้ำโปะหนึ่งผืน เจ้าบ้านใช้เท้าเขี่ยด้วยความหมั่นไส้

   “อย่ามาตายคาบ้านกู ลุกขึ้นมากินน้ำเยอะๆ จะได้สร่าง”

   คนโดนสั่งยอมผุดลุกขึ้นมารับน้ำดื่มอย่างว่าง่าย อันที่จริงริวก็แอบเกรงใจพี่ธันอยู่บ้าง มารบกวนดึกๆ ดื่นๆ โชคดีที่อีกฝ่ายเป็นคนนอนดึก ไม่งั้นคงได้นอนตากยุงเป็นเพื่อนหมาข้างนอกแน่ แต่จะให้กลับบ้านตอนนี้ก็ว้าวุ่นใจ เลยบากหน้ามาพึ่งพี่ธัน

   “ไหนมึงบอกมีเรื่องปรึกษากู รีบพูดมาก่อนกูจะไปนอน” หนุ่มไทยสวมเสื้อกล้ามสีขาวห้อยสร้อยพระกับตะกรุด หาวปากกว้าง มือโบกผ้าขาวม้าไล่ยุงสุดแสนจะพื้นบ้าน ภาพที่เห็นทำเอาริวหายเครียดไปหลายเปอร์
   
   “ผมถามเลยแล้วกันพี่ธันจะได้นอน ถ้าเกิดว่าพี่ธันโดนเพื่อนโกหกมาตลอด ทั้งที่เราหวังดีด้วย และพี่ธันเป็นคนที่เกลียดการโกหกมากๆ พี่ธันจะทำไงครับ”

   “ไม่รู้ดิ”

   คำตอบดื้อๆ ทำเอาริวหน้าเหวอ

   “อ้าว”

   พี่ธันยักไหล่ “กูไม่ใช่มึง และไม่ใช่เพื่อนคนนั้นของมึงจะไปรู้เรื่องได้ไง ของแบบนี้ต้องเจอกับตัวถึงจะเข้าใจ ไม่งั้นมึงก็คิดง่ายๆ มองทุกอย่างเป็นกระจก ลองคิดดูซิว่าหากมึงไปยืนจุดเดียวกับเพื่อน มึงจะทำยังไง แล้วถ้าเพื่อนมาอยู่จุดเดียวกับมึงเขาจะแสดงออกแบบไหน”

   เหมือนจะเข้าใจและเหมือนจะไม่เข้าใจ เลยทำหน้าหมาปัญญาอ่อนใส่พี่ธันจนโดนเขกหัวทิ่ม

   “คิดมากรกสมอง นอนๆ เขาว่านอนอิ่มสมองปลอดโปร่ง ดังนั้นกูไปนอนล่ะ ฝากปิดบ้านด้วย” เจ้าของบ้านหาวอัดหน้าแล้วเดินเกาพุงขึ้นชั้นสองเฉย ริวได้แต่คิด แบบนี้ก็ได้เหรอ เอาเถอะ ไม่แน่ว่านอนเต็มอิ่มตื่นมาอาจจะได้คำตอบจริงๆ

   เสาร์อาทิตย์คือวันที่ทุกคนได้อยู่กับตัวเองเต็มที่เพื่อมาเผชิญหน้ากันในวันจันทร์ มิทตื่นแต่เช้ารีบกินข้าวแต่งตัวมามหา’ลัยนั่งรออาจารย์ในห้องคนแรก ไม่ได้จงใจหลบหน้าเพื่อน แค่อยากยืดเวลาตัดสินชะตาชีวิตออกไปอีกเล็กน้อย พอพักเที่ยงก็ใช้ความสามารถส่วนตัว หลบหนีจากผู้คนไปอยู่มุมสงบไร้คนสนใจ

   กลายเป็นภาพหนุ่มร่างเพรียวกำลังนั่งขัดสมาธิ หลบอยู่ในพุ่มไม้หลังคณะ จุดนี้เป็นจุดที่ผมบังเอิญพบระหว่างหาที่นอนกลางวัน มันเป็นพุ่มดอกบานบุรีสีเหลืองที่ต้นตรงกลางตายจนเหลือพื้นที่โล่งๆ ส่วนต้นที่อยู่รอบๆ ก็งอกกิ่งบังจนเหลือเพียงแสงรำไรเหมาะกับการนอน ผมเลยขอกล่องกระดาษจากป้าร้านข้าวมาปูไว้นอนเล่น เวลาอยากหลบจากผู้คน

   ในมหา’ลัยยังมีอีกหลายจุดที่ผมเจอ ส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้คณะตัวเองเพื่อง่ายต่อการเข้าเรียนหรือหาอะไรกิน รวมถึงแอบฟังเรื่องของชาวบ้าน ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ส่วนใหญ่คนพวกนั้นเดินมาพูดให้ผมฟังเองถึงที่

   แต่เหมือนผมจะลืมอะไรไปสักอย่าง...

   พุ่มไม้เหนือหัวที่เคยมั่นใจว่าไม่มีใครสน บัดนี้มันถูกแหวกออกด้วยมือคู่หนึ่ง ผมเงยหน้ามองอย่างอึ้งๆ

   “เฮ้ย!”

   “เจอตัวสักที นี่มึงยังมีรังลับที่กูไม่รู้อีกเหรอ” หนุ่มครึ่งญี่ปุ่นขมวดคิ้วไม่พอใจ พลางส่งข้อความบอกเพื่อนคนอื่นให้มาร่วมตัวกันที่นี่

   “ไอ้ริวมึงมาได้ไง ไม่สิ มึงหากูเจอได้ไง!”

   “กูเก่ง อีกอย่างมึงลืมไปแล้วเหรอว่าที่ผ่านมาใครเป็นคนหาและส่งข้าวส่งน้ำให้มึงตลอด” มันพูดหน้าตาเฉย เป็นความจริงที่มันคอยส่งเสบียงให้ หลายครั้งมันเลี้ยงข้าวผมด้วยซ้ำ แต่ตรงนี้ผมไม่เคยบอกมันนี่หว่า ริวไม่ปล่อยให้ผมได้คิดนาน ลากผมออกมาจากโพรงแล้วจ้องเขม็งอย่างคาดคั้น

   “มึงหลบหน้าพวกกู”

   ผมจ้องกลับ โดนจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะแถ “เออ กูหลบหน้า ต่อให้กูเก่งกล้าสามารถแค่ไหน กับเรื่องบางเรื่องกูก็อยากหนี...”

   ผัวะ!!

   คำพูดหายไปกะทันหัน หมัดเน้นๆ ซัดจนหน้าหัน คมฟันกระทบกระพุ้งแก้มจนได้กลิ่นเลือด ผมตาโตหันไปมองคนลงมืออย่างไม่เข้าใจ สมองยังไม่ทันได้ประมวลผมมันก็ใส่ทันที

   “มึงมันเหี้ย! ไอ้เพื่อนเหี้ยย!! ทั้งที่รู้ว่ากูเกลียดการโกหกที่สุดแต่มึงก็ยังทำ ที่ผ่านมามึงไม่เคยไว้ใจกูเลยเหรอวะ กูช่วยมึงสารพัดแถมยังร่วมมือกับมึงเพื่อปิดซัน แต่มึงทำแบบนี้กับกูเหรอ แล้วนี่อะไร แทนที่จะสู้หน้าคุยกันตรงๆ มึงมาหลบอย่างหมาจนตรอก มึงใช่มิทที่กูรู้จักรึเปล่า” วาจาเกรี้ยวกราดจากคนที่อารมณ์ดีอยู่เนืองนิตย์

   แม้จะรู้ตัวว่าผิดแต่ผมเริ่มอารมณ์ร้อนเหมือนกัน ตวาดกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “กูเหี้ยแล้วไงวะ! เมื่อวานกูบอกทุกอย่างไปหมดแล้วมึงยังจะเอาอะไรอีก พูดมาเลยดีกว่า จะเลิกยุ่งกับกูหรือยังไงแน่ เอาแต่ด่าแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากหมาที่ดีแต่เห่า!!”

   เสียงแหวกอากาศพุ่งเข้ามา งานนี้ผมไม่โง่ให้โดนชก โยกหัวหลบหมัดพร้อมถอยหลังให้พ้นรัศมีการโจมตี ไอ้ริวกำหมัดจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

   “อย่ามาดูถูกความเป็นเพื่อนของกู!” ริวลากเสียงเน้นหนักทีละคำ “ที่กูด่า โมโหเหมือนหมาบ้าแบบนี้เพราะกูแคร์ มึงต่างหากยังคิดว่ากูเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่า”

   ผมชะงักไปมองอีกฝ่ายที่ตาเริ่มแดง นึกอยากย้อนเวลากลับไปตบปากตัวเองสักสิบที “ขอโทษ...กูเองก็ไม่อยากเสียพวกมึงไปเหมือนกัน ถึงไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่แบบนี้ ตั้งแต่กูเจอเรื่องแย่ในชีวิต มีพวกมึงเป็นกลุ่มแรกที่กูคิดว่าเป็นเพื่อนจริงๆ จนบางครั้งกูรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับความหวังดีของพวกมึงด้วยซ้ำ”

   “ใครตัดสินว่ามึงไม่คู่ควร มึงต่างหากที่กำลังลดค่าตัวเอง” เสียงดังจากทางด้านหลัง โป้เดินมาพร้อมคนอื่นๆ

   “งั้นกูควรทำยังไง ในเมื่อกูทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ไปหมดแล้ว เหลือแค่คำตอบของพวกมึง”

   “กูอยากจะชกมึงสักหมัดนะ แต่เชี่ยริวตัดหน้า งั้นกูขอตรงนี้แล้วกัน” ซันเดินหักมือเข้ามา ออกหมัดไวซัดเข้ากลางท้องจนจุก ขนาดว่าผมเกร็งหน้าท้องเอาไว้ยังไม่ค่อยช่วยเท่าไร

   “ริวชกหน้า ซันชกท้อง กูมันพวกอินดี้ไม่อยากเลียนแบบใคร ชอบความแตกต่าง งั้น…”

   จุ๊บ!

   “จูบปากมึงแทนแล้วกัน ปากนิ่มดี ถ้ายังไม่มีแฟนและมึงยังไม่มีเจ้าของคงได้ลองกันสักที” กระตุกยิ้มมุมปากแล้วถอยออกไปยืนอุดหูหลบเสียงโวยวายของซันที่หาว่านอกใจ

   “ฉันไม่อยากทำร้ายร่างกาย จะทำแบบโป้ก็ไม่กล้า งั้นให้สิ่งนี้แทนแล้วกัน” ปอนด์ยื่นยาทาแก้พกช้ำสูตรเย็นมาให้ ทำเอาผมไม่รู้จะขำหรือร้องไห้ดี มันเท่ากับว่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่คิดห้ามนี่ เจ้าตัวพูดต่อไม่ได้สนใจสีหน้าของผม “ฉันเข้าใจมิทนะ ถ้ามีทางเลือกอื่นมิทคงไม่ทำแบบนี้แน่ ยังไงก็สู้ๆ พวกนั้นแค่โมโห พอหายก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เพื่อนแท้ตัดกันไม่ขาดหรอก”

   “ขอบคุณและขอโทษ ฉันเข้าใจแล้ว” ผมรับเสียงอ่อย พวกซันกลับมารวมตัวยืนกดดันผม โดยเฉพาะริวที่ส่งจิตสังหารมากเป็นพิเศษ

   “ถือว่ามึงติดทัณฑ์บน พวกกูยังไม่เลิกคบมึงและยังไม่ยอมให้อภัยมึงง่ายๆ หลังจากนี้มีอะไรมึงต้องรายงานตัวตลอด ไม่อย่างนั้นมึงเจอพวกกูรุมกระทืบแน่” ซันคาดโทษ

   “ไม่มีปัญหา เว้นเรื่องเกี่ยวกับป๋า กูบอกพวกมึงไม่ได้จริงๆ เพื่อความปลอดภัยของพวกมึงเอง แต่กูให้สัญญา จะไม่โกหกและปล่อยให้พวกมึงคาดเดากันไปเอง กูจะบอกเท่าที่บอกได้”

   “ดี จบ แดกข้าว!” สรุปประเด็นแล้วไม่จำเป็นต้องขุดมาพูดคุยอีก ซันเป็นคนตัดบทยกพลไปกินข้าวที่โรงอาหารรวมศูนย์กลางของทุกคณะ ซันกอดคอโป้เดินนำหน้า มีปอนด์ชวนคุยอยู่ข้างๆ เปิดโอกาสให้ผมกับริวได้คุยกันเพียงลำพัง ผมคงพูดอะไรไม่ได้นอกจากคำนี้

   “ขอโทษ...”

   “ไม่ยกโทษให้ อย่างที่ซันบอก มึงติดทัณฑ์บนอยู่โดยมีกูเป็นคนคุมความประพฤติ เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย” แสดงว่าพวกมันไปตกลงกันลับหลังมาแล้วเรียบร้อย

   “เอางั้นก็ได้ ให้กูช่วยเป็นพ่อสื่อกับพี่ธันด้วยมั้ย” พูดด้วยความหวังดีกลับโดนมันโบกหัวทิ่ม

   “ไม่ต้อง! กูจัดการเองได้”
   
   ผมลอบมองมัน ใบหน้าขึ้นสีนิดๆ คงกำลังนึกถึงพี่ธัน เหมือนตอนนี้อารมณ์มันจะเย็นลงบ้างแล้ว ผมเลยถามในสิ่งที่ค้างคาใจ

   “กูถามจริง มึงหากูเจอได้ยังไง ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว” จะบอกว่าเดาจากนิสัยผมก็ไม่น่าใช่ ฐานลับแต่ละแห่งไม่มีความใกล้เคียงกันเลยแม้แต่น้อย ไอ้ริวยักไหล่

   “จะบอกก็ได้ เพราะถึงมึงรู้ไปก็ไม่ช่วยอะไร ตัวมึงหลบดีแล้ว ติดที่กลิ่นน้ำหอม แค่เดินผ่านกูก็ได้กลิ่น กำหนดขอบเขตเป็นแถวที่ไม่ค่อยมีคนพลุ่งพล่านและไม่ไกลจากร้านของกินก็หามึงเจอง่ายๆ”

   ริวตอบแบบชิลๆ เป็นผมเองที่ทึ่งจัด เห็นชอบทำตัวปัญญาอ่อนไม่คิดเลยว่ามันจะลึกล้ำขนาดนี้ แถมยังจมูกดีอย่างกับหมาและผมเองก็ไม่สามารถเลิกใช้น้ำหอมได้ด้วย ชักกังวลแทนพี่ธันแล้วสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 17:31:19 โดย Silver Fish »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
จมูกดีไปนะริว
คงจะจำกลิ่นพี่ธันได้ด้วยสิเนี่ย555

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :m15: สงสารมิทมาก ๆ เลย เราเข้าใจมิทน่ะ ถึงแม้จะสนิทกันแค่ไหน แต่ปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เราก้อไม่อยากให้เพื่อนมารับรู้น่ะ เข้าใจมิทได้ดีเลยน่ะ อยากให้คบกันแบบเป็นกำลังใจให้กันดีกว่า ถึงแม้ คำว่า เพื่อน จะหมายถึงการไม่ปิดบังกันเล่าให้ฟังทุกเรื่อง แต่มันก้อคงต้องมีขีดคั่นในบางเรื่อง เช่นเรื่องเงินทอง เป็นต้น ป๋าน่ารักมาก ๆ เลยอ่ะ ยินดีกับมิทจริง ๆ  :mew3: คนกตัญญูตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ รอตอนต่อไป  :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ก็เพื่อนกันเนอะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :เฮ้อ: โล่งใจแทนมิท

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ระยะปรับความเข้าใจ

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ดีกันๆๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เพื่อนก็เคลียร์แล้ว ป๋าก็จะพาไปพบแม่แล้ว
..ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆแล้วนะมิท

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
น้องริวควรไปเป็นหมา เอ๊ย! สมแล้วที่เป็นหมาน้อยของพี่ธันนนนน

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจกัน มิทกอดที

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เข้าใจกันแล้วววว

ว่าแต่ริวสุดยอดอ่ะ จมูกดีสุดๆ  :mew1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ต่าางคนต่างมีเหตุผล แต่ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจกันนะ

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

เพื่อนก็คือเพื่อน

ตัดกันไม่ได้ง่ายๆ

อย่างน้อยก็เข้าใจกันแล้ว


ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
เข้ามาอ่านแบบมาราธอนกันเลยทีเดียว
ก็คิดอยู่นะว่ามันต้องมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันบ้าง
จะให้ยอมรับได้กันหมดทันทีที่รู้เรื่องก็คงเป็นไปไม่ได้
เข้าใจทั้งสองฝ่าย เราเป็นมิทก็คงทำอย่างนี้เหมือนกัน
โดยเฉพาะเรื่องเงิน มันพูดกันไม่ได้ทุกคนหรอกนะ
เข้าใจที่เพื่อนๆรู้สึก อยากช่วยในเรื่องที่พอช่วยได้บ้าง
เอาเป็นว่าตอนนี้คลี่คลายกันแล้ว เป็นที่น่าพอใจ
ต่อไปเพื่อนๆคงตัวติดกันมากกว่าเดิมแน่ๆ  :hao3:
ทางด้านป๋าเองก็น่าให้รางวัล แต่ต้องไปเอารางวัลที่มิทนะคะ :o8:
ต้องบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดของมิทเลยก็ว่าได้
มีความสุขอย่างนี้ไปตลอดนะมิทรี่
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ




ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ดีกันๆๆๆ เพื่อนที่น่ารัก ป๋าก็น่ารัก ชีวิตดี๋ดี

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
อ่านรวดเดียวจนถึงตอนปัจจุบัน
สนุกมากค่ะ
มิทสู้ชีวิตมาก

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
ปลายประสาทจมูกริวทำด้วยอะร๊ายยยย    ยอมค่ะจมูกดีมาก  นี่เสียวแทนพวกเพื่อนๆเลบตอนมิทไปแบบนั้นกลัวป๋าจะหยอกกลับขำๆเหมือนกัน  //  มารู้สึกตัวตอนนี้บางเรื่องก็ลืมไปแล้วอย่างเรื่องพ่อของมิทคือเกือบลืมจริงๆ  อ่านนานจนลืมเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด