}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31  (อ่าน 409505 ครั้ง)

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :haun4:ป๋านี่หื่นได้ตลอด น่ารักจริงๆ

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ไม่มีที่ไหน เมื่อไหร่ ป๋าหื่นตลอดเวลา  :jul1:

ออฟไลน์ Jaochewan.L

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 กรีดร้องงงงงง นักเขียนมาอัพพพ!!!! นี่ตกใจมากเปิดมาแล้วเจอว่าขึ้นอัพเดท ฮืออออ ตอนนี้ก็ฟินเช่นเคยย :jul1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ป๋าร้อนแรงเสมอ  :z1:

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ว่ามีอวดป๊อกกี้ครัชส่วนตัวของนางเอง :hao7:

ออฟไลน์ benten_nn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มีแต่พ่อค้าหน้าเลือด ส่วนป๋านี่คงเป็นพ่อค้าหน้านิ่งจอมหื่นสินะ  ป๋าได้กำไรทุกทางเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
นักธุรกิจก็ยังเป็นนักธุรกิจ
ไม่ยอมเสียผลประโยชน์เลยนะป๋า 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เพิ่งได้อ่าน ชอบแนวมาเฟียและนายเอกแบบนี้นะไม่ใช่เอะอะร้องไห้แบบนั้นน่ารำคาญมาก ป๋าแซ่บมากจริงๆ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ที่ทำทุกวัน้ก้อช่วยงานแล้วนะ...เชื่อสิ... 555

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่32 คนเดียว

   ปากเก่งไปแบบนั้นแต่ผมก็ยังหนีความจริงเรื่องที่ตัวเองยังอยู่ในวัยเรียนไม่พ้น ดังนั้นผมเลยทำตัวให้สมวัยด้วยการอยู่ดูแลแม่ในระหว่างที่ป๋าเคลียร์งานที่รัสเซียตามคำแนะนำของอดีตพาคาน ทำให้ช่วงนั้นผมกับป๋าห่างกันอีกรอบ ด้วยตัวตนของป๋าไม่สะดวกมาที่โรงพยาบาลบ่อยอยู่แล้ว เลยได้แต่ส่งบรรดาการ์ดมา อย่างวันนี้เป็นหลง

   “แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรจริงๆ”

   ป้านาเดียร่างท้วมมีเค้าโครงของแม่เอ่ยถามเป็นรอบที่ห้าของวัน เมื่อเข้ามาเจอผมนั่งเล่นไพ่กับไมค์ระหว่างแม่พักผ่อนหลังทานยา

   อันที่จริงไมค์เองก็ไม่ได้ตัวหนาหุ่นบึกเท่ากับการ์ดคนอื่นๆ แต่เทียบกับคนธรรมดาแล้วก็ยังดูตัวสูงใหญ่กว่าอยู่ดี น่าจะตัวหนากว่าหลงไม่เท่าไหร่ แถมยังเป็นหมอบรรยากาศรอบตัวเลยไม่เยือกเย็นเท่าหลง ถึงแบบนั้นป้านาเดียก็ยังแสดงทีท่าระแวงชัดเจน ในขณะที่ผมสุดแสนจะชิลหรือเป็นเพราะผมเจอแต่พวกหุ่นหมีจนชินแล้วก็ไม่ทราบ

   “อย่าห่วงเลยป้านาเดีย พี่ไมค์เป็นคนที่พ่อบุญธรรมส่งมาเพื่อดูแลผม เห็นแบบนี้เขาเป็นหมอนะ” ผมตบมือป้าที่วางบนแขนเบาๆ เป็นเชิงปลอบ หลังป้ารีบถลาเข้ามาคว้าตัวผมไปหลบทั้งที่ตัวเองก็กลัว

   “หมอจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ หลานไม่คิดจะบอกป้าจริงๆ เหรอว่าพ่อบุญธรรมเป็นใครกันแน่ คงไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับคนอันตรายใช่มั้ย” ในเมื่อไล่ไมค์ออกไปไม่ได้ก็หันมาเค้นคอผมแทน เรื่องที่ผมใช้นามสกุลมิไรฮอฟ มีแค่แม่คนเดียวที่รู้ นอกนั้นพวกเราตัดสินใจว่าจะไม่บอกเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

   “ไม่มีอะไรจริงๆ พ่อเขาเป็นนักธุรกิจ อาจมีเรื่องขัดผลประโยชน์กันบ้าง แถมเขารักผมมาก(ปานจะกลืนกิน)เลยส่งคนมาคอยดูแลแค่นั้นเอง ป้านาเดียสบายใจได้” กล่อมด้วยน้ำเสียงที่คิดว่านุ่มนวลที่สุด แต่หางตาเหลือบเห็นไมค์มุมปากกระตุกเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม น่าจะกำลังกลั้นขำกับคำพูดผมอยู่ ใช่ซี้ ก็ป๋าน่ะรักผมโคตรๆ รักจนแทบฟ้าเหลืองเลยล่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมานอนเฝ้าแม่คงโดนป๋าฟัดจมเตียงจากความเครียด

   เห็นพี่อาคมที่แวะมาหาร่ำๆ บอกว่าอยากให้ผมกลับไปดูบอสสักหน่อย คิดจะให้ผมไปเป็นเครื่องสังเวยล่ะสิ ฝันไปเถอะ กับคนที่ตึกผมเต็มใจช่วยอยู่เพราะทุกคนคอยปกป้องคุ้มครองป๋ากับผม แล้วยังคอยช่วยเหลือตลอดเหมือนพี่น้อง ส่วนคนที่รัสเซียผมไม่สนิท ช่างหัวมัน แม่ผมต้องมาก่อน

   “เหม่ออะไรน่ะเรา ลุงถามว่าเป็นยังไงบ้างก็ไม่ตอบ” ชายวัยกลางคนโบกมือไปมาเบื้องหน้าผมเป็นเชิงเรียกสติ ผมยิ้มให้ สลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งกลับมาสนใจเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า อุตส่าห์ได้เจอลุงกับป้าทั้งที นี่ถ้าไม่มีท่านทั้งสองผมคงจะใช้ชีวิตลำบากกว่านี้ เพราะต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลังไม่มีใครดูแลแม่

   “ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ผมสุขสบายดี ไม่ต้องลำบากหาเงินเหมือนสมัยก่อนแล้ว กำลังอยู่ในช่วงตั้งใจเรียนจะได้มาทำงานตอบแทนพ่อบุญธรรม แล้วลุงกับป้าล่ะครับเป็นไงบ้าง” ผมอธิบายไปตามจริง แต่ไม่บอกรายละเอียดทั้งหมด เพราะลุงกับป้าเองไม่รู้ว่าผมใช้วิธีไหนหาเงิน รู้แค่ผมลำบากเท่านั้น

   ทั้งคู่ถอนหายใจ แม้ภายนอกจะดูเหนื่อย แต่แววตายังคงสดใส “ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ กิจการต่อเติมบ้านของคาร์ปไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนเรื่องดีก็คงเป็นพวกเราแข็งแรงมีกำลังดูแลอิรินาไปอีกนาน มิทรี่ไม่ต้องเป็นห่วง” ป้าเป็นฝ่ายตอบพลางลูบแก้มผมเบาๆ อย่างรู้สึกผิด ที่ก่อนหน้านี้แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วยังต้องเจียดเงินหลานไปใช้อีก

   ผมรู้มาโดยตลอดแม้จะไม่มีใครเล่าให้ฟังก็ตาม ทีแรกผมนึกเคือง ที่เงินรักษาแม่ถูกหยิบยืมออกไปใช้ แต่พอคลุกคลีกับลูกค้าอายุมากกว่าที่ชอบบ่นระบายเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ผมก็ค้นพบว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรสวยงาม ต่อให้เสียสละมากมายแค่ไหนก็ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ภายใน

   ป้ากับลุงเองก็ไม่ได้ทำเรื่องร้ายแรงอะไร เขาดูแลแม่ผมอย่างดี จ่ายเงินรักษาแม่ผมเต็มจำนวน ที่หยิบยืมไปเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น ผมเลยยอมหลับตาข้างหนึ่ง คิดเสียว่าเป็นค่าจ้างดูแล จะให้ป้ากับลุงเสียสละมาดูแลคนป่วยทั้งที่ตัวเองก็ยังเอาตัวแทบไม่รอดมันก็จะเกินไปหน่อย

   “ขอบคุณครับป้านาเดีย ลุงคาร์ปที่ช่วยดูแลแม่ผมมาโดยตลอด หลังจากนี้เรื่องค่ารักษาจะหักจากบัญชีโดยตรง แต่ผมจะส่งเงินมาให้จำนวนหนึ่ง เผื่อแม่อยากกินอยากได้อะไร” ผมยกมือไหว้ขอบคุณจากใจ พวกป้าเองพยักหน้ารับด้วยสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม น่าจะเข้าใจความหมายแฝงที่ผมจะสื่อ คือผมจะส่งเงินมาให้แม่ใช้ ส่วนนอกนั้นก็ให้ป้ากับลุง แต่ไม่สะดวกจะพูดกันตรงๆ เลยใช้วิธีนี้แทน

   ถามว่ากิจการป๋ามีตั้งมากมาย ขอแค่ผมเอ่ยปาก แค่ร้านเล็กๆ ร้านสองร้านป๋าก็ยกให้ได้ แต่ผมไม่ทำ เพราะนั่นคือของป๋า ผมจะเอาแต่ใจมายกให้ญาติตัวเองได้ยังไง อีกอย่าง ผมไม่อยากให้พวกเขาคิดว่าผมได้เงินมาอย่างง่ายดาย เพราะใจคนนั้นยากแท้หยั่งถึง แม้จะคุ้นเคยกันในระดับหนึ่งแต่ผมก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้น หากให้เทียบระหว่างลุงกับป้า ผมยังสนิทกับพวกการ์ดมากกว่า ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้แหละ อ้างเรื่องสายเลือดเดียวกันไม่ได้ ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ

   ลุงคงคิดว่าบรรยากาศชักจะหม่นแปลกๆ เลยเปลี่ยนไปถามถึงชีวิตผมระหว่างเรียนแทน ซึ่งผมก็เล่าออกไปทั้งหมด ทั้งเรื่องเพื่อนแต่ละคนกับวีรกรรมฮาๆ แน่นอนว่าไม่ระบุชื่อที่อยู่ของพวกนั้นเลยแม้แต่คนเดียว การได้อยู่กับป๋าทำให้ผมกลายเป็นคนที่ระวังตัวมากขึ้น ทุกการกระทำจะคิดก่อนเสมอว่าหากทำไปแล้ว พูดไปแล้วจะได้ผลลัพธ์ยังไงตามมา

   หลายคนอาจจะบอกว่าแบบนั้นได้เหนื่อยตาย แต่กับผมที่อยู่กับสิ่งเหล่านี้จนชิน เพิ่มเติมแค่ความจริงจังมากขึ้นเลยไม่รู้สึกรู้สากับมันสักเท่าไหร่ คล้ายกับเป็นการกระทำทั่วไป เช่นการกระพริบตาหรือหายใจ

   หลังคุยกันได้สักพัก แม่ก็ตื่นขึ้นมาให้ผมไปดูแลต่อ ส่วนไมค์ทำตัวเป็นรูปปั้นประจำห้อง นั่งอ่านหนังสือแพทย์เล่มโตอยู่เงียบๆ

   พอปรับเตียงจัดหมอนเสร็จ ผมก็มองพวกผู้ใหญ่คุยกัน

   “อิรินา เธอสบายใจได้แล้ว ลูกชายที่น่ารักของเธอมีคนช่วยดูแลแบบนี้ เธอต้องตั้งใจรักษาตัวดีๆ ล่ะ” น้ำเสียงเหมือนจะดุ แต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ โดยมีลุงคาร์ปพยักหน้าเห็นด้วยเป็นฉากหลัง

   แม่หัวเราเบาๆ “เข้าใจแล้วพี่ อย่าดุฉันต่อหน้าลูกสิ เสียฟอร์มหมด” พูดพลางใช้มือข้างที่ไม่ได้เจาะสายน้ำเกลือมาลูบหัวผมเบาๆ ผมเลยส่งยิ้มกว้างไปให้

   “แล้วเรื่องผ่าตัดล่ะ” ลุงผู้จริงจังดึงกลับเข้าประเด็นหลัก แต่พอแม่หันมามองผม ลุงกับป้าเลยหันถาม ไอ้ผมก็ไม่รู้รายละเอียดซะด้วย เลยมองคุณหมอเพียงหนึ่งเดียวในห้องแม้จะไม่ใช่เจ้าของไข้ก็ตาม แต่น่าจะเป็นคนติดต่อเรื่องการผ่าตัดให้นั่นแหละ

   “คิวการผ่าตัดอย่างช้าที่สุดก็ภายในปีนี้ อย่างเร็วคืออีกสามเดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณหนูต้องกลับไปเรียนที่เมืองไทย” ไมค์แจกแจงพร้อมกับเป็นการเตือนไปในตัว ให้ผมตัดสินใจว่าจะเอายังไง เรื่องการผ่าตัดของแม่ก็สำคัญ การเรียนก็เป็นอนาคต

   “ไม่ต้องอยู่เฝ้าแม่หรอก ยังไงก็มีลุงกับป้าอยู่ แล้วยังมีคนของพ่อบุญธรรมเราอีก ไปเรียนเถอะ แม่สัญญาว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” แม่ก็คือแม่ ถึงจะไม่ได้เลี้ยงช่วงหลัง แต่คนที่ตั้งท้องคลอดมาดูแลตั้งแต่แบเบาะก็ยังคงเป็นแม่อยู่ดี ดังนั้นความคิดลูกชายมีหรือจะไม่รู้

   ผมส่ายหัวอย่างไม่ยินยอม “วันสำคัญแบบนั้นผมขออยู่ดีกว่า เรื่องเรียนเอาไว้ที่หลังก็ได้” ผมคิดงั้นจริงๆ นะ เรียนยังดรอปหรือซิ่วเรียนใหม่ได้ แต่ผมมีแม่เพียงคนเดียว...คิดถึงตรงนี้ความกังวลก็ตีตื้อเข้ามาในอก แม้จะไม่ใช่กรณีร้ายแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แต่ขึ้นชื่อว่าการผ่าตัด ยังไงก็เสี่ยงอยู่ดี

   “ป้าก็ไม่รู้นะว่าระบบการเรียนของประเทศนั้นเป็นยังไง แต่ป้าว่าหลานกลับไปเรียนเถอะ ทางนี้พวกเราจะช่วยดูแลเอง อยากรีบเรียนให้จบจะได้ตอบแทนพ่อบุญธรรมไม่ใช่เหรอ มานั่งรออยู่นี้โดยไม่รู้กำหนดที่แน่นอน มันจะเสียเวลาไปเปล่าๆ นะ” ป้าให้เหตุผลหลังจากมองอะไรรอบด้าน แต่ละคนช่วยกันกล่อมผมที่ยังดื้อดึงคนละประโยคสองประโยค จนกระทั่งไมค์เดินมากระซิบข้างหู

   “บอสสั่งให้คุณหนูตามบอสกลับไทยครับ ส่วนเรื่องทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง มีคนที่ไว้ใจได้ของเราคอยดูแล อีกอย่าง ถ้ากำหนดการผ่าตัดที่แน่นอนออกมาเมื่อไหร่ จะแจ้งให้คุณหนูทราบล่วงหน้าเพื่อลาหยุดดีมั้ย” ประโยคยาวเหยียด แต่ดวงตาผมวูบไหวตั้งแต่คำว่าบอสสั่งแล้ว

   ป๋าทำอะไรมักมีเหตุผลเสมอ และข้อเสนอที่ไมค์บอกก็น่าสนใจไม่เลว พอผมตอบตกลงก็โดนแม่กับป้ามองค้อนใส่ ข้อหาพูดไม่ฟัง พอไมค์พูดแล้วเชื่อฟังเชียว พวกท่านไม่รู้ว่าคนที่ผมฟังน่ะคือป๋าต่างหาก คำสั่งป๋าคือเด็ดขาด เจอมากับตัวผมไม่กล้าดื้อหรอก(หากไม่จำเป็น)

   “แล้วจะกลับไทยเมื่อไหร่” ผมมารัสเซียช่วงปิดเทอมยาว เหยียบถึงพื้นปุบก็เกิดเรื่องจนเสียเวลาไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่เหลือก็ขลุกอยู่ที่โรงพยาบาล คุยกับป๋าผ่านวีดีโอคอลจนลืมวันลืมคืน

   “อีกสองวัน” คำตอบทำเอาผมสะดุ้งโหยง

   “2 วัน!?” อึ้ง ผมก็คิดนะว่ามันเหลือเวลาน้อย แต่ไม่คิดว่าจะน้อยขนาดนี้ “แล้วป๋าเสร็จธุระหมดแล้วเหรอ” ผมลดเสียงเบาลง พวกแม่เองพอเห็นว่าผมคุยเรื่องส่วนตัวจึงหันไปชวนคุยกันเอง ไม่เข้ามาแทรก

   “เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน ความจริงคืนนี้บอสจะสั่งให้คุณหนูกลับไปหาด้วย แต่พ่อช่วยพูดให้คุณหนูได้อยู่กับแม่เต็มที่”

   ผมพยักหน้ารับแบบเหม่อๆ นั่นเท่ากับว่าป๋าแวะกลับไปเยี่ยมพาคานแล้วสินะ สายตาผมโฟกัสแต่เรื่องแม่จนเลอะเลือนไปหมด เห็นทีกลับไปรอบนี้ต้องขอบคุณพี่อาคมสักหน่อย แม้จะชอบเอาผมไปบูชายัญ แต่ก็มีความคิดละเอียดอ่อนสมกับคนที่เคยมีครอบครัวมาก่อน จะบอกว่าคนที่เข้าใจผมดีนอกจากไนท์ก็พี่อาคมนี่แหละ

   ผมครุ่นคิดเวลาอีกสองวันจะทำอะไรดี สุดท้ายก็สรุปแค่ว่าอยู่กับแม่ให้มากที่สุดพอ ถึงเวลาก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเพื่ออนาคตอันสดใส ดังนั้น...กวักมือให้ไมค์ที่ตัวสูงชะลูดก้มลงมากระซิบข้างหู “ฝากบอกป๋าด้วยว่าหลังจากนี้ของดเรื่องวีดีโอคอล ไว้กลับไปแล้วจะชดเชยให้” สิ้นคำไมค์ก็เผยสีหน้ายุ่งยากใจออกมา

   “บอสไม่ยอมแหงๆ คุณหนูอาจจะไม่รู้ แต่ตอนนี้บอสเริ่มมีอาการลงแดงอ่อนๆ เพราะขาดคุณหนู หมอไม่มียาตัวไหนจะรักษาได้ นอกจากให้พ่อใช้แอลกอฮอล์กับซิการ์บรรเทาอาการไปก่อน” ไมค์ผายมือส่ายหัวแบบหมอจนปัญญาจริงๆ ผมหลุดหัวเราะกับท่าทีเล่นๆ ที่นานๆ ทีจะเห็นจากไมค์ แบบนี้ค่อยสมกับเป็นน้องชายของหลงหน่อย คงทำไปเพื่อไม่ให้ผมคิดมากเรื่องแม่สินะ ใครบอกว่าผู้ชายตัวใหญ่ทำงานแบบนี้น่ากลัว ดูการ์ดป๋าแต่ละคนออกจะน่ารักตะมุตะมิ(เฉพาะกับคุณหนูนั่นแหละ)

   ถึงจะพูดงั้นงี้สุดท้ายไมค์ก็ยอมไปพูดกับป๋าให้อยู่ดี ผมรู้ตัวว่าหากเป็นตัวเองล่ะก็คงขัดใจป๋าไม่ได้แน่ เพราะป๋าจะยกสารพัดเหตุผลจนผมเถียงไม่ออก รอก่อนเถอะ รอผมโตฝึกวิชาจากไนท์มากๆ จะได้เอามาต่อกรกับป๋า เมื่อทางนี้เรียบร้อย ผมก็กลับไปนั่งเฝ้าแม่ตามเดิม

   นอกจากเวลาไม่เคยคอยใครแล้ว เวลายังไม่เคยพออีกด้วย ผมแทบใช้ทุกนาทีอยู่ข้างแม่ตลอด ไม่ว่าตอนนอนหรือตอนตื่น แต่สุดท้ายผมก็ยังต้องกลับเมืองไทยอยู่ดี ป๋ามารับตั้งแต่เช้ามืด ส่วนแม่ผมกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ผมจูบแก้ม ไหว้บนหลังมือแม่ เพราะพวกเราคุยกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าผมอาจจะต้องไปช่วงที่แม่หลับ ก่อนจะออกไปพร้อมกับป๋าเพื่อขึ้นเครื่องบินส่วนตัวเช่นเดียวกับตอนขามา

   ตลอดทางผมไม่หันหลังกลับไปแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ใช่ว่าเข้มแข็งหรือคิดจะมุ่งตรงไปข้างหน้า แต่เป็นเพราะใจผมยังแกร่งไม่พอ กลัวว่าถ้าหันไปมองแค่เสี้ยววิ ความตั้งใจของผมจะพังทลาย และเอาแต่ใจดื้อดึงที่จะอยู่ที่นี่ต่อ เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง ผมเลยขยับไปนั่งตักมุดอกป๋า อาศัยไออุ่นกับกลิ่นของป๋าช่วยเยียวยาจิตใจ

   “ฉันจะพาเธอมาอีก” คำพูดพร้อมการกดจูบบนขมับชวนให้รู้สึกดีจริงๆ

   “ขอบคุณครับป๋า” ขอบคุณอะไรหลายๆ อย่างที่ป๋าทำให้ ป๋าเองก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในประโยคสั้นๆ นี้ เลยกระซิบชิดใบหูบอกด้วยเสียงทุ้มว่าไม่เป็นไร ฉันทำทุกอย่างไปเพื่อให้เธออยู่กับฉัน ทั้งที่เป็นคำพูดเอาแต่ใจดูร้ายกาจ แต่มันกลับทำให้หัวใจที่กลวงเปล่าของผมได้รับการเติมเต็ม...

   พอมีกำลังใจเต็มเปี่ยมกับฝ่ามือใหญ่ที่กุมไว้ ผมก็เหยียบแผ่นดินไทยได้อย่างมั่นคง ถึงแม้โลกของผมจะอยู่ที่รัสเซียก็ตาม ผมจะไม่ทิ้งความกังวลเรื่องแม่ แต่จะคอยระลึกถึงเสมอเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ผมก้าวไปข้างหน้าและยืนหยัดในแบบของตัวเอง

   พวกเรากลับห้องที่ชวนให้คิดถึง ป๋ากับผมมีเวลาสานสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นชดเชยช่วงที่ต้องห่างกัน ฝ่ามือแตะลากผ่านสันกรามสวย ดวงตามองสบอัญมณีสีน้ำเงินเข้มที่คอยดึงดูดให้เข้าหา ทั้งสัมผัส กลิ่นกายและหยาดเหงื่อ เสียงหอบกระเส่าผสานกับเสียงครางต่ำอย่างพึงพอใจ

   ร่างผมโยกไหวตามแรงส่งจนเตียงสั่นสะเทือน หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามการหอบหายใจ จากมุมนี้ผมเห็นรอยสักรูปนกฟีนิกซ์สยายปีกเต็มแผ่นหลังที่สะท้อนอยู่บนตู้กระจกเหมือนวันแรกที่ผมหลวมตัวมาอยู่ใต้ร่างผู้ชายคนนี้ มันทำให้ผมหลุดขำทั้งที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มจนป๋าชะงัก

   “หัวเราะอะไร” น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อคนในอ้อมแขนไม่ตอบโต้อย่างเร่าร้อนเหมือนเคย

   “ผมแค่นึกถึงครั้งแรก” ผมตอบพลางลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อกำยำแผ่กลิ่นไออัลฟ่าเข้มข้นโดยเฉพาะเวลาแบบนี้

   ป๋ากระตุกยิ้มร้ายตรงมุมปาก ดวงตาวาวราวกับราชสีห์จ้องเหยื่อ “ตอนนี้เธอยังกลัวรอยสักของฉันรึเปล่า” คำถามเจือกระแสหยอกเย้าพร้อมด้านล่างที่เริ่มขยับอีกครั้ง

   ผมไม่มีแรงดึงป๋าลงมากอด เลยเลือกที่จะยันตัวลุกขึ้นไม่แคร์ว่าเบื้องล่างจะเสียดสีขนาดไหน แล้วโอบกอดเบียดกายเข้าหา บดสะโพกกับเสาระอุ

   “ไม่กลัวแถมชอบมากด้วย ชอบจนแทบบ้า ป๋าตรงสเปกผมทุกอย่างเลยรู้มั้ย” เป็นครั้งแรกที่ผมพูดเรื่องรสนิยมของตัวเอง ป๋าเลยเผลอตั้งใจฟังอย่างลืมตัว ผมผ่อนลมหายใจเป่ารดลำคอแกร่ง  “ผมชอบผู้ชายที่อายุมากกว่าท่าทางอันตราย หุ่นต้องเด็ด ใบหน้าต้องได้ กระเป๋าเงินต้องหนัก และที่สำคัญ...ส่วนนั้นต้องใหญ่” แรกๆ นั่นใช่หรอกนะ แต่อันสุดท้ายนี่ผมแค่แกล้งหยอดเฉยๆ ใครมันจะไปคิดละว่าป๋าหัวเราะดังลั่น แบบที่ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ขนาดพี่อาคมยังเคาะประตูถามว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า กระทั่งป๋าตอบกลับไปว่า ‘ไปซะ’ ห้องถึงกลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง

   “กลายเป็นเธอที่เลือกฉันตั้งแต่เมื่อไหร่” คำพูดพร้อมการกระทุ้งหนักๆ อย่างหมั่นไส้คนบนตักที่สะท้านเฮือกจนตัวเกร็ง

   “ป๋า...ผมผิดไปอะ..อ๊ะ...” ผมร้องแทบไม่เป็นคำ นึกก่นด่าตัวเองในใจว่าไม่น่าซ่าไปแหย่หนวดราชสีห์ ผลกรรมเลยตกอยู่ที่ร่างกายตัวเองถูกแทงจนพรุนแทบไม่ได้หยุดพัก ถ้าไม่นั่งครางบนตัวป๋า ก็นอนครางอยู่ใต้ร่าง กว่าป๋าจะยอมผละออกไปผมก็นอนเปื่อยเป็นผักเฉาบนเตียงแบบหมดสภาพ

   เรือนผมยุ่งเหยิง ลำคอตามตัวมีแต่รอยแต้มแดงแถมรอยฟันครบทุกซี่อีกบางจุด สะโพกกับบั้นท้ายเต็มไปด้วยรอยมือ แล้วยังโคนขาด้านในที่เลอะไปหมด ผมนอนคว่ำหน้าบนเตียงมันแบบนั้น ไม่คิดจะขยับแม้ปลายเส้นผม แม้เดฟจะเข็นอาหารหอมกรุ่นเข้ามาให้ก็ตาม

   พ่อครัวที่เพิ่งได้กลับมาทำหน้าที่ ทอดสายตามองสภาพอีหนูของบอสที่โดนกินไม่เหลือกระดูก ไม่รู้จะขำหรือสมน้ำหน้าดี

   “ลุกไหวมั้ยคุณหนู” ถามพลางเข้ามาช่วยพยุง คนโดนทารุณตอบเสียงแหบแห้ง

   “ลุกไม่ไหวและอยากอาบน้ำมาก อย่างน้อยๆ เช็ดตัวก็ยังดี พี่เดฟมีงานอะไรต้องทำอีกรึเปล่า ถ้าไม่มีช่วยผมหน่อยได้มั้ย ตอนนี้รู้สึกท่อนล่างอัมพาต” โอดครวญแถมความเว่อร์ไปนิดหน่อย เดฟส่ายหัวระอา ยอมเปลี่ยนจากพ่อครัวเป็นพ่อบ้าน พยุงคุณหนูไปล้างตัวในห้องน้ำ ก่อนสวมเสื้อคลุมอาบน้ำกลับมานั่งกินข้าวมื้อเช้าของวัน ซึ่งเป็นของทานง่ายอย่างข้าวต้มทรงเครื่อง นับว่ารู้ใจ

   ระหว่างที่เดฟยืนรอเก็บโต๊ะก็สำรวจคุณหนูไปด้วย ร่างสูงเพรียวที่ยิ่งโตยิ่งฉายความมีเสน่ห์ กำลังนั่งทำหน้าง่วงเหมือนจิ้งจอกขี้เกียจบนเก้าอี้รองเบาะนุ่มนิ่มอย่างดี มือตักข้าวต้มเข้าปากอย่างหิวโหย ตามด้วยของหวานเป็นวุ้นมะพร้าวอ่อนของโปรด เสื้อคลุมก็ใส่ไม่เรียบร้อยจนอดรู้สึกขัดใจเล็กๆ ไม่ได้

   “คุณหนูไม่ไปสวมเสื้อผ้าดีๆ จะได้นอนสบาย หรือติดนิสัยชอบนอนห่มลมแบบบอส”

   ผมมองเดฟที่กำลังเก็บจานใส่รถเข็น “ไม่ได้ชอบเปลือยนอนแบบป๋าหรอก แต่ใส่ไปเดี๋ยวก็ต้องถอดอีก ไม่ใส่แล้วกัน” ถ้าพูดว่าเดฟรู้ใจ ผมก็รู้ชะตากรรม

   หลังจากเดฟออกไปได้พักใหญ่ ป๋าเดินเข้าห้องปุบก็ตรงเข้าใส่ผมปับ พอได้ฟัดแก้เครียดซะจนเต็มอิ่ม ก็เดินอารมณ์ดีออกไปทิ้งผมเป็นซากอารยะธรรมอยู่บนเตียง เกิดเป็นภาพเดจาวูสำหรับเดฟ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายวัน ส่วนสาเหตุที่ผมยังไหว ไม่สารร่างแหลกเพราะป๋าเขารู้ลิมิตไง

   ส่งลูกชายมุดเข้าท้องผมจนพอใจ ระหว่างปล่อยให้ผมพักฟื้นก็ทำด้วยวิธีอื่น มือปากก็ยังมี ผมหรือจะรอด กระทั่งสามวันก่อนเปิดเรียนนั่นแหละ ป๋าถึงยอมปล่อยแบบไม่แตะต้อง ถึงแบบนั้นผมก็แทบลากขาไปเรียนอยู่ดี พี่อาคมเลยกลายเป็นสารถีขับรถไปส่งผมตรงนู่นทีตรงนี่ทีในมหา’ลัยจนคนมองเป็นแถว ซึ่งช่างหัวมัน ไม่เป็นผมไม่รู้หรอก

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่32 คนเดียว(ต่อ)

   คิดแล้วก็วางของใส่โต๊ะหินอ่อนที่ประจำ ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงที่ผมกับเพื่อนมารวมตัวกันแลกของฝาก ของผมดูจะเยอะกว่าใครเพื่อน เลยต้องให้พี่อาคมช่วยถือมาส่งด้วย ไหนๆ ก็ไหนๆ พวกเพื่อนผมเลยชวนกินข้าวเที่ยงด้วยกันเลย พี่อาคมแกก็รักเด็ก บอกว่าชวนให้นึกถึงหลงกับไมค์สมัยวัยรุ่นเลยอยู่ร่วมวงด้วย

   พอกินข้าวเสร็จก็กองจานไว้มุมหนึ่งให้ริวที่แพ้เกมเป่ายิ้งฉุบเป็นคนไปเก็บ ก่อนจะมาแลกของฝากกัน ตอนนี้กลุ่มผมเรียกได้ว่ารวมตัวครบของจริง เพราะวาย้ายกลับมาเรียนที่วิทยาเขตนี้แล้ว โดยมีเจเล่ติดสอยห้อยตามมาเที่ยวด้วย

   “ว้าย น่ารักจัง” เสียงใสๆ ของเจเล่ดูจะดังกว่าใครเพื่อนระหว่างหยิบตุ๊กตา Matreshka หรือตุ๊กตาแม่ลูกดกมาเปิดเล่น ที่ยิ่งเปิดจะเจอตัวที่เล็กลงเรื่อยๆ กระทั่งเหลือตัวเท่าปลายนิ้วก้อย

   “งั้นฉันขออันนี้แล้วกัน พี่เฟย์น่าจะชอบ” ปอนด์หนุ่มไอทีตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม หยิบไข่ฟาแบร์เชสีขาวทองไปสำรวจดูเล่น ผมว่าอย่าอ้างแฟนเลย ปอนด์คงชอบเองมากกว่า

   “โอโห มีผ้าคลุมไหล่ด้วยเหรอเนี่ย สวยดีแฮะ กูขอเอาไปฝากพี่สะใภ้นะ” ริวหยิบผ้าคลุมไหล่ถักด้วยมือ ซึ่งมีลวดลายคล้ายกับใยแมงมุมสีขาวไปกางดูอย่างชอบใจ

   “กล่องนี้น่าสนใจดี พี่ชายกูน่าจะชอบ” ซันหยิบกล่องจิวเวอรี่โดยช่างฝีมือชาวรัสเซีย ที่วาดภาพสลับทาแลคเกอร์จนเป็นมิติบนฝากล่องได้อย่างสวยงาม

   “ส่วนกูต้องนี่เลย! จะไม่ยอมให้ใครพรากมันไปจากอกเด็ดขาด” โป้หัวเราะฮาๆ ขณะกอดกล่องที่ห่อปิดด้วยกระดาษอย่างดี เจ้าตัวเล่นกระโจนเข้าใส่คว้าไปกอดไว้เป็นคนแรก จนวาอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมผ่านเพื่อนสมัยเด็ก

   “เมียมึงขี้เมาฉิบหายเลยว่ะซัน”

   ซันกลอกตาเอือมโดยไม่ตอบอะไร เพราะจนแล้วซึ่งคำพูดกับนิสัยสุดติ่งของแฟนตัวเอง ส่วนคนโดนนินทาระยะเผาขนมีหรือจะปล่อยไปเฉยๆ หันมาเลิกคิ้วเลียนแบบซันอย่างกวนๆ

   “พวกมึงไม่รู้อะไร ของดีของรัสเซียคือวอดก้า! แล้วแบบนี้จะพลาดได้ยังไง” ว่าแล้วก็จูบกล่องโชว์ เปิดประเด็นให้ซันหันไปด่ากระชากมิตร ผมเลยใช้โอกาสที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับของฝากป้องปากถามคนข้างตัว

   “พี่อาคมเล่นกวาดทุกอย่างที่คิดว่าขึ้นชื่อมาหมดเลยนี่” ครับ คนที่ซื้อของฝากเหล่านี้คือพี่อาคมนั่นเอง ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ผมมีเวลาว่างที่ไหน

   “ผมพยายามเลือกที่ไม่ค่อยมีขายในไทยน่ะ แต่เอาจริงๆ จะอะไรก็คงมีหมด เพียงแค่ราคาแพงขึ้นเท่านั้นเอง” พี่อาคมอธิบายซึ่งผมพยักหน้ารับเห็นด้วยแล้วหยิบขนมสารพัดที่ จากใครหลายคนมานั่งกิน เพราะส่วนใหญ่เพื่อนๆ จะเอาของกินกันมามากกว่า มีผมนี่แหละขนมาแต่ของเป็นชิ้น

   ระหว่างที่ผมกำลังนั่งมองเพื่อนเพลินๆ จู่ๆ วาที่ไม่ได้เลือกของฝากกลับเปิดประเด็นซะเงียบกริบกันทั้งโต๊ะ

   “มึงเจอแม่รึยัง”

   ผมหยุดมือที่กำลังหยิบข้าวซอยตัดของฝากจากโป้ พอกวาดตาเห็นเพื่อนอยากรู้กันขนาดนั้น มันก็อดไม่ได้ที่จะหยิบขนมมาแกะอย่างพิถีพิถัน แล้วนั่งละเลียดกิน อืม...ผมไม่เคยกินมาก่อนเลย มันเหมือนจะกรอบแต่ก็เหมือนจะนุ่ม หอมข้าวกับน้ำผึ้ง

   “ไอ้มิท! เลิกลีลาเดี๋ยวกูถีบคว่ำ จะเล่าหรือไม่เล่าก็บอกมา พวกกูไม่ได้บังคับ” ซันเหลืออดยกขาจะถีบผมจริงๆ หากไม่ติดว่าโป้กอดคอห้ามไว้ ไม่ใช่อะไร มันกลัวขวดวอดก้าร่วง

   ผมหัวเราะ “ใจเย็นสิ กูได้เจอแม่แล้ว ท่านกำลังพักรักษาตัวอยู่ ภายในปีนี้ถึงจะได้คิวผ่าตัด กูถือโอกาสบอกพวกมึงเลยแล้วกัน ไม่แน่กูอาจได้หยุดยาวไปดูแม่ พวกมึงลงเรียนวิชาอะไรกันเอาตารางมาดู ถ้ามีวิชาเดียวกันจะได้เกาะพวกมึงเลย” ผมบอกตามตรงเลยว่ากูจะเกาะ พวกที่เรียนวิศวะเหมือนกันก็ไม่มีปัญหาอะไร ยอมหยิบมือถือส่งตารางของตัวเองมาให้ทางไลน์กลุ่ม ผมเองก็ส่งไปเหมือนกันจะได้ช่วยกันดู

   “แบบนั้นก็ดีแล้ว เห็นมิทมีความสุขทุกคนจะได้โล่งใจสักที ฉันเชื่อว่าไม่มีใครเจอแต่เรื่องร้ายๆ ตลอดชีวิตหรอก มันต้องมีเรื่องดีบ้าง เพียงแต่คนนั้นถูกเรื่องราวแย่ๆ บดบังจนไม่สังเกตมากกว่า” ปอนด์ยิ้มบางพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายแต่แทงใจทุกคน

   “เห็นด้วยนะ ต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม เรื่องดีๆ ก็คือเรื่องดีๆ นั่นแหละ” แล้วเจเล่กับปอนด์ก็แปะมือกันท่าทางน่าเอ็นดู กลายเป็นลูกคู่อย่างดีขนาดที่ผมกับริวยังต้องชิดซ้าย

   ผมระบายยิ้มเต็มใบหน้า เพื่อบอกว่าตอนนี้กำลังมีความสุขแค่ไหน “เรื่องดีๆ ของฉันหนึ่งในนั้นคงเป็นพวกนายนี่แหละ ขอบคุณมาก” คำพูดของผมทำให้ทุกคนนิ่งไป ก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดัง ริวโผเข้ามากอดคอผม โป้ยีหัวอย่างหมั่นไส้ เล่ถลาเข้ามาร่วมวงด้วยเหมือนเห็นเป็นเรื่องสนุก ส่วนสามคนที่เหลือแค่นั่งยิ้มอยู่กับที่ เท่านี้ก็ทำให้ผมหัวใจพองฟูแล้ว มิตรภาพระหว่างเพื่อนมันเป็นแบบนี้นี่เอง

   เนื่องจากมีความสุขมากไปหน่อย ขนาดเลิกเรียนกลับบ้านแล้วยังหุบยิ้มไม่ได้ ผมยกมือไหว้ป๋าที่ยังนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ก่อนจะถูกรวบเอวไปนั่งตักเหมือนทุกที ผมเลยถือโอกาสนี้เล่าเรื่องที่มหา’ลัยให้ฟัง ป๋านั่งฟังเงียบๆ รอจนผมเล่าจบถึงจ้องสบตา

   “ตอนนี้เธอกำลังมีความสุข?”

   “ครับ” ผมตอบอย่างไม่ลังเล ป๋าพยักหน้ารับน้อยๆ

   “เธอพร้อมจะฟังเรื่องพ่อของเธอรึยัง” คำถามเรียบง่ายที่ทำเอาใจผมกระตุกวูบ ผมมองป๋าอย่างไม่เข้าใจ ทำไมช่วงเวลาที่ผมมีความสุขป๋าถึงพูดเรื่องของผู้ชายคนนี้!

   ดูท่าผมจะแสดงออกชัดเจนมากไปหน่อย ป๋าเลยรวบตัวไว้ไม่ให้หนีแล้วพูดอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

   “อย่าหนีความจริงมิทรี่ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนนามสกุลสักกี่ครั้ง เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอครึ่งหนึ่งเป็นของผู้ชายคนนั้น เธอควรจะรับความจริงได้แล้ว ไม่งั้นเธอจะก้าวต่อไปได้ยาก อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”

   ผมผ่อนลมหายใจ พยายามควบคุมสติอารมณ์ แม้ในใจจะนึกต่อต้านแค่ไหน แต่สิ่งที่ป๋าพูดนั้นเป็นความจริง ผมไม่สามารถหนีปีศาจตนนั้นไปได้ตลอดกาล สักวันหนึ่งต้องตามมาหลอกหลอนแน่ ต่อให้ไม่ได้เจอตัวเป็นๆ แต่ความทรงจำยังคงอยู่

   “ปุบปับผมคงทำไม่ได้หรอก ป๋ามีอะไรอยากบอกก็บอกเถอะ”

   กลับกลายเป็นพี่อาคมที่ก้าวเข้ามาเล่าแทน บอกว่าพ่อของผมยังไม่ตาย ตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็หนีหัวซุกหัวซุนไปหาผมที่ห้องเดิม คนของป๋าที่ดักรออยู่แล้วก็รวบตัวมาให้ไนท์จัดการ บังคับมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้ป๋า แน่นอนว่าพ่อผมต่อให้ตกเป็นเบี้ยล่างก็ยังเรียกร้องขอเงิน ความคิดเรื่องที่จะขายลูกตัวเองยังคงฝังแน่นอยู่ในหัว ผมฟังถึงตรงนี้ก็กำหมัดแน่น แล้วโดนป๋าแกะออกเพื่อกุมมือแทน

   แน่นอนว่าระดับอย่างไนท์ นอกจากจะไม่ให้เงินแล้วยังเอาหลักฐานการทำผิดกฎหมายส่งให้ตำรวจ เพื่อลากคอพ่อผมเข้าคุกตลอดชีวิต ผมถึงไม่เห็นเขาอีกเลย...

   “ทีแรกฉันคิดจะฆ่ามันทิ้งด้วยซ้ำ สำหรับฉันก็ไม่ต่างจากเศษสวะตัวหนึ่ง แต่เพราะมันเป็นพ่อของเธอฉันจึงไว้ชีวิต ถึงแม้จะได้รับโทษแบบนั้น แต่กฎหมายไทยสักวันมันต้องออกมา ฉันอยากให้เธอเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่วันนั้นจะมาถึง” ป๋ากล่าวเสริมพลางเชยคางผมขึ้น “มิไรฮอฟไม่เคยอ่อนแอ ถึงเธอจะไม่ใช่สายเลือดของฉัน แต่ห้ามทำชื่อเสียงเสียหายเด็ดขาด ฉันหวังในตัวเธออยู่นะเด็กน้อย” จบประโยคด้วยการประทับจูบแทนสัญญาที่ผมต้องปฏิบัติตาม

   ผมมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับแล้ว หรือต่อให้มีทางแยกอื่นผมก็ไม่คิดจะไป

   “ผมบอกไม่ได้ว่าจะทำสำเร็จตอนไหน เพราะมันเป็นแผลลึกเกินไป แต่ผมสัญญาว่าจะทำให้ได้” ผมลั่นวาจาเมื่อป๋าถอนจูบออก อีกฝ่ายพูดเพียงคำสั้นๆ

   “เธอไม่ได้อยู่คนเดียว”

   เสียงกระแอมไอของไนท์ดึงสายตาผมให้สำรวจรอบตัว ไนท์กับพี่โทริยืนอยู่ตรงประตูเหมือนเพิ่งเปิดเข้ามา ไมค์ยืนอยู่ข้างพี่อาคมตรงมุมห้อง ในมือของไมค์ถือแท็บเล็ตที่กำลังวีดีโอคอล มีหลงกับแม่ที่ส่งยิ้มโบกมือให้อยู่บนหน้าจอ ขอบตาผมร้อนผ่าว รู้สึกจุกที่คอกับเจ็บตื้อตรงจมูก ผมกำลังจะร้องไห้ ไม่ใช่จากความทุกข์ แต่เป็นดีใจ

   “จงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ให้สมกับเป็นคนของฉัน ‘มิทรี่ มิไรฮอฟ’ ”

   เสียงทุ้มต่ำที่ประกาศออกมาดังก้องไปทั้งใจ ผมพยายามกลั้นก้อนสะอื้นของตัวเอง แล้วโผกอดป๋าผู้ที่เปรียบเสมือนความสุขครั้งใหญ่ที่สุดของผม จุดเปลี่ยนของชีวิตจากเด็กไซด์ไลน์อนาคตเลือนลางกลายเป็นคนที่กำลังจะมีอนาคตที่สดใส ผมพูดกับป๋าด้วยเสียงสั่นเครือ

   “ผมขอสาบาน ร่างกาย ชีวิต วิญญาณ หัวใจของผม ทุกสิ่งทุกอย่างขอมอบให้ป๋าเพียงผู้เดียว”

   ป๋าตอบด้วยคำพูดสั้นๆ ที่กระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน

   “мой дорогой”

- END -

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ป่ามิทจบแล้ว! เย้!!
หลังจากน้องมิทผ่านมรสุมมามากมาย ในที่สุดก็มีความสุขจริงๆ สักที และมีคนคอยหนุนอยู่เคียงข้าง กลายเป็นคนน่าอิจฉาไปซะแล้ว หุหุ
ป๋าเองนับวันก็ยิ่งหลงเด็กมากขึ้นทุกที จนบรรดาการ์ดพร้อมใจกันส่ายหัวอย่างระอา แต่ไม่มีใครกล้าอาจหาญแซ็วบอสใหญ่ ฮ่าๆ

ส่วนตอนจบอาจจะดูเหมือนขาดหายไปบ้าง ไม่ได้ตัดจบแต่อย่างใด ปมทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว ส่วนเรื่องการรักษาของแม่อันนี้จะใส่เป็นตอนพิเศษในเล่ม มีกำหนดรวมเล่มประมาณต้นปีหน้า ยังบอกชัดเจนไม่ได้ว่าเดือนไหน ติดตามข่าวสารกันที่เพจ https://www.facebook.com/SilverFish4/ นะคะ

เท่านี้ก็จบไป 3 คู่จากทั้งหมด 5 คู่
คิวต่อไปเป็นริวธัน แต่ยังคงไม่แต่งเร็วๆ นี้ ขอหายไปอัปนิยายแฟนซีที่ค้างไว้ก่อนเน้อ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและรับน้องมิทไว้อยู่ในอ้อมแขนค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อ้ากกก จบแล้วหรอ งงเลย

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ดีใจกับมิททท  :katai2-1:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มิทรี่ ที่รัก ของป๋า และเป็นที่น่าเอ็นดูของทุกคน  o18

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
น้องมิทรี่ ยิ้มได้แล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
จบแล้ววว  :hao5: ดีใจแต่ก็เศร้า ไม่อยากให้จบบบบบ  :ling1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ไม่ทันรู้ตัว จบซะแล้ว
ขอบคุณมาค่ะ เรื่องสนุกมาก ร่ำๆจะไปเริ่มอ่านใหม่อีกรอบ

ออฟไลน์ Joe_joeyphuwa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew1:จบแล้ว ...  เย้ๆๆคู่ที่ก็happy รอคู่ต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
จบแล้ววววว
ชอบเรื่องนี้มากกกกอะ
ชอบความหลงเด็กของป๋า
ชอบความฉลาดและนิสัยของมิท
ชอบเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่กันแบบครอบครัว
คือน่ารักอบอุ่นมากกกก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ ป้าแก่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เสียดายจัง ยังไม่อยากให้จบเลย  :m15: :m15: :m15:


ดีใจกับมิทรี่ด้วย ที่ได้มีความสุขจริงๆ กับเขาซักที


ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ขอบคุณมากค่ะ ติดตามเตื่องนี้มานานเลยทีเดียว
ชอบป๋ามากกกกกจะรอผลงานต่อไปนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
จบอย่างมีความสุขทุกคนก็ดีที่สุดแล้วค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ท้ายสุดมิท ก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
แม้ไม่เต็มร้อย ที่ขาดไปก็คงเป็นส่วนของพ่อ
ที่ไม่มีสามัญสำนึกของความเป็นพ่อ
มีแต่ความเห็นแก่ตัว ทั้งขาย ทั้งเกาะลูกกิน

แต่เรื่องที่มิทกังวลใจที่สุดคือแม่ ก็คลี่คลาย
เรียนต่อได้ มีเพื่อนสนิทดีๆ ใช้ชีวิตกับป๋าอย่างมีความสุข
ป๋า มิท  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์ ช่วยเติมเต็มความสุขให้คนอ่าน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เป็นตอนจบที่น่าอิจฉาชีวิตมิทมาก คือป๋าหลงแบบเต็มขั้นจริงๆ ชอบพ่อลูกต่างสายเลือดด้วย พี่อาคมก็อบอุ่นส่วนหลงกับไมค์นี่ถึงจะต่างขั้วแต่ก็สายฮาเหมือนกัน กับคุณเชฟเดฟก็ชอบ สรุปชอบทุกคน ฮ่าๆๆ รอตอนพิเศษนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด