ต่อ --->
ผมส่งของที่ยกเข้ามาให้ไอ้โก้ไป ตัวเองก็ไปนั่งลงที่เดิม เพื่อนสนิทผมทั้งสองคนก็จัดการรินบริการเพื่อนที่ต้องการน้องแอลเข้าเลือด ส่วนผมน่ะหรอ...จิบเบียร์วันฝนตกนี่ก็ฟินไม่หยอกนะครับ แหะๆ
“ด่ากูสุดท้ายก็แดก” ไอ้โก้แขวะผม
ผมยักไหล่แบบไม่ใส่ใจก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบอีกรอบ ไอ้นัทคงหมั่นไส้ท่าทางของผมมากมันเลยปาขนมใส่
คือ...ปามาทั้งถุง ไอ้!!!
แต่คือ...มันไม่โดนผมไงผมหลบทันแต่ดันไปโดนคนที่นั่งอยู่บนโซฟาแทน
“มึงแม่ง ปามาไมวะ!!” ผมหันไปด่าไอ้เพื่อนตัวดี
“ก็ไม่โดนมึงป่ะวะ” ไนท์ถามกลับมา คือตอนนี้มันไปนั่งรวมกับไอ้เพื่อนสนิทผมเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวนะ..ได้ข่าวว่ามาคุยงาน
“ก็เพราะมันไม่โดนกูไง” ผมชี้หน้าไอ้นัท
“แม่งปาขนมโดนแค่นี้ทำมาหวง อิบุ๊คอ่ะกูนอนด้วยหลายครั้งแล้วมึงไม่รู้หรอ”
“นอนเชี่ยไรไนท์ เป็นผู้หญิงพูดดีดีหน่อย” บุ๊คแย้งมาจากบนโซฟา แล้วยื่นถุงขนมคืนให้ผม
“เอ้าก็นอนจริงๆ กูกับมึงออกค่ายด้วยกันบ่อยจะตาย”
ผมเลิกสนใจพวกไก่กาหันมาแกะถุงขนมที่ถูกใช้เป็นอาวุธ แกะเสร็จก็ยื่นให้คนที่โดนปาใส่
“ไม่กินอ่ะ แบงค์กินเลย”
“ไมอ่ะ ไม่อ้วนหรอก”
“ไม่ได้กลัวอ้วนซะหน่อย”
“เออ อย่างอิบุ๊คอ่ะแดกแค่นี้มันไม่อ้วนหรอก เห็นบวมๆนั่นน่ะบวมเบียร์พวกมึงอย่าไปเชื่อหน้าใสใสของมัน ที่ใสใสอ่ะวอดก้าไม่ใช้น้ำเปล่า” ไนท์ที่ถือแก้วเบียร์กลับไปสมทบกับกลุ่มเพื่อนที่คุยงานกันเอ่ยท้วงมา
ผมยิ้มเงยหน้ามองคนที่โดนเพื่อนเผายิ้มๆแล้วเอ่ยถามเบาเบาพอให้ได้ยินแค่สองคน
“จริงอ่ะ?”
“อะไร”
“ก็ที่ไนท์มันพูด ไม่ใสจริงหรอ?”
“ชอบใสใสก็ไปจีบคนอื่น” บุ๊คพูดจบก็ตวัดสายตามองค้อนนิดนึงแล้วเมินไปสนใจงานของตัวเอง
“ไม่ได้ชอบคนใสใส ชอบบุ๊คครับ”
ผมเห็นแก้มของคนที่บอกว่าตัวเองไม่ใสขึ้นสีเรื่อๆนิดๆ ฮ้า...ดีกับใจจริงๆ
ผมก็นั่งจิบเบียร์ไปพลาง เกลากีตาร์เล่นไปตามเพลงที่ชอบ
แชะ
ผมเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียงนั้นก็พบไอ้นัทคนเดิมเพิ่มเติมคือมือถือในมือ ผมหรี่ตามองมันแต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรมันก็เฉลยออกมาซะก่อน
“ไอ้น้องหนึ่ง มันถามว่ากูอยู่ไหน”
“มันจะมา?”
ไอ้นัทพยักหน้ารับ
“มาไง มันไม่มีรถ”
“เดี๋ยวให้มันมากับไอ้ต่อ”
ผมพยักหน้ารับแล้วก็หันมาสนใจกีตาร์ในมือ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนเพื่อนๆสาขาการศึกษาพิเศษฯขอตัวกลับไปก่อนเพราะรุ่นพี่เขานัดเข้าเชียร์ ตอนนี้เลยเหลือสมาชิกแค่เพื่อนๆสังคมศึกษาห้าคนแล้วก็พวกผมสามแล้วก็แมวอีกหนึ่ง
“จะเที่ยงแล้ว ไปทำไรกินเหอะกูหิวละ” ไนท์ชวนเพื่อน
“ของที่ซื้อมาอ่ะนะ” ผมถาม
"อือ ขอใช้ครัวหน่อยนะ” เพื่อนผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นแล้วยิ้มให้
“ทำไรกินอ่ะ ทำช่วยไหม?” ผมเสนอตัวเพราะตัวเองก็พอทำเป็นอยู่บ้าง
“ไม่ต้องมึง เดี๋ยวพวกกูทำเอง” ไนท์พูดแล้วชวนเพื่อนๆผู้หญิงเดินไปทางครัว เหลือแต่กลุ่มผู้ชาย
“ทำกับข้าวเป็นด้วยหรอ?” คนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆผมเอ่ยขึ้น บุ๊ควางแมคแอร์ลงที่โต๊ะเล็กแล้วโน้มตัวลงมาอุ้มคุณดอลลาร์ที่นอนเหยียดอยู่ข้างผมขึ้นไปเกาคางเล่น แหม หน้าเคลิ้มเลยนะไอ้แมวอ้วน
“เป็น เพราะต้องอยู่กับน้องแค่สองคน ถ้าทำไม่เป็นเลยจะอยู่กันได้ไง แล้วยังเลี้ยงแมวอ้วนๆนี่อีก” พูดจบก็เอานิ้วจิ้มๆหน้าผากขนๆนั่น เพราะว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่ไปอยู่ในครัวกันโซฟาตัวยาวที่คนตาโตนั่งอยู่ก็เลยว่าง เจ้าตัวเลยนอนเหยียดยาวโดยหันหัวมาทางผมแล้วพาดหัวอยู่กับที่วางแขน พร้อมกับเอาเจ้าแมวอ้วนมานอนบนอก โอ้ยยยย อิจฉาแมว
“ไม่อ้วนซะหน่อย เนอะคุณดอลลาร์เนอะ” คนน่ารักที่นอนคุยกับแมวงุ้งๆงิ้งๆ แหนะ มีเอาจมูกชนกันด้วย...
ผมที่ทนอิจฉาไอ้แมวอ้วนที่นอนทำหน้าเคลิ้มนอนให้บุ๊คเกาคางให้ไม่ไหวเลยเอานิ้วจิ้มหน้าผากไอ้แมวตอแหลไปอีกที แต่กลับโดนคนที่นอนเป็นเตียงให้แมวดีดมือกลับมา
“อย่าแกล้งน้องนะ” ...บ้าจริง...
ใจเต้นแรงมาก
“แบงค์พวกมึงไปเล่นกันในห้องนอนไหม...เห็นหัวดำๆของพวกกูที่นั่งมองพวกมึงจีบกันบ้างก็ได้แหม” ไอ้โก้ร้องทักมา
ผมหันวับไปมองมันตาขวาง
“แดกไปเงียบๆไหม หรือไม่ก็หลับตาไว้”
ไอ้เพื่อนตัวดีของผมสองคนได้แต่หัวเราะคิกคักกันแล้วชนแก้วเหมือนพอใจอะไรสักอย่าง ผมหันกลับมามองคนที่ตกเป็นเชลยด้วยกันก็พบว่าคนที่นอนเป็นที่นอนให้แมวอยู่ตอนนี้เอาหน้าซุกพุงแมว ผมมองเห็นหูเขาแดงๆ
"เป็นไร แล้วเอาหน้าไปซุกแบบนั้นขนเข้าปากหมด”
ผมพยายามจะอุ้มเอาเจ้าแมวอ้วนออกมาแต่เขาก็กอดมันเอาไว้แน่น คุณดอลลาร์ดีดดิ้นอยู่ผมกลัวว่าเขาจะโดนข่วนเอาเลยขู่ไป เจ้าตัวยอมปล่อยแต่โดยดีส่วนเจ้าแมวพอหลุดออกมากได้ก็โดดแผลวแล้ววิ่งหายไปในห้องนอนผม
พอปล่อยแมวแล้วก็เอาหมอนอิงมาซุกแทน เป็นไรวะ
“เป็นไร” ผมสะกิดเรียก
“ป่าว” เสียงอู้อี้นั้นดังมาจากเบื้องหลังหมอนอิงใบเล็ก
ดูจากกิริยาของคนตรงหน้าผมก็สรุปเอาแบบเข้าข้างตัวเองเต็มที่เลยว่าเขาเขินที่เพื่อนผมแซว
“เขินหรอ” ผมแกล้งกระซิบถามใกล้กับหูแดงๆที่โผล่ออกมาพ้นหมอน
ตุ่บ
เสียงหมอนอิงฟาดเข้าข้างกกหูเต็มๆ
“โอ้ย” ไม่เจ็บหรอกครับ แอ็คติ้งไปงั้นแหละ
“เฮ้ย แบงค์เราขอโทษ”
คนที่ทำร้ายร่างกายกันเมื่อครู่ผุดลุกขึ้นนั่งเอามือแตะเบาเบาที่หลังมือผมที่แกล้งเอากุมตาข้างซ้ายเอาไว้ ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่ไม่ระวังตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้กัน เนียนจับมือเขาไว้ก่อนจะตอบออกไป
“ไม่เจ็บหรอก”
ว่าจบก็ส่งยิ้มกว้างๆไปให้ คนที่ตอนแรกหน้าแดงแล้วเปลี่ยนมาซีดเมื่อครู่ตอนนี้ก็กลับมาแดงอีกรอบ เจ้าของมือขาวๆชักมือกลับก่อนจะชกเข้าที่ไหล่ผมเต็มๆ
อันนี้เจ็บแฮะ “คราวนี้เจ็บยัง”
“เจ็บแล้วครับ ไม่แกล้งแล้วๆ”
ผมยกมือยอมแพ้ แต่คนโดนแกล้งยังหน้ามุ่ยไม่เลิก
“ที่จริงเราไม่ได้แกล้งนะ ไอ้พวกนั้นต่างหากไปชกมันด้วยดิ”
“ไม่ต้องมาบุ้ยให้เพื่อนเลย”
“เออ ไม่ต้องมาหาเรื่องให้กูเลย มึงแกล้งเขาแล้วมาว่าพวกกูนิสัยไม่ดีเลยนะครับคุณครู” ไอ้โก้ว่ามา
มึงก็ครูไหมล่ะไอ้หอยหลอด
ผมหันมามองคนที่ตอนแรกเป็นจำเลยร่วมกันแต่ตอนนี้กลายเป็นโจทก์ของผมไปแล้ว
“งอน?”
“ใครงอน ไม่อ่อนเหอะ” แหน่ะมีเหวี่ยงๆ
พูดแค่นั้นเจ้าตัวก็เอามือถือออกมาเล่น เหมือนจะทำเป็นไม่สนใจผม
“ไม่งอนก็คุยกันหน่อยดิ”
“...”
“ขอโทษครับ ไม่แกล้งแล้วครับ”
คนที่ตอนแรกบอกว่าไม่งอนตอนนี้ส่งยิ้มกว้างมาให้ผม โฮลลี่ชิท!!! ตาพร่าเลยทีเดียว
“ก็แค่นั้นแหละ”
“รู้ป่าว เขาว่ายิ่งผู้ชายแกล้งอ่ะแปลว่าเขายิ่งชอบนะ แกล้งมากๆก็แปลว่าชอบมากๆไง”
ผมยิ้มกว้างๆตอบกลับไป อ่อยมาอ่อยกลับ ไม่โกงครับ
“แล้วคุณดอลลาร์ไปไหนแล้ว” ว่าจบเขาก็กวาดตาหาเจ้าแมวอ้วนที่วิ่งหนีไปกบดานในห้องนอนผม กลบเกลื่อนริ้วแดงๆที่แก้มนั่น
แต่ยังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงแตรรถจากหน้าบ้านมาขัดซะก่อน
“คงเป็นไอ้น้องหนึ่งมา เดี๋ยวไปเปิดบ้านให้มันก่อน คุณดอลลาร์วิ่งไปในห้องอ่ะไปจับเอาดิ”
ว่าจบผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้เพื่อน แปลกใจนิดหน่อยที่ไอ้หนึ่งมากับไอ้ต่อ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป
ไอ้หนึ่งเดินหน้ามุ่ยนำเข้าบ้านมาก่อนที่รถจะเข้ามาจอดซะอีก เห็นมันหอบถุงอะไรเยอะแยะส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง คงเป็นไอ้สองคนนั่นที่บอกให้ซื้อมาเพิ่ม ที่มีอยู่ก็แดกให้หมดไหม ทักทายกันเล็กน้อยกับไอ้ต่อแล้วเดินเข้าบ้านมาด้วยกัน
ได้ยินเสียงคนคุยกับแมวดังแว่วออกมาจากห้องนอนเลยแอบย่องไปดูซะหน่อย ภาพที่เห็นทำเอาผมรู้สึกอุ่นซ่านแปลกๆ คนที่บอกว่าจะจับแมวอ้วนตอนนี้กำลังนอนคว่ำหน้าคุยเสียงงุ้งๆงิ้งๆกับเจ้าแมวที่งอนเข้าไปแอบอยู่ใต้ตู้หนังสือ
“ออกมาเถอะน้า นะๆๆ เดี๋ยวให้กินหนมนะครับเด็กดี”
ผมเดินมานั่งลงที่เตียง มองคนที่ง้อแมวไปยิ้มไป จนเจ้าแมวอ้วนยอมให้คนง้อจับตัวออกมา หยากไย่ติดหัวแป้นๆนั่นนิดนึง คนง้อเลยปัดออกให้ ท่าทางการเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของผมนั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกคนเข้าอีกครั้ง อ่อนโยนไปไหนวะ
“ดูสิเห็นไหม ฉกปกเยยย” ว่าจบแล้วก็หอมหัวขนๆนั่นอีกที คือบับ....ดีกับใจ
“จะขโมยแมวเรากลับบ้านด้วยป่ะเนี่ย”
จบคำผมทั้งคนทั้งแมวก็สะดุ้งโหยง
“ขะ เข้ามาตอนไหน!!”
“ก็เข้ามาตอน...ออกมานะครับเด็กดี เดี๋ยวให้กินหนม” ว่าจบก็ยักคิ้วให้สองจึ้ก
“แล้วทำไมไม่เรียกล่ะ”
“ก็ เห็นง้อกันน่ารักดี”
บุ๊คหรี่ตามองผมแป๊ปนึงแล้วก็ก้มลงไปเล่นกับคุณดอลลาร์ต่อ ไปค้นเอาไม้แหย่แมวมาจากไหนไม่รู้มาหลอกล่อกันอยู่ ไอ้ไม่นี้ปกติเจ้าแมวอ้วนของผมมันไม่เล่นหรอกครับนี่คงติดอกติดใจกันเข้าจริงๆ
“แบงค์”
“หือ?”
“...”
ท่าทางของบุ๊คเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เหมือนจะไม่มั่นใจ
“มีไรรึเปล่า”
“คือ...จะว่ามีมันก็มีอ่ะ”
“???”
“อ่า...เสาร์หน้าพวกเรามีนัดเลี้ยงรุ่นกันอ่ะ”
“อ่าฮะแล้ว?”
“คือก็ไม่ใช่งานเป็นทางการอะไร พอดีว่าอาจารย์ที่ปรึกษาท่านกลับมาจากต่างประเทศเลยอยากเจอลูกศิษย์ เลยนัดรวมๆกันมา”
“...”
“แล้วมันนัดกันร้านเหล้าไง ก็เลย”
“เลย?”
“โอ๊ะ โว้ยยยยย จะถามว่าแบงค์จะไปด้วยกันได้ไหม?”
“ห๊ะ” นี่ไม่ได้กวนตีนนะ นี่อึ้งจริงๆ
“ไม่ถามแล้ว”
ว่าจบคนถามก็อุ้มแมวอ้วนเดินออกจากห้องไป ผมทิ้งตัวลงนอนกับเตียงพลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ทำไมเขาถึงมาชวนผมล่ะ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนอยู่เยอะจะไปลากมาถามให้รู้เรื่อง ทำไมถึงมาชวน อีกนิดนึงผมจะคิดเข้าข้างตัวเองแล้วนะ คิดได้ไหมว่า
พิเศษ “แบงค์ แบงค์โว้ยยยยยออกมากินเร็ว เสร็จแล้ว” เสียงตะโกนเรียกของไนท์ดังขึ้นหน้าประตูห้อง
“เออๆ เดี๋ยวออกไป”
ผมนอนคิดอะไรอยู่สักพักก็เดินตามเสียงเรียกไปที่ห้องนั่งเล่น ที่ตอนนี้พวกไอ้โก้คงจัดการเคลียร์ของที่อยู่กลางห้องไปไว้ที่มุมนึงให้มีที่ว่างตรงกลาง ไอ้ที่บอกทำอะไรกินกันนี่คือ...ซื้อของมาต้มสุกี้ เนี่ยนะ!!!
“ก็นึกว่าทำอะไรกิน”
“อย่าเยอะๆ นั่งๆ เอ้าพวกมึงเขยิบหน่อยดิ๊”
ผมทรุดตัวลงนั่งตรงที่ว่างระหว่างบุ๊คกับไอ้น้องหนึ่ง ผมรับเอาอุปกรณ์การกินที่แจกจ่ายกันมาจากเพื่อนเหลือบตามองคนข้างๆเป็นระยะ
“อย่าพึ่งกินๆ ถ่ายรูปก่อน” เสียงไนท์เรียกมาจากฝั่งตรงข้าม พลางชูมือถือในมือขึ้น ตามธรรมเนียมสินะ=,.=
ทุกคนพร้อมใจกันเสนอหน้าเข้าไปในกล้อง เพราะคนเยอะผมเลยต้องเขยิบไปเบียดคนข้างๆด้วย ไหล่เรากระทบกันผมเอียงหัวไปทางเขาด้วยเล็กน้อย แต่เพื่อนฝั่งเขาเบียดเข้ามาอีกทำให้ตอนนี้ไหล่เขาเกยอยู่บนอกผมมาตั้งครึ่ง บ้าจริง!!! ใจเต้นแรงมาก เส้นผมหอมๆอยู่แค่ปลายจมูกนี้เอง ผมเลยฉวยโอกาสนี้ฝังจมูกลงบนผมนิ่มๆของเขา รับรู้ได้ว่าอีกคนเกร็งตัวขึ้นมาทันที
“หึ”
ผมหัวเราะในลำคอให้แค่คนที่โดนฉวยโอกาสได้ยิน พอไนท์ลดกล้องลงผมเลยโดนศอกแหลมๆทิ่มพุงเข้าให้ เจ็บอ่ะ
นั่งกินไปเรื่อยๆพอเริ่มอิ่ม ผมเลยถามถึงเรื่องที่ไอ้นัทมันเกริ่นก่อนจะมา
“นัท เรื่องค่ายอะไรของมึงน่ะวันไหน?” ผมถามในระหว่างที่รอแก้วเบียร์จากไอ้โก้
“สัปดาห์หน้า ที่ท่าล้ง ค่าย ‘สี่คณะสามสถาบัน’ ปีนี้เราเป็นเจ้าภาพ”
“แล้วคือลงชื่อได้ไม่จำกัดงี้หรอ?” คราวนี้ไอ้ต่อเป็นคนถามบ้าง
“ลงๆไปเหอะ เขาจะพาไปทำฝายกับสร้างบ้านดิน ใช้แรงล้วนๆงานนี้งบเยอะ”
“กูอยากให้ฝ่ายกิจการเราทุ่มกับงานคณะแบบที่ทุ่มกับงานแบบนี้บ้าง” ไอ้ไนท์พูดเสียงอ่อยๆมาจากฝั่งตรงข้าม
“ว่าไงล่ะใครจะไปบ้าง”
“ไปกันหมดนี่แหละ พวกกูไปด้วย” ไนท์พูดสรุปเสร็จสรรพ
“โอ้ยยยยยยกิจกรรมเยอะสัส กูจะไม่ไหวแล้ววววว” เสียงไอ้น้องหนึ่งที่ร้องโวยลั่นขึ้นทำเอาฮาทั้งวง
พอกินเสร็จก็เก็บล้างกันผมอาสาจะไปช่วยแต่สาวๆเขาบอกจะทำเอง ก็ปล่อยให้ทำไปครับ ผมเดินออกมาสูบบุหรี่หน้าบ้านก็เห็นไนท์ที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่ม้านั่งก่อนแล้วเลยเดินไปนั่งด้วย
“มีเรื่องจะคุยด้วย” ผมพูดเสียงเบาเบา คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะหันไปคุยกับคนในสายต่ออีกสองสามคำ ผมก็จุดบุหรี่รอจนเพื่อนวางสาย
“อ่ะ ว่ามามีไร” ไนท์พูดเสียงจริงจัง ในขณะที่มือก็ตอบไลน์ไปด้วย เออ ชีวิตยุ่งดีนะมึง
“วันนี้บุ๊คมาชวนกูไปปาร์ตี้รวมรุ่น”
พอผมพูดจบไนท์ก็ตาโตอ้าปากค้าง ก่อนจะยิ้มแซว
“มึงก็ไปดิ กูก็ไป”
“จะให้กูไปในฐานะไรวะ”
“ก็...เพื่อนไง”
“...”
ผมไม่ตอบอะไรเพื่อน ได้แต่นั่งสูบบุหรี่ไปเงียบๆ จนในที่สุดไนท์ก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา
“บุ๊คน่ะนะ มันก็เป็นแบบนี้แหละมันจะแคร์แค่คนที่มันแคร์จริงๆ กูว่ามึงน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาบ้างแหละ”
ผมไม่ตอบอะไรได้แต่นั่งมองสูบบุหรี่ไป
“กูก็ตลกนะมีคนบอกว่ามันเป็นพวกไม่จริงจัง แต่มึงเชื่อมะตั้งแต่กูเป็นเพื่อนกับมันมากูยังเคยเห็นมันไม่จริงจังสักเรื่องเลย ถ้ามันถึงขนาดชวนมึงไปด้วย กูว่ามันก็จริงจังแหละ”
ผมหันขวับเลยครับ
“มึงไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม” ถามเพื่อความแน่ใจ
“ใช่เรื่องพูดเล่นหรอ? กูเดาว่ามึงยังไม่ได้ให้คำตอบมันช่ะ? มึงก็ควรคิดนะว่าตัวมึงเองรึเปล่าที่ไม่จริงจัง มึงเองนั่นแหละที่จริงจังกับเพื่อนกูแค่ไหน”
ว่าจบไนท์ก็ลุกเข้าบ้านไป ผมมองกลุ่มควันที่ลอยวนอยู่รอบๆตัว แล้วก็รับรู้ว่ามีคนเดินมาทางเบื้องหลังเลยหันไปมอง ก็เจอคนที่ตกเป็นประเด็นสนทนาเมื่อครู่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“แบงค์มีไรอ่ะ”
“ห๊ะ?” งงไหมครับ ผมก็งง
“ก็ไนท์มันบอกแบงค์มีเรื่องคุยด้วย”
“อ่อ”
ผมดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดก่อนก่อนจะยื่นมือไปหาคนที่ยืนอยู่ เขาดูตกใจที่ผมทำแบบนั้นอีกคนไม่ได้ส่งมือมา
“แบงค์...” มีแค่แววตาสงสัยสั่นไหวระริก
ผมยกมือค้างไว้แบบนั้นก่อนจะตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป บางอย่างที่ผมหวังเอาไว้ว่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเราสองคน
“เราเคยบอกไว้ว่าจะไม่บังคับ วันนี้เรายังยืนยันคำเดิม ยังไม่ขอให้มาเป็นแฟนกันถึงจะอยากเป็นมากก็ตาม เราแค่อยากถาม...เราขอให้เราสองคนเป็นคนพิเศษของกันและกันได้ไหม...”
พูดไปแล้ว
เหมือนขอคบ แต่ก็ไม่ใช่
ผมยังยกมือค้างอยู่แบบนั้น จ้องมองคนที่โดนโยนโจทย์ยากใส่ แววตาสีสวยคู่นั้นสั่นไหวเหมือนจะแน่ใจ...แต่ก็ไม่
แล้วคนตรงหน้าก็ขยับตัว มือข้างนั้นสั่นระริกแต่ก็วางลงบนมือใหญ่ๆสากๆของผม กุมกระชับมั่น
“เราไม่รู้หรอกนะว่าคำว่า ‘คนพิเศษ’ ของแบงค์จะแค่ไหน แต่ถ้าแบงค์คิดว่ามันจะโอเคกับเราทั้งคู่ เราจะให้แบงค์เป็นคนคนนั้นของเราก็ได้” ว่าจบก็ส่งยิ้มกว้างๆมาให้
อากาศหม่นๆของวันนี้ทำให้อารมณ์ผมหม่นไม่ได้เลยครับจริงๆ
“แล้วตกลงไปปาร์ตี้กันป่ะเนี่ย?”
“ไปดิ ต้องไปอยู่แล้ว”
“??”
“ต้องไปเฝ้าว่าที่แฟน”--------------------------------------2BC----------------------------------
ให้ความสัมพันธ์ขยับเข้าไปใกล้กันอีกนิด แต่ยังไม่ใช่แฟน งงไหม? ไม่งงเนอะ
เจอกันตอนหน้าครับ
ปล.รักคนอ่านรักคนเม้นทุกคนเลย ทุกคนคือกำลังใจที่ดีของเราเสมอ^^
ปล.2 เราเขียนเรื่องสั้นด้วย แหะๆ แปะไว้เผื่อคนไหนใจดีสนใจไปอ่านไปเม้น
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56322.0