--แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]  (อ่าน 24961 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #90 เมื่อ03-08-2016 18:40:43 »

น่ารัก:)

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #91 เมื่อ03-08-2016 18:50:14 »

รุกแรงแบบไม่แคร์สื่อ น่ารัก อ่านแล้วยิ้มมม

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #92 เมื่อ03-08-2016 19:52:42 »

โปรดีจริงๆด้วย


ปล.ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป
ถ้าอัพตอนใหม่
ใส่หน้า ด้วยได้มั้ยคะ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #93 เมื่อ03-08-2016 20:06:39 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #94 เมื่อ03-08-2016 21:30:18 »

อื้อหืออออ โปรฯดีขนาดนี้ก็น่าสนใจไหมล่ะ ฮาาาาาา

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #95 เมื่อ03-08-2016 22:12:16 »

น่ารักมากกกก  น่ารักที่สุด
รออ่านตอนหน้านะจ๊ะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #96 เมื่อ03-08-2016 22:17:48 »

โหหหหห แบงค์นายอย่างเนียนจริงๆ  o13 o13

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #97 เมื่อ04-08-2016 01:03:37 »

ข้อเสนอหนุ่มพละน่าสนใจตรงแถมคนกอดฟรีนี่แหละ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง11 [2016/08/03]
«ตอบ #98 เมื่อ04-08-2016 11:13:33 »

จีบหนักเกินไปล่ะ!!

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
--แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #99 เมื่อ20-08-2016 00:47:30 »

แพ้ทาง 12








      ไฟนอล




1 คำ 2 พยางค์




      FINAL




   ฤดูกาลสอบและการเคลียร์งานแบบวินาสสันตโรได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่ขนาดผมเป็นคนที่ไม่ชอบดองงานยังมีงานค้างเยอะขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงพวกเพื่อนจอมขี้เกียจของผมเลย งานก็ต้องเคลียร์หนังสือก็ต้องอ่านไหนจะสอบภาคปฏิบัติอีกแล้วยังต้องซ้อมหลีดด้วยนะ ถ้าแบ่งเวลาไม่ดีมีเข้าน้ำเกลือกันบ้างล่ะผมว่า ดีหน่อยที่สับดาห์สอบรุ่นพี่ให้พักเบรกซ้อมไว้ก่อน




   “กูกำลังจะตาย” ไอ้หนึ่งพูดน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ




ตอนนี้พวกเรานั่งกันอยู่ที่ห้องสมุดคณะพยายามเคลียร์งานที่คั่งค้างให้เสร็จ



   “ตอนนี้ไม่ตายหรอก แต่ถ้ามึงไม่ทำตอนเกรดออกมึงได้สู่ปรโลกของจริงแน่” ไอ้โก้ที่มือก็จดงานเป็นระวิงมองหน้าไอ้หนึ่งแบบสงสารปนสมเพส มือก็ยังเขียนอยู่วิชาเทพ



   “ตอนมอหกทำไมเขาไม่บอกเราวะว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ในชีวิตมหาลัย ทำไมไม่บอกเราว่าต้องเจอสงครามปีล่ะสี่ครั้ง” ไอ้หนึ่งยังคงคร่ำครวญไม่เลิก



แต่อยู่ดีดีมันก็เด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรงมองไปที่กลุ่มนักศึกษาที่เดินเข้ามาภายในห้องสมุด ผมมองตามสายตามันไปก็เจอเพื่อนปีสองการศึกษาพิเศษฯ หลายคนโบกมือให้พวกผมตามประสาคนคุ้นหน้าตากัน คงจะมีแต่ไอ้ต่อที่เดินผละจากกลุ่มเพื่อนมาที่โต๊ะพวกผม



   “ไงมึง” ผมเอ่ยทักไอ้ต่อ



   “เออ” มันรับคำก่อนจะกวาดตามองไปที่โต๊ะ คือ...รกมาก ฮ่าๆๆ




   “มาติว?” ผมถาม




   “เปล่า มาหาวิจัยไปใส่อ้างอิงรายงาน”




   “อ่อ..”




   “เออ เทอมนี้พวกมึงเรียนการจัดการชั้นเรียนกับใคร?”


ไอ้ต่อถามแบบนั้นผมก็ขมวดคิ้วแล้วมองหน้าเพื่อนคือ..ผมจำชื่ออาจารย์ไม่ได้ครับ แหะๆ




   “กับดร.ชินกร ทำไมวะมีไรหรอ?” ไอ้นัทเป็นคนตอบตามประสาเด็กเรียนล่ะครับ




   “อ๋อ คนเดียวกัน คือเย็นนี้พวกปีสามเขาจะมาติววิชานี้ของอาจารย์ท่านนี้ให้ ถ้าพวกมึงสนใจก็มาดิใต้ตึกบัณฑิตสองทุ่ม”



   “เออๆ ดีเลยมึง กูไม่ค่อยเข้าใจบทที่สี่เรื่องกระบวนการเรียนรู้...”




บลาๆๆ แล้วไอ้นัทกับไอ้ต่อก็จ้อกันไม่หยุดเลยเถิดไปจนถึงแลกไลน์กันไว้ เออ..เอากับพวกมันสิ





พอตกลงเรื่องติวกันได้ไอ้ต่อก็ขอตัวไปทางห้องเก็บเอกสารอ้างอิงที่มีหนังสือวิจัยเรียงเป็นตับดำพรืด




   “สรุปคือมึงจะไปติวกับเขาเย็นนี้” ไอ้โก้ถามขึ้น




   “ไม่ใช่แค่กูครับ แต่พวกมึงทุกผู้ทุกตัวจักต้องไปเช่นกัน” ไอ้นัทพูดเสียงเข้มๆ ยังกับจะออกรบ




   “งืออออ พี่นัทครับน้องหนึ่งไม่อยากไป” ไอ้หนึ่งพูดเสียงอ้อนๆหงายการ์ดน้องหนึ่ง น่ารักตายแหละไอ้ควาย ฮ่าๆๆๆๆ





   “มึงไม่ต้องมาอ้อนครับไอ้น้องหนึ่ง มึงอ่ะตัวดีเลยตอนมิดเทอมก็ได้แค่มีน” ไอ้นัทชี้หน้าคาดโทษไอ้หนึ่งทำหน้าจ๋อยสนิทไปแล้ว ผมไม่อะไรหรอกครับติวก็ติว ดีซะอีกจะได้ทวนไปด้วย





พวกผมนั่งทำงานกันไปเงียบๆมีแค่เสียงถอนหายใจและเสียงพลิกหน้ากระดาษเป็นระยะเท่านั้น จนค่ำมืดได้ที่พวกผมเลยตัดสินใจว่าจะหาข้าวกินแถวๆข้างคณะแทนจะออกไปไกลๆ





   “กูไม่อยากไปจริงๆนะนัท” ไอ้หนึ่งยังโอดครวญไม่เลิก




   “มึงก็ไม่ต้องไปสนใจก็จบป่ะวะ”




งงกันไหมครับ ผมก็งง มันคุยกันเรื่องอะไรวะ ผมกับไอ้โก้มองหน้ากันแล้วมองหน้าไอ้นัท




   “เออพวกมึงไม่รู้นี่เนอะ คืองี้...” ไอ้นัทกำลังจะเล่าแต่ไอ้น้องหนึ่งคว้าแขนไว้แต่ไอ้โก้ขัดขึ้นก่อน




   “มึงไม่ต้องเลยเชี่ยหนึ่ง อย่ามากระตุ้นต่อมเสือกกูให้อยากแล้วจากไป”




แล้วมันก็ปัดหน้าผากไอ้หนึ่งที่ทำหน้างอนๆใส่อยู่ โอ้ยยยกูขำพวกมึงมุ้งมิ้งมากสัส




   “เออๆ คืองี้พวกมึงก็รู้ช่ะว่ากูกับเชี่ยหนึ่งจบจากโรงเรียนเดียวกันแล้วคนที่จบมาจากที่เดียวกันอีกคนคือไอ้ต่อ เอาสั้นๆก็พวกมันสองคนเคยมีเรื่องกันมาก่อน”




   “เรื่อง?” ผมกับไอ้โก้ประสานเสียงกันด้วยความเสือกล้วนๆ...เป็นผู้ชายก็ขี้เสือกครับ




   “ช่างมันเถอะน่าพวกมึงนี่ แค่เรื่องเหี้ยๆ”  ไอ้หนึ่งบ่นหน้ามุ่ยแล้วออกเดินนำไปก่อนใคร





พวกผมมองหน้ากันก่อนไอ้นัทจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินตามไอ้หนึ่งไป









เวลาสองทุ่มโดยประมานพวกผมก็มานั่งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางนักศึกษาปีสองสาขาอื่นๆร่วมๆห้าสิบชีวิต



เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตชุดพละอยู่ 4 หน่อเท่านั้น




พวกผมมานั่งรวมกลุ่มกับกลุ่มของไอ้ต่อ ผมเหลือบตามองไอ้หนึ่งเห็นมันทำเฉยไม่สนใจ กลุ่มของไอ้ต่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงมีเพื่อนที่เป็นผู้พิการทางการได้ยินหนึ่งคน มองพวกมันคุยกันแล้วอึ้งครับ มือเป็นระวิงกันเลย เทพสัสๆ พวกผมมีความพยายามที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆมากครับก็ให้เขาสอนภาษามือง่ายๆให้ ฆ่าเวลารอรุ่นพี่มา





สักพักเสียงเอะอะที่ดังมาจากทางขึ้นตึกก็เรียกความสนใจจากทุกคนที่นั่งอยู่ เป็นกลุ่มรุ่นพี่ปีสามที่ผมจำได้ว่าเป็นพี่ๆสาขาคณิตศาสตร์กับกลุ่มปีสองสังคมที่คุ้นหน้ากันดี ผมเห็นไนท์พูดคุยกับรุ่นพี่อย่างสนิมสนมแต่กลับไม่เห็นเพื่อนสนิทของไนท์ ไปไหนหว่า





ไนท์เหมือนจะมองเห็นกลุ่มของผม เธอเลยหันไปพึมพำอะไรสักอย่างกับรุ่นพี่แล้วก็เดินมาที่โต๊ะพวกผม




   “ไง” ผมเอ่ยทัก




   “เออ..ไม่เห็นรู้ว่าพวกมึงเรียนกับดร.ชินด้วย” เธอพูดด้วยท่าทางสบายๆ มือนึงเท้าลงกับโต๊ะอีกมือก็เหนี่ยวสายเป้ที่อยู่บนไหล่ไว้ คิดว่าคูลมากงี้





   “ก็ตามนั้นแหละ แล้ว...” ผมพูดยังไม่ทันจบไนท์ก็ตบป้าปเข้าที่ไหล่ผมแล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงติดหมั่นไส้




   “บุ๊คมันแวะซื้อขนมที่เซเว่น เดี๋ยวก็มา”




ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แล้วไนท์ก็ขอตัวไปช่วยรุ่นพี่แจกเอกสารที่ใช้ประกอบการติวนี้





ก่อนหน้านี้ไอ้ต่อบอกว่าการติวในวันนี้เกิดได้เพราะรุ่นพี่ปีสามมีความคิดที่จะจัดติวน้องอยู่แล้วเขาเลยทำโครงการนี้ขึ้นมา คือเขามีแบบนี้กันตลอดแต่พวกผมก็พึ่งรู้นี่แหละ รู้งี้มาติวตั้งแต่แรกหรอก





   “เห้ยไนท์ วันนี้มาคนเดียวหรอ”  เสียงร้องถามนั้นดังมาจากอีกฟากของโถงตึก ผมเหลือบไปมองไนท์ก็เห็นมันทำหน้ามุ่ยขมุบขมิบปากบ่นอะไรอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับไป ฝั่งทางคนถามก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจจะเอาคำตอบได้แต่มองตามคนที่ง่วนกับการแยกเอกสาร



ผมเลิกสนใจเหตุการณ์นั้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมาไลน์หาคนที่อยู่เซเว่น





เหมาเซเว่นอยู่หรอครับ




รอสักครู่หน้าจอก็ขึ้นตัวอักษรเล็กๆว่าอีกคนอ่านแล้ว




รู้ได้ไงว่าอยู่เซเว่น




ไนท์บอก




อ๋อ




ไปติวด้วยหรอ?




เอาไรป่าวเดี๋ยวซื้อไปให้





อยากได้สแน็คแจ็ค




ขนมดีของคนดี





=,.=




ฮ่าๆๆๆ




แล้วเพื่อนอ่ะ เอาไรป่าว





ผมหันไปถามไอ้นัทที่นั่งข้างกันมันเบ้ปากใส่ก่อนจะส่ายหัว เออหมั่นไส้ก็ช่างมึง





ไม่อ่ะ




รีบมาๆ





อะไรล่ะ




รอคิดตังค์อยู่





ผมส่งสติ้กเก้อไอ้ผมทองทำหน้าหล่อไปให้อีกคน เขาอ่านแต่ไม่ได้ตอบกลับมาคงจะกำลังจ่ายเงินอยู่




ผมเงยหน้ามองไปรอบๆก็เห็นพวกรุ่นพี่กำลังคุยกันที่โต๊ะตรงกลางโถง พวกเพื่อนโต๊ะเดียวกันก็สอนภาษามือกันไป ด้วยความค้างคาใจผมเลยเอาปากกาสะกิดไอ้ต่อที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน



   “What?”




ผมมองไปที่ไอ้หนึ่งเห็นมันไม่ได้สนใจมองมาทางนี้ผมเลยถามสิ่งที่คาอยู่ในใจ




   “นัทมันบอกกูว่าพวกมึงจบมาจากที่เดียวกัน?” ผมเอ่ถามเบาๆจนแทบเป็นกระซิบ




   “Yeb”




   “แล้วมันยังบอกอีกว่ามึงกับไอ้หนึ่งเคยมีเรื่องไม่ถูกกันมาก่อน?”




   “that's right”




   “เรื่อง?”




   “Why don’t you ask him?”




   “ถ้ามันบอกกูคงไม่มาถามมึงป่ะ” ผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่มัน





ผมเลิกสนใจไอ้ต่อที่ทำหน้านิ่งๆก้มหน้าอ่านชีทในมือ ผลการเผือกครั้งนี้มิชชั่นไม่คอมพลีทครับ       




สนใจเจ้าของรสมาสด้าที่ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าตึกดีกว่า





ผมเห็นตั้งแต่รถคันนั้นเลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณคณะแล้วครับ ตอนนี้ก็กำลังมองเจ้าของรถที่หอบหิ้วของกินเต็มไม้เต็มมือ



จนเขาก้าวขึ้นบันไดมา ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองลุกขึ้นยืนตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงใครสักคนร้องแซวมา





   “โอ้ย กลัวจะมองเห็นเขาไม่ชัดหรือกลัวเขาจะมองไม่เห็นคะเดือนพละ”





เชี่ย เขินว่ะหูแดงแน่ๆเลย...แต่เรื่องอะไรจะยอมเขินคนเดียว




 ผมจ้องหน้าคนที่หยุดยืนอยู่บนบันไดขั้นบนสุดนั่นไม่วางตาก่อนจะเอ่ยประโยคที่เรียกริ้วแดงๆให้เกิดบนแก้มใสใสของเขา




   “ชัดเจนในใจเสมอครับ” โอ้ยยยเชี่ยยยยยพูดเองเขินเอง ไอ้บ้าเอ้ยยยยย




ทั้งโถงนั้นเงียบไปอึดใจนึงก่อนจะมีเสียงโห่แซวดังขึ้นทั่วทั้งโถง



"โหยยยยยยยย/โอ้ยยยยยยยยยยยยย/โห่ววววววววววววววว/ฮิ้ววววววววววววว"




ไอ้นัทเอาชีทตบที่หัวผมเบาเบาแบบหมั่นไส้ คนที่เป็นจำเลยร่วมกับผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินเขินๆไปที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อนตัวเอง




ผมนั่งลงตั้งใจจะหยิบมือถือขึ้นมาไลน์ทวงขนมแต่ก็เหลือบเห็นพวกเพื่อนๆที่นั่งร่วมโต๊ะมองผมเป็นตาเดียว




   “เกลียดดดดดด”




โดยพร้อมเพรียงกัน




ผมยักไหล่แบบไม่สนใจ แล้วไงใครแคร์ ฮ่าๆๆๆ




ขอสแน็คแจ็คด้วยครับคุณ




ผมรอสักพักจนขึ้นว่าปลายทางของข้อความได้รับการอ่านเรียบร้อย แต่เขาไม่ตอบอะไรกลับมา เอาละไง...




ผมนั่งจ้องมือถืออยู่แบบนั้นจนรุ่นพี่เริ่มติวแล้วผมเลยละความสนใจมาที่บทเรียน ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีสมาธิจะเรียนเท่าไหร่เลย





ฮือ...ทำไมไม่ตอบล่ะ




โกรธหรอ




ฮือออ




คิดมากจัง




โอ้ยยยยย ฟุ้งซ่าน




ไม่ไหวแล้ววววววว





ผมพึมพำบอกเพื่อนว่าจะไปเข้าห้องน้ำแต่คว้าเอาซองบุหรี่กับซิบโป้ออกมาด้วย




ผมเหลือบมองคนตาโตแว่นใสก็พบว่าเขากำลังตั้งใจฟังที่รุ่นพี่พูดอยู่ ได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินออกมาที่โซนที่เขาจัดไว้ให้สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ในสถานศึกษาถือเป็นเรื่องไม่ดีนะครับแต่ผมก็มาสูบในที่ที่เขาจัดไว้ให้ ความเซ็งในตอนนี้กลบความรู้สึกผิดชอบไปหมด ลืมเรื่องตราสถาบันที่ประทับอยู่บนกระเป๋าเสื้อ ลืมเรื่องการเรียนที่คร่ำเคร่ง





ผมทรุดตัวลงนั่งที่ฟุตบาทก่อนจะจุดบุหรี่ นั่งสูบไปเงียบๆปล่อยให้สมองลื่นไหลไปตามปริมานนิโคตินที่เข้าไปทำงานตามหน้าที่ของมัน มะเร็งทั้งนั้น เอาเถอะก็ไม่ได้สูบบ่อยอะไร




จนบุหรี่มวนที่สองเผาไหม้ไปได้กึ่งหนึ่งผมสัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ก้าวเข้ามาใกล้ คงเป็นไอ้พวกเพื่อนผมที่ออกมาตามให้กลับเข้าไป ผมถอนหายใจก่อนจะเอ่ยทำลายความเงียบ




   “เดี๋ยวหมดมวนนี้ก็เข้าไปแล้ว”





   “แสดงว่าสูบไปหลายมวนแล้ว” เสียงที่ตอบกลับมานั้นไม่ใช่เสียงของเพื่อนสนิทของผม แต่เป็นสำเนียงจากคนที่เป็นสาเหตุให้ผมต้องมานั่งทำร้ายปอดตัวเองอยู่แบบนี้





ผมหันขวับไปมองเบื้องหลังก็พบอีกคนที่ยืนทำหน้านิ่งๆ ในมือกำหูของถุงเซเว่นเสียแน่นราวกับกลัวมันหลุดหายไป ผมดับบุหรี่ที่ยังเผาไม่หมดนั่นก่อนจะยืนขึ้นแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา




เรายืนมองหน้ากันนิ่งๆอยู่แบบนั้นระยะห่างจากกันไม่ถึงเมตรแสงสลัวรัวรางจากสีส้มของไฟถนน ลมเย็นๆจากบรรยากาศยามเย็นของช่วงปลายเดือนกันยายนพัดมากระทบผิวให้รู้สึกสบาย สายลมพัดมาทำให้เส้นผมของคนตรงหน้ายุ่งเหยิงไปหมดบางส่วนถูกพัดให้ปิดแก้มใส ผมเอื้อมมือไปปัดปอยผมนั่นออกอย่างเผลอไผล เจ้าของเส้นผมนุ่มมือไม่ได้ผละห่างออกไป ยังคงยืนนิ่งๆมองหน้าผมอยู่แบบนั้น เมื่อเจ้าของเส้นผมไม่ได้กล่าวว่าอะไรผมเลยลูบเล่นอยู่แบบนั้นจนเจ้าตัวเอ่ยออกมาเสียงแผ่ว




   “แบงค์เป็นไร?”




ผมเลิกคิ้วมองสบตาคนที่มีส่วนสูงด้อยกว่าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป




   “ไม่ได้เป็นอะไรครับ”




เขาหน้ามุ่ยกับคำตอบของผมสะบัดหน้าไปอีกทางแล้วเอ่ยออกมาหางเสียงหวัดน้อยๆ




   “ไม่ได้เป็นไรแล้วทำไมต้องออกมาสูบบุหรี่ด้วยล่ะ”




   “...”




ผมไม่ตอบอะไรจนอีกคนหันหน้ากลับมาแล้วเอ่ยต่อไป




   “แล้วยังทำหน้าเหมือนแบกท้องฟ้าเอาไว้นี่อีก”




ผมยิ้มน้อยๆกับกิริยาแบบนั้นของเขา รู้สึกว่าความหนักใจและอารมณ์นอยด์ๆเมื่อครู่หายไปหมดเหลือไว้แต่ความรู้สึกอุ่นซ่านในอก ผมเข้าข้างตัวเองได้ใช่ไหมว่าเขาเป็นห่วงความรู้สึกของผม ความเป็นห่วงเป็นพื้นฐานของความรัก จริงไหมครับ? เหลือบมองที่มือที่กำไว้แน่นของเขาแล้วรอยยิ้มของผมก็กว้างกว่าเดิมอีกครับ




   “แล้วถุงนี่ของเราป่ะ?”




   “ก็ใช่อ่ะดิ แต่ไม่ให้ตอนนี้หรอกต้องบอกมาก่อนว่าเป็นอะไร”




ว่าจบก็เอาถุงขนมมากอดไว้ โอ้ยยยน่ารักไปไหนวะคนเรา




   “ก็นอยด์อ่ะ มีคนอ่านไลน์แล้วไม่ตอบ”




   “หือ?”




   “คือ...มันก็ไม่ใช่ว่าเราเซ้าซี้นะแต่แบบตอนนั้นพึ่งโดนแซวไปใช่ไหมล่ะ แล้วพอเราไลน์หาก็อ่านแล้วไม่ตอบอีก เราก็คิดมากอ่ะดิ นึกว่าโดนโกรธซะแล้ว อะไรแบบนั้น”





พอได้ยินแบบนั้นเขาก็ก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มมาให้...โฮ่ยยยเข่าแทบทรุด สว่างไสวไปไหน




   “ไม่ได้โกรธหรอก ก็ตอนนั้นพวกพี่เขาก็จะติวแล้ว แล้วก็...”




พูดแล้วก็เว้นวรรคไป ก้มหน้างุดคางชิดอก ผมก้มหน้าลงไปพยายามจะมองหน้าอีกคน




   “ก็??”




   “ไม่คุยแล้ว เอาขนมไปเลย”




ว่าจบก็ยัดถุงขนมใส่มือผมแล้วทำท่าจะเดินออกไป





ผมฉุดแขนเขาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวเองให้ไหล่ของเขาข้างนั้นกระทบกับอกผมเบาเบาก่อนจะก้มลงกระซิบชิดกับหูของคนแก้มใสกลิ่นกายหอมๆกรุ่นกลิ่นอยู่เพียงปลายจมูก
   







“จะเขินก็ได้เราไม่ว่าอะไรหรอก...บุ๊คเขินแล้วน่ารัก”






----------------------------------2BC------------------------------------



ดีฮับ

ทำไมมาลงตอนดึกๆตลอดเลย แหะๆ

จีบกันต่อไปวัยรุ่น จีบกันไปหวานกันไปให้คนอ่านชะล่าใจ วะฮ่าๆๆๆ

ความจริงคือคนเขียนเครียดกลัวกดบัตรคอนไม่ทัน T^T

คนเขียนมาลงนิยายแล้วนะเราทำความดีเราต้องไม่นก แหะๆ


รักคนอ่าน รักคนเม้นทุกคนเลยยยยย

เจอกันตอนหน้าครับ ^^

ปล.ตอนที่แล้วมีคอมเม้นให้ลงว่านิยายอยู่หน้าไหนด้วย แปะแว้วน้าาา


สปอยตอนหน้า "แบงค์ ไปงานรวมรุ่นกับเราป่ะ?"


ไปแว้ววววว ฝันดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2016 02:08:42 โดย ChabaSri »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

--แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
« ตอบ #99 เมื่อ: 20-08-2016 00:47:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #100 เมื่อ20-08-2016 06:42:48 »

จีบกันวนไป น่ารัก
งานเลี้ยงรุ่นจะเกิดอะไรขึ้นนะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #101 เมื่อ20-08-2016 06:52:48 »

เขินแรง!!!!!!

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #102 เมื่อ20-08-2016 06:54:38 »

น่ารัก สนุกมากมาย ชอบที่สุด

นี่คือเพิ่งอ่านไปได้เพียงครึ่งตอนแรก(ต้องออกไปทำธุระ)
จะกลับมาอ่านอย่างตั้งใจแล้วจะเม้นท์เพิ่มให้อีกนะคะ^^ :กอด1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #103 เมื่อ20-08-2016 08:43:08 »

กรี๊ดเขิน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #104 เมื่อ20-08-2016 08:47:59 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #105 เมื่อ20-08-2016 08:53:11 »

เขินแทน

 :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #106 เมื่อ20-08-2016 10:34:43 »

น่ารักมาก  เป็นห่วงกัน  หวานตลอด
รออ่านตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #107 เมื่อ20-08-2016 14:11:55 »

โอ๊ยยยย พ่อสายหยอด สายอ่อย มาหมดเลยเนี่ย

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #108 เมื่อ20-08-2016 14:33:48 »

โอยขนาดนี้แล้ววววคนอ่านจะตาย ♡♡♡

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #109 เมื่อ20-08-2016 20:05:41 »

หวาน...หวานเกินไปแล้วววววววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
« ตอบ #109 เมื่อ: 20-08-2016 20:05:41 »





ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #110 เมื่อ20-08-2016 20:47:49 »

จ้า...ตอนหน้า~

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #111 เมื่อ20-08-2016 21:23:43 »

 :-[

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง12 P.99 [2016/08/20]
«ตอบ #112 เมื่อ04-11-2016 20:27:03 »

พึ่งเจอเรื่องนี้อะ
คือเขินมากกก
รอค่าา

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
--แพ้ทาง-- แพ้ทาง13 Up[2016/11/04]
«ตอบ #113 เมื่อ05-11-2016 00:10:43 »

แพ้ทาง13










เช้าวันนี้ผมถูกปลุกด้วยเสียงฝน




   เช้าวันแรกของการปิดเทอมแทนที่จะได้นอนตื่นสายแต่กลับถูกปลุกด้วยเสียงสายฝนที่เทกระหน่ำซัดหน้าต่างห้องนอนดังกราวๆไม่หยุดกับเสียงฟ้าร้องที่ดังครืนครันอยู่ไกลๆ



ผมเดินสลึมสลือออกมาจากห้องนอนก็ได้กลิ่นอาหารโชยมาจากครัวแสดงว่าน้องสาวตัวแสบของผมตื่นแล้ว ผมอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็เคลื่อนตัวเองมาที่ครัว มันนี่กำลังตักข้าวผัดคำโตค้างเติ่งอยู่ระหว่างจานกับปากสายตาก็จ้องไอเเพดที่กางเอาไว้ ผมเขกหัวน้องสาวตัวดี





   “รีบกินรีบไปโรงเรียนเลย ดูการ์ตูนอยู่ได้”


ยัยแสบทำปากยู่ใส่ผมแต่ก็ยอมปิดการ์ตูนแล้วทานข้าวดีๆ ผมเดินไปตักข้าวผัดที่ยังเหลือในกระทะใส่จานให้ตัวเองแล้วนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวตรงข้ามกับน้องสาว เหลือบมองถาดอาหารของเจ้าแมวอ้วนก็พบว่ามันเต็มเปี่ยมดี สายตาผมทอดไปเรื่อยมองสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ


   “วันนี้เอารถไปเลยนะ พี่ไม่ไปส่ง” ผมเอ่ยบอกกับน้องสาวเรียบๆ เธอเลิกคิ้วมองก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มแป้นออกมา



   “เงินว่าจะขอพี่อยู่พอดีเลย”



เวลาพูดกับคนในครอบครัวน้องสาวผมจะแทนตัวเองว่าเงิน เธอบอกว่าจะได้ดูแมนๆ =,.= เอาที่สบายใจ


ผมนั่งทานไปเรื่อยๆสายตาก็มองสายฝนที่ตกอยู่ด้านนอกพลางคิดถึงใครบางคนที่ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันที่ไปติววันนั้น คิดแล้วก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว คนบางคนไม่ต้องมายืนอยู่ตรงหน้าแค่คิดถึงก็ทำให้เรายิ้มได้นี่ต้องพิเศษขนาดไหนกันนะ  แต่ความคิดเพ้อๆของผมก็ต้องสะดุดลงเพราะมือขาวๆที่แบมาตรงหน้าผม


   “อะไร?” ผมมองหน้าเจ้าของมือแล้วขมวดคิ้ว


   “สมทบทุนค่าน้ำมันด้วยค่ะ”



ผมส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะบอกให้ไปหยิบเองที่กระเป๋าเงินที่อยู่ในห้องนอน



ยัยน้องสาวโดดสวอนเลคจากไป สักพักก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถแล้วขับออกไป บ้านตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งจะมีก็แต่เสียงฝนที่กระหน่ำซัดหน้าต่างดังกราวๆไม่หยุด




หลังจากจัดการกับปากท้องตัวเองเรียบร้อยแล้ว ผมเหลียวมองไปรอบๆบ้าน”รกได้ที่” เลยทีเดียว




 ผมลงมือทำความสะอาดบ้านคลอไปกับเพลงลูกทุ่งอีสานจากอัลบั้มรวมเพลงจากปลายปากกาของปราชญ์ดนตรีท่านหนึ่งที่ผมซื้อไว้นานแล้วแต่ไม่ได้ฟัง เคล้าไปกับเสียงฝน ก็ฟินดีนะครับฮ่าๆๆๆ




   ในระหว่างที่ผมกำลังจัดการกับปลอกหมอนอิงในห้องนั่งเล่นเพื่อจะเอาไปซัก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังออกมาจากในห้องนอนทำให้ผมต้องพักงานในมือเดินไปรับโทรศัพท์





หน้าจอแสดงเบอร์มือถือของคนที่ผมนั่งคิดถึงเขาอยู่เมื่อเช้า





‘BooK’





   “ครับผม” ผมรับโทรศัพท์พลางใจก็เต้นตึกตัก เป็นเอามาก


   [โหลแบงค์ นี่ไนท์นะ]   


   “เออ ว่า?” ผมเปิดสปีกเกอร์โฟนวางไว้ใกล้ๆระหว่างที่มือก็ทำงานไปด้วย


   [มีเรื่องรบกวนนิดหน่อยอ่ะ] ไนท์พูดเสียงแผ่วเชิงเกรงใจ


   “เออ มีไรก็ว่ามา”


   [คือ..พวกกูจะประชุมลับกันเรื่องกีฬาสีกันอ่ะ แล้วพอดีว่าคนหลายคนแล้วยังมีพวกอุปกรณ์อีก พวกกูไปบ้านมึงได้ไหม] พูดรวดเดียวแล้วจบด้วยคำว่าได้ไหมเชิงเกรงอกเกรงใจสุดๆ คำพูดแผ่วๆแบบไม่มั่นใจของเพื่อนทำให้ผมหลุดขำออกมาน้อยๆ


   “เออจะมาก็มาดิ แล้วมึงมาถูกป่ะเนี่ย”


   [เออว่ะ]




ผมได้ยินเสียงสนทนาจากปลายสายเป็นเสียงของคนหลายคนตอบกัน ก่อนที่เสียงของเจ้าของเบอร์โทรศัพท์จะดังขึ้นกลบ



   [โหลแบงค์ นี่บุ๊คนะ]


   “ครับโผมมมมม” ผมเผลอยิ้มกว้างออกมา ใจเต้นแรงมาก


   [เดี๋ยวแบงค์แชร์โลเคชั่นบ้านแบงค์มาทางไลน์ให้เรานะ จะได้ไปถูก]


   “โอเคครับ”


   [โอเค  แล้วเจอกัน]


   “อื้ม ขับรถดีดี”



แล้วสายก็ตัดไป คำว่าแล้วเจอกันของอีกคนทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นไปอีก รู้สึกเขินๆยังไงบอกไม่ถูก



ผมจัดการส่งโลเคชั่นไปให้บุ๊คทางไลน์แล้วรวบรวมปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนไปซัก จัดการตั้งเวลาซักเรียบร้อยแล้วเอาชุดผ้าปูและปลอกหมอนสำรองออกมาแล้วใส่มันเข้าไปให้ถูกที่ถูกทางจัดการงานในห้องเรียบร้อยก็หอบเอาบรรดาชุดปลอกหมอนอิงออกมาที่ห้องนั่งเล่น กำลังจะนั่งลงทำงานเสียงมือถือก็ดังขึ้นอีก




   “อื้อว่าไง” บุ๊คโทรมาครับ คงจะโทรมาถามทาง



   [เราว่าเรามาถึงหน้าบ้านแบงค์แล้วแต่ไม่รู้จะใช่ป่าวอ่ะ]




พอได้ยินแบบนั้นผมเลยแทบจะวิ่งออกไปดูหน้าบ้าน เปิดประตูออกไปก็พบมาสด้าสองสีขาวคุ้นตาจอดติดเครื่องอยู่หน้าบ้าน



   “อื้อ ถูกแล้วเดี๋ยวเราไปเปิดประตูให้ รอแป๊ปนะ”



ผมวางสาย แล้วเดินกางร่มออกไปเปิดประตูให้รถเข้ามาจอดที่โรงรถ นอกจากมาสด้าคันนั้นแล้วก็ยังมีวีออสสีดำอีกคันที่ขับตามกันมา โชคดีที่วันนี้น้องสาวผมเอารถไปเรียนเลยทำให้มีที่จอด




ผมเดินไปหาเจ้าของรถมาสด้าสีขาวที่ก้าวลงมาจากที่นั่งข้างคนขับก่อนใครเพื่อน



   “มายากไหม” ผมเอ่ยถามก่อนจะแย่งเอาถุงในมืออีกฝ่ายมาถือ


   “นิดหน่อย พวกเราแวะซื้อของกินเข้ามาด้วยจะได้ไม่ลำบากแบงค์”


   “ไม่ลำบากหรอก”  ว่าจบก็เหลือบมองเพื่อนๆที่ทยอยลงจากรถบางคนก็เดินไปเอาของที่ท้ายรถ

 
   “เข้าบ้านกัน”  ผมเอ่ยกับเพื่อนๆก่อนจะแตะเบาเบาที่ข้อศอกของคนที่ยืนอยู่ข้างกันเอื้อเฟื้อร่มให้แล้วเดินไปพร้อมกัน




ผมเดินนำเพื่อนๆเข้ามาในบ้านนำทางไปที่โซนห้องนั่งเล่น




   “นั่งเลยๆ โทษทีนะบ้านไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ ตามสบายเลยนะ” 


   “พวกกูซื้อของกินมาด้วยให้เอาไปไว้ไหน”  ไนท์เอ่ยก่อนจะชูถุงที่เธอถืออยู่เต็มสองมือ 



ผมเดินไปรับมาก่อนจะพึมพำบอกว่าจะเอาไปเก็บ  ผมจัดการเอาน้ำเอาขนมออกมาบริการเพื่อนๆที่ตอนนี้เริ่มกางงานขึ้นมา หลายคนก็กางแลปท็อปขึ้น ส่วนตัวผมก็ปล่อยให้เพื่อนคุยกันไปตัวเองก็นั่งลงกับพื้น ทำงานของตัวเองต่อให้เสร็จ
ในตอนที่ผมยัดหมอนใส่ปลอกใบแรกเสร็จก็รับรู้ถึงสายตาหลายคู่ที่มองมา


   “อะไร” ผมเงยหน้าขึ้นถาม


   “เปล่า” พวกมันว่าขึ้นพร้อมกันก่อนจะหันไปคุยงานกันต่อ



เหลือบมองบุ๊คที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟากางแม็คแอร์อยู่บนตักข้างๆผม ผมส่งหมอนอิงใบที่พึ่งใส่ปลอกเสร็จให้อีกคน



   “เอาอันนี้รอง จะได้ไม่ร้อน”




เขาเลิกคิ้วมองผม ยิ้มให้ ก่อนจะรับหมอนไปแล้วพึมพำขอบใจ  ใส่ปลอกหมอนอิงเสร็จก็ส่งให้เพื่อนๆก่อนจะเดินออกมาดูผ้าที่ตั้งเวลาซักไว้ คงต้องตากในร่มไปก่อน หลังจากจัดการตากผ้าเรียบร้อยแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเช้านี้ยังไม่เห็นแมวอ้วนจอมขี้เกียจของผมเลย



   เหลือบไปมองจานข้าว...ก็กินแล้ว



เดินเข้าไปในห้องนอนสอดส่ายสายตามองไปทั่วก็เจอเจ้าก้อนขนสีกระดำกระด่างขดตัวอยู่ใต้โต๊ะเขียนหนังสือ จัดการเอานิ้วจิ้มพุงไปทีนึงตาสีเหลืองๆนั่นก็ลืมขึ้นมามอง



   “ไปนั่งเล่นข้างนอกกัน”



คุณดอลลาร์บิดขี้เกียจ เป็นอันว่าตกลง ผมอุ้มเอาเจ้าแมวอ้วนขึ้นมาคว้าเอากีตาร์มาด้วยแล้วออกมาสมทบกับเพื่อนๆที่ด้านนอก ผมนั่งลงที่พรมตรงโซฟาข้างๆบุ๊คคุณดอลลาร์ก็นอนลงข้างๆกัน ศีรษะผมชนเข้ากับเข่าของคนที่นั่งอยู่ด้านบนเล็กน้อยดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ว่าอะไรยังคุยกับเพื่อนปกติ



   “ไงคุณดอลลาร์” เสียงเบาๆดังขึ้นจากคนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างผม ก่อนที่มือขาวๆนั่นจะเอื้อมมาขยี้ขนด่างๆของเจ้าแมวอ้วน แก้มเขาเฉียดแก้มผมด้วยอ่ะ อืม...หอม



   ทักทายเจ้าแมวอ้วนเสร็จก็กลับไปนั่งตามเดิม ผมแหงนหน้ามองตามทำให้หัวผมไปดันๆที่เข่าของเขา บุ๊คก้มลงมองแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม


   “ทักแต่แมวอ้วน ไม่ทักเจ้าของแมวบ้างอ่ะ”


   “ก็ทักไปแล้วไง”


   “ไม่เอาดิ ทักแบบแมวไงแบบขยี้ๆหัวงี้” พูดจบผมก็เอาหัวถูๆเข้าที่ขาเขาเป็นเชิงหยอก


   “ชื่อคุณดอลลาร์หรอ? จะได้อยากให้ทักแบบแมว”


   “เปล่าครับ ชื่อแบงค์ กอปรกานต์  อยากเป็นแฟนคุณปรัชญาครับ” พูดจบก็ยักคิ้วให้อีกคนไปทีนึง


คือแหงนหน้ามองแบบกลับหัวแบบนี้ก็แปลกๆดีนะครับ แต่คนน่ารักมองมุมไหนก็น่ารักเหมือนเดิมจริงไหม อิอิ


   “มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย” ว่าจบเขาก็ละสายตาไปที่หน้าจอแลปท็อปของตัวเอง ผมก็กลับมานั่งดีดี หยิบมือถือขึ้นมาว่าจะเช็คความเคลื่อนไหวในโซเชี่ยลซะหน่อย





   คุณนาย สกุลอู๋  มาทำงานไหมล่ะไม่ใช่มานั่งจีบกัน หมั่นไส้   just now





โพสนั้นของไนท์แนบรูปภาพที่ผมแหงนหน้าคุยกับบุ๊คเมื่อครู่นี้ ผมยิ้มแล้วส่ายหัวเบาเบากับความช่างแซวของเพื่อน แล้วกดเข้าไปอ่านคอมเม้น




   Tor Alone  มีความไม่แคร์สื่อไปอีก

   Sico Man  กูไปตอนนี้ยังเผือกทันไหม สตาร์ทรถแล้วนะ

   Nut Indy   มารับกูด้วย Sico Man

   Jon Snow   กูหมั่นอิสวยได้ไหม ยิ้มอะไรเบอนั้น

   คุณนาย สกุลอู๋  หมั่นได้เพราะกูก็หมั่นเหมือนกัน Jon Snow

   Book PratchaYa   ทำงานไหมล่ะพวกเหี้ย คุณนาย สกุลอู๋  Jon Snow




ผมหัวเราะออกมาเบาเบากับคอมเม้นล่าสุด ก่อนจะแหงนหน้าไปมองเจ้าของเม้นอีกครั้ง บุ๊คตวัดสายตามามองผม



   “เลิกมองเลย เดี๋ยวพวกแม่งก็แซวอีก”




ก่อนที่ผมจะตอบอะไรกลับไปเสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้นปรากฏว่าเป็นแจ้งเตือนจากไลน์กลุ่ม



เดี๋ยวนี้ไปหากันถึงบ้านแล้วหราครับเดือนพละ


มีความคืบหน้าสินะ


เขามาคุยงานกัน


ตอบไปแบบนั้นแล้วกดถ่ายภาพเพื่อนๆที่นั่งกระจายในห้องนั่งเล่นไปให้พวกมันดู


พูดถึงคุยงานพวกมึงลงชื่อไปค่ายกับพวกพี่รามยังวะ


ค่ายไรวะ


ไอ้หนึ่งพึ่งจะโผล่มาครับ


เออ ค่ายไรทำไมกูไม่รู้


ค่ายสร้างฝายที่เขาทำร่วมกับอีกสองมหาลัย พี่รามบอกกูเมื่อวาน


ไอ้นัทเป็นคนไขความกระจ่างนี้ นอกจากมันจะเด็กเรียนแล้วมันยังรู้จักคนเขาทั่วไปหมด พี่ราม ที่ว่านี่เป็นนายกองค์การนักศึกษาที่เป็นสายรหัสของมัน


เออไปก็ไปดิ เมื่อไหร่อ่ะถ้าชนกีฬาสีไปไม่ได้นะเว่ย


เดี๋ยวกูบอกอีกทีกูกับไอ้โก้จะถึงบ้านมึงแล้ว มาเปิดประตูด้วย


อ้าวนี่มาจริงๆหรอวะเนี่ย


อ้าวแล้วกูอ่ะ


ไอ้หนึ่งเริ่มโวยละครับ เมื่อวานหลังจากที่สอบเสร็จมันก็หายหัวไปเลย


ไม่มีใครตอบอะไรไอ้หนึ่ง คือถ้าจะมาก็หาทางดิ้นรนมาเองนะครับเพื่อน ผมเลิกใส่ใจพวกมันแล้วกดเข้าไปเช็คข่าวในทวิตเตอร์ เขี่ยๆไปสักพักก็ได้ยินเสียงแตรรถมาจากหน้าบ้าน เลยลุกขึ้นไปเปิดประตูรั้วบ้าน ไอ้นัทกับไอ้โก้แว้นกันมา ทั้งๆที่ฝนยังตกปรอยๆอยู่ ลงทุนมากพวกมึง



   “กูซื้อของเหลวบำรุงตับมาด้วย” ไอ้นัทว่าขึ้นหลังจากที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว




ผมหรี่ตามองไอ้นัทที่ถือถุงเครื่องดื่มที่มีสัญลักษณ์เป็นสัตว์ประจำชาติไทยสองตัวกำลังหันหน้าชนกัน




   “หาที่แดกก็บอกหาที่แดกไม่ใช่บอกจะมาคุยงาน” ผมแขวะมันไปนิดนึงก่อนจะเดินนำเข้าบ้านมา ปล่อยให้พวกนั้นเดินเข้าไปทักทายเพื่อนๆที่ห้องนั่งเล่น ส่วนตัวเองก็ไปเอาแก้วกับกระติกน้ำแข็งครับ ฮ่าๆๆ แหม ไหนๆมันก็ซื้อมาแล้ว แค่นั่งจิบๆที่บ้านตัวเองไม่เป็นไรหรอกเนอะ   



มีต่อครับ --->






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
--แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
«ตอบ #114 เมื่อ05-11-2016 00:15:33 »

ต่อ --->




ผมส่งของที่ยกเข้ามาให้ไอ้โก้ไป ตัวเองก็ไปนั่งลงที่เดิม เพื่อนสนิทผมทั้งสองคนก็จัดการรินบริการเพื่อนที่ต้องการน้องแอลเข้าเลือด ส่วนผมน่ะหรอ...จิบเบียร์วันฝนตกนี่ก็ฟินไม่หยอกนะครับ แหะๆ




   “ด่ากูสุดท้ายก็แดก” ไอ้โก้แขวะผม




ผมยักไหล่แบบไม่ใส่ใจก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบอีกรอบ ไอ้นัทคงหมั่นไส้ท่าทางของผมมากมันเลยปาขนมใส่




คือ...ปามาทั้งถุง ไอ้!!!




แต่คือ...มันไม่โดนผมไงผมหลบทันแต่ดันไปโดนคนที่นั่งอยู่บนโซฟาแทน




   “มึงแม่ง ปามาไมวะ!!” ผมหันไปด่าไอ้เพื่อนตัวดี


   “ก็ไม่โดนมึงป่ะวะ”  ไนท์ถามกลับมา คือตอนนี้มันไปนั่งรวมกับไอ้เพื่อนสนิทผมเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวนะ..ได้ข่าวว่ามาคุยงาน


   “ก็เพราะมันไม่โดนกูไง” ผมชี้หน้าไอ้นัท


   “แม่งปาขนมโดนแค่นี้ทำมาหวง อิบุ๊คอ่ะกูนอนด้วยหลายครั้งแล้วมึงไม่รู้หรอ” 


   “นอนเชี่ยไรไนท์ เป็นผู้หญิงพูดดีดีหน่อย” บุ๊คแย้งมาจากบนโซฟา แล้วยื่นถุงขนมคืนให้ผม


   “เอ้าก็นอนจริงๆ กูกับมึงออกค่ายด้วยกันบ่อยจะตาย”




ผมเลิกสนใจพวกไก่กาหันมาแกะถุงขนมที่ถูกใช้เป็นอาวุธ แกะเสร็จก็ยื่นให้คนที่โดนปาใส่




   “ไม่กินอ่ะ แบงค์กินเลย”


   “ไมอ่ะ ไม่อ้วนหรอก”


   “ไม่ได้กลัวอ้วนซะหน่อย”


   “เออ อย่างอิบุ๊คอ่ะแดกแค่นี้มันไม่อ้วนหรอก เห็นบวมๆนั่นน่ะบวมเบียร์พวกมึงอย่าไปเชื่อหน้าใสใสของมัน ที่ใสใสอ่ะวอดก้าไม่ใช้น้ำเปล่า”  ไนท์ที่ถือแก้วเบียร์กลับไปสมทบกับกลุ่มเพื่อนที่คุยงานกันเอ่ยท้วงมา




ผมยิ้มเงยหน้ามองคนที่โดนเพื่อนเผายิ้มๆแล้วเอ่ยถามเบาเบาพอให้ได้ยินแค่สองคน



   “จริงอ่ะ?”


   “อะไร”


   “ก็ที่ไนท์มันพูด ไม่ใสจริงหรอ?”


   “ชอบใสใสก็ไปจีบคนอื่น” บุ๊คพูดจบก็ตวัดสายตามองค้อนนิดนึงแล้วเมินไปสนใจงานของตัวเอง


   “ไม่ได้ชอบคนใสใส ชอบบุ๊คครับ”




ผมเห็นแก้มของคนที่บอกว่าตัวเองไม่ใสขึ้นสีเรื่อๆนิดๆ ฮ้า...ดีกับใจจริงๆ




ผมก็นั่งจิบเบียร์ไปพลาง เกลากีตาร์เล่นไปตามเพลงที่ชอบ





   
แชะ






ผมเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียงนั้นก็พบไอ้นัทคนเดิมเพิ่มเติมคือมือถือในมือ ผมหรี่ตามองมันแต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรมันก็เฉลยออกมาซะก่อน




   “ไอ้น้องหนึ่ง มันถามว่ากูอยู่ไหน”


   “มันจะมา?”



ไอ้นัทพยักหน้ารับ



   “มาไง มันไม่มีรถ”


   “เดี๋ยวให้มันมากับไอ้ต่อ”




ผมพยักหน้ารับแล้วก็หันมาสนใจกีตาร์ในมือ




เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนเพื่อนๆสาขาการศึกษาพิเศษฯขอตัวกลับไปก่อนเพราะรุ่นพี่เขานัดเข้าเชียร์ ตอนนี้เลยเหลือสมาชิกแค่เพื่อนๆสังคมศึกษาห้าคนแล้วก็พวกผมสามแล้วก็แมวอีกหนึ่ง




   “จะเที่ยงแล้ว ไปทำไรกินเหอะกูหิวละ” ไนท์ชวนเพื่อน


   “ของที่ซื้อมาอ่ะนะ” ผมถาม


   "อือ ขอใช้ครัวหน่อยนะ” เพื่อนผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นแล้วยิ้มให้


   “ทำไรกินอ่ะ ทำช่วยไหม?” ผมเสนอตัวเพราะตัวเองก็พอทำเป็นอยู่บ้าง


   “ไม่ต้องมึง เดี๋ยวพวกกูทำเอง” ไนท์พูดแล้วชวนเพื่อนๆผู้หญิงเดินไปทางครัว เหลือแต่กลุ่มผู้ชาย




   “ทำกับข้าวเป็นด้วยหรอ?” คนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆผมเอ่ยขึ้น บุ๊ควางแมคแอร์ลงที่โต๊ะเล็กแล้วโน้มตัวลงมาอุ้มคุณดอลลาร์ที่นอนเหยียดอยู่ข้างผมขึ้นไปเกาคางเล่น แหม หน้าเคลิ้มเลยนะไอ้แมวอ้วน


   “เป็น เพราะต้องอยู่กับน้องแค่สองคน ถ้าทำไม่เป็นเลยจะอยู่กันได้ไง แล้วยังเลี้ยงแมวอ้วนๆนี่อีก” พูดจบก็เอานิ้วจิ้มๆหน้าผากขนๆนั่น  เพราะว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่ไปอยู่ในครัวกันโซฟาตัวยาวที่คนตาโตนั่งอยู่ก็เลยว่าง เจ้าตัวเลยนอนเหยียดยาวโดยหันหัวมาทางผมแล้วพาดหัวอยู่กับที่วางแขน พร้อมกับเอาเจ้าแมวอ้วนมานอนบนอก โอ้ยยยย อิจฉาแมว



   “ไม่อ้วนซะหน่อย เนอะคุณดอลลาร์เนอะ”  คนน่ารักที่นอนคุยกับแมวงุ้งๆงิ้งๆ แหนะ มีเอาจมูกชนกันด้วย...




ผมที่ทนอิจฉาไอ้แมวอ้วนที่นอนทำหน้าเคลิ้มนอนให้บุ๊คเกาคางให้ไม่ไหวเลยเอานิ้วจิ้มหน้าผากไอ้แมวตอแหลไปอีกที แต่กลับโดนคนที่นอนเป็นเตียงให้แมวดีดมือกลับมา





   “อย่าแกล้งน้องนะ”






...บ้าจริง...







ใจเต้นแรงมาก






   “แบงค์พวกมึงไปเล่นกันในห้องนอนไหม...เห็นหัวดำๆของพวกกูที่นั่งมองพวกมึงจีบกันบ้างก็ได้แหม”  ไอ้โก้ร้องทักมา
ผมหันวับไปมองมันตาขวาง



   “แดกไปเงียบๆไหม หรือไม่ก็หลับตาไว้”



ไอ้เพื่อนตัวดีของผมสองคนได้แต่หัวเราะคิกคักกันแล้วชนแก้วเหมือนพอใจอะไรสักอย่าง ผมหันกลับมามองคนที่ตกเป็นเชลยด้วยกันก็พบว่าคนที่นอนเป็นที่นอนให้แมวอยู่ตอนนี้เอาหน้าซุกพุงแมว ผมมองเห็นหูเขาแดงๆ



   "เป็นไร แล้วเอาหน้าไปซุกแบบนั้นขนเข้าปากหมด”



ผมพยายามจะอุ้มเอาเจ้าแมวอ้วนออกมาแต่เขาก็กอดมันเอาไว้แน่น คุณดอลลาร์ดีดดิ้นอยู่ผมกลัวว่าเขาจะโดนข่วนเอาเลยขู่ไป เจ้าตัวยอมปล่อยแต่โดยดีส่วนเจ้าแมวพอหลุดออกมากได้ก็โดดแผลวแล้ววิ่งหายไปในห้องนอนผม



พอปล่อยแมวแล้วก็เอาหมอนอิงมาซุกแทน เป็นไรวะ



   “เป็นไร” ผมสะกิดเรียก


   “ป่าว” เสียงอู้อี้นั้นดังมาจากเบื้องหลังหมอนอิงใบเล็ก





ดูจากกิริยาของคนตรงหน้าผมก็สรุปเอาแบบเข้าข้างตัวเองเต็มที่เลยว่าเขาเขินที่เพื่อนผมแซว




   “เขินหรอ” ผมแกล้งกระซิบถามใกล้กับหูแดงๆที่โผล่ออกมาพ้นหมอน





ตุ่บ





เสียงหมอนอิงฟาดเข้าข้างกกหูเต็มๆ



   “โอ้ย” ไม่เจ็บหรอกครับ แอ็คติ้งไปงั้นแหละ


   “เฮ้ย แบงค์เราขอโทษ”



คนที่ทำร้ายร่างกายกันเมื่อครู่ผุดลุกขึ้นนั่งเอามือแตะเบาเบาที่หลังมือผมที่แกล้งเอากุมตาข้างซ้ายเอาไว้ ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่ไม่ระวังตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้กัน  เนียนจับมือเขาไว้ก่อนจะตอบออกไป


   “ไม่เจ็บหรอก”


ว่าจบก็ส่งยิ้มกว้างๆไปให้ คนที่ตอนแรกหน้าแดงแล้วเปลี่ยนมาซีดเมื่อครู่ตอนนี้ก็กลับมาแดงอีกรอบ เจ้าของมือขาวๆชักมือกลับก่อนจะชกเข้าที่ไหล่ผมเต็มๆ  อันนี้เจ็บแฮะ




   “คราวนี้เจ็บยัง”


   “เจ็บแล้วครับ ไม่แกล้งแล้วๆ”



ผมยกมือยอมแพ้ แต่คนโดนแกล้งยังหน้ามุ่ยไม่เลิก


   “ที่จริงเราไม่ได้แกล้งนะ ไอ้พวกนั้นต่างหากไปชกมันด้วยดิ”



   “ไม่ต้องมาบุ้ยให้เพื่อนเลย”



   “เออ ไม่ต้องมาหาเรื่องให้กูเลย มึงแกล้งเขาแล้วมาว่าพวกกูนิสัยไม่ดีเลยนะครับคุณครู”  ไอ้โก้ว่ามา




มึงก็ครูไหมล่ะไอ้หอยหลอด



ผมหันมามองคนที่ตอนแรกเป็นจำเลยร่วมกันแต่ตอนนี้กลายเป็นโจทก์ของผมไปแล้ว


   “งอน?”



   “ใครงอน ไม่อ่อนเหอะ” แหน่ะมีเหวี่ยงๆ



พูดแค่นั้นเจ้าตัวก็เอามือถือออกมาเล่น เหมือนจะทำเป็นไม่สนใจผม 



   “ไม่งอนก็คุยกันหน่อยดิ”



   “...”



   “ขอโทษครับ ไม่แกล้งแล้วครับ” 




คนที่ตอนแรกบอกว่าไม่งอนตอนนี้ส่งยิ้มกว้างมาให้ผม โฮลลี่ชิท!!! ตาพร่าเลยทีเดียว




   “ก็แค่นั้นแหละ”


   “รู้ป่าว เขาว่ายิ่งผู้ชายแกล้งอ่ะแปลว่าเขายิ่งชอบนะ แกล้งมากๆก็แปลว่าชอบมากๆไง”




ผมยิ้มกว้างๆตอบกลับไป   อ่อยมาอ่อยกลับ ไม่โกงครับ




   “แล้วคุณดอลลาร์ไปไหนแล้ว” ว่าจบเขาก็กวาดตาหาเจ้าแมวอ้วนที่วิ่งหนีไปกบดานในห้องนอนผม กลบเกลื่อนริ้วแดงๆที่แก้มนั่น




แต่ยังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงแตรรถจากหน้าบ้านมาขัดซะก่อน



   “คงเป็นไอ้น้องหนึ่งมา เดี๋ยวไปเปิดบ้านให้มันก่อน คุณดอลลาร์วิ่งไปในห้องอ่ะไปจับเอาดิ”



ว่าจบผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้เพื่อน แปลกใจนิดหน่อยที่ไอ้หนึ่งมากับไอ้ต่อ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป



ไอ้หนึ่งเดินหน้ามุ่ยนำเข้าบ้านมาก่อนที่รถจะเข้ามาจอดซะอีก เห็นมันหอบถุงอะไรเยอะแยะส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง คงเป็นไอ้สองคนนั่นที่บอกให้ซื้อมาเพิ่ม ที่มีอยู่ก็แดกให้หมดไหม ทักทายกันเล็กน้อยกับไอ้ต่อแล้วเดินเข้าบ้านมาด้วยกัน



ได้ยินเสียงคนคุยกับแมวดังแว่วออกมาจากห้องนอนเลยแอบย่องไปดูซะหน่อย ภาพที่เห็นทำเอาผมรู้สึกอุ่นซ่านแปลกๆ  คนที่บอกว่าจะจับแมวอ้วนตอนนี้กำลังนอนคว่ำหน้าคุยเสียงงุ้งๆงิ้งๆกับเจ้าแมวที่งอนเข้าไปแอบอยู่ใต้ตู้หนังสือ




   “ออกมาเถอะน้า นะๆๆ เดี๋ยวให้กินหนมนะครับเด็กดี”



ผมเดินมานั่งลงที่เตียง มองคนที่ง้อแมวไปยิ้มไป  จนเจ้าแมวอ้วนยอมให้คนง้อจับตัวออกมา หยากไย่ติดหัวแป้นๆนั่นนิดนึง คนง้อเลยปัดออกให้ ท่าทางการเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของผมนั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกคนเข้าอีกครั้ง อ่อนโยนไปไหนวะ




   “ดูสิเห็นไหม ฉกปกเยยย” ว่าจบแล้วก็หอมหัวขนๆนั่นอีกที คือบับ....ดีกับใจ


    “จะขโมยแมวเรากลับบ้านด้วยป่ะเนี่ย”




จบคำผมทั้งคนทั้งแมวก็สะดุ้งโหยง 




   “ขะ เข้ามาตอนไหน!!”


   “ก็เข้ามาตอน...ออกมานะครับเด็กดี เดี๋ยวให้กินหนม” ว่าจบก็ยักคิ้วให้สองจึ้ก


   “แล้วทำไมไม่เรียกล่ะ”


   “ก็ เห็นง้อกันน่ารักดี”



บุ๊คหรี่ตามองผมแป๊ปนึงแล้วก็ก้มลงไปเล่นกับคุณดอลลาร์ต่อ ไปค้นเอาไม้แหย่แมวมาจากไหนไม่รู้มาหลอกล่อกันอยู่ ไอ้ไม่นี้ปกติเจ้าแมวอ้วนของผมมันไม่เล่นหรอกครับนี่คงติดอกติดใจกันเข้าจริงๆ



   “แบงค์”


   “หือ?”


   “...”


ท่าทางของบุ๊คเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เหมือนจะไม่มั่นใจ


   “มีไรรึเปล่า”


   “คือ...จะว่ามีมันก็มีอ่ะ”


   “???”


   “อ่า...เสาร์หน้าพวกเรามีนัดเลี้ยงรุ่นกันอ่ะ”


   “อ่าฮะแล้ว?”


   “คือก็ไม่ใช่งานเป็นทางการอะไร พอดีว่าอาจารย์ที่ปรึกษาท่านกลับมาจากต่างประเทศเลยอยากเจอลูกศิษย์ เลยนัดรวมๆกันมา”


   “...”


   “แล้วมันนัดกันร้านเหล้าไง ก็เลย”


   “เลย?”


   “โอ๊ะ โว้ยยยยย จะถามว่าแบงค์จะไปด้วยกันได้ไหม?”


   “ห๊ะ” นี่ไม่ได้กวนตีนนะ นี่อึ้งจริงๆ


   “ไม่ถามแล้ว”




ว่าจบคนถามก็อุ้มแมวอ้วนเดินออกจากห้องไป  ผมทิ้งตัวลงนอนกับเตียงพลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้  ทำไมเขาถึงมาชวนผมล่ะ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนอยู่เยอะจะไปลากมาถามให้รู้เรื่อง ทำไมถึงมาชวน อีกนิดนึงผมจะคิดเข้าข้างตัวเองแล้วนะ คิดได้ไหมว่า พิเศษ




   “แบงค์ แบงค์โว้ยยยยยออกมากินเร็ว เสร็จแล้ว”  เสียงตะโกนเรียกของไนท์ดังขึ้นหน้าประตูห้อง




   “เออๆ เดี๋ยวออกไป”




ผมนอนคิดอะไรอยู่สักพักก็เดินตามเสียงเรียกไปที่ห้องนั่งเล่น ที่ตอนนี้พวกไอ้โก้คงจัดการเคลียร์ของที่อยู่กลางห้องไปไว้ที่มุมนึงให้มีที่ว่างตรงกลาง  ไอ้ที่บอกทำอะไรกินกันนี่คือ...ซื้อของมาต้มสุกี้ เนี่ยนะ!!!



   “ก็นึกว่าทำอะไรกิน”


   “อย่าเยอะๆ นั่งๆ เอ้าพวกมึงเขยิบหน่อยดิ๊”



ผมทรุดตัวลงนั่งตรงที่ว่างระหว่างบุ๊คกับไอ้น้องหนึ่ง  ผมรับเอาอุปกรณ์การกินที่แจกจ่ายกันมาจากเพื่อนเหลือบตามองคนข้างๆเป็นระยะ




   “อย่าพึ่งกินๆ ถ่ายรูปก่อน” เสียงไนท์เรียกมาจากฝั่งตรงข้าม พลางชูมือถือในมือขึ้น ตามธรรมเนียมสินะ=,.=




ทุกคนพร้อมใจกันเสนอหน้าเข้าไปในกล้อง เพราะคนเยอะผมเลยต้องเขยิบไปเบียดคนข้างๆด้วย ไหล่เรากระทบกันผมเอียงหัวไปทางเขาด้วยเล็กน้อย แต่เพื่อนฝั่งเขาเบียดเข้ามาอีกทำให้ตอนนี้ไหล่เขาเกยอยู่บนอกผมมาตั้งครึ่ง  บ้าจริง!!! ใจเต้นแรงมาก เส้นผมหอมๆอยู่แค่ปลายจมูกนี้เอง ผมเลยฉวยโอกาสนี้ฝังจมูกลงบนผมนิ่มๆของเขา รับรู้ได้ว่าอีกคนเกร็งตัวขึ้นมาทันที




   “หึ”


ผมหัวเราะในลำคอให้แค่คนที่โดนฉวยโอกาสได้ยิน  พอไนท์ลดกล้องลงผมเลยโดนศอกแหลมๆทิ่มพุงเข้าให้  เจ็บอ่ะ



นั่งกินไปเรื่อยๆพอเริ่มอิ่ม ผมเลยถามถึงเรื่องที่ไอ้นัทมันเกริ่นก่อนจะมา




   “นัท เรื่องค่ายอะไรของมึงน่ะวันไหน?” ผมถามในระหว่างที่รอแก้วเบียร์จากไอ้โก้




   “สัปดาห์หน้า ที่ท่าล้ง ค่าย ‘สี่คณะสามสถาบัน’ ปีนี้เราเป็นเจ้าภาพ”




   “แล้วคือลงชื่อได้ไม่จำกัดงี้หรอ?”  คราวนี้ไอ้ต่อเป็นคนถามบ้าง




   “ลงๆไปเหอะ เขาจะพาไปทำฝายกับสร้างบ้านดิน ใช้แรงล้วนๆงานนี้งบเยอะ”




   “กูอยากให้ฝ่ายกิจการเราทุ่มกับงานคณะแบบที่ทุ่มกับงานแบบนี้บ้าง” ไอ้ไนท์พูดเสียงอ่อยๆมาจากฝั่งตรงข้าม




   “ว่าไงล่ะใครจะไปบ้าง”




   “ไปกันหมดนี่แหละ พวกกูไปด้วย” ไนท์พูดสรุปเสร็จสรรพ




   “โอ้ยยยยยยกิจกรรมเยอะสัส กูจะไม่ไหวแล้ววววว” เสียงไอ้น้องหนึ่งที่ร้องโวยลั่นขึ้นทำเอาฮาทั้งวง




พอกินเสร็จก็เก็บล้างกันผมอาสาจะไปช่วยแต่สาวๆเขาบอกจะทำเอง ก็ปล่อยให้ทำไปครับ ผมเดินออกมาสูบบุหรี่หน้าบ้านก็เห็นไนท์ที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่ม้านั่งก่อนแล้วเลยเดินไปนั่งด้วย




   “มีเรื่องจะคุยด้วย” ผมพูดเสียงเบาเบา คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะหันไปคุยกับคนในสายต่ออีกสองสามคำ ผมก็จุดบุหรี่รอจนเพื่อนวางสาย




   “อ่ะ ว่ามามีไร”  ไนท์พูดเสียงจริงจัง ในขณะที่มือก็ตอบไลน์ไปด้วย เออ ชีวิตยุ่งดีนะมึง




   “วันนี้บุ๊คมาชวนกูไปปาร์ตี้รวมรุ่น”




พอผมพูดจบไนท์ก็ตาโตอ้าปากค้าง ก่อนจะยิ้มแซว




   “มึงก็ไปดิ กูก็ไป”




   “จะให้กูไปในฐานะไรวะ”




   “ก็...เพื่อนไง”




   “...”



ผมไม่ตอบอะไรเพื่อน ได้แต่นั่งสูบบุหรี่ไปเงียบๆ จนในที่สุดไนท์ก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา



   “บุ๊คน่ะนะ มันก็เป็นแบบนี้แหละมันจะแคร์แค่คนที่มันแคร์จริงๆ กูว่ามึงน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาบ้างแหละ”



ผมไม่ตอบอะไรได้แต่นั่งมองสูบบุหรี่ไป



   “กูก็ตลกนะมีคนบอกว่ามันเป็นพวกไม่จริงจัง แต่มึงเชื่อมะตั้งแต่กูเป็นเพื่อนกับมันมากูยังเคยเห็นมันไม่จริงจังสักเรื่องเลย ถ้ามันถึงขนาดชวนมึงไปด้วย กูว่ามันก็จริงจังแหละ”



ผมหันขวับเลยครับ



   “มึงไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม”  ถามเพื่อความแน่ใจ



   “ใช่เรื่องพูดเล่นหรอ? กูเดาว่ามึงยังไม่ได้ให้คำตอบมันช่ะ? มึงก็ควรคิดนะว่าตัวมึงเองรึเปล่าที่ไม่จริงจัง มึงเองนั่นแหละที่จริงจังกับเพื่อนกูแค่ไหน”





ว่าจบไนท์ก็ลุกเข้าบ้านไป  ผมมองกลุ่มควันที่ลอยวนอยู่รอบๆตัว แล้วก็รับรู้ว่ามีคนเดินมาทางเบื้องหลังเลยหันไปมอง ก็เจอคนที่ตกเป็นประเด็นสนทนาเมื่อครู่ยืนอยู่ใกล้ๆ


   “แบงค์มีไรอ่ะ”



   “ห๊ะ?”  งงไหมครับ ผมก็งง



   “ก็ไนท์มันบอกแบงค์มีเรื่องคุยด้วย”



   “อ่อ”



ผมดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดก่อนก่อนจะยื่นมือไปหาคนที่ยืนอยู่  เขาดูตกใจที่ผมทำแบบนั้นอีกคนไม่ได้ส่งมือมา



   “แบงค์...”  มีแค่แววตาสงสัยสั่นไหวระริก



ผมยกมือค้างไว้แบบนั้นก่อนจะตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป บางอย่างที่ผมหวังเอาไว้ว่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเราสองคน



   “เราเคยบอกไว้ว่าจะไม่บังคับ วันนี้เรายังยืนยันคำเดิม ยังไม่ขอให้มาเป็นแฟนกันถึงจะอยากเป็นมากก็ตาม เราแค่อยากถาม...เราขอให้เราสองคนเป็นคนพิเศษของกันและกันได้ไหม...”





พูดไปแล้ว





เหมือนขอคบ แต่ก็ไม่ใช่




ผมยังยกมือค้างอยู่แบบนั้น จ้องมองคนที่โดนโยนโจทย์ยากใส่ แววตาสีสวยคู่นั้นสั่นไหวเหมือนจะแน่ใจ...แต่ก็ไม่




แล้วคนตรงหน้าก็ขยับตัว มือข้างนั้นสั่นระริกแต่ก็วางลงบนมือใหญ่ๆสากๆของผม กุมกระชับมั่น




   “เราไม่รู้หรอกนะว่าคำว่า ‘คนพิเศษ’ ของแบงค์จะแค่ไหน แต่ถ้าแบงค์คิดว่ามันจะโอเคกับเราทั้งคู่ เราจะให้แบงค์เป็นคนคนนั้นของเราก็ได้”  ว่าจบก็ส่งยิ้มกว้างๆมาให้




อากาศหม่นๆของวันนี้ทำให้อารมณ์ผมหม่นไม่ได้เลยครับจริงๆ




   “แล้วตกลงไปปาร์ตี้กันป่ะเนี่ย?”



   “ไปดิ ต้องไปอยู่แล้ว”




   “??”





   “ต้องไปเฝ้าว่าที่แฟน”


--------------------------------------2BC----------------------------------



ให้ความสัมพันธ์ขยับเข้าไปใกล้กันอีกนิด แต่ยังไม่ใช่แฟน งงไหม? ไม่งงเนอะ


เจอกันตอนหน้าครับ


ปล.รักคนอ่านรักคนเม้นทุกคนเลย ทุกคนคือกำลังใจที่ดีของเราเสมอ^^

ปล.2 เราเขียนเรื่องสั้นด้วย แหะๆ แปะไว้เผื่อคนไหนใจดีสนใจไปอ่านไปเม้น http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56322.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2016 00:19:41 โดย ChabaSri »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
«ตอบ #115 เมื่อ05-11-2016 07:08:48 »

ดีต่อใจ  ขยับเข้าใกล้ไปอีกนิด

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
«ตอบ #116 เมื่อ05-11-2016 07:17:17 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ได้เป็นว่าที่แฟนก็ได้ รอขยับเป็นแฟนเร็ว ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
«ตอบ #117 เมื่อ05-11-2016 09:50:33 »

แงงงงง น่ารัก♡♡♡ ชอบมากค่ะ ว่าที่แฟน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
«ตอบ #118 เมื่อ05-11-2016 10:49:18 »

ขนาดยังไม่เป็นแฟนยังหวานขนาดนี้  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: --แพ้ทาง-- แพ้ทาง 13 Up[2016/11/5]
«ตอบ #119 เมื่อ05-11-2016 11:01:29 »

พัฒนาแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด