Boyfriendเพื่อนรัก...รักเพื่อน♡ : : Ep.17#By : Cencer[01/07/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Boyfriendเพื่อนรัก...รักเพื่อน♡ : : Ep.17#By : Cencer[01/07/60]  (อ่าน 15073 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

6

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


น้ำเหนือ พาร์ท



“ไปเถอะคะเหนือ  หวายหิวแล้ว”

“อืม” ผมขานรับก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกับหวาย  หนึ่งในผู้หญิงที่ผมคุยด้วย  แต่ก็อย่าได้สนใจเลยครับผมไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับเธอ(ก็แค่คุย)ไม่ได้เป็นแฟน ... ผู้หญิงที่คุยกับผมจะรู้กฎข้อนี้ดี

...ห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผมไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม

...ห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ  อย่างที่ผมบอกแค่คุย(ไม่ได้คบ)

ห้าม...

มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวไปบ้างแต่ในเมื่ออยากจะคุยกับผมคงต้องทำใจยอมรับในกฎข้อนี้   

“เหนือคะคนเมื่อกี้ใครหรอคะ?” ผมมองคนถามนิ่งๆ ก่อนตอบ

“เพื่อน..” ผมตอบ

“หรอคะ  เพื่อนคนนี้ทำไมหวายไม่เคยพบเลยคะ คนละกลุ่มหรอ” เธอยังคงถามผมต่อ

“อืม” 

“แล้วเมื่อกี้มีอะไรกันคะ  ไปคุยกันตั้งนาน  แบบนี้มันน่างอนนัก” เธอทำท่างอนๆผม  ซึ่งทำไปเถอะผมไม่สนใจหรอก  ผมไม่ชอบเอาใจใคร  แค่ที่มากินข้าวด้วยก็สุดๆแล้ว  แต่ถ้ามากกว่านั้นก็คงจะเป็นเรื่องเซ็กส์

“...” ผมไม่ได้ตอบแค่เดินต่อไปเรื่อยๆ 

“จะไม่ง้อหวายหน่อยหรอคะเหนือ” ผมหยุดเดินแล้วหันมามองเธอพร้อมสลัดแขนที่เธอจับให้หลุดออก  คนยิ่งหงุดหงิดมาเจอคนงี่เง่าแบบนี้ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน

“...รำคาญ” ผมว่าแล้วเดินออกมา  คิดแล้วก็หงุดหงิด ตอนแรกผมกะจะเดินออกมาเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองเท่านั้น  ผมก็ไม่เข้าใจมีอะไรน่ากันนัก  ให้ผมร้องผมก็ร้องแล้วไง  พอผมร้องเสือกขำกัน มันน่าตลกนักรึไงว่ะ  ผมจึงออกมาข้างนอกแล้วก็เจอหวายเธอชวนผมไปกินข้าว  ผมยังไม่ได้ตอบอะไร  แต่พอเห็นข้าวมาเรียกผมจึงบอกให้เธอรอผมจะไปกับเธอ  ผมจึงเดินไปหาข้าวที่เรียกผม ผมไม่ได้พูดอะไรแค่มองข้าวนิ่งๆเท่านั้น  ข้าวมองที่ผมก่อนที่จะเบนสายตาไปมองข้างหลัง ผมรู้ว่าข้าวคงจะถามว่าใคร?  แต่กลับบอกขอโทษผม  และให้ผมกลับไปข้างในเพราะเพื่อนๆรออยู่  ตอนนั้นผมกลับสะบัดแขนออกทำให้ข้าวหันกลับมามองเหมือนไม่เข้าใจ  ผมมองหน้าข้าวนิ่งๆ  อาจจะดูเย็นชาไปเลยก็ได้  ผมไม่ได้โกรธ  แต่น้ำเสียงของข้าวที่เอ่ยเรียกผมเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินและใบหน้าที่เจื่อนลงเรื่อยๆ  มันทำให้ผมรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับข้าวไป  และหวายก็เข้ามาข้าวถามว่าเธอเป็นใคร  ผมไม่ได้ตอบแต่เลือกที่จะเดินออกมาพร้อมเธอและไม่ได้หันกลับไปมองข้าวที่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเดินกลับเข้าไปเข้าในรึยัง

Rrrrrr Rrrrrr

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายโดยทีไม่ได้มองว่าใครเป็นคนโทรมา

“อืม”

(ไอ้เหี้ยเหนือมึงอยู่ไหนห้ะ  ไปไหนทำไมไม่บอกพวกกู!)   เป็นไอ้ฮาร์ทครับที่โทรมา  ระเบิดได้แบบมันไม่ใช่ไอ้จิมกับไอ้โดมแน่นอน

“...” ผมตอบกลับไปแค่ความเงียบ

(ไอ้สัส!  มากับเพื่อนแล้วหนีไปกับหญิงมันใช่หรอวะ  อีกอย่างกูมารถมึงนะไอ้ฟาย  จะทอดทิ้งเพื่อนอย่างกูได้ไง  มึงต้องรับผิดชอบไปส่ง
กูกลับหอคืนด้วย!)

“...”

(ไอ้เหนือ! ที่กูพูดได้ยินไหมห้ะ  มึงอยู่ไหน  ตอนนี้มึงอยู่ไหน?) เฮ้ออ ผมละยอมใจไอ้ฮาร์ทมันจริงๆ  ผมไม่ตอบมันยิ่งตะเบ็งเสียงใส่

“..ห้าง” ผมตอบ

(มึงอยู่ห้าง  มึงอยู่ส่วนไหนเดี๋ยวกูไปหา  กูไม่ยอมเสียตังค่ารถหรอกนะเว้ย  กลับมารับผิดชอบด้วย)

“..กลับเองแล้วกัน” ผมตอบแล้วตัดสายทิ้งไป

ผมขับรถออกจากห้าง  ขับไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง  ซึ่งดูเงียบสงบ  คนก็ไม่มาก  ผมจอดรถแล้วเดินไปนั่งใต้ร่มไม้สีเขียว  ผมมองบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติทำให้อารมณ์เมื่อครู่ดีขึ้น  ...  ทำให้ผมคิดถึงข้าว  ข้าวชอบต้นไม้สีเขียว  ยิ่งเป็นอะไรที่มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้ยิ่งทำให้นึกถึงเมื่อก่อน  เมื่อก่อนตอนยังเด็ก  ข้าวมักชวนผมไปเที่ยวเล่นตามท้องทุ่งกว้าง  ไม่ไปวาดรูปก็ไปเล่นอะไรด้วยกันและถ้าเป็นตอนกลางคืนทุ่งกว้างแห่งนั้นจะมองเห็นดาวได้ชัดเจอแตกต่างจากที่นี่  ถึงแม้จะดึกขนาดไหนดาวบนท้องฟ้ากลับมองไม่เห็นซักดวง  มีเพียงแสงไฟตามบ้านเรือนหรือแสงจากรถยนต์ที่เห็นตามท้องถนน

“..ข้าว”  เมื่อก่อนผมกับข้าวสนิทกันมากตั้งแต่วันแรกที่ผมย้ายไปเรียนโรงเรียนและได้อยู่ห้องเดียวกันกับข้าว  เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย  บางครั้งผมจะไปนอนค้างบ้านข้าว  ข้าวเองก็เช่นกัน  เพราะข้าวชอบมาเล่นเกมส์ที่บ้านผม  ช่วงนั้นผมมีความสุขมากครับผมได้เห็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขของข้าว  ผมชอบรอยยิ้มนั้นตลอด  มันทำให้ผมพลอยยิ้มไปด้วย  บางครั้งผมเองก็คิดว่าผมบ้ารึเปล่าที่ชอบมองข้าวตลอดเวลา  ผมชอบอยู่กับข้าว  จะเรียกว่าผมติดข้าวมากก็ได้  ข้าวทำให้ผมใจเต้นเวลาอยู่ใกล้ๆ  ผมชอบกลิ่นตัวหอมๆของข้าว  ผมชอบทุกอย่างที่เป็นข้าว  ผมมักจะเล่าเกี่ยวกับข้าวให้แม่ฟังว่าวันนี้ไปไหน  ทำอะไรกับข้าวบ้าง  จนแม่ผมถึงกับเอ่ยถามว่า ‘ชอบข้าวรึเปล่า’ พอได้ยินแบบนั้นผมก็อึ้ง  คำถามของแม่มันทำให้ผมนิ่งคิดว่าผมชอบข้าวจริงๆหรอ  ผมไม่ได้ให้คำตอบแม่  ผมคิดทบทวนผมจะชอบข้าวได้ยังไงในเมื่อเราเป็นเพื่อนกันแถมยังสนิทกันด้วย  จนมาวันกีฬาสีทำให้ผมรู้ใจตัวเองว่าจริงๆแล้วผมชอบข้าว  วันนั้นหลังซ้อมบอลเสร็จ  ผมเป็นนักฟุตบอลนะครับ  ผมไปเห็นภาพที่ผมเห็นแล้วถึงกับสะอึก  เป็นภาพที่ข้าวกอดอยู่กับใครที่ผมไม่รู้จักแต่น่าจะเป็นรุ่นพี่  ผมสบตากับรุ่นพี่คนนั้นที่มองผมอยู่  ข้าวไม่เห็นผมแน่นอนเพราะข้าวหันหลังให้ผม  ผมอยากจะเข้าไปกระชากสองร่างนั้นให้ออกจากกัน   ผมปวดหนึบๆที่อกข้างซ้าย  ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไร  ผมเดินเลี่ยงออกมาจากที่ตรงนั้นเพราะทนดูไม่ไหว  ผมถึงได้เข้าใจตัวเองว่าผม...ชอบข้าวจริงๆ

“เฮ้ออ”  พอยิ่งคิดถึงช่วงนั้นมันก็อดที่จะคิดถึงเรื่องที่ผมต้องย้ายมาอยู่ในเมืองแห่งนี้ไม่ได้  หลังจากจบกีฬาสีผมแทบจะไม่ค่อยได้คุยกับข้าว เพราะผมต้องทำเรื่องย้ายขอกลับมาเรียนต่อที่นี่แทน  ตลอดหนึ่งอาทิตย์ผมไม่ได้ไปโรงเรียน ผมไม่รู้ว่าข้าวเป็นยังไงบ้าง  ไม่ได้ไปหาที่บ้าน  ข้าวเองก็ไม่ได้มาหาผมเหมือนกัน   จนวันที่ผมต้องย้ายบ้านมา  ผมจึงเขียนเป็นจดหมายทิ้งให้ข้าว  ในจดหมายผมเขียนขอบคุณทุกอย่างลงไป  ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงตอนนี้  ผมเขียนความรู้สึกของตัวเองลงไปด้วยอยากบอกกับข้าวตรงๆ  แต่ผมกลับทำไม่ได้  ใจไม่กล้าพออีกอย่างถ้าข้าวรู้ว่าผมคิดเกินคำว่าเพื่อนไปรังแต่จะทำให้ข้าวเกลียดผม  และเรื่องในตอนนั้นก็แวบเข้ามาในหัวผมอีกภาพของข้าวกอดกับรุ่นพี่  ทำให้ผมลดละที่จะส่งมันไปถึงมือข้าว  ผมจำต้องเก็บความรู้สึกตัวเองเอาไว้คนเดียวปล่อยให้มันเป็นแค่อดีตไป  ผมอาจจะไม่ได้เจอข้าวอีกแล้วก็ได้  ผมคิดแบบนั้น  ผมย้ายมาโดยไม่ได้ร่ำลาข้าวซักคำ  ....

“ข้าวหอม  หิรัญธร    นิวัฒนกิจ  นิเทศ ปี2 มหาลัย.. ลูกคุณป้าอำไพ คุณลุงศรัณ...”
ผมยังจำครั้งแรกที่ผมถามแบบนั้นออกไปได้เลย  นั้นเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่ผมพูดออกไป  มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอกันในรอบหลายปีที่ไม่ได้เจอข้าว  ผมเจอข้าวก่อนหน้านั้นก็ตอนที่ข้าวเดินชนกับผม  แต่ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร  แต่อีกคนกลับรั้งผมไว้  และผมกับเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกันผมไม่ชอบให้ใครแตะตัวผมหากไม่จำเป็น  ผมแค่คุ้นหน้าแต่ก็จำไม่ได้ว่าเป็นใคร  และเราก็พบกันอีกครั้งในวันเดียวกัน  ข้าวเป็นพนักงานเสริฟร้านกาแฟ  ตอนนั้นผมก็ถามไปว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนไหม  แต่ข้าวกับตอบว่าไม่เคย  แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับยิ่งทำให้ผมต้องรู้ให้ได้  มันเหมือนจะนึกออกแต่ก็พูดออกมาไม่ได้ว่าเป็นใคร  เคยรู้จักผมมั่นใจ  จนเป็นวันที่ผมและเพื่อนอยากกินส้มตำจึงพากันไป  และผมก็ได้พบกับข้าวซึ่งเป็นเพื่อนกับไอ้ฮาร์ทเพราะพักอยู่หอเดียวกัน  จนเมื่อมาถึงการแนะนำตัวข้าวก็แนะนำตัวเองไป  พอข้าวแนะนำตัวจบผมก็เริ่มตะหงิดๆ  ข้าวหอม   ผมไม่คิดว่าจะมีคนชื่อนี้  แต่อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น  ผมจึงทักถามแม่ว่า ‘แม่ไปหาป้าอำไพเจอข้าวไหม’  เพราะช่วงนั้นแม่มีธุระต้องไปทำแถวนั้นเลยแวะไปหาป้าอำไพซึ่งเป็นแม่ของข้าว  แม่ผมบอกว่า ‘ป้าอำไพบอกว่าข้าวมาเรียนที่นี้’   ผมจึงถามต่อจนได้ความและมั่นใจว่าเป็นข้าวคนที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกรอบ   


5โมงเย็น


ผมมองนาฬิกาข้อมือ ห้าโมงเย็นแล้วหรอ  ผมนั่งคิดอะไรเพลินนานขนาดนี้เชียว  ผมขับรถกลับบ้านก็พบกับรถคันหนึ่งจอดอยู่เยื่องหน้าบ้าน  จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรถพ่อ  ผมจอดรถไว้หน้าบ้านแล้วเดินเปิดประตูรั้วดินเข้าไปในบ้าซึ่งมีแม่ พ่อ และก็ผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่  แม่หันมามองและส่งยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน 

“กลับมาแล้วหรอลูก  พ่อมาหาเหนือน่ะ” แม่เอ่ยบอก

“...” ผมเดินเข้าไปนั่งกับแม่  เพราะไม่อยากให้แม่นั่งอยู่กับคนพวกนี้คนเดียว

“ไม่คิดจะยกมือไหว้ฉันหน่อยรึไง” พ่อบอก

“...” ผมยังคงนั่งนิ่ง จนแม่สะกิดบอก  ผมจึงยกมือไหว้แค่พ่อ

“แล้วไม่คิดจะไหว้แม่เลี้ยงแกด้วยรึไง” พ่อยังพูดต่อ

“..ไม่ใช่แม่ผม  ทำไมต้องไหว้” ผมตอบเสียงเรียบนิ่ง

“นี่แก!!” พ่อขึ้นเสียงใส่  โกรธหรอ? แล้วไงวะใครสน  ไม่ใช่แม่ผมจริงๆนิ  ผมมีแม่คนเดียวคนที่ผมอยู่ด้วยทุกวัน

“..เชิญกลับไปได้แล้ว  บ้านนี้ไม่ต้อนรับคุณสองคน” ผมว่า

“นี่แกกล้าไล่ฉันหรอน้ำเหนือ!!” พ่อตวาดลั่น

“คุณคะใจเย็นๆ  เหนือขอโทษพ่อสิลูก”แม่พูดกับพ่อก่อนจะหันมาบอกผม 

“คุณมลสั่งสอนลูกยังไงคะ  ทำไมเด็กถึงไม่มีมารยาทแบบนี้” ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียใหม่พ่อผมพูดบอกแม่  แถมยังใช้สายตาเหยียดหยามแม่ผม 

“ตัวเองดีตาย” ผมว่ากลับเสียงนิ่ง  ผมใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างเย็นชา ก่อนจะเหยียดยิ้ม

“แกว่าใครห้ะ!”

“..หมามั้ง”  ถ้าจะมาหาเรื่องกันไม่รู้จะมาทำไม  มาเหยียบย้ำหัวใจแม่ผมรึไง  ผมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแม่ผม  โดยเฉพาะคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ  กล้าเอาผู้หญิงคนนี้มาถึงบ้านแม่ผม  จะรักกันทำไมไม่ไปรักกันไกลๆวะ ผมก็ไม่เข้าใจ

“คุณพี่คะ  ลูกคุณพี่ว่าฉันเป็นหมา  ฉันไม่ยอมนะคะ”

“ไอ้เหนือขอโทษเมียฉันเดี๋ยวนี้!” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ น่ากลัว

“...” ผมนิ่งกอดอกมอง

“ไอ้เหนือ!!”

“คุณคะ  ฉันขอโทษแทนลูกด้วย” แม่ผมบอกขอโทษแทนออกไปยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด

“เพราะมีแม่แบบนี้ไงลูกถึงได้เป็นคนแข็งกระด้างแบบนี้  สั่งสอนลูกบ้างนะคะคุณมล” ผมกรอกตาไปมา  อยากจะจับกระชากผู้หญิงของพ่อกระทืบซะ  แต่เพราะเห็นแก่แม่ผมถึงอยู่นิ่งๆไม่ทำ  จะว่าแค้นไหม  บอกเลยแค้นมากทั้งพ่อทั้งผู้หญิงของพ่อ  พ่อทิ้งแม่ไปมั่วกับผู้หญิงคนนี้  จนต้องเลิกรากันไป  ผมเห็นแม่ร้องไห้ทุกครั้ง ...ผมไม่ชอบ 

“อย่าว่าแม่กู!” ผมกดเสียงต่ำมองผู้หญิงของพ่อด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“ไอ้เหนือ! นี่แกกล้าพูดกูกับเมียฉันแบบนี้หรอห้ะ!!” ทำไมพูดแค่นี้จะตายรึไง  เดือดร้อนแทนกันจริงนะ 

“แล้วคุณไม่คิดว่าเมียคุณว่าแม่ผมมันเกินไปรึเปล่าละ” ผมถามกลับ

“...” เงียบ  เงียบทำไมตอบไม่ได้ละสิ

“ออกไป!” ผมบอกอีกรอบจ้องบุคคลสองคนที่ยังนั่งหน้าสล่อนอยู่ไม่ลุกไปไหน

“..เหนือ” แม่

“ไสหัวไปซะ  แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก  ออกไป!!!” ผมตวาดดังลั่น  แม่ถึงกับสะดุ้งตกใจ  พ่อเพียงแค่มองหน้าผมก่อนที่จะพาผู้หญิงของท่านออกไป  พ่อพูดประโยคสุดท้ายก่อนจากไป

“..แล้วผมจะมาหาใหม่”

“ฮึก ..” ผมมองคนข้างกายที่มีอาการสั่นเทา แม่กำลังร้องไห้เพราะพ่ออีกแล้ว  ผมไม่ชอบเห็นแม่ร้องไห้จริงๆ  ผมอยากให้แม่เข้มแข็ง  แต่แม่รักพ่อมาก  ผมอยากให้แม่ลืมผู้ชายแบบพ่อจริงๆ  แต่เพราะรักมันคงลืมยาก  หรือแม่อาจไม่อยากที่จะลืม ผมดึงแม่เข้ามากอดปลอบ  แม่ผมเป็นคนดี  เป็นคนน่ารัก  แต่พ่อกลับทิ้งไปคบผู้หญิงใหม่ที่นิสัยเสีย  ชอบว่าแม่ผมเสียๆหายๆ  ผมเกลียดผู้หญิงคนนั้น  เกลียดพ่อ  เกลียดคนที่ทำแม่เสียใจ  ผมไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด  และผมก็ไม่มีพ่อหลังจากที่ท่านสองคนขาดกัน  ผมมีแค่แม่  แม่คนเดียวเท่านั้น

“อย่าให้เขาเข้าบ้านอีกนะแม่” ผมบอกแม่พร้อมกับกอดท่านแน่นขึ้น  อย่าให้เขาเข้ามาทำร้ายหัวใจแม่อีก 

“ อึก  แต่เขาเป็นพ่อของเหนือนะลูก”  แม่สะอื้นพูดเสียงแผ่ว

“เขาไม่ใช่พ่อเหนือ”

“ทะ ทำไมพูดแบบนี้ละเหนือ  เขาเป็นพ่อเรานะลูก” แม่ผละออกจากอกผม ท่านมองหน้าผมน้ำตาเต็มหน้าแม่จนผมต้องเกลี่ยน้ำตาที่แก้มของแม่อย่างแผ่วเบา  ทำไมถึงต้องร้องไห้ได้มากขนาดนี้

“เขาไม่ใช่พ่อเหนือตั้งแต่ที่ทิ้งแม่ไปแล้ว” ผมตอบแม่เสียงแผ่ว  แม่ถึงกับสะอื้นฮักอีกรอบหนึ่ง

“ฮึก ฮืออ”
.
.
.
แม่หลับไปแล้ว  ท่านร้องไห้จนหลับไปไม่รู้ตัว  ผมเช็ดตัวให้ท่านเสร็จก็ห่มผ้าให้ท่าน  ผมมองใบหน้าหวานตาบวมแดงจากการร้องไห้  ก็นึกอยากจะต่อยหน้าสองคนนั้นจริงๆ 

“ฝันดีนะครับแม่” ผมก้มไปหอมแก้มท่านก่อนจะผละออกแล้วเดินกลับเข้าห้องตัวเอง  ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนอนของตัวเอง  หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อน

(โหลไอ้เหนือมีไร) ไอ้ฮาร์ท

“ดื่มกัน” ผมบอกมัน

(เป็นอะไรวะ  ทำไมเสียงมึงดูเหนื่อยๆ) มันถาม

“ไม่มีไร” ผมตอบพร้อมกับเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น

(เอองั้นเจอกันที่เดิม)

“อืม” ผมขานรับในลำคอ แล้วสายก็ตัดไป




ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ผมมาถึงผับประจำในเวลาสามทุ่ม  ผมเดินไปยังชั้นสองของผับ  โต๊ะประจำกลุ่มที่มาทีไรต้องนั่งตรงนั้นทุกครั้ง  ไปก็พบกับกลุ่มเพื่อนผม  มีไอ้จิมกับไอ้โดมนั่งอยู่  และก็มีมาเพิ่มที่คุ้นกันดีก็เป็นไอ้เพียวกับไอ้เวฟ  และที่ไม่คุ้นอีกหนึ่ง  ส่วนไอ้ฮาร์ทยังไม่มา

“ไงไอ้เจ้าชายน้ำแข็ง” ไอ้โดมทักเมื่อผมมาถึงโต๊ะ

“ มาได้ไง” ผมถามเพราะผมชวนแค่ไอ้ฮาร์ทเท่านั้น

“เชี้ยฮาร์ทมันโทรไปชวนพวกกูเอง  บอกว่ามึงน่าจะมีเรื่องไม่สบายใจ”

“..อืม” ผมขานรับ  พร้อมกับรับแก้วเหล้าที่ไอ้จิมชงส่งมาให้

“แล้วเป็นไรวะมึง?” ไอ้จิมถาม  ผมเพียงแค่ส่ายหน้าแล้วมองไอ้เวฟกับไอ้เพียว

“มาไง” ผมถามพวกมัน

“มาให้มึงเลี้ยงเหล้ากูไงไอ้เหนือ  อย่าบอกว่าลืม” ไอ้เพียวเป็นคนตอบ  ผมจำได้ว่าผมต้องเลี้ยงเหล้ามันที่มันยอมไปถ่ายรูปให้

“เออแล้ว..” ผมใช้สายตาถามมันว่าไอ้คนที่มาด้วยอีกคนใคร

“อ้อ  นี่ไอ้เอ็มเพื่อนคณะกูเอง” ไอ้เวฟตอบ  ผมพยักหน้าตอบไม่ได้ว่าไร   ไม่นานไอ้ฮาร์ทก็มาพร้อมกับข้าว 

“มาถึงนานยังวะ” ไอ้ฮาร์ทถามผม

“ไม่นาน” ผมตอบแล้วกรอกเหล้าเข้าปากจนหมดแก้ว

“น้อยๆหน่อยมึง  เดี๋ยวก็ได้เมาตายห่าพอดี”ไอ้ฮาร์ท

“...” ผมไม่ได้ตอบกรอกเหล้าเข้าปากรวดเดียวเหมือนเดิม  ไอ้จิมก็ขยันชงให้ผม

“ไอ้เหนือวันนี้ที่มึงหนีกลับก่อนเพราะโกรธพวกกูใช่ป่ะ?” ไอ้โดม

“..เออ” ผมตอบ

“พวกกูขอโทษ...กูไม่คิดว่ามึงจะโกรธ” ไอ้โดมว่าต่อ 

“ช่างเถอะ” ผมตอบส่งๆ จริงๆก็ไม่ได้โกรธอะไรแล้ว  คิดดูดีๆผมเองก็งี่เง่าเกินไป   ผมมองข้าวที่ไม่พูดไม่จาอะไรเลยนั่งเงียบจนผมคิดว่า
ไม่ได้มาด้วยถ้าไม่มอง 

“เอองั้นแดกเหล้ากันดีกว่า  ว่าแต่ไอ้นั้นใครวะ?” ไอ้ฮาร์ทถาม มันคงถามถึงคนมาใหม่นั่นละ

“ไอ้เอ็มเพื่อนกูๆ” ไอ้เวฟตอบ

“เออกูฮาร์ทนะเว้ย” ไอ้ฮาร์ท

“ดีๆ” แล้วพวกมันก็คุยกันเฮฮาสนุกสนานกันไปส่วนผมเอาแต่กรอกเหล้าเข้าปากอย่างเดียว  เป็นแบบนี้แหละครับ  ผมเป็นคนไม่ค่อยพูดส่วนมากก็ฟังพวกมันเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง

“..ข้าว” ผมเรียกข้าวที่ยังคงนั่งเงียบไม่เฮฮาเหมือนพวกเพื่อน  ข้าวหันมามองผม  ผมจึงตบที่นั่งข้างๆให้อีกคนลุกมานั่งข้างผม 

“...” ข้าวไม่ตอบผมกลับแต่ก็ยอมลุกมานั่งข้างๆผมแทน  ผมจึงถีบไอ้โดมให้ไปนั่งแทนที่ข้าวแล้วให้ข้าวนั่งข้างผมแทน

“ขอโทษ..” ผมบอกข้าวที่นั่งลงข้างผมแล้ว  ในผับก็เปิดเพลงดังกระหึ่มยิ่งดึกเพลงยิ่งมันส์ ทำให้ผมต้องกระซิบข้างหูของข้าว  ผมรู้สึกผิดที่วันนี้ทำไม่ดีใส่ข้าว  จนอาจทำให้ข้าวรู้สึกไม่ดีไปด้วย

“ขอโทษเหมือนกัน  ที่ทำให้เหนือไม่พอใจ”   ข้าวตอบ

“...” ผมส่ายหน้าบอกไม่เป็นไร  รู้สึกมึนๆหัวแล้วแหะ  ผมสะบัดหัวไล่ความมึนออกไป

“เชี้ยเหนือไหวปะมึง  กูบอกแล้วให้แดกน้อยๆ”ไอ้ฮาร์ท 

“กูไหว” ผมบอกแล้วกรอกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้วแบบเดิม

“กูจะรอดู  ส่วนมึงไอ้จิมชงเหล้าให้มันเบาๆหน่อยละกัน  ดื่มเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า” ไอ้ฮาร์ท

“ปล่อยมันไปเถอะนานๆจะได้เห็นมันเมา” ไอ้จิม

“นี่มึงคิดจะมอมเหล้ามันรึไงไอ้จิม” ไอ้เพียวถาม

“เออ เผื่อแม่งจะหลุดมาดเจ้าชายหน่อย ฮ่าๆๆๆ” ไอ้จิมหัวเราะร่า 

“ไอ้เลว!!!” พวกมันผู้ออกมาแทบจะพร้อมกันทุกคน 

“แหม  ไม่เห็นต้องชมกันขนาดนั้นเลยตัวเอง” ไอ้จิมมันทำเป็นตีแขนไอ้เวฟที่นั่งข้างๆมัน

“ใครเขาชมมึงไอ้จิม  มึงเมาแล้วใช่ไหม” ไอ้เวฟมันจับไอ้จิมจูนสมอง

“สัส  กูแดกไปนิดเดียวเองไม่เมาง่ายๆหรอก ..เอ้าเหนือแก้วมึงกูชงให้แล้วว”  ผมยื่นมือไปรับแล้วก็ดื่ม  วันนี้ได้มาก็ดีเหมือนกัน 

“แล้วมันเมาจะไม่เป็นไรหรอวะ” น่าจะเป็นไอ้คนชื่อเอ็มที่พูดขึ้นมันมองมาทางผม 

“ไม่หรอก  พรุ่งนี้พวกกูไม่มีเรียน” ไอ้จิมตอบ

“ดีวะ”

“พวกมึงมีหรอ” ไอ้โดมถาม

“เออมี  แต่คาบบ่ายวะเจอเจ้โหดด้วยไม่ไปไม่ได้  คิดถึงเจ้แกแล้วขนลุก  ใช่ไหมไอ้ข้าว”ไอ้เวฟมันทำท่าขนลุกก่อนจะหันมาถามข้าว

“เกี่ยวไรกะกูวะ” ข้าวตอบ

“ไม่เกี่ยวได้ไง  มึงเคยเกือบได้เอฟวิชาเจ้โหดไม่ใช่ไง ฮ่าๆๆ” ไอ้เวฟว่าต่อ 

“ยังไงวะ  มึงโง่ขนาดนั้นเลยหรอวะไอ้ข้าว” ไอ้ฮาร์ทถามเหมือนไม่เชื่อ  ขนาดผมได้ยินยังไม่เชื่อเลยครับ  เพราะว่าข้าวเรียนเก่งจะตาย  ติด1ใน10ของโรงเรียนเลย 

“กูไม่ได้โง่เถอะ!”ข้าวพูดน้ำเสียงไม่พอใจ

“ไอ้ข้าวมันไปกวนเจ้แก  โดนหักคะแนนทุกคาบ ฮ่าๆๆ” ไอ้เวฟว่าขำๆ

“หุบปากไปเลยเชี้ยเวฟ  เพราะมึงนั่นแหละแกล้งกู” ข้าวปาน้ำแข็งใส่ไอ้เวฟที่ยังคงขำอยู่

“ไอ้ข้าวไม่ติด  แต่มึงติดไม่ใช่หรอไอ้เวฟ” ไอ้เพียวพูดขึ้นบ้าง  ไอ้เวฟถึงกับหุบปากทันที

“ไอ้สัส!”

“หึๆ  สะใจวะ  หัวเราะที่หลังดังกว่าจริงๆ ฮ่ะๆ” ข้าวปรบมือถูกใจคำพูดไอ้เพียว

“ชิ กูโป้งมึงแล้ว” ไอ้เวฟ

“ไม่ง้อเว้ย!” 

รู้สึกมึนครับ  โลกหมุนแล้วตอนนี้  ผมลุกขึ้นกะจะไปเข้าห้องน้ำซักหน่อย

“เหนือ!” เสียงข้าวดังอยู่ใกล้ๆผม  ข้าวฉุดผมที่จะล้มลงไปบนโต๊ะ

“ไหวไหมมึง  แล้วลุกไหมวะ” ไอ้ฮาร์ทถาม

“ปวดฉี่” ผมตอบขอไปที  ตอนนี้อยากเข้าห้องน้ำ 

“เดี๋ยวกูพาไปเอง” ข้าวบอกกับพวกมัน

“เออฝากมันด้วยละ”

“อืม” ข้าวพยุงผมที่เดินเซแทบจะล้มกับพื้นระหว่างทางไปห้องน้ำ   ห้องน้ำก็คนเยอะเดินกวักไกวกันให้วุ่น  ทีแรกจะฉี่ที่โถเปลี่ยนใจเข้าใน
ห้องดีกว่าครับ

“ข้าวเข้าข้างใน” ผมบอกเสียงแหบ

“อ่าๆ  ฮึบ!”

“หึๆ หนักหรอ?” ผมถามขำๆ เห็นหน้าข้าวลางๆถึงจะไม่ชัดแต่ก็พอเห็นสีหน้าของข้าวอยู่

“ไม่หนักหรอก ตัวเหนือเบานิดเดียว  แต่เอะทำไม่มีห้องว่างเลยวะ” ข้าวดันผมให้ยืนพิงผนักแล้วตัวเองก็เดินไปดันประตูห้องน้ำ

“...” ผมมองข้าวที่ดูจะตั้งใจหาห้องว่างให้ผมอย่างจริงจัง

“เหนือรอก่อนนะ” ข้าวหันมาพูดกับผม

“..อืม” ผมพยักหน้าตอบ  ผมยังคงมองข้าวไม่วางตา  ไม่ได้มองคนๆนี้นานแค่ไหนแล้วนะ  ทั้งๆที่ช่วงนี้ผมก็มักจะชอบไปหาข้าวที่ร้านกาแฟแต่ก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากขนาดนั้น ข้าวตัวสูงขึ้นจากแต่ก่อนไม่มาก  แถมตัวยังเล็กเหมือนเดิม  ใบหน้าหวานก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไร  แต่สำหรับผมข้าวน่ารักขึ้น

“อ๊ะ เอ่อ..ขอโทษครับ” ผมหลุดจากภวังค์เมื่อเห็นข้าวกำลังก้มขอโทษใครที่อยู่ในห้องน้ำที่ข้าวยืนอยู่  ผมจึงเดินไปหาทั้งๆที่หัวยังมึนอยู่

“มีอะไร” ผมถามข้าวที่ยังก้มหน้าอยู่  ผมจึงมองในห้องน้ำมีผู้ชายสองคนยืนอยู่และมองมาที่พวกผม

“...”

“..ข้าว” ผมเรียกพร้อมกับจับแขนข้าว  ข้าวเงยหน้าแดงๆขึ้นมาสบตากับผม

“เหนือห้องนั้นว่าง  รีบเข้าเถอะ” ข้าวผลักผมไปยงห้องน้ำที่เพิ่งมีคนเดินออกมาเมื่อครู่

“...” ผมยังไม่ทันได้ถามอะไรเลย  เข้าก่อนก็ได้วะ 

“เหนือข้าวไปรอข้างนอกนะ” ข้าวตะโกนเข้ามา  ผมจึงขานรับในลำคอ  หน้าข้าวแดงมากตอนที่หันมาสบตากับผม  คงเจอไรเข้า  เพราะมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  จะชอบมีคนมาทำอะไรในห้องน้ำ  ขนาดทางเดินมาห้องน้ำยังมีคนนัวเนียกันให้เห็น  ผมทำธุระของตัวเองเสร็จก็ล้างมือ  ผมจ้องมองตัวเองในกระจกพลันสายตาก็มองเห็นผู้ชายสองคนห้องเมื่อกี้เดินออกมา  เสื้อผ้ายับยู่ยี้  ผมไม่เป็นทรงซะ  คงจะเสร็จกันแล้วสินะ   ผมเดินออกจากห้องน้ำมองหาข้าวที่คาดว่าจะอยู่ข้างนอกแต่ก็ไม่พบ

“ไปอยู่ไหนวะ” ผมพึมพำกับตัวเอง  มองหาข้าวให้ทั่ว  กลับโต๊ะแล้วหรอวะ  ผมตัดสินใจจะเดินกลับไปยังโต๊ะ  แต่ก็ได้ยินเสียงอื้ออึ้งร้อง
ให้ช่วย  ผมจะเป็นคนไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นแต่ครั้งนี้มันแตกต่าง  มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ได้  ขาผมเดินไปยังต้นเสียง  เป็นซอกทางเดินไปยังบันไดหนีไฟ

“ข้าว!!” ผมเรียกคนที่ตอนนี้กำลังถูกผู้ชายสองคนที่ผมเห็นเมื่อครู่  หนึ่งคนกำลังจับแขนไว้ และอีกคนกำลังคล่อมตัวข้าวอยู่  ข้าวมองเห็นผมพร้อมกับดิ้นให้หลุด  แต่เหมือนจะไม่มีประโยชน์

“..นะ เหนือช่วยข้าวด้วย”  ผมไม่รอช้าเข้าไปถีบไอ้คนที่กำลังคล่อมข้าวออก

“ไอ้เหี้ย!” ผมว่าพร้อมกับถีบมันและก็ต่อยไอ้คนที่จับแขนข้าวออก  ผมดึงข้าวเข้าหาตัวก่อนจะมองมันสองตัว  เอากันแค่สองคนไม่พอรึไง
วะ  มาลากคนอื่นด้วยทุเรศที่สุด  จากที่เมาๆอยู่ผมสว่างขึ้นมาทันที  ผมเป็นห่วงข้าวมากกว่า 

“มึงเป็นใครมีสิทธิอะไรมาถีบกูว่ะ”  ผมพยุงข้าวให้ลุกขึ้น  ก่อนจะหันไปมองมันสองตัวนิ่ง

“แล้วมึงมีสิทธิอะไรมายุ่งกับคนของกู!
” ผมพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว  ดันข้าวมาอยู่หลังผม

“ก็เด็กมึงอ่อยกู” มันว่า

“อ่อย?” ผมเลิกคิ้วถามมัน  อย่างข้าวไม่มีนิสัยแบบนั้นหรอก

“ใช่  ในห้องน้ำก็ทีหนึ่งแล้วแถมยังดักรอหน้าห้องน้ำด้วย” มันยังคงพร่ามต่อ

“หึ  มโนอะไร” ผมถามมัน

“มึงว่ากูมโนหรอ  ไม่เชื่อก็ถามเด็กมึงสิ” ผมหันไปมองข้าวที่ส่ายหน้าจะร้องไห้ออกมา

“หน้าเหี้ยแบบมึงไม่น่าจะมีใครอยากอ่อยหรอก” ผมมองมันก่อนเหยียดยิ้ม

“มึงว่าไงนะ!!!” มันตะคอกเสียงดัง

“กูไม่อยากมีเรื่อง  ไสหัวไปซะ” ผมบอก  แต่มันกลับจ้องผมเขม็ง

“ทำเป็นปากดีนะมึง  คิดว่ากูกลัว” มันว่าจบก็เข้ามาต่อยผม  แต่ผมหลบทันและปล่อยหมัดเข้าที่หน้ามัน

“กูเตือนแล้วนะ” ผมกระซิบข้างหูมันเสียงน่ากลัว ผมจัดการชกเข้าที่ท้องน้อยของมันมันถึงล้มกับพื้น  กุมท้องน้อยตัวเอง  ผมจึงเตะเข้าที่สีข้างของมันอีกสองสามที

“อั๊ก ! อึก” ผมหยุดมองคนที่นอนกองบนพื้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง  มันไม่มีทางลุกขึ้นมาแล้วผมจึงหันไปมองอีกคนที่ยืนชินกำแพง ผมเดินเข้าไปหามันช้าๆ พร้อมกับเหยียดยิ้มน่ากลัวส่งให้  มันตัวสั่นทำท่าลุกลี้ลุกลน

“เหนือพอแล้ว” ข้าวเข้ามาจับแขนผมไว้

“มันทำอะไรข้าวรึเปล่า” ผมถาม

“ ปะ เปล่า..”ข้าวพูดเสียงแผ่ว

“ทำรึเปล่า”ผมถามข้าวอีกครั้งเน้นทุกคำพูด

“ อึก อะ อือ”ข้าวพยักหน้าก้มหน้าไม่สบตาผม ผมดึงข้าวเข้ามากอด

“ทำอะไร”ผมกระซิบถามน้ำเสียงนุ่ม

“ จะ จูบ”ข้าวพึมพำบอก   ผมจ้องคนที่ยืนกลัวผมไม่ยอมไปไหน ผมพยายามระงับอารมณ์ที่กำลังจะปะทุออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของข้าว  พวกมึงกล้ามากนะมาแตะต้องข้าว

“รีบพาคู่ขามึงออกไปก่อนที่กูจะหมดความอดทน”

“ครับๆ”



“หายหัวปายหนายตั้งนานวะพวกเมิงงงงง” เสียงยานครางเอ่ยขึ้น  ไอ้ฮาร์ทมันเด้งตัวมาชี้หน้าผมกับข้าวสองคนที่กลับมานั่ง

“..เมาแล้ว?” ผมว่าผมไปไม่นานนะ 

“ทำไมสภาพมันเป็นแบบนี้วะไอ้เพียว” ข้าวถามไอ้เพียวที่ยังคงสติครบกว่าคนอื่นในโต๊ะ

“เสือกพนันกันใครคอแข็งสุดชนะ” ไอ้เพียวตอบ

“แล้วใครชนะวะ” ข้าวยังคงถามต่อ

“ก็กูไง ฮ่าๆๆ  หล่อแล้วเสือกคอแข็งอีก” มันตอบอย่างภาคภูมิใจ

“ไอ้ฟายย เมิงงงโกงง” ไอ้เวฟลุกขึ้นตีแขนไอ้เพียว ตุบๆ แต่เหมือนอีกคนไม่สะทกสะท้านอะไร

“ว่าแต่มึงไอ้เหนือหายเมาแล้วหรอวะ”

“เออ แค่มึนๆ” ผมตอบยกแก้วเหล้าตัวเองที่น้ำแข็งละลายเต็มแก้วขึ้นมาดื่ม  รสชาติก็จืดชืด

“ดีแล้ว กูจะได้ไม่ต้องแบกพวกมันคนเดียว  เพราะไอ้ข้าวตัวแค่นี้คงแบกพวกควายถึกอย่างเพื่อนมึงไม่ได้”

“กูแข็งแรงเถอะ  ดูถูกกูวะ” ข้าวเถียงกลับ  ผมเห็นแบบนี้ก็ดีใจที่ข้าวไม่เอาเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อครู่มาคิด

“จะกลับเลยไหม?” ผมถามมองพวกมันทุกตัวที่หมดสภาพกัน

“เออกลับดีกว่าวะ  มึงเอารถยนต์มาใช่ไหมไอ้เหนือ”

“อืม”

“งั้นกูจะไปส่งเพื่อนกูละกัน  มึงก็ไปส่งเพื่อนมึง  ส่วนรถพวกมันก็ทิ้งไว้นี่ก่อน” ผมพยักหน้า

“แต่ว่าเราจะแบกพวกมันไปไงหมดว่ะ” ข้าวมองพวกมันเรียงตัว

“โว้ย!! อย่ามาแตะต้องตัวกูววว  จะนอนน งื้มมม” ไอ้จิมโวยขึ้น เฮ้ออ  ผมถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ 
.
.
.
“ฮึบ! ครบซักที” ไอ้เพียวบอกหลังจากแบกไอ้โดมขึ้นรถผมเป็นคนสุดท้าย

“ปวดหลังเลยวะ โอ๊ยย” ข้าวครวญครางทำท่าบิดไปมา

“ตอแหลไอ้ข้าว  มานี่ดิ” ผมเห็นไอ้เพียวมันกระซิบอะไรกับข้าวไม่รู้  ข้าวมองมาทางผมก่อนจะหันไปประทุร้ายไอ้เพียว

“ไอ้บ้า!!”

“ฮ่าๆๆ ไอ้เหนือกูไปแล้วนะเว้ย  ฝากเพื่อนกูด้วย” ไอ้เพียวบอกมันโบกมือลาผม  แล้วหันไปส่งสายตาล้อเลียนข้าวก่อนจะเดินไปยังรถตัวเองที่จอดอยู่ไม่ห่างจากผม

“กลับกันเถอะ” ผมบอกข้าว  ข้าวเดินโดยไม่มองหน้าผม

ผมขับรถไปส่งไอ้โดมก่อนแล้วถัดมาก็เป็นไอ้จิม  ระหว่างทางผมกับข้าวไม่ได้คุยอะไรกันเลย

“อื้มม น้องมิ้นคนสวย ไม่เอาๆ คิคิ” เสียงคนข้างหลังทำให้ความเงียบหายไป ผมกับข้าวหันไปมองไอ้คนข้างหลังที่ละเมอไม่รู้เรื่องรู้ราว

“อ่า น้องมีนอย่าครับ อู๊ยย” ยังครับยังไม่หยุด  มันละเมอคนละชื่อกันแล้ว

“โอ๊ะๆ น้องมิวพี่จั๊กจี้นะ อิอิ” มันละเมองุ้งงิ้งคนเดียวทำท่าทำทางเหมือนน้องมิวกำลังแกล้งมันอยู่

“ทำไมมีแต่ ม.มา วะ ฮ่าๆๆ”

“หึๆ” ตอนนี้รถติดไฟแดงอยู่ครับ  ก็ฟังเสียงไอ้คนด้านหลังละเมอเผยชื่อบรรดาสาวๆมันออกมาพรั่งพรูให้ได้ยิน  แต่ละชื่อมีแต่ ม.มาสะกด
เหมือนที่ข้าวว่า

“อัดคลิปไว้ดีกว่านะ  จะได้เปิดให้มันดู” ข้าวหันมาถามผม  ผมพยักหน้าเห็นด้วย ข้าวจึงจัดการบันทึกภาพและเสียงเก็บไว้  มึงทำตัวเองนะ
ไอ้ฮาร์ท  ผมออกรถเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว  ไม่นานก็มาถึงหอพักของข้าวกับไอ้ฮาร์ท  ผมจอดรถแล้วก็ต้องมาแบกไอ้ฮาร์ทขึ้นห้องโดยมีข้าวเปิดประตูให้  ผมพาไอ้เพื่อนตัวดี  ที่ชวนมันไปเพราะผมอยากเมา  แต่ไปๆมาๆสลับกันเป็นมันเองที่เมาเป็นผมที่ต้องหามมันแทน

“..กลับนะ” ผมบอกข้าวเตรียมเดินออกจากห้อง  แต่ข้าวกับคว้ามือผมไว้  ผมหันกลับมามองเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร?

“ขับรถกลับไหวหรอ”

“อืม” ผมพยักหน้า

“คือ...นอนนี่ก็ได้ดึกแล้วขับรถกลับคนเดียวมันอันตราย” ข้าวพูดเสียงเบา  ไม่ยอมสบตากับผม กลับหันหน้าไปอีกทาง 

“จะดีหรอ” ผมถามลองเชิง  ใจผมนี่ดีใจไปแล้วครับ  อยากจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วนอนเลย

“..อืม” ข้าวพยักหน้าหงึกหงัก

“ก็ได้” ผมตอบ ข้าวจึงปล่อยมือผม  ผมเดินมาหยุดระหว่างเตียงสองเตียง ด้านขวาเตียงไอ้ฮาร์ทซึ่งมันกำลังนอนกอดก่ายหมอนข้างอย่างเมามันส์  ด้านซ้ายจะเป็นเตียงของข้าว

“นะ เหนือจะอาบน้ำก่อนไหม” ข้าวถาม อาบก็ดีเหมือนกัน

“ครับ” ผมตอบ  ข้าวจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูน่าจะเป็นผืนใหม่ยื่นมาให้ผม

“เดี๋ยวใส่ชุดไอ้ฮาร์ทแล้วกันนะ  ตัวน่าจะเท่ากัน” ข้าวว่าแล้วไปค้นเสื้อผ้าในตู้ไอ้ฮาร์ทมาให้ผม  ผมเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองทั้งกลิ่นเหล้า บุหรี่ เหงื่อ มีครบ  อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็เดินออกไปข้างนอก  ปรากฏว่าอีกคนที่คิดว่าจะอาบน้ำต่อจากผมกลับน้องหลับไปเรียบร้อยแล้ว  ผมจับข้าวให้นอนบนเตียงดีๆ  ห่มผ้าให้เสร็จสับ  ผมนั่งมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้ม  ผมเกลี่ยแก้มเนียนใสอย่างเบามือ เลื่อนมาที่ริมฝีปากบางอมชมพูผมลูบมันอย่างแผ่วเบา  ก่อนที่จะจรดริมฝีปากตัวเองทาบทับริมฝีปากนิ่มของอีกคนแล้วผละออกมาจูบประทับบนหน้าผากเนียน


“...ชอบนะ” ผมกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม  ผละออกมามองใบหน้าหวานที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องในสิ่งที่ผมบอกไป  ผมคงกล้าบอกความรู้สึกจริงๆของตัวเองให้อีกคนได้รับรู้ตอนนี้เท่านั้น  ถ้าเป็นเวลาปกติคงไม่กล้า  ผมกลัวถ้าผมบอกข้าว... กลัวที่จะเสียข้าวไป  แม้แต่คำว่าเพื่อนข้าวคงไม่มีวันให้ผมเหมือนเดิม... ถ้าข้าวรู้ว่าผมกำลังคิดไม่ซื่อกับตัวเอง


TBC.


พาร์ทนี้มอบให้แด่พี่เหนือเป็นคนเล่า...หวังว่าจะถูกใจนะคะ ไม่ งง  เนอะ

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ต่างคนต่างชอบกัน แต่มีคำว่าเพื่อนมากั่น ใครจะฝ่ากำแพงออกมาก่อนนะ  :o8:

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

7

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“อื้มม”  ผมขยับตัวเมื่อรู้สึกถึงความหนักบริเวณเอว   ผมขยับตัวนอนตะแคงข้างก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองโดนรัดยังไงอยู่ก็ไม่รู้  ผมค่อยๆลืมตาขึ้นกระพริบตาปรับสายตาให้เป็นปกติ  ผมขมวดคิ้วเมื่อผมเลื่อนสายตาลงไปมองที่เอวเหตุของการอึดอัดทำให้ผมตื่น  แขน?
เออแขน  แล้วแขนใครว่ะ?  เห้ยแขนใคร?!? ผมจึงหันพรึ่บไปมองอีกด้านทันที

“อื้ออ..” แรงกอดรัดยิ่งเพิ่มมากขึ้น  ใบหน้าเนียนใสคลอเคลียอยู่ตรงแก้มของผม

อึ้ง !  ไม่อึ้งได้ไงละ โอ๊ยย !! ใจจะวาย ตัวผมแข็งทื่อไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปมากกว่านี้เพราะกลัวอีกคนจะตื่น ละ แล้วอีกอย่างคือ ทำไมผมกับน้ำเหนือมานอนเตียงเดียวกันได้วะ  แต่เอ้..เมื่อคืนภาพสุดท้ายที่ผมจำได้ คือผมนั่งรออาบน้ำต่อจากน้ำเหนือแล้วจากนั้นก็... ก็อะไรวะ?

“...” ผมค่อยๆจับแขนที่พาดอยู่ตรงเอวออก   เดี๋ยวอีกคนจะตื่น อีกนิดๆ

“..อื้อ”

“เชี้ย!” ผมสบถเสียงเบา  ก็แขนที่ผมกำลังยกอออกกลับมากอดรัดและดึงผมไปเบียดอีกครั้ง  ใจเจ้ากรรมก็เต้นระรัวเป็นเสียงกลอง กูไม่ใช่หมอนข้างเว้ยไม่ต้องมารัดขนาดนี้ T^T  เอาไงดีว่ะ  เอางี้ละกัน

พลั่ก!

“โอ๊ยยยย!!” ผมรีบเด้งตัวลุกออกจากเตียงไปยืนอีกฝั่งตรงข้ามกับที่ผมได้ถีบน้ำเหนืออกจากตัวไป   เสียงร้องเจ็บปวดดังลั่นห้อง

“เป็นไรหรอน้ำเหนือ” ผมทำทีไม่รู้เรื่องทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเกิดอะไรขึ้น

“...” น้ำเหนือไม่ตอบ  คงเพราะกำลัง งง อยู่มั้งว่าตัวเองลงไปนอนกองตรงนั้นได้ไง

“เป็นไรวะไอ้เหนือ  ตะโกนซะดังลั่นเลย” ไอ้ฮาร์ทเดินออกมาจากห้องน้ำ  มันคาดผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่เอว  มือก็เช็ดผมที่พึ่งสระขยี้เบาๆ มองไปยังน้ำเหนือที่ลุกนั่งกับพื้น ก่อนที่จะหันมามองผม

“สงสัยนอนตกเตียง”

“อย่างมึงเนี้ยนะจะนอนตกเตียงไอ้เหนือ เหอะๆ” ไอ้ฮาร์ทพูดขำๆ  ผมได้แต่ยืนนิ่งๆฟัง  ดีนะที่ไอ้ฮาร์ทมันไม่ออกมาเห็นตอนผมถีบน้ำเหนือ 

“...” ผม

“..เออ กี่โมงแล้ว” น้ำเหนือพยุงตัวเองมานั่งบนเตียงอีกครั้ง  ผมมองน้ำเหนือหน้ายังนิ่งเหมือนไม่เจ็บอะไรอย่างตอนแรงที่โดนถีบ  ผมว่าเจ็บนะนั่นเป็นผมนะร้องโวยวายไปแล้วไม่นิ่งเป็นหินขนาดนี้หรอก 

“สิบเอ็ดโมง..ไม่ไปอาบน้ำไงมึงมีเรียนบ่ายไม่ใช่หรอ” ไอ้ฮาร์ทตอบน้ำเหนือแล้วหันมาพูดกับผม

“เออวะจริงด้วย” ผมจึงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองที่ราวตาก

“แล้วมึงอ่ะจะกลับบ้านเลยป่ะ” ไอ้ฮาร์ทถามน้ำเหนือ

“..เดี๋ยวกลับตอนไปส่งข้าว”  ไปส่งผม?

“...” ผมหยิบชุดนักศึกษาจากตู้เพื่อจะเอาไปเปลี่ยนในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ  ไม่อยากมาใส่ข้างนอก  เพราะอะไรหรอ  คุณคงรู้ๆกัน  น้ำเหนืออยู่ในห้องด้วยให้แก้ผ้ามาเดินแบบไอ้ฮาร์ทไม่กล้าครับอาย

“ไอ้เหนือเดี๋ยวนี้มึงอะไรๆก็ไอ้ข้าวนะ” ไอ้ฮาร์ท

“..ทำไม” น้ำเหนือถาม

“ก็เปล๊า..ไอ้ข้าวรีบไปอาบน้ำไป  เหม็นเน่า”

“สัส!” ผมด่ามันจบก็วิ่งเข้าห้องน้ำเลย  อยู่ไม่ได้ครับเดี๋ยวโดนมันถีบ ฮ่าๆๆ



ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวอยู่ในห้องน้ำครึ่งชั่วโมงน่าจะได้  ผมเดินขยี้หัวออกมาจากห้องน้ำก็เห็นไอ้เพื่อนร่วมห้องกับผู้มาขออาศัยเมื่อคืนกำลังนั่งเล่นเกมส์กันอยู่

“ไอ้เหี้ยเหนือมึงมันชั่ว  ไอ้เลวใครให้มึงยิงกู!!” ไอ้ฮาร์ท

“...ก็มึงกาก” น้ำเหนือ

“ไอ้เหนือไอ้ฟายกูบอกว่าอย่ายิงกูไง!!”

“..ก็มึงศัตรูกู” น้ำเสียงเนือยๆนิ่งๆตอบกลับไป

“...” ผมมองมันสองตัวห่ำหั่นกันอย่างเมามันส์จะว่าสองคนไม่ได้สิ  ต้องเป็นไอ้ฮาร์ทคนเดียวมากกว่าที่มันโวกเวกโวยวายคนเดียว ส่วนน้ำเหนือนั้นแค่กดๆจอยด้วยท่าทางนิ่งๆ  ไม่เหมือนไอ้ฮาร์ทกดจนจอยจะพัง  ตัวก็ไม่นิ่งเลย  ไอ้บ้า!!

“โวยยย!! ตายอีกแล้ว” ไอ้ฮาร์ทแทบจะปาจอยทิ้ง 

“รำคาญวะไอ้ฮาร์ท  แม่งเสียงดังรบกวนห้องข้างๆบ้างเถอะ” ผมว่ามัน  มันหันมาจ้องผมเขม็ง  ไอ้นี่เล่นเกมส์แพ้แล้วจะมาพาลกูหรอห้ะเดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวกูโบก

“อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?” เออไอ้นี่อีกคนก็ถามแปลก  ยางมั้งง  เห็นกูออกยืนอยู่ตรงนี้แล้วคงกำลังอาบน้ำยังไม่เสร็จ

“ซักพักพอได้เห็นคนบ้าเล่นเกมส์แพ้อ่ะ” ผมตอบน้ำเหนือ

“อืม งั้นเหนืออาบต่อ” ว่าจบน้ำเหนือก็เดินหยิบผ้าเช็ดตัวที่น่าจะใช้เมื่อคืนถือเดินตรงไปยังห้องน้ำที่ผมเพิ่งออกมา

“เออไอ้ฮาร์ทเป่าผมให้กูหน่อยดิ  เช็ดงี้กว่าจะแห้ง” ผมหยิบไดเป่าผมขนาดพอดีมือเสียบปลั๊กแล้วกวักมือเรียกให้ไอ้ฮาร์ทเป่าผมให้  ปกติผมชอบใช้มันแบบนี้แหละครับ  จะเป่าเองก็ได้แต่ขี้เกียจ  มันว่างๆก็ใช้มันไปเถอะ  ให้มันได้ทำตัวมีประโยชน์บ้าง

“กู กูตลอดไอ้ข้าว  หัวมึงไม่ใช่หัวกูทำไมกูต้องทำให้วะ” บ่นไปก็ไม่ช่วยให้ผมกูแห้งเร็วหรอก

“เออน๊า มาทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ” ผมบอก มันทำหน้าเอือมๆสุดท้ายก็ยอมผมอยู่ดี

“มึงนี่มันน่านัก” ไอ้ฮาร์ทกัดฟันพูดพร้อมกระชากหัวผมไปใกล้มือมันมากขึ้น

“โอ๊ยยไอ้เลว มึงจะทำร้ายกูใช่ไหม!”

“อยู่เฉยๆดิวะ  จะให้เป่าผมให้ไหม” มันพูดเสียงหงุดหงิด

“เออๆ นิ่งก็ได้วะ ชิ” ผมจึงอยู่นิ่งๆให้มันเป่าผมให้

“เออไอ้ข้าว”

“อืมมีไร?”

“กูถามไรหน่อยดิ” ผมยีหัวผมก่อนจะปิดเครื่องเป่าผมเก็บไว้  ผมจับผมตัวเองที่แห้งแล้วเรียบร้อยจึงหันไปมองหน้ามัน

“ถามไร?”

“ตอบตามความจริงนะเว้ย”

“อืมๆ” ผมพยักหน้า  ถามไรรีบถามดิวะ ลีลา

“มึงคิดยังไงกับไอ้เหนือวะ” มันถามเสียงกระซิบ

“ห้ะ?” อะไรวะ  กูไม่ได้ยินกระซิบเพื่อ? ผมจึงเอียงหูเข้าไปใกล้มันอีก

“...” ไอ้ฮาร์ทกรอกตามองบนก่อนถอนหายใจ

“ไม่ต้องมามองบนมึงจะกระซิบหาพ่อง” ผมว่ามัน

“มึงคิดไงกะไอ้เหนือ” แล้วมึงจะพูดเร็วทำไมวะ

“ขออีกทีฟังไม่ทัน” ผมว่าพร้อมยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว  ไม่ทันจริงๆจะรัวคำทำไม

“กู-ถาม-ว่า-มึง-คิด-ยัง-ไง-กับ-ไอ้-เหนือ” ทีนี่มันเน้นทีละคำชัดเจนเลยครับ  คิดไงหรอ ก็ชอบไง  เออชอบ! ชอบมาก

“ถามทำไม?” แต่ใครจะบอกว่าชอบให้โง่วะ ผมจึงเลิกคิ้วถามมันกลับ

“ก็...”มันยกโทรศัพท์มันให้ผมดู  ผมจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมที่ปรากฏภาพถ่าย ผะ ผมกับน้ำเหนือกำลังกอดกันบนเตียงของผม  ผมมองหน้าไอ้คนถ่ายที่ทำหน้าเหยียดยิ้มมองผมอยู่ 

“ทำไรของมึงเนี้ย  ลบเลยไอ้ฮาร์ท” ผมจะคว้าเอาโทรศัพท์มันมาเพื่อที่จะลบแต่มันกลับลบทัน

“ลบทำไมละ กอดไอ้เหนืออุ่นดีไหมวะข้าว ฮ่าๆๆ” ไอ้เหี้ย!!

“...” ผมกัดฟันมองหน้ามัน รู้สึกหน้าร้อนผ่าวคำพูดไอ้ฮาร์ทมันทำให้ใจผมเต้นรัว  ผมนอนหลับไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่านอนกอดอยู่กับน้ำเหนือ

“ที่หน้าแดงเพราะโกรธหรือเขินวะข้าว หึๆ”

“ไอ้.. กูไม่ได้เขินเว้ย” ผมเถียง

“อ๋ออ กูเข้าใจแล้วที่เมื่อเช้าทำไมไอ้เหนือถึงตกเตียง  ทั้งๆที่ก่อนกูจะไปอาบน้ำยังเห็นมันกอดกับมึงอยู่ดีๆเลย” ผมทำหน้าทะเล้นใส่ผมเมื่อนึกขึ้นได้

“พูดอะไรของมึง” ผมลุกขึ้นจ้องมันทันที  ท่าทางกูดูไม่ลุกลี้ลุกร้นนะ

“หึๆ  ไอ้เหนือมันไม่ใช่คนนอนดิ้น  ถ้าไม่ใช่เพราะมึงผลักมัน”  เปล๊า  กูไม่ได้ผลักกูแค่ถีบแต่ไม่พูดหรอก

“มึงก็บ้าเน๊อะ  คิดไรเลอะเทอะ เหนือมันอาจจะฝันแล้วกลิ้งหล่นจากเตียงก็ได้”

“หรออออ  หน้ามึงมันฟ้องมากไอ้ข้าว  ไอ้ตอแหลไม่เนียน หึๆ”

“พ่องมึงสิ!”

“หึๆ”

“ขำเชี้ยไรของมึง  พอเลยแล้วลบรูปซะ” ผมเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องรูปแทน

“ไม่ลบหรอกเก็บไว้ขายมึง หึๆ”

“ไอ้ฮาร์ทลบเลย  เดี๋ยวเหนือมันเห็นก็โกรธมึง” มันยิ้มแล้วส่ายหน้า

“มันเห็นแล้ว”

“ห้ะ! มึงว่าไงนะ?” ผมถามอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน 

“ก็อย่างที่บอก  อ๋ออีกอย่างไอ้เหนือมันให้กูส่งให้มันด้วยนะ” มันกดๆโทรศัพท์มันแล้วก็ยื่นข้อความรูปภาพให้ดูมันส่งให้น้ำเหนือจริงๆ
ด้วย อ๊ากกกก!!

“...แล้วมึงก็ส่งเนี้ยนะ!”

“ก็เออไมอ่ะ  ไอ้เหนือมันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเหมือนมึงเลย” ไอ้ฟายย แล้วงี้กูจะมองหน้าน้ำเหนือไงวะ  อายน่ะอาย T^T

“..งั้นกูเอาคลิปนี้โพสแท็กให้สาวๆมึงเห็นดีมั้ย” ผมนึกขึ้นถึงคลิปเมื่อคืนที่ถ่ายตอนมันเมา

“คลิป? คลิปเชี้ยอะไรไอ้ข้าว  มึงจะแบล็กเมกูอีกแล้วหรอ”

“ไม่รู้สินะ” ผมไหวไหล่เล็กน้อย  มึงทำกูแสบมาก  ผมกดเข้าเฟสของตัวเองอัพคลิปพร้อมแคปชั่น...ตัวอักษรภาษาไทยมี 44 ตัว แต่ไหงพี่ฮาร์ทจำได้แต่ มอ ม้า.. #ฮ่าๆเชิญชม แล้วผมก็แท็กมันพร้อมบรรดาเพื่อนสนิททุกคนแล้วกดโพสซะ หึๆ 

“...” เสียงแจ้งเตือนของมันดังขึ้น  ผมแสยะยิ้มมองมัน  มันรีบกดเข้าไปดูคลิปบรรดาน้องๆมอม้าของมัน หึๆ

“โทษนะฮาร์ทเพื่อนเลิฟ บังเอิ๊ญบังเอิญมือน้องข้าวลั่นอ่ะ” ผมจีบปากจีบคอดัดจริตพูด

“ไอ้ข้าวไอ้เพื่อนเวร  ถ้าเด็กกูเห็นจะทำไง!”

“เอ๊? ก็เห็นไงแค่นั่นละ หึๆ”

“ลบเลยเว้ย!”

“ฮ่าๆๆไม่เว้ย  เดี๋ยวแปบๆกูอ่านคอมเม้นนี้ก่อน” ผมเปิดคอมเม้นที่ไอ้เวฟมันเม้นมา

“ไอ้ข้าวลบเลย!!” มันเข้ามาประชิดตัวผม  ไม่ลบเว้ย  มึงกล้าถ่ายรูปกูแล้วส่งให้น้ำเหนือด้วย  กูต้องเล่นมึงกลับ

“ไม่!!” ผมตอบเสียงดังฟังชัด

“ได้  มึงได้” มันว่าจบก็เข้ามาจักจี้เอวผม  ไอ้เหี้ยกูยิ่งบ้าจี้อยู่ด้วย

“ฮ่าๆๆ ไอ้ หะ เหี้ย!” ผมวิ่งหนีมันแต่ก็ถูกมันกระชากตัวมาแล้วจี้เอวผมไม่หยุด ผมก็บิดตัวไปมา

“จะลบไม่ลบ”

“มะ ไม่ ! ฮาๆๆๆ” ไม่ลบหรอกเฟ้ย! มันยิ่งจี้เอวผมจนผมต้องลงไปนอนกองกับพื้นห้องแทน  ไอ้นี่ก็แม่งบ้า  ดูมันทำสิครับ  มันขึ้นคล่อ
มบนตัวผมจะแย่งโทรศัพท์ผมไป  ผมยื่นมือขึ้นไว้เหนือหัว  มันก็กลับมาจักจี้ตรงใต้รักแร้ผม

“เอาโทรศัพท์มาไอ้ข้าว  ไม่เอามากูก็จะแกล้งจักจีมึงจนขาดใจตายเลยเอ้า!” ไอ้ชั่วววว ผมได้แต่ด่ามันในใจเพราะผมได้แต่หัวเราะออกมาเท่านั้น

“เหอะๆ ฮ่ะๆ โอ๊ย ไอ้ฮาร์ทกูเหนื่อยแล้ว ฮ่ะๆ” ผมบอก

“เหนื่อยแล้วก็เอาโทรศัพท์มา” มันหยุดจักจี้ผมแล้วครับ  ผมหอบหายใจแรงเอาอากาศเข้าปอด  รู้สึกเหนื่อยมากหัวเราะจนเจ็บท้องไปหมด

“ไม่ให้” ผมผลักมันออก แต่มันยื้อจับแขนผมทั้งข้างไว้มันจะเอาโทรศัพท์ผมผมก็กระชากแขนตัวเองกลับทำให้ไอ้ฮาร์ทมันล้มมาหน้าเกือบชนผม หน้าไอ้ฮาร์ทอยู่ห่างจากผมไม่กี่คืบเองครับ ลมหายใจอุ่นๆรินรดบนหน้าผมจนรู้สึกขนลุก

ทำอะไรกัน!”

“...” ผม

“...” ไอ้ฮาร์ท

ผมกับไอ้ฮาร์ทหันไปมองยังบุคคลที่ยืนอยู่ใกล้ๆพวกเรา  สภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอว  อกแกร่งมีน้ำเกาะเป็นหย่อมๆ แต่เดี๋ยวๆ  กูบรรยายอะไรให้มันติดเรทวะเนี้ย  เปลี่ยนใหม่ๆ

“ถามว่า ทำ –อะ-ไร-กัน!!” อึก ! ถึงกับสะอึกกันเลยทีเดียว น้ำเสียงแข็งๆสายตาโคตะระนิ่งมองจ้องไม่วางตา ผมกับไอ้ฮาร์ทหันมา
มองหน้ากันอีกครั้ง แล้วก็เปลี่ยนไปมองที่น้ำเหนือที่ยังคงจ้องจะเอาคำตอบอยู่  ไปแต่งตัวก่อนก็ได้  สภาพล่อแหลมไปไหมน้ำเหนือเอ้ย  ไปๆ  ไปแต่งตัว

“ไอ้ฮาร์ท!”

“อะเอออไรวะ” ไอ้ฮาร์ทมันสะดุ้งเล็กน้อยผมรู้สึกได้  น้ำเสียงมันดูตื่นๆเมื่อถูกน้ำเหนือเรียก

“ลุก!”

“ห้ะ?” ไอ้ฮาร์ทมันถามระคนสงสัย

“...” ผมกระพริบตาปริบๆมองน้ำเหนือกับไอ้ฮาร์ทสลับกัน

“มึงจะทับข้าวอีกนานไหม!?!”

“อ๋อออ” ไอ้ฮาร์ทเหมือนจะนึกขึ้นได้  ผมเองก็พึ่งนึกขึ้นได้เหมือนกัน  ไอ้นี่ก็ทับซะตั้งนานไอ้ผมก็ไม่รู้สึกตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่เมื่อกี้  เพราะคนตรงเนี้ยทำให้ผมกับไอ้ฮาร์ทเหมือนจะรู้สึกตัว ฮ่าๆๆๆ

“ลุกไปเร็วๆเลยไอ้เหี้ยตัวก็หนัก” ผมผลักไอ้ฮาร์ทให้ออกห่างๆ

“...”น้ำเหนือไม่พูดอะไรเดินเลยพวกผมสองคนไปเปิดตู้เสื้อผ้าของไอ้ฮาร์ทหาชุดใส่

“..หึ”

“ขำห่าไรของมึง” ผมหันไปมองไอ้ฮาร์ทนั่งลงบนพื้นอยู่ข้างๆผมมองน้ำเหนือกำลังแต่งตัวอยู่

“ขำคนหวงของ...”

“ห้ะ? อะไรหวงของ?” ผมถามมัน 

“ก็..”

“ไอ้ฮาร์ทหุบปาก!” ขัดขึ้นมาทำไมวะคนกำลังอยากเสือกไอ้นี่นิเดี๋ยวโบกเล้ย  !! แหะๆ  อย่าเชื่อครับ  ผมไม่กล้าทำไรน้ำเหนือหรอก จริ๊งจริงง

“...กระซิบบอกกูก็ได้”  มันต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับน้ำเหนือแน่นอน  ผมสะกิดไอ้ฮาร์ทบอกกับมันให้กระซิบบอกมแทนก็ได้โดยที่ไม่ให้
น้ำเหนือรู้  ก็คนมันอยากเสือก 

“เสือก!” ไอ้ฮาร์ทมันผลักหัวผมก่อนที่มันจะลุกขึ้น  ไรวะนี่มีความลับไม่บอกเพื่อน  แบบนี้ต้องงอน

“โป้ง!” ผมยกนิ้วโป้ใส่มันเหมือนกับกดไลค์แต่คนละความหมายเว้ย 

“กูไม่สน” มันไหวไหล่ไม่สนผม  ไอ้เพื่อนชั่วว หึ่ม! เออว่าแต่โทศัพท์อยู่ไหนว่ะ  ผมหันซ้ายหันขวาหาโทรศัพท์น่าจะอยู่ในมือผมนะ  แต่ตอนนี้มันหายไปไหนอย่าบอกนะว่า....

“ข้าวหาไร?” น้ำเหนือถาม

“โทรศัพท์อ่ะ” ผมตอบ

“..ไอ้ฮาร์ท” น้ำเหนือชี้ไปที่ไอ้ฮาร์ทที่มันยกโทรศัพท์ผมยักคิ้วส่งให้  มึงเอาไปตอนไหน!!!

“ไอ้ข้าวกูวางไว้บนนี้นะ  ขอบคุณที่ให้ยืม” มันบอกผมพร้อมกับยิ้มอย่างขอบคุณมาให้  ไอ้ตอแหลใครให้มึงยืมตอนไหน

“มึง!” ผมกัดฟันพูดมองมัน  ทำไมผมต้องถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียววะเนี้ย ฮึ่ม ไอ้ฮาร์ท 

“^_^”   ยังทำเสแสร้งอีก  ยิ้มมึงตอแหลมากไอ้ฟาย

“ฝากไว้ก่อนเหอะมึง” ผมพึมพำคนเดียว  อย่าเผลอนะมึงกูจะเล่นให้หนักๆเลย

“ไม่ต้องมาสาปแช่งกูนะไอ้ข้าว” มันชี้หน้าผม

“อะไรๆกูทำไร” ผมเชิดหน้าขึ้นใส่มัน  ถามมันทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“ไอ้นั่งงึมง่ำๆคนเดียวแล้วจ้องกูอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อเนี้ย” มันว่า

“ไอ้มั่ว  ใส่ร้ายป้ายสีผู้บริสุทธิ์  ชั่ว เลว ทราม!” นี่ไม่ได้ด่าว่าไรมันเลยนะครับ  ไม่เล้ย...ทุกคนต้องเชื่อผม

“มึงบริสทธิ์หรอไอ้ข้าวบูด”

“K” ผมยกนิ้วกลางให้มัน ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าตัวเอง  ยับเล้ย! ผมจัดผงจัดผมให้ดูเรียบร้อยเดินไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะเขียนหนังสือแล้วเดินเลยไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเอง

“ไอ้เหนือมึงจะไปส่งไอ้ข้าวใช่ป่ะ” ไอ้ฮาร์ท

“อืม”

“เออฝากมันด้วย  แต่ถึงไม่ฝากมึงก็เต็มใจอยู่แล้วละเนอะ หึๆ”

“ใช่เหนือเป็นคนดีไม่เหมือนมึงหรอก ชั่ว!” ผมถีบมันทีหนึ่งแล้ววิ่งไปยืนรอน้ำเหนือที่ประตูห้อง   อยู่ใกล้ไอ้ฮาร์ทเดี๋ยวมันเล่นงานผม
คืน

“ปากหมางี้ไม่น่ารักเลยไอ้ข้าว” ไอ้ฮาร์ทมันส่ายหน้า

“เรื่องของกู ปากกู”

“คิดผิดคิดใหม่ได้นะไอ้เหนือ” ไอ้ฮาร์ทหันไปมองน้ำเหนือที่มองมายังผม

“..ไม่วะ” น้ำเหนือตอบกลับไอ้ฮาร์ท  ไอ้ฮาร์ทถึงกับมองบน  มันคุยเรื่องอะไรกันแล้วมันได้เกี่ยวกับที่ผมปากหมาไหม  แต่ไม่น่าใช่เพราะไอ้ฮาร์ทให้น้ำเหนือคิดผิดคิดใหม่  คิดเหี้ยไรวะ

“หลงมันจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วสิ หึ” ไอ้ฮาร์ทพูดพร้อมกับแสยะยิ้มมองน้ำเหนือ

“...” ผมได้แต่ยืนเงียบ  กูรอนานแล้วคุยไรกันวะไม่รู้เรื่อง

“อืม” น้ำเหนือขานรับไอ้ฮาร์ทก่อนที่จะเดินมายังผม  ผมยิ้มให้น้ำเหนือแล้วเปิดประตูห้องเตรียมไปเรียน

“กูไปเรียนละ เป็นหมาเฝ้าห้องดีๆนะเว้ย ขากลับจะแวะซื้อกระดูกมาฝาก” ผมโบกมือไอ้ฮาร์ทพร้อมประโยชน์ที่ใช้พูดกับมันทุกครั้งเวลาที่มันอยู่ห้อง

“ส้นตีน!” ผมจึงแลบลิ้นส่งท้ายมันอีกที 

เราเดินลงมายังที่จอดรถของหอพักที่เตรียมไว้ ผมไม่ได้พูดอะไรกับน้ำเหนือตั้งแต่เดินออกจากห้องมาแล้ว  ผมว่าผมควรชินนะเพราะน้ำเหนือก็เป็นคนพูดน้อย  แต่ผมเป็นคนพูดมากไงแต่พอมาเจอคนพูดน้อยแล้วไม่รู้จะพูดอะไร  ถ้าผมชวนฝอยไปนี่จะฝอยกลับกับผมไหม  นั้นแหละครับเวลาผมอยู่กับน้ำเหนือสองคนก็จะเงียบฉี่.....




รถจอดหน้าตึกคณะนิเทศฯ คณะผมเอง ผมปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวหยิบกระเป๋าเป้ที่วางไว้เบาะด้านหลงมาถือไว้เตรียมลงจากรถไปเรียน

“ขอบคุณที่มาส่งนะ” ผมบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง

“..ครับ” เออหมดคำพูด ฮ่าๆๆ

“งั้นไปเรียนละ  ขับรถกลับดีๆ” ผมบอกผมกับโบกมือบายให้เล็กน้อยเปิดประตูจะลงจกรถ

“..ข้าว” ตัวผมถูกกระชากเข้ามานั่งในรถอีกครั้ง  ถึงจะตกใจที่โดนกระชากกลับก็เถอะแต่ที่ตกใจกว่าคือหน้าน้ำเหนือมันอยู่ห่างจากผม
ไม่กี่เซนเอง  รู้สึกถึงลมหายใจที่รินรดอยู่บนใบหน้าแจ่มชัดครับ  ใจเจ้ากรรมผมทำงานหนักอีกแล้วหรอ

“เอ่อ..มีอะไรรึเปล่า” ผมถามเสียงแผ่วขยับปากให้มันน้อยที่สุดเมื่อหน้าน้ำเหนือมันค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมหลับตาปี้ค่อยๆถอยออกห่างจนหลังติดกับประตูรถหมดหนทางหนี 

“เพื่อนมารอแล้วข้าว” น้ำเหนือกระซิบบอกข้างหูผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้น  ตอนนี้น้ำเหนือห่างจากผมไปนั่งที่เดิมแล้วครับ ใจผมยังเต้น
แรงอยู่เลย  เมื่อกี้มันคือไรวะ เอ๋อแดกไหมละไอ้ข้าว

“...” ผมกลับมานั่งปกติแบบเดิม สติๆ สติจงกลับมา 

“ข้าว”

“ห้ะ เออๆๆรู้แล้วไปนะ” ผมบอกแล้วรีบโดดลงจากรถน้ำเหนือทันทีพร้อมกับปิดประตูดังปัง  ไม่สนว่ารถจะราคาเท่าไรประตูจะพังไหม  คือกูไม่รู้อะไรเลย  คือตอนนี้ต้องวิ่งอย่างเดียว 

“ไอ้ข้าว..ไอ้ข้าวบูดโว้ยยย!!”

“...”ผมยังคงวิ่งต่อ  เสียงใครไม่รู้เรียก

“เชี้ยข้าว! วิ่งหนีกูไมเนี้ย”

“ห้ะ?” ผมหันไปมองเพราะถูกจับไว้

“มึงเป็นไรของมึงเนี้ย” ไอ้เพียวมันโบกมือไปมาต่อหน้าผม

“ปะ เปล่า” เอ้าแล้วไมเสียงกูติดอ่างไปได้วะเนี้ย

“แน่ใจ๋?” มันมองผมอย่างไม่เชื่อที่ผมพูด

“เออ..” ผมตอบ

“แล้วมึงวิ่งหนีกูไม  กูเรียกมึงจนเจ็บคอแล้ว” ไอ้ตอแหล

“รีบไปเรียนไง” ผมบอก มันขมวดคิ้ว

“เพิ่งเที่ยงนิดๆเอง  ปกติมึงเข้าคาบเรียนตรงเวลาเป๊ะๆไม่ใช่ไง”  ก็จริงอย่างที่ไอ้เพียวว่าครับ  ผมจะชอบเข้าวิชาอาจารย์คนนี้คาบเส้น
ตายคือประตูจะปิดตรงเวลา พอเข้าบ่ายโมงปุ๊บประตูจะปิดปั๊บ  ผมมักจะเข้าตอนหนึ่งนาทีสุดท้ายเสมอ

“อ๋อหรอๆ”

“มึงเป็นอะไรมากป่ะเนี้ย สมองไปกระทบกระเทือนอะไรรึเปล่าวะ” ไอ้เพียวมันจับหัวหันหน้าหันหลังหันขวาหันซ้าย เออเอาที่มึง
สบายใจเลยเพื่อนรัก

“จะกระเทือนเพราะมึงเนี้ย” ผมบอกมัน มันจึงยอมปล่อย

“เออว่าแต่เมื่อกี้ใช่รถไอ้เหนือป่ะ?”

“อืม..กูหิววะไปหาไรกินกันยังไม่ได้กินข้าวเลย” ผมบอกพร้อมลากแขนมันให้เดินไปกับผมด้วย

“ไม่รอไอ้เวฟก่อนหรอว่ะ” ไอ้เพียวถาม

“มันฟื้นยังเหอะ  แดกไปเมื่อวานตั้งเยอะไม่ใช่รึไง”

“มันโทรมาบอกกูให้รอขึ้นห้องพร้อมกัน”

“เออๆถ้ามันโทรมาก็บอกว่าเราอยู่โรงอาหารดิ”

“เออ  นี่หิวขนาดนั้นเลย” ไอ้นี่ก็ถามแปลกก็ยังไม่ได้กินข้าวก็ต้องหิวสิวะ

“เอออย่าถามมากดิวะ เดี๋ยวกูโมโหหิวแล้วมึงจะซวย” ผมลากไอ้เพียวมาจนถึงโรงอาหาร  บอกให้มันจองโต๊ะเพราะถามมันแล้วว่ามึง
จะแดกกับกูมัน  มันส่ายหน้าแสดงว่าไม่กิน  แต่มันสั่งให้ผมซื้อน้ำอัดลมมาเผื่อมันเท่านั้น ผมซื้อข้าวราดแกงธรรมดาเพราะง่ายดีครับ  ขี้เกียจรอตามสั่งมันนานก็ไปซื้อน้ำตามที่ไอ้คนนั่งจองโต๊ะฝากมา

“ได้แล้วจ้ะ” แม่ค้าร้านน้ำบอกผมจ่ายเงินแล้วจะหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะแต่มีมือปริศนามาแย่งไปก่อน ผมหันไปมองไอ้คนบังอาจ
มาแย่งแก้วน้ำผมทันที 

“นี่!!” ผมหันไปแวดใส่ทันที  น้ำกูเว้ย  แม่งยกดูดจ๊วฟๆจนหมดแก้วด้วย 

“..ข้าว?”

“…” อะไรรู้จักกูด้วย  กูรู้กูดังไม่ต้องมาทำเป็นใสซื่อแดกน้ำกูไปไม่รู้จักขอโทษยังมีหน้ามามองอีก

“ข้าวใช่ไหม?” เออใช่  มึงมีปัญหาอะไร

“ครับ”ผมตอบส่งๆไป

“จริงด้วย  พี่ก็ว่าหน้าคุ้นๆอยู่”

“...” ผมขมวดคิ้ว  ผมไม่ยักจะจำเขาได้  ใครว่ะ? จะใครช่างเถอะแต่กูจะเอาค่าน้ำ

“จำพี่ไม่ได้หรอ?” เออจะอาตรงๆก็จำไม่ได้ไง

“เอ่อครับ  ผมขอค่าน้ำคืนด้วย คุณแย่งแก้วน้ำผมไป” ผมบอกพร้อมแบมือขอตังค่าน้ำ

“ยังกวนเหมือนเดิมเลยนะเรา” เขาว่าแล้วก็ยีหัวผมจนยุ่งเยิง

“นี่!” ผมปัดมือเขาออกจากหัวผมแล้วจัดทรงผมตัวเองแบบลวกๆมองคนที่ส่งยิ้มให้ผม

“ไม่เจอกันแค่กี่ปีเอง  โตแล้วน่ารักกว่าตอนม.ปลายอีก” ม.ปลาย?

“อะไรของคุณ  พูดไรไม่รู้เรื่อง เอาค่าน้ำมาอย่าเปลี่ยนเรื่องรีบจ่ายๆมา” ผมเท้าเอวแบมือของตังตรงหน้า

“งั้นพี่จะซื้อให้ใหม่..ป้าครับเอาเหมือนเดิมแบบเมื่อกี้นะครับ” เขาบอกผมแล้วหันไปสั่งป้าขายน้ำแล้วหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง  บ้าป่าวว่ะ

“...” ผมรอป้าไม่นานก็ได้ ผมหยิบแล้วเดินออกมาจากร้านทันที

“เดี๋ยวดิ” ผมมองผู้ชายตรงหน้าที่เขามาขวางทางผม

“อะไร?” ผมตอบเสียงห้วน  หงุดหงิดแล้วเว้ยจะไปแดกข้าว

“พี่ยังรอคำตอบเราอยู่นะ” เขาทำหน้าจริงจัง

“คำตอบ?” ผมถามอย่างสงสัยคำตอบอะไรวะ

“อืม..”เขาพยักหน้า

“ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการคำตอบอะไรนะ  เอาจริงป่ะผมไม่รู้จักคุณวะ  จำไม่ได้ด้วย โทษทีคงให้คำตอบไม่ได้วะ” ผมบอกแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่ก็ถูกดักเอาไว้อีก  อะไรของเขาอีกวะ

“นี่ข้าวจำพี่ไม่ได้จริงๆหรอ งั้นข้าวก็ลืมเรื่องวันนั้นแล้วดิ”

“ครับ เรื่องอะไรคุณก็บอกผมมาเลย แล้วคุณพี่เป็นใครก็บอกผมมาเผื่อผมจะจำได้” ผมบอกอย่างใจเย็น ถึงแม้ตอนนี้จะหงุดหงิดแล้วก็เถอะ

“พี่ชื่ออาร์ม” อาร์ม?  คือมันกว้างไปไหมว่ะ

“ครับแล้ว?” ผมถามต่อ

“พี่อาร์ม ห้องสอง โรงเรียน... เคยสารภาพว่าชอบข้าวช่วงกีฬาสี แต่ตอนนั้นข้าวปฏิเสธพี่ไปเพราะข้าวมีคนที่ชอบอยู่แล้ว  แต่พี่ก็ยังไม่
ยอมยังตื้อเราอยู่จนวันพี่เรียนจบก็ไปหาข้าวอีกครั้งแล้วบอกชอบข้าวถึงจะโดนปฏิเสธอีกรอบก็เถอะ พี่จึงบอกกับข้าวว่าถ้าวันใดวันหนึ่งเราต่างคนต่างไม่มีใครแล้วกลับมาพบกันอีก...” เขาพูดยิ้มๆมองหน้าผม

“...” ผมพอจะนึกออกแล้วครับ  พี่อาร์มห้องสอง  เขาเคยมาสารภาพกับผมว่าชอบผม  ผมจำได้แล้ว...แต่เรื่องคำตอบอะไรที่พี่เขาว่า
นั้นผมกลับจำไม่ได้

...เราจะตกลงคบกัน” ผมเงยหน้ามองเขาอย่างอึ้งๆ  ทำไมผมจำช่วงนี้ไม่ได้วะ

“..เอ่อคือ” ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก

“ข้าวอย่าเพิ่งตอบพี่ก็ได้” พี่เขาบอกยิ้มอ่อนโยนให้ผม

“อ่าครับ”

“ไปกินข้าวเถอะ พี่ไม่กวนเราแล้ว”

“ครับๆ” ผมพยักหน้าแล้วบอกขอตัว  ผมเดินกลับมายังตะที่มีไอ้เพียวนั่งจองอยู่  กลับมาพร้อมสภาพมึน งง  ไม่งงได้ไง  จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปตกลงแบบนั้นตอนไหน  โอ๊ยยอิข้าวเอ้ย  มึงไปตกลงอะไรกับเขาไว้ !!!  ผมเอาหัวโขกโต๊ะเมื่อนั่งลงแล้ว

“เฮ้ยๆๆเป็นไรเดี๋ยวหัวก็แตกหรอก” ไอ้เพียวมันทักขึ้น  ผมหยุดโขกหัวกับโต๊ะแล้วค่อยๆเงยหน้ามองมัน

“ฮือออ ไอ้เพียวริคุ…” ผมแทบน้ำตาไหลพราก

“เฮ้ยเป็นไรใครทำไรมึงบอกกูมา”

“กูจะทำไงดี  กูไปตกลงอะไรไม่รู้ไว้ แงงงงง”

“เอ้อๆๆใจเย็นก่อนน มีไรค่อยพูดเว้ย” มันตบบ่าผมเบาๆ

“ฮึก กูไปตอบตกลงว่าจะคบกับพี่เขาถ้ากูยังไม่มีแฟน” ผมบอกมันพร้อมกับจับแขนมันไว้แน่น

“พี่? ใครว่ะ?” มันขมวดคิ้วถาม

“พี่อาร์ม เรียนที่โรงเรียนเดียวกับกูแต่เป็นรุ่นพี่  เขาเคยมาสารภาพว่าชอบกูแล้วบอกว่าถ้าเจอกันแล้วต่างคนต่างไม่มีแฟนเราสองคนจะ
ต้องคบกัน...ไอ้เพียวววววววกูควรทำไงงง  กูยังไม่มีแฟนด้วย แงงงงงงงงง” ขงข้าว ณ จุดๆนี้ไม่หิวแล้วเว้ย

“...” มันเงียบ

“ไอ้เพียวอย่าเงียบบช่วยกูคิด”

“เออช่วยอยู่!” มันบอก

“เร็วๆๆ กูควรทำไง”

“งั้นเอางี้  มึงชอบไอ้เหนือใช่ไหม”

“อืม” ผมพยักหน้ากระพริบตาถี่ๆมองมัน

“งั้นมึงก็ต้องทำให้ไอ้เหนือเป็นแฟนมึงให้ได้” โถ่ไอ้เหี้ย  ถ้าง่ายขนาดนั้นกูคงได้เป็นแฟนน้ำเหนือนานแล้ว  อีกอย่างกลัวน้ำเหนือจะ
เกลียดผมที่คิดไม่ซื่อกับเขา

“แต่กูกับน้ำเหนือเป็นเพื่อนกัน  แล้วถ้าเหนือรู้กูกลัวเหนือเกลียดกู”

“งั้นมึงก็แค่เป็นแฟนกับคนที่มึงไม่ชอบนั้นละ  แค่นั้น” มันว่าแล้วก็ดูดน้ำกิน

“ไม่เอา!! แล้วมึงจะให้กูทำไง” ผมว่าเสียงอ่อน  ไอ้เพียววางแก้วน้ำดังปึก น้ำขงน้ำแข็งแทบกระเด็นใส่หน้าผม

“รวบหัวรวบหางไอ้เหนือให้เป็นของมึง”

“ห้ะ!!”

“มึงจะเสียงดังไปทำไหมไอ้ข้าว” มันส่ายหน้าระอากับผม  ไอ้เวรไม่ห้ะได้ไงดูวิธีมันสิครับ

“กูตกใจวิธีมึงมัน...”

“ถ้าไม่ทำมึงก็ยอมคบกับพี่องพี่อาร์มอะไรนั้นไปเถอะ  จบ!” มันบอกจบก็ลุกเดินจากโต๊ะไปเลย 

“ไอ้เพียวววว..” ผมร้องโหยห้วนเมื่อมันเดินจากไป  วิธีรวบหัวรวบหาง  ผมเข้าใจความหมายมันดีแต่จะให้ผมไปทำมันก็...โอ๊ยยย ไอ
แอมเวียนเฮด  ฮืออ อยากตายจริงเว้ย   ทำไมฟ้าต้องส่งไอ้พี่อาร์มมาในช่วงเวลาที่ข้าวหอมคนนี้ยังไม่มีแฟนด้วย  มันโหดร้ายยิ่งหนัก
กก



TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2016 20:53:38 โดย Cencer »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
มีพี่อาร์มมาเป็นตัวกระตุ้นแบบนี้ เหนือคงรีบขอข้าวเป็นแฟน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
อุยย ไม่รีบไม่ได้แล้ว เหนือเอ้ย

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คงไม่สำคัญพอที่ข้าวจะจำได้นะคะพี่อาร์มมมมมม  :laugh:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ต่างคนต่างกลัวเนอะ เข้าใจอะ

แต่จริงๆน้ำเหนือก็ไม่ได้ปิดนะเนี่ย ออกจะหวงออกนอกหน้าขนาดนี้ อิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นี่ถ้าฮาร์ตอยู่ด้วยแก้ปัญหาฉลุย :katai2-1:
แล้วถ้าเหนืออยู่ด้วย คงแสดงตัวเป็นแฟข้าวไปและ ปัญหาก็จบ หวงซะ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ข้าวจบกดเลยจร้า เหนือคงเต็มใจยอม  :laugh:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รวบหัวรวลหางทำเลยค้าาาา :mew2:

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
เหนืออกตัวให้ไวเลยพี่อาร์มมาแย้วววว :katai1:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ช้าหมด อดนะเหนือ มัวแต่ลีลา  :katai1:

ออฟไลน์ Pimjean

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงนะคะ เหนือ^^

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

8

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“ไอ้ข้าว”

“...”

“ข้าว..”

“...”

“เหี้ยข้าว!!”

“ห้ะ!! อะไรๆ” ผมหันรีหันขว้างหาต้นเสียงที่ตะโกนเรียกผม

“เหม่อเชี้ยไรของมึงวะ” ไอ้เพียวถาม

“เปล่า” ผมตอบเสียงเบา  เฮ้อออ  ... กูต้องทำไงดีวะเนี้ย

“หึ คิดถึงเรื่องเมื่อกลางวันรึไง” ก็เออสิวะ  รู้แล้วยังเสือกถามอีก 

“เออ..แล้วไอ้เวฟหายหัวไปไหน” ผมถามไอ้เพียวเพราะในห้องปฎิบัติการมีแค่ผมกับไอ้เพียว วันนี้เจ้โหดปล่อยเร็วครับพวกผมจึงหาที่
สิงสถิตกัน  ขี้เกียจไปนั่งด้านนอก  มีห้องเป็นของเด็กนิเทศแล้วก็สถิตกันเป็นเจ้าที่อยู่ที่ของตัวเองดีกว่า  มีแอร์เย็นๆ มีโปรเจคเตอร์ มีเครื่องมือปฎิบัติการหลายอย่าง  สบายครับ  พวกผมใช้ได้ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตอะไร  แต่ใช้แล้วต้องรักษา...

“เห็นมันบอกไปซื้อของกินวะ”

“อืมๆๆๆ” ผมพยักหน้าส่งๆแล้วก้มลงเล่นเกมส์ในโทรศัพท์แทน

“ว่าแต่มึงเถอะจะเอาไงกับเรื่องนั้น” ไอ้เพียวเลิกคิ้วถาม ผมเบะปากส่ายหน้า  ไม่รู้เลยว่าจะทำยังไง  จะเริ่มต้นยังไง 

“จะให้กูไปรวบมันจริงๆหรอวะ” ผมถามมันอย่างขอความเห็น

“ก็ถ้ามึงไม่ทำ  มึงจะยอมเป็นแฟนกับไอ้รุ่นพี่นั่นป่ะละ”

“ไม่!” ผมส่ายหน้ารัว

“งั้นมึงก็ต้องไปเอาไอ้เหนือ” มึงนี่ก็พูดง่ายนักนะ

“เหนือมันจะยอมให้กูเสียบหรอวะ” ผมถาม 

“เอ่อข้าว” ไอ้เพียวมันทำหน้าเซ็งๆ ก่อนที่จะตอบผม

“อะไร?”

“มึงยังมีหน้ามาถามว่าอะไร  อย่างมึงนะจะไปเสียบใครเขาได้  ดูหนังหน้า ดูสรีระร่างกายมึงดูเว้ย  อ่ออีกอย่างกูคิดว่ามึงมากกว่าที่สมควรโดนเขาเสียบ” หน้าอย่างอิข้าวเนี้ยทำไมจะเสียบใครไม่ได้วะ โด่วว ดูถูกกู

“ไอ้ฟายดูถูกกูนักนะ” ผมตีแขนมันรัวๆแรงๆ 

“ไอ้ข้าว  กูเจ็บ!” ไอ้เพียวมันหลบผมที่กำลังตีมัน

“ก็มึงว่ากูเสียบใครไม่เป็นอ่ะ” ผมกัดฟันมองมัน กำปั้นจะทุบมันอีกรอบ

“ก็มันเป็นเรื่องจริง  ยอมรับความจริงครับคุณข้าวบูดดดดด” ไอ้เพียวมันจิ้มๆที่หัวผมเน้นๆ ผมปัดมือมันทิ้งแล้วสะบัดหน้าหนี  มันหัวเราะหึ

“ขำอะไรกันวะพวกมึง” ไอ้เวฟเดินเข้ามาพร้อมกับถุงขนมที่อาสาออกไปซื้อมา “แล้วไมทำหน้าแบบนั้นไอ้ข้าว  มึงทำอะไรมันไอ้เพียวริคุ” ไอ้เวฟวางของลงบนโต๊ะ  มันหันไปเขี่ยไอ้เพียวให้เหยิบ ไอ้เพียวก็ทำตามเหยิบให้มันนั่ง

“เปล่า..” ไอ้เพียวไหวไหล่ไม่ใส่ใจ

“แน่?” ไอ้เวฟถามอีกครั้ง

“เออ  ไม่เชื่อก็ถามมันดิ” ไอ้เพียวบุ้ยปากมาทางผม ผมเบ้ปากใส่มันอย่างหมั่นไส้

“ไม่มีไร ว่าแต่ซื้อไรมาแดกบ้างวะ” ผมถามมันไปงั้นแหละครับเพราะตอนนี้มือผมก็จับๆของในถุงที่มันซื้อมาเทกองบนโต๊ะเลือกๆเอามากิน

“ไอ้ข้าวๆ”

“ว่าไง” ไอ้เพียวมันกระดิกนิ้วเรียก  ผมจึงเอียงหูไปหามัน  มันป้องปากไว้ไม่ให้ไอ้เวฟที่ตอนนี้กำลังเดินไปเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับโปรเจคเตอร์

“กูว่าเราลองถามเรื่องนี้กับไอ้เวฟดู” ผมขมวดคิ้วมุน

“ถามไอ้เวฟเนี้ยนะ?” ผมพูดเสียงเบาๆให้พอได้ยินกันสองคน  ผมว่าไอ้เพียวมันน่าจะช่ำชองเรื่องพวกนี้มากกว่าไอ้เวฟอีกนะ ก็แม่งเล่นล่อสาวไม่เว้นวัน  แล้วอย่างไอ้เวฟถึงมันจะนิสัยกะล่อน เจ้าชู่ มั่วหญิงเหมือนกันแต่ไอ้เวฟยังถือว่าน้อยกว่าไอ้เพียวด้วยซ้ำไป

“กูว่ามันช่วยมึงได้นะไอ้ข้าว” ไอ้เพียวมันพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง

“งั้นมันก็ต้องรู้เรื่องกูชอบ..”

“ชอบอะไรวะไอ้ข้าว?”

เฮือก ! ไอ้เหี้ยแม่งตกใจ  มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง

“...”

“ตกใจเชี้ยไรของมึง  ว่าไงชอบไร  ไอ้เพียว”  ผมไม่ได้ตอบไอ้เวฟมันจึงหันไปถามไอ้เพียวแทน  ไอ้เพียวทำหน้าเลิกลั่กเสมองไปทางอื่น

“เอ่อ..ไม่มีไรหรอก” ผมตอบ  ไอ้เวฟมันหันมาจ้องผมเขม็ง  อย่ามาทำหน้าโหดใส่กูไอ้นี่  คิดว่ากูกลัวหร๊อ...

“มึงสองตัวมีไรไม่บอกกู  มึงเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ไหมวะ  มีความลับกับกูหรอ  กูแม่งนอยสัสๆ  เออใช่สิกูมันไม่สำคัญนิ เออไอ้ข้าวเออไอ้เพียวกูไม่ใช่เพื่อนมึงใช่ไหม  แม่งรู้กันอยู่สองคน  ... หึ เรื่องของพวกมึงแล้วกันกูไม่ยุ่งก็ได้ !!”  ไอ้เวฟมันสบัดหน้าหนี นั่งกอดอก
ทำหน้างอนๆ  ผมกับไอ้เพียวหันมามองหน้ากัน

“เอาไงดีวะมึง” ผมทำปากให้ไอ้เพียวมันอ่านเอา 

“บอกมันไปเถอะ” ไอ้เพียวว่า  จะดีหรอวะ

“...” ไอ้เวฟมันเชิดหน้าขึ้นให้รู้ว่านี่กูงอนมึงมากละนะ 

“จะดีหรอว่ะ” ผมพูดกระซิบ

“อืมๆ” ไอ้เพียวมันผลักผมให้ไปคุยกับไอ้เวฟ

“ไอ้เวฟ” ผมสะกิดแขนมัน  มันสะบัดออก 

“...”

“เวฟจ๋า..” ผมเรียกมันเสียงอ่อนเสียงหวานนี่กูยอมง้อมึงเลยนะเว้ยไอ้หำ  หันมาให้กูได้เห็นหน้าหน่อยเส่ !!

“...” ยังเงียบ

“ตัวเองงง เค้าง้อแล้วนะหันมาคุยกันดีๆเร๊ววว!!” ผมเข้าไปกอดแขนมัน

“เชอะ!” ไอ้เวฟถามจริงมึงตุ๊ดป่ะเนี้ย  สะดิ้งซะ

“งอนไรเค้าอ่อเตง  หันมาคุยกันดีๆสิจ้ะ” ผมดัดเสียงให้อ่อนหวานที่สุด  มันหันมามองหน้าผมเล็กน้อยแล้วมันก็สะบัดหน้าหันไปอีก  ระวังเถอะคอจะหัก 

“...”

“ไอ้เพียวทำไงดีวะ” ผมหันไปหาไอ้เพียวให้ช่วยอีกแรง  ไอ้เพียวถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

“ไอ้เวฟอย่ามากระแดะ” ไอ้เพียว

“เออสิ  ทำไรก็เรื่องของพวกมึงไม่ต้องมาง้อกูไอ้ข้าว!”

“เออสัส  ไม่ได้อยากง้อเลย  จะงอนก็เรื่องของมึง  ไปไหนก็ไปเลยไป!” ผมบอกมัน  ไอ้เวฟฮึดฮัดก่อนที่จะตวัดสายตามาจ้องผมกับไอ้เพียวสลับกัน  ผมกอดอกมันมันนิ่งๆ  ส่วนไอ้เพียวหยิบโทรศัพท์มากดๆ 

“โถ่ พวกมึงอ่ะง้อกูอีกนิดไม่ได้หรอวะ  เออหายงอนก็ได้” ผมถึงกับยิ้มในใจ  แต่ต้องทำหน้านิ่งทำเป็นไม่สนใจมันก่อน  ไอ้เพียวหัวเราะหึออกมา  เป็นปกติเวลาที่ไอ้เวฟมันงอน  ถ้าหากว่าพวกผมง้อมันไม่หายก็จะปล่อยให้มันหายเองแบบนี้แหละครับ  ไม่ง้อมันให้เปลื้องกำลังหรอก ฮ่าๆๆๆ

“หึ ก็แค่นั้น” ไอ้เพียวว่า

“กูละเกลียดพวกมึง” ไอ้เวฟมันว่าแล้วตบหัวผม  ไอ้นี่นิใช้กำลังตล๊อดด

“ตบหัวกูทำไมไอ้เวรนี่” ผมลูบหัวตัวเองยู่ปากใส่มัน

“ว่าแต่จะบอกได้ยังมีไรที่กูไม่รู้ เอาดีๆและสาระ” 

“จะรู้ให้ได้เลยใช่ไหมวะ” ผมว่า  ไอ้เวฟพยักหน้าแกะขนมกิน

“เออ!!!”

“กูชอบเหนือ” ผมพูดเสียงเบา

“อะไรวะ  ไม่ได้ยินพูดให้มันดังๆหน่อย” ไอ้เวฟมันเอียงหูมาหาผม

“กูบอกว่ากูชอบเหนือ” ผมพูดรัว

“ไอ้-ข้าว” ไอ้เวฟเน้นชื่อผม ทำหน้าอย่างโหด

“กู-ชอบ-เหนือ .. พอใจยัง!” ผมพูดเน้นคำชัดๆ

“..หึๆ” อ้าว  มาขำซะงั้น  ขำเชี้ยไรของมึงไอ้เวฟ 

“ขำไร?” ผมถามมัน  มันจึงหัวเราะลั่น  ผมขมวดคิ้วยุ่ง  มันใช่เรื่องตลกรึไงวะ  ผมจึงตีมันไม่ยั้ง  ขำเรื่องกูใช่ไหมมึง  พ่อจะเล่นให้เป็นแผลเลย

“มึงชอบไอ้เหนือจริงดิ”

“ไม่จริง” ผมตอบ

“อ้าว..” มันทำหน้าเซ็ง 

“มึงก็อย่าไปสนใจไอ้ข้าวเลย  จริงๆมันชอบไอ้เหนือนั่นละ” ไอ้เพียวบอก

“มึงเองก็รู้เรื่องนี้ใช่ไหม” ไอ้เวฟหันไปถามไอ้เพียวแทน

“เออรู้” ไอ้เพียว

“ทำไมมึงถึงบอกแค่ไอ้เพียววะข้าว  กูก็เพื่อนมึงนะเว้ย”

“แล้วมึงคิดว่ากูตั้งจบอกมันรึไงห้ะ!”  ผมตอบมันเซ็งๆ  ใครมันจะไปตั้งใจบอกความลับที่ปิดมาหลายปีของตัวเองกันละ  เป็นเพราะ
เหล้าแท้ๆ  ความลับรั่วไหลพรั่งพรูหมด  แล้วเป็นไอ้ตัวเหี้ยที่ได้ยินด้วย โอ๊ยยย  พอมันรู้นะ  ผมงี้แทบทุบหัวตัวเองตายๆไปเลย

“หึ มันเมาเลยหลุดออกมา” ไอ้เพียวมันว่า

“แล้วตอนนั้นกูอยู่ด้วยป่ะ?” ไอ้เวฟถาม 

“อยู่ แต่มึงหลับไปแล้ว” ไอ้เพียวตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“แต่มึงก็น่าจะบอกกูด้วยนิ”

“ก็บอกแล้วไงวะไอ้เวฟมึงอย่าเยอะเดี๋ยวกูโบก” ผมบอกมันพร้อมทำท่าจะโบกมันอย่างที่บอก มันเบ้ปากใส่ผม  เดี๋ยวเหอะมึง 

“มึงรู้ก็ดีแล้วจะได้ช่วยกันคิด” ไอ้เพียว

“คิดไรวะ” ไอ้เวฟถามอย่างสงสัย ปากก็เคี้ยวขนมตุ้ยๆ 

“ไอ้ข้าวเล่าดิ  เรื่องของมึงอ่ะ” ไอ้เพียวมันโยนมาให้ผมเล่าให้ไอ้เวฟฟัง 

“ก็...” ผมเล่าเรื่องตั้งแต่ที่ผมแอบชอบน้ำเหนือและก็เรื่องพี่อาร์มทั้งอดีตและปัจจุบันที่เพิ่งพบเมื่อตอนเที่ยงให้ไอ้เวฟฟังอย่างละเอียด 

“อืมๆ” ไอ้เวฟมันพยักหน้า แกะขนมอีกห่อกิน  หยุดกินก่อนไม่ได้รึไงวะ  แดกเยอะละเหอะ

“ก็ตามนี้แหละ” ผมบอก

“แล้วมึงจะเอาไงว่ะทั้งเรื่องไอ้เหนือแล้วก็เรื่องพี่อาร์มมึงอ่ะ” ไอ้เวฟถาม

“ที่กูเล่าให้มึงฟังเนี้ย  ไม่เข้าใจ?” ผมถามมัน  กูเล่าให้มึงฟังละเอียดแล้วนะ  ต้องให้กูเล่าอีกรอบหรอ

“เออก็นั้นละมึงจะเอายังไงกับไอ้เหนือ”

“กูบอกให้มันไปปล้ำไอ้เหนือ” ไอ้เพียวมันแทรกขึ้น 

“เอาจริงดิข้าว?” ไอ้เวฟเลิกคิ้วถามผม

“ไอ้บ้า! ใครมันจะไปกล้าวะ”

“งั้นมึงก็ต้องคบกับไอ้พี่อาร์มนั่น เอาไง” ไอ้เพียวว่า  ผมส่ายหัว  ไม่เอาต้องให้บอกกี่รอบวะ  ว่ากูชอบน้ำเหนือ  ไม่ได้ชอบพี่อาร์ม 
แต่ไอ้สัญญาไรนั่นกำลังจะเล่นงานผม  เฮ้อออ  ตายแน่ๆเลยข้าวเอ้ย!!

“อืม  งั้นเอางี้” ไอ้เวฟมันทำท่าคิดครู่หนึ่งก่อนจะเรียกเรามาสุมหัว ผม เพียว เขยิบเข้าไปหาไอ้เวฟ

“ยังไงๆ” ผมถามมันอย่างตื่นเต้น 

“เอางี้...” ไอ้เวฟมันก็บอกๆแผนที่มันคิดได้  มันบอกจะให้ผมไปอ่อยเหนือ  ผมถึงกับอึ้งเลยครับความคิดมันยิ่งกว่าไอ้เพียวอีกไหม  ดูแต่ละอย่างที่มันบอกผมนะ อื้อหื้อกันเลยทีเดียว  ฟังไอ้เวฟพูดผมก็คิดภาพตาม  คิดแล้วก็รู้สึกขนลุกเหมือนกัน

“จะดีหรอวะ” ผมถามเมื่อมันบอกจบ

“ดีดิวะ  พี่เวฟซะอย่าง หึๆ” 

“กูก็ว่าดีนะเว้ยไอ้ข้าว” ไอ้เพียวเสริมทับอีก เออเข้ากันดีจริงนะเรื่องแบบนี้นะ

“กูขอมันซอฟๆกว่านี้ได้ป่ะวะ” ผมบอกมัน

“เรื่องมากว่ะไอ้ข้าว”ไอ้เวฟมันผลักหัวผม

“นะๆ  กูแบบไม่กล้าวะ”

“เออๆก็ได้  งั้นเอาแบบซอฟๆ”

“อื้อๆ” ผมยิ้มกว้างทันที  ไอ้เพียวถึงกลับส่ายหน้าปลงๆ

“แต่ก่อนอื่นเราจะมาตั้งชื่อแผนการนี้ก่อน”  เอิ่ม...ถึงขนาดมีชื่อเลยเว้ย

“ชื่อ?/ชื่อ?” ผมกับไอ้เพียวพูดขึ้นมาพร้อมกัน  ไอ้เวฟยิ้มได้โคตรน่ากลัวครับ  คงไม่ใช่ชื่ออะไรแผลงๆนะ

“...แผนการอ่อยยังไงให้ได้ผัว

“...”

“...” ผมกับไอ้เพียวหันมามองหน้ากันก่อนจะหันไปมองไอ้เวฟที่ทำหน้าพอใจกับชื่อแผนการที่ตัวเองตั้ง

“สนับสนุนโดยพี่เวฟคนหล่อแห่งคณะนิเทศฯ”  เอาที่มึงสบายใจเลยไอ้เวฟ  ไม่ขัดๆ

“จ้ะ” ผมบอกมันไปส่งๆ  เฮ้อออ  แค่ชื่อนี้ก็บ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องทำแล้วครับ

“ตามนี้นะข้าว ซอฟที่สุดแล้ว  ดีกว่ากูไปวางยาปลุกไอ้เหนือมัน หึๆ” ไอ้เวฟว่า

“เออไงก็ได้  ขอแค่กูไม่เสียตัวก็พอ” ผมว่า

“ไอ้ข้าวเอ้ย! ยังไงซักวันมึงก็ต้องเสียตัวละวะ  จริงๆกูว่าแค่มึงไปตีหัวไอ้เหนือแล้วลากเข้าป่าก็จบแล้ว”

“ไม่เอาเฟ้ย”

“หึๆ  งั้นทำตามที่ไอ้เวฟว่านะไอ้ข้าว” ไอ้เพียวเหยียดยิ้ม  เออเรื่องสนุกสำหรับพวกมึงเลยนิ  เหอะๆ กูเนี้ยสิไม่หนุก

“เอออ!!” ผมตอบกระแทกเสียง

“วิธีแรกมึงต้องไปชวนไอ้เหนือคุยแบบเนียนๆ” แค่วิธีแรกมึงกูก็ตายละเหอะ  คิดได้เนอะ ผมทำหน้าเซ็งทันที

“เหนือมันพูดแทบนับคำได้  กลัวดอกพิกุลจะหลุดออกจากปากเหอะ มึงจะให้กูไปฝอยคนเดียวรึไงวะ” ผมว่า

“เออวะ  กูลืมไปไอ้เหนือมันพูดน้อย ฮ่ะๆ  งั้นเอาวิธีใหม่” ไอ้เวฟทำท่าคิด

“แต่กูว่าเอาอย่างที่ไอ้เวฟมันบอกไปนั้นละ  แต่มึงแค่เพิ่มจริตการอ่อยเพิ่มไปหน่อย” ไอ้เพียวพูดขึ้นบ้าง

“ยังไง?” ผมถาม  จะให้กูจริตยังไงวะ  กูทำไม่เป็น  กูผู้ชาเว้ยไม่ใช่ผู้หญิง

“มึงก็พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน  อ่อยิ้มหวานๆด้วยนะมึงเอาให้ไอ้เหนือมันเงิบไปเลย” ไอ้เพียวบอก

“แบบนี้ป่ะ?” ผมลองยิ้มให้มันดู

“ไอ้เหี้ยข้าว  นั้นมึงยิ้มหรอห้ะ ฮ่าๆๆโอ๊ยยกูขำเหี้ยๆ” ไอ้เวฟกุมท้องหัวเราะลั่น

“อะไร  มันไม่หวานหรอวะ” ผมถาม  ผมว่าผมยิ้มหวานแล้วนะ  ไอ้เพียวส่ายหน้าก่อนตอบ

“เห็นแล้วสยอง หึ”

“ไอ้..” ผมทำท่าจะด่ามัน ไอ้เพียวมันจึงยกมือห้ามซะก่อน

“เอาน่าๆยิ้มไงก็ยิ้มไปเถอะ  แล้วก็หยอดคำหวานๆไปเยอะๆเวลาคุยกับมันนะไอ้ข้าว  เชื่อสิมันชอบ” ไอ้เพียวว่า

“มึงมั่นใจได้ไงว่ามันชอบ”

“เออน่าลองดู  เอาประมาณนี้ไปก่อนชวนคุย  พูดหวานๆ ยิ้มสยองๆของมึงนั่นละ ฮ่าๆๆ”

“ไอ้ฟายยยย  ใครยิ้มสยองกัน ฮึ่ย!” ผมเข้าไปทุบตีมันรัวๆ  พวกมันก็ขำสนุกไปสิที่แกล้งผมได้   



คณะวิศวะฯ

อันตัวกูนี่มาทำอัลไลที่แห่งหนนี้  ฮ่ะๆ  สงสัยละสิว่าข้าวหอมคนนี้มาทำอะไรที่คณะวิศวะที่อยู่ห่างจากคณะตัวเองนู้นนนนนน....เรียกได้ว่าไกลชิบหายเลยครับ  ไอ้เพียวมันขับรถมาส่งผมเองเลยนะเว้ย  พอส่งเสร็จปุ๊บก็ขับออกไปทันที  เรียกได้ว่ามึงมาทิ้งกูไว้ให้หาทางรอดกลับไปเองใช่ไหม  อืม...ก็อย่างนั้นละครับ  มีให้กำลังใจผมก่อนไปด้วยนะ

‘สู้ๆนะไอ้ข้าว  กูขอให้มึงได้ไอ้เหนือเป็นผัวในเร็ววัน’

“ข้าว”

เฮือก!! ใครมาแตะต้องตัวกูวะเนี้ย  ผมค่อยๆหันไปมองว่าใครมันมาทักผม  ตกใจหมด  นี่ถ้าหัวใจวายตายจะทำไง

“พะ พี่อาร์ม..”

“ครับพี่เอง ว่าแต่มาทำอะไรแถวนี้”พี่อาร์มยิ้มบางให้ผม

“เอ่อ..” ผมคิดหาคำตอบว่าจะตอบพี่อาร์มยังไงดี

“หรือว่ามาหาพี่ ฮ่ะๆ”

“ห้ะ!?!” ผมอ้าปากค้าง  พี่อาร์มขำเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า  พี่อาร์มบีบแก้มผมเบาๆ

“รู้รึเปล่าทำหน้าแบบนี้พี่ยิ่งหลงเรานะ”

“แหะๆ แล้วพี่ละครับมาทำอะไรแถวนี้หรือว่าเรียนวิดวะ” ผมยิ้มแห้ง  พี่อาร์มยีหัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะตอบ

“เปล่าพี่เรียนสถาปัต ..ว่าแต่จะบอกได้รึยังว่ามาทำอะไร” 

“มาหาเพื่อนน่ะครับ” ผมตอบ พี่อาร์มพยักหน้าเบาๆ

“พี่คิดว่ามาหาพี่ซะอีก”

“...” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร 

“ล้อเล่น”

“อ่า..ครับ” ผมยิ้มบางให้  ตาก็มองไปทางนู้นทีทางนี้ที  คือไม่กล้ามองหน้าพี่อาร์มมองทีไรต้องนึกถึงไอ้คำสัญญาที่ไม่รู้ว่าไปสัญญา
ไว้ตอนไหน

“อืม  พี่ขอเบอร์เราได้ไหม”

“คะ ครับ?” ผมหันมามองพี่อาร์ม

“พี่ขอเบอร์เราได้ไหม” จะให้ดีไหมวะกู

“...”

“อ่าโอเคไม่ได้สินะ” พี่อาร์มบอกอย่างตัดพ้อ

“เอ่อได้ครับๆ”  ไอ้เราก็เป็นคนดีไง  เห็นท่าทางหง่อยๆของพี่อาร์มทำให้ผมต้องยอมให้  พี่อาร์มยิ้มกว้างทันทีพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาให้ผม  ผมกดเบอร์ตัวเองลงไปก่อนจะยื่นโทรศัพท์กลับไปให้พี่เขาคืน

“..ข้าว” ผมหันไปตามเสียงเรียก

“นะ เหนือ” แล้วไมกูต้องติดอ่างด้วยวะเนี้ย  น้ำเหนือเดินตรงมายังที่ผมกับพี่อาร์มยืนอยู่ พี่อาร์มเองก็มองที่น้ำเหนืออยู่ไม่วางตา 

“...” พอมาถึงน้ำเหนือไม่พูดอะไรกับคว้าแขนผมแล้วพาเดินออกไป  ตกใจเหมือนกันยืนอยู่ดีๆโดนฉุดซะงั้น

“เหนือ” ผมเรียกอีกคนเบาๆ  ไอ้นี่ก็ลากเอาๆ ผมหันไปมองพี่อาร์มที่ยังอยู่ที่เดิม  พี่อาร์มมองมาทางผมกับน้ำเหนือไม่ละสายตา  ผมจึงก้มหัวให้เป็นการบอกลาไปอีกแบบ  ตอนนี้ผมควรสนใจไอ้คนที่ลากผมมากกว่า  จะลากไปไหนวะเนี้ย  คนมองตามกันเต็มเลย 

“อ้าวไอ้ข้าว  ไมมาอยู่นี่ได้วะ” ไอ้ฮาร์ทเป็นคนถามผมเมื่อมาถึงโต๊ะที่กลุ่มมันนั่งกันอยู่ 

“บังเอิญผ่านมา”  แถไรของกูวะเนี้ย

“บังเอิญ? คณะมึงอยู่นู้นน  บังเอิญมาแถวคณะกูเนี้ย บังเอิญ  ตอแหลวะข้าว” ไอ้ฮาร์ทมันส่ายหน้าไม่เชื่อ  เออถ้ามึงเชื่อนี่โคตรโง่อ่ะ

“เรื่องของกูเถอะ” ผมอกพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างๆมัน  น้ำเหนือนะหรอพอลากผมมาอยู่กับกลุ่มเพื่อนมันก็หายจ่อมไปเลย 

“หรือว่ามึงนัดกับไอ้เหนือไว้”

“เปล่า” ผมส่ายหน้าบอก

“ก็แล้วทำไมมาด้วยกัน”

“ไม่รู้” ผมส่ายหน้าอีก  จริงๆกูมาเองแล้วอยู่ๆก็โดนลากมาเนี้ยแหละ  ไม่ได้นัดกันเลย  กูแค่จะมาอ่อยเท่านั้นเอง

“แล้วนี่มันหายหัวไปไหนของมัน”ไอ้ฮาร์ทว่าต่อ  ผมก็ส่ายหน้าอย่างเดียว 

“เออไอ้ฮาร์ทว่าแต่นี่เพื่อนมึงหรอ  ไม่คิดแนะนำกันบ้างวะ” ผมหันไปมองผู้ชายตรงหน้า  ตัวขาว รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา ..
เดี๋ยวนะ  ทำไมทุกทีผมต้องมาบรรยายผู้ชายหล่ออีกแล้ววะ

“มันชื่อข้าว” ไอ้ฮาร์ทตอบส่งๆ  แล้วก้อมเขียนอะไรของมันไม่รู้

“อ่อ..ผมชื่อคินนะครับ” ไอ้คินมันบอกพร้อมกับส่งยิ้มทรงเสน่ห์มาให้  คนอะไรวะยิ้มทีละลาย  แทบมีลักยิ้มเล็กๆด้วย   แต่สายตามัน
แพวพราวแปลกๆเนอะ

“เชี้ยคินอย่ามาทำตาเจ้าชู้ใส่เพื่อนกู” ไอ้ฮาร์ทมันพูดทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้ามาดูด้วยซ้ำ

“กูเปล่าซักหน่อย  มึงก้มเขียนงานอยู่รู้ได้ไง” ไอ้คินเถียง

“กูรู้สันดานมึงดี” ไอ้ฮาร์ทเงยหน้ามาพูดจ้องหน้าไอ้คินนิ่ง  ไอ้คินเพียงแค่ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วเท้าคางมองหน้าผมแทน

“ว่าแต่เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าไอ้ฮาร์ทมีเพื่อนน่ารักขนาดนี้” อย่าใช้คำว่าน่ารักกับกู  ผมกรอกตาเซ็งๆ 

“กูหล่อ” ผมบอก

“หึ  หาส่วนไหนว่าหล่อวะ  เสียงแม่งก็น่ารักถ้าได้ฟังตอนครางคงหวานจับใจน่าดู” ครางพ่องมึงดิไอ้เหี้ย! พูดมาได้  ยังมีหน้ามายิ้ม
หน้าระรื่นอีก  คนเหี้ยไรวะหน้าตาแม่งแตกต่างจากสันดานชิบ

“ครางพ่อมึงดิ  เก็บไว้ครางเองเหอะไป!! ไอ้เหี้ย!” ผมโยนพวกดินสอปากกาบนโต๊ะใส่ไอ้คิน  แม่งทำกูหงุดหงิด

“หึๆ  ขนาดหงุดหงิดยังน่ารักเลย”

“ไอ้สัสหุบปากซะ!!” ผมลุกขึ้นเอากระเป๋าฟาดใส่มันที่นั่งอยู่ตรงข้ามแรงๆ  ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก  แม่งโรคจิตหรือไงวะ

“..ข้าวพอ”  กระเป๋าผมถูกกระชากออกจากมือ  ผมหันไปมองเป็นน้ำเหนือเอามันไป

“เฮ้อออ” ไอ้ฮาร์ทถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย  ผมกระแทกตัวนั่งลงจ้องหน้าไอ้เหี้ยคินอย่างจะกินเลือดกินเหนือ

“เป็นไร” น้ำเหนือทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผมแล้วถามพร้อมยื่นแก้วน้ำอัดลมมาให้ผม  อ่อที่มึงหายไปคือไปซื้อน้ำสินะ

“เปล่า” ผมตอบเสียงขุ่น  ดูดน้ำจ๊วฟๆทีเดียวหมด  หงุดหงิด  ยิ่งเห็นไอ้ตัวที่ยิ้มหน้าระรื่นตรงหน้ายิ่งหงุดหงิด  กวนตีนกูนักนะมึง  อย่าให้รู้ว่าบ้านอยู่แถวไหน  แม่งจะเผาให้วอดเลย

“เฮ้ยๆๆนั่นแก้วกูไอ้ข้าว” ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้ฮาร์ทที่แย้งขึ้นมา  กูไม่สนเว้ย  ตอนนี้แม่งหิวน้ำชิบหาย 

“กินของกูก็ได้นะ”

“ไม่จำเป็น” ผมพูดกระแทกเสียงใส่มัน 

“มึงก็อย่าไปแกล้งมันดิวะไอ้คิน  มึงด้วยอย่าไปสนใจมัน” ไอ้ฮาร์ทพูดกับไอ้คินก่อนจะหันมาพูดกับผม

“เออ!!” ไอ้ฮาร์ทส่ายหน้าอย่างปลงๆแล้วก้มเขียนงานต่อ  ผมเลิกสนใจไอ้ตัวที่อยู่ตรงข้ามหันมาสนใจไอ้ตัวที่ลากผมมาที่นี่มากกว่า

“เหนือ” ผมเรียก

“อืม”

“...” เออแล้วกูจะชวนคุยยังไงดีวะ  เฮ้ออ ... 

“มีอะไร” น้ำเหนือถามอีกรอบ  ผมส่ายหน้า

“ไม่มีอะไรหรอก” จะเริ่มยังไงดีวะ  ฮืออออ

“..เดี๋ยวไปส่ง” น้ำเหนือพูดขึ้น

“ห้ะ?”

“เดี๋ยวไปส่งทำงาน  มีเรื่องจะคุยด้วย” คุย?  คุยไรวะ  เออไปส่งก็ดี  ผมจะได้อยู่กับน้ำเหนือแค่สองคน หึๆ  แคคิดถึงสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ก็รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมา

“..อืมๆ”

“ไม่สบายหรอไอ้ข้าวหน้าแดงๆ” ไอ้ฮาร์ทมันเอามือมาอั้งหน้าผากผมแล้วขมวดคิ้ว

“กูสบายดี” หน้ากูแดงขนาดนั้นเลยหรอวะเนี้ย

“หรือว่าคิดอะไรทะลึ่งอยู่หรอข้าวคนน่ารัก” กูกะจะมองมึงเป็นธาตุอากาศละเหอะ เสือกพูดขึ้นมาทำไม  กูคิดไรเรื่องของกูเว้ย

“เสือก!” ผมว่ามัน  แต่มันกลับหัวเราะ  มันน่ายันด้วยตีนนัก
.
.
.
ตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปทำงานโดยมีน้ำเหนือขับรถไปส่ง  ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรกันเลยจนมาถึงร้านที่ทำงานของผม  น้ำเหนือจอดรถบริเวณที่จอดรถของทางร้านที่มีไว้ให้ลูกค้า 

“เหนือมีอะไรจะคุยกับข้าวหรอ” ผมถาม  เพราะอีกคนบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยแต่ไม่เห็นคุยซักที

“คนนั้นใคร?” น้ำเหนือหันมามองหน้าผม 

“คนไหน?” ผมถาม เพราะไม่รู้จริงๆ

“คนเมื่อเย็น” 

“พี่อาร์ม” ผมบอก น้ำเหนือเงียบ

“...”

“เอ่อ..รุ่นพี่ที่โรงเรียนอ่ะ  บังเอิญเจอกันวันนี้น่ะ” ผมพูดต่อ  อีกคนก็ยังคงนิ่งเงียบ

“..อืม” เป็นไรของมันอีกวะ

“เรื่องที่บอกจะคุยมีแค่นี้หรอ” ผมถาม

“..อืม  ข้าวไปทำงานเถอะ”

“เป็นไรรึเปล่า”

“เปล่า” เสียงนิ่งๆตอบกลับมาทันที

“อืมๆ” ผมปลดเข็มขัดนิรภัยออกหยิบกระเป๋าเตรียมออกจากรถ

“..ข้าว” ผมชะงักมือที่จะเปิดประตูลงจากรถหันมามองอีกคน  พอหันไปเท่านั้นละ..

“O.O!”

ผมถึงกับตาเบิกกว้างเมื่อถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว  มันเป็นเพียงแค่ปากแตะปากเท่านั้น  เมื่อน้ำเหนือผละออกผมจึงรีบรุดออกจากรถทันที  ผมวิ่งเข้าร้านอยากรวดเร็วโดยไม่ได้หันไปมองรถของน้ำเหนืออีก 

“มะ เมื่อกี้มันเกิดไรขึ้นวะ”  ผมยืนพิงประตูห้องแต่งตัวภายในร้าน  ใจผมเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา  ผมแตะมือตรงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ แล้วเลื่อนขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง  ผมโดนจูบหรอว่ะเนี้ย เฮ้ย!  เป็นไปได้หรอวะ  เดี๋ยวๆผมอาจจะกำลังฝันอยู่ก็ได้  ผมจึงหยิกแขนตัวเอง

“โอ๊ยย!!” เจ็บ! งั้นแสดงว่าไม่ใช่ฝัน  แต่ว่าน้ำเหนือจะมาจูบผมทำไมวะ  ถึงมันจะไม่ใช่จูบดูดดื่มอะไรก็เถอะ แค่ปากแตะปากเท่านั้นแต่ก็ ทำให้ผมใจเต้นได้   หน้าผมคงแดงมากแน่ๆตอนนี้  จะออกไปทำงานในสภาพแบบนี้ได้ไงวะ  จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยเว้ย    ... ตอนแรกไหนกูจะไปอ่อยเขาไง  ทำไมถึงเป็นตัวเองที่โดนได้วะ  ภาพเมื่อครู่ที่อยู่ในรถยังติดตาผมอยู่เลย โอ๊ยยยยย   แล้วคราวนี้ผมควรทำไงวะเนี้ย  สมองไม่รับรู้อะไรแล้วนอกจากสัมผัสแผ่วเบาที่ติดอยู่ตรงริมฝีปาก -////////////-


TBC.
ขอโต๊ดดที่ช้าค๊าาา .. ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย  เรื่อยๆไปก่อนเนอะ :katai4: :katai5:

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
แอร้ยยยย อย่ามาค้างแบบเน้ มีจุ๊บด้วยอ่ะ!!

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
บอกเหนือเลยข้าวรับรองไม่ต้องอ่อยให้ยุ่งยาก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ยังไม่ได้อ่อยเลย แต่เขาอ่อยมาให้ขนาดนี้แล้ว เดินหน้าเลยข้าว

หรือไม่ก็บอกความจริงน้ำเหนือไปเลย เนอะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
บอกความจริงไปเลยข้าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อร๊ายยยยกรี๊ดดดดด :mew2:

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

9

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“มึงว่าไงนะไอ้ข้าว?!?” เสียงสองเสียงพูดขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่เชื่อ

“ชู่วว  เบาหน่อยมึง” ผมบอกให้มันเบาๆ  มองโต๊ะหินอ่อนโต๊ะข้างๆ  มีนักศึกษากลุ่มอื่นนั่งอยู่  ไอ้พวกนี้ก็พูดซะดังกลัวคนอื่นเขาไม่ได้ยินละมั้ง

“ใครจะไปคิดวะว่าไอ้เหนือจะพลาดท่าให้มึงเร็วขนาดนี้ หึ” พลาดท่าเชี้ยไรละกูยังไม่ได้ทำอะไรเลย

“ไอ้เวฟกูยังไม่ได้ทำไรเลยเหอะ” ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ  อุตส่าห์ไปถึงที่แล้วกะจะทำตามคำแนะพวกมันสักหน่อย สรุปไปเจอโจทย์อย่างไอ้พี่อาร์มแล้วไหงจะไอ้คงไอ้คินไอ้ค่อกไอ้แค่กนั่นอีก  สรุปที่คิดไว้นั่นพังมหาประลัยเลย เหอะๆ

“ขนาดว่ามึงยังไม่ทำอะไร ไอ้เหนือยังจูบมึงเนี้ยนะ  นี่มึงปล่อยฟีโรโมนความแรดออกไปยั่วไอ้เหนือใช่ไหม”

“เน่ ไอ้เพียวกูไม่ได้แรดเว้ย!” ยัดเยียดจริ๊งงความแรดให้กูเนี้ย   

“แต่อย่างว่าละนะ  ศิษย์พี่เวฟซะอย่างเก่งอยู่แล้ว แค่วันแรกก็โดนจูบเลย ฮ่าๆๆ” ไอ้เวฟมันพาดแขนมาบนไหล่ผม เชิดหน้าตบอกตัวเองอย่างภูมิใจ 

“เอาที่มึงสบายใจเหอะไอ้เวฟ  แต่ว่าตอนนี้พวกมึงต้องมาช่วยกูคิดหน่อย” ผมมองหน้าเพื่อนตัวเองสองคนเลิกคิ้วสงสัยกัน

“หืม?” ไอ้เวฟ

“ช่วย?” ไอ้เพียว

“กูจะไปเจอหน้าเหนือยังงายยยยยย” ผมยกมือมาปิดหน้าตัวเอง  เมื่อคืนคิดหาวิธีว่าจะทำหน้ายังไงหากว่าเจอน้ำเหนือ  ไอ้ที่รุดวิ่งเข้าร้านนั่นเพราะกำบังเกิดอาการมึนและ งง ว่าเกิดอะไรกับตัวเอง  คิดอีกทีก็ฉากจูบสโลว์เข้ามาในหัวให้เห็นชัดๆ  แม้แต่ตอนอาบน้ำ  กินข้าว  หรือตอนนอน  หลับตาทีไรก็มีภาพบนรถฉาย..จนสุดท้ายก็นอนไม่หลับ

“ไม่เห็นต้องทำไงเลย  เจอก็เจอ”ไอ้เพียวมันว่า

“นั่นดิ  ทำตัวเหมือนโดนข่มขืนแล้วคร่ำครวญไปได้” นั่นมึงเปรียบเทียบได้ส้นตีนมากไอ้เวฟ  ถ้ากูโดนข่มขืนนะคนผิดคือมึงเลย  ไอ้ตัวการ  ฮึ่ย ! แต่ถ้าโดนจริงๆผมก็คงยอม  ฮ่ะๆๆ

“คิดไรของมึง  หน้าแม่งโรคจิตมากไอ้ข้าว” ไอ้เพียวเอาดินสอมาเคาะๆบนหน้าผากผม

“เปล๊า  ไม่ได้คิดไรเล้ย”

“เสียงสูงทำไม?”

“อะไรใครเสียงสูง” ผมเปลี่ยนเป็นโทนต่ำทันที

“หึๆ  คิดอกุศลอยู่ละสิ” เออคิด  แล้วไง  ..?  ผมไม่ได้ตอบทำมีเอาโทรศัพท์มาเลื่อนนู้นนี่ดูผ่านๆเท่านั้น

“เปลี่ยนเรื่องตล๊อดด” ไอ้เพียวพูดขึ้นจ้องหน้าผมอย่างกวนๆ  ผมไหวไหล่ไม่แคร์กับที่มันพูดแซะผม

“ปล่อยมันไปเถอะ  กูว่าอย่าสนใจไม่ต้องไปช่วยมัน” ไอ้เวฟมันบอก ผมหันขวับไปมองทันที  ได้ไงละ  นี่เพื่อนกำลังเดือดร้อนนะ
เฮ้ย  ช่วยหน่อยไม่ได้รึไง  ไอ้เพื่อนทรพี(?)

“ได้ไงวะ  มึงต้องช่วยกูดิ”

“มึงจะกลัวเชี้ยไรวะข้าว  ไหนๆไอ้เหนือมันก็จุ๊บมึงไปละ  มึงก็ทำกลับไปสิ แฟร์ๆดี หึๆ” แฟร์พ่องดิ  คิดไงกูก็เสียเปรียบ 

“นั่นสิไอ้ข้าว  จากที่มึงเล่าบอกพวกกูนั้นไอ้เหนือมันเป็นคนจูบมึงก่อน  แสดงว่ามันก็คงมีความรู้สึกดีๆให้มึงบ้างละวะ” ไอ้เพียวมันทำท่านึกคิดแล้วมองหน้าผมแล้วยิ้มเหยียด

“ยิ้มเหี้ยไรของมึง” ผมโยนเศษไม้ใบหญ้าที่ผมเด็ดๆเล่นแถวนั้นปาใส่มัน

“กูว่านะไอ้ข้าว” ไอ้เวฟแทรกขึ้นบ้าง

“อะไร?” ผมหันไปมองมัน

“ไม่ต้องอ่อยแม่งละ”

“อ้าว..?” ทำไมละ  ก็ทีแรกยังสนับสนุนให้กูไปอ่อยอยู่เลย  นี่กลับคำละหรอ

“กูว่าปล้ำแม่งเลยดีกว่า...” ผมกรอรตากับความคิดของไอ้เวฟ  ไอ้เพียวก็พยักหน้าเออออไปกับมันอีก เออนี่จะให้กูเสียตัวให้ได้ใช่ไหม

“เอาน่าไอ้ข้าวไม่มีอะไรเสียหาย  แค่เสียตัวเอง”  รู้ถึงความคิดกูอีก เออเอาสิ

“- -^” ผม

“เดี๋ยวพวกกูช่วยเอง  มึงแค่แก้ผ้ารอที่เตียงพอ”  ไม่เป็นไร  กูไม่อยากแดกแรงเพื่อน  ถุย ! เถอะ

“เออเรื่องนี้กูกับไอ้เวฟช่วยเอง  มึงก็แก้ผ้ารอ” ไอ้เพียวเสริม

“พอเลยพวกมึงเนี้ย  คิดแต่ละอย่าง  ที่บอกๆกูเนี้ยทำเองมาแล้วกี่รอบ” ผมเท้าคางมองมันสองตัวยิ้มกว้างพร้อมกับชูนิ้วตามจำนวนที่บอก

“23ครั้ง” ไอ้เวฟ

“50 ครั้ง” ไอ้เพียว

 ผมได้แต่ส่ายหน้าให้กับไอ้คำตอบที่โคตรจะตอแหลของพวกมัน  ใครจะบ้าทำเยอะขนาดนั้น  แจ้งตำรวจจับทันไหมวะเนี้ย  เราสามคนกำลังนั่งรอเรียนคาบต่อไป  เป็นคาบที่เรียนร่วมกับสาขาคณะอื่น  คุยเรื่องสัปเพเหระแต่ไม่วายก็วกกลับมาเรื่องของผมเช่นเดิม  ต่อให้เถียงพวกมันยังไงก็แพ้ปากหมาๆของไอ้เวฟอยู่ดี  จึงเสียบหูฟังฟังเพลงเงียบๆคนเดียว  รำคาญหมามันกัดกันตรงหน้า

“ไอ้ข้าว..” เหมือนมีใครมาสะกิดที่ไหล่ยิกๆ  ผมหันไปมองเป็นไอ้เอ็มเพื่อนร่วมห้องตัวเอง  ผมถอดหูฟังออกแล้วถามมันว่ามีไร 

“มีไรวะ” มันชี้ไปทางด้านหลังของมัน  ผมมองตามนิ้วชี้มัน

“เขาถามหามึงอ่ะ” มันบอกแค่นั้นแล้วไปนั่งแย่งไอ้เวฟเล่นเกมส์แทน

“ใครวะ?” ไอ้เพียวคงสังเกตเห็นมันจึงถาม ผมไม่ได้ละสายตาจากเขาไปไหน  มีแต่คำถามว่าเขามาทำไมที่นี่

“พี่อาร์มน่ะ” ผมตอบมันพร้อมกับถอนหายใจเซ็งๆ  ก่อนจะลุกขึ้น

“มึงจะไปไหน”

“เดี๋ยวมา”

ผมเดินไปหาพี่อาร์มที่ยืนรอผมตรงบันไดทางขึ้นตึก  วันนี้พี่อาร์มใส่เสื้อช๊อปคณะสถาปัต เกงยีนสีซีด และผมน้ำตาลทองยังขับผิว
หน้าให้ดูสว่างขึ้น  หล่อนะแต่ไม่ใช่สเปคข้าวว่ะ 5555

“พี่อาร์มหวัดดีครับ” ผมไหว้ทักทายพี่เขาที่มีอายุมากกว่าผม

“สวัสดีครับ” ไม่ว่าจะตอนนี้หรือเมื่อก่อนรอยยิ้มอ่อนโยนก็ยังคงยิ้มให้กับผมเหมือนเดิม

“พี่อาร์มมาหาผมหรอครับ”

“ก็แค่อยากเจอ”

“มาเพราะเหตุนี้จริงหรอครับพี่” ผมถามติดตลก  พี่อาร์มขำเล็กน้อยก่อนจะยิ้มพิมใจชนิดผู้หญิงเห็นต้องหลงใหล

“จะเพราะอะไรแค่เห็นหน้าข้าวก็ดีใจแล้ว” คำพูดหยอดส่งมาให้ผม  ผมเพียงแค่ส่งยิ้มแห้งๆเท่านั้น

“แหะๆ”

“พี่มารบกวนเรารึเปล่า”

“เปล่าครับ” ผมส่ายหัว พี่อาร์มยีหัวผมเบาๆ สายตา รอยยิ้ม ของพี่อาร์มไม่เปลี่ยนจริงๆ  ผมว่าพี่อาร์มเป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพ
บุรุษสูงมาก เป็นคนดี  อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นดีครับ  แต่อย่างที่บอกพี่เขาไม่เปคผมว่ะ  ผมว่าพี่เขาควรเจอคนที่เหมาะกว่าผมนะ 

“กว่าจะหาข้าวเจอ แหะๆ” พี่อาร์มยิ้มเขินยกมือเกาแก้มตัวเองแล้วเสมองไปทางอื่นแทนที่จะมองหน้าผม

“แต่..”

“บังเอิญเมื่อคืนทำโทรศัพท์ตกน้ำพัง  เลยไม่ได้โทรหาก่อน” อ๋อ แบบนี้นี่เอง  ผมเองก็กะจะถามว่าแล้วทำไมไม่โทรหาผม 

“ครับ”

“งั้นพี่ขอใหม่อีกรอบละกันนะ” พี่อาร์มว่าพร้อมกับยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูส่งมาให้ผม  ผมรับมากดเบอร์ตัวเองลงไปแล้วยื่นกลับไปให้
เจ้าของคืน พี่อาร์มรับแล้วกดๆ

ครืด~

โทรศัพท์ผมสั่นครืดเพราะตั้งเป็นระบบสั่นไว้  ผมหยิบมันขึ้นมาดูปรากฎเป็นเบอร์แปลกซึ่งไม่ได้แปลกใจอะไร  เพราะน่าจะเป็นของพี่อาร์มอยู่แล้ว

‘เบอร์พี่  โทรหาได้ตลอด24 ชม.ครับ พร้อมรับสายข้าวเสมอ ^^ จาก.พี่อาร์ม’

“24ชม.นี่พี่ไม่นอนรึไง” ผมแกล้งแซวพี่เขา  พี่อาร์มยิ้มส่ายหน้า

“ทุกเวลาพี่ให้ข้าวเสมอ” พี่อาร์มลูบแก้มผม  สายตาที่มองมารู้สึกถึงความเอ็นดู … ก่อนที่มันจะมากไปกว่านี้ผมควรเบรค  ผมจับมือพี่อาร์มออกจากแก้ม

“เอ่อคือผมต้องไปแล้วครับ..ขอตัวนะครับ” ผมก้มหัวเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินกลับไปหาเพื่อน

“เดี๋ยวสิ”แขนผมถูกอีกคนจับไว้  ผมหันไปมองพี่อาร์มว่าเรียกทำไมอีก

“ครับ?”

“เย็นนี้ว่างไหม พี่กะจะชวนข้าวไปดูหนังรอบค่ำน่ะ” พี่อาร์มพูดเขินๆ

“ขอโทษนะครับพี่แต่ผมไม่ว่าง” ผมตอบปฎิเสธไป  เพราะผมไม่ว่างจริงๆ

“อ่างั้นไว้คราวหน้าก็ได้” สีหน้าพี่อาร์มดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด  ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง  ผมว่าเป็นแบบนี้ดีแล้ว  ยิ่งถ้าผมไปมันเหมือนกลับยิ่งให้ความหวังพี่เขาเรื่อยๆ  อีกอย่างผมว่าผมจะคุยไอ้เรื่องสัญญาระหว่างเราให้จบๆไป 

“ไอ้ข้าวจะไปเรียนไหมห้ะ !”

“เออๆไปเดี๋ยวนี้ละ เฮ้ย! อย่าเพิ่งไปก่อนรอกูด้วย...ลานะครับ”  ผมตะโกนกลับไปเมื่อเห็นไอ้เพื่อนสามตัวกำลังมุ่งไปยังชั้นเรียน  ผมหันมาบอกลาพี่อาร์มแล้วออกวิ่งให้ทันพวกมันทันที  ไม่มีรอกันเลยนะพวกมึง  ถึงตัวละน่าดู 

“ไอ้ข้าวเร็วๆ” พอเข้ามาในตัวตึกพวกมันสามตัวก็ไปสิงสถิตอยู่ในลิฟท์แล้ว  ผมจึงจำเป็นต้องสาวเท้าเร็วๆให้ถึงมัน

“ลิฟท์จะปิดแล้วกูไม่รอนะเว้ย” ไอ้เวฟบอก  ไอ้เวร  มึงก็กดลิฟท์รอกูก่อนเส่ !

“ไอ้ห่าเวฟถ้ามึงกดปิดละหน้าดู” ผมตะโกนด้วยวิ่งด้วย  เหนื่อยสิครับ  พอเข้ามาในลิฟท์ได้ก็หอบแฮกเลยทีเดียว  ตัวลิฟท์เลื่อนปิด
แล้วเลขก็เลื่อนขึ้นไปยังชั้นที่เราเรียน  ผมมองไปที่เพื่อนสามคนเรียงกัน  ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  แม่งแกล้งกู

“มัวแต่อ่อยผู้ชายจนลืมเวลาเรียนนะมึง” ไอ้เพียว

“ไอ้เพียวมึงก็อย่าไปว่ามันดิว่ะ  คนมันแรด” ไอ้เวฟ

“สรุปคนเมื่อกี้ผัวมึงหรอไอ้ข้าว” ไอ้เอ็ม

“ไอ้เอ็มมึงนี่ก็ถามอะไรแบบนั้น  น้องข้าวเสียหายหมด” มึงสิไอ้เวร  แม่งว่ากูแรด  กูคนเว้ย  เห็นนอบนหัวกูรึไงว่ากูแรดนัก ผมเลยใช้เท้าถีบไอ้เวฟไปเพราะความหมั่นไส้ล้วนๆ

“ถีบกูไมเนี้ย!” มันมองค้อนผม

“อยาก” ผมยิ้มกวนมัน ไอ้เวฟมันแสยะยิ้มก่อนจะดึงผมบนหัวผมแรงๆ  อ๊ากกไอ้เพื่อนเวรมึงกล้าทำให้ผมบนหัวกูเสียทรงหรอ  รู้ไหม
มันเซ็ตนาน  ผมเองไม่ยอมหรอกดึงกระชากผมมันเหมือนกัน

“เฮ้ยๆพอเลยพวกมึงลิฟท์ค้างจะซวย” ไอ้เพียวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วจับผมแยกออกกับไอ้เวฟ  ผมกำปั้นทำท่าจะต่อยไอ้เวฟอีกรอบ  ไอ้เพียวมันเลยโป๊ะนิ้วทั้งห้าบนหน้าผากผมเต็มๆ

“โอ๊ยย กูเจ็บนะ!” ผมหันไปแวดใส่มันทันทีมือก็ลูบหน้าผากตัวเองปอยๆ  เป็นรอยแผลเป็นทำไงหมดหล่อกันพอดี

“ใช่พื้นที่ให้มึงหยอกกันรึไง” เออบังเอิญกูหยอกกันได้ทุกที่เฟ้ย  ผมจึงทำตัวสงบเสงี่ยมรอให้เลขเลื่อนชั้นไปเรื่อยๆจนมาจบลงที่ชั้นที่หมาย  เราทั้งสี่คนก็เดินมุ่งไปห้องเรียนเพราะอีกแค่5นาทีก็จะถึงเวลาเรียนแล้ว  เข้ามาก็พบกับฝูงมนุษย์คณะสาขาอื่นที่เรียนร่วมกัน  ผมและเพื่อนเลือกที่นั่งด้านหลัง  เป็นเด็กหลังห้องครับ เวลาทำอะไรก็สะดวก  กะจะหลับให้เต็มที่ ฮ่าๆๆๆ  ความคิดดีใช่ป่ะล่ะ...




“มึงจะไปทำงานเลยใช่ไหม?”

“เออไปเลยวันนี้ไปเร็วกว่าเผื่อพี่บาสจะเพิ่มค่าแรงให้กู”

ผมบอกลาเพื่อนแล้วแยกมาขึ้นรถเมย์หน้ามอเพื่อตรงไปยังที่ทำงาน  วันนี้ไปเร็วครับอย่างที่บอกเผื่อเจ้านายเพิ่มค่าแรงให้ ฮ่าๆๆ ไม่
ได้หวังอะไรเลยจริ๊งจริง

กริ๊ง !

“หวัดดีพี่บาสคนหล่อออ” ผมเปิดประตูเข้าไปในร้านก็พบเจ้าของร้านในชุดสูทสีเข้มนั่งหน้าเคาเตอร์  เต็มยศครับวันนี้  ผมก็เซ็ตซะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าปกติ

“มาเร็วนะวันนี้”

“ก็เผื่อจะได้เพิ่มค่าแรงไง” ผมวางกระเป๋าไว้ข้างๆเคาเตอร์แล้วมานั่งคุยเล่นกับพี่บาสก่อนคอยไปเปลี่ยนชุด ตอนนี้ลูกค้าก็ไม่ได้มากมายอะไรนั่งพักเอาแรงก่อนค่อยลุยงานของตัวเอง

“ชิ หวังผลตลอดดด” พี่บาสว่าพร้อมกับหยิกแก้มผมทั้งสองข้าง

“แน่นอนสิ  ผมหวังผลตอบแทนเสมอแหละ แหะๆ”  ผมยักคิ้วกวนๆให้พี่บาส  พี่บาสจึงยีหัวผมเล่น  ผมมองแก้วกาแฟสองสามชนิด
ตรงหน้าพี่บาสอย่างสงสัย 

“สูตรใหม่น่ะ  ลองชิมดูไหม?  ไม่รู้จะโอเครึเปล่า” พี่บาสถาม  ผมพยักหน้ายิ้มกว้าง  ของฟรีขอให้บอกจะอร่อยไม่อร่อยกินหมด พี่บาสหยิบแก้วกาแฟที่หอมกรุ่นควันฟุ้งดูก็รู้ว่ากำลังร้อนๆอยู่เป่าเบาๆแล้วยื่นมาตรงหน้าผม  ผมยืนหน้าเข้าไปจิบนิดๆค่อยๆลิ้มลองรสชาติหอมละมุนนุ่มลิ้น มีรสชาติของนมคาราเมลเข้ามาช่วยมันจึงไม่มีความขมมาก  ผมว่าผมชอบน่ะกาแฟรสนี้เพราะปกติผมไม่ชอบดื่มกาแฟเพราะมันขมไป  ส่วนใหญ่จะกินที่มีนมเป็นส่วนผสม

“อร่อยว่ะพี่บาสผมชอบ ขอนะ” แล้วผมก็แย่งแก้วจากพี่บาสมาจิบกินต่อ  อื้ออออร่อยย  สงสัยต้องให้พี่บาสสอนสูตรแล้วว

“นี่ ! ขอกันหน้าด้านๆแบบนี้ได้ไงวะ  จ่ายตังด้วย” พี่บาสท้วง  ผมทำเป็นหูทวนลม  ไม่จ่ายหรอกอยากให้ชิมทำไมละ 

“พี่บาสคิดไงเพิ่มสูตรมาใหม่อ่ะ” ปากจิบไปด้วยถามไปด้วย

“ก็อยากเพิ่มอะไรใหม่ๆเข้าไปบ้าง  จริงๆมันก็ไม่ถึงกับเป็นสูตรใหม่อะไรหรอก”

“อ้าวแล้วพูดเพื่อ”

“แต่ที่นำมาเพิ่มเนี้ยก็เพื่อให้คนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟลองดื่มดู  เพราะรสมันไม่ขมใช่ไหมละ”  ผมพยักหน้าหงึกหงัก

“ใช่”

“ใช่ไหมละ  ขนาดข้าวที่ไม่ชอบกาแฟยังกินแล้วชอบเลย  พี่ว่าเราเพิ่มลงในเมนูดีกว่านะ”

“เห็นด้วย!” ผมยกนิ้วโป้ให้พี่บาส  พี่มันหัวเราะแล้วผลักหัวผมไล่ให้ไปทำงาน

“ไปทำงานเลย  ชอบอู้ตลอดไม่ต้องเอาหรอกค่าแรงเพิ่มอ่ะ”

“เฮ้ย! ได้ไงนี่มาก่อนเวลาทำงานของผมนะ” ผมรีบแย้งขึ้น  ไม่ยอมนะ  ผมต้องได้ค่าแรงเพิ่ม   ไม่งั้นข้าวจะอู้งานอยู่แบบนี้ละคอยดูเส่!!

Rrrrr Rrrrrrr

“เออมีไร” ผมเช็ดโต๊ะ เก็บกวาดร้าน  เพราะถึงเวลาปิดร้านแล้ว  มีสายเรียกเข้ามาจึงกดรับใช้มือข้างที่ว่างเช็ดโต๊ะต่อ

(จะกลับยังวะ) ไอ้เฮาร์ทถาม

“อืม  เกือบเสร็จแล้ว  โทรมามีไร?”

(เอองั้นก่อนกลับแวะซื้อของกินเข้ามาให้หน่อยดิ)

“เออได้แล้วจะเอาอะไรละ”

(เป็นพวกปลาหมึก  พวกกับแกล้มเหล้าอ่ะมึงหาซื้อเข้ามาให้หน่อย) 

“ไอ้ฟาย นี่มึงแดกเหล้าในห้องหรอวะ” ผมถอนหายใจเซ็งๆ  ครั้งก่อนที่มันกับไอ้เพื่อนสนิทผมมันแดกกันในห้อง  อ้วกแตกกันแล้ว
ไหนจะเศษกับแกล้มมันอีก  แล้วไอ้คนที่ทำความสะอาดห้องเป็นผมเนี้ยสิ  ถ้ามึงทำห้องเละนะน่าดู

(เออน่าพวกกูมาทำงานไง  มันเร่งด่วน)  พ่องดิ

“เร่งด่วนแต่แกเหล้ามันจะเสร็จหรอห้ะ!” ผมกวาดตามองรอบร้านว่าเก็บเรียบร้อยรึยัง  ตรวจเช็คโอเคแล้วจึงเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัว  ผมลืมบอกไปใช่ไหมว่าวันนี้พี่บาสมีงานเลี้ยงบริษัท ที่เห็นแต่งตัวหล่อๆเข้มๆดูเป็นผู้ใหญ่นั้นละครับ  และพี่มันก็ระเห็จไปตั้งแต่หกโมงเย็นแล้ว  ผมจึงมีหน้าที่ปิดร้านแทนแต่ก็ยังมีพวกพี่แววอยู่ช่วยด้วย

(เออเสร็จแน่นอนระดับกูแล้ว)

“หยุดพูดไปเถอะ  แล้วมึงจะให้กูซื้อเหล้าเบียร์ไปให้เพิ่มไหม” ผมถามจะได้ซื้อไปเลยทีเดียว  พวกมันจะได้ไม่ต้องออกมาซื้ออีกงานมันจะได้เสร็จๆ  และผมเนี้ยแหละจะบังคับแม่งทำให้เสร็จ  ใช่ว่าแดกเหล้าแล้วจะเงียบ เหอะๆๆ ไอ้ฮาร์ทนี่ตัวเสียงทรโข่งเลย เฮ้ออ

(ใจดีก็ซื้อมาเลย  แตงค์เว้ย!)  ผมตัดสายมันเมื่อมันพูดจบ  ผมเปลี่ยนชุดเป็นนักศึกษาเหมือนเดิมสพายเป้เดินไปหน้าร้านมีพี่แววรออยู่ ผมปิดล็อกประตูแล้วยื่นกุญแจร้านส่งต่อให้พี่แวว

“กลับยังไงข้าว” พี่แววถาม

“ผมคงต้องหารถแถวนี้ไป  อาจจะแท็กซี่ครับเพราะต้องไปซื้อของให้เพื่อนก่อนเข้าหอ”

“พี่ไปส่งไหม  วันนี้แฟนพี่มารับน่ะ” พี่แววบอกแล้วชี้ไปทางรถที่จอดรออยู่

“เกรงใจอ่ะพี่  เดี๋ยวผมไปเองดีกว่าพี่รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” ผมบอกยกมือไหว้ลาทั้งพี่แววและแฟนก่อนจะมองหารถเพื่อซื้อของและตรงกับหอตัวเอง

.
.
.
“เฮ้ย! ไอ้เหนือกูบอกมึงว่าไงวะว่าอย่ายิงกูไอ้เหี้ย!”

เฮ้อออ...  เปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงหมามันเห่าดังมาให้ได้ยินเลย  ไหนจะเพลที่เปิดดังไม่เกรงห้องข้างๆเข้ามาด่าเลย  ผมปิดประตูห้องแล้วเดินไปโซนที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น(เตียงนอนจะอยู่อีกฟาก)  เห็นไอ้จิมกับไอ้โดมกำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่  ไอ้ฮาร์ทกับ..น้ำเหนือเล่นเกมส์กันอยู่   ไอ้เราก็อุตสาห์คิดหาวิธีเวลาเจอหน้าน้ำเหนือจะทำไง  กะจะหลบหน้าซักอาทิตย์สองอาทิตย์  แต่ไหงพึ่งโดนขโมยจูบไปเมื่อวานกลับมาเจอกันวันนี้วะเนี้ย  แล้วไอ้นี่ใคร นอนเอาหมอนปิดหน้าบนโซฟาสบายใจ  ผมวางของที่ไอ้ฮาร์ทสั่งมาตรงข้างๆไอ้จิม  มันยกมือทักทายแค่นั้นแล้วก็หันไปดวลเหล้าต่อกับไอ้โดม  นี่มึงยังไม่เข็ดกันอีกหรอวันนั้น  ผมเดินมาปิดเพลงที่เปิดทิ้งไว้เพราะแม่งดูไปก็ไม่เห็นจะมีใครสนใจฟัง

“ใครปิดเพลงวะ” ไอ้ฮาร์ทมันทิ้งจอดแล้วหันมามอง  ผมกอดอกมองหน้ามัน  ทำไมมึงจะทำไมห้ะ

“กู มีปัญหา?” ผมถาม

“อ้าวกลับมาเมื่อไหร่ทำไมกูไม่เห็น” มึงคงเห็นหรอก  จ้องแต่เกมส์นั่นน่ะ  เห็นนี่โคตรเก่งเลย  หันมาสนใจเพื่อนมึงสองตัวบ้างก็ดีดวลเหล้าจนฟุบไปแล้วหนึ่ง  แล้วไหนจะไอ้คนที่นอนบนโซฟานั่นละ  เออว่าแต่มันใครว่ะ

“เมื่อที่มึงเห็นนั่นละ  ... แล้วไอ้นี่ใคร?” ผมชี้นิ้วไปทางโซฟา

“อ่อ..ไอ้คิน” ห้ะ ! นี่มึงปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้าห้องหรอกไอ้ฮาร์ท

“ใครให้มันเข้ามา!” ผมขึ้นเสียงใส่มัน  ไอ้ฮาร์ทถึงกับสะดุ้ง  ผมไม่อยากเห็นหน้ามัน  ก็ผมไม่ชอบมันอ่ะคนอะไรวะกวนประสาทชิบ

“ทำไมกูจะเข้าห้องเพื่อนกูไม่ได้” ไอ้คินมันเอาหมอนที่ปิดหน้าออกแล้วลุกขึ้นนั่งมองหน้าผมอย่างกวน 

“ก็กูไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าเข้าห้องกู” ผมบอก  มันเหยียดยิ้มก่อนตอบ

“อะไรกัน  แปลกหน้า? เมื่อวานเราก็เพิ่งจะแนะนำตัวกันไปเองนะ แค่วันเดียวหลงลืมซะแล้วหรอ”

“นี่มึงว่ากูแก่ใช่ไหม!!” ผมจ้องมันอย่างอาเรื่อง

“กูพูดตอนไหนว่ามึงแก่”

“ไอ้เหี้ยมึงออกไปเลยนะ  ห้องนี้ไม่ต้อนรับมึง!” ผมไล่มัน  มันไหวไหล่แล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง  มันยิ่งทำให้ผมควันออกหู

“น่าข้าวใจเย็นๆ  กูต้องทำงานกลุ่มกันนะเว้ย” เสียงไอ้ฮาร์ทขัดขึ้น  ผมหันขวับไปมองมัน

“ไหนละงาน  ตั้งแต่กูเข้ามายังไม่เห็นงานพวกมึงกองเลย  มีแต่แดกเหล้ากับเล่นเกมส์แถมยังเอาตัวเหี้ยเข้าห้องอีก  เหอะ!”

“ไอ้ข้าววใจเย็นๆมึงอารมณ์เสียอะไรมาเนี้ย” ถามได้ก็เพื่อนมึงไง

“รีบทำงานพวกมึงให้เสร็จแล้วกลับไปให้หมด” ผมบอกแล้วเดินหน้าบึ้งไปอีกฟาก  ผมไม่ได้มองน้ำเหนือเลยทั้งที่ตลอดเวลาผมคุย
กับไอ้ฮาร์ทหรือไอ้คิน  ผมหยิบผ้าขนหนู หยิบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำพร้อม... 


“เชี้ยจิมลุกมาช่วยเลยมึง” ผมออกจากห้องน้ำก็เห็นพวกมันเริ่มจับกลุ่มกันทำงานแล้วถึงจะมีเหล้าเบียร์วางข้างกายก็เถอะ  คงทำไปด้วยกินไปด้วยละ  ผมเอาผ้าขนหนูไปตากไว้บนราวแต่ก็มีเสียงหมามันหอนขึ้นมาทำให้อารมณ์ผมเริ่มเสียขึ้นมาอีกรอบ

“โอ้ววขาวจริ๊งงงง”  ผมกำราวตากผ้าระงับอารมณ์  ไม่ต้องให้ผมบอกก็รู้ใช่ไหมว่ามันเป็นใคร มีกวนประสาทผมคนเดียว

“ไอ้เหี้ยคินหุบปากไปเลยมึง” เสียงไอ้ฮาร์ท

“ทำไมวะ  ก็ขาวจริงๆนิหรือมึงไม่คิดงั้นวะ  ใช่ไหมไอ้เหนือ”

“...”  ไร้เสียงจากน้ำเหนือ 

“เก็บปากมึงไปเห่าที่อื่นเหอะ” ผมว่าไอ้คิน  มันยักคิ้วกวนมาให้ผม  อยากจะปาของใกล้มือใส่มันจริงๆ

“เออว่าแต่มึงกินไรมายังว่ะไอ้ข้าว” ไอ้ฮาร์ทถาม

“อืม  กินมาก่อนเข้าหอเนี้ยละ มึงละ” ผมถามกลับ

“เออเพิ่งกินก่อนที่มึงจะมานั่นละ”

“แหมเป็นห่วงเป็นห่วยใยกันดีจริงๆ  เป็นแฟนกันหรอ”  เสียงกวนประสาทดังแทรกขึ้นมาอีก

“มันเป็นผัวเมียกัน เอิ๊ก..” เสียงอ้อแอ้ตอบแทน  ไอ้จิมฟื้นขึ้นมานั่งโอนเอนล้มแลมิล้มแล

“จะเป็นเชี้ยไรก็ไม่เกี่ยวกับมึง...ไอ้ฮาร์ทรีบทำให้เสร็จนะ แล้วบอกเพื่อนมึงให้ไสหัวไปให้พ้นๆ” ประโยคหลังผมเน้นไปที่ไอ้คนที่ยัง
ยิ้มกวนประสาทผมอยู่ 

“ไอ้ข้าวผมไม่แห้งอย่าเพิ่งนอนนะเว้ย!!” เสียงไอ้ฮาร์ทดังเตือนมาอีก  แต่ผมไม่สนใจล้มตัวลงนอนคว้าผ้าห่มมาคลุมโป่งไว้  เพราะแสบตา  กว่าที่พวกมันจะทำงานเสร็จคงอีกนาน

Rrrrrrr Rrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น  ผมคว้านหาบนโต๊ะข้างหัวเตียงหยิบได้ก็ดูสายเรียกเข้าว่าใคร ‘พี่อาร์ม’  ผมลุกขึ้นนั่งถอนหายใจก่อนจะกดรับ

“ครับพี่อาร์ม” ผมกรอกเสียงเมื่อรับสายแล้ว

“ใครโทรมาน่ะ นอกใจเพื่อนกูหรออออ”  ผมทำปากด่ามันแบบไม่ออกเสียง

“ไอ้-เหี้ย”  มันหัวเราะชอบใจที่กวนผมได้  ผมลุกออกไปคุยที่อื่นดีกว่าอยู่ในห้องก็มีตัวกวนประสาท

(พี่โทรมารบกวนเรารึเปล่า)

“เปล่าครับ” ผมเปิดประตูระเบียงห้อง  คุยข้างนอกน่าจะดีกว่า

(อ่า  แล้วข้าวทำอะไรอยู่)

“กำลังจะนอนครับ”

(พี่ขอโทษนะ...)พี่อาร์มพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

“ไม่เป็นไรครับพี่  ผมเองก็นอนไม่หลับหรอกเพื่อนมันมาทำงานกันเสียงดังอ่ะ”

(ครับ  แล้วข้าวทานอะไรรึยัง)

“เรียบร้อยแล้วครับ  พี่อาร์มละ” ผมถาม

(อืม  เรียบร้อยนานแล้วครับ)

“อ่า งั้นหรอครับ”

(.....................................)

“........”

แล้วก็เกิดความเงียบขึ้น  พี่อาร์มไม่ได้ถามต่อ  ผมเองก็ไม่รู้จะถามอะไร  ความเงียบครอบง่ำเราทั้งคู่  หรือว่าผมควรจะคุยเรื่องนั้นตอนนี้เลย

“พี่อาร์มเรื่องสัญญาข้าวว่า..”

(...คบกับพี่นะข้าว)

“คะ ครับ?” ผมกำลังถามเรื่องสัญญานั่นต้องหยุดคำพูดต่อทันที เมื่อพี่อาร์มพูดแทรกขึ้นมา 

(เป็นแฟนกันนะครับ)

“พี่อาร์ม..” ผมเรียกชื่อพี่เขาแผ่วเบา 

(นะข้าว  พี่รู้ว่าข้าวไม่มีใคร  พี่เองก็เหมือนกัน  เรามาทำตามสัญญาที่เคยให้กันเถอะ)

“...” ผมเงียบ  มันเร็วไปจนผมตั้งตัวไม่ทัน

“ผมว่าเรา...” คำพูดผมถูกกลืนหายไป  ตัวผมถูกกระชากเข้าหาตัวแล้วกดริมฝีปากทาบทับลงมา  ผมเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใคร  ลิ้นร้อนค่อยๆแลมเลียริมฝีปากผมที่เม้มแน่นไม่ยอมเปิดปากให้อีกฝ่ายได้ล่วงล้ำเข้าไป 

“อ่ะ..!!” เสียงผมเล็ดลอดออกมาแผ่วเบาเมื่ออีกฝ่ายกัดปากผมทำให้ผมเผลอเปิดปากออกมาให้อีกคนสอดลิ้นเข้ามาได้  แรงกดจูบเริ่มทวีคูณมากขึ้น  ผมไม่มีอากาศหายใจผมกำลังจะตายหรอวะ   ละ แล้วทำไมจู่ๆถึงเป็นแบบนี้  ผู้ชายคนนี้ผมไม่เคยรู้จักแน่นอน  มันทำให้ผมกลัว  ...  ทำไมต้องรุนแรงด้วย 

“อื้อออ” ผมทุบตรงอกของอีกคนให้ปล่อย ผมกำลังจะขาดอากาศหายใจจริงๆ  ผมตายจริงๆแน่!!  ผมลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้คุยค้างไว้กับพี่อาร์ม  ผมสนใจคนตรงหน้ามากกว่า  จูบเมื่อวานกับตอนนี้ช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง  น้ำเหนือค่อยๆละริมฝีปากออก  ผมรีบกอบโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด

“อย่าคุยกับเขาอีก!” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น  ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่มองสบสายตากับผม  ผมไม่เข้าใจ  ผมไม่ได้ตอบเพราะยัง งง กับสิ่งที่เกิด  น้ำเหนือจูบผม  นี่เป็นสิ่งที่ผมจำได้

“...”

“...นะข้าว”  น้ำเสียงแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนกว่าเมื่อครู่นี้มาก  ผมเม้มปากกำลังคิดกับสิ่งที่เกิด  มันทำให้ผมสับสน  ผมก้มหน้าหลบสายตาของน้ำเหนือที่ยังจ้องผมอยู่   คางผมถูกเสยขึ้นให้กลับไปจ้องตากันอีกครั้ง  น้ำเหนือค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ  ตาก็สบกันไม่ได้ละห่างไปไหน  ลมหายใจที่รินรดข้างพวงแก้มทำให้ผมใจเต้นรัวแรง  ก่อนที่จะทันได้สัมผัสกัน... ก็ต้องหยุดชะงัก

“ว้าวว โรแมนติกจริงๆ”  ใครก็ได้เอาไอ้เวรนี่ไปทิ้งให้ไกลๆหน่อยย  อารมณ์เสียเว้ย!!!!



TBC.
ทำไมคินต้องมาขัดขว้างกับฉากนี้ด้วยย  เป็นก้างจริงๆนะ :katai1: :z6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น้ำเหนือ เอาแต่จูบข้าวอย่างเดียว
ไม่บอกเหตุผลที่ห้ามไม่ให้ข้าวคุยกับอาร์ม
พูดกับข้าวซะทีสิว่าชอบ
จูบได้ แต่บอกชอบไม่ได้  :m16:
อะไรของนาย น้ำเหนือ โมโหนายละ  :katai1:
คิน ตัวก่อกวน สนใจข้าวด้วยงั้นสิ
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เหนือบอกไปเลย ปากหนักอะไรนักหนา

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กรี๊ดดดดดดด :mew2: เหนือบอกข้าวไปสิรออ่ะไร

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
รบกวนเอาคินไปเก็บด้วยค่ะ!!

เขาจะได้เคลียร์ๆกันสักที

ขัดจังหวะมากกกก เหอะ

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
 :laugh: ตามทันเเล้ว ลองเข้ามาอ่าน เห็นชื่อเรื่องเเล้ว น่าสนใจ (เชื่อว่า ทุกคนคนเคยมีโมเม้นแบบนี้)
 
อิมเมจข้าว   :  ดูสาวจ๋า ดูมุ้งมิ้ง ดูอ่อนไหว บางทีก็มีมึนๆ กวน บ้าง ก็โอเคอยู่
อิมเมจเหนือ :  ดูซึนๆ ดูอึนๆ ไม่ค่อยมีมิติ เดาอารมณ์ไม่ถูก จะแบบไหน

เเต่ก็อ่านได้เพลินๆ เริ่มมีอะไรให้ติดตาม เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะ เเล้วยังไปกดติดตามในเฟตด้วยเเหละ ^__^
นี้แอบจิ้น ไอ้เวฟ  กับ ไอ้เพียวริคุ 5555 (เชื่อเถอะ เด่วมีได้กันเอง) :hao6:



ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
เหนือเอ้ยง้างปากบอกข้าวสะทีอย่าแต่ง้างปากเพื่อจูบอย่างเดียวเพราะข้าวไม่รู้

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
  o13:pig4:

ดันและขอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
10

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“ไปไหนว่ะไอ้เหนือ?”

“ห้องน้ำ”

ไอ้ฮาร์ทถามเมื่อเห็นน้ำเหนือลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วเดินไปยังห้องน้ำ  ตอนแรกหลังจากเกิดเหตุที่ระเบียงห้องนั้นก็กะจะกลับมานอนตอน  แต่ก็นอนไม่หลับจึงมานั่งเร่งให้ไอ้ฮาร์ทเคลียร์งานให้เสร็จจะได้ไล่เพื่อนมันลับบ้านไปซะ  อ่อ  ผมไม่นับไอ้คินเป็นเพื่อนไอ้ฮาร์ทนะ  ผมนับมันเป็นสัมภเวสีมากกว่า หึๆ

“กูเกลียดมึงไอ้เหี้ย!” ผมยกตีนขึ้นถีบหลังไอ้คินที่กำลังนั่งทำงานในส่วนของมันอยู่   กูกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มเสือกมาขัดกูนักนะมึง  ผมคิดแล้วก็แค้นมัน  ยกเท้าถีบมันรัวๆ จนมันร้องโอดโอยน่ารำคาญ

“โอ๊ย ! เจ็บๆๆ” เออกูถีบให้มึงเจ็บ 

“แค่นี้ยังน้อยไปเหอะ!”  ผมจึงจิกเข้าที่หัวมันแล้วเขย่าแรงๆด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆๆ

“อ๊ากก หัวกูจะหลุดแล้วไอ้เหี้ย  ปล่อย!!”

“เฮ้ยๆๆ ใจเย็นๆ ไอ้ข้าวปล่อยมัน” ไอ้ฮาร์ทรีบเข้ามาดึงมือผมออกจากหัวไอ้คิน  พอไอ้คินหลุดจากการทำร้ายของผมได้มันก็ตวัดสายตามามองผม 

“ทำไม? โกรธกูที่ไปขัดจังหวะมึงรึไง” เออมึงรู้แล้วเสือกถามทำไม

“...”

“ขัด ? ขัดจังหวะอะไรวะ? กู งง” งงต่อไปเหอะไอ้ฮาร์ท  อย่าเสือก

“ไม่ต้องรู้ซักเรื่องก็ได้ไอ้ฮาร์ทไปทำงานมึงต่อไป”ผมไล่มัน

“ทำไมมึงอายหรอว่ะไอ้ข้าว แหมทีแถวตรงนอกระเบียบไม่อายวะ คนผ่านไปผ่านมาเห็นเข้าจะทำไง” ไอ้คินมันว่าต่อ

“ก็ไม่ว่าไง  เห็นก็เห็นสิว่ะ ใครแคร์ หน้ากูด้าน!” เอาเส่ ! ในเมื่อมึงเกริ่นขนาดนี้แล้ว  อย่าว่าแต่อายเลยไอ้สัส  กูเด็กนิเทศเว้ย  หน้าไม่ด้านพอเข้ากล้องไม่ได้น่ะมึง  การแสดงกูก็เอด้วย เอาเส่ !

“หึ ! นี่ขนาดผัวมึงอยู่ในห้องด้วยมึงยังกล้านอกใจมันเลย  ไม่ด้านจริงคงทำไม่ได้”

“ผัว?”

“ไอ้ฮาร์ทไงผัวมึงไม่ใช่รึไง  หรือจริงๆผัวมึงคงนับไม่ถ้วน” โอยยไอ้คินปากมึงนี่จัดมากนะ 

“อ่าจ้ะ ผัวก็ผัว  ผัวกูเยอะจริงๆตามที่มึงบอกนั่นละ  เนอะที่รัก” ผมหันไปกระแหนะกระแหน่กับไอ้ฮาร์ทที่ทำหน้า งง เป็นไก่ตาแตก  มันคงไม่รู้ว่ามีอะไรที่ระเบียงเพราะพอไอ้คินมันไปเสร่อผมก็วิ่งเข้าห้องมานั่งแหมะบนเตียงพอนอนไม่หลับก็ไปนั่งเร่งไอ้ฮาร์ทนั่นละครับท่านผู้อ่าน

“อะไรวะ?” ไอ้ฮาร์ทมันเกาหัวตัวเองอย่างมึน งง

“มึงนี่แรดจริงๆ”

“ขอบคุณที่ชมกูนะเพื่อนคิน” ผมยิ้มหวานส่งให้มัน  ยินดีน้อมรับคำชม

“สงสารเพื่อนกูจริงๆมีเมียแบบมึง”

“เป็นคนดีจังน่ะ  รู้จักเป็นห่วงเพื่อนด้วย” ผมทำหน้าซาบซึ้งใจเอามือไปกุมมือไอ้คินไว้แล้วแกล้งบีบน้ำตา  เป็นไงละการแสดงผมดีใช่
ไหม  5555

“ไม่ต้องมาแสร้งหรอกไอ้ข้าว  เหอะๆ”

“อะไรของพวกมึงเนี้ย  แล้วสรุปทะเลาะห่าไรกันว่ะเอาให้กูเสือกรู้เรื่องด้วย” ไอ้ฮาร์ทแย้งขึ้นมา

“ลองถามเมียมึงดิว่าไปทำอะไรหลับหลังมึง” ทีงี้ละไม่พูดละ  โยนมาให้กูทำไม

“เปล่าเลยนะตัวเอง  เค้าไม่ได้ทำไรหลับหลังตัวเองเลยจริงๆนะ  เพื่อตัวอ่ะใส่ร้ายเค้า” ผมเข้าไปออเซาะใส่ตัวไอ้ฮาร์ท  มันขมวดคิ้วสงสัย  มึงก็ช่วยเล่นๆตามบทที่กูส่งให้หน่อยสิว่ะ  นี่ถ้าเป็นไอ้เวฟนะเรียบร้อยไปนานละ

“เอ่อ...สมองมึงกลับหรอไอ้ข้าว”  มันจับหัวผมเขย่าเช็คดู  จะกลับก็เพราะมึงเนี้ยแหละฮาร์ทเอ้ย!

“กูเห็นมันจูบกับไอ้เหนือที่ระเบียง”

“ไอ้ ..!” นี่มึงบอกจริงเลยหรอ  เวรกรรมกูแล้วไง  พอไอ้ฮาร์ทได้ยินก็หันขวับมามองผมแทบจะทันที

“อะ อะไร?” ผมถามแล้วมองหน้าไอ้ฮาร์ทอย่างเลิกลั่ก 

“หึๆ” ขำอีกไอ้เวร 

“หมายความว่าไงที่รักมึงนอกใจกูหรอ” ไอ้ฮาร์ทมึงมาสวมบทบาทเป็นผัวกูทำไมตอนนี้

“พะ พูดอะไร  นี่มึงเชื่อมันหรอ!”

“มันเป็นความจริงใช่ไหม”

“...”

“ไอ้ข้าวตอบมา” ฮือๆๆ อย่ามาเค้นคอกูตอนนี้  หันไปมองไอ้ตัวการมันนั่งแสยะยิ้มพอใจที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ได้ 

“...”

“จูบกับไอ้เหนือจริงไหมไอ้ข้าว”  อยากได้คำตอบนักใช่ไหม  สนุกใช่ไหมไอ้คินได้  ผมเชิดหน้าขึ้นกอดอกแล้วตอบชัดถ้อยชัดคำ

“จริง !”

“ห้ะ!?!” เออตกใจละสิไอ้ฮาร์ท  ถามมาอีกสิพี่ข้าวจะตอบให้หมดเลย

“ก็ตามนั่นละ” ผมไหวไหล่ไม่แคร์

“กูละยอมความด้านของมึงเลยว่ะไอ้ข้าว”

“มึงนี่ก็ชอบชมกูจัง”

“ที่มึงบอกคือจริง  จูบกับไอ้เหนือจริง  หรือว่ามึง...” ไอ้ฮาร์ทถามเหมือนไม่เชื่อ 

“มึง...ทำไม?” ผมถามมัน

“ชอบไอ้เหนือ?”   ผมหันไปมองทางห้องน้ำครู่หนึ่งให้แน่ใจว่าน้ำเหนือจะไม่เดินเข้ามาในตอนนี้แล้วหันไปตอบไอ้ฮาร์ทที่รอคำตอบอยู่  ผมเหลือบมองไอ้คินที่นั่งมองผมว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง  ผมเหยียดยิ้มให้มันก่อนจะตอบโดยไม่ลังเล

“เออชอบ” เต็มปากเต็มคำไหมละไอ้ข้าวเอ้ย !

“...” อ้าวเงียบทำไมไอ้ฮาร์ท  อึ้งเลยอ่ะดิ๊!

“..โดนสวมเขาซะแล้วเพื่อนกู” ผมเบ้ปากใส่ไอ้คินที่พูดอะไรเลอะเทอะ  สวมเขาไร  กูไม่ได้เป็นไรกับไอ้ฮาร์ทเถอะ

“มึงพูดจริงหรอไอ้ข้าว!”

“อืม” ผมตอบส่งๆไป

“มึงพูดจริงดิว่ะ มึงพูดจริงดิไอ้ข้าว!” ไอ้ฮาร์ทเข้ามาเขย่าตัวผม  พร้อมกับถามคำถามเดิมซ้ำๆ  อาการมึงหนักน่ะ  มียิ้มแก้มปริอีก  อะไรของมึง  ประสาทเสียหรอเพื่อน  ม่ายยน๊า  มึงอย่าเป็นบ้านะไอ้ฮาร์ท ฮืออ

“อะ เอออ”

“ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ 

“หัวเราะอะไรของมึงว่ะ?” น้ำเหนือมันมาตอนไหนว่ะ  คงไม่ได้ยินใช่ไหม  ภาวนาอย่าได้ยินเลย

“หึๆ  กูแค่ได้ยินเรื่องดีๆมนิดหน่อย”

“เรื่อง?”

“ก็..”

“ไอ้ฮาร์ท! กูหิวไปหาไรกินกัน” ผมรีบเข้าไปปิดปากมันที่กำลังจะเอ่ยตอบน้ำเหนือไป  ผมบอกไอ้ฮาร์ทว่าหิวแต่จริงๆแล้วเปล่าหรอกครับ  ต้องลากมันออกไปเคลียร์กันข้างนอกดีกว่า

“อะไรนี่ดึกแล้วยังหิวหรอ”

“เออน่า  ก็กูหิวไปเป็นเพื่อนหน่อย” ผมบอก มันทำหน้าเหนื่อยหน่ายแต่ก็ยอมพยักหน้าตกลงไปกับผมด้วย

“แล้วมึงจะเอาไรป่ะไอ้คิน ไอ้เหนือ” ไอ้ฮาร์ทถาม

“อะไรก็ได้” น้ำเหนือตอบไอ้ฮาร์ทแต่กลับมองหน้าผมแทน  ผมหันหน้าเสมองไปอีกทางแต่ก็มีเหล่สายตามองน้ำเหนือที่จ้องมองผมอยู่ 
กูคงไม่ทำตัวมีพิรุธหรอกนะ

“ไม่เป็นไรกูไม่หิว” ไอ้คินตอบ 

“เออๆ  ปๆไอ้ข้าวเดือดร้อนกูจริง  งานกูไม่เสร็จก็เพราะมึงแหละ”  ไม่เสร็จเพราะมึงอู้เองมากกว่า  ใส่ร้ายกูตลอด  ผมเดินไปหยิบกระเป๋าตังที่วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของตัวเองจะเดินตามไอ้ฮาร์ทที่เปิดประตูรอหน้าห้องแล้วก็พลันต้องหยุดแล้วเดินดิ่งไปทางไอ้คิน

“เออไอ้เหนือคือกูมีเรื่องจะบอกวะ”

“ไอ้คิน  กูได้ยินว่ามึงหิวไปกับพวกกูดีกว่าน่ะ”  กูจะไม่ยอมให้มึงพูดเด็ดขาด  ผมดึงลากไอ้คินไปพร้อมกับผมด้วย

“เฮ้ย! ไรเนี้ย  กูไม่หิวกูไม่ไป”

“มึงบอกกูเมื่อกี้”

“กูพูดตอนไหน?”

“ตอนที่กูบอกเนี้ย ไป!!” ผมดึงลากมันให้เดินตามเร็วๆ  พอมาถึงหนาประตูผมก็ใส่แตะตัวเอง  ไอ้ฮาร์ทดูจะ งงที่เห็นไอ้คินมาด้วย  ไอ้คินมันก็ไม่ได้พูดไรมันก็เดินตามมาเงียบๆ

“ไอ้คินไหนมึงบอกว่าไม่หิวไง” ไอ้ฮาร์ทเป็นคนถาม

“ถามเมียมึงดิ  อยู่ๆก็ลากกูมาด้วยเนี้ย” ไอ้คินบอกอย่างหงุดหงิด

“หร๊อ?” ไอ้ฮาร์ทหันมามองผมแทน  ผมไม่ตอบแต่เดินลงบันไดไปยังชั้นล่างที่มีร้านสะดวกซื้อเปิดขายตลอด24ชม.เหมือนกับเซเว่น
แหละครับ

พอมาถึงร้านผมก็เดินเลือกขนมใส่ๆให้เต็มตระกร้า  ไม่รู้ว่าหยิบอะไรบ้าง  อะไรใกล้มือก็ใส่ๆให้หมด  ส่วนสองคนนั้นก็แยกไปซื้อของที่ตัวเองอยากได้  พอเต็มตระกร้าผมก็ไปคิดเงินที่เคาเตอร์รอ  ผมหยิบหมากฝรั่งใส่เพิ่มเข้าไปอีกสองสามชิ้น

“เวฟไหมครับ?” พนักงานถาม 

“ครับ” ผมตอบ

“ซื้อไรเยอะแยะว่ะข้าว  กูเชื่อแล้วว่ามึงหิวจริงๆ...คิดรวม” มันคุยกับผมก่อนแล้วหันไปบอกกับพนักงานให้คิดของมันรวมกับผม  จะให้กู
จ่ายให้ละสิ  เนียนตลอด

“ก็นิดหน่อย”

“ไม่นิดละเหอะ หึๆ” ซื้อของเสร็จเราสามคนก็เดินขึ้นมาบนหอเหมือนเดิม  แต่ก่อนที่จะถึงห้องผมก็หันมามองไอ้สองตัวที่เดินขึ้นตามหลัง
มา

“กูมีเรื่องคุยด้วย”  มันสองคนหนหน้ามองกันเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วถาม

“เรื่อง?” ไอ้คินเป็นคนถาม

“เรื่องที่กูชอบเหนือ”

“แล้ว?” เป็นไอ้ฮาร์ทที่ถามขึ้นบ้าง

“กูไม่อยากให้เหนือรู้” ผมบอก

“ทำไม? บอกเหตุผลมาสิ” ไอ้ฮาร์ท

“กะ ก็กูยังไม่พร้อม  อีกอย่างกูกับเหนือเป็นเพื่อนกันกูไม่อยากให้เขารู้” ผมบอกเสียงแผ่ว

“หืม? กลัวหรอว่ะ ห้ะๆ” เออกูกลัวไงไม่งั้นไม่มาลากมึงมาด้วยหรอกไอ้คิน

“ก็..”

“เพื่อนที่ไหนมันจูบกันว่ะ” เอ่อ..พูดไม่ออกเลยกู  ก็คงเป็นเพื่อนแบบกูมั้ง

“กูแค่...นั่นแหละ  อย่าบอกเรื่องนี้กับเหนือนะ  กูขอร้อง”

“ถ้ากูจะบอกมึงแล้วมึงจะทำไม” ไอ้คินมันบอกแล้วเดินผ่านร่างผมไป ฮืออ ให้ตายสิ

“ไอ้คินอย่านะเว้ย!!” ผมตะโกนตามหลังมัน

“บอกมันไปเถอะน่า  มันไม่ใช่ความรักข้างเดียวหรอก”

“มึงหมายความว่าไง?” ผมหันกลับมามองไอ้ฮาร์ท

“คิดเองดิว่ะ  กูบอกขนาดนี้แล้วไม่เข้าใจหรอว่ะ”

“บ่” ผมส่ายหน้าถามมันกลับย่างมึนๆ 

“ไอ้ซื่อบื้อ!” ไอ้ฮาร์ทมันเคาะหัวผมแล้วก็เดินผ่านไปผมไปอีกคน  เอ้า! ทิ้งกูหมดเลย  แต่เดี๋ยวนะ! 

“ไอ้คิน!!!” พอนึกได้ว่าไอ้คินกำลังคิดจะทำอะไรผมก็รีบสาวเท้าไปให้ทันมัน




“อ๊ายเหนือ...” เสียงยาวครางงเอ่ยเรียกถึงบุคคลเจ้าของชื่อที่นั่งทำงานอยู่ในห้อง

“ไอ้คิน!!” ผมรีบสาวเท้าไปหามัน  อย่าพูดนะมึง

“มีอะไรกันรึเปล่า” น้ำเหนือถามเมื่อเห็นผมกับไอ้คินกำลังทำสงครามเล็กๆกันอยู่  ไอ้ฮาร์ทถึงกับถอนหายใจกันเลย

“ปะ เปล่าไม่มีอะไร” ผมบอกพร้อมกับยิ้มแห้งส่งให้

“ปล่อยกูเลยไอ้เหี้ย” ไอ้คินดิ้น  แต่ผมกลับยิ่งรัดคอมันมากขึ้นพร้อมกับกัดปากกระซิบชิดข้างกกหูมัน

“มึงบอกกูเอามึงตายแน่!”  บอกจบผมก็ปล่อยมันให้เป็นอิสระ  แต่มันกลับหันมาแสยะยิ้มแล้วคว้าคอผมหันหน้าเข้าหามัน  มันก้มหน้าเข้า
มาชิดเบี่ยงหน้าเล็กน้อย  คือมันไม่ได้จูบผมนะเว้ย  อย่าคิดมาก  แค่หนามันใกล้ผมเท่านั้น  ผมเองก็ตกใจกับการกระทำของมันเหมือนกัน  คืองี้นะ  ผมยืนหันหน้าไปทางน้ำเหนือส่วนไอ้คินมันหันหลังให้น้ำเหนือเว้ย  ถ้ามองจากทางนั้นจะเหมือนว่าเราจูบกัน  ไอ้ชิบหายมึง
กำลังทำกูขายหน้าต่อหน้าน้ำเหนือ  ฮือออ

“ทำอะไรของมึงเนี้ย!” ผมกระซิบถามมันพร้อมกับจะขยับตัวหนี  มันจับเข้าที่แขนผมแน่น

“อยู่นิ่งๆ” มันบอกพร้อมกับเหยียดยิ้ม  ไอ้ฟายยยย 

“เฮ้ย!!” ผมอุทานขึ้นเมื่อร่างไอ้คินถูกเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างเต็มแรง 

“ไอ้เหนือ!” เสียงไอ้ฮาร์ทดังขึ้นมาเมื่อเห็นว่าน้ำเหนือกำลังจะตรงเข้าไปหาไอ้คินที่นั่งแหมะแสยะยิ้มอย่างนึกสนุก  เออชอบนักนะมึงเจ็บ
ตัวเนี้ย!

“มึงทำเชี้ยไร” น้ำเสียงนิ่งๆเอ่ยถาม  สายตาเย็นชามองเพื่อนที่นั่งแสยะยิ้มมองอย่างไม่นึกกลัว

“แค่จูบเองทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้”

“...มันไม่ควร” น้ำเหนือกัดฟันพูด

“แล้วมึงควรหรอว่ะ?” ไอ้คินมันถามต่อสายตามันจ้องกับน้ำเหนือไม่เกรงกลัวอะไรอีกฝ่ายเลย

“...”

“มึงทำได้กูก็ทำได้ไอ้เหนือ”

“ไอ้คินหยุดเลยมึง” ไอ้ฮาร์ทเป็นฝ่ายปราม

“เอ้า  นี่กูกำลังพูดสิ่งที่ควรพูดน่ะ”

“ไอ้เหี้ยคินหุบปาก!” ผมรีบแย้งขึ้น  ไม่งั้นมันจะต้องพูดเรื่องนั้นออกไปแน่

“ตอบตรงๆนะไอ้เหนือ”  ตอบไรมึง  ไอ้คินมึงกำลังจะทำอะไร 

“อืม”

“คิดยังไงกับไอ้ข้าว/”

“อะ ไอ้คิน…” มึงถามอัลไลของมึงงงง  ฮือออ ผมแทบไม่อยากได้ยินคำตอบ  แต่ใจเจ้ากรรมดันอยากฟังซะงั้น

“...” น้ำหนือเงียบหันมามองหน้าผมแทน  ผมเสหน้ามองอีกทาง  ไม่อยากมองหน้ามันเว้ย  เดี๋ยวคำตอบมันแทงใจดำขึ้นมาจะปิดความ
อ่อนแอไม่มิด

“ว่าไง? ชอบหรือไม่ชอบ  แต่ถ้าไม่งั้นกูขอ..”

“ถ้ามึงอยากตายก็เอาสิ”

“หึ สรุปยังไงเอาให้เคลียร์” ไอ้คินยังคงถามต่อ

“..กูชอบข้าว”

“หะ เห?” เป็นผมที่ยืนอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบชัดๆ

“หึๆ ก็แค่เนี้ย  แค่บอกว่าชอบกันไปตรงๆก็จบ  ใช่ไหมไอ้ฮาร์ท”

“เออกว่าจะบอกกันได้ กูต้องเหนื่อยแค่ไหน  นี่ก็เพิ่งจะรู้ว่าไอ้ข้าวเองก็ชอบมึงเหมือนกัน” ไอ้ฮาร์ทมันว่า

“หมายความว่า..” น้ำเหนือถามมัน ไอ้ฮาร์ทพยักหน้า

“มันก็ชอบมึงเหมือนกันนั่นแหละ  กูพึ่งรู้ไม่นาน  จริงๆก็วางแผนให้มึงหึงแล้วยอมรับบอกว่าชอบไอ้ข้าวต่อหน้า  กูเลยไปปรึกษาหารือกับ
ไอ้คิน” ไอ้พวกนี้นี่มัน....

“กูเสียรู้พวกมึงจนได้สินะ เฮ้ออ” น้ำเหนือถอนหายใจเซ็งๆ

“ช่วยไม่ได้  นี่ถ้ากูไม่ไปเห็นมึงสองคนกำลังสวีทกันตรงระเบียงคงไม่มีทางรู้ว่าไอ้ข้าวก็ชอบมึงเหมือนกัน”

“หุบปากไปเลยไอ้คิน!” ผมรีบพูดแทรกขึ้น  มันน่าอายน่ะ  โอ๊ยยย  แล้วทีนี่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“เรื่องจริงทำเป็นอาย  ไหนว่าหน้าด้านไง  ทีตอนบอกว่าชอบไอ้เหนือมึงยังมั่นใจอยู่เลย”  ไอ้สัสส  ย่ามาเผากูต่อหน้าน้ำเหนือน่ะ  ฮือออ
กูอายบวกเขินด้วย

“-//////////-“

“เอาละ สรุปให้เลยละกัน มึงสองตัวแอบชอบกันอยู่  ตอนนี้ก็รู้แล้วว่ารู้สึกเหมือนกันก็คุยกันเองแล้วกันว่าจะเอาไงต่อจากนี้  หมดหน้าที่กู
ละ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ฮาร์ทพูดเองเออเอง  จบก็ลากไอ้คินไปด้วยกัน 

“เอ่อ...คือ” ผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ  ใจก็เต้นตึกตักรุนแรง 

“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ”

“อืมๆ” ความคิดดีมาก  ถ้าหากว่าอยู่ตรงนี้ผมคงไม่กล้าจะคุยเพราะมันมีไอ้สองตัวที่กำลังนั่งมองพวกผมอย่างสนุกแล้วก็อีกสองตัวที่สลบ
หลับใหลไม่รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องนี้เลย  เราเลือกมาคุยกันที่ระเบียงห้องเหมือนเดิม  แต่ทำไมต้องมาคุยตรงนี้วะ  เออช่างเถอะกู
เดินตามมาเองนี่หวา

“..คือแบบว่า”  ที่บอกว่าจะคุยกันนี่จะคุยกันจริงๆไหม  คือพอหาที่จะคุยได้ทั้งผมและน้ำเหนือเราก็ต่างเงียบกัน  จนเป็นผมเองที่ทนความ
อึดอัดไม่ได้ ต้องทำลายบรรยากาศนี้ให้สิ้นซากซะ

“..เรื่องจริงหรอข้าว” น้ำเหนือพูดขึ้นลอยๆ  เหมือนจะพูดกับตัวเองแต่ก็ไม่  น้ำเหนือหันหลังให้ผม  เขายืนเท้าคางกับขอบระเบียงแล้ว
มองไปข้าหน้า  ส่วนผมนั่นยืนพิงประตูที่กั้นระหว่างข้างในกับข้างนอกไว้

“ระ เรื่องอะไร” ผมถาม

“ที่ข้าวชอบเหนือ”  น้ำเหนือหันกลับมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ  ผมพยักหน้าเบาๆ

“อืม”

“จริงๆหรอข้าว”

“..จริง” ผมเงยหน้าสบตากับน้ำเหนือโดยที่ไม่ละไปไหน  ที่ผมพูดไปคือเรื่องจริงทุกอย่าง  ผมชอบเหนือ ผมไม่ได้โกหก

“...”

“ข้าวชอบเหนือจริงๆ  ชอบนานแล้วด้วย” ผมตัดสินใจบอกความในใจทั้งหมดจริงๆออกไป  ณ จุดนี้คงไม่ต้องปิดอะไรมันแล้วแหละ กล้าๆหน่อยเหอะข้าวเรื่องมันมาถึงตรงนี้แล้ว   ด้านได้อายอดเว้ย !!

“...”

“ข้าวชอบเหนือตั้งแต่เรียนด้วยกันตอนมัธยมแล้วละ  มันเป็นรักข้างเดียวมาตลอดที่เรารู้จักกัน  เวลาข้าวได้อยู่กับเหนือข้าวมีความสุข  ข้าวชอบเวลาได้ใกล้ชิดเหนือ  ได้ไปไหนด้วยกัน  แต่มาวันหนึ่งจู่ๆเหนือก็ย้ายบ้านไปโดยที่ไม่บอกอะไรข้าวเลย  เหนือไปอยู่ไหนข้าวไม่รู้  ข้าวติดต่อก็ไม่ได้  เบอร์ก็ไม่มี  ... ข้าวคิดว่าข้าวจะไม่ได้เจอกับเหนือแล้วซะอีก”  ผมบอกทุกอย่างที่คิดให้อีกฝ่ายฟัง

“..ขอโทษนะที่หายมาโดยไม่ลา” ผมส่ายหน้ายิ้มบางให้บอกว่าไม่เป็นไร

“ไม่เป็นไรหรอก  อย่างน้อยเราสองคนก็กลับมาเจอกันอีกครั้งนิ”

“เหนือเองก็ชอบข้าวตอนที่เรียนมัธยมเหมือนกัน  ชอบเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันแต่ว่าช่วงกีฬาสี...” น้ำเหนือเว้นว่างเอาไว้ผมจึงถาม

“กีฬาสี  ทำไม?”

“เหนือเห็นข้าวกอดอยู่กับผู้ชายคนนั้น”  ผมมองอีกคนอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน  เรื่องนี้ผมปิดเป็นความลับเอาไว้  ผมคิดว่าไม่มีใครเห็นซะอีกและคนที่เห็นดันเป็นน้ำเหนือซะด้วย  หรือว่า...

“..มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ!”

“....”

“จริงๆตอนนั้นพี่เขามาสารภาพว่าชอบข้าว  แต่ข้าวก็ปฏิเสธไป  ข้าวกับพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรกันนะเว้ย”

“งั้นที่กอด?”

“ก็นั่นไม่ทันตั้งตัวพี่เขาดึงไปกอดตอนไหนไม่รู้” ผมรีบส่ายหน้าตอบทันที่ว่าไม่มีอะไรกันจริงๆ

“งั้น...ตอนนี้ละ”

“ตอนนี้ทำไม?” ผมถามอย่างสงสัย

“ผู้ชายที่ข้าวคุยทางโทรศัพท์กับที่เจอหน้าคณะ”

“...”

“เป็นคนกับที่เคยสารภาพกับข้าว .. ตอนนี้คิดยังไงกับเขา” น้ำเหนือจำพี่อาร์มได้

“ก็ไม่ได้คิดอะไร  ข้าวคิดกับพี่อาร์มแค่พี่คนหนึ่ง” ผมบอก

“แล้วกับเหนือละ”

“ก็..ชอบมั้ง” ผมบอกพร้อมกับหลบสายตาอีกคน  บอกว่าชอบไปหลายรอบแล้วนะ  นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรอว่ะ  ต้องให้พูดอีกใช่ไหม

“ทำไมมั้งอะ” เอ้า! ก็อยากให้มีอ่ะ   ผมหันมามองอีกคนอีกครั้งแต่ก็ชนเข้ากับอกอีกคน  ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้า  ใกล้ไปแล้วมึงงงงง

“เออไม่มีมั้งก็ได้” ผมดันแผ่นอกอีกคนให้ถอยห่างแต่ก็ไม่เขยิบออกไปไหนเลย

“ดีครับ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มหูเอ่ยชิดหูผม  ใบหน้าผมถูกหันกลับให้มาสบสายตากัน 

“..อืม”

“เหนือชอบข้าวนะ” น้ำเหนือพูดจบก็กดริมฝีปากตัวเองลงมาทาบทับกับปากผม  น้ำเหนือไม่ได้รุกหนักเหมือนครั้งก่อน  ครั้งนี้แตกต่าง
กันสิ้นเชิง  ปลายลิ้นร้อนค่อยๆเล็มเลียปากผมเบาๆ  ผมองที่เป็นฝ่ายยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนอีกคนเข้ามา  น้ำเหนือสอดลิ้นมาเกี่ยวพันกับลิ้นผม  ผมยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอของอีกคนดึงเข้ามาประชิดกันมากขึ้น  จากที่ช้าๆเนิบๆก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้น  ผมแทบลอมละลายในอ้อมแขนที่กำลังกอดรัดผมเอาไว้

“อื้อออ” ผมครางออกมาอย่างพอใจในรสจูบครั้งนี้  มันทำให้เลือดภายในตัวสูบฉีดขึ้นมา   น้ำเหนือจูบเน้นๆหนักๆตรงมุมปากของผมก่อนจะผละหน้าออกแล้วสบสายตากันอีกครั้ง

“ชอบรึเปล่า”

“ชะ ชอบ..” หมาถึงจูบใช่ไหมที่ถาม

“หึ  พรุ่งนี้ไปเดทกันนะข้าว” ผมพยักหน้ารับเป็นอันว่าตกลง

“..อื้ออ” และจูบระหว่างเราสองคนก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง  ... และอีกครั้ง  โดยที่ไม่มีใครได้เอ่ยอะไรออกมาอีก  ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ  ไม่แม้แต่จะสนเสียงเอะอะในห้องที่ดังลอดออกมาให้ได้ยินด้วยซ้ำ  แค่ตอนนี้มีแค่ผมกับน้ำเหนือก็พอ...

.
.
.

“...เป็นแฟนกันนะข้าว”



TBC.
จริงๆมันจะมีฉากหนึ่ที่คิดไว้กะจะเอามาใส่ในตอนนี้
 คงต้องยกไปใส่ไว้ในตอนหน้าแทนอ่ะ ฮือออ
ปล.ไม่ฟินอย่าว่ากันนะคะ
:ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด