ตอนที่ ๓๖
พิมพ์เมื่อศุกร์ ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๒.๔๕ น.
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“มีรูปคู่รูปแรกด้วยกันแล้วน้า”
พี่เบสท์พูดพลางมองหน้าจอมือถือละยิ้ม ผมมองวิว แต่ขนลุกซู่ หน้าร้อนผ่าวๆ หลังจากได้ยินประโยคนั้น หวั่นไหวอะไรของกูวะ
ผมง่ายไปไม๊ ถามหน่อย ถามใคร? ถามคนอ่านนั่นแหละ รู้สึกว่าตัวเองอยู่ใกล้ใครก็ชอบเขาไปหมด มันเข้าข่ายคำว่ามั่วไม่
เลือกไม๊
ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งอยู่ด้วย ยิ่งรู้สึกดี นี่แค่วันแรกๆเองนะ เพราะผมเหงารึเปล่าก็เลยหวั่นไหวไปง่ายๆ ผมสลัดความคิดพวกนั้น
ออกจากหัว พี่เบสท์สนุกกับการเซลฟี่ พอเห็นผมมองก็เรียกผมไปถ่ายด้วยพี่เบสท์กอดคอผม ขยับตัวมาจนติดกัน ผมแอบเขินใน
ใจ จากที่เคยเกลียดเคยหมั่นไส้กลายเป็นว่า รู้สึกดีซะงั้น
“รูปนี้กูหล่อว่ะ” พี่เบสท์ชมตัวเอง
“แล้วกูอ่ะ” ผมชะโงกหน้ามอง
“มึงหรอ......ไม่หล่ออ่ะ” มันเบ้ปาก
“มึงอ่ะน่ารัก” สึสเอ้ย โจมตีรุนแรงมาก ผมใจเต้นรัว หน้าร้อนผ่าวอีกแล้ว
“………………………….” ผมเงียบ แอบยิ้มในใจภายใต้ใบหน้าเคร่งขรึม เก๊กไว้ก่อน ทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้ เดี๋ยวมันไม่เลี้ยง
ก่อนกลับพี่เบสท์ซื้อลอตเตอรี่ใบนึง ละก็ลงดอย แต่ลืมไปเลยไม่ได้กินอะไรแต่เช้า พี่เบสท์บอกว่าจะกินอะไรได้ปากเจ่อ
ขนาดนี้ ผมก็เป็นแผลที่ปากเพราะกัดปากตัวเอง
“ขอโทษนะพี่ เจ็บไม๊” ผมถามตอนลงดอย
“เจ็บดิ เอานิสัยแบบนี้มาจากไอ้ก่อใช่ป้ะ” พี่เบสท์พูด กระตุกอารมณ์ผมให้กลับไปคิดถึงพี่ก่อ คิดถึงเวลาที่มันตีมันต่อยผมทำผม
ให้เจ็บ ไม่ต่างจากผมที่ทำกับพี่เบสท์เมื่อเช้า นิสัยพี่ก่อแทรกซึมเข้ามาหาผมโดยไม่รู้ตัว นิสัยชอบใช้ความรุนแรง ไม่มีเหตุผล
ไม่ฟังใคร ชอบโวยวาย ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น
ลงมาถึงข้างล่างก็บ่ายแก่ๆแล้ว หิวมาก มือผมยังคงกอดเอวพี่เบสท์แน่น ลืมไปว่าลงมาจากดอยแล้ว แต่พี่เบสท์ก็ไม่ได้ว่า
อะไร พี่เบสท์พาไปกินข้าว กินได้แค่ข้าวต้ม ส่วนผมก็ไม่ต่างกัน มองหน้ากันไป กินไปก็หัวเราะไป ชีวิตดีไปไม๊ ผมลืมพี่ก่อไป
เลยช่วงนั้น ไม่มีในหัวเลยในบางเวลา พอกลับมาถึงหอ ก็คิดถึงมัน ไม่รู้มันเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง แต่อีกใจก็คิดนะว่า มันจะ
สนใจผมหรอ เห็นผมหนีไปแบบนี้ ก็คงไปมั่ว ไปมีใหม่ละมั้ง
ค่ำๆ มีสายแรกของวันโทรเข้ามาหาผม เป็นพี่หมึก พี่หมึกบอกว่าพี่ก่อมาตามหาผมถึงหอ พี่หมึกด่ามันละไล่มันกลับไป
ในใจผมเริ่มสงสารมันละ แต่พี่หมึกก็สอนมันนะว่า ก็เพราะมันทำตัวไม่ดี ผมถึงหนีไป และบอกพี่ก่อว่าไม่ต้องห่วงผม เพราะผมคง
อยู่กับคนที่ดีกว่าพี่ก่อแน่ พี่ก่อร้องไห้ใหญ่เลย
ผมอยู่หอพี่เบสท์จนเปิดเทอม ก็คือเกือบหนึ่งอาทิตย์ ผมไม่ได้ติดต่อพี่ก่อเลยซักนิด ไม่ได้รับรู้ชีวิตมันเลย แต่พี่เบสท์ก็
บอกตลอดว่ามันยังอยู่ดี ยังเห็นเช็คอินกับเพื่อนที่ร้านข้าว ร้านเหล้าประจำ ผมได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจ
..
..
..
..
เปิดเทอมวันแรกละผมทำตัวไม่ถูก กลัวเจอพี่ก่อ พี่เบสท์บอกไม่ต้องกลัว มันจะมาเรียนรึป่าวยังไม่รู้เลย พอตกเย็นเลิก
เรียน พี่เบสท์เล่าว่า พี่ก่อมาเรียน สภาพดูโทรม ผอมแห้ง ขอบตาช้ำๆ เหมือนคนติดยา ผมได้ยินแล้วใจหาย พี่เบสท์ลองถามพี่
ก่อเกี่ยวกับผม ถามว่าเจอผมรึยัง ดีกันรึยัง พี่ก่อเอาแต่ส่ายหัว ส่ายหัวแล้วร้องไห้ ละเดินหนีไปเลย
“พี่เบสท์ ไม่คิดจะมีแฟนใหม่หรอ” ผมถามตอนนั่งกินข้าว
“ไม่อ่ะ ไม่อยากมีใครว่ะ กูเข็ด”
“ไม่เหงาหรอ”
“ทุกวันนี้กูก็โอเคนะ มีมึงมาอยู่ด้วยก็ไม่เหงา”
“อยู่กับกูนานๆได้ป้ะ ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหัวเราะกลับเกลื่อน เชี่ย! โดนอีกดอกแล้ว ใจผมเรียกร้อง จะเอาคนนี้ๆ
“ละมึงอยู่กับกูนานๆไม่คิดถึงไอ้ก่อหรอ ไม่เบื่อหรอ”
“ไม่รู้อ่ะ ไม่อยากรับรู้เรื่องมัน กลัวเสียใจอีก กูเหนื่อยแล้วพี่เบสท์ กูวิ่งตามมันจนเหนื่อย”
“อืม คิดได้ก็ดี” พี่เบสท์มองต่ำ ผงกหัวหงึกๆ ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
.
.
คืนนั้นพี่เบสท์กลับมาหอละออกไปกับเพื่อนตอนดึกๆ ไม่บอกผมว่าไปไหน ผมรู้สึกแปลกๆ คือ อยากรู้ว่ามันไปไหน มันจะไปกับ
ใครรึเปล่า จะไปทำอะไรไม่ดีไม๊ เป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่รู้สึกกับพี่ก่อ ประมาณเที่ยงคืนกว่าก็กลับมา หน้าแดงแป๊ด
“คิม กูไปเจอไอ้ก่อมาว่ะ” พี่เบสท์เดินมึนๆเข้ามาในห้อง
“มันเป็นไงบ้าง”
“สบายดี ไม่มีอะไร ห่วงมันมากหรอ” พี่เบสท์ทรุดตัวลงนั่งที่ปลายตัว กลิ่นเหงื่อกลิ่นเหล้าตีกันไปหมด
“พี่เบสท์ มึงเหม็นจังวะ”
“ก็เหงื่ออ่ะดิ วันนี้เข้าชมรม ไอ้ก่อก็เข้า ซ้อมบอลเสร็จก็ไปต่อร้านเหล้า ไอ้ก่อไม่พูดถึงมึงซักนิด ฮ่าๆ คงลืมมึงแล้ว”
พี่เบสท์พูดละก็ล้มตัวนอน ในใจผมคิดว่าพี่ก่อมันคงลืมผมละจริงๆ ก็ดีแล้วล่ะ แต่ก็แอบเสียใจลึกๆ หันไปมองพี่เบสท์อีกทีหลับ
ไปแล้ว มีเสียงกรนเบาๆลอดออกมา ผมมองหน้าพี่เบสท์ ริมฝีปากแดงๆ เผยอ ออกเล็กน้อย แก้มแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์เหล้า
ผมกระเซอะกระเซิงเป็นกลีบๆ เพราะเหงื่อ กระดุมเสื้อนักศึกษาถูกปลดออกหนึ่งเม็ดเผยให้เห็นร่องอกขาวแน่น น่าสัมผัส
ชายเสื้อด้านล่างเปิดขึ้นมาเผยให้เห็นขนอ่อนรำไรที่ลากลงไปถึงเบสท์น้อย พี่ก่อเสียเอกราชให้ผมครั้งแรกก็เพราะเมานี่แหละ
แต่พี่เบสท์เมาไม่หนักเหมือนพี่ก่อในตอนนั้น แค่มึนๆ และคงเหนื่อยด้วย ผมคงทำไรไม่ได้หรอก
“พี่เบสท์ มึงไปอาบน้ำดิ โคตรเหม็น” ผมเขย่าตัวมัน
“กูไม่อาบได้ไม๊วะ โคตรเพลียอ่ะ” พี่เบสท์หลับตาตอบ
“ไปอาบเร็วๆ มันเหม็นชิบหายเลย” ผมพูดพลางถีบตัวมันออกไปจากเตียง
“รังเกียจกูหรอคิม ห้ะ รังเกียจกูมากหรอ” พี่เบสท์ลุกขึ้นมานั่งละคลานเข้ามาหาผม ละคร่อมตัวผมไว้
“ทำไมทำงี้วะเห้ย” ผมถามไปงั้น พอเป็นพิธี
“คิมกูถามจริงๆ มึงยังรักไอ้ก่ออยู่ไม๊วะ ขอคำตอบสุดท้ายที่มึงมั่นใจ”
ผมสงสัยว่ามันถามทำไม คิดยังไงถึงถาม ในใจผมลังเล ไม่รู้ว่ายังรัก หรือ แค่ห่วง ผมตอบไม่ได้
“กูไม่รู้ว่ะ” ผมตอบไม่ได้หันหน้าไปอีกทาง พี่เบสท์ก็ยังขยับตัวเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“งั้นแสดงว่ามึงยังรักมันอยู่ใช่ไม๊” พี่เบสท์ยังไม่เลิกถาม
“กูไม่รู้มึงอย่าเซ้าซี้กูไม่ได้ไม๊” ผมเริ่มหงุดหงิดละขยับตัวไปนั่งพิงหัวเตียง
“งั้นกูสรุปว่ามึงยังรักมันอยู่ โอเค”
.
.
.
“ไอ้เหี้ยเบสท์ กูบอกว่ากูไม่รู้ไงมึงจะถามไรนักหนา กูไม่รู้ กูไม่รู้โว้ย”
ผมหงุดหงิดถึงขีดสุด หันไปบีบคอมัน ละเขย่าขึ้นลง พี่เบสท์ตาเหลือก ไอแค้กๆ ขอโทษท่านผู้อ่านที่อารมณ์ผมรุนแรงไป
หน่อย รู้สึกตัวเองก็จิตไม่ปกติ ชอบใช้ความรุนแรงเหมือนกัน พี่เบสท์ผลักผมออก ด่าผมไอ้เฮี้ย ละเดินเข้าห้องน้ำไป ผ่านไปสัก
สิบนาทีมันเดินออกมาจากห้องน้ำตัวเปลือยเปล่าเปียกชุ่ม เพราะไม่ได้เอาผ้าเช็ดตัวเข้าไป มันไม่ได้สนใจผมที่มองอยู่เลยและ
เหมือนมันกำลังอารมณ์เสียด้วย มันไม่ได้สนใจผมเลย เบสท์น้อยแกว่งไปมา ผมก็มองอย่างไม่แคร์มันเหมือนกัน พี่เบสท์เช็ด
ตัว มันใส่เสื้อผ้าละล้มตัวนอนลงอย่างแรงข้างๆผม แบบหงุดหงิด
“โว้ย ไอ้เหี้ย รมเสียโว้ย” มันแหกปาก ละลุกออกจากเตียง เดินไปเปิดคอม เปิดคอมเสร็จนั่งนิ่งละปิดฝาคอมอย่างแรง ดังปัง!
ละก็เดินตึงๆ ออกไปสูบบุหรี่ตรงระเบียง ผมยังนอนนิ่งไม่รู้มันหงุดหงิดอะไร ไม่เคยเห็นคนกวนตีน อย่างมันหงุดหงิดจริงจังขนาด
นี้ ซักพักได้ยินเสียงมันแว่วๆเหมือนคุยโทรศัพท์ ทั้งเสียงสูงเสียงต่ำเหมือนทะเลาะกับใครบางคน และเริ่มดังขึ้นๆ มีคำว่า
“ไอ้ก่อ” หลุดออกมา ตาผมเบิกโพลง เงี่ยหูฟัง เท่าที่ฟังได้ศัพท์ประมาณว่า พี่เบสท์น่าจะเป็นฝ่ายโทรหาพี่ก่อ เพราะก่อนหน้านี้
หยิบโทรศัพท์ออกไป จากนั้นพี่เบสท์ก็เริ่มคุย คงแกล้งถามพี่ก่อว่าเจอผมรึยัง เป็นไงบ้าง ละเริ่มทะเลาะกันเพราะอะไรบางอย่าง
จนมันพูดเสียงดังขึ้น ที่ได้ยินคือ
“มึงเลิกกับมันเลย มึงเหี้ยอย่างนี้ก็พอเถอะ กูสงสารมันว่ะ”
“เลิก เลิก”
“กูไม่ช่วย พอๆ ไม่เอาแล้ว”
“กูไม่อยากยุ่งแล้ว”
“มึงจะเลิกไม่เลิก
บทสนทนาปิดท้ายด้วยคำว่า ไอ้สัส พี่เบสท์ทุบเหล็กกั้นระเบียง ดังปังสนั่นไปถึงข้างห้อง ผมเริ่มกลัวว่าจะเป็นต้นเหตุทำให้เพื่อน
แตกหัก ผมอยู่ตรงไหนก็มีเรื่องไปหมด ผมเริ่มคิดว่าจะออกไปจากหอพี่เบสท์วันพรุ่งนี้เลย พี่เบสท์เดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามาใน
ห้อง มองหน้าผมตาขวาง
“ไอ้คิมมึงเอารถไปซ่อนไว้หลังตึกเร็ว” พี่เบสท์ตะหวาดผมเสียงดัง
“ทำไมอ่ะ”
“ไอ้ก่อจะมา” พอพี่เบสท์พูดจบเท่านั้นแหละผมรู้เลย ผมรีบวิ่งหลุนๆ ลงตึกไปเอารถซ่อนในที่ลับตา ขึ้นมาบนห้องเก็บคอม
เก็บกระเป๋าเก็บรองเท้าเก็บของใช้ที่เป็นของผม เข้าตู้ ไม่ให้พี่ก่อเห็น ผมไม่รู้มันทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ซักพัก เสียงทุบประตูดังโครม มีคนพยายามบิดลูกบิดประตูจากด้านนอก พี่เบสท์บอกผมให้ไปหลบในห้องน้ำ ผมวิ่งไป พี่ก่อทุบ
ประตูอีกโครมนึง พี่เบสท์เปิดประตู
“เหี้ยเบสท์” พี่ก่อตะโกนเสียงดัง
“ไอ้คิมอยู่กับมึงใช่ไม๊”
“มึงเห็นมันอยู่กับกูไม๊ล่ะ” พี่เบสท์ตอบเสียงกวนตีนอย่างเคย
“มึงพยายามบอกให้กูเลิกกับมัน ทำไมวะ มึงจะเอามันหรอ”
“พูดเหี้ยไรของมึง มึงทำตัวมึงเองทั้งนั้น มันหนีมึงมา ก็เพราะมึงเหี้ย ไอ่ควาย”
ไม่มีบทสนทนาต่อจากนี้มีแต่เสียง
“อึก อัก” ตุบตับ เอี๊ยด โครม มมมม
“โอ๊ย สัส”
เสียงตุบตับ ข้าวของตกกระจาย เสียงลมหายใจฟืดฟาด เสียงเนื้อไถลไปกับพื้นห้องดังเอี๊ยดๆ
“ไอ้เหี้ยก่อมึงออกไปเลย” พี่เบสท์ตะโกนไล่เสียงสั่น ไม่รู้เลือดตกยางออกรึเปล่า
“มึงคืนไอ้คิมให้กูเถอะนะ กูขอร้อง บอกกูก็ได้ว่ามันอยู่ไหน” พี่ก่อพูดไป ร้องไห้ไป
“กูไม่รู้ไอ้สัส มึงไม่ใช่เพื่อนกูอีกแล้ว ไอ้สันดานหมา” ผมจี๊ดขึ้นหัวเลยคำนี้ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม จากเพื่อนที่รักกันดี วันนี้
กลายเป็นแบบนี้เพราะพี่เบสท์ช่วยผมแท้ๆ ผมรู้สึกผิด ควรจะออกไปไม๊ในใจผมคิด ออกไปพี่ก่อก็ต้องเอาผมตายแน่ ผมนิ่งอยู่
นาน ได้ยินเพียงเสียงสะอึก กระซิกๆ ในห้อง ละก็เสียงเปิดประตูออกจากห้องไป ผมค่อยๆย่องออกไปเห็นพี่เบสท์นั่งคอตกอยู่
ปลายเตียง พื้นเปื้อนเลือดหยดเล็กๆหลายหยด
---------------------------------------------------------------------------
TO BE COTINUED

เรื่อง ราวจะเป็นไงต่อไปโปรดติดตามด้วยนะครับ ในเรื่องอาจมีการใช้คำที่ไม่สุภาพ ไม่เหมาะสม อาจจะไม่ถูกใจคุณผู้อ่านบางคน ต้องขอโทษด้วยนะครับ