หึงเว้ย
ตอนนี้เพชรกำลังอารมณ์เสียอย่างถึงที่สุด ร่างเล็กออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนคนรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้ จิมมี่ใช้สายตาอ้อนวอนส่งไปให้คิวหมายจะให้เพื่อนตัวใหญ่ช่วยทำอย่างไรก็ได้ให้ไอ้เตี้ยนี่ใจเย็นลงแต่คิวทำเพียงแค่ยักไหล่ไม่ใส่ใจก่อนจะหันกลับไปสนใจโทรศัพท์ของตัวเองต่อ
“เอ่อ...เพชร” จิมมี่ส่งเสียงเรียกเพื่อนตัวเล็กเบาๆ
“เงียบ!!!” ผลที่ได้คือคนตัวใหญ่หดคอหลับตาปี๋เพราะโดนเพื่อนตัวเล็กตะคอกใส่ ไอ้เอ็มเอ๊ยเรื่องนี้กูช่วยอะไรมึงไม่ได้แล้วว่ะ เคลียร์กันเอาเองนะ
ขอให้ไปสู่สุขคตินะเพื่อน
เรื่องของเรื่องก็คือไอ้เพื่อนเอ็มสุดที่รักของเพื่อนเตี้ยได้ไปออกค่ายกับทางชมรมอนุรักษ์ป่าที่มันสมัครเข้าร่วมตั้งแต่ปีหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ก่อนไปมันก็ชวนไอ้เตี้ยนี่ไปด้วยนั่นแหละแต่เพชรมันติดธุระกับที่บ้านเลยปล่อยให้แฟนหมาดๆ ของมันฉายเดี่ยวเพราะทั้งจิมมี่และคิวไม่ใช่สายนั้นเลยปฏิเสธไปด้วยเหมือนทุกครั้ง
มันจะไม่มีอะไรเลยถ้าเอ็มมันไม่รับโทรศัพท์เพื่อนตัวเล็กแต่กลับมีรูปที่ถูกแท็กมาในเฟสเป็นภาพมันนั่งยิ้มแฉ่งตาเยิ้มดูก็รู้ว่าเมาข้างๆ มีหญิงสาวนั่งซบไหล่อยู่ ก็ด้วยประการฉะนี้แล จิมมี่ก็ได้แต่สวดภาวนาให้เพื่อนตายศพสวยๆ เพราะเพื่อนเตี้ยตอนนี้กลายร่างเป็นยักษ์ที่พร้อมกระทืบและฉีกเอ็มมันเป็นชิ้นๆ นี่ไปได้แค่สองวันนะ เพชรมันยังพ่นไฟขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องรอให้ครบเจ็ด
บรึ๋ย แค่คิดก็สยอง
“เฮ้ยมึงจะไปไหนเพชร!” จิมมี่ร้องเสียงหลงเมื่อเพื่อนตัวเล็กคว้ากุญแจรถเดินดุ่มๆ ไปที่ประตู คิวเองตอนนี้ก็เลิกสนใจโทรศัพท์กลับมาสนใจเพื่อนตัวเล็กเช่นเดียวกัน
“ไปไหน” คิวเอ่ยถามพร้อมกับเดินไปแย่งกุญแจรถมาถือไว้เอง เพชรตวัดสายตามองเขม็งก่อนจะตอบเสียงห้วน
“ไปเชียงใหม่!”
“ห๊ะ...หา??” จิมมี่อ้าปากค้างกำลังจะส่งเสียงห้ามแต่คิวแทรกมาก่อน
“จะขับรถไป?”
“เออ!”
“เอ่อ...กูว่าใจเย็นๆ ก่อนนะเพื่อนพะ...แหะๆ” พูดไม่ทันจบประโยคเจอสายตาพิฆาตเข้าไปจิมมี่ก็เกิดอาการไปไม่เป็นได้แต่หัวเราะแห้งส่งไป วอนพี่คิวช่วยเพื่อนเอ็มแทนนุ้งด้วยแล้วกัน
“ไปเครื่องเดี๋ยวค่อยไปเช่ารถที่โน่นเอาเดี๋ยวกูไปด้วย” คิวบอกเพชรเปลี่ยนจากสีหน้าถมึงทึงเป็นยิ้มกว้างผิดจากจิมมี่ที่เบิกตาแทบถลนออกมาจากเบ้า
“อื้อ!”
“ไอ้คิ๊ววววววว” คิวหันไปมองจิมมี่ที่ร้องโหยหวนแล้วยักไหล่
“มึงคิดว่าเพื่อนมึงจะยอมอยู่เฉยๆ แบบนี้หรือไง”
“แล้ว...แล้วจะไปกันไงวะนี่ก็จะมืดค่ำแล้วนะเว้ยไปพรุ่งนี้ไฟล์ทเช้ากันดีกว่าเนอะๆ” จิมมี่พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบมือก็กดโทรศัพท์หาเพื่อนเวรที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์สักที มึงจะตายอยู่แล้วนะเว้ยไอ้เอ็ม!!!
“อ่อไม่ต้องห่วงกูจองไฟล์ทสองทุ่มเอาไว้ออกจากห้องตอนนี้ทันอยู่ ไม่ต้องเอาอะไรไปหรอกค่อยไปซื้อที่โน่นป่ะจิม” คิวบอกเสร็จสรรพก็เปิดประตูห้องให้เพชรออกไปก่อนแล้วหันมาเร่งเพื่อนตัวใหญ่อีกครั้ง จิมมี่อยากจะร้องไห้ทำได้แต่เดินตามเพื่อนทั้งสองไปเงียบๆ
“แต่ว่าไปถึงที่โน่นก็ดึกมากแล้วนะเว้ย เราจะไปนอนไหนกันวะ” จิมมี่พยายามยกเหตุผลมาบอกเพื่อนอีกครั้ง คิวถอนหายใจเงยหน้ามาบอกเสียงทุ้มเจือความรำคาญ
“ไม่ต้องห่วงกูติดต่ออะไรไว้หมดแล้ว” จิมมี่ร้องไห้ในใจ มึงจะมาพร้อมอะไรทุกอย่างวันนี้วะเพื่อนคิว
“เงียบแล้วนอนไปจิม” เพชรเอ่ยเสียงเย็นทำเอาจิมมี่ที่นั่งอยู่ริมทางเดินขนลุกซู่
“ครับๆ เอ่อแล้วถ้าเจอเอ็มมึงจะทำอะไรมันวะเพชร”
“จะเฉือน!” แม่มึ๊งงงงงงงงงงงงง ขอให้มึงรอดปลอดภัยนะเพื่อน ส่วนกูนั้นขอลาก่อยช่วยได้แค่นี้จริงๆ
ทั้งสามคนเดินทางมาถึงเชียงใหม่ในเวลาสามทุ่มกว่าๆ จิมมี่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เจอรุ่นพี่ปีสี่กับคุณลุงชาวบ้านอีกหนึ่งคนรอรับพวกเราอยู่ เขาหันไปหาคิวอย่างขอความเห็น
“กูติดต่อพี่ผาไปเอง ขอบคุณนะครับพี่ที่สละเวลามารับแล้วก็ขอโทษที่รบกวนครับ” คิวยกมือไหว้คนอาวุโสกว่าทั้งสองพร้อมกับกล่าวขอโทษเพชรและจิมมี่ก็ทำเช่นเดียวกัน
“เฮ้ยๆ ไม่เป็นไร ค่ายเราไม่ได้อยู่ไกลอะไรมากด้วยนอกเมืองใกล้ๆ นี่เองเนอะลุงแจ่ม” พี่ผาบอกด้วยน้ำเสียงใจดี ทั้งสามเดินตามพี่ภูผาและลุงแจ่มไปยังรถปิ๊กอัพกลางเก่ากลางใหม่
จิมมี่เหลือบมองเพื่อนตัวเล็กที่เงียบมาตั้งแต่ลงเครื่องแล้วรู้สึกเสียวสันหลังแทนไอ้เพื่อนตัวดีที่ตอนนี้ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาเลย ภัยมืดมาเยือนมึงแล้วนะเอ็ม มืดมากด้วยพี่จิมคอนเฟิร์ม!
“มึงว่าเอ็มมันจะรอดไหมวะ” จิมมี่ที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนทั้งสองเอนตัวไปกระซิบถามคิว คนตัวใหญ่ยักไหล่เล็กน้อยประมาณว่าตามบุญตามกรรม
ประมาณสี่สิบนาทีถัดมาพวกเขาก็มาถึงสถานที่ตั้งค่ายในโรงเรียนแห่งหนึ่งเพชรขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าภาพตรงหน้ามืดสนิทไม่มีแม้กระทั่งแสงไฟลอดออกมาจากตัวอาคารเรียน
“ทำไมมืด”
“น่าจะหลับกันไปหมดแล้วแหละ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าน่ะ” ภูผาเอ่ยบอก พวกเขาทั้งหมดยกมือไหว้ขอบคุณลุงแจ่มที่สละเวลาไปรับพวกเขามาที่นี่
“มาๆ ตามมา เดี๋ยวพี่พาไปเฉ่งมันเอง” พี่ผาบอกอย่างอารมณ์ดี เจ้าตัวเปิดไฟฉายจากมือถือเดินนำน้องๆ เข้ามายังตัวอาคารเรียน ถึงจะอยู่ในอารมณ์โกรธแต่เพราะความมืดและเงียบทำให้เพชรเกาะแขนคิวแน่นหนึบราวกับแฝดสยามเช่นเดียวกับจิมมี่ที่กอดแขนเพื่อนตัวเล็กอีกทอด
“หึหึ มึงจะโกรธหรือมึงจะกลัวผีเอาสักทาง” คิวเอ่ยล้อเลยโดนเพื่อนตัวเองค้อนเข้าให้
“โกรธ! แต่กูก็กลัวผีด้วย! โอ๊ยจิมมึงเหยียบเท้ากู!”
“ขอโทษครับพ่อๆ” จิมมี่เบะปากเหมือนเด็กถูกดุ ทั้งสี่คนเดินขึ้นมายังชั้นสองของอาคารเรียนอย่างเงียบงัน จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้องๆ หนึ่ง
“ห้องนี้แหละ หมาเอ็มมันนอนอยู่ข้างในรวมกับพวกปีสาม” พี่ผาหันมายิ้มบอกอีกครั้ง
“ขอบคุณมากครับพี่” เพชรบอกก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปด้านในที่มืดสนิดก่อนที่จะค่อยๆ มีแสงเทียนสว่างขึ้นมา
“Happy birth day to you, happy birth day to you…” เพชรนิ่งค้างเพราะภาพตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่าจะได้เห็น คนรักของเขายืนถือเค้กที่จุดเทียนเป็นเลขอายุของเขายืนร้องเพลงล้อมรอบด้วยพวกเพื่อนปีสาม
วันนี้เป็นวันเกิดของเขา
นี่เป็นสาเหตุที่เขาโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้ คิดว่าอีกคนลืมเพราะติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เช้า แต่กลับมีรูปถ่ายลงเฟสบุ๊ค เพชรทั้งโมโหทั้งน้อยใจกะว่าถ้ามาถึงจะใส่ๆ บอกเลิกแม่งแล้วค่อยกลับ ไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกเซอร์ไพร์สแบบนี้
“เป่าเทียนสิ”
“ฮึก” คนตัวเล็กสะอื้นยกมือปาดน้ำตา กุมมืออธิษฐานแล้วเป่าเทียน
“มึงรวมหัวกับมันใช่ไหมคิว!” เมื่อไฟในห้องสว่างเพชรก็เห็นทุกอย่างชัดเต็มตา คนรักในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเท่าเข่าใบหน้าสดใสไม่มีวี่แววมึนมาสักนิดเมื่อคิดว่าตัวเองถูกต้มก็หันไปเอาโทษเพื่อน
“ก็เอ็มมันขอเอาไว้”
“แต่กูไม่รู้เรื่องเลยนะเว้ย!” จิมมี่รีบออกตัวเพราะเขาเองก็งงเหมือนกัน
“เออกูเชื่อเพราะมึงมันโง่!” เพชรกระแทกเสียงบอกเพื่อน
“เอ้าทำไมกูโดนด่าอ่ะ” จิมมี่มองเพื่อนสลับไปมา เอ็มหัวเราะเอาเค้กวางบนโต๊ะแล้วเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก ยกมือเช็ดน้ำตาให้อีกคนแผ่วเบา
“ขอโทษนะ ร้องไห้ใหญ่เลย”
“มึงอ่ะ! กู...กูนึกว่ามึงลืม”
“หึหึ กูจะลืมวันเกิดแฟนตัวเองได้ไงล่ะ”
“ฮิ้ววววว หวานเว้ยๆ” เพื่อนปีสามส่งเสียงเอ่ยแซว คนตัวเล็กก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย
“แล้วถ้ากูไม่มาล่ะ” เพชรเอ่ยถาม เอ็มได้ยินแล้วหัวเราะ
“ไม่ต้องห่วงกูมีเชื้อไฟเตรียมไว้” พูดจบก็โบ้ยหน้าไปหาคิวที่กระตุกยิ้มยักไหล่
“ก็ถ้ามึงไม่มายังไงกูก็ต้องหาทางพามึงมาให้ได้อยู่ดี” เพชรมองค้อนเพื่อนสนิท
“พวกมึงมันร้าย!”
“โอ๋ๆ มาดีกันนะ สุขสันต์วันเกิดนะเป็นปีแรกที่กูได้ทำอย่างนี้ให้มึงและก็จะอยู่อวยพรมึงในสถานะนี้ในทุกๆ ปี อย่าเพิ่งเบื่อกูนะ” เอ็มยิ้มบอกคนตัวเล็ก
“ฮืออออ ไอ้บ้าเอ๊ย! รักมึงจนจะบ้าอยู่แล้ว” เพชรโวยวายก่อนจะโถมตัวกอดแฟนหนุ่มแน่น
ท่ามกลางเสียงโห่แซวของเพื่อนๆ เพชรได้ยินเสียงหัวใจตัวเองและอีกฝ่ายเต้นแรงไปพร้อมกัน เป็นวันเกิดที่พิเศษสุดๆ ไปเลย!
talk. ด้วยความคิดถึงจึงมาหาครบ 1 ปีพอดีเลยด้วย 5555 ฉลองเพจครบ 1,000 ไลค์ค่ะ ดีใจมากๆ เลย ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามกันมาจนถึงทุกวันนี้นะคะ ส่วนใครที่รอน้องฟ้าอยู่อีกไม่นานค่าเราเคลียร์คิวไว้เรียบร้อยยย อิอิ