♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]  (อ่าน 170585 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เขินแทนคิสจนแทบจะชักตายอยู่แล้ว  :m1: :m1: :m1: :m1:
ทั้งแม่ทั้งลูกช่วยกันล่อลวงคิสน่าดู

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:
พี่มันเจ้าเล่ห์

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่จีบวางแผนไว้แล้วใช่มั้ย บอกมาาาาาา

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
จีบกันได้น่ารักมาก :-[
เขินแทนยังกะโดนจีบเอง  :hao7:
น้องคีสรีบตกลงเป็นแฟนเร็วๆ นะ
นอกจากจะชอบเนื้อเรื่องแล้ว
เราชอบช่วงทอล์กของคนเขียนด้วยนะ อมยิ้มตามตลอดเลยค่ะ  o13

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
รอติดตามน๊

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 21 -




ความอึดอัดช่วงอกและช่วงลำตัวทำให้ผมหายใจติดขัด ดวงตาปิดสนิทไม่กล้าเปิดมองอะไรก็ตามที่นั่งทับกันอยู่ เหงื่อกาฬแตกพลั่กเมื่อสติทบทวนทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้วได้คำตอบว่า ไอ้ความอึดอัดที่มีจนขยับตัวไม่ได้คือโดน 'ผีอำ' ไม่ผิดแน่ๆ ฮึก นอนคืนแรกก็เจอดีเลยเหรอวะกู... เขามาหลอกผมเพราะหวงไอ้พี่จีบหรือเปล่าวะ

ผมพยายามขยับแขนปัดป่ายที่นอนด้านข้างเผื่อจะเจอความอุ่นใจขึ้นมาบ้าง แต่เปล่าเลย ไอ้พี่จีบมันลุกไปไหนของมันวะเนี่ย ปล่อยให้ผมโดนผีอำตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ ฮือ แล้วผีเชียงรายมันหน้าตาน่ากลัวขนาดไหนวะไม่เคยเจอมาก่อนซะด้วยสิ

"พี่จีบ ฮือ ช่วยด้วย"
ผมร้องเรียกเสียงไม่ดังนักด้วยเสียงสั่นเครือ ไม่กล้าขยับตัวมากมายกลัวว่าผีที่กำลังอำกันอยู่จะทำการใหญ่อย่างลุกขึ้นมาบีบคอกัน

"ช่วยอะไร"
ผมได้ยินเสียงคนที่ต้องการดังอยู่ไกลๆ เขาดูไม่ทุกข์ร้อนหรือมีแววหวาดกลัวใดๆทั้งสิ้น จนเผลอคิดไปว่าไอ้ผีตัวนี้มันหลอกผมคนเดียวแน่ๆ ปากที่เคยเม้มสนิทกลับเบะลงเตรียมตัวร้องไห้เต็มที่

"ผีอำ ช่วยที ฮือ"
ผมยังคงส่งเสียงครวญครางอยู่จนรู้สึกได้ถึงที่นอนข้างตัวยวบลง ถ้าให้เดาพี่จีบคงเดินมานั่งบนเตียงแล้ว

"ลืมตา"

"ไม่เอา กลัว ฮือ"

"กูบอกให้ลืมตาไอ้คิส ผีเผออะไรของมึงเนี่ย"

"พี่แม่งไม่เห็นมันหรอก ผีหลอกผมคนเดียว แง"
ผมยังคร่ำครวญไปเรื่อยๆเมื่อความอึดอัดยังไม่จางลง ได้ยินเสียงพี่จีบขำออกมาเบาๆ มีอะไรน่าขำคนโดนผีอำ!

"เออ หลอกมึงคนเดียว ขึ้นไปนอนทับมึงทั้งตัวเลยเนี่ย มีขนด้วยนะ"

"อ๊ากก เห็นด้วยเหรอ ฮือ ไล่ผีออกไปที แง"

"กูไม่ใช่หมอผีว่ะ ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก"
พี่จีบพูดเสียงกลั้วหัวเราะก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรที่ชื้นแฉะบนใบหน้า... ฮึก ผีเลียหน้า ไม่นะ ไม่!

"ฮึก มันเลียหน้า!"
คราวนี้ผมทนไม่ไหวเลยกลั้นใจสะบัดตัวหนี ไอ้ผีบ้าบนตัวก็ไม่ยอมขยับไปไหน แถมยังส่งเสียง 'บู้ววว' ออกมาด้วย แต่เดี๋ยวนะ... ผมลืมตาโพลงเพราะอยากเห็นว่าผีหน้าตาแบบไหนหอนเหมือนหมา แล้วก็ได้คำตอบที่ทำให้หน้าแตกละเอียด เมื่อไอ้ก้อนขนสีดำขาวอายุราวๆสามสี่เดือนกำลังนอนทับบนอกผมและใช้ดวงตาสีฟ้าสดใสจ้องมองกัน

"หมา!!"
ผมตะโกนเสียงดังลั่นห้องก่อนจะหันขวับไปหาคนที่เปลือยท่อนบนแล้วนั่งหัวเราะจนตัวงออยู่ข้างๆ ไอ้พี่จีบขี้แกล้ง แม่ง!

"เออ ก็หมาไง ไอ้ข้าวเหนียวมันคงเข้ามาตอนกูแง้มประตูทิ้งไว้"
ยัง...ยังจะขำอีก หน้าดำหน้าแดงขนาดนี้ตลกมากไหมครับคุณ ผมนี่หน้าง้ำจนปากจะติดจมูกอยู่แล้ว ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำท่ากระฟัดกระเฟียด ไอ้ข้าวเหนียวนี่ก็ไม่ยอมหนีไปไหนจริงๆนะ แทนที่จะกลัวผมโวยวาย มันกลับขยับไปนอนข้างๆแล้วเอาหัวเกยท้องผมแทน อ๊าก กวนตีนเหมือนเจ้าของไม่มีผิด จับปั้นจิ้มน้ำพริกใส่ปากแม่ง

"พี่จีบแกล้งผม!"
ผมตะโกนเสียงไม่ดังนักก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงโดยไม่สนว่าไอ้ข้าวเหนียวจะกลิ้งลุนๆไปทางไหน เพราะพ่อมันต้องรอรับอยู่แล้ว

"กูบอกให้มึงลืมตาแล้วไง นี่กูผิดเหรอวะ"
คำถามไม่ได้คล้องจองกับการกระทำเลย เพราะในเมื่อพี่จีบมันยังนั่งหัวเราะเอิ้กอ้ากสนุกสนานไปเรื่อย ส่วนผมเอาแต่มุ่ยหน้าอยู่ใต้ผ้าห่ม ที่จริงไม่ใช่เพราะโมโหอะไรหรอก แต่สายตาดันไปปะทะกับซิกแพคและอกแน่นๆของมัน ใจพาลเต้นตึกตักจนน่ากลัวว่าจะหลุดออกมาจากอก

"ไปใส่เสื้อผ้าไป!"
ผมเหวอีกรอบแล้วขยับยุกยิกหันหลังให้มันก่อนจะออกจากผ้าห่ม แต่ไม่ทันระวังตัวให้ดีไอ้พี่จีบก็โน้มหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกชนเข้ากับแก้มผมแบบจงใจ หน้าเห่อร้อนขึ้นแทบจะทันที ร่างกายแข็งทื่อยิ่งกว่าตอนที่คิดว่าผีอำเป็นไหนๆ จะจู่โจมกันหนักเกินไปแล้วนะเว้ย ไม่เกรงใจกูก็เกรงใจไอ้ข้าวเหนียวที่ข้ามฝั่งมานอนมองหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บ้างก็ได้

"เขินเหรอหืม"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากก่อนจะใช้จมูกโด่งคลอเคลียกับแก้ม ผมปัดป่ายมือพัลวันจนโดนพี่จีบรวบแขนไว้

"อื้อ อย่ามาลวนลามนะเว้ย"
ผมดิ้นขลุกขลักจนถีบผ้าห่มและหมอนข้างตกลงพื้น ดีหน่อยที่ไม่เผลอไปถีบไอ้ข้าวเหนียวเข้า ไม่อย่างนั้นผมคงโดนพี่จีบกระทืบตายแน่

"อย่าดิ้นสิวะ เสื้อมึงเปิดจะถึงคออยู่แล้ว ยั่วหรือไง"
ผมชะงักกึกกับประโยคที่พี่จีบพูดขึ้น พอมองสำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าหน้าท้องขาวแบนราบของตัวเองปรากฏสู่สายตาของร่างสูงแบบจังๆ จะไม่รีบลนลานดึงเสื้อปิดเลยถ้าพี่จีบมันไม่ได้คิดอกุศลกับผมแบบนี้

"ใครยั่ว ไม่ได้ยั่วเว้ย ไปแต่งตัวเลย ผมจะไปอาบน้ำแล้ว"
ผมดึงข้อมือออกจากการเกาะกุมของพี่จีบก่อนจะดึงเสื้อปิดหน้าท้องอย่างรวดเร็วแล้วกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงในเวลาต่อมา ครั้นจะลุกพรวดออกไปเลยก็ไม่ได้เพราะไอ้ข้าวเหนียวนอนมองตาวาวอยู่

"เออๆ ไล่จังวะ หุ่นกูไม่น่ามองหรือไง"
เสียงพี่จีบดังขึ้นด้านหลังก่อนจะรู้สึกถึงแรงขยับตัวลุกขึ้นของเขา ผมเม้มปากแน่นไม่ยอมตอบอะไรออกไป เพราะถ้าบอกไปไอ้คนหื่นกามมันคงดีใจจนเนื้อเต้น... ก็หุ่นไอ้พี่จีบแม่งโคตรเซ็กซี่ เอาง่ายๆแซ่บลืมอ่ะครับ ฮือ ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอน้ำลายไหลไปบ้างหรือเปล่า

"เงียบอีก.. ไปอาบน้ำไป จะสายแล้ว"

"ครับๆ"

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่จีบก็พาผมลงมาชั้นล่างของบ้าน เจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้สี่ตัวรีบพุ่งเข้ามาคลอเคลียทันที ไม่เว้นแม้แต่ผมก็ยังโดนไปด้วย เพิ่งเห็นว่าตัวสีขาวที่ชื่อข้าวแช่ตัวเล็กพอๆกับไอ้ข้าวเหนียวที่มาแกล้งผมเลย

"พี่จีบๆ ดูไอ้ข้าวเหนียวดิ ปีนขาผมใหญ่เลย"
ผมชี้ชวนให้พี่จีบที่กำลังลูบหัวข้าวปั้นเล่นอยู่มองข้าวเหนียวที่พยายามยืนแล้วปีนขาผมอยู่

"สงสัยจะติดใจมึงแล้วมั้ง ใช่ไหมข้าวเหนียว มาหาพ่อมา"
พี่จีบตบมือลงบนขาเบาๆเรียกข้าวเหนียวให้เข้าไปหา มันมองตาวาวก่อนจะรีบวิ่งไปหาพ่อ ดูมีความสุขทั้งคนทั้งหมาจังวะ... ทำไมรู้สึกอิจฉาตะหงิดๆ หรือผมจะแพ้หมา

"ติดใจอะไรวะพี่ ผมไม่ได้เล่นอะไรกับมันเลยนะ"
ผมว่าก่อนจะเดินตามคนที่อุ้มข้าวเหนียวไปนั่งบนโซฟา ไอ้สามหน่อที่เหลือก็แยกย้ายกันเดินเล่นไปมาบริเวณใกล้ๆ ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันก่อนจะถือวิสาสะลูบหัวไอ้หมาเด็กเล่น ขนนุ่มดีว่ะ ถ้าได้กอดรับรองจะไม่ปล่อย หึหึ

"ปกติข้าวเหนียวไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้าเท่าไหร่ แต่กับมึงนี่.. รีบวิ่งไปนอนทับเลย"
พูดจบก็ขำเอิ้กอ้ากขึ้นมาอีกรอบ สงสัยว่าเจ้าตัวคงเห็นตั้งแต่มันขึ้นมานอนทับผมแน่ๆแต่ไม่ยอมไล่ ฮึก ปล่อยให้ผมโวยวายเป็นคนบ้าอยู่ได้ พี่จีบคงรักผมมากสินะ!

"จะฆ่าผมให้ตายเพราะหวงพ่อมันป่ะ"
ผมว่าก่อนจะมุ่ยหน้าใส่ข้าวเหนียวที่ปีนขึ้นมานอนบนตักผมหน้าตาเฉย ทำมาอ้อนออเซาะนะ ทีเมื่อเช้าร่วมมือกันกับพ่อมึงแกล้งกูอยู่เลย

"หมาที่ไหนจะฆ่าแม่ตัวเองได้ลงวะ ตลกละมึง"
พี่จีบมองผมก่อนจะยักคิ้วกวนให้กัน ผมเบิกตาค้างอ้าปากพะงาบๆ ไม่ได้ตกใจที่โดนหาว่าเป็นแม่หมา แต่พ่อหมาแม่หมาเป็นเป็นของคู่กันนี่ดิ อยู่ๆแก้มก็ร้อนวูบวาบขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

"แม่อะไรวะ ไม่คุยด้วยแล้ว หิวข้าว!"
ผมลุกพรวดแล้วเดินดุ่มๆไปที่ห้องครัวทันที แต่...ห้องครัวมันอยู่ส่วนไหนของบ้านยังไม่รู้เลย ตามทางก็เจอเข้ากับข้าวแช่ตัวสีขาวสะอาดกำลังนอนเกลือกกลิ้งบนพื้น ผมนั่งยองๆก่อนจะลูบหัวมันเล่น ชอบนะกับน้องหมาเนี่ย แต่ไม่มีปัญญาจะเลี้ยง เพราะพ่อกับแม่ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่ จะลำบากให้แม่บ้านเลี้ยงก็ยังไงอยู่ เกรงใจเขา

"ไหนบอกหิว จะกินไอ้ข้าวแช่แทนหรือไง"
พี่จีบยืนค้ำหัวกันก่อนจะยักคิ้วกวนส่งมาให้ ผมเบ้ปากแล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ

"หาครัวไม่เจออ่ะ แล้วนี่แม่กับซารังไปไหนกันหมด"
ผมหันซ้ายหันขวาก็ไม่พบทั้งสองคน เจอแต่แม่บ้านยิ้มหวานส่งให้อยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน

"มึงนี่นะ แม่กับซารังออกไปไร่แล้ว เราค่อยตามไปทีหลัง"
พี่จีบพูดก่อนจะถือวิสาสะคว้าข้อมือผมให้เดินตามกันไปที่โต๊ะอาหารซึ่งอยู่อีกฟากของบ้าน โต๊ะกลมหมุนสวยงามขนาดใหญ่ พร้อมด้วยเก้าอี้สีครีมอีกหกตัว อาหารเช้าสไตล์ยุโรปถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย

"ไปล้างมือก่อนไป"
พี่จีบดันหลังผมให้เดินไปที่ห้องครัวใกล้ๆ ส่วนเขานั่งรออยู่ที่โต๊ะ ผมจัดการล้างมือและเช็ดจนแห้งก่อนจะเดินกลับมานั่งข้างๆกัน ไข่ดาว ไส้กรอก เบคอน แฮม ขนมปังปิ้งทาเนยทำให้น้ำย่อยของผมทำงานแทบจะในทันทีที่เห็น

"กินซะ"
พี่จีบว่าก่อนจะส่งขวดซอสมะเขือเทศมาให้กัน ผมรับมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณร่างสูง แล้วตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของตัวเองไป

ตอนนี้เราทั้งสองคนอยู่บนรถที่กำลังมุ่งหน้าขึ้นดอยไปไร่กาแฟของครอบครัวพี่จีบ หนทางออกจะลำบากเล็กน้อยแต่ผมก็ไม่หวั่น แต่ที่หน้าหนักใจคือไอ้สองตัวที่ยึดตักผมเป็นที่นอนอยู่เนี่ยสิ.. จะตามมาทำไมวะเนี่ย

"เอาข้าวเหนียวกับข้าวแช่ไปด้วยจะดีเหรอพี่"
ผมถามในขณะที่หมาทั้งสองตัวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของผม มือเรียวยกขึ้นลูบตั้งแต่หัวจรดหางด้วยความเพลิดเพลิน พี่จีบเหลือบมามองกันเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

"มันชอบออกมาเที่ยว... ตอนเดือนสองเดือนกูชอบพามันออกไปนั่งรถเล่นบ่อยน่ะ เลยนิสัยเสียแบบนี้"
พี่จีบอธิบายส่วนผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ

"เอ้อ แล้วแม่พี่อยู่เชียงรายตลอดเลยเหรอ"
อันนี้ผมสงสัยมานานแล้ว เพราะลูกทั้งสามคนรวมถึงพ่ออยู่บ้านในกรุงเทพฯแล้วทำไมแม่มาโผล่อยู่ที่เชียงรายซะได้

"แม่มาเชียงรายปีละครั้งช่วงพวกกูปิดเทอมนี่ล่ะ พอหมดปิดเทอมแม่ก็กระเตงลูกรักสี่ตัวกลับกรุงเทพฯ"

"อ๋อ..."
หลังจากนั้นบทสนทนาของเราก็จบลงเพราะไอ้ข้าวเหนียวดันตื่นขึ้นมาแล้วนอนกลิ้งจนเผลอไปทับไอ้ข้าวแช่ คราวนี้งานใหญ่เลยครับเพราะมันตื่นมาจะเล่นกัน ลำบากผมต้องขยับขยายตัวเองไปนั่งเบาะหลังแล้วคุมมันสองตัวเอาไว้ไม่ให้รบกวนพี่จีบขับรถจนไปถึงไร่นั่นล่ะ ผมนี่แทบจะคลานลงจากรถเพราะใช้พลังงานเล่นกับหมาสองตัวเยอะมาก

ผมอุ้มไอ้ข้าวเหนียวที่ติดผมแจลงจากรถ ส่วนไอ้ข้าวแช่โดนพ่อหมาอุ้มไปเรียบร้อย เราเดินลัดเลาะไปตามต้นกาแฟที่สูงเทียมไหล่ไปเรื่อยๆจนเจอแม่และซารังที่ยืนโบกมืออยู่ไม่ไกล ถึงจะมีแดดแต่ไม่ได้ร้อนเพราะอากาศบนดอยบวกกับอากาศช่วงปลายปี

"ไม่เอาลูกผมมาด้วยอ่ะ"
ซารังยิ้มแฉ่งก่อนจะคว้าไอ้ข้าวแช่ไปจากมือพี่จีบที่ส่งให้กัน ผมแทบอยากตะโกนใส่หน้าว่า 'แค่ไอ้สองตัวเนี่ยกูก็จะตายแล้ว ถ้าเอาลูกมึงมาด้วยกูคงตายตั้งแต่ขึ้นรถ'

"แค่สองตัวนี้ก็ซนแล้ว ลูกมึงมาด้วยกูคงตกเขาตาย"
พี่จีบพูดก่อนจะผลักหัวน้องเบาๆ ซารังมุ่ยหน้าก่อนจะพาไอ้ข้าวแช่ไปเดินเล่นซะอย่างนั้น ส่วนไอ้ข้าวเหนียวพ่อเห็นแม่ก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กๆจะไปหาทันที ผมเลยส่งเจ้าตัวน้อยให้แม่อุ้มแทน

"ข้าวเหนียวดูท่าทางจะติดแม่มากเลยนะครับ"
ผมพูดก่อนจะยิ้มให้ แม่พี่จีบยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบคำถาม

"แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ข้าวเหนียวกับข้าวแช่นอนกับแม่ทุกคืนเลยนะ"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเบิกตากว้างเพราะคิดอะไรบ้างอย่างขึ้นได้ ไอ้พี่จีบบอกว่าข้าวเหนียวกับข้าวแช่ยึดห้องนอนแขกไม่ใช่หรือไง แล้วทำไม.... อ๊าก ไอ้พี่จีบ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ หลอกให้ผมไปนอนด้วยกันนี่หว่า ทำไมเป็นคนร้ายกาจแบบนี้นะ!

"ไอ้พี่จีบ!"
ผมเผลอตะโกนใส่แล้วกำหมัดทุบลงบนอกคนที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อเบ้ทันทีที่รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด แม่มองผมสลับกับพี่จีบก่อนจะขอตัวไปเดินเล่นซะดื้อๆ ดีครับ ผมจะกระทืบไอ้พี่จีบ แม่ไม่อยู่ดูน่ะดีแล้วครับ

"อะไรวะ ทุบกูทำไมเนี่ย"

"ก็เมื่อคืนหลอกผมให้ไปนอนด้วยทำไมเล่า!"
ผมเหวเสียงดังแต่ไม่ยอมสบตาคนตรงหน้าที่เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปเมื่อคืน พี่จีบขยับตัวเข้ามาชิดก่อนจะวาดแขนกอดรอบเอวผมจากทางด้านหลังอย่างหน้าตาเฉย อยากดิ้นอยู่หรอกนะแต่มันหนาวอ่ะ กอดไว้แบบนี้มันก็อุ่นดี

"ถ้าไม่หลอก มึงจะยอมไปนอนกับกูหรือไง"
เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นชิดใบหูจนผมต้องย่นคอหนีเพราะรู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้ ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกำลังเค้นสมองตามหาคำตอบของคำถามนั้น.. นั่นสิถ้าไม่หลอกกันผมจะยอมนอนกับเขาเหรอ

"บอกดีๆก็ได้ ไม่ต้องหลอก"
ผมว่าเสียงอ่อย เอาจริงๆแล้วคำตอบของคำถามพี่จีบมันโคตรง่ายเลยนะ แต่ผมไม่อยากตอบให้อีกคนดีใจหรอก ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้พี่มันก็ทำให้ผมเขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว ถ้าบอกไปอาจจะโดนจู่โจมจากเขาจนผมหัวใจวายตายไปก่อนจะได้คบกันก็ได้

"ถ้าบอกแล้วจะยอมเหรอ"

"ถ้าผมไม่ยอมพี่ก็อ้อนสิครับ ไม่เห็นยากเลย"
งานแกล้งก็มา.. เอาจริงๆผมอยากเจอพี่จีบโหมดอ้อนอีกสักครั้ง ตอนเขาทำตัวน่ารักๆผมนี่แทบละลายไปกองกับพื้น ถึงมันจะเป็นการทำร้ายตัวเองแต่ผมก็ยอมนะ

"ให้กูอ้อนเนี่ยนะ ไม่เอาด้วยหรอก กระดากปาก"
พี่มันว่าก่อนจะแกล้งกดคางลงบนไหล่ก่อนจะออกแรงขยับหมุนวนจนรู้สึกจั๊กจี้ ผมขยับตัวดิ้นเบาๆเพื่อหนีจากคางมน แต่พี่จีบรัดรอบเอวผมไว้แน่นเกินกว่าจะหนี

"งะ งั้นคืนนี้ผมไม่นอนกับพี่แล้ว"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักแต่กดให้มันต่ำลงเหมือนจะจริงจัง แต่เปล่าเลยครับ แค่กำลังตัวรุมๆ เขินๆยังไงไม่รู้ อยู่ใกล้กับพี่จีบนานๆแล้วหัวใจมันทำงานหนัก

"ไม่เอาดิวะ จะทิ้งกูหรือไง มาด้วยกันก็นอนด้วยกันดิ"
พี่จีบเริ่มเข้าโหมดเด็กน้อยงอแงพร้อมกระชับวงแขนกอดผมแน่นขึ้น จมูกโด่งกดย้ำลงบนไหล่คล้ายกำลังอ้อนวอน ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นยิ้มกับการกระทำของคนตัวโต ไม่ไหวว่ะ รีเควสเองจะตายเองแบบนี้ ไม่โอเค

"มาด้วยกันสามคนนะ ก็ต้องนอนด้วยกันสามคนไหม"
ผมพูดออกไปเมื่อคิดตามพี่จีบแล้วได้คำถามเชิงกวนตีนแบบนั้น นี่สาบานเลยนะว่าไม่ได้กวนตีน จริงๆนะ เชื่อผมสิ เชื่อนะ หึหึ

"คิสครับ นอนกับพี่เถอะนะ นะครับนะ คนดีของพี่จีบ ~"
พี่จีบลากเสียงยาวท้ายประโยค น้ำเสียงออดอ้อนจนผมเผลอใจสั่นแรง แก้มเห่อร้อนลามไปถึงใบหูอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกแปลกประหลาดกำลังถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย ผมกำลังอยากขย้ำพี่จีบ ทำไมถึงอ้อนได้น่ารักขนาดนี้วะ นี่แค่คำพูดนะยังไม่เห็นสีหน้าเลย

"ไหน...ไหนบอกว่าจะไม่อ้อนไง กระดากปากไม่ใช่เหรอครับ"
ผมถามก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายแล้วถึงจะเม้มปากแน่นจนเจ็บไปหมดก็ไม่สามารถกลั้นยิ้มได้เลยยกมือขึ้นมาปิดปากแทน โอย ลำบากอะไรขนาดนี้วะคนเรา แล้วอะไรมายืนอ้อนกันกลางไร่กาแฟวะ ดีนะที่คนงานเขาไม่เดินมาแถวนี้ไม่อย่างนั้นคงได้อายแน่ๆ

"ยอมว่ะ ถ้าอ้อนแล้วมึง 'นอน' ด้วยกัน"
เสียงกระซิบแผ่วเบาทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบ ทำไมพี่จีบต้องเน้นคำว่านอนด้วยวะ ชักจะแปลกๆเกินไปแล้วนะ

"ทำไมเน้นจังคำว่า 'นอน' เนี่ย"
ผมถามก่อนจะเอี้ยวหน้าไปมอง พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะตอบกลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับตัวเองไม่ได้คิดเรื่องอกุศลอะไร

"ก็หมายความว่านอนเฉยๆ หรือมึงคิดลึก"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาจนผมต้องหลบสายตา เปลี่ยนโพกัสใหม่อย่างเร่งรีบ ผมบ่นพึมพำงุ้งงิ้งอยู่คนเดียวก่อนจะตอบกลับไป

"พี่นั่นล่ะ ชอบชวนให้ผมคิดลึก"

"กูชวนให้มึงสมยอมต่างหาก"
ผมเบิกตากว้างก่อนจะรัวมือลงบนแขนแกร่ง พี่จีบรีบคลายอ้อมกอดออกทันทีก่อนจะเบ้หน้า

"รุนแรงนะมึง"

"พี่ชอบแกล้งผมอ่ะ สมน้ำหน้า!"

"กูไม่ได้แกล้ง จริงจังอยู่นะ"
สายตาที่พี่จีบใช้มองกันไม่มีแววของความขี้เล่นเลยสักนิด จนผมเผลอถอยหลังหนีเขา.. นี่มันจริงจังจะปล้ำผมขนาดนั้นเลยเหรอวะ

"จะ จริงจังเรื่องจะปล้ำผมเนี่ยนะ"
ผมพูดตะกุกตะกักไม่ยอมมองหน้าพี่จีบ ได้ยินคนตรงหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่จนน่าแปลกใจเลยลองเหลือบตามอง สีหน้าเขาเหมือนกำลังเหนื่อย

"เปล่า แค่มึงสมยอมมาเป็นแฟนกูให้ได้ก่อนเถอะ คนอะไรจีบยากฉิบหาย"
พี่มันว่าก่อนจะยกมือขึ้นโยกหัวผมไปมาแล้วระบายยิ้มออกมาบางๆ ผมได้แต่แอบมองเขาอยู่แบบนั้น ผมจีบยากเหรอ...เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่ะ

"ไปเก็บเมล็ดกาแฟกัน"
พี่จีบลดมือลงมากอดคอกันแล้วออกแรงดันให้ผมเดินไปข้างหน้า ไม่มีการขัดขืนหรืองอแงใดๆหลังจากนั้น

ผมกับพี่จีบเดินผ่านต้นกาแฟมากมาย ผลกาแฟยังคงมีสีเขียวหรือเขียวปนแดง เขาบอกว่าผลสีแดงล้วนทั้งเมล็ดเท่านั้นถึงจะเก็บได้

"เก็บตรงนี้ล่ะ"
พี่จีบหยุดเดินแล้วลดมือลงจากบ่า ผมมองต้นกาแฟตรงหน้าที่สูงเทียมหัว บนต้นมีผลกาแฟสีแดงเต็มไปหมดจนน่าเขย่ามันลงมา

"เก็บทีละเม็ดนะเว้ย ห้ามรูดจากก้าน มันจะเสีย"
ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรับตะกร้าสานใบโตมาถือไว้ ผมเริ่มเลือกเมล็ดสีแดงๆแล้วค่อยเด็ดมันออกจาต้นอย่างระมัดระวัง

"แบบนี้ป่ะพี่"
ผมยื่นเมล็ดกาแฟที่ตัวเองเก็บไปตรงหน้าของเขา ดวงตากลมจับจ้องก่อนจะส่ายหน้าไปมา

"เก็บลูกแดงๆ สีแดงเสมอกันทั้งลูก"
ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเก็บเมล็ดกาแฟเมื่อครู่ลงกระเป๋าเสื้อแทน เพราะมันมีสีเขียวแซมอยู่เล็กน้อย ผมเอื้อมือไปเก็บลูกใหม่แล้วส่งให้พี่จีบดูอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าหล่อระบายยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ผมยิ้มกว้างก่อนจะเริ่มเก็บต่ออย่างสนุกสนานจนเริ่มเที่ยงเลยเลิกเก็บกันไปโดยปริยาย

"จีบ"
เสียงคุณแม่ยังสาวเรียกลูกชายตัวเองที่พยายามยัดเมล็ดกาแฟดิบใส่ปากผม เจ้าตัวดีชะงักกึกก่อนจะปล่อยผมให้เป็นอิสระ

"ครับแม่"
พี่จีบขานรับอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกรงกลัวเลยว่าแม่ของตนจะด่าว่าเรื่องแกล้งผม

"แกล้งน้องแบบนั้นระวังเถอะ น้องจะไม่รักเรานะ"
พี่จีบมุ่ยหน้าแล้วหันขวับมามองกันอย่างเอาเรื่อง ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะอุ้มไอ้ข้าวเหนียวขึ้นมากอดไว้ ตอนนี้เรากลับมาที่บ้านกันแล้วครับ ผมกับพี่จีบนั่งอยู่บนพรม ส่วนแม่นั่งอยู่บนโซฟา ซารังกำลังทำขนมอยู่ในครัวเตรียมเพื่อพรุ่งนี้เราจะขึ้นดอยภูชี้ฟ้า

"แม่อย่าแช่งผม.. ตอนนี้มันก็ยังไม่รักผมเลย"
พี่จีบมองมาด้วยสายตาเศร้าสร้อยจนผมเผลอหลุดปากบอก แต่ไม่ได้ครับ บอกไปตอนนี้มันไม่ได้บรรยากาศสักเท่าไหร่ แถมมีแม่นั่งอยู่ด้วย ความด้านของหน้ายังมีไม่มากพอจะทำอะไรแบบนั้น

"พยายามเข้าค่ะลูกชาย อะไรที่ได้มายากๆ แม่เชื่อว่าลูกจะรักษามันเท่าชีวิต"
พี่จีบพยักหน้ารับหงึกหงัก ส่วนผมได้แต่แอบยิ้มทั้งๆที่ก้มหน้าลูบขนไอ้ข้าวเหนียวอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งครอบครัวเขาออกตัวแรงกันมากจนผมแทบลาตาย ไม่ไหวจริงๆ ใครๆก็รุมอ้อนให้ผมยอมเป็นแฟนกับพี่จีบเหลือเกิน

"แม่ครับ พรุ่งนี้ไปภูชี้ฟ้าด้วยกันหรือเปล่า"

"ไม่ค่ะ ลูกไปกับน้องๆเถอะ แก๊ปกันคินก็จะไปสมทบใช่ไหม"
ผมรีบเงยหน้าขึ้นมาแม่สลับกับพี่จีบทันที ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่แก๊ปกับพี่คินจะตามขึ้นดอยด้วย แล้วไปกันแบบเราสี่ห้าคน คือก็ไม่อยากคิดอะไรมาก แต่พี่แก๊ปกับพี่คิน ผมกับไอ้พี่จีบ มันก็เป็นคู่ๆไม่ใช่เหรอวะ แล้วซารังล่ะ...

"ใช่ครับ เดี๋ยวน้องตินเพื่อนซารังจะตามไปด้วย"
ผมถึงบางอ้อกับคำตอบของพี่จีบ ที่แท้เพื่อนของซารังก็จะตามไปด้วยนี่เอง

"โอเค ดูแลน้องๆกับเพื่อนๆดีๆนะคะ"

"ครับผม"

ตกเย็นผมก็โดนพี่จีบลากออกไปถนนคนเดินเชียงราย หรือที่เขาเรียกกันว่า 'กาดเจียงฮายรำลึก' ยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกันที่คนเยอะขนาดนี้ แทบจะไหลไปตามผู้คนโดยไม่ต้องขยับขาเดินเลนด้วยซ้ำ จะแวะซื้ออะไรครั้งหนึ่งต้องหลบแล้วหลบอีกให้พ้นทางเดิน พี่จีบบอกว่าถนนคนเดินเชียงใหม่คนเยอะกว่านี้อีก ผมถึงกับร้องเสียงหลงเลยทีเดียว

"หิวหรือยัง"
เสียงทุ้มดังมาจากคนที่เดินอยู่เคียงข้างกัน ดวงตาคมมองผมตลอดเวลาที่ยังไม่ได้คำตอบไป

"นิดหน่อยครับ"
ผมตอบก่อนจะไล่สายตาดูร้านค้ามากมาย ของฝากพื้นเมืองเยอะแยะละลานตาไปหมด

"อยากกินอะไรบอกได้นะ"
พี่จีบว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือกันเบาๆ ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะขมวดคิ้วมอง

"เดี๋ยวหลงกัน คนเยอะ"
คำตอบที่ตรงกับคำถามในใจของผมดังขึ้น ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาว่า คนเริ่มเยอะถ้าไม่จับกันเอาไว้อีกคนอาจจะไหลไปตามกระแสชนได้อย่างง่ายดาย

"อื้อ อยากกินขนมจีนน้ำเงี้ยวอ่ะ พี่เคยกินป่ะ"
ผมนึกเมนูอย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงพอตัว ขนมจีนน้ำเงี้ยวที่มีน้ำแกงสีส้มอมแดง ใส่เลือดไก่ หมูสับ กระดูกหมู หรือแม้แต่ตีนไก่... พูดแล้วน้ำลายไหลอ่ะ ต้องอร่อยมากแน่ๆ

"เคยกินนะ"
ร่างสูงตอบก่อนจะสอดส่ายสายตาหาอะไรบ้างอย่างก่อนจะชี้มือไปทางด้านหน้า

"นั่นไงร้านขายขนมจีนน้ำเงี้ยว ไปกินกัน"
พี่จีบกึ่งลากกึ่งจูงผมเข้าไปที่ร้าน เขามีโต๊ะเล็กๆให้สำหรับนั่งกิน พี่จีบอาสาสั่งให้ผมเรียบร้อย ส่วนตัวเองสั่งแค่น้ำอัดลมกิน

"ทำไมพี่ไม่สั่งด้วยอ่ะ ไม่หิวเหรอครับ"
ผมเอียงคอถามด้วยความสงสัย ให้ผมนั่งกินคนเดียวแล้วพี่มันนั่งเฝ้าอาจจะดูแปลกๆไปป่ะวะ

"มันเผ็ด กูกินแล้วปากเจ่อทุกที"
พี่จีบเบ้ปากใส่กัน ผมหลุดขำออกมาเล็กน้อยเพราะเพิ่งคิดได้ว่าพี่เขาไม่กินเผ็ด มีครั้งหนึ่งไปกินข้าวด้วยกัน พี่มันดันกัดใส่เม็ดพริก คายแทบไม่ทัน วุ่นวายเติมน้ำใส่แก้วให้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเจ้าตัวอิ่มน้ำแทนข้าวไปโดยปริยาย

"หัวเราะอะไรวะ ลูกครึ่งกินเผ็ดไม่ได้ไม่เห็นจะแปลก"
ลูกครึ่งไทยเกาหลีหน้างอง้ำเหมือนเด็กน้อยขี้งอน ผมรีบเม้มปากกลั้นขำทันทีเพราะกลัวคนตรงหน้าโกรธ

"แต่พริกเกาหลีก็เผ็ดนะพี่ ซี๊ดซ๊าดมากอ่ะ"
ผมเคยกินแกงกิมจิสูตรเผ็ดจัดอยู่ครั้งหนึ่ง ซูดน้ำเข้าไปคำแรกสำลักน้ำตาเล็ดน้ำตาไหลไอจนแสบคอไปหมด ก็เดือดร้อนพี่จีบรินน้ำใส่แก้วไปอีก

"หึ มันเผ็ดไม่เหมือนกัน เอ้า กินได้แล้วจะได้เดินต่อ"
พี่จีบเลื่อนจานขนมจีนมาตรงหน้ากันหลังจากที่แม่ค้านำมาเสิร์ฟ ผมหยิบช้อนส้อมขึ้นมาจับให้มั่นแต่แล้วก็ต้องเบรกเมื่อเจอก้านอะไรแข็งๆสีน้ำตาลเข้มในจาน ผมใช้ช้อนตักมันขึ้นมาก่อนจะถามคนตรงหน้า

"นี่อะไรอ่ะ"

"ดอกงิ้ว แดกไม่ได้หรอก ไม่รู้จะใส่มาทำไม"
พี่จีบกระซิบกระซาบก่อนจะเหลือบตามองแม่ค้าวัยป้า

"พี่นี่ เดี๋ยวป้าเขาก็ไล่เราออกจากร้านหรอก"
ผมว่าก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เขา พี่จีบเลิกคิ้วก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงบอกว่าไม่แคร์ ผมส่ายหน้าแล้วตักขนมจีนกินไปเรื่อยๆ อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าปีหน้าได้มาอีกจะกลับมากินอีกนะ

หลังจากกินอิ่มเรียบร้อยพี่จีบก็จูงมือผมเดินไปดูพวกของฝาก เป็นของแฮนด์เมดทำมือกระจุกกระจิก ไม้แกะสลักเอย ที่เสียบปากกาเอย พวงกุญแจเอย.. เลือกซื้อไม่ถูกเลยครับ ได้แค่ขนมกลับมาเต็มไม้เต็มมือ ถึงเราจะเดินเล่นที่ถนนคนเดินนานแค่ไหนแต่มือเราทั้งคู่ไม่เคยจะปล่อยออกจากกัน ต่างคนต่างเป็นห่วงกันและคอยดูแลกันและกันอยู่เสมอ ผมมีความสุขนะ มีความสุขที่ตัดสินใจมาเชียงรายกับพี่จีบ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้กัน




----------------------------------------




Q & A กับจีบ

Q : พาน้องไปภูชี้ฟ้านี่มีแผนการอะไรหรือเปล่า?
A : ไม่บอกครับ ความลับ ^^






พี่จีบเข้าพาน้องขึ้นไปสอย เอ้ย ไปเที่ยวภูชี้ฟ้าด้วยนะ บรรยากาศโรแมนติกแน่ๆ อู้วว
ไอ้พี่จีบมันร้ายนะอย่าลืม บางทีอาจจะมีแผนการอะไรอยู่ก็ได้ หึหึ รอติดตามกันเนอะ

ขอบคุณทุกคนที่ชอบพี่จีบ น้องคิส และทุกๆคนในเรื่องน้า ~
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเลย ทั้งคอมเม้นท์และไม่คอมเม้นท์ (เราไม่ได้อะไรกับเรื่องคอมเม้นท์นะ แต่เราเป็นคนชอบอ่านคอมเม้นท์อ่ะ 555555 มันแบบ... ได้รู้ว่าคนอ่านรู้สึกยังไงกับนิยายของเรา)

เราอยากรวมเล่มนะ... มีใครเห็นด้วยบ้าง 5555
(แต่งจบอาจจะลองส่งสำนักพิมพ์ที่ไหนสักที่ ถ้าดวงดีอาจจะได้เห็นเป็นรูปเล่ม)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2016 08:28:57 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่จีบวางแผนอะไรไว้บอกมานะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
อยากจะตามขึ้นดอยไปดูเค้าจีบกันเลย   :laugh:

ออฟไลน์ darksnow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ร้ายกาจฮ่าาา มากันครบคู่เลยนะ พี่คิน พี่แก๊ป ซารัง น้งติน สามคู่ ฮ่าา คิส จะสารภาพมั้ยน้อ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
เมื่อไหร่จะ เป็นเเฟนกันค่ะ น้องจูบจีบยาก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ง่อวววว พี่จีบมีความมีลับลมคมนัย -.,-
รอลุ้นตอนหน้าครัช อิอิ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ตลกคิสที่ชอบถูกอ้อน น้ออ
รอบดูความโรแมนติก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักกรุบกริบดีแท้
อยากได้ฮัสกี้มานอนด้วยสักตัวมั้งจัง 555

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ขึ้นภูน่าจะขอน้องเป็นแฟนแน่เลย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
จะขึ้นภูแล้วลุ้นให้คิสรับเป็นแฟนพี่จีบซะที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

"พยายามเข้าค่ะลูกชาย อะไรที่ได้มายากๆ แม่เชื่อว่าลูกจะรักษามันเท่าชีวิต"
พี่ตีบพยักหน้ารับหงึกหงัก

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่จีบแกล้งน้องตลอด
แต่คนอ่านอย่างเราชอบ

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ดอกงิ้วกินได้นะจ๊ะพี่จีบ  :m26:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ออกตัวแรงกับทั้งบ้านจริงๆ ด้วย น้องคิสต้องรีบตกลงเป็นแฟนพี่จีบได้แล้วล่ะ อิอิ

ปล. เราอยากฟัดข้าวเหนียวกับข้าวแช่ด้วยอ่าาาาา ฟัดทั้งสี่ตัวเลยได้ไหมอ่าาา? ฮาาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รอคิสรับรักพี่จีบอ่ะ รับรักเร็วๆนะเดี๋ยวพี่แกจะแห้งเหี่ยวไปซะก่อน 555555 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
กะไปขอน้องเป็นแฟนที่ภูชี้ฟ้ารึป่าวพี่จีบ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อยยยย!! อิจมั้ยละ

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เขามากันเป็นคู่ๆ เลยอะ  :mew2:

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 22 -




อากาศช่วงเช้าในเดือนธันวาคมเย็นยะเยือกจนต้องขยับกายหาไออุ่นจากคนด้านข้าง หมอนกอดที่กั้นเราสองคนเอาไว้ตกหล่นไปอยู่ที่พื้นตอนไหนไม่อาจทราบได้ ดวงตากลมหลับตาพริ้มเพราะไม่อยากเปิดเปลือกตา ใบหน้าหล่อปนน่ารักซุกเข้ากับอกแกร่งอย่างลืมตัว... ไม่ได้ลืมตัวหรอก แค่ทำเนียนเป็นละเมอกอดคนด้านข้าง ไม่อยากให้ถูกจับได้ว่าจงใจ เพราะมันเขินแต่เหมือนจะโดนจับได้

"จะกอดก็กอดดีๆ วาดมือสะเปะสะปะแบบนั้นจะตบกูหรือไง"
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบเบาๆข้างหู ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะผละออกจากอกแกร่งแล้วเปิดเปลือกตาช้อนมอง

"หูย อะไรอ่ะ อุตส่าห์เนียนแล้วนะ"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มแล้วหลบสายตาคมที่จ้องมองกัน แขนแกร่งวางพาดลงบนเอวสอบของผมก่อนจะกระชับกอดหลวมๆ ใบหน้าผมฝังลงบนอกอย่างเดิม มีอาการเขินตั้งแต่เช้าไม่ดีแน่ๆเลยว่ะ ถึงภายในห้องจะยังสลัวๆก็เถอะ

"มึงหลับตา กูลืมตาจับไม่ได้ก็แปลกแล้ว เด็กโง่"
พี่จีบว่าก่อนจะขำออกมาเบาๆ ปลายจมูกโด่งกดลงกลางกระหม่อมอย่างอ่อนโยน วูบหนึ่งผมเผลอหดคอหนีเพราะเกิดความวาบหวามในใจ คำพูดของเขาไม่ได้หวานอะไร แต่การกระทำนี่สิชวนใจเต้นราวกับตีกลองรบ ถ้าผมอยู่ในสนามรบแล้วมีศัตรูเป็นนายอัศวิน นายอินธิพัฒน์คงแพ้ราบคาบ

"ด่าผมว่าโง่ แล้วรักเด็กโง่อย่างผมป่ะ"
ครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ถึงได้ตั้งคำถามไปแบบนั้น ถามเองเขินเองแบบนี้ก็แย่... มือที่เคยวางนิ่งๆบนเอวเขาตอนนี้กลับกำเสื้อยืดสีขาวสะอาดของอีกฝ่ายไว้แน่น

"ไม่รัก..."

"....."
โคตรเจ็บปวดที่หัวใจจนพูดไม่ออก

"ไม่รักก็บ้าแล้ว"
พี่จีบหัวเราะเบาๆเมื่อแกล้งผมได้สำเร็จ จมูกโด่งฝังลงบนแก้มผมอย่างจาบจ้วง ผมฟึดฟัดเล็กน้อยก่อนจะหยิกเอวเข้าให้ หมั่นไส้ที่สุด

"แกล้งกันตลอดว่ะ ทำตัวไม่น่ารักเลย"
ผมว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง เบะปากลงน้อยๆอย่างขัดใจ พี่จีบก้มหน้าลงมาแล้วส่งยิ้มกวนๆให้กัน

"ถามแต่กูว่ารักมึงไหม ให้กูถามกลับบ้างได้ไหม"
เสียงพี่จีบเบาหวิวจนผมเผลอมองสบตากับเขา จะถามอะไรถึงได้ทำสายตาอ้อนวอนขนาดนั้น

"ถาม...อะไรเหรอครับ"
เสียงของผมขาดห้วงเมื่อใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้จนหน้าผากของเราแตะกัน ลมหายใจอุ่นๆรินรดลงบนใบหน้า สร้างความหวามไหวขึ้นจนรู้สึกว่าตัวเองจะละลายทั้งๆที่อุณหภูมิอากาศอยู่ในหลักสิบกว่าองศาแค่นั้น

"รักพี่หรือยังครับ"
คำพูดอ่อนหวานมาพร้อมกับสายตาหวานเชื่อม ผมเม้มปากแน่นก่อนจะซุกหน้าลงกับอกแกร่ง ไม่ใช่ว่าลำบากใจที่จะตอบ แต่มันเขินจนพูดไม่ออกเลยได้แต่เงียบใส่อยู่แบบนี้

"....."

"ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร ลุกไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะได้ออกเดินทาง"
ผมอ้าปากหวอเมื่อคนด้านข้างคลายกอดแล้วผละตัวออกไปดื้อๆ ทิ้งให้ผมทำตัวไม่ถูกอยู่บนเตียง พี่จีบโกรธไหม หรือเหนื่อยที่จะตามคนอย่างผมแล้ว... อยากเดินไปบอกความรู้สึกของตัวเองตอนนี้แต่คงไม่เหมาะเท่าไหร่เพราะเขาหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว

เราออกเดินทางกันตอนแปดโมงเช้าโดยใช้เส้นทางเชียงราย-เทิง แต่ละคนได้ขนมปังทาแยมมาประทังชีวิตกันคนละแผ่น กระเป๋าสัมภาระพร้อมกับเต็นท์สองหลังถูกพี่จีบขนโดยตัวคนเดียว ปล่อยให้ผม ซารังและตินที่มาสมทบที่บ้านขึ้นไปนั่งรอบนรถอย่างกับคุณชาย แว๊บแรกที่ผมเจอตินนึกว่าเขาจะเป็นแฟนกับซารังเสียอีก แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นเพื่อนสนิทที่มีสถานะเป็นฝ่ายรับเหมือนกันไปซะนี่

"พี่คิสกินขนมป่ะ"
ซารังยื่นขนมขบเคี้ยวมาให้จากเบาะหลัง ผมส่ายหน้าเบาๆเพราะตอนนี้ไม่อยากกินอะไร ดูเหมือนคนข้างๆกันจะไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนอากาศตอนนี้เลยสักนิดเดียว ปกติจะต้องกวนตีนหรือหาอะไรมาแกล้งผม แต่นี้เดินทางมาร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้วเขายังนิ่งเงียบและเอาแต่สนใจเส้นทางตรงหน้า แปลกจนรู้สึกอยากถามว่าโกรธเรื่องเมื่อเช้าหรือเปล่า แต่ทำไม่ได้เพราะซารังกับตินก็อยู่ด้วย

"พี่จีบอ่ะ กินขนมไหม"
น้องเปลี่ยนเป้าหมายไปถามขนขับรถแทน ฝ่ายนั้นเหลือบตามองคนด้านหลังผ่านกระจกแล้วพยักหน้าเบาๆ ซารังยิ้มกริ่มก่อนจะส่งถุงขนมมาให้ผม

"หา.."
ผมอุทานอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่ก็รับถุงขนมมาแบบงงๆ จะให้เขาถือไว้แล้วให้พี่จีบหยิบกินล่ะมั้ง แต่คำพูดถัดมาของซารังทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบเลยทีเดียว

"ฝากป้อนพี่จีบด้วยนะครับ จะให้กินเองมันอันตราย... เนอะ"
มานงมีเนอะแล้วจะให้ปฏิเสธยังไงวะ ผมพยักหน้ารับแกนๆก่อนจะมองถุงขนมในมือสลับกับใบหน้าด้านข้างของพี่จีบ ผมตัดสินใจหยิบขนมชิ้นหนึ่งแล้วส่งไปตรงหน้าคนที่ทำเป็นไม่สนใจกัน ฝ่ายนั้นเหลือบตามองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

"ผมป้อน"
เสียงเบาหวิวราวกลับกระซิบแถมไม่กล้าสบตาคู่สนทนาอีก แค่ป้อนขนมไม่จำเป็นต้องเขินขนาดนี้ก็ได้มั้ง

"อยากป้อนเองหรือทำตามที่ซารังบอก"
น้ำเสียงเรียบเฉยตั้งคำถามที่ทำให้ผมเผลอสะดุดลมหายใจตัวเองไปหนึ่งจังหวะ เหลือบสายตาไปหาซารัง น้องทำเพียงแค่ยิ้มแหยส่งมาให้กันทำนองว่าฝากผมช่วยแก้ปัญหาด้วยนะ

"พี่โกรธผมเรื่องเมื่อเช้าเหรอ"
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจถามสิ่งที่คาใจมานานออกไป ขนมในมือถูกดึงกลับมาใส่ปากตัวเองดื้อๆ

"มีอะไรให้โกรธวะ คิดมากเกินไปนะมึง"
ถึงปากจะบอกว่าไม่โกรธแต่แทบไม่มองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ ถึงผมจะซื่อจะโง่แค่ไหน แต่ความรู้สึกของคนที่รักผมก็สังเกตมันอย่างดีมาตลอดนะ

"พี่จีบครับ..."
ผมเรียกเขาเสียงอ่อย ไม่รู้จะต้องเค้นด้วยวิธีไหนเขาถึงจะยอมพูดความรู้สึกจริงๆออกมา ยิ่งแย่ไปใหญ่เมื่อในรถไม่ได้มีแค่เราสองคนแบบนี้

"หยิบขนมมาป้อนหน่อย"
เป็นเขาเองที่เปลี่ยนเรื่องไปดื้อๆ แถมไม่ติดใจจะเอาคำตอบเรื่องที่ผมตั้งใจป้อนหรือทำตามคำบอกของน้องชายตัวเองอีก ได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆแล้วหยิบขนมไปจ่อที่ปาก

"นี่ครับ"
พี่จีบเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากงับลงมา ผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะกลีบปากหยักสัมผัสโดนปลายนิ้วมือ เขาไม่ได้ขยับหนีแต่กลับอ้อยอิ่งเหมือนจะกลืนกินนิ้วผมเข้าไปด้วย เผลอร้อนวูบขึ้นมาทั้งร่างกายอย่างช่วยไม่ได้จนต้องเบนหน้าหนีและดึงมือกลับอย่างเก้ๆกังๆ

"หวานกันจัง... ตินอิจฉา"
เสียงแซวดังลอยมาจากด้านหลังจนผมไม่กล้าหันไปมอง จนเรามาถึงน้ำตกภูซางซึ่งเป็นน้ำตกน้ำอุ่นอยู่ที่ประมาณสามสิบห้าองศาเหมาะแก่การพาตัวเองไปสัมผัสในยามอากาศหนาวแบบนี้

พวกเราเดินทอดน่องชมนกชมไม้ไปตามสะพานไม้ บ้างก็ยกโทรศัพท์มือถือในมือขึ้นมาถ่ายรูป บ้างก็ชี้ชวนกันดูนั่นนี่ไปตลอดทาง ซารังกับตินเดินนำไปแล้วทิ้งไว้แค่ผมกับพี่จีบที่เดินเคียงข้างกันอย่างช้าๆไม่รีบร้อน สายตาผมเหลือบมองเขาเป็นระยะเพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดปากพูด และแล้วโอกาสก็มาเมื่อพี่จีบหันมาสบตากันพอดี

"พี่จีบ..."

"หืม มีอะไร จ้องกันขนาดนั้นถ้าเป็นปลากัดกูคงท้องไปแล้ว"
พูดติดตลกแต่ปากกับตาไม่ได้รู้สึกสนุกตามไปด้วยเลย ผมเม้มปากสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะกลั้นใจพูดสิ่งที่คิดออกไป

"น้อยใจเรื่องที่ผมไม่ยอมตอบคำถามเมื่อเช้าเหรอ"
ผมถามในขณะที่สายตายังคงจับจ้องใบหน้าหล่อเหลา เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอมองกัน ไม่นานรอยยิ้มเล็กๆก็ผุดขึ้นที่มุมปาก

"เป็นห่วงความรู้สึกกูเหรอ"
สีหน้าของพี่จีบเหมือนจะกลับมาสดใสขึ้นอีกครั้งจนผมรู้สึกว่าตัวเองพลาดที่จงใจแสดงออกว่าเป็นห่วงทั้งคำพูดและแววตาออกไปขนาดโดนจับได้

"อือ ก็เห็นนั่งเงียบมาตลอดทางไม่ยอมพูดอะไรเลยทั้งๆที่ปกติชอบแกล้งแท้ๆ"
ผมบ่นพึมพำเสียงเบา ก้มหน้าก้มตาจนคางเกือบจะชิดหน้าอกอยู่รอมร่อ ฝ่ามือใหญ่วางแปะลงบนหัวก่อนจะโคลงไปมาเบาๆ ผมช้อนตามองคนตรงหน้าหวังว่าจะได้คำตอบที่ไม่ทำร้ายจิตใจกันเกินไป

"ไม่รู้สิ อยากทำตัวเป็นคนดีในสายตามึงบ้าง กลัวจะไม่ถูกรักล่ะมั้ง"
พูดจบก็ระบายยิ้มอ่อนโยนมาให้กัน คำพูดทั้งหมดนั้นกระตุ้นให้ใจผมเต้นรัวได้ไม่ยาก แก้มเห่อร้อนขึ้นมาง่ายๆ คนอย่างพี่จีบกลัวผมไม่รัก... อยากจะถามสักร้อยครั้งว่าทำไมพี่จีบที่แสนกวนตีนมีมุมน่ารักแบบนี้เยอะจัง เยอะจนเผลอหวงอยากเก็บเอาไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครเห็นเขาในมุมที่ผมเห็นเลย

"มั่นใจในตัวเองหน่อยสิครับ ไม่ต้องกลัวหรอก"

"มึงรู้อะไรไหม กูมั่นใจทุกเรื่องนะ แต่มีเรื่องมึงเรื่องเดียวที่กูไม่เคยมั่นใจเลย"
ดวงตาของเราประสานมองสบกันไม่มีใครอยากละสายตาจากใครเลยแม้แต่นิดเดียว มือใหญ่เลื่อนมาจับไหล่ทั้งสองข้างของผมแล้วออกแรงบีบเบาๆ

"ไม่มั่นใจในตัวผมเหรอ"

"เปล่า ไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะทำให้มึงหันมารักกูได้"
น้ำเสียงฟังดูเศร้าสร้อยยังไงชอบกลจนผมเผลอเอื้อมมือไปแตะแก้มของอีกฝ่ายแล้วลูบไปมาเบาๆโดยไม่อายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆส่งไปให้

"กลายเป็นคนคิดมากไปแล้วรู้ตัวป่ะเนี่ย"

"เพราะใครล่ะ"

"เพราะผม... เพราะผมคนเดียว"

"ใช่ เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ตัวแสบ"
จบประโยคเราก็พากันหัวเราะ ไม่รู้ทำไมถึงอยากหัวเราะออกมา แต่การได้หัวเราะกับคนตรงหน้ามันทำให้มีความสุขที่สุดเลย อยากฟังเสียงหัวเราะของเขาไปอีกนานๆจัง

เวลาประมาณบ่ายสามโมงเราก็มาถึงภูชี้ฟ้า พวกเราช่วยกันขนสัมภาระต่างๆรวมทั้งเต็นท์ลงจากรถ ที่เชิงดอยจะมีจุดกลางเต้นสำหรับนักท่องเที่ยว ผมได้แต่ยืนมองตาละห้อยเพราะสกิลการกางเต็นท์ติดลบแบบย่อยยับ อยากช่วยแต่จะพังของเขาซะมากกว่า หลังจากยืนเงอะๆงะๆได้ไม่นานก็มีเสียงทุ้มต่ำที่ไม่ได้ยินมาสักพักดังขึ้นข้างหูจนต้องหันกลับไปมองทันที

"น้องคิส ~"
เสียงหวานๆที่ใช้เรียกชวนให้ขนลุกซู่ พี่คินกับพี่แก๊ปยิ้มทักทาย ผมยกมือไหว้พวกเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปสะกิดพี่จีบ

"มาสายนะพวกมึง"
แทนที่จะทักทายเพื่อนแบบดีๆกลับแขวะกันซะอย่างนั้น พี่คินเบ้ปากน้อยๆก่อนจะเดินฟึดฟัดไปหาที่กางเต็นท์ของตัวเองซึ่งอยู่ถัดไปจากของซารัง

"มัวแต่แวะไร่สตรอเบอร์รี่เลยช้า"
พี่แก๊ปไขข้อข้องใจให้พวกเราก่อนจะเดินไปช่วยพี่คินกางเต็นท์ ได้ยินเสียงบ่นงุ้งงิ้งๆของพี่ชายหน้าหวานดังมาเป็นระยะๆจนผมอดขำไม่ได้

"มัวแต่ขำ ขนกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าเต็นท์ไป"
พี่จีบหันมาดุไม่จริงจังนักก่อนจะเดินมาช่วยกันหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บไว้ในเต็นท์ ที่จริงผมจะงอแงไปนอนเบียดกับซารังและติน แต่คิดไปคิดมานอนกับพี่จีบคงไม่เสียหายอะไรมั้ง มันคงไม่ครึ้มอกครึ้มใจปล้ำผมขึ้นมามั้ง คนเยอะแยะขนาดนี้

"หนาวไหม"
คำถามเป็นห่วงเป็นใยดังขึ้นจากทางด้านหลังเมื่อผมกำลังกลางแผ่นพลาสติกรองนั่งลงบนพื้นที่ว่างหน้าเต็นท์

"นิดหน่อยครับ นี่ขนาดแดดเปรี้ยงนะ ถ้าตกเย็นจะหนาวขนาดไหน"
ผมหย่อนตัวลงนั่งกอดเข่าตัวเอง ทั้งๆที่ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนากางเกงวอร์มขายาว ถุงมือ ถุงเท้า ความหนาวก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามากระทบผิวกายได้ พี่จีบทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันก่อนจะยกมือขึ้นโอบไหล่ผมอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการเคอะเขินคนหมู่มากแต่อย่างใด กลับเป็นผมเองที่ก้มหน้าก้มหน้าลงมองพื้นหญ้าที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยแทน

"หนาวจนมือจะแข็งเลยล่ะ คงสักประมาณสิบเจ็ดองศาเป็นอย่างต่ำ"
คำบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเนิบนาบแบบไม่ทุกข์ร้อนทำให้ผมแอบหมั่นไส้เขากรายๆ พี่เขาอาจจะชอบอากาศหนาวก็เป็นได้ ผมก็ชอบเหมือนกันนะแต่ถ้าหนาวเกินไปก็ไม่ไหวอยู่ดี

"ผมไม่อาบน้ำได้ป่ะ"
ลองถามหยั่งเชิงไปอย่างนั้นล่ะ... จริงๆก็ตั้งใจว่าจะอาบอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่าน้ำมันจะเย็นขนาดไหนนี่สิ ถ้าพี่เขาอนุญาตไม่ให้อาบผมก็พร้อมใจจะทำตามโดยไม่มีปากเสียง

"กูไม่นอนกับคนเน่านะ"
พี่จีบว่าก่อนจะทำหน้ายี้ใส่กัน ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะปัดมือที่โอบไหล่ตัวเองออก แค่นี้ต้องรังเกียจกันด้วยเหรอ แค่ไม่อาบน้ำเองนะ!

"งั้นผมไปนอนที่อื่นก็ได้"
ผมว่าเสียงติดจะงอนก่อนจะสะบัดหน้าหันไปมองทางอื่น ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของคนด้านข้างยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นไปอีก ซารังกับตินก็ออกไปเดินเล่น ส่วนพี่คินกับพี่แก๊ปก็หายเข้าเต็นท์และเงียบไปเลย

"จะไปนอนที่ไหนหืม ไม่มีที่ว่างอื่นสำหรับมึงนอกจากที่ว่างข้างกูหรอกนะ"
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกข้างใบหูจนต้องขยับตัวหนี ไม่ใช่เพราะโกรธแต่เพราะกลัวว่าพี่จีบจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามในตอนนี้ต่างหาก ใครใช้ให้หยอดกันขนาดนี้วะ อากาศหนาวทำให้ภูมิต้านทานต่ำไม่รู้หรือยังไง!

"กะ ก็มันหนาวนี่ ถ้าผมแข็งตายขึ้นมาจะทำยังไง"
พูดเสียงตะกุกตะกักจนได้ มือที่เคยกอดเข่าตัวเองก็เลื่อนมาจับประคองหน้าไว้แทนเพราะรู้สึกว่า... แก้มร้อนจัง

"มึงก็มีกูอยู่นี่ไง"
คำพูดที่ผมแปลความหมายไม่ออกดังขึ้นก่อนจะมีมือหนาๆสอดเข้ามาดึงรั้งผมเข้าไปกอดไว้ หลังชิดกับอกแกร่งจนรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วกว่าปกติคนด้านหลัง

"มะ มีแล้วยังไงล่ะ ไม่เห็นจะเข้าใจ"

"กูให้ความอบอุ่นกับมึงได้เสมอ ถ้ามึงต้องการ"
ผมซุกหน้าลงกับเข่าเพื่อปิดบังใบหน้าแดงก่ำของตัวเอง เชื่อไหมว่าหัวสมองผมบรรเจิดถึงขั้นเปลี่ยนคำว่าอบอุ่นของเขาเป็นคำว่าเร่าร้อนไดอย่างหน้าตาเฉย บ้าเอ้ย นับวันจะซึมซับความหื่นมาจากจอมลามกที่นั่งกอดกันมากขึ้นทุกที

"หูย มดกันเว้ยๆ"
เสียงพี่คินลอยมาจนผมกับพี่จีบตกใจแล้วผละตัวออกจากกัน ต่างคนต่างเงอะๆงะๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนโดนคนอื่นแซวเขาจะไม่เขินเลยแท้ๆ หรืออาจจะเป็นเพราะรู้สึกมากกว่าเก่ากับผมเลยทำให้เขินหรือเปล่านะ

"อย่ามาแซวกู พวกมึงน่ะกกกันอยู่ได้ ออกมาเตรียมอาหารได้แล้ว"
หลังจบประโยคนั้นพี่คินก็มุดออกมาจากเต็นท์พร้อมกับพี่แก๊ปที่หัวฟูฟ่องคงเพราะเพิ่งตื่นนอนเป็นแน่ ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าพี่จีบไม่อยากนอนพักบ้างหรือไง ขับรถมาตั้งร้อยกว่ากิโลแน่ะ

หลังจากนั้นเราก็ได้ลิ้มรสหมูกระทะในยามอากาศหนาวสั่น มือไม้เริ่มแข็งอย่างที่พี่จีบเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ นั่งทอดสายตามองดวงไฟระยับระยับที่เปิดแข่งกันเพื่อรอเวลาอาหารย่อยซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากเพราะไม่ยอมอาบน้ำก่อนกินข้าว เวลาหนึ่งทุ่มกับอากาศสิบหกองศาแบบนี้ไม่เหมาะแก่การเปลื้องเสื้อผ้าชำระร่างกายแน่ๆ

"มึง... ไปอาบน้ำ"
พี่จีบสะกิดแขนผมเบาๆ ในมือของเขามีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนและผ้าเช็ดตัวสองผืน ผมเบะปากลงก่อนจะส่งตาละห้อยไปให้

"ไม่อาบได้ป่ะพี่ แค่นี้ก็ปากสั่นแล้ว"
เสียงผมสั่นเครือเพราะฟันเริ่มกระทบกันดังกึกๆ แขนทั้งสองข้างโอบกอดตัวเองไว้อย่างแน่นหนา พี่จีบถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะดึงแขนผมให้ลุกขึ้นยืนจนได้

"ยิ่งดึกยิ่งหนาว ทางเดินก็มืด ไม่กลัวหรือไง"
ผมชะงักกึกแล้วมองไปรอบๆตัวก่อนจะตะหนักขึ้นได้ว่าตัวเองกลัวผีขึ้นสมองขนาดไหน แล้วไอ้อาการปวดฉี่ก็รุมเร้ามานานแล้วด้วยจะปฏิเสธก็กะไรอยู่

"ปะ ไปก็ได้"
ผมกอดแขนพี่จีบไว้แน่นอย่างไม่อาย เพราะตอนนี้หนาวขึ้นมาจับใจ ตอนแรกกะว่าจะมุดกลับเข้าเต็นท์ไปเอาเสื้อผ้าแต่พอสังเกตดีๆพี่จีบเตรียมมาให้เรียบร้อยแล้ว

พวกเรามาถึงห้องน้ำในเวลาถัดมา ผมยืนละล้าละลังอยู่สักพักเพราะไม่กล้าเหยียบห้องน้ำซะด้วยซ้ำ ตอนเดินมาเท้าก็เปียกแฉะไปด้วยน้ำค้างดีหน่อยดีหยิบรองเท้าแตะติดมือกันมาคนละคู่ ไม่ต้องลำบากเอาผ้าใบมาลุย

"รีบๆเข้าไปเร็ว ชักช้ายิ่งหนาวนะเว้ย เดี๋ยวกูเฝ้าหน้าห้อง"
พี่จีบส่งเสื้อผ้าและของจำเป็นมาให้กัน ผมมองอย่างหวาดๆก่อนจะรับมากอดไว้แนบอก ไม่อยากอาบน้ำจริงๆเลยให้ตายสิ

"เร็วเข้า กูหนาวเหมือนกันนะ"
เสียงเร่งดังขึ้นอีกครั้ง สังเกตได้ว่าคราวนี้ปากหยักสั่นน้อยๆ ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นก่อนตัดสินใจพูดออกไป

"อะ อาบน้ำพร้อมกันไหม เข้าไปคนเดียวกลัวผีอ่ะ"
ผมไม่ได้มีเจตนาอื่นนอกจากความกลัวผีของตัวเองล้วนๆ ยิ่งมาในสถานที่ไม่คุ้นเคยจินตนาการเรื่องสิ่งลี้ลับยิ่งมีสูงกว่าปกติ พี่จีบเบิกตากว้างแล้วหันมามองกันด้วยความอึ้งเล็กน้อย

"มึงสาบานว่ากลัวผีจริงๆไม่ได้ยั่วกูใช่ไหม"
นั่นปะไร ไอ้ความคิดอกุศลมันต้องมาแน่ๆ ผมโคตรพลาดที่ชวนมันอาบน้ำด้วย จะให้เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ไม่ดีเพราะระหว่างคนกับผี ผมยอมพี่จีบจะดีกว่า...มั้ง

"ยะ ยั่วบ้าอะไร ไม่มีอารมณ์นั้นเว้ย หนาวจะตายอยู่แล้ว"
ผมรีบก้าวขาเข้าห้องน้ำอย่างไม่รีรอ เพราะความเขินหรือเพราะความหนาวที่เร่งเร้าอยากอาบน้ำให้มันเสร็จๆไปก็ไม่รู้ พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะเดินเข้ามาด้วยกันแล้วปิดประตูลงกลอน ผมเผลอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคิดว่าถ้าพี่มันปล้ำขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง เป็นฝ่ายพลาดเองแท้ๆ

"เผื่ออยากได้ไออุ่นจากร่างกายพี่ไงครับน้องคิส"
ผมชะงักมือที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าออกทันที มีสัญญาณบางอย่างร้องเตือนว่าอาจจะมีการเสียตัวเกิดขึ้นจนเผลอกำสาบเสื้อแน่น

"ถ้าปล้ำจะโกรธตลอดชีวิต!"
ขู่เขาแต่ใจหวั่นว่าพี่มันจะไม่กลัวกัน ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

"มีขู่ด้วยว่ะ คิดว่าคนอย่างกูจะกลัวเหรอ"
พี่จีบย่างสามขุมเข้ามาใกล้ เสียงรองเท้าแตะสัมผัสกับน้ำดังเสียงเจ๊าะแจ๊ะจนหวั่นใจ ผมถอยหลังจนชิดกำแพงเย็นชืดรู้สึกได้เลยว่าตัวกำลังสั่นอย่างกับเจ้าเข้า

"ไม่รักนะ"
ผมเอ่ยเสียงแผ่วแต่อีกฝ่ายชะงักฝีเท้ากึก เห็นอย่างนั้นเลยช้อนตามองอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยปากย้ำคำเดิมให้ชัดเจนขึ้น

"ถ้าปล้ำ จะไม่รักนะครับ"
สาบานได้ว่าวูบหนึ่งผมเห็นดวงตาของพี่จีบสั่นไหว เขาก้าวเท้าออกห่างก่อนจะยืนหันหลังให้กัน

"อาบน้ำซะ เดี๋ยวกูยืนหันหลัง"

"อื้อ"
ผมตอบรับแล้วมองเขาสลับกับค่อยๆถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วรีบอาบน้ำทั้งๆที่มันเย็นจัดให้เสร็จๆไป ไม่อยากให้เขารอนานและที่สำคัญกลัวจะเผลอใจเข้าไปกอดเขา

พวกเรากลับเต็นท์ในเวลาเกือบสามทุ่ม คนอื่นๆมุดตัวเข้าสู่อ้อมกอดของผ้านวมผืนหนาไปแล้ว ที่รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อใช้เวลาเดินทางเท้าขึ้นจุดชมวิว ผมแทรกตัวผ่านรอยแยกของซิปเข้าไปก่อนจะมุดตัวลงในผ้านวมผืนหนา พี่จีบตามเข้ามาและรูดซิปปิดเต็นท์แล้วมุดเข้ามาใต้ผ้านวมเช่นกัน

"อุ่นขึ้นไหม ขอโทษที่ลากไปอาบน้ำ"
พี่จีบถามก่อนจะนอนตะแคงมองกัน ผมส่ายหัวเบาๆก่อนจะตอบคำถามเขาออกไป

"ไม่เป็นไรครับ อาบน้ำก็ดีเหมือนกัน แต่โคตรหนาวเลยอ่ะ นึกว่าจะแข็งตายในห้องน้ำแล้ว"
คิดไปถึงตอนอาบน้ำหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมากะทันหัน ก็ตอนที่อาบน้ำเสร็จแล้วทั้งคู่พี่จีบแทบจะกอดผมตัวกลมตอนเดินกลับเต็นท์

"อยากกอดไหม"
อยู่ๆพี่จีบก็ถามขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ผมเบิกตากว้างกับคำถามตรงไปตรงมา... ตอบยังไงดีล่ะ เขินอ่ะ แต่มันหนาวนี่นา

"กะ กอดได้เหรอ"

"อืม ก็บอกแล้วไงว่าพร้อมให้ความอบอุ่นเสมอ"
บอกได้คำเดียวว่าตอนนี้อากาศหนาวไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหน้าร้อนวูบวาบเลยสักนิด โดนจีบแอทแทคอีกแล้วชีวิตผม

"อื้อ งั้นกอดนะ กอดอย่างเดียวนะ ห้ามลวนลาม"
ผมจ้องเขม็งก่อนจะค่อยๆซุกตัวลงกับอ้อมแขนแกร่งที่เปิดรอรับอยู่แล้ว พี่จับตวัดแขนโอบรอบเอวก่อนจะรั้งให้ตัวเราแนบกัน ยอมรับว่าเกร็งแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุ่นขึ้นมาก อุ่นแม้กระทั่งหัวใจ

"กลัวกูปล้ำจังเลยนะมึงเนี่ย"
พี่จีบพูดจบแล้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจมูกโด่งจะกดลงบนแก้มของผม เนี่ย... แต๊ะอั๋งกันตลอดจะไม่ให้กลัวได้ยังไงวะ

"กะ ก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่หว่า"
ผมพูดเสียงตะกุกตะกักก่อนจะเบียดตัวเข้าหาอีกฝ่ายมากขึ้น ก็มันหนาวไม่ได้ยั่ว...

"ถ้าเป็นแฟนกันแล้วจะยอมว่างั้น"

"มะ ไม่รู้ นอนแล้วนะ ฝันดี"
ผมตัดบทแล้วแกล้งหลับทันที ได้ยินเสียงพี่จีบหัวเราะขึ้นมาอีกรอบก่อนที่คำหวานจะดังขึ้นข้างหู แม้จะแผ่วเบาจนเหมือนเสียงกระซิบแต่มันกลับชัดเจนในความรู้สึก

"รักนะ ฝันดีครับ"
คงจะฝันหวานด้วยล่ะ : )

ผมถูกปลุกในเวลาตีห้า สภาพแต่ละคนอย่างกับแหนมเพราะมีอะไรก็จีบมาห่อตัวไว้กันหมด ผมโดนพี่จีบสั่งให้ใส่เสื้อกันหนาวสองชั้นก่อนจะออกมาล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวเดินเท้าขึ้นจุดชมวิว

"หนาวฉิบหาย"
เสียงสั่นๆบ่นอยู่ข้างหู พี่คินแทบจะหายตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่แก๊ป ตินกับซารังยืนเบียดจนแทบจะสิงกันอยู่รอมร่อ ผมกับพี่จีบจับมือกันไว้พร้อมออกเดินทาง... ธรรมดาที่สุดแล้วเนี่ย

พวกเราเดินเท้ากันไปอย่างไม่เร่งรีบ เหนื่อยก็พักก่อนจะค่อยเดินต่อจนไปถึงจุดชมวิวในเวลาหกโมงกว่าๆ ทะเลหมอกกับแสงรำไรตรงขอบฟ้าทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บรูปไว้ เหลือบไปเห็นคนข้างกายกำลังจดจ้องไปยังฝืนฟ้าด้านหน้าด้วยใบหน้าดูมีความสุขเลยอดไม่ได้ที่จะแอบถ่ายรูปเก็บไว้

"แอบถ่ายกูเหรอ"
พี่จีบหันมายิ้มให้กันก่อนจะขยับหน้ามาดูหน้าจอสี่เหลี่ยมในมือผม

"อื้อ สวยป่ะ"
ผมถามก่อนจะส่งยิ้มให้ ไม่ได้อยากอวดฝีมือตัวเองสักเท่าไหร่หรอก แต่มั่นใจระดับหนึ่งว่าตัวเองถ่ายรูปสวย

"ไม่อ่ะ"
คำตอบสั้นๆผมให้ผมหันขวับไปมองใบหน้าที่กับมาเรียบเฉยของพี่จีบ ไม่สวยจริงๆเหรอวะหรือฝีมือตกไปแล้ว

"ไม่สวยจริงๆเหรอ"
ผมว่าเสียงอ่อยก่อนจะก้มลงมองรูปที่ปรากฏบนจอ

"เพราะมึงสวยกว่า"
คำสั้นๆของเขาทำให้ผมตะลึงอีกครั้ง.. อยู่ๆมาพูดหวานใส่กันแบบนี้ได้ยังไง ทำตัวไม่ถูกเลยเหอะ บ้าที่สุด

"เพ้อเจ้อแล้ว!"
ผมพูดก่อนจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรอดวงอาทิตย์ขึ้น เป็นช่วงที่ผมรอคอยมากที่สุดในชีวิต เมื่อดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นลับของฟ้า ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนตลอดไป

เรายืนรออย่างเงียบๆ หลังมือที่ทิ้งอยู่ข้างตัวสัมผัสกันเบาๆแค่นี้ก็อบอุ่นจนหัวใจพองโต แสงเรืองรองกำลังเคลื่อนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า สีส้มตัดกับสีฟ้าทึมยามเช้าช่างสวยงดงาม ผมหันไปหาเขาก่อนจะจับมือใหญ่มากุมเอาไว้ พี่จีบหันมาเผชิญหน้ากันแล้วเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

"ก้มหน้าลงมาหน่อย"
ผมพูดเสียงเบา พี่จีบทำหน้างงเล็กน้อยและถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ

"ก้มทำไม"

"ผมมีคำตอบให้แล้วนะ"

"หือ คำตอบอะไร"

"ที่ถามว่าผมรักพี่หรือยังไง ก้มมาฟังกันหน่อยสิครับ"
ผมคลี่ยิ้มหวาน พี่จีบดูตะลึงไปเล็กน้อยก่อนจะยอมก้มหน้าลงมา ผมเคลื่อนตัวไปใกล้ใบหูก่อนจะกระซิบคำตอบที่หวานที่สุดให้เขาฟัง

"ผม...รักพี่นะครับ"
พูดจบก็ผละตัวออกมาจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ยังเรียบสนิท เขานิ่งจนผมใจหาย หรือคำตอบของผมไม่ดีพอกันนะ แต่มันจะมีอะไรดีไปกว่าคำว่ารักอีกวะ

"พี่จีบ... ไม่ดีใจเหรอ"
ผมถามเสียงสั่น กลัวว่าคำตอบที่ให้อีกฝ่ายมันจะช้าไป

"เปล่า"
คำตอบสั้นๆมาพร้อมกับดวงตาคมที่จ้องมองกัน มือใหญ่บีบมือผมกลับมาก่อนที่มุมปากจะคลี่ยิ้มออก

"ดีใจจนพูดไม่ออกเลยว่ะคิส ดีใจมาก"
พูดจบเข้าก็ดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น ผมโอบกอดเข้าตอบด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี รัก รักผู้ชายคนนี้ รักที่สุด

"อื้อ เขินว่ะพี่"
ผมพูดเสียงอู้อี้ก่อนจะถูแก้มลงกับอกแกร่งเผื่อจะระบายความร้อนที่มีออกไปได้บ้าง แต่ไม่ได้ช่วยเลยเหมือนจะยิ่งร้อนกว่าเดิมไปอีก

"เป็นแฟนกันนะ"
กะทันหันจนหัวใจจะวาย ผมพยักหน้าหงึกหงักกับอก ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะครับ นายอินธิพัฒน์แพ้นายอัศวินอย่างราบคาบจริงๆ

"อื้อ ผมขี้หวงนะ ถ้านอกใจพี่ตายแน่"

"หึ กูก็ขี้หวง ถ้ามึงนอกใจรับรองว่าชู้มึงตายแน่ๆ"

"แล้วผมล่ะ"

"ลงโทษจนมึงจะยอมรักกูแค่คนเดียว"

เรากอดกันแน่นขึ้นส่งผ่านความรู้สึกที่มีให้กันอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่ามีดวงตาอีกสี่คู่จ้องมองมาอย่างยินดี




--------------------------------------------




Q & A กับคิส

Q : ทำไมต้องรอไปบอกรักพี่จีบบนภูชี้ฟ้าด้วยล่ะ
A : ก็บรรยากาศมันโรแมนติกดีไม่ใช่เหรอ.. อยากให้พี่เขาจำขึ้นใจ -////-





จุดพลุ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เขาเป็นแฟนกันแล้วนะเออ หวานไหม ไม่หวานเดี๋ยวเราใส่น้ำตาลเพิ่มให้ #เดี๋ยวๆ
ใครลุ้นอยู่ไม่ต้องลุ้นแล้วน้า พี่จีบเขาปฏิบัติภารกิจสอยน้องคิสมาเป็นแฟนได้เรียบร้อยแล้ว... เหลือแค่สอยเป็นเมีย หึหึ

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ในที่สุดดดดดด เค้าเป็นแฟนกันแล้วววววว ฟินสุดค่ะะะ รู้สึกอบอุ่นประหนึ่งอยู่ในอ้อมกอดจีบคิส ฮ่าๆๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฟินอะไรเยี่ยงนี้

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
 น้องคิส รอมาถึงที่นี่เพราะอยากได้บรรยากาศดีๆนี่นะ แล้วก็ปล่อยให้พี่จีบใจตุบๆตอมๆมาตั้งนาน
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
เป็นแฟนกันแล้วววว :hao7:

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
โอ้ยยย ลุ้นตัวสั่นไปด่วยว่าน้องจะยอมบอกรึยัง ดีใจจจจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด