♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]  (อ่าน 170576 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่จีบว่าน้องยั่ว แต่พี่จีบนั่นล่ะที่ล่อลวงน้องคิส ใช่มั้ย ตอบ!!!!

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
คิสหนูจะน่ารักเกินไปแล้ว  :o8:

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 25 -




เช้าวันอาทิตย์ที่มีอากาศร้อนอบอ้าวทั้งๆที่อยู่ในเดือนมกราคมก่อนเปิดภาคเรียนที่สอง แต่ละภูมิภาคของประเทศช่างลำเอียงเหลือเกิน ถ้าเลือกได้ก็อยากกลับขึ้นไปเชียงรายสัมผัสความหนาวเย็นอีกสักครั้ง ผมขยี้ตาเพราะไม่สามารถสู้แสงแดดที่ลอดผ่านรอยแยกผ้าม่านเข้ามา มืออีกข้างควานสะเปะสะปะหาคนที่นอนด้านข้างเมื่อคืนนี้แต่กลับพบแค่ความว่างเปล่า

ผมลืมตาขึ้นแทบจะทันทีแล้วมองไปรอบๆห้องอย่างตื่นตกใจ ก็ไหนวันนี้บอกจะพาไปคาเฟ่สัตว์ยังไงล่ะวะ ทำไมมาหายตัวไปตั้งแต่เช้าแบบนี้

"เป็นอะไรของมึง ทำหน้าตลกว่ะ"
ผมหันขวับไปตามเสียงที่ได้ยินแล้วพบกับพี่จีบที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวปิดบังส่วนล่างไว้ กล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสวยจนผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สัมผัสเมื่อวันวานยังติดตรึงอยู่ที่ปลายนิ้วจนรู้สึกว่าแก้มร้อนวูบวาบขึ้นมา ผมเบนสายตาหนีก่อนจะดึงหมอนขึ้นมานั่งกอดเพื่อแก้เขิน

"ก็...ตื่นมาไม่เจอ นึกว่าหายไปไหน"
ผมพูดเสียงอู้อี้กับหมอน ดวงตากลมกรอกไปมาอย่างหวาดระแวงกลัวอีกคนจะจับได้ว่าเมื่อครู่เผลอจ้องอะไรไป แต่เหมือนอีกคนจะรู้เลยจงใจเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงตรงหน้าของผมแบบพอดิบพอดี

"ทำไม กลัวกูทิ้งเหรอ"
คำถามแทงใจดำทำให้ผมตวัดสายตามองจ้องเขม็งใบหน้าหล่อเหลาทันที พี่จีบเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อผมย่นจมูกใส่เขาไป

"กล้าทิ้งเหรอวะ"
ไม่ตอบแต่ตั้งคำถามกลับไปจนโดนพี่จีบใช้มือขยี้หัวไปมาจนยุ่งเหยิงกว่าเก่าหลายเท่าตัว ผมปัดมือเขาออกอย่างไปจริงจังนักก่อนจะเบะปากใส่ พี่จีบหัวเราะเบาๆออกมาแล้วใช้มือจับแก้มทั้งสองข้างบังคับให้มองสบตากัน

"ใครจะไปกล้าทิ้งเด็กโง่วะ ทิ้งไปคงเป็นภาระให้คนอื่น สู้ดูแลเองยังดีกว่า"
พี่จีบคลี่ยิ้มกว้างเมื่อพูดจบ ผมแทบจะกระโดดถีบเพราะคำพูดคำจาของเขากวนตีนเหลือเกิน แต่ไม่กล้าทำร้ายเลยแยกเขี้ยวขู่เหมือนหมาเด็กไปวันๆ

"แง่ง พูดงี้ต่อยกันไหมพี่ นี่แฟนนะเว้ย"
แล้วก็หลุดปากท้าต่อยคนตัวโตกว้างไปแบบไม่จริงจัง พี่จีบเบิกตากว้างมองจ้องก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นกลิ่นเปปเปอร์มินท์ ไม่อยากยอมรับว่าเผลอเคลิ้มไปนิดหน่อย

"เปลี่ยนจากต่อยเป็นจูบได้ไหม กูถนัดมากกว่า"
ผมผงะถอยหลังทันทีที่พี่จีบพูดจบ สองมือยกขึ้นปิดปากตัวเองแบบอัตโนมัติแล้วส่ายหน้ารัวๆ ฟันยังไม่ได้แปรงเลยเถอะ ขออายบ้างอะไรบ้างถึงจะบอกว่าไม่รังเกียจกันก็เถอะ

"ไม่เอา ออกไปเลย"
ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะไม่ยอมเอามือออก พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะก้มตัวลงมาประทับรอยจูบลงบนหลังมือกันแล้วผละออกไปแต่งตัวอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้ผมนอนหอบหายใจแรงเพราะตื่นเต้นอยู่คนเดียว มือเรียวทิ้งลงข้างตัวอย่างอ่อนแรง แค่ถูกจู่โจมแบบเบาๆยังเป็นได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเราสองคนผ่านเรื่องคืนนั้นมาด้วยล่ะมั้ง แต่...ทำไมเป็นผมที่มีอาการเก้อเขินรุนแรงอยู่คนเดียวล่ะวะ ไม่ยุติธรรม!

"ลุกไปอาบน้ำดิ จะเขินอีกนานไหม"
เสียงทะเล้นดังมาจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง พี่จีบกำลังเซ็ตผมแต่งหล่ออยู่ตรงนั้น ซึ่งผมยังอยู่ในชุดนอนลายหมีขี้เกียจแขนยาวขายาวอยู่เลย

"ใครเขินอะไรวะ มั่ว!"
ผมปาหมอนใส่มันแล้วรีบลุกจากเตียงเดินไปรื้อเสื้อผ้าที่ต้องการออกจากตู้ ไม่นานนักก็รู้สึกว่ามีเงาสีดำมาทาบทับอยู่ด้านหลัง อกแกร่งปะทะเข้ากับแผ่นหลังบางจนเซไปด้านหน้าเล็กน้อย ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะใช้ศอกกระทุ้งท้องคนด้านหลังเบาๆเพราะหมั่นไส้

"มายืนอะไรตรงนี้เนี่ย ถอยออกไปเลย"
ผมบ่นงุ้งงิ้งก่อนจะรื้อเสื้อผ้าต่อแต่คนด้านหลังกลับเอื้อมมือมาจับกันไว้แล้วหมุนตัวผมให้กลับไปเผชิญหน้ากับถุงเสื้อผ้าที่พี่จีบถืออยู่ ผมเห็นเสื้อฮู้ดสีเหลืองนอนอยู่ก้นถุง ไม่แน่ใจนักว่าเขาไปซื้อมาตอนไหน

"ใส่นี่ กูฝากเพื่อนซื้อมาจากญี่ปุ่น"
ถุงตรงหน้าถูกยัดใส่มืออย่างรวดเร็วก่อนที่เจ้าของมันจะเดินผิวปากเข้าไปในห้องครัว ผมมองตามไปด้วยความงงก่อนจะหยิบเสื้อออกมาจากถุงแล้วคลี่ออกดู ดวงตากลมเบิกค้างก่อนจะอ้าปากตะโกนใส่คนที่ยืนดื่มนมอยู่ตรงกรอบประตูครัว

"เสื้อฮู้ดปิกาจูเนี่ยนะพี่ เห็นผมกี่ขวบวะ!"
ผมเหวเสียงดังพลิกเสื้อในมือไปมาแล้วเดินตรงไปหาคนที่กำลังดื่มนมอย่างสบายใจ แก้วเปล่าถูกลดต่ำเผยให้เห็นเขากำลังยิ้มอย่างสนุกสนาน

"เหมาะกันดีนี่ มึงใส่คงน่ารัก"
มือใหญ่วางลงบนหัวก่อนจะโยกเบาๆ ผมเม้มปากแน่นเมื่อโดนชมกันแบบโต้งๆ ไม่เคยชอบของมุ้งมิ้งน่ารักแบบนี้เลยในชีวิต วันนี้ยอมพี่จีบวันนึงก็ได้วะ เห็นว่าตั้งใจฝากเพื่อนซื้อมาจากญี่ปุ่นหรอกนะ

"เออๆ ใส่ก็ใส่ ไปอาบน้ำแล้วนะ"
ผมบอกทิ้งท้ายแล้วรีบหอบเสื้อผ้ารวมทั้งผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ยี่สิบนาทีให้หลังก็ออกจากห้องน้ำด้วยอาการเคอะเขินเล็กน้อยเพราะเห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วไม่ค่อยชินเท่าไหร่ บนหมวกฮู้ดมีเขาหรือหูของปิกาจูอยู่ด้วย ส่วนด้านหลังชายเสื้อมีหางเช่นกัน

ผมมองไปรอบๆห้องกลับไม่เห็นแฟนของตัวเองอยู่ในห้อง คงจะลงไปซื้ออะไรมาให้กินอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ผมหย่อนตัวลงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา เสียบปลั๊กเสร็จสรรพเตรียมจะเปิดเครื่องแล้วต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ทาบทับลงมาจับไว้ ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเจอพี่จีบยืนค้ำหัวกัน... กลับเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง ถ้าเป็นเวลากลางคืนเขาคงหัวใจวายตายนึกว่าโดนผีหลอกไปแล้ว

"โผล่มาเงียบๆตกใจนะพี่"
ผมว่าก่อนจะย่นจมูกใส่คนด้านหลัง พี่จีบก้มหน้าลงมากดจมูกลงกลางกระหม่อมก่อนจะใช้มือขยี้เบาๆ การกระทำเมื่อครู่ทำให้ผมต้องหลบตาแทบจะทันทีแต่ก็หนีไม่พ้นเพราะโดนสบตาจากทางกระจกอีกครั้ง ถ้าจะหนีครั้งนี้คงต้องก้มหน้าก้มตาแล้วล่ะ

"มึงไม่ระวังตัวเองนะคิส โทษกูไม่ได้"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากก่อนจะลงมือเป่าผมให้กัน ความร้อนจากเครื่องทำให้ผมหดคอหนีเป็นครั้งคราวเพราะแสบต้นคอแต่ก็ได้มือใหญ่คอยลูบเบาๆคลายร้อนให้ หัวใจกำลังเต้นตึกตักอย่างไม่เคยชินกับความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้สักที ถึงจะเป็นแฟนกันแล้วก็เถอะ ไม่เคยเลิกเขินได้เลย

"รู้ได้ไง ผมระวังตัวนะ"
ผมบุ้ยปากก่อนจะเสมองไปทางอื่นเมื่อโดนสายจาคมจ้องมองมาอย่างกับถามว่ามึงระวังตัวตอนไหน

"ยังไง"
คนด้านหลังถามซ้ำ ผมเม้มปากแน่นไม่รู้ว่าควรตอบอย่างที่ตัวเองคิดออกไปหรือเปล่า ถ้าตอบไปจะโดนหัวเราะใส่ไหม ก็ความคิดของเขามันเด็กมาก

"เอ้า เงียบทำไม ถามก็ตอบสิ"
พี่จีบหยุดเป่าผมแล้วเดินมาอยู่ข้างๆก่อนจะใช้มือจับไหล่บังคับให้หันไปมองกัน ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากนิดๆอย่างชั่งใจก่อนจะตอบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

"ระวังตัวไม่ให้พี่ปล้ำ"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะมุดลอดใต้วงแขนของเขาหนีออกมา พี่จีบไม่ได้ตามมาในทันทีเพราะเอาแต่ยืนอึ้งกับคำตอบ แต่ไม่นานนักร่างสูงก็หัวเราะก่อนจะเดินเขามาหาผมที่หย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะอาหาร

"แน่ใจว่าระวังตัวแล้วเหรอ"
เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูจนผมสะดุ้งแล้วหันไป ปลายจมูกของเราเผลอชนกันและผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประทับลงมาก่อนจะผละออก คนขโมยจูบได้สำเร็จยิ้มกริ่มแล้วพาตัวเองไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างสบายอารมณ์

"พี่จีบฉวยโอกาสตลอด"
ถึงจะว่าไปแบบนั้นแต่ไม่สามารถกลั้นยิ้มได้เลยจนต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยแซวอะไรเรื่องที่ผมเขิน แต่กลับพูดอีกประโยคที่ทำให้ผมยิ้มแก้มแทบแตก

"ถ้ากูจะปล้ำ กูได้มึงเป็นเมียไปนานแล้วคิส ที่มึงยังอยู่รอดทุกวันนี้เพราะกูรักมึง อยากให้มึงเต็มใจเป็นของกูเองแบบไม่ต้องบังคับ เพราะฉะนั้นมึงไม่จำเป็นต้องระวังตัวจากกูเลย"
สายตาจริงจังถูกส่งมาให้กันจนผมลดมือที่ปิดปากลงแล้วส่งยิ้มกว้างให้เขา ผมลุกขึ้นยืดตัวไปด้านหน้าแล้วฝังจมูกลงบนแก้มกร้านไวๆแล้วกลับมานั่งที่เดิม

"รักพี่จีบนะ"
ผมเอ่ยเสียงเบาแล้วลงมือรื้อถุงของกินตรงหน้าแก้อาการเขิน ยิ่งคนตรงหน้าเงียบมากเท่าไหร่ความเขินก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก มือไม้ที่รื้อของอยู่ก็สั้นอย่างกับเจ้าเข้า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าของที่รื้ออยู่มีอะไรบ้าง

"ชอบที่มึงบอกรักว่ะ ฟังแล้วมีความสุข"
พี่จีบคลี่ยิ้มละมุนส่งให้กัน มือใหญ่วางลงบนมือผมที่หยุดชะงักการรื้อถุง เขาบีบเบาๆเป็นสัญญาณให้มองหน้ากัน ผมเม้มปากแน่นก่อนจะช้อนตามอง หัวใจเต้นตึกตักเมื่อเราสบตากัน

"อื้อ มีความสุขเหมือนกันล่ะน่า กินข้าวได้แล้วครับ หิว"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะดึงมือตัวเองออกมาหยิบของกินออกจากถุง พี่จีบหัวเราะเบาๆแล้วยิงมุกใส่อีกรอบ

"ไม่มีข้าวนะ กูซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหูมาให้"

"เออ กินๆเลย ไม่เล่นแล้ว"
ผมก้มหน้าก้มตาหยิบปาท่องโก๋ขึ้นมากำลังจะจับมันแยกออกจากกัน แต่พี่จีบจับข้อมือผมเอาไว้ก่อน คิ้วขมวดมุ่นมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย หิวจะตายอยู่แล้วนะเว้ย

"อยากแยกมันดิ จะกินก็กินเข้าไปทั้งชิ้นเลย"

"หา ทำไมอ่ะ"
ผมเอียงคอถามเพราะงงหนักเข้าไปอีก จะให้กินเข้าไปทั้งชิ้นได้ยังไงก็พี่เขาเล่นซื้อปาท่องโก๋ไซต์ยักษ์มาขนาดนี้ จิ้มลงไผในถ้วยนมข้นยังไม่ได้เลยเนี่ย

"มันจะได้อยู่เป็นคู่ ไม่ต้องแยกจากกันเหมือนเราไง"
พี่จีบยักคิ้วกวนตีน แต่ผมดันหน้าแดงเพราะมุกห้าบาทสิบบาทของมันซะอย่างนั้น ภูมิต้านทานโรคพี่จีบลิซึ่มนี่ไม่มีหรือยังไงวะ เป็นแบบนี้ผมก็แย่อยู่คนเดียวอ่ะดิ

"แหวะ เลี่ยนเว้ย กินๆไปเลย"
ผมโวยวายกลบเกลื่อนความเขินแล้วยัดปาท่องโก๋ตัวใหญ่ใส่ปากเคี้ยวหงุบหงับจนพี่จีบหัวเราะออกมา เขาลุกขึ้นไปหยิบแก้วเปล่ามาเทน้ำเต้าหู้ให้ บริการดีแบบนี้ผมชักจะเคยตัวจนเป็นง่อยแล้ว

"กินดีๆระวังติดคอนะมึง"
พี่จีบบอกก่อนจะเริ่มกินบ้าง มื้ออาหารเช้าเราผ่านไปแบบทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะพี่จีบไม่ยอมให้ผมฉีกปาท่องโก๋เป็นชิ้นเล็ก กินแต่ละทีเสี่ยงติดคอจะตาย ขนมเต็มปากจะด่าคนขี้แกล้งก็ไม่ได้เมื่อโดนขโมยหอมแก้มไปหลายครั้ง อยู่กับเขาไม่นานผมน่าจะเสียตัวว่ะ...

สิบเอ็ดโมงตรงพี่จีบก็ลากผมมาประจำที่ในรถ BMW สีขาวลูกรักของเขา ดวงตาคมจับจ้องถนนที่ตอนนี้การจราจรติดขัด ผมฮัมเพลงเบาๆตามเสียงของวิทยุ อยากจะบอกว่าสกิลการร้องเพลงของตัวเองต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ปกติจะไม่ยอมแหกปากร้องเพลงให้ใครฟังเลยนอกจากคนในครอบครัว แต่ตอนนี้มีความสุขที่จะได้ไปเที่ยวเลยลืมเรื่องความอายไปจนหมดสิ้น

"บ่นอะไรงึมงัม"
พี่จีบเหลือบหางตามองกันก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก ผมหยุดชะงักก่อนจะเม้มปากแน่น คิดว่ามันไม่ได้ยินนะเนี่ย

"ไม่ตอบกูอีก หยิ่งเหรอ"

"หยิ่งบ้าอะไรเล่า เดี๋ยวหยิ่งใส่จริงๆเลยนี่"
ผมเบ้ปากใส่คนขี้แกล้งแล้วหันหลังให้ ดวงตากลมมองวิวข้างทางแล้วคิดว่าช่างไม่มีอะไรน่าสนใจเพราะเจอแต่ตึกรามบ้านช่อง คนในรถน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆแต่ก็นั่นล่ะไม่อยากมองให้โดนแกล้งบ่อยๆหรอก

"กล้าเหรอคิส"
เสียงดุถามขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้หันมามอง แต่ผมรับรู้ได้ว่าคนที่นั่งหลังพวงมาลัยคงทำสีหน้าบึ้งตึงอยู่แน่ๆ บางทีก็เดาอารมณ์ไม่ได้ว่าแกล้งงอนหรืองอนจริงๆ ผมหันหน้ากลับไปมองก่อนจะใช้นิ้วจิ้มแก้มกร้านเบาๆ

"งอนเหรอพี่"
ผมถามก่อนจะเอียงคอปรับองศาให้เห็นใบหน้าคมชัดขึ้น พี่จีบเหล่ตามองกันแล้วไม่พูดอะไร ผมเบะปากลงก่อนจะใช้หัวซบลงบนไหล่กว้างแล้วถูไปมาเบาๆอย่างออดอ้อน

"ทำไมแฟนขี้งอนจัง"
ผมพูดลอยๆก่อนจะช้อนตามอง พี่จีบยังคงทำหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิมจนผมเริ่มใจเสีย ถ้าจะแกล้งกันตอนนี้นับถือเลยว่าเนียนมาก เนียนจนใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

"ออกไป ขับรถลำบาก"
เสียงราบเรียบดังขึ้นจนผมต้องผละตัวออกมานั่งตัวตรง ไม่ชอบเวลาพี่จีบทำตัวเย็นชาแบบนี้เลยว่ะ ทำไมวันนี้อารมณ์ขึ้นๆลงๆจังวะ เมื่อเช้ายังหยอดมุกจีบกันอยู่เลย

"งอนจริงๆเหรอพี่ ผมไม่หยิ่งใส่หรอก แค่ล้อเล่นเอง"
ผมพูดเสียงอ่อย ก้มลงมองมือตัวเองที่บีบกันไว้บนตัก

"อะไรของมึงคิส กูยังไม่ได้บอกสักคำว่างอน"
พี่จีบยกมือใหญ่มาขยี้หัวกันเบาๆ ก่อนรอยยิ้มจะผุดขึ้นที่มุมปาก ผมเหลือบมองคนข้างๆแล้วถอนหายใจอย่างโล่ง

"ก็พี่เงียบใส่นี่หว่า คิดมากนะเว้ย"
ผมบอกก่อนจะดึงมือที่ทำหัวยุ่งลงมาจับไว้ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่จีบแล้วก็กลายเป็นคนคิดมากทุกที อาจจะเพราะกลัวเขาไม่รักก็เป็นได้

"กูแค่คิดว่าจะไปคาเฟ่หมาไซบีเรียนทำไม ไปบ้านกูไม่ดีกว่าเหรอมีตั้งสี่ตัว"

"เฮ้ย มันคนละบรรยากาศกันป่ะวะพี่"
ผมบุ้ยปากก่อนจะปล่อยมือพี่จีบแล้วปัดๆมันออกจากตัก ไม่เขาใจฟีลลิ่งหรือยังไงวะว่ามันต่างกัน

"กูก็ล้อเล่นน่า"
พี่จีบพูดก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ ผมแลบลิ้นใส่มันก่อนจะไม่พูดด้วยอีกจนถึงคาเฟ่หมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่อยู่ในซอยลึกพอสมควร เมื่อวานโทรมาจองโต๊ะเรียบร้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีที่นั่งแน่ๆเพราะเวลาเที่ยงวันคนจะเยอะอยู่พอตัว

ผมกับเขาสั่งอาหารไปคนละอย่างสองอย่างพร้อมกับฮันนี่โทสต์หลังอาหารอีกหนึ่งจาน ผมเดินไปเกาะกระจกดูพวกเจ้าหมาทั้งหลายหลากสีสันกำลังวิ่งเล่นในลานกว้างภายนอกร้าน ที่นี่จะแบ่งโซนระหว่างที่นั่งทานอาหารและเล่นกับน้องหมา

"ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ"
พี่จีบที่นั่งอยู่ถามขึ้น โต๊ะของเราติดกระจกพอดีเลยไม่ลำบากสักเท่าไหร่ แต่ที่ผมมายืนเกาะกระจกเป็นตุ๊กแกอยู่แบบนี้เพราะตั้งใจจะมองพวกมันเล่นกันโดยเฉพาะ

"ก็ชอบนะ มันหล่อตั้งแต่เล็กจนโตอ่ะ แต่หมาพันธุ์อื่นโตขึ้นหน่อยก็ไม่น่ารักแล้ว"
ดวงตากลมยังคงจับจ้องบรรดาน้องหมาที่เล่นกัน ฟัดกันบ้าง นอนแผ่ลงบนพื้นบ้าง พวกมันเรียกรอยยิ้มจากผมได้ไม่ยากนัก

"อยากเลี้ยงไหม"

"หือ ก็อยากนะ แต่ไม่สะดวกอ่ะ"

"ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดสิ กูจะเอาข้าวเหนียวมาเลี้ยง"

"หา! ตกลงทุกวันนี้พี่นอนร้าน บ้าน หรือคอนโดกันแน่"
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจว่าตกลงแล้วพี่จีบนอนที่ไหนกันแน่ เพราะไม่เคยถามเลยด้วยซ้ำ

"ปกตินอนคอนโด ที่ร้านก็นอนบ้าง ที่บ้านนานๆกลับที"
ผมกระพริบตาปริบๆเมื่อได้รับข้อมูลใหม่ รู้จักกันมาจะครบปีเพิ่งรู้ว่าที่ซุกหัวนอนพี่มันมีเยอะขนาดนี้ แล้วอะไรคือชวนไปอยู่คอนโดด้วยกันวะ...

"อยู่คอนโดกับใครอ่ะ"

"ซารัง แต่ปีหน้ามันจะย้ายเข้าหอพักนักศึกษาแพทย์แล้ว"

"อ๋อ จะดีเหรอให้ผมไปอยู่ด้วยอ่ะ"
ผมกลับมานั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วเท้าคางมอง เอาจริงๆแล้วแอบหวั่นใจเล็กน้อยว่าจะโดนพ่อกับแม่ด่าที่ไปอยู่กับคนอื่น แต่ไอ้ความใฝ่ฝันอยากไปอยู่กับแฟนมันก็มีมากเหมือนกัน

"ดี ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ"
ออกปากชวนพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมาให้กัน ขอกันง่ายๆแบบนี้ผมขอใจง่ายตอบตกลงเลยได้ไหมวะ ไปมอก็ไม่ต้องขี่รถเองมีสารภีส่วนตัวไปรับไปส่งอะไรแบบนั้น

"เอ่อ... คือ ต้องขอพ่อแม่ก่อนดิพี่"

"ไม่ต้อง กูขอให้เรียบร้อยแล้ว"
พี่จีบยักคิ้วจึกๆให้กัน ผมอ้าปากค้างเพราะยังประมวลผลไม่ทัน ไปขอกันตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วพ่อแม่รู้เรื่องที่ผมคบกับพี่จีบแล้วเหรอวะ... เพิ่งคบกันมาอาทิตย์กว่าๆเองนะเว้ย งง

"เอ้ย เดี๋ยวๆ ไปขอกันตอนไหนอะไรยังไง"
ผมละล่ำละลักถามแทบไม่เป็นภาษา มือไม้เริ่มชื้นเหงื่อ ทำไมผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยวะ มีอะไรมากกว่าที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้อีกหรือเปล่า

"พี่มึงอ่ะตัวดีเลย โทรไปบอกพ่อแม่เรียบร้อยว่ามึงคบกับกู"
พี่จีบพูดเสียงราบเรียบก่อนจะตักข้าวผัดอเมริกันที่เพิ่งมาเสิร์ฟเข้าปาก ส่วนผมนั่งอ้าปากพะงาบๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี เหมือนโดนไอ้พี่ดีพถีบลงสระน้ำแบบไม่ทันตั้งตัว พ่อแม่ไม่ด่าตายเหรอวะที่มีลูกชายสองคนดันมีแฟนเป็นเพศเดียวกันหมด...

"แล้วพ่อกับแม่ว่าไงอ่ะ พี่ดีพไม่เห็นบอกอะไรผมเลย"
ผมว่าก่อนจะชักสีหน้าเครียด คือยังไม่พร้อมจะบอกเพราะเหมือนตัวเองจะเป็นความหวังสุดท้ายของบ้านที่มีหลานให้ได้ถ้าหากมีแฟนเป็นผู้หญิง

"อืม... ก็ตกใจ แต่ท่านก็ถามกลับมาว่ามึงเป็นรุกหรือรับ พอพี่ดีพบอกเป็นรับพวกท่านก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า ดี จะได้ค่าสินสอดบ้าง"

"เฮ้ย อย่ามาล้อเล่น"
ผมว่าเสียงสั่น ไม่จริงใช่ไหมที่พ่อแม่ผมจะพูดแบบนั้น สินสอดอะไรวะ คิดกันไปถึงไหน

"ล้อเล่น พ่อแม่ก็ตกใจนั่นล่ะ เขาถามว่าจริงจังกันแค่ไหน กูเลยโดนพี่ดีพให้คุยกับท่านเอง"

"อ่า... แล้วว่าไงบ้างอ่ะ"

"ก็... ตอบไปว่าจริงจัง จะดูแลให้ดี ไม่ทำให้เสียใจ ถ้าวันไหนผิดคำพูดจะให้ท่านลงโทษยังไงก็ได้"
พี่จีบบอกก่อนจะใช้ดวงตาคมมองมาด้วยความจริงจัง ผมเผลอกลั้นหายใจ รู้สึกว่าขอบตามันร้อนแปลกๆ ดีใจนะที่ได้คนเสมอต้นเสมอปลายอย่างเขาเป็นแฟน

"กูรักมึงนะคิส"
เขาบอกรักผมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนให้ใจสั่น ผมพยักหน้าหงึกหงักแรงๆแล้วยิ้มกว้าง

"กินข้าวกันเถอะ จะได้ไปเล่นกับน้องหมา"

"อืม!"
เรานั่งกินอาหารกันจนเสร็จและได้เวลาไปหาเจ้าหมาขนฟูหน้าหล่อ ก่อนอื่นต้องสวมถุงพลาสติกเข้ากับเท้าและทำการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือก่อนจะสัมผัส และจะมีพนักงานยืนอธิบายข้อมูลต่างๆให้เราได้รับรู้ว่าน้องหมาชื่ออะไรอายุเท่าไหร่กันบ้าง

"พี่จีบๆ ถ่ายรูปให้หน่อย"
ผมส่งโทรศัพท์ให้กับพี่จีบแล้วตรงเข้าไปหาเจ้าขนฟูสีน้ำตาลขาวก่อนจะโพสต์ท่าจะงับหัวมัน ก่อนที่เขาจะถ่ายรูปให้ก็เดินมาดึงฮู้ดใส่หัวผม

"ปิกาจูกินหมา"
พี่เขาพูดแล้วกดถ่ายรูปให้ทั้งๆที่ยังทำหน้าเอ๋ออยู่ โอย อยากตรงเข้าไปถีบฉิบหายแต่ติดว่าถ้าไม่วานให้พี่จีบถ่ายรูปให้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว

"พี่แม่ง ชอบแกล้งผม"
ผมบ่นอุบอิบแต่พี่จีบไม่ใส่ใจแถมยังสั่งให้โพสต์ท่าใหม่ดีๆ หลังจากนั้นเราก็ถ่ายรูปไปเรื่อย เล่นกับหมาบ้าง กอดบ้าง มีความสุขกันไป แต่ที่ทำให้ผมหุบยิ้มคือผู้หญิงคนหนึ่งส่งยิ้มหวานให้พี่จีบก่อนจะเดินตรงมาแนะนำตัวทำความรู้จักแบบหน้าตาเฉย... คือพี่จีบไม่ใช้หมาไม่ต้องมาทำความรู้จักได้ป่ะวะ เจ้าของหวงไม่รู้หรือยังไง

ผมยืนขึ้นทันทีที่เธอก้าวเข้ามาใกล้พี่จีบแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พี่เขาหันมองผมเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้กับคนตรงหน้า

"สวัสดีค่ะ ชอบเจ้าไซบีเรียนเหรอ"
คำถามเบสิกในการเข้าหาคนอื่น เธอวางตัวดีกว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่เข้ามาจีบแฟนผม

"อ่า... ที่บ้านเลี้ยงสี่ตัวครับ แต่วันนี้ผมพาแฟนเดทน่ะครับ เจ้าตัวเขาชอบ"
พี่จีบพูดก่อนจะยิ้มน้อยๆ เธอดูอึ้งไปแต่ก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"อ๋อ... คุณแฟนคงน่ารักน่าดูเลยนะคะเนี่ย ชอบน้องหมาด้วย"

"ก็...น่ารักครับ"

"พี่จีบ ผมจะกลับแล้วนะ"
ผมปั้นหน้านิ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ รู้สึกว่าเธอไม่ได้สนใจผมที่ยืนแทบจะสิงพี่จีบเลยด้วยซ้ำ ท่าทางของเธอไม่ได้สนใจคำว่ามีแฟนแล้วหรือยังไม่มี เหมือนคนที่พร้อมจะแย่งทุกเมื่อหากเจอคนที่สนใจ เธอนิ่งไปเล็กน้อยแล้วหันมามองผม

"อ่าว รีบกลับไปไหนวะ เหนื่อยแล้วเหรอ"
พี่จีบพูดก่อนจะใช้หลังมือแตะๆตรงไรผมให้ไม่ได้สนใจว่ามีสายตาสงสัยมองมาอยู่เลย ผมแอบลอบยิ้มก่อนจะตีหน้าบึ้งใส่แล้วเอื้อมมือไปหยิกแก้มร่างสูง

"เหนื่อยแล้วครับ กลับกัน อากาศร้อน"

"โอเคๆ เอ่อ...ผมกลับก่อนนะครับ"
ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับเธอที่ยืนทำหน้าเหวอ พวกเราเดินออกมาโดยที่ไม่หันกลับไปมองเธออีกเลย

ตอนนี้ผมกำลังนั่งเงียบอยู่ข้างๆสารภีประจำตัวที่ขับรถไม่เกินแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงตรงไปยังสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ร่างสูงมองมาเป็นระยะก่อนจะลอบถอนหายใจออกมายาวๆ

"เป็นอะไรครับ"
เสียงราบเรียบเอ่ยถามขึ้น ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบเดิมในท่ากอดอกตั้งแต่ขึ้นรถมา ไม่ได้อยากงอนอะไรเขาหรอก แต่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ว่าพี่จีบอยู่เฉยๆนิ่งๆยังมีคนเข้าหา ถ้าพี่มันเจ้าชู้ล่ะ...ไม่แย่กว่านี้เป็นสิบเท่าหรือยังไง

"เปล่าครับ ลงไปเดินเล่นกันเถอะ"
ผมบอกก่อนจะปลดสายเข็มขัดแล้วเปิดประตูลงไปโดยไม่ได้รออีกคน พี่จีบรีบลงตามมาก่อนจะคว้าต้นแขนกันเอาไว้แล้วดึงไปนั่งที่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่

"หวงเหรอ"
คำถามแรกที่หลุดออกจาปากร่างสูงทำให้ผมชะงักกึก สายตาที่กำลังถอดมองบึงตรงหน้าเบนกลับมามองพี่จีบ ปากบางเม้มเข้าหากันแน่ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

"เด็กน้อย"
พี่เขาว่าก่อนจะใช้มือหนาโยกหัวกันเบาๆ ผมมุ่ยหน้าใส่แต่ก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร

"เสน่ห์แรงเกินไปแล้วนะเว้ย"
ผมบ่นอุบอิบก่อนจะเอาหัวชนเข้าที่ต้นแขนเพื่อเป็นการลงโทษ พี่จีบเซเล็กน้อยแต่ก็สามารถนั่งทรงตัวได้ เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะโอบไหล่ผมเข้าไปกอดไว้

"จะสนใจอะไรวะ กูมั่นคงกับมึงขนาดนี้ยังต้องหวงอีกเหรอ"
พี่จีบมองมาด้วยสายตาจริงจังจนผมเผลอกลั้นหายใจ มั่นคงน่ะรู้แต่ไม่ไว้ใจคนอื่นที่เขามาหาพี่มากกว่า

"แฟนผมนี่ จะไม่หวงได้ยังไงครับ หล่อขนาดนี้"
ว่าแล้วก็ย่นจมูกใส่แล้วผละตัวออกจากอ้อมกอด เตรียมจะลุกขึ้นยืนแต่กลับโดนดึงให้นั่งลงในตำแหน่งใหม่โดยมีร่างสูงนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ผมนั่งกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง

"ปล่อยนะพี่ คนเยอะ"
ผมดิ้นขลุกขลักเพราะท่านั่งมันประเจิดประเจ้อมากไป คนเดินผ่านไปมาส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นตรงมาจนผมต้องก้มหน้าลงมองพื้นหญ้าตรงหน้า

"เฉยๆน่า ให้กูกอดหน่อยไม่ได้เหรอ ไถ่โทษที่ทำให้มึงหวงไง"
น้ำเสียงทะเล้นดังขึ้นข้างหูจนผมหยุดดิ้น เพราะไอ้ที่ทำอยู่ตอนนี้คนได้กำไรมันเป็นพี่จีบเห็นๆแล้วจะเรียกว่าการไถ่โทษได้ยังไงกันวะ

"พี่จีบโคตรมั่ว หลอกกอดผมมากกว่านะ"

"เออ รู้ทันก็ดี นั่งนิ่งๆให้พี่กอดนะครับคุณแฟน"

"อือ"
โดนเสียงหวานๆนิ่มๆกรอกหูเข้าหน่อยก็ยอมเขาง่ายๆ เออ ก็ผมมันใจอ่อนให้พี่จีบทุกทีล่ะ ไม่รักไม่ยอมขนาดนี้หรอก!




-------------------------------------------------



Q & A กับคิส

Q : มีคนเข้ามาจีบบ้างไหม?
A : ... คิดดีแล้วเหรอครับถึงถามผมแบบนี้ T^T สะเทือนใจอ่ะ
Q : แสดงว่าไม่มีสินะ อืม...
A : ฮึก อย่าตอกย้ำนะ!






พี่จีบมันร้าย หลอกล่อน้องจูบให้ไปอยู่ด้วยกัน... ไม่นานคงโดนกินแน่ 555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอมเม้นท์น้า ~

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
พี่จีบจับคีสปล้ำเถอะ  น่ารักขนาด   :hao6:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ย้ายไปเลยคิส มันดีกับใจคนอ่าน

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ถ้าได้ไปอยู่ด้วยกันจริงๆ จะดูซิว่าพี่จีบจะทนได้ขนาดไหน
เอ หรือจะเป็นน้องคิสที่อดใจไม่อยู่กันแน่

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
ตอนนี้ยังเรื่อยๆ เด่วย้ายไปอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เด่วรู้กัน อิอิ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
พี่จีบหลอกน้องคิสไปอยู่ด้วยย คิดอะไรอ่ะปล่าววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darksnow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอาน่าคิสสสส มีแฟนเป็นพี่จีบทั้งทีต้องอดทน 5555

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
พี่จีบเจ้าเล่ห์จัง หลอกพาน้องไปอยู่ด้วย
แต่หนูคิสก็อย่าคิดเยอะ เก็บกระเป๋าไปคอนโดพี่จีบเลยลูก 
:katai3:  :hao6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ปล้ำซะดีมั้ยเนี่ยท่าจะน่ารักซะขนาดนี้น้องคิส

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โธ่ พี่จีบถ้ามีคนมาจีบคิส จะรอดูว่าหึงหวงไหม :hao3:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
โถหนูคิส อย่างน้อยก็มีพี่จีบไงคนนึง  :laugh:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
มีการชวนย้ายเข้าบ้านด้วยอ่าาาาา
เอาหมามาล่อ แถมขออนุญาติคุณพ่อคุณแม่คิสแล้วอีก แผนสูงมากๆค่ะพี่จีบ 5555555

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่จีบร้ายกาจมาก
นำน้องเสมอ

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
หุหุ น่ารักอะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เบาสบายยยยย ฮ่า ๆ พี่จีบได้กล่าวไว้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มีความเมียสูงมาก

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อื้อหืออออ....นี่คือเขาเข้าทางพ่อแม่เรียบร้อยโรงเรียนพี่จีบแล้วด้วย?

พี่จีบเขาร้ายจริงๆค่ะหัวหน้า!

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ตะล่อมเรื่อยๆเดี๋ยวพี่จีบก็ได้กินน้องแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พอเป็นแฟนก็ชวนไปอยู่ด้วยเลยรึพี่จีบ  :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
 :impress2:รอต่อนะครับสนุกมาก

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
รอตอนน้องโดนกิน!!! :laugh:

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 26 -




เสียงลมพัดหวีดหวิวช่วงเดือนมกราคมไม่ได้พาเอาไอความเย็นจากภาคเหนือมาเลยสักนิด ดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาผิวขาวเนียนให้ไหม้เกรียมอย่างง่ายดาย มนุษย์ตัวน้อยสามชีวิตกำลังยืนหลบแดดอยู่ใต้ตึกอาคารเรียนหลังจากเลิกภาคเช้า เหงื่อเม็ดโตไหลย้อยจนเสื้อนักศึกษาสีขาวแนบเนื้อในบางส่วน

"ทำไมร้อนแบบนี้วะ"
ไอ้ออยบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะกระพือเสื้อนักศึกษาไปมาเพื่อคลายร้อน อย่าไปกลัวว่านมมันจะโผล่เพราะอกแบนราบยิ่งกว่าไม้กระดานอีก

"จะไปรู้ไหม ไปถามดวงอาทิตย์ไป"
เสียงไอ้ภีมตอบกลับมาด้วยสีหน้ากวนบาทา ไอ้ออยแยกเขี้ยวใส่ทำท่าจะเข้าไปฟาด แต่ติดตรงที่ผมเป็นคนกลางเลยต้องรีบห้ามทัพ อากาศร้อนยังจะมาทะเลาะกันอีก

"พอๆ แยก เดี๋ยวไปหาไรกินเย็นๆกัน"
ผมใช้ฝ่ามือดันมันทั้งสองให้แยกออกจากกันแล้วถอนหายใจเฮือกออกมา มันร้อนจนตับจะแตกจริงๆนะ ได้กินไอติมคงช่วยคลายร้อนได้บ้าง

"เลี้ยงป่ะ"
ไอ้ออยยื่นหน้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มหวานช่ำ ผมเหลือบตามองมันก่อนจะพ่นลมหายใจใส่แล้วส่ายหน้าพรืด จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงนักหนาเพิ่งจ่ายค่าทำรายงานไปตั้งหลายร้อย

"ใครกินคนนั้นจ่าย แฟร์ๆ"

"โห มีผัวรวยอย่ามางก!"

"เฮ้ย ไม่มีผัวเว้ย มีแต่แฟน!"

"แหมๆ... เดี๋ยวต่อไปก็เป็นผัว"

"หยุดพูดเลยมึง"
ผมพูดเสียงรอดไรฟันทั้งๆที่หน้าร้อนวูบวาบด้วยความเขิน ไอ้ที่มันพูดมาก็จริงว่าในอนาคตพี่จีบต้องมีตำแหน่งเป็นสามีแน่ๆ เพราะดูจากขนาดตัวและความดูแลเอาใจใส่กันแล้ว ผมไม่สามารถผลักดันตัวเองให้เป็นฝ่ายรุกได้เลยแม้แต่น้อย อีกเหตุผลหนึ่งคือคิดภาพไม่ออกว่าพี่จีบมันจะเป็นภรรยาในรูปแบบไหน แค่คิดก็แอบขนลุกแล้วว่ะ

"ว้าย เพื่อนกูหน้าแดง ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ให้พี่จีบดู"
พูดจบมันก็คนกระเป๋าเป้หาโทรศัพท์ทันที ผมกำลังจะเข้าไปห้ามแต่มีเสียงใครคนหนึ่งดังแทรกจนพวกเราต้องหันขวับไปมอง... คนที่ไม่ได้เจอกันมาสักพักหยุดยืนอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส

"พี่แบท.."
ผมเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา คนอื่นทักทายพี่แบทอย่างปกติแต่เพราะว่าผมคิดย้อนไปถึงเรื่องที่พี่จีบเคยบอกไว้ เลยเกิดอาการทำตัวไม่ถูกขึ้นมาซะอย่างนั้น

"เป็นไงบ้าง สบายดีกันป่ะ"
พี่แบทถามขึ้นก่อนจะส่งรอยยิ้มที่เฉพาะเจาะจงมาให้ผม เหมือนออยกับภีมก็สังเกตเห็นเหมือนกันแต่ไม่พูดอะไรออกมา ทุกคนพยายามทำตัวให้ปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

"สบายดีครับ"
ภีมตอบ

"สบายดีค่ะ แต่เหนื่อยอ่ะพี่ เลี้ยงหลาน"
ไอ้ออยตอบเสียงงอแงเล็กน้อยจนพี่แบทขำออกมา

"แล้วมึงล่ะ ได้ข่าวว่าไปเชียงรายกับไอ้จีบมานี่ สนุกไหม"
ผมชะงักกึกก่อนจะมองหน้าพี่แบทที่ยิ้มแย้มแต่สายตาแสดงความปวดร้าวได้อย่างชัดเจน ถ้าพี่เขาอ้าปากสารภาพความรู้สึกกับผมขึ้นมาจะทำยังไง ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เก็บความรู้สึกเอาไว้เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

"ก็..สนุกดี หนาวฉิบหายเลยพี่"
ผมตอบก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างจริงใจ พี่แบทพยักหน้ารับน้อยๆ รอยยิ้มที่ได้รับก่อนหน้านี้มันจางลงอย่างเห็นได้ชัด

"ผมกับไอ้ออยขอตัวก่อนนะ ไอ้คิสกูรอที่รถนะเว้ย"

"เดี๋ยวๆ จะไปไหนกัน"
ผมรั้งไหล่มันทั้งสองคนเอาไว้ด้วยหน้าตาตื่นๆ อยู่ๆมาทิ้งกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยได้ยังไงวะ ไม่ทันตั้งตัวนะเว้ย

"ภีมไม่ต้องรอคิสนะ เดี๋ยวกูพามันไปเลี้ยงข้าว"
พี่แบทพูดทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้น ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆพร้อมกับที่มือตัวเองทั้งสองข้างโดนเพื่อนรักปัดออกแล้วเดินจากไป แทนที่จะช่วยชีวิตกันกลับผลักไสผมซะอย่างนั้น งานงอกไหมล่ะถ้าพี่จีบรู้เรื่องขึ้นมาเนี่ย

"เอ่อ..."
ผมอึกอักก่อนจะหลบสายตาที่มองจ้องกัน ทำตัวไม่ถูกตั้งแต่พี่จีบบอกว่าพี่แบทรู้สึกยังไงกับผม อยากจะทำตัวปกติแต่มันไม่สนิทใจแล้ว เข้าใจคนที่ไม่เคยมีใครมาเคยมีใครมาชอบไหม พอมันมีขึ้นมาก็วางตัวไม่ถูกน่ะ...

"ทำไม ไม่อยากกินข้าวกับกูเหรอ"
น้ำเสียงรายเรียบถามขึ้นจนทำให้ผมต้องช้อนสายตามองอีกคน ใบหน้าของเขาเรียบเฉยจนผมเดาอารมณ์ไม่ถูก มีแต่ดวงตาคมเท่านั้นที่กำลังสั่นไหว ผมเม้มปากเข้าหากันก่อนจะส่ายหน้าเบาๆปฏิเสธความคิดของคนตรงหน้า ไม่ได้ไม่อยาก แต่...มันอึดอัดแปลกๆ

"เปล่าครับ แต่ขอโทรไปบอกพี่จีบก่อนนะ"
ผมบอกน้ำเสียงอ้อมแอ้มแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า พี่แบทมองมาแล้วขมวดคิ้วแน่นเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมผมไปไหนมาไหนต้องบอกพี่จีบ

"บอกมันทำไม"
เสียงพี่แบทดุขึ้นจนผมรู้สึกได้ ปกติเขาไม่เคยทำสีหน้าและท่าทางขึงขังขนาดนี้

"เอ่อ... เดี๋ยวพี่จีบเป็นห่วงไงครับ บอกไว้ก่อนจะดีกว่า"
ผมพูดเสียงเบาก่อนจะหลบสายตาดุๆนั่น พี่แบทก้าวเข้ามาชิดมากกว่าเดิมก่อนจะใช้มือจับไหล่กันเอาไว้แล้วคาดคั้นสิ่งที่เขาอยากรู้

"เป็นแฟนกันแล้วเหรอ..."
คำถามช่างแผ่วเบาแต่ผมกลับได้ยินชัดยิ่งกว่าเสียงโหวกเหวกโวยวายรอบตัว ดวงตาคมสั่นระริกพร้อมกับมือที่บีบไหล่ผมหนักขึ้นจนเผลอนิ่วหน้า

"พี่แบทผมเจ็บ.."
ผมบอกเขาก่อนจะจับมือหนาเพื่อดึงออกแต่พี่แบทยิ่งบีบไหล่ผมแน่นขึ้นไปอีกเท่าตัวจนผมต้องเม้มปากเข้าหากันกลั้นเสียงร้อง เจ็บเหมือนโดนคีมเหล็กคีบ

"ตอบมาสิ"

"เป็นครับ ผมเป็นแฟนกับพี่จีบแล้ว"
แรงบีบคลายออกแทบจะในทันที แขนทั้งสองตกลงข้างลำตัวอย่างไร้เรียวแรง มุมปากหยักกระตุกเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันความผิดพลาดครั้งนี้ ผมมองพี่แบทด้วยความรู้สึกหลากหลาย มันกระอักกระอวนในใจเมื่อเห็นพี่ชายที่รักคนหนึ่งต้องเจ็บเพราะตัวเอง แต่จะให้ทำยังไงเมื่อตลอดมาไม่เคยมองเขาในฐานะอื่น ถึงจะเขามาจีบก่อนคนอื่นๆก็คงได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

"ช้าไปอีกแล้วสินะ เป็นกูไม่ได้เหรอ"
สายตาอ้อนวอนของพี่แบททำให้ผมใจกระตุก ไม่ใช่เพราะว่าหวั่นไหวแต่มันรู้สึกวูบโหวงในอก กลัวว่าพี่ชายที่แสนดีจะเปลี่ยนไป

"คือ...พี่แบทครับ"
พูดไม่ออก ต้องเริ่มจากตรงไหนได้แต่ยืนประสานมือทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้แน่จนชื้นเหงื่อ สถานการณ์น่าอึดอัดจนอยากมุดดินหนี ถ้าพี่จีบโผล่หัวมาตอนนี้ผมคงรู้สึกดีกว่านี้ เผชิญหน้ากับความกระอักกระอ่วนใจคนเดียวมันไม่ดีเลยจริงๆ

"กูชอบมึงนะ ชอบมาก่อนไอ้จีบอีก... อุตส่าห์เนียนเข้าหามึง แต่ทำไมมันได้มึงไปล่ะคิส"
เป็นประโยคบอกเล่าพร้อมคำถามที่เหมือนว่าไม่ต้องการคำตอบเท่าไหร่ ดวงตาคมหวั่นไหวจนเห็นความปวดร้าวฉายชัดออกมา ผมเม้มปากแน่นเพราะถ้าตอบออกไปอาจจะทำร้ายหัวใจของคนตรงหน้าอย่างย่อยยับจนน่ากลัว

"....."

"เคยหวั่นไหวกับกูบ้างไหมคิส เคยไหม"
คำถามย้ำๆดังขึ้น น้ำใสๆกำลังคลอหน่วยอยู่ในดวงตาคมเข้ม ผมอยากเอื้อมมือไปเช็ดให้แต่กลัวว่านั่นจะเป็นการให้ความหวังกับคนตรงหน้า คนหล่อๆรอบตัวนี่สติดีหรือเปล่ามารุมชอบผมเนี่ย ไอ้สาวๆสวยๆมีอยู่เยอะแยะทำไมไม่ไปชอบกันวะเนี่ย

"มะ ไม่เคยครับ"
ผมตอบเสียงสั่นเมื่อพี่แบทขยับเข้ามาใกล้อีกคนผมเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว

"อืม... เข้าใจแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้อึดอัด"
พี่เขาถอยหลังแล้วฝืนคลี่ยิ้มให้กัน ผมเม้มปากแน่นเพราะไม่รู้จะจัดการสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดี แต่หางตาเหลือบเห็นพี่แก๊ปยืนพิงรถอยู่ คงจะผ่านมาเห็นพอดีและเหมือนจะยืนรอผมอยู่ด้วย

"มะ ไม่เป็นไรครับ"

"อืม กูกลับก่อนนะ ขอโทษที่ไม่ได้พาไปเลี้ยงข้าวแล้ว"
หลังจากจบประโยคเมื่อครู่ร่างสูงก็รีบก้าวเท้ายาวๆเดินหลบไปอีกทางทันที ปล่อยให้ผมยืนเคว้งกับความรู้สึงวูบโหวงในใจ ดูเหมือนว่าผมกับพี่แบทคงต้องห่างกันสักพัก

ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะมองไปทางพี่แก๊ปอีกครั้ง เขายิ้มให้และกวักมือเรียกกันอยู่ตรงนั้น ผมรีบก้าวยาวๆเข้าไปหาคนที่รออยู่แล้วสูดลมหายใจลึกๆ

"สวัสดีครับพี่แก๊ป มาทำอะไรที่นี่เนี่ย"
ผมยิ้มให้ พี่แก๊ปคลี่ยิ้มบางๆตอบกลับมาก่อนจะวางมือใหญ่ลงบนหัวแล้วโยกเล่นเบาๆอย่างอ่อนโยน

"มาเอาของให้อาจารย์ ไปหาไอ้จีบกับพี่ไหม"

"อ่า.. เลิกเรียนกันแล้วเหรอครับ"

"เปล่า แต่ไปนั่งรอได้ ป่ะ"
ยังไม่ทันได้ตอบพี่แก๊ปก็เปิดประตูรถแล้วดันหลังให้ผมเข้าไปนั่งก่อนจะปิดประตูให้แล้วเดินไปฝั่งคนขับ เรานั่งเงียบกันตลอดทางจนมาถึงคณะบริหาร ที่ลานกว้างมีคนพลุ่กพล่านส่วนมากเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดี อาจจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมคนหน้าตาดีของมหา'ลัยก็ได้

ผมเดินตามพี่แก๊ปเข้าตึกคณะไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียน ตอนแรกว่าจะนั่งรอที่หน้าระเบียงแต่โดนมือใหญ่คว้าต้นแขนให้เดินตามเข้าไปด้วยกันก่อนจะบอกว่าอาจารย์ปล่อยทิ้งให้ทำงานเท่านั้นไม่ได้อยู่ด้วย ถ้าใครเสร็จไวก็กลับก่อน พอพ้นประตูกระจกบานเลื่อนเข้าไปเท่านั้นทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเรา ผมกรอกตาเลิ่กลั่กก่อนจะใช้พี่แก๊ปเป็นกำบังแล้วตามมาด้วยเสียงผิวปาก บ้างก็เป็นเสียงกรี๊ดเล็กๆของสาวๆ

"แฟนมาหาถึงที่เลยเว้ย อิจฉา ~"
เสียงแปร่งๆเหมือนคนเป็นหวัดดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าทะเล้นที่ส่งยิ้มมาให้กัน ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ไอ้พี่คินตัวดีนั่นเอง ไม่พูดเปล่าแต่กลับเดินเข้ามากอดคอแล้วดึงให้ไปหาพี่จีบที่ยังจ้องจอคอมฯไม่วางตา รายนั้นรับรู้ถึงการมาของผมแต่ทำเป็นไม่สนใจ... หึ เห็นหรอกว่าแอบยิ้มอยู่

"เก้าอี้ไม่ว่าง นั่งตักแทนได้ไหม"
พี่จีบเงยหน้าขึ้นมาพูดตอนที่ผมหยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะ ผมเบิกตาค้างหันซ้ายหันขวาอย่างระแวงกลัวว่าใครจะได้ยินและเหมือนจะมุดดินหนีเมื่อสายตาของคนทั้งห้องส่อแววล้อเลียนมาอย่างเห็นได้ชัด โอย กูจะบ้าตาย นี่มันป่าวประกาศให้คนทั้งเซครู้หรือยังไงกัน

"ไอ้พี่จีบ พูดบ้าอะไรวะ ทำงานไปเลยไป"
ผมบุ้ยปากใส่ก่อนจะยืนค้ำหัวอยู่ด้านหลังเก้าอี้ พี่จีบเงยหน้าเอาหัวมาชนท้องผมเบาๆก่อนจะกลับไปตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์โค้ดโปรแกรมยาวเหยียด ผมเพ่งสายตาพยายามทำความเข้าใจแต่แล้วก็ต้องยอมแพ้เพราะมันยิ่งกว่าภาษาต่างดาวซะอีก

"นั่งลงดิ จะยืนค้ำหัวทำไม"
พี่จีบหันมามองกันก่อนจะมองที่ว่างข้างตัวซึ่งเป็นเก้าอี้ของพี่แก๊ปที่เจ้าตัวเพิ่งลุกออกไปกวนประสาทพี่คินเมื่อครู่ ผมส่ายหน้าพรืดเพราะอีกเดี๋ยวเจ้าของคงกลับมาทวงที่นั่งคืน

"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวพี่แก๊ปก็กลับมา"

"หึ มันทำงานเสร็จแล้ว"
พี่จีบพูดจบก็ดึงให้ผมนั่งลงข้างๆจนได้ ดวงตาคมกลับไปสนใจงานตรงหน้าพร้อมที่นิ้วเรียวจะพิมพ์ลงบนคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ อยากจะบอกว่าเมื่อครู่ไปเจออะไรมาบ้างแต่กลัวคนที่ตั้งใจทำงานจะเสียสมาธิเลยได้แต่นั่งมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น จนเจ้าตัวหันกลับมาเลิกคิ้วใส่กันผมเลยได้สติ

"มีอะไรจะพูดป่ะวะ เห็นนั่งมองหน้ากูตั้งนานแล้ว"

"อ่า... ทำงานไปก่อนเดี๋ยวค่อยคุยก็ได้"

"โอเค"
หลังจากนั้นเขาก็กลับไปตั้งใจทำงานจนเสร็จ เราออกมาจากตึกบริหารในเวลาเกือบห้าโมงเย็น พี่แก๊ปกับพี่คินขอตัวแยกย้ายไปฟิตเนส ส่วนผมกับพี่จีบตกลงกันว่าจะไปกินข้าวแล้วกลับเข้าร้านกาแฟต่อ

"มีอะไรจะพูดล่ะมึง"
เขาถามในขณะที่คาดเข็มขัดนิรภัย ผมที่กำลังจะทำอย่างเดียวกันเกิดชะงักแล้วช้อนตามองเขาก่อนจะส่งยิ้มแหยๆให้ ไม่รู้ว่ามันเหมาะที่จะพูดในเวลานี้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าถ้าบอกไปแล้วพี่จีบจะรู้สึกยังไงด้วย ไม่ค่อยอยากให้เขาอารมณ์เสียสักเท่าไหร่

"เอ่อ ค่อยพูดดีกว่ามั้ง เดี๋ยวไม่มีสมาธิขับรถ"
ผมเบี่ยงประเด็นก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยตามบ้าง แต่ต้องตกใจเมื่อใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาจนปลายจมูกแตะกันเบาๆ ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผมอย่างไม่ลดละ อยากจะขยับตัวหนีแต่ก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะจู่โจมมากกว่านี้เลยทำได้แค่ขยำเสื้อนักศึกษาของอีกคนไว้แน่น

"พูดมาครับ พี่รอฟังอยู่"
เขาพูดจบก็แต้มจูบลงมาบนริมฝีปากเบาๆ ผมเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าพี่จีบจะทำ คนขโมยจูบกันผละตัวออกแล้วยกยิ้มหวานให้จนผมต้องหลบสายตาเพราะเขิน คนที่ปกติกวนตีนถึงคราวอ่อนโยนแล้วทำให้ใจเต้นแรงชะมัด

"คือ...พี่แบทมาหา"

"อ่าฮะ"

"พี่แบท...บอกว่าชอบผม"

"อืม...แล้วไงต่อครับ"

"เขาถามว่า เป็นเขาไม่ได้เหรอที่ผมจะรัก"

"แล้วตอบว่าไง"

"ยะ ยังไม่ได้ตอบครับ พี่เขาถามแทรกขึ้นมาว่าเคยหวั่นไหวกับพี่บ้างหรือเปล่า"

"อืม.. แล้ว?"

"ก็เลยตอบไปว่าไม่เคย แล้วพี่เขาก็บอกว่าขอโทษที่ทำให้อึดอัด"

"อืม...หวง"
พี่จีบดึงผมเข้าไปกอดทันทีที่ฟังจบ ผมสูดหายใจเข้าหนักๆก่อนจะสอดมือกอดเอวสอบตอบและซุกหน้าลงกับลาดไหล่กว้าง เขากดจูบลงข้างขมับก็จะกระซิบเสียงแผ่วเบาข้างใบหู

"นายอินธิพัฒน์เป็นของนายอัศวินคนเดียวนะ รู้ไหม"

"ระ รู้ครับ ผมเป็นของพี่จีบคนเดียว"
ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนวูบวาบจนต้องมุดหน้าลงกับอกแกร่งเพื่อซ่อนมันไว้ทั้งหมด พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะกดปลายจมูกลงกลางกระหม่อมแล้วดันไหล่ผมเพื่อที่จะมองหน้ากันได้ถนัด

"รักคิสนะครับ"
คำบอกรักหวานซึ้งทำให้ผมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะมอบจูบแสนละมุนราวปุยเมฆและเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นเมื่อริมฝีปากโดนขบเม้มดูดดึงอย่างวาบวาม สองมือขย้ำเสื้อบนอกของพี่จีบจนยับยู่ยี้ อากาศหายใจเหลือน้อยเต็มทีจนต้องร้องครางประท้วงให้อีกคนผละออก

"แฮ่ก.. อะ ออกรถเถอะครับ หิวแล้ว"
ผมเบนหน้าหนีก่อนจะก้มจนคางเกือบจะชิดอก คนตัวโตขยับห่างแล้วทำตามที่บอกอย่างไม่อิดออด แต่ไอ้คำพูดที่ออกมาจากปากเขาทำให้ผมแทบกระโดดหนีลงจากรถ

"กูก็หิวนะ.... หิวมึง กินได้ไหม"
คำถามทีเล่นทีจริงทำให้ผมฟาดมือลงกับต้นแขนของพี่จีบด้วยความเขิน แทนที่จะร้องโวยวายกลับหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาอย่างมีความสุข รู้ว่าแกล้งแต่ในนั้นก็เต็มไปด้วยความหื่นจริงๆเช่นกัน ฝันไปเถอะว่าจะใจอ่อนยอมเสียประตูหลังให้ง่ายๆ ถ้าไม่กลัวเจ็บคงถวายตัวไปนานแล้ว... หลอก! ใครจะไปทำแบบนั้นกันเล่า กับผู้หญิงยังไม่เคยจะมาเสียพรหมจรรย์กับผู้ชายเนี่ยนะไม่คลูเลยอ่ะ

"พี่จีบ... พอเลย ฝันไปเถอะว่าจะได้กินผมง่ายๆ"
ผมย่นจมูกใส่แล้วแลบลิ้นแถมให้ พี่จีบหัวเราะก่อนจะออกรถไปอย่างช้าๆ เราแวะกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ววนกลับไปที่ร้านกาแฟเพื่อจะช่วยงานช่วงเย็นที่ลูกค้าเยอะเป็นปกติ

ผมรีบเข้าไปรับผ้ากั้นเปื้อนจากพนักงานในร้านมาใส่แล้วประจำที่ผู้ช่วยบาริสต้าอย่างที่เคยทำประจำ ส่วนพี่ไลค์ที่วางมือให้พี่จีบรับช่วงต่อยังคงยืนพิงเค้าเตอร์บาร์จ้องหน้ากันอยู่ ผมกรอกตาไปมาแล้วยกมือขึ้นแตะๆหน้า มีอะไรติดอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย

"มีอะไรติดหน้าผมเหรอพี่"
ผมทำหน้าตาเหลอหลาจนพี่ไลค์เผลอยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบาๆก่อนจะยื่นมือมาจับแก้มกันแล้วออกแรงยืดจนพี่จีบที่ยืนชงเอสเพรซโซ่อยู่หันมามองตาเขียวปั๊ด ผมส่งยิ้มแหยไปให้ไม่กล้าปฏิเสธพี่ชายแฟนซะด้วยซ้ำ

"น่ารักขึ้นนะคิส ถ้าพี่ไม่มีแฟนว่าจะขอจีบเรา"

"อันเดว! นี่เมียกูนะไอ้ไลค์ เอามือเน่าๆของมึงออกไปเลย"
พี่จีบละจากเครื่องทำกาแฟตรงมาปัดมือพี่ไลค์ออกด้วยสีหน้าบึ้งตึงแถมยังคว้าคอผมเข้าไปกอดไว้แน่นจนต้องดิ้นน้อยๆให้เขารู้ว่าผมกำลังหายใจไม่ออก และจากการแอบเรียนรู้ภาษาเกาหลีด้วยตัวเองมาบ้างเลยรู้ว่า 'อันเดว' แปลว่า 'ไม่ได้'

"เฮ้ยๆ แฟนพอพี่ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด"
ผมรีบประท้วงคำพูดของพี่จีบทันทีที่ได้รับอิสระกลับคืน ส่งสัญญาณส่ายหน้ารัวๆให้กับพี่ไลค์ว่าไม่จริงอย่างที่น้องชายพี่พูดนะ

"ขี้หวงวะ นี่พี่นะ"

"ให้กูไปยุ่งกับไนน์บ้างไหมล่ะ"

"เออๆ แม่ง ยอมแพ้ กูไปทำบัญชีละ"
แล้วพี่ไลค์ก็เดินหายไปทางหลังร้าน ปล่อยให้พี่จีบมองตามแล้วส่ายหน้าเอือมๆ ผมแตะไหล่เขาเบาๆก่อนที่เราจะเริ่มทำงานกันอีกครั้ง เหนื่อยนะ เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดแต่พอสายตาหันไปสบกันกับพี่จีบ ความเหนื่อยพี่เผชิญมาทั้งวันกลับลดลงจนเกือบหมดอย่างน่าประหลาด นี่ล่ะมั้งที่เขาเรียกว่ากำลังใจในการทำงาน

ช่วงหนึ่งทุ่มกว่าๆมีกลุ่มนักเรียนสาวมัธยมในเครื่องแบบโรงเรียนเอกชน เกือบทุกคนมีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างกับการ์ตูนญี่ปุ่น ผมมองพวกเขาก่อนจะส่งยิ้มการค้าไปให้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงส่งสายตาเจ้าชู้ให้ไปแล้ว แต่ตอนนี้เหรอ... แฟนทั้งคนกำลังชงกาแฟอยู่ด้านหลังนี่สิ

"รับอะไรดีครับ"
ผมถามอย่างสุภาพก่อนจะส่งแผ่นป้ายเมนูให้กับพวกเธอทั้งสามคน หนึ่งในนั้นมองหน้าผมแล้วยิ้มอย่างอายๆก่อนจะสะกิดเพื่อนแล้วซุบซิบอะไรกันโดยที่ผมไม่ได้ยิน แต่ไม่นานนักเธอคนนั้นก็แทรกกายมายืนอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะใช้สายตาหวานเยิ้มมองมา

"มีเมนูอะไรแนะนำไหมคะ"
ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเพราะบนเมนูมีรายการแนะนำประจำเดือนติดอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรมากกว่าการยิ้มกลบเกลื่อนความแคลงใจ... เหมือนอยากจะชวนคุยแปลกๆ

"เดือนนี้มีเมนู มอคค่ามิ้นท์ เฟรชมิลล์มิ้นท์ และก็โกโก้มิ้นท์ครับ"

"ไม่มีพี่เหรอคะ"

"หา อะไรนะครับ"
ผมถามย้ำเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดไปก็ได้ แต่คนด้านหลังยืนยันประโยคนั้นให้ผมมั่นใจโดยการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของด้วยการโอบไหล่ผมแล้วคลี่ยิ้มเย็นยะเยือกไปให้พวกเธอ

"จะจีบพนักงานขายคนนี้ยากหน่อยนะครับน้อง"

"หือ... ทำไมถึงยากล่ะคะ"
เธอถามก่อนจะเอียงคอมองพวกผมสลับกันไปมา ดวงตากลมโตฉายแววสงสัยอย่างเห็นได้ชัด ดูๆแล้วมีความมุ้งมิ้งสูงมาก... น่าจะเป็นคนขี้งอแงพอตัวเลยว่ะ

"เขามีแฟนแล้วน่ะ ใช่ไหมครับ"
ประโยคหลังหันมาถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่เห็นแล้วอดขนลุกไม่ได้ ผมอยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อเธอแล้วถามว่าหล่อๆอย่างไอ้พี่จีบทำไมไม่เต๊าะ มาเต๊าะผมที่เป็นของแปลกทำไม... ฮึก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบให้สาวๆเข้าหาแต่ดูเหมือนว่าคนข้างกายมันจะขี้หวงขี้หึงมากกว่าที่คิด

"ชะ ใช่ครับ พี่มีแฟนแล้ว"
ผมตอบกลับไปเสียงตะกุกตะกักก่อนจะส่งยิ้มแหยๆให้สาวน้อยตรงหน้า เธอมองผมด้วยดวงตาเศร้าสร้อยครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสายตาเจ้าเล่ห์อย่างที่นางร้ายในละครชอบทำกัน ผมเผลอกำผ้ากั้นเปื้อนสีดำสนิทแน่น เหมือนเธอกำลังจะสร้างสงคามยังไงก็ไม่รู้ โอย... ไม่เอานะ ยังไม่อยากโดนพี่จีบมันลงโทษ

"แฟนสวยสู้หนูได้หรือเปล่า ถ้าสวยสู้ไม่ได้พี่หันมาสนใจหนูดีกว่านะคะ"
เธอขยิบตาให้ผมจนพี่จีบเริ่มคิ้วกระตุก อีกสองสาวยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าเพื่อนของตัวเองช่างกล้าน่านับถือให้เป็นไอดอล แต่หารู้ไม่ว่าหายนะกำลังจะมาเยือนพวกเธออยู่แล้ว

"อย่างพี่พอจะสวยสู้น้องได้ไหมครับ พอดีพี่เป็นแฟนเขาน่ะ"
พี่จีบพูดก่อนจะส่งยิ้มละมุนละไมให้สาวน้อยที่ตอนนี้ทำตาโตอ้าปากค้างไปทั้งสามคนแล้ว ส่วยผมได้แต่ยืนหน้าร้อนวูบวาบไม่รู้จะมุดส่วนไหนของร้านดีเพราะทั้งเขินทั้งอายในเวลาเดียวกัน พี่จีบแม่งพูดได้น่าไม่อายสุดๆ จะภูมิใจอะไรมากมายที่มรผมเป็นแฟนวะเนี่ย... แต่เอาจริงๆผมก็ภูมิใจนะที่มีเขาเป็นแฟน แต่อย่างหวังว่าจะพูดให้ฟัง อายจะตาย

"อ่ะ เอ่อ... แหะๆ ล้อเล่นค่า"
เธอคนที่เต๊าะผมก่อนหน้านี้รีบเปลี่ยนท่าทีอย่างไว เพื่อนของเธอก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียง ผมแทบจะหลุดขำแต่ต้องกลั้นไว้เพราะสีหน้าพี่จีบไม่สู้ดีนัก

"ตกลงรับอะไรดีครับ หรือถ้าไม่ก็จะได้เชิญคิวถัดไป"
พี่จีบพูดเสียงราบเรียบจนพวกเธอมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ผมใช้ศอกกระทุ้งหน้าท้องของเขาเบาๆเพื่อให้ลดความดุลงหน่อย แต่เหมือนพี่เขาจะไม่พร้อมทำอะไรอย่างนั้นเลยย่นคิ้วใส่กัน

"เอ่อๆ รับเฟรชมิลล์มิ้นท์สอง มอคค่ามิ้นท์หนึ่งค่ะ"
เธอสั่งรัวเร็วก่อนจะรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะ พี่จีบเหลือบมองกันเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

"หลังจากปิดร้านมีเรื่องต้องคุยกัน"
พี่จีบพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะกลับไปทำงานต่อ ผมมองแผ่นหลังคนตัวโตอย่างหวาดๆแล้วก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ตัวเองไปจนถึงเวลาปิดร้านและในตอนนี้ผมกำลังนั่งเกร็งอยู่บนโซฟาในคอนโดของพี่จีบ เขาไม่ยอมไปส่งผมที่บ้าน... ด้วยเหตุที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยนั่นล่ะ

"เดี๋ยวนี้เสน่ห์แรงนะ ต่อไปไม่ต้องไปช่วยงานที่ร้านแล้ว"
ร่างสูงเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกันพร้อมกับน้ำดื่มเย็นๆสองแก้วในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะกระจกแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาก่อนจะกระตุกแขนผมให้นั่งพิงอกเขาอีกต่อหนึ่ง แขนแกร่งสอดกอดรอบเอวสอบของผมเอาไว้หลวมๆทำให้ผมต้องทิ้งน้ำหนักตัวลงไปอีก

"หือ ไม่ได้เสน่ห์แรงสักหน่อยน่า ขี้หวงไปได้"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มเพราะรู้สึกเขินเวลาโดนพี่จีบหึงหวงแบบนี้ มันแสดงให้เห็นว่าผมเป็นคนสำคัญกับเขามากแค่ไหน

"วันนี้ทั้งไอ้แบททั้งน้องผู้หญิงคนนั้นเลยนะ จะไม่ให้กูหวงได้ยังไง แฟนกูทั้งคน"
พูดจบฟันคมก็คบลงมาบนต้นคอขาวอย่างมันเขี้ยว ผมเผลอสะดุ้งเฮือกเพราะยังไม่ทันตั้งตัวและไม่ทีหนทางหนีด้วย ใบหน้าร้อนวูบวาบจนรู้สึกชาไปหมด ชักจะทำให้ใจผมสั่นจนควบคุมไม่ได้แล้วนะ ถ้ามันเกิดหลุดออกมาจากอกพี่จีบต้องรับผิดชอบนะเว้ย

"พวกนั้นตาถั่วจะตาย โธ่ อย่าอารมณ์เสียสิครับที่รัก"
เกือบจะกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อรู้ว่าตัวเองใช้น้ำเสียงและคำพูดอะไรไปเมื่อครู่นี้ พี่จีบผละตัวผมออกแล้วลุกยืดตัวขึ้นมามองหน้ากัน มือหนาจับประคองไหล่ของผมเอาไว้ก่อนใบหน้าคมจะเคลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเราสัมผัสกัน ผมเผลอกลั้นหายใจเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนบริเวณต้นแขนไล่ลงมาเลื่อนถึงมือ

"อย่าดูถูกตัวเอง เพราะมึง...โคตรน่ารัก น่าขย้ำ"
พูดจบริมฝีปากหยักก็ประทับลงมากดจูบอย่างแผ่วเบาและมันเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆเมื่อลิ้นร้อนไล่เลียชิมรสหวานของริมฝีปากบาง ผมขย้ำชายเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างห้ามไม่อยู่ กลีบปากถูกดุนดันให้เผยออกจนลิ้นเปียกชื้นของร่างสูงสามารถแทรกผ่านเข้ามาเก็บเกี่ยวควสมหวานที่แสนวาบหวามไปได้ ปลายลิ้นหยอกล้อดุนดันก่อนจะเกี่ยวตวัดอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงครางอื้ออึงในลำคออย่างพออกพอใจของพี่จีบดังขึ้ยทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ... จะทำให้ผมละลายอยู่แล้วเขารู้ตัวบ้างไหม

"อึก อือ"
ผมใช้ผ่ามือดันหน้าท้องของเขาเป็นสัญญาณว่ากำลังจะขาดอากาศหายให้ ปากหยักยอมผละออกให้ผมโกยอากาศก่อนจะประทับลงมาใหม่อย่างเร่าร้อน มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุขสอดใส่เข้ามาใต้เสื้อนักศึกษาตัวบางจนผมเผลอเกร็งหน้าท้องอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อสัมผัสวาบหวามไล่สูงขึ้นมาหยอกล้อยอดอกสีหวาน ผมสะดุ้งตกใจแล้วรีบผลักร่างสูงออกห่างก่อนจะหอบหายใจแรงๆ

"ขอได้ไหมครับ คิสเป็นของพี่ได้ไหม..."
ผมเม้มปากแน่นเมื่อเจอเสียงออดอ้อนของเขา อยากบอกว่าใจพร้อมให้แล้ว แต่ร่างกายยังกลัวความเจ็บปวด หัวสมองเลยพาลคิดหาเงื่อนไขต่อรองเพื่อให้ตัวเองรอดไปอีกสักระยะด้วยการ....

"ถ้าสอบได้เกรด 3.8 อัพพี่มาเอารางวัลจากผมได้เลย"

"พูดแล้วห้ามคืนคำนะคิส"

"ได้ คำไหนคำนั้น ผมเป็นลูกผู้ชายพอ!"

"หึหึ"
เสียงหัวเราะชวนขนลุกทำให้ผมรู้ว่าที่พูดไปคงผิดพลาดมหันต์แล้วล่ะครับ ฮือ!!




-------------------------------------------------------




Q & A กับจีบ

Q : เกรด 3.8 นี่มั่นใจว่าจะทำได้กี่เปอร์เซ็น?
A : หึหึ บอกได้คำเดียวว่าไอ้คิสมันพลาดแล้วล่ะครับ





เขามีความหึงหวง น้องคิสมีความเสน่ห์แรงอยู่นะเออ 555555
คิสไปท้าจีบไว้แบบนั้นคือพลาดจริงๆเราบอกเลย หึหึหึ

อ่านให้สนุกน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2016 18:32:20 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แอร๊ยยย. น้องคิสจ๋า คิดเกรดได้ดีค่ะ เพราะถ้าตั้งสูงกว่านี้คงจะยากไป
น่ารักน่าขย้ำจริงๆ ขอสักคำได้ไหมอ่า. วาบหวามเขียนแบบนี้จ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด