♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]  (อ่าน 170587 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ขอแบบพี่จีบคนได้มั้ยคะ ฮือออ น่ารักกก หยักดั้ยยยย
สงสารคิสนะ ขนลุกแล้วขนลุกอีก รอเกรดออกพี่จีบจัดน้องให้หนัก เอาให้สบายตัวไปเลยนะ 555555

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ของรางวัลนี่จะเป็นไรดีล่ะ รู้สึกเหมือนพี่จีบแกอยากได้ตัวน้องคิสมากกว่านะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เต๊าะ ไปอีก ๆ เราชอบ 555

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
มีความ อิจ คิส มากมาย อยากได้แบบพี่จีบสักคนอะ

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 27.5 -
(จีบ x คิส)




ฝนตกอีกแล้วเหรอ?

คำถามนี้วนเวียนอยู่ในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันไม่ได้ต้องการคำตอบอะไร แค่ถามกับตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายก็แค่นั้นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาจะหยุดเมื่อไหร่ ละอองน้ำเพียงเล็กน้อยที่ตกกระทบลงมาบนตัวทำให้คนไม่ถูกกับฝนจามแล้วจามอีกจนปลายจมูกกลายเป็นสีแดงระเรื่ออย่างน่าสงสาร ครั้นจะลากไปหลบฝนที่อื่นก็เกรงว่าจะไม่ได้เพราะคนแน่นขนัดเหลือเกินในยามนี้ น้ำเจิ่งนองไปทั้งถนนจนเกรงว่าถ้าย่ำรองเท้าผ้าใบลงไปจะสามารถเลี้ยงปลาทองไว้ในรองเท้าได้ไม่ยาก

"คิส ไหวไหม"
ผมถามคนข้างตัวด้วยความเป็นห่วง จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เขาตากฝนและป่วยแทบจะทันที ครั้งนี้ต่างกันมากตรงที่เรายืนแช่ให้ละอองฝนตกกระทบตัวเกือบราวสามสิบนาทีเข้าไปแล้ว กุญแจรถ BMW ในมือถูกหมุนไปมาด้วยความร้อนใจเล็กๆ คิสหันมามองกันก่อนจะพยักหน้าเบาๆทั้งทีเมื่อครู่เพิ่งจามติดต่อกันไปสองรอบ มีแววว่าผมจะได้ดูแลคนป่วยอีกแล้วสินะ

"ยังไหวอยู่ แต่โคตรหนาวเลย"
ร่างบางเบียดเข้ามาหากันจนแทบจะสิงกัน ถ้าหากในยามปกติเขาคงไม่ทำแบบนี้เพราะกลัวสายตาคนอื่นจะมองเราไม่ดีที่ผู้ชายสองคนตัวใหญ่ๆมายืนแนบชิดกัน แต่ในขณะนี้ความเปียกชื้นและละอองฝนที่กระเซ็นโดนตัวคงผลักดันให้ทำโดยไม่แคร์สายตาใคร ผมนึกขอบคุณสายฝนที่ทำให้แฟนไม่สนใจคนอื่นมากกว่าความรู้สึกตัวเอง

"ยืนหลบหลังกูก่อนก็ได้"
ผมพูดพลางกระตุกแขนเขาให้ขยับไปยืนซ้อนหลัง ผมที่มีความสูงและโครงสร้างร่างกายหนากว่าแทบจะบังคิสจากสายตาคนที่มองมาได้สนิท รอยยิ้มเล็กๆจากใบหน้าเอ๋อๆทำให้ผมเผลอยิ้มตามได้ทุกครั้ง จากสนใจ กลายเป็นชอบ จนสุดท้ายก็รักอย่างไม่รู้ตัว แทนที่ผมจะสนใจสาวๆสวยๆที่รายล้อมรอบตัว กลับตกหลุมเด็กผู้ชายที่เป็นแฟนคลับของตัวเองซะอย่างนั้น

"พี่จีบ เสื้อนักศึกษาเปียกหมดแล้วนะ เอาเสื้อกันหนาวผมไปใส่เหอะ"
ผมก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วเบ้ปากใส่เล็กน้อย เสื้อนักศึกษาสีขาวเปียกลู่เพราะละอองฝนจำนวนมากกำลังแนบสนิทกับผิวเนื้ออย่างไร้ช่องว่าง จากที่คิดว่าคงไม่เป็นไรพอถูกทักเข้าหน่อยเริ่มรู้สึกหนาวจนผิดปกติขึ้นมาบ้างแล้ว แต่จะให้แย่งเสื้อเจ้าเด็กอ่อนแอต่อฝนก็เห็นจะใจร้ายเกินไปหน่อยล่ะมั้ง

"ไม่เอา มึงบ่นหนาวยังจะมาห่วงกูอีก"
ผมยกมือขึ้นขยี้หัวคิสจนยุ่งเหยิงไปหมด เขามุ่ยหน้าใส่กันแต่ก็ไม่ยอมปัดมือที่น่ารำคาญของผมทิ้ง อาจจะเพราะชอบหรือเหนื่อยจะห้ามแล้วก็ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่ผมนึกอยากขย้ำเขาเพราะความน่ารักจะระงับตัวเองด้วยการขยี้ผมเขานี่ล่ะ

"ระวังป่วยนะพี่จีบ ผมดูแลใครไม่เป็นนะเว้ย"
เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังขึ้นพร้อมกับจมูกโด่งๆถูไถลงมากับต้นแขนของผมเพียงครู่เดียวก่อนจะผละตัวมาเบะปากใส่กัน ใครจะมองว่ามันทำตัวปัญญาอ่อนก็ช่างแต่สำหรับผมมันน่ารักน่าฟัดเสมอ

"เออน่า ไม่ป่วยง่ายๆหรอก"
ผมตอบก่อนจะยิ้มมุมปากให้ไป หลังจากนั้นเราทั้งคู่ยืนรอฝนซาแต่เหมือนมันจะไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย นาฬิกาข้อมือบอกเวลาหกโมงเย็นที่ควรจะกลับคอนโดได้แล้วเพราะเจ้าข้าวเหนียวรออยู่ มันคงหอนเรียกร้องให้เจ้านายกลับมาใจจะขาดแล้วล่ะมั้งตอนนี้

"คิส กูวิ่งตากฝนไปขับรถมารับมึงดีกว่า ดูท่าทางฝนจะไม่หยุดตกแล้ว"
ผมหันไปบอกคนที่ยืนกอดตัวเองซะแน่นหนา น่าสงสารแต่ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ในเมื่อเสื้อผ้าเปียกโชกมากกว่าเขาอีก ดวงตากลมช้อนมองก่อนจะส่ายหน้าแรงๆ คิสใช้มือข้างหนึ่งสอดเข้ามารั้งรอบเอวของผมไว้ด้วยความเป็นห่วงจนทำให้เผลอหลุดยิ้มได้ง่ายๆ ก็ไหนบอกว่าแคร์สายตาคนอื่นนักหนา แล้วมากอดเอวแบบนี้ไม่อายหรือยังไง

"ไม่เอานะ ตากฝนขนาดนั้นไม่สบายแน่ๆ"

"เป็นห่วงหรือขี้เกียจดูแล"
น้ำเสียงหยอกเย้าของผมได้รับการตอบรับด้วยฝ่ามือเล็กๆที่ลาดไหล่ เสียงดังเพี๊ยะเรียกสายตาคนรอบข้างให้หันมามองเราอย่างฉงน ผมแอบเบ้ปากเล็กน้อยเพราะคิสตีลงมาแบบไม่ออมแรงเลยสักนิด ใบหน้าติดจะหวานของมันบึ้งตึงอย่างกับคนถ่ายไม่ออก มองแล้วก็ตลกดี

"ใครจะขี้เกียจดูแลแฟนตัวเองวะ"
บ่นพึมพำกับตัวเองแต่ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนจนเผลอหลุดยิ้มออกมาครั้งแล้วครั้งเล่ากับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกัน คิสน่ารักกว่าใครผมรู้ดี คิสเอาใส่ใจผมมากกว่าใคร ที่บอกว่าดูแลใครไม่เป็นนั่นเรื่องโกหกทั้งนั่นล่ะน่า ผมเชื่อว่าถ้าป่วยขึ้นมาเด็กคนนี้ก็พร้อมที่จะดูแลอยู่แล้ว ถึงมันจะเงอะๆงะๆไปบ้างก็เถอะ

"น่ารักจริงนะมึง"

"น่ารักก็รักเยอะๆ"
เสียงกระซิบแผ่วเบามาพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะความเขิน เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าคิสติดนิสัยหยอดหนักไปจากผมหรือเปล่าถึงได้ชอบพูดคำหวานแบบนี้ออกมาบ่อยๆ

"ทำตัวแบบนี้ไม่กลัวโดนปล้ำเหรอวะ"
ผมก้มลงกระซิบข้างหูร่างบางด้วยเสียงที่แหบพร่าเพราะอยากแกล้ง คิสสะดุ้งแล้วผละตัวออกแถมยังปล่อยแขนที่โอบรอบเอวผมออกด้วย ใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก เขาก้มหน้าบ่นอะไรงึมงัมคนเดียวไม่ให้ผมได้ยิน

"รออยู่นี่นะ จะผ่าฝนไปเอารถแล้ว ไม่งั้นไม่ได้กลับแน่ๆ"
ผมไม่รอฟังคำทักท้วงอะไรจากเขาแล้วรีบวิ่งผ่าสายฝนตรงไปที่ลานจอดรถของคณะศิลปกรรมศาสตร์ทันที เมื่อมาถึงก็รีบเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งทั้งๆที่ตัวเปียกอย่างกับลูกหมาตกน้ำ แต่ไม่เป็นไรเพราะเบาะเป็นหนังอย่างดี ผมยกมือขึ้นขยี้หัวเล็กน้อยก่อนจะเสียบกุญแจแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ มือเรียวเอื้อมเปิดแอร์แล้วพบกับความหนาวสะท้านจนปากสั่นเล็กๆ ผมน่าจะพลาดแล้วเพราะร่างกายที่อดหลับอดนอนมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ปั่นงานกำลังประท้วงว่ามันมีอาการผิดปกติแทรกซ้อน ป่วยก็ป่วยวะ อยากรู้เหมือนกันว่าคิสจะทำยังไง

ผมขับรถมาจอดหน้าตึกแล้วรีบคว้าร่มที่อยู่เบาะหลังมาก่อนจะเปิดประตูและกางร่มลงจากรถ รีบก้าวเท้าฉับๆย่ำน้ำเฉอะแฉะบนถนนโดยไม่สนว่ารองเท้าจะสกปรกหรือไม่เพราะตอนนี้คิสสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ปล่อยให้โดนละอองฝนนานๆไม่ดีแน่ๆ

"พี่จีบ เปียกทั้งตัวแล้วนะนั่น!"
คิสทำหน้าตาตื่นเมื่อเห็นสภาพเสื้อนักศึกษาเปียกลู่แนบกับผิวเนื้อ วันนี้ผมไม่ได้ใส่เสื้อกล้ามไว้ข้างในเพราะตอนเช้าอากาศร้อนจะเป็นจะตายใครจะนึกว่าตอนเย็นฝนจะเทลงมาอย่างกับฟ้ารั่วแบบนี้

"มาเร็วๆ มึงน่ะยืนโดนละอองฝนนานแล้ว"
ผมคว้าข้อมือเขามาจับไว้แล้วออกแรงดึงในมาอยู่ใต้ร่มคันเดียวกันแล้วพาไปที่รถอย่างรวดเร็ว ผมส่งคิสก่อนจะเดินไปฝั่งคนขับ ขึ้นรถได้ผมก็ทิ้งร่มเปียกชื้นไว้ทางเบาะหลังทันที

"พี่จีบจะป่วยเอานะครับ เปียกขนาดนี้"
คิสยังคงส่งสายตาห่วงใยมาให้กัน ผมเลยเอื้อมมือไปขยี้หัวมันเบาๆอย่างนึกเอ็นดู และในขณะนั้นเสียงจามก็ดังขึ้นจนผมแอบสะดุ้ง สงสัยคราวนี้จะเป็นหวัดทั้งสองคนแล้วล่ะ

"ห่วงตัวเองก่อนเถอะ จามไม่หยุดแล้ว"
ผมว่าก่อนจะเลื่อนมือไปดึงแก้มคิสเบาๆด้วยความมันเขี้ยว รู้จักห่วงตัวเองก่อนคนอื่นบ้างเถอะน่า

"อือ ไม่ป่วยหรอก เดี๋ยวนี้ผมถึกจะตายไป แค่จามนิดหน่อยคงไม่ร้ายแรง ว่าแต่พี่เถอะ อดหลับอดนอนมาเป็นอาทิตย์แล้วนะเว้ย จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง"
บ่นเป็นหมีกินผึ้งแต่คิสก็ยังน่ารักในสายตาผมเสมอ ไม่เคยคิดว่าจะรักใครคนหนึ่งได้มากขนาดที่ว่าหลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าจะกลายเป็นคนขี้หวง ไม่เคยคิดว่าจะกล้าป่าวประกาศว่าตัวเองมีแฟนเป็นผู้ชายแบบนี้ แต่ความเป็นคิสผลักดันให้ผมกล้าทำทุกอย่างออกมาเป็นธรรมชาติอย่างไม่กระดากอายเลยสักนิด ก็แฟนน่ารักใครมันก็อยากอวด

"เออๆ บ่นจริงๆเลย ยิ่งกว่าแม่อีก"
ผมว่าติดตลกแต่คิสมุ่ยหน้าใส่กันซะอย่างนั้น มือเรียวยื่นมาดึงแก้มผมด้วยความหมั่นไส้ เขาออกแรงมากเกินไปจนแก้มผมแทบจะหลุดติดมือ

"โอ้ย เจ็บนะ"

"ผมเป็นแม่ทูนหัวไงครับ"
มันว่าก่อนจะส่งยิ้มเย็นให้กับผม เชื่อเขาเลยว่าตอนจะดุกลับดุได้อย่างน่ากลัว จากลูกกระต่ายตัวน้อยๆกลายเป็นกระต่ายหนุ่มวัยต่อต้านไปซะอย่างนั้น

"ครับๆแม่ทูนหัว"
หลังจากนั้นผมก็ขับรถมาจอดใต้คอนโดหรูก่อนจะพากันขึ้นห้องด้วยสภาพที่เละเทะพอตัว สายฝนยังคงเทกระหน่ำลงมาอย่างน่ากลัว ผ้าที่ตากไว้ตรงระเบียงห้องเปียกซกจนต้องเดินออกไปเก็บมาซักใหม่ อย่าคิดว่าผมจะซักเองนะ... ร้านซักรีดใต้คอนโดเลย

"คิสรีบไปอาบน้ำก่อนเลยไป"
ผมบอกเขาเมื่อหอบผ้าเปียกๆมาใส่ตะกร้าก่อนจะปิดประตูกระจกที่ระเบียงลง ร่างบางพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรวบเอาเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป ผมเห็นแบบนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าที่เปียกโยนใส่ตะกร้าทั้งหมอแล้วดึงเอาผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง อาการปวดหัวกำลังเล่นงานเข้าอย่างจัง งานเข้าแล้วไหมละ เฮ้อ

ผมกำลังจะหลับตาลงเพราะรู้สึกหนักเปลือกตา แต่เสียงทุ้มเอ่ยทักกันก่อนที่ร่างบางจะนั่งลงข้างๆแล้วใช้หลังมือแตะหน้าผากกัน

"ตัวร้อนแล้วนะ ไม่ต้องอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ดีกว่า"
ผมยังไม่ทันได้ทักท้วงอะไร คิสก็ลุกขึ้นไปเตรียมอุปกรณ์สำหรับเช็ดตัวกันแล้ว ผมได้แต่ลอบมองแล้วยิ้มออกมาอย่างคนหมดทางสู้ เอาเถอะ ให้แฟนเหนื่อยหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ

"มาครับๆ นอนลงนะ จะได้เช็ดง่ายๆ"
เสียงใสๆดังขึ้นทำให้ผมนอนลงอย่างว่าง่าย มือเรียวบิดไล่น้ำจากผ้าขนหนูผืนเล็กก่อนจะเช็ดมันไปตามลำตัวของผมอย่างเงอะๆงะๆ ถ้าตาไม่ฝาดจะเห็นว่าแก้มขาวๆซับสีชมพูระเรื่อไว้ มือเขาเริ่มสั่นน้อยๆเมื่อเลื่อนต่ำลงใกล้จุดอ่อนไหว บางปากเม้มเข้าหากันแน่นอย่างกับคนกำลังคิดอะไรในสมอง

ผมลอบมองปฏิกิริยาเหล่านั้นอย่างใจเย็น อยากรู้ว่าคิสจะทำยังไงต่อไปกับเหตุการณ์ชวนวาบหวิวนี้ดี คิดแล้วก็ตลกเหมือนกัน ทั้งๆที่ร่างกายของเราก็มีอะไรๆเหมือนกันแท้ๆทำไมเขาต้องอายเมื่อเห็นของผม และทำไมผมต้องหื่นเมื่อเห็นร่างกายของเขานะ อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกพิเศษที่มีให้กัน...รัก

"ฮึบ"
ผมได้ยินเสียงเบาๆก่อนที่มือเรียวจะปลดผ้าขนหนที่พันรอบเอวของผมออก แต่ตากลมนั่นกับปิดแน่นราวกลัวว่าจะเห็นอะไม่ดีไม่งาม มือไม้เริ่มปัดป่ายไปเรื่อยๆจนผมต้องกัดปากยับยั้งอารมณ์เพราะคิสสัมผัสโดนน้องชายไปหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองป่วยคงกระโดดเข้าขย้ำคนเอ๋อตรงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้แม้แต่แรงจะพูดยังไม่มีเลย เหนื่อยกับตัวเองฉิบหาย ถ้าป่วยเมื่อไหร่จะหนักจนทุกคนผวาเลยล่ะ ไม่เข้าโรงพยาบาลก็นอนซมไปสามสี่วันอะไรประมาณนั้น

"คิส...อึก พะ พอ"
ผมแทบจะพูดไม่เป็นภาษาเมื่อผ้าผืนน้อยปัดป่ายไปมาตรงเป้าไม่หยุด ไแคนที่หลับตาปี๋จะไม่รู้เลยหรือยังไงว่ามีอะไรบางอย่างเริ่มดุนดันมือตัวเองเนี่ย จะเอ๋อไปถึงไหนวะแฟนผม โดนปล้ำสักทีอาจจะหายเอ๋อ...หรือเปล่า ช่างแม่งเรื่องนั้นก่อนเถอะ ตอนนี้ปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เกลียดตัวเองที่ยังมีอารมณ์หื่นในเวลาแบบนี้ด้วย บ้าจริง

"หือ เหวอ!"
พอลืมตาเท่านั้นล่ะ เขาก็ผงะถอยหลังจนก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น ดีหน่อยที่ไม่แรงมากเท่าไหร่ไม่อย่างนั้นมีช้ำกันบ้าง มือเรียวยกขึ้นปิดหน้าปิดตาตัวเองแต่ใบหูก็บ่งบอกได้ดีว่าเกิดอาการเขินมากขนาดไหน ผมที่เห็นอาการนั่นถึงกับหลุดขำออกมาได้ง่ายดาย คนบ้าอะไรจะน่ารักได้ตลอดเวลาขนาดนี้วะ ดูท่าผมจะเป็นเอามากแล้วว่ะ แอทแทคเขา เขาแอทแทคกลับ แฟร์ๆเนอะ

"พี่จีบแม่ง ลามก!!"
ว่าผมไม่พอยังฟาดมือลงมาบนหน้าท้องเต็มๆจนจุก นี่มันจะเขินแรงไปถึงเมื่อไหร่บางทีก็สงสารตัวเองเหมือนกันนะรองรับมือเท้ามันเนี่ย แต่ก็ไม่ถือสาอะไรหรอก ก็ผมรักของผมล่ะเนอะ แค่นี้จิ๊บๆ แต่ตอนป่วยโคตรไม่จิ๊บเลยว่ะ รู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

"เจ็บ"
พูดได้แค่นั้นก่อนจะนอนงอตัวอย่างคนหมดสภาพ คิสรีบลนลานเอาผ้าขนหนูมาปิดส่วนสงวนของผมไว้แล้วรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้กันจนเรียบร้อย

"หิวหรือยังครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้ออะไรให้กินนะ"
คิสว่าก่อนจะลุกพรวดพลาดออกไปโดยไม่รอคำทักท้วงของผมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฝนยังตกเลยไม่อยากให้ออกไปไหน ถ้าเกิดป่วยขึ้นมาอีกคนจะลำบากเอาไหมล่ะชีวิต คิดไปก็เหนื่อยนอนดีกว่า

ตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าที่นี่ไม่ใช้คอนโดของตัวเอง แต่เป็นห้องสีขาวสะอาดมีกลิ่นเฉพาะตัวเจือจางในอากาศ ดวงตาปรือเปิดอย่างยากลำบากเมื่อแสงไฟในห้องพักยังสว่างจ้า เมื่อหันไปมองข้างตัวกลับพบใบหน้าแสนรักที่กำลังเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะบีบกระชับมือที่กุมกันไว้ให้เขารู้ตัวว่าทำได้สติแล้ว

"พี่จีบ!"
เขาร้องเรียกผมซะดังลั่นจนพี่ดีพที่นั่งอยู่บนโซฟาก้าวขายาวๆมาปิดปากไว้ สายตาดุๆส่งให้คนเป็นน้องราวกับจะเตือนว่าเมื่อครู่ทำตัวไม่เหมาะสมเพราะที่นี่คือโรงพยาบาล สุดท้ายผมก็ลงเอยที่นี่จนได้สินะ อา...เกลียดจัง

"เสียงดังไปนะมึง"
พี่ดีพว่าปรามๆก่อนจะปล่อยมือออกแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ผมอ้าปากพะงาบๆพยายามจะทักทายเขาแต่มันไม่มีเสียงใดๆลอดออกมาสักนิด ฉิบหายอีกแล้วไง

"ไม่ต้องพูดๆ นอนพักไปเลย มึงป่วยนี่ยังคงความหล่ออีกนะไอ้จีบ กูชักหมั่นไส้มึงตงิดๆ"
พี่ดีพพูดที่เล่นทีจรจนผมหัวเราะออกมา แต่กลับกลายเป็นเสียงไอ้โขลกแบบมีเสมหะเป็นล้านตันติดอยู่ในคอซะอย่างนั้น คิสทำหน้าตาตื่นอีกครั้งแล้วรีบใช้มือลูบไหล่ผมอย่างทำตัวไม่ถูก ผมอยากบอกให้เขาดึงสติกลับมาหน่อย ก็แค่ป่วยธรรมดาไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงสักหน่อย

"พี่ดีพหยุดพูดไปเลยนะเว้ย พี่จีบป่วยอยู่นะ"

"อ่าวๆ พอหมดประโยชน์แล้วร้ายใส่เลยนะน้องกู"
พี่ดีพลุกขึ้นจากโซฟามาผลักหัวคิสไปหนึ่งทีแล้วขอตัวกลับบ้าน พรุ่งนี้จนขนเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ผมกับคิสพร้อมใจกันยกมือไหว้ขอบคุณพี่ดีพก่อนเขาจะออกจากห้องไป

"พี่จีบ หิวน้ำไหม"
เหมือนเขาจะเพิ่งคิดได้ว่าควรเอาน้ำให้ดื่ม ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะฝืนกระตุกยิ้มที่มุมปากไปให้ ร่างบางรีบจัดการรินน้ำใส่แก้วให้กันแล้วจ่อหลอดมาที่ริมฝีปาก ผมงับหลอดอย่างคนอ่อนแรงแล้วดื่มน้ำเข้าไปเพียงอึกเดียว สมองแม่งสั่งให้หลับอีกแล้ว เวรเอ้ย

"เป็นห่วงนะ ฮึก พี่ตัวร้อนจี๋จนผมตกใจต้องเรียกพี่ดีพไปรับอ่ะ"
เด็กน้อยเริ่มสะอื้นอีกครั้งเมื่อเขาเล่าย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนผ่าวแนบกับแก้มใสแล้วลูบไล้ไปมาเบาๆอย่างปลอบประโลม แฟนใครทำไมขี้แย่จังวะเนี่ย ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงดึงคิสลงมากอดปลอบแล้ว

"ใจ...เย็น แค่ป่วย แค่ก ธรรมดา"
ผมแค่นเสียงอย่างยากลำบาก คันคอฉิบหายจนไอโขลกหนักๆออกมาอีกรอบ คิสกรอกตาไปมาอย่างลนลานมือไม้สั่นเทิมไปหมดจนน่าสงสาร สาบานว่าต่อไปจะรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุด ป่วยแล้วไม่ได้แย่แค่ตัวเอง คนรอบข้างก็แย่ ไม่ดีเลย

"ป่วยธรรมดาอะไรเล่า เป็นไข้หวัดใหญ่เลยนะ!!"

"!!!!!"
อ้าว ไอ้ฉิบหาย... ผมเริ่มเกลียดฝนขึ้นมาเหมือนคิสซะแล้วสิ แต่สายฝนในวันนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่า คนที่เรารักเป็นห่วงเรามากแค่ไหน : ) ถึงจะป่วยแต่ก็มีความสุขนะ

โคตรรักมึงเลยว่ะ





-----------------------------------------------------------


ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมากๆ พี่จีบกับคิสเขาก็ตามเทรนด์นะ? 5555555
ตอนพิเศษเบาๆ ไม่หวือหวา คึคึ

รักษาสุขภาพกันด้วยน้าคนอ่าน ♥

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2016 13:42:10 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :impress2:   น่ารักจังเลย ขนาดเขาป่วยกันนะเนี่ย  สัมผัสได้ถึงความละมุนไปทั่วโรงพยาบาล อิอิ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ดูแล กันไป จีบกันไปเนอะ ฮ่า ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ขนาดป่วยยังมีอารมณ์หื่นอีกนะพี่จีบบบบบบบ :hao6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
หมั่นไส้คนรักก้น

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
พี่จีบคุณค่าที่ควรรักษา

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Naam3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพ่จีบบบมาแล้ววววว :impress2: o13 :z1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หายเร็วๆนะคะพี่จีบ

 :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
 :hao7: :hao7: ดีใจที่พี่จีบป่วยนะคะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อ่านทันแล้ว พี่จีบบบบ ทูนหัวของบ่าว :-[

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานกันได้ทุกตอนจนอิจฉาละ

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 28 -
( จีบ )





"นิ่งๆสิครับพี่"
เสียงสั่งการของคนตรงหน้าทำให้ยิ่งขยับตัวมากขึ้น นั่งมานับชั่วโมงจะให้นิ่งแข็งเป็นหินก็ใช่เรื่อง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมดแล้ว ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูงานของคิสแล้วพบว่าที่เสียเวลานั่งเก๊กไปแทบจะไม่ได้อะไรเพราะในกระดาษปรากฏแค่เค้าโครงหน้าเท่านั้น เพื่ออะไรวะเนี่ย เห็นลบแล้วลบอีกจนกระดาษจะเปื่อยอยู่แล้ว

"กูนั่งเกร็งมาเป็นชั่วโมงวาดได้แค่นี้เนี่ยนะ"
ผมว่าก่อนเอนหลังพิงโซฟาทั้งๆที่คนตรงหน้าเบ้ปากใส่ด้วยความขัดใจ เจ้าตัวเลยพลอยวางกระดานลงบนโต๊ะกาแฟไปด้วย อาจจะเหนื่อยกับการเล็งใบหน้าผมแล้วมั้ง

"ก็ผมวาดไม่เก่งนี่หว่า วาดๆลบๆเพราะมันเบี้ยวอ่ะ"
คิสทำหน้าสลดจนผมนึกอยากดึงมากอดปลอบแต่หมั่นไส้ที่มันทำให้ผมนั่งเมื่อยมาตั้งชั่วโมงเลยทำได้แค่ผลักหัวเบาๆเป็นการตอบแทน

"พักกินข้าวก่อนไหมล่ะ"
ผมถามก่อนจะเอื้อมมือไปบีบจมูกคิสเบาๆ เขาย่นจมูกใส่ผมเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับแล้วใช้มือลูบท้องตัวเองแสดงอาการหิว ผมปล่อยมือก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วบิดขี้เกียจไปมา กะว่าจะเดินผ่านไปเข้าครัวแต่ดวงตาคมกลับหยุดชะงักอยู่ที่ใบหน้าติดหวานแดงระเรื่อ ผมก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่าขอบกางเกงในโผล่เล็กน้อยและซิกแพคเล็กน้อย

"คิดต่างไปทางอื่น คิดหื่นมาทางคิสป่ะ"
ผมแกล้งแหย่ก่อนจะโน้มตัวไปใกล้จนใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ คิสผงะถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้แต่ผมรั้งไหล่เขาไว้ทัน จะตกใจโอเว่อร์อะไรขนาดกัน ทำอย่างกับไม่เคยจูบกันอย่างนั้นล่ะ คิดแล้วก็ขำทุกครั้งที่คิสมีปฏิกิริยาเขินอายแบบนี้ มันทำให้ผมอยากฟัดเขาให้เร็วขึ้นไปอีก ผลการเรียนบ้าอะไรไม่อยากรอแล้วไง

"ไอ้บ้า ผะ ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ไปทำกับข้าวได้แล้ว!"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะยอมแพ้แล้วเดินเข้าครัว ถ้าขืนอยู่ต่อผมคงจับคิสปล้ำแน่นอน ก็ไอ้ตอนมันเขินน่ะหน้าแดงหูแดงไปหมด ชอบโวยวายหรือทำร้ายร่างกายผมเป็นการแก้เขินตลอด

ผมเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำข้าวผัดแฮมง่ายๆสำหรับมื้อเที่ยง มือสาละวนกับการรื้อตู้เย็นของตัวเองที่คิสซื้อขนมนมเนยมายัดเต็มไปหมด นี่ขนาดยังไม่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันถาวรนะ จริงๆแล้วลาภปากซารังเลยล่ะ ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง เดาได้ไม่ยากว่าไอ้ตัวยุ่งอยากมาช่วยกันทำอาหารนั่นล่ะ

"มีไรให้ช่วยไหม"
น้ำเสียงสดใสดังขึ้นก่อนจะรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆด้านข้างเนื่องจากคิสขยับมายืนแทนตำแหน่งที่ว่าง ผมเหลือบมองทั้งๆที่มือยังคงรื้อหาผักที่ต้องการ ข้าวโพดอ่อน แครอท หอมหัวใหญ่ประมาณนี้

"ช่วยหาผักหน่อย เอาไปยัดไว้ตรงไหน"
ผมลุกขึ้น ส่วนคิสนั่งยองๆลงค้นหาผักให้กัน ส่วนผมเดินไปเตรียมข้าวและกระทะมาตั้งไฟก่อนจะเดินกลับไปหยิบเนยใช้แทนน้ำมันเพิ่มความหอม จริงๆแล้วเพิ่มความอ้วนให้คิสด้วย เพราะเดี๋ยวนี้ดูเหมือนแฟนผมจะเคร่งเครียดกับการทำงานส่งอาจารย์มากกว่าจะสนใจกิน ผอมเกินไปจับไม่เต็มไม้เต็มมือหรอก

"เจอแล้วครับ!"
คิสตะโกนบอกแล้วจัดการเตรียมผักให้ ไม่นานนักอาหารง่ายๆก็ส่งกลิ่นหอมฉุยชวนให้กระเพาะอาหารร้องประท้วง เรานั่งกินข้าวกันไปเงียบๆจนอิ่ม คิสอาสาล้างจานส่วนผมเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม

"งานส่งพรุ่งนี้แล้วอ่ะ วาดยากชะมัด"
คิสเดินกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะยกกระดานวาดรูปตั้งไว้บนตัก ดวงตากลมดูหม่นแสงเมื่อก้มมองผลงานในมือ ผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้หัวเขาเล่น ไม่ได้จะกวนแค่ต้องการปลอบใจ

"อย่าท้อ ตั้งใจทำให้เต็มที่ก็พอ กูพร้อมแล้ว มาๆ"
ผมนั่งเก๊กท่าเดิมอีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจว่าจะไม่กวนใจคนตรงหน้าอีกแล้ว แม้จะโดนให้นั่งเป็นก้อนหินนานกว่าเก่าก็จะไม่บ่นเมื่อยแม้แต่คำเดียว ปกติแล้วคิสไม่ค่อยขอร้องให้ผมช่วยงานเขาสักเท่าไหร่ พอโดนขอเข้าหน่อยก็รู้สึกพิเศษ

"ขอบคุณครับ ~"
คิสกลับมาร่าเริงใส่อีกครั้งแล้วเริ่มต้นวาดรูปไปเงียบๆ หลายต่อหลายครั้งที่เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบตากับผมแล้วหน้าซับสีเลือด อาจจะเขินอายที่โดนผมจ้องอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ละสายตา ซึ่งถ้ามีโอกาสหลีกเลี่ยงได้ผมก็ไม่อยากทำมันหรอก มองกี่ทีๆก็ไม่เคยเบื่อ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

อีกสองชั่วโมงถัดมาคิสวางดินสอในมือลงพร้อมกับร้องเสียงดังอย่างหมดแรงว่างานสำเร็จแล้ว ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะยืดแขนแล้วบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ คิสวางกระดานไม้ลงบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเช่นกัน ผลงานออกมาดีมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้ ก็อยากชมอยู่หรอกนะแต่ตอนนี้ขอทวงของแลกเปลี่ยนที่ช่วยงานก่อนแล้วกัน

"ไหนล่ะค่าตอบแทน"
ผมยกขาขึ้นไขว่ห้างก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองคิสที่หยุดชะงักกึกอยู่กับที่ ท่าทางยกไม้ยกมืออย่างกับเด็กน้อยทำให้ผมแอบนึกขำอยู่ในใจ จะหลุดเก๊กตอนนี้ไม่ได้หรอกเดี๋ยวทวงของตอบแทนไม่สำเร็จ

"อะไร ค่าตอบแทนอะไรเหรอ"
คิสปรับสีหน้าเป็นใสซื่อแล้วถามกันอย่างไร้เดียงสาเหมือนจำไม่ได้ว่าเมื่อวานพูดอะไรกับผมเอาไว้ แถมยังยกกระดานวาดรูปขึ้นมากอดไว้แนบอกอีกด้วย ทำท่าทางจะหนีกันซะอย่างนั้น แต่อย่าหวังว่าจะรอดเลย ไม่รู้บ้างหรือไงว่าความอดทนของผมมันมีจำกัด

"ค่าตอบแทนที่กูเป็นแบบให้ไง อย่าบอกนะว่าจะเบี้ยว"
ผมดักคอแล้วจ้องมองไปหน้าลุกลี้ลุกลนของเขาเขม็ง คิสกอดกระดานไม้แน่นขึ้นพลางเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิด คิดจะเบี่ยงแน่ๆ ผมรู้ดี

"อะ อะไร ไม่เบี้ยวหรอกน่า เอาของไปเก็บก่อนดิ ตั้งไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลืมเอาไปส่ง"
คิสตอบเสียงตะกุกตะกักก่อนจะรีบเดินไวๆเอากระดานไม้ไปตั้งรวมกับกระเป๋าเป้ที่ใช้ไปมหา'ลัย ที่จริงเขาบอกจะกลับหอวันนี้ตอนเย็นแต่ผมรั้งเขาไว้สำเร็จด้วยการเอาอาหารเวียดนามล่อ... หึหึ แพ้ของกินตลอด

"ไวๆเลย วางของแค่นั้นทำไมนาน"
ผมตะโกนให้คิสได้ยินเพราะเดินไปเก็บของไกลจากผมแค่ประมาณสิบกว่าแต่ทำเป็นจัดนั่นจัดนี่ไม่ยอมเดินกลับมาสักทีจนผมนึกหมั่นไส้ เห็นอีกคนไม่ตอบกลับเลยจะลุกขึ้นไปตามแต่ก็ได้แค่ชะงักเมื่อคิสหมุนตัวเดินกลับมาด้วยใบหน้าที่ผมไม่สามารถอ่านได้ คิดอะไรของเขาอยู่ทำไมถึงหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศขนาดนั้นกันนะ

เขาหยุดลงตรงหน้าผมก่อนจะจับมือที่ตั้งอยู่บนตักไว้แล้วเดินมานั่งคร่อมลงบนตักแทน ผมเบิกตาเล็กน้อยเพราะตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้า คือไม่อยากคิดอะไรมากเพราะถ้าคิดแล้วผมจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกเลย เรียกง่ายๆว่าความอดทนผมหมดลงแล้วนั่นเอง ตอนนี้พร้อมจะจู่โจมฟัดคิสได้ทุกเวลา

"หืม"
ผมครางในลำคอเบาๆแล้วจ้องมองดวงตากลมที่มองสบกันเป็นเวลาหนึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะเบนสายตาหนีแล้วขยับร่างกายเข้ามาแนบชิด สองแขนยกขึ้นคล้องรอบคออย่างเก้ๆกังๆ

"ยั่วเหรอ"
ผมถามด้วยน้ำเสียงกระซิบแกล้งเป่าลมอุ่นๆใส่ใบหูของคิสให้รู้สึกสยิวเล่น เขาย่นคอเล็กน้อยก่อนจะช้อนตามองและเข้ามาประกบปากผมอย่างรวดเร็ว จะเรียกว่ากระแทกเข้ามาคงไม่ผิดนัก คนตรงหน้าขบเม้มริมฝีปากผมอย่างเงอะๆงะๆแล้วพยายามใช้ลิ้นดันแยกกลีบปากออกเพื่อจะสอดลิ้นเข้ามา ผมเผยอปากออกเล็กน้อยเปิดทางให้แฟนมอบค่าตอบแทนให้อย่างว่าง่าย แต่มือไม้อยู่ไม่สุขเริ่มลูบไล้ไปตามเอวบางอย่างย่ามใจ

คิสครางเสียงแผ่วในลำคอทั้งๆที่ปากของเรายังแนบชิดกัน ปลายลิ้นเกี่ยวตวัดหยอกล้ออย่างไม่มีใครยอมแพ้กัน แต่เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วเย็นเยียบของผมแตะลงบนยอดอกสีหวาน

"อ๊ะ พี่จีบจะทำอะไร"
คิสผละตัวออกก่อนจะหอบหายใจหนักๆ ใบหน้าเอ๋อๆซับสีเลือดจนดูน่ามันเขี้ยว ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่กดจูบย้ำแบบไม่รุกล้ำก่อนจะเคลื่อนปลายจมูกสัมผัสกับซอกคอขาว กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ลอยมาแตะจมูกยิ่งทำให้สติเลอะเลือนยิ่งขึ้น

"อื้อ มะ ไม่เอานะครับ พอแล้ว"
เขาดันอกผมให้ออกห่าง ผมยอมถอยเพราะถ้าทำต่อคิสอาจจะโกรธกันก็ได้ ในเมื่อผมกับเขาคุยกันเรื่องนี้และตกลงกันเรียบร้อยไปแล้ว ถ้าผิดคำพูดขึ้นมากลัวจะเป็นเรื่องใหญ่โต

"แค่ฟัดนิดหน่อยเอง ไม่ปล้ำหรอก"
ผมว่าก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มขาวอีกครั้ง ในใจนึกเสียดายอยู่ไม่น้อย ที่ไม่สามารถจับคนตรงหน้ากดได้ตามใจอยากทั้งๆที่เป็นแฟนกันแล้ว รักมากจนไม่กล้าบังคับเคยเป็นกันไหม

"ฟัดนิดหน่อย แต่ผมจะตายเอานะ ใจเต้นแรงฉิบหาย"
คิสบ่นเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้าลงแต่ไม่ยอมลงจากตักกันซะอย่างนั้นทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้กอดเขาไว้สักหน่อย ทำไมชอบให้คิดว่ายั่วกันตลอดเลยนะไม่เข้าใจจริงๆ

"ไม่ลงจากตักหรือไง ไม่กลัวโดนฟัดอีกเหรอ"
ผมโน้มตัวกระซิบข้างหู คิสถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าไปมา ดวงตากลมช้อนมองกันครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะโถมตัวมากอดกันไว้แน่นและการเป็นผมที่ตกใจเสียเอง เพราะถ้ามองไม่ผิดดวงตาของเขาสั่นไหวแปลกๆ

"เบื่อผมหรือเปล่า"
น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นในขณะที่เขายังซบหน้าลงกับลาดไหล่ ผมย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเขาเบาๆ ความสงสัยผุดขึ้นในใจราวกับดอกเห็ดในฤดูฝน ทำไมอยู่ๆเข้าโหมดดราม่าได้วะ

"ทำไมถามแบบนั้น"

"ก็ผม...เอาแต่ห้ามเรื่องอย่างว่าตลอดเลย"

"อืม ก็เบื่อนะ"

"....."

"เบื่อที่มึงน่ารักแล้วกูห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดอกุศลกับมึงไม่ได้สักที"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับความคิดบ้าๆของตัวเอง ท่าทางจะอาการหนักแล้วจริงๆอาจจะต้องหักดิบเรื่องหื่นกามแล้วมั้ง แฟนยังเป็นเด็กน้อยไม่ประสีประสา

"ใจหายหมดเลย นึกว่าเบื่อกันจริงๆซะอีก"
คิสผละตัวออกจากไหล่ก่อนจะกัดปลายจมูกของผมเบาๆเป็นการลงโทษในขณะที่แก้มขาวซับสีเลือดจนแดงไปหมด ผมรั้งเอวของเขาเอาไว้ก่อนจะโน้มตัวกระซิบชิดริมฝีปาก

"เขินก็บอกเขินไม่ใช่ทำร้ายกันแบบนี้"
พูดจบก็กดจูบหนักๆลงไปอีกครั้งแล้วปล่อยให้คิสเป็นอิสระโดยง่ายเพราเสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น เขาลุกออกจากตักแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกัน ผมหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูก่อนจะพบเข้ากับชื่อเพื่อนสนิทที่โทรเขามา พอกดรับเสียงปลายสายที่แสนราบเรียบก็ดังขึ้น

'มึง ไอ้คินโทรไปหาบ้างไหม'

"หือ ไม่นะ มีอะไรกันหรือเปล่า"
ผมถามด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย ปกติแล้วคินกับแก๊ปย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้ว ทำไมต้องมาตามจากผมล่ะ หรือพวกมันทะเลาะกัน

'ติดต่อไม่ได้'
น้ำเสียงแก๊ปไม่สู้ดีนัก แต่แม่งอธิบายมาสั้นๆแบบนั้นกูคงตรัสรู้เรื่องของมึงหรอกนะ

"ทำไมวะ ทะเลาะกันเหรอ"
คิสหันมามองกันด้วยสายตาเจือความเป็นห่วงไปให้เพื่อนผม แอบรู้สึกดีที่เพื่อนกับแฟนเข้ากันได้ ไม่มีเรื่องชวนปวดหัวอะไร

'หึ เปล่า บอกจะออกไปทำธุระสองชั่วโมง ตอนนี้ปาไปสามชั่วโมงแล้ว'

"รถติดหรือเปล่า อย่ากังวลดิวะ"

'แล้วทำไมติดต่อไม่ได้ กูอยู่หน้าห้องมึงแล้ว เปิดประตูหน่อย'

"เอ้า ไอ้เชี่ย มาก็ไม่บอก รอแป๊ป"
ผมวางโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปเปิดประตูให้ไอ้แก๊ปเข้ามา พอเห็นสภาพมันผมถึงกับหลุดขำก๊ากแบบไม่ไว้หน้า สงสัยจะรีบมาจริงๆเพราะทั้งตัวมีแค่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์เท่านั้น กล้าเดินขึ้นมาได้ยังไงวะ

"โห... ดูท่าทางจะเป็นห่วงไอ้คินมากนะมึง"
มันเหล่ตามองผมก่อนจะสอดตัวเข้าห้องไปอย่างเงียบเชียบ ผมปิดประตูแล้วเดินตามกลับไปพบมันนั่งลงข้างๆคิสแล้วรู้สึกคิ้วกระตุกแปลกๆ ที่ตั้งกว้างทำไมต้องนั่งเบียดวะ

"เชี่ยแก๊ป จะเบียดอะไรคิสนักหนาวะ"
ผมพูดอย่างที่คิดออกไปก่อนจะผลักไหล่มันให้ขยับออกไปห่างๆ ไอ้คิสนั่งทำหน้าเอ๋อเพราะไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ส่วนไอ้แก๊ปหัวเราะหึออกมาเบาๆก่อนจะขยับให้ผมนั่งแทรกตรงกลางได้ง่ายๆ

"อยากแกล้งมึงเฉยๆ"

"เหี้ย"

"เอ่อ... ผมไปเอาน้ำกับขนมมาให้เนอะ"
แล้วคิสก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบของที่บอกไว้เมื่อครู่ให้ไอ้แก๊ป ส่วนผมจ้องมองหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะเปิดประเด็นเรื่องไอ้คิน

"ตกลงว่ายังไงวะเรื่องไอ้คิน"

"หึ ไม่รู้มัน วันนี้ครบรอบหกเดือนด้วย"
อ๋อ...วันนี้วันครบรอบที่มันกับไอ้คินคบกัน แป๊ปเดียวครึ่งปีแล้วเหรอวะ ผมว่าไอ้คินคงแอบไปทำเซอร์ไพร์สอะไรแน่ๆ ไอ้บ้านั่นเอาแน่เอานอนกับชีวิตไม่ได้อยู่แล้ว

"เดี๋ยวมันก็กลับ ห่วงไรนักหนาวะแก๊ป"

"ถ้าเป็นเมียมึงหายบ้างจะทำไง"
โห...ย้อนมาแบบนี้กูก็เงียบสิครับ ยอมแพ้เลย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ส่วนขนมที่คิสเอามาให้แก๊ปกินกลานเป็นว่าเจ้าตัวกินซะเอง เพราะเพื่อนสนิทผมมันเอาแต่จ้องโทรศัพท์ไม่วางตา ก็ไม่รู้จะช่วยพวกแม่งยังไงในเมื่อติดต่อไม่ได้แบบนี้ ไอ้คินโผล่หัวมาเมื่อไหร่คงโดนลงโทษหนักแน่ๆ มันไม่รู้หรือไงว่าผัวตัวเองโหดขนาดไหน

"คิส เย็นนี้อยากกินอะไร"
ผมหันไปถามคนข้างตัวเพื่อทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด แต่มันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะมัวแต่พิมพ์ข้อความตอบใครบางคนอยู่ แต่พอหน้าจอสี่เหลี่ยมยื่นมาตรงหน้าผมก็ถึงบางอ้อ ไอ้คินส่งไลน์มาหาแฟนผมนี่เอง

Kinn
- แก๊ปอยู่กับน้องคิสป่ะครับ ~ 15:00

ผมขมวดคิ้วแล้วแย่งโทรศัพท์มาจากคิสก่อนจะพิมพ์ข้อความกลับไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ถ้าอยู่ต่อหน้าไอ้ประโยคเนี่ยน้ำเสียงมันต้องอ้อนอยู่แน่ๆ

× คิสสึ ×
- อยู่ แล้วมึงหายหัวไปไหนมา! 15:01

Kinn
- เฮ้ย... ทำไมน้องคิสหยาบกับพี่แบบนี้อ่า เสียใจจัง 15:02

× คิสสึ ×
- เสียใจพ่อง นี่ผัวไอ้คิส มึงจำได้มะ 15:02

Kinn
- อุย... พี่จีบที่รักของน้องคิน ~ เค๊าขอโทษ 15:02

× คิสสึ ×
- ตอบคำถามกูมาเลยนะ ผัวมึงเป็นห่วงจะแย่ละ 15:03

Kinn
- เออ กูแค่อยากเซอร์ไพร์สวันครบรอบไง... เดี๋ยวไปคอนโดมึงนะ จะถึงแล้ว อิอิ 15:03

× คิสสึ ×
- เหอะๆ มึงจะเจอเซอร์ไพร์สยำเละของไอ้แก๊ปด้วย สัด 15:04

Kinn
- อย่าแช่ง! กูขอยืมห้อง มึงจะไปไหนกับคิสก็ไป 15:04

× คิสสึ ×
- ไอ้เหี้ย มึงไล่เจ้าของห้องแบบนี้เหรอวะ กูบอกไอ้แก๊ปดีไหม ไม่ต้องเซอร์ไพร์สห่าอะไรแล้ว รำ!! 15:04

Kinn
- ม่ายย คินขอโทษ กรุณาคินด้วยนะคุณชายจีบ ฮือๆ 15:05

× คิสสึ ×
- ปัญญาอ่อน ขับรถดีๆเลย กูจะออกไปละ โชคดีนะมึง 15:05

ผมส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองไอ้แก๊ปที่เหลือบตาจ้องมา

"กูกับไอ้คิสออกไปซื้อของแป๊ป มึงเฝ้าห้องให้หน่อยได้ป่ะวะ"
ไอ้แก๊ปมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบตกลงแล้วก้มลงไปสนใจโทรศัพท์ต่อ คิสยืนขึ้นแล้วใช้มือจับแขนกระตุกให้ผมรีบเดินออกไปจากห้อง คือรีบไปไหนกูยังไม่ได้หยิบของเลยเว้ย

หลังจากหยิบกุญแจรถ โทศัพท์ กระเป๋าเงินจบก็รีบลงมาจากห้องเพราะไอ้คินยืนรออยู่ที่ลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว เห็นมันโบกมือไวๆตอนที่ประตูลิฟท์เปิดออก ผมเดินเช้าไปหาก่อนจะยกมือขึ้นผลักหัวเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้ ไอ้คินเบ้ปากแล้วบ่นงึมงำอะไรสักอย่าง ส่วนคิสส่งยิ้มแหยเป็นการทักทายไป

"ผลักหัวกูทำไมเนี่ย"
คินยกมือลูบหัวตัวเองไปมา ส่วนอีกข้างหอบกล่องของขวัญขนาดใหญ่เอาไว้

"หมั่นไส้ จะทำอะไรก็อย่าให้ไอ้แก๊ปเป็นห่วงดิ เล่นอะไรของมึงติดต่อไม่ได้วะ"

"ขอโทษๆ ถ้ากูไม่ปิดสัญญาณไว้พอแก๊ปโทรเข้ากูอดใจไม่ไหวว่ะ ใจแข็งไม่พอที่จะไม่รับสายมัน"
คินว่าก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างลูบท้ายทอยแก้เขิน ก่อนหน้าที่ช่วงเริ่มคบกันใหม่ๆไอ้คินนี่ตัวปากแข็งเลย ถามอะไรปัดตบอด ไม่เคยทำตัวเป็นแฟนไอ้แก๊ปสักนิด ใครมาถามก็บอกโสดไปซะอย่างนั้น ดีหน่อยที่เพื่อนลูกครึ่งของผมมันไม่ถือสาความบ้าบอของไอ้คินเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงงานงอกตีกันตายไปแล้ว หรือคินจะโดนลงโทษแต่ผมไม่รู้วะ... แต่นั่นเรื่องของผัวเมียผมไม่ค่อยอยากยุ่งเท่าไหร่ แค่ว่าที่เมียของตัวเองก็ปวดหัวจะแย่ เสน่ห์แรงใช่เล่น

"จะอ้วก รีบๆขึ้นไปก่อนที่มันจะเป็นบ้าตายเพราะห่วงมึง เอ้า คีย์การ์ดกับกุญแจห้อง"
ผมยัดของสำคัญใส่มือมันก่อนจะจับมือคิสดึงไปขึ้นรถ ได้ยินเสียงไอ้คินตะโกนขอบคุณไล่หลังมาทำให้ผทอมยิ้มเล็กน้อยที่คนบ้าอย่างมันเปลี่ยนตัวเองให้มีมุมน่ารักกับแฟนบ้าง จริงๆไม่เคยคิดหรอกว่าคินมันจะทำแบบนี้ได้ ก็ซึนใส่แก๊ปมันตลอดนี่

"เราจะไปไหนกันล่ะนี่"
คิสถามขึ้นในขณะที่ผมเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวออกจากคอนโด ดวงตากลมจ้องมองมาด้วยสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุ ผมเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยตามจังหวะเพลง ออกมาก่อนเวลาอาหารเย็นแบบนี้ก็มืดแปดด้านว่ะ

"ดูหนังกันป่ะ"
คิสเสนอมาแบบนั้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น ในมือเรียวถือโทรศัพท์แล้วโชว์หน้าจอที่มีข้อมูลหนังเรื่องใหม่ปรากฏ ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงง นี่มันจะดูหนังผีอีกแล้วเหรอวะ ครั้งที่แล้วยังไม่เข็ดอีกหรือไงไม่เข้าใจจริงๆว่าคนกลัวผีทำไมชอบดูหนังผี

"จะดูหนังผีอีกหรือไงวะ"
ผมถามขึ้นก่อนจะใช้มือผลักหัวคิสเบาๆ มันยู่ปากใส่กันก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วคลี่ยิ้มแห้งๆมาให้ ผมได้แต่ลอบถอนหายใจกับความบ้าของเขา

"นะ... คืนนี้ค้างกับพี่จีบไง"

"เออ อย่าละเมอถีบกูแล้วกัน"

"เย้ๆ ไม่ถีบหรอกแต่จะกอดแน่นๆต่างหาก"
เออเว้ย... เดี๋ยวนี้หัดหยอดกลับ เอาซะผมแอบยอมแพ้ในบางครั้งเลยให้ตายเถอะ

ไม่นานนักเราทั้งสองคนก็มาถึงหน้าโรงภาพยนตร์ ผมซื้อตั๋วรอบนี้ได้ทันเวลาพอดีเลยล่กไอ้คิสเข้าโรงหนังได้เลยโดยไม่ต้องรอเวลาอีก ตลอดทั้งเรื่องคนข้างตัวผมแทบจะกระโดดมานั่งตักกัน บางครั้งเอาหัวมามุดแขนผมจนเจ็บไปหมดจากที่จะได้สนใจหนังในจอกลายเป็นสนใจคิสมากกว่า ถือว่าได้กำไรจากมันล้วนๆ ใครอย่ามาถามว่าเนื้อเรื่องเป็นไงเพราะผมไม่ได้ดูเลย หึหึ

หลังหนังจบก็ออกไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น คิสกินเยอะขึ้นกว่าปกติจนผมพอใจ อาทิตย์ที่ผ่านมากินแบบแมวดมจนผมเริ่มหนักใจกลัวว่าจะล้มป่วยไป พอเราจัดการอาหารเรียบร้อยก็โทรหาไอ้คินถามว่าแผนเซอร์ไพร์สมันเรียบร้อยหรือยัง แต่กลายเป็นคุณชายแก๊ปรับสายแทนด้วยน้ำเสียงระรื่นพร้อมคำตอบว่า

'กูลงโทษมันพร้อมกับให้ของขวัญครบรอบไปสามยก'

เชี่ย... ไม่ต้องบอกก็ได้ไหมว่าซั่มเมียไปกี่รอบ ดวงตาเริ่มร้อนผ่าวเพราะอิจฉาขึ้นมาจับใจ ไอ้คนข้างๆที่นั่งอยู่ด้วยกันบนรถกลับยิ้มหน้าระรื่นเพราะได้ขนมไทยากิสอดไส้สตรอเบอร์รี่ครีมชีสมากิน มันแดกขนมผมก็อยากแดกมันจะรู้ตัวบ้างไหม ได้แต่นั่งเลียปากแล้วมองครีมที่เลอะอยู่มุมปากของมัน เดี๋ยวติดไฟแดงมึงเจอกูแน่คิส

ไฟแดงสวรรค์ของคนคิดอกุศลมาแล้ว ผมแตะเบรกจอดรถก่อนจะหันไปจ้องมองคิสที่ยังเคี้ยวขนมหงุบหงับอยู่ในปากอย่างไม่รู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตราย ดวงตากลมเหลือบมองมาก่อนเจ้าตัวจะหันหน้ามาเผชิญกันพร้อมเลิกคิ้วขึ้นสูง

"ปากเลอะ"
ผมบอกสั้นๆก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ คิสผงะถอยหลังอย่างรวดเร็วแต่ยังห่วงเคี้ยวขนมในปากอยู่ ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะอาศัยจังหวะที่เขากำลังเอ๋อรวบรัดท้ายทอยไว้ก่อนจะก้มลงเลียครีมที่ติดอยู่มุมปากอย่างรวดเร็ว

"อ๊ะ..."
คิสหลุดเสียงร้องออกมาแค่นั้นแล้วเกร็งตัวจนผมสัมผัสได้ เรียวลิ้นเปียกชื้นไล่เลียไปตามชิ้นเยลลี่นุ่มหยุ่นอย่างอ้อยอิ่ง ความหวานของครีมที่ติดปลายลิ้นเมื่อครู่ส่งผลให้ปากบางนี่น่ากินยิ่งขึ้นไปอีก ผมละเลียดมันอย่างตะกละตะกลาม แต่ไม่นานก็ต้องผละออกจากกันเพราะคิสใช้มือดันหน้าอกผมไว้

"อยากกินก็บอกดีๆดิวะ"
คิสบ่นเสียงงุ้งงิ้งทั้งๆที่ใบหน้าแดงก่ำ ผมยกยิ้มมุมปากแล้วกดจูบลงซ้ำที่เดิมอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว ทำไมชอบพูดจากำกวมเปิดช่องว่างให้ผมแทะเล็มเขาแบบนี้วะ หรือคิสมันจะร้ายแกล้งยั่วผมให้เป็นบ้าตายกันวะ

"บอกแล้วจะได้กินเหรอไง"

"เออดิ ก็ให้กินไง"
มันตอบเสียงอ้อมแอ้มแล้วส่งขนมไทยากิที่เหลือครึ่งชิ้นมาให้กัน ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะส่ายหน้าเป็นสัญญาณว่าไม่เอาและไม่ใช่หมายถึงขนมในมือสักหน่อย

"ที่กูถามไม่ใช่เรื่องขนมนะ"
ผมส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้ ดวงตากลมที่จ้องมองมาเริ่มสั่นไหว กำปั้นลุนๆต่อยลงมาบนอกผมไม่แรงมากนัก

"แล้วหมายความว่าไง"
ผมรู้ว่าคิสรู้แต่ก็ยังทำหน้ามึนมาถามกันอีก... นี่คิดจะยั่วไปถึงไหนกันวะ นี่ในรถนะเว้ย ติดไฟแดงอยู่ด้วย ช่วยเว้นระยะการยั่วบ้างครับที่รัก ถ้าของขึ้นขึ้นมาผมซวยอีกสิ ใช้มือมันน่าสมเพชแค่ไหนไม่รู้หรือยังไงสำหรับคนมีแฟนเนี่ย

"หมายความถึงตัวมึงไง เมื่อไหร่กูจะได้กินสักที ขยันยั่วแบบนี้ตบะกูจะแตกมาหลายรอบแล้วนะ"

"อู้ว ใครยั่ว ไม่มี๊ อย่ามโนเองดิ"
น้ำเสียงกวนตีนแบบนี้คืออะไร... แถมยังฉีกยิ้มกว้างมาให้กันอีก ผมตั้งใจจะยกมือขึ้นตบหัวมันสักทีแต่สัญญาณไฟเขียวกลับช่วยชีวิตเอาไว้ เฮ้อ โดนเอาคืนแล้วสินะ แกล้งเขาไว้เยอะนี่

พวกเรากลับถึงห้องในเวลาเกือบสามทุ่ม คิสขออาบน้ำก่อนเพราะเขาง่วงตาแทบจะปิด ส่วนผมนั่งเคลียร์งานวิชาอัลกอลิทึ่มที่ยังค้างอยู่ อยากจะบอกว่าเรียนวิชานี้ก็ทึ่มตามชื่อมันเลยล่ะ.. แต่เชื่อเถอะว่าคนอย่างผมไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เกรดสามจุดแปดเหรอ หมูๆเพราะปกติก็ทำได้อยู่แล้ว

"พี่จีบทำไรอยู่"
คิสชะโงกหน้าเข้ามาดู กลิ่นหอมอ่อนๆจากแชมพูและสบู่ลอยมาแตะปลายจมูกจนผมต้องละสายตาจากการบ้านตรงหน้า ปากกาในมือถูกยกขึ้นจิ้มแก้มเขาเป็นการหยอกล้อ

"ทำงานอยู่ ไปเช็ดผมไป"
เส้นผมสีดำสนิทเปียกลู่ไม่เป็นทรง บนหัวทุยมีผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กคลุมอยู่ คิสเบ้ปากน้อยๆก่อนจะยอมถอยหลังออกไปนั่งเช็ดผมที่ปลายเตียง ผมหลุดยิ้มกับท่าทางที่ดูเหมือนเด็กน้อยโดนขัดใจแล้วหมุนตัวกลับไปถาม

"หน้าบูดเป็นตูดเลยนะ กูขัดใจอะไรอีก"
ผมยิ้มน้อยๆให้ ส่วนคิสจ้องเขม็งแล้วย่นจมูกใส่กันก่อนจะตอบเสียงงุ้งงิ้งกลับมาให้ผมใจสั่นเล่นๆ

"จะอ้อนให้เช็ดผมให้หน่อย โดนไล่ให้เช็ดเองควรจะงอนป่ะวะ"

"นับวันยิ่งอ่อยหนักนะครับเนี่ย"

"ไม่ได้อ่อยเว้ย พี่รีบไปอาบน้ำดิวะ กลัวผี"

"เออๆ ไปแล้ว"
ผมจำใจพักทุกอย่างแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ พอกลับมาเท่านั้นล่ะคนที่บอกว่ากลัวผีก็นอนหลับปุ๋ยใต้ผ้าห่มผืนหนาไปแล้ว สงสัยจะเพลียหนักไปความกลัวเลยมีผลต่อหนังตาน้อย

ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงช้าๆเพื่อไม่ให้สะเทือนมากนักเพราะกลัวคิสตื่น ไม่ว่าจะมองสักกี่ครั้งก็ไม่รู้เบื่อสักที ไม่รู้ว่าแอบไปทำเสน่ห์กับอาจารย์ดังที่ไหนมาหรือเปล่าถึงทำให้หลงหัวปักหัวปำแบบนี้ ผมเอนตัวนอนลงข้างๆก่อนจะซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันแล้วขยับไปกอดเขาเอาไว้แล้วหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

"โอ้ย เชี่ย"
ผมโอดครวญเมื่อรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว นอนอยู่บนเตียงดีๆกลับถูกถีบลงมานอนตัวงออยู่ที่พื้นซะอย่างนั้น ก็ไอ้คนบนเตียงมันละเมอนึกว่าผีจับตัวเองไว้น่ะสิ ไหนบอกว่าจะนอนกอดไงวะ ถีบกูจนได้นะไอ้คิส ตื่นมามึงโดนลงโทษแน่ !




-----------------------------------------------





Q & A กับคิส

Q : คิสยั่วพี่จีบหรือเปล่าเนี่ย?
A : เอ๋ ยั่วคืออะไรเหรอครับ ผมไม่รู้จัก /ทำหน้าใสซื่อแต่ดวงตาโคตรเจ้าเล่ห์
Q : ร้ายนักนะเรา




ตอนนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากความหื่นของพี่จีบและความใสซื่อ(?)ของน้องจูบ 55555
เอาจริงๆสงสารพี่จีบนะ ไม่ได้หนึ่ง สอง ซั่มกับคิสสักที จะกลายเป็นคนตายด้านแล้วม้าง

อ่านให้สนุกน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2016 22:08:22 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หวานอยู่ดีๆ
หักมุมตอนโดนถีบตกเตียง


 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด