- ดื่มครั้งที่ 30 -
สอบปลายภาคสิ้นสุดลงไปหลายอาทิตย์แล้ว เกรดแต่ละวิชาก็เริ่มทยอยออกให้ลุ้นจนตัวโก่งไม่เป็นอันทำอะไรในแต่ละวัน ปิดเทอมอยากกลับไปเป็นคุณชายนอนตีพุงอยู่บ้านแบบสบายๆมีอาหารอร่อยๆให้กินก็ไม่ได้ ในเมื่อพ่อกับแม่แอบหนีผมไปต่างประเทศอีกแล้ว คราวนี้ไปเป็นเดือนๆเพราะหอบกันไปทำงานด้วย หึ ทิ้งได้เป็นทิ้งตลอด ส่วนพี่ดีพสุดที่รักก็พาตัวเองไปอยู่ที่บ้านไอ้ภีมซะอย่างนั้น ทำให้ผมเหี่ยวแห้งอยู่ที่หอเหมือนเดิม แต่วันนี้คงหมดกังวลเรื่องอยู่คนเดียว เพราะพี่จีบจะย้ายผมเข้าไปอยู่คอนโดกับเขาวันนี้ล่ะ
"คิส ตื่นได้แล้ว"
เสียงทุ้มนุ่มที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู ผมรู้ว่าเขาเป็นใครแต่หนังตาไม่ยอมเปิดเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว เก็บของยัดลงลังแทบเป็นแทบตายโดยไอ้คนที่ปลุกกันอยู่เนี่ยเพิ่งกลับจากงานเลี้ยงที่บริษัทของพ่อมาเหมือนกัน ไม่ได้ช่วยอะไรยังมากวนใจกันอีก มันน่าบีบคอไหมถามใจดู
"อือ ขออีกครึ่งชั่วโมง"
ผมพลิกตัวหนีมือปลาหมึกที่แกล้งลูบไล้ช่วงเอวกัน ได้ยินเสียงหัวเราะหึในลำคอก่อนที่ทั้งร่างจะโดนรวบกอดเอาไว้ ผมจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะหยิกแขนแกร่งไปแรงๆ ถ้ากอดเฉยๆจะไม่ว่าหรอก เอาน้องชายมาจิ้มก้นกันนี่สิ อยากจะหนีไปไกลๆแต่ไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา
"ไม่ตื่นพี่จะล้วงนะ"
"เชี่ย ล้วงอะไร!"
ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ความง่วงที่มีก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง พูดอะไรส่อเสียดให้เสียวสันหลังวาบตลอดไม่คิดว่าตัวเองหน้าด้านบ้างหรือยังไงวะ นี่มันเป็นเดือนคณะบริหารได้ยังไง อยากบอกพวกแฟนคลับให้เลิกคิดว่าพี่จีบเป็นชายในฝันซะที ตัวจริงแสนจะหื่นกาม ผมใช้ศอกกระทุ้งท้องให้เขาปล่อย แต่แรงกอดรัดยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ผมได้ทำได้แค่ส่งเสียงขู่แง่งๆเหมือนแมว ทำไมชีวิตรันทดแบบนี้วะ
"ล้วงอะไรดีล่ะหืม วันนี้เกรดออกครบทุกตัวด้วยนะ"
ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าพี่จีบกำลังยิ้มและทำสายตากรุ้มกริ่มใส่กันขนาดไหน น้ำเสียงยียวนกวนประสาทจนผมอยากจะตั้นหน้าหล่อๆให้ช้ำสักที ไม่รู้หรอกว่าไอ้เกรดสามจุดแปดที่ตั้งไว้มันจะสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปสำหรับเขา แต่มีลางสังหรณ์ว่าจะเสียตัวยังไงไม่รู้... คิดแล้วก็อยากกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่ยังไม่พร้อม ผมยังซิงทั้งหน้าทั้งหลังนะ ฮึก
"ไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยได้แล้วพี่จีบ อึดอัด"
ผมออกแรงดิ้นเบาๆเลยทำให้เขาฝังจมูกลงมาบนซอกคอกันหนักๆแถมยังมีแอบไซร้ให้ขนลุกเล่นๆอีกด้วย โอย สยิว ขนลุกขนพองไปทั้งตัวจนต้องย่นคอหนี
"อื้อ อย่าเล่นดิพี่จีบ"
ผมโวยวายไม่เต็มเสียงนักเมื่อฝ่ามือร้อนๆสอดเข้ามาใต้เสื้อนอนตัวบาง ปลายนิ้วลากไล้ผ่านแอ่งชีพจรไปจนถึงตุ่มไตสีหวานทำให้ผมสะดุ้งเฮือกพลางกลั้นหายใจ ความเสียวซ่านแล่นริ้วไปแทบจะทุกส่วนของร่างกาย ฝันขาวขมเม้มริมฝีปากจนซีดความไร้เลือดเพื่อกลั้นเสียงครางแสนน่าอายเอาไว้
"อึก อือ!"
เผลอกัดปากตัวเองจนได้กลิ่นคาวเลือดเพราะโดนนิ้วเย็นๆบดคลึงยอดอกไปมาอย่างเพลิดเพลิน ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนด้านหลังแล้วพาลให้รู้สึกโมโหขึ้นมาตงิดๆ ถ้าจะแกล้งกันแบบนี้นะ ผมจะฟาดไม่ยั้งเลยคอยดู
"คล้อยตามบ้างหรือยังคนดี"
เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู ถ้าเมื่อครู่ไม่เผลอกัดปากตัวเองแรงๆคงเคลิ้มตามไปแล้ว แต่ตอนนี้มีสติครบถ้วนอย่าหวังว่าผมจะยอมกันง่ายๆเลย
"ไม่คล้อยตามหรอก ไอ้คนหื่น"
ผมก้มลงกัดแขนพี่จีบที่กอดรัดกันอยู่จนจมเขี้ยว เขาร้องออกมาก่อนจะปล่อยตัวกันให้เป็นอิสระทันทีทันใด เมื่อได้โอกาสผมเลยดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วแต่ไม่หนีไปไหนหรอกนะ เห็นพี่จีบลูบแขนตัวเองตรงที่มีรอยฟันด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงแล้วตลกดี และผมเพิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้ใส่เสื้อนอน.... นี่กะจะอ่อยให้ผมขึ้นคร่อมหรือยังไง ไม่คิดถึงใจกันบ้างหรือไงวะ อยากกัดซิกแพคให้จมเขี้ยวแม่ง โชว์กันดีนัก
"เป็นหมาเหรอ กัดจนช้ำเลยแม่ง"
พี่จีบสบถออกมาแล้วถลึงตาใส่กันก่อนจะลุกขึ้นนั่ง มือหนาผลักหัวผมเบาๆอย่างหมั่นไส้ก่อนจะขยับหน้าเข้ามาใกล้กัน ผมผงะถอยหลังเพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหนอีก ถึงจะเป็นแฟนกันก็ระแวงนะ เพราะไม่เคยตามความคิดพี่จีบทันแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง
"กัดปากตัวเองทำไม"
หน้าผากของเราสองคนแนบชิดกัน ดวงตาคมที่มองมาฉายแววเป็นห่วงต่างกับเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ผมเลิกหนีแล้วยกแขนทั้งสองข้างคล้องคอคนตรงหน้าไว้หลวมๆแล้วแต้มจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆอย่างออดอ้อน อารมณ์เปลี่ยนไวจนกลัวตัวเองแล้วเนี่ย ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆก็อยากอ้อนขึ้นมา คงเพราะเจ็บและเห็นความห่วงใยที่เขาส่งมาให้กันล่ะมั้ง
"ก็พี่นั่นล่ะ แกล้งผมตลอด ไม่รู้หรือไงว่ามัน...เสียว"
ท้ายประโยคผมจงใจกระซิบข้างหูเขา พี่จีบสะดุดลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์อะไรสักอย่าง ผมสาบานว่าไม่ได้ยั่วจริงๆนะ แค่อ่อยเล็กน้อย บางทีก็อยากรู้ว่าเขาต้องการเรามากแค่ไหน และที่สำคัญคือเขาอดทนรอเราได้มากแค่ไหน
"นี่กำลังแกล้งพี่กลับใช่ไหมครับ"
ดวงตาคมจ้องกันแทบจะกลืนกิน แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ เมื่อไหร่ที่มีโอกาสเอาคืนได้จะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดลอยไปง่ายๆหรอก ทั้งหมดที่เป็นอยู่ก็เรียนรู้มาจากคนเจ้าเล่ห์นี่ล่ะ หึหึ
"คิดว่าเป็นแบบนั้นเหรอ"
ผมขยับเข้าไปใกล้จนเกือบจะนั่งเกยตักกันอยู่แล้ว แต่พี่จีบขยับตัวถอยห่างด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง ปากหยักเบะลงอย่างเอาแต่ใจ เห็นแบบนั้นก็อยากหัวเราะดังๆแต่กลัวหลุดเก๊ก
"ไม่ให้ก็อย่าทำให้มีอารมณ์ดิวะ เดี๋ยวจะโดนเตะ"
พี่จีบว่าเสียงแข็งแล้วใช้สายตาดุๆส่งมาให้ ผมสะอึกก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆแล้วขยับไปหอมแก้มพี่จีบเป็นการง้อ ถ้าสังเกตดีๆจะรู้ว่าพี่จีบงอนเข้าให้แล้ว
"ไม่งอนผมนะพี่จีบ ~"
ผมพูดเสียงอ้อนพร้อมกับเข้าไปกอดแขนเขาไว้ หน้ามันๆถูลงบนต้นแขนเปลือยจนโดนผลักหัวออกมาด้วยความขยะแขยง หึ!
"ไปไกลๆ หน้ามันฉิบหาย ทอดไข่ดาวได้ไหมเนี่ย"
ไล่ไปไกลๆ ทำท่าขยะแขยงแต่ก็จับแก้มผมดึงไปมาซะอย่างนั้น จากที่ตั้งใจว่าจะงอนเขากลับกลายเป็นว่าหลุดหัวเราะกับความน่ารักของพี่จีบ ทำอะไรตรงข้ามกับคำพูดของตัวเองตลอดเลย แบบนี้เขาเรียกคนปากไม่ตรงกับใจหรือเปล่า แต่บางทีก็เป็นคนตรงจนผมแอบตะลึงเลยก็มี ตามไม่ทันจริงๆกับผู้ชายคนนี้
"ลองเอาไข่มาตอกบนหน้าผมไหมล่ะ จะได้มาร์กหน้าเลยด้วย"
ผมหัวเราะก๊ากออกมาเลยโดนพี่จีบดีดเหม่งเข้าให้ ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผากพร้อมกับย่นจมูกใส่
"เดี๋ยวนี้กวนตีนนะคิส"
"ติดมาจากพี่นั่นล่ะครับ"
ผมตอบก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้ไป พี่จีบเบ้ปากใส่กันก่อนจะยกมือขยี้หัวผมเล่นอย่างสนุกสนาน
"เออๆ ยอมแพ้ ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวอีกสักพักจะมีคนมาขนของแล้ว"
พี่จีบดันให้ผมลุกขึ้นจากเตียง ส่วนตัวเองกลับทิ้งตัวลงนอนที่เดิมอย่างเกียจคร้านแถมยังหลับตาพริ้มทั้งๆที่ฉีกยิ้มกว้างอีก ความหมั่นไส้เกิดขึ้นแทบจะในทันทีเลยเอื้อมมือไปบีบแก้มเขาแล้ววิ่งหนีเข้าห้องน้ำทันที ได้ยินเสียงโวยวายไล่หลังมาแต่ผมไม่สนใจ อยากหาเรื่องเจ็บตัวเองก็ช่วยไม่ได้นะเออ
ผมถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่เร่งรีบ วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวพอตัวจนอยากจะแช่น้ำให้ตัวเปื่อย แต่เกรงใจคนที่นอนรออยู่ด้านนอกอยู่เหมือนกันเลยทำได้แค่รีบเดินไปยืนใต้ฝักบัวและเริ่มเปิดน้ำชำระร่างกาย กลิ่นหอมเย็นของสบู่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ความกังวลที่จะย้ายไปอยู่กับเขาแบบจริงจังเบาลงไปเยอะ ไม่ใช่ว่าอึดอัด แต่กลัวว่าจะทำให้พี่จีบไม่สะดวกใจต่างหาก ก็ปกติต่างคนต่างก็อยู่ในที่ของตัวเองนี่หว่า
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูแบบไม่เร่งรีบดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังใส่เสื้อชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตะโกนถามคนด้านนอกว่าต้องการอะไร
"มีอะไรครับ กำลังจะเสร็จแล้ว"
"จะบอกว่าคนขนของมาถึงแล้วนะ แค่นั้นล่ะ"
เสียงทุ้มราบเรียบตอบกลับมา ผมเปิดประตูออกไปก็เจอเข้ากับพี่จีบที่ยืนเปลือยท่อนบนพิงวงกบประตูห้องน้ำอยู่ อะไรจะมาอ่อยกันถึงที่ขนาดนี้ล่ะคุณ ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเบนสายตาหนี มองนานๆแล้วรู้สึกตัวเองหื่นกามยังไงก็ไม่รู้
"มาแล้วเหรอ งั้นไปกันครับ"
ผมเดินผ่านหน้าเขาไปแต่เพิ่งคิดได้ว่าไอ้พี่จีบยังเปลือยท่อนบนอยู่ คงน่าเกลียดเกินไปถ้าหากออกจากห้องในสภาพแบบนั้น แล้วคนอื่นจะคิดว่าเราทำอะไรกันล่ะ...
"เอ่อ พี่ไปใส่เสื้อก่อนป่ะวะ มันโป๊"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มแล้วหลุบตาลงมองพื้น พี่จีบเหมือนจะจับได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่เลยเดินเข้ามาประชิดก่อนจะรวบตัวผมเข้าไปกอดจากด้านหลัง ความอุ่นวาบแผ่กระจายจนรู้สึกอยากหนี
"หวงเหรอครับ"
เสียงทุ้มถามกระซิบข้างหูจนรู้สึกขนลุกซู่ พยายามเบี่ยงหน้าเบี่ยงคอขนาดไหนพี่จีบก็ยังสามารถใช้จมูกโด่งๆกดลงมาบนแก้มกันแล้วฟัดด้วยความมันเขี้ยว
"ฮื้อ"
ผมครางเสียงดังอย่างขัดใจแล้วฟาดมือลงบนแขนแกร่งเต็มแรง พี่จีบปล่อยมือออกทันทีแล้วถลึงตาใส่กัน ผมแลบลิ้นก่อนจะรีบวิ่งเปิดประตูห้องนอนออกไป แต่ก็ต้องเบรกเอี๊ยดเมื่อเจอหนุ่มเกาหลีผิวขาวจัดยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู... ส่วนสูงของผมกับเขาต่างกันลิบลับเลยว่ะ เหมือนจะสูงกว่าพี่จีบด้วยนี่ดิ ตอนเด็กๆพ่อแม่ให้กินยีราฟเป็นอาหารหรือยังไง
"เอ่อ..."
"สวัสดีครับคุณคิส"
สำเนียงภาษาไทยแปลกๆดังลอดริมฝีปากสีชมพูอ่อนออกมา รอยยิ้มหวานๆถูกส่งให้จนตาเล็กๆนั่นกลายเป็นสระอิ ผมอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง โดนเรียกว่าคุณแล้วดูเป็นทางการแปลกๆ
"สวัสดีครับคุณหนู"
เขาหันไปทักทายคนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ พี่จีบเบ้ปากก่อนจะแยกเขี้ยวใส่คนของเขา ผมกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดงเมื่อจับสังเกตได้ว่าพี่จีบหงุดหงิดกับคำเรียกแทนตัวเองแน่ๆ... คุณหนูจีบ โอย โคตรมุ้งมิ้งเลยว่ะ
"พี่จินยองเลิกเรียกผมว่าคุณหนูเถอะครับ โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว"
พี่ตีบว่าเสียงดุๆ แต่พี่จินยองยังคงส่งยิ้มแบบไม่สะทกสะท้านกลับมาให้กัน ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจภาษาไทยหรือกำลังกวนตีนคุณหนูของเขาอยู่กันแน่
"เรียกว่าคุณหนูน่ารักออกครับ จริงไหมคุณคิส"
พี่จินยองหันมาหาแนวร่วมแบบหน้าตาเฉย จากที่กลั้นขำกลับหลุดหัวเราะออกมาแล้วพยักหน้าแสดงความเห็นด้วยรัวๆ พี่จีบหันมาแยกเขี้ยวใส่กันก่อนจะเขกหัวผมไปหนึ่งทีไม่แรงนัก
"อย่ารุม ขนของไปเลยครับ"
พี่จีบตัดบทดื้อๆทำให้พวกเราหยุดแกล้งแล้วช่วยกันขนของลงไปชั้นล่าง ดีที่ผมไม่ได้มีของอะไรมากในหอพักทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สองปีแล้ว ส่วนเจ้า MSX คันเก่งของผมโดนพี่จินยองขี่ไปให้ถึงคอนโด อยากจะบอกว่าผู้ชายที่มากับเขาอีกคนหนึ่งหล่อมาก อย่างกับนักร้องเกาหลี ผมเลยเลียบๆเคียงๆถามพี่จีบว่าเขาคือใคร คำตอบที่ได้กลับมาทำให้อ้าปากค้าง 'แฟนพี่จินยอง'
"แวะกินข้าวก่อนไหม"
พี่จีบถามขณะขับ BMW ลูกรักไปตามทางสู่คอนโดหรู ผมส่ายหน้ารัวเพราะอยากกินอาหารฝีมือพี่จีบ... แฮะๆ ก็ไม่ได้กินนานแล้วนี่นา
"พี่จีบทำให้กินแทนได้ป่ะ"
พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกระพริบตาปริบๆด้วยท่าทางที่คิดว่าจะน่ารักมัดใจเขาได้ พี่จีบเหลือบมองกันก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วพยักหน้ารับคำอย่างง่ายดาย
"ก็ได้ ที่ห้องมีของสดพอดี"
"พี่จีบน่ารักที่สุดเลย ~"
"น่ารักก็อยากนอกใจ"
"ใครเขาจะไปนอกใจเล่า พี่นั่นล่ะอย่านอกใจผม สาวๆติดตรึมขนาดนั้น"
"ใครจะนอกใจครับคุณ กว่าจะจีบติด แทบจะไปบนศาลพระภูมิที่บ้านละ"
พี่จีบพูดก่อนจะย่นจมูกใส่กัน ผมขำเอิ้กอ้ากอย่างถูกใจ ไม่ใช่จีบยากสักหน่อย แต่ทึ่งที่มีเดือนคณะมาจีบต่างหาก แถมยังหล่อลากไส้เป็นคนดังของมหา'ลัยอีก
"หัวเราะอะไร"
"เปล้า ตั้งใจขับรถไปครับ"
ผมยิ้มหน้าระรื่นอย่างมีความสุข ส่วนพี่จีบถอนหายใจทำหน้าปลงๆส่งมาให้แล้วไม่พูดอะไรอีก เพลงที่เปิดคลอเบาๆทำให้บรรยากาศในรถดูสดชื่นขึ้นมาอีกนิดหน่อย ผมเคลิ้มจนแทบจะหลับถ้าเกิดไม่มีเสียงริงโทนดังขึ้นกวนใจซะก่อน
Rrrrrr
พี่จีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วส่งให้กัน ผมขมวดคิ้วแน่นแต่ก็ยอมรับมาถือไว้ด้วยความงุนงง เอามาให้ทำไมวะเนี่ย
"รับสายไอ้คินแทนหน่อย"
"โอเค"
ผมตอบรับไปก่อนจะกดรับสายของพี่คิน เสียงดังโหวกเหวกลอยเข้ามาก่อนที่คนปลายสายจะเอ่ยทักทายกัน
'ฮัลโหลๆ ไอ้เชี่ยจีบ!'
เหี้ยก็มาวะ....
"เอ่อ ผมคิสครับพี่คิน มีอะไรฝากบอกไว้ได้ พี่จีบขับรถอยู่"
'อ๋อ ฝากบอกมันด้วยนะว่าเกรดตัวสุดท้ายออกแล้ว'
เสียงคนปลายสายฟังดูร่าเริงผิดปกติ เดาไม่ยากพี่คินคงได้เกรดสวยๆมากกว่าที่คิดไว้ล่ะมั้ง แต่ผมนี่ดิเผลอกลั้นหายใจจนเกือบขาดอากาศตาย เกรดออกแล้วก็แสดงว่าความเสี่ยงการเสียตัวก็พร้อมแล้วเช่นกัน รู้สึกว่าตัวเองมือสั่นยังไงชอบกล ฮึก
"อ่ะ เอ่อ... จะบอกให้ครับ"
เชี่ย... เสียงสั่นด้วย จะบ้าตายเว้ย พี่จีบเลิกคิ้วมองกันด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อยแล้วหันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ พวงมาลัยหักเลี้ยวเข้าจอดใต้อาคารคอนโดหรูเรียบร้อยในตอนนี้
'ครับผม แล้วเกรดของน้องคิสออกครบหรือยังเอ่ย'
มีถามกลับตอกย้ำให้ใจหวิวเล่นๆ แต่ก่อนจะได้อ้าปากตอบไปพี่จีบก็ดึงโทรศัพท์ไปคุยซะเอง ผมลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และปลดเข็มขัดนิรภัยออก
"เออๆ ถ้าดูแล้วจะไลน์ไปบอก แค่นี้นะ"
ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์แว่วออกมาในขณะที่ผมก้าวลงจากรถแล้วปิดประตูลง พี่จีบตามมาติดๆแล้วพากันขึ้นบนห้องไปอย่างเงียบเชียบ ทำไมต้องทำตัวลึกลับในขณะที่หัวใจผมเต้นแรงขนาดนี้ด้วยวะพี่จีบ
"คิสเอาของไปจัด เดี๋ยวพี่ไปทำอาหาร"
พี่จีบบอกก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมพยักหน้ารับแล้วลากกล่องต่างๆไปตามมุมต่างๆที่ต้องการให้มันอยู่แล้วลงมือจัดของไปเงียบๆ เริ่มจากของสำคัญไปก่อน ถ้าไม่เสร็จภายในวันนี้ก็ไม่เป็นไร
ผมรื้อของออกมาจัดได้มากกว่าครึ่งที่พี่จินยองกับแฟนขนขึ้นมาให้ก่อนหน้าที่เราจะมาถึง ในตอนนี้กลิ่นหอมของอาหารโชยมาแตะจมูกชวนให้กระเพาะทำงานอย่างหนัก เสียงร้องโครกครากย้ำเตือนว่าถึงความหิวได้อย่างดี ไม่นานนักเสียงสวรรค์ก็ขานเรียกกัน
"คิส มากินข้าว"
"ครับผม จะไปเดี๋ยวนี้"
ผมรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปล้างมือให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามพี่จีบแล้วลงมือกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย มีของหวานตบท้ายเป็นเค้กก้อนเล็กๆ หลังจากจัดการอาหารทั้งหมดเรียบร้อยโทรศัพท์มือถือก็ถูกส่งมาตรงหน้ากัน ผมเงยมองด้วยความสงสัยก่อนจะถามออกไป
"อะไรครับ"
"เอาไปดู"
"หา ดูอะไร"
"เกรดไง"
!!!!!!
ผมยื่นมือที่สั่นเทาไปรับเครื่องมือสื่อสารมา ใบหน้าของพี่จีบเรียบเฉยจนเดาไม่ออกเลยว่าเกรดออกมาดีหรือแย่ ยิ่งทำให้ผมลุ้นจนก้นแทบไม่ติดเก้าอี้ ดวงตากลมเหลือบมองหน้าจออย่างกล้าๆกลัวๆ โชคเข้าข้างแค่ไหนที่นิ้วดันปิดตรง GPA แบบพอดิบพอดี ฮึก ยังทำใจไม่ได้ว่ะ...
"ดูยัง"
พี่จีบถามกันก่อนจะหยิบแก้มน้ำขึ้นมาดื่ม ผมเหลือบสายตามองก่อนจะค่อยๆแง้มนิ้วตัวเองขึ้น ตัวเลขสีดำเข้มปรากฏสู่สายตาจนทำให้ผมอ้าปากค้างน้ำลายแทบไหลออกจากมุมปากด้วยความตะลึง ตายห่าแล้วไหมล่ะไอ้คิส!!
"พี่จีบ ทำไมไม่บอกผมวะ"
ผมพูดออกไปเหมือนคนกำลังตกอยู่ในภวังค์หลังจากที่เลื่อนย้อนดูเกรดทุกเทอมที่ผ่านมาของพี่จีบซ้ำแล้วซ้ำอีก ดวงตากลมยังเบิกค้างอยู่แบบนั้น... พี่จีบ ไอ้คนหลอกลวง!
"บอกอะไร"
เขาถามเสียงติดทะเล้นเล็กน้อย คงรู้แล้วล่ะว่าทำไมผมมีอาการเหมือนคนช็อคได้ขนาดนี้ อยากจะขว้างโทรศัพท์ใส่หน้าแล้วตรงเข้าไปเขย่าคอฉิบหายเลย
"เชี่ย พี่ลาออกเหอะ ไม่ต้องเรียนแล้ว"
"ทำไมวะ"
ยังมีหน้ามาถาม ทำไมหน้าด้าน ทำไม่กล้าถาม!
"ได้สี่ทุกเทอม อัจฉริยะมาเกิดหรือไง!!!!"
ผมตะโกนลั่นด้วยความโมโห แต่พี่จีบกลับหลุดหัวเราะออกมาอย่างพอใจ หลงกลมันแล้วไหมล่ะ รู้ตัวเลยว่าโง่ดักดานแค่ไหน เสียตัวเห็นๆเลยกูเนี่ย ไม่รู้จะต่อรองกับมันไปทำพระแสงอะไร โอ้ย พลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตจริงๆ
"โกรธเหรอวะ พี่ไม่บังคับคิสหรอก เรื่องเกรดก็แค่รับข้อเสนอไปขำๆเอง ไม่ต้องกังวล"
พี่จีบหยุดหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาดึงโทรศัพท์กลับไป ผมเบะปากก่อนจะงอแงใส่พอหอมปากหอมคอ
"พี่แม่ง เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งกันวะ"
"โอ๋ๆนะครับที่รัก"
พี่จีบเดินเข้ามากอดกัน ใบหน้าของผมซุกลงที่หน้าท้องแกร่งแล้วยกมือขึ้นกอดรอบเอวของเขาเอาไว้ ไม่ใช่ไม่ชอบที่โดนแกล้ง แต่มัน...แค่เขินที่โดนแกล้งทำนองวาบหวิวแบบนี้
หลังจากนั้นเราก็ย้ายตัวเองมาดูหนังที่ฉายทางทรูวิชชั่นจนล่วงเลยมาถึงเวลากลางคืน ข้าวเย็นผ่านไปด้วยอาหารเรียบง่ายอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า อร่อยมากจนอยากจะกินเพิ่มอีกสักจานแต่เกรงใจพุงที่เริ่มป่อง
"จะอาบน้ำก่อนหรือจะให้พี่อาบก่อน"
พี่จีบเดินไปปิดทีวีแล้วถามกันขึ้นมา ผมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วบิดขี้เกียจก่อนจะตอบกลับไปเสียงใส
"ผมขออาบก่อนแล้วกันครับ"
พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำเข้าห้องนอนไปโดยมีผมเดินตามไป
ผมอาบน้ำโดยใช้เวลาไม่เกินสิบนาทีก่อนจะออกมาด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวตัวบางกับบ๊อกเซอร์ขาสั้นตัวเก่ง ไม่รู้ทำไมแอบรู้สึกหวิวๆแปลกๆทั้งๆที่ปกติก็ใส่ชุดทำนองนี้นอนประจำ หรือในหัวกำลังคิดอกุศลอยู่วะ
"พี่จีบครับ ไปอาบน้ำ"
ผมเรียกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นเกมอยู่ พี่จีบเหลือบมองกันก่อนจะพยักหน้าแล้ววางโทรศัพท์ลงแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไป
"เอาไงดีวะกู"
ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียง ในหัวคิดวิธีการอ่อยพี่จีบสารพัดไปหมด ไม่ได้อยากเสียตัวนะเว้ย แค่ไม่อยากผิดคำพูดเฉยๆ กรุณาเชื่อสิ่งที่ผมพูด! ผมพลิกตัวไปมาจนเสื้อยืดเปิดขึ้นมาเล็กน้อย สายตาสะดุดกึกอยู่ที่หน้าท้องขาวๆของตัวเอง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นจนเริ่มกลัวตัวเองแล้วนอนนิ่งอยู่ในท่านั้นจนพี่จีบเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงขาสั้นติดร่างกายเพียงชิ้นเดียว
"ไอ้คิส... เสื้อเปิด"
พี่จีบทิ้งตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะเบนสายตาหนีกัน ผมยิ้มกริ่มแล้วจับแขนแกร่งไว้หลวมๆ
"ดึงลงให้หน่อยสิครับ หรือจะถอดออกเลยก็ไม่ว่ากันนะ"
อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ต้องมายั่วผู้ชายเพราะไม่อยากผิดคำพูดของตัวเอง... สารภาพความจริงก็ได้ว่าไม่พร้อม แต่เพราะรักถึงยอมให้
"หืม ยั่วเหรอ"
พี่จีบหันมามองกันก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมาคร่อมอย่างเนิบนาบ ดวงตาคมเป็นประกายกำลังจ้องมองอย่างกับจะกลืนกินผมลงไปทั้งตัว... ถอนตัวตอนนี้คงไม่ทันแล้วใช่ไหมวะ
"คิดว่าแบบไหนก็แบบนั้นล่ะครับ"
ผมตอบก่อนจะหลบสายตา เพิ่งรู้ว่าตัวเองหน้าบางก็ตอนโดนมองอย่างเอาเป็นเอาตายนี่ล่ะ หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนวิ่งแข่งแปดร้อยเมตรซะอีก จะตายก่อนเข้าด้ายเข้าเข็มหรือเปล่าวะ หัวใจวายเฉียบพลันอะไรแบบนั้น
"ครั้งนี้พี่จะไม่ยอมทนแล้วนะคิส"
เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นก่อนที่จมูกโด่งจะไล้ไปตามกรอบหน้าอย่างเชื่องช้า ขนอ่อนในกายลุกซู่จนเผลอย่นคอหนีเล็กน้อย
"อือ... ไม่ทนก็ไม่ต้องทนครับ ผมสัญญาไว้แล้วนี่ว่าจะให้"
"แต่พี่บอกแล้วว่าไม่ได้จริงจัง"
"แต่ผมเต็มใจครับ"
ผมเอื้อมมือคล้องแขนไว้กับลำคอแกร่งแล้วโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาแตะจูบเบาๆ พี่จีบบดเบียดริมฝีปากลงมาเบาๆก่อนจะเพิ่มแรงขึ้นอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนไล่เลียไปตามริมฝีปากจนเปียกชื้นแรงดูดทำให้เจ็บเล็กน้อยแต่กลับเสียววาบไปจนถึงแกนกลางลำตัว มือหนาเปิดเสื้อผมขึ้นก่อนจะหยอกล้อกับตุ่มไตสีหวานจนเผลอร้องครางเสียงหวานออกมา
"อ๊ะ อื้อ"
ปากยังคงไม่ผละออก พี่จีบยังคงป้อนความหวานให้อย่างไม่ขาดสาย มือหนายังทำหน้าที่หยอกล้อเค้นคลึงจนความเสียวแล่นปลาบไปทั่วร่างกาย อารมณ์พุ่งสูงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ และไม่รู้ตัวเลยว่ากางเกงหลุดร่วงไปอยู่ข้างเตียงตั้งแต่ตอนไหน คนบนร่างของผมเกินคำว่าเชี่ยวชาญไปมากโขแล้วมั้ง
"อ๊ะ"
ผมร้องออกมาเมื่อนิ้วมืออุ่นทาบทับลงบนแกนกลางของร่างกาย มันขยับอย่างเนิบนาบจนผมแทบขาดใจ ความรู้สึกดีจนพูดไม่ออกกำลังทำให้หัวสมองขาวโพลน
"ระ เร็วขึ้นอีกได้ไหม"
ผมร้องขอโดยปราศจากยางอาย อารมณ์ที่มีในตอนนี้ทำให้สติยั้งคิดกลายเป็นรองไปซะหมด พี่จีบยิ้มกริ่มก่อนจะทำตามที่ขออย่างไม่อิดออด ไม่นานนักน้ำสีขาวขุ่นก็เปรอะเปื้อนมือหนา ผมนอนหอบหายใจอย่างหมดแรง และต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงการรุกล้ำจากช่องทางด้านหลัง มันเจ็บจนต้องกัดฟันทนแต่ไม่นานนักความเย็นของเจลก็ทำให้ผ่อนคลายลงไปมาก
"รู้สึกดีไหม"
เสียงทุ้มเอ่ยถามกันด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ผมพยักหน้ารับอย่างเขินอายก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้า ให้ตายเถอะ เห็นพี่จีบเปลือยแล้วหน้าร้อนกว่าเดิมอีก
"จะใส่เข้าไปแล้วนะ"
เขาบอกแค่นั้นก่อนจะถอนนิ้วออกไป ความคับแน่นเกิดขึ้นจนผมต้องนิ่วหน้าแล้วเอื้อมมือไปจับแขนพี่จีบเอาไว้
"อ๊ะ เจ็บ!"
พี่จีบหยุดก่อนจะก้มลงจูบกันแล้วเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่ปริ่มอยู่ออกให้ ผมเม้มปากเน้นเพราะรู้สึกปวดตุบๆตรงช่องทางด้านหลัง
"อย่าเกร็งครับคนเก่ง ผ่อนคลายเนอะ แต่ถ้าไม่ไหวก็ระบายความเจ็บกับตัวพี่ได้เต็มที่"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะเลื่อนมือไปเกาะไหล่อีกคนไว้แน่น เขาเริ่มสอดใส่เข้ามาอีกครั้งอย่างเชื่องช้า ผมเม้มปากแน่นกลั้นใจไม่โวยวายออกไป ไม่อยากให้มันจบเพราะความอ่อนแอของตัวเอง มาถึงขนาดนี้ก็อยากจะให้มันผ่านไปตลอดรอดฝั่ง
ความเจ็บปวดคลายลงหลังจากเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง ความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ขนผมเผลอร้องครางออกมาหลายต่อหลายครั้งอย่างน่าอาย แต่ดูเหมือนจะถูกใจคนบนร่างที่ขยับตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ผมไม่รู้ว่าเผลอสร้างรอยแผลระบายความวาบหวามไปบนตัวพี่จีบกี่ครั้ง สมองแทบจะเอ่อเร่อเมื่อมือหนากอบกุมแกนกายกันอีกครั้ง จังหวะมือและจังหวะขยับตัวประสานกันทำให้ผมเสียวจนแทบขาดใจ ไม่นานนักก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งพร้อมกับอีกคน...
นึกว่าเรื่องจะจบแล้วเมื่อครั้งแรกผ่านไป... ฮึก อย่าถามว่าผมมีชีวิตรอดได้ยังไงเพราะรู้ซึ้งและเข้าใจคำว่า 'ฟ้าเหลือง' ก็วันนี้ล่ะ
-------------------------------------------------------
เกรดพี่จีบออกแล้ว.... เป็นยังไงบ้าง น้องคิสเขาใสใสเนอะ 555555555
เราไม่ค่อยมั่นใจกับการแต่งฉากนี้เท่าไหร่ กลัวเขียนได้ไม่ดี
งด Q & A เนอะ ให้น้องคิสเขาพักผ่อน คึคึ
อยากจะบอกว่า ร่วมด้วยช่วยจุดพลุกับเราหน่อย ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถแต่งนิยายได้ 30 ตอนเข้าไปแล้ว
เกินความคาดหมายสุดๆ (ถ้ารวมจริงๆ 33 ตอนแล้วเนอะ) ตอนแรกตั้งไว้แค่ 25 ตอนจบ แต่เพราะรักเลยยังไม่อยากให้จบ
อ่านให้สนุกน้า ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างยาวนาน คาดว่าไม่น่าจะเกิน 3-4 ตอนจะจบแล้วน้า