♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]  (อ่าน 170571 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 31 -




ช่วงสายของวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ปราศจากการเรียนการสอนของนักศึกษาปีสามคณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาคคอมพิวเตอร์กราฟิก ผมนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเนื่องจากอากาศในวันนี้ยังคงความเย็นเหลืออยู่ เพราะเมื่อคืนฝนหลงฤดูเทลงมาอย่างหนัก ความสัมพันธ์ของผมกับพี่จีบผ่านมาเป็นปีแล้ว ความรักยังคงเสมอต้นเสมอปลายไม่มีเปลี่ยนแปลง และดูเหมือนว่าพี่จีบจะเอาใจผมมากขึ้นด้วยหลังจากที่เราเป็นของกันและกัน คิดแล้วก็เขินไปอีกชีวิต

"คิส"
เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูดังขึ้นจากด้านนอกห้องนอน ผมเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก รู้สึกว่าตัวเองไร้เรี่ยวแรงไปหมด เพราะเมื่อคืนพี่จีบดันจัดหนักในรอบอาทิตย์น่ะสิ โหย ใจคอจะไม่ให้ผมหนีเที่ยวสุดสัปดาห์ได้เลยใช่ไหมเนี่ย

"อือ"
ผมครางเบาๆออกมาก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงหัว ยังไม่อยากตื่นเลย ไม่มีแรงจะขยับตัวไปไหนด้วยซ้ำ ระบมไปหมด ต้องโทษพี่จีบเลยนะ เจ้าคนหื่นกาม!

"คิสครับ ตื่นได้แล้ว"
ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาหากัน ผมยิ่งขดตัวแน่นขึ้นและจับผ้าห่มไว้มั่นป้องกันการดึง แต่พี่จีบทำเพียงแค่ทิ้งตัวลงนอนข้างๆแล้วขยับเข้ามากอดทั้งอย่างนั้น

"อือ ไม่เอา ออกไปเลยนะ"
ผมบ่นเสียงอู้อี้แล้วดิ้นขลุกขลักไปมา ยังงอนเรื่องเมื่อคืนอยู่เลย บอกว่าให้แค่รอบเดียวแต่นี่ล่อไปสามรอบ หึ ไม่เอาให้ตายคาเตียงไปเลยล่ะ

"ยังงอนอยู่อีกเหรอคนดี"
เสียงทุ้มนุ่มถามกลับมา อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดกันแน่นขึ้นอย่างออดอ้อน ผมอยากจะงอนเขาได้สักหนึ่งวันเผื่อความหื่นที่มีจะลดลงบ้าง แต่แค่ครึ่งชั่วโมงผมยังทำไม่ได้เลย ก็ใช้การง้อแบบนี้เนี่ย ให้ใจแข็งยังไงไหวล่ะ

"พอเลยพี่จีบ ขยับออกไปเลย ผมจะลุกแล้ว"
ยังคงแสร้งทำเสียงแข็งทั้งๆที่กลั้นยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว พี่จีบคลายกอดกันผมเลยขยับตัวโผล่หัวออกมาเจอกับใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องมองกันอยู่ ดวงตาคมฉายแววอ่อนโยนทุกครั้งที่มองมา ริมฝีปากหยักเคลื่อนมาประทับรอยจูบลงบนหน้าผากอย่างนุ่มนวล ฮึ่ย เขินเว้ย

"ขอโทษนะครับที่เอาแต่ใจไปหน่อย"
แต๊ะอั๋งกันเสร็จยังขอโทษด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นยิ้มเอาไว้ ก็ไม่อยากให้พี่จีบได้ใจนี่หว่า เดี๋ยวจะเคยตีวหาว่าผมเป็นคนง้อง่ายอีก

"อือ หิวแล้วอ่ะ"
ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนจะใช้มือเกาหัวแกรกๆ ไม่ได้สระผมมาสองวันเพราะความซกมกของตัวเองล้วนๆ แต่พี่จีบก็ไม่ได้บ่นสักคำด้วย สงสัยมันยังไม่ส่งกลิ่นเท่าไหร่

"เตรียมข้าวต้มซีฟู้ดร้อนๆไว้ให้แล้ว รีบลุกไปล้างหน้าแปรงฟันเลย"
พี่จีบเอื้อมมือมาตีก้นกันก่อนจะลุกเดินออกไปด้านนอก ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนจะไปทำตามคำสั่งของพ่อทูนหัวให้เรียบร้อยแล้วเดินไปนั่งทำหน้าอึนที่โต๊ะอาหาร เขาตักข้าวต้มมาเสิร์ฟให้ถึงที่แถมโรยขิง ผักชี พริกไทยให้กันอีกด้วย จะมีใครน่ารักไปกว่าแฟนผมอีกน้า มีความสุขสุดๆไปเลยนะเนี่ย

"กินเยอะๆ บำรุงร่างกาย"
พี่จีบตักกุ้งตัวโตจากถ้วยของตัวเองมาให้กัน ผมพยักหน้ารับคำก่อนจะตักข้าวต้มพูนช้อนมาเป่าแล้วงับเข้าปาก อืม... ฝีมือพี่จีบไม่เคยตกจริงๆนะ อร่อยเสมอ ถ้าไม่ติดว่าเรียนจบแล้วเขาต้องเข้าทำงานบริษัทนำเข้าและส่งออกเมล็ดกาแฟของที่บ้านนะ ผมจะยุให้เปิดร้านอาหารซะเลย

"ใช้แรงงานผมแล้วมาเอาใจทีหลังเหรอ"
ผมว่าเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะใช้มือดึงหางกุ้งออกจากปาก ทิชชู่ส่งตรงมาให้กันแทบจะในทันที โอย ดูแลดีขนาดนี้จะไม่รักยังไงไหวล่ะ

"ใครเรียกว่าใช้แรงงานวะ เรียกว่ามอบความเสียวซ่านให้ดีกว่า"
พูดจบแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้กันอย่างอารมณ์ดี ผมนี่สำลักข้าวต้มอย่างแรงกับประโยคที่ได้ยิน โอ้ย แฟนใครวะ ทำไมหน้าด้านขนาดนี้ ตอบ!

"แค่กๆ หยุดพูดไปเลยนะเว้ย"
ผมไอโขลกออกมาแล้วรีบหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็ว รู้สึกเจ็บคอไปหมดจนต้องจ้องตัวต้นเหตุเขม็งก่อนจะแยกเขี้ยวใส่ พี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างสนุกสนานแต่ก็เอื้อมมือมาลูบหัวกันแบบละมุนละม่อมอีก ฮึ่ย

"โอ๋ๆนะเมีย มาให้จูบหน่อย"
ไม่ว่าเปล่าแต่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกเราแตะกัน ผมกำลังจะผละตัวหนีแต่มือหนากับรั้งต้นคอเอาไว้อย่างรู้ทัน  เกลียดชะมัดเลย

"ไม่เอา เหม็นกลิ่นผักชีจะตาย"
ผมย่นจมูกใส่แล้วพยายามใช้สองมือผลักอกของเขาให้ถอยห่างออกไป แต่มันไม่ได้ผลเมื่อริมฝีปากหยักกดจูบลงมาจนได้ ก็ว่าจะไม่เคลิ้ม... แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้อีกคนรุกล้ำเข้ามาอย่างใจอ่อน เพราะรักหรอกน่าถึงยอมขนาดนี้

"อือ"
ผมครางเสียงแผ่วในลำคอเมื่อริมฝีปากถูกครอบครองและดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย รู้สึกร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นมาซะอย่างนั้น ในใจนึกกลัวว่ามื้อเช้าของพี่จีบจะกลายเป็นตัวของผมเอง แต่ยังไม่อยากหยุดเลยไง ปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน กำลังเพลิน

"เป็นอาหารเช้าให้พี่ไหม"
พี่จีบผละจูบออกแล้วถามกันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ผมเม้มปากแน่นก่อนจะกำมือทุบลงบนอกแกร่งแล้วขยับตัวหนีทันที นี่ยังระบมไม่หายมาถามกันแบบนี้อีก วันหยุดไม่ต้องนอนเป็นผักเหี่ยวอยู่แค่บนเตียงหรือไง

"ยังไม่พออีกหรือไง เลิกหื่นสักวันเถอะพี่จีบ"
ผมว่าก่อนจะตักข้าวต้มใส่ปากอีกครั้ง เนี่ย ข้าวก็เพิ่งกินไปได้สองสามคำ จะเอาแรงที่ไหนไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียงเล่าพ่อคุณ ปล่อยผมให้มีความสุขกับมื้ออาหารธรรมดาๆบ้างเถอะ

"ล้อเล่นน่า จริงจังไปได้"
พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆแล้วทิ้งตัวลงนั่งกินข้าวเช้าจ่อไปเงียบๆ หลังจากจัดการเรียบร้อยผมก็เป็นคนเก็บจานไปล้าง ทีแรกพี่จีบขัดไว้เพราะเห็นว่ายังระบมตรงส่วนนั้น แต่เรื่องแค่นี้คนอย่างนายอินธิพัฒน์ทนได้อยู่แล้ว

"คิส ไปทะเลกัน"
ผมที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาออกแบบคาแรกเตอร์งานสร้างการ์ตูน 3D อยู่เงยหน้าขึ้นมองพี่จีบแทบจะในทันที หัวคิ้วขมวดเข้าหากันยุ่งเหยิงแล้วถามกลับไปเสียงเครียด

"อะไรนะ อยู่ๆมาชวนผมทะเลาะ"
พูดจบก็เบะปากใส่ไปหนึ่งที พี่จีบถึงกับชะงักแล้วหลุดหัวเราะก๊ากออกมาจนผมทำตัวไม่ถูก อะไรวะ ทำอะไรผิด ก็ได้ยินว่าชวนทะเลาะ แล้วตอนนี้มาหัวเราะใส่กันซะอย่างนั้น ตามไม่ทันเว้ย

"ใครชวนมึงทะเลาะเนี่ย พี่ชวนไปทะเลเว้ย ทะเลน่ะ"
พี่จีบกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดงแต่สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาอีก ผมได้แต่นั่งเกาแก้มแก้เขิน ยิ้มแห้งๆส่งไปให้กัน หน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บเลยกู ฮือ

"ขอโทษที ได้ยินไม่ชัดอ่า"

"ตกลงจะไปหรือไม่ไป"

"ไปเมื่อไหร่"

"ตอนนี้ล่ะ"

"เฮ้ย กะทันหันไปป่ะวะพี่"
ผมเบิกตากว้างเมื่อทุกอย่างมันรวดเร็วแบบนี้ แต่ใจนี่ลอยไปอยู่ที่ทะเลเรียบร้อยแล้วเว้ย ไม่ได้ไปตั้งนาน เอะอะๆขึ้นเหนือตลอด

"จะไปไหมล่ะ พัทยาใกล้ๆ วันอาทิตย์ค่อยกลับ"
พี่จีบดึงผมขึ้นมาจากพื้นแล้วบังคับให้นั่งลงบนตักกัน คางมนเกยอยู่ที่หัวไหล่ ลมหายใจร้อนๆกระทบกับซอกคอทำให้รู้สึกสยิวยังไงชอบกล ขนลุกไปหมดแล้ว จะกี่ครั้งก็ไม่ชินสักทีกับการใกล้ชิดกันแบบนี้

"กะ ก็ได้ แล้วจะไปกันแค่สองคนเหรอ"
ผมถามกลับแล้วพยายามย่นคอหนีเพราะพี่จีบแกล้งใช้จมูกไล้ไปตามซอกคอ ฮื้อ ไม่เอาแบบนี้นะ เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปไหนกันพอดี พี่แค่แกล้งแต่ผมจะหื่นจริงแล้วนะเว้ย คนบ้า!

"จะชวนใครก็เอาสิ ไม่สนใจอยู่แล้ว ยังไงพี่ก็หาทางลวนลามคิสได้"
พูดจบก็ใช้ปากงับซอกคอกันเบาๆจนผมสะดุ้งเฮือก หน้าร้อนวูบวาบกับสัมผัสแนบชิดแบบนั้น ยิ่งคำพูดกระซิบข้างหูเมื่อครู่นั่นอีก นี่กำลังบังคับให้ผมยอมเสียตัวให้อีกครั้งใช่ไหม ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ

"เลิกคิดเรื่องลามกก่อนดิ"
ผมหมุนตัวนั่งคร่อมตักแล้วเผชิญหน้ากัน แขนยกขึ้นคล้องรอบคออีกคนไว้หลวมๆก่อนจะก้มหน้างับคอพี่จีบคืน ปากบอกให้หยุดแต่ผมกลับแสดงออกตรงข้าม มันคือการเอาคืนนั่นเอง ไม่ต้องตกใจหรอกนะ หึหึ

"งั้นก็เลิกยั่วก่อนสิ เดี๋ยวทริปก็โดนพับเก็บกันพอดี"
พูดห้ามกันแต่มือหนากลับยกขึ้นบีบคลึงสะโพกอย่างเมามัน นี่มันคู่รักซึนเดเระแห่งปีชัดๆ ผมตีมือพี่จีบก่อนจะจับเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ลวนลามต่อได้อีก แล้วโน้มหน้าลงไปขโมยจูบเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืน

"โทรไปชวนไอ้ออยกับภีมก่อนนะ"
ผมยกยิ้มกวนๆใส่พี่จีบแล้วคว้าเอาโทรศัพท์กลับเข้าห้องนอน ระหว่างรอต่อสายก็รื้อเสื้อผ้าที่ต้องการมายัดใส่กระเป๋า พี่จีบก็เดินตามมาทำอย่างเดียวกันไปเงียบๆ ไม่นานนักไอ้ออยสาวสวยประจำกลุ่มก็รับสาย

'ฮัลโหล ~'
เสียงสดใสยิ่งกว่ายืนบนไหล่เขาดังแทรกเข้ามา แต่ฟังแทบไม่รู้เรื่องเหมือนเพื่อนตัวดีกำลังอยู่ในที่คนพลุกพล่าน

"มึงอยู่ไหนอ่ะออย"
ผมหนีบโทรศัพท์ไว้กับหัวไหล่ก่อนจะหยิบของที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าต่อ พี่จีบคงเห็นความลำบากเลยแย่งทุกอย่างไปทำซะเอง ผมกล่าวขอบคุณเขาแบบไร้เสียงแล้วเดินไปหย่อนตัวนั่งลงปลายเตียงเพื่อจะคุยโทรศัพท์ได้สะดวก

'อยู่พารากอน มึงมีอะไรหรือเปล่า'

"ว่าจะชวนไปทะเลอ่ะ"

'ไปวันไหน'

"วันนี้"

'ไอ้เชี่ย ไม่บอกกูพรุ่งนี้เลยล่ะคะเพื่อน กูไม่ว่างเว้ย กำลังจะดูหนังกับพี่!'
มันโวยกลับมาเสียงดังจนผมต้องย้ายโทรศัพท์ออกจากหูแล้วทำปากขมุบขมิบใส่ พี่จีบหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นท่าทางของผมก่อนจะหันกลับไปจัดของต่อ

"ก็พี่จีบชวนกะทันหันอ่ะมึง"
ผมพูดเสียงอ่อยกลับไป ดูท่าทางมีหวังจะได้ไปด้วยกันแบบสองต่อสองแน่ๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป แต่ผมไม่เคยไปทะเลกับเพื่อนไง ถึงจะเคยแต่มันก็นานมาแล้วจนลืมบรรยากาศแบบนั้น

'เชิญไปสวีทกับผัวสองคนเถอะค่ะเพื่อน ถ่ายรูปมาฝากเยอะๆละกัน'
มันบอกน้ำเสียงประชดจนผมนึกหมั่นไส้ แล้วอะไรคือการบอกให้ผมไปสวีทกับผัวสองคน ใช้คำพูดไม่สมกับความเป็นกุลสตรีเลยไหมล่ะ ไม่กระดากปากบ้างหรือไงวะ  จริงๆแล้วผมพาลไปอย่างนั้นล่ะ เพราะเขิน ฮือ

"รูปทะเลอ่ะนะ"
ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เผื่อไอ้ออยมันติสท์แตกให้ถ่ายรูปฝรั่งแก้ผ้าเดินชายหาดไปให้มันอีก

'เปล่า รูปมึงกับพี่จีบอ่ะ กูจะส่งให้แอดมินเพจคนดังมหา'ลัย'
แสงมันระริกระรี้ชอบกลจนผมอ้าปากพะงาบๆ จะเอาไปให้แอดมินเพจคนดังฯทำไมวะ ยังไม่อยากโดนแฟนคลับมันกระหน่ำด่านะเว้ย รู้อะไรไหม ทุกวันนี้พอโดนแอบถ่ายรูปไปลงเพจ มีทั้งคนชอบ คนด่า คนหมั่นไส้ แต่ปลงแล้ว เพราะพี่จีบก็ไปไล่ออกความคิดเห็นมันซะทุกรูปเหมือนกัน หึหึ เอาสิ คนของผมก็ต้องปกป้องผมเป็นธรรมดา

"ส่งให้ทำเชี่ยอะไรเนี่ย ไม่เอา!"

'น่าๆ เขาเป็นแฟนคลับจีบคิสน่ะ รับรองว่าไม่เอาไปลงเพจหรอก เก็บไว้ฟินส่วนตัวอะไรงี้'

" โอย รูปเดียวพอ!"
ก็ยังจะใจอ่อนให้เขาหนอคนเรา เพลียใจกับตัวเองจริงๆเลย ไม่ใช่ว่าอยากอวดความรักของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ แค่ทำให้แอดมินเขามีความสุขก็เท่านั้นเอง จริงๆนะ คิสเป็นคนใสใสใครๆก็รู้ ไม่ได้ประกาศความเป็นเจ้าของพี่จีบเล้ย

'ถ้ารูปเดียวขอแบบจูบดูดดื่มนะ'
ไอ้ออยหัวเราะเสียงใสกับคำของตัวเอง ผมนั่งอ้าปากพะงาบๆแก้มร้อนวูบทันที ใครมันจะไปถ่ายรูปแบบนั้นแล้วส่งให้คนอื่นดูกันเล่า ประสาท!

"ไม่เว้ย แค่นี้นะ คุยกับมึงแล้วปวดหัว"
ผมกดวางสายทันทีแล้วนั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว พี่จีบเดินมาแล้วหย่อนตัวลงข้างๆแล้วใช้มือดึงแก้มกันเบาๆอยากหยอกล้อ

"เป็นอะไรหืม หน้ายับย่นเหมือนหมาปั๊กเลยนะ"
พี่จีบว่าก่อนจะยกยิ้มกวนๆให้กัน ผมเหลือกตามองด้วยความหงุดหงิดก่อนจะใช้หัวแข็งๆชนปลายคางอย่างหมั่นไส้ เรื่องอะไรมาว่าผมเหมือนหมาปั๊กกันล่ะ

"โอยคิส เดี๋ยวคางแตก"
พี่จีบยกมือขึ้นลูบคางตัวเองไปมาแล้วส่งสายตาดุๆให้กัน ผมแลบลิ้นใส่ก่อนจะขยับหนีแขนยาวๆที่พยายามจะล็อคคอ อย่างหวังว่าจะชนะผมได้อีกนะ ครั้งนี้ไม่มีทางแน่นอน

"ว่าผมเป็นหมาก่อนทำไมล่ะ"

"ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้งอนจังวะ หรือว่าท้อง"

"ฮึ่ย จะบ้าเหรอ ผมท้องไม่ได้!"

"ใจเย็นน่า ล้อเล่น จะโทรไปชวนใครอีกไหม"
พี่จีบถามก่อนจะดึงผมเข้าไปนั่งตักอีกแล้ว แต่ขี้เกียจขัดขืนเลยไม่ดิ้นหนีไปไหน ปล่อยให้เข้ากอดรอบเอวเอาไว้หลวมๆ

"ขอโทรชวนภีมก่อน ออยมันไม่ว่างอ่ะ"
ผมตอบกลับไปแล้วยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมากดต่อสายหาไอ้ภีม รอเสียงสัญญาณจนแทบสายจะตัดแล้วจึงมีเสียงคนงัวเงียพูดแทรกขึ้นมา

'อือ ใครครับ'
เสียงงัวเงียจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ ให้เดาคนปลายสายคงยังไม่ตื่นเป็นแน่

"ไอ้ภีมไปไหนอ่ะ"
ผมถามกลับไปทันทีเพราะรู้ว่าเป็นพี่ชายของตัวเองรับสายไม่ผิดแน่ แต่ไอ้พี่ดีพนี่สิท่าทางจะไม่รู้ว่าใครโทรไปด้วยซ้ำ

'มึงเป็นใคร มาถึงก็ถามหาแฟนกู'
เอ่อ... ผมเอ๋อแดกไปชั่วขณะก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆแล้วหลุดหัวเราะออกมา อยากรู้ว่าตอนนี้พี่ชายงัวเงียหรือเมากันแน่ ถึงขนาดจำเสียงผมไม่ได้ขนาดนี้เนี่ย

"พี่ดีพ ผมคิสไง เมาเหรอวะ!"
ผมโวยกลับไปเสียงไม่ดังนัก พี่จีบคงพอจะเดาได้ว่าผมคุยอะไรกันอยู่เลยหลุดหัวเราะออกมาบ้าง แถมมือที่เคยโอบเอวกันไว้หลวมๆเริ่มเลื้อยไปตามขาอ่อนจนผมต้องตะปบเอาไว้ก่อนที่มันจะย้ายเข้าไปอยู่ในขากางเกง

'หา อ๋อ โทษที กูยังแฮงก์อยู่ เมื่อคืนภีมมอมเหล้ากู'

"หา มอมเหล้า นี่พี่เสร็จไอ้ภีมแล้วเหรอ"
ผมถามออกไปด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีไอ้ภีมเคยทำแบบนั้นซะที่ไหนสงสัยจะเอาจริงด้วยการชิงเป็นผัวพี่ดีพซะก่อนที่มันจะตกเป็นเมียแน่ๆ โอย แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้อ่ะ

'เสร็จพ่อง! กูแค่หื่นใส่มันเฉยๆ มันเลยหลอกให้กูกินเหล้าให้เมาแล้วหลับนี่ไง'
เสียงพี่ดีพติดหงุดหงิดจนผมเริ่มกลัว สงสัยจะหัวเสียน่าดูที่พลาดโอกาสปล้ำให้ภีมครั้งแล้วครั้งเล่า พูดไปพูดว่าก็สงสารพี่ชายตัวเองอยู่เหมือนกัน ตอนแรกๆที่เขารู้ว่าผมกับพี่จีบทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาคู่มันไปแล้ว โดนโกรธไปเกือบหนึ่งอาทิตย์แหนะ

"เออๆ ว่าจะชวนไปทะเลอ่ะ ไปด้วยกันป่ะ"

'วันไหน'
ทำไมต้องถามคำถามเดียวกันวะ ไม่พ้นโดนด่าอีกแน่ๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบออกไปไม่เต็มเสียงนัก ไอ้คนที่กอดกันอยู่ก็หายใจรดต้นคออยู่ได้ ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย

"วันนี้อ่ะ พี่จีบเพิ่งชวน"

'เหี้ย ชวนปุ๊ปจะไปปั๊ป ไม่ว่าง มีนัดกินข้าวกับพ่อแม่ไอ้ภีมว่ะ'
เหี้ยเต็มสองหูจนต้องเบะปากมองบนกันเลยทีเดียว แต่ก็ดีหน่อยที่ไม่โดนเทศน์จนหูชา

"อ๋อ จะไปขอลูกชายเขาหรือไง"
ได้ทีขอแซวหน่อยเถอะ สนิทสนมกันจนน่าหมั่นไส้เลยทีเดียว

'หึ ให้กูได้มันเป็นเมียก่อนเถอะน้องชาย โอ้ย ภีมหยิกตูดกูทำไมเนี่ย!'
ได้ยินเสียงโวยวายลอดออกมาทำให้ผมหัวเราะทันที เดาว่าภีมคงเดินกลับมาจากที่ไหนสักแห่งแล้วบังเอิญได้ยินประโยคเมื่อครู่เข้าให้แน่ๆ

'แค่นี้นะมึง โอ้ยภีม พอแล้วกูเจ็บ!'
แล้วสายก็ตัดไปดื้อๆทำให้ผมนั่งหัวเราะจนตัวสั่นอยู่แบบนั้น สรุปก็เป็นทริปสองต่อสองกับพี่จีบอีกสินะ เพราะรู้มาว่าพี่คินกับพี่แก๊ปนัดกันไปย้อนวัยที่สวนสนุก

ผมลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วขนกระเป๋าลงไปขึ้นรถ BMW เคลื่อนตัวไปช้าๆตามเส้นทางมุ่งสู่พัทยา ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการเดินทาง ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของพี่จีบก็ยื่นมาตรงหน้า ผมรับไว้ด้วยความงุนงงแล้วถามกลับไปว่าให้ทำอะไร

"ส่งมาทำไมครับ"

"โทรจองบ้านพักหน่อย"

"อ๋อ... โอเค"
ผมก้มลงมองหน้าจอก็เจอเข้ากับชื่อโรงแรมที่พัก จากนั้นก็กดโทรออกทำเรื่องจองบ้านพักแบบบังกะโลหนึ่งหลังเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ผมวางเครื่องมือสื่อสารลงเมื่อทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยก่อนจะขอนอนพักเพราะยังรู้สึกเพลียๆ จนมาตื่นอีกครั้งก็ตอนพี่จีบปลุกกันนั่นล่ะถึงรู้ว่ามาถึงแล้ว

เราขนของลงจากรถไปที่ล็อบบี้เพื่อรับกุญแจบ้าน หลังจากนั้นก็เอาของไปเก็บไว้และชวนกันมาเดินเล่นริมชายหาด เสียงคลื่นกระทบฝั่งฟังแล้วคล้ายกับเสียงดนตรีที่คอยขลับกล่อมนักท่องเที่ยวให้ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยลง เท้าเปลือยเปล่าย่ำลงบนผืนทรายขาวเนียนละเอียดมันเปียกชื้นแต่ก็ให้ความรู้สึกดี สายลมอ่อนๆพัดกระทบใบหน้ากันให้ความรู้สึกสดชื่น ติดตรงที่ลมทะเลมันเหนียวตัวนี่ล่ะนะ

"เอารองเท้ามานี่ เดี๋ยวถือให้"
พี่จีบแบมือข้างที่ว่างมาตรงหน้า ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะส่ายหัวไปมา เรื่องอะไรที่จะใช้แฟนถือของต่ำให้กันเล่า สู้เอามือที่ว่างจับกันไว้ไม่ดีกว่าเหรอ

"ไม่เอา ผมถือเองได้น่า"
ผมบอกก่อนจะปัดมือพี่จีบทิ้งอย่างไม่จริงจังนัก เจ้าตัวไหวไหล่แล้วยอมปล่อยเลยตามเลย เราเดินไปตามชายหาดเงียบๆ แต่แล้วก็มีสาวน้อยสามคนเดินตรงเข้ามาหาพวกเรา หึ... มาหาพี่จีบแน่ๆ ให้ตายเถอะชีวิต มีแฟนหล่อนี่มันเป็นปัญหาใหญ่โดยแท้จริงสินะ

"เอ่อ... ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ"
คนที่ดูหน้าตาน่ารักที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น ผมกับพี่จีบมองหน้ากันแว๊บหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป

"ได้สิ มีอะไร"
พี่จีบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกไป ส่วนผมยืนเงียบอยู่ข้างๆกันเพื่อรอดูว่าพวกเธอจะทำอะไรต่อ

"ชื่ออะไรเหรอคะ"
เธอถามด้วยท่าทางเขินอาย ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็มีอาการไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ แต่ไม่ชัดเจนเท่ากับคนถาม ผมขมวดคิ้วแน่นเพราะเดาได้ว่าไม่ช้าก็เร็วพี่จีบต้องโดนขอเบอร์แน่ๆ ฮึ่ม

"ถามผมหรือถามคนข้างๆ"
โอ้โห... แฟนผมก็ถามอะไรโง่ๆเนอะ ทั้งที่สายตาเขาจับจ้องพี่เป็นประกายระยิบระยับขนาดนั้น แต่การทำเป็นซื่อก็ช่วยยืดเวลาในการตอบคำถามไปได้เยอะเหมือนกัน

"เอ่อ ทะ ทั้งสองคนค่ะ"

"อ๋อ ผมชื่อจีบ ส่วนนี่คิส"
พี่จีบแนะนำตัวให้เสร็จสรรพก่อนจะคลี่ยิ้มบางซึ่งผมก็ทำตาม มันเป็นมารยาททางสังคมน่ะนะ พวกเธอพยักหน้าหงึกหงักรับรู้แต่ไม่แนะนำตัวกลับมา ประหลาดจริงๆ

"เอ่อ... อายุเท่าไหร่คะ"
นี่สอบถามไปทำทะเบียนราษฎร์หรือเปล่าครับคุณ

"ถามทำไมครับ"
คราวนี้เป็นผมเองที่ถามสวนกลับไปเพราะรู้สึกว่าพวกเธอเริ่มก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันมากขึ้น จะบอกว่าผมหวงอีกคนก็ได้ อะไรที่มาทำนองนี้คือตั้งใจจะมาจีบกันทั้งนั้นล่ะ

"อ่า... คือ จะได้เรียกถูกไงคะ"

"ถ้าไม่มีธุระอะไรผมขอตัวนะครับ"
พี่จีบพูดแทรกขึ้นมาแล้วคว้ามือของผมไปจับเอาไว้แน่น พวกเธอดูจะตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ได้ถามอะไรออกมาทั้งๆที่แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นมากขนาดนั้น

"คือว่า ขอเบอร์จีบได้ไหมคะ"
ในที่สุดสิ่งที่ผมคิดก็เกิดขึ้น เฮ้อ ผมแกะมือพี่จีบออกแล้วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาคมเลื่อนมองกันแล้วหันกลับไปมองพวกเธออีกหน

"ผมให้ไม่ได้หรอกครับ"

"ทำไมเหรอคะ"

"เดี๋ยวแฟนจะงอนน่ะครับ"

"อ่า... มีแฟนแล้วเหรอคะ เสียดายจัง"
เธอว่าเสียงอ่อยอย่างน่าสงสาร อาการร่าเริงเหมือนตอนแรกหายไปทันที ดวงตากลมใสนั่นสั่นระริกและเต็มไปด้วยความผิดหวัง

"อืม... ขอตัวนะครับ"
พี่จีบว่าก่อนจะคว้ามือผมไปจับแล้วประสานกันแน่น พวกเราเดินออกมาจากตรงนั้นและได้ยินเสียงพวกเธอไล่หลังมาทำนองว่า 'ฉันบอกแล้วว่าเขาเป็นแฟนกัน ทำไมแกไม่เชื่อ' และ 'ใครจะไปรู้อ่ะ ก็ดูแมนทั้งคู่นี่หว่า' และ 'กรี๊ด เขาน่ารักกันจังเลยแก' จากที่จะโกรธเพราะโดนนินทากลับกลายเป็นว่าเขินไปซะอย่างนั้น

"คิส ไม่งอนเนอะ"
พี่จีบแกว่งมือข้างที่จับกันไว้เบาๆ ผมเงยมองคนข้างๆแล้วส่ายหน้าไปมาเป็นการบอกว่าไม่ได้งอน มีหึงบ้างเล็กน้อยแต่พี่จีบก็ปฏิเสธออกไปชัดเจนแล้วจะเหลืออะไรให้รู้สึกไม่พอใจกันล่ะจริงไหม

"ให้งอนเรื่องอะไรล่ะ พี่เล่นปฏิเสธไปตรงๆแบบนั้น"
ผมว่าก่อนจะแกล้งบีบมือกันแน่นๆ พี่จีบหันมายิ้มละมุนให้กันแล้วดึงมือให้ผมหยุดเดินก่อนจะบังคับให้หันหน้าเข้าหาทะเลยามเย็น พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ทำให้แสงสีส้มกระจายไปทั่วบริเวณ ดูแล้วร้อนแรงแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด เหมือนกับคนข้างๆล่ะมั้ง

"น่ารักใช่ไหมล่ะ"
พี่จีบพูดติดตลกก่อนคลายมือที่เกาะกุมกันออกแล้วเปลี่ยนมากอดไหล่แทน ดวงตาคมก้มลงมาจ้องมองกัน ผมย่นจมูกใส่แล้วแกล้งเอาหัวชนอกกว้างด้วยความมันเขี้ยว

"คนอะไรหลงตัวเองเป็นบ้า"
ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มเมื่อโดนมือใหญ่กดหัวในแนบลงกับอกเพื่อฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงเป็นจังหวะเดียวกัน หัวใจของกันและกัน

"คิสก็หลงพี่ไม่แพ้กันหรอก"
ผมเถียงไม่ออกเลยได้แค่แกล้งอ้าปากงับอกแกร่งเล่น ตอนนี้ความเขินมันมีมากกว่าที่จะแคร์สายตาใครๆ จะมีคนอื่นมองการกระทำของเราผมก็ไม่สนใจแล้ว ละทิ้งเรื่องคนอื่นแล้วมองแค่ตัวเรากับคนที่เรารักในตอนนี้ก็พอ

"ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้น่า ผมภูมิต้านทานต่ำพี่ก็รู้"

"รู้ไง ก็อยากให้เขิน น่ารักดี"
ไม่รู้ว่าคู่อื่นเขายังจีบกันแบบนี้หรือเปล่าหลังจากที่เป็นแฟนกันแล้ว แต่ผมกับพี่จีบยังหมั่นจะหยอดกันไปกันมาเพื่อเพิ่มความหวานเหมือนมันแรกที่จีบกันอยู่ มันทำให้อบอุ่นใจนะ ไม่เชื่อลองทำดูสิ

"พี่แม่งโรคจิตอ่ะ"
ผมผละตัวออกจากอกแกร่งแล้วใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มพี่จีบด้วยความมันเขี้ยว เขายิ้มและไม่บ่นสักคำว่าเจ็บ แถมยังเลื่อนหน้าผากเข้ามาแตะกันด้วยซ้ำ การกระทำทุกอย่างชะงักลงเมื่อสายตาประสานกัน

"ทำไมนิสัยเสียวะ"
อยู่ๆพี่จีบก็ย่นคิ้วแล้วว่ากันแบบนั้น ผมเบิกตาโตด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าไปแสดงนิสัยเสียๆตอนไหน ประมวลผลอย่างรวดเร็วก็ไม่พบอะไร

"หือ พี่จีบพูดอะไรวะ ผมไม่เข้าใจ"
ผมขมวดคิ้วแน่นเพราะเริ่มเครียดก่อนจะผละตัวออกห่าง แต่พี่จีบกลับใช้มือรั้งท้ายทอยกะนเอาไว้และบังคับให้ประสานสายตากันเหมือนเดิม ดวงตาคมไม่ได้ฉายแววดุดันหรือตัดพ้อแต่อย่างใด มันฉายแววความอ่อนโยนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักจนผมรู้สึกขัดเขินยังไงชอบกล

"นิสัยเสียที่ทำให้พี่หลงหัวปักหัวปำไง ไม่รู้ตัวเหรอ"
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้กัน คำหวานที่ผ่านหูไปเมื่อครู่ทำให้ผมสะดุดลมหายใจของตัวเองไปหนึ่งจังหวะเต็มๆ ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมา แก้มต้องแดงมากแน่ๆ บ้าเอ้ย

"ฮื้อ พี่ก็นิสัยเสียเหมือนกันเหอะ ทำให้ผมเขินตัวจะแตกขนาดนี้"
ว่าแล้วก็เขย่งเท้าจูบปิดริมฝีปากหยักซะเลย พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็นหรอก ถึงจะเห็นก็ไม่แคร์อะไรแล้ว คนรักเขาจะบอกรักกันช่วยหยวนๆทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยเถอะนะ ไม่อยากจะอวดเลยว่าการมาทะเลครั้งนี้มีความสุขมากจริงๆ สุขเพราะได้มากับคนรัก สุขเพราะได้รับความรักมากมาย สุขเพราะการดูแลเอาใจใส่ และสุขที่ได้มีกันและกัน



'ผมอาจจะดูโลภมากไปหน่อย แต่อยากขอให้เรามีกันและกันแบบนี้... ตลอดไป'






------------------------------------------------------------------



น้ำทะเลที่ว่าเค็มนักหนายังยอมแพ้ให้กับความหวานของจีบคิสเลยครับคุณ 5555555555
หวานจนน่าอิจฉา อยากได้ผู้ชายแบบพี่จีบมาครอบครองจริงๆวุ้ย แย่งของคิสได้ไหมเนี่ย
ดื่มครั้งที่ 32 พี่จีบของเราจะลากสังขารไปฝึกงานแล้วหนา คึคึ


อ่านให้สนุกน้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หวานเกิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
หวานมากกกกกกกกกก

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อยเกลียด!! ดีเกินไป 5555

อิจฉา 55555

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
หวานได้อีกกกกก
แต่ว่าคู่นี้จะมีมารพจนไม๊อะ

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่จีบ o13 o13 o13 รักคิสมากก็แบบเนี่ย :กอด1: :กอด1: ปฏิเสธหญิงแบบชัดๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เบาหวานขึ้นตาเลยเจ้าค่ะ
เขินยังกะเป็นน้องคิสซะเอง  :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
มดขึ้นหมดแล้ววว

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวานตลอด หื่นตลอด

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยยยยย อิจจจจจจอย่างแรง หวานเวอร์

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อิจฉาน้องคิสแรงงงงงงงง
ได้สามีดี

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
โอยยยยยเขินไปอีกกก

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
พี่จีบหวานตลอด

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอคู่นี้มาหวีทหวานตรงหน้าแบบrealๆได้ไหมคะ น่ารักอ่า ^^ :L2:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อุ๊ป๊าดดดดดด หวานอะไรเบอร์นี้ >\\\\\\\<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หวานๆ หื่นๆ  :z1:

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 32 -




ฤดูกาลฝึกงานของเด็กปีสี่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว พี่จีบเลือกบริษัทของรุ่นพี่ในคณะที่จบออกไปแล้วเป็นที่ฝึกงาน หน้าที่ของเขาคือฝ่ายไอที... ไม่ต้องแปลกใจที่เรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจแต่ไปโผล่ฝึกงานคนละสายแบบนี้ เพราะเจ้าตัวเองยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนไปยังไง

วันนี้ไม่ต่างจากทุกวัน เพราะพี่จีบต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานให้ทันเวลาแปดโมงครึ่ง ส่วนผมไม่มีเรียนเลยยังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาดูอีกคนแต่งตัว พี่จีบหันมามองกันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อผมทำเสียงงุ้งงิ้งตอนบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน

"ลุกได้แล้วมั้ง จะนอนกินบ้านกินเมื่อหรือไง"
คำพูดติดตลกดังขึ้นพร้อมกับเขาที่เดินมาหยุดข้างเตียงแล้วใช้แรงดึงผมขึ้น แต่ใครจะยอมลุกจากที่นอนแสนนุ่มในเวลาเพียงแค่หกโมงครึ่งแบบนี้ล่ะ

"ไม่เอา ยังเช้าอยู่เลยนะพี่จีบ"
ผมบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะออกแรงกระตุกร่างอีกคนให้ลงมานอนทับกันแล้วยกแขนขาเกี่ยวรอบตัวไว้ พี่จีบหัวเราะเบาๆก่อนจะอ้าปากงับคอกันอย่างหยอกล้อจนผมสะดุ้งเฮือก ตอนเช้าๆผู้ชายไวต่อความรู้สึกนะเออ

"ไม่อยากไปทำงานเลยว่ะ"
พี่จีบบ่นเสียงงุ้งงิ้งเพราะยังซบหน้ากับซอกคอของผมอยู่เหมือนเดิม ยิ่งนานวันยิ่งเผยมุมน่ารักมาให้เห็นจนบางทีก็นึกมันเขี้ยวอยากจะกัดให้จมเขี้ยวอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ครั้งหนึ่งเคยกัดแล้วโดนจับฟัดจนน่วมไปทั้งตัว ผมหัวเราะออกมาเบาๆแล้วยกมือขึ้นลูบหัวเขาเหมือนปลอบเด็กน้อย

"โอ๋ๆนะครับ ไม่งอแงนะน้องจีบคนเก่ง"
ผมพูดกลั้วหัวเราะแล้วกดจมูกลงบนเส้นผมสีดำสนิท กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูทำให้เคลิบเคลิ้มซะง่ายๆ พี่จีบผงกหัวขึ้นมาก่อนจะงับลงบนปลายจมูกของผมเบาๆเป็นการเอาคืนที่หาว่าเขาเป็นเด็กน้อย

"วันนี้กลับดึก มีงานสต๊าฟปาร์ตี้"
ผมอ้าปากค้างเล็กน้อยเพราะพี่จีบไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะกลับดึก มันผิดวิสัยอย่างรุนแรงเพราะทุกครั้งเขาจะบอกก่อนถ้าจะไปไหนมาไหนแล้วกลับคอนโดผิดเวลา

"ทำไมเพิ่งมาบอกเนี่ย"
ผมว่าก่อนจะดันไหล่ให้พี่จีบลุกขึ้น เขาปรายตามองกันเล็กน้อยแล้วยอมทำตามอย่างไม่อิดออด ใบหน้าหล่อเรียบเฉยไม่แสดงท่าทีว่าตัวเองผิดแต่อย่างใด ซึ่งนั่นผมก็ไม่ใส่ใจเพราะเชื่อว่าพี่จีบมีเหตุผลเสมอ

"พี่แอมเพิ่งไลน์มาบอกเมื่อเช้า"
พี่จีบตอบน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะช่วยดึงแขนให้ผมลุกขึ้นได้สะดวก หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิงเพราะผู้หญิงที่ชื่แอมนั้นหลุดเข้ามาในบทสนทนาของเราอีกแล้ว จะอะไรนักหนากับพี่จีบวะเนี่ย

"พี่แอมอีกแล้วเหรอ สรุปว่าเขาหวังดีเพราะเป็นพี่เลี้ยง หรือคิดจะจีบพี่กันแน่ ไลน์หาไม่เว้นวันหยุดขนาดนี้อะ"
ผมว่าก่อนจะทำหน้าบูด หลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เริ่มฝึกงานมาจนเข้าเดือนที่สอง พี่แอมขยันหมั่นเพียรไลน์มาถามสารทุกข์สุกดิบของพี่จีบบ่อยจนน่าสงสัย เอาง่ายๆคือเธอต้องส่งข้อความมาหาทุกวัน

"ก็นะ... เหมือนจะจีบกันนั่นล่ะ แต่พี่ไม่สนใจไง อย่าคิดมากสิครับเมีย"
พี่จีบเอื้อมมือมาดึงแก้มกันก่อนจะคลี่ยิ้มหวานมาให้ ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะพุ่งเข้าไปซบอกแบบหน้าตาเฉย เขาชะงักเล็กน้อยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆกับการกระทำแสดงความหึงหวงของผม

"ให้มันจริงเถอะ ถ้านอกใจขึ้นมาผมจะเชือดน้องชายพี่ทิ้ง!"
ผมว่าก่อนจะผละตัวออกมาแล้วจ้องคนตรงหน้าเขม็ง พี่จีบทำหน้าตกใจใส่กัน แต่ดูก็รู้ว่าแกล้งทำทั้งนั้น น่าหมั่นไส้จนผมกำหมัดต่อยลงบนอกเขาไม่แรงมากนัก ฮึ่ย

"โอย เจ็บนะ"
แกล้งร้องสำออยไปอย่างนั้นล่ะ ก็เขาเอาปากมันชนกับแก้มผมแรงๆอยู่เลย ไม่รู้จะด่าว่าอะไรดี เผลอทีไรเป็นได้หากำไรจากกันตลอด จะบอกว่าผมเสียเปรียบทั้งหมดก็ไม่ใช่ แอบชอบแต่ไม่บอกหรอก เดี๋ยวได้ใจ!

"อย่ามาสำออย ไปทำงานได้แล้วพี่จีบ เดี๋ยวสาย"
ผมดันอกพี่จีบให้ถอยห่างออกไปก่อนจะฝังจมูกเข้าที่แก้มนุ่มนิ่มของเขาเป็นการให้กำลังใจ แต่จมูกยังไม่ได้ทันแตะ ปากของพี่จีบกลับหันมาจุ๊บกันซะอย่างนั้นทำให้ผมรีบผละตัวออกทันที ทำไมชอบจูบกันแบบไม่แปรงฟันตลอดเลยวะ ผมอายนะเว้ย

"อื้อ ยังไม่แปรงฟันนะ"
ผมว่าก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพราะพี่จีบทำท่าจะประกบลงมาอีกครั้ง เขาคลี่ยิ้มกวนก่อนจะเปลี่ยนเป็นกดจูบลงที่หน้าผากแทนแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จัดเสื้อนักศึกษาให้เข้าที่

"วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานนะ ขากลับกลัวจะเมาแล้วขับรถไม่ได้"
เขาหันมาบอก ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตามไปส่งที่หน้าประตูห้อง จริงๆก็ยังติดใจเรื่องพี่แอมอะไรนั่นอยู่ อยากไปเจอตัวจริงสักครั้งว่าเป็นคนแบบไหน ทั้งๆที่พี่จีบก็บอกไปแล้วว่ามีแฟน แต่เธอก็ยังไม่เลิกตื้อกันสักที

"ไปนะ"

"เดี๋ยว... พี่ไปงานสต๊าฟปาร์ตี้ที่ไหนครับ"
ผมเรียกรั้งพี่จีบเอาไว้ก่อนจะเขาจะเดินออกไป ก็มันอยากรู้ เผื่อจะตามไปรับกลับไง...

"อ๋อ ผับ xx จะตามไปคุมสามีเหรอครับ"
เขาว่าก่อนจะหยิกแก้มกันเบาๆอย่างมันเขี้ยว ผมย่นจมูกใส่แล้วผลักพี่จีบให้ขยับพ้นประตูห้องไปเลี่ยงตอบคำถามกันซะอย่างนั้น

"ไม่รู้ไม่ชี้ ตั้งใจทำงานครับ"
ผมปิดประตูลงแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง เลขหมายที่คุ้นเคยถูกเลิกให้ต่อสายทันทีทันใด และรอเพียงไม่นานก็มีเสียงตอบรับกลับมา

'ฮัลโหล'
เสียงงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนตอบกลับมา เมื่อคืนคงสู้รบปรบมือกับพี่ดีพเหมือนเคยสินะเพื่อนผม คู่นี้ไม่มีใครยอมใครเรื่องบนเตียงจริงๆนะ คบกันมาจะสองปีแล้วมั้งยังไม่มีใครได้จิ้มใครเลย สุดยอดจริงๆ

"ยังไม่ตื่นหรือไง"
ผมถามกลับไปก่อนจะเดินไปที่ประตูกระจกแล้วเปิดมันออกไปยืนรับวิตามินจากแสงแดดตอนเช้า กระถามดอกกุหลาบสีขาวที่ตั้งอยู่บนระเบียงเริ่มเหี่ยวแห้งเพราะอุณหภูมิร้อนอบอ้าวของประเทศไทย จริงๆแล้วแค่อยากปัดความรับผิดชอบตรงที่ลืมรดน้ำ...

'ตื่นตอนมึงโทรมานี่ล่ะ ดีพแม่งกวนตีนทั้งคืน'
มันบนเสียงติดหงุดหงิดกลับมาจนผมเผลอหัวเราะ ไม่มากนักหรอกที่เพื่อนจะเอาเรื่องของพี่ชายมาฟ้องกัน ครั้งนี้คงเหลืออดแล้วจริงๆล่ะมั้ง

"กวนอะไร ไหนเล่าหน่อย"
ผมถามกลับไปแล้วเอื้อมมือไปลูบกลีบกุหลาบสีขาวเล่น ถ้าพี่จีบเข้ามาเห็นตอนนี้คงตีมือหักแน่ๆ ก็คนนั้นเขารักต้นไม้ยิ่งกว่าอะไร คงเป็นเพราะว่าได้รับจากผมในวันครบรอบที่ผ่านมาก็เป็นได้ อะไรที่ผมให้ไปเขามักจะหวงมันเสมอ ผมก็เช่นกัน

'ทำไมขี้เสือกจัง'
เสียงติดล้อเลียนต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ทำให้ผมจิ๊ปากเบาๆเพราะโดนด่า แต่เอาเข้าจริงก็หน้าด้านยอมรับเพราะอยากรู้เรื่องนี่นา จะเก็บความสงสัยเอาไว้ให้อึดอัดใจทำไม

"ยอมรับ เล่ามาเลย"

'ก็นะ... พยายามปล้ำกูจัง พอกูถีบให้ก็งอนเป็นตุ๊ด เมื่อเช้าก็หนีไปทำงานเงียบๆซะงั้น สงสัยอาการจะหนัก'
ภีมเล่าออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติเหมือนคนที่ตื่นเต็มตาแล้ว ผมเผลอหลุดหัวเราะก๊ากทันทีกับมุมที่ไม่ค่อยมีใครได้สัมผัสของพี่ดีพ กับแฟนจะชอบทำตัวง้องแง้งเหมือนเด็กไม่รู้จักโตตลอด คิดว่าตัวเองน่ารักมากว่าอย่างนั้นเถอะ

"มึงก็ไม่ยอมๆพี่ดีพมันไปล่ะ คบมาสองปีแล้วไม่ใช่เหรอ"

'หึ ไอ้ยอมมันก็ยอมได้นะ สำหรับกูบนล่างไม่สำคัญหรอก แต่หมั่นไส้คนหื่นไง อยากแกล้ง เข้าใจไหม'
ผมถึงกับอ้าปากค้างกับประโยคที่ได้ยิน ไม่คิดว่าเพื่อนจะยอมให้พี่ดีพขนาดนั้น ทั้งๆที่ทั้งสองคนไม่มีใครเหมาะจะเป็นฝ่ายรับเลย ทั้งรูปร่าง หน้าตา นิสัย แมนๆกันทั้งคู่จริงๆ

"อยากอัดเสียงมึงเก็บไว้ให้พี่ดีพฟังฉิบ คงจะดีใจ"
ผมว่าเสียงกลั้วหัวเราะอย่างมีความสุข แต่ไอ้ภีมกลับส่งเสียงจิ๊จ๊ะมาทันที รู้ล่ะว่าไม่พอใจ แต่ก็อยากแกล้ง เข้าใจไหม หึหึ ยืมมาใช้บ้าง

'ถ้าทำ กูจะโกรธมึง'
น้ำเสียงจริงจังถูกส่งมาขู่กัน ผมถึงกับเบ้ปากใส่ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีทางเห็น ทำไมถึงได้ตกเป็นรองขึ้นอยู่อยู่เรื่อยวะ เมื่อไหร่จะชนะเขาบ้างไอ้คิส

"กูล้อเล่น จริงจังไปได้"
ผมว่าเสียงอ่อยก่อนจะเท้าแขนกับระเบียงห้องแล้วมองท้องฟ้าสีสดใสปราศจากก้อนเมฆ อากาศแบบนี้ต้องซักผ้ากันหน่อยแล้วล่ะ

'เออ แล้วโทรมามีอะไรหรือเปล่า'

"อ๋อ ว่าจะชวนไปผับ xx คืนนี้อ่ะ พี่จีบมีงานสต๊าฟปาร์ตี้ที่นั่น อยากเห็นหน้าไอ้พี่แอมว่ะ"
ผมบอกภีมไปตามตรงถึงจุดประสงค์ของค่ำคืนนี้ มันเงียบอยู่สักพักก่อนจะตอบกลับมาน้ำเสียงร่าเริงจนน่ากลัว

'ไปดิ อยากเจอตัวจริงเหมือนกันว่ะ ผู้หญิงอะไรโคตรขี้ตื้อ'

"โอเค สองทุ่มมารับกูนะ"

'ได้ แล้วพี่จีบจะไปหลังเลิกงานเลยเหรอ'

"เปล่าๆ มีนัดกินข้าวกับพี่ไลค์แถวๆนั้นพอดีน่ะ ยาวๆไป"
ผมตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ จะให้พี่จีบย้อนไปกลับก็เสียเวลากันพอดี ที่ฝึกงานก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้คอนโดสักเท่าไหร่ด้วย

'อืมๆ งั้นแค่นี้ก่อน ไอ้ดีพโทรมาหลายสายแล้ว'

"โอเคๆ บาย"
ผมวางสายแล้วยิ้มให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยม ถึงพี่ดีพจะทำเป็นงอนไอ้ภีมมากแค่ไหนแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายทนไม่ได้ที่ต่างฝ่ายต่างเงียบใส่กัน รอให้ไอ้ภีมง้อคงแก่จนผมหงอกกันพอดี เพราะรายนั้นถ้าไม่ผิดก็จะไม่ยอมใครแน่นอน

ผมหอบตะกร้าผ้าลงไปชั้นล่างแล้วจัดการส่งซักเรียบร้อยก่อนจะกลับขึ้นห้อง ตอนแรกว่าจะไปอาบน้ำแต่งตัวแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นบรรดาอาหารเช้าที่อีกคนเตรียมให้กันตั้งเอาไว้บนโต๊ะ กลิ่นหอมยังคงดึงดูดความสนใจของผมได้เสมอ ขายาวๆก้าวเข้าไปแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากอย่างมีความสุข

"จะน่ารักไปไหนนะคนเรา"
พึมพำกับตัวเองจบก็เลื่อนจานอาหารเช้าแบบอเมริกันมากิน มันอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ก็เมื่อคืนผมบ่นๆว่า อยากกินไส้กรอก ไข่ดาว ไข่กวนอยู่เลย เช้าขึ้นมาก็มีเทวดาสุดหล่อเนรมิตให้กันซะอย่างนั้น น่ารักไม่มีใครเกินเลยจริงๆ

หลังจากจัดการมื้อเช้าเรียบร้อยและอาบน้ำจนเสร็จ ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาก่อจะหยิบเอาโน้ตบุคมาเปิดเพื่องานก่อนจะสอบปลายภาค กว่าจะเสร็จเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยเข้าช่วงเที่ยงกว่าๆของวัน โทรศัพท์แผดเสียงร้องจนผมสะดุ้งตกใจ มือเรียวคว้ามันขึ้นมาดูก่อนจะกดรับด้วยเสียงสดใส

"สวัสดีครับพี่จีบ"

'อืม กินอะไรหรือยัง'
น้ำเสียงเนือยๆถามกลับมา วันนี้คงงานหนักเป็นพิเศษเพราะช่วงนี้ฝนฟ้าอากาศไม่ดีสักเท่าไหร่ บางวันฝนตก บางวันแดดจ้าสลับกันไป งานฝ่ายไอทีจึงมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตอยู่บ่อยครั้ง

"ยังเลยครับ เคลียร์งานค้างอยู่"
ผมตอบกลับแล้วทิ้งตัวพิงพนักโซฟาอย่างเกียจคร้าน งานถูกเซฟและปิดโปรแกรมลงไปแล้ว ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ตอนนี้เลยปรากฏหน้าเว็บไซต์โซเชี่ยลยอดนิยมที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปตัวเอฟแทน

'หาอะไรกินซะ เดี๋ยวปวดท้องอีก ไม่มีใครดูแลนะ'
น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยถูกส่งมาให้กันจนผมต้องยกยิ้มกว้าง รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจขึ้นมาทันทีทันใด ที่ต้องเตือนกันเพราะช่วงนี้ผมปั่นงานหนักมากเลยกินข้าวไม่ตรงเวลา ไม่ใช่ว่าเป็นคนเดียวนะ พี่จีบก็เหมือนกันเพราะเขาทั้งฝึกงานแล้วต้องทำโปรเจ็คจบไปพร้อมๆกันด้วย เขียนโปรแกรมอะไรสักอย่างนี่ล่ะ อย่างกับเด็กวิศวะคอมฯแหนะ

"โหย ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวคุยเสร็จจะรีบลงไปร้านข้าวใต้คอนโดเลย"
ผมว่าก่อนจะคลิกเม้าส์เลื่อนดูหน้าไทม์ไลน์ไปด้วย เพจคนดังของมหา'ลัยก็ยังคงลงรูปผู้หญิงสวยผู้ชายหล่อไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง มีประปรายที่รูปของพี่จีบและผมจะโผล่ไปบ้าง และเหมือนเดิมคือมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ปลงแล้วล่ะ เพราะไม่สามารถบังคับใจใครให้มาชอบเราได้

'ดีมากครับ แล้วคืนนี้จะมารับพี่หรือเปล่า'

"อ้าว ต้องไปรับด้วยเหรอ นึกว่าจะให้พี่โจ้มาส่งซะอีก"

'หึ หรือจะให้พี่แอมไปส่งดีนะ'
เล่นผมแล้วไหมละไอ้พี่จีบ! ทำเสียงทะเล้นใส่กันอยู่ได้ ไม่รู้หรือยังไงว่าผมหึงจนจะพ่นไฟได้อยู่แล้วเนี่ย มันน่าโมโหนักนะ อยากจะบีบคอแล้วจับหันเป็นชิ้นๆใส่ปากกลืนลงท้องจริงๆเลย!

"ถ้าให้พี่แอมมาส่งก็นอนนอกห้องไป!"
ผมตอบด้วยความหงุดหงิด รู้ว่าโดนแกล้งแต่มันอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงนี่นา ก็รู้ว่าไม่ไว้ใจพี่แอมอะไรนั่นมากแค่ไหนกัน ยังจะแกล้งอีก

'เดี๋ยวนี้โหดนะครับแฟน'
พี่จีบพูดก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมา ผมเบะปากก่อนจะกรอกตาไปมา ไม่รู้จะระบายความโมโหลงที่ไหนเลยเดินไปหยิบตุ๊กตาที่เคยให้พี่จีบมาต่อยรัวๆ หมั่นไส้ๆๆๆๆ

"เพราะพี่เสน่ห์แรงไง ต้องโหดเป็นธรรมดา เดี๋ยวมีคนมาแย่ง"
พูดจบก็เอาตุ๊กตาเข้าปากแล้วกัดมันจนจมเขี้ยว มีแฟนหล่อนี่เป็นปัญหาระดับชาติจริงๆนะ ขนาดบอกคนอื่นมามีแฟนครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เห็นจะมีใครใส่ใจเลย คนสมัยนี้หน้าด้านจนน่ากลัวเลยล่ะ แย่งของชาวบ้านกันได้อย่างหน้าไม่อายด้วย

'เด็กขี้หวง ถ้างั้นคืนนี้ก็มานั่งเฝ้าพี่แล้วกัน แค่นี้ก่อนนะ พี่แอมเรียกแล้ว'
ไปแน่ ผมวางแผนไว้แล้วเถอะพี่จีบ ว่าจะอารมณ์ดีแล้วเชียวที่ได้รับอนุญาตให้ไปนั่งเฝ้ากันได้แต่กลับมีชื่อพี่แอมแทรกเข้ามาอารมณ์เลยดิ่งพสุธายิ่งกว่าเดิม ฮึ่ม!

"เบื่อพี่แอมจริงๆ คืนนี้เจอกันครับ บาย"

'บาย ไอ้เด็กขี้หวง'
ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนสายจะตัดไป ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะออกไปหาอะไรกินตามที่บอกพี่จีบเอาไว้ ไม่อยากทำตัวเป็นภาระในยามที่ต่างคนต่างมีงานต้องรับผิดชอบเป็นของตัวเอง พยายามอย่างมากที่จะใช้เหตุผลให้อยู่เหนือความรู้สึกอยากงอแงเวลาเหนื่อยล้า เราเหนื่อยเขาก็เหนื่อยไม่แพ้กัน สู้เป็นกำลังใจให้ดีกว่าจะเห็นแก่ตัว

ผ่านพ้นช่วงบ่ายเข้าสู่ช่วงหกโมงเย็นอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าที่เอาไปฝากซักที่ร้านได้รับกลับมาแล้วโดนไม่ต้องเดินไปเอาเองให้เสียเวลา เพราะเป็นลูกค้าประจำเลยมีบริการส่งถึงห้อง แต่ความจริงแล้วคือผมนั่งดูหนังจนลืม ฮือ

Rrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ผมละมือจากถุงขนมไปรับสายแทน เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยทักทายกันในรอบที่สองของวัน

'อาบน้ำแต่งตัวหรือยัง'

"โห ไม่คิดจะถามอย่างอื่นก่อนหรือไงวะ"
ผมถามกลับไปก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย นี่เพิ่งหกโมงเย็นเองทำไมต้องมาเร่งกันด้วย นัดไว้ตั้งสองทุ่มเชียวนะ

'มึงชักช้านี่ กูจะถึงคอนโดแล้วนะ'
ผมเลิกคิ้วสูงขึ้นด้วยความแปลกใจ ปกติภีมไม่มาก่อนเวลานัดขนาดนี้หรอก เดาว่าต้องเกิดอะไรขึ้นระหว่างมันกับพี่ดีพแน่ๆ

"ทำไมมาเร็วจังวะ"
ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย ไม่ได้อยากเสือกอะไรนักหรอกแต่มันผิดวิสัยของไอ้ภีมจริงๆ ปลายสายก็ดูจะมีท่าทีอึกอักแปลกๆ เหมือนจะบอกแต่ก็ไม่ยอมบอก

'เออน่า เดี๋ยวเล่าให้ฟัง รอเปิดประตูให้ด้วย'

"เออๆ"
ผมตอบกลับไปก่อนจะกดวางสายแล้วทิ้งตัวลงนอนเกลือกกลิ้งบนโซฟา ไม่นานนักเสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้นเลยต้องลากสังขารไปเปิดประตูให้เพื่อนสนิทได้เข้ามา หน้าตาของมันดูปกติไม่มีแววเครียดเลยสักนิดจนผมยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกระดับ

"ไอ้ภีม"
ผมเรียกมันหลังจากพากันมานั่งบนโซฟา ภีมเลิกคิ้วมองกันอย่างใสซื่อเหมือนลืมไปแล้วว่าเคยพูดอะไรไปก่อนหน้านั้น หรือง่ายๆก็คือเขากำลังทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อเลี่ยงตอบคำถามนั่นเอง ร้ายนักนะ!

"อะไร"

"เล่า"

"หืม เรื่องไร"

"ก็ที่ถามว่าทำไมมาหากูเร็วไง"

"อ๋อ..."
แล้วมันก็เงียบไป คืออะไรครับคุณ ไอ้คิสไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว

"อ๋อแล้วไงต่อ มึงอย่ามาอ๋อค้างคา"
ผมว่าก่อนจะผลักหัวมันเบาๆ ภีมหลุดหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาดึงแก้มกันเล่น อย่าเฉไฉไม่ตอบคำถามด้วยวิธีนี้เพราะมันไม่สำเร็จ!

"คือ... ดีพไม่กลับหอ ต้องอยู่เคลียร์งานที่บริษัทกับพ่อมึงต่อ"
คำตอบของภีมชัดเจนจนผมไม่ได้ถามอะไรต่อนอกจากพยักหน้ารับเป็นสัญญาณว่าเข้าใจแล้วก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างที่ไอ้ภีมต้องการ

เราออกจากคอนโดในเวลาเกือบสองทุ่มเพราะผับ xx อยู่ไกลพอสมควร จราจรไม่ติดขัดเท่าช่วงเย็นถือว่าการเดินทางสะดวกมากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ ผมมองแสงไฟยามค่ำคืนอย่างตื่นเต้น ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืนมานานมากแล้ว ถึงจะได้ไปก็แค่ร้านกาแฟกับมหา'ลัยตอนที่ต้องเคลียร์งานเท่านั้น

"ภีม ครั้งสุดท้ายที่มึงไปผับนี่เมื่อไหร่วะ"
ผมทำลายความเงียบด้วยการถามคำถามที่รู้อยู่แก่ใจ เพราะทุกคนพร้อมใจกันเลิกเข้าผับตั้งแต่พี่ดีพเป็นแฟนกับภีม ไม่ใช่ว่าสั่งห้ามหรืออะไร แต่อาจจะเป็นเพราะเบื่อหน่ายสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านเสียงอึกกะทึกครึกโครม เลยลองเปลี่ยนไปนั่งชิวร้านกาแฟและติดใจมาถึงทุกวันนี้... ผมน่ะติดใจบาริสต้า ส่วนคนอื่นนั้นไม่รู้

"ถามทำไมวะ ก็เลิกเที่ยวพร้อมๆกัน"
ภีมเหลือบสายตามองกันเล็กน้อยแล้วกลับไปสนใจถนนต่อ ผมไหวไหล่ก่อนจะทอดสายตามองทิวทัศน์ยามราตรีต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีกจนมาถึงที่หมาย ผมส่งข้อความถามตำแหน่งที่พี่จีบสิงสถิตอยู่แล้วได้ความว่า นั่งที่โต๊ะริมนอกสุดหน้าเวที

ผมกับภีมเดินเข้าไปอย่างไม่รอช้าและสายตาดันปะทะกับภาพบาดตาบาดใจพอดิบพอดี ชายหนุ่มที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดีกำลังทำหน้าตาเหมือนอยากจะหนีไปไกลๆผู้หญิงที่กำลังพยายามคลอเคลียและใช้เต้าที่ใหญ่มหาศาลเบียดต้นแขนกันอยู่ ถ้าหากเพ่งมองดีๆเธอจะเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี...พี่แอม

"ใจเย็นนะมึง"
ไอ้ภีมบอกก่อนจะวางแขนพาดบ่าผมเอาไว้ อยากจะบอกว่าพยายามสงบอารมณ์อย่างเต็มที่เผื่อไม่โวยวาย เห็นกันอยู่ชัดๆว่าพี่จีบไม่เล่นด้วยแต่เธอก็ยังตื้ออยู่ไม่ห่าง ผมก้าวขาเดินเข้าไปหาพี่จีบพร้อมๆกับเพื่อนสนิทแล้วหยุดยืนในตำแหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากโต๊ะมากนัก แทนที่จะได้อ้าปากทักทายก่อนดันโดนพี่จีบทักมาซะอย่างนั้น

"คิส มาช้าว่ะ"
พี่จีบส่งสายตาดุๆมาให้กัน ผมทำเพียงคลี่ยิ้มเย็นๆแล้วมองพี่แอมที่ยังไม่รู้ตัวว่าผมมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเธอ หน้าอกเนื้อนมไข่ยังพยายามแนบชิดกับต้นแขนแกร่งไม่ห่าง ทั้งๆที่พี่จีบเบี่ยงตัวจนจะตกลงมาจากโซฟาอยู่แล้ว ดูท่าทางพี่แอมคงกรึ่มๆได้ที่เลยกล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าคนหมู่มากขนาดนี้

"ขอโทษทีครับ นั่งด้วยได้ปะ"
พี่จีบพยักหน้าอนุญาต ผมเดินอ้อมไปด้านหน้าเพื่อให้พี่แอมเห็นกัน เธอเงยหน้ามองด้วยความงง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันแน่น ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงเผยอออกก่อนจะเอ่ยคำถามออกมา

"ใครกันล่ะเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย"
เธอส่งยิ้มหวานมาให้กันในขณะที่ผมกำลังจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเดี่ยว แต่ไอ้ภีมชิงนั่งลงไปซะก่อนผมเลยได้แต่ยืนทำหน้ามึนอยู่ตรงนั้น เชี่ยเอ้ย อายไหมล่ะ

"ผมชื่อคิสครับ มาหาพี่จีบ"
ผมตอบกลับไปก่อนจะส่งรอยยิ้มจอมปลอมไปให้ พี่จีบจับมือแล้วกระตุกให้ผมนั่งลงข้างๆหลังจากขยับที่ว่างให้กันเรียบร้อย นั่นก็หมายความว่าเขาต้องใกล้ชิดพี่แอมมากขึ้นซึ่งผมไม่ยอมแน่ๆ

"อุ้ย น้องชายของจีบเหรอคะ น่ารักจังเลยเนอะ"
ผมขัดขืนการนั่งที่ว่างแล้วเป็นฝ่ายกระตุกข้อมือพี่จีบให้ขยับห่างออกมาแล้วใช้สายตาดุๆมอง เขายอมทำตามอย่างว่าง่ายแต่มิวายที่จะมีปลิงดูดเลือดขยับตามมาด้วย โอย เห็นแล้วหงุดหงิดฉิบหาย ต้องข่มใจท่องอยู่ตลอดว่าอีกผ่ายเป็นผู้หญิง ไม่สามารถทำอันตรายได้

"คิสไม่ใช่น้องชายของผมครับ"
พี่จีบเป็นคนตอบแทนก่อนจะดึงผมให้นั่งลงบนตักของเขาอย่างหน้าตาเฉยแถมยังยกมือทั้งสองข้างโอบรอบเอวกันไว้หลวมๆจนพี่แอมถึงกับตกใจจนทำตาโตใส่พวกเรา แว่วเสียงไอ้ภีมหัวเราะหึอยู่ด้านหลัง ฟังดูแล้วคงสะใจที่เธอโดนหักหน้าแน่ๆ

"เอ๋ งั้นก็เป็นเพื่อนสิน้า ~ "
เธอยังไม่ลดละที่จะเกาะแกะพี่จีบเช่นเคยทั้งๆที่ผมนั่งอยู่บนตักเขาเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์บางอย่าง แต่พี่แอมกลับเลือกจะเมินมันไปแล้วเข้ามาเกาะแขนพี่จีบอย่างหน้าตาเฉย

"พี่แอมครับ คิสไม่ใช่เพื่อน"
พี่จีบพยายามแกะมือเธอออกช้าๆ แต่พี่แอมกลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งกว่าเดิม แถมยังเดินเครื่องเต็มกำลังบนเบียดก้อนเนื้อตรงหน้าอกเข้าใส่พี่จีบ ผมเริ่มจะหงุดหงิดจนควบคุมตัวเองไม่อยู่เลยเผลอพูดอะไรบางอย่างออกไปที่ทำให้คนทั้งโต๊ะนิ่งเงียบ

"พี่แอมครับ กรุณาปล่อยแขนพี่จีบด้วย"
ผมพยายามข่มอารมณ์มากถึงมากที่สุดเพราะยังไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานของแฟนเท่าไหร่ ถ้าผมทำตัวงี่เง่าคนเดือดร้อนคงเป็นพี่จีบอย่างไม่ต้องสงสัย พี่แอมเลิกคิ้วมองกันแล้วคลี่ยิ้มสวยมาให้แต่ไม่ยอมฟังสิ่งที่ผมบอกเลยสักนิด

"หื้ม ทำไมพี่ต้องปล่อยด้วยล่ะคะ"
ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่สายตาเชือดเฉือนกันน่าดู คงคิดว่าผมจะมาแย่งพี่จีบสินะ แต่ผิดแล้วล่ะเพราะผมเป็นเจ้าของเขาอย่างถูกต้องทั้งร่างกายและหัวใจ

"ปล่อยเถอะครับ เดี๋ยวแฟนผมงอน"
เป็นพี่จีบเองที่พยายามแกะมือของพี่แอมออก เธอชักสีหน้ายุ่งๆใส่แต่ไม่ยอมปล่อยกลับรัดแน่นขึ้นอีกจนแขนแทบจะหายไปอยู่ในร่องอกของเธอ ผมกัดฟันกรอดพยายามข่มอารมณ์ขั้นสุดยอดเอาไว้ โดยที่พี่จีบกระชับกอดมากขึ้นจนแผ่นหลังแนบชิดกับอกแกร่ง ไอร้อนผ่าวทำให้อารมณ์เย็นลงเล็กน้อย

"กลัวอะไรคะน้องจีบ แฟนไม่ได้มาด้วยสักหน่อย"
อืม...ผมนั่งตักขนาดนี้ยังคิดว่ามีสถานะอะไรกับพี่จีบอีกเหรอ ไม่ใช่ว่าที่ว่างจะไม่มีพอให้ผมนั่งสักหน่อย ทำไมคนเราถึงหลอกตัวเองได้อย่างน่าไม่อายขนาดนี้ทั้งๆที่เห็นชัดเต็มตาว่าเรื่องจริงเป็นยังไง




ต่อด้านล่างจ้า

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
"ไอ้แอม มึงหยุดทำเรื่องบ้าๆได้ละ"
ไอ้พี่โจ้ที่นั่งเคี้ยวถั่วอยู่นานสะกิดแขนพี่แอมยิกๆเพราะสังเกตได้ว่าผมเริ่มมีอารมณ์พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ เธอหันไปมองก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ

"มึงอย่ามาขัดได้ไหมโจ้ กูมีโอกาสอ่อยน้องก็ปล่อยกูเถอะ"
คำตอบที่ไม่สนใจคนฟังที่นั่งอยู่แทบสิบคนในโต๊ะดังขึ้น ไอ้ภีมถึงกับสูดลมหายใจเข้าหนักๆทันทีที่จบประโยค พี่โจ้ตบหน้าผากตัวเองเสียงดังด้วยความเหนื่อยใจ ผมนั่งกำหมัดแน่น ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงผมคงต่อยหน้ายับไปแล้ว

"แต่มึงกับลังอ่อยไอ้จีบต่อหน้าแฟนมัน!"
พี่โจ้คงหมดความอดทนเลยตะโกนและกระชากตัวพี่แอมออกจากพี่จีบ เธอทำท่าจะโวยวายแล้วตะเกียกตะกายจะกลับมาเกาะแขนกันใหม่ แต่พี่จีบเบรกทุกอย่างไว้อย่างอยู่หมัด

"พี่แอมครับ คิสเป็นแฟนผม คราวนี้ก็เลิกยุ่งกันได้แล้ว...เนอะ"
พี่จีบพูดเสียงเย็นก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับประคองใบหน้าของผมให้หันไปมองสบตากัน ริมฝีปากได้รูปเคลื่อนมาประกบจูบอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการยืนยันว่าประโยคที่พูดไปก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริงจนเพื่อนในโต๊ะโห่แซวกันยกใหญ่ เว้นแต่พี่แอมที่นั่งอ้าปากค้างจนเกรงว่าแมลงวันจะบินเข้าไปวางไข่

"คะ แค่แฟน พี่ไม่ยอมถอยง่ายๆหรอก น้องจีบอาจจะอยู่ในช่วงหลงก็ได้"
เธอยังคงสรรหาความคิดมโนของตัวเองมาแย้งจนได้ ผมแทบกระโดดลงจากตักพี่จีบไปขย้ำคอพี่แอมให้รู้แล้วรู้รอด ไม่รู้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงออกตัวแรงว่าอยากได้พี่จีบขนาดนั้น ขนาดไอ้ภีมยังแสดงสีหน้าไม่ชอบใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด พี่จีบถอนหายใจเฮือกอย่างคนเหนื่อยล้า พี่โจ้นี่ถึงกับส่ายหน้าด้วยความระอาเลยด้วยซ้ำ

"ถ้าพี่บอกว่าผมหลง ใครจะบ้าหลงคนๆหนึ่งมาได้เกือบสองปีครับ ผมเป็นคนขี้เบื่อนะ แต่กับคิสไม่ใช่หลง แต่เป็นรัก แล้วที่สำคัญ คิสไม่ใช่แฟนครับ น้องเป็นเมียผม"
ทุกคนอึ้ง ผมก็อึ้ง ไม่คิดว่าพี่จีบจะกล้าพูดออกไปตรงๆกับเพื่อนร่วมงานขนาดนี้ ไม่กลัวคนรอบข้างนึกรังเกียจที่เราเป็นแบบนี้บ้างเหรอวะ ยอมใจแล้วจริงๆ พี่แอมถึงกับกรี๊ดออกมาเมื่อประโยคสุดท้ายสิ้นสุดลง เดือดร้อนพี่โจ้เอามืออุดปากแล้วลากออกจากโต๊ะไป ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"กลับคอนโดครับ"
ผมบอกทั้งภีมและพี่จีบก่อนจะเดินออกไปรอที่นอกร้าน ไม่นานนักทั้งสองคนก็เดินออกมาพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจนผมนึกหมั่นไส้ บอกเลยว่าแอบงอนที่ยอมให้พี่แอมเอานมมาเบียดต้นแขนอยู่ได้นานสองนาน หงุดหงิดเว้ย

"ปะๆ กลับ"
ไอ้ภีมเดินนำไปเปิดประตูรถแล้วบังคับให้ผมกับพี่จีบนั่งเบาะหลัง ส่วนมันยอมเป็นคนขับรถเฉพาะกิจให้หนึ่งวันโดยไม่คิดค่าตัว

ผมนั่งกอดอกแล้วเงียบไปตลอดทางเพราะไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นพูดอะไรออกมา ความคิดกำลังตีกันยุ่งเหยิงไปหมด อีกใจอยากจะงอแงงี่เง่าใส่พี่จีบแต่อีกใจกลับกลัวเขาเหนื่อย เป็นไอ้คิสใครว่าน่าอิจฉา มีแฟนหล่อก็ลำบากเหมือนกันนะเว้ย

"คิสครับ"

"....."

"โกรธพี่เหรอ"

"....."

"คิส... หันมาคุยกันหน่อยสิครับ"

"ค่อยคุย"
สุดท้ายผมก็ทนเงียบไม่ได้เพราะพี่จีบทำเสียงอ่อยจนน่าสงสาร เฮ้อ ก็แพ้มันซะทุกทีล่ะครับชีวิต ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่ยอมอ่อนข้อให้ขนาดนี้

หลังจากบอกลาและขอบคุณไอ้ภีมเรียบร้อย ผมกับพี่จีบก็พาสังขารเหนื่อยๆเพลียๆขึ้นห้อง ปลายเตียงเป็นที่พักพิงชั้นดีให้กับเราสองคน เขาไม่ยอมขยับห่างจากผมเลยแม้แต่นิดเดียว นี่ไม่คิดจะไปอาบน้ำเลยหรือไงกัน

"คิสครับ"
เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจนผมใจกระตุก พยายามจะปั้นหน้าดุให้รู้ว่ายังไม่หายโกรธ แต่ดวงตาคมนั่นฉายแววอ้อนเหมือนลูกหมาทำผิด มันน่ารักจนผมอยากจะจับฟัดให้เข็ด ฮึ่ย แพ้อีกแล้ว แพ้ๆๆๆ

"ไปอาบน้ำ"
ผมบอกเสียงแข็งโดยที่ไม่ยอมมองสบตากันอีก ขืนยังจ้องกันต่อมีหวังยอมหายโกรธทั้งๆที่ไม่โดนง้อแน่ๆ เดี๋ยวคนทำผิดจะเคยตัวซะก่อน ซึ่งยอมกันไม่ได้หรอก

"ไม่เอาครับ ให้พี่ง้อเราก่อนนะ มันค้างคาไม่สบายใจ"
พี่จีบรวบเอวผมไปกอดเอาไว้หลวมๆก่อนจะใช้จมูกโด่งกดลงมาบนซอกคอกัน ถ้านี่คือการง้อที่พี่จีบอ้างไว้ผมก็พร้อมจะเสียเปรียบ...

"อือ รู้ปะว่าทำไมผมโกรธ"

"รู้ เรื่องพี่แอมใช่ไหม พี่พยายามปลีกตัวหลายรอบแล้ว แต่ก็อย่างที่เห็น เกาะแน่นยิ่งกว่าปลิง"
พี่จีบว่าเสียงอ่อยๆก่อนจะกดจูบลงบนแก้มและย้ำอยู่หลายรอบจนผมเริ่มใจอ่อน

"โคตรน่าหงุดหงิดเลย"
ผมว่าก่อนจะหันไปจ้องตาพี่จีบเขม็ง เขาเลื่อนมือมาลูบแก้มกันก่อนจะกดจูบลงมาบนริมฝีปากอย่างออดอ้อน และเพิ่มระดับความวาบหวามขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายผมก็ไม่อาจขัดขืนวิธีการง้อของเขาได้... ง้อแบบเขาได้กำไรแต่ผมเสียเปรียบแบบที่สุด

ค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกลจน 'ฟ้าเหลือง' เช่นเคย สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ และ อรุณสวัสดิ์เผื่อไว้เลยนะครับ




------------------------------------------------------


มาแล้วๆ น้องคิสต้องทำใจหน่อยนะมีแฟนหล่อเนี่ย... แต่พี่เขารักเดียวใจเดียวนะ ไม่ต้องกังวล
ตอนหน้าจะจบแล้ว... ฮือๆ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาหลายเดือนเลย
หลังจากนี้จะมีตอนพิเศษมาให้อ่านแน่นอน ^^

ออฟไลน์ darksnow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตลอดดดด พ่ายแพ้ตลอดดด 5555 น้องจูบจะสู้พี่จีบได้สักครั้งมั้ยเนี่ย เจอหอมๆกอดๆ ยอมตลอดดด จะจบละอ่ะ ง่อออออ คิดถึงพี่จีบน้องจูบแน่เลยยยย :katai5:

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
จะจบแล้วเหงาแย่เลย ชอบคู่นี ^^ งานนี้น้องหึงเหนื่อยเลยเจอขาตื้อขั้นเทพ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
หึงได้น่ารักมากลูก  :mew1:

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ทำไมอ่านแล้วเครียด...แม้จะหึงและง้อกันสำเร็จแล้วก็ตาม -^-

นี่คือ...ไม่เคยเข้าใจคนที่จ้องจะแย่งแฟนชาวบ้าน คือมั่นหน้า? หรืออะไร? แย่งได้คือชนะ เหรอ~~

เปลี่ยนที่ฝึกงานทันมั้ย...หรือพี่โจ้นั่นจะทำยังไง เจ๊ชะนีหายเมาแล้วอายบ้างมั้ย...อยากรู้แฮะ คนเราน่าจะชัดเจนเรื่องการวางตัวเนอะ
ผู้ร่วมงานน่ะ สำคัญที่การวางตัว...แม้เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน ต้องเรียนรู้ ต้องพึ่งพา แต่ว่า...ความเป็นคนโตกว่า ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร...เนาะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ตื้อเป็นปลิงแล้วบังเอานมตูมๆ มาเบียดแขนพี่จีบนี่แบบนี้มันน่าตบให้นมแตกจริงๆ  :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวังว่าจะไม่ตามมาราวีอีกนะ

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นางคงจะไม่มาวุ่นวายอีกนะ นี่ขนาดโผล่มาแปปเดียวเอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด