Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]  (อ่าน 629275 ครั้ง)

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
อ่านไประแวงไป กลัวมาม่าจะมาไม่รู้ตัว

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 26



        การที่เราได้เข้ามานั่งอ่านข้อสอบถือว่ามีบุญมากพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้อความที่เห็นกลายเป็นภาษาของเทพที่คนธรรมดาอย่างผมแปลไม่ออก มันก็ภาษาไทยนั่นแหละครับ แต่ทำไมถึงอ่านไม่เข้าใจสักที เพราะข้อสอบมันมั่วหรือตัวผมรวนวะ

   สอบข้อเขียนสองข้อกับสองชั่วโมง ตอนนี้ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าผมยังได้ข้อเดียวอยู่เลย แถมยังตอบวนไปวนมาอีก คือรู้แค่เวิร์ดต้องคำนี้แต่อธิบายไม่ได้ มันเลยวนอยู่ในอ่าง สุดท้ายเสียงออดหมดเวลาก็ดัง ผมวางทุกอย่างลงแล้วนั่งปลงอยู่กับที่สักพักจนโดนอาจารย์คุมสอบแตะเรียก ยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้พร้อมกับลุกออกมา

   นี่คือวิชาสุดท้ายก่อนจะตายวายชีวา ไอ้กลอยทำไม่ได้ครับ

   “พากูไปโยนให้อีแร้งทึ้งกูเลย” ไอ้ต๋องโวยวายใต้ตึก มันทึ้งหัวเน่าๆ ของตัวเองไปมาจนรุ่นพี่รุ่นน้องต่างพากันมอง

   “เอาน่ามึง วิชาสุดท้ายแล้ว” ไอ้ทูตบบ่าปลอบใจ

   “ก็มึงทำได้นี่หว่า” ไอ้ต๋องยังหน้างอ

   “เรียกว่าได้ทำมากกว่าว่ะ” อันนี้เห็นด้วยกับไอ้ทู “ไอ้เชี่ยกลอยตาลอยๆ นะมึง วันนี้มายังไงวะ” ผมได้ยินเสียงเรียกแว่วๆ ก่อนสะดุ้งแรงสะกิดจากเพื่อนตัวเอง

   “หา?”

   “มึงเบลอนะเนี่ย ทำยังไงมาวะ”

   “กูนั่งบีทีเอสมา”

   วันนี้ผมไม่ได้เอารถมาครับ เพราะสอบเช้าแถมยังต้องอ่านหนังสือเพิ่ม เลยเลือกจะนั่งรถประจำทางที่สามารถอ่านหนังสือได้ แต่ก็คิดผิด คนโคตรเยอะจนต้องยืนเบียดแน่น

   “งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง” ไอ้ทูอาสาผมก็พยักหน้าไป ก่อนจะนึกได้

   “มึงขับรถมาเองเหรอ” ต้องถามครับ เพราะตอนนี้พี่เบมันรับส่งตลอด แล้วก็เริ่มใช้รถสีดำของตัวเองแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจทำไมถึงใช้รถสีส้มในช่วงก่อนหน้านี้

   “เปล่า พี่เบมารับ”

   “งั้นเดี๋ยวกูกลับเอง มึงไปเถอะ”

   “แต่มึงไหวเหรอวะ”

   “เออ เดี๋ยวกูจะไปซื้อลูกชิ้นด้วย อยากกิน เผื่อจะได้ตาสว่างบ้าง”

   ผมโบกมือลาเพื่อนตัวเองก่อนเดินหน้ามึนๆ ไปหลังมหาลัย แต่พอเดินไปไม่ไกล ผมก็เห็นหมาแม่ลูกครับ แม่สีครีมกับลูกอีกสองตัวกำลังวิ่งตามผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบไปมาอย่างคุ้นเคย นี่แม่สีครีมนอกใจผมเหรอเนี่ย

   แม้จะน้อยใจนิดๆ แต่ก็เดินเข้าไปหา สีนวลลูกหมาเหลือบตามามองผมก่อนจะกระดิกหางรัวๆ พร้อมกับวิ่งเข้ามาหา ผมย่อตัวนั่งแล้วยื่นมือให้มันงับเล่น มืออีกข้างก็ลูบหัวลูบตัวมันอย่างคิดถึง ดูอ้วนขึ้นหรือเปล่าวะ สงสัยแม่มันต้องพาไปกินข้าวแน่

   “อ่าว” เสียงที่ดังขึ้นด้านหน้าทำให้ผมเงยหน้าจากเจ้าสีนวล


   เพิ่งเข้าใจทฤษฎีโลกกลมก็ตอนนี้


   “อ่าว”

   ผู้ชายที่สวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบเป๊ะมองผมอย่างตกใจ ดวงตาเรียวนั่นเบิกกว้างก่อนเผยรอยยิ้มที่มีลักยิ้มอยู่ข้างแก้ม

   “เจอกันอีกแล้ว” วันนี้เสียงนุ่มทุ้ม แต่วันนั้นทั้งเสียงและหน้าตาเหมือนจะกินหัวผมลงท้อง

   “นะ นั่นสิ แหะๆ” ผมหัวเราะแห้งๆ “นายเรียนที่นี่เหรอ นึกว่าเรียนที่เชียงใหม่” ไม่คิดว่าจะได้เจอด้วยซ้ำ

   “อืม นายก็เรียนที่นี่เหรอ แต่ทำไมไม่เคยเห็นหน้า เรียนคณะอะไร” ถามมาเป็นชุด
 
   “คณะศิลปกรรม นายล่ะ” เขามาดี เราก็ดีตอบ

   “บริหารน่ะ ปีสามแล้ว” อ่าว รุ่นพี่นี่หว่า

   “อ่อ ผมปีสอง” รุ่นพี่บริหารยิ้มโชว์ลักยิ้มแก้มข้างเดียวอย่างเท่หลังจากได้ยินคำตอบ คงคิดละสิว่าไอ้เด็กนี่ปีนเกลียว จากนั้นเราก็เงียบใส่กันจนผมขอตัวไปหลังมอ “งั้นผมไปก่อนนะครับ” เกือบขึ้นมึงกูใส่แล้ว แต่พอผมเดินผ่านก็โดนฝ่ามือใหญ่คว้าหมับเข้าที่แขน

   ถ้าผมสะบัดแขนออกมันจะน่าเกียจเหมือนตอนที่เจอบนดอยที่เชียงใหม่หรือเปล่า

   “เอ่อ พี่ปล่อยแขนผมได้หรือเปล่า” ใจจริงอยากสะบัดออกด้วยซ้ำ แต่ผมเป็นคนมีมารยาท พี่บริหารละสายตาจากหน้าไปที่แขนผมแทน

   “อ่อ โทษที” รอยยิ้มเท่โปรยมาให้อีกรอบ “แล้วจะไปไหนล่ะ สอบเสร็จแล้วเหรอ”

   “ครับ เพิ่งเสร็จเมื่อกี้ ตอนนี้เลยหิวว่าจะไปหาอะไรกินหลังมอครับ” ที่จริงออร่าความเป็นมิตรก็มีนะ แต่ผมรู้สึกแปลกๆ กับสายตาที่มองมา แม้มันจะไม่ดุเหมือนพี่โชตอนที่เจอผมครั้งแรก แต่มันก็ดูไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ เห็นแบบนี้ไอ้กลอยมีเซ้นนะครับ

   “พี่ก็สอบเสร็จแล้ว หิวเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวพี่ไปด้วย” ท่าทางกระตือรือร้นทำให้ผมไม่กล้าปฏิเสธเลยพยักหน้าส่งๆ ไป พี่คนนี้ดูคล้ายไอ้รอนเหมือนกันนะ “ที่เชียงใหม่วันนั้น...ไปกับแฟนจริงๆ หรือหลอกพี่กันแน่”

   “ครับ?” เหมือนผมจะเบลอได้ยินคำถาม แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังที่มองไปตรงหน้าก็เริ่มกลืนน้ำลาย เริ่มเหมือนพี่โชละ “ก็ทั้งคู่นั่นแหละครับ” ผมว่าควรทำให้มันจบก่อนจะเกิดเรื่องวุ่นวาย แค่นี้ผมก็ปวดหัวจะแย่

   “อ่า แบบนี้นี่เอง” ไม่รู้พี่เขาจะเข้าใจยังไง แต่คงจะไม่มาวุ่นวายกับผมอีก




   ที่ไหน!!!



   เพราะตอนนี้ผมขึ้นมานั่งบนรถของพี่บริหาร (ยังไม่รู้ชื่อ) หรูไม่แพ้รถของพี่โชแต่ก็ไม่โดดเด่นเหมือนสปอร์ตคาร์คันงาม ที่จริงผมไม่อยากขึ้นมาหรอกนะครับ แต่โดนบังคับกลายๆ ...เหมือนกับที่ผมบอกมั้ยว่าพี่คนนี้เริ่มเหมือนพี่โช

   “พี่เปิดแอร์เย็นไปหรือเปล่า” เสียงทุ้มดังขึ้น มือขาวยื่นไปปรับอุณหภูมิให้ลดลง พี่คนนี้คงชอบอยู่ห้องที่มันเย็นจับขั้วหัวใจ ขนาดผมนั่งแปบเดียวยังสั่นขนาดนี้ “หนาวขนาดนั้น” พูดแล้วก็ขำผมด้วย

   “ชาติที่แล้วพี่เป็นนกเพนกวินหรือเปล่าวะ หนาวขนาดนี้อยู่ได้ยังไง” ลูบแขนที่ขนลุกไปมา

   “ฮ่าๆ”

   “หัวเราะที่ผมหนาวเนี่ยนะ”

   “เปล่าๆ แค่หน้าตาเราตลกดี” ขอโทษที่ผมเกิดมาแล้วหน้าตาตลก มีแต่คนชมว่าไอ้กลอยหล่อทั้งนั้น พอเจอบอกหน้าตลกก็เสียเซลฟ์ “ว่าแต่ น้องชื่ออะไร” นั่นไง กว่าจะถาม ผมไม่ยอมถามก่อนหรอก ก็ผมไม่ได้อยากรู้จัก

   “ชื่อกลอยฮะ” แล้วพี่บริหารก็หัวเราะออกมาจนผมทำหน้าบึ้ง “ชื่อผมมันตลกขนาดนั้น?”

   “โทษทีๆ พอดีไม่เคยได้ยินผู้ชายชื่อกลอยน่ะ ก็เลยแปลกใจ”

   “ผมก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อตัวเองนี่แหละครับ”

   “พี่ชื่อฟลอยด์ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับน้องกลอย” ผมยิ้มตอบรอยยิ้มเท่นั่นก่อนจะหันหน้าหนีออกนอกกระจกเมื่อสบตาเป็นประกาย


   เมื่อไหร่จะถึงสักทีวะ


   เสียงโทรศัพท์ของเจ้าของรถดัง ผมเหลือบตามองนิดๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่ใช่เรื่องของผม ได้ยินพี่ฟลอยด์ตอบครับๆ แล้วก็วาง

   “พอดีพี่ต้องเอาของท้ายรถไปให้พี่สาวก่อน ขอวนไปแปบหนึ่งเดี๋ยวขับไปส่งถึงที่เลย” ตอนแรกผมกะจะขอลงแล้วจะนั่งรถกลับเอง แต่ดูเหมือนพี่เขาจะเป็นคนเอาแต่ใจนิดๆ เพราะพี่แกไม่ฟังคำตอบอะไรของผมเลย ก็เลยเชิญ ตามสบายครับพี่ครับ

   พี่ฟลอยด์ดูอารมณ์ดีเพราะร้องเพลงตามแผ่นที่เปิดอยู่ ผมแอบสังเกตหน้าตาที่ดูดีไร้ที่ติ ผิวขาวเนียน ตาเรียวแหลม จมูกโด่ง ปากสีแดงนิดๆ ผมสีดำสนิทยิ่งทำให้ผิวหน้าขาวจนผู้หญิงต้องอิจฉา

   “จ้องพี่แบบนั้น ชอบพี่ล่ะสิ” หน้าหล่อหันกลับมายิ้มให้ผมจนผมต้องรีบเสหน้าออกนอกหน้าต่างเหมือนเดิม     

   “หลงตัวเองว่ะ” ผมว่า พี่ฟลอยด์ขำนิดๆ จนผมเบ้ปาก

   ทนความติดขัดบนท้องถนนอยู่นานรถก็เข้าเทียบจอดที่ลานจอดหน้าตึกสูง ผมเงยหน้ามองความสูงจนปวดตา บริษัทอะไรเนี่ย ทำไมตึกสูงขนาดนี้

   “พี่สาวพี่ทำงานที่นี่เหรอ” ผมถามอย่างสนใจ

   “อืม” พี่ฟลอยด์เปิดประตูรถลงไป ผมก็รีบลงตาม “จะเข้าไปด้วยกันหรือรอตรงนี้?”

   “รอแถวนี้แหละครับ” ผมไม่ค่อยถูกกับบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้หรอก พี่ฟลอยด์พยักหน้าก่อนเดินเข้าตัวตึกไป ยามที่อยู่หน้าประตูโค้งศีรษะให้ ที่นี่เขาคงเทรนพนักงานดี ขนาดคนทั่วไปเข้าไปยังต้องทำความเคารพ

   ผมเดินเอื่อยๆ แถวสวนข้างตึกครับ แม้จะอยู่ใจกลางเมืองแต่ก็มีสวนดอกไม้ดูร่มรื่นสบายตา เหมาะแก่การพักผ่อน แต่ถ้าจะให้ดีควรมีหลังคาด้วย แดดแรงๆ นี่คงเหงื่อแตกเหมือนอาบน้ำแน่

   แล้วผมก็เพิ่งสังเกตว่ารถพี่ฟลอยด์มาจอดที่ลานสำหรับผู้บริหาร สงสัยจะเส้นใหญ่พอสมควร ไม่งั้นคงถูกยามไล่ไปแล้ว หือ...ผู้หญิงคนนั้นสวยจัง

   ที่หน้าตึกผมเห็นสาวสวยแต่งตัวหรูตั้งแต่หัวจรดเท้า น่าจะแบรนด์เนมทั้งตัว ใบหน้าสวยแต่งแต้มจนไม่รู้ว่าถ้าขูดออกจะสวยแบบนี้อยู่หรือเปล่า ผมขำกับตัวเองเมื่อนึกถึงเว็บที่เทียบก่อนและหลังแต่งหน้า ผู้หญิงอยากสวยก็ต้องอดทนนะครับ

   แต่ความตลกขบขันก็ค่อยๆ เลือนหายเมื่อผมเห็นผู้ชายหน้าตาคุ้นๆ เดินออกจากตึกมาด้วย ผู้หญิงสวยที่ผมเห็นตอนแรกรีบเข้าไปคล้องแขน ทั้งคู่ยิ้มแย้มให้กันดูมีความสุข ผมมองคู่หนุ่มสาวที่สอดตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนรถคันสวยจะพุ่งทยายออกไป

   “มองอะไร” แรงสะกิดกับเสียงเรียกเบาๆ ทำให้ต้องหันไปมอง พี่ฟลอยด์ยืนยิ้มให้นิดๆ ก่อนมองตามทางที่ผมมอง

   “เปล่า พี่ฝากของให้พี่สาวแล้วเหรอ” กระพริบตาถี่ๆ แล้วปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุด แม้ในใจผมจะวุ่นวายก็ตาม

   “ครับ ไปกันเลยมั้ย เดี๋ยวไปส่งถึงห้องเลย” คำพูดติดตลกทำให้ผมยิ้มตาม

   “เอาจริง?”

   “ถึงเตียงเลยยังได้” พูดแบบนี้ไอ้กลอยไปเองยังดีกว่า เชี่ย ดูเหมือนจะพูดให้ตลก แต่เซ้นบางอย่างมันเหมือนพูดจริง “พี่พูดเล่น”

   “โหพี่ ผมตกใจหมด” แม้จะดูขำฝืดๆ ไปหน่อยมันก็ยังดี

   “แต่ถ้ายอมพี่ก็ไม่ขัดนะ” สายตาแบบนี้อีกแล้ว ไอ้มีประกายแปลกๆ

   “พี่ชอบของแปลกเหรอวะ” พูดให้มันติดตลกเข้าไว้ข่มความกลัวในใจที่มันตีตื้น ผมว่าไอ้รอนมันดูเด็กไปเลยเมื่อเทียบกับพี่ฟลอยด์ แม้น้องรหัสผมมันจะวอแวตามติดจนน่ารำคาญ แต่มันดูไม่กดดันแบบนี้

   “ชอบ” คำตอบสั้นๆ โดยไม่มีเสียงขำเล็ดลอดยิ่งตอกย้ำทำให้ผมกลัว

   “พี่ทำให้ผมกลัวนะ”

   “พอดีพี่เป็นคนตรงน่ะ ชอบก็บอกชอบ”

   “เอ่อ...” ไปไม่เป็นอีกแล้วไอ้กลอย วันนี้ผมสตั้นกับพี่ฟลอยด์ไปหลายตลบจนแทบหาทางกลับไม่เจอ เป็นคนที่รุกได้น่ากลัว กดดันได้รุนแรงจริงๆ “แต่ผมมีแฟนแล้วนะครับ”

   พี่ฟลอยด์มองผมนิดๆ ก่อนเบือนหน้ามองถนนตามเดิมโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ต่อ เหมือนมันจะจบลงแล้ว

   รถคันสวยจอดหน้าคอนโดที่ผมพัก พี่ฟลอยด์ยิ้มให้ผมโดยไม่บอกลาใดๆ ก็ขับออกไป หรือพี่เขาจะโกรธผมวะ แต่จะโกรธเรื่องอะไร ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรให้ คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แต่พอก้าวขาแค่ก้าวเดียว แขนผมก็ถูกคว้าไปจนตกใจเกือบปล่อยหมัดตรง

   “ใครมาส่ง” เสียงนิ่งๆ ยังไม่เท่าดวงตาดุที่จ้องมา พี่โชในโหมดแบบนี้ควรตอบดีๆ ถ้าไม่อยากถูกด่า

   “พี่ที่คณะ” รุ่นพี่จริงแม้ไม่ใช่คณะผมก็เถอะ แต่ดูพี่โชไม่เชื่อ ตายังเหมือนลอร์ดวอเดอร์มอร์อยู่เลย “จริงๆ” พยายามทำให้พี่โชเย็นลงแต่ดูไม่ค่อยเป็นผล เพราะตอนนี้ผมถูกดึงให้เข้าตึก พอถึงห้องก็ถูกจ้องจนร่างแทบทะลุ

   “บอกมา ไอ้นั่นเป็นใคร” ที่รีบมาเพราะอยากจะคาดคั้นนี่เอง พี่โชกอดอกมองอย่างหาเรื่องสุดๆ

   “รุ่นพี่ที่คณะจริงๆ พี่ไม่เชื่อผมเหรอ”

   “พี่เชื่อกลอย แต่ไม่เชื่อคนอื่น” เจตนาชัดเจนจนผมเม้มปากเป็นเส้นตรง

   “ที่จริงเป็นพี่ที่เพิ่งรู้จักกัน” ผมเลือกจะพูดตามความจริงเพราะคำว่าเชื่อใจ พอเห็นพี่โชเตรียมอ้าปากด่า ผมก็รีบเอามือปิดปาก “ฟังก๊อน พี่เขาแค่อาสามาส่งเพราะทางเดียวกันแค่นั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่” พี่โชยังดูไม่เชื่อผมเลยต้องย้ำจริงๆ เสียงสูงจนแทบทะลุเพดาน

   “ให้มันจริงแบบนั้นเถอะ” สุดท้ายแววตาก็เริ่มอ่อนลงจนต้องถอนหายใจ

   “พี่เถอะ วันนี้ไปเที่ยวกับใครมาหรือเปล่า” ภาพที่เห็นมันทำให้อดไม่ได้ที่จะถาม พี่โชเลิกคิ้วมองก่อนส่ายหน้า

   “พี่ไปทำงานไง” คำตอบที่ออกมาทำให้ผมยื่นหน้าไปจ้องซะชิดกับตาคู่ดุนั่น “อะไร”

   “โกหกผมป่ะ”

   “ไม่เชื่อใจพี่เหรอ หืม” พี่โชกอดเอวผมแล้วออกแรงรัดซะจนแนบสนิทไร้ช่องว่างใดๆ “ว่าไง”

   “เชื่อใจสิ” ผมตอบพลางหนีการรุกรานที่เริ่มเยอะ จากแก้มมาที่ปาก ด้านล่างก็มือลูบไปมาให้รู้สึกวูบวาบ “แต่พี่ห้ามทำร้ายความเชื่อใจผมนะ” พี่โชกำลังใช้ความเชื่อใจของผมผิดบังอะไรอยู่แน่

   “ครับ”

   จูบที่แสนวาบหวามจนเผลอไผลตามได้อย่างไม่ยาก ผมพยายามไม่สนใจกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ใช่ของพี่โชแน่ที่มันติดมากับกลิ่นกาย มันฉุนซะจนผมต้องกลั้นหายใจ พี่คงไม่ทำร้าย ทำลายความเชื่อใจของผม...ใช่มั้ย



   ค่ำคืนที่มืดมิด คนข้างผมหลับไปแล้ว ใบหน้าหล่อซูบผอมเพราะทำงานหนัก พี่โชดูเหนื่อยกับงานมากแต่ผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมยื่นมือไล้ใบหน้ายามหลับสนิทของพี่โช จากดวงตาที่ซ่อนนัยน์ตาดุแต่ก็มองแต่ผมเพียงคนเดียว ไล่มาถึงปลายจมูกโด่งที่มักจะหอมแก้มผมจนแทบช้ำ และปากอวบที่มันทำให้ผมวูบวาบทุกทีได้ได้สัมผัส


   ผมรักพี่นะ



   แสงและเสียงที่ดังขึ้นบนโต๊ะหัวเตียง ผมยืดตัวข้ามพี่โชไปหยิบโทรศัพท์พี่โชมาดู ดึกดื่นขนาดนี้ใครกันที่ส่งข้อความรัวๆ มาให้ หน้าจอที่ล็อกไว้แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะรหัสคือวันเกิดของผม พอเปิดได้ข้อความไลน์ที่ผมเห็นมันทำให้ผมนั่งนิ่ง



   ‘วันนี้ขอบคุณมากนะคะ พรุ่งนี้เจอกัน แต่เฟิร์นขอเป็นคนเลี้ยงข้าวกลางวันบ้างนะคะ นอนหลับฝันดี แต่อย่าลืมฝันถึงเฟิร์นบ้าง เพราะเฟิร์นจะฝันถึงพี่โช เราจะได้เจอกันในฝัน’ ผมอ่านข้อความเหล่านั้นซ้ำๆ จนจำทุกตัวอักษร



   ...ผมเชื่อใจพี่นะ



....TBC


เจอกันตอนหน้าค่าาา  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 17:48:22 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ก็เข้าใจนะว่าพี่โชเป็นโรคหวงของรักใครก็รักมาก
แต่จะมากไปมั้ย กลายเป็นก้าวก่ายกันมากไปรึป่าว

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
ดราม่ามาตอน 23.27
เเล้วเลาจะนอนหลับไหม T____T
ปวดไส้ติ่งก่อนนอนกันเลยทีเดียว พี่โช อย่าบอกนะสาวคนนั้น รุ้จักฟรอยไปอีก พี่โช ไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อต้องตัว พี่โชที่เเสนหยิ่ง เย็นชา คนเดิมไปไหน ทำไมปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้ความหวังคนอื่นป่ะ เกลียดพี่โชเเล้วนะ เด่วจะลักพาตัวกลอยหนีไปอยู่ต่างจังหวัดสัก 4 ปี เอาให้คลั่งเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
กลิ่นดราม่ามาแรงมากกกกก :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
แววดราม่าคงจะแรงน่าดูเลย เบาๆนะสงสารกลอยใจ

ออฟไลน์ Red_sister

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
Whatttttttttttt!!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ฟลอยมาแบบไม่ธรรมดานะ มีอะไรแอบแฝงรึป่าว

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หนุ่มเชียงใหม่มาแว้ววววว มาม่าขอไม่อืดเกินไปนะคะ สงสารกลอย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
กลิ่นมาม่าต้มฉุนมาเฉียว แต่อย่าให้ฉุนเกินไปนะ เดี๋ยวมันจะทานไม่อะอร่อย แต่ที่ชอบที่สุดฟลอยสุดหล่อหนุ่มเชียงใหม่มาแว้ว นี่แหละคนนี้แหนะคู่ฟัดของโชที่สูสีที่สุด  :katai3:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อิพี่โช!!
อะไรยังไง!
ฮือออ สงสารน้องกลอย  :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะไม่ทำร้ายกันใช่ไหม

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
"จะไม่ทำร้ายความเชื่อใจกันใช่ไหม"
คือคำนี้มันหน่วง
หวังว่าพี่โชจะยังเหมือนเดิมนะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
 :jul3:       
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน

เรียกฝอยขัดหม้อ 55555555555

อย่าหน่วงนานนะ น้ำตาจะหมดตัว

ออฟไลน์ CIndY59

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เฟริ์นนี่พี่สาวของฟลอยด์ใช่ไหมเนี่ยยยยย...

พี่โชช่วงนี้ค่าตัวแพง ออกน้อยพอๆกับสีนวล *หลบตีนพี่โชแปป*
น้องกลอยสู้ๆน้าาาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ไม่เอามาม่าได้มั้ยยยยยยย :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
สนุกมากเลยค่าาา ชอบมากกก
คนเขียนอัพเร็วสุดๆ
ปล.ตอนล่าสุดขอดองก่อนนะคะ กลัวมาม่า  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 27



        แม้จะสอบเสร็จหมดทุกตัวแต่ผมก็ยังต้องมา ที่จริงต้องบอกว่าถูกบังคับให้มามากกว่า เพราะอีกไม่นานจะมีรุ่นน้องเฟรชชี่เข้าใหม่ แบบนั้นปีสองที่กำลังจะขึ้นปีสามอย่างพวกผมจึงต้องนัดเด็กๆ มาประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อรอรับเด็กปีหนึ่งที่จะมาในอีกไม่กี่เดือน

   พวกแก่ๆ อย่างปีสามถ้าไม่ใช่พวกเฮดหรือพวกกิจกรรมก็ไม่ค่อยสนใจมากหรอกครับ อย่างพวกผมที่มานั่งง่วงฟังไอ้ประธานปีสามที่อยู่เอกอื่นนัดแนะทั้งเข้าค่าย ทั้งการรับน้องยังไงให้สร้างสรรค์ คือผมอะไรก็ได้ไง ขอแค่เด็กสายผมเป็นผู้หญิงน่ารักๆ บ้าง ไม่เอาแบบพี่รหัสผมที่ห้าวกว่าผมอีกนั่นนะ

   ส่วนเรื่องพี่โช ช่วงนี้เราแทบไม่ได้พูดกันเลย อย่าว่าแต่พูด แม้แต่หน้ายังไม่ค่อยได้เจอ โปรเจคใหญ่ที่ว่าคือการสร้างห้างสรรพสินค้าใหญ่ และมันเริ่มมีปัญหามากมายจนทำให้พี่โชยุ่ง แทบไม่มีเวลากลับมาที่ห้อง หรือจะมาก็ตอนดึกๆ ซึ่งผมหลับไปแล้ว พอตื่นอีกทีที่ข้างๆ ก็ว่าง ทุกอย่างวนเวียนแบบนี้มาเกือบจะสองอาทิตย์แล้วครับ

   เรื่องผู้หญิงคนที่ฝากกลิ่นน้ำหอมติดเสื้อพี่โชมา ผมแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอถาม พี่โชก็บอกว่าเป็นลูกสาวเจ้าของห้างซึ่งดูแลโปรเจคนี้ร่วมกัน ผมก็เออออไปเพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมา

   “เป็นไรวะ ช่วงนี้มึงดูแปลกๆ” ไอ้ทูสะกิดถามผม ตามันยังมองไอ้ประธานรุ่นผมคุยโม้ว่างานปีนี้ต้องดีที่สุด
 
   “เปล่า” ขี้เกียจอธิบายเลยปฏิเสธไป แต่ไอ้ทูมันดูจะไม่เชื่อเท่าไหร่

   “กูเพื่อนมึงนะ มีอะไรก็บอกกู เผื่อกูจะช่วยได้” ผมอยากจะด่ามันเหลือเกินว่า ผมก็เพื่อนมัน มันยังไม่บอกเรื่องพี่เบเลย แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มๆ แล้วพยักหน้าไป “ไอ้กลอย มึงอย่าซึมดิ่วะ หมาในปากมึงจะตายห่าแล้ว” นี่มันปลอบหรือด่าผมกันแน่

   “กูไม่เป็นอะไร แค่มึงคบกับพี่เบได้กูก็ดีใจ” เบี่ยงประเด็นเลยโดนฝ่ามือมันเต็มหัว ไอ้เชี่ยทูชอบใช้กำลัง เดี๋ยวสั่งพี่เบจัดการ

   “มึงนี่มัน” ไอ้ทูถลึงตาใส่ ผมก็หัวเราะร่วนเลยโดนไอ้ประธานหน้าตี๋ด่าออกไมค์ คิดว่าผมจะอายเหรอ ไม่มีทาง เพราะผมยังตีหน้ามึนลอยหน้าไปมาจนมันเปลี่ยนเรื่องไปเอง ฮ่าๆ

   ตึ๊ด เสียงข้อความไลน์ผมดัง แต่ผมยังไม่สนใจคงจะเป็นพวกเล่นเกมส์ส่งมา แต่พอมันดังรัวๆ ผมเลยหยิบออกมากดดู ไอ้ทูที่ชอบสอดเรื่องชาวบ้านก็ยื่นหน้ามาดูด้วย มันคงเห้นผมจ้องมือถือนานไปหน่อย พอมันเห็นแบบที่ผมเห็นก็ร้องลั่นจนโดนประธานรุ่นด่าอีกรอบ

   “ไอ้เชี่ย รูปพวกนี้มันอะไรวะ” ไอ้ทูโวยวายแทนผมที่เอาแต่นิ่ง มองดูรูปที่ช็อตจนครบสิบภาพ
 
   รูปพี่โชยืนอยู่ข้างๆ สาวสวย ทั้งคู่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน คงเพิ่งทานข้าวกันมา เพราะรูปที่ยืนถ่ายมาจากร้านอาหารหรูที่ผมไม่เคยได้ย่างกรายเข้าไป และรูปสุดท้ายที่เห็นคือภาพที่ซูมในเห็นใบหน้าของทั้งคู่ที่มองตากัน แววตาของผู้หญิงดูจะสนใจพี่โชอย่างเปิดเผย ติดตรงที่ว่าพี่โชเห็นเฉพาะด้านข้าง เลยไม่รู้ว่าแววตาที่มองกลับเป็นแบบไหน จะลึกซึ้งหรือเปล่า

   “มีคนส่งมาให้กูดูทุกวัน” ผมบอกเนือยๆ

   รูปพวกนี้ไม่ได้มีแค่นี้หรอกครับ รวมๆ เกือบสองอาทิตย์มีเกือบร้อยภาพ มันเป็นภาพตอนที่พี่โชกับสาวสวยคนนี้อยู่ด้วยกัน รูปวันนี้ดูเฉยๆ เมื่อเทียบกับรูปที่ส่งมาให้ผมก่อนนอน...


   รูปพี่โชกอดเอวผู้หญิงคนนั้น


   ผมอยากจะถามพี่โชแต่คนถามไม่อยู่เลยได้แต่เก็บไว้ในใจ ผมมันเป็นคนประเภทไม่ชอบคิดเอง คือถ้าเรามัวแต่คิดเองมันจะปวดหัวเปล่าๆ แม้มันจะทำให้ผมดูโง่ไปสักหน่อยก็เถอะ

   “มึงทนดูได้ไงวะ ทำไมไม่ถามพี่โชให้รู้เรื่อง” ไอ้ทูเอามือถือผมไปเลื่อนดูรูปก่อนหน้าจนผมต้องรีบแย่งคืนมา คือมันจะปามือถือผมทิ้ง ไอ้นี่ชอบทำลายข้าวของ (ที่ไม่ใช่ของตัวเอง)

   “ก็ไม่อยู่ให้ถาม” ผมบอก

   ไอ้ทูกำลังจะอ้าปากถามเลยโดนประธานรุ่นลากออกนอกห้องเพราะคุยเสียงดัง ผมที่มองมันโดนลากได้แต่สงสารปนอิจฉา คือผมอยากออกไปบ้าง

   กว่าจะประชุมเลิก ผมก็แทบจะหมดแรง มันง่วงจนหัวเซไปหลายรอบ พอเดินออกห้องมาก็โดนไอ้ประธานรุ่นตบหัวแบบเบาๆ ส่งท้าย นี่ถ้ามันไม่ใช่เฮดรุ่นนะ ผมไล่เตะมันไปแล้ว บังอาจมาตบหัวกู สงสัยจะอินกับวอลเล่ย์บอล ผมเห็นเฟสมันแชร์แต่รูปสาวๆ นักวอลเล่ย์บอล


   ผมเดินหาเพื่อนตัวเองที่โดนเนรเทศออกมาก่อน ไอ้ทูนั่งอยู่ใต้ตึก มันกำลังคุยโทรศัพท์ ไม่สิ โวยวายใส่โทรศัพท์มากกว่า พอมันหันมาเห็นผมก็รีบวางสายแล้วเดินมาหา

   “ป่ะ” หือ อยู่ๆ มันก็ดึงแขนผมแล้วจ้องหน้า

   “เดี๋ยวๆ มึงจะพากูไปไหน” ผมถามมันโดนที่ขายังซอยถี่เพราะแรงดึงที่กึ่งวิ่งกึ่งเดิน คือมึงจะรีบไปไหนวะ

   ไอ้ทูที่วันนี้เอารถมาเองยัดผมลงไปนั่ง มันไปรับผมมาครับเมื่อเช้า ถึงมันไม่ดึงให้ขึ้นรถ ผมก็ต้องมาอยู่ดี ไม่งั้นจะกลับยังไง พอนั่งบนรถปุ๊บมันก็สตาร์ทแล้วบึ่งรถไปทันที โดยไม่บอกจุดหมายปลายทาง

   มันดูโกรธมากกว่าผมซะอีก

   รถคู่ใจของไอ้ทูจอดที่หน้าร้านห้างสรรพสินค้า ผมมองมันอย่างงงๆ แต่ก็เดินตามมันไป พอเดินไปถึงศูนย์อาหารผมก็เจอไอ้อัธกับไอ้ม่านที่กำลังจ้วงข้าวมันไก่อย่างเอร็ดอร่อย พอไอ้สองคนนั้นเห็นพวกผมมันก็โบกมือตะโกนเรียกจนโดนคนทั้งศูนย์มองหน้า แต่นับว่ายังโชคดีที่หน้าตามันดูหล่อ ถ้าหน้าตาดูไม่ได้นี่มีโดนด่าแน่

   ผมกับไอ้ทูเดินตัวลีบเพราะความอายเข้าไปหา พวกมันสองคนก็บอกให้รอแปบแล้วก็จ้วงข้าวในจานจนหมด นี่พวกมึงไปตายอดตายอยากมาจากไหนวะ กินจนไม่เหลือเศษข้าวสักเม็ด ไอ้อัธยังเหลือผักชี แต่ไอ้ม่านนี่จานเหมือนถูกล้างมาแล้ว สะอาดมาก

   “พวกมึงจะไปไหนกันวะ” ผมมองพวกมันพยักหน้าเหมือนตกลงอะไรกันสักอย่าง คือพวกมันรู้แต่ทำไมผมไม่รู้

   “มาปลดปล่อยความเครียดไง” ไอ้ม่านว่าพร้อมสายตาเป็นประกาย

   เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับเพื่อนพวกนี้

   “ไอ้ทูมันบอกกูว่ามึงเครียด พวกกูเลยจะพามึงมาคลายเครียด” ไอ้อัธพูดบ้างก่อนมันจะเดินนำไปโดยมีพวกผมเดินตาม...

   แอบเห็นกลุ่มสาวน่าตาจิ้มลิ้มมองไอ้อัธแล้วกรี๊ดเบาๆ ด้วย

   หลงผิดทั้งนั้น ผมเตือนไว้ก่อน

   การคลายความเครียดที่ไอ้พวกนี้ว่า ผมว่ามันยิ่งทำให้เครียดกว่าเดิมอีก เพิ่มเติมคือความหนวกหู ตอนนี้ผมกำลังนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาตัวนุ่ม ไอ้อัธนั่งข้างผมกำลังเปิดหนังสือหาอะไรบางอย่าง ส่วนไอ้ม่านกับไอ้ทูมันกำลังแหกปากร้องเพลงที่แทบฟังไม่ออกว่านั่นเสียงคนหรือเสียงควายออกลูก

   “จะโกหกกันไปถึงหนาย~ (ถึงหนาย) แค่พูดว่าเธอรักใครก็ง่ายกว่า (ก็ง่ายกว่า) หมดใจก็พูดเถอะ (พูดเถอะ) ว่าเธอจะเลิกรา (เลิกรา เลิกรา) กล้ารักเขานี่นา (นี่นา นี่นา) ทำไมไม่กล้ารับความจริง~ แค่กๆ กูกินน้ำแปบ ไอ้ทูมึงร้องต่อเลย” แล้วมันก็ดื่มน้ำอึกใหญ่แล้วคว้าไมค์ร้องต่อ

   ไอ้ม่านมันร้องโดยมีไอ้ทูร้องคอรัส แต่ผมว่าร้องรัดคอมากกว่า แม่ง ผมโคตรสงสารเจ้าของเพลง โดนไอ้พวกนี้เอามายำจนเละ

   นี่ผมควรเครียดต่อหรือหัวเราะพวกมันดี

   จากนั้นเพลงยังมาต่อเป็นชุดครับ บางเพลงโดนลากไปร้อง แต่ผมเป็นพวกร้องเพราะไง เลยไม่อยากจะโชว์ความสามารถ เดี๋ยวแมวมองผ่านมาเห็นจะรีบพาผมไปเซนต์สัญญา

   แหกปากเยอะจนเจ็บคอเหมือนกันนะ แต่รู้สึกดีขึ้นเป็นกอง

   ไอ้อัธที่เพิ่งครวญเพลงลูกทุ่งเสร็จก็ทิ้งตัวนั่งข้างผม โดยปล่อยให้ไอ้สองคนนั้นคร่ำครวญกับเพลงอกหักบ้าบอของมันไป ผมมองไปหัวเราะไป แม่งจะฮาไปไหน เพลงช้าแต่เต้นประหนึ่งมันคือฮิปฮอป ไอ้ทูก็เบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้แต่มันคือเพลงรัก

   ผมควรพาพวกมันไปเช็กสมอง

   “ให้กูช่วยมั้ย” ไอ้อัธมันพูดขึ้นจนผมละความสนใจตรงหน้าแล้วหันมามองมันอย่างงงๆ

   “ช่วยอะไรวะ” ไม่มีเกริ่นนำอะไรเลย กูตรัสรู้ไม่ได้ว่ะ

   “ก็เรื่องพี่โชกับผู้หญิงคนนั้น” ไอ้อัธว่า ผมมองหน้ามันนิ่ง

   “ไอ้ทูบอกมึง?”

   ไอ้อัธพยักหน้ารับ “เห็นรูปด้วย”

   มองหันขวับไปมองไอ้ทูที่มันกำลังแหกปากว้ากเพลง ไอ้เชี่ยนี่แอบจิกรูปผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่

   “ไว้กูถามพี่โชเอง” ผมไม่อยากรบกวนเพื่อน อีกอย่างมันก็เรื่องส่วนตัวเกินไป

   “แล้วพี่เขาจะบอกความจริงกับมึงเหรอวะ คนทำผิด ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำผิดหรอกนะ” ไอ้อัธมันมองตาผมนิ่ง “กูจะช่วยมึงสืบดู อย่าห้ามกูด้วย มึงเป็นเพื่อนรักกู กูไม่อยากเห็นมึงนั่งหน้าเศร้าเหมือนหมาไม่มีกระดูกแทะ”

   “ไอ้เชี่ย กูเกือบจะซึ้งแล้ว” แล้วผมกับไอ้อัธก็หัวเราะออกมา “ขอบใจนะ แต่ถ้ากูอยากจะให้มึงช่วย กูจะบอกเอง”

   “อืม เบอร์กูไม่เคยเปลี่ยนมึงก็รู้” ไอ้อัธมันเป็นคนที่เท่มากนะครับ ตอนมันเรียนจบมัธยม มีเด็กมอต้นซื้อตุ๊กตาหมีที่ตัวสูงกว่ามันมาให้ แต่ไอ้อัธปฏิเสธ เด็กนั่นก็ร้องไห้ซะเหมือนถูกไอ้อัธข่มขืนแล้ว จนสุดท้าย มันก็เป็นคนไปปลอบและบอกให้เก็บไว้ มันจะรับแค่น้ำใจก็พอ โคตรเท่เลยเพื่อนผม

   “กูรู้ว่ามึงไม่เคยเปลี่ยนเบอร์ แต่มึงเปลี่ยนแค่สาวที่ควงใช่ป่ะ” เพราะแซวเลยโดนจัดเต็มที่หัวป๊าบใหญ่ ผมมุ้ยหน้าแสร้างทำเป็นงอน ก่อนจะโดนไอ้สองตัวที่ยังครองไมค์ลากไปร้องเพลง



   จากตอนเที่ยงจนเกือบจะสามทุ่ม ชีวิตพวกผมก็วนเวียนร้องเพลงจนแทบจะไม่มีเพลงที่อยากร้องอีกเลยพากันออกมา พนักงานมองประหนึ่งว่าไอ้เด็กพวกนี้อาจมามั่วสุม พอพวกผมออกมาก็รีบให้พนักงานเข้าไปดูว่ามีของผิดกฎหมายหรือเปล่า

   นอกห้างในเวลานี้ยังมีแสงสว่างจากหลอดไฟประดับตามท้องถนน วันนี้เป็นวันศุกร์เราก็ต้องไปสุขในสุดๆ พวกเราเลยนัดไปกันเที่ยว เอาแบบให้มันสุดเหวี่ยง เสียงข้อความดังแต่ผมไม่สนใจ ผมขึ้นมานั่งบนรถไอ้ทูตามเดิม มันขับตามรถอีกคันไปจนถึงหน้าผับที่ใหม่

   หน้าประตูมีการตรวจเข้มเรื่องบัตรและอายุ สงสัยกลัวจะโดนตำรวจเพราะช่วงนี้กวดขันเหลือเกิน พอเข้ามาได้ผมก็หาโต๊ะนั่ง วันนี้คนโคตรเยอะ เรียกได้ว่าแทบไม่มีที่นั่ง ยังดีที่เหลือโซนวีไอพีซึ่งไอ้อัธมีการ์ดด้วย ผมองเพื่อนตัวเองอย่างตะลึง ไอ้เชี่ยนี่มีการ์ดผับนี้ได้ยังไง

   “มึงเอามาจากไหนวะ” ไอ้ทูถามก่อนผมซะอีก ไอ้อัธยิ้มๆ ก่อนจะตอบ

   “ผับนี้รุ่นพี่กูเป็นลูกเจ้าของ มันเลยให้กูมา”

   “เจ๋งเชี่ย กูขออันดิ่” ไอ้ม่านตาวาว คือของฟรีมันก็ต้องสนใจ

   “เสียใจว่ะเพื่อน”

   “ไอ้งก”

   บริกรมารับรายการถึงโต๊ะ พวกผมก็สั่งเหล้าดีกรีพอประมาณกับมิกเซอร์ไป ไม่นานก็มาเสิร์ฟ เพลงที่นี่อย่างมัน จังหวะฟังไปโยกหัวไป แถมมีดีเจสาวสวยใส่ชุดล่อแหลมจนหนุ่มๆ ต่างพากันไปยืนอออยู่หน้าเวที หน้าอกนี่อย่างดูมๆ จนละสายตาแทบไม่ได้

   “คนเยอะว่ะ” เสียงที่ดังจากโต๊ะด้านหลังทำให้ผมเหลือบตาไปมอง โต๊ะโซนวีไอพีกำลังถูกจับจองโดยนักศึกษากลุ่มใหญ่ ที่รู้ว่าเป็นนักศึกษาเพราะมีหนึ่งในนั้นยังสวมชุดนักศึกษา แม้มันไม่ถูกระเบียบเพราะกางเกงยีนส์ขาดๆ เสื้อที่ปลดกระดุมคอสองเม็ด

   บังเอิญที่ผู้ชายคนนั้นหันมาเจอกับสายตาผมพอดี มันก็เลิกคิ้วก่อนจ้องมา รอยยิ้มโคตรน่ากลัวจนผมต้องรีบหันกลับมา ความรู้สึกถึงอันตราย

   ผมไม่รู้ว่าไอ้คนนั้ยังจ้องอยู่หรือเปล่า รู้แต่ว่า ผมต้องห้ามหันไปอีก ตาสองข้างเลยจ้องแต่ดีเจสาวสวยเต้นส่ายไปมา ก่อนสะดุ้งเมื่อมีมือมาจับบ่าด้านหลัง

   ไอ้เชี่ยนั่นแน่ๆ

   นับเลขในใจก่อนจะค่อยๆ หันไปมอง รู้สึกผิดคาด แต่ความอันตรายยังคงมีอยู่

   “ว่าไง มาเที่ยวเหรอเรา” พี่ฟลอยด์ยิ้มโชว์รอยบุ๋มที่ข้างแก้ม เพื่อนผมหันมามองก็ทำหน้างงกันใหญ่

   “อ่า ครับ” ตอบรับแบบแกนๆ คือถ้าเลือกได้ไม่อยากจะเจอเลยจริงๆ

   “บังเอิญเจอกันบ่อยไปนะเราสองคนเนี่ย” คำพูดชวนน่าคิดแต่ผมเลือกจะไม่คิด “ไปนั่งกับพี่มั้ย” ผมเหลือบตามองโต๊ะที่พี่ฟลอยด์ชวนไปนั่ง มันคือโต๊ะของนักศึกษากลุ่มใหญ่ด้านหลังผมนั่นแหละ

   “ผมมากับเพื่อน” พวกไอ้ทูก็ยิ้มทักทาย พี่ฟลอยด์มองก่อนยิ้มกลับ “ตามสบายเลยพี่”

   “พี่อุตส่าห์มาชวน ไปนั่งด้วยกันสิ” ตื้อจนผมเริ่มอึดอัดและอยากกลับบ้าน ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่พี่ฟลอยด์แม่งดึงผมลุกยืนแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะโดยที่ยังไม่ได้คำตอบอะไร แบบนี้ไม่เรียกชวนแล้ว เขาเรียกบังคับล้วนๆ

   “เฮ้ยพี่ แต่ผมมากับเพื่อน” ผมแย้งและจะกลับไปนั่ง พี่ฟลอยด์ดันตัวผมนั่งตามเดิมก่อนจะนั่งประกบข้างๆ โดยมีเสียงเพื่อนโห่แซว

   “แหมมึง น่ารักนะเนี่ย” ไอ้คนที่ผมมองครั้งแรกยื่นมือมาจับคางผมแต่ถูกมือพี่ฟลอยด์ปัดออก “มีหวงๆ”

   “ไอ้สัด อย่าแตะ” พี่ฟลอยด์มองเพื่อนอย่างไม่ชอบใจ

   ผมก็ไม่ชอบใจว่ะ อยากกลับเต็มแก่แต่ขยับไปไหนไม่ได้ ผมมองเพื่อนตัวเองที่หันมามองเป็นระยะๆ ในใจพาลกลัวไม่อัธจะลุกมาหาเรื่อง ผมไม่ชอบให้ใครมาเดือดร้อนเพราะผม ความเบื่อเริ่มทำให้ไม่อยากแตะน้ำสีอำพันในแก้ว ผมเลยเลือกจะเอามือถือออกมากดดู...แล้วยิ้ม

   อาจเพราะสนใจมือถือเกินไปเลยโดนพี่ฟลอยด์ก้มหน้ามาหอมแก้มโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว เชี่ยเอ้ย กูตกใจ ผมเบิกตามองคนที่อุกอาจหอมแก้มโดยไม่ได้ขออนุญาต พี่ฟลอยด์ก็ดูไม่แคร์เพราะยกยิ้มอวดกับเพื่อน แขนหนักๆ ก็พาดที่ไหล่


   เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ


   “พี่ ผมไปห้องน้ำแปบ” ผมกระซิบบอกพี่ฟลอยด์ที่ยังเอาแขนพาดไหล่ผมอยู่ พี่เขามองผมนิดๆ ก่อนพยักหน้า แต่ก่อนไปพี่เขาขอมือถือผมเป็นตัวประกัน ฉลาดเหี้ยๆ ผมไม่ยอมให้พี่เขาแม่งจะแย่ง ผมเลยทิ้งตัวนั่งตามเดิม
 
   “ไม่ไปห้องน้ำแล้วเหรอ” เสียงกระซิบจนชิดใบหูทำให้ผมต้องย่นคอหนี

   “อื่อ ไม่ไปแล้ว”

   “พี่ขอเบอร์หน่อยสิ” พี่ฟลอยด์ยื่นมือถือเครื่องแพงตัวเองมาให้ผม แม้ไม่อยากจะให้ แต่อยากให้มันจบๆ ไปเลยกดเบอร์ตัวเอง ก่อนจะยิงเข้ามาในเครื่อง พี่ฟลอยด์ดูพอใจ มือใหญ่หยิบมือถือไปพิมพ์ชื่อแล้วหันมาให้ผมดู “ที่รัก” พูดตามที่พิมพ์

   แต่ผมไม่รู้สึกเขินสักนิด

   เหตุการณ์บางอย่างคล้ายกับพี่โช ทั้งโดนคุกคามและรุกรวดเร็ว แต่ผมกลับเขินพี่โชมากกว่าในตอนนั้น อาจเพราะพี่โชดูไม่น่ากลัวแบบนี้ แม้คนนี้จะดูท่าทางเป็นมิตรก็ตาม

   เพลงเริ่มเพิ่มจังหวะตามเวลา ตอนนี้โต๊ะของพี่ฟลอยด์เริ่มมีคนน้อยลงเพราะเพื่อนพี่เขาลุกออกไปเต้นคลอเคลียกับสาวนักเที่ยว พี่ฟลอยด์ยังนั่งข้างผม ดวงตายังคงจ้องผมนิ่งจนผมเริ่มกลัว

   “แฟนของน้องเรียนที่มหาลัยเดียวกันหรือเปล่า” ผมเอนหัวหนีมือที่จับปลายผมผมม้วนไปมา

   “เปล่าครับ” เริ่มไม่พอใจ

   “แล้วเรียนที่ไหนล่ะ หน้าตาเป็นยังไง นิสัยดีมั้ย”

   “มันเป็นเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากพูด” น้ำเสียงเริ่มกระแทกเพราะไม่พอใจ รู้สึกเหมือนโดนก้าวก่ายชีวิต

   “เย็นชาจังน้า พี่ไม่ชอบเลย”

   “พี่กำลังทำให้ผมกลัวอยู่นะ” ผมบอกไปตรงๆ ก่อนจะรีบลุกหนี แขนก็สะบัดมือที่คว้าจับ เดินหนีออกมาจนถึงโต๊ะของพวกไอ้อัธ พอพวกมันเห็นผมหลุดออกมาได้ก็รีบพาผมออกไปทันที พวกมันเช็คบิลรออยู่ก่อนแล้วผมเห็น



   พอเข้ามานั่งในรถไอ้ทู ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ คนข้างๆ ก็ดูเหมือนจะอยากรู้แต่ก็นิ่ง แต่ตามันเหลือบมองผมเป็นระยะจนอดไม่ได้ต้องถามมัน

   “มึงมองกูทำไม อยากถามอะไรว่ามา”

   “ใครวะคนเมื่อกี้ แม่งกูกลัวสัด”

   “คนเพิ่งรู้จัก”

   “เพิ่งรู้จักแต่แม่งทำเหมือนรู้จักมาเป็นสิบปี” ผมก็เห็นด้วยในจุดนี้ “แล้วพี่โชรู้เรื่องหรือเปล่า เรื่องคนนี้อ่ะ” ผมส่ายหน้าตอบไป ไอ้ทูก็ร้องเสียงหลง “ไอ้เชี่ย มึงระวังตัวไว้ พี่โชยิ่งหึงไม่เหมือนชาวบ้านอยู่”

   “กว่าจะได้หึง ไอ้พี่นี่คงเลิกชอบกูพอดี” ผมบอกอย่างเซ็งๆ ก่อนมือถือจะดัง ไอ้ทูยืดคอมาดูหน้าจอที่โชว์เบอร์และรูป ผมกดรับพลางมองหน้าเพื่อนตัวเอง “พี่โช โทรมามีอะไรเหรอ”

   (อยู่ห้องหรือเปล่า) น้ำเสียงดูเหนื่อยล้ามากจนผมสงสาร

   “เปล่า ออกมากับไอ้ทูอ่ะ” ผมบอกความจริง เพราะไม่อยากโกหก เพราะผมเกลียดคนโกหก

   (....) พี่โชเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ (วันนี้พี่นอนที่บ้านนะ มีเรื่องต้องคุยกับพ่อเรื่องงาน)

   “เข้าใจแล้ว” ผมบอก “พี่โชกินข้าวเยอะๆ นะ จะได้มีเรื่องทำงาน”

   (ครับ รีบกลับห้องแล้วนอนนะ ห้ามเล่นเกมส์)

   “รู้แล้วน่า พี่ก็อย่านอนดึกมากนะ เดี๋ยวไม่หล่อ” ผมหัวเราะจนคนปลายสายหัวเราะตาม

   (ครับๆ ราตรีสวัสดิ์นะ)

   “อื่อ ราตรีสวัสดิ์”

   พอพี่โชวางสายผมก็ถอนหายใจออกมา ไอ้ทูส่งเสียงกระแอมจนผมต้องมองหน้ามัน
 
   “อะไรของมึง อยากเสือกเรื่องกูล่ะสิ” ไอ้ทูพยักหน้ารัวๆ จนผมขำ

   “ดูพี่เขาโคตรปกติอ่ะ”

   “อืม ก็ปกติ”

   “แต่ไม่ปกติตรงมีรูปนั่นแหละ” ไอ้ทูว่า ก่อนจะสนใจข้อความไลน์ที่เด้งขึ้นมา

   รูปที่ถ่ายบรรยากาศตอนค่ำคืนแต่ไม่รู้ว่ากี่โมง พี่โชยืนอยู่ที่กาบเรือกับผู้หญิงคนนั้น ทั้งสองชนแก้วแชมเปญจดูมีความสุข ไอ้ทูเห็นก็สบถคำหยาบอย่างยาวเหยียด จนมองภาพนั้นก่อนถอนหายใจ



   เมื่อไหร่จะจบสักที ผมเหนื่อย 


....TBC


นี่ดราม่ากันแล้วใช่มั้ย ฮ่าๆๆ

ถ้าไม่มีอะไรก็อัพวนไปค่าาาา  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 17:49:06 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน


ขอขำแปบค่า ฮ่าๆๆๆ พี่ฟลอยด์ไปขัดหม้อซะแล้ว 

 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อิพี่โช แม่งงงงงง อย่ามาหงายการ์ดว่าลูกค้าหรือญาตินะ  :fire: :angry2: :beat:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
คาดว่าแม่สาวสวยกับพี่ฝอยขัดหม้อน่าจะรู้กัน


ขอขำแปบค่า ฮ่าๆๆๆ พี่ฟลอยด์ไปขัดหม้อซะแล้ว 

 :laugh: :laugh:

ชื่อพิมพ์ยาก+หมั่นไส้ค่ะ 5555555
พี่โชคงได้รูปกลอยกับพี่ฝอยขัดหม้อแน่เลย
เป็นเราเจอรูปแฟนกะคนอื่นจะส่งไปให้แฟนดูเลย
ให้มันตายกันไปข้างนึง!!!!!!

ก่อนอื่นขอหาแฟนก่อนนะ อิอิ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
พี่โชรีบเคลียร์ตัวเองด่วนเลยนะ พอเถอะนะดราม่าอะ แค่นี้ก็สงสารกลอยจะแย่อย่ามีมือที่สามสี่ห้าเลย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
มันแปลกๆนะ พี่โชน่ะ

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
ฮึบบบบ กลั้นใจอ่าน กลัวน้ำตาหมดตัว ตอนนี้เห้อออออ นึกว่าจะดราม่าเยอะ เอาเป็นว่าพี่ฝอยขัดหม้อมาแบบไม่ดี กลิ่นแปลกๆ พร้อมกับเเคปชั่น มือที่3นั้น เเมร่งรวมหัวกันชัวร์ ป๊าปปปปป กลอยยังใจดีอยู่ นักเขียนช่วนให้กลอยมันวีนเเตกบ้างได้ม๊าาาา กลอยต้องสู้ กลอยต้องสรอง ไหนจะทีมเพื่อนๆกลอยอีก ช่วยกันรวมมือ ให้เรื่องนี้ผ่านไปนะ ไม่อยากจบแบบดราม่าน้ำตาท่วมจอ ขอให้จบตามชื่อนิยายเลย เพราะนายคือของฉัน (คนอื่นห้ามเเย่ง)

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขัดใจๆๆๆๆ กลอยไม่มีปากหรือไง ปิดอะไรกันแน่พระเอก??? เหตุผลทางธุรกิจอีกล่ะสิ เบื่อละเหตุผลแบบนี้ แต่ถ้าทางธุรกิจทำไมสองคนนี้ทำงานที่เดียวกัน? พ่อแม่ทั้งคู่ก็รู้ว่าคบกัน จริงๆมันไม่น่าจะมีดราม่าอะไรด้วยซ้ำนะ เดินเรื่องมาแบบสบายๆ จู่ๆมายัดดราม่า คือเรารู้สึกว่ามันยัดเยียดอ่ะ ทั้งๆที่สองคนนี้รักกันมากแท้ๆ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กะสองคนนี้แล้วล่ะ //กลอยหัดปฎิเสธคนหน่อยนะ งงมากนั่งรถไปกับไม่รู้จัก กล้าเว่อ ยาวมาก อิน :ruready

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด