Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]  (อ่าน 628838 ครั้ง)

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
กล่อยหูกระต่าย 5555 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
พี่โชเท่ กลอยก็น่ารัก

ออฟไลน์ cass-meyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านจบแล้วนิยายสนุกมากค่ะ  ขอบคุณคนเขียนที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ  o13

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
อยากจะสงสารพี่โชอยู่นะ แต่ขำแรงมาก  :laugh:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เป็นการจัดงานที่ดีมาก 5555

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
กว่าจะตามอ่านทัน เค้าก็จบ จนมีตอนพิเศษบานตะไท

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สนุกมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณคนแต่งค่า  :กอด1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สนุกมากๆค่ะ พี่โชหวงเมียมากๆ

ออฟไลน์ moonoy68

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านจบแล้วแบบไม่อยากให้จบเลย
ชอบทุกคู่ทุกคนเลย อ่านแล้วฮ่ามาก
โดยเฉพาะคู่เบทู นี้นึกว่าทูถูกกระทำ
ที่ไหนได้นางเป็นคนไปด่าเค้า 555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I ตอนพิเศษ : เหล้ายังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพคนเมา




          ผมไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมาทนเห็นสภาพห้องที่แสนเรียบร้อย สะอาดสะอ้านต้องมามัวหมองเพราะเศษข้าวของมากมาย ทั้งถุงขนม เศษของกิน รวมถึงน้ำแข็งที่ละลายนองเต็มพื้น จำได้ว่าตอนออกไปตอนเช้ามันยังไม่เป็นแบบนี้

   “พวกพี่...” ผมเบนสายตาจากสภาพห้องมองไปยังกลุ่มคนนับสิบนั่งกินข้าวกล่อง (ของผม) อยู่ที่โต๊ะกินข้าวและโซฟาหน้าทีวี “พวกพี่ทำอะไรกับของห้องผมวะ” ตะเบ็งออกไปสุดเสียง ทุกคนทำแค่เงยหน้าขึ้นมองแล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ พี่โชเดินตบบ่าผมนิดๆ แล้วผ่านเข้าไปนั่งเบียดพี่ซันหน้าทีวี

   “ห้องเพื่อนกูต่างหาก ขี้ตู่นี่หว่า” พี่แทมพูดทั้งๆ ที่เส้นสปาเก็ตตี้คาปาก

   “ใช่ครับเพื่อนแทม” ลูกคู่คือพี่ติน

   “พวกมึงก็ เมียเพื่อนนะนั่นน่ะ ห้องของผัว ก็เหมือนห้องของเมีย” พี่เบหัวเราะร่วนแต่ผมไม่ขำเว้ย

   มองกราดไปยังเพื่อนตัวเองที่นั่งกินข้าวอยู่กับพื้น ไอ้อัธยกยิ้มนิดๆ แล้วเบี่ยงเอาข้าวกล่องตัวเองหนีไอ้ม่าน ส่วนไอ้ทูมันกำลังป้อนกระเพาให้แฟนมาดๆ ของมัน

   ไม่มีใครสนใจผมสักคน

   แล้วผมคือคนต้องทำความสะอาด

   ไม่ยงไม่อยู่มันแล้ว

   ทิ้งถุงที่เพิ่งซื้อของสดมาว่าจะทำมื้ออร่อยให้เจ้าของวันเกิดได้กิน พอเจอแบบนี้ไอ้กลอยกลับดีกว่า ผมเดินออกห้องมา กดลิฟท์ชั้นล่างสุด แต่นึกขึ้นได้ว่าลืมกุญแจรถมอเตอร์ไซค์เลยต้องเดินกลับไปเอาที่ห้อง พอเปิดเข้าไป ทุกคนยังนั่งอยู่ที่เดิม หัวเราะกับตลกเหมือนเดิม เหอะ

   เดินไปหยิบกุญแจในตะกร้าที่วางบนตู้ข้างโต๊ะกินข้าว แต่ดูเหมือนจะช้ากว่ามือขาวๆ ของเจ้าของห้อง ผมทำหน้าบึ้งจ้องแล้วแบมือไปตรงหน้า

   “เอากุญแจรถผมมา”

   “จะไปไหน” พี่โชมันขมวดคิ้ว เก็บกุญแจใส่กระเป๋ากางเกง

   “จะกลับบ้าน เอากุญแจมา” ยังไม่ยอม

   “กลับทำไม” ยังมีหน้ามาถาม

   “พี่มีเพื่อนอยู่โคตรเยอะ ก็อยู่ไปสิ ผมจะกลับ เอากุญแจมา” เริ่มตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงตลกในทีวี

   “เป็นอะไร ทำไมต้องกลับ”

   “แล้วพี่จะให้ผมอยู่ทำไม ไม่มีใครสนใจผมสักคน แล้วดูสภาพห้องมันเละแค่ไหน พี่ไม่เคยสนใจ เพราะอะไร เพราะสุดท้ายผมเป็นคนต้องเก็บกวาดทุกอย่าง”

   “ก็ให้แม่บ้านมาทำ” พูดโคตรง่ายว่ะ

   “แล้วแม่บ้านจะมาวันนี้หรือพรุ่งนี้มั้ย? หรือพี่จะปล่อยให้ห้องเป็นแบบนี้จนกว่าแม่บ้านจะมาทำ?” พี่โชดูเงียบไป ทุกคนในห้องเริ่มเคลื่อนไหว ข้าวกล่องที่พากันกินแล้ววางทิ้งไว้เริ่มถูกเก็บทิ้งถังขยะ

   ผมมองเข้าไปยังในห้อง พี่แทมที่ว่าให้ผมเมื่อกี้สะดุ้งกับสายตาของผม มือก็เริ่มกวาดเศษขนมบนโต๊ะลงถังขยะที่พี่ตินถือ

   “มึงถือดีๆ สิวะ เดี๋ยวเศษขนมแม่งมันตกพื้นได้กวาดอีก” ได้ยินพี่แทมบ่นพี่ติน

   หน้าบึ้งแต่ยังไม่ยอมเอามือที่แบขอกุญแจลง พี่โชก็ไม่ยอมพูดอะไรจนสุดท้ายก็คว้าแขนแล้วดึงผมให้เข้าไปนั่งที่โซฟาที่ตอนนี้ทุกคนลุกกันหมด ไม่ได้ลุกกลับบ้านแต่ลุกทำความสะอาด พี่ซันดูดฝุ่นกับเศษขนมบนพื้นพรมโดยมีพี่จอมชี้นิ้วสั่ง พี่เบกับไอ้ทูก็ช่วยกันเอาผ้าแห้งมาเช็ดน้ำที่เปียกบนพื้นจนแห้ง แต่ถ้าจะให้ดี ควรหาเศษผ้าไม่ใช่เอาผ้าเช็ดตัวมาซับ

   ผมกวาดสายตาไปมองทางไหนทุกคนก็จะพากันสะดุ้งแล้วรีบทำในสิ่งที่กำลังจับ อย่างไอ้อัธที่รีบวิ่งเอาถุงขยะสีดำไปวางไว้ที่ระเบียง

   “ไอ้เชี่ยอัธ ห้ามวางถุงขยะไว้นอกระเบียง” ผมว่า เพื่อนมันก็ชะงักมือที่กำลังจะเลื่อนบานกระจก มันหันมามองผมแล้วยิ้มแหยๆ

   “แล้วต้องเอาไปไว้ที่ไหนวะ” มันถามเสียงอ่อย ผมชี้นิ้วไปทางประตูห้อง

   “เอาลงไปทิ้งข้างล่าง” ไอ้อัธมันเบิกตามองก่อนจะรีบพยักหน้าเมื่อผมเริ่มทำหน้าบึ้ง

   เหตุการณ์วุ่นวายเริ่มดีขึ้น พื้นห้องกลับมาสะอาดไม่มีคราบน้ำ บนโต๊ะหรือหน้าโซฟาก็ไม่มีเศษขนมเหลืออยู่ ขยะในห้องทุกถังถูกนำไปทิ้งด้านล่างจนหมด ตอนนี้ทุกคนที่เก็บกวาดก็นั่งที่พื้นพากันดึงคอเสื้อคลายร้อน ผมแอบเห็นพี่แทมสะกิดพี่เบให้ไปเอาน้ำเย็นในตู้แต่ไม่มีใครกล้า แม้แต่พี่จอมก็ยังส่ายหน้าแล้วรับลมเย็นๆ จากฝ่ามือของพี่ซันที่พัดให้

   หวานจริงคู่นี้

   ผมหน้าบึ้งลุกจากโซฟา ดูเหมือนเพื่อนของพี่โชจะรีบนั่งตัวตรงแล้วมองตามผมที่เดินไปที่ห้องครัว เดินกลับมาพร้อมกับขวดน้ำเย็นๆ สี่ขวด พอยื่นให้ปุ๊บเหมือนแร้งลง เพราะทุกคนพากันยื่นมือมาแย่งแล้วยกน้ำดื่มจนหมดทุกขวด

   “ไอ้เชี่ยตินมึงทำน้ำหยด” พี่เบตบบ่าเพื่อนตัวเอง พี่ตินตาเหลือกมองผมก่อนจะรีบเอาขาตัวเองถูๆ จนผมหลุดขำ แล้วกลับมาเก๊กเหมือนเดิม

   “ใช้แรงงานพวกกูขนาดนี้ยังไม่พอใจอีกเหรอวะ” พี่จอมบ่นจนโดนพี่แทมตบหัว

   “พูดทำไมวะ เดี๋ยวมันก็งอนอีกไอ้ห่าจอม”

   ผมเห็นพี่จอมทำปากขมุบขมิบจนหลุดหัวเราะออกมาจริงๆ พี่โชผลักหัวผมจนหน้าคะมำ ทุกคนต่างพากันมองอย่างสงสัย

   “อะไรวะ” พี่ซันถามขึ้นมา “หรือว่ามึงสมรู้ร่วมคิดกันหลอกพวกกูวะ” เริ่มขมวดคิ้วจ้องเพื่อนตัวเองที่ยืนยิ้มหล่อข้างผม พี่โชยักคิ้วนิดๆ แล้วก็มีเสียงโห่ขึ้นมา ผมก็รีบหลบหลังพี่โชทันทีที่เพื่อนและพี่ลุกขึ้นมาจะทำร้าย

   “ไอ้เหี้ยกลอยกูจะฆ่ามึง” พี่แทมวิ่งมาก่อนเบรกตัวเองเมื่อเจอพี่โชยืนเก๊กหน้าดุ “ฝากไว้ก่อน” ได้แต่ชี้หน้า

   ทุกคนพากันล้มตัวนอนลงดิ้นๆ โดยเฉพาะไอ้ม่านที่ต้องแบกถุงขยะสองถุงลงไปกับไอ้อัธ




   (ย้อนกลับไปก่อนจะเข้าห้อง)

   “พี่โช ถ้าห้องเละจะทำไง” ผมถามเจ้าของห้องที่กำลังกดเลขชั้นห้องคอนโดของตัวเองในลิฟท์ พี่โชมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วส่ายหน้า ผมหน้ามุ่ยพลางคิดแล้วก็ปิ๊งไอเดีย ดึงพี่โชลงมากระซิบกระซาบ พี่โชเลิกคิ้วแล้วขำออก

   “ต้องทำขนาดนั้น?”

   “อืมๆ เอาแบบนี้แหละ”

   “แล้วถ้าพวกมันไม่ทำล่ะ”

   “เราก็ใส่อารมณ์เข้าไปเยอะๆ ไง”

   “ทำได้เหรอ?”

   “ได้สิ นี่ใคร นี่ท่านกลอยประเกรียนนะ โอ้ย” โดนดีดหน้าผากไปที โคตรเจ็บ


   นั่นแหละครับ แผนการที่ผมเตรียมมากลับพี่โช ที่พี่โชไม่โวยวายอะไรก็เพราะแบบนี้แหละครับ เราต้องปรับอารมณ์ก่อน ถ้าพี่โชไม่นิ่งใส่ผมก็เล่นไม่ออก

   ผมเอาถุงของสดที่ซื้อเข้ามาวางในครัว ไอ้ม่านเดินมาดูผมเลยใช้มัน แม้ปากจะบ่นแต่ก็ยอมยกเขียงกับมีดไปหั่นหัวหอม มันหั่นไปร้องไห้ไป ผมกับไอ้ม่านพากันขำ เห็นพี่เบเดินมาส่องตอนไอ้ทูแหกปากร้องไห้ออกมา พอเห็นก็หัวเราะแล้วเดินออกไป

   “สำออยจริงมึงนี่” ไอ้ม่านด่า มือมันกำลังหั่นหมูยอ

   กับข้าว (แกล้ม) วันนี้ก็มีพวกยำต่างๆ กับข้าวผัดหมูครับ ผมกับพี่โชกลับมาก็บ่ายแล้วต้องมานั่งดูเพื่อนๆ ทำความสะอาดเสร็จจนเกือบเย็น พี่โชกินข้าวตอนเที่ยงไปนิดเดียว ผมเลยรีบทำข้าวผัดก่อน พอยกไปให้ พี่จอมก็รีบมานั่งข้างๆ แต่พี่โชลุกหนี พี่จอมเลยเดินตามผมเข้ามาแล้วขอไปจานหนึ่ง พี่จอมได้ คนอื่นๆ ก็รีบมาขอ แล้วก็กินครบทุกคน

   “กูว่า เปิดร้านให้เมียมึงเถอะ ทำอร่อยสัด” พี่ตินกวาดเศษข้าวจนไม่เหลือติดจาน

   “บ้านไอ้กลอยมันก็เปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่แล้วนะพี่” ไอ้อัธบอก

   “เออว่ะ กูลืมไป”

   จานที่ไม่มีเศษอะไรถูกพี่ซันยกมาแล้วล้าง พี่จอมหน้างอบ่นกับตัวเองแล้วเดินมาช่วยพี่ซันล้าง ผมมองคู่นี้แล้วก็ยิ้ม ผมมองออกคนแรกถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ เป็นอย่างไอ้กลอยว่ามั้ยล่ะ ได้กันแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งซะด้วย

   “มึงยิ้มโคตรน่ากลัว” รีบหุบหน้าเมื่อถูกไอ้ม่านเอามะเขือเทศปาหัว



   กว่ากับข้าวทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลากินข้าวเย็นพอดี มีแววทุกคนจะสิงห้องนี้ถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ พี่ตินกลับมาหลังจากออกไปซื้อของกับพี่เบ ถุงสีขาวๆ เห็นกล่องสีเงินๆ แวบๆ ของเมื่อคืนคงหมดแล้วสินะ

   ทุกๆ คนเดินมาช่วยยกกับข้าว หม้อข้าว และจานออกไป วันนี้คนคึกคัก กับข้าวก็หมดลงอย่างเร็ว ผู้ชายนี่คงใช้กับคำว่ากินไม่ได้ ต้องเรียกว่ายัดทุกคน โดยเฉพาะคนที่พวกคุณรู้ว่าใคร พี่จอมเบิ้ลข้าวเป็นจานที่สามแต่ถูกพี่ซันยกจานหนี ผมไม่รู้พวกเขาตกลงอะไรกันแต่ที่แน่ๆ พี่จอมยอมหยุดกิน

   มื้อค่ำจบลง จานถามทุกอย่างก็ถูกยกไปกองในอ่าง พี่ตินกับพี่แทมเป็นคนแพ้ในการโอน้อยออก ทั้งคู่จึงเป็นคนล้าง แต่สุดท้ายก็เป็นผมที่ต้องไปล้างซ้ำ ‘พวกพี่เล่นล้างแบบลวกๆ ด้านหลังจานก็ไม่ขัด มันยังมันเยิ้มอยู่เลย’ นั่นคือประโยคที่ผมบ่น พี่แทมเลยลองให้ผมล้าง สุดท้ายก็อย่างที่เห็น ผมล้างคนเดียวหมด ทำก็ทำให้กิน ยังต้องมาล้างอีก โคตรไม่ยุติธรรม

   เช็ดมือเสร็จผมก็เดินกลับมายังหน้าทีวี โต๊ะตัวเตี้ยถูกแปลสภาพเป็นโต๊ะเหล้า กล่องเหล้าห้ากล่องถูกวางเรียงราย พร้อมโซดาน้ำแข็ง ยำต่างๆ ถูกตักมาเป็นกับแกล้ม

   “มานั่งมึง” ไอ้ม่านกวักมือเรียกผมไปนั่งข้างๆ มันชงเหล้าให้ผมแก้วหนึ่ง พอผมยกก็เห็นหน้าพี่โชผ่านแก้วเหล้า หน้านิ่งๆ ที่จ้องมาแทบทำให้สำลัก

   “ไอ้เหี้ยโช มึงจะจ้องเมียทำไมเยอะ เมื่อคืนก็จัดเต็มขนาดนั้น” พี่ตินว่าให้เพื่อนตัวเอง

   “แต่ทำไมไม่มีเสียงออกมาวะ” พี่แทมยื่นหน้ามาถามพี่โชจนผมสำลักออกมาจริงๆ ไอ้อัธลูบหลังป้อยๆ

   “สมองมึงหัดใช้บ้างไอ้เชี่ยแทม” พี่จอมด่าเพื่อนตัวเอง

   “แล้วมึงรู้?” โดนถามกลับ พี่จอมมองนิ่งแค่ยักคิ้ว

   “มันก็ทำให้ห้องน้ำสิวะ เก็บเสียง” เป็นพี่ตินที่ตอบแทน พี่จอมยกนิ้วโป้งให้จนพี่ตินยืด ก่อนโดนพี่โชตบหัว

   “เลิกเสือกเรื่องของกูสักที วันเกิดกูยังมายุ่งเรื่องของกูอีก” พี่โชบ่น

   “บอกมาเถอะว่าพวกกูขัดขวางพวกมึงจู๋จี๋ดู๋ดี๋บนเตียง” พี่แทมยิ้มกรุ้มกริ่ม

   “รู้ก็ดี” พอพี่โชตอบพี่แทมก็ปรบมือให้ทันที

   “เพื่อนกูตอบได้ตรงมาก”

   ผมส่ายหน้าให้กับทุกคน ไม่ใช่อะไรหรอก โดนคำสั่งเดิมคือห้าแก้ว ตอนนี้ทุกคนเริ่มคึกด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ คาราโอเกะถูกนำมาเปิดอีกรอบ พี่แทมจับไมค์เป็นคนแรก อยากเป็นบี้เดอะดาว ร้องจนเสียงไมค์หอนแถมยังเต้นซะไมค์ปลิวไปตกที่โซฟา เกือบโดนหัวพี่ซันที่นั่งใกล้ตรงนั้น

   พี่เบรีบโดดไปตะคุบไมค์มาได้ก็อยากเป็นป๋าเบิร์ด พยายามดัดเสียงซะจนไอ้ทูหัวเราะงอหงาย พี่โชยังขำคิดดู พี่จอมพยายามแย่งไมค์อีกอันกับพี่ติน ยื้อกันไปมาจนเสียงไม่ออก ไม่ว่าจะแกะแงะแพะยังไงก็ไม่ดีขึ้น ไมค์อันนั้นเลยถูกทอดทิ้ง

   “ไอ้พวกเพื่อนสารเลว ให้กูขับร้องบัดเดี๋ยวนี้เอิงเอย” พี่ตินลุกขึ้นกางขาตบเข่าแล้วชี้ไปที่พี่เบกำลังร้องเล่าสู่กันฟัง (แบบเพี้ยนๆ) ผมนั่งหัวเราะมอง พวกพี่แกไม่เต็มกันสักคน

   เห็นบอกอยากระบายจากการทำงาน นี่เครียดจนเป็นบ้ากันขนาดนี้ หรือบ้ากันแบบนี้อยู่แล้วก็ไม่รู้

   ผมลุกไปตักยำมาเพิ่ม กลับมาเห็นพี่โชถือไมค์ไว้ อย่าบอกว่าพี่จะร้องเพลง แม้จะเคยได้ยินมาบ้างตอนพี่แกอารมณ์ดีหยิบกีต้าร์มาเกา แต่ร้องแค่อยู่กับผมสองคน

   “ไอ้เกรียนมานั่งนี่เร็วๆ เพื่อนกูจะเห่าให้ฟัง” โดนฝ่ามือพี่โชไปเต็มหัว พี่แทมถึงกับลงไปนอนกองโอดโอยแบบสำออย
   ผมยิ้มแล้วนั่งลงข้างไอ้ม่านเหมือนเดิม พี่โชนั่งตรงข้ามมองผมยิ้มๆ เพลงถูกกดเล่นโดยพี่ซัน เสียงเพลงเล่นไปผมก็เริ่มหน้าร้อนเพราะเขิน

   “ก็ไม่คิดก็ไม่เคยจะฝัน ว่าจะได้เจอกับเธอคนนั้น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉัน เหมือนเรื่องราวอย่างในนั้น ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน ก็ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป ก็ไม่รู้จะจบลงแบบไหน ฉันเองก็ไม่รู้” พี่โชร้องเพลงไปยิ้มไป ส่วนผมก็นั่งจ้องหน้าบ้างก้มบ้าง ก็มันเขินนี่นา

   “เพื่อนกูๆ” เสียงพี่แทมแทรกขึ้นมาโดนมือพี่โชตบหัวไปแบบเบาๆ “สัด”
   “แต่เราสองนั้นก็ได้มาพบและเจอกัน เธอกับฉันเหมือนว่าฟ้านั้นขีดมาให้พบเจอ และตัวฉันก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอ ว่าเธอคนนี้ จะใช่คนนั้นหรือเปล่า” พี่โชยื่นไมค์ไปให้เพื่อนตัวเองช่วยร้องพร้อมๆ กับตัวเอง คงเขิน ผมเห็นหูแดงด้วย “ก็ไม่คิดว่าจะรักเธอคนนี้ ก็ไม่คิดว่าจะรักกับคนแบบนี้ ไม่ใช่แบบที่คิดเลย ก็ไม่ใช่คนที่เคยฝันเอาไว้ ก็ไม่ใช่คนที่ใจอยากยอมรับว่าใช่ แต่รู้ตัวเองอีกทีก็รักเธอ~” พี่โชชี้มาทางผมเอาซะผมเขินตัวแทบแตก ยิ้มจนปวดแก้มไปหมด

   กว่าเพลงจะจบลง ไอ้กลอยก็แทบม้วนเป็นไข่หวาน พี่โชพอจะหวานก็หวานขึ้นมาเฉย ไม่ถงไม่ถามสภาพไอ้กลอยคนนี้สักคำ พี่แทมยื่นไมค์มาทางผม

   “อะไร” ผมมองอย่างงงๆ

   “อ่าว ก็เพื่อนกูร้องเพลงให้มึงแล้ว มึงก็ร้องเพลงให้เพื่อนกูบ้างสิ” พี่แทมว่าแล้วก็พากันปรบมือ แต่พวกไอ้อัธส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   “ได้อยู่แล้ว” ผมยื่นมือจะคว้าไมค์แต่โดนไอ้อัธคว้าไปแทน “ทำเชี่ยไรวะ” แหวใส่เพื่อนตัวเอง

   “ผมว่า ถ้าฟังไอ้กลอยร้องนะ เปิดแต่ดนตรียังดีซะกว่า” ไอ้อัธแม่งดูถูกผมว่ะ แบบนี้ยอมไม่ได้ รีบแย่งไมค์มาจนถือครองสำเร็จ ไอ้อัธรีบยกมืออุดหูทันทีที่ผมสั่งเพลงไป

   “ท้องทะเลท้องฟ้ามีเพียงแค่เรา ท่ามกลางหาดทรายขาว” ผมร้องขึ้นอย่างไพเราะจนทุกคนพากันอุดหู “แสงดวงดาวพร่างพราว ประกายสวยงาม ดั่งบนสวรรค์เปิดทาง ให้คนอ้างว่างอย่างฉัน บอกความในใจให้เธอได้ฟัง โอกสอย่างนี้ต้องพูดไป” ผมร้องไปยื้อไมค์ไปเพราะถูกไอ้ม่านพยายามจะดึงออก ถลึงตาไปมันก็ยังไม่ยอม

   “พอเลยไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้ม่านว่า มือมันก็ออกแรงดึง แต่ผมยื้อไว้

   “ว่าทั้งหัวใจ มีแต่เธอนั้น อยากให้เชื่อกัน พยานคือฟ้าที่เฝ้าดู แล้วเธอคิดอย่างไรเมื่อได้รู้บอกที อยากฟังจากปากเธอ” ผมร้องยานคางแล้วเริ่มร้องท่อนกลาง ทุกคนพร้อมใจกันยกมืออุดหู ขนาดพี่โชยังปิด “หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆ เหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้นที่จะต้องพูดมา แค่ร้องว่าอ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา ก็พอ และฉันจะขอเป็นคนนั้นที่ดูแลหัวใจ ไม่เคยบอกรักใครคนไหนเพิ่งจะมีแค่เธอ และฉันก็อ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา เหมือนเธอ แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าจาย~” ร้องได้ถึงตรงนี้ผมก็ถูกพี่โชดึงไมค์ออก ได้แต่มองหน้ามุ่ย ทำไมพี่โชได้ร้องจบเพลงแล้วผมร้องไม่จบวะ ลำเอียงชัดๆ

   จากนั้นพวกเสียงเพี้ยนก็ผลัดกันร้อง จะมีคนร้องเพลงเพราะก็พี่ซันที่ร้องซะเคลิ้มกับไอ้อัธที่เสียงดีอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็มีแต่เสียงหัวเราะ ผมก็ขำบ้าง บึ้งบ้างเมื่อมองหน้าเจ้าของวันเกิด ผมลุกมาตักยำเพิ่ม พี่โชลากผมเข้าห้องนอนทันทีที่วางจานลงบนโต๊ะ

   “จะไปไหนเนี่ย” ผมว่า พี่โชล็อกห้องเสร็จก็ดึงผมกอด “อะไร”

   “งอนพี่เหรอ” ถามข้างๆ ใบหู

   “งอนเรื่องอะไร” ถามกลับ พี่โชขำเบาๆ

   “เรื่องร้องเพลง” ยู่ปากเมื่อได้ยิน

   “ผมร้องไม่เพราะเหรอ” กล้าถามนะผมเนี่ย

   “มากที่สุด” นี่ก็ไม่รักษาน้ำใจสักนิด

   “ตรงเหี้ยๆ” ผมว่า พี่โชหัวเราะร่วน

   มือที่กอดอยู่ช่วงเอวเริ่มไล้ต่ำลงๆ จนผมต้องตีมือแล้วถอยห่าง จะให้เหมือนเมื่อคืนคงไม่ไหว พี่โชหน้าบึ้งเมื่อไม่ยอม

   “วันนี้วันเกิดพี่นะ” เสียงกับใบหน้าอ้อนสุดๆ

   “แต่เพื่อนพี่เต็มห้อง”

   “ทีเมื่อคืน...”

   “นั่นไม่นับ”

   “แต่...”

   เสียงเคาะประตูดังรัวๆ จนพี่โชต้องเดินไปกระชากแล้วเปิดออก พี่แทมยืนยิ้มแป้นแล้น พี่ตินที่ยืนซ้อนอยู่ชะโงกข้ามตัวพี่โชเข้ามา

   “ก็นึกว่าเล่นจ้ำจี้กัน”

   “พ่องมึงสิ” พี่โชเดินหัวเสียออกไปนั่ง มือยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ส่วนพี่แทมกับพี่ตินก็กลับไปนั่งที่เดิม ผมก็เดินตามไปแอบยกบ้างอะไรบ้างยามพี่โชสนใจเพื่อนตัวเองที่เต้นแร้งเต้นกาให้ดู

   พี่เบยังเก๊กเสียงป๋าเบิร์ดอยู่เหรอวะ ร้องเพลงพริกขี้หนูร้องซีดซ๊าดอู้อ๊าซะกลัวข้างห้องคิดไปไกล ตอนนี้ไมค์อีกอันดีแล้ว นั่นเพราะพี่จอมบ่น พี่ซันเลยเอามาทุบๆ ดูปรากฏว่าดีเฉย

   “มองเชี่ยไร” พี่จอมด่าผม

   “เปล๊า” เสียงสูงตอบจนโดนไมค์เคาะหัว เสียงดังจนลำโพงแทบแตก พี่เบหยุดร้องแปบหนึ่งก่อนกลับมาเต้นอีกรอบ

   ไมค์สองอันร้องประสาน อยากสงสารข้างห้องมาก แต่ผมควรสงสารตัวเองก่อน หัวเราะจนปวดท้องไปหมด เมื่อพี่แทมบีบเสียงเป็นนิว พี่เบเป็นจิ๋ว สองคนดวลเพลงพร้อมเต้นเพลงฮิต ไม่รักไม่ต้อง และคงเต้นเพลินจนไมค์ของพี่เบกระแทกเต็มปากพี่แทม อันนี้ฮาจริง พี่แทมนั่งลงกุมปากที่มีเลือดออกแล้วโวยวาย

   “เชี่ย ปากกู” พี่แทมโวยวาย พี่ตินล้วงเอาน้ำแข็งให้ประคบปากที่โดนฟันกระแทก

   พอนักร้องมือสองเจ็บ มือสามเลยขึ้นครองแทน นั่นคือพี่ติน พี่แกอยากเป็นคนเกาหลี แต่แม่งร้องเพลงอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ผมได้แต่ขำอย่างเดียว ฟังออกแค่ซอรี่ ซอรี่

   เหล้าค่อยๆ หมดไปทีละขวดๆ พี่ซันจับไมค์ได้ก็ร้องเพลงให้พี่จอมที่ตาหวานเยิ้ม (ด้วยความเมา) ผมมองไปยิ้มไป ชอบดูเวลาคนอื่นเขารักกันนะครับ ดูมีความสุขดี ส่วนไอ้ม่านกับไอ้ทูน็อคไปแล้วครับ แดกไม่ดูสภาพสังขารตัวเอง ตอนนี้เหลือแต่พวกคอแข็ง อยู่ๆ พี่แทมก็หัวเราะขึ้นมาจนผมตกใจ

   “กูมีของดีเว้ย” พูดจบก็เดินไปเปิดเป้ตัวเอง ขวดใสที่มีน้ำสีชมพูไหวอยู่ในนั้น ทุกคนจ้องอย่างสงสัย

   “อะไรวะ” พี่โชถามเพื่อนตัวเองขณะที่คนถือกำลังรินใส่แก้ว

   “ลองสิ ของดีนะมึง” พี่แทมยื่นให้พี่โช คนได้รับมาจิบๆ ดวงตาคมเบิกกว้างแล้วยิ้มออกมา “เป็นไง รสชาติดีใช่มั้ย” พี่โชพยักหน้าแล้วยกรวดเดียว

   การลองของพี่โชผ่านไป ทุกคนก็เริ่มขอบ้าง ขนาดผมยังได้จิบนิดหนึ่ง โคตรอร่อยๆ แต่รสชาติแม่งคุ้นๆ เหมือนเคยกินที่ไหน

   “ยาดอง?” ไอ้อัธเอ่ยถามขณะยื่นแก้วคืน ใช่ๆ รสชาตินี้เลย

   “เก่งมากไอ้น้อง” พี่แทมยกมือให้ ไอ้อัธก็ยักคิ้ว

   “มึงรู้ได้ไงวะ” พี่ตินถาม

   “โหลนี้ผมเพิ่งไปลองมา” ไอ้อัธเหล่ตามองผมด้วย นี่ผมพยายามไม่มองแล้วนะ พี่โชที่เริ่มสงสัยก็จ้องมาทางผมนิ่ง ไอ้อัธวางระเบิดใส่ผมอีกแล้ว แต่โชคดีที่พี่แทมดึงให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม

   “ระวังเมานะพี่” ผมบอก พี่แทมยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมา

   “เหล้ายังไม่หมด อย่าเพิ่งนับศพคนเมาไอ้น้อง”



   เวลาผ่านไป ทั้งเหล้าแพง ทั้งยาดองเริ่มหมด สภาพแต่ละคนอย่าเรียกว่าเมา ต้องเรียกว่าไร้สภาพความเป็นคน ผมคงนับศพคนเมาได้แล้วสินะ รายแรกพี่จอมที่วิ่งไปโก่งคออ้วกในห้องน้ำ ส่วนคนอื่นๆ นอนตายอยู่ที่พื้น พี่แทมโวยวายอะไรสักอย่าง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบ้าน พี่ตินก็โวยวายเรื่องเจ้านายบ้าอำนาจ พี่โชก็นั่งคอตก เมาเหมือนเพื่อนตัวเองแต่ไม่ยอมนอนพื้น มือขาวๆ กวักให้ผมเข้าไปหา

   “ไปนอน” เสียงยานคางบอก ผมรีบประคองพาคนเมากลับห้อง ขาพี่โชแม่งแทบไม่ยอมก้าว ผมลากบ้างหยุดบ้างคือมันโคตรเหนื่อย “นอน จะนอน” พอไม่ได้ดั่งใจพี่แกก็โวยวาย

   “ครับๆ ไปนอนๆ” เหนื่อยมากกว่าจะถึงเตียง ผมทุ่มพี่โชลงเตียง พี่แกก็คลานขึ้นไปนอนหนุนหมอน ผมปาดเหงื่อเดินไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนเมา นี่คือข้อเสียของคนถูกจำกัดการดื่ม เพราะต้องดูแลคนเมาแทบทุกอย่าง
 
   ขณะกำลังเอาผ้าชุบน้ำ ได้ยินเสียงคนอ้วก พอวิ่งออกมาก็เห็นคนเมาบนเตียงโก่งคออ้วกข้างๆ ยำทุกอย่างกองอยู่ที่พื้น แทบอยากจะเอาผ้าฟาดหน้าหล่อ แต่ก็ทำไม่ได้ กลับหายเมาแล้วจะถูกเอาคืน ผมใช้ทิชชู่ปาดเอาของต่างๆ ใส่ถังขยะ พอเสร็จก็เอาผ้าที่ปาลงพื้นมาเช็ดตัวคนเมา นี่ก็ไม่ยอมให้เช็ด

   “นอนดีๆ สิวะ” พยายามเช็ดทั้งๆ ที่โดนปัดออกตลอด เริ่มโมโหเลยลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ใช้เวลานานพอสมควรผมก็เดินตัวหอมออกมา “เชี่ย” อุทานออกไป

   บนเตียงหอมที่เพิ่งเปลี่ยนมาคลุมเตียงใหม่ มีร่างใหญ่ๆ ของคนเมาสี่คนนอนอยู่ พี่โชนอนริมสุดโดนขาของพี่แทมพาดที่ขา ข้างพี่แทมก็เป็นพี่เบนอนกอดกับพี่ติน

   ถอนหายใจออกจากห้องมาเจอพี่จอมกับพี่ซันนอนกอดกันที่พรม ไอ้อัธนอนข้างกองเหล้า ไอ้ทูกับไอ้ม่านนอนกอดกันบนโซฟาก่อนอยู่แล้ว สภาพห้องที่สะอาดกลับมาเละเทะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออ้วก อยากจะโมโห อยากจะระบายแต่ไม่รู้จะว่าให้ใครดี

   เก็บซากอารยะธรรมทุกอย่างเสร็จฟ้าก็สว่างพอดี สรุปแล้วผมไม่ได้นอนครับ ได้งีบตอนนั่งที่โต๊ะกินข้าวก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโวยวาย พอวิ่งเข้าไปในห้องนอน เบิกตากว้างดูพี่ตินโวยวายเป็นบ้าเป็นหลัง

   “อะไรพี่อะไร” ผมถาม พี่ตินถูปากตัวเองไปมา มองตาขวางไปทางพี่เบที่นั่งสะลึมสะลือ

   “ไอ้เชี่ยเบจูบกู ไอ้สัด มึงกล้าจูบกูเหรอวะ” ผมหลุดขำออกมา พี่โชกับพี่แทมก็ปรือตามานั่งมอง สภาพแต่ละคนถอดเสื้อทิ้งคนละทิศละทาง

   “กูจูบมึงเหรอวะ” พี่เบถามงัวเงีย

   “เออดิ่สัด ขนลุกเหี้ย” พี่ตินลูบแขนตัวเอง

   “มึงจะโวยวายห่าอะไร มึงก็จูบไอ้เบคืนสิ จะได้หายกัน” พี่แทมอ้าปากหาววอดๆ

   “พ่องมึงสิ” พี่ตินโวยวายแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

   พี่โชกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา พอเข้าใกล้ก็ถูกมือดึงไปจูบ เชี่ยเอ้ย ปากยังมีกลิ่นเหม็นบูดของอ้วกอยู่เลย ผมดันหน้าพี่โชออกจนคนถูกดันหน้ามุ่ย

   “ไปอาบน้ำ”

   ทุกคนว่าง่ายมาก ผลัดกันอาบน้ำ พี่จอมปากบ่นปวดเมื่อยเมื่อนอนบนพื้น มือก็หยิบกินขนมปังปิ้งที่ผมปิ้งให้ ทุกคนเตรียมเสื้อผ้ามากันคงคิดอยู่แล้วว่าจะมีสภาพกันยังไง

   “นี่พวกเราเมาแล้วทำความสะอาดห้องกันเหรอวะ ทำไมถึงปวดเมื่อยขนาดนี้” พี่แทมบิดเอวไปมา ผมมองขวับ กล้าพูดมาก เมาแล้วทำความสะอาด

   “นั่นสิ” พี่เบเห็นด้วย

   “เก่งเหี้ยๆ เลยกู” พี่ตินยิ้ม

   “หิวข้าว” พี่จอมบอกพี่ซัน ซึ่งก็พากันกลับ ผมมองตามคู่รักนั้นไป

   “พวกผมกลับนะพี่” ไอ้อัธบอก พี่โชก็พยักหน้า

   “กูกลับก่อนนะมึง”

   สุดท้ายทุกคนก็กลับกันหมด ผมยังเงียบไม่พูดอะไร จนพี่โชดึงไปนั่งตัก

   “เป็นอะไรหื้ม หน้าบึ้งเชียว” โดนบีบจมูก ผมส่ายหน้าตอบ “หน้าบึ้งแบบนี้บอกไม่มีอะไรได้ยังไง ไหนบอกพี่ซิ” ผมก็ยังส่ายหน้า ดวงตากระพริบถี่ๆ

   “พี่โช”

   “ครับ มีอะไร”

   “คือผม”

   “ครับ?” ยื่นหน้าไปกระซิบข้างๆ หู “มีอะไร ทำไมไม่พูด กลอยครับ” แรงเขย่าเริ่มแรงขึ้นจนร่างที่นั่งตักเอนตัวแล้วลงไปนอนกองกับพื้น



   กลอยหลับกลางอากาศไปแล้วจนคนที่ให้นั่งตักตกใจเพราะคว้าไม่ทัน หน้าผากที่กระแทกพื้นเสียงดังลั่นจนเขียว อีกไม่นานคงช้ำแน่ ร่างสูงรีบช้อนร่างที่นอนหลับสนิทที่พื้นเข้าห้อง ก่อนหาน้ำแข็งมาประคบ ใบหน้าขาวที่นอนหลับพริ้มจุดรอยยิ้มบนปากแดงได้ไม่ยาก ก่อนจะรีบหุบเมื่อได้ยินเสียงที่เพ้อออกมา

   “ไอ้ปีศาจโช แม่ง%4#*&@%*)&%#”

   ฟังออกแค่ประโยคแรกๆ จากนั้นพูดไม่เป็นภาษา ใจก็อยากจะโกรธแต่ก็นึกขันไอ้เด็กเกรียนตรงหน้า ตอนร้องเพลงให้ก็อยากจะซึ้งแต่เสียงแม่งไม่ไหวจะฟังจริงๆ แต่แค่นั้นเขาก็ดีใจสุดๆ แล้ว

   “รักนะครับ” โชก้มจูบหน้าผากมนเบาๆ พร้อมยิ้มกว้างเมื่อมีเสียงตอบกลับมา

   “รักเหมือนกันไอ้ปีศาจร้าย” แม้จะนอนหลับสนิทแต่ก็ตอบกลับ มิน่าถึงมีแต่คนบอกว่ามันเกรียน แต่ถึงจะเกรียนก็ยังรักอยู่ดี เพราะมันคือของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุด     



...

พาพี่โชมาราตรีสวัสดิ์ค่าาา มาช้าไปหน่อย ว่าจะลงตั้งแต่เช้าแต่มัวขี้เกียจ (น่าจับมาตีๆ)

แล้วเจอกันตอนพิเศษตอนหน้าค่าาา


**หมายเหตุ เพลงพี่โชร้อง - ไม่คิด ลิปตา เพลงที่กลอยร้อง - อาย สิงโต**    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2016 09:02:57 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
งานนี้คนน่าสงสารที่สุดคือกลอยเกรียนหลับกลางอากาศเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กลอยหลับยังเกรียนได้อีกนะ 555555555 :m20: :m20:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
แหม น้องกลอยน่าจะโกรธพวกพี่ๆจริงๆเลยก็ดีนะ
 :impress2:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ทำความสะอาดนี่มันเหนื่อยจริงๆนะสงสารกลอย โถวว ดูดิหลับกลางอากาศซะหัวกระแทกเลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องกลอยนี่น๊า แสดงละครเก่งได้อีก พี่โชก็เป็นใจ ตามใจเมียสุดๆ ^^

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สงสารกลอยประเกรียนเหลือเกิน ท่าจะเหนื่อยมากๆ ล้มห้วโขกพื้นแล้วยังหลับได้อีก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แค่อ่าน "มึงยิ้มโคตรน่ากลัว" ก็หลุดหัวเราะและ
พี่ซันมีการใช้มือโบกพัดให้พี่จอม หวานได้อีก
(ทำให้นึกถึง วัฒนธรรมเกาหลี พวกไอดอล พอเขิน ก็เอามือพัด โบกใส่ตัวเอง)
พอเมากันแล้ว สภาพน่ากลัวว่าจะเลยเถิดไปอย่างว่า
มีกอดกัน หอมกันผิดคู่
คู่ที่ถูกคือพี่ซัน พี่จอม พ๊่ซันวางแผนไว้ก่อนแน่
จบกัน ความเร่าร้อน สุดเซ็กส์ หื่น ของเจ้าของวันเกิด
ถูกเพื่อนๆ ทั้งของพี่โช ของกลอย ป่วนหมด
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2016 13:14:30 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
กลอยก็ยังเป็นกลอยที่เกลียนและรักพี่โชอยู่เสมอ ส่วนพี่โชก็ยังเป็นปิศาจที่รักน้องกลอยคนเดียวที่สุด :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อ่านจบแล้ว สนุกมากค่ะ แต่งงกับช่วงดราม่าหน่อยนึง


ออฟไลน์ meng

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อร๊าาาาาาาา

คิดถึงเกรียนกรอยมาก กำลังนั่งดูอะไรไปเรื่อยเปิดมาเจออัพพอดี

มาต่อตอนหน้าไวไวนะครับ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เรื่องนี้น่ารักมากกก
ชอบพี่โชกับกลอยเรียนมากก
พี่โชแบบอบอุ่นนอะ แต่ขี้หึง ขี้หวงมากกก
เค้ารักของเค้าอะ ต้องยอมเค้าไป
กลอยก้น่ารักสุดๆเลย รักพี่โชม๊ากกมากก
ทำงานบ้านนี่เหนื่อยมากอะ
ถึงจะเหนื่อยยังไง จะด่ายังไง กลอยก้รักพี่โชที่สุดอยุดี
ขอบคุณค่ะ รออ

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ตอนพิเศษเยอะจุใจจจจ :katai2-1:

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
สภาพแต่ละคนอย่างขำ แต่สงสารกลอยประเกรียนจริงนะนี่  :laugh:

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หนูมาถูกทางแล้วลูก กลอยประเกรียน แม่บ้านแม่เรือนของพี่โช ทั้งทำอาหาร เก็บกวาดเช็ดถู ดูแลทั้งสามีเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนสามีอีก อย่างนี่จะไม่ให้พี่โชรักหลงได้ยังไง

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ขอบคุณเรื่องดีๆค่ะ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I ตอนพิเศษ : งานเข้า



       งานมหาลัยที่ผมไม่ค่อยชอบเพราะต้องทำงานหนัก ยิ่งมีผู้คุมที่กำหนดเวลากลับด้วยยิ่งลำบาก บางทีมันต้องทำงานดึกเกินกว่ากำหนด มือถือของผมก็จะสั่นอยู่ตลอดเวลา นานเข้าปีศาจจะก็มาเยือนถึงถิ่นพร้อมใบหน้าที่พร้อมจะเขมือบทุกคน ดังนั้นผมเลยได้อภิสิทธิ์กลับก่อนตลอด

   อย่างวันนี้ แม้พรุ่งนี้จะมีงานแล้วแต่ผมก็ได้กลับก่อนหนึ่งทุ่ม สายตาหลายคู่ต่างมองเหมือนผมเป็นขยะเพราะกินแรง แต่มันไม่มีทางเลือกจริงๆ

   “มึงสบายเกินไปแล้วไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้เคบ่น มือมันก็ตอกไม้เตรียมทำกรอบรูป

   “หรือมึงจะให้พี่โชมาเฝ้ากู” ผมบอกพลางสะพายเป้เตรียมตัวรอคนมารับ

   “ให้มันกลับเถอะ กูยังไม่อยากถูกฆ่าด้วยสายตาไอ้สัด” ไอ้สักกำลังเคร่งเครียดในการประกอบไม้เป็นกรอบรูป

   “กูเห็นด้วย” ไอ้ทูรีบพยักหน้าจนผมขำ

   มือถือสั่นผมบอกลาเพื่อนแล้วรีบเดินออกไปหน้าตึก ขากำลังจะก้าวลงบันไดชักกลับแทบไม่ทันเมื่อเจอไอ้เด็กหน้าละอ่อนสามคนเดินมาขวางจนผมตกใจ

   “พวกมึงทำเหี้ยไรวะเนี่ย” ผมตะคอก เกือบตกบันไดแล้วไอ้กลอย
 
   “ทำไมพี่ไม่อยู่ช่วยคนอื่นๆ ทำงานล่ะ กลับก่อนตลอด” ไอ้เม่นมันทำตาขวาง แอบเห็นเหล่ไปที่รถที่จอดอยู่หน้าตึก   “มารับทุกวันเลยนะ” ไอ้เบียร์ทำหน้ามุ่ยมองผม

   “กินแรงเพื่อนทุกวันไม่ดีนะครับ” สุดท้ายก็ไอ้ไม้มันแขวะ

   จ้องหน้าไอ้เด็กปีหนึ่งที่กล้าปีนเกลียวผม เพื่อนผมแม้มันจะด่าจะแขวะแต่มันคือเพื่อนของผมไง แต่ไอ้เด็กพวกนี้ยังอยู่แค่ปีหนึ่งกล้าว่าปีสามแบบผมขนาดนี้

   “เพื่อนกูยังไม่ว่ากูสักคำ” บอกไปงั้น ที่จริงโดนกระหน่ำทุกวัน

   “พี่เขาไม่กล้าว่าต่อหน้ามากกว่า” พวกมันกำลังไซโคผม

   “เรื่องของกู พวกมึงอยู่แค่ปีหนึ่งอย่ามายุ่งเรื่องของปีสาม รีบไปทำงานก่อนกูจะให้เพื่อนกูซ่อมพวกมึง” บอกเสียงนิ่ง แต่ดูไอ้เด็กพวกนี้ไม่กลัวเพราะยังไม่ยอมขยับไปไหน ผมเห็นพี่โชเปิดประตูออกมา ใบหน้าบึ้งตึง “รีบๆ ไปเลยพวกมึงน่ะ” สั่งก่อนรีบวิ่งแหวกไปหาพี่โช ถ้าปล่อยให้มาถึงตัวละก็ มีเรื่องแน่

   วิ่งมาถึงพี่โชไม่ได้มองผมแต่จ้องหน้าไอ้เด็กสามคนที่ยืนอยู่ที่บันได ขนาดผมไล่พวกมันยังไม่ยอมไป สายตาสามคู่จ้องพี่โชอย่างไม่กลัวเกรง ขนาดเพื่อนผมยังกลัว แต่ไอ้เด็กพวกนี้ทำเหมือนจ้องสายตาคนทั่วๆ ไป

   “รีบกลับเถอะนะ ผมหิวข้าวแล้ว” ดึงแขนพี่โชแล้วผลักให้เข้าไปในรถ ผมอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง พี่โชยังหันไปมองก่อนจะออกรถไป

   เกือบไปแล้ว เกือบมีเรื่องแล้ว

   บรรยากาศในรถโคตรอึมครึมไม่สดใส ยื่นมือไปเปิดเพลงเผื่อมันจะดีขึ้น แต่คนขับรถยังนิ่ง
 
   “เอ่อ ผมอยากกิน...”

   “ไอ้เด็กพวกนั้นมันยังมายุ่งอีกเหรอ” เสียงโคตรนิ่งจนขนแขนเกือบลุก ช่วงก่อนพี่โชให้พวกอีเข็มคอยกันท่าก็หายไปสักพัก ตอนนี้พวกมันคัมแบ็คอีกแล้วก็เลยเป็นแบบนี้

   “หา เด็กไหน”

   “ไอ้เด็กสามคนเมื่อกี้” สายตาดุตวัดมองผมเลยยิ้มแห้งๆ พยักหน้า “มันน่าจับไปกระทืบให้นอนโรงพยาบาลสักเดือน” พี่โชสบถยาวเหยียดคล้ายกับปลุกความปีศาจในตัวเอง

   “พวกมันก็แค่กวนตีนผมเฉยๆ ไม่ได้จริงจังหรอก” รีบแก้ตัวให้พวกมัน ก่อนจะโดนอำนาจปีศาจอุ้มหายไป

   “เข้าข้างพวกมัน?”

   “เปล่าเลย” รีบส่ายหัว “พี่อย่าไปใส่ใจพวกมันเลยนะ คิดว่าพวกมันเป็นแฟนคลับผมก็ได้ แบบผมเป็นนักร้องเกาหลีที่ดังมากพวกมันเลยคลั่งแบบนี้น่ะ”

   “หึๆ” ในที่สุดปีศาจก็หัวเราะ ตั้งแต่พี่โชทำงานก็ดูสุขุมขึ้นมาก แต่ความเป็นปีศาจยังคงเดิม

   กับข้าวมื้อค่ำตัดสินใจทำกินเองครับ ขี้เกียจไปเบียดรถติด ทำกับข้าวแบบง่ายๆ สองสามอย่าง พี่โชชอบกินทุกอย่างที่ผมทำและหมดจานทุกครั้ง มันเหมือนเป็นกำลังใจให้คนทำ จนผมวางแผนการล่วงหน้าไว้แล้ว ถ้าเรียนจบจะไปรับช่วงร้านอาหารต่อจากแม่ ไอ้กลอยต้องรวยแน่นอน

   วันนี้เวรที่โชล้างจาน ผมเลยมานั่งแชทหาไอ้ทูที่มันยังอยู่ที่มหาลัย เล่าให้มันฟังว่าตอนหัวค่ำก่อนจะกลับผมเจออะไรบ้าง ไอ้ทูมันส่งหมีหัวเราะมาเกือบสิบอันเลยส่งเสียงด่ามันไป

   “คุยกับใครน่ะ” พี่โชเดินเช็ดมือมานั่งข้างผม หน้าหล่อยื่นมาดูแชทที่ผมกำลังพิมพ์อยู่ ผมวางมือถือลงแล้วหันหน้าไปจ้อง “อะไร”

   “ทำไมพี่ไม่ให้ผมทำงานกับเพื่อนอ่ะ ผมโดนพวกมันด่าทั้งวัน บอกว่ากินแรง” พวกที่สนิทก็คุยง่ายหน่อย แต่พวกไม่สนิทคงมองผมเป็นหลุมดำแน่

   “ก็พี่เป็นห่วง กลับดึกมันอันตราย แล้วงานพี่ก็เยอะ ไปรับดึกๆ คงไม่ไหว”

   “ผมให้ไอ้ทูมาส่งก็ได้ พี่จะได้ไม่ต้องไปรับ แล้วอีกอย่าง ผมเป็นผู้ชายด้วย ไม่มีใครฉุดหรอกนะ” (ทำตาปิ๊งๆ)

   “ไม่ต้องมาอ้อนเลย พรุ่งนี้มีงานแล้ว จะได้ไม่ต้องกลับค่ำอีก”

   “โหย” หน้างอสิครับ พรุ่งนี้กะว่าเลิกงานแล้วจะไปดื่มกับพวกเพื่อนๆ สักหน่อย ไอ้กลอยอดอีกแล้ว

   พี่โชยื่นหน้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ก่อนลุกเข้าห้องทำงานไป ผมก็แชทคุยกับไอ้ทูต่อ พวกมันก็กำลังพัก แล้วถ่ายขวดเขียวมีฟองโชว์ด้วย ยั่วกันชัดๆ




   ตีสี่ผมย่องออกจากห้องเพราะไอ้ทูมารออยู่ด้านล่างแล้ว วันนี้วันงานพวกผมต้องไปเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนงานจะเปิด ไอ้ทูทำหน้ามึนปากคาบขนมปังร้านสะดวกซื้อ

   “กูเพิ่งได้นอนแม่งโคตรง่วง” ไอ้ทูว่า ผมก็ตาเหลือกสิครับ เกิดมันหลับในขึ้นมา ตายคู่เลยนะ

   “แล้วมึงก็ยังขับรถ ไอ้เชี่ยทู” โวยวาย มันก็หัวเราะ

   “เออน่า กูไม่พามึงไปตายหรอก กูกลัวพี่โชตามไปฆ่ากูในนรก” แล้วเราก็พากันหัวเราะลั่นรถ

   มาถึงมหาลัยก็เจอพวกที่มาก่อนไม่กี่คน ผมช่วยยกกรอบรูปออกไปตั้งโชว์ตามจุดที่ถูกกำหนดไว้ จัดนั่นจัดนี่ไปเรื่อยๆ ท้องฟ้าก็เริ่มสว่าง กว่าจะเปิดงานพวกผมก็แทบหาที่หลับ เหนื่อยมาก มิน่าผมถึงโดนด่ากระหน่ำ งานมันหนักและเหนื่อยแต่ผมดันสบายอยู่คนเดียว

   “ผัวมึงจะมามั้ยวะ” ไอ้เคถามผมขณะกำลังยัดหมูปิ้งเข้าปาก

   “ไม่รู้ว่ะ แต่กูชวนแล้วนะ บอกขอดูงานก่อน” เอาแน่เอานอนไม่ได้ครับ บางทีบอกว่างมาก แต่ไม่กี่นาทีงานก็เข้า “แล้วเปิดงานกี่โมงว่ะ กูจะได้หาที่งีบ”

   “แหม ไอ้คุณชาย ทำงานก็น้อยกว่าเพื่อน ยังกระแดะจะหลับนะมึง” โดนครับ ไอ้กลอยโดนอีเข็มเตะหลังแล้วแขวะ ผมหันไปมองตาเขียว อยากจะด่าคืนแต่ด่าไม่ออก “ไม่ต้องจ้องกูค่ะ กูไม่อยากท้องลมกับมึง”
 
   “ท้องลมหรืออ้วนวะ” ไอ้สักเอาไม้ที่ไม่มีหมูปาใส่หน้าอีเข็มจนมันโวยวาย

   “กูอ้วนแต่กูก็สวยค่ะ แล้วมึงทิ้งแล้วต้องเก็บนะคะ ไม่งั้นกูจะฟ้องป๋า” แล้วมันก็เดินเฉิดฉายไปที่อื่น แต่งหน้าจัดเต็มคงกะหาหนุ่มสินะ

   ผมส่ายหน้าแล้วเอนตัวลงนอนราบกับพื้นปูน ก่อนมือถือจะสั่นนิดๆ เปิดดูก็เป็นข้อความที่ขอร้องให้ทำบางอย่าง เบอร์นี้ที่พี่โชเคยลบไปแล้วผมจำได้

   ‘ช่วยอะไรพี่อย่างได้มั้ยครับ’

   ‘อะไรเหรอครับ บอกไว้ก่อน ถ้าผมทำได้ก็จะทำ’ ต้องรีบดักคอไว้ก่อนครับ กลัว ประสบการณ์มันเคยเกิดมาแล้ว ดังนั้นเราต้องรู้จักเอาตัวรอดก่อน พี่ฟลอยด์ส่งรูปหัวหอมหัวเราะมา

   ‘เรื่องต้อมน่ะ’ ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นข้อความ ‘ช่วยพาต้อมมาดูดนตรีที่คณะวิศวะตอนเที่ยงที’ ขมวดคิ้วมองแล้วอ่านข้อความซ้ำไปมา

   ‘ทำไมต้องพามันไปตอนเที่ยง?’

   ‘พี่มีอะไรจะให้ต้อม ได้มั้ยครับ?’ ส่งรูปเด็กพยักหน้าไป ‘ขอบใจนะน้องกลอย’

   “ยิ้มอะไรวะ” โดนไอ้ต๋องตบหัวจนต้องถลึงตาใส่

   “เรื่องของกู”

   “เออ เรื่องของมึง”

   พวกผมหาที่เงียบๆ งีบหลับ ก่อนจะถูกปลุกเมื่อถึงพิธีเปิดงาน ไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะเดินออกมาประจำโซน เพราะผมต้องประสานงานเลยต้องมาอยู่หน้างานด้วย ส่วนมากคนที่เข้ามาดูก็จะเป็นเด็กมัธยมซะส่วนใหญ่ และมักจะถามคำถามซ้ำๆ เรื่องการเรียนบ้าง ต้องทำอะไรบ้างคณะนี้ หรือจะวาดรูปแบบนี้ต้องเรียนยังไง อยากออกแบบบ้านต้องเรียนคณะไหน แต่ผมว่า ไอ้คำถามสุดท้ายต้องไปคณะสถาปัตย์หรือเปล่า เพราะพวกผมไม่ได้ออกแบบบ้าน

   ยืนยิ้มเฉยๆ บ้าง ยืนให้ถ่ายรูปบ้าง ด้วยความที่ผมก็หน้าตาดีเลยมีสาวๆ มารุมถ่ายรูป แต่ถูกดับความฝันเมื่ออีเข็มบอกน้องเขาเป็นสมาชิกเพจของมัน พอเห็นผมทำหน้ามุ่ยมันก็หัวเราะดังนางมารร้าย

   “เอ่ออีกลอย เห็นเพจเอฟทีไอซ์แลนด์ประกาศว่า วันนี้พี่ฟลอยด์ของกูจะร้องเพลงเว้ย” อีเข็มทำหน้าเพ้อฝันมาก

   “ของมึง? แน่ใจเหรอวะ” โดนมันตีแขนไปที “แล้วเพจเอฟทีไอซ์แลนด์อะไรนี่คือเพจใครวะ”

   “ก็เพื่อนมึงไง ต้อมอะ เอฟย่อมาจากชื่อพี่ฟลอยด์ ส่วนทีก็มาจากต้อม” เพื่อนผมอธิบายซะยาวเหยียด ผมก็พยักหน้ารับรู้ไป ใครเป็นคนตั้งวะ ผมว่าของผมเท่แล้วนะ ซีเคแอเรีย

   เดี๋ยวนะ พี่ฟลอยด์จะร้องเพลงแล้วมาขอให้ผมพาไอ้ต้อมไปหาตอนเที่ยง หรือว่าจะร้องเพลงให้ไอ้ต้อม ต้องใช่แน่ ผมสัมผัสได้ แบบนี้ชักสนุกแล้วสิ หึๆ

   “มึงทำหน้าได้อุบาทมาก” อีเข็มว่าทิ้งท้ายแล้วมันก็เดินไป
 
   เงยหน้าดูนาฬิกาเป็นสิบรอบก็ไม่เที่ยงสักที ผมวางแผนไว้แล้วว่าใกล้ๆ เที่ยงผมจะไปหาไอ้ต้อมแล้วชวนมันไปเที่ยว ก่อนจะพามันไปคณะวิศวะ แต่เอาเข้าจริง ผมเห็นคนที่วางแผนไว้มาหาเสียก่อน ไอ้ต้อมมันแทบจะเอาหัวมุดไปในรูปของรุ่นพี่ปีสี่ที่วาดอารมณ์ความรู้สึกภายในใจของมนุษย์ยามมีความสุข ชื่อภาพยาวไปหน่อยแต่ผมว่ามันได้ความหมายดีนะครับ

   “มึงจ้องจนจะสิงรูปอยู่แล้ว” ผมเดินไปหาไอ้คนที่แทบจะเอาหน้าผากเคาะรูป หรือสายตามันสั้นวะ

   “ก็กูดูไม่รู้เรื่อง” ไอ้ต้อมขมวดคิ้ว ผมเลยเดินอ้อมไปหลังรูปแล้วยื่นหน้าไปดูเพื่ออธิบายได้ถนัดๆ

   “เพราะมึงยังไม่เข้าถึงหัวใจของศิลปะไง การดูรูปต้องใช้ใจดูเว้ย ใช้ตาดูไม่ได้” ผมว่าแล้วชี้นิ้วไปที่รูป ไอ้ต้อมมันกระพริบตาปริบๆ เหมือนไม่เข้าใจ ผมเลยต้องอธิบายต่อ “มึงดูรูปนี้ พี่เขาบ่งบอกว่า ตอนที่วาด ในใจพี่เขากำลังอารมณ์ดีสุดๆ ดูจากสีสันที่ใช้ สีสด เข้ม ทำให้ดูสะดุดตา คล้ายกับ...ไอ้เชี่ยต้อม” อ้าปากค้างเพราะพูดคนเดียวมานาน ไอ้เชี่ยต้อมมันเดินไปไกลแล้วครับ เห็นเด็กที่ยืนไม่ไกลหัวเราะผมด้วย อายเหี้ยๆ

   รีบก้มหน้าก้มตาเดินไปหาไอ้คนที่มันปล่อยให้ผมบ้าพูดอยู่คนเดียว

   “ทิ้งกูให้พูดอยู่คนเดียวไอ้สัด” โวยวายแต่ไอ้ต้อมกลับขำผมซะงั้น มันเดินถามรูปที่ตั้งโชว์ ผมก็อธิบายไปเรื่อยๆ มันเหมือนจะฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่ผมอยากพูดแล้วก็นึกออก “เอ่อ แล้วมึงไม่ไปดูดนตรีเหรอวะ เห็นเพื่อนกูบอกว่าพี่ฟลอยด์จะเล่นดนตรีให้มึงฟัง” ลองถามมันครับ ไอ้ต้อมตาโตมองผม

   “เชี่ย เอาข่าวมาจากไหน” ทำตาหลอกแหลกจนผมเกือบขำ

   “จากเพจคู่มึงไง อีเข็มเพื่อนกูวี๊ดว๊ายเป็นปลาไหลถูกขี้เรื่อยตั้งแต่เช้า” พูดไปก็จ้องท่าทีเพื่อนไป ไอ้ต้อมมันขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ผมเลยชวนมันไปเดินเที่ยวแทน เพราะคณะผมก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้ว

   ผมกับไอ้ต้อมเดินไปเรื่อยๆ เจอที่ไหนน่าสนุกก็เข้าไปแจม อย่างคณะบริหารที่แม่งมีเกมส์ให้เล่น มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่ใช่เกมส์ลับสมองประลองปัญญา ผมไม่ค่อยมีปัญญากับมันสมองเลยส่งไอ้ต้อมไปชิง สรุป ไม่ได้รางวัลอะไรเลย ได้แต่ไลน์มาแทน เชี่ยเอ้ย พี่เขาเห็นลูกกระเดือกผมหรือเปล่าวะ ไม่เข้าใจ

   เดินหน้างอออกจากหน้าตึกบริหาร ไอ้ต้อมก็หัวเราะเยาะผม มันขู่ว่าจะบอกพี่โชจนผมวิ่งไล่เตะมัน ตั้งแต่สนิทกันนี่ผมโคตรหวาดกลัวเลยครับ แค่พวกสปายอย่างอีเข็มก็น่ากลัวพออยู่แล้ว นี่มีไอ้ต้อมอีก คงเอาไว้สืบตอนผมแอบไปกินเหล้าแน่

   เวลาใกล้เที่ยงเต็มแก่ ผมรีบชวนไอ้ต้อมไปคณะวิศวะ แต่ดูมันไม่ค่อยอยากไป

   “หิวมึงก็หาอะไรกินสิวะ จะไปทำไมคณะนั้น” ไอ้ต้อมพูด ผมจ้องหน้ามันนิ่ง

   “คณะนั้นก็มีข้าวไข่เจียวขาย อีเข็มอัพรูปเมื่อกี้ แล้วก็บอกดนตรีเริ่มแล้ว” ผมว่า เมื่อกี้เอามือถือมาดูเวลาเห็นอีเข็มอัพรูปพอดี มันไปกรี๊ดนักร้องนำวงอะไรไม่รู้หน้าเวทีและบอกพี่ฟลอยด์ยังไม่ได้ขึ้นร้อง ข้อความที่พี่ฟลอยด์ส่งมาบอกให้ผมพาไอ้ต้อมไปตอนเที่ยง แปลว่าพี่เขาต้องเล่นตอนเที่ยงแน่

   เดินนำไอ้ต้อมไปแม้มันดูอยากจะกลับแต่ผมดึงแขนมันให้เดินต่อ ได้ยินมันบ่นกับตัวเองไม่รู้เรื่องอะไร หน้าคณะที่มีคนเยอะมากกว่าคณะอื่นๆ ส่วนมากเป็นเด็กผู้หญิงครับ ดูดสาวๆ นี่หว่าคณะนี้ ผมกับไอ้ต้อมเดินเข้าไปด้านในที่จัดงาน ลานกว้างถูกแปลเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดดนตรี ด้านข้างมีร้านขายข้าวไข่เจียว ทาโกยากิ กับน้ำแข็งไส แอบเล็งไว้ทุกร้านแต่ดนตรีที่เล่นก็น่าดู นักร้องที่ร้องหน้าตางั้นๆ (แปลว่าหล่อ) สาวๆ ที่มาดูต่างพากันกรี๊ดบ้าง ร้องตามบ้าง แต่เสียงเพราะจริงๆ
 
   ผมเดินไปลากแขนไอ้ต้อมจากร้านขายข้าวเพื่อมาดูคนที่กำลังเดินขึ้นไปบนเวที เสียงกรี๊ดดังยิ่งกว่าเดิมจนต้องยกมืออุดหู ไอ้ต้อมหน้าบูดนิดๆ คงแสบแก้วหูเหมือนผม ข้างๆ ไอ้ต้อมมีเพื่อนร่วมคณะมันมายืน ไอ้ป่านยิ้มหล่อให้ผมเลยต้องยิ้มให้

   นักร้องนำบนเวทีเริ่มแนะนำตัวคนในวงก่อนจะผายมือไปที่พี่ฟลอยด์ รุ่นพี่บริหารเดินมายืนตรงกลาง รอยยิ้มอบอุ่นกับเสียงพูดนุ่มๆ ทำเอาผู้คนเคลิ้มเป็นแถวๆ สายตาพราวจ้องมาที่คนข้างๆ ของผม

   “เชี่ย พูดซะกูขนลุก” ผมว่า ไอ้ต้อมมันขำนิดๆ

   พี่ฟลอยด์พูดซะดูโคตรหล่อ ไอ้ต้อมมันโชคดีแล้วที่มัดใจพี่เขาได้

   “ห้ามเดินหนีพี่นะ” ประโยคทิ้งท้ายทำเอาผมโห่ร้องตามไปด้วย แม่งโคตรเขินแทน

   เพลงที่ได้ยินเป็นเพลงที่พี่โชเคยร้องง้อตอนผมโกรธแล้วไม่คุยด้วยเกือบอาทิตย์ เพลงมันคงเป็นความรัก เพลงที่ผมโคตรชอบ พี่ฟลอยด์ก็คงอยากร้องให้ไอ้ต้อม พี่เขาอาจจะทำเรื่องบางอย่างให้ไอ้ต้อมมันเสียใจอยู่ก็เป็นไปได้ กลอยประเกรียนคนนี้สัมผัสได้

   “หวานมาก” ผมบอก ยิ่งเห็นพี่ฟลอยด์จ้องมาทางไอ้ต้อมยิ่งเขินแทนมัน แม้ไม่เกี่ยวก็เถอะ “ซึ้งมาก” เคลิ้มหนักก่อนพี่ฟลอยด์จะชี้นิ้วมาทางไอ้ต้อมตรงๆ ชัดเจนเหี้ยๆ

   ช่วงโซโล่ดนตรี ผมรีบดันหลังไอ้ต้อมไปหน้าเวที พยายามก้มหน้าเพราะกล้องมือถือโคตรเยอะ เสียงกรี๊ดก็แยะ ไปถึงหน้าเวทีเจออีเข็มที่ดีดดิ้นเหมือนไส้เดือนถูกขี้เถ้า เลยด่ามันไป ระหว่างที่เดินมา ผมขอดอกกุหลาบเด็กมัธยมที่คงเตรียมมาให้ใครสักคน

   สะกิดให้ไอ้ต้อมยื่นดอกกุหลาบให้คนที่ยืนยิ้มอยู่บนเวที พอพี่ฟลอยด์รับก็ส่งตาหวานให้ผมนิดหนึ่งจนผมต้องรีบถอยหลังไปยืนกับอีเข็ม คนร้องเพลงเพราะกระโดดลงมาจากเวทีแล้วคุกเข่ามอบดอกไม้ให้เพื่อนผม แม่งโรแมนติกสุดๆ

   “ไอ้เหี้ยกลอย เอามีดมาแทงกูที กูตายตาหลับแล้ว” อีเข็มทรุดจนผมต้องรีบประคอง มันทำหน้าเพ้อมาก

   เมื่อทุกอย่างจบลง ไอ้ต้อมก็ถูกจูงมือเข้าไปหลังเวที ผมเดินตามหลังมันไปกับไอ้ป่านเด็กเกษตร เห็นอีกคนที่เดินตาม ตัวโคตรขาวแต่หน้าบึ้งเหมือนโกรธใครมาสักสิบชาติ ผมยิ้มให้พี่แกก็เหล่ตามองแล้วยกยิ้มนิดๆ ที่จริงยิ้มแล้วดูดีกว่าทำหน้าบึ้งอีก

   มาหลังเวทีก็มีคนเยอะมาก ผมไม่รู้จักใครนอกจากไอ้ต้อมที่กำลังล็อกคอผม ผมก็รีบโยนขี้ไปให้พี่ฟลอยด์ พี่แกก็หัวเราะอย่างเดียว พอหลุดมาได้ผมก็ต้องจัดเสื้อใหม่ อยู่ๆ ก็เหมือนมีการทะเลาะกัน ไอ้ป่านมันไปกวนพี่ตัวขาวนั่นจนเกือบถูกต่อย ผมก็ตกใจเพราะถ้าไอ้ป่านโดนต่อย ผมก็อาจโดนลูกหลงเพราะยืนข้างมันเลย

   มือถือในกระเป๋าสั่นรัวจนต้องหยิบออกมาดู ปีศาจ (เมมชื่อนี้) โทรมา

   (อยู่ไหน) เสียงโคตรนิ่ง

   “อยู่มหาลัยสิครับ”

   (ตรงไหนล่ะ ทำไมพี่ไม่เห็น)

   “พี่มาที่คณะเหรอ” ตาโตสิครับ

   (อืม กำลังเดินขึ้นตึก...มาหาพี่กลอยเหรอครับ) เสียงแรกของพี่โช แต่อีกเสียงที่ลอดออกมาอีกเสียงไม่ใช่แน่...หรือว่า

   “พี่รอแปบนะ เดี๋ยวผมรีบไปหา” ซวยแล้วไอ้กลอย

   รีบบอกไอ้ต้อม หน้าตามันดูเป็นห่วงแต่ไม่มีเวลาใส่ใจมากเพราะปีศาจรออยู่ คาดว่ากำลังเผชิญหน้ากับไอ้สามหน่อปีหนึ่งแน่

   ตอนนี้มีกำลังเท่าไหร่ใส่พลังวิ่งอย่างเดียวครับ เหนื่อยแทบขาดใจแต่ก็ต้องวิ่ง รีบโทรหาไอ้ทูระหว่างวิ่งแต่มันดันไม่ยอมรับสาย เพื่อนผมไม่รับสายสักคน กว่าจะมาถึงผมก็แทบไม่มีแรงขึ้นบันได

   “จะรีบไปตายหรือไงวะ” เสียงไอ้เคที่เดินกินไอศกรีมอย่างใจเย็น ผมกอดเสาหอบแฮ่กเถียงไม่ออก “เอาๆ” มันยื่นไอศกรีมมาผมก็อ้าปากรับ

   “เชี่ยเอ้ย โทรหาพวกมึงไม่รับสักคน” ผมว่าหลังเริ่มหาเสียงเจอ

   “อ่าว พวกไอ้ทูมันก็อยู่ในงาน หรือมันไม่เอามือถือติดตัว”

   เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้ผมต้องรีบขึ้นตึกก่อน ไม่รู้พี่โชทำไรไปบ้างหรือยัง จะฆ่าไอ้เด็กปีนเกลียวพวกนั้นหรือยัง

   ดึงแขนไอ้เคเข้าตึกจนมันโวยวายแต่พอบอกมันก็ตาเหลือกทิ้งของกินในมือแล้ววิ่งตาม มองเห็นร่างที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็คสีดำยืนจ้องหน้าเด็กชุดนักศึกษาสามคนหน้าโซนรูปวาดโชว์

   “เชี่ย” ไอ้เคมันสบถ คงเห็นเหมือนผมนั่นแหละครับ

   ไอ้ทูยืนอยู่ข้างพี่โช ส่วนพี่สักกับไอ้ต๋องก็ยืนอยู่ไม่ไกล ผมรีบเดินเข้าไปหา พี่โชมองผมแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปจ้องหน้าทางเดิม

   “เอ่อพี่โช ไปดูงานกัน” รีบชวนแต่คนโดนชวนไม่ยอมขยับ “มีเรื่องอะไรกันวะ” กระซิบถามไอ้ทูครับ มันหน้าเสียแล้วยื่นมากระซิบตอบ

   “เมื่อกี้เกือบต่อยกันไอ้สัด ดีที่กูห้ามทัน”

   “จริงเหรอวะ”

        “เออสิ ไอ้เด็กสามคนนี่ไม่กลัวเลยนะเว้ย” ไอ้ทูว่าต่อ

   “ก็สามคนกับคนเดียวมันได้เปรียบกว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้เคยื่นหน้ามากระซิบด้วย

   “แต่คนเดียวโหดกว่าแน่นอน สามคนมันเอาไม่อยู่หรอก” ไอ้ทูตอบกลับ

   “สรุปพวกมึงพูดถึงคนหรือหมาวะ” ผมขัดขึ้น “พี่โช” เรียกคนที่ยืนนิ่ง

   “อย่าให้กูเห็นพวกมึงมายุ่งกับแฟนกูอีก” พี่โชชี้หน้าเด็กปีหนึ่ง พวกมันดูไม่กลัว

   “ทำไมต้องทำตามด้วย” ไอ้เม่นมันถามกลับ พี่โชแทบพุ่งไปหาดีที่ผมกับไอ้เคช่วยกันดึงไว้ แต่ก็เกือบจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน

   “พวกมึงจะไปยุ่งกับไอ้กลอยทำไมวะ เห็นๆ อยู่ว่ามันมีแฟนแล้ว” ไอ้เคมันว่า

   “ถึงมันไม่มีแฟน อย่างพวกมึงก็ไม่ใช่สเป็กมันหรอก” ไอ้ทูเสริม

   “ยังไม่เคยคบจะรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่สเป็ก” ตาโตมองคนที่เถียง ไอ้ไม้ทำหน้าตากวนบาทามาก ขนาดผมยังอยากต่อยหน้ามัน
 
   “มึง!” พี่โชสะบัดจนเกือบจะหลุด ผมรีบกอดเอวไว้แน่น

   “ห้ามมีเรื่อง ผมขอล่ะ นะๆ” พี่โชดูสงบลงผมเลยตวาดไอ้เด็กบ้าพวกนี้ “พวกมึงก็ด้วย ชอบมีเรื่องหรือไง หรืออยากถูกไล่ออก พ่อแม่มึงคงภูมิใจที่ลูกมีเรื่องเพราะแย่งผู้ชายไอ้สัด”

   “แต่พวกผมชอบพี่จริงๆ” เสียงยืนยันหนักแน่นจนน่าปวดหัว

   “มึงดูปากกูนะ กูไม่ได้ชอบพวกมึง ถ้าไม่ใช่น้องในคณะกูจะไม่สนใจด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่ามายุ่งกับกู แล้วกูก็มีแฟนแล้ว แม้จะเป็นปีศาจแต่กูก็รักมาก เข้าใจหรือยังวะ” หอบหนักเพราะพูดไม่หยุด ดูไอ้เด็กสามคนนั้นจะนิ่งไป “พวกมึงกำลังทำให้กูเดือดร้อน รักกูแล้วทำกับกูแบบนี้เหรอวะ” ไซโคไปจนพวกมันก้มหน้า

   “ขอโทษครับ” เสียงอ่อนลงทันที ก่อนไปเห็นจ้องพี่โชแปบหนึ่ง

   “เฮ้อ” ผมถอนหายใจ เกือบไม่รอด แต่พอเงยหน้ามองคนข้างๆ ก็เจอสายตาดุจ้องนิ่ง

   “เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ” พี่โชบอก ไอ้กลอยอยากจะร้องไห้จริงๆ แต่ผมควรทำให้พี่โชอารมณ์ดีก่อนกลับ ไม่งั้นโดนหนักแน่

   “หิวอ่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผมดึงแขนพี่โช พวกไอ้ทูรีบทำมือไล่

   “อย่าให้มันเข้าใกล้” เสียงเข้มสั่งจนผมต้องพยักหน้า

   “รู้แล้วๆ”

   ผมพาพี่โชเดินหลายคณะ แวะซื้อผักปลอดสารพิษที่คณะเกษตรถุงใหญ่ เจอไอ้ดอยตักไอศกรีมผมก็รีบเข้าไปหา เพราะความสนิททำให้ไอ้เยอะกว่าคนอื่นๆ

   “เสน่ห์แรงจริงนะ” พี่โชแขวะเบาๆ ก่อนอ้าปากกินไอศกรีมที่ผมป้อน

   “มันมีเมียแล้ว อย่าหวงเว่อร์ได้ป่ะ”

   “เออ อย่าทำตัวน่ารักให้มากด้วย แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่”

   “กินยามั้ย” พี่โชขำออกมา “อารมณ์ดีแล้ว”

   “ใครบอก” หน้าบึ้งเฉย “มีเมียน่ารักยังไงก็ต้องหวง”

   “หล่อต่างหาก พูดผิดพูดใหม่ได้นะครับ”

   “นี่หล่อแล้วเหรอ” พูดปนขำจนผมทำหน้าบึ้ง

   “ด่าผมว่าอุบาทยังง่ายกว่า”

   “หึๆ”

   พี่โชยกแขนพาดคอผมเดินไปทั่ว หลายครั้งมีคนขอถ่ายรูป แปลกที่พี่โชยิ้มแย้มให้ถ่ายจนผมแปลกใจ แบบนี้ผมไม่ต้องถูกลงโทษแล้วสินะ

   “คืนนี้ผมขอไปกินเหล้านะ” ลองขอ พี่โชหน้าบึ้งทันที

   “คืนนี้เรายังต้องคุยกันอีกยาว” เสียงของปีศาจโคตรเหี้ยม “ชอบตีเนียนตลอดนะ”

   “พี่โชก็ เป็นเทวดาหล่อๆ สักวันไม่ได้เหรอ เป็นปีศาจหน้ายักษ์ทุกวันไม่เบื่อเหรอวะ”
 
   “ก็มีแต่คนเล็งเมียตัวเองจะให้ปั้นหน้ายิ้มทำไม่ได้หรอก”

   “เลยต้องทำหน้ายักษ์แทนเหรอ” พี่โชพยักหน้าก่อนฉีกยิ้ม

   “ยักษ์หล่อขนาดนี้ยังไม่พอใจเหรอครับ” ลอยหน้าลอยตาพูดจนผมหันหน้าไปอ้วก “เดี๋ยวจะโดน”

   “คืนนี้พวกเพื่อนมันนัดกัน ผมขอไปนะ นะๆๆๆ” ออกลูกอ้อนเต็มที่ พี่โชทำหน้านิ่ง

   “ก็ได้ แต่พรุ่งนี้...” ปีศาจจ้องหน้าอย่างเจ้าเล่ห์ “ทั้งคืน” ชิบหาย

   “งั้นไม่ไปแล้วเว้ย” โวยวายแล้วรีบเดินหนี พูดกับปีศาจหื่นๆ ก็มักจะได้ยินแต่พวกเรื่องบนเตียงตลอดๆ
 
   “กลอยครับ รอพี่ด้วย”

   “ไม่รอเว้ย”

   ได้ยินเสียงหัวเราะดั่งปีศาจตามมาจากด้านหลัง แต่ถึงจะเป็นปีศาจแต่ผมก็ยังรักนั่นแหละ
 
   “เมียจ๋า รอด้วย”

   “ห้ามเรียกแบบนั้นนอกห้องเว้ย”

   “เมียจ๋า”

   “ไอ้ปีศาจ” เอามืออุดหูแล้วเดินหนี สุดท้ายก็ถูกกอดไหล่เดินรอบมหาลัย พี่โชก็ยังเป็นพี่โช โหดยังไงแต่ก็ใจดีกับผมเสมอ (เวลาที่ไม่โมโหผมนะ) 


...

ตอนพิเศษมาแบบเรียบๆ ตามสไตล์ปีศาจค่า >w<

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2016 09:03:43 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อย่างว่า กลอยเกรียนเสน่ห์แรงเกิน พี่โชเลยต้องเชิญปีศาจมาสถิต ณ ร่างเป็นประจำไงจ๊ะ 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด