ตอนที่ 35
ท่าไม้ตายสุดท้าย
สสารสีดำที่ห่อหุ้มร่างกายของคุระเต็มไปด้วยความน่าสะพรึง มันเต็มไปด้วยไอสังหารอันมหาศาลจนฮิโรกิแทบหายใจไม่ทั่วท้อง ส่วนเจ้าชิบะมันก็ปล่อบรังสีฆ่าฟันออกมาหักล้างไอสังหารเหล่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วฮิโรกิคงไม่อาจคงสติเอาไว้ได้เช่นนี้
ฮิโรกิรับรู้ได้ถึงความช่วยเหลือที่ได้รับ แม้ไร้ประสบการณ์การต่อสู้ แต่เขาก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าสสารนั้นอันตราย และเขาก็กำลังได้รับการปกป้องจากเจ้าชิบะ มือน้อยๆจึงลูบขนนุ่มบนหลังคอเจ้าชิบะด้วยความขอบคุณ
เวลานี้เขาต้องพึ่งเพื่อนตัวโตนี้ ฮิโรกิรู้ดีว่าตนยังอ่อนแอ จึงพยายามทำใจให้สงบแล้วเข้าควบคุมเจ้าชิบะอีกครั้ง เขาต้องละทิ้งความกลัวที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่ต่างจากตัวถ่วงเช่นที่ผ่านมา
เปลวเพลิงที่แดงที่ลดลงเล็กน้อยตั้งแต่ฮิโรกิควบคุมความรู้สึกตนเองไม่ได้นั้นก็ลุกโหมขึ้นอีกครั้ง ได้เวลาเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจตนนี้แล้ว
บรรยากาศรอบด้านกดดันขึ้นเรื่อยๆดังทดสอบความอดทนว่าใครจะเผยช่องว่างให้อีกฝ่ายเข้าโจมตีก่อน ดวงตาสีแดงของทั้งสามก็ทอประกายท่ามกลางความมืด จดจ้องอย่างไม่ลดละจนในที่สุดผู้ที่ขยับตัวก่อนก็เป็นฝ่ายของฮิโรกิ
หมาป่าเพลิงพุ่งเข้าใส่คุระที่เปิดช่องว่างเพราะหันไปสนใจเสียงอึกทึกครึกโครมที่ดังขึ้นรอบๆจนเสียจังหวะไปชั่วขณะ และเสียงที่ดังขึ้นก็เป็นดังสัญญาณที่ส่งให้พวกฮิโรกิว่าจงสู้ให้เต็มที่
นอกจากจะเตรียมแผนขั้นถัดไปแล้ว ฮิเดโอะยังไปเตรียมสถานที่ต่อสู้ด้วย การต่อสู้ด้วยเปลวเพลิงภายในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้คงไม่แคล้วป่านี้จะถูกเผา เขาและลูกๆของชิบะจึงจัดการล้มต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยให้ล้มลง ไม่ให้ไฟลุกลามไปถึงป่าโดยรอบไปมากกว่านี้ หากจะทำลายก็ทำในพื้นที่ที่จำกัดเอาไว้เท่านั้น
ดังนั้นเวลานี้เองชิบะก็ไม่ต้องคำนึงว่าไฟจะลุกลามไปถึงบ้านของมัน หรือป่าที่เป็นดังสวนในบ้านของมันอีก เมื่อไร้ห่วงพลังที่ระเบิดออกมาจึงเพิ่มมากขึ้น ความเร็วและพลังก็เพิ่มขึ้นเมื่อปราศจากความลังเล
ชิบะอ้าป้ากกว้างขณะพุ้งจู่โจม เปลวไฟสีแดงถูกพ่นออกจากปากพุ่งเป้าไปที่ศัตรู แต่น่าเสียดายคุระหลบมันได้อย่างง่ายดายไฟจึงพุ่งไปโดนต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเกิดเพลิงลุกไหม้ต้นไม้ใหญ่จนหักโค่นล้มลงทับต้นที่อยู่ข้างๆ ไฟลุกลามเป็นวงกว้าง อนุภาพมันร้ายแรงถึงขั้นทำลายต้นไม้ใหญ่โตลงได้ง่ายๆ หากเป็นศัตรูของมันคงมีสภาพไม่ต่างจากต้นไม้ต้นนั้นเลย
คุระหลับเปลวไฟทันอย่างฉิวเฉียด แม้มีสติสัมปชัญญะเหลือเพียงน้อยนิดก็ตาม ความมืดที่เต็มไปด้วยไอสังหารนั้นควบคุมสติจนแทบไม่อาจควบคุมพลังในร่างได้
และน่าเสียดายที่เปลวเพลิงเมื่อครู่เป็นเพียงตัวล่อ ร่างของชิบะหายไปจากระยะสายตาตั้งแต่ที่คุระพุ่งตัวหลบ มันไปปรากฏตัวอยู่ด้านนั้นอยู่ก่อนแล้ว ดังคาดการณ์ได้ว่าคุระจะหลบไปทิศทางใด
ฮิโรกินั้นเชื่อในสัญชาตญาณอันเฉียบแหลม และบางครั้งมันก็ไม่ต่างจากการวัดดวง ในเสี้ยวความคิดมีความคิดที่ว่าคุระต้องไปที่ตรงนั้นเขาก็สั่งให้ชิบะไปรออย่างไม่ลังเล
ชิบะอ้าปากเผยคมเขี้ยวอันแหลมคมกัดเข้าที่ไหล่ของคุระอย่างจังจนเลือดสีแดงพุ่งกระฉูดเปรอะเปื้อนไปทั่วปาก
“อ้าก!” ความเจ็บปาดแล่นไปทั่วร่าง แต่คุระก็ฝืนสลัดตัวออกจากคมเขี้ยวนั้น เขากระโดนถอยหลังอย่างโกรธแค้น ไหล่ซ้ายที่ถูกกัดก็หายไปหลายส่วน กลายเป็นแผลกว้างอันน่าหวาดกลัว
แต่เพียงไม่นานเลือดก็หยุดไหล สสารสีดำค่อยๆห่อหุ้มบริเวณนั้นปิดปากแผลอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะสร้างเนื้อเยื่อใหม่ซ่อมแซมส่วนที่หายไปอย่างน่าอัศจรรย์
ฮิโรกิกับชิบะมองภาพนั้นด้วยความตกตะลึง สิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว ความเสียหายมากมายเช่นนั้นกลับรักษาได้ในชั่วอึดใจ การต่อสู้ครั้งนี้คงยากลำบากกว่าที่ผ่านมาอย่างเทียบไม่ติดเลยทีเดียว
“ฮ่าๆ เป็นอะไรไปเล่า ตกใจรึ หึหึ หรือหวาดกลัวกัน เอ้า! เข้ามาสิ” คุระกล่าวอย่างท้าทาย เขาเองก็ตกใจกับพลังที่ได้รับมา เพราะครั้งนี้เขาใช้มันเป็นครั้งแรก แต่เมื่อเห็นความอัศจรรย์เช่นนี้ เขาก็รับได้อย่างง่ายดาย
เขาไม่คำนึงถึงสิ่งที่แลกมาแม้แต่น้อย พลังนี้ยิ่งฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ หรือเพิ่มพลังมากเพียงใด อายุขัยยิ่งสั้นลง พลังชีวิตที่ถูกดึงมาใช้ก่อนเวลานั้นจะยิ่งลดลงอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นานความตกใจเหล่านั้นก็หมดไป ฮิโรกิกับชิบะเข้าจู่โจมอีกครั้ง ชิบะพ่นไฟครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คุระก็ยังหลบได้ ฮิโรกิรับรู้ในทันทีว่าเวลานี้ความเร็วของคุระเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก การต่อสู้จึงยากลำบากมากขึ้นไปอีก
ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีกี่ครั้งคุระก็จะสามารถฟื้นตัวได้ทุกครั้งไปไม่ต่างจากร่างกายที่เป็นอมตะเลย ในที่สุดฝ่ายที่ล้าก่อนก็เป็นเจ้าชิบะ มันเริ่มเหนื่อยและหมดพลัง ร่างกายหอบแฮ่กอย่างห้ามไม่อยู่
เห็นดังนั้นคุระจึงยิ่งโจมตีกลับไปหนักขึ้น จากที่ความเร็วเท่ากันก็กลับกลายเป็นว่าเจ้าชิบะช้าลง จากที่ไล่ต้อนจึงเป็นฝ่ายหลบเลี่ยงบ้าง
ดาบของคุระไม่อาจสร้างรอบแผลให้เจ้าชิบะได้เขาจึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ คำนึงถึงพลังใหม่ที่ได้รับ แล้วลองเพ่งให้สสารสีดำห่อหุ้มดาบของตน เป็นดังคาดมันเป็นไปได้ จากนั้นก็ทดลองใช้
คุระพุ่งเข้าใส่ชิบะ ฝ่ายเจ้าหมาป่าเพลิงก็พ่นไฟใส่ร่างนั้น แต่ด้วยความเร็วที่มากกว่าทำให้คุระหลบได้อย่างไม่ยากเย็น เพียงเบี่ยงตัวเล็กน้อยเขาก็หลบมันพ้น
“ดาบผ่าเกราะ”
ร่างที่เต็มไปด้วยสสารสีดำนั้นพุ่งตัวไปด้านขวาของชิบะแล้วง้างดาบขนานไปกับแนวราบ คมดาบลากผ่านตั้งแต่กลางลำตัวไปจนถึงส่วนหาง
“โฮก!” เจ้าชิบะร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด แผลที่เป็นแนวยาวเต็มไปด้วยเลือด แต่กระนั้นมันก็ไม่ยอมล้มลง ยังคงจ้องมองศัตรูอย่างไม่ยอมแพ้
“อา ข้าโจมตีได้แล้ว” คุระกล่าวพร้อมกับยกดาบขึ้นมาตวัดล้นชิมเลือดอย่างไม่คิดรังเกียจ ดวงตาก็ทอประกายกระหายเลือด กลิ่นเลือดของศัตรูช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณของเขาจนในใจมีแต่คำสั่งให้ฆ่า ฉีกกระชากร่างของศัตรูออกเป็นชิ้นๆ เพื่อลิ้มรสกลิ่นคราวเลือดอันหอมหวาน
ดวงตาสีแดงของเผ่าพยัคฆ์ถูกย้อมจนเป็นสีดำ สิ่งที่ทอประกายในดวงตานั้นมีเพียงความตาย จากนั้นก็พุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้ง
การต่อสู้เต็มไปด้วยความกดดัน ร่างของชิบะเริ่มเกิดบาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือดมากมาย พละกำลังก็เริ่มลดลง ส่วนทางคุระนั้นกลับต่อสู้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ พลังชีวิตลดลง แต่ก็สร้างความหวั่นเกรงให้คู่ต่อสู้ไม่น้อย ใครก็ต้องหวาดกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ฟื้นฟูได้รวดเร็วดังว่าไม่มีวันตายเช่นนี้
“แฮ่กๆ” ชิบะเว้นระยะห่างออกมาตั้งหลัก ร่างของมันเหนื่อยล้าเต็มที แต่แววตาคู่นั้นก็หาได้หวั่นเกรง มันพร้อมสู้แลกด้วยชีวิตหากมีคำสั่งจากนายน้อยของมัน
“ชิบะ ไม่เป็นไร” ฮิโรกิเองก็ไม่ได้ยอมแพ้ ดวงตานั้นไหววูบด้วยความยินดีเมื่อรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของพี่ชาย หน้าที่ของเขาสำเร็จแล้ว แม้จะหนักหนากว่าที่คิดเอาไว้ก็ตาม
คุระไม่ได้รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวรอบๆ เพราะคิดเพียงสังหารศัตรูที่อยู่ตรงหน้า มันจึงทุ่มกำลังเข้าจู่โจมชิบะอีกครั้ง แต่เพียงก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักงัน รอบๆของมันเต็มไปด้วยลูกไฟที่พุ่งเข้าใส่จากทุกทิศทาง ไม่อาจหลบหนีไปจากการโจมตีครั้งนี้ได้อีก
“อ้าก!” ไฟโหมกระหน่ำลุกไหม้ดังร่างนั้นเป็นเชื้อเพลิง แม้ลูกไฟแต่ละลูกจะอนุภาพไม่เท่าเปลวเพลิงของชิบะ แต่เมื่อมันถูกโจมตีไปที่จุดเดียวกันถึง 8 ลูก ความรุนแรงของมันจึงไม่ต่างกันเลย
ร่างของคุระดิ้นเร่าๆในเปลวเพลิงอย่างเจ็บปวด แต่แล้วก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง
“อว้าก!” คุระหยุดดิ้นแล้วขับพลังในร่างให้ปะทุอีกครั้ง จนเปลวเพลิงนั้นดับลงด้วยกระแสลมที่ปะทุออกมาจากสสารสีดำ พลังชีวิตแทบจะถึงขีดสุด เขาไม่คิดห่วงชีวิตของตนอีกแล้ว การต่อสู้นี้แม้แลกด้วยชีวิต ก็ต้องชนะให้จงได้ เขาต้องสังหารพวกมันทั้งหมดจนไม่เหลือซาก
ภาพอันน่าสยดสยองเกิดขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของคุระเต็มไปด้วยบาดแผลไฟไหม้ มีแผลเหวอะหวะไปทั่วร่างกายดังศพเดินได้ก็ไม่ปาน ทั้งยังห่อหุ้มด้วยสสารสีดำนั้นอีกยิ่งเพิ่มความสยดสยองได้หลายเท่าตัว
สสารสีดำค่อยๆฟื้นฟูร่างกายอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับยังคงเหลือร่องรอยของแผลเป็นเหวอะหวะทั่วร่าง ใบหน้า หรือเส้นผมบนศีรษะก็ไม่อาจกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เวลานี้ร่างกายของคุระดูน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง ใครได้มองคงไม่อาจจดจำเขาได้อีกแล้ว
คุระจ้องมองสภาพของตนด้วยความโกรธยิ่งขึ้นไปอีก ฮิเดโอะเห็นโอกาสที่คุระยังจดจ่อกับร่างของตนสั่งการให้ลูกๆของชิบะเข้าโจมตี
‘อิจิโจมตี’คำสั่งถูกส่งไปที่อิจิเจ้าลูกหมาตัวที่หนึ่งซึ่งซุ่มรออยู่ด้านหลังของคุระ พวกมันทั้ง 8 ตัวถูกสั่งให้ซุ่มตัวอยู่ในความมืด โดยล้อมรอบตัวของคุระเอาไว้เป็นวงกว้าง แล้วเข้าจู่โจมตามลำดับที่ฮิเดโอะสั่งการ
“ฮิโรกิ ชิบะ ยังมีพลังเหลือพอสินะ เตรียมการโจมตีสุดท้ายได้เลย ข้ากับลูกๆของชิบะจะเตรียมการรอให้เอง ทุ่มพลังทั้งหมดใช้ท่าไม้ตายนั่นซะ!” ฮิเดโอะเปลี่ยนแผนฉับพลัน การจับเป็นใช้ไม่ได้อีกแล้ว สัตว์ประหลาดเช่นนี้ต้องกำจัดสถานเดียว ไม่เช่นนั้นผู้ที่เพลี่ยงพร้ำจะเป็นพวกเขาเอง
“รับทราบ เริ่มกันเลยชิบะ!” ฮิเดโอะสั่งการทันที จากนั้นฮิโรกิก็เข้าสู่สมาธิเพื่อใช้ท่าไม้ตายสุดท้าย ฮิโรกิส่งพลังทั้งหมดของตนไปให้กับชิบะ แต่เพื่อให้มันเสถียรและเข้ากันได้ดีที่สุด การทำเช่นนี้จึงต้องใช้สมาธิและเวลามากกว่าการใช้ท่าทั่วๆไป
ฮิเดโอะออกห่างจากตัวชิบะเมื่อสังการจบ จากนั้นเขาก็ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ต้นที่ยังไม่ถูกทำลายเพื่อมองให้เห็นภาพรวมด้านล่างทั้งหมด
อิจิเข้าโจมตีจากด้านหลัง มันใช้หัวพุ่งชนจนคุระกระเด็นไปด้านหน้า จากนั้นก็กระโดดหลบเข้าสู่เงามืดอีกครั้ง
‘นิจัง ซันจิ ที่แขน’ คำสั่งออกมาอีกครั้งเมื่อคุระหันไปสนใจอิจิที่ลอบโจมตีเมื่อครู่ นิจัง กับ ซันจิ จึง จึงพุ่งออกมาจากฝั่งซ้ายและขวา ใช้เขี้ยวอันแหลมคมฉีกกระชากแขนของคุระตัวละข้างแล้วพุ่งตัวสลับฝั่งกันอย่างรู้ใจ
“อ้าก!” ความเจ็บปวดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแขนทั้งสองข้างของคุระขาดกระจุยติดไปกับปากของหมาป่าเพลิงทั้งสองตัว ร่างกายที่ขาดไปไม่สามารถงอกใหม่ได้หากเป็นชิ้นส่วนสำคัญเช่นนี้ ต้องนำมันกลับมาต่อคืนเท่านั้น คุระจึงทำได้เพียงปิดปากแผลเอาไว้แล้วชิงแขนของตนคืนมาเท่านั้น
“ไอ้หมารอบกัด! เอาแขนของข้าคืนมา!” คุระคุ้มคลั่ง วิ่งตรงไปยังทิศทางของนิจังในทันที เขาต้องเอาแขนขวาคืนมาเสียก่อน
‘โยโนะ โกจิ’โยโนะ กับ โกจิ พุ่งตัวจากด้านหลังของนิจัง เข้าสกัดกั้นการโจมตีของคุระในทันที พวกมันพ่นลูกไฟไปที่ขาของคุระตัวละข้าง จากนั้นก็วิ่งผ่านตัวคุระไป
“แกๆๆ ไอ้พวกเดรัจฉาน! วันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้จงได้!” คุระไม่ยอมทรุดตัวลง มันยังคงยืนหยัดแล้วพุ่งตรงไปหานิจัง
“หงิง!” นิจังลอยละลิ่วด้วยแรงเตะของคุระ แขนที่คาบไว้ก็หลุดออกจากปาก เห็นดังนั้นคุระจึงตวัดเท้าเตะให้แขนของตนลอยขึ้น คาบเอาไว้ แล้วนำไปต่อคืนในทันที
‘โรคุ’ฮิเดโอะแม้จะห่วงนิจังแต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ตนคาดสายตาจากเป้าหมาย ยังคงโจมตีต่อไป ไม่ปล่อยให้แผนการผิดพลาด ไม่เช่นนั้นการโจมตีของทุกตัวที่ทุ่มเทมาคงสูญเปล่า
โรคุกระโดดลงจากต้นไม้ มันกัดคอของคุระพร้อมโถมน้ำหนักจากด้านบน คุระจึงล้มลงกับพื้น แขนที่กำลังจะถูกต่อกลับคืนก็กระเด็นหลุดไป
‘นานะ ฮะจิ ช่วยโรคุ’หมาป่าเพลิงทั้งสองเข้าไปกัดขาของคุระ พร้อมฉีกกระชากขานั้นให้หลุดออกมา
“ย้าก!” คุระรีดเค้นพลังทั้งหมดจากร่างกาย พลังที่พุ่งออกมาพาให้หมาป่าเพลิงทั้งสามกระเด็นออกไป และการต่อแขนของมันก็สำเร็จลุล่วง
คุระยืนขึ้นอีกครั้งด้วยความโกรธเกรี้ยว เวลานี้มันไร้สติมีเพียงความต้องการฆ่า เพราะความทรงจำในส่วนลึกบางส่วนปรากฏขึ้นมา พลังของผู้สืบสายเลือดตระกูลยาฉะ สายเลือดผู้ควบคุมสัตว์อันเข้มข้นกว่าปีศาจตนใด
มันจึงคิดได้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีทั้งหมดคือเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์ เด็กแฝดผู้มีผิวสีคล้ำนั่นเอง สายตากระหายเลือดนั้นจึงถูกส่งไปยังฮิเดโอะที่อยู่บนต้นไม้แทน
ร่างอันน่าสยดสยองนั้นคำรามดังลั่นก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปหมายโจมตีฮิเดโอะ
หวิ๊ง!
แต่แล้วก่อนที่การจู่โจมจะถึงตัวฮิเดโอะร่างของมันก็ไม่อาจขยับได้ เสียงของเส้นเชือกที่เสียดสีกับร่างกายของคุระดังขึ้น เชือกสีแดงปรากฏขึ้นให้ประจักษ์แก่สายตา เชือกเส้นนั้นถูกโยงไปมาทุกทิศทาง ผูดมัดร่างของคุระไว้อย่างหนาแน่น และปลายเชือกแต่ละด้านก็ถูกยึดไว้ด้วยคมเขี้ยวของหมาป่าเพลิงเส้นละตัว ดังหลักที่ยึดใยแมงมุมเอาไว้ การกระทำเมื่อครู่ของพวกเขาคือการตรึงคุระเอาไว้นั่นเอง
เชือกชนิดพิเศษที่ปรากฏรูปร่างเมื่อได้รับแรงดึงมหาศาลจากทุกด้านนี้ ทำมากจากใยของแมงมุมมายาที่คอยจับเหยื่อไม่ให้หลุดลอดจากกับดักของมัน หากถูกจับแล้วไม่ว่าใครก็ไม่อาจดิ้นหลุดไปได้
“ดึง!” เสียงจากฮิเดโอะดังขึ้น พวกลูกหมาป่าเพลิงทั้ง 8 ตัวก็ออกแรงดึงจนคุระตกลงไปบนพื้น แต่มันยังคงพยุงตัวไม่ให้ล้มลงไปได้ และดิ้นรนอย่างไม่ยอมแพ้
“ปล่อยนะ ข้าบอกให้ปล่อย! ถ้าหลุดไปได้ข้าจะฆ่าพวกเจ้า จะฉีกกระชากให้เป็นหมื่นๆชิ้น พวกเจ้าก็รู้ว่าข้าฟื้นฟูร่างกายได้ ฮ่าๆๆ ข้าไม่มีวันตายจงรู้เอาไว้ซะ!” เมื่อไม่ได้ดังใจต้องการ คุระจึงเริ่มข่มขู่ อย่างไรมันก็มั่นใจว่าเด็กและเดรัจฉานเหล่านี้ไม่มีทางสังหารมันลงได้
“หึหึ ถ้าเช่นนั้นก็ลองฟื้นฟูจากเถ้าถ่านที่แหลกเป็นขุนผงก่อนเป็นเช่นไร” ฮิเดโอะเอ่ยอย่างเหนือกว่า
“ย้าก!”
“โฮก!”
เสียงสัตว์ร้ายทั้งสองคำรามดังตอบรับคำกล่าวของฮิเดโอะ เปลวเพลิงสีแดงก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสีดำอย่างสมบูรณ์ ท่าไม้ตายสุดท้ายของพวกเขาสำเร็จแล้ว
“เพลิงทมิฬ!”
“โฮก!”
“ย้าก!”
สัญญาณการโจมตีดังขึ้น ฮิโรกิกับชิบะเข้าโจมตี ส่วนลูกหมาป่าเพลิงทั้งแปดก็ทุ่มพลังทั้งหมดดึงรั้งคุระเอาไว้
ก้อนเปลวเพลิงสีดำอันใหญ่โตถูกปล่อยออกมาจากปากของชิบะ พลังนี้เกิดจากการหลอมรวมพลังของฮิโรกิกับชิบะเข้าด้วยกัน เพราะมันต้องใช้พลังมากมายมหาศาล และการหลอมพลังยังต้องอาศัยความเชื่อใจกันอย่างถึงที่สุด การใช้พลังจึงทำได้ยากเช่นนี้
ส่วนที่ต้องตรึงคุระเอาไว้ตามแผนของฮิเดโอะเพราะว่าแม้เพลิงทมิฬจะมีพลังมหาศาลเพียงใด แต่การโจมตีนั้นกลับช้าเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องตรึงคุระเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวหลบออกไปได้
“อ้าก!” คุระร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด เขาพยายามรีดเค้นพลังจากก้นบึ้ง ต่อให้ต้องใช้พลังชีวิตทั้งหมดเข้าก็ต้องหลุดออกไปจากเปลวเพลิงนี้แล้วลากพวกมันตกตายตามไปด้วยให้จงได้
แต่ถึงแม้สสารสีดำจะปะทุออกมาก็ไม่อาจดับเปลวเพลิงเหล่านั้นได้
“อย่าพยายามเลยคุระ ไฟนี่จะไม่ดับจนกว่าจะเผาผลาญเป้าหมายให้เหลือเพียงเถ้าถ่าน” ฮิเดโอะกล่าวอย่างราบเรียบพร้อมกลับกระโดดลงไปด้านล่าง
ฮิโรกิเองก็ลงจากหลังของชิบะมายืนข้างแฝดพี่ของตน ยืนจ้องมองร่างของคุระที่ค่อยๆจมหายไปให้เปลวเพลิง นี่เป็นการสังหารปีศาจครั้งแรกของพวกเขา จิตใจจึงยังคงหวั่นไหว และมีความหวาดกลัวเกิดขึ้น สองพี่น้องจึงยืนนิ่งๆเช่นนั้นเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่ตนกระทำลงไป ใช้ความเงียบปลอบประโลมจิตใจที่สั่นไหวอยู่เช่นนั้น
“พวกเรา...ช่วยทุกคนได้แล้ว” ฮิโรกิเอ่ยทำลายความเงียบ แม้เขาจะไม่ฉลาดเท่าฮิเดโอะ แต่เขามีความมั่นใจที่มากกว่า เข้มแข็งมากกว่า เวลานี้จึงอยากช่วยพี่ชายที่อาจคิดฉุดรั้งตัวเองให้รู้สึกผิดว่าเป็นผู้วางแผนทุกอย่าง
ฮิเดโอะที่ได้ยินเสียงของน้องชายจึงหันหน้าขึ้นมามอง เขาได้พบกับรอยยิ้มที่สดใสอันไม่เข้ากับสถานการณ์
“นะ ฮี่ๆ” ฮิโรกิยังยิ้มดังเป็นบ้า แต่ประโยคสั้นๆที่บอกว่าพวกเขาช่วยทุกคนได้แล้ว พวกเขาไม่ได้เป็นตัวถ่วงของคนอื่นๆแล้วนั่น ก็ช่วยเยียวยาจิตใจของฮิเดโอะได้มากทีเดียว เขาจึงยิ้มออกในที่สุด
“นั่นสินะ พวกเราช่วยทุกคนได้แล้ว ฮี่ๆฮ่าๆ” ฮิเดโอะยิ้มตอบ แล้วหัวเราะอย่างเบิกบานออกมาได้เช่นเดียวกัน นั่นสินะพวกเขาต้องยินดีกับความสำเร็จสิ จะมาเศร้าใจเช่นนี้ได้อย่างไร
“ฮี่ๆ ฮ่าๆ สำเร็จ”
“สำเร็จแล้ว เราชนะแล้ว”
กำปั้นเล็กถูกยกขึ้นมาชนกันเบาๆเพื่อฉลองชัยชนะในครั้งนี้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจที่ส่งผ่านไปให้อีกฝ่ายช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นความรู้สึกอันเลวร้ายไปได้ในที่สุด
บู๊วววว
เหล่าเหมาป่าเพลิงเองก็ช่วยฉลองความสำเร็จในครั้งนี้เช่นเดียวกัน บริเวณนั้นจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และเสียงหอนอย่างยินดีของเหล่าเจ้าสี่ขาทั้ง 9 ตัว ท่ามกลางเปลวไฟที่ค่อยๆมอดดับลง เผาผลาญความชั่วร้ายจนหมดสิ้น
..
..
..
ทางด้านแร็กนาร์ รูร์กัส โกยาตเลย์ และเคลตี้
“ย้าก!”
ตู้ม!
แผ่นดินหนาที่ถูกสร้างเป็นกำแพงขวางกั้นการโจมตีดังสนั่น แตกออกเป็นเสี่ยงๆด้วยแรงกระแทกอันมหาศาล แต่รูร์กัสก็ยังคงสร้างมันขึ้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อคุ้มกันแร็กนาร์ และคอยเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู
แร็กนาร์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแต่หากไม่อาจตามทันเป้าหมายที่มีพลังลึกลับห่อหุ้มร่างกาย เขาจึงอาศัยช่องว่างที่รูร์กัสเปิดให้เข้าจู่โจม ใช้มีดผ่าตัดอันเล็กเฉือนลึกลงไปถึงเส้นเลือด แต่หากในคราวนี้เลือดไม่ได้กระฉูดออกมา
คมมีดที่เฉือนด้วยความรวดเร็วนั้นจึงแทบมองไม่เห็นบาดแผลเลยทีเดียว ซึ่งหากนับจริงๆแล้วบาดแผลเหล่านั้นมีราวๆ หนึ่งร้อยแผลเลยทีเดียว
แร็กนาร์หันไปสบตารูร์กัสเพื่อส่งสัญญาณว่าถึงเวลาปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว รูร์กัสทุ่มพลังทั้งหมดยกพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของศัตรูขึ้น จึงส่งผลให้มันถูกดีดขึ้นไปกลางอากาศ
ร่างเล็กของแร็กนาร์ที่กระโดดขึ้นไปรออยู่ก่อนแล้วเล็งจุดสุดท้ายที่ลำคอของศัตรู และเมื่อเป็นการจู่โจมกลางอากาศเช่นนี้ผู้ที่มีจุดมุ่งหมายจึงเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ศัตรูไม่ทันตั้งตัวมันจึงไม่อาจหลบการโจมตีนั้นได้ทัน
“พวกแกไม่มีวันฆ่าข้าได้” มันตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวที่ต้องเสียท่าให้เด็กน้อย ทั้งยังเป็นเพียงมนุษย์และลูกครึ่ง ชั่งน่าอับอายจนไม่อาจมองหน้าใครได้อีก ดังนั้นหากอยากหลุดพ้นจากความอับอายนั้นเขาจึงต้องฆ่าพวกมันให้สิ้นซาก
“หึ อย่างนั้นรึ” แร็กนาร์สะแหยะยิ้มเยอะเย้ย มองด้วยสายตาเย็นชาที่ใครได้มองก็ต้องหวาดหวั่นในใจ ดังแช่แข็งคนได้ทั้งเป็น ความกลัวเข้าเกาะกินจิตใจของมันด้วยประโยคแสนธรรมดาอย่างรวดเร็ว เพราะอะไรไม่ทราบมันรู้สึกได้ว่าตัวตนตรงหน้าเป็นตัวตนที่น่าหวาดกลัวเกินบรรยาย
“ยะ...อย่า อย่านะ!”
ฉั๊วะ!
เสียงสุดท้ายของมัน ก่อนคมมีดเฉือนผ่านเส้นเลือดบริเวณลำคอ เต็มไปด้วยความน่าเวทนา กว่าจะรู้ว่าตนเผชิญหน้ากับตัวตนที่น่าหวาดกลัวเพียงใดก็สายไปเสียแล้ว
ฟึบ!
แร็กนาร์ลงเหยียบพื้นอย่างนิ่มนวล ไม่นานร่างที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศก็เกิดระเบิดลมขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าทุกบริเวณที่ถูกเฉือน เลือดก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ร่างกายที่ถูกปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดด้วยเปลวไฟร้อนอันแม่นยำ ทำให้เลือดในกายไม่อาจไหลเวียน เดือดพล่านและเกิดการระเบิดภายในร่าง จนร่างกายแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
บนใบหน้าของเด็กน้อยยังคงฉายสีหน้าอันแสนเย็นชา ดังว่าเคยเห็นภาพเหล่านี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ตู๊บ!
รูร์กัสเห็นภาพนั้นถึงกับขาอ่อน ร่างกายสั่นเทาจนไร้เรี่ยวแรง แม้จิตนาการว่าตนสังหารศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นมันด้วยตาของตนเอง ภาพที่เกิดขึ้นเกินกว่าเด็กจะรับได้พาให้รูร์กัสสั่นสะท้านด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจ
แร็กนาร์เห็นดังนั้นจึงพึงสำนึกได้ว่า เขาทำเรื่องโหดร้ายต่อหน้าเด็กคนหนึ่งไปเสียแล้ว จึงรีบเข้าไปกอดแล้วลูบหัว ลูบหลังจากปลอบประโลม
“ไม่เป็นไรพี่รูร์กัส ข้าอยู่นี่แล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัว ลืมมันไปเสียเถอะ...นะ” ถ้อยคำที่ไม่เคยมอบให้ใครส่งผ่านออกมาอย่างเก้ๆกังๆ เพราะความไม่เคยชิน แต่ก็พยายามส่งผ่านความอบอุ่น ความปลอดภัยไปให้พี่ชายอ่อนโยน
การต่อสู้ของพวกเขาก็จบลงแล้ว การต่อสู้เต็มไปด้วยความราบรื่น ในระหว่างที่หนีนั้นก็วางกลับดักไว้มากมายจนลดทอนพลังของศัตรูได้หลายส่วน เมื่อต้องเผชิญกันตรงๆ หน้าศัตรูก็ระเบิดพลังสสารสีดำออกมา ในตอนนั้นการต่อสู้เริ่มยากลำบาก ไม่ว่ารูร์กัสจะโจมตีเช่นไรมันก็ฟื้นพลังกลับมาได้
แร็กนาร์จึงเสี่ยงใช้พลังที่คิดค้นขึ้นใหม่ มันยังไม่เสถียรดีนัก แต่ก็ช่วยให้พวกเขาสังหารตัวตนที่ฟื้นฟูบาดแผลอย่างรวดเร็วนั้นลงได้
เวลานี้พวกเขาจึงนั่งพักอย่างหมดแรง แต่แล้วเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น
“กรู้ๆ”
เจ้าโกยาตเลย์ร้องเสียงดังก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปอย่างไม่ฟังคำทัดทานของแร็กนาร์ มันไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนพวกเขาจึงยิ่งแปลกใจและกังวล
แร็กนาร์อยากตามโกยาตเลย์ไป แต่ก็ห่วงรูร์กัสที่ใช้พลังไปเกือบหมด และยังต้องพบกับภาพอันแสนน่ากลัวนั้นอีกเขาจึงไม่กล้าที่จะปล่อยรูร์กัสไว้คนเดียว
ในตอนนั้นเอง เด็กชายฝาแฝดและฝูงหมาป่าเพลิงก็วิ่งตรงมาหาพวกเขา แร็กนาร์จึงฝากฝังรูร์กัสกับพวกเขา แล้วตามเจ้าโกยาตเลย์ไปด้วยความเป็นห่วง และกังวลใจ ลางสังหรณ์ก็ร้องเตือนอย่างไม่ขาดสายว่าศัตรูที่อันตรายยิ่งกว่ากำลังคืบคลานเข้ามา...
To Be Continued...
_______________________________________
กลับมาแล้วค่า กรีนกลับไปพักผ่อนต่างจังหวัดมาล่ะ คุคุ
พึ่งกลับมาถึงเมื่อวานเอง ในที่สุดก็ได้ลงแล้ว เย้
ตอนหน้าพบกับการต่อสู้ของแร็กนาร์เต็มรูปแบบ
ตอนนี้เอาแค่พอหอมปากหอมคอไปก่อนเนาะ หุหุ
เจอกันตอนหน้าจ้า
#ฮาเร็มของแร็กนาร์เด็กซึน