พระลักษณ์
Writer : Tan-Yung0209
File : 08
การสวดมนต์ครั้งสุดท้ายดังก้องศาลาวัด ก่อนที่จะนำร่างของพี่ดาไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ผมนั่งพนมมือสวดมนต์ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งที่พยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาโดยข้างๆผมนั้นมีพี่รามนั่งอยู่ใกล้ๆและป้าบัวที่ได้บวชชีให้พี่ดาโดยตั้งใจว่าจะบวชตลอดชีวิตนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง
วันนี้ผู้คนมากันเนืองแน่นทั้งเพื่อนของพี่ดา พี่รามและเพื่อนของผม รวมทั้งคนในหมู่บ้านต่างก็ร่วมใจกันมาส่งพี่ดาและมาเจอพี่ดาก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก
"ลักษณ์" เสียงเรียกพร้อมมือวางลงบนบ่าจนผมสะดุ้งเฮือก
"คะ..ครับ" ตาก็เงยมองร่างสูงที่ยืนขึ้น
"พี่จะไปเข้าห้องน้ำ ลักษณ์จะไปด้วยกันไหม?" พี่รามถามผม
"ไม่ครับ" ผมตอบ พี่รามก็ไม่พูดอะไรต่อก่อนจะเดินออกไป
บอกตรงๆเลยนะครับตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นถึงผ่านไปหลายวัน ผมก็ยังคงหวาดหวั่นอยู่ในใจ ถึงผมกับพี่รามจะไม่ได้มีอะไรแต่การกระทำของพี่รามทำให้ผมรู้สึกกลัวไม่น้อย ผมขอเล่าย้อนไปในคืนที่พี่รามเมา
"พี่ราม!!!..ปล่อยลักษณ์" ผมร้องโวยวาย ในขณะที่ผมกำลังจะลุกออกจากเตียง พี่รามก็คว้าเข้าที่แขนของผมและกระชากผมจนล้มลงนอนราบลงไปแล้วขึ้นคร่อมผมอย่างรวดเร็ว
"อย่าดิ้นสิดา..." พี่รามเอ่ย นี่พี่รามคงเมาจนเห็นผมเป็นพี่ดาไปแล้ว ผมรีบดันตัวพี่รามออกไปแต่แรงผมไม่สามารถสู้แรงคนเมาได้
"ดา..อยู่เฉยๆสิ" พี่รามสบถ แล้วใช้เข่าของตัวเองทับขาของผมจนผมขยับตัวไม่ได้
"พี่ราม..นี่ลักษณ์เองไม่ใช่พี่ดา!!" ผมพูดเสียงดังหวังว่าจะเรียกสติของพี่รามได้แต่เปล่าเลยพี่รามกลับรวบข้อมือผมตรึงไว้กับเตียง
"ลักษณ์ที่ไหน..ดาอย่ามาโกหก" พี่รามพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอ ยิ่งผมขัดขืนพี่รามก็ยิ่งออกแรงตรึงมากขึ้น ร่างกายของผมสั่นระริกด้วยความกลัวถึงผมจะรักพี่รามแต่ผมก็ไม่ต้องการทำเรื่องแบบนี้
"พี่ราม..ฮือ..อ..นี่ลักษณ์ไม่ใช่พี่ดา...ปล่อยลักษณ์ไปเถอะนะ...ฮือ" ผมร้องไห้ออกมา พี่รามก็ผละปากจากซอกคอแล้วเงยหน้ามองผม พี่รามหรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะประกบปากจูบผม
"อื้ม.."
ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพลงปากแล้วตวัดหยอกล้อกับลิ้นของผม ผมพยายามเบียนหน้าหนีพี่รามก็บดเบียดริมฝีปากจนผมปวดแสบ พี่รามจูบผมเรื่อยๆถึงผมจะไม่จูบตอบพี่รามก็คงเล่นลิ้นของผมและตักตวงความหวานของผมโดยไม่คิดที่จะถอนปากออกจนผมเริ่มหมดแรง
'พี่ดา...ช่วยลักษณ์ด้วย'
ในใจของผมนึกพี่ดา ผมอยากให้พี่ดาดลใจให้พี่รามมีสติขึ้นมา ตอนนี้พี่รามก็ถอนจูบแล้วเลื่อนใบหน้ามาที่ซอกคออีกครั้ง ผมหลับตาพยายามทำใจไม่อยากจะรับรู้ว่าจมูกโด่งกำลังคลอเคลียที่สันกรามและหลังใบหูจนผมรู้สึกวูบวาบที่หน้าท้อง แขนและขาก็เริ่มอ่อนแรงผมหายใจหอบถี่ความคิดดีชั่วเริ่มตีมั่วไปหมด ถึงอย่างนั้นผมก็พยายามรวบรวมสตินึกถึงพี่ดา ปากก็ร้องห้ามพี่รามให้หยุดการกระทำทั้งหมด
'ฟุบ' พี่รามที่กำลังใช้ลิ้นแตะที่ใบหูนิ่มของผมก็ซุกหน้าลงที่ใบหน้าผมพอดิบพอดี มือที่จับข้อมือผมเอาไว้ก็คลายแรง
"พี่ราม...พี่รามครับ" ผมเรียกพี่ราม ปรากฎว่าไม่มีเสียงตอบรับหนือปฏิกิริยาตอบโต้ ผมค่อยๆดันตัวพี่รามให้นอนลงบนเตียงเช่นเดิม ส่วนผมก็รีบลุกออกจากเตียง ผมมองพี่รามที่นอนหลับใหลด้วยหัวใจที่เต้นรัว ผมหายใจหอบถี่ทั้งเสียใจ ทั้งกลัว ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างยากลำบาก
หลังจากคืนนั้นผมก็เริ่มกลัวที่จะอยู่ใกล้พี่ราม ถึงแม้พี่รามจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม ผมรู้ว่าพี่รามไม่ได้ตั้งใจจะทำผมแต่ผมก็รู้สึกไม่ดี
"ลักษณ์ เอามือลงได้แล้ว...พระสวดเสร็จแล้ว" พี่รามที่กลับมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ บอกผมที่นั่งใจลอยให้เอามือลง
"ต่อไปจะเป็นการแบกโลงศพจากศาลาไปไว้ที่เมรุ ใครมีแรงมาช่วยกันหน่อย" ลุงลีเอ่ย ผมและพี่รามรีบลุกจากที่นั่งไปยืนอยู่ที่โลงศพ
"ลักษณ์เท้ายังเจ็บอยู่นี่ ไปนั่งพักก่อนก็ได้" ลุงลีเอ่ย
"ไม่เป็นไรครับลุงลี ลักษณ์อยากจะทำหน้าที่น้องชายให้กับพี่ดาให้ดีที่สุด" ผมพูดเสียงสั่น ตาก็มองไปที่โลงศพที่คนอื่นยกออกจากฐานที่ตั้ง
"ถ้าลักษณ์ตั้งใจลุงก็ไม่ว่าแต่ถ้าเจ็บมากก็บอกลุงเข้าใจไหม?"
"ครับลุง" ผมรับคำ
จากนั้น ผม พี่ราม ลุงลี รวมถึงเพื่อนผู้ชายของพี่ดาอีกสองสามคนก็เข้ามาช่วยแบกโลงศพไปยังเมรุที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับเผาศพพี่ดา
"ฮึก...ฮือ..."
ทุกย่างก้าวที่เดินไป เสียงสะอื้นไห้จากคนรอบข้างที่รักพี่ดาก็ดังไปทั่วบริเวณจนทำให้ผมหดหู่ใจ จากที่ตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้น้ำตาก็ไหลอาบแก้มอีกครั้ง ผมยังทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้...ทำใจไม่ได้จริงๆ
"วางโลงลงก่อนครับ" ลุงสัปเหร่อเอ่ย พวกเราทั้งหมดก็วางโลงศพเอาไว้ที่หน้าเตาสำหรับใส่โลงศพเพื่อนำไปเผา ลุงสัปเหร่อเปิดฝาโลงออกมา
"ตอนนี้ก็ให้แขกร่วมวางดอกไม้จันทน์ ใครจะขออโหสิกรรมอะไรก็ขอนะครับ เพราะหลังจากวางดอกไม้จันทน์เสร็จผมก็จะนำโลงศพเผาทันที" ลุงสัปเหร่อพูดเสียงดังให้ทุกคนในงานได้ยิน
แขกในงานก็หยิบดอกไม้จันทน์ที่ผมเป็นคนถือเข้าไปวางไว้ที่ศพของพี่ดา ผมถือถาดใส่ดอกไม้จันทน์ด้วยมือที่สั่นระริก จนคนในงานมองผมด้วยความสงสาร
"ลักษณ์...อย่าร้องไห้สิวะเดี๋ยวพี่ดาไม่สบายใจ" เพชรที่เดินมาหยิบดอกไม้จันทน์พูดปลอบผม
"กูพยายามแล้วเพชร..ฮือ" ผมพูดทั้งน้ำตา เพชรก็ตบบ่าผมเบาๆแล้วเดินไปวางดอกไม้จันทน์ ผมที่มองตามเพชรไปพอหันมาอีกทีก็เห็นพี่ทศมายืนอยู่ตรงหน้า
"พี่ทศ.." ตาผมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ผมไม่คิดว่าพี่ทศจะกล้ามางานศพพี่ดา พี่ทศหยิบดอกไม้จันทน์โดยไม่พูดอะไรสักคำ
ตอนนี้คนในงานต่างก็วางดอกไม้จันทน์กันหมดแล้วเหลือเพียงป้าบัว ผม พี่รามที่ยังไม่วาง เราสามคนเดินขึ้นบันไดไปยังเมรุเผาศพ ผมคอยๆวางดอกไปบนศพพี่ดาซึ่งยังคงสวยแม้จะไม่มีลมหายใจ ผมกวาดสายตาไล่มองตั้งแต่ใบหน้าไล่ลงมาตามตัวจนถึงข้อมือที่พี่ดาใช้มีดกรีดซึ่งตอนนี้ได้มีผ้าสีขาวพันเอาไว้
"ฮือ..อ...พี่ดา.." ผมลูบผมพี่ดาช้าๆแล้วร้องไห้ออกมาจนพี่รามต้องดึงผมเข้าไปสวมกอด
"ลักษณ์..ดาเขาจะกลับไปเป็นนางฟ้าเหมือนเดิมแล้วนะ" พี่รามพูดกับผมพร้อมกับกอดผมเอาไว้ ผมซุกหน้าไปที่อกพี่รามแล้วปล่อยโฮออกมาไม่อายใคร
"ทุกคนพนมมือ เราจะสวดขออโหสิกรรมกับผู้ตาย" สัปเหร่อบอก ทุกคนรวมถึงผมร่วมพนมมือโดยมีพระคอยนำสวดมนต์ขออโหสิกรรมให้กับพี่ดา พอสวดเสร็จ สัปเหร่อก็นำโลงศพของพี่ดาเข้าไปในเตาเผาศพที่มีไฟคอยท่า
"พี่ดา...ฮือ...พี่ดา!!!" ผมวิ่งเข้าไปก่อนที่สัปเหร่อจะปิดเตา
"เฮ้ย!! เอ็งอย่าเข้ามาใกล้มันร้อน" ลุงสัปเหร่อเอ่ย พี่รามและเพชรก็ช่วยกันจับตัวผมเอาไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้ ก่อนจะพาผมลงจากเมรุ ผมเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า ควันสีขาวกำลังพวยพุ่งพร้อมกับนำสีใสที่ยังไหลออกทางตา...พี่ดาลักษณ์พี่ดานะครับ พี่สาวที่แสนดีของลักษณ์
พอพิธีฌาปนกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ทยอยกันกลับโดยพี่รามและป้าบัวคอยส่งแขกในงาน ส่วนผมนั้นเพชร นิล ชมพู ก็พามานั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนในวัด ตอนนี้สภาพผมไม่ต่างจากคนไร้วิญญาณ
"ลักษณ์ เรารู้ว่าลักษณ์รักพี่ดามากแต่เราไม่อยากให้ลักษณ์เป็นแบบนี้ ลักษณ์รู้ตัวไหมว่าทั้งผอม ทั้งโทรมขนาดไหน" ชมพูเอ่ยกับผม
"เรารู้แต่เรา...ทำใจไม่ได้" ผมพูดเสียงสั่น
"ลักษณ์ มึงต้องเข้มแข็งนะ" ดำพูดปลอบ โดยที่เพชรคอยกอดผมเอาไว้
"กูจะพยายาม..ฮือ" ผมพูดทั้งน้ำตา จนชมพูก็ร้องไห้ตามไปด้วย
"ลักษณ์..." เสียงของใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลัง ผมที่กอดเพชรก็เงยหน้ามองคนที่มาใหม่
"พี่ทศ" ใช่ครับ พี่ทศยืนอยู่ข้างหลังผม แววตาเศร้าสร้อยของผมแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเคือง ผู้ชายคนนี้เป็นสาเหตุให้พี่สาวผมต้องคิดสั้น
"มากับกูหน่อยสิ" พี่ทศเอ่ย มือหนาก็คว้าข้อมือผมแล้วลากออกไปโดยที่ผมยังไม่ทันจะตอบตกลง
"คนอื่นไม่ต้องตามนะ พี่มีเรื่องจะคุยกับลักษณ์เป็นการส่วนตัว" พี่ทศบอกกับเพื่อนของผมที่กำลังจะตามมา ทำให้เพชร นิลและชมพูก็นั่งลงที่เดิมเพราะจากน้ำเสียงของพี่ทศเมื่อครู่บ่งบอกว่าจริงจังจริงๆ พี่ทศลากผมเข้าไปในป่าช้าซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใคร ผมยกมือปาดเช็ดน้ำตาแล้วมองไปรอบๆด้วยความกลัว ถึงตอนนี้จะเป็นช่วงบ่ายแต่บรรยากาศก็ชวนวังเวงไม่น้อย
"พี่มีอะไรจะพูด ก็พูดมาสิ" ผมพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งบ่งบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าผมไม่อยากจะคุยด้วย
"รับนี่ไป" พี่ทศยื่นซองสีน้ำตาลให้ ผมเปิดซองดูก็พบว่ามีเงินสดจำนวนหนึ่งอยู่ในซอง
"พี่เอามาให้ผมทำไม เอาคืนไปเถอะ" ผมยื่นซองกลับไป
"เอาไปเถอะ กูอยากจะชดเชยเรื่องที่ทำไว้กับสีดา"
'เพียะ' ผมเอาซองเงินตบจนหน้าพี่ทศหันไปตามแรง
"พี่แม่งเลวจริงๆ ตอนแรกผมเห็นพี่มาผมคิดว่าพี่จะสำนึกผิดที่ข่มขืนพี่ดาจนพี่ดาคิดฆ่าตัวตายแต่นี่อะไร พี่เอาเงินมาซื้อชีวิตพี่สาวผม พี่คิดได้ยังไง...ฮือ...พี่คิดได้ยังไง!!!" ผมทุบตีพี่ทศไม่หยุด ปากก็ตะโกนด่า ร่างสูงตรงหน้าก็ยืนนิ่งปล่อยให้ผมโวยวายใส่โดยไม่คิดจะป้องกันตัวแต่อย่างใด
"กูเสียใจจริงๆ...กูไม่ได้เอาเงินมาแลกชีวิตพี่สาว เงินนี่มึงจะเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในงานศพก็ได้ กูเพียงอยากจะทำอะไรชดเชยให้กับมึงและครอบครัวมึงบ้าง" พี่ทศบอกกับผมน้ำเสียงเศร้าสร้อย ท่าทางของพี่ทศ แววตาของพี่ทศแสดงถึงความรู้สึกผิด
"ถ้าพี่รู้สึกผิดและอยากชดเชย ง่ายๆเลย พี่อย่ามายุ่งกับพวกเราอีก...ฮึก..ผมขอร้อง อย่ามาให้ผมเห็นหน้า ผมเจ็บ..พี่รู้ไหม..ฮือ..อ..ว่าผมเจ็บ" ผมบอกพี่ทศไปทั้งน้ำตา พี่ทศยืนนิ่งก่อนจะเงยหน้าหลับตาลงอยู่สักพักก่อนจะพูดออกมา
"ถ้าลักษณ์ต้องการพี่ก็จะเดินออกไปแต่จำไว้นะ ถ้าลักษณ์ต้องการความช่วยเหลือหรือคนในครอบครัวเดือดร้อนก็ให้มาบอกพี่ พี่ยินดีช่วยเสมอ" พี่ทศพูดกับผม คำพูดที่ไม่มีคำหยาบจนผมตกใจไม่คิดว่าพี่ทศจะพูดดีกับผม ผมมองหน้าพี่ทศไม่พูดอะไร พี่ทศเองก็มองหน้าผมกลับมาเช่นกันก่อนจะหันหลังและเดินจากผมไป
'อย่างน้อยทศกัณฐ์ก็รู้จักสำนึกผิด ลักษณ์ก็จะให้อภัยตามที่พี่ดาได้บอกลักษณ์เอาไว้' ผมคิดในใจก่อนจะนั่งกอดเข่าร้องไห้ในป่าช้า
'แกร็ก.." เสียงฝีเท้าเหยียบใบไม้แห้งดังขึ้นใกล้ๆ ผมที่นั่งเอาหน้าซบเข่าก็เงยหน้าแล้วกวาดสายตาไปรอบๆ
"พี่ราม" ผมเอ่ยชื่อคนที่เดินเข้ามา ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ลักษณ์...ลักษณ์รู้มาตลอดว่าดาเป็นอะไร ทำไมถึงไม่บอกพี่!!!!!" พี่รามตวาดมือก็จับบ่าผมให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเขย่าและออกแรงบีบจนผมรู้สึกเจ็บปวด
"คือ..พี่ราม..ฮือ..ฟังลักษณ์ก่อนสิ" ผมพูดปนสะอื้น ผมรู้สึกกลัวพี่ราม
"จะให้พี่ฟังอะไรอีกลักษณ์ จะให้พี่ฟังคำโกหกอะไรอีก ฮึ ถ้าพี่ไม่ตามลักษณ์กลับบ้าน พี่คงไม่รู้หรอกว่าลักษณ์กับไอ้ทศคุยอะไรกัน!!!" พี่รามระเบิดอารมณ์ใส่ผมแล้วผลักผมจนล้มลงกับพื้น
"ลักษณ์ขอโทษลักษณ์ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพี่ราม...ฮือ...พี่รามอย่าโกรธอย่าเกลียดลักษณ์เลยนะ"
ผมที่ถูกผลักล้มลงไปทำให้แผลที่เท้าครูดกับพื้นจนเจ็บลุกขึ้นยืนไม่ได้ ก็คลานเข่าเข้าไปกอดขาพี่รามทั้งน้ำตา อ้อนวอนขอร้องไม่ให้พี่รามโกรธ หากพี่รามโกรธเกลียดผมก็เท่ากับว่าผมนั้นไม่เหลือใคร ป้าบัวละทางโลกเข้าทางธรรมไปแล้ว พี่ดาก็ตายไปแล้ว ชีวิตผมตอนนี้ก็เหลือเพียงพี่รามถ้าพี่รามทิ้งผมไป...ผมจะอยู่ยังไง
"ลักษณ์อยากให้พี่หายโกรธไหม?" พี่รามก้มมองผม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกผิดกับก่อนหน้านี้จนผมหวั่นใจ
"อยากครับ..ลักษณ์ยอมทุกอย่างขอแค่พี่รามอย่าโกรธอย่าเกลียดลักษณ์" ผมรีบตอบตกลงโดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พี่รามให้ทำคืออะไร
"ช่วยพี่แก้แค้นทศกัณฐ์ ถ้าลักษณ์ไม่ทำพี่ก็ไม่บังคับแต่ลักษณ์ต้องออกไปให้พ้นหน้าพี่!!!"
............................................................................................
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทุกข้อความแสดงความคิดเห็นนะคะ
นิยายพล็อตน้ำเน่าไม่มีอะไรให้เดาเลย แต่อยากให้ติดตามกัน
ร่วมส่งกำลังใจให้ลักษณ์ด้วยนะคะ