บทที่ 11 (11.2)
“ตายแล้ว” เสียงอุทานของหญิงวัยกลางคนที่มาเปิดประตูบ้าน
ภาพที่เห็นคือลูกชายคนโตเดินหน้าแหยๆข้างหนึ่งพยุงน้องชายฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันเปี๊ยบมาด้วย มองเลยไปอีกหน่อยก็เห็นร่างสูงใหญ่ยืนหน้านิ่งอยู่ แต่ที่ต้องเบิกตากว้างกว่าเดิมก็เพราะคราบเปราะเปื้อนบนเสื้อ รวมไปถึงกลิ่นเปรี้ยวจางๆของน้ำย่อยลอยมากระทบจมูก
“ม้า ไอ้เจ้าเมาแล้วอ้วกใส่พี่เขา ม้ามาช่วยกันหน่อย” คุณนัยนา ธนชาติกุล เจ้าของร้านอาหารตามสั่งขนาดกลางๆที่ชื่อว่า ‘ขอข้าวขอแกง’ รีบขยับมาพยุงร่างของลูกชายคนเล็ก “รีบเข้าบ้านก่อนเถอะเจ้าเอย เข้ามาล้างตัวในบ้านก่อนนะจ้ะพ่อหนุ่ม” ประโยคหลังหันมาพูดกับนายหัวน้อยเปื้อนอ้วก
“ป๊า มาช่วยกันหน่อย” เสียงของหม่าม้าเรียกป๊าที่นั่งดูรายการโทรทัศน์รอบดึกอยู่ให้ออกมาช่วยพยุงร่างลูกชายคนเล็ก
คุณนที ธนชาติกุล พ่อครัวใหญ่แห่งร้านอาหารตามมสั่ง แม้ตอนนี้จะผันตัวมาคอยคุมอยู่เฉยๆไม่ได้ลงมือทำทีเดียวเพราะมีผู้ช่วยมือดีอยู่ แต่ก็ยังไว้ลายฝีมือพ่อครัวหัวป่าก์ไม่น้อย จนร้านรถเข็นเล็กๆเติบโดเป็นร้านห้องแถว ลูกค้าที่ติดใจรสชาติก็แวะเวียนมาอุดหนุนเรื่อยๆ
“โอ้โห ไอ้เจ้าขาเอ๊ยยย เมาเละเทะเลย” ป๊าบ่น
“แต่ไม่เละเทะเท่าคนที่อุตส่าห์มาส่งหรอกนะป๊า” ม้าพยักเพยิดไปที่ร่างสูงใหญ่ที่เดินตามเข้ามา คุณนทีถึงกับผงะเพราะได้กลิ่นเปรี้ยวๆจางๆ หนุ่มใหญ่ยิ้มแห้ง
“เจ้าเอยมาเอาน้องไปล้างหน้าล้างตา ส่วนพ่อหนุ่มไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” เถ้าแก้เนี๊ยร้านขอข้าวขอแกงกำชับลูกชายคนโต ส่วนตัวเองพารุ่นพี่ร่างสูงใหญ่มาอีกทาง
“รบกวนด้วยครับ” นาฏยค้อมศีรษะอย่างเกรงใจ หญิงวัยกลางคนยิ้มให้อย่างใจ ดวงตากลมโตที่คงถ่ายทอดให้ลูกชายทั้งสอง มองแล้วคล้ายกันมาก
“เดี๋ยวม้าหาเสื้อผ้ามาให้นะ พ่อหนุ่มเข้าไปอาบเลย ผ้าเช็ดตัวอยู่นี่จ้ะ” ผ้าเช็ดตัวที่พับเก็บในตู้เก็บถูกส่งมาให้
นาฏยใช้เวลาอยู่ในห้องไม่นานมาก ร่างสูงใหญ่มีหยุดน้ำเกาะประปราย เสื้อถอดซักน้ำระหว่างอาบน้ำไปแล้ว ส่วนด้านล่างเจ้าตัวใส่กางเกงขายาวตามเดิม พาดผ้าเช็ดตัวไว้บนไหล่หนา ค่อยแง้มประตูออกมาเห็นเสื้อยืดสีเทาตัวหนึ่งแขวนไว้ที่หน้าประตูห้องน้ำ เสื้อยืดตัวนี้ดูแล้วน่าจะพอใส่ได้ อาจจะสั้นไปสักหน่อยแต่ก็ดีกว่าเปลือยท่อนบน
เขาถือเสื้อเชิ้ตเปียกหมาดๆออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัว คุณนัยนาก็เปิดประตูออกออกมาจากห้องลูกชายคนเล็กพอดี
“เสร็จแล้วหรือจ๊ะ”
“ครับ งั้นผมขอตัวกลับเลยละกันนะครับ” เขาเกรงใจไม่อยากรบกวนในเวลาดึกแบบนี้
“รบกวนอะไรกัน อุตส่าห์มาส่งน้อง ม้าขอบคุณมาก” แถมยังโดนลูกชายเธอจัดของดีใส่เข้าให้ “แล้วก็ขอโทษแทนน้องด้วยนะจ๊ะ”
ร่างสูงใหญ่ยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไรครับ”
“ใช้ๆ ม้ายังไม่ได้ถามชื่อเราเลย” ตั้งแต่เข้าบ้านมาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีโอกาสถามชื่อรุ่นพี่ลูกชายเธอเลย
“ผมชื่อนาฏยครับ”
“ชื่อเพราะดีนะลูก เรียนบริหารเหมือนเจ้าหรือจ๊ะ”
“เปล่าครับ ผมเรียนประมงฯครับ”
“หรือจ๊ะ ม้าไม่ค่อยเห็นคนเรียนคณะนี้เลย”
เป็นธรรมดาที่คนอื่นจะแปลกใจกับคณะของเขา
พอลงมาด้านล่างหม่าม้าก็ยืนยันจะเอาเสื้อเขาไปซักให็และจะฝากจันทร์เจ้าไปคืนที่มหาลัยวันหลัง ตอนแรกเขาปฏิเสธแต่เมื่อ
เห็นความหวังดีและความจริงใจของอีกฝ่ายจึงได้แต่ปล่อยเสื้อเชิ้ตสีขาวให้คุณนัยนาไป
ด้านคุณนทีอาสาเดินออกมาส่งเขาถึงหน้าปากซอยที่จอดรถ
“ขอบใจนาฏยอีกทีที่อุตส่าห์มาส่งถึงบ้าน” คุณนทีก็พูดขึ้นอีกครั้งในขณะที่กำลังเดินออกมาถึงหน้าปากซอย
“ครับ” คนถูกขอบคุณค้อมศีรษะให้
แต่พอเดินมาถึงหน้าปากซอย นาฏยและคุณนทีต้องอึ้งไปพักใหญ่ เพราะว่า…
...รถยนต์คันหรูของชายหนุ่ม…
...ถูกล็อคล้อ…
ความจริงนาฏยรู้อยู่แล้วว่าเขาจอดรถในที่ห้ามจอดเพราะว่าเป็นทางเท้าเส้นขาวแดง คิดว่าจะแค่รีบพยุงร่างของรุ่นน้องไปส่งหน้าบ้านแล้วจะรีบกลับออกมา แต่ไม่คิดว่าจะเจอแจ๊คพอตขนาดที่ต้องเสียเวลาอยู่บ้านของอีกฝ่ายนานขึ้น
แหม! ทำงานดีคุ้มค่าภาษีประชาชนจริงๆนะครับคุณตำรวจ มาเร็วเคลมเร็วได้มากจริงๆ
“อืม งั้นเอาอย่างนี้ไหม นาฏยนอนที่ค้างที่นี่สักคืนก่อน แล้วพรุ่งนี้ไปสถานีตำรวจกับป๊าตอนเช้า ไปเรียกตำรวจมาปลดล้อ”
นาฏยไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะเขาค่อนข้างเกรงใจ แต่ว่าวิธีที่คุณนทีเสนอดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากตอนนี้ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านเท่าไรแล้ว นาฬิกาก็ชี้เข็มบอกเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว จริงๆถ้าเขาดึงดันที่จะอยู่ทำเรื่องที่สถานีตำรวจก็ได้หรอก แต่เชื่อว่าตุณนทีต้องอยู่ช่วยด้วยแน่ๆ เขาจึงไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมานั่งลำบากไปกับเขาด้วย
“งั้นผม...รบกวนด้วยนะครับ”
สุดท้ายก็ต้องเดินย้อนกลับไปทางเก่า ตึกห้องแถวหลังเดิมที่เพิ่งเดินออกมา
คืนนั้นนายนาฏย ช่วงชัชวาลย์จึงได้นอนห้องนอนของฝาแใดคนพี่อย่างจันทร์เอ๋ยที่สละห้องตัวเองให้ แล้วเจ้าตัวระเห็ดไปนอนห้องน้องชายแทนเพราะไม่อยากลากคนเมาที่นอนหลับปุ๋ยไปแล้วไปนอนห้องอื่นอีก
...ไอ้เจ้าขา…
...เมาแล้วลำบากคนอื่นแท้ๆ…
“อืม...” จันทร์เจ้ารู้สึกว่าเหมือนโดนค้อนทุบหัวอย่างจัง ทำไมมันถึงปวดตุบๆอย่างนี้นะ ร่างกายก็รู้สึกไม่ค่อยมีแรงเลย รู้สึกตัวหนักๆไปหมด ไม่อยากลุกจากเตียงเลยสักนิด แต่ว่าเสียงปลุกจากโทรศัพท์ทำให้ต้องลุกขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
ควานๆหาต้นตอของเสียงร้องที่ตามปกติก็ฟังดูน่ารักดีแต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนมันแผดเสียงน่ารำคาญมากกว่าปกติ พอเจอก็กดทิ้ง ตากลมๆที่เปิดหรี่ๆแค่ครึ่งเดียวมองเวลา
แปดโมง? ใครตั้งให้มันเช้าขนาดนีเนี่ย พอส่องไปที่วันที่ที่ขึ้นอยู่บนจอ วันนี้เขามีเรียนบ่ายนี่ ก็ใช่สินะ เมื่อวานเพื่อนๆมันถึงได้ชวนไปเมากันได้ไงละ
เออใช่...พูดถึงเมา เขาอยากจะตบหัวใครสักคนจริงๆ บอกแล้วว่าไม่กินเหล้ายังโดนยัดเยียด เป็นไงละถึงนั่งปวดหัวอย่างนี้ไงละ พอยันตัวลุกขึ้นมาได้ก็สะบัดศีรษะไล่ความมึนงง
นี่เขากลับมานอนห้องได้ไง? หรือจะเป็นไอ้อัชพากลับมา? แต่ช่างเถอะ ใบหน้าขาวๆทำจมูกฟุิดฟิดดมเสื้อตัวเอง กลิ่นแอลกอฮอลจางๆจากเมื่อคืนยังคงเหลือค้างบ้าง รู้สึกลำคอแห้งผากด้วย หิวน้ำชะมัด
ร่างสมส่วนโซซัดโซเซลงมาข้างล่าง พูดเสียงยานคาง “ม้าค้าบบบ เจ้าขาหิวน้ำ” เป็นปกติที่ถ้าอยู่บ้านแล้วสรรพนามชื่อเล่นของตัวเองจะถูกนำมาใช้
“ตื่นแล้วหรือเจ้าตัวดี มานี่เลย”
จันทร์เจ้าเดินเตอะแตะเข้าาไปในห้องนั่งเล่นที่ฝากหนึ่งถูกกั้นง่ายๆวางโต๊ะกินข้าว ขาเล็กที่กำลังก้าวเป๋ๆมีอันต้องชะงักกึกจนร่างกายแทบเสียการทรงตัว
ก็สิ่งที่ทำให้เขาต้องอ้าปากค้าง ตาถลนอยู่นี่ก็คือ
...พี่นาฏย…
ไม่ใช่พี่นาฏยธรรมดานะ
...พี่นาฏยกำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่บ้านเขาน่ะสิ…
TBC.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่าาาาา กลับมาแล้วค่าาาาาา
ขออภัยที่หายไปสองวันกว่าๆ
คนเขียนหลังเดาะมาค่า ฮ่าๆ ทำให้นั่งพิมพ์นานๆไม่ได้ ปวดหลังมาก เลยพิมพ์ต้อกแต้กนิดหน่อยๆ
ตอนนี้สั้นๆ ต้องขออภัยรอบที่ล้าน ฮ่าๆ ลงเองยังรู้สึกเลยว่ามันกุดๆ ฮ่าๆ 
ถ้ายังไงกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าควบด้วยเพื่อความต่อเนื่องและความฟินก็ไดนะค่าาาา
ตอนนี้พี่นาฏยนางเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมากๆๆฮ่าๆๆ โดนอ้วกแล้วยังมาโดนล็อคล้อ อิๆๆ จริงๆนางอยากกลับไปนอนบ้านนางนะค่า เพราะนางเกรงใจเจ้าของบ้าน แต่ว่าอิฉันไม่ยอมมม ใครจะยอมให้พระเอกชั้นเข้าบ้านแล้วจากไปง่ายๆ อย่างนี้มันต้องปิดประตูตีแมวเลยค่าาาา อิอิ
รักน้องเจ้าบวกเป็ด ปลื้มพี่นาฏยคอมเม้นโลดค่า
ปล. วณิพกพเนจรก็มานะค่า ไปตามได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0
ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts
ปล.สาม. เรื่องรักตามสั่งเป็นเรื่องสบายๆคลายเครียด ฟีลกู๊ด น่ารักๆ การดำเนินเรื่องอาจจะเรื่อยๆเอื่อยๆไปบ้าง ขอต้องขออภัย
คนอ่านที่ชอบความตื่นเต้นหรือเรื่องที่ซับซ้อนนะค่า เรื่องนี้เราตั้งพลอตไว้แบบเป็น สไลด์ออฟไลฟ์ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสถึง
ชีวิตตัวละครจริงๆ เวลาเขียนเราค่อนข้างใส่ความรู้สึกของมนุษย์จริงๆเข้าไป
คืออยากให้ลองนึกว่าพี่นาฏย น้องเจ้าและตัวละครทุกตัวเป็นคนจริงๆ ใช้ชีวิตอยู่เหมือนพวกเรานี่ละค่ะ เวลาเราเขียนเรานึกถึงว่าถ้าพี่นาฏยเป็นเพื่อนเรา น้องเจ้าเป็นน้องชายเรา เขาจะรู้สึกแบบไหนกันนะตอนนี้ เราเขียนให้ตัวละครเราค่อนข้างเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นเนื้อเรื่องเลยจะเป็นการดำรงชีวิตของคนคนหนึ่งนะค่า
ปล.สี่. อยากจะให้ทุกท่านติดตามชีวิตของพี่นาฏยกับน้องเจ้าไปด้วยกันกับเรานะค่า