No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ >>ตอนพิเศษ ลอยกระทง [P.25]<<[03/11/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ >>ตอนพิเศษ ลอยกระทง [P.25]<<[03/11/60]  (อ่าน 280693 ครั้ง)

ออฟไลน์ NOPKAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-1
อ้าวววว เห็นปูเรื่ิองคนชื่อสิงห์ออกแนวลวนลาม นึกว่าจะให้มีเรื่องกับฟลอยด์ ปรากฎว่าผ่านไปเฉยๆซะงั้น โหยยยยยยยย 5555

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อีพีฝอยคิดนอกลู่นอกทางเหรอแกระวังไม้แขวนเสื้อดีๆนะระวังต้อมมือจะลั่น 5555

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar ตอนพิเศษ : น้อยใจ (ใจน้อย)




         “กูกลับก่อนนะพวกมึง” ผมบอกลาเพื่อนๆ ที่นั่งหน้าป่วยอยู่ใต้ตึก ไม่ใช่เพราะป่วยติดกันหมดหรอกครับ แค่ทำควิซไม่ได้ก็แค่นั้น มันเป็นเรื่องปกติจริงๆ อีกอย่าง ช่วงนี้ต้องเริ่มหาพี่ฝึกงานช่วงปิดเทอมด้วย แต่ละคนเลยมีสภาพไม่ต่างจากซอมบี้เท่าไหร่ ส่วนผม อย่าลืมว่ามีมุษย์เจ้าสำอางคอยบงการชีวิตอยู่ ครีมสารพัดสารเพจนปวดหัว ผมว่า เอามาผสมกันแล้วกวนๆ ทาทีเดียวจะง่ายกว่า

   “เออๆ” ไอ้ดอยโบกมือลาแต่หน้ายังฟุบกับโต๊ะ

   “มึงไม่ไปรับเด็กมึงเหรอวะ” ถามก่อนจะเดินไป ช่วงนี้เห็นมันคลุกอยู่แค่กับเพื่อน

   “เด็กกูไปต่างจังหวัดเว้ย ไปกับครอบครัว คงไปเที่ยววันพ่อละมั้ง” ไอ้ดอยตอบเสียงเนือยๆ

   “แล้วทำไมมึงไม่ไปด้วยวะ” ไอ้ป่านที่นั่งข้างๆ ถามแทรก

   “ถามไม่คิดนะมึง ถ้ากูไป กูจะได้ทำควิซมั้ย สมองมีหัดใช้บ้าง คิดแต่อย่างเดียว...” ผมหัวเราะกับการทำจมูกบานของไอ้ดอย ผมเข้าใจในสิ่งที่มันจะสื่อนะครับ แต่ดูเหมือนไอ้ป่านจะไม่เข้าใจ เพราะมันยังทำหน้างง

   “กูคิดอะไร” ตีหน้ายุ่งจนคิ้วมันขมวดเป็นผม

   “หื่น” ไปแล้วครับ ไอ้ดอยวิ่งหนีการถูกไล่เตะ ผมก็เอิ้กอ้ากก่อนกลับ ที่ไอ้ดอยแซวเพราะมีวันหนึ่ง พวกผมต้องทำรายงานแล้วไอ้ป่านไม่ได้ปริ้นส์งานมา เลยต้องเปิดจากคอมมัน แล้วเผอิญมีไฟล์วีดีโอ เจ้าของเครื่องมันเผลอ ผมที่ไม่รู้ก็เปิดไปโดน...มาเต็มๆ ครับ

   วีดีโอที่ไอ้ป่านแอบถ่ายพี่เกนอาบน้ำ นี่ยังตกใจไม่หาย ดีที่มีแค่ผมกับไอ้ดอยที่เห็น ถ้าเปิดตอนพรีเซ็นต์ละก็คุณเอ้ย ซิกแพกมาเต็มจอแน่ ยังดีที่มันไม่ถ่ายช่วงล่างมา เห็นแค่วับๆ แวมๆ แต่ก็พาคิดไปไกล ไอ้ดอยกำลังกินน้ำชาจากขวดพุ่งใส่กระดาษจนเปียกหมด ไอ้ผมก็ได้แต่เปิดตาค้าง กว่าจะปิดได้ก็ตอนเจ้าของเครื่องมันหันมาเห็น ไอ้ป่านโวยวายลั่นใต้ตึก หน้ามันแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงซะอีก พอถูกคาดคั้นมันก็บอกว่า ถ่ายไว้แบล็กเมลแค่นั้นไม่ได้เก็บไว้ดู


   ใครจะไปเชื่อวะครับ



   ผมเดินออกไปเอารถออดี้ของพี่ฟลอยด์ที่จอดอยู่ลานจอดของคณะ ไม่ใช่พี่แกจะใจดีให้ผมใช้หรอกนะครับ แต่เพราะผมเลิกก่อน พี่ฟลอยด์ให้เลยผมขับมาที่คณะ พอเรียนเสร็จก็ให้ไปรับ เหมือนถูกกักบริเวณชอบกล คงกลัวผมจะแอบหนีไปไหน อีแค่เคยแอบหนีไปงานมอเตอร์โชว์กับไอ้ดอยก็แค่นั้น ไม่ได้กลับดึกเลย กลับเช้าด้วย แค่ตีห้าเท่านั้นเอง

   ขับออกจากคณะมุ่งหน้าสู่ตึกบริหาร ออดี้คันงามสีขาวดูสะดุดตาหากไม่ถูกสปอร์ตคาร์ตรากระทิงดุโฉบมาแย่งซีนจอดอยู่ด้านข้างตอนจะข้ามแยก ผมส่องผ่านกระจกสีชาเห็นแค่เงาลางๆ ของคนขับ ดูท่าจะเท่ไม่หยอก พอออกตัว กระทิงดุก็ขับแซงหน้าเลี้ยวไปทางขวา ผมยังมองตามท้ายรถสวย ก็สมราคาของมันแล้วครับ

   ออดี้สีขาวจอดที่ใต้ร่มไม้ที่ว่างพอดี ผมเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อรอ นี่ถ้าเจ้าของรถไม่เลิกสายกว่าผมเป็นชั่วโมงละก็ ไอ้ต้อมจะเปิดแอร์นอนในรถเลยครับ แต่นี่มันนานเกินไป กลัวจะตายก่อน เห็นข่าวบ่อยๆ

   ผมเดินไปรอที่ม้านั่งใต้ตึกที่มีนักศึกษาคณะบริหารนั่งประปราย ระหว่างที่นั่งรอก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดดูนั่นดูนี่ ก่อนจะถูกรบกวนจากคนที่ไม่รู้จัก ผู้ชายตาตี่ผิวขาว ตัวสูง ดูจากการแต่งตัวน่าจะปีสอง ผมมองหน้าคนที่มายืนค้ำหัวอยู่ข้างๆ หลังจากถูกสะกิดเรียก

   “ครับ?” ถามออกไปเมื่อเด็กนั่นยังเงียบ

   “พี่ใช่คนที่ประกวดนายนพมาสหรือเปล่าครับ” ถามสุภาพจนผมต้องรีบพยักหน้า “อ่อ ครับ” มาแค่สั้นๆ แล้วก็เดินไป อะไรของเด็กนั่น

   ผมยังนั่งรอไปเรื่อยๆ คราวนี้เป็นผู้หญิงครับ แต่งตัวเปรี้ยวใช้ได้ ไอ้ผมก็ผู้ชายที่ชอบมอง กระโปรงที่โชว์ขาขาวก็เป็นจุดดึงสายตาของผมได้ดี จนคนมายืนต้องกระแอม

   “ครับ?” ถามคำถามเดิม ผู้หญิงสามคนที่มายืนส่งยิ้มหวานให้

   “มารอพี่ฟลอยด์เหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามออกมา ใบหน้ายิ้มแย้มจนผมเผลอยิ้มตาม

   “อ่า ครับ” ตอบรับแบบตัวลอยๆ

   “พอดีพี่ฟลอยด์ให้เอานี่มาให้ค่ะ” ‘นี่’ ของน้องเขาคือกระดาษครับ ผมมองกระดาษที่ถูกพับเล็กๆ ที่ถูกยื่นมาให้ พอผมรับ น้องเขาก็เดินไป

   ‘ไม่ต้องรอ พี่มีนัดและอาจกลับช้า’

   เลิกคิ้วมองข้อความบนกระดาษแบบงงๆ อะไรวะ ทั้งที่กำชับให้ผมมารอ แล้วไหงให้กลับก่อน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า แต่เพราะความสงสัย ผมเลยส่งข้อความไปหาพร้อมแนบรูปถ่ายกระดาษโน้ตนี่ไปด้วย แต่กลับไม่มีคำตอบใดๆ หรือจะให้กลับก่อนจริงๆ วะ

   เมื่อไม่มีคำตอบ ผมก็เดินกลับไปที่รถ แล้วต้องเบิกตากว้าง เมื่อเห็นกลุ่มผู้หญิงพวกนั้นกำลังจะราดน้ำแดงใส่ออดี้สุดหวงของพี่ฟลอยด์ เชี่ยเอ้ย ผมรีบวิ่งแหกปากตะโกนจนพวกนั้นตกใจทำน้ำแดงตกพื้น แอบเห็นมือของหนึ่งในสามถือมีดคัตเตอร์ที่คาดว่าจะสร้างรอยบาดแผล โชคดีที่ผมออกมาทัน

   ลูบๆ คลำๆ รถจนคิดว่าปลอดภัยก็ขึ้นไปนั่ง ไม่เข้าใจว่าเด็กพวกนั้นจะทำอะไร ไม่ชอบหน้าผมเหรอ แต่นี่มันไม่ใช่รถผมไง หรือเกลียดพี่ฟลอยด์วะ เอ หรืออะไรหว่า

   ขับรถออกจากมหาลัยเพื่อกลับบ้าน แต่มือถือดันดังขึ้นมาขณะติดไฟแดง พอหยิบมาดูเป็นพี่ฟลอยด์ที่ตอบกลับมาด้วยการถามว่า ใครเอาให้ แล้วผมจะรู้จักมั้ยละ ผมเลยขับไปจอดริมฟุตบาทแล้วโทรไปหา

   “ผู้หญิงว่ะพี่ สวยด้วย” ทันทีที่ปลายสายรับผมก็ตอบไปทันที

   (ใครวะ แล้วนี่อยู่ไหน เดี๋ยวพี่จะเลิกเรียนแล้ว) เชี่ย เล่นอะไรกันวะ

   “ออกมาแล้ว แต่ไม่ไกล” พูดจบผมก็วางสายแล้ววกรถกลับไปรับพี่ฟลอยด์เหมือนเดิม อะไรวะ หรือจะเป็นบรรดากิ๊กที่หลงรักเจ้าของรถแล้วเกลียดผม มีส่วนๆ

   ขับย้อนมาถึงมหาลัยอีกรอบ คราวนี้เจอเต็มๆ ครับ พี่ฟลอยด์กำลังยืนเท้าเอวอยู่ข้างพี่เกน ด้านหน้าคือสามสาวพาวเวอร์พับเกิร์ลที่ก้มหน้าคางชิดนม เอ้ย อก พอผมเดินลงไปหา สามสาวก็ทำท่าตกใจราวกับเห็นผี

   “อะไรวะพี่” ถามอย่างงงๆ เกิดอะไรขึ้นกันแน่

   “พวกนี้ใช่มั้ยที่เอาจดหมายให้” พี่ฟลอยด์ทำหน้านิ่งถามผม แต่ตาจ้องสามสาวอย่างหาเรื่อง

   “ใช่ ทำไมเหรอ” ผมเดินไปยืนข้างพี่ฟลอยด์ ยิ่งทำให้สามสาวก้มหน้ามากกว่าเดิม

   “เด็กไอ้สิงห์มัน” เป็นพี่เกนที่ตอบ ผมก็ยังทำหน้าไม่เข้าใจ

   “แล้วมันยังไง”

   “เด็กมึงโง่เกิน” อ่าว พี่เกนด่าผมเฉย “ตอนนี้ไอ้สิงห์นอนอยู่โรงพยาบาล”

   “ห๊ะ” ตาโตมองสิ่งที่พี่เกนบอก “เมื่อไหร่ เป็นอะไรวะพี่”

   “หลังจากพวกมึงกลับจากผับ” ถ้าตามที่พี่เกนพูดจริงก็เป็นอาทิตย์แล้วสิวะ

   “พี่เขาเป็นอะไรวะพี่ อาการหนักเลยเหรอ”

   “ยังจะไปห่วงมันทำไม” กลายเป็นพี่ฟลอยด์ที่ตวาดจนนักศึกษาแถวนั้นหันมามอง

   “ถูกกูซ้อม” ผมต้องรีบขยี้รูหูซ้ำๆ

   “ไปซ้อมพี่เขาทำไม” จ้องหน้าพี่เกนอย่างอยากรู้ แต่คนโดนจ้องพยักพเยิดไปทางคนอีกข้างของผมแทน “พี่ฟลอยด์เกี่ยวด้วยเหรอ” คนนี้คาดคั้นได้สะดวกครับ

   “ใครใช้ให้มันมาแตะตัวมึงล่ะ”

   “เหตุผลแค่นี้? พี่ทำเกินไป” ผมเริ่มโมโหนิดๆ ละ

   “เกินไป? นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ” พี่ฟลอยด์พูดออกมาหน้าตาเฉย แถมยังเดินไปอยู่หน้าสามสาวในระยะประชิดจนพวกเธอต้องถอยหลัง “อย่าทำแบบนี้อีก เพราะผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแน่” คำสั่งเสียงเฉียบขาดจนสามสาวรีบพยักหน้า ดวงตาโตเริ่มมีน้ำตาคลอ

   “มึงไม่ทำอะไรเหรอวะ” พี่เกนเดินไปยืนคู่พี่ฟลอยด์ แถมตอนนี้เพื่อนๆ พี่ฟลอยด์ที่เพิ่งลงมาก็มายืนออเต็มไปหมด บ้างก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นพี่เกนที่บอกแบบเรียบๆ ไปจนทุกคนพยักหน้าเข้าใจ

   “นี่แค่ตักเตือน ถ้ายังทำอีก...คงรู้ว่าผมไม่ใช่คนใจดี” ข่มขู่ พี่ฟลอยด์เดินไปกดดันแถมข่มขู่จนน้ำตาสามสาวไหลเป็นทางแล้วรีบวิ่งไป

   ผมยืนมองด้วยความขัดใจที่เห็นพวกพี่ฟลอยด์รุมรังแกผู้หญิง ถึงพวกนั้นจะคิดทำร้ายแต่เขาก็เป็นผู้หญิงนะครับ เป็นเพศอ่อนแอ ทำแบบนี้ก็เกินไป

   “พี่ทำเกินไปนะ” ผมแหวขึ้นมาทัน เพื่อนพี่ฟลอยด์พากันหัวเราะ

   “ตรงไหนที่ว่าเกินไป” คนหน้าตึงเดินเข้ามากดดันผมแทน

   “มันไม่เกินไปหรอก ถ้าหนึ่งในนั้นไม่มีน้ำกรด ถ้าหนึ่งในนั้นไม่มีมีดพก และถ้าหนึ่งในนั้นไม่มีปืน คงเรียกมึงไปเพื่อจะทำร้ายนั่นแหละ” พี่เกนร่ายยาวจนผมและพี่คนอื่นๆ ยังตกใจ คิดว่าจะทำร้ายรถซะอีก กะฆ่าผมเลยเหรอเนี่ย

   “เชี่ย รู้ได้ไงวะ” เพื่อนพี่ฟลอยด์ถามออกมาด้วยความตกใจ

   “กูค้นกระเป๋าไงไอ้ห่าที” พี่เกนตอบเพื่อนจนโดนตบหัวเบาๆ (แต่ผมปลิว)

   “นี่กะเล่นให้ตายเลยเหรอวะ โหดจริงๆ ผู้หญิงสมัยนี้” พี่ทีทำหน้าสยดสยองทันที ส่วนผมได้แต่นิ่งเพราะพูดอะไรไม่ออก
 
   “ยังเกินไปอยู่หรือเปล่า ที่พี่ทำ” น้ำเสียงปลายสะบัดให้รู้ว่างอนและน้อยใจทำให้ผมยิ้มแหยๆ และกำลังจะอ้าปากพูด พี่ฟลอยด์ก็เดินหนีไปแล้ว

   “พี่ไปซ้อมพี่สิงห์ทำไม” แม้ตาจะมองตามหลังคนงอนไป แต่ก็อยากรู้เรื่องก่อน ขืนให้ไปถามพี่ฟลอยด์ มีหวังถูกเงียบใส่ตามเคย

   “ก็ตอนในผับ ไอ้ฟลอยด์เห็นมึงถูกไอ้สิงห์มอมเหล้า ดีที่มึงคอแข็ง แต่ที่มันไม่พอใจคือไอ้ห่าสิงห์ขอเอามึงสักรอบ จนถูกลากออกไปกระทืบด้านนอก” พี่เกนเล่าเป็นฉากๆ ซึ่งพี่ที่ชื่อทีก็พยักหน้า คงจะอยู่ในเหตุการณ์สินะ

   “พี่ฟลอยด์กระทืบเหรอ ตอนไหน ทำไมผมไม่เห็น” นั่นสิ ทำไมผมไม่เห็นวะ

   “มึงอยู่หรือเปล่าละ หายหัวจนพวกกูต้องออกตามหา”

   “แต่ตอนผมกลับมาก็ไม่เห็นมีใครเล่าอะไรให้ฟัง นับๆ แล้วเกือบอาทิตย์ด้วยซ้ำ”

   “มันคงอยากเล่าหรอก ไม่เอาถึงตายแค่หยอดน้ำข้าวต้มก็บุญเท่าไหร่แล้ว” พี่ทีพูดออกมาแทน

   “มึงก็รู้นิสัยไอ้ฟลอยด์นี่หว่า ขี้หึงไม่มีใครเกิน แล้วที่ไอ้สิงห์ทำมันก็เกินขอบเขตความอดทนของมันแล้ว”

   “พี่ฟลอยด์กระทืบคนเดียวเหรอ” ถามออกไป ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงแต่การมองตากันปริบๆ “พวกพี่ด้วยสินะ”

   “นานๆ ทีว่ะ ไอ้น้อง” พี่ทีหัวเราะแห้ง แต่ผมมองตวัดตามองก็เงียบ

   “พี่สิงห์ก็เพื่อนพี่นะ” ทำเพื่อนตัวเองใช้ได้ที่ไหนวะ

   “มันเป็นเพื่อนของเพื่อนเว้ย เรียนอยู่คนละที่ด้วย มันถึงห่ามทำแบบนี้ไง ถ้าอยู่ที่นี่คงไม่กล้าแหย่ขนจมูกไอ้ฟลอยด์หรอก” พี่ทีร่ายยาว ผมก็พยักหน้าส่งๆ

   “เออๆ” ขี้เกียจถามต่อเลยเลือกเดินกลับไปหาคนที่งอนนั่งรอให้รถ

   ทันทีที่ผมเปิดประตูไปนั่ง ออดี้สีขาวก็พุ่งทะยานจนผมตกใจ ไม่รู้จะรีบเหาะไปไหน เหยียบทีหัวใจไอ้ต้อมจะวาย กว่าจะถึงบ้าน ผมสวมมนต์ไปเป็นร้อยรอบ กลัวเหลือเกินว่าจะกลับไม่ถึงบ้าน




   พี่ฟลอยด์ลงจากรถไปไม่หันมามองผมแม้แต่น้อย โหมดคนงอนขี้น้อยใจดราม่ามาเต็มอีกแล้ว ทำไมผมรู้สึกเหมือนมีแฟนเป็นผู้หญิงวะ ทั้งขี้งอน ขี้หึง ขี้น้อยใจ ขี้อะไรอีกสารพัด ขนาดพี่เกนของไอ้ป่านหรือพี่โชของไอ้กลอยยังไม่เป็นเยอะแบบนี้เลย

   ผมเดินเข้าบ้านเจอพี่ฟีนกำลังทำตาปริบๆ อยู่กับลูกชาย พอหันมาเห็นผมปุ๊บก็รีบเดินเข้ามาหาแล้วเขย่าแขนยิกๆ

   “ฟลอยด์เป็นอะไร ต้อมพอจะรู้มั้ย พี่ถามก็ไม่ยอมตอบ” ผมยิ้มให้พี่ฟีนเพราะไม่กล้าบอกว่าน้องชายกำลังงอน แต่พี่เขาคงเข้าใจเพราะเห็นพยักหน้าแล้วตบบ่าผมปุๆ “ถูกเลี้ยงเอาแต่ใจมากไป ต้อมก็คงเข้าใจ”

   โคตรเข้าใจเลยว่ะครับ

   เดินตามขึ้นไปชั้นสอง มีล็อกห้องด้วยนะเออ นี่กะจะไม่ให้ผมนอนด้วยใช่มั้ยเนี่ย คิดเหรอว่าไอ้ต้อมจะง้อ ผมเดินลงมาด้านล่างเพื่อขอกุญแจห้อง อย่าคิดว่าผมจะหนีนะครับ ไอ้ต้อมไม่ใช่คนประเภทนั้น พอได้กุญแจก็รีบเดินปึงปังขึ้นไป ไขได้ก็มองหาคนขี้งอนที่คงอาบน้ำอยู่ ผมนั่งรอจนพี่ฟลอยด์ออกจากห้องน้ำมา แต่งตัวชุดนอนเรียบร้อย

   “พี่ไม่ลงไปกินข้าวเหรอ” ผมถามขณะคนงอนล้มตัวนอนบนเตียง พี่ฟลอยด์ไม่แม้แต่จะชายตามามอง พอนอนได้ก็คลุมโปงจนผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “ตามใจ”

   ผมเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปด้านล่าง บนโต๊ะอาหารมีแค่พี่ฟีนกับน้องเฟรมที่นั่งรออยู่ พอเห็นผมพี่สาวคนรองก็กวักมือเรียกให้ผมไปนั่ง

   “เหลือแค่นี้แหละ” พี่ฟีนว่า มือก็คอยตักไข่เจียวใส่จานลูกชาย

   “น่าอร่อยนะครับ” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นกับข้าวง่ายๆ ไม่กี่อย่าง

   “ถ้าไม่ชอบสั่งทำใหม่ก็ได้นะ พี่เห็นว่าพี่เฟิร์นกับพ่อไม่อยู่ เลยให้ทำง่ายๆ” ผมยิ้ม มือก็ตักผัดผักรวมกุ้งสดใส่จาน

   “ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้ ตอนอยู่หอ ผมยังต้มบะหมี่ใส่ปลากระป๋องเลย” ผมว่า พี่ฟีนทำตาโตมอง

   “พี่ก็อยากกินนะ เห็นเขาว่ากันว่ามันอร่อย”

   “มากครับ”

   หลังจากอิ่มหนำ ผมก็ยกข้าวไข่เจียวขึ้นไปให้คนงอนที่ยังนอนคลุมโปงไม่มีขยับเขยื้อนแต่อย่างใด

   “พี่ฟลอยด์ กินข้าวได้แล้ว” เดินไปสะกิด แต่ร่างที่นอนใต้ผ้าห่มขยับตัวหนี “จะหายใจออกมั้ยน่ะ รีบๆ ออกมากิน ไข่เจียวห๊อมหอม” พยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด ปกติจะง้อง่ายมาก คราวนี้ท่าจะยาก

   “ไม่หิว” เสียงที่ดังลอดออกมาอู้อี้ แต่ก็ฟังรู้เรื่อง

   “ไม่หิวได้ไง นี่มันจะทุ่มแล้ว เร็วๆ เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะหรอก” ต้องหลอกล่อครับ

   “ไม่”

   “พี่ฟลอยด์” ลากเสียงยาวให้ดูน่ารำคาญ และมันได้ผล คนนอนคลุมโปงเปิดผ้าห่มออกมาตีหน้ายุ่ง “กินข้าว”

   “ไม่กิน ไม่หิว ออกไปเลย” มีไล่ผมด้วยว่ะ

   “ไล่เลยเหรอ” ถามออกไป คนงอนนั่งกอดอกอยู่บนเตียงพยักหน้าตอบ “เออ ถ้าไล่ก็จะไป แต่กินข้าวก่อน”

   “ไม่หิวโว้ย” ขึ้นเสียงมาจนสะดุ้ง เชี่ยเอ้ย

   “ไม่หิวก็ไม่หิว งั้นวางไว้นี่นะ หิวก็ออกมากิน” ผมวางข้าวไข่เจียวที่ผมทำไว้บนโต๊ะ ก่อนจะออกไปยังแอบเหล่ตามองคนงอนก่อดราม่าอยู่บนเตียง ได้แต่ขำหน้าตาตลกๆ นั่น “ไปละ ไล่แล้วไม่ต้องตามกลับมาด้วย”

   ผมหัวเราะออกมาหลังจากปิดประตูแล้ว ที่ขำเพราะหน้าของคนงอนที่เบิกตาจนแทบถลนที่ผมบอก พวกเด็กเอาแต่ใจยิ่งเราตามใจก็จะยิ่งดื้อ ดังนั้นเราต้องดัดนิสัยครับ ผมลงมาด้านล่างไม่เจอใครแล้ว เลยเลือกจะออกไปนั่งรับลมด้านนอก แต่ลมไม่มีพัดมาสักนิดน่าขัดใจ เลยไปนั่งตากยุงในสวน ซึ่งตอนนี้ผักที่ปลูกเริ่มสวยงามสามารถเก็บกินได้

   นั่งไปนานๆ เริ่มมีลมพัดมาให้คลายร้อน ผมเลยล้มตัวลงไปนอนกับพื้นหญ้าทำให้เห็นดวงดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้า ช่างสวยซะจริง

   พอนอนอยู่คนเดียวก็มาคิดเรื่องที่พี่ฟลอยด์ทำร้ายพี่สิงห์อะไรนั่น ถ้าเป็นตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ไม่แน่ผมอาจเข้าร่วมวงด้วย แต่มันผ่านมาแล้ว ความโมโหที่ถูกเกาะแกะก็หายไปแล้วด้วย เลยเห็นว่ามันเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป พอคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

   ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีตอนมีรถขับเข้ามา คงจะเป็นพ่อหรือไม่ก็พี่เฟิร์น และผมคงจะนอนต่ออีกหน่อยถ้าไม่ได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นบ้าน อะไรวะ เกิดอะไรขึ้น

   ผุดลุกขึ้นนั่ง สายตามองไปยังหน้าบ้านที่เห็นในระยะไกล ผมเห็นคนใส่ชุดนอนวิ่งไปวิ่งมา ปากก็ตะโกนจนถูกพ่อตัวเองด่าให้เงียบเพราะดึกแล้ว แต่พี่ฟลอยด์ดูไม่สนใจยังคงเดินไปเดินมา จะไปไหนของพี่แกน่ะ ผมยืนขึ้นเมื่อพี่ฟลอยด์ขับรถออกจากบ้านไป ขาก็รีบสาวไปหน้าบ้าน เจอกับพ่อพี่ฟลอยด์ที่ขมวดคิ้วหัวเสีย

   “มีอะไรเหรอครับ แล้วพี่ฟลอยด์จะไปไหน” ผมถามเจ้าของบ้านที่จ้องผมนิ่งๆ

   “ไปไหนมา ไอ้ฟลอยด์มันตามหา” พ่อถามผมออกมา

   “อยู่หลังบ้าน...” นั่นไง คนขี้งอนออกตามหาผมนั่นเอง “เอ่อ ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้มั้ยครับ” แม้พ่อดูไม่อยากยุ่งแต่ก็วางมือถือเครื่องแพงบนมือผม พอต่อสายไปจนดับไปสองรอบ รอบสุดท้ายปลายสายก็กดรับ

   (ถ้าหาต้อมไม่เจอผมไม่กลับ) เสียงดูร้อนรนจนผมเผลอเลิกคิ้ว

   “พี่จะไปหาผมจากที่ไหน” ถามออกไป ได้ยินเสียงปลายสายตะโกนสบถเสียงดังลั่น ไม่นานสายก็ตัดไป ผมยื่นมือถือคืนพ่อไป ซึ่งหลังจากได้ของคืนก็เดินเข้าบ้าน มีทิ้งท้ายไม่อยากยุ่ง ผมได้แต่ก้มศีรษะขอโทษไป

   ยืนรออยู่หน้าบ้านครู่ใหญ่ รถคันสวยก็พุ่งมาจอดตรงหน้าผม เจ้าของรถเปิดประตูตีหน้ายักษ์เข้ามาหา ผมรีบถอยหลังทันทีกลัวถูกชก หน้าตาโคตรหาเรื่องจนผมกลัว

   แต่ผิดคลาด พี่ฟลอยด์เดินเข้ามาแล้วดึงผมไปกอด...แต่มันแน่นเกินจนต้องผลักออก

   “มึงหายไปไหนมา” ตะคอกถาม

   “อยู่ในสวน” ตอบไปชี้ไป “พี่นั่นแหละ ไปไหนมาวะ”

   “ไปตามหามึงนั่นแหละ”

   “ตามหาทำไม เมื่อกี้พี่ไล่ผมเอง”

   “มึงก็รู้ว่ากูงอน” น้ำเสียงแข็งกระด่างหายไปทันตา ผมขำจนคนบอกว่าตัวเองงอนหน้าบึ้ง

   “ก็รู้ไงว่างอน” พูดเจือเสียงหัวเราะ

   “รู้แล้วหายออกมาทำไมวะ”

   “อ่าว ก็พี่ไล่ผมก็ออกมาสิ จะอยู่ทำไม” ดูเหมือนคนไล่จะพูดไม่ออก

   “ไม่รู้ละ ต่อไปถ้าถูกไล่ก็ให้รออยู่ในห้อง เข้าใจมั้ย” พอหาเสียงเจอก็ร่ายยาว

   “นี่ผมผิดเหรอวะ”

   “เออ ผิด”

   คนแบบนี้ก็มีเว้ยเฮ้ย

   ผมหัวเราะร่วนตามหลังคนกึ่งจูงกึ่งลากเข้าบ้าน พอขึ้นห้องก็เห็นจานข้าวหมดเกลี้ยงไม่เหลือสักเม็ด ไหนคนไหนบอกไม่หิววะ ดูเหมือนคนบอกไม่หิวจะรู้ว่าผมมองจานข้าว เลยเลือกจะเดินซุยๆ ไปนั่งบนเตียงโดยดึงแขนให้ผมลงไปนั่งตาม...

   แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่ต้องให้นั่งคร่อมตัก โคตรล่อแหลม

   “ผมขอโทษ” บอกออกไปเพราะรู้สึกผิดนิดๆ

   “เรื่อง?” มีตีหน้ามึนด้วยนะ

   “ที่พี่ปกป้องผม” ยิ้มให้คนทำดี “แต่ก็โกรธที่ทำเกินเหตุ”

   “น้อยไปด้วยซ้ำ ตอนเห็นมันกอดแทบจะพุ่งมากระทืบให้ตายคาตีน”

   “เห็นด้วยเหรอ นึกว่ามัวแต่หลงนม”

   “เต็มๆ สองตานี่เลย” ผมหัวเราะให้คนที่ชี้ดวงตาสองข้างตัวเอง “ทำไมไม่ขัดมันวะ”

   “นั่นก็เต็มที่แล้ว ถ้ามากกว่านั้นคงกระทืบไปละ” บอกตามความรู้สึกตอนแรกที่โดน “แต่พี่ก็ทำไม่ถูก พรุ่งนี้ไปขอโทษพี่เขาเลย”

   “ไม่” ปากยู่เหมือนเป็ดจนผมต้องบีบ “อ๋อ นี่ทำร้ายพี่แล้วเข้าข้างมันเหรอ” ดูครับ ดูคนพาล

   “อย่ามาดราม่าครับพี่ฟลอยด์” ใช้หน้าผากเคาะกับหน้าผากคนพาลเบาๆ

   “ไม่ได้ดราม่า แต่งอน น้อยใจด้วย มากด้วย ที่สุดด้วย” คนบอกอารมณ์ตัวเองหน้างอเป็นปลาทูไปแล้ว แบบนี้จะไม่ให้ขำได้ไง

   “ก็ง้ออยู่นี่ไง จะหายไม่หาย”

   “นี่ง้อหรือบังคับวะ”

   “ทั้งคู่”

   “เหอะ” พี่ฟลอยด์เบือนหน้าไปมองหน้าต่าง

   “เอาน่า นี่ง้อสุดๆ แล้วเนี่ย หรือจะให้แก้ผ้าเต้นจ้ำบ๊ะให้ดู” พูดทีเล่นทีจริง แต่คนงอนทำตาวาว “พูดเล่นครับพี่ครับ”

   “หึๆ”

   เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ผมรีบตะกายลงจากตัก แต่มือที่ยึดสะโพกไว้จับแน่น แถมสายตาที่จ้องมายังหื่นเต็มพิกัด

   “บอกว่าล้อเล่นเว้ย เชี่ย ห้ามล้วง”

   “ไม่ล้วงก็ได้” คนบอกจะไม่ล้วงแต่กลับแก้ผ้าผมแทน ครับไม่ต้องล้วง ไม่มีเสื้อผ้าขวางก็ไม่ต้องล้วง เหี้ยแล้ว

   นี่ถ้าไม่เห็นว่าทำเพื่อผมละก็ ไม่มีทางจะยอมง่ายๆ หรอกนะเออ

   “พี่ฟลอยด์” ถามขณะถูกปากแดงกัดเม้มที่คอ

   “หืม” นี่ก็ไม่ยอมพูดยอมจา จ้องจะกัดคอผมอยู่นั่น

   “พรุ่งนี้ไปขอโทษพี่สิงห์กันนะ เชี่ย” ที่ด่าเพราะถูกกัดคอครับ กัดจริงๆ โคตรเจ็บ

   “ถ้าวันนี้ทำตัวดี เรื่องพรุ่งนี้ก็ตกลง” มีต่อรองด้วยว่ะ แล้วจะทำไงได้ จัดไปครับ จัดให้เต็มที่ คิดซะว่าไอ้ต้อมเป็นตุ๊กตายางไปเลย!





   ที่โรงพยาบาลหน้าห้องพิเศษ ชื่อหน้าห้องเป็นชื่อของคนไข้ที่พักรักษาตัวอยู่ในนั้น ผมถือกระเช้าผลไม้เพื่อเยี่ยมคนไข้ มีพี่ฟลอยด์ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ

   “ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” ผมสะกิดคนหน้าบูด
 
   “เต็มที่แล้วเนี่ย” ส่ายหน้าให้คนดื้อ

   ผมเคาะประตูไม่นานก็มีคนมาเปิด ผู้หญิงที่เอากระดาษให้ผมตกใจเมื่อเห็นผมยืนอยู่หลังประตู ผมยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพร้อมชูกระเช้า เธอถอยนิดๆ ให้ผมเข้าไป คนไข้นอนดูทีวีอยู่บนเตียง พอเห็นผมก็กระพริบตาปริบๆ แต่พอเห็นคนเดินตามหลังผมเข้ามาก็หน้าบึ้ง

   “มึงมาทำไม” พี่สิงห์เอ่ยทัก สายตามองไปยังพี่ฟลอยด์

   “...” พี่ฟลอยด์ไม่ตอบอะไร ตาก็เอาแต่จ้อง เป็นผมที่ต้องพูดแทรก

   “คือผมเอากระเช้ามาเยี่ยม” เดินเข้าไปหาแต่ถูกดึงเสื้อด้านหลัง สาวสวยที่เปิดประตูคงเห็น เธอเลยเดินมาเอากระเช้าไปวางบนโต๊ะข้างคนไข้แทน “ดูพี่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนี่”

   “เออ” ตอบเสียงห้วนจนผมขมวดคิ้ว “แล้วมาทำไม”

   “พี่ฟลอยด์” ผมเรียกคนที่ทำเป็นนิ่ง ได้ยินเสียงจิ๊ปากก่อน

   “ขอโทษ” พี่ฟลอยด์บอกเสียงห้วนๆ แต่ก็ดังพอให้คนนอนบนเตียงเลิกคิ้ว

   “มึงมาขอโทษกู?” พี่สิงห์ถามกลับด้วยความแปลกใจ

   “เออ” นี่ก็ห้วนจริง

   “ผมรู้ว่าพี่ฟลอยด์ทำเกินไป แต่พี่ก็ทำเกินไปกับผม อย่าคิดว่าผมไม่รู้ที่พี่จะมอมเหล้าผม” บอกเสียงนิ่ง พี่สิงห์รีบหันไปมองแฟนตัวเองทันที

   “เออๆ กูขอโทษ” พี่สิงห์เอ่ยขอโทษผมออกมา ก่อนมองไปที่พี่ฟลอยด์ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างผม “กูก็ขอโทษมึงด้วยเหมือนกัน”

   “ถ้ามึงยังทำอีก กูเอามึงตาย” นี่ให้มาขอโทษ แต่พี่ฟลอยด์ดันมาขู่คนไข้แทนซะงั้น พี่สิงห์ได้ยินก็พยักหน้าแล้วหัวเราะออกมา

   “อืมๆ”

   หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็เดินออกมากับพี่ฟลอยด์ เกือบจะเข้าลิฟต์แล้วหากสาวสวยแฟนพี่สิงห์ไม่วิ่งมาเรียกซะก่อน

   “คือ...” ใบหน้าสวยอ้ำอึ้งจนผมยิ้มออกมา เธอถึงเอ่ย “ขอโทษนะคะที่ทำไป”

   “ผม...”

   “รู้ไว้ก็ดี อย่าคิดทำคนของผมอีก” ผมถลึงตาใส่พี่ฟลอยด์ที่พูดแทรก สาวเจ้าก็รีบพยักหน้าแล้วเอ่ยขอโทษอีกรอบก่อนจะหันหลังย้อนไปที่ห้องคนไข้

   “พี่นี่นะ” ผมว่าพลางขำ

   “อะไร”

   “สงสัยต้องเลิกกินหวานแล้วว่ะ”

   “ทำไมต้องเลิกกินหวาน”

   “ก็ดุเกินไป” พี่ฟลอยด์เลิกคิ้วมองหน้าผมอยู่นานก่อนจะนึกขึ้นได้ก็คว้าคอผมเข้าใต้รักแร้ “เชี่ย ผมเจ็บ”

   “ด่าผัวว่าหมาเหรอหา” โดนหมัดหมุนอยู่บนหัว โคตรเจ็บ

   “เจ็บๆ” พยายามตีต่อยจนหลุดออกมา ผมมองคนใช้ความรุนแรงตาเขียว

   “มองหน้าพี่ทำไมครับ” ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนน่าหมั่นไส้

   “งอนเว้ย น้อยใจด้วย ที่สุดด้วย” ผมว่า พยายามปั้นหน้าบึ้ง แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเผลอหัวเราะออกมา “ทำไม่ได้ว่ะ”

   “ถึงไม่งอน พี่ก็ง้อได้นะ” ผมเหล่มองคนบอกชอบง้อ ก่อนจะถอยห่างเมื่อมีเสียงกระซิบชิดใบหู “แต่ต้องง้อบนเตียงนะ รับรอง หายงอนแน่ แถมติดใจด้วย”

   ไม่มีทางครับ ไอ้ต้อมไม่มีทางงอนให้ไอ้พี่ฟลอยด์มันง้ออย่างแน่นอน แค่เมื่อคืนต้องง้อมันก็แทบหมอนรองกระดูกเคลื่อน ไอ้ต้อมเข็ดครับ เข็ดหลาบจนฝังขึ้นใจ



   “พี่เคยตายในลิฟต์ป่ะ” 


.........................................................

ใครว่าพี่ฝอยไม่ทำอะไร ไม่ค่ะไม่ .. ไม่เหลือ ฮ่าๆๆๆ

เป็นตอนต่อ (มั้ง) จากตอนพี่แล้วค่ะ เห็นพี่ฝอยเงียบๆ กระทืบเรียบนะฮ้าบ  :jul3:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่ฟลอยด์มุ้งมิ้งมาก

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อยากได้คนแบบพี่ฝอย55555

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่ฝอย ทั้งขี้หึง ขี้งอน ฟิลลิ่งมาเต็มจริง ๆ

แต่ก็น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก


 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
พี่ฟลอยด์สามขวบ555555

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :m20: :m20: เอาอีกๆ..ให้ต้อมง้อเยอะเยอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อ่านๆไปบางทีก็สงสัยว่าตกลงต้อมนี่พระเอกใช่มะ เห็นตามง้ออิพี่ฟลอยด์แกแทบทุกตอนเลยจริงๆ อิพี่ฟลอยด์นี่นิสัยสาวน้อยมาก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
นอกจากความหื่นที่เพิ่มขึ้น ความหึงหวงพี่แกก็ไม่ลดลงเลยสักนิดดดดด :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
พี่ฟลอยด์ทำดีมากๆ น้องต้อมง้อแทบทุกตอนนะ

 :กอด1:  :pig4: :L1:

ออฟไลน์ Bejae

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
พี่ฝอยขี้น้อยใจเป็นปลาซิวเลย :katai5:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตลกพี่ฟลอยด์ งอนเหมือนเด็กเลย 555

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่าร้ากกกอ่ะ มีอีกสักคนไหม เค้าอยากได้ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
โอ้ยพี่ฝอยจะหื่นไปถึงไหน :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ชอบพี่ฝอยอ่ะ งอนแต่ก็กินข้าวจนหมด ไล่ต้อมแต่ก็รีบขับรถออกไปตามหา :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
พี่ฟลอยด์ขี้หวงมากกก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ต้อมแพ้สายหื่นตลอด~

ออฟไลน์ fida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านจบแล้ววว

แต่รู้สึกเหมือนจะยังมีต่อ

คาใจเรื่องน้องปีสองขาวตี๋

พี่ฝอยนี่ก็ขี้หึงเกินไปนะ แต่ต้องเจอสายแข็งแบบต้อม :laugh:

ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่ฝอยผัวขี้งอนแต่มุ้งมิ้ง

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
แอบโหดนะเนี่ยพี่ฝอย แต่เวลางอนนี่เหมือนเด็กเลย
อืม..ก็น่ารักดีนะ 555+

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar [Ken & Pan] : วันเกิด




        วันนี้เป็นวันเกิดของพี่เกนครับ ผมมารู้ก็ตอนตื่นเช้ามาพี่แกคลุกวงในผมเฉย บอกเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่ได้หลังจากอายุครบยี่สิบเอ็ดปี ให้ของขวัญกันแบบนี้ก็ได้ด้วยว่ะ ก็ดีนะ ไม่เปลืองเงินดี แถมมีแต่ได้กับได้ ก็ตอนเช้ามันคึกคักกันอยู่แล้วไง อ๊ะๆ อย่ามองว่าผมหื่นสิ ไม่เอาไม่คิด

   ผมออกมาซื้อของเพื่อไปจัดงานในเย็นวันนี้ แต่ไม่ได้ออกมากับเจ้าของวันเกิดหรอก เพราะพี่ฟลอยด์พาไอ้ต้อมมาเมื่อช่วงสาย ผมเลยหนีบไอ้เพื่อนรักมา

   ไอ้ต้อมเพิ่งมาห้องพี่เกนครั้งแรก สิ่งที่มันทำคือเบิกตาโตๆ ของมันมองไปที่ประตูห้องน้ำครับ ผมพยายามกลั้นหัวเราะจนปวดท้อง พี่ฟลอยด์คงจะเคยมาบ่อยก็เขาเป็นเพื่อนกันนี่นา มีแค่ถามว่าเปลี่ยนเป็นแบบใสก็เวิร์กดี ผมเริ่มเห็นแววว่าพี่ฟลอยด์อยากจะทำตาม

   ผมลากรถเข็นมาที่โซนขายผัก วันนี้กะจะทำอะไรง่ายๆ กินกัน ของหลักๆ คงจะเป็นน้ำเมาแล้วก็กับแกล้ม ไอ้เรื่องทำกับข้าวผมก็ทำไม่เป็นหรอกครับ ไอ้ต้อมก็ไม่เป็น แต่ที่ยังกล้ามาซื้อของก็เพราะพี่เกนจดรายชื่อของให้มาหมดแล้ว แค่ซื้อตามก็สบายๆ แถมให้เงินมาอีกเป็นปึก พ่อบุญทุ่มซะจริง

   “มึงจะซื้ออะไรวะ” ไอ้ต้อมเดินดูผักที่วางในชั้น มันขมวดคิ้วแล้วหันมาถามผม
      
   “เดี๋ยวนะมึง” ผมหยิบใบรายการออกมาดู “ต้นหอม ผักชี หัวหอมใหญ่” อ่านตามรายการที่เขียนด้วยลายมือสวยยิ่งกว่าผู้หญิงในคณะของผม

   “จะทำยำเหรอวะ” ไอ้ต้อมเริ่มหยิบตามที่ผมอ่านวางในรถเข็น

   “ก็กับแกล้มไง” แล้วเราก็มองตาอย่างรู้ใจ

   ทำไมพี่เกนถึงไม่ขอให้พี่ปูนทำน่ะเหรอครับ ก็เพราะป๋าพาพี่ปูนไปร่องเรือชมจันทร์อะไรสักอย่าง จะกลับก็หลังปีใหม่ ผมว่าพี่ปูนโคตรโชคดีที่ได้ป๋าเป็นคู่ ส่วนผมยังต้องรอดูไปอีกยาวๆ ครับ

   ไอ้ต้อมหยิบองุ่นไร้เม็ดกับมะม่วงใส่รถเข็น มันบอกพี่ฟลอยด์อยากกิน เพื่อนผมก็หวานไม่แพ้ใครเหมือนกัน แม้ภายนอกไอ้ต้อมมันห้าวเป้ง แต่ลึกๆ แล้วมันค่อยข้างอ่อนโยนมากนะครับ แถมยังขี้สงสารด้วย พี่ฟลอยด์โชคดีด้วยโชคร้ายด้วยส่วนหนึ่ง ที่ว่าร้ายผมว่า พี่เขาคงรู้ดีอยู่แก่ใจนั่นแหละ

   จากรถเข็นที่ว่างเปล่า ตอนนี้เต็มไปด้วยรายการที่ถูกสั่งให้ซื้อกับของที่พวกผมอยากกิน ก็แหม เจ้าของเงินอุตส่าห์ให้มา ไม่ใช้เขาคงจะโกรธ แรกๆ เพื่อนผมมันก็บ่นๆ แต่สุดท้าย ของมันก็เต็มรถเข็นเหมือนกันนั่นแหละ เอาไปเบิกกับพี่ฟลอยด์ได้หรือเปล่าวะ

   “เอาไรอีกปะไอ้ป่าน” เดินจนทั่ว ขาแทบลาก ผมมองใบรายการก็ซื้อครบทุกอย่างแล้ว

   “ไม่ว่ะ กลับเหอะ”

   ค่าเสียหายทั้งหมดทำเอาเงินเป็นปึกเหลือไม่กี่ใบ นี่ไอ้ป่านคนนี้จะซวยหรือเปล่าวะ

   ผมขับรถพาไอ้ต้อมกลับมาที่คอนโดพี่เกน เราสองคนช่วยกันขนถุงขึ้นห้องด้วยความทุลักทุเล พออยู่หน้าห้อง ผมก็ใช้เท้าเตะเพื่อให้คนด้านในมาเปิด รออยู่นานจนถุงเกือบร่วง กว่าพี่เกนจะมาเปิด กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวตอนเปิดประตูแบบนี้พี่ท่านคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จล่ะสิ

   “นี่ซื้อตามที่พี่จดหรือเปล่าเนี่ย” คงเห็นมันเยอะเกินไป พี่เกนถึงกับตาโต “ไอ้เชี่ยฟลอย์ มาช่วยเมียมึงถือของสิวะ” ไอ้ต้อมทำหน้าเหลอหลาตอนพี่เกนตะโกน คือผมกับไอ้ต้อมยังยืนอยู่นอกห้อง แล้วพี่เกนตะโกนแบบนี้มันดังก้องทั่วชั้น ผมหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน

   “มึงเป็นไรวะ ทำหน้าตื่นๆ” หลังจากคายถุงที่คาบให้พี่เกนถือ ผมก็ถามเพื่อนรักที่ยืนมองซ้ายมองขวา

   “พี่เกนแม่งตะโกนเสียงดัง คนอื่นก็ได้ยินหมดสิวะ”

   ขอขำแรงๆ ทีเถอะ

   ผมแทบลงไปนั่งดิ้นหัวเราะที่พื้น มันคงลืมว่าทั้งชั้นเนี่ย มีแค่สองห้อง คือห้องป๋า แล้วก็ห้องพี่เกน ผมก็บอกมันแล้วตอนมาใหม่ๆ แต่ดันลืมซะนี่

   “มึงโคตรตลก ชั้นนี้มีแต่ห้องพี่เกน แล้วใครจะมาได้ยินวะ” พูดไปเช็ดน้ำตาไป ไอ้ต้อมหน้ามุ่ยเลย

   เราสองคนเดินตัวปลิวเข้าห้องเพราะให้คนนั่งนอนในห้องเฉยๆ มาช่วยหิ้วไป พอเข้ามาก็เห็นกองของกินวางอยู่หน้าทีวี ข้างซองขนมยังมีเบียร์ที่หมดไปแล้วหลายกระป๋อง นี่เริ่มกันตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย

   “ระวังเมาก่อนได้เป่าเค้กนะ” ผมเดินมาหาพี่เกนที่เคาน์เตอร์ครัว เจ้าของวันเกิดยิ้มหวานก่อนดีดน้ำจากปลายนิ้วใส่หน้าผม
 
   “ไม่หรอกน่า คืนนี้พี่ไม่มีทางเมา เพราะของขวัญเมื่อเช้ายังไม่อิ่ม” รอยยิ้มโคตรไม่น่าไว้ใจทำเอาผมต้องยกขาเตะ พี่เกนแม่งหัวเราะแล้วเดินเอาผักที่ล้างมาหั่น

   “พี่จะทำไรกิน”

   “เช้านี้ว่าจะเจียวไข่ก่อน ผักพวกนี้ล้างไว้เผื่อตอนเย็นจะได้ง่าย” คนทำอาหารเป็นคนเดียวในห้องขยิบตานิดๆ และความเลี่ยนของพวกผมคงไปกระทบกับพี่ฟลอยด์เลยโดนตะโกนด่ามา เห็นอยู่นะว่าโดนไอ้ต้อมด่า

   ผมช่วยหยิบนั่นหยิบนี่เท่าที่ทำได้ ก่อนไข่เจียวหอมๆ จะโป๊ะบนข้าวสวยสี่จาน พี่เกนเรียกเพื่อนมาเอาจานข้าว แต่เป็นไอ้ต้อมที่เดินมาหยิบแทน ผมเดินเอาจานของตัวเองกับพี่เกนเดินตามมันไป แล้วพวกเราทั้งสี่ก็นั่งที่พื้นกินข้าวเช้า ตาก็ดูละครจักรๆ วงศ์ๆ ในวันหยุด

   “กูดูมาเป็นชาติแล้วก็ยังไม่จบ” พี่เกนว่าออกมา ซึ่งผมก็เห็นด้วย

   “ทำเพื่อเรตติ้ง ตอนยิ่งเยอะเงินก็ยิ่งแยะไง เรียนมาทำไมไม่คิดวะ” พี่ฟลอยด์ขัดขึ้น ผมกับไอ้ต้อมต่างก็ส่ายหน้าให้กับสองคนที่เริ่มเถียงกันครับ

   ผมเก็บจานสี่จานไปล้างเพราะขี้เกียจฟังเพื่อนเขาเถียงกับเรื่องเงิน เรื่องค่าโฆษณาอะไรสักอย่าง มีไอ้ต้อมตามก้นมาด้วย มันคงรู้สึกเช่นเดียวกันผม

   “มึงโอเคหรือเปล่าวะ” อยู่ๆ ไอ้ต้อมก็ถามผมออกมา

   “โอเคอะไรวะ”

   “ก็ห้องนี้แม่งไม่มีความเป็นส่วนตัวไอ้ห่า” มองหน้าไอ้ต้อมอย่างขำๆ “มึงดูห้องน้ำ ประตูเป็นกระจกใส ใครแม่งคิดวะ จะขี้จะเยี่ยวแม่งเห็นหมด”

   “เจ้าของห้องมันจันไรไง แรกๆ มันเป็นแบบบานขุ่นเห็นแค่เงาลางๆ พอกูมาอยู่ไม่กี่วันเปลี่ยนเป็นแบบใสเฉย” คิดแล้วก็เคืองนะ ตอนนั้นผมก็ค้านหัวชนฝา กลับมาจากมหาลัยมันก็เปลี่ยนไปแล้วๆ แก้อะไรไม่ได้ด้วย

   “มึงไม่อายเหรอวะ”

   เอาจริงๆ ตอนแรกผมโคตรอายเลย แม้จะเห็นของไอ้พี่เกนแบบเอชดีมาหลายครั้ง แต่บางทีเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างในห้องน้ำ

   “ชินแล้วว่ะ”

   “แล้ววันนี้กูจะเข้าห้องน้ำที่ไหนดีวะ”

   นี่คงเป็นประเด็นหลักที่ไอ้ต้อมอยากพูดมากที่สุด

   “เดี๋ยวกูพามึงไปเข้าห้องป๋า” ไอ้ต้อมมันทำหน้างง ที่จริงมันก็รู้ว่าป๋าคือพ่อพี่เกนแล้วก็ไม่อยู่ในห้องอีก “ไม่ต้องห่วง พี่เกนเขามีกุญแจ”

   “กูกลัวว่าถ้าของหายเขาจะโทษกู” ตบบ่าไอ้ต้อมไป

   “มึงไม่ได้ขี้ขโมยไอ้ห่า แล้วก็นะ ถึงห้องน้ำในห้องป๋าจะเป็นแบบนี้” ชี้ไปที่ประตูห้องน้ำของพี่เกน “แต่ห้องนั้นไม่มีคนอยู่ มึงสบายใจได้” ไอ้ต้อมถอนหายใจออกมา “มีแค่กล้องวงจรปิดแค่นั้น”

   “ไอ้ห่าป่าน” หัวเราะให้กับเพื่อนตัวเอง ไอ้ต้อมมันขี้อายสำหรับคนอื่น ผมกับมันแล้วก็ไอ้ดอยเคยอาบน้ำด้วยกันตอนปีหนึ่งมาแล้ว แรกๆ ไอ้ต้อมจะเขินนิดๆ แต่พอครั้งต่อไปก็ปล่อยตามสบาย อาบจนชินเพื่อความเร็วตอนรุ่นพี่นัด ขืนช้าจะโดนลงโทษได้

   มื้อเช้าจบลง พวกผมก็เริ่มจัดสถานที่ ที่จริงไม่จัดก็ได้ แต่เจ้าของวันเกิดอยากได้แบบปาร์ตี้เลยมีพวกเส้นสายรุ้งสีๆ ติดไปทั่วห้อง มีลูกโป่งด้วย ไม่รู้ไปเอาที่ไหนมา ผมมีหน้าที่ติดก็ติดไป อยู่ๆ ไอ้ต้อมก็สะกิดยิกๆ หันไปมองมันก็บอกว่าอยากเข้าห้องน้ำ
 
   “มึงเข้าที่นี่แหละ เดี๋ยวกูเอาผ้าปิดให้” เริ่มสงสารเพื่อนตัวเองแล้วล่ะ เข้าใจความรู้สึกมันนะครับ ถ้าห้องนี้มีแค่มันกับพี่ฟลอยด์มันก็คงไม่ค่อยอาย แต่นี่มีพี่เกนด้วย

   “เออๆ ก็ดี แม่งจะออกอยู่แล้ว” ไอ้ต้อมหน้าบิดเบี้ยว ผมวางสายรุ้งแล้วเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เดินนำคนปวดฉี่ไปที่ห้องน้ำ

   “จะไปไหน” พี่เกนตะโกนถามเพราะกำลังนั่งอยู่บนบันไดเพื่อติดลูกโป่งกับเพดาน มีความพยายามมาก
 
   “ไอ้ต้อมอยากเข้าห้องน้ำ แต่ประตูของพี่มันจันไรไง” ผมว่า พี่เกนมองหน้าไอ้ต้อมแล้วหัวเราะออกมาก่อนจะโดนพี่ฟลอยด์ดีดลูกโป่งที่เป่าลมแล้วใส่หน้า ก่อนพี่แกจะเดินมาแย่งผ้าเช็ดตัวจากผมไปปิดให้เอง

   มีหวงด้วยเว้ยเฮ้ย แต่ไม่อยากบอกว่าผมเห็นของไอ้ต้อมจนเบื่อแล้ว

   กว่าจะจัดห้องเสร็จก็เกือบบ่าย ข้าวมื้อเช้าย่อยสลายหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้โคตรจะหิว ดีที่พี่ฟลอยด์โทรสั่งพิซซ่าไว้ เลยไม่ต้องทำมื้อเที่ยงเอง

   “นี่พี่บอกเพื่อนให้มาด้วยหรือเปล่า” ที่ถามเพราะแม่งจัดห้องอย่างกับจะมีคนมาเป็นสิบ

   “ไม่มี” หันไปมองแทบไม่ทัน

   “แล้วจะจัดใหญ่ทำไม”

   “ก็อยากจัด”

   ตามสบายครับพี่

   เลิกสนใจพี่เกนไปสนใจข่าวในทีวีแทน ดูไม่นานพิซซ่าก็มาส่ง ความหิวโหยทำให้ไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนพิซซ่าสองกล่องหมด ถึงกับแข่งกันเรอด้วยความอิ่ม

   “เมื่อกี้ผมไปเอาพิซซ่าทำไมไม่ใช่พนักงานส่งล่ะ” ไอ้ต้อมมันถามออกมา

   “ชั้นนี้ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา” พี่เกนตอบเรียบๆ

   “เมื่อกี้คงเป็นยาม ทุกทีลุงเขาก็เอาขึ้นมาให้แบบนี้แหละ” ผมก็เป็นเหมือนไอ้ต้อมตอนมาอยู่แรกๆ คนมันไม่เคยรวยแบบนี้นี่เนอะ

   เมื่อไอ้ต้อมได้คำตอบมันก็พยักหน้าเลิกสนใจ ผมเก็บกล่องไปทิ้งมีพี่เกนเก็บซากไก่ลงถังขยะเปียก แล้วเราก็เดินมาล้างมือพร้อมกัน

   “ไม่น่าชวนไอ้ฟลอยด์มาเลย” อยู่ๆ พี่เกนก็พูดออกมา ผมมองหน้าอย่างสงสัย “ไม่ได้สวีทเลยว่ะ”

   “ที่จริงป๋าน่าจะอยู่ด้วย วันเกิดทั้งทีต้องอยู่กับครอบครัวด้วยสิ”

   “ทุกทีพี่ก็ไปกับป๋านั่นแหละ ถือเป็นของขวัญวันเกิด” ของขวัญคนรวยมันแพงแบบนี้นี่เอง

   “คนรวยว่ะ”

   “ตอนนี้มีเมียเป็นตัวเป็นตนเลยอยากสวีทอยู่ห้องมากกว่า” ผมเหล่ตามองเจ้าของวันเกิด มือก็อ้อมไปตบไอ้ที่มันล้วงเข้าไปในกางเกง

   “อิ่มจะตายยังมีอารมณ์หื่นอีกนะคนเรา” ผมรีบเดินหนีออกไปนั่งรวมกับเพื่อนตัวเอง ไอ้ต้อมกับพี่ฟลอยด์ตาปรือๆ คงจะง่วง อิ่มปุ๊บก็จะหลับเลยนะ ส่วนพี่เกนก็เดินมาสมทบแล้วเอนตัวพิงหมอนอิงอันใหญ่ดูซีรี่ย์ “พี่เกน” ผมหันไปถลึงตาใส่คนที่นอนข้างๆ

   “ไม่เป็นไรหรอก สองคนนั้นมันหลับแล้ว” เชี่ย หันไปดู เพื่อนผมกับพี่ฟลอยด์หลับไปแล้วจริงๆ

   “ถึงหลับแล้วก็ไม่ได้” จับมือที่ไล้อก อีกข้างมันก็เลื้อยขา จับขามันก็เลื้อยเปลี่ยนที่อีก “ไอ้พี่เกน ถ้าไม่หยุดคืนนี้ไม่ให้นะเว้ย” ต้องขู่ครับ พอได้ยินมือดั่งปลาหมึกก็ถูกเจ้าของดึงกลับ เหลือแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กับสายตาที่จ้อง คืนนี้ไอ้ป่านรับศึกหนักอีกแน่

   ซีรี่ย์ในทีวีเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ ผมก็ดูบ้างหันไปด่าพี่เกนบ้าง ชอบนักเป็นนักล้วงเนี่ย ล้วงจนอยากจะลากเข้าห้องน้ำซะให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่าเป็นประตูใสเห็นทะลุปรุโปร่งแบบนั้น

   คู่ที่หลับกว่าจะตื่น พี่เกนกับผมก็ทำกับแกล้มเกือบเสร็จหมดแล้ว ผมมองไอ้ต้อมเดินตาปรือเข้าห้องน้ำ มันคงลืมกังวลเรื่องประตูใส จะมีพี่ฟลอยด์ที่นั่งงงๆ เพราะพึ่งตื่น แต่พอหันไปทางห้องน้ำ พี่แกก็รีบตาลีตาเหลือกไปหาแล้วยืนขวาง ผมกับพี่เกนหัวเราะจนน้ำตาไหล

   “ของก็เหมือนๆ กันจะหวงทำห่าอะไร” พี่เกนตะโกนว่า เลยได้นิ้วกลางส่งคืน

   “พี่เกน” ผมสะกิดแขนคนที่คนยำหมูยอวุ้นเส้นในชามใหญ่ “แล้วถ้าเป็นผมพี่จะหวงป่ะ” ลองถามเล่นๆ มือที่คนอยู่หยุดทันใด

   “ตายเท่านั้น” ผมหัวเราะให้กับคนที่เพิ่งตะโกนว่าเพื่อนไปเมื่อกี้ ไม่ดูตัวเองว่ะแม่ง

   เราสองคนเลิกคุยกันแล้วหันไปมองไอ้ต้อมที่เดินหน้าตื่นมาหาผม มันยื่นหน้ามากระซิบว่าลืมเรื่องประตู อยากจะหัวเราะมันนะ แต่ก็เข้าใจเลยตบบ่ามันไปแล้วปลอบว่า พี่ฟลอยด์บังมิดไม่มีใครเห็น มันก็ยังเหลือบมองพี่เกนเป็นระยะ คงกลัวถูกพี่เกนมองของลับ

   “ของมึงเล็กเท่าถั่วเขียว พี่เกนมันไม่เห็นหรอก เชี่ย” ถูกไอ้ต้อมตบหัวอย่างแรง โคตรเจ็บ ขนาดพี่เกนยังตกใจ

   “พอดียุงมันเกาะ” ไอ้เชี่ยต้อมมันกวนตีน พี่เกนเหล่มองนิดๆ แต่ไม่กล้าทำอะไร ก็คนของเพื่อน ขืนต่อยไอ้ต้อมละก็ มีมวยเกิดขึ้นแน่

   งานปาร์ตี้วันเกิดเริ่มงานตอนห้าโมงพอดีเป๊ะ เพลงถูกเปิดจนดังลั่นห้อง ตอนยังไม่ได้ดื่มรู้สึกปวดหูมาก แต่พอเริ่มกริ่มๆ เพลงพวกนี้รู้สึกโคตรเบาแทบไม่ได้ยิน พี่ฟลอยด์กับพี่เกนผลัดกันร้องเพลง เสียงใสกับทำนองเพราะๆ โคตรเข้ากับหน้าตาคนร้อง
 
   “ฟังแบบนี้แล้วโคตรสบายหู” ไอ้ต้อมมันกระซิบเบา ตาก็มองแฟนมันครวญเพลงหวาน

   “ทำไมวะ” ขมวดคิ้วจ้องหน้าเพื่อน

   “มึงต้องลองไปกินกับกลุ่มแฟนของไอ้กลอย พวกพี่เขาโคตรสุดยอด”

   “ร้องโคตรเพราะเหรอวะ”

   “เพี้ยนจนหาทำนองไม่เจอ”

   แค่เห็นหน้าไอ้ต้อมผมก็ขนลุกแล้วครับ สยองแทน คงสงสารหูตัวเองสุดๆ แน่



   “ชน” เสียงลากยาวพร้อมยกแก้วชน พี่ฟลอยด์เดินไปเอาเป้ตัวเองมาเปิด กล่องของขวัญขนาดพอดีถูกยื่นให้เพื่อน พี่เกนยิ้มนิดๆ แล้วดึงพี่ฟลอยด์มากอด

   รู้สึกเหมือนมีดาวสองดวงขึ้นที่หางตา

   ไอ้ต้อมหันมามองผมแล้วหันไปมองเพื่อนที่กอดกันแนบแน่น นี่พวกพี่คิดไม่ซื่อต่อกันหรือเปล่าวะ พี่เกนดูโคตรซึ้งที่ได้ของขวัญจากพี่ฟลอยด์ มันเริ่มแปลกๆ แล้วว่ะ พอผละจากกัน พี่ฟลอยด์ก็ตบบ่าพี่เกนเบาๆ พร้อมรอยยิ้มที่ไอ้ป่านสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง

   หลังจากได้กล่องของพี่ฟลอยด์แล้ว ไอ้ต้อมก็ยื่นของตัวเองให้ พี่เกนเอ่ยขอบใจมันนิดๆ แล้วจะโผกอด แต่โดนพี่ฟลอยด์ใช้ขายันไว้เลยได้แต่คว้าอากาศ ผมหัวเราะงอหงายให้คนขี้หึง

   “กูแค่กอด”

   “งั้นให้กูกอดเมียมึงบ้าง มึงโอเคหรือเปล่าวะ”

   พอถูกสวนคนอยากกอดก็หน้าบึ้ง ผมลูบหลังพี่เกนเบาๆ เพื่อปลอบที่ถูกพี่ฟลอยด์ดุ ถึงบอกว่ารู้สึกถึงพลังบางอย่างไง

   เรื่องราวดราม่าจบลง ความสนุกก็กลับมาอีกรอบ คราวนี้เป็นผมที่โชว์ลูกคอเพลงพี่บี้ พี่เกนวิ่งออกมาเต้นตามจนเหนื่อยถึงเปลี่ยนให้พี่ฟลอยด์ร้องบ้าง ขานี้ก็มาแต่เพลงซึ้งๆ ความหมายดีๆ จนไอ้ต้อมจะเลี่ยนอยู่แล้ว

   “เหนื่อยเนอะ” พี่เกนหอบอยู่ข้างหู ผมก็พยักหน้าเห็นด้วย ไม่คิดว่าเพลงพี่บี้จะกินพลังไปขนาดนี้

   เหล้าค่อยๆ หมดทีละนิด ไอ้ต้อมแทบไม่แตะเพราะมันจะเป็นคนขับรถ ดังนั้นพี่ฟลอยด์เลยซัดอย่างกับเป็นน้ำ แล้วก็ดวลกับพี่เกนนี่แหละครับ วัดความคอแข็ง ผมไม่เข้าร่วมด้วยหรอก จะตายเอา

   “ใครตอบผิดต้องกินนะมึง”

   ตอนนี้เราเริ่มเบื่อ เจ้าของวันเกิดเลยคิดเล่นเกมส์ตอบคำถาม ใครแพ้ดื่ม ส่วนคนถูกถามจะหมุนขวดเลือกเอา พี่เกนเริ่มคนแรก หมุนขวดติ้วๆ จนมันช้าลง แล้วหยุดที่พี่ฟลอยด์

   “เชี่ย ซวย” คนถูกปากขวดชี้สบถ

   “มดสามตัวเรียงกันเรียกว่าอะไร” คำถามโคตรเบาสมองถูกถามออกมา ถ้าเป็นคนธรรมดาก็ตอบได้ไปแล้ว แต่นี่ถามคนเมา พี่ฟลอยด์ขมวดคิ้วนึกอยู่นาน

   “โคตรง่าย แอ่น แอ้น แอ๊น” พอได้ยินคำตอบ คนถามก็ส่งเสียงฮึดฮัด จากนั้นพี่ฟลอยด์ก็เป็นคนหมุน คนโดนก็ไอ้ต้อมครับ ดูเหมือนจะแอบจงใจด้วยนะ เห็นหมุนโคตรเบา “ปลาอะไรตัวเล็ก”

   “ปลาเข็ม” ไอ้ต้อมตอบอย่างไม่คิด หน้าตามันโคตรมั่นใจในคำตอบ

   “ผิด” คนมั่นใจหันขวับทันที

   “แล้วปลาอะไร”

   “ปลาทู” พี่ฟลอยด์ยู่ปากซะเล็ก ผมกับพี่เกนหัวเราะ มีไอ้ต้อมคนเดียวที่หน้าบึ้ง แต่มันก็รอดพ้นจากการลงโทษเพราะมันเป็นคนขับรถ สรุปคือถามเองโดนเอง “เชี่ย กูโดนสองเด้ง เลิกๆ”

   “ผมยังไม่ได้ถามเลย” ไอ้ต้อมโวยวายแต่พี่ฟลอยด์ไม่เล่นแล้ว ผมเลยปล่อยให้เถียงกันไปแล้วมาดวลเหล้ากับพี่เกนแทน

   “เป่าเค้กๆ” พี่ฟลอยด์ตะโกนออกมาแล้วพุ่งมาหาพี่เกน “เป่าเค้กเลยกูจะกลับแล้ว”

   “เพิ่งสองทุ่ม มึงจะรีบไปไหน”

   “ไปเอาเมีย”

   ผมอ้าปากมองพี่ฟลอยด์ ไม่ใช่ตะลึงที่พี่เขาพูดนะครับ แต่ตะลึงที่ไอ้ต้อมขว้างหมอนโดนหัวแล้วหน้าพี่ฟลอยด์ก็พุ่งเข้าปะทะหน้าพี่เกน จนปากเขาชนกัน เชี่ยแล้ว

   “พี่จูบกัน” ไอ้ต้อมตาโตมอง พี่ฟลอยด์ตบหัวเพื่อนตัวเองจนผมตกใจ

   “ตบหัวกูทำพ่อง” พี่เกนด่าครับ

   “กลับเว้ย ไม่เป่าเค้กแล้ว กลับๆ” พี่ฟลอยด์โวยวายแล้วลากแขนไอ้ต้อมออกไปทันที ผมก็พอรู้ว่าพี่ฟลอยด์เอาแต่ใจ แต่ไม่คิดว่าจะทำตัวเป็นเด็กขนาดนี้ ขี้โวยวายด้วย ผมว่าคนที่โชคร้ายน่าจะเป็นไอ้ต้อมแล้วละ เจอศึกหนักขนาดนี้ เห็นแล้วเหนื่อยแทน

   พอประตูห้องปิด ห้องก็มีแต่เสียงเพลงเปิดคลอ ผมกับพี่เกนมองหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะพากันหัวเราะออกมา นี่ถ้าบอกว่าไอ้ต้อมรุกผมยังจะเชื่อมากกว่าอีก พี่ฟลอยด์โคตรง้องแง้ง ส่วนไอ้เรื่องจูบกัน ผมยังเคยแกล้งจูบปากไอ้ต้อม ไอ้ดอยก็เคย

   “เพื่อนพี่โคตรตลกว่ะ” ผมว่า

   “รู้มานานแล้ว” พี่เกนว่า แล้วมองผมตาเยิ้ม สงสัยจะเมา

   “กินเค้กไหวปะ” ที่ถามเพราะทั้งเหล้าแล้วก็กับแกล้มแน่นท้องมาก พี่เกนส่ายหน้าช้าๆ “งั้นเป่าก็พอเนอะ” คราวนี้พี่เกนพยักหน้า

   ผมเดินไปหยิบเค้กในตู้เย็น มีพี่เกนเดินตามมายืนซ้อนหลัง ปักเทียนไปตาก็เหล่คนข้างหลังไป ถ้าจะยืนชิดขนาดนี้ก็สิงร่างไปเลย

   “พี่ไปปิดไฟสิ”

   “ไม่ต้องปิดหรอก”

   “เออๆ”

   และแล้วเทียนก็ถูกจุดทั้งที่ไฟยังเปิด แล้วแบบนี้จะจุดเทียนให้เปลืองทำไม ผมยกเค้กไปตรงหน้าเจ้าของขวัญเกิด พี่เกนมองเค้กก่อนจะจ้องหน้าผมผ่านแสงเทียนสีส้ม

   “ขอบใจนะ”

   พี่เกนหลับตาลงแล้วอธิฐานเงียบๆ ไม่นานก็ลืมตาขึ้นมาเป่าเพียงรอบเดียวเทียนก็ดับหมด ผมเอาเค้กไปวางที่เคาน์เตอร์เพื่อจะดึงเทียนออก อยู่ๆ กล่องของขวัญของพี่ฟลอยด์ก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

   “อะไร”

   “ของขวัญไง”

   “พี่ฟลอยด์ให้พี่นี่” ตอนนี้ไอ้ป่านเริ่มงงแล้วครับ พี่เกนจะเอาของขวัญตัวเองให้ผมทำไม “ให้ผมเปิดเหรอ” คนยื่นให้พยักหน้ารัวๆ ผมมองสายตาวิบวับอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ “ไม่ได้แกล้งผมใช่ป่ะ”

   “เปล่าเลย”

   ผมเริ่มลงมือแกะห่อของขวัญกล่องขนาดกลาง พี่เกนดูจะลุ้นเหลือเกินจนน่าสงสัย กระดาษร่วงลงไปแล้วทำให้เห็นกล่อง คนข้างๆ ก็ยิ่งลุ้น ผมเปิดฝากล่องแล้วค่อยๆ ดึงของข้างในออกมา

   วิ้งๆ รู้สึกคล้ายกับลมออกหู ทั้งโกรธ ทั้งเครียด ต่างจากพี่เกนที่ดูจะยิ้มพอใจกับของในมือผมซะเหลือเกิน

   “พี่จะใส่ใช่มั้ย” ถามเสียงนิ่งๆ

   “ป่านนั่นแหละ”

   ไม่รู้ว่าเผลอบีบกล่องแน่นตอนไหน รู้อีกทีมันก็เกือบแหลกคามือไอ้ป่านแล้วครับ แล้วของที่อยู่ในกล่องคือผ้ากันเปื้อนเป็นปึก มีทั้งลายการ์ตูน ลายเซ็กซี่ และที่สำคัญ มีแบบตาข่ายบางๆ ทั้งสีขาว สีดำ นี่โคตรจันไร

   “ชุดนี้ใส่คืนนี้ ชุดนี้ใส่พรุ่งนี้ ชุดก็วันมะรืน แล้วนี่ก็...”

   “ไม่ใส่เว้ย พี่โรคจิตเหรอวะ แม่ง”

   คิดมาได้ยังไงจะให้ผมใส่ผ้ากันเปื้อนนอน ผมไม่ได้ทำอาหารนะ มิน่าถึงดูซาบซึ้งตอนพี่ฟลอยด์เอาให้ คงเตี๊ยมกันมาละสิ แม่ง

   “พี่ปูนใส่ยิ่งกว่านี้”

   “นั่นพี่ปูน แต่นี่ไอ้ป่าน ไม่ใส่เว้ย” มีตัวอย่างให้เห็นนี่เอง

   “ป่านครับ”

   “ไม่ต้องมาเรียก ไม่ใส่” เดินเลี่ยงมาเก็บแก้ว เก็บจาน ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว เลิกๆ

   “เดี๋ยวใส่เป็นเพื่อนก็ได้”

   “ป๋าใส่กับพี่ปูนด้วยล่ะสิ” เหล่ตามอง ไอ้พี่เกนพยักหน้าเฉย

   “นะๆ พี่ปูนใส่นอนทุกคืนเลยนะ” จานเกือบร่วงครับ

   “พี่รู้ได้ไงวะ”

   “ถ้ากลับห้องไวก็ไปกินข้าวด้วย พี่ปูนก็ใส่แต่ผ้าคลุมกันเปื้อนเดินไปเดินมา”

   “ใส่เสื้อผ้าด้วยมั้ย” พี่เกนส่ายหน้ารัวๆ เริ่มเข้าใจแล้วที่ป๋าว่า เชื้อไม่ทิ้งแถว ผมว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ “ไม่ต้องมาจับ คืนนี้จะกลับบ้าน”

   “โนวๆ ไม่ให้กลับ วันนี้วันเกิดพี่น้า” ผมเดินไปที่ประตูมีพี่เกนลงไปนั่งที่พื้นรั้งขาผมไว้ “ป่านครับ” พยายามสะบัดขาแต่เกาะโคตรแน่น “ป่าน”

   “ไม่ต้องเรียกเลย”

   “ป่าน”

   “ไอ้พี่เกน”

   ฉิบหาย มัวแต่คิดจะออกจากห้องจนลืมดูกางเกงตัวเองที่ถูกไอ้พี่เกนดึงร่วงไปกองที่พื้น รู้แบบนี้ไม่น่าใส่กางเกงวอร์มอยู่ห้องเลยว่ะ พอจะก้มดึงกางเกงขึ้น ตัวผมก็ลอยหวือก่อนถูกโยนลงบนเตียง

   “ป่าน”

   “เข้ามาถีบนะเว้ย” ไม่สนแล้วว่ากางเกงมันจะหลุดปลิวไปเหลือแต่กางเกงในสีขาว

   “ถีบเลย ถีบตรงนี้เลยนะ” ไอ้พี่เกนค่อยๆ คืบคลานขึ้นเตียง “ถีบสิ ถีบเลยครับ” มีชี้ที่อกตัวเองด้วย “ป่าน”


   เงียบ...


   ผมค่อยๆ ยันตัวลุกแล้วคลานไปดูปลายเตียง พี่เกนที่ถูกผมยันเปรี้ยงเดียวเข้าปลายคางนอนหลับตาพริ้มอยู่ที่พื้น ฉิบหายแล้ว

   “พี่ท้าให้ผมถีบเองนะเว้ย”

   พยุงคนน็อคกลางอากาศขึ้นมานอนบนเตียง ผมว่า สภาพแบบนี้คงนอนยาวจนถึงเช้าเชียวล่ะ นี่คือจุดจบของคนหื่น โดนทีเดียวนับดาวยันเช้า


   สุขสันต์วันเกิดนะพี่เกน แล้วก็ขอโทษด้วย ไอ้ป่านไม่ได้ตั้งใจจริงๆ   


...........................

มาแบบเบาๆ ค่า หวังว่าพี่เกนคงจะไม่เป็นตัวประกอบแล้วเนอะ  :laugh:     

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฮ่าๆๆๆ โถววว ไม่น่าเลยคนหื่น นอนนับดาวไปดิ

ป.ล. ตอนต้อมบอกเคยฟังพวกพี่โชร้องเพลงนี่ถึงกับลั่น ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด