No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ >>ตอนพิเศษ ลอยกระทง [P.25]<<[03/11/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ >>ตอนพิเศษ ลอยกระทง [P.25]<<[03/11/60]  (อ่าน 281475 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar : 13



         คนที่เสียใจตื่นมาก็เอาแต่นั่งเหม่อ โทรศัพท์ดังตลอดแต่ไม่คิดจะรับ ผมชะเง้อคอดูเบอร์ที่โทรเข้ามามีพี่เกนแล้วก็ตอนนี้คือพี่ฟีน ผมสะกิดให้คนที่เหม่อรับแต่พี่ฟลอยด์กลับเบือนหน้าหนีแล้วลุกเข้าห้องไป

   อาจดูเสียมารยาท แต่ผมก็กดรับแทน

   “สวัสดีครับ” กรอกเสียงลงไป

   (ต้อมเหรอจ๊ะ) เสียงถามคล้ายกับไม่แน่ใจ

   “อ่า ครับ” ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ “พี่มีธุระด่วนหรือเปล่า ผมจะได้ไปบอกพี่...”

   (ไม่เป็นไรจ้ะ แค่รู้ว่าต้อมอยู่ด้วยพี่ก็เบาใจ)

   “ขอโทษนะครับ เกิดเรื่องอะไรเหรอครับ”

   (ก็เรื่องที่ฟลอยด์ไปอาละวาดพ่อที่ห้างนั่นแหละ) ว่าแล้วต้องเป็นเรื่องใหญ่โต (พ่อโมโหจนแทบจะตัดออกจากลูก แต่พี่กับพี่เฟิร์นช่วยกันพูดเลยยอมอ่อนลง) คนปลายสายถอนหายใจออกมาอีกรอบ

   “ผมพยายามห้ามแล้ว”

   (พี่รู้จ้ะ แต่ฟลอยด์น่ะ ห้ามยากจะตาย ยังไงพี่ก็ฝากฟลอยด์ด้วยนะ เพราะถ้าให้กลับบ้านเขาคงไม่ยอม)

   “ครับ” กำลังจะกดวางแต่ก็รีบขัดขึ้นก่อน “เอ่อพี่ฟีนครับ”

   (จ๊ะ?)

   “พี่ฟลอยด์ชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แบบกินแล้วจะอารมณ์ดี” ได้ยินพี่ฟีนหัวเราะร่วน

   (ขานั้นกินได้หมดแหละ แต่ที่ชอบที่สุดก็บัวลอย เพราะฟลอยด์ชอบของหวานมาก กินแล้วอารมณ์ดีทุกที)

   “อ่า ขอบคุณครับ”

   วางสายไปผมก็เริ่มคิดชื่อร้านที่ขายบัวลอยอร่อยๆ ไอ้ผมก็ไม่เคยเดินหาร้านตามขนมอร่อยๆ ซะด้วย พอคิดไม่ออกก็หยิบมือถือส่งข้อความถามเพื่อนๆ ไอ้ดอยบอกไม่รู้เพราะไม่ชอบกิน ไอ้ป่านบอกชื่อร้านที่โคตรจะห่างไกลจากที่ผมอยู่ ไปกลับคงใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมง

   ‘ไอ้กลอย มึงรู้จักร้านขายบัวลอยอร่อยๆ หรือเปล่าวะ’ พิมพ์ไปหาคนที่น่าจะรู้มากที่สุด เดินไปเดินมากว่ามันจะขึ้นอ่านแล้วตอบ แม่งทำอะไรอยู่วะ ตอบช้าโคตร

   ‘มึงจะกินเหรอ’ ผมถามมัน ไม่ใช่ให้มันถามผมกลับหรือเปล่าวะ

   ‘กูจะซื้อให้พี่ฟลอยด์’ บอกไปเถอะ ไอ้กลอยมันช่างจับผิด ถ้าไม่รู้มันไม่ยอมบอกแน่

   ‘แค่มีมึงยังไม่หวานอีกเหรอวะ’ ส่งสติ๊กเกอร์หมีโมโหไป ไอ้กลอยมันก็ส่งหัวหอมหัวเราะมาให้ ‘ทำเองเลยสิวะ ไม่ยุ่งยาก ร้านขายที่ไหนจะอร่อยสู้ทำเองวะ พี่โชชอบทุกอย่างที่กูทำ บางอย่างไม่อร่อยยังชอบเลย’ เหมือนมันอวดตัวเองกลายๆ แต่ทำเองเหรอ ผมทำไม่เป็นว่ะ

   ‘กูทำไม่เป็น’

   ‘จะยากอะไร มึงก็เปิดดูในยูทูปสิ แล้วเดี๋ยวกูจะบอกอีกที แนะนำบัวลอยเผือก ไม่อยากบอกว่ากูทำโคตรอร่อย’ อวดตัวเองเห็นๆ แต่ผมเคยกินกับข้าวฝีมือมันครั้งหนึ่ง ก็อร่อยจริงนั่นแหละ
 
   เดินไปเปิดแลปท็อปหาวิธีทำบัวลอยเผือกตามที่ไอ้กลอยแนะนำ แม่งดูแล้วทำโคตรยาก เกินที่ผมจะมั่วทำได้ ยิ่งดูยิ่งงง และเหมือนเสียงที่ผมเปิดจะดังไปหน่อยเพราะคนในห้องเดินออกมา คนหน้ามุ่ยอ้อมมานั่งซ้อนหลังผม

   “ทำอะไร” เสียงกระซิบข้างหู “บัวลอย? จะทำเหรอ” น้ำเสียงดูปกติขึ้น

   “ดูเฉยๆ ทำไม่เป็นว่ะ” บอกพี่ฟลอยด์ที่วางคางเกยบนไหล่ผม

   “แค่คิดจะทำก็ดีใจแล้ว” ได้เห็นรอยยิ้มแรกหลังจากเกิดเรื่อง “ถามพี่ฟีนมาใช่มั้ย บัวลอยเนี่ย”

   “อืม” ตอบไป แขนที่รัดเอวเริ่มแน่นจนอึดอัด “อะไร”

   “ตอนนี้ไม่ได้เหรอ” ผมเอียงคอไปมอง คนที่ซ้อนหลังเริ่มซุกซนแถวซอกคอ มือลูบหน้าท้องผมไปมา อีกข้างลูบสูงแถวหน้าอก ผมรีบตะครุบมือสองข้างแล้วดันหน้าคนที่งับคอผมจนเจ็บจี๊ด

   “อย่าทำแบบนี้ ไม่งั้นผมจะกลับ” บอกเสียงนิ่งจนคนข้างหลังหยุดการกระทำทุกอย่าง ผมหันหน้าไปมอง นัยน์ตาเศร้ากำลังจ้องมองผมอยู่ “พี่อ่อนแอแต่ไม่ควรเอาผมเป็นที่ระบาย”

   “ต้อมไม่ใช่ที่ระบาย” รีบปฏิเสธ แต่ผมก็ส่ายหน้าช้าๆ

   “พี่ใช้ผมเป็นที่ระบายความอ่อนแอของตัวเอง เมื่อพี่เป็นฝ่ายควบคุมผม พี่จะรู้สึกไม่อ่อนแอ ผมพูดถูกมั้ย” คำพูดคราวนั้นยังดังก้องหูในตอนที่เรื่องบนเตียงใกล้จะจบ ‘กูกำลังคุมเกมส์นี้อยู่ กูไม่ได้อ่อนแอ’

   พี่ฟลอยด์เม้มริมฝีปากแล้วก้มหน้า ผมยื่นมือจับหน้าเนียนขึ้นมาจ้อง

   “พี่ขอโทษ”

   “เอ่อ รับคำขอโทษ” บอกพร้อมรอยยิ้ม คนที่ขอโทษก็ยิ้มตาม

   “โคตรรักเลยว่ะ” ถูกดึงเข้าไปกอดแน่น

   “รู้แล้วๆ รัดเป็นงูเหลือมไปได้” ตีหลังคนรัดจนแรงลดลง “อยากกินมั้ยบัวลอยเนี่ย”

   “อืมๆ” พี่ฟลอยด์รีบพยักหน้า รอยยิ้มกว้างที่เห็นผมต้องยิ้มตาม “ต้อมทำเองนะ พี่อยากกิน”

   “แต่ผมทำไม่เป็น”

   “ช่วยกันทำไง”

   เพราะแววตาที่มองมาทำให้ใจอ่อน ผมเลยถูกพาไปซื้อของที่ห้างซุปเปอร์สโตร์ ทั้งอุปกรณ์ ทั้งวัสดุทุกอย่างที่จดมาจากเว็บแล้วก็จากไอ้กลอย ผมเดินดูของนั่นนี่ ด้านหลังมีคนเข็นรถเดินตาม

   “แป้งพวกนี้ต่างกันยังไง” พี่ฟลอยด์หยิบถุงแป้งขึ้นมาดู ผมไม่รู้ได้แต่ส่ายหน้า แต่ถ้าซื้อตามที่ไอ้กลอยบอก ต้องซื้อแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน เผือก น้ำตาล แล้วก็กะทิ

   ซื้อของเพิ่มอีกหลายอย่างก่อนจะกลับ คนอยากกินจ่ายเงินไปหลายพันจนผมเกรงใจ เพราะในส่วนนั้นยังมีของใช้ส่วนตัวของผมด้วย จะแยกจ่ายก็ไม่ยอม เถียงกันจนพนักงานมองหน้า ผมเลยจำใจยอมให้ลูกคนรวยจ่ายด้วยบัตรเครดิต

        พี่ฟลอยด์หิ้วถุงพะรุงพะรังไปใส่ไว้ท้ายรถ ผมยืนเกร็งเพราะไม่รู้จะต้องทำอะไร ปกติไม่เคยมีคนถือของให้ ต้องถือเองทุกครั้ง มองนั่นมองนี่ก่อนสายตาหันไปเห็นเพื่อนตัวเองกำลังกินไอศกรีมร้านสีน้ำเงินเดินออกจากประตูห้าง ไอ้ป่านเดินกัดไอศกรีมออกมาขึ้นรถ มีคนเดินตามทำหน้ามุ่ยรีบเดินนำแล้วกัดไอศกรีมในมือไอ้ป่านไปคำหนึ่ง รอยยิ้มกว้างเกิดขึ้นทันทีจนผมอ้าปากค้าง
 
   “มองอะไร” พี่ฟลอยด์มายืนข้างๆ “ไอ้เกน? ป่านด้วย” ผมหันไปมองคนข้างตัวเองแบบหางตามีดาวแบบในการ์ตูนญี่ปุ่น

   “เพื่อนพี่ชอบเพื่อนผมเหรอ” คนถูกถามส่ายหน้า

   “ไม่รู้ว่ะ”

   ลองโทรหาไอ้ป่าน มันรับสายแต่เหมือนจะโวยวายไม่ยอมตอบผมสักทีจนต้องเรียกอีกหลายรอบ

   (ตะโกนพ่อง) มันด่าผมครับ

   “กูเรียกมึงแล้วมึงไม่สนกูไอ้สัด” ผมยังยืนดูรถพี่เกนที่ติดเครื่องแล้วแต่ยังจอดอยู่ “มึงอยู่ไหนวะ”

   (กูอยู่ห้าง...มึงเอาไปกินเลยไอ้ห่า เลียซะกูกินต่อไม่ได้) เหมือนมันจะด่าคนอื่นหลังจากตอบผม

   “มึงอยู่กับใครวะ”

   (อยู่กับเพื่อนพี่ฟลอยด์...กูชื่อเกน...เสือก) สองเสียงดังลอดออกมา

   “ไปอยู่กับพี่เขาได้ยังไงวะ” มองตามรถที่ออกตัวจากลานจอด ผมดึงพี่ฟลอยด์ให้แอบข้างๆ เสา

   (ไม่ได้อยากอยู่ แต่มันแม่งบังคับกู) ได้ยินเสียงหัวเราะแล้วสายก็ตัดพร้อมๆ กับไอ้ป่านโวยวายร้องหาโทรศัพท์ตัวเอง

   ผมหันมองหน้าคนข้างตัวอย่างช้าๆ อย่าบอกว่าไอ้ป่านกับพี่เกน? “เพื่อนพี่ชอบบังคับคนอื่นสินะ”

   “ก็บอกแล้วว่ามันนิสัยเหมือนพี่” พี่ฟลอยด์ขำก่อนดึงผมไปขึ้นรถ

   เพื่อนผมมันคงเอาตัวรอดได้...ใช่มั้ย




   “พี่กดหยุดก่อน” ผมรีบชี้นิ้วสั่งเพราะนึ่งเผือกสุกแล้วกำลังบด แต่ในคลิปมันไปถึงต้มแล้ว พี่ฟลอยด์ไม่ยอมช่วยอะไรได้แต่ดูเฉยๆ

   “จะกินได้หรือเปล่าเนี่ย” คนอยู่เฉยๆ ขำร่วน

   “งั้นก็ไม่ทำละ”

   “เฮ้ย ไม่สิ ทำเลยๆ เดี๋ยวพี่ช่วย”

   ผมหน้างอยกชามที่ผสมแป้งสองอย่างเข้าด้วยกัน พี่ฟลอยด์มองอย่างงงๆ แต่ก็หยิบไปวางตรงหน้า ผมใส่เผือกที่บดละเอียดแล้วก็เริ่มนวด ในคลิปบอกต้องทำให้มันเข้ากัน คนอยากกินเติมน้ำทีละน้อย

   “พอยัง”

   “แป้งมันยังไม่เหนียว ใส่อีก”

   นวดๆ จนแป้งเริ่มเหนียว

   “พี่กดเปิดคลิปต่อเลย”

   มองไปด้วย ยกบัวลอยลงไปต้มด้วย ทำอาหารนี่มันโคตรเหนื่อยจริงๆ อยากจะไปกราบแม่สักหมื่นรอบที่ทำข้าวให้กิน เพิ่งรู้ว่ากว่าจะได้สักอย่างมันทั้งเหนื่อย ทั้งลำบาก คนกินบางคนยังบ่น

   กว่าจะทำเสร็จ ครัวก็เหมือนเจอระเบิดลูกใหญ่ๆ เพราะเละมาก แป้งเลอะเทอะตามโต๊ะ ไหนจะน้ำที่เปียกพื้น หม้อ ทัพพี จานชามเต็มอ่างไปหมด

   “นี่ครัวห้องพี่เหรอวะ” เจ้าของห้องมองสภาพอย่างอึ้ง

   “เดี๋ยวค่อยเก็บกวาดก็ได้ พี่ลองกินสิ” ยกบัวลอยถ้วยเล็กๆ ไปตรงหน้า พี่ฟลอยด์ดูลังเล เงยหน้ามองผมหลายครั้ง “ไม่กล้าก็ไม่ต้องกิน” ดึงออกแต่พี่ฟลอยด์ดึงกลับ

   “กินๆ” คำแรกเข้าปากอย่างลุ้นระทึก ใบหน้าขาวดูบิดเบี้ยวคล้ายกับจะอ้วกออกมาจนผมต้องรีบคว้าถังขยะมารอง

   “คายๆ” พยายามลูบหลังให้อีกคนคายแต่ก็ยังไม่ยอม

   “อร่อย” แทบเขวี้ยงถังขยะทิ้ง อยู่ๆ คนกินก็กลืนแล้วยิ้มกว้าง

   “หลอกผมเหรอวะ”

   “โอ๋ๆ อย่าหน้าบึ้งสิ” โดนตวัดมานั่งตัก “อะ เดี๋ยวพี่ป้อน อ้า” กินไปคำนึง รสชาติไม่ได้อร่อยเหมือนกับที่ขายตามร้าน แต่ก็พอกินได้

   “หวานน้อยไปหน่อย” ผมว่า
 
   “พี่ชอบแบบนี้” พูดแล้วก็ตักบัวลอยเข้าปาก ตาคมช้อนขึ้นมอง “ทั้งคนทั้งบัวลอย”

   “พอๆ” รีบหนีก่อนจะหน้าร้อนมากกว่านี้ ผละออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ ได้แต่หันไปคาดโทษแล้วก็เดินมาล้างอุปกรณ์ที่ถูกวางทิ้งไว้

   “ขอบคุณนะที่ทำเพื่อพี่” ระหว่างกำลังเช็ดชาม แขนแกร่งยื่นมากอดผมจากด้านหลัง คางแหลมวางเกยไหล่พร้อมกระซิบข้างหู

   “เพราะพี่ฟีนขอหรอก” โกหกไปแต่คนข้างหลังกลับขำ

   “โกหก” โดนจูบที่ซอกคอจนต้องย่นคอหนี

   “เออโกหก ถอยเลย แล้วมือนี่ด้วย อย่ามาเนียน” ตีมือที่เริ่มเลื่อนขึ้นมาลูบหน้าอก

   “รู้ทันตลอดว่ะ” เสียงหัวเราะเบาๆ กับคนด้านหลังผละออก ผมหันไปมองก็เจอสายตาประกายมองอยู่ “ถ้าไม่มีต้อม พี่คงไปเมาที่ไหนสักที่”

   “กินเหล้ามันช่วยให้ลืมแค่แปบเดียวเท่านั้นแหละ” กอดอกมอง

   “แต่ก็ยังได้ลืมบ้าง”

   “พี่ฟีนเป็นห่วงพี่มากเลยนะ โทรไปหาหน่อยสิ พี่เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” ผมว่า พี่ฟลอยด์ยื่นหน้ามาหอมแก้มแล้วเดินไปโทรศัพท์

   ไอ้ต้อมกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมมองมือตัวเองที่เคยจับแต่จอบกับเสียม ตอนนี้มาจับตะหลิว จับทัพพี โคตรไม่เข้ากับผมเลยให้ตาย

   เช็ดมือเสร็จก็เดินกลับไปนั่งที่หน้าทีวี เห็นข้อความไอ้กลอยที่ส่งมารัวๆ พอกดอ่านมันก็บ่นว่าผมไม่ยอมตอบ พี่ฟลอยด์คงชอบกินทั้งบัวลอยทั้งคนทำ เลยด่ามันกลับ ไอ้กลอยมันส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะกลับมาพร้อมกับพี่ฟลอยด์ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ

   “เป็นไง”

   “ก็ไม่เป็นไง” ตีรวนว่ะ

   “พี่ฟลอยด์”

   “ครับๆ ...พี่ก็บอกว่าดีขึ้นแล้ว ได้กินบัวลอยแล้วด้วย”

   “ดีมาก”

   “มีรางวัลป่ะ” นิ้วชี้แก้มที่ป่องมาทางผม

   “ไม่มี” เอามือดันหน้าออกห่างจนคนขอรางวัลหน้าบูด “ไปกินเหล้ากัน”

   “ที่ไหน”

   “ร้านยาดองเพิงหมาแหงนแถวมออะ” เมื่อกี้ผมลองชวนไอ้ดอยแล้วไอ้ป่าน พวกมันตอบตกลงทันที ถ้าเป็นเรื่องของมึนเมามันชอบตลอด แต่ถ้าเรื่องอื่นมันไม่สนใจหรอกครับไอ้สองคนนี้

   “ทำไมไม่ไปไนต์คลับแทนล่ะ” รีบส่ายหัวส่ายหน้าทันที คราวที่แล้วก็มีเรื่องที่นั่นยังจะให้ไปอีกก็ไม่ไหว

   “ร้านยาดองนี่แหละ เจ๋งสุด ถ้าได้ลองพี่จะชอบจนลืมที่หรูๆ ไปเลย แล้วผมก็นัดเพื่อนไว้แล้ว”

   “มัดมือชกนี่หว่า”

   ถึงจะว่าแบบนั้น แต่พี่ฟลอยด์ก็ยอมมากับผม ที่ร้าน ไอ้ดอยนั่งรออยู่แล้ว วันนี้มันพาแฟนมันมาด้วย เป็นรุ่นน้องต่างมหาลัย แต่รู้จักกันมานาน ตั้งแต่มัธยมต้น รักมาราธอนสุดๆ

   “ไอ้ป่านล่ะ” ผมยิ้มให้แฟนเพื่อนก่อนจะนั่งข้าง พี่ฟลอยด์นั่งข้างไอ้ดอยที่ยกมือไหว้แบบงงๆ

   “เห็นบอกใกล้ถึงละ แต่แม่งโวยวายเหี้ยอะไรไม่รู้” ผมรีบหันไปมองหน้าพี่ฟลอยด์ หรือว่า...

   รถของไอ้ป่านเลี้ยวไปจอด มีคนนั่งมาด้วยลงมาก่อน ผมพยายามเพ่งดูเห็นเพื่อนตัวเองถูกคนที่มาด้วยกอดคอทั้งๆ ที่สะบัดไม่หลุด

   “ไอ้เกน” พี่ฟลอยด์ทักเพื่อนตัวเองที่ยังกอดคอเพื่อนผม

   “ชิบหาย” ไอ้ดอยสบถครับ ผมเห็นด้วย ชิบกำลังหาย
 
   “ปล่อยกูสิวะแม่ง” ไอ้ป่านยกแขนที่พาดคอออกแล้วมานั่งข้างผม ส่วนพี่เกนก็ไปนั่งแทรกไอ้ดอยกับพี่ฟลอยด์

   ยาดองสองโหลบนโต๊ะเริ่มแจกจ่ายหลังจากคนมาครบ ผมเริ่มจับผิดเพื่อนตัวเองนิดๆ จนทนไม่ไหวต้องสะกิดถาม

   “มาด้วยกันได้ไงวะ” แอบกระซิบเมื่อคนบนโต๊ะกำลังเฮฮา ขนาดพี่ฟลอยด์กับพี่เกนยังยกดื่มแบบติดใจ ไอ้ป่านยื่นหน้ามากระซิบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

   “มันไปหากูที่ห้อง พอดีกูจะออกมามันเลยมาด้วย”

   “มึงกับพี่เขาสนิทกันขนาดนั้นเหรอวะ”

   “กูก็ไม่รู้ว่ะ แม่ง อยู่ๆ ก็เข้าหากูเฉย” ไอ้ป่านว่า “แต่มันชอบโดนตัวกูตลอด ขนลุกสุดๆ” อยากจะขำเพื่อนตัวเองแต่ไม่กล้า ผมตบบ่าไอ้ป่านเพื่อปลอบใจ “กูรู้แล้วว่ามึงรู้สึกยังไงตอนพี่ฟลอยด์เข้าหา”

   “กรรมตามทันมึงสินะ เล่นกูไว้เยอะ”

   ชนแก้วไปมาจนยาดองหมด สภาพแต่ละคนก็หนักเอาการ ยกเว้นผม ไอ้ป่าน แล้วก็แฟนไอ้ดอย เพราะต้องมีคนขับรถกลับ พี่ฟลอยด์ฟุบหน้ากับโต๊ะเพราะดื่มเยอะ คงจะอยากลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิด น้องพิมพ์พาไอ้ดอยที่อ้อแอ้กลับด้วยความลำบาก พวกผมต้องช่วยประคองไปยัดในรถ 

   “พี่ฟลอยด์เป็นไงมั่งวะ” ไอ้ป่านถาม ผมยังมองไฟท้ายรถเพื่อนตัวเองที่ห่างไปไกล

   “คงจะทรมานน่าดู” ตอบออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง

   “พาเมียน้อยเที่ยวไม่มีท่าทีเสียใจที่เมียตาย เป็นกูคงทำอะไรไม่ถูกว่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง จะทำยังไง” ไอ้ป่านตบบ่าผมพร้อมรอยยิ้ม “โชคดีที่มีมึงอยู่ข้างๆ”

   “ชมกูสินะ”

   “เออ ชม”

   พวกเราสองคนพากันหัวเราะ ชีวิตมีเรื่องในเครียดมากพออยู่แล้ว ถ้าเอามาคิดทุกเรื่องสมองคงระเบิดพอดี ปล่อยวางไปซะบ้าง สมองจะได้มีพื้นที่เพื่อเก็บความสุขบ้าง

   “กูกลับก่อน มึงก็กลับดีๆ ล่ะ ระวังถูกพี่เกนปล้ำนะมึง เมาขนาดนั้น” แซวไอ้ป่าน มันเงื้อจะตบหัวแต่ผมหลบทัน

   “เมาเหมือนหมาแบบนี้กดกูได้กูยอมเลยสัด” ไอ้ป่านปากดีจนผมอยากจะแช่ง “ลุกๆ ตัวหนักเหี้ย กินควายมาหรือเปล่าวะ” มองตามเพื่อนตัวเองที่แบกคนเมาไปขึ้นรถ จากสภาพคงไม่สามารถปล้ำเพื่อนผมได้จริงๆ นั่นแหละ

   เคลียร์บิลเสร็จผมก็กลับมาพยุงคนเมาของตัวเองกลับบ้าน คนเมาเอนตัวพิงประตูรถ บ่นเรื่องไร้สาระก่อนจะเพ้อถึงแม่จนน้ำตาไหล ผมยื่นมือไปเช็ดขณะติดไฟแดง



   “รีบๆ เข้มแข็งนะ พี่ยังมีคนรักอีกเยอะ”

.....TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 10:26:33 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไม่มีอะไรจะพูดกับพฤติกรรมของพ่อฟลอยด์

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ต้อมน่ารักว่ะ มีทำขนมด้วยกันซะด้วย พี่ฟลอยด์ขี้อ้อนมากๆ สองคนนี้อยู่ด้วยกันนี่น้ำตาลยังแพ้เลย

ส่วนพี่เกนกับป่าน รู้สึกถึงรังสีม่วงๆมาแว่บๆนะ ระวังโดนพี่เกนปล้ำนะป่านนนนน

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่ฝอยยังมีต้อมนะ เข้มแข็งได้เร็วๆนะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
พ่อฟลอยด์ก็คงมีปมอะไรบางอย่าง อายุปูนนี้แล้วคงต้องทำใจ
ยังไงก็พ่อ แต่ตัวเองไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดี ก็อย่ามากะเกณฑ์อะไรชีวิตลูกเลย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พ่ออะไรเห็นขี้ดีกว่าไส้ เมียตายก็ยังพานังบลูไปงานศพแบบลอยหน้าลอยตา :z6: :beat: :z6: :beat:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
มีพ่อแบบพ่อฟลอย์
เราก็ทำใจรับไม่ได้

 :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โถววว พี่ฝอยของน้องชีวิตเป็นคุณชายอาภัพเลยแล้วพ่อพี่ฝอยนี่แม่งรักลูกมั่งป่าววะตามติดเอาใจแต่เมียน้อยไม่สนใจลูกเลย นี่ถ้าเป็นเราคงตามตบกับเมียน้อยอะ สงสารพี่ฝอยจริงๆต้อมดูแลพี่ฝอยดีๆนะ เข้มแข็งเร็วๆนะพี่ฝอยนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อพี่ฟลอยด์ ต้องเอาสมญาที่พี่โชตั้งให้
ตอนท้ายของพี่ฟลอยด์ไปใช้แทนและ
แต่เปลี่ยนจาก ขัด เป็น ตี แทน
พ่อฟลอยด์ ชอบตีหม้อ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อยากอ่านเกนป่านเลย

ออฟไลน์ everyxing☆

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฉนุกกกกกกกกกก

พี่ฟลอยยยยด์ฉู้ๆ♡♡ *ยกป้ายเชียร์*

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
พี่ฟล์อยเข้มแข็งไว้นะ พี่ฟล์ยังมีต้อมที่รักพี่ฟล์อยด้วยหัวใจอยู่ข้างๆเสมอ  :mew1: :mew1:ส่วนป่านระวังโดนพี่เกนกดเน่อ คู่นี้ก็น่ารักอีกคู่ รักกันเร็วๆนะ :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่ารักกกก

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ลุ้นต่อน่ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไอ้เมียน้อยอ่ะ เราว่ามันไม่หยุดอยู่ที่พ่อพี่ฟลอยหรอก มันต้องเที่ยวไปจับคนอื่นอีกแน่ เพราะเราว่าพ่อพี่ฟลอยคงไม่อึดพอที่จะทำให้อิเมียน้อยมีความสุขพอ มันต้องหลอกเอาเงินไปเลี้ยงหนุ่มต่ออีกแน่ ถ้าพี่ฟลอยจะคิดกำจัดอิเมียน้อยนี่เราว่าหานักสืบคอยตามเราว่าต้องมีแน่ๆ หาหลักฐานเก็บเอาไว้แล้วเอาไปโยนใส่พ่อให้ตาสว่างซะที แต่เราว่ามันคงจะเกินเยียวยาแล้วล่ะคนพ่อนี่

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar : 14



       สงครามไหนเลยจะเท่าสงครามความเงียบ ไม่ใช่เงียบธรรมดา มันเงียบชนิดที่ว่า ไม่กล้าเคี้ยวข้าวแรง ผมก็ไม่ได้อยากอยู่ในสงครามนี้สักเท่าไหร่ แต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้

   ผมกำลังนั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัวพี่ฟลอยด์ แม้จะมีเสียงพูดเจื้อยแจ้วของหลานตัวน้อยของบ้านแต่ความเย็นแผ่ซ่านที่ปกคลุมเจ้าของและลูกสาวคนโตกับลูกชายคนเล็กไม่ลดหย่อนลงสักนิด ผมถูกพี่ฟลอยด์ขอร้องให้มานอนค้างที่บ้านด้วยหลังจากถูกพี่ฟีนโทรตาม ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะมา แต่แววตาขอร้องอ้อนวอนนั่นทำให้ใจอ่อน

   ถูกจ้องจากเจ้าของบ้านที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ พยายามก้มหน้ากินข้าวโดยมีพี่ฟลอยด์เป็นคนตักนั่นตักนี่มาให้ และมีเสียงแขวะจากพี่สาวคนโตดังเป็นระยะ


   ผมโคตรไม่ชอบแบบนี้เลย


   “แกจะคบไอ้เด็กนี่จนถึงเมื่อไหร่” เสียงถามของเจ้าของบ้าน แต่คนถูกถามทำเหมือนไม่ได้ยินเพราะมือยังตักไข่เจียวหมูสับมาให้ผม “ฟลอยด์!” เสียงตวาดดังขึ้น ขนาดสาวใช้ที่ยืนด้านหลังยังสะดุ้ง รวมทั้งผม

   “เรื่องของผม พ่อไม่ต้องมายุ่ง” ตอบกลับแบบนิ่งๆ แต่ไม่มองหน้า

   “ถ้าแกไม่ใช่ลูกฉัน ฉันก็ไม่อยากยุ่งหรอก” ดวงตาดุของพ่อพี่ฟลอยด์มองมาที่ผม “ส่วนเธอ ก็เลิกมาเกาะแกะลูกชายฉันซะที”

   “อย่ายุ่งกับคนรักของผม” เสียงขัดขึ้นมาทันควัน

   “เงียบไปเลยแก” ตวาดพร้อมชี้นิ้วใส่หน้าลูกชายตัวเอง

   “ไม่เงียบ พ่อไม่มีสิทธิ์แตะต้องหรือด่าว่าคนของผม เหมือนที่ผมว่าคนของพ่อไม่ได้นั่นแหละ” พี่ฟลอยด์เถียงกลับ คนเป็นพ่อได้แต่จิ๊ปากอย่างขัดใจ

   “ฉันให้แกมานอนที่บ้านเพื่อคุยกัน แต่แกกลับพา...มาด้วยทำไม” พี่เฟิร์นเว้นวรรคเพื่อมองหน้าผมก่อนพูดจนจบ

   “เพราะผมขาดเขาไม่ได้” รีบหันกลับไปมองคนที่พาผมมา สีหน้าจริงจังจนพี่สาวคนโตเบ้ปาก

   “ถ้ามันตายไป แกจะตายตามมันไปหรือเปล่า” นี่เจ้าของบ้านถึงกับแช่งให้ผมตายเลยเหรอครับเนี่ย ไอ้ต้อมตายยากนะจะบอกให้

   “ใช่” นี่ก็ยังแรงไม่หยุด

   “แกมันโง่” พี่เฟิร์นว่าออกมา “ผู้หญิงมีตั้งมากมายไม่เลือก ดันเลือกพวกผิดเพศ”

   “ถึงผมจะผิดเพศแต่ผมก็ไม่เคยฆ่าใคร ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ไม่เคยมานั่งดูถูกใครไม่ว่าจะสูงหรือต่ำกว่า” เมื่อทนไม่ไหวเราก็ต้องปกป้องตัวเองบ้าง “พวกคุณอาจจะคิดว่าคนรวยทำอะไรก็ได้ ไม่สนหัวใคร แต่ธุรกิจของพวกคุณ ถ้าไม่มีคนชนชั้นแบบผมทำงานให้ยังไงก็เจ๊ง บริหารดีแทบตายไม่มีคนทำก็ล่มอยู่ดี”

   “นี่แก”

   “พี่อาจคิดว่าตัวเองสวย รวย เก่ง เลยหยิ่งผยอง แต่คนเราไม่ควรลืมว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งสูง ตกลงมายิ่งเจ็บ อยากขึ้นไปที่สูงแต่อย่าเหยียบหัวคนอื่น เพราะถ้าตกลงมาจะมีแต่คนรอเหยียบซ้ำ”

   “ด่าฉันเหรอ ไอ้เด็กบ้า”

   “ผมไม่ได้ด่า ผมก็แค่พูดตามความจริง” จ้องกลับอย่างไม่กลัว แม้อีกฝ่ายตั้งท่าเหมือนจะขย้ำหัวผม “เวลาพี่ผิดก็เอาแต่โทษคนอื่น ลองหยุดคิดแล้วโทษตัวเองบ้าง พี่จะได้รู้ว่า การมีคนที่รักเราจริงๆ เป็นยังไง” ผมหันไปมองพี่ฟลอยด์ เพราะเมื่อก่อน คนข้างๆ ผมก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เวลาผิดก็มักจะโทษอย่างอื่นไม่เคยด่าตัวเองว่าผิด

   “ปากดี” เสียงดังมาจากคนนั่งหัวโต๊ะ ผมมองหน้าคนแก่กว่าแล้วยิ้มให้

   “ผมไม่ได้ปากดี แค่เป็นคนพูดตรง”

   “พูดตรงยังไง ฉันเห็นว่าเถียงลูกสาวฉันฉอดๆ”

   “ผมก็บอกแล้วว่าไม่ได้เถียง แค่บอกไปตามหลักที่คนแบบผมเข้าใจ ผมรู้ว่าคุณลุงก็รักลูก แต่อาจมีเหตุผลบางอย่างหรือคุณลุงอาจแสดงออกไม่เป็น” ผมไม่ได้ปีนเกลียวนะ แต่อยากอธิบาย “พ่อของผม แม้ไม่เคยบอกว่ารักผมสักครั้ง แต่ผมก็รู้ว่าพ่อรัก แม้จะไม่เคยเห็นดีเห็นงามกับความคิดของผม แต่ท่านก็ไม่เคยห้าม เพียงแค่เวลาผมล้ม ผมจะรู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีมือของพ่อรอประคองอยู่ ลูกๆ ของคุณลุงก็รอแบบนั้นเหมือนกัน”

   พูดจบ ลูกสาวและลูกชายที่นั่งอยู่ก็ก้มหน้าจนคนเป็นพ่อต้องกระแอม

   “กล้าสอนฉันเลยเหรอ ไม่เจียมตัว”

   “ผมเจียมตัวเสมอครับ แต่ผมแค่อยากให้เข้าใจพี่ฟลอยด์หรือพี่คนอื่นๆ บ้าง พวกพี่เขาไม่ได้โกรธที่คุณลุงจะมีกิ๊กสักร้อยคน แต่ขอแค่แบ่งเวลามาสนใจครอบครัวสักนิด ไม่มีใครจะดูแลเราไปตลอดชีวิตนอกจากคนในครอบครัวหรอกนะครับ ขอโทษที่ผมต้องพูดแบบนี้”

   “ต้อม” พี่ฟลอยด์แตะแขนคล้ายกับปรามที่ผมเริ่มพูดเยอะเกินไป

   “พูดออกมาให้หมด” แต่เจ้าของบ้านกลับกอดอกเอนหลังพิงพนักแล้วให้ผมพูดต่อ

   “กิ๊กของคุณลุงเขาไม่ได้มีแค่คุณลุงคนเดียว เรื่องนี้ผมว่าคุณลุงก็คงรู้ และเพื่อนผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ใสซื่อแบบที่คิด เธอกล้าให้คนไปทำร้ายเพื่อนผมโดยการลากไปข่มขืน ดีที่ผมช่วยไว้ทัน”

   “เธอพูดเรื่องจริงหรือโกหกฉันอยู่”

   “ผมพูดเรื่องจริงทั้งหมดครับ” จ้องหน้านิ่งจนเจ้าของบ้านเริ่มขมวดคิ้ว แรงสะกิดจากด้านข้างพร้อมกระซิบถามว่ากลอยหรือเปล่า ผมก็พยักหน้ารับ

   “แล้วมีอะไรอีก”

   “ครับ?”

   “ปากดีแล้วก็พูดให้จบๆ ต่อไปจะได้เลิกยุ่งกับลูกชายฉัน”

   “พ่อคะ ฟีนว่าพอเถอะ”

   “เงียบไปเลย”

   “ตวาดยัยฟีนทำไมคะ”

   “แกก็ด้วย”

   สองสาวหน้ายู่ทันทีที่ถูกตวาด

   “ผมไม่มีทางเลิกกับลูกของคุณลุงแน่นอน” ยิ้มพร้อมบีบมือพี่ฟลอยด์ “ลูกของคุณลุงเป็นของผม” บอกอย่างหนักแน่น

   “อวดดี”

   “ขอบคุณที่ชม พ่อกับแม่ผมก็ชมผมแบบนี้ทุกวัน”

   เสียงลากเก้าอี้ของเจ้าของบ้านที่ยืนขึ้น พ่อพี่ฟลอยด์จ้องหน้าผมนิ่งก่อนเดินออกจากห้องทานข้าวไป ผมลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอ้ต้อมไม่เคยก้าวร้าวกับใครเลยนะ แต่ครั้งนี้ปากมันไปก่อนสมอง อยากจะตบปากสักร้อยครั้งที่ไปต่อปากต่อคำกับผู้ใหญ่ 

   “พูดได้ดี” เสียงชมลอยๆ หรือเสียงแขวะก็ไม่ทราบได้จากปากสีแดงเลือดนกของพี่เฟิร์น
 
   “ไม่มีใครกล้าพูดแบบนั้นกับพ่อพี่เลยนะ” พี่ฟีนรีบเสริม

   “ผมคงโง่มั้งครับ” ก้มหน้าถอนหายใจ

   “ไม่โง่หรอก แค่เป็นคนตรงในแบบที่พวกเราไม่เคยเจอแค่นั้น”

   “พี่ชมผมใช่มั้ยครับ”

   พี่ฟีนหัวเราะร่วน และเสียงขำนิดๆ จากปากสีแดง ส่วนพี่ฟลอยด์ยิ้มหน้าบานตั้งแต่ผมบอกไม่มีทางเลิกแล้ว ตอนนี้ทำตาเล็กตาน้อยใส่ผมจนอยากจะอมข้าวแล้วพ่นใส่หน้า

   “ไม่น่าเชื่อ ว่าฟลอยด์จะชอบคนแบบต้อมได้”

   “แบบผมยังไงเหรอครับ พูดออกมาได้เลย ผมไม่โกรธ” พี่ฟีนดูลังเล สุดท้ายก็พูดออกมา ไอ้ต้อมไม่โกรธหรอก แค่หน้าเสียแค่นั้น

   “แบบปากเสีย พูดตรง ห้าว แล้วไม่อ่อนหวาน ขอโทษนะที่พี่พูดแรง”

   “ไม่แรงหรอกครับ ผมโดนด่ามากกว่านั้นเยอะ”

   มื้อเช้าที่แทบลุกเป็นไฟจบลง เมื่อคืนตอนมาก็มาซะดึก ตอนเช้าตื่นมายังต้องเจอสงครามเย็น ไอ้ต้อมสูญเสียพลังไปเยอะ ยังโชคดีที่ผมได้นิสัยมีเหตุผลของพ่อและนิสัยไม่คิดมากของแม่ แต่บางคนก็ไม่ชอบหรอกครับ เหตุผล...บางทีมันเหมือนกับเรากำลังแก้ตัวหรือหาข้ออ้างกับเรื่องๆ นั้นอยู่

   พี่ฟลอยด์พาผมมานั่งเล่นหลังบ้าน มีสระว่ายน้ำในร่มด้วย บ้านคนรวยมันเป็นแบบนี้นี่เอง สระนี่ถ้าโดดลงไปคงจะเย็นสดชื่นสินะ ลองเอาเท้าเปล่าๆ หย่อนลงไปก็เย็นดี

   “อยากว่ายน้ำมั้ย” พี่ฟลอยด์ขำก่อนถาม

   “เช้าแบบนี้เนี่ยนะ” นาฬิกาเพิ่งบอกเวลาเก้าโมงเช้าอยู่เลย

   “ออกกำลังกายตอนเช้าไง พี่มีกางเกงว่ายน้ำ” ลังเลแต่ก็พยักหน้า

   เดินตามเจ้าของบ้านคนเล็กขึ้นห้อง เมื่อคืนพอได้นอนเตียงนุ่มๆ ก็หลับเป็นตาย ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว ผมมองพี่ฟลอยด์ที่กำลังค้นของในตู้เสื้อผ้าก่อนจะยื่นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วมาให้ นี่มันกางเกงในชัดๆ

   “พี่ไม่มีแบบที่มันเหมือนกางเกงขาสั้นเหรอ” ไม่ใช่อายพี่ฟลอยด์นะครับ แต่อายพี่สาวใช้กับพี่สาวพี่ฟลอยด์ วันนี้วันหยุดด้วย

   “ไม่มี” จบเห่ “ใส่ไปเถอะ ไม่มีใครแอบดูหรอก” ไม่มีใครที่ไหน ยืนยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ตรงหน้าผมนี่ไง

   กางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วพันปกปิดด้วยเสื้อคลุมสีขาว พี่ฟลอยด์ก็อยู่ในชุดเดียวกับผม แม้จะเคยไปว่ายน้ำตามสระแต่นี่สระน้ำบ้านคนรวยเพิ่งเคยครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดีเหมือนกัน พอพวกผมก้าวลงมาก็เจอหลานของพี่ฟลอยด์กำลังยืนมองผมตาแป๋ว

   “สวัสดีครับน้องเฟรม” ผมย่อตัวนั่งลงทักทาย เด็กตัวน้อยยิ้มให้แล้วยื่นหน้ามาจุ๊บปาก ทันทีทันใดก็ถูกพี่ฟลอยด์ดึงคอเสื้อคลุมจากด้านหลังให้ถอย “พี่ฟลอยด์ทำไรวะ” โคตรตกใจตอนหงายหลังลงไป

   พี่ฟลอยด์หน้าบึ้ง “เฟรม ไปอยู่กับพี่เลี้ยงเลยไป” ดุหลานจนเริ่มเบะปากจะร้องไห้

   “พี่ดุหลานทำไมเนี่ย” จะยื่นมือไปจับแต่ถูกรวบไว้แล้วดึงให้ยืน “อะไรเนี่ย”

   “มันแก่แดด ไปเลย ไปอยู่กับพี่เลี้ยงเลย”

   “พี่ฟลอยด์” ส่งเสียงขุ่น ตัวโตรังแกเด็กได้ยังไง

   “โป้ง” น้องเฟรมยกนิ้วโป้งใส่น้าตัวเองจนผมขำ

   “ไม่ต้องโป้งเลยนะ” หัวเราะออกมาเมื่อเห็นคนทะเลาะกัน “ไปเร็ว” โดนลากไปสระน้ำ น้องเฟรมเดินตามมาแต่ถูกน้าส่งสายตาดุมองเลยยอมหยุดเดิน

   “ไปแกล้งหลานทำไม”

   “มันจูบต้อมไม่เห็นเหรอ”

   “นั่นเด็กนะ”

   “ถึงเด็กก็เถอะ”

   “อย่ามาขี้หวงน่า ผมไม่ได้มีเสน่ห์ขนาดนั้น”

   “ไม่รู้ตัวเองมากกว่า”

   ผมส่ายหน้าให้กับความคิดของคนที่เคยเอาแต่ใจ ตอนนี้ก็ยังมีอยู่แต่ไม่มาก เดินไปถึงสระพี่ฟลอยด์ก็ปลดเสื้อคลุมออก กางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแบบผมนั่นแหละ แต่คนใส่หุ่นดีทำให้น่ามอง ผมก็หุ่นดีนะ ไม่มีพุงแต่ก็ไม่มีกล้าม นับว่าเป็นเรื่องดีที่เข้าแปลงเกือบทุกวัน

   ลูกชายเจ้าของบ้านโดดลงไปด้วยท่าทีสวยงามราวกับนักว่ายน้ำ ผมเลยทำบ้าง แต่เหลวไม่เป็นท่าเมื่อพุ่งหลาวกลายเป็นจับกบ โดนหัวเราะเยาะด้วย เล่นไปสักพัก น้องเฟรมก็ออกมาพร้อมชุดเล่นน้ำกับห่วงยางที่แขนสองข้างและห่วงกลมๆ อยู่ที่เอว พี่ฟลอยด์โวยวายพี่เลี้ยงแต่ผมรีบปิดปากแล้วพาน้องเฟรมลงสระ เด็กตัวน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแต่อีตาคนโตกลับไปเกาะขอบสระทำหน้างอ พี่ฟีนเดินมาดูแล้วขำ

   “หวงแม้แต่กับเด็กนะ” เสียงตะโกนของพี่ฟีนยิ่งเพิ่มความง้ำงอของหน้าหล่อ “นี่น้องชายฉันจริงๆ เหรอเนี่ย”

   ผมจูงน้องเฟรมมาเกาะขอบสระข้างๆ น้าตัวเอง พี่ฟลอยด์ทำท่าจะผละออกแต่ผมดึงไว้

   “ดูหลานหน่อย”

   “ทำไมต้องดู”

   “ฟลอยด์นั่นหลานแกนะ” พี่ฟีนบอก
 
   “ลงมาดูเองเลย” หน้างอจนผมต้องเกาะหลัง พี่ฟลอยด์หันมามองนิดๆ

   “ไปเล่นกัน” บอกพร้อมรอยยิ้ม เลยดีขึ้นมาหน่อย

   กว่าจะเลิกเล่นน้ำก็เกือบสิบเอ็ดโมง น้องเฟรมขึ้นไปก่อนนานแล้วเหลือแค่ผมกับพี่ฟลอยด์ยังยืนเอาหลังพิงขอบสระ สายตามองไปยังสวนต้นไม้เล็กๆ ที่จัดอยู่อีกฝั่ง

   “ที่พูดกับพ่อพี่เมื่อเช้า ผมขอโทษนะ ปากผมมันห้ามไม่ได้จริงๆ” บอกเบาๆ อย่างรู้สึกผิด

   “ไม่เป็นไร แต่ก็ตกใจที่ต้อมพูดแบบนั้น” ใบหน้าจริงจังจนผมหน้าเสีย “เพราะไม่มีใครกล้าพูด”

   “ผมพูดแรงไปเหรอ พ่อพี่จะโมโหหนักกว่าเดิมหรือเปล่า”

   “ปล่อยเขาโมโหไปสิ ไม่ต้องไปสน”

   “พี่ฟลอยด์” ผมเรียกคนข้างๆ “ผมรู้ว่าพี่ก็รักพ่อมาก ลองเข้าไปพูดกับท่านดีๆ...”

   “ไม่มีทาง” โดนขัดทั้งที่ยังพูดไม่จบ

   “ทำไมล่ะ”

   “คนๆ นั้นไม่เคยฟัง ไม่เคยสนใจใครหรอก สนแต่ตัวเอง”

   “พี่ก็เคยเป็นแบบนั้น” เงียบครับ ไม่เถียงแปลว่าพูดถูก “ตอนพี่เจอผมใหม่ๆ ก็เป็นคนแบบนั้น”

   “พูดเกินไป”

   “ไม่เกินเลย เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ชอบบังคับ สนใจแต่ตัวเอง” นับนิ้วตามจนถูกจับมือไว้แน่น

   “พี่ดูโคตรแย่เลยนะ”

   “โคตรของโคตรแย่”

   “โห พูดตรงเกิน”

   “ก็ถ้าผมเป็นคนพูดอ้อมโลก พี่จะเปลี่ยนตัวเองมาถึงขนาดนี้เหรอ ถ้าพี่เป็นคนแบบเดิม จ้างพันล้านผมก็ไม่คบหรอก” พี่ฟลอยด์หันมามองแล้วยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู

   “ขอบคุณนะ”

   “ผมก็ขอบคุณที่พี่ยอมเปลี่ยนเพื่อผม” ผมว่า “แต่ผมพูดจริง เรื่องที่จะให้พี่เข้าหาพ่อก่อน” ปากที่ยิ้มหุบลงทันที

   “ไม่พูดด้วยละ” ว่าแล้วก็ว่ายน้ำหนี ผมก็รีบว่ายตาม

   “พี่ฟลอยด์”

   “ไม่ต้องตามมาเลย”

   “พี่ฟลอยด์” ว่ายตามไปเรื่อยๆ พร้อมขำ

   “บอกอย่าตามมา” โดนสาดน้ำใส่ แต่ผมก็ยังตาม

   “พี่ฟลอยด์”

   “เออๆ ก็ได้” สุดท้ายก็ต้องยอม “แต่ ขอรางวัลด้วยได้ป่ะ”

   “รางวัลอะไร” มองอย่างระแวง

   “รางวัลของคนใจกล้าไง”

   “กะอีแค่เข้าหาพ่อตัวเอง”

   “แต่มันคือครั้งแรกไง ไม่มีรางวัลเหรอ” ถูกหัวหนักๆ โขกเข้ากับบ่า
 
   “ก็ได้ แต่ขอดูก่อนว่าทำได้ระดับไหน”

   “ต้องระดับสูงสุดอยู่แล้ว” โดนตะปบก้นแล้วบีบแน่น ผมเบิกตาโตแล้วพยายามว่ายน้ำไล่ต่อยคนที่ลวนลามในน้ำ พี่ฟลอยด์หัวเราะอารมณ์ดีว่ายน้ำไปรอบๆ



   รางวัลใหญ่ที่จะได้จริงๆ มันไม่ได้มาจากผมหรอกถ้าพี่ฟลอยด์ทำได้...แม้ผมจะเป็นตัวล่อก็เถอะ ผลลัพธ์เป็นยังไงค่อยว่ากัน       


...TBC

มาม่าจะหมดแล้วค่า เริ่มอืดแล้ว เราจะเปลี่ยนมากินน้ำแข็งไสน้ำหวานกันดีกว่า เย็นๆ หวานๆ ออฟชั่นเยอะๆ ฮ่าๆๆ

เจอกันตอนหน้าค่าาาา  :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 10:26:58 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
เย่ๆจะได้กินของหวานซักทึ มาม่าอืดแล้ว แต่พี่ฟล์อยหวงแฟนแม้กระทั่งหลานเหมือนพี่โชเลยนะ :katai2-1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุณพ่อถ้ายังหลงบลูไม่ลืมหูลืมตาระวังโดนเมียน้อยที่รักนักหนาอุ้มไปนั่งยางเอาเงินนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เข้มข้นขึ้นเรือยๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สู้ๆค่ะพี่ฟลอยด์ คุยกันดีๆ ทุกอย่างจะได้ดีขึ้น

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ขอให้ครอบครัวพี่ฝอยปรับความเข้าใจกันได้เร็วๆ
ต้องขอบคุณต้อมที่สะกิดต่อมได้ถูกที่

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เหมือนเด็กเลย ต้องมีรางวัลมาล่อ

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พ่อพี่ฟลอยด์นี้ยังไง ไม่ค่อยสนใจลูก
แต่อยากให้เขาเลิกคบกันเพื่ออะไร
ห่วงอนาคตลูกชายเหรอ
แต่ตัวเองอ่ะทำไมมีเมียน้อยล่ะ  :serius2:

ถึงจะมาม่า แต่ก็มีความหวานอยู่ คิคิ  :-[

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
รอของหวานค่ะ

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
จะไม่ดราม่าแล้วหรือเปล่าครับ?

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ชอบต้อมอะขอได้ไหม #โดนพี่ฝอยเตะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชอบต้อมจัง ที่ต้อมพูดมาไม่รู้พ่อพี่ฟลอยด์จะฟังบ้างหรือเปล่านะ แต่ถ้าฟังและคิดได้ก็คงจะดี
ครอบครัวพี่ฟลอยด์ก็คงจะมีความสุขขึ้นมาบ้าง

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
บอกคำเดียว หนุก ชอบ ตรงดี

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar : 15



      สั่นครับ ไม่ใช่ผมหรอก คนที่จับมือผมอยู่เป็นคนสั่น มือเย็นเฉียบจนผมต้องบีบแน่นๆ เพื่อให้คลายความตื่นเต้น ตอนนี้ผมพาพี่ฟลอยด์มาอยู่หน้าห้องทำงานของพ่อตัวเอง มีพี่ฟีนจับมือน้องเฟรมมาให้กำลังใจด้วย ตอนเดินมาเมื่อกี้แอบเห็นพี่เฟิร์นแง้มประตูมอง ทุกคนคงลุ้นอยู่เหมือนกัน

   ผมเพิ่งรู้มาจากพี่ฟีนว่า พี่ฟลอยด์ไม่เคยคุยกับพ่อเป็นประโยคยาวๆ ได้เลย ตั้งแต่ตอนเด็กก็มักจะอยู่กับแม่ตลอด อาจเพราะพ่อทำงานหนักเลยทำให้ห่างเหินกันพอสมควร

   “พี่ต้องทำได้” ผมยิ้มกว้างให้คนที่ขมวดคิ้ว พี่ฟลอยด์จ้องบานประตูนิ่ง

   “คนในนั้นคือพ่อของเรานะ” พี่ฟีนตบบ่าน้องตัวเอง

   “ฉู้ๆ” น้องเฟรมยิ้มให้น้าตัวเอง

   เมื่อบ่าย ผมได้เมลจากไอ้กลอยเรื่องผู้หญิงที่ชื่อบลู มันให้เพื่อนสืบให้พร้อมส่งหลักฐานมา ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมมันถึงช่วย หรืออาจจะยังแค้น แต่ผมว่า คนเกรียนๆ อย่างไอ้กลอยมันคงไม่คิดแค้นใครหรอก มันอาจอยากให้ครอบครัวนี้มีความสุข ผมเป็นคนปรึกษามันเองนั่นแหละ

   เอกสารทุกอย่างก็อยู่ในซองที่พี่ฟลอยด์ถือ ทุกคนได้เห็นหมดแล้ว ทั้งคอนโดที่ไม่ได้มาจากเจ้าของบ้านนี้ หรือแม้แต่รถหรูที่ได้จากคนอื่น บัตรเครดิตมากมายที่มาจากหลายคน ผมไม่รู้เลยทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงยอมทำลายศักดิ์ศรีเพื่อความสุขสบายของตัวเอง

   “เข้าไปด้วยกันไม่ได้เหรอ” อยู่ๆ พี่ฟลอยด์ก็หันมาพูดกับผม

   “ไม่ได้หรอก”

   “เดี๋ยวเข้าไปทะเลาะแล้วใครจะห้าม”
 
   ผมหันไปมองพี่ฟีนซึ่งทำตาโตพยักหน้าเห็นด้วย

   “แต่ผมเป็นคนนอก ให้พี่ฟีนเข้าไปคงดีกว่า”

   “พี่จะห้ามได้เหรอ” ทำหน้าเหลอหลามองผมสลับกับน้องตัวเอง

   และแล้วผมก็เข้ามาด้วย เดินตามหลังคนสูงเข้ามา เห็นเจ้าของบ้านนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ก้มอ่านอะไรสักอย่าง แต่พอมีคนเดินเข้ามาก็เงยหน้าขึ้นมอง

   “มีอะไร” เสียงเข้มถาม ผมรีบสะกิดพี่ฟลอยด์ให้พูด

   “อยากมาคุย” นี่จะมาหาเรื่องพ่อตัวเองหรือเปล่า ตอบกลับโคตรห้วน

   “คุยอะไร” ถามกลับพร้อมเหล่ตามามองผมที่ยืนซ้อนหลังอยู่ “แล้วทำไมต้องพาเข้ามา หรือจะคุยเรื่องเด็กนั่น”

   “เปล่า เขาเข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม” เจ้าของบ้านเลิกคิ้วข้างหนึ่งมอง

   “แล้วมีอะไร” เจ้าของบ้านเอนตัวพิงพนักของเก้าอี้ ดวงตาคมมองมาตรงลูกชายเพียงคนเดียวที่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าพูดจนผมต้องแตะแขนเบาๆ เพื่อให้รู้ว่ายังมีผมอยู่ข้างๆ

   “ผม...” ใบหน้าหล่อลังเลก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา “ผมมาขอโทษ”

   “ขอโทษเรื่อง?”

   พี่ฟลอยด์หันมามองผมแล้วยิ้มออกมา “ทุกเรื่อง” พ่อพี่ฟลอยด์จ้องนิ่งไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา “ผมรู้ว่าผมกับพ่อไม่สนิทกันมาตั้งแต่ต้นแล้วผมก็ตั้งแง่มาตลอด นั่นเพราะพ่อไม่เคยเลี้ยงผม พ่อมัวแต่ทำงานทุกวันจนเราแทบไม่เจอหน้ากัน พ่อเลยเหมือนคนนอกในความคิดของผม” ความในใจพรั่งพรูออกมาจากคนที่ยืนตรงหน้าผม

   “แต่ฉันเจอหน้าแกทุกวัน”

   “ตอนไหน ทำไมผมไม่เห็น”

   “ตอนที่แกหลับ ฉันไปหาทุกครั้ง”

   “แม่ไม่เห็นบอก”

   “เพราะแม่แกโกรธฉันที่ไม่ทำหน้าที่สามีที่ดียังไงล่ะ” คำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อทำเอาลูกชายขมวดคิ้ว “ที่ฉันแต่งงานกับแม่แกเพราะคุณย่าขอร้อง”

   “หมายความว่ายังไง”

   “ฉันรักกับแม่ของเฟิร์นจนเธอตายไป ฉันดื่มเหล้าหนักแล้วขับรถชน ย่าก็พาแม่ของแกมาดูแล แล้วฉันก็เพิ่งรู้หลังจากแต่งงานว่าแม่ของแกคือคนที่เคยเกือบถูกจับแต่งงานกับฉัน แต่บังเอิญฉันแต่งงานไปซะก่อน ประจวบกับการจากไปของแม่เฟิร์น ย่าเลยรีบจัดการตามแผนการที่ถูกเตรียมไว้แต่แรก อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะติดหนี้เลยให้ฉันเป็นคนดูแลลูกสาวเจ้าหนี้ หรือคือแม่แกนั่นแหละ”

   เรื่องราวอันน่าซับซ้อนถูกถ่ายทอดออกมา ผมขมวดคิ้วฟังด้วยความรู้สึกหลากหลาย ตอนนี้ไม่รู้เลยว่า ใครผิด ใครทิ้งใคร หรือใครน่าสงสารที่สุด พี่ฟลอยด์มองหน้าพ่อตัวเองนิ่งไร้เสียงตอบกลับใดๆ หลังจากได้ยิน

   “...”

   “แต่ไม่ใช่ฉันจะใจจืดใจดำไม่สนใจ เพราะฉันก็ยังดูแลแม่แกเป็นอย่างดี จนมีฟีนกับแก ฉันก็ยังคอยดูอยู่ตลอด แต่แม่แกมักจะกันฉันออกห่าง ฉันก็พอเข้าใจว่าคงโกรธที่ฉันละเลย”

   “ตอนแม่ป่วยทำไมพ่อไม่เคยไปดูแล”

   “ฉันเป็นคนจ้างหมอจากเมืองนอกมาดูแลแม่แกโดยเฉพาะ”

   “แล้วทำไมต้องมีเมียน้อย”

   “เรื่องนั้นเพราะฉันผิดที่ไม่พอเอง” เจ้าของบ้านลุกจากเก้าอี้มายืนตรงหน้าลูกชายตัวเอง “พ่อขอโทษ แต่แกจะโกรธพ่อก็ไม่เป็นไรเพราะพ่อผิดจริง พ่อดีใจนะ ที่วันนี้แกกล้าเข้ามาหา และยอมคุยอย่างเปิดอก” สรรพนามที่เปลี่ยนไปพร้อมมือหนายื่นมาจับบ่าลูกชายพร้อมรอยยิ้ม “พ่อต้องขอบใจไอ้เด็กปากดีคนนี้ด้วยมั้ย”

   ผมกระพริบตาปริบๆ เมื่อถูกจ้อง พี่ฟลอยด์เอนตัวมาบังผมไว้จนคนเป็นพ่อขมวดคิ้ว

   “ห้ามยุ่งกับคนของผม”

   “หวงกับพ่อของแกเชียวรึ” ถามกลับเสียงเขียว “เอาเถอะ อย่างน้อยก็ทำให้แกเข้าหาพ่อได้ จะดีกว่านี้ถ้าแกเลิกเกลียดพ่อบ้าง”

   “พ่อก็เลิกกับเมียน้อยพ่อสิ” ซองเอกสารถูกยื่นไปตรงหน้า เจ้าของบ้านยิ้มไม่รับ

   “พ่อรู้เรื่องพวกนี้นานแล้ว”

   “แล้วทำไมพ่อไม่เลิก”

   “...” ไม่มีคำตอบ มีเพียงแค่รอยยิ้มจากคนถูกถาม

   “เธอนิสัยเหมือนแม่พี่เฟิร์นใช่หรือเปล่าครับ” ผมชะโงกหน้าไปถาม พ่อพี่ฟลอยด์เลิกคิ้วนิดๆ แล้วพยักหน้ารับ พี่ฟลอยด์ไม่เข้าใจเลยหันมามองผม “เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนที่เคยคบกับเขามา ผู้หญิงคนนั้นมีนิสัยอ่อนโยน อ่อนหวาน และมีเหตุผล ปฏิเสธเรื่องที่เห็นว่าไม่มีประโยชน์กับตัวเอง แต่ผมว่าข้อหลังมันคล้ายกับเห็นแก่ตัวนิดๆ” พ่อพี่ฟลอยด์เผลอหัวเราะออกมา

   “แม่ของเฟิร์นเป็นคนแบบนั้นนั่นแหละ บางครั้งดูเห็นแก่ตัวแต่ก็ทำเพื่อครอบครัว”

   “แต่ผู้หญิงคนนั้นทำเพื่อตัวเองนะครับ” ผมว่า เลยถูกสายตาดุจ้อง

   “รู้มากจริงนะ” คล้ายกับประชด

   “แล้วยังรู้ว่าลุงยอมยกบ้านให้เพราะอยากเลิก แต่ติดตรงที่ว่า ผู้หญิงคนนั้นเธอบอกว่าท้องใช่หรือเปล่า”

   “ต้อมรู้ได้ไง” พี่ฟลอยด์ถาม “หรือว่ากลอยบอก” ผมพยักหน้าลง

   “กลอยให้เพื่อนช่วยสืบให้”

   “เพื่อนเป็นนักสืบหรือไงถึงรู้มากจริง” น้ำเสียงนิ่งเฉยแบบนี้คงเป็นเรื่องจริง ในตอนแรกผมโคตรตกใจที่ได้อ่านข้อความ

   “แต่คุณลุงคงรู้ความจริงแล้วใช่มั้ยครับ” ผมถาม ซึ่งได้การพยักหน้าตอบกลับ

   “พ่อก็เพิ่งรู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกคนอื่น” ดูเหมือนพ่อพี่ฟลอยด์คงให้คนสืบเหมือนกัน บนโต๊ะทำงานมีซองเอกสารสีน้ำตาลวางอยู่ ข้างๆ มีรูปภาพหลายรูปที่คงเดาได้ไม่ยากว่าเป็นรูปถ่ายของคู่ควง “เธอนี่ฉลาดดีนะ”

   “ขอบคุณที่ชมผมครับ” ผมยิ้มกว้างให้ แต่พี่ฟลอยด์กลับทำหน้าบึ้งตึง “พี่เป็นอะไร” ผมลองสะกิดถาม

   “ทำไมต้อมไม่บอกพี่เลย” อ่าว ทำไมมาโกรธผมแทนวะ

   “ผมก็เพิ่งรู้เมื่อบ่ายนี้เอง” บอกความจริง อยู่ๆ ไอ้กลอยก็โทรเข้ามาบอกส่งข้อมูลบางอย่างมาให้ พอผมเปิดดูก็มีข้อความทุกอย่าง รวมถึงไฟล์เอกสารที่แนบผ่านเมลเข้ามา “ขอโทษที่ไม่ได้บอกพี่ก่อน”

   โทรศัพท์ของเจ้าของบ้านดังขึ้น ผมกับพี่ฟลอยด์เลยขอตัวออกมา แต่ก่อนออกห้อง พ่อพี่ฟลอยด์ชวนผมกินเข้าเย็นด้วย แค่นี้ผมก็พอรู้แล้วว่าความโกรธของพ่อลูกคงลดลงเมื่อพี่ฟลอยด์ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม

   โล่งอกจริงๆ

   พอออกจากห้องก็เจอพี่สาวสองคนเดินวนไปมา ประตูเปิดออกก็รีบพุ่งเข้ามาหา พี่ฟีนจับน้องชายหมุนไปมาอาจจะหาบาดแผล

   “ไม่โดนทำร้ายใช่มั้ย ทำไมไม่มีเสียงโวยวายเลย” พี่ฟีนดูเป็นห่วงมาก ใบหน้าสวยบูดเบี้ยวคล้ายกับจะร้องไห้ออกมา
 
   “พ่อไม่ได้ทำอะไรแกใช่มั้ย” พี่คนโตถาม คนถูกถามส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม แขนยาวรวบร่างบางของพี่สาวทั้งสองมากอด “อะไรของแกเนี่ย”

   “ผมรักพี่นะ”

   “เป็นอะไรเนี่ย” พี่ฟีนกอดตอบแล้วยิ้มออกมา

   “ผมโคตรรักพี่เลย”

   มองพี่น้องกอดกันก็อดที่จะดีใจแทนไม่ได้ ผมว่า เรื่องราวที่มันใหญ่โตแบบนี้ สาเหตุมาจากการไม่พูดคุยกัน ปัญหาเลยพอกพูนเป็นดินก้อนใหญ่จนยากจะกะเทาะออก แต่มันก็ไม่ยากถ้าช่วยกันทำลาย สักวันมันก็จะเหลือแค่เศษดิน

   แรงสะกิดเบาๆ ทำให้ผมก้มไปมอง น้องเฟรมยื่นอมยิ้มมาให้ ผมย่อตัวนั่งลงแล้วหยิบอมยิ้มมา

   “อร่อยเหรอ” น้องเฟรมยิ้มแล้วพยักหน้า “ให้พี่แบบนี้ พี่กินหมดนะ”

   “อื่อ” จ้องหน้าเด็กตัวเล็กแล้วชวนให้นึกถึงหลานสาวของตัวเองที่อายุคงพอๆ กัน แถมยังกำพร้าเหมือนกัน “ไปเล่นกัน” ผมหัวเราะเมื่อถูกมือเล็กดึงไปข้างหน้า แต่ทำไมผมหงายหลังแทน

   “พี่ทำไรวะ” หันหน้าไปด่า อยู่ๆ ถูกดึงคอเสื้อทำให้หงายหลัง

   “เอาลูกพี่ไปเลย” พี่ฟลอยด์หันไปบอกพี่ฟีนเลยถูกพี่สาวหัวเราะ

   “ทำไมฉันต้องมาทนเห็นแบบนี้อีกแล้ว” ทั้งผม พี่ฟลอยด์ พี่ฟีนต่างก็มองหน้าคนบ่น พี่เฟิร์นเบ้ปากแล้วเดินหนี ผมจำได้ว่า พี่เฟิร์นเคยทะเลาะกับไอ้กลอยที่งานศพวันนั้น

   “ไม่ต้องไปสนใจหรอก พี่เฟิร์นแกก็เป็นแบบนี้นั่นแหละ” พี่ฟีนบอกผมพร้อมรอยยิ้ม

   “ครับ” ผมยิ้มรับ มือพยายามปัดแขนยาวๆ ที่พาดบ่า เอาลงแล้วก็ขึ้นมาใหม่ ต่อหน้าพี่สาวเลยนะ รุ่มร่ามตลอดว่ะ




   มื้อเย็น บรรยากาศดีกว่ามื้อเช้าเยอะ ไม่มีเสียงแหนบแนมหรือชวนทะเลาะให้เห็น แต่ก็ไม่ได้เฮฮาเหมือนครอบครัวผม คงต้องค่อยๆ ปรับอีกนาน พี่ฟลอยด์ดูอ่อนลงพอสมควร มือขาวตักผัดผักใส่จานของพ่อโดยที่ผมไม่ต้องกระซิบเตือนอย่างตอนแรก

   “เราน่าจะฉลองกันหน่อยมั้ยคะ พี่ฟลอยด์กับพ่อไม่ทะเลาะกันแล้ว” พี่ฟีนพูดขึ้น พร้อมกับบอกแม่บ้านให้นำไวน์ออกมาหลังจากมื้อค่ำจบลง

   ไวน์แดงรสชาติละมุนนุ่มลิ้นแบบที่ผมไม่เคยได้แตะมาก่อน ไวน์คนรวยนี่เนอะ อย่างผมก็แค่ยาดองก็หรูแล้ว ฤทธิ์ร้อนแรงร้อนท้องนอนหลับสบาย

   “เป็นไงไอ้เด็กปากดี ไวน์ขวดนี้เป็นแสนเชียวนะ” ถูกพ่อพี่ฟลอยด์แขวะนิดๆ แต่ผมก็ยิ้มให้

   “เป็นบุญปากของผมมากครับ” พูดจบ ทุกคนก็พากันหัวเราะออกมา

   “ปากมันดีจริงๆ” เจ้าของบ้านชูแก้วมาทางผม ผมก็ตอบกลับแล้วยกดื่มรวดเดียว เริ่มขมนิดๆ ตอนเข้าปาก พอกลืนก็หวาน
 
   การฉลองจบลงพร้อมกับไวน์แสนแพง ดีกรีแค่นี้ไม่ทำให้ผมคอพับได้ ยาดองเป็นโหลก็เคยกินคนเดียวมาแล้ว แค่เดินเซเท่านั้น

   ผมเดินกลับขึ้นห้องพร้อมพี่ฟลอยด์ นี่ก็ไม่ออกอาการใดๆ คงคอแข็งเหมือนผม ไม่เหมือนพี่สาวสองคนที่ต้องให้แม่บ้านพยุงไป ตามมาถึงห้อง คนเดินนำก็แยกเข้าห้องน้ำไป ผมก็มือถือมาส่งข้อความหาเพื่อนเกรียน แต่มันไม่ยอมตอบ อาจสวีทกับแฟนมันอยู่ ผมเลยวางมือถือลงแล้วขึ้นไปนอนกลิ้งเกลือกบนเตียงนุ่ม เมื่อคืนมาถึงก็เข้านอนเลย

   ผล็อยหลับไปแปบหนึ่งก่อนจะครางอย่างขัดใจ เมื่อถูกขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่เลยต้องปรือตาขึ้นมอง

   “นอนก่อนพี่ได้ยังไง” พี่ฟลอยด์นั่นแหละครับ ดูเหมือนจะอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเพราะตัวหอมมาเชียว

   “หอม” ผมพูดออกมาเมื่อถูกแขนสองข้างกักตัวไว้บนเตียง พอจะลุกกลับถูกกดให้นอนลงเหมือนเดิม “ผมจะไปอาบน้ำ”

   ถูกก้มหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ “ถูให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเลยนะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เริ่มทำให้ผมไม่ค่อยไว้วางใจสักเท่าไหร่

   ผมอาบน้ำใช้เวลาไม่นานก็ออกมา เจ้าของห้องนอนตะแคงดูทีวีท่าทางอารมณ์ดีจนผมแปลกใจ พอได้อาบน้ำก็รู้สึกสดชื่น
 
   “มานี่มา” ถูกตบเตียงที่ว่างข้างๆ เรียก ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ก็ถูกกอดเอวแน่น “ขอบใจนะ” เสียงอู้อี้แถวหน้าท้องทำให้ขำ
 
   “ไม่เป็นไร” ลูบผมนุ่มสีดำไปมา “พี่ก็รักพ่อแต่ฟอร์มไปงั้น ผมรู้”

   “แสนรู้จริงนะ”

   “ขอบคุณที่ชม”

   “ไม่โกรธเหรอเนี่ย” เสียงขำเล็กๆ ทำให้ผมต้องเลิกคิ้ว

   “โกรธทำไม”

   “ก็ที่พี่ว่าแสนรู้ นั่นมันหมานะ”

   “คนก็แสนรู้กว่าหมาอีก”

   “ตลกว่ะ” แล้วพี่ฟลอยด์ก็หัวเราะร่วน มือขาวนั่นสอดเข้ามาในเสื้อยืดของผมจนต้องดึงออก แถมยังต้องดึงหน้าหล่อที่งับหน้าท้องผมผ่านเสื้อเนื้อบาง

   “ทำไรวะเนี่ย” ยันหน้าหล่อด้วยมือ

   “รางวัลไง” พูดออกมาพร้อมนัยน์ตาพราว

   “ยังไม่ใช่ตอนนี้” ตาแพรวหม่นแสงลงทันที

   “แล้วเมื่อไหร่ พี่แทบจะตายด้านอยู่แล้วนะ” ผมขำออกมาเมื่อถูกคนตัวโตกว่างอน พี่ฟลอยด์ทำหน้างอขยับห่างไปนอนชิดขอบเตียง ผมเลยต้องขยับเข้าไปหา วางคางเกยบนต้นแขนมีกล้ามนิดๆ

   “เมื่อไหร่แล้วผมจะบอกพี่เอง แต่ตอนนี้ เวลานี้ บ้านพี่มันไม่สมควร” ได้ยินปุ๊บคนงอนก็หันมายิ้มตอบ

   “อายละสิ กลัวพี่ทำให้เสียงดังคนจะได้ยินใช่มั้ย โอ้ย เจ็บนะเนี่ย” โดนกัดต้นแขนไปแบบเบาๆ แต่ก็มีรอย “เป็นหมาจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย”

   “เออ หมาพันธุ์ดุด้วย ระวังเถอะ”

   “ต้อมเป็นหมา พี่ก็เป็นหมาเหมือนกัน แถมพร้อมผสมพันธุ์ตลอดเวลาด้วย โฮ่งๆ”

   “ผมต้องขำมั้ย”
 
   ถามไปแบบนั้นแต่ก็หัวเราะออกมา คืนนี้เราก็ยังนอนกอดกันแบบเดิม ความอุ่นที่ตอนนี้ผมขาดไม่ได้ ขาดวันไหนมักจะนอนไม่หลับ นี่ผมเสพติดความอุ่นของพี่ฟลอยด์ใช่หรือเปล่าเนี่ย ไอ้ต้อมเนี่ยนะ ไม่น่าเชื่อเลย แต่ช่างเถอะ คืนนี้ขอแค่ให้นอนหลับฝันดีก็พอ

   “ฝันดีนะครับ”

   “อื่อ ฝันดี อย่าอ่อยผมให้มากด้วย เดี๋ยวผมเผลอกดพี่ก่อนจะหนาว” บอกทั้งๆ ที่หลับตา ได้ยินเสียงขำเบาๆ ชิดใบหู

   “จะรอวันนั้นนะ”

   “เหอะ รอดูเถอะน่า” 


..TBC


พี่ฝอยขี้อ่อยมาทักทายค่า และจะบอกว่า อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้ววว

แต่ตอนพิเศษไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากลอยประเกรียนแน่นอนค่าา ฮ่าๆๆ

แล้วพบกันตอนหน้าค่าาา  :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 10:27:25 โดย aiaea83 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด