No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ >>ตอนพิเศษ ลอยกระทง [P.25]<<[03/11/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ >>ตอนพิเศษ ลอยกระทง [P.25]<<[03/11/60]  (อ่าน 281423 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขอแบบหวานๆ ซะตอนก่อนจบได้ป่ะไรท์ ไรท์อย่าใจร้ายเลยเนอะ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ไม่ต้องหวานมาก แค่ลงตัวและพอดีก็พอ  :katai2-1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
คุณพ่อยอมรับแล้ว

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ชอบจัง อบอุ่นมาก

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
หวานนนนนนนนมากกกกกกกกกก

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
หวานแค่นี้ก็น่ารักดีนะ  :o8:

อยากรู้เรื่องพี่เกนด้วยอะ คู่นั้นคงกัดกันมันส์ 555+

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar : 18


       เหนื่อยมาก ไม่ได้เหนื่อยใจนะครับ แต่เหนื่อยกาย วันนี้พวกผมต้องไถแปลงใหม่เพื่อลงของแถมยังต้องไถให้เด็กปีสองอีก ที่จริงควรให้เด็กมันทำไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกมันได้แต่นั่งมองวะ แบบนี้ต้องซ่อมทั้งรุ่นหรือเปล่า

   “พวกมึงกินแรงพวกกู” ไอ้ดอยมันเดินไปโวยวายแล้วทิ้งตัวนั่งข้างๆ รุ่นน้อง

   “พี่ก็กินแรงเพื่อนไม่ใช่เหรอ” มันโดนน้องรหัสมันตอกหน้า ไอ้ดอยขำไม่โต้ตอบปล่อยให้น้องรหัสมันใช้หมวกใบลานพัดให้ โคตรสบายนะมันเนี่ย

   ผมโยนดินก้อนใหญ่ใส่ไอ้พวกกินแรงจนกลุ่มนั้นลุกหนี ไอ้ดอยลากพวกรุ่นน้องมาช่วย กว่าจะผ่านไปได้เล่นเอาแขนล้าไปหมด พวกผมแบกจอบแบกเสียมไปไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์ด้านหลัง ได้ยินเพื่อนๆ นัดกันที่เพิงเพื่อกินยาดอง จะว่าไปก็แอบเปรี้ยวปากเหมือนกันนะ แถมวันนี้พี่ฟลอยด์กลับไปนอนบ้านโดยไม่มีผม

   วันนี้ไอ้ต้อมฟรีครับ

   “ไปหรือเปล่าไอ้ต้อม” ไอ้ดอยสะกิดถาม ผมรีบพยักหน้าตกลง “ขอผัวมึงหรือยัง”

   “ผัวพ่อง” ด่าพร้อมตบหัวไปที ผมเดินเลี่ยงมากอดคอไอ้ป่านที่เพิ่งวางโทรศัพท์ไป “พี่เกนโทรมาเหรอวะ”

   “เออ ตามกูยิกๆ อย่างกับกูขโมยทองมันไปไอ้ห่า” ไอ้ป่านบ่นแต่ผมขำ

   “ขโมยหัวใจมากกว่า” พูดเองอ้วกเองจนไอ้ป่านมันหัวเราะ “แล้วมึงไม่ไปเพิงกับไอ้พวกนี้เหรอวะ”

   “ว่าจะไป แต่ดูก่อน” หรี่ตามองเพื่อนตัวเอง ผมเริ่มรู้แล้วครับว่าทำไมพวกไอ้เป็กมันถึงล้อผม เพราะแบบนี้นี่เอง อยากให้ไปพร้อมหน้าแต่ติดตรงที่ว่าแฟนไม่ให้ไป

   “ว่าแต่ มึงกับพี่เกนคบกันแล้วเหรอวะ” ผมถาม แต่ไอ้ป่านทำหน้าเซ็งตอบ และเป็นคำตอบที่ทำเอาผมเข็มขัดสั้นทันที (คาดไม่ถึง กล้าเล่นมุกว่ะ)

   “เออ มันกดกูลงได้ไอ้สัด”

   “เชี่ย ตอนไหนวะ”

   “ตอนที่กูท้าวันนั้นแหละสัด”

   พยายามนึกแล้วก็ต้องร้องอ๋อ ที่เพิงวันนั้นที่ไอ้ป่านบอกถ้าโดนกดจะยอม นั่นไง ไปท้าเรื่องที่ไม่ควรไปท้า เลยต้องรับโทษแบบนี้ไป แต่ไอ้ป่านมันดูชิวๆ ไม่โกรธอะไรมาก

   “แล้วมึงไม่โกรธเหรอวะ” ขนาดผมตอนนั้นยังโมโหเลยครับ

   “โกรธไปก็ทำอะไรไม่ได้ กูผู้ชายไม่ได้ท้อง” แมนมากเพื่อนผม “อีกอย่าง ได้ลองแล้วก็ไม่ได้แย่” ตรงมากเพื่อนผม

   “เจ๋งสัด ได้กันบ่อยป่ะ” โดนไอ้ป่านตบหัวไปทีโคตรเจ็บ

   “ไม่บ่อย ถ้าบ่อยกูไม่มีแรงพอดี” ผมยกนิ้วให้เพื่อนเลยครับ ตอบออกมาแบบไม่ปิดบัง ไอ้ต้อมคำนับ

   “มิน่า พี่เกนถึงหลงมึงนัก” แซวพอประมาณก่อนวิ่งหนีเมื่อไอ้ป่านยกขาจะถีบ

   ปั่นสุดหวงกลับเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่ไม่เหมือนคือมีรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่หรือเรียกตามชาวบ้านว่าบิ๊กไบค์วิ่งมาอย่างไวแล้วเฉี่ยวผมล้มนี่แหละครับ สุดหวงพังเลย ไม่ได้โมโหที่ตัวเองเจ็บหรอกนะครับ แต่มาทำให้สุดหวงพังนี่แหละที่โกรธ ไอ้คนขี่ก็ชะลอแล้วเลี้ยววกกลับมา มันจอดรถแล้วลงมาดูผม

   “เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนมั้ย” ผมตวัดตาขึ้นมองทันทีที่มันถาม

   “ชนขนาดนี้ไม่เจ็บหรอกมั้งครับ แม่ง” พูดไปก็หงุดหงิดไป ข้อศอกเลือดไหลซิบๆ เจ็บที่ไหล่ด้วย ดีที่ม้วนเอาหัวหลบไม่งั้นหัวแตกแน่

   “ขอโทษครับ” แม้น้ำเสียงจะติดไม่พอใจนิดๆ แต่ก็ยังพูดขอโทษ

   “เออๆ แต่ในมหาลัยขับรถไวขนาดนี้จะรีบไปขี้หรือไงวะ ขับช้าๆ ก็ได้ขี้เหมือนกัน” ผมว่า มือก็ปัดกางเกงที่เปื้อนฝุ่น คนที่เดินไปเดินมาก็เริ่มหันมาดู ไอ้คนชนช่วยพยุงผมให้ยืน

   “ผมรีบไปเรียน แล้วคุณก็ขี่เข้ามาในเลนรถวิ่ง” มันชี้ไปที่ถนน

   “เลนรถวิ่ง แล้วที่กูขี่มานี่ไม่ใช่รถเหรอวะ หรือมึงสร้างถนนถึงไม่ให้สุดหวงกูวิ่ง อูย” ด่าไปสุดท้ายก็เจ็บสีข้าง มีรอยเลือดด้วย ถลอกแน่

   “อ่าว ก็ผมขอโทษแล้วไง” ไอ้คนชนมันเริ่มขึ้นเสียง มือยกหมวกกันน็อกใบใหญ่ออก คนที่มุงมีกรี๊ดเบาๆ แต่ผมไม่สน หล่อปานพระเอกเกาหลีแต่ผมไม่ปลื้ม

   “ขอโทษแต่สุดหวงกูพัง” ชี้ไปที่จักรยานฮ่างๆ ตัวเองล้อเบี้ยวไปหมด ไอ้คนชนมันรีบควักกระเป๋าเงินแล้วยื่นแบงค์เทาให้ผมห้าใบ

   “พอมั้ยครับ ซื้อคันใหม่เถอะ คันนั้นผมว่าไม่นานสนิมคงกินทั้งคัน” สะอึกสิครับ กล้าดูถูกสุดหวง ผมไม่ยอมรับแต่มันก็เอาเงินมายัดมือแล้วเดินไปควบรถคันแพงพร้อมพุ่งออกตัวไป ทิ้งให้ผมยืนขมับเต้นตุบๆ ด้วยความโกรธ
 
   “ให้ช่วยมั้ยคะ” สาวหน้าตาจิ้มลิ้มเดินมาช่วยผมพยุงสุดหวง ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า

   “ไม่เป็นไรครับ” ก้มให้เธอไปทีก่อนเดินกระเผลกเอาสุดหวงไปซ่อมร้านประจำ คราวที่แล้วตอนเจอพี่ฟลอยด์ก็ล้อเบี้ยวไปที มาคราวนี้สภาพเยินกว่าเก่าอีก สงสัยต้องปลดระวางการใช้งานของสุดหวงซะแล้ว โธ่ สุดหวงของพ่อ

   กว่าจะกลับถึงหอผมก็แทบยกขาไม่ขึ้น มันปวดหัวเข่าด้วย ดีที่แวะซื้อยามา ไม่อย่างนั้นไอ้ต้อมคงนอนสำออยอยู่ที่เตียงแหง กำลังจะก้าวขาขึ้นบันได อยู่ๆ ก็มีมือมารวบที่เอวจนต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ

   “ทำไมไม่โทรหาพี่วะ” เสียงเข้มดังขึ้นพร้อมกับมือที่รวบนั่นแหละครับ แล้วที่ผมไม่โวยวายเพราะจำกลิ่นน้ำหอมได้ดี

   “โทรหาเรื่องอะไร” ถามขณะถูกประคองขึ้นตึก

   “ก็เรื่องถูกรถชน ไอ้คนที่ชนเป็นใคร เรียนคณะไหน ชั้นปีอะไร พ่อแม่มันทำงานอะไร” ขอขำเถอะ เจอคำถามแบบนี้ “ไม่ขำนะต้อม แล้วไปหาหมอหรือยัง” ผมชูถุงยาให้ดู พี่ฟลอยด์ขมวดคิ้วกำลังจะอ้าปากพูดต่อ

   “แค่ช้ำน่า ไม่ได้หักหรอก ไม่ต้องห่วง”

   “ไม่ห่วงได้ไงวะ แฟนทั้งคน พูดไม่คิด” โดนดุอีก

   “แล้วพี่รู้ได้ไง ใครโทรบอกเหรอ” เพราะผมจำได้ว่าไม่ได้โทรหาใครเลย ไอ้ป่านกับไอ้ดอยยังไม่รู้เรื่องเลย

   “จากแฟนเพจ เขาส่งข้อความมาบอกพร้อมลงรูปด้วย นี่ถ้าพี่ไม่ดูคงไม่รู้ว่าแฟนถูกรถชนสินะ” อูย สายตาทิ่มแทงสุดๆ

   “มันแค่เฉี่ยวเฉยๆ ไม่ได้ชน”

   “รถล้มเหมือนกัน”
 
   “ครับๆ” ไม่อยากเถียงจริงๆ

   พอถึงห้อง ผมก็ถูกจับถอดเสื้อผ้า จะดิ้นขัดขืนแต่เอี้ยวตัว ขยับตัวลำบากเลยปล่อยเลยตามเลย เสื้อนักศึกษามีรอยเลือดอยู่ที่หัวไหล่กับด้านข้าง พอถอดออกก็เห็นแผล มันเป็นแผลถลอกมีเลือดซิบๆ นั่นแหละครับ แต่ตรงสีข้างถลอกเยอะไปหน่อย ลากยาวมาเกือบถึงหัวไหล่ แถมเขียวช้ำด้วย ถ้ามันสุกงอมจนเป็นสีม่วงนะคุณเอ้ย ทรมานสุดๆ

   “ช้ำขนาดนี้ต้องให้มันมารับผิดชอบ” พี่ฟลอยด์บ่นไปบีบยาที่ผมซื้อมาทาบนแผลเบาๆ แต่ก็สะดุ้งตลอดเวลาที่มือถูกับแผล
 
   “มันเอาเงินให้ผมห้าพันด้วย” ยื่นแบงค์สีเทาที่ยัดไว้ในกางเกงลวกๆ ให้ดู พี่ฟลอยด์เหล่ตามองนิดๆ อย่างไม่สนใจ “เหมือนพี่คราวที่เจอครั้งแรกเลย เอาเงินให้ผมเหมือนกัน”

   “แต่พี่ไม่ได้ทำให้ต้อมเจ็บ”

   “บอกเหมือนตรงเอาเงินให้เฉยๆ สงสัยจะลูกคนรวยเหมือนกัน โอ้ย เจ็บ” แม่ง ลงน้ำหนักมือซะเจ็บ

   “พูดมากดีนัก แล้วห้ามเอาพี่ไปเทียบกับไอ้นั่นด้วย มันไม่เหมือนกัน” มีงอนซะด้วย ผมขำนิดๆ ก่อนดีดหน้าผากคนที่กำลังตั้งใจทายาให้ผม

   “รู้แล้ว ไม่เหมือนหรอก พี่นิสัยดีกว่าเยอะ”

   “ประชดพี่เหรอ เดี๋ยวเถอะๆ”

   ตอนนี้ทั้งตัวผมเหลือแค่กางเกงบ็อกเซอร์เพราะถูกพี่ฟลอยด์ลอกคราบเพื่อทายา หัวเข่าก็ช้ำ หน้าแข้งก็ถลอก วันนี้ผมใส่มคกางเกงยีนส์เนื้อบางด้วย เพราะเนื้อแข็งๆ เอาไปซัก นี่ขนาดใส่ยีนส์ยังช้ำขนาดนี้ ถ้าเป็นกางเกงนักศึกษา ขาผมคงได้อาบเลือดแน่

   ทายาเสร็จก็ต่อด้วยยาแก้อักเสบ เริ่มตึงๆ พอประมาณ ดีที่วันนี้ลงแปลงเสร็จหมดแล้ว ขืนถ้าพรุ่งนี้ได้ซ้ำอีกไอ้ต้อมคงเดี้ยงไปจริงๆ

   “พรุ่งนี้จะมีไข้หรือเปล่า” ถูกเอามือมาทาบหน้าผาก

   “ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

   “ไม่ได้อ่อนแอแต่ก็ใช่ว่าจะป่วยไม่เป็น” พี่ฟลอยด์ว่าก่อนจะเดินเอากะละมังใส่น้ำไปเทในห้องน้ำ “คืนนี้ไปนอนบ้านพี่นะ นอนนี่ดึกๆ เป็นอะไรขึ้นมาจะลำบาก” นี่ไม่ใช่คำชวนของพี่ฟลอยด์นะครับ แต่เป็นคำสั่ง ผมได้แต่นั่งมองคนที่เก็บเสื้อผ้าผมใส่กระเป๋า

   “พี่กะจะเอาเสื้อผ้าผมไปหมดตู้เลยหรือไง” ขัดเพราะเสื้อกับกางเกงแทบจะหมดตู้อยู่แล้ว

   “ถ้าเอาความจริงคือใช่” ตรงกว่าไอ้ต้อมก็พี่ฟลอยด์นี่แหละครับ

   นี่ถ้าแบกผมได้คงแบกไปแล้ว พี่ฟลอยด์แทบจะอุ้มผมแต่สีข้างมันช้ำเลยได้แค่ประคอง กว่าจะลงมาถึงชั้นล่างเหงื่อแทบไหล น้ำตาแทบตกเหมือนกันนะครับเนี่ย นั่งรถได้ก็ใช่จะสบายต้องพิงตัวมาด้านขวาที่ไม่ช้ำ ผมนั่งเอียงมาจนถึงบ้านหลังใหญ่ ตอนนี้ตาเริ่มปรือๆ ฤทธิ์ยาคงกำลังทำงาน

   “เดินไหวมั้ย” พี่ฟลอยด์ค่อยๆ ประคองผมเดิน ทุกย่างก้าวนี่แสนร้าวระบม คุณป้าแม่บ้านหรือคนอื่นๆ มาเห็นต่างก็ตกใจกันเป็นแถว

   “ไปโดนอะไรมาคะนั่น”
 
   “รถชนครับ”

   “แค่เฉี่ยวเฉยๆ ครับ” รีบแก้คำผิดแต่มันก็น่าตกใจสำหรับคุณป้าแม่บ้านอยู่ดี

   “แล้วจับคนที่ชนได้มั้ยคะ แบบนี้ต้องแจ้งความนะคะคุณฟลอยด์” เอ่อ ทำไมกลายเป็นเรื่องใหญ่

   “พอดีคุยกันแล้วครับ แล้วผมก็ไม่เป็นอะไรมาก...มั้ง” หัวเราะแห้งๆ เมื่อถูกจ้องเขม็ง

   “ให้ลุงหมอมาดูที่บ้านมั้ยคะ” คุณป้าแม่บ้านหันไปถามพี่ฟลอยด์ คนถูกถามพยักหน้าแต่ผมโบกมือปฏิเสธ แต่ก็ต้องเอาลงเมื่อถูกสายตาดุจ้องอีกรอบ หูย ไอ้ต้อมไม่เคยหงอแบบนี้เลยนะ

   ถูกพยุงขึ้นมาบนห้อง เอนตัวลงนอนนี่สะดุ้งจนต้องลุกขึ้นมานั่ง ปวดจริงจัง ปวดจนอยากจะมอบโล่ให้ ไม่อยากนึกถึงวันพรุ่งนี้เลยว่ามันจะทรมานแค่ไหน พี่ฟลอยด์มองนิ่งๆ ก่อนจะให้ผมขยับไปกลางเตียงแล้วตัวเองก็นั่งลงข้างๆ

   “ทำไรอะ” ถามอย่างระแวงนิดๆ

   “เถอะน่า” ถูกดึงเบาๆ ให้พิงบนอกกว้างนั่น “ถ้าทำแบบนี้หลังข้างซ้ายก็จะไม่โดนเตียง” เอียงหน้าไปมองเห็นแค่ปากสีแดงขยับพูด

   “เริ่มโรแมนติกนะเนี่ย” แซวไปแบบนั้นเลยได้เสียงหัวเราะตอบกลับ

   “พี่ยังโรแมนติกได้อีกเยอะ” โดนบีบจมูก “รีบหายๆ แล้วพี่จะทำให้ดู” ได้ยินเสียงเลือนรางเพราะตามันกำลังจะปิด ห้องนอนกว้างค่อยๆ มืดลงเหมือนปิดไฟ แล้วผมก็หลับไปทั้งที่พิงอกพี่ฟลอยด์อยู่




(ฟลอยด์)
   
   ผมปล่อยให้คนที่พิงอกนอนหลับไปทั้งแบบนั้น ก่อนผมจะรู้เรื่องราว ผมกำลังนั่งคุยกับพี่ฟีนเรื่องของต้อมนั่นแหละครับ ผมอยากจะพาต้อมมาอยู่ที่บ้านด้วย เลยอยากให้พี่สาวช่วยคุยกับพ่อให้หน่อย แต่พี่ฟีนกลับให้ผมไปบอกเองเพราะพ่อก็ไม่ได้รังเกียจต้อม

   ในขณะที่ผมกำลังนั่งรอพ่ออยู่หน้าบ้าน มือถือผมก็สั่นขึ้นมาพร้อมข้อความของน้องที่เป็นสมาชิกเพจคู่ผม น้องเขาส่งรูปของต้อมที่นั่งอยู่ที่พื้น มีไอ้คนชนอยู่ในรูปด้วย ใต้ภาพมีคำบรรยายนิดหน่อย แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมรีบคว้ากุญแจรถไปหาต้อมที่หอทันที

   นั่งรออยู่ในรถไม่นานก็เห็นแฟนตัวเองเดินกระเผลกๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเวลาใช้ขาข้างที่เจ็บเหยียบพื้น ผมรีบเปิดประตูออกไปหา ต้อมทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีเมื่อเจอหน้าผม มันพยายามยิ้มแย้มเพื่อให้ดูว่าไม่เจ็บ แต่ผมรู้ว่ามันเจ็บมาก

   บางทีผมก็อยากให้มันแสดงความอ่อนแอ อ่อนไหวออกมาบ้าง เพราะผมจะได้ทำหน้าที่ดูแล แต่ความเข้มแข็งที่ทำให้ผมแทรกตัวเข้าหายากกำลังค่อยๆ หายไปบ้างหลังจากตกลงคบเป็นแฟน แม้จะไม่เห็นความออเซาะฉอเลาะแบบคู่อื่นๆ

         ผมว่า ผมชอบแบบนี้นะ บางอารมณ์ผมก็อยากได้คนที่คุยกันรู้เรื่องมากกว่า 

   เกือบเผลอนอนหลับไปด้วยหากประตูไม่เปิดออกพร้อมกับลุงหมอที่สะพายกระเป๋าเครื่องมือเข้ามา ผมขยับตัวไม่ได้เพราะต้อมจะตื่น อีกอย่างก็เริ่มชาจากการถูกเหน็บเล่นงาน

   “เดี๋ยวลุงตรวจแบบนั้นก็ได้” ลุงหมอยิ้มนิดๆ ก่อนเปิดกระเป๋าสีดำเอาอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาตรวจคนพิงอกผม

   “กระดูกหักหรือเปล่าครับ” ผมถาม ลุงหมอส่ายหน้าช้าๆ

   “ไม่หักนะ แค่ฟอกช้ำแล้วก็แผลถลอก” เบาใจไปนิดหน่อยแต่ก็ยังเป็นห่วง “พรุ่งนี้แผลน่าจะระบม เดี๋ยวลุงจะฉีดยาแก้ปวดให้ แล้วเอายาแก้อักเสบแล้วก็ยาแก้ไข้ให้ไว้นะ” ลุงหมอบอกขณะฉีดยาแก้ปวดให้เข็มหนึ่ง เพราะไม่อย่างนั้นต้อมจะนอนไม่ได้
 
   “ขอบคุณครับ”

   ลุงหมอตรวจทุกอย่างเสร็จสรรพก็ขอตัวกลับ ผมยกมือไหว้อีกรอบแม้จะลำบากนิดหน่อยเพราะต้อมยังพิงอกอยู่ พอประตูปิดผมก็ค่อยๆ วางคนป่วยนอนบนเตียง ทันทีที่หลังสัมผัสเตียงนุ่ม คนนอนหลับสนิทสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ไม่ตื่น คงจะเจ็บพอดู

   ผมลุกเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมอ่างน้ำพร้อมกับผ้าไว้เผื่อคนป่วยมีไข้ เสียงเปิดประตูห้องอีกรอบทำให้ผมหันไปมองหลังจากเอาแต่จ้องหน้าคนหลับสนิท

   “น้องเป็นไงบ้าง” พี่ฟีนเดินย่องเข้ามา

   “ลุงหมอฉีดยาแก้ปวดให้แล้ว” ผมบอก

   “จับคนชนได้มั้ย”

   “มีรูปอยู่ ผมกำลังให้ไอ้เกนช่วยดูให้” โมโหมากเมื่อนึกถึง มหาลัยนักศึกษาเยอะแบบนั้นยังขับขี่ไวไม่กลัวเกิดอุบัติเหตุ มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้ามันล้มไปเองโดยไม่มีคนเจ็บ แต่นี่มีคนเจ็บ แล้วเป็นต้อมด้วยผมยิ่งโมโห

   “แจ้งความเลยมั้ย”

   “ต้อมบอกมันเอาเงินให้แล้ว แจ้งไปคงไม่ได้เรื่อง”

   “งั้นฟลอยด์ก็ดูแลน้องดีๆ แล้วกัน อ่อ พ่อกลับมาแล้วนะ อยู่ห้องทำงาน” พี่ฟีนบอกแล้วออกจากห้องไป ผมมองต้อมนิ่งแล้วเดินตามพี่สาวออกไปด้วย เพราะตอนนี้ต้อมคงยังไม่ตื่นแน่นอน

   ผมแยกมาห้องทำงานของพ่อ ห้องที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเหยียบเมื่อสมัยก่อน ตอนนี้ผมเข้ามาหลายครั้งแล้ว รวมครั้งนี้ด้วย พ่อเงยหน้าจากกองเอกสารแล้วถอดแว่นออก

   “เด็กปากดีนั่นเป็นไงบ้าง เห็นฟีนบอกถูกรถชน” พ่อถามถึงต้อมก่อน ดูท่าจะติดใจในความปากดีนั่นเหมือนผม

   “ลุงหมอฉีดยาให้แล้วครับ” ผมบอก...เรื่องพ่อ ถ้าไม่ได้ต้อม ทุกวันนี้ผมคงไม่มองหน้าด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมกลับยอมเปิดใจพูดคุยกับพ่ออีกครั้ง ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่

   “อ่อ ก็ดีแล้ว สงสัยคงหายปากดีไปเยอะสินะ” ผมขำในสิ่งที่ได้ยิน หายากนะครับที่จะเจอคนนอกที่กล้าต่อปากต่อคำกับพ่อผมได้ ขนาดคนในครอบครัวยังมีแค่พี่เฟิร์นเท่านั้นที่กล้าเถียง “แล้วมีอะไร”

   “ก็เรื่องต้อม” แค่ผมเกริ่น พ่อก็จ้องนิ่ง “ผมอยากพาต้อมมาอยู่ที่บ้านด้วย”

   “แล้วแกก็จะกลับมาอยู่บ้าน แบบนั้นใช่มั้ย” พยักหน้ารับ “แบบนี้ถ้าฉันไม่ให้อยู่ ก็เหมือนไล่ลูกทางอ้อมแบบนั้นสินะ” พ่อขำแต่ผมยังนิ่ง

   “ก็ประมาณนั้น” โดนหรี่ตามองแต่ผมก็ยังนิ่ง

   “ก็ตามใจแก แต่บอกให้มันลดความปากดี อวดดีสักนิด ฉันปวดหัวแทน” รีบยกมือไหว้ขอบคุณพ่อทันที “ก่อนจะพามา ไปคุยกับพ่อแม่เขาให้ดี ไม่ใช่พาลูกเขาหนีมาอยู่เลยล่ะ ฉันจะไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน”

   “วันนี้ผมไปขอมาแล้ว” ผมบอก พ่อเลยทำตาโตมอง

   “แบบนี้สิ ถึงเหมือนพ่อของแก” พ่อเดินมาตบบ่าผมแล้วหัวเราะลั่น แต่ผมยังงงๆ ไม่รู้ความหมาย พอออกจากห้องผมก็เกาท้ายทอยเพราะยังสงสัย แต่ก็ช่างเถอะ ผมรีบกลับไปดูต้อมดีกว่า

   ขึ้นไปบนห้อง ต้อมยังนอนหลับสนิท ผมวางหลังมือกับหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิซึ่งยังปกติอยู่ อาจเพราะต้อมออกกำลังกายบ่อย ผมหมายถึงลงแปลง ลงสวนอะไรแบบนั้น ผมเคยไปรอรับที่แปลงผัก เห็นต้อมเงื้อจอบขุดดินซะผมปวดแขนแทน

   ผมใช้นิ้วไล้ตามหน้าที่เริ่มขาวจากครีมที่ผมบังคับให้ใช้ เมื่อก่อนหน้ามีแต่สิวแล้วก็แห้ง ตอนนี้นุ่มและเนียนจนน่าสัมผัส ดวงตาสองข้างที่ถูกเปลือกตาปิดอยู่คู่นี้มักจะมองผมแบบหาเรื่องเสมอเวลาที่อยากกวน จมูกโด่งนิดๆ เหมาะกับใบหน้านี้นัก แต่ที่ผมชอบที่สุดคงจะเป็นปากอวบสีแดงที่กำลังล่อตาล่อใจผมอยู่ตรงหน้า ใช้นิ้วลูบวนไปมา ความนุ่มหยุ่นยามสัมผัสทำให้ต้องเลียริมฝีปากตัวเอง

   เหมือนเป็นโรคจิต แต่ผมอยากจูบมาก

   ก้มประกบปากนุ่ม ประคองหน้าเนียนให้เงยเพื่อรับสัมผัสได้ถนัด ผมสอดนิ้วเข้าปากคนนอนหลับแล้วสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกับลิ้นร้อนจนได้ยินเสียงครางแผ่วเบาจากคนด้านล่าง รสชาติจูบที่จาบจ้วงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นหอมหวาน ริมฝีปากนี้ทำให้อยากสัมผัสโดยไม่อยากถอดถอนออก แต่ถ้าไม่ห้ามใจ ผมกลัวว่าจะเผลอลักหลับคนป่วยจนโดนโกรธไม่มองหน้าอีก

   ผมจ้องหน้าคนที่กำลังทำให้ผมหลงใหลด้วยความรัก ต้อมเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่คนหวาน เป็นคนห่าม ปากดี พูดตรง แต่จิตใจดี นี่คงเป็นเสน่ห์ที่เจ้าตัวไม่รู้ เป็นเสน่ห์ที่ผมให้ผมหลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกเตือนสติวันนั้น เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผมหลงรักคนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้

   โคตรรักเลยว่ะ




   เช้านี้ที่แสนเจ็บปวด แค่ขยับตัวนิดหน่อยก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งหลัง นี่สินะคือความเจ็บปวดของจริง ผมกระพริบตามองเพดานสีขาวที่ไม่ใช่ในหอพักหรือบ้านตัวเอง เพดานนี้คือบ้านของผู้ชายที่เป็นแฟนผม แม่งพอเรียกแฟนแบบนี้รู้สึกเขินขึ้นมา ผมหันไปมองที่ข้างๆ ก็ว่างเปล่า แต่ความอุ่นยังคงอยู่ คงเพิ่งลุกไปสินะ

   “พี่ฟลอยด์” ลองเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับ คงออกไปข้างนอกละมั้ง ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะมันเจ็บ ไอ้ต้อมหนอไอ้ต้อม เกิดมาจะยี่สิบปีเพิ่งเคยนอนป่วยแบบนี้ ขนาดไข้ขึ้นเกือบสี่สิบองศาผมยังหอบสังขารไปสอบเลยครับ ออกห้องสอบมาสลบอยู่หน้าห้องเลย ในตอนนั้นทุกคนวุ่นวายมากกับการพาผมไปโรงพยาบาล พอนึกถึงก็แอบกลัวตัวเองเบาๆ

   พยายามจะลุกขึ้นจากเตียง โดยใช้แขนขวาข้างที่ไม่เจ็บค้ำยัน แม้จะลำบากแต่ก็ลุกขึ้นนั่งได้ กัดฟันอีกรอบขยับตัวมานั่งที่ข้างเตียง แค่หย่อนขาลงที่พื้นก็ปวดหัวเข่าไปหมด ผมสั่งให้ตัวเองลุกเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ จนแล้วจนรอดก็พาตัวเองมาแบบทุลักทุเลนิดๆ

   ใช้ไหล่ด้านขวาพิงกับกำแพงเพื่อแปรงฟันล้างหน้า โคตรลำบากเลยให้ตาย ผมกำลังนั่งทำธุระได้แปบเดียวก็ได้ยินเสียงคนโวยวายด้านนอกห้องน้ำ น่าจะเป็นเจ้าของห้องนั่นแหละครับ ไม่เห็นผมคงโวยวายแบบนั้น

   เสียงเคาะประตูห้องน้ำรัวๆ เร่งให้ผมเปิด แต่สังขารผมทำอะไรเชื่องช้าเลยโดนบ่นทันทีที่เปิดประตูออก พี่ฟลอยด์เลื่อนสายตามองผมทั้งแต่หัวจรดเท้า คิ้วดำขมวดมุ่น

   “อาบน้ำเหรอ”

   “เปล่า”

   กำลังก้าวขาออกมาก็มีมือพยุงทันที คนพยุงก็บ่นเป็นหมีกินผึ้ง ผมได้แต่หัวเราะเพราะเถียงไม่ทัน นี่ไม่รู้หายใจทางเหงือกหรือเปล่า จนผมมานั่งอยู่ที่เตียงถึงหยุดบ่น

   “พี่หายใจยังไงเนี่ย” เกือบถูกเขกหัวดีที่พี่ฟลอยด์ยั้งมือไว้ทัน ไม่งั้นเพิ่มความปวดให้ผมอีกแน่นอน

   “จะเข้าห้องน้ำทำไมไม่เรียกพี่” พี่ฟลอยด์เปลี่ยนไปถือถ้วยข้าวต้มมาคนให้คลายร้อนแทน

   “เรียกจนคอจะแตกแล้ว” บอกไปทั้งที่เรียกแค่ครั้งเดียว แต่ทำให้มันเว่อร์ไปงั้น

   “ไม่เห็นได้ยิน” พูดไปเป่าไป “เออใช่ ห้องพี่เก็บเสียง” ผมจ้องคนพูดที่ยิ้มแปลกๆ มือขาวยื่นข้าวต้มมาจ่อปากผม

   “ผมกินเองได้” พยายามจะแย่งช้อนแต่ดูเหมือนขัดใจคนป้อน

   “ป่วยแบบนี้แล้วอ้อนพี่บ้างสิ”

   “อ้อนยังไง”

   “ก็ทำตัวให้อ่อนแอพี่จะได้ดูแลบ้าง” ผมมองคนที่บอกอยากดูแลขำๆ

   “มันเหมือนเป็นภาระอะ” ผมบอก

   “ภาระที่พี่เต็มใจดูแล”

   “ครับๆ” อ้าปากรับข้าวต้มคำโต ผมจ้องคนที่ตั้งใจป้อนข้าวต้มแล้วก็ยิ้มออกมา ไม่ใช่ผมไม่อยากทำตัวอ่อนแอหรอกนะ แค่ไม่อยากทำตัวเป็นภาระของคนอื่น

   เมื่อคนอยากให้ผมเป็นภาระ ไอ้ต้อมเลยจัดให้ อยากได้อะไรก็ชี้อย่างเดียว พี่ฟลอยด์ดูเต็มใจทำให้ทุกอย่างแบบที่พูดจริงๆ ขนาดผมบอกปวดหนัก พี่ท่านยังประคองผมไป แล้วอยู่ในห้องน้ำจนปลดปล่อยทุกอย่างโล่งท้อง

   “พี่ไม่เหม็นเหรอ” ถามติดตลก พี่ฟลอยด์ทำหน้านิ่งๆ ก่อนถอนหายใจออกมา

   “กลั้นหายใจเอา” แค่นั้นเราก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

   ผมถูกพยุงกลับมานั่งที่เตียง โชคดีที่ไม่มีไข้ บอกแล้วว่าผมแข็งแรง พี่ฟลอยด์ป้อนน้ำป้อนยาอย่างดีแถมกล่อมให้ผมนอนหลับอีก คือคนเพิ่งตื่นมันไม่ง่วงไง คนกล่อมเลยได้แต่ขำ

   “พี่มีไรจะพูดหรือเปล่า” ถามเพราะดูท่าทางแปลกๆ

   “ต้อมมาอยู่กับพี่ที่นี่นะ” เมื่อโดนผมจ้องนิ่งพี่ฟลอยด์ก็ดูประหม่า “คือ...”

   “ก็ได้”

   “ว่าแล้วเชียวต้องไม่ยอม...ห๊า”

   “อะไร”

   “เมื่อกี้บอกตกลงเหรอ พูดจริงใช่มั้ย พี่ไม่ได้หูฟาดใช่มั้ย”

   “เออ พูดมากเดี๋ยวก็ปฏิเสธหรอก” พี่ฟลอยด์รีบเม้มปากเน้นแต่ตาหยีเพราะยิ้ม “ระวังตัวไว้เถอะ ไอ้ต้อมเป็นภาระหนักนะจะบอกให้”

   “พี่รับได้เสมอ”

   “ฝากตัวด้วยนะ ผมกินจุ หลับง่าย เลี้ยงง่าย” พูดได้แค่นั้นก็ถูกปล้นจูบจนแทบโดนหลอมละลาย “โอ้ย เจ็บๆ” ร้องลั่นเมื่อหลังแนบกับเตียง เจ็บร้าวจนต้องผลักคนที่ลงน้ำหนักจะทับผมออก พี่ฟลอยด์ตกใจรีบผุดขึ้นยืนทำหน้าลนลาน ผมทั้งเจ็บทั้งขำ สุดท้ายต่างคนต่างก็หัวเราะออกมา “ช่วงนี้ห้ามหื่นนะครับ”


   “หายเมื่อไหร่โดนแน่”


...TBC

ต้อมหายแล้วจะโดนหรือเปล่าละนี่ ฮ่าๆๆๆ

เจอกันตอนหน้าค่าาาาา  :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 10:30:43 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
สุดหวงโดนเฉี่ยวรอบนี้ต้อมเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์เถอะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยยยย มีความละมุน

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอตอนต่อไปค่ะ ^ ^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ต้อมหายเร็วๆนะ อยากอ่านคู่รอง เค้าได้กันแล้วด้วย

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
พ่อสามี ยอมให้พาสะใภ้เข้าบ้านแล้ว......
เมื่อไรจะมีคืนส่งตัว ขอหวานๆสักนิดนะ  :-[

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
มุ้งมิ้งอ่ะ (มองข้ามฉากรถเฉี่ยว)

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ชอบป่านคือตรงมาก5555

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่หวานแต่ละมุน อ่านแล้วยิ้ม รู้สึกสุขไปกับทั้งสอง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
แง้ น่ารักอะ เอาจริงๆพี่ฝอยแกนิสัยดีมากนะถึงจะติดเอาแต่ใจไปบ้างแต่ก็มีเหตุผลอยู่พอสมควรเหมาะกับต้อมแล้วจริงๆ ว่าแต่ไอ่หล่อที่ขับรถชนต้อมนี่เป็นตัวเอกจากเรื่องไหนรึเปล่าหว่าา

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โดนแน่

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อยากอ่านคู่พี่เกนกับป่านอ่ะ  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
อร๊ายพี่ฟล์อยไปขอว่าที่ลูกสะใภ้กับพ่อกับแม่ต้อมมาแล้ว เลิศๆๆ อยากอ่าน NC 18+++พี่ฟล์อยน้องต้อมเเล้วอะ  :katai2-1:ขอตอนพิเศษคู่พี่เกนกับน้องป่านหลายๆตอนเลยนะเพราะเขาได้กันแล้ว   :hao3: :hao3:แต่เอผู้ชายสุดหล่อที่ขี่รถชนต้อม พระเอกของเรื่องใหม่ที่จะตามมาเร็วๆนี้หรือเปล่านะ อยากให้ใช่อะ :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
คู่รอง  ได้กันง่ายจัง

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อุ๊ย ... คู่พี่เกน - น้องป่าน ขอสักสองสามตอนนะครับ จะเป็นพระคุณมากเลย
ส่วนคู่พี่ฟลอยด์ - น้องต้อม ไปขอที่บ้านน้องให้เรียบร้อยด้วยนะ ^^

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
No Sugar : 19



       หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงยอมมาอยู่กับคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาแกะเอาก้างปลาทูออกให้ผม คิดดูง่ายๆ ถ้าผมไม่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็ต้องไปอยู่ที่คอนโดแล้วถ้าไม่ยอมไปอยู่คอนโดนพี่ฟลอยด์ก็ต้องหอบเสื้อผ้ามาอยู่หอกับผม เราต้องเลือกสิ่งที่สบายที่สุดสิครับ จริงมั้ย

   ผมล้อเล่นน่า....

   ที่ยอมตกลงนั่นเพราะพี่ฟลอยด์ต้องยอมกลับมาอยู่บ้านแน่นอน ซึ่งพี่ฟีนเคยพูดกับผมว่าอยากให้น้องกลับมาอยู่บ้าน เพราะออกไปอยู่คอนโดตั้งแต่เรียนมัธยม ผมอาจจะคิดเข้าข้างตัวเองมากไปก็ได้ว่าถ้าผมยอมอยู่ที่นี่ พี่ฟลอยด์ต้องอยู่เหมือนกัน

   “อ่ะ” ปลาทูชิ้นโตวางแหมะอยู่บนข้าวสวยร้อนๆ ถูกยื่นมาจ่อปาก ผมอ้าปากรับก่อนเคี้ยวตุ้ยๆ ที่จริงแผลผมก็ดีขึ้นแล้ว นอนไม่เจ็บ และก็อยากไปเรียนแล้วด้วย

   ตั้งแต่วันแรกหลังจากรถเฉี่ยวที่ผมจะไปเรียนแต่ถูกสั่งห้าม คนสั่งโทรไปบอกเพื่อนตัวเองอย่างพี่เกนว่าผมลาหยุด ตอนแรกก็งงว่าจะบอกพี่เกนทำไม แล้วก็มานึกขึ้นได้ทีหลังว่าไอ้ป่านกับพี่เกนมีซัมติงกันอยู่

   “พรุ่งนี้ผมไปเรียนแล้วนะ” บอกขณะอ้าปากรับข้าวอีกคำ

   “รอไว้หายก่อนค่อยไป” รีบเคี้ยวเพื่อจะพูดจนโดนขำ “ค่อยๆ เคี้ยว เดี๋ยวก็ติดคอพอดี”

   “ผมไม่ได้...”

   “อ่อนแอขนาดนั้น พี่รู้” โดนพูดตัดหน้าไปเฉย ไอ้ต้อมเซ็ง “อ่อ ไอ้คนชนพี่รู้แล้วนะว่ามันอยู่คณะอะไร”

   “ช่างเขาเถอะ” เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างผมก็ใกล้หายแล้วด้วย

   “ช่างไม่ได้ แล้วพี่ก็บอกอธิการบดีไปแล้ว”

   เชี่ย แบบนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่น่ะสิ ทั้งที่มันแค่เรื่องเล็กๆ

   “พี่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไม เขาก็ขอโทษผมแล้ว จ่ายเงินค่าทำขวัญด้วย แม้จะแอบโมโหที่ทำสุดหวงพังจนแทบขี่ไม่ได้อีกก็เถอะ”

   “แต่ไอ้เด็กนั่นก็ต้องถูกลงโทษซะบ้าง ขับขี่รถรามันก็ต้องระมัดระวังทั้งตัวเองและคนอื่น ไม่ใช่อยากจะขับเหมือนเป็นเจ้าถนน ชนคนอื่นแล้วไม่สำนึก”

   “แล้วมันเป็นใครเหรอ ผมรู้จักหรือเปล่า” ลองถามไปอย่างงั้นเพราะเดี๋ยวจะถูกบ่นยาว

   “ถ้ารู้จักต้อมคงไม่ถามพี่หรอกว่ามันเป็นใคร” เออว่ะ ทำไมผมโง่ที่ถามออกไปวะ “หึๆ ทำหน้าดีๆ หน่อย”

   “ดีที่สุดแล้วเนี่ย”

   “มันเรียนปีสอง คณะวิศวะ เส้นใหญ่เอาเรื่อง เห็นว่าเป็นดารานายแบบอะไรเนี่ยแหละ” ผมพยักหน้าเคี้ยวข้าวปลาทู มิน่ามันถึงหน้าตาดีแถมสาวๆ กรี๊ดด้วย แต่ตอนนั้นไม่ทันได้สังเกตดีเพราะมัวแต่ห่วงสุดหวง

   “งั้นก็ช่างเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งหรอก เผลอๆ อาจไม่ได้เจอแล้วก็ได้” พวกดารานายแบบบางคนติสจะตาย เจอหน้ายังไม่ยอมยิ้มให้ใคร

   กว่าข้าวเช้าที่ผมอยากกินจะหมดก็เกือบเก้าโมง ขยับลงเตียงเพื่อจะเข้าห้องน้ำเองเพราะพี่ฟลอยด์ลงไปข้างล่าง มือกำลังจะบิดลูกบิดเสียงมือถือผมก็ดันดังขึ้นมาซะก่อน ทำไมไม่โทรมาตอนผมยังนั่งอยู่บนเตียงวะ ต้องกัดฟันเดินกลับไปรับ

   “ว่าไงมึง” ไอ้ป่านครับ มันโทรมา

   (หายดียังมึง อ้อนผัวจนไม่มาเรียนเนี่ย) ดูปากมัน

   “ยังอ้อนไม่พอเลยไอ้สัด”

   (มึงเปลี่ยนไปแล้วไอ้ต้อม) แล้วไอ้ป่านมันก็หัวเราะ ไอ้ยินเสียงไอ้ดอยด้วย สงสัยจะอยู่ที่ตึกเรียน (เออใช่ เรื่องไอ้คนที่ขี่รถชนมึงอะ กูจำรถมันได้เว้ย มันคือคนเดียวกับที่จีบครีมอะ หลานผัวมึงอะ)

   “แน่ใจได้ไง มันเป็นดารานายแบบนะเว้ย”

   (กูจำได้ มึงก็เคยเห็นนี่หว่า ที่ไปรับครีมที่หน้าคณะเราวันงานมหาลัย) พยายามนึกภาพตามแต่ก็นึกไม่ออก

   “แบบนั้นพี่ฟลอยด์ก็หาเรื่องแฟนหลานตัวเองเหรอวะ”

   (กูก็ไม่รู้ กูไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกับครีมเลย ไม่รู้ยังคบกันอยู่หรือเปล่า)

   พูดแค่นั้นไอ้ป่านก็วางครับเพราะอาจารย์เข้าห้องพอดี แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ต้องรอถามพี่ฟลอยด์ซะแล้ว ก่อนคนที่ผมจะถามเปิดประตูเข้ามา ผมก็รีบจ้องหน้าทันที

   “มีอะไร จ้องหน้าพี่แบบนั้นอยากได้อะไรหรือเปล่า หรืออยากเข้าห้องน้ำ” ผมส่ายหน้ารัวๆ “อ่าว แล้วทำไม”

   “พี่รู้จักแฟนของน้องครีมป่ะ”

   “ไม่รู้จัก”

   “ไอ้ป่านโทรมาบอกว่า คนที่ชนผมเป็นแฟนน้องครีม หลานของพี่อะ” พี่ฟลอยด์เลิกคิ้วนิดๆ “จริงๆ”

   คนที่ดูไม่เชื่อเดินไปหยิบมือถือตัวเองที่วางบนโต๊ะแล้วกดโทรหาใครสักคน ผมคิดว่าคงโทรหาน้องครีม ไม่นานปลายสายก็รับ พี่ฟลอยด์เดินมานั่งข้างผมพร้อมกับเปิดลำโพงเพื่อให้ได้ยินพร้อมกัน

   (ว่าไงคะ) เสียงสดใสมาเชียว

   “แฟนเธอเรียนวิศวะเหรอ” ถามโคตรตรง

   (แฟน? เอ๋ ไม่มีนะ) โดนเหล่ตามองเลยไอ้ต้อม (อ๋อ เคยคบอยู่พักหนึ่งค่ะ เขาเป็นนายแบบด้วยนะ ครีมปลื้มมากเลย) นั่นไง

   “แล้วตอนนี้ล่ะ”

   (เลิกกันนานแล้วค่ะ พอคุยกันแล้วมันไม่ใช่) ประโยคแบบเดียวกับไอ้ป่านโดนเลย (แต่ได้ยินเพื่อนครีมบอกมาว่า ตอนนี้เขากำลังถูกมาเฟียหรืออะไรน่ากลัวๆ ตามอยู่ คงเล่นบอลจนเสียแน่เลย)

   “เลิกได้ก็ดีแล้ว อย่าไปยุ่ง แค่นี้นะ”

   (เดี๋ยวค่ะเดี๋ยว แหม จะรีบวางไปจู๋จี๋กับพี่ต้อมล่ะสิ ครีมรู้ทันหรอกน่า) สำลักน้ำลายทันทีจนโดนขำ (อุ้ยพี่ต้อม สวัสดีค่า แผลหายหรือยังคะ)

   “อ่าครับ ดีขึ้นแล้ว” ผมส่งเสียงทักทายไป “น้องครีมสบายดีนะ ไม่ได้เจอกันเลย อื้ออ” ถูกมือยื่นมาปิดปากแล้วเจ้าของเครื่องก็กดวางจนผมขมวดคิ้ว “พี่ทำอะไรเนี่ย”

   “พอๆ คุยอะไรมากมาย”

   “หึงอะเด้”

   “เออ แฟนทั้งคน” ผมโดนคนหึงจิ้มหน้าผากจนหงายหลัง แผลที่ช้ำเริ่มดีขึ้น ปวดน้อยลงด้วย “อยากออกไปเที่ยวมั้ย” รีบพยักหน้ารับเมื่อถูกชวน ผมนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ มาจะสามวันแล้ว โคตรเบื่อ

   “อยากมาก” ลากเสียงยาวจนโดนหัวเราะใส่

   ผมแก้ชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเจ้าของห้อง ไม่ต้องอายแล้วครับ อาบน้ำด้วยกันตั้งแต่เจ็บวันแรกเลยด้วยซ้ำ แรกๆ มันก็แปลกๆ เมื่อถูกจ้อง แม้จะเคยอาบกับพวกไอ้ป่าน ไอ้ดอย แต่พวกมันไม่ได้จ้องผมด้วยสายตาระยิบระยับที่จ้องกลับแล้วรู้สึกขนลุก อาบทั้งเช้า เย็น เห็นจนชินตา ของก็มีเหมือนๆ กัน แม้สิ่งๆ นั้นจะเคยผมเคล็ดขัดยอกมาแล้วครั้งหนึ่งก็เถอะ

   “จะไปไหนกัน” ผมถามขณะนั่งในรถแบบสบายๆ
 
   “พี่โชชวนไปกินข้าวด้วย” หันไปมองคอแทบเคล็ด พี่ฟลอยด์เรียกแฟนไอ้กลอยว่าพี่เต็มปากเต็มคำ แถมพี่โชยังออกปากชวนเองด้วย ไม่น่าเชื่อ “นัดไว้แล้วที่ห้าง”

   “สนิทกันเหรอตอนนี้” แกล้งถามไป ก็ได้รับพยักหน้าแทนคำตอบ

   “ก็ไม่ได้แย่มาก”

   นั่งอมยิ้มไปจนถึงห้างที่นัดกับอีกคู่ ไอ้กลอยใส่เสื้อยืดสีเหลืองอ๋อยลายมินเนี่ยนกับกางเกงยีนส์สีดำ มัดจุกผมหน้าทรงน้ำพุ ถ้าหน้าตามันไม่น่ารักละก็ ชุดนี้ไม่ผ่านนะครับ ดูเหมือนพี่โชก็คงไม่ชอบเหมือนกัน ใบหน้าหล่อบึ้งตึงเห็นมาแต่ไกล

   “มึงทะเลาะกับพี่เขาหรือเปล่าวะ” ผมขยับไปชิดไอ้กลอยแล้วถาม มันส่ายหน้า

   “งอนที่กูแต่งตัวแบบนี้แหละ” เชี่ย ขอขำหน่อยเถอะ “ไม่ขำนะมึง จะพากูไปซื้อเสื้อใหม่หลายรอบแล้ว ไม่สวยเหรอวะ” ไอ้กลอยมันก้มมองเสื้อตัวเองแล้วถามผม

   “เอาที่มึงสบายใจ” ตอบไปพร้อมหัวเราะ ไอ้กลอยยู่ปากใส่แล้วรีบเดินไปหาพี่โชที่เดินคุยกับพี่ฟลอยด์

   คู่นี้สนิทกันเหมือนไม่เคยผ่านการทะเลาะกันมาก่อน

   พวกเราเดินเข้าร้านหนังสือก่อนจนใกล้เที่ยง เราเลยเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นสีฟ้าขาว ของที่สั่งไปเริ่มทยอยมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ นี่พวกเขาสั่งมากินมื้อเที่ยงหรือรวบมื้อค่ำด้วยเนี่ย

   “สั่งมาเยอะเกินไปหรือเปล่า” ผมว่า ไอ้กลอยรับตะเกียบจากพี่โชที่แกะแยกให้ก่อนเอามาชี้หน้าผมหนึ่งอัน

   “น้อยไปด้วยซ้ำ” แล้วมันก็ยัด ขอใช้คำว่ายัดครับ มันกินทุกอย่าง ซูชิ ซาซิมิ หมูทอด ปลาทอด กุ้งทอด มันยัดเข้าไปจนผมแทบอิ่มแทน

   “อ้า” เสียงจากคนข้างๆ ผมเลยละสายตาจากเพื่อนต่างคณะหันไปมอง พี่ฟลอยด์คีบซูชิมาจ่อที่ปาก “อ้าปากเร็ว”

   “ผมกินเองได้” ส่ายหน้าไปแต่ซูชิก็ยังจ่อปากไม่ไปไหน “เออๆ” สุดท้ายก็อ้าปากกิน ไอ้กลอยมันหัวเราะใส่ด้วย ผมเลยยักคิ้วส่งไป

   “แผลมึงหายแล้วเหรอวะ” ไอ้กลอยถาม ผมก็พยักหน้าตอบไป “เป็นกูคงนอนไข้แดกเป็นอาทิตย์แน่ เพราะกูชอบสำออย” พูดจบมันก็หัวเราะเองจนโดนพี่โชยกมือปิดปาก แป้งกรอบจากกุ้งมันกระเด็นครับ
 
   “เคี้ยวให้หมดก่อนพูด” พี่โชดุ

   “ปีศาจขี้บ่น” ได้ยินไอ้กลอยมันว่าให้แฟนตัวเอง

   มื้ออาหารตอนเที่ยงอร่อยจนผมกินไปเยอะ อีกอย่างนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียวกินอะไรไม่ค่อยอร่อยด้วย พอได้ออกมาอยู่ข้างนอกก็อยากอาหารไปหมด พี่ฟลอยด์กับพี่โชก็คุยกันปกติ จนผมต้องสะกิดถาม

   “พี่สนิทกับพี่โชแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าตั้งแต่ไปกินเหล้าที่ห้อง”

   “ไม่นานมานี้” ตอบแบบไม่ได้ความรู้อะไรเลย

   พอจานทุกอย่างบนโต๊ะหมดเกลี้ยงก็เช็คบิล มื้อนี้พี่โชเลี้ยง ผมกับพี่ฟลอยด์รีบยกมือไหว้ทันที อิ่มแถมเงินอยู่ครบมันสบายซะจริง พี่โชชวนผมไปดูหนัง แต่ผมปฏิเสธ ขืนไปนั่งในโรงหนังนานๆ อาจปวดหลังขึ้นมาได้ แม้รอยฟกช้ำจะดีขึ้น แต่ก็ยังหลงเหลือ
   พอแยกกันหน้าร้าน พี่ฟลอยด์ก็พาผมกลับคอนโด เห็นว่าจะไปเก็บเสื้อผ้า ไอ้ผมก็เชื่อไม่ได้เอะใจอะไร มาถึงห้องก็ปวดท้องพอดี ผมเข้าห้องน้ำอยู่นาน ออกมาเจ้าของห้องหายไปไหนก็ไม่รู้ กระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ที่พื้นแล้ว ผมกำลังจะลากกระเป๋าเดินทางออกไป พอดีกับเจ้าของห้องเปิดประตูเข้ามา

   “พี่ไปไหนมา” ผมถาม พี่ฟลอยด์ยิ้มๆ แล้วชูถุงยาให้ดู “เป็นอะไร ปวดท้องเหรอ” รีบโผเข้าไปหาคนที่ออกไปซื้อยา

   “เปล่า พี่ไม่ได้เป็นอะไร”

   “แล้วออกไปซื้อยาอะไร” รีบดึงถุงยามาดูก่อนจะเงยหน้ามองคนไปซื้อช้าๆ “อย่าบอกว่าพามาที่นี่เพราะเรื่องนี้” ถามใบหน้านิ่งเฉยแล้วหยิบกล่องเล็กๆ คล้ายกล่องลูกอมขึ้นมา แล้วมันก็ไม่ได้มีแค่กล่องเดียว

   พี่ฟลอยด์แม่งยิ้มตาหยีแล้วเดินมากอดผมแน่น “แหม พี่ก็แค่ซื้อมาเตรียมไว้”

   “สาบานว่าพูดจริงเรื่องแค่ซื้อมาเตรียมไว้”

   “ต้อมก็...” ลากเสียงยาวยังไม่พอ ยังลากผมมาที่เตียงอีก “พี่รอมานานแล้วน้า”

   “รอนานแล้วทำไม รออีกหน่อยไม่ได้เหรอ” แกล้งถามไปแบบนั้น แม้หลังผมจะแนบกับเตียงไปแล้ว “แดดขนาดนี้หื่นได้อีกเหรอวะ” แดดตอนบ่ายส่องเข้ามา แม้จะเปิดแอร์แต่ก็ร้อนครับ

   “พี่หื่นได้ตลอดเวลาที่มีต้อมอยู่ด้วย” ผมเผลอหัวเราะออกมาเมื่อคนที่คร่อมผมกระพริบตาปริบๆ “นะ” มองกล่องที่ถูกเอามาชูตรงหน้าสลับกับใบหน้าหล่อๆ ที่อ้อนวอน

   “รอกลางคืนไม่ได้เหรอวะ” ผมถาม

   “ทำๆ ไปเดี๋ยวก็ค่ำเอง” ดูพี่มันตอบ ผมแทบยกขาถีบ ถ้าไม่ติดว่าร่างหนักๆ มันแทรกอยู่ตรงกลาง ทำให้ยกขาลำบาก ยกทีนี่รู้สึกถึงของบางอย่างที่มันกำลังดันต้นขาของผมอยู่ “รู้สึกใช่ป่ะ” ถามออกมาแบบตรงๆ แถมยังส่ายของโดนของๆ ผมด้วย แม่งโคตรหื่นว่ะ

   “เชี่ย ทำแบบนี้” ผมก่นด่าไปเพราะดันรู้สึกขึ้นมาเฉย ก็มันถูกกระตุ้นแบบนั้น แถมยังมีมือที่คอยลูบสีข้างอย่างแผ่วเบาอีก ไอ้ต้อมผู้ชายนะครับ ผู้ชายแค่มันจินตนาการก็คึกคักแล้ว

   “หึๆ” เสหน้าไปมองประตูบานเลื่อนที่มีแดดแรงสาดเข้ามาที่พื้นพรม ไม่ใช่เขินนะ แต่ไม่อยากมองหน้าคนที่กำลังแสดงความต้องการทางสายตาอย่างโจ่งแจ้ง เพราะมันจะทำให้ผมเผลอพลิกกดได้...

   เออว่ะ ผมก็กดมันได้นะ

   คิดแล้วผมก็ใช้ขาหนีบร่างคนด้านบนแล้วพลิกให้พี่ฟลอยด์นอนด้านล่าง ดูคนถูกพลิกจะตกใจนิดๆ แต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นผมใช้แขนค้ำจ้องหน้าอยู่

   “พี่เป็นของผมบ้างนะ” พูดไปแบบนั้นพร้อมกับโดนมือใหญ่ๆ กดหัวให้ก้มลงมาจูบ

   คล้ายกับกระหายน้ำทำให้เราสองคนกอดจูบกันอย่างไม่ลดละ ยิ่งจูบยิ่งรู้สึกร้อน ผมดึงเสื้อยืดของพี่ฟลอยด์ออกแล้วปาทิ้งไปที่ไหนสักที่ คนด้านล่างก็ดึงเสื้อผมออกเหมือนกัน รอยฟกช้ำยังหลงเหลือที่สีข้างไม่ได้ทำให้ความต้องการลดลง มือขาวค่อยๆ ลูบไล้อย่างแผ่วเบา

   ของร้อนที่อยู่ตรงต้นขาดุนดันขึ้นมา ผมลดมือลงไปลูบเบาๆ จนคนใต้ร่างครางออกมา เหมือนไอร้อนของมันทะลุกางเกงผ้าเนื้อหนา

   “โอ๊ะ” ผมสะดุ้งเมื่อถูกมือขาวจับส่วนนั้นตรงๆ และยังได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ
 
   “ต้อมช้าอะ งั้นเป็นของพี่ก่อนก็แล้วกัน”

   “เหวอ เดี๋ยวๆๆๆ” ร้องลั่นเมื่อถูกกอดแน่นแล้วพลิกตัวลงมานอนราบกับเตียงแทน ผมถูกดึงกางเกงขาสั้นและชั้นในออกพร้อมกัน วันนี้ไม่น่าใส่กางเกงสามส่วนเลยให้ตาย “เฮ้ยพี่ ช้าๆ สิวะ” โวยวายเพราะถูกรุกรวดเร็วและร้อนแรงจนตั้งรับแทบไม่ทัน

   “พี่ช้าไม่ได้แล้วตอนนี้” เสียงตอบกลับกระเส่าจนต้องเม้มปาก “ปลดกางเกงพี่ให้หน่อยนะครับ” ถูกจูบทั่วใบหน้าก่อนลิ้นร้อนจะแหย่เข้าในรูหูจนขนลุกเกรียวกราว ผมรีบลดมือลงไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ออก เนื้อร้อนที่ดุดดันกางเกงในสีดำพร้อมใช้งานแน่นอน

   “โคตรร้อน” ผมพูดออกมาเพราะกำลังหยอกล้อเนื้อร้อนนั่นอยู่ ไม่อายหรอกนะครับ เคยมาแล้ว และยังจำได้ดีถึงรสชาติความเจ็บปวดตอนมันเข้ามาในตัวผม “อื้อ”

   “ต้อมครับ” เสียงแผ่วเบาเวลาถูกปากแดงก้มจูบและทิ้งรอยตามแผงอกแบนๆ ผมพยายามเม้มริมฝีปากเน้น ไม่อยากปล่อยเสียงน่าอายออกไปมากกว่านี้ “พี่อยากได้ยินเสียง” คนที่สนใจหน้าท้องแบนๆ เงยหน้าขึ้นมา แววตาหวานเชื่อมมองมาคล้ายกับเว้าวอน

   “น่าอาย อื้อ” เชี่ย เล่นทีเผลอ ผมร้องออกมาเพราะถูกลิ้นร้อนตวัดที่หลุมสะดือ ด้านล่างก็กำลังถูกมือปลุกเร้าจนต้องส่ายสะโพกไปมา ยิ่งเปลี่ยนจากมือมาเป็นลิ้นร้อนยิ่งดิ้นพล่าน มันเหมือนจะหายใจทางจมูกไม่ออกจนต้องอ้าปากช่วย แต่กลับมีแต่เสียงครางกระเส่า

   “ต้อมครับ” ปรือตามองเมื่อถูกเรียกชื่อ พี่ฟลอยด์ก้มลงมาดูดปากผมแรงๆ หลายทีก่อนจะบีบหยอดยาอะไรสักอย่างสีใสๆ ที่นิ้วมือ “มันจะได้ไม่เจ็บเหมือนคราวที่แล้ว” กระพริบตามองพร้อมผงกหัวดู นิ้วที่มีน้ำใสๆ ป้ายช่องทางด้านหลังจนต้องเบิกตากว้าง ยิ่งนิ้วที่วนๆ ลูบๆ กดลงไป ผมถึงกับแหกปากร้องเหมือนควายถูกเชือด

   “เชี่ย อะไรเนี่ย” โวยวายไปก็แค่นั้น เพราะพี่ฟลอยด์ยังยิ้ม นิ้วที่คาอยู่ก็เริ่มหมุน “พี่เอานิ้วเข้าไปทำไมวะ อ๊ะ” มันมาแล้ว นิ้วที่สอง เริ่มเจ็บจนขี้เกียจพูด

   “เพื่อต้อมจะได้ไม่เจ็บมากไง ของๆ พี่ใหญ่ ต้อมก็รู้” อยากถีบยอดหน้าคนคุยโวจริงแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะแค่ผมขยับสะโพก นิ้วที่หมุนอยู่ก็จะยิ่งขยับแรง

   “พี่ ผมเจ็บว่ะ โอ๊ะ” เมื่อกี้รู้สึกเสียววาบขึ้นมาในท้อง ผมกระพริบตามองพี่ฟลอยด์ที่เหยียดยิ้มออกมาเฉย

   “ตรงนี้?” อยากจะสบถเป็นภาษาเอเลี่ยน นิ้วที่มันขยับในตัวผมกดย้ำๆ ไปตรงที่ผมสะดุ้งเมื่อกี้ ถึงกับดิ้นพล่าน ความเสียววาบในท้องมันเพิ่มขึ้นจนต้องบิดตัวเพราะเสียวซ่านไปทุกรูขุมขน มันเป็นความรู้สึกกระสันอยากปลดปล่อยออกมา

   “พี่ อ๊ะ พี่ฟลอยด์” ผมยื่นมือไปจับแท่งร้อนของตัวเองที่มันอยากปลดปล่อยเต็มแก่ แต่ก็ถูกมือขาวข้างที่ว่างจับออก แม้ผมพยายามจะดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นเลย ยิ่งดิ้นยิ่งรู้สึกมากขึ้น

   “จุ๊ๆ” อ้าปากหายใจแต่ในอกกำลังเดือดพล่าน พี่ฟลอยด์ดึงนิ้วตัวเองออกมาและห้ามไม่ให้ผมช่วยตัวเอง คนที่ยืดตัวขึ้นเปิดกล่องคอนดอมแล้วใช้ปากช่วยฉีกซองสีเงินออก ผมมองคนที่สวมคอนดอมใส่แท่งร้อนของตัวเอง ไอ้อาวุธที่อีกเดี๋ยวมันต้องทำร้ายผมแน่

   “พี่ ผมว่า” คือเหมือนอารมณ์สงบนิดๆ จะรู้สึกกลัวขึ้นมา

   “ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ทำให้เจ็บเหมือนคราวที่แล้วแน่นอน” ถูกยืนยันหนักแน่น ผมเลยพยักหน้าไป เอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย มันคงไม่เจ็บมาก...


   แต่โคตรๆ เจ็บ


   ผงกหัวมองคนที่กำลังใช้มือดันสิ่งร้อนรุมเข้ามาในตัว เพียงแค่นิดเดียวความรู้สึกเร้าร้อนเสียวซ่านก็หายวับไปกับตา ผมรีบตีแขนคนที่ตั้งหน้าตั้งตาดันสิ่งใหญ่โตเข้ามา

   “เจ็บๆ” ไหนบอกไม่เจ็บไงวะ

   “เดี๋ยวก็ไม่เจ็บ เชื่อพี่” ขมวดคิ้วเพราะไม่เชื่อ พี่ฟลอยด์ยิ้มให้ผมก่อโน้มตัวมาจูบปาก “งั้น...เจ็บครั้งเดียวนะ” ไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยินจนถูกดันของร้อนเข้ามารวดเดียว เจ็บและจุกครั้งเดียวจริงๆ

   “เชี่ย ไหนบอกไม่เจ็บ” กัดฟันพูดไปจนโดนหัวเราะ

   “เดี๋ยวก็ดีเอง”

   ยอมเชื่อและปล่อยให้ความรุ่มร้อนขยับอย่างรุนแรงและอ่อนโยนสลับกันไปมาภายในตัว ผมยื่นมือดึงหน้าหล่อมาบดจูบแล้วส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวตวัดเพื่อลดเสียงครางกระเส่าของตัวเอง แต่หลายครั้งที่กระแทกถูกจุดกระสันมันก็กลั้นเสียงออกมาไม่ได้ และนั่นทำให้ผมถูกแกล้งหนัก

   “ชะ อ๊ะ เชี่ย อื้อ” ด่าไปครางไปเมื่อถูกคนด้านบนกระแทกย้ำไปที่จุดเดิมซ้ำๆ หลายครั้งที่เหมือนจะถึงจุดสูงสุด แต่คนด้านบนกลับดึงจังหวะช้าลงจนผมแทบอยากตาย แต่สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยออกมาก่อนจนได้เมื่อถูกปลุกเร้าด้านหน้าพร้อมกับด้านหลัง “แกล้งผมเหรอวะ” ตีเข้าหน้าท้องที่มีแต่รอนสวย คนแกล้งขำเบาๆ แล้วออกแรงขยับสะโพกอีก

   “ยังไม่ค่ำเลยนะ ทำไมหมดแรงแล้วล่ะ” เสียงพูดปนหัวเราะทำให้ผมอ้าปากค้าง อย่าบอกว่าจะมีอะไรถึงค่ำ บ้าไปแล้ว ไม่ไหวหรอก

   “พอ อ๊ะ พอแล้วเว้ย เชี่ย” ครั้งแรกมันไม่ได้เป็นแบบนี้เลยนะ ตอนนั้นใส่ได้ก็ใส่ไม่ยั้งจนปลดปล่อยออกมาก็จบ แต่ทำไมครั้งนี้มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ อารมณ์ที่หายไปกลับมาอีกรอบและยิ่งรุนแรงก่อนคนด้านบนจะครางยาวออกมา

   “สุดยอด” พี่ฟลอยด์พูดปนหอบหนักไม่ต่างจากผมที่สะโพกเกือบคราก

   อย่าคิดว่าครั้งเดียวจะจบ คนหื่นถอนกายออกพร้อมทิ้งคอนดอมที่ใช้แล้วทิ้ง แล้วคอมดอมทุกกล่องก็ถูกใช้งานจนหมด นั่นละครับ ร่างกายไอ้ต้อมก็แทบไม่ไหว ยังมีหน้ามาบอกว่าเบามือแล้วเพราะผมยังเจ็บแผลที่รถเฉี่ยวอยู่ แต่นี่คือเบามือแล้วเหรอวะ มือมันเบาจริงแต่สะโพกแม่งใส่ไม่ยั้ง ตอนนี้แค่กระดิกนิ้วเท้ายังร้าวขึ้นมาถึงเส้นผม

   “เป็นของพี่แบบสมบูรณ์แล้วนะ ไม่เหมือนครั้งแรกด้วย เหมือนที่พี่บอกหรือเปล่า” ตวัดสายตามองคนที่พูดด้วยความโมโหที่แล่นเป็นริ้วๆ อยากต่อยหน้าระรื่นนั่นแรงๆ แต่แขนดันยกไม่ขึ้น

   “มันไม่เหมือนเพราะพี่แม่งเอาเยอะ” ด่าไปก็แค่นั้นเพราะคนโดนด่าหัวเราะออกมาเฉย

   “นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

   “เชี่ย ยังมีมากกว่านี้อีกเหรอ” ผมเหล่ตามองนอกประตูระเบียง จากแสงแดดกลายเป็นแสงจันทร์ไปแล้ว “ถ้ามากกว่านี้ไอ้ต้อมขอตายดีกว่า แม่ง”

   “ไม่ตายหรอกน่า ต้อมก็ชอบนี่ พี่ได้ยินเมื่อกี้ว่าอยากได้อีก แรงอีก เอาอะ...” รีบยกมือปิดปากคนที่ปากมาก

   “หยุดพูดไปเลย” ว่าจบผมก็รีบชักมือกลับเพราะมือถูกลิ้นร้อนเลียตามนิ้ว “ผมไม่ไหวแล้ว” พูดออกมาทันทีที่สังเกตเห็นแววตาหื่นกระหาย

   “ยั่วพี่ก่อนทำไมหื้ม” ผมไปยั่วต่อมหื่นตอนไหนวะ รีบขยับตัวหนีฝ่ามือร้อนๆ ที่ลูบสะโพกเปลือยเปล่าอย่างยากลำบาก “จะหนีไปไหนครับ”

   “หนีไปดาวอังคาร”

   “พี่ก็จะตามไปหาอยู่ดี”

   “งั้นหนีไปสวรรค์” ไม่ยอมลงนรกหรอก

   “โอ๊ะ แบบนั้นยิ่งดีใหญ่ เราไปสวรรค์ชั้นเจ็ดกันดีมั้ยครับ”

   “ชั้นไหนก็ไม่ไปโว้ย เชี่ย!!!”

   อย่าคิดว่าพรุ่งนี้ผมจะได้ไปมหาลัยอย่างที่ส่งข้อความบอกไอ้ป่านครับ และคิดไว้ว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะฟื้นฟูร่างกายให้เดินเป็นปกติ

   “ต่อไปถ้าทำบ่อยๆ พี่จะลดรอบให้”

   “หุบปากไปเลยไอ้ขี้เอา”


...TBC

แต่งฉากเรทเหมือนถูกดูดพลังไปจนหมดจริงๆ ค่า ทำได้แค่นี้ ข้าน้อยขออภัย

ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วค่ะ แต่ตอนพิเศษยังมีอยู่แน่นอนรวมถึงคู่เกนป่านด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ปอลอ.พี่ฝอยขัดหม้อต้อมได้แล้ว ไม่นกเหมือนพี่โชด้วยเด้อค่าเด้อ  :jul3: :jul3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 10:31:15 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
ที่บอกว่าคอมดอมทุกกล่องก็ถูกใช้งานจนหมด
พี่ฟลอยด์ซื้อมากี่กล่อง :z1: :z1: :z1: :z1:
ถึงขนาดจากแสงแดดเป็นแสงจันทร์ :jul1: :jul1: :jul1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฮ่าๆๆเป็นฉากที่จะบอกว่าหวานก็ไม่สุดจะบอกว่าไม่หวานก็ไม่ใช่ สมกับชื่อเรื่องจริงๆคู่นี้ดูแมนๆดี ชอบบ รอคู่รอง

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
กลายเป็นน่ารักไปได้คู่นี้ ทำไมอ่าน nc แล้วรู้สึกว่าน่ารักดี 5555

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ใช้หมดทุกกล่องนี่มันกี่กล่องคะ โหยยยยยยยย หื่นขั้นไหนแล้วคะ พี่ฟลอยด์ :hao6: :hao6: :haun4:  :haun4:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ดีใจกัยพี่ฟลอยด์ด้วยหลังจากที่อดทนมานาน55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด