ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9  (อ่าน 231807 ครั้ง)

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
๊***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

Aimer's novels & short stories

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2018 20:48:23 โดย aimer »

ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
เจิม ตัวเเดงๆ นังข้าวคนอวดผัว

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
รักผัวครั้งที่ 1

'ต่อไปเป็นรายงานข่าวพิเศษค่ะ ยอดครรภ์บุรุษหรือผู้ชายที่เลือกที่จะตั้งครรภ์โดยทางการแพทย์นั้นเพิ่มขึ้นถึง 25% ทั่วโลก และในปัจจุบันมีสินค้าต่างๆ เพื่อผู้ชายตั้งครรภ์ในตลาดเพิ่มขึ้น อาทิเช่น เสื้อคลุมท้อง อาหารเสริม...'


เสียงรายงานข่าวจากผู้ประกาศข่าวในโทรทัศน์เป็นภาษาอังกฤษดังขึ้น ผมลูบท้องตัวเองเบาๆ


'...และปัจจุบัน ความเสี่ยงของครรภ์บุรุษได้ลดลงถึง 80% ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเพื่อฝังมดลูกเทียม รวมไปถึงฮอร์โมนต่างๆ ก็ได้ลดลง ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าชายที่รักเพศเดียวกันได้ตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น แม้ในทางกฏหมายจะยังไม่มีการปรับแก้เกี่ยวกับบุตรที่เกิดขึ้นจากคู่สมรสเพศเดียวกัน...'


เสียงยังดังต่อเนื่อง ผมถอนหายใจ ควานหารีโมตเพื่อปิดเสียง ดูแต่ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า และเมื่อพบว่าการปิดเสียงไม่ได้ช่วยอะไรเลยจึงหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก และปล่อยออกมาช้าๆ เหมือนที่หมอเคยสอน


ผู้ชายตั้งท้องเคยเป็นเรื่องตลกในอดีต แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ


ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น


ในร่างกายผม มีชีวิตเล็กๆ อาศัยอยู่ได้สองสัปดาห์แล้ว...


...และตั้งแต่ตั้งท้องมา พ่อของลูกก็ได้ค่อยๆ เปลี่ยนไป





สามีของผมเปลี่ยนไป...








แม๊กซ์หรือแม๊กซ์ซิมัสเป็นชายร่างสูงใหญ่เหมือนนักมวยปล้ำ กล้ามแน่นไปทั้งตัว เรือนผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาคมสีเดียวกันคมกริบ ใบหน้าหล่อเหลาบาดตาดูโดดเด่น


แม๊กซ์อายุน้อยกว่าผมสี่ปี แต่กลับประสบความสำเร็จกว่า ในขณะที่ผมในวัยสามสิบ ทำงานเป็นเสมียนในบริษัทเล็กๆ ได้รับเงินเดือนน้อยนิดพอเลี้ยงตัวเองนั้น แม๊กซ์กลับเป็นเจ้าของธุรกิจหลายแห่ง เขามีบาร์เป็นของตัวเองในทำเลทองถึงแปดที่ในหกรัฐ เป็นเจ้าของร้านอาหารเฟรนไชส์ทั่วประเทศ มีคลับหรูหราในโมนาโก เวกัสและแอลเอ มีร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูบนยอดตึกสูง มีเชฟมิชลินทำงานให้นับสิบ เขาทั้งหล่อเหลา มีเสน่ห์ เก่งกาจ ร่ำรวย ราวกับสามารถได้ทุกอย่างบนโลก


หันกลับมาที่ผม...


ผู้ชายเอเชียตัวเล็กๆ ที่หน้าตาธรรมดา แถมยังเป็นเกย์มาตั้งแต่เด็ก ไม่มีกระทั่งเรสซินเดนท์อเมริกันจนกระทั่งแต่งงาน แม้กระทั่งในประเทศแม่อย่างประเทศไทย ผมก็ยังธรรมดาจนกลืนหายไปกับผู้คน ผมเคยทำงานเป็นพนักงานบัญชีให้บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง เงินเดือนน้อยจนใจหาย เกิดและโตที่ต่างจังหวัด เพิ่งมาหางานทำที่เมืองกรุง อย่าว่าแต่อยู่ต่างประเทศอย่างตอนนี้เลย ในตอนนั้น แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านยังไม่มีปัญญาเหยียบย่างไป


ผมพบแม๊กซ์ระหว่างที่เขากำลังเที่ยวผู้หญิงในเมืองไทย...


ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย ผมเป็นเกย์ ไม่ได้ถือเรื่องเซ็กส์อะไร ขอแค่ถูกใจก็ขึ้นห้องง่ายๆ วันที่พบเขา... ผมเลือกผู้ชายที่พอดูได้จากผับแล้วไปโรงแรมอย่างง่ายดาย


นั่นแหละผม ผู้ชายง่ายๆ ไร้จุดเด่น หน้าตาจืดชืดและสำส่อน


ส่วนเขา... กำลังทะเลาะกับโสเภณีสาวสวยอยู่ข้างทาง


คนที่ผมเลือกจากผับแค่นหัวเราะโสเภณีคนนั้น ทั้งๆ ที่พวกเราก็ไม่ได้ต่างจากพวกเขาหรอก อาจจะแย่ยิ่งกว่าตรงที่โสเภณียังได้เงินจากเซ็กส์ ในขณะที่พวกเราไม่ได้อะไรเลย...


โสเภณีคนนั้นสวมชุดหรู ใบหน้าตบแต่งอย่างดี เธอได้ยินที่ผู้ชายข้างตัวผมหัวเราะเยาะ จึงหันกลับมามองอย่างโกรธแค้น พร้อมทั้งตะโกนด่าพวกเรา แล้วฝรั่งตัวยักษ์ก็ด่าเธออีกทอดหนึ่ง


ผมดูภาพวายป่วงเบื้องหน้า คู่นอนผมด่าหล่อนกลับ และทำท่าจะไปร่วมวงด้วย ผมถอนหายใจแรงๆ ตัดสินใจไม่ขอยุ่งเกี่ยว แต่ช้ากว่าหญิงสาวที่เดินดุ่มๆ เข้ามา ปรี่จะทำร้ายคู่นอนผม


หลังจากนั้นก็อีรุงตุงนังสิ้นดี โสเภณีโถมตัวเข้ามาตบเกย์ข้างๆ ลูกค้าฝรั่งของเธอบริภาษเธอด้านหลัง ผมพยายามยื้อคู่นอนตัวเอง


วงทะเลาะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนคนหันมามุง ผมอายแทบมุดดินหนี ในที่สุดหล่อนก็รู้ตัวและสะบัดหน้าจากไป ส่วนคู่นอนผมก็หงุดหงิดเกินกว่าจะไปต่อกับผมได้


ดังนั้น เมื่อเหล่าไทยมุงทั้งหลายค่อยๆ สลายตัว จึงเหลือเพียงผมกับฝรั่งตัวโตคนนั้น


เรามองหน้ากัน...


...อาจเพราะความเมา...


...ของใครสักคนหนึ่ง


อาจเพราะความแปลก...


...ของโชคชะตา


เขาชวนผมไปแทน ส่วนผมที่พลาดจับผู้ชายแล้ว... ก็คิดว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมไม่เคยนอนกับฝรั่งมาก่อน อีกทั้งเขาก็ยังหล่อเหมือนดาราฮอลลีวูด ท่าทางร่ำรวย ดังนั้น เราสองคนจึงเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ๆ


...คืนนั้นเราใช้ถุงยางไปกี่ชิ้น ผมจำไม่ได้


เซ็กส์นั้นร้อนแรงที่สุด ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเกย์ถึงชอบฝรั่งนัก ตัวผมเองแม้จะนอนหมดเรี่ยวแรง แต่ก็ยังอดส่ายสะโพกให้เขาเข้ามาไม่ได้


เขาบอกว่าเขาชื่อแม๊กซ์ในเช้าวันถัดมา ผมบอกชื่อจริงของตัวเองตอบ เพราะคิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว...


...แล้วสิ่งที่ประหลาดกว่าค่ำคืนนั้นก็เกิดขึ้น


แม๊กซ์บอกผมว่าเขาไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน ก็น่าจะจริง ดูจากการยัดเข้ามาโดยไม่ขยับขยาย คงคิดว่าช่องทางผู้ชายเหมือนของผู้หญิงจึงดึงดันเข้ามา ผมร้องลั่นอย่างเจ็บปวด แต่แม๊กซ์ก็ยังไม่สนใจ เขาป่าเถื่อน... ร้อนแรงจนผมระทวย แม้กระทั่งรู้สึกถึงเลือดที่ไหลตามต้นขาก็ยังหยุดไม่ได้


ถึงจะเจ็บ แต่ก็เสียวกระสัน


ไม่รู้เพราะผมเป็นผู้ชายคนแรกหรือเปล่า... หลังจากนั้น...


...เขาก็ใช้เวลาสามเดือนในเมืองไทยตามจีบผม


แปลกประหลาดที่สุด เรื่องนี้ควรเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก


ผมหยุดความสัมพันธ์กับเขาไว้ที่เซ็กส์เฟรนด์ ไม่ได้คาดหวังว่าจะคบกับเขาจริงจัง สามเดือนผ่านไป ผมยังนอนกับเขาและผู้ชายคนอื่น เขาจึงรามือกลับประเทศ


ผมรู้สึกโหวงๆ แต่ก็ไม่ได้เศร้าจะเป็นจะตาย


ในเดือนที่สี่ มีการลงทุนระหว่างร้านอาหารเฟรนไชส์จากอเมริกามาเปิดสาขาที่ไทย ที่ฮือฮาคือ เจ้าของบริษัทเฟรนไชส์มาคุมงานด้วยตัวเอง


...แม๊กซ์เลือกลงทุนในไทยทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจมาก่อนเพื่อมาตามจีบผม...


...แปลกประหลาดยิ่งกว่าเรื่องผู้ชายตั้งท้องได้เสียอีก


ผมยังคงไม่เชื่อ แต่เขาก็ตามตื๊อเหลือเกิน ตื๊อจนหัวใจที่ด้านชาของผมละลาย แต่กระนั้น ใช่ว่าผมจะหยุดนอนกับคนอื่น


ผมสับสน เมื่อผู้ชายที่แสนสมบูรณ์แบบบอกรัก ในขณะที่ผมไม่มีอะไรเลย ไม่มีดี ไม่มีจุดเด่น ไม่มีอะไรทั้งนั้น ผมจึงไม่เชื่อว่าความรู้สึกนั้นจะยืนยาว และได้แต่หวังว่าเขาจะเบื่อไปเอง



2 ปีกับ 4 เดือน...



...เป็นช่วงเวลาทั้งหมดที่แม๊กซ์ตามตื๊อผม เขาเสมอต้นเสมอปลาย เคยปฏิบัติกับผมอย่างไรก็อย่างนั้น มีเพียงความหึงหวงที่มากขึ้นทุกวันๆ แม้ผมจะไม่เคยตกลงคบกับเขาสักครั้ง


ในที่สุดผมก็พ่ายแพ้ แพ้หัวใจตัวเอง แพ้ความดีของเขา แพ้ใบหน้าหล่อๆ จึงตกลงคบกับแม๊กซ์ เลิกเที่ยวผู้ชายโดยสิ้นเชิง


แต่ผมเป็นแฟนแม๊กซ์ได้แค่ไม่กี่เดือน สถานะของเราก็เปลี่ยน


แม๊กซ์ขอหมั้นผมหลังจากที่คบกันได้เพียง 3 เดือน ผมคงถูกเขามอมไวน์ราคาแพงจนเมาเลยตอบตกลง


หมั้นได้เพียง 2 สัปดาห์ สถานะก็เปลี่ยนอีกครั้ง


คราวนี้ผมคงเมาหนักกว่าเดิม เพราะเขาคุกเข่าลง หยิบกล่องกำมะหยี่เล็กๆ ออกมา แล้วเปิดออก อวดแหวนวงเล็กทำจากทองคำขาว ประดับด้วยเพชรเม็ดงามใหญ่กระแทกสายตา


บางทีอาจเป็นเพราะแสงวาววับจากเพชรหลายสิบกะรัตที่ทำให้ผมเบลอ เผลอพยักหน้าเมื่อเขาถามผมว่า


'Will you marry me?'


และแหวนวงนั้นก็มาประดับที่มือผมอย่างงงๆ พร้อมกับขบวนขันหมากที่เขาจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่บ้านเกิด พ่อกับแม่เองก็ยังงงจนกระทั่งผมยื่นขอเรสซินเดนท์และย้ายมาอยู่นิวยอร์กกับเขา


งานแต่งงานของเราหรูหราอลังการเสียจนนิตยสารหลายฉบับต้องทำสกู๊ป ผมที่ไม่มีปากมีเสียงอะไรได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว แม๊กซ์จัดงานทุกอย่างด้วยตัวเอง เลือกกระทั่งผ้าปูโต๊ะด้วยตัวเอง


ขนาดความเห็นยังไม่มี ให้เงินสักสลึงเขาก็ไม่เอา


ผมไม่ต้องออกเงินเลย งานแต่งยิ่งใหญ่นั้นเป็นที่ฮือฮา แค่ชุดเจ้าสาวของผม... ที่เป็นกางเกงกับสูท ผมก็ไม่มีปัญญาจ่ายแล้ว ต่อให้ทำงานทั้งชีวิตก็เถอะ


หลังแต่งงาน เขาพาผมไปอยู่เพนท์เฮาส์สุดหรู มีแม่บ้านและคนขับรถ ร่ำๆ จะจ้างบอดี้การ์ดให้ด้วยเพราะกลัวว่าความงามของภรรยาจะทำให้มีคนมาลักพาตัว


ผมไม่ได้ชมตัวเอง เขาพูดแบบนี้จริงๆ ผมได้แต่เงยหน้าขึ้นมองฟ้า ถอนหายใจยาวเหยียด


เราแต่งงานได้สองปีกว่า เขาก็ออดอ้อนอยากมีลูก


จริงๆ แล้วอย่าว่าแต่ลูกเลย แม้กระทั่งสามีผมก็ยังไม่คิดมาก่อนว่าจะมี


แต่ในที่สุด... ผมก็ยอมเขาอีกครั้ง ยอมทนเจ็บแทบตาย ยอมฉีดยาทุกอาทิตย์ ยอมไปหาหมอทั้งๆ ที่ตัวเองกลัวโรงพยาบาล และยอมทน 'ทำลูก' อยู่หลายสัปดาห์


ถึงแม้ผมจะมีมดลูกเทียมฝังอยู่ในอุ้งเชิงกรานแล้ว แต่ยังต้องอาศัยสามีเพื่อถ่ายน้ำเชื้อเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิจนเป็นตัวอ่อน


กระบวนการถ่ายน้ำเชื้อมีตั้งแต่กระบวนการทางการแพทย์ซึ่งมีความสำเร็จสูง จนไปถึงกระบวนการทางธรรมชาติ...


...แม๊กซ์เลือกวิธีธรรมชาติโดยไม่ลังเล และเพื่อให้ผมตั้งใจกับการมีลูก เขาได้บังคับให้ผมออกจากงาน ทั้งขู่ทั้งหว่านล้อมจนผมยอมเขาอีกครั้ง


สามสัปดาห์เพื่อทำลูกได้ผ่านไปท่ามกลางความทรมานของผม


ถึงช่วงแรกๆ เซ็กส์เพื่อลูกของเราจะหวานซ่าบซ่านก็เถอะ เขาทั้งรุนแรง ทั้งอ่อนโยน ทั้งกระทั้นเข้ามาจนสุด ผมร้องครวญคราง ส่ายสะโพกยั่วยวนสามี โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อย่าว่าแต่ส่ายสะโพก แค่หายใจเบาๆ ก็เจ็บไปทั่วร่าง


เหนื่อยจนเผลอหลับทั้งๆ ที่เขายังคาอยู่ในก้น
กินข้าวทั้งๆ ที่อุปกรณ์ผลิตลูกของเขาที่ใหญ่เท่าแขนผมหรืออาจะใหญ่กว่า ทั้งใหญ่และยาวแม้กระทั่งเทียบกับไซส์ฝรั่งด้วยกันนั้นยังติดอยู่ข้างใน


เขาหลั่ง... ผมหลั่ง... เขาหลั่ง... ผมหลั่ง... แล้วผมก็หลั่งจนไม่มีอะไรเหลือ ในท้องมีแต่อสุจิของเขาอัดแน่น เยอะจนถ้าลูกของผมอยู่ในนั้น ลูกต้องจมน้ำรักพ่อตายแน่ๆ


แต่เขาก็ยังไม่หยุด...


คล้ายกับว่าสัตว์ป่าหลุดออกจากการควบคุม เหมือนผู้ชายเพิ่งถูกปล่อยออกจากคุก


เขายอมปล่อยเมื่อท้องของผมป่องราวกับมีครรภ์อ่อนๆ และไม่สามารถรองรับน้ำรักได้อีกแม้แต่หยดเดียว เมื่อถอนออก ผมได้ยินเสียงคล้ายจุกก๊อกหลุดออกจากขวด รูเล็กๆ ของตัวเองน่าจะหลวมคลายเต็มที่ อาจจะแย้มออกจนน่ากลัวเหมือนที่เคยเห็นหนังโป๊เกย์ไปแล้ว


แต่...


จริงๆ แล้วมันบวมมาก บวมจนปิดมิด ผมต้องนอนนิ่งๆ เพื่อให้อสุจิสามีเกิดการปฏิสนธิสักพัก แล้วค่อยทำความสะอาด


เขาวนเวียนลูบท้องป่องๆ จูบตามไรผม เรียกผมว่า 'princess'


ผมไม่มีอารมณ์วาบหวามเหลืออยู่แม้แต่น้อย สิ่งที่ผมอยากทำคือนอนยาว นอนจนกว่าโลกจะแตก แต่แม๊กซ์ไม่ยอม ยังพรมจูบไปทั่วร่าง บิดทึ้งยอดอกจนแทบขาด แล้วค่อยยอมให้ผมทำความสะอาด


ปัญหาเกิดอีกครั้ง เมื่อเราอยู่ในห้องน้ำ


ผมควรจะปล่อยน้ำรักของสามีออกได้แล้ว ร่างกายผมก็เพลียจนหัวแทบดิ่งลงพื้น แต่ช่องทางที่ควรจะหลวมโพรก กลับเม้มแน่น ไม่ยอมคายน้ำออกมา เดือดร้อนถึงแม๊กซ์ต้องให้ผมนั่งบนเคาเตอร์หินอ่อน หลังพิงกระจก ถ่างขาเหมือนจะคลอดต่อหน้าเขา


แม๊กซ์สอดนิ้วเข้ามาควานทำความสะอาด มันยังแน่นและกระตุกเหมือนจะดึงนิ้วเขาให้ขาด ผมได้แต่มองเหมือนจะบอกว่าเรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวจริงๆ นะ


'...ข้าว ถ้าคุณยังตอดผมแบบนี้ ผมคงทำคุณท้องแตกแน่ๆ'


'ไม่...'


'แน่นจริง... อ้าขาออกซิ' ผมได้แต่ขยับตัวตามที่เขาสั่ง


'บ้าจริง!' เขาสบถออกมาเบาๆ สูดลมหายใจลึก จับขาทั้งสองข้างของผมกางออกจนสุด


ในที่สุดก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างทุลักทุเล ผมผล็อยหลับไป...


และตื่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับความแข็งขืนในท้อง...


...แม๊กซ์! นี่แม้กระทั่งตอนผมหลับยังเสียบเข้ามาอยู่เรอะ!




จากความพยายามของแม๊กซ์และความทรมานจนเป็นลมไปหลายครั้งของผม ในที่สุดก็ติดลูก ผมถอนหายใจเฮือกๆ เมื่อคิดว่าคงพ้นจากเซ็กส์มารธอนเสียที


คุณหมอหน้าสวยท้องแก่ยิ้มให้กำลังใจพวกเรา ขณะแนะนำเรื่องต่างๆ ที่ต้องดูแลในช่วงตั้งครรภ์


'เรื่องเซ็กส์... ควรระวังท่าให้ดี อย่าให้ทับครรภ์คุณแม่ หมอแนะนำว่า...' สมองผมเบลอไปหมด ดูท้องโตๆ ของคุณหมอที่ดันเสื้อกาวน์ออกมาแล้วอดคิดไม่ได้ว่าอีกไม่กี่เดือนผมคงไม่ต่างกัน


'คุณข้าว ?' คุณหมอคนงามเรียก โบกมือตรงหน้า 'ไม่เป็นไรนะครับ ?'


ผมพยักหน้า หมอเองก็เถอะ สวยขนาดนี้ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชาย ทั้งๆ ที่เป็นฝรั่งแท้ๆ ทำไมถึงมีหน้าตาสวยยิ่งกว่าผู้หญิงอีก สามีหมอต้องโชคดีมากแน่ๆ


หมอยังคงพูดต่อไป มีแต่แม๊กซ์ที่ตั้งใจฟังไม่ให้ตกหล่น ส่วนผมก็เข้าเฝ้าพระอินทร์ไปเรียบร้อยแล้ว...







'ติ๊ง'

ข้อความเด้งขึ้นในความเงียบ ผมสะดุ้งตื่น หยิบโทรศัพท์ขึ้นดู


'เจ้าหญิง วันนี้คุณไม่ต้องทำข้าวเย็นนะ' แม๊กซ์ส่งมา ผมอ่านแล้วค่อยๆ วางมือถือลง ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง...


...แม๊กซ์ไม่เคยพลาดอาหารที่ผมทำ เขาบอกว่าชอบเห็นผมรวบผมสั้นๆ ต่ำๆ ที่ท้ายทอยและสวมผ้ากันเปื้อน


ไม่ใช่แค่นั้น...


แม๊กซ์มักจะหายไปกับนักร้องสาวที่ทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังเลิกงาน


หล่อนชื่ออลิซ


หล่อนสวย อายุน้อย มีดวงตาสีเขียวสดใส มีเสียงหัวเราะหวาน


...มีทุกอย่างที่ผมไม่มี




'ติ๊ง' อีกข้อความถูกส่งมา
'คืนนี้ผมจะกลับดึก ไม่ต้องรอ'


แม๊กซ์ไม่เคยกลับดึก... มีแต่จะกลับก่อน แต่ช่วงสัปดาห์ที่สองของการตั้งครรภ์ แม๊กซ์กลับดึกทุกคืน



ผมปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองดูข้าวของหรูหรารอบตัวด้วยหัวใจว่างเปล่า


เพนต์เฮาส์สุดหรูจะมีค่าอะไร ถ้าไม่มีเขาอยู่ข้างๆ
ผมไม่เคยต้องการชีวิตแบบนี้ สิ่งที่ผมต้องการมีเพียงแค่เขาที่อยู่ข้างๆ รักผมเหมือนเดิม



ผมเพียงแค่ต้องการพ่อของลูก...



...สามีผมคงมีคนใหม่ และคงใกล้เวลาที่ผมจะต้องไป...







จำได้ว่ามีกฏหมายเกี่ยวกับเด็กที่เกิดขึ้นจากคู่สมรสเพศเดียวกัน ไม่รู้ว่าผมยังจะได้สิทธิเลี้ยงลูกหรือเปล่า ถึงผมจะไม่มีอะไร แต่ผมก็เป็นแม่ของแก เป็นคนที่อุ้มท้องลูกมา ศาลน่าจะเห็นใจบ้าง


ส่วนสินสมรส ค่าเลี้ยงดู... ไม่ต้องการทั้งนั้น


ผมอยากกลับบ้าน กลับไปเลี้ยงลูกที่ชนบทเงียบๆ







ผมก้มหน้าลงซบกับฝ่ามือ ไม่อาจห้ามความคิดฟุ้งซ่านได้







ผมรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวัน เขาดีเกินไปสำหรับผม สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ อยู่คนละชั้นกับผม ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว สักวันผมก็ต้องเสียเขาไป สักวันเขาต้องเบื่อผม


ผมรู้ดี
แต่ก็ยังไม่อาจห้ามใจได้ ยอมปล่อยตัวปล่อยใจจนกระทั่งมีลูกด้วยกัน


จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง ?


สองปีที่แม๊กซ์ตามตื๊อ สองปีที่ไม่ได้เล่นตัว แต่เพราะกลัววันนี้จะมาถึงต่างหาก







ใจผมอ่อนยวบ ยอมเป็นของเขาไปนานแล้ว...










"ยังไม่นอนอีก ?" แม๊กซ์กลับมาจากงานและเห็นผมนั่งจับเจ่าคนเดียวบนโซฟา


"อืม กลับมาแล้วเหรอ กินอะไรไหม ?" ผมตอบเบาๆ เดินเข้าไปหาเพื่อช่วยถือเอกสาร แต่ร่างสูงใหญ่กลับหลบเลี่ยง


"กินมาแล้ว ข้าวไปนอนเถอะ"


ผมชะงักกับอาการนั้น กัดริมฝีปากเบาๆ มองแม๊กซ์ถอดรองเท้าออกตามคำขอหลังแต่งงานของผมแล้วเดินเข้ามาในห้อง


"เป็นอะไรไป ?" น้ำเสียงส่อแววรำคาญ "นี่ทำอะไรทั้งวัน ? อย่าบอกว่านั่งเฉยๆ ?"


ผมส่ายหน้า ได้กลิ่นน้ำหอมบนเสื้อโค้ตที่แขวนไว้






หัวใจหล่นวูบเหมือนใบไม้ปลิว...


ดวงตาร้อนผ่าว...


...กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง... กลิ่นเดียวกับอลิซ...









คืนนั้นเราเข้านอนเงียบๆ แม๊กซ์ไม่เข้ามากอดเหมือนทุกครั้ง


ตั้งแต่แต่งงานมา ไม่เคยมีคืนไหนที่ผมจะนอนห่างจากสามีขนาดนี้



เรื่องแบบนี้จะดำเนินไปถึงไหน ? ผมจะทนได้ถึงเมื่อไหร่ ? เมื่อไหร่ที่ผมจะสามารถถามไปได้ตรงๆ ?


ผมมันขี้ขลาด

แม้จะเจ็บเจียนตาย หัวใจทุรนทุราย แต่ก็ยังบอกตัวเองว่าขอเวลาอีกนิด... ขอมองแผ่นหลังกว้างบึกบึน ขอจ้องใบหน้าหล่อเหลา ขอสัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายเขาอีกสักนิด...


...แม้กระทั่งคนโง่ก็รู้ว่าผมพยายามยื้อเวลา...


ผมมันโง่ โง่ที่รักเขา...









"ข้าว พรุ่งนี้ไปหาหมอเองนะ"


แม้ไม่เคยมีสักครั้งที่หมอนัดแล้วผมจะไปคนเดียว แต่ผมก็พยักหน้า ไม่เรียกร้องอะไร แม้ปากจะเปิดออก อยากถามว่าทำไม แต่กลับไร้เสียง


ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะติดธุระอะไร สำคัญขนาดไหน ต่อให้สัญญามีผลประโยชน์สักกี่ล้าน แม๊กซ์ก็ไม่เคยให้ผมไปหาหมอคนเดียว


เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทุกๆ เรื่องในชีวิตผมและลูก






แต่เขาคงเปลี่ยนใจ...


ผมหลุบตาลง กินข้าวต่อไปเงียบๆ









"สามีไม่มาเหรอครับ ?" หมอถามอย่างใจดี ส่งยิ้มให้


ผมส่ายหน้าตอบ หมอคงสังเกตได้


"คุณแม่ดูเศร้าๆ นะครับ มีอะไรหรือเปล่า ? ลองเข้าทดสอบภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ไหมครับ ? หมอจะนัดจิตแพทย์ให้"


ผมพยายามยิ้ม "ไม่มีอะไรครับ"


"แต่คุณดูเศร้ามากจริงๆ อย่าชะล่าใจนะครับ อารมณ์ของคุณแม่มีผลกับลูกทุกอย่าง"


ลำคอผมแห้งผาก หัวใจเต้นเชื่องช้า มองดูท้องโป่งนูนของหมอและสีหน้าหวังดี ก่อนจะเอ่ยช้าๆ "หมอครับ... ถ้าหย่า คนที่ตั้งท้องจะได้สิทธิเลี้ยงลูกไหมครับ ?"


"หย่า ? ทำไมครับ ? เกิดอะไรขึ้น ?" หมอตกใจ "หรือว่า... เกี่ยวกับที่สามีไม่มาวันนี้ ? ทะเลาะกันเหรอครับ ?"


ผมส่ายหน้า"ไม่ได้ทะเลาะกัน... แต่คิดว่าเขาคงอยากมีลูกกับคนอื่นมากกว่า"


"God... ลองคุยกันดีๆ ก่อนไหมครับ สามีคุณดูรักคุณมากนะครับ"


ผมหัวเราะเบาๆ "อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปได้ครับ"









อีกมื้อที่กับข้าวเย็นชืด... ผมมองดูที่นั่งตรงกันข้าม มีอาหารที่เขาชอบวางอยู่ตรงหน้า


แต่แม๊กซ์ไม่อยู่ตรงนั้น...





ผมหลับตาลง...










วันหนึ่ง ผมกำลังนอนกลางวันเงียบๆ จ้องมองเพดานสีขาวอย่างครุ่นคิด แล้วจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

กดชื่อของคนที่จำเบอร์จนขึ้นใจและโทรออก เสียงสัญญาณดังสองสามครั้งก่อนจะมีเสียงหวานๆ รับ

'สวัสดีค่ะ'



...อลิซ


แม๊กซ์ไม่ชอบให้ใครใช้โทรศัพท์... เขาให้รหัสผ่านทุกอย่างกับผม ไม่ว่าจะโทรศัพท์ อีเมล์ บัตรเครดิต เฟซบุ๊ก ฯลฯ ก็ตาม แต่ผมไม่เคยเปิดดูเลย


ผมรีบวางสาย ลุกขึ้นไปหยิบไอแพด เข้าบัญชีเฟซบุ๊กของแม๊กซ์ด้วยรหัสผ่านที่เขาให้มา


เฟซบุ๊กของแม๊กซ์เงียบเหงา เขาไม่ชอบโซเชียลนัก แต่ช่องแชทกลับมีข้อความมากมาย



Alice Turner
'อย่าให้ภรรยาคุณรู้นะคะ'
'เจอกันค่ะ'
'เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกคืนนะคะ'



ผมไม่สามารถดูข้อความก่อนหน้านี้ได้... มือสั่นเทาเกินควบคุม ภาพตรงหน้าพร่าเลือน


ไม่รู้สึกตัวกระทั่งได้ยินเสียงไอแพดตกพื้น






...ข้อความเพียงเท่านั้นบอกชัดว่าเวลาของผมหมดลงแล้ว


...ผมหลอกตัวเองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2016 21:04:39 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมตัดสินใจออกไปหาเขาหลังเลิกงาน คิดว่าหากจะถูกบอกเลิก อย่างน้อยก็ขอเป็นข้างนอก ไม่ใช่ในบ้านที่ไม่มีที่ไป


ผมยัดเสื้อผ้าของตัวเองที่ไม่ได้มาจากเขาลงกระเป๋า ตัวสั่นเทิ้มเมื่อค่อยๆ กดจองตั๋วเครื่องบิน


กลับบ้านกันนะลูก... บ้านของแม่ ของตายาย ที่ประเทศไทย ที่โน่นอากาศร้อนจัดตลอดทั้งปี มีอาหารอร่อยๆ เยอะแยะ ลูกจะได้โตมาท่ามกลางแสงแดด แม่จะพาลูกไปเล่นสงกรานต์ พาไปลอยกระทง ไปรดน้ำดำหัวญาติๆ


ลูกไม่ต้องกังวล...


ผมลูบท้องที่ยังแบนราบด้วยน้ำตา


ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... ผมยังมีลูก หรือต่อให้เขาฟ้องเอาลูกไป... ผมแค่พาลูกหนีเสียก็สิ้นเรื่อง


คิดได้ดังนั้นหัวใจก็สงบลง แม้จะเจ็บรอนๆ


แต่ผมก็เข้มแข็ง จะต้องเข้มแข็ง







ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...







สำนักงานของแม๊กซ์อยู่ในเมือง ผมนั่งแท๊กซี่ไปลงหน้าตึก แล้วกดลิฟต์ไปยังชั้น 35


แม๊กซ์เช่าทั้งชั้นเพื่อทำสำนักงาน เมื่อไปถึง คนงานเริ่มเลิกงาน ปกติแม๊กซ์จะอยู่สำนักงาน แต่เวียนไปดูแลร้านอาหารต่างๆ ในนิวยอร์กเดือนละครั้ง เขาเอาใจใส่กับงานมาก พนักงานแทบทุกคนต้องผ่านสายตา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมประธานเช่นเขาถึงรู้จักนักร้องในร้านอาหารอย่างอลิซ


ทีนา เลขาวัยกลางคนของแม๊กซ์จำผมได้ เธอพยักหน้าทักทายแล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นจะแจ้งเจ้านาย แต่ผมส่ายหน้า ยิ้มอ่อนระโหยให้


"เซอร์ไพรซ์น่ะ"


ทีนามีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ "คุณไม่เข้าไปจะดีกว่า..."


ผมอยากถามว่าทำไม แต่คิดว่าตัวเองรู้คำตอบดี


ผู้บริหาร หุ้นส่วนทุกคนของแม๊กซ์รู้จักผม และเคยชินกับการที่ผมพรวดพราดไปหาแม๊กซ์ถึงห้องประชุมดี

ดังนั้น จะมีใครที่ทำให้แม๊กซ์ยุ่งและไม่สามารถให้พบเข้าไปหาได้ ?


ผมก้าวต่อไปอย่างมั่นคง มือกระชับหูกระเป๋า

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... ผมมีบ้าน มีครอบครัว มีลูก...







ผมพร้อมจะไป...










ประตูเปิดออก ภาพเบื้องหน้า... แม้จะเตรียมใจมาก่อนแล้ว แต่หัวใจผมก็ราวกับว่าถูกตีกระหน่ำ


หัวใจจะสลายไปได้ไหมนะ...

อลิซค้อมตัวชิดร่างสูงใหญ่ ท่าทางใกล้ชิด พวกเขากำลังดูเอกสารแผ่นหนึ่ง

แม้จะเสื้อผ้าอยู่ครบ แต่ก็เดาไม่ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น


ผมกลืนคำพูดลงคอ คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นมามอง


"อ้าว คุณข้าว" เธอส่งยิ้มหวานมาให้ แต่สายตาผมอยู่ที่แม๊กซ์...


...ใบหน้าหล่อเหลาสะดุ้ง มีร่องรอยความตระหนกชัดเจน


ผมสูดลมหายใจ ก้มลงหยิบกระเป๋าที่ทำหล่น พูดช้าๆ เบาๆ แต่ชัดเจน "พอรู้มาบ้างแล้วล่ะแม๊กซ์... เอกสารหย่าส่งไปที่เมืองไทยนะ"


ฝุ่นผง... หัวใจได้กลายเป็นผุยผง ไม่มีค่า ไม่มีประโยชน์ใดๆ มีเพียงให้เขาเหยียบย่ำ ความรักที่มีให้เป็นแค่เศษขยะให้เขาดูถูก

ผมลูบท้องโดยไม่รู้ตัว



ไปเถอะ กลับบ้านเราเถอะ...



"เดี๋ยว!" ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ผมหันหลังเดินหนี แต่แรงฉุดที่ข้อมือก็ทำให้ผมสะดุด


"ข้าว! จะไปไหน ไม่ใช่นะ!"


น้ำตามาจากที่ใดไม่รู้ มันกลบวิสัยทัศน์ไปหมด ทีนาวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนก


"ข้าว ได้โปรด! มากับผมก่อน!"


โดยไม่ฟังเสียง แม้ทีนาจะปราดเข้ามาห้าม แต่เขาก็กระชากผมติดมือ พาเดินดุ่มๆ ออกจากบริษัท


"ประธานคะ คุณข้าวยังท้องอยู่นะ!"


เขาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น บีบข้อมือผมแทบแหลก พาลงลิฟต์ด้วยใบหน้าเครียดขึง







หากจะบอกเลิก ช่วยบอกตรงนี้ ผมได้แต่ภาวนาในใจ












เขาพาผมไปยังลานจอดรถ ยัดผมเข้าไปในรถโดยไม่พูดอะไร แล้วขับออกจากตึก

ระหว่างทาง เขายังคงเงียบ ผมเลิกคาดหวังให้เขาพูดแล้วเอนกายแนบประตู เกาะกระจกดูการจราจรคับคั่งของกรุงนิวยอร์ก


"เลิกกันเถอะ... เลิกกันใช่ไหม" ผมถามเสียงพร่า กอดกระเป๋าบนตัก "ฉันรู้... ฉันรู้... ฉันจะเป็นคนไปเอง เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการให้เธอรับผิดชอบ ฉันจะหย่า..."


ใบหน้าเขายิ่งโหดเหี้ยม ขบกรามแน่นเป็นสัน มือที่จับพวงมาลัยบีบแน่นจนขึ้นข้อขาว "ใคร... ใครบอกว่าผมจะเลิกกับคุณ ?" เขาถามเสียงต่ำลอดไรฟัน


ผมเช็ดน้ำตา "เธออยากเลิกกับฉัน"


"ผมไม่อนุญาต" เสียงของเขาห้วนสั้น "ผมไม่อนุญาตให้คุณหย่า!"


ผมกัดริมฝีปาก ไม่ตอบ


ผมตอบไม่ได้ ไม่มีอะไรออกจากปาก สิ่งที่กรีดร้องอยู่ในสมองคือ


ลูกจ๋า ลูกแม่... จะไม่มีใคร ไม่มีใคร ไม่มีวันเอาลูกไปจากแม่ได้!









รถแล่นมาถึงร้านอาหารของเขา... และอลิซ เขาจอดที่หน้าร้าน เปิดประตูให้ผมลงไป


ในร้านเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว และเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับให้บริการในตอนเย็น แม๊กซ์ลากผมไปยังเวทีเตี้ยๆ ที่มีเครื่องดนตรีวางอยู่


ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งผับราคาถูก มีดนตรีสดและเบียร์ แม๊กซ์บอกว่าร้านนี้เป็นร้านแรกที่เขากู้เงินมาลงทุน ดังนั้น ต่อให้ร้านอื่นๆ หรูหรากว่าและทำกำไรมากกว่าสักแค่ไหน เขาก็ยังจะเก็บร้านนี้ไว้ เพราะร้านนี้คือจุดเริ่มต้น


ร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์ปักหลั่นก้าวขึ้นไปบนเวทีหลังจากบังคับให้ผมนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง


เขาหันไปสั่งงานลูกน้องเบาๆ แล้วนักดนตรีสองสามคนก็เดินขึ้นเวที


ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูง มือหยิบกีตาร์


ผมตะลึง...


แม๊กซ์เกลียดการเล่นดนตรี เขาร้องเพลงเสียงหลง เกลียดการแสดงต่อหน้าผู้คน


ผมเห็นเขาสูดลมหายใจลึก ปรับไมค์ให้สูงตามส่วนสูง แล้วโน้ตตัวแรกก็ดังขึ้นเบาๆ พร้อมๆ กับเสียงคีย์บอร์ดและกลอง


'Dreams are like angels
They keep bad at bay
Love is the light
Scaring darkness away
I’m so in love with you
Make love your goal'



...เพลงนี้ เพลงที่ผมฟังซ้ำๆ จนเขาหึงนักร้องสาวเสียงใสยูทูป

'The power of love
A force from above
Cleaning my soul
Flame on burn desire
Love with tongues of fire
Purge the soul
Make love your goal'



ดวงตาสีน้ำตาลจ้องตรงมาที่ผม เสียงร้องทุ้มๆ ที่ไม่เข้ากับดนตรีเท่าใดนัก หากแต่หนักแน่นและแน่วแน่ เขาตั้งใจร้องท่อนถัดไป

'I’ll protect you from the hooded claw
Keep the vampires from your door
When the chips are down I’ll be around
With my undying death defying love for you
Envy will hurt itself
Let yourself be beautiful
Sparkling light, flowers and pearls and pretty girls
Love is like an energy
Rushing in, rushing inside of me'



ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนที่ดวงตาและค่อยๆ ไหลอาบแก้ม

เพลงนี้ไม่ใช่เพลงรักหวานซึ้ง หากเต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ความรักอันหนักแน่น


'I’ll protect you from the hooded claw
Keep the vampires from your door
When the chips are down I’ll be around
With my undying death defying love for you
Envy will hurt itself
Let yourself be beautiful
Sparkling light, flowers and pearls and pretty girls
Love is like an energy
Rushing in, rushing inside of me, hmmm...'

The power of love
A force from above
Cleaning my soul
Flame on burn desire
Love with tongues of fire
Purge the soul
Make love your goal

This time we go sublime
Lovers entwined divine divine
Love is danger, love is pleasure
Love is pure, the only treasure
I’m so in love with you
Make love your goal

The power of love
A force from above
Cleaning my soul
The power of love
A force from above
A sky scraping dove
Flame on burn desire
Love with tongues of fire
Purge the soul
Make love your goal

Make love your goal



เมื่อเพลงจบลง ผมถึงเพิ่งรู้ตัวว่าร้านเปิดนานแล้ว และรอบตัวผมก็เต็มไปด้วยพนักงานและลูกค้า


พวกเขาเงียบกริบ... พากันมองบนเวทีที่มีร่างสูงใหญ่นั่งอยู่


แม๊กซ์วางกีตาร์ลง มองตรงมาที่ผมไม่คลาดสายตา "ผมให้อลิซฝึกเพลงนี้ให้ผมอยู่เดือนนึง" เขาพูดใส่ไมโครโฟน ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองจากลูกค้าและพนักงาน "นับตั้งแต่วันที่รู้ว่าคุณยอมตั้งท้องลูกของเรา... ผมดีใจมาก แต่รู้สึกผิดไปพร้อมๆ กัน ยิ่งหลังจากนั้นตอนคุณท้อง ผมเห็นคุณทรมาน เห็นคุณแพ้ท้อง ผมก็ทรมานไม่แพ้คุณเลยเจ้าหญิง ผมถึงเพิ่งรู้ว่าคุณเสียสละแค่ไหน ยอมเจ็บปวดแค่ไหน..."


"ผมอยากทำอะไรสักอย่างให้คุณ... ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้ต้องการอะไร ผมเลยคิดว่า ถ้าหากผมร้องเพลงที่คุณชอบ... เพื่อคุณ มันอาจส่งความในใจให้คุณได้บ้าง"


"ทุกคนครับ" เขาเรียกทุกคนในร้านด้วยรอยยิ้ม ดวงตาแวววาว "ที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี้ คือเจ้าหญิงของผม คือคนที่สวยที่สุดในโลก คนที่ดีที่สุดในโลก คนที่ผมรักที่สุดในชีวิต และเขาก็เป็นของผม... ของผมคนเดียว เขาได้ตั้งท้องเพื่อผม และผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณที่มีลูกเพื่อผม ข้าว... ผมรักคุณ รักคุณ"


ผมอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อ...


รอบกายค่อยๆ มีเสียงปรบมือดังขึ้น ในสมองผมยังอื้ออึง


แม๊กซ์ลงจากเวทีแล้ว มือใหญ่กระชับตัวผมเข้าสู่อ้อมกอด


ผมเข้าใจแล้ว...


"ข้าว... ผมรู้ว่าคุณเข้าใจผิดเรื่องผมกับอลิซ แต่ว่าผมกับหล่อนไม่มีอะไรกันจริงๆ ที่ผมหายไปกับหล่อนบ่อยๆ เพราะว่าผมไปฝึกเล่นกีตาร์และร้องเพลง แล้วก็..." ผมเอื้อมมือสั่นเทาออกไปปิดปากเขา ส่ายหน้าเบาๆ


"ฉันรู้..."


ริมฝีปากได้รูปจูบฝ่ามือที่ปิดอยู่ เขาโน้มตัวลงมากระซิบ "คุณถามใครก็ได้ เช็กกับใครก็ได้..."


"ฉันเชื่อเธอ..." เสียงผมยังสั่นไปด้วย


เข้าใจแล้ว...


ที่เขาสนิทกับอลิซ ที่เขาหายไปหล่อน ที่เขากลับบ้านค่ำ...


"วันที่คุณไปหาหมอ... ผมซ้อมกับอลิซครั้งสุดท้าย ที่นี่แหละ"


"แล้วที่อลิซรับโทรศัพท์..." ผมถามเบาๆ


"ผมวางมือถือไว้บนโต๊ะแล้วไปเข้าห้องน้ำ อลิซถือวิสาสะรับสายคุณเอง แต่ผมต่อว่าเธอไปแล้ว"


ผมพยักหน้ารับ เท่านี้ก็พอ... ผมเชื่อเขา


แม๊กซ์ไม่ใช่คนมีความสามารถทางด้านดนตรี การจะร้องและเล่นกีตาร์ให้ได้จนจบเพลงต้องอาศัยการฝึกซ้อมอย่างหนัก


ผมเชื่อเขา...


และหลังจากนั้น พนักงานทุกคนก็เข้ามายืนยัน ไม่พอ อลิซที่ตามมาทีหลังเข้ามาขอโทษที่รับสายผมด้วยตัวเอง พร้อมทั้งแนะนำแฟนหนุ่มให้รู้จัก


"ฉันเห็นคุณโทรมา เลยคิดว่าเรื่องด่วนเลยรีบรับน่ะค่ะ" เธอบอก ผมไม่รู้ว่าผมควรเชื่อเธอหรือไม่ เพราะถึงแม้จะมีแฟนแล้ว แต่สายตาที่เธอมองสามีผมนั้นยังเร่าร้อน


แต่สามีผมกลับไม่สนใจเธอเลย เขาตอบเธอรุนแรงแล้วพาผมกลับบ้าน








แม๊กซ์ถูกผมไล่ไปอาบน้ำ ผมจึงแอบหยิบโทรศัพท์เขาขึ้นมา


รู้ว่าไม่ดี ผมเชื่อเขาก็จริง แต่ความอยากรู้อยากเห็นมีมากกว่า ผมสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ เข้าไปดูเฟซบุ๊กของเขา เปิดแชทขึ้นมา


Maximus 'อลิซ ผมอยากให้คุณสอนผมร้องเพลงกับเล่นกีตาร์'
Alice 'แหม ทำไมจู่ๆ จะหัดละคะ'

Maximus 'คนอื่นไม่ว่าง'

Alice 'บอกก่อนสิคะว่าทำไม'

Maximus 'ผมจะเล่นให้ภรรยาผม'

Alice 'น่าอิจฉาเขาจัง'

ผมอ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกร้อนไปทั้งตัว อลิซ... คิดจะจับสามีผมจริงๆ!

Maximus 'หลังเลิกงานผมจะไปหา'

Alice 'ค่ะ'


หลังจากนั้นเป็นข้อความโต้ตอบเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ฝึกซ้อม สามีผมไม่ได้นอกใจเลย แม้ในแชท อลิซจะพยายามอ่อยเป็นระยะๆ แต่แม๊กซ์ก็ตอบกลับห้วนๆ เสมอ ผมอ่านทุกข้อความอย่างตั้งใจ


Alice 'ฉันขอโทษที่รับโทรศัพท์ภรรยาคุณค่ะ'
'แต่คนขี้หึงแบบนั้นเหมาะกับคุณหรือคะ'
'คุณเหมาะกับผู้หญิงมากกว่านะคะ'



มือผมสั่นน้อยๆ


Maximus 'อย่ากล้าพูดถึงภรรยาผมแบบนั้นอีก'


ผมยิ้มเมื่อเห็นข้อความนี้ หลังจากนั้นอลิซก็พูดแต่เรื่องการฝึกซ้อมอย่างเดียว จนกระทั่งถึงข้อความเจ้าปัญหาที่ผมเห็น


Alice 'อย่าให้ภรรยาคุณรู้นะคะ'
'เจอกันค่ะ'
'เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกคืนนะคะ'



สามีผมตอบหลังจากที่ผมแอบเช็คตอนนั้นไปว่า


Maximus 'ผมรักภรรยาผม เลิกพูดจาแบบนี้เสียที'
'ผมรำคาญ'



อลิซขึ้นข้อความว่าอ่าน และไม่ตอบกลับอะไร ผมดูรายชื่อเพื่อนในลิสต์ อลิซถูกบล๊อกไปแล้ว


ผมรีบเช็กแอพสนทนาอื่นๆ แต่ก็ไม่มีอะไร ผมเปิดดูทุกแอพ พยายามค้นหาความผิดปกติ แต่ก็ไม่เจออะไรทั้งนั้น


ผมห้ามรอยยิ้มไม่ได้


"สนุกไหมครับ ?" เสียงทุ้มเอ่ยล้อๆ ดังขึ้นเหนือหัว ผมสะดุ้ง เงยหน้ามองสามีในชุดนอน


"เอ่อ... ฉัน... ฉันไม่ได้ตั้งใจ"


"มีกล้องวงจรปิด แล้วก็นี่" เขาพูด เดินไปรื้อเอกสารจากกระเป๋า หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาให้ผม


ผมก้มลงอ่าน 'หนังสือสัญญาจ้าง' ในนั้นระบุค่าจ้างและขอบเขตการทำงานของครูสอนดนตรีอย่างอลิซ ด้านใต้มีลายเซ็นต์อลิซ


ผมวางกระดาษลง นิ่งคิด พยายามถามตัวเองว่าเชื่อเขาไหม ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้า ผมก็รู้ใจตัวเอง


เชื่อ... ต่อให้เขาโกหกผมก็เชื่อ แต่กระนั้น ผมก็ยังอยากรู้


"แล้วทำไมต้องเป็นอลิซ ?"


"นักดนตรีคนอื่นไม่ว่างน่ะครับ ไม่ก็กลัวผมจนไม่กล้าสอน จะให้ผมไปหาครูสอนที่นัดเวลาได้ในเวลากระชั้นขนาดนี้ก็หาไม่ได้ อลิซอาสาขึ้นมา ผมเลยจ้างหล่อน"


ผมบอกเขาว่าผมเชื่อ และผมก็เชื่อจริงๆ แต่ที่ยังพยายามหาช่องโหว่ นอกจากอยากรู้แล้ว ก็เพื่อให้ตัวเองดีใจล้วนๆ


"แล้วทำไมตอนนอน... ไม่ยอมกอดฉันเหมือนเดิม ?" ผมหน้าแดงไป ถามไป


เขายิ้มกว้าง หัวเราะลั่น "ก็คุณบอกเอง ว่าไม่ให้กอด"


"เอ๋ ?"


"คุณลืมเหรอ ? ใจร้ายจังนะ หลังจากที่ไปหาหมอครั้งก่อนน่ะ คุณบอกว่าเรามีเซ็กส์กันมากเกินไป กลัวว่าจะสะเทือนถึงลูก พอผมกอด คุณก็ห้าม บอกว่ากลัวผมจะมีอารมณ์" เขายักไหล่ "ก็จริงของคุณ ผมแตะตัวคุณทีไรมีอารมณ์ทุกที คงจะห้ามตัวเองไม่ให้ทำอะไรคุณไม่ไหว หลังจากนั้นผมเลยไม่กล้ากอดคุณนอน"


ผมอดห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้ จำได้แล้ว ผมพูดจริงๆ นั่นแหละ "แต่เธอหงุดหงิดใส่ฉัน"


"ผมลนต่างหาก คุณก็รู้ว่าผมโกหกคุณไม่เก่ง ขืนให้คุณซักมากๆ ผมต้องหลุดแน่"


เจ้าเด็กนี่! ผมหัวเราะ "ทำอะไรให้ฉันเครียดรู้ไหม ฉันคิดว่าเธออยากเลิกกับฉัน นี่ถึงกับจองตั๋วกลับบ้านแล้ว"


คราวนี้คนที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หุบยิ้มฉับ ขมวดคิ้วมุ่น "คุณว่าอะไรนะ ?"


"เธอทำฉันเครียด..."


"ไม่ใช่ตรงนั้น"


"ฉันคิดว่าเธออยากเลิก..."


"ไม่ใช่! คุณบอกจะกลับบ้าน กลับไทย! ที่นี่ต่างหากที่เป็นบ้านคุณ สามีคุณอยู่ที่นี่แล้ว คุณจะไปไหน!" เขาสาวเท้าเข้ามารวบตัวผมไปกอด "ข้าว... ทีนี่คือบ้านของคุณ เข้าใจไหมครับ ?"


ผมซุกหน้าลงกับหน้าอกแข็งๆ หน้าแดงไปถึงหู พยักหน้ารับ "อืม เข้าใจแล้ว"


แม๊กซ์พ่นลมหายใจ ค่อยๆ ปล่อยผมออกอย่างเสียดาย "...เสียดาย แต่ผมกอดคุณนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว"

ผมยิ่งหน้าแดง อ้าปากค้าง เห็นแม๊กซ์น้อยที่ไม่น้อยเลยชี้หน้าผมอยู่! ในเวลาสั้นๆ เท่านั้นไอ้นั่นแข็งโป้กจนเป้ากางเกงนอนนูนขึ้นมาได้ยังไงกัน!


เขาเบือนหน้าหนี อุบอิบพูด "อย่ามองผมแบบนั้น... คุณทั้งน่ารักทั้งสวย ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์"


ร่างกายไม่โกหก ผมยิ้มขำ เขายังต้องการผมจริงๆ


ผมโถมตัวใส่ร่างสูง สองมือโอบรอบเอวสอบ เงยหน้าขึ้นช้อนตาสบ กระซิบเสียงหวาน... ออดอ้อน... ผัว


มีคำหนึ่งในภาษาไทยที่แม๊กซ์ชอบมาก


คำว่าผัว... คำนี้หยาบกว่าสามี ผิดกับภาษาอังกฤษที่มีแต่คำว่า Husband


เขาชอบให้ผมเรียกเขาด้วยคำนี้เป็นภาษาไทย... ถึงแม้ทั้งประโยคจะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม


"ฉันอยากให้'ผัว'ทำจังเลย"


และอีกคำที่เขาชอบ... ในภาษาไทย เขามักเรียกผมด้วยคำนี้เสมอ ตอนที่ผมไม่โกรธเขาน่ะนะ

"ได้ครับ 'เมีย'"

.......

// นังข้าวบุกเล้าค่ะ!! หลังจากลงเรื่องนี้ให้คนอ่านหมั่นไส้ในเพจแล้ว เลยอยากหาดาวไลน์มาหมั่นไส้นังข้าวคนอวดผัวต่อค่ะ

WARNING (ทันไหม) เรื่องนี้ Mpreg เคะแก่กว่า เคะแรด เดี๋ยวเยๆ ค่ะ มีฉากอยู่ที่นิวหยวก เมะขี้หึง เมะโรคจิต ไม่มีดราม่า ไม่มีไคลแม๊กซ์ ไม่มีตัวร้าย ไม่มีนอกใจ ไม่มีทำร้ายร่างกาย/จิตใจ ไม่มีสาระ ไม่มีตรรกะ ไม่มีความสมจริง ไม่มี5อะไรเลยค่ะ จบในตอนนะคะ ฉากนิวหยวกแต่ละฉากได้จากการอ่านพันทิปและดูยูทูปค่ะ ตรงไหนไม่สมจริงหรือผิดพลาดรบกวนบอกด้วยนะคะ บางฉากอิงมาจากของจริง บางอันแต่งเพิ่มค่ะ

เรื่องนี้จะค่อยๆ ทยอยอัพนะคะ <3 นิยายรายสะดวกเหมือนเดิม 555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2016 19:53:52 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
รักผัวครั้งที่ 2


ผมตั้งใจเลือกอลิซ


ทำไมน่ะเหรอ


เพราะภรรยาผมน่ารักมากไงล่ะ


ข้าวเป็นชายไทยหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาวเหมือนกระเบื้องเคลือบ ผมคิดว่าผิวคนเอเชียคงเป็นแบบนี้ ขาวสะอาดและนุ่มนิ่ม เรือนผมสีดำขลับ ตาโต ปากนิด จมูกหน่อยอย่างกับตุ๊กตา ผมชอบเขาตั้งแต่เห็นเขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตและกางเกงแสล็กบนถนนในกรุงเทพแล้ว


โสเภณีที่ผมหิ้วมาจากปาร์ตี้ขโมยเงินผมไปและผมกำลังโกรธสุดเหวี่ยง ในตอนนั้นเองผมก็เห็นเจ้าหญิงเดินเปล่งประกายเคียงคู่มากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง


โชคดีที่วันนั้นผมชวนเขาไปโรงแรมได้


หน้าตาน่ารัก ตัวเล็กจ้อยก็จริง แต่เขากลับแก่กว่าผมถึงสี่ปี ซ้ำยังร้อนแรงบนเตียงอีกต่างหาก คืนแรกของเราเขาอาสาใส่ถุงยางให้ ร่างกายบอบบางขาวสะอาดบิดเร่าบนเตียง ครางเสียงหวาน จิกเล็บเข้ามาในเนื้อ ร้องเสียงหลง ผมกระแทกกายเข้าไปไม่ยั้ง ภายในเขาตอดรัดถี่ยิบ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ชายแท้ถึงหลงรักเกย์ได้


เขาพลิกตัวขึ้น ผมเห็นเลือดไหลตามง่ามขาและบั้นท้ายสวย ยิ่งทำให้อารมณ์คุกกรุ่น ดวงตาผมมองไปตามริมฝีปากแดงๆ ที่ครางหวาน ช่องทางสีชมพูดูไร้เดียงสากลับกลืนกินความใหญ่โตอย่างละโมบ


'เอาอีก อื้ม แรงอีก!' เสียงนั้นฟังไม่ได้ศัพท์ ขาเรียวหยัดขึ้น อวดปากทางที่ขมิบตอด เขาช้อนตามองผมอย่างยั่วยวน สะโพกส่ายร่อนควงท่อนลำอย่างเอร็ดอร่อย


ผมกระชับเอวบาง สวนกระแทกกลับไป ช่างร้อนแรง...



ผมใช้ถุงยางไปทั้งหมดแปดชิ้น แต่ยังไม่เต็มอิ่มเลย ทว่าข้าวกลับสลบเหมือด เลือดแห้งกรังติดปากทาง


ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก รื้อข้าวของของเขา เจอบัตรประชาชนที่อ่านไม่ออก แต่โชคดีที่มีชื่อภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่าง ผมรีบหนิยโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายบัตรประชาชนของเขาเก็บไว้ในเครื่อง แล้วใช้มือถือเขาโทรเข้าเครื่องตัวเอง


ข้าวที่นอนบนเตียงขยับกายเบาๆ นอนซุกหน้า มือกอดตัวเองเหมือนทารก ต่างกับชายที่กล้าขึ้นควบไอ้นั่นคนแปลกหน้าราวคนละคน


ผมยิ้มให้กับใบหน้าไร้เดียงสานั้น ค่อยๆ คลี่ผ้าห่มคลุมกายขาว


ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง


รู้แค่ว่า อยากอยู่กับคนๆ นี้ อยากเห็นสีหน้ามากกว่านี้...








ข้าวคงคิดว่าพวกเราคงไม่ได้เจอกันอีก แต่วันจันทร์ถัดมา ผมก็ใช้เพื่อนในเมืองไทยให้จ้างนักสืบเอกชนตามหาข้าว


ผมทำเป็น'บังเอิญ' เจอเขาบ่อยๆ ร่างเล็กๆ ในชุดสุภาพที่ปกปิดความร้อนแรงไว้มิดชิดนั้นใช้ชีวิตประจำวันสามัญเหมือนปกติ


ผมไปกินข้าวที่ฟู๊ดคอร์ทที่เขาไปบ่อยๆ
ผมทำเป็นไปดื่มกาแฟแถวๆ ใกล้บริษัทเขา
ผมถือแผนที่ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวหลงทางใกล้อพาร์ตเมนต์เขา


จากการบังเอิญเจอบ่อยครั้ง ข้าวก็ค่อยๆ ตอบรับผม เราไปกินข้าวกันบ้าง ข้าวแนะนำอาหารไทยข้างทางให้ผมกิน พอผมแสร้งถามเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในไทย เขาก็กระตือรือร้นแนะนำ


ข้าวไม่ควรทำแบบนั้นเลย


มันยิ่งทำให้ผมยึดติดกับเขา ยิ่งได้เห็นมุมมองอื่นๆ ของข้าว ได้เห็นใบหน้าหวานใสแดงระเรื่อด้วยอากาศร้อน ได้เห็นริมฝีปากนุ่มๆ และฟันขาวขบกัดของหวาน ได้เห็นใบหน้าสดใส ได้ฟังเสียงหัวเราะ ยิ่งทำให้ผมคลั่งไคล้


ในท้องผมมีผีเสื้อโบยบินทุกครั้งที่เห็นเขา


แต่ข้าวใจแข็งเหลือเกิน


ไม่ว่าจะชวนไปเดทกี่ครั้ง เขาก็หยุดความสัมพันธ์พวกเราไว้ที่เซ็กส์เฟรนด์ แต่เซ็กส์ครั้งต่อๆ มากลับจืดชืดนัก


ผมรู้ว่าเขาตั้งใจทำตัวแบบนั้น เพราะกับคู่ขาคนอื่นๆ ข้าวไม่ได้ลดความร้อนแรงลงเลย แต่กับผม เขากลับทำหน้าเบื่อหน่ายเหมือนสามีเบื่อภรรยาที่แต่งงานกันมานาน ทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน เขาจะรีบทำให้เสร็จ ไม่มีการส่ายสะโพก ไม่ขยับขายั่วเย้า ไม่ครางให้ผมได้ยิน


ผมควรจะเสียใจ แต่กลับลิงโลด เมื่อครบกำหนดพักร้อน ผมก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้


ข้าวไม่ควรทำแบบนั้นจริงๆ


ไม่ควรปฏิบัติกับผมแตกต่างกับคนอื่น... เพราะนั่นยิ่งทำให้ผมเข้าข้างตัวเอง


ผมกลับไทยมาอีกครั้งในฐานะนักลงทุน


อันที่จริง ประเทศที่ร้านอาหารเฟรนไชส์ควรลงทุนลำดับต่อไปคือสิงคโปร์ แต่ผมกลับลัดคิวให้ประเทศไทยก่อน ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจเลย และมันก็ไม่ได้ทำกำไรให้มากมาย


แต่ผมไม่สนใจ ไม่สนใจหุ้นส่วนที่ติเรื่องนี้ด้วย ผมควักกระเป๋าตัวเองลงทุนอย่างเร่งรีบ ในที่สุดก็ได้ร่วมมือกับบริษัทเครือข่ายห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศได้


ผมรีบบินไปไทยอย่างยินดี ไปเปิดสาขาแรกในประเทศไทยด้วยตัวเอง... แค่ชั่วโมงเดียว รีบทักทายหุ้นส่วนในไทยกับบุคคลสำคัญในงานเปิดตัว ก่อนจะเร่งรีบถอดสูท ขับรถไปรอคนตัวเล็กเลิกจากงาน


สองปีสี่เดือน ระยะเวลาที่ผมตามจีบคนสวยใจร้าย ข้าวเป็นคนใจแข็งที่สุดที่ผมเคยเจอ ทั้งๆ ที่น่ารักนุ่มนิ่ม แต่กลับปากไม่ตรงกับใจ ตีหน้าเย็นชาทุกครั้งที่เจอผม แต่กลับยอมให้ผมไปรับไปส่ง ถึงผมจะทุรนทุรายด้วยความหึงหวงเมื่อเจ้าหญิงของผมไปนอนกับชายแปลกหน้า แต่ข้าวกลับมอบรสแสนหวานให้ด้วยจูบทุกครั้งที่ผมพบว่าเขามีอะไรกับคนอื่น


ราวกับไถ่โทษอย่างไรอย่างนั้น


ทุกครั้งที่เขายอมให้ผู้ชายอื่นเข้าไปในตัว เขาจะกลับมาหาผมด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
ทุกครั้งที่เขายอมให้คนอื่นจูบ เขาจะจูบผมด้วยความร้อนแรงยิ่งกว่า


ถึงจะเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์ แต่ผมรู้ว่าเจ้าหญิงใจอ่อนกับผมมาก ผมจึงทำตัวเป็นเด็กดี เป็นหมาที่ซื่อสัตย์ รอคอยให้ข้าวกลับมา


สองปีสี่เดือนที่ผมไม่มีอะไรกับใคร เพราะไม่อยากเห็นใบหน้าเจ็บปวดของข้าว สองปีสี่เดือนที่ผมเป็นของตาย เป็นตัวเลือก เป็นเซ็กส์เฟรนด์ เป็นคนที่ข้าวออกปากไล่ เป็นคนที่ข้าวนั่งคร่อมตัก เป็นคนที่ข้าวร้องไห้ให้


ในที่สุด ผมก็ได้ข้าวมาครอง... ผมขอเขาเป็นแฟน แล้วข้าวก็ตอบกลับมามึนๆ


ยิ่งกว่ามีผีเสื้อตีในท้องอีก เหมือนผมบินได้ เหมือนผมเป็นคนที่เหนือกว่าคนทั้งโลก


หลังจากนั้น ผมก็เว้นระยะเวลาสักหน่อย บินไปโน่นมานี่ ทำตัวยุ่งๆ เข้าไว้ให้ข้าวหงุดหงิด เมื่อผมขอเขาหมั้น ข้าวก็ตอบตกลง


คราวนี้ผมได้ใจ แหวนแต่งงานที่สั่งทำตั้งแต่คืนแรกที่เรานอนด้วยกันถูกใส่กล่องกำมะหยี่หรู ผมคุกเข่าให้เจ้าหญิงเพื่อขอเขา
แต่งงาน


ข้าวมองแหวนเพชรในมือแล้วกระพริบตาปริบๆ ราวกับประกายเพชรทำให้ตาเขาพร่าเลือน ส่วนผมที่ใจตุ้บๆ ต่อมๆ แม้กระทั่งตัวเองยังรู้ตัวดีว่าเร็วเกินไปนั้นภาวนาในใจ


'Say yes! Say yes! Say yes!'


แล้วเจ้าหญิงของผมก็พยักหน้า

ข้าวตอบด้วยเสียงหวาน ดวงตาเป็นประกาย น่ารักน่าใคร่ งดงามกว่าใครบนโลก 'Yes. I will.'



ผมร้องตะโกนอย่างยินดีกลางร้านอาหารสุดหรู อุ้มคนตัวเล็กเต็มอ้อมแขน ไม่สนใจอาการขัดเขินของเขา ผมบอกคนทั้งร้านว่า

'He will marry me! He's mine!'



วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ผมไม่รีรอรีบกูเกิ้ลหาพิธีแต่งงานแบบไทยทันที คืนนั้นผมไปส่งข้าวกลับอพาร์ตเมนต์ เขาปฏิเสธที่จะไปค้างกับผมที่คอนโดหัวชนฝา ทิ้งให้ผมนอนไม่หลับคนเดียวบนเตียงกว้าง เพียงแค่คิดว่าอีกไม่นานผมจะได้เจ้าหญิงแสนสวยมานอนเคียงข้าง ได้เห็นใบหน้าน่ารักทุกเช้าที่ตื่นนอน จะได้เห็นเขายืนอยู่ในครัว และถ้าโชคดี ผมจะได้ลูบท้องที่มีลูกของเราอยู่ข้างในด้วย


ผมฝันหวาน ยิ่งคิดยิ่งมีความสุข ยิ่งนอนกระสับกระส่าย ผีเสื้อในท้องฝูงใหญ่บินว่อน เหมือนกับว่าผมกลายเป็นผีเสื้อเสียเอง
 

ในที่สุดผมสั่งให้เลขาหาออร์แกไนเซอร์จัดพิธีไทย ยกขบวนไปถึงต่างจังหวัด บ้านเกิดข้าว


ข้าวไปคุยกับพ่อแม่ก่อนแล้ว แต่ดูพวกเขายังงงๆ แม้กระทั่งผมกับข้าวจดทะเบียนกันแล้ว หรือกระทั่งตอนที่พวกเขาผูกข้อมือพวกเราด้วยด้ายสีขาว พ่อกับแม่ข้าวก็ยังดูมึนๆ


เราค้างที่บ้านเกิดข้าวสามวัน พ่อกับแม่ใจดี ถึงจะงงๆ แต่ก็รับรองพวกเราอย่างดี แม่ของข้าวทำอาหารอร่อยแต่เผ็ด พ่อของข้าวชอบเลี้ยงไก่ ส่วนน้องชายข้าวก็มีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนแล้วและมีลูกด้วยกันสองคน ข้าวเรียกพวกเขาด้วยภาษาไทยที่คล้ายคำด่าว่า 'แว๊นซ์กับสก๊อย' ผมไม่รู้ความหมาย แต่คิดว่าคงเป็นคำไม่ดี เพราะดูแม่จะโกรธ


ถึงครอบครัวข้าวจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่ก็เป็นมิตรมาก พ่อชวนผมดื่มบรั่นดีกลั่นจากข้าวโพด เล่นเอาผมเมาทั้งๆ ที่ดื่มไปได้ไม่มาก แต่พ่อก็ยังยกนิ้วให้ ผมเดาเอาว่าคงชมว่าผมคอแข็งละมั้ง


พ่อกับแม่เรียกผมว่า 'เขยฝรั่ง' เพิ่งรู้จากผู้ช่วยคนไทยที่บริษัทส่งมาช่วยงานว่าแปลว่า 'Westerner son-in-law' แต่ดูเหมือนในความรู้สึกคนไทยจะไม่ได้แปลตรงตัวแบบนั้น เพราะข้าวไม่ยอมแปลคำนี้ให้ แถมยังมีท่าทางโกรธๆ เมื่อใครเรียกผมแบบนั้น


'เค้าคิดว่าฉันแต่งกับเธอเพราะเงิน! เธอไม่เข้าใจหรอกว่าคนบ้านนอกคิดยังไงเมื่อแต่งงานกับฝรั่งน่ะ' ข้าวกระฟัดกระเฟียด ผมรีบกอดเขาแน่น ปลอบโยนเขาว่า


'ผมรู้ ผมเข้าใจ ข้าวไม่ได้เป็นคนโลภมากแบบนั้น'


แต่ในใจผมกลับอยากให้ข้าวโลภมาก รักเงินมากๆ เป็น gold digger ยิ่งแต่งกับผมเพราะเงินได้ยิ่งดี เพราะผมมีเงินมากมาย ดังนั้นเขาจะได้รักผมคนเดียวไปนานๆ


หลังจากนั้นผมก็พาข้าวมาจัดพิธีอีกครั้งที่นิวยอร์ก บ้านเกิดผม พ่อกับแม่ผมมาร่วมงานด้วย แม้จะไม่ชอบใจนัก แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร พ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่ผมเด็กๆ แต่ก็ทำหน้าที่ผู้ปกครองสุดความสามารถ ผมจึงไม่ได้รู้สึกขาดเหลืออะไร ดังนั้น การที่ผมแต่งงานกับผู้ชาย พวกเขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรนอกจากยินดีไปกับผม


ครอบครัวผมไม่ได้รักกันหรือสนิทสนมเหมือนครอบครัวข้าว แค่พ่อกับแม่มาได้ผมก็แปลกใจแล้ว


ผมเตรียมพร้อมทุกอย่างให้เจ้าหญิงของผม ทั้งเพนต์เฮาส์ในทำเลทอง แม่บ้าน คนขับรถ ไม่ว่าจะอะไร ผมก็พร้อมหาให้ทุกอย่าง


หลังงานแต่ง ข้าวที่มาแต่ตัวและรอยยิ้มสวยๆ ก็อ้าปากค้าง ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อมองข้าวของหรูหราและห้องกว้างขวางที่ตกแต่ง
ด้วยสีเอิร์ธโทนที่ข้าวชอบ


ผมช่วยเอาโค้ตไปเก็บให้ข้าว ส่งยิ้มให้เขา แต่ข้าวกลับทำหน้าพิลึก แล้วบอกว่า


'เธอน่าจะเก็บเงินไว้บ้าง'


ผมหุบปากฉับ ลืมไปตลอดว่าเขาแก่กว่าผม เพราะหน้าอ่อนเยาว์นั้นแน่ๆ


แล้วผมยิ่งโมโหหนัก เมื่อข้าวไม่ยอมมีอะไรกับผมที่โซฟา เขากลับว่าจะทำเลอะแล้วเสียค่าซักแห้งแพงหูฉี่


ผมรีบส่ายหน้า ปลอบโยนเขาว่า 'มาเถอะครับเจ้าหญิง ไม่ต้องห่วง ต่อให้ไม่ส่งซักแล้วซื้อใหม่ทุกครั้งที่เรามีเซ็กส์กันผมก็ยอม'


แต่ข้าวส่ายหน้าลูกเดียว แค่เอาตูดแตะโซฟาก็สะดุ้งโหยง


ข้าวเป็นคนแปลก


'ข้าว ทีตอนทำกันในรถที่ลานจอดรถคุณยังยอมเลย' ผมอ้อน แต่ข้าวหน้าแดงจัด อุบอิบตอบ


'นั่นมันฉุกเฉิน... เธอหาถุงยางไม่เจอเอง...'


เราเคยทำกันในรถออดี้ของผม ส่วนที่ผมหาถุงยางไม่เจอก็เพราะผมไม่หาต่างหาก ท่าทางที่ต้องขมิบไม่ให้น้ำขาวๆ ไหลออกจากก้น ใบหน้าแดงก่ำขณะใส่กางเกงในและกางเกงแสล็กน่ะน่ารักจะตาย


แต่ผมอยากประเดิมโซฟาใหม่ บ้านใหม่ด้วยการมีอะไรกันทุกซอกทุกมุมจริงๆ ในที่สุดจึงต้องยอมพูดอย่างใจป้ำ 'ถ้าอย่างนั้น ผมยอมใส่ถุงยางก็ได้'


ข้าวหน้าแดงไปถึงคอ น่ารักเหลือเกิน 'บะ...บ้า! ปกติเธอก็ปล่อยในตัวฉันตลอด ที่จะทำเลอะน่ะมันฉันต่างหาก!'


ผมรอคำนี้อยู่พอดี ขยับยิ้มแล้วยกเขาขึ้นพาดบ่า 'งั้นผมจะใส่ถุงยางให้คุณก็แล้วกัน'


ข้าวร้องลั่น ผมโยนเขาลงบนโซฟากว้าง รีบตวัดตัวคร่อมก่อนที่คนตัวเล็กจะโวยวาย 'อย่าดื้อนะเจ้าหญิง ให้ผมทำเสียดีๆ ไม่อย่างนั้นผมจะทำจนคุณเดินไม่ได้'


'ปะ ปกติก็เดินไม่ไหวอยู่แล้วนี่!' ข้าวร้องอย่างเหลืออด ผมหัวเราะ ดันบ่าแคบให้ติดโซฟา


'งั้นคุณก็อย่าเดินไปซักสองเดือนนะครับ!'


เสื้อผ้าหลุดออกจากร่างขาวๆ อย่างง่ายดาย ข้าวดิ้นอย่างต่อต้าน ท่าทางจะไม่ชอบโซฟาจริงๆ พิลึกคน ทั้งๆ ที่ในห้องน้ำปั๊มที่ไทยเราก็ทำกันมาแล้ว อย่าว่าแต่ที่โซฟาเลย


ข้าวถูกปอกเปลือกล่อนจ้อน เนื้อตัวขาวสะอาดเหมือนเด็กแรกเกิด ผมไล่จูบทั่วตัว เขารีบปัดป้องตัวเองเหมือนเจ้าสาวพรหมจรรย์


'ฮื้อ... หยุด ไม่เอา ไปที่เตียงเถอะนะ...' เสียงเขาอ่อนจนน่าสงสาร ผมเงยหน้าจากยอดอกน่ารัก จูบปากเขาหนักๆ ก่อนจะรับคำ


'ได้...' แล้วก็ก้มหน้าขบเม้มเนื้อนิ่มที่ทำให้รู้สึกดีต่อ ไล้ลงไปถึงหน้าท้องแบนราบ ลงลิ้นเลียวนแอ่งสะดือเล็กๆ แล้วไล่ลงไปถึงหว่างขาขาว


'อื้อ... อะ อะ หยุด...' มือเล็กๆ พยายามดันผมออก แต่ผลไม้แสนอร่อยอยู่ตรงหน้าแล้ว และผมก็กระหายมากเสียด้วย...


ริมฝีปากกลืนกินท่อนลำเล็กๆ เข้าปาก ปลายหัวไร้เดียงสาที่คงไม่เคยใช้งานยังเป็นสีชมพูเข้าไปนอนบนลิ้นผมเรียบร้อย ผมขบเคี้ยวแท่งเล็กๆ อย่างเอร็ดอร่อย ดูดกลืน เคล้าคลึงไปถึงลูกกลมๆ สองลูกน่ารักด้านล่าง


ข้าวคราง สองขาที่อยู่ข้างหูหนีบแน่น เสียวสะท้านไปถึงสันหลัง ผมก็ร้อนจัดโดยเฉพาะกลางตัว ข้าวน่ารักมาก น่ารักยิ่งกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก ถึงจะเคยใช้ปากให้เขามาแล้ว แต่ข้าวก็ยังน่ารัก... น่ารักเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง


เอวบอบบางลอยไม่ติดโซฟาเมื่อผมแลบลิ้นเลียส่วนปลายที่ร่องเล็กๆ เขากรีดร้องคับห้อง ผมสูบกลืนท่อนลำ ปรนเปรอเขาไม่นาน น้ำหวานก็กระฉอกออกจากผลไม้สด


ผมกลืนน้ำรักเข้าไปจนเกลี้ยง ส่งยิ้มให้คนใต้ร่าง 'เห็นไหม ไม่เปื้อนแล้ว'


ข้าวครางฮือๆ 'ไหนบอกว่าจะพาไปที่เตียง...'


'ไปครับเจ้าหญิง แต่หลังจากที่ผมเสร็จนะ...' ว่าแล้วก็ถอดกางเกง ตามด้วยกางเกงใน ข้าวตาโต ขยับกายหนี แน่ล่ะ ของผมเป็นที่ภาคภูมิใจไม่น้อย ข้าวก็ควรจะภูมิใจด้วยที่เป็นภรรยาและเป็นเจ้าของไอ้แม๊กซ์น้อย


'อย่าโกงนะ...' ข้าวส่ายหน้า ถดตัวให้พ้นจากผม 'ปะ ไปที่เตียงเถอะ'


ผมไม่ตอบ แต่ตะปบร่างน้อยให้เข้ามาชิด ปิดปากสวยด้วยริมฝีปากตัวเอง ส่งมือไปลูบไล้เรือนร่างนุ่มนิ่ม จิกยอดอกสีชมพู แล้วย้ายไปที่ก้นนิ่ม ใช้สองมือแหวกออก นิ้วควานหาช่องทางเล็กๆ ก่อนจะดันตัวเขาขึ้น ผมไม่สนใจแล้วว่าข้าวจะเสียดายโซฟามากขนาดไหน


ข้าวต่อต้านเพียงครู่หนึ่ง เมื่อผมยกสองขาเรียวขึ้นให้พับติดหน้าอก และก้มตัวลงไปลิ้มรสช่องทางสีหวาน ลิ้นควานควักป้อนน้ำลายเต็มปาก ยิ่งดูดกินยิ่งหวานอร่อย ร่างกายผมร้อนรุ่ม อยากสอดใส่เข้าไปในร่างนี้ให้เต็มไปด้วยน้ำรัก ให้ทั้งตัว ทั้งใบหน้า ทั้งริมฝีปากมีน้ำอสุจิอาบไปทั่วจนส่งกลิ่นผมออกมา


ผมใช้ทั้งนิ้วและลิ้นเล้าโลมหยอกล้อกับโพรงแคบ นิ้วชี้ค่อยๆ ดันเข้าไปเพื่อขยาย รูเล็กๆ นั้นไม่ยอมต้อนรับสักน้อย ถึงจะเคยรับของผมเข้าไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่มันก็ยังผลักไสออก ผมจึงต้องละเลงจูบให้หนักขึ้น ข้าวครางอย่างเสียดเสียวอยู่เหนือหัว ท่อนลำเล็กๆ ชูชันมีน้ำใสปริ่มส่วนปลาย


ผมงอนิ้วชี้ ขูดผนังด้านในเมื่อข้าวรับผมเข้าไปแล้ว จากนิ้วหนึ่งเปลี่ยนเป็นสอง และค่อยๆ กลายเป็นสาม ในที่สุดช่องทางก็ว่าง่าย ตอบรับผมอย่างยินดี ผมกดลงเน้นตรงจุดกระสันภายในอย่างช่ำชอง ข้าวร้องซี๊ด


'ฮ้า ตรงนั้น อื้มมม แรงอีก'


ผมยิ้ม ใครกันที่ไม่ยอมมีเซ็กส์น่ะ


นิ้วล้วงลึกเข้าไปจนสุด ข้าวขบฟัน 'ฮื้อ พะ.. พอ'


'หืม ?' ผมค่อยๆ ถอนนิ้วออกมา บดเบียดจูบ ขยี้ริมฝีปากแสนหวาน ลิ้นร้อนควานไปทั่วช่องปาก เราแลกลิ้นจนน้ำลายข้าวไหลเยิ้มเลอะแก้ม เซ็กซี่เป็นที่สุด


'อึก เข้ามา... ฉันอยากได้... อยากได้ของนาย...' ข้าวครางไม่เป็นคำ สองขาอ้าออกเชิญชวนผมให้ลิ้มรส ผมหัวเราะเจ้าเล่ห์


'อยากได้อะไรครับ ?'


ข้าวหน้าแดง โถ ที่รัก มาถึงขนาดนี้แล้วยังอายอยู่อีก เขาหายใจหอบ ให้คำตอบที่ผมชอบ '**ยนาย ฉันอยากได้ **ยแม๊กซ์'


ข้าวร้อนแรงเหลือเกิน ผมให้รางวัลเขาด้วยจูบ มือประคองความใหญ่โตที่อยากเข้าไปสำรวจช่องทางจะแย่ให้จ่ออยู่ปากทาง ข้าวตัวสั่นระริก ขนลุกเกรียว ความอุ่นร้อนเท่าท่อนแขนเสือกแทงเข้าไปจนสุด ข้าวตัวสั่นและต้องอ้าขาให้กว้างกว่าเดิม


'ฮ้า แม๊กซ์'


'อื้ม อื้ม เอาอีก ฮ้าา อื้อ แรง... อึก...'


'แรงอีก... แรงอีก อื้อ อื้ม ตรงนั้น...'


เราสองคนเหงื่อไหลเยิ้มแทบเป็นเนื้อเดียว ผมกระแทกท่อนลำเข้าไปในรูเล็กๆ ที่ต้องอ้าออกจนแทบฉีกเพื่อรองรับได้หมด ข้าวเจ็บไม่น้อยเพื่อรับผมเข้าไปจนสุดความยาว ผมไม่รอให้เขาปรับตัว รีบขยับเสียดสี บดขยี้ภายในราวกับจะให้แหลกเป็นจุล


ผมรู้จักภายในของข้าวดี เขาชอบให้ใส่เข้าไปให้ลึก จนกระแทกเกิดเสียงกึก แล้วหลังจากนั้นให้ทำให้แรงที่สุด เขาชอบแบบนั้น ชอบให้ร่างกายโดนย่ำยี มือเล็กๆ จิกไหล่ผมจนเลือดซึม ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ารูตัวเองจะฉีกขาดหรือไม่


เอาเข้าจริงผมก็ไม่สนใจเหมือนกัน


ผมจับเขานั่งตัก เรามาอยู่ในท่านั่ง ข้าวเสร็จไปครั้งหนึ่งแล้ว ภายในบีบแน่น ยิ่งเขานั่งทับแบบนี้ยิ่งสัมผัสภายในได้ลึกล้ำ ข้างในของเขาบีบรัดผมแทบขาดใจ ความอุ่นร้อนโอบล้อมหวานละมุนและร้อนแรง โพรงชื้นร้อนระอุ ผมครางเสียงต่ำ เสียงพั่บๆ ของเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นในห้อง ปนกับเสียงแจ๊ะๆ ของน้ำหล่อลื่นภายในก้นข้าว


ข้าวยันตัวขึ้น สะบัดเอว ดวงตาวาววามด้วยรสกาม


ผมชอบนัก เขาในร่างนี้


มาแล้ว ข้าวที่ร่านสวาท


ลิ้นน้อยๆ แลบเลียริมฝีปาก สองขาหยัดขึ้นเพื่อส่งแรง โน้มตัวมาด้านหน้า ส่งริมฝีปากมาจูบผมอย่างร้อนแรง ผมลูบไล้ไปตามเอวบางคอด เขาโหย่งตัวหยัดกายขึ้นช้าๆ กดจูบ ลิ้นนุ่มหวานควานเข้ามาในโพรงปาก ขณะที่แอ่นอกให้เสียดสีกับผิวเนื้อร้อนผ่าวของผม ช่องทางด้านล่างที่กระสันอยากก็ค่อยๆ รูดท่อนเนื้อผมจนร้องดังซี๊ด


'ข้าว... แน่น...'


ข้าวพูดทั้งๆ ที่ยังบดริมฝีปากผมปนเสียงหอบ 'ฮื้ม เดี๋ยวจะสนุกกว่านี้...'


โพรงเล็กๆ รูดขึ้นจนแทบหลุด แล้วจู่ๆ ข้าวก็ขยับสะโพก ปล่อยน้ำหนักตัวให้ท่อนลำร้อนเสียดแทงเข้าไปในตัวรวดเดียว


ความร้อนผ่าวและแรงตอดทำให้ผมครางเสียงดัง ยอดเยี่ยมจนตาพร่า ข้าวก็ตัวหงิกงอ พ่นน้ำหวานกระเด็นมาจนถึงหน้าอก คนตัวเล็กหวีดร้อง โพรงร้อนราวกับไฟบีบรัดเกร็งกระตุก ส่วนกลางกายผมขยายใหญ่ขึ้นอีกจนดันหน้าท้องแบนๆ ให้ป่องขึ้น


'ฮึก หยะ ใหญ่...' ผมจูบริมฝีปากช่างยั่วแล้วเริ่มขยับกาย ส่งแรงกระทั้นจากด้านล่างเสียบเสยเสียดแทงมุมหวานๆ ภายในที่ฉ่ำชื้น ข้าวตัวสั่นระริก เม็ดเหงื่อหวานกระทบกายผมจนเปียกชุ่ม ผมเอื้อมมือออกไปประคองยอดอกนุ่มนิ่ม หัวนมข้าวเป็นสีชมพูเหมือน
เยลลี ทั้งเด้งทั้งนุ่มทั้งอร่อย ผมขบเยลลีข้างหนึ่ง ใช้ลิ้นตวัด กระแทกเอวให้ท้องแบนราบป่องเป็นรูปทรง ข้าวเกาะไหล่ผมแน่น ครางฮือๆ อย่างเสียวกระสัน


ผมเลียริมฝีปาก เพิ่มแรงขบเยลลีสีหวาน


ข้าวจิกเล็บที่ไหล่ ช้อนตาเงยขึ้นสบ กระซิบเสียงพร่า ดวงตาเลื่อนลอย 'ฮื้มม ดี อ๊ะ รัก... รักนะ...'


อา... ข้าว...


...ยั่วผมแบบนี้ได้ยังไงกัน


หลังจากนั้น จากเซ็กส์ได้กลายเป็นการผสมพันธุ์ เราสองคนกลายเป็นสัตว์ ข้าวเป็นสัตว์ตัวเมีย ถ่างขาให้ผมเสียเสยทุกมุม ส่งเสียงร้องครางรัญจวน เหงื่อชะโลมกายจนเปียกชื้น จากโซฟาหนานุ่มผมอุ้มข้าวทั้งๆ ที่ยังฝังตัวเองอยู่ภายในให้ไปอยู่หน้าประตูห้องนอน แต่ก็ไม่ถึงเตียงหรอก...


...ผมเสร็จไปแล้วรอบหนึ่ง อีกรอบอยู่ที่หน้าประตูนั่นเอง ผมดันร่างบอบบางติดผนัง ข้าวโอบขารัดเอวผมแน่นเพราะกลัวตก นั่นยิ่งทำให้ผมเสือกแทงเข้าไปในช่องทางแคบๆ ได้ลึกขึ้น


แล้วเราค่อยไปจบกันที่เตียงอีกยก ส่วนข้าวนั้น หมดแรงและเป็นลมไปตั้งแต่เสร็จเป็นรอบที่หกที่ปากประตูห้องนอนแล้ว...











หลังจากคืนเข้าหอแสนร้อนแรง ผมจึงบังเกิดความสงสารภรรยาในที่สุด ในเช้าวันที่สามที่เรามีเซ็กส์มารธอน ผมจึงถอนตัวออกจากช่องทางนุ่มหยุ่น


ข้าวเกิดมาเพื่อถูกข่มขืนอย่างแท้จริง ขนาดผมสอดใส่ กระแทกกระทั้น ควานควักเขาติดๆ กันถึงสามวันสามคืน ปากทางเขากลับแย้มอ้าออกเพียงเล็กน้อย ปากทางยังเกร็งกระตุกตอดรัดแท่นลำอย่างหิวโหยราวกับป้อนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม


เจ้าหญิงเปิดตาขึ้นดูผมง่วงๆ ครางฮือในลำคอ 'เอาออกไป...'


'แน่ใจเหรอครับ ?' ผมยิ้ม คาท่อนลำไว้ครึ่งๆ อย่างตั้งใจจะแกล้ง 'ข้าวชอบ **ยผมจะตาย'


ข้าวส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้ แต่ไม่มีแรงต่อต้าน เพียงแต่ซบหน้าลงกับหมอน แล้วกรนออกมาหน้าตาเฉย


ผมจึงถอนใจ ยอมปล่อยให้ข้าวนอนในที่สุด








เรามีอะไรกันทุกวัน แต่นั่นก็หยุดไม่ให้ข้าวไม่ไปทำงานไม่ได้ ผมทั้งอ้อนวอน ข่มขู่ ขอร้องไม่ให้เจ้าหญิงไปทำงานเป็นเสมียนที่บริษัทเล็กๆ นั่นแทบตาย ทั้งๆ ที่เงินเดือนก็น้อยนิด ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมอยู่ในห้องเฉยๆ ให้ผมปรนเปรอ


ผมมองแผ่นหลังเล็กตาละห้อยทุกครั้งที่เขาหันหลังเข้าออฟฟิศ


แต่ถึงอย่างนั้น เพราะทำงานทุกวัน ผมจึงเห็นข้าวตื่นนอนก่อนแล้วทำอาหารเช้าให้


ข้าวช่างเอาใจใส่ ทั้งเอาอกเอาใจเก่งเหลือเกิน ผมหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น เคยบอกเขาแล้วว่าไม่จำเป็น แต่ข้าวก็ยืนยันที่จะตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อทอดแพนเค้กและแฮมให้ วันไหนที่มีเวลา ข้าวจะหุงข้าว ทำอาหารไทยให้กิน


กาแฟที่ข้าวชงก็อร่อยกว่าร้านกาแฟ ผมจูบแก้มนุ่มๆ กอดเอวบาง ซุกหน้ากับซอกคอขาว ลำบากไปนิดเพราะเจ้าหญิงตัวเล็กมาก ข้าวต้องทำกับข้าวไปลากผมที่เกาะหนึบเป็นปรสิตเอเลียนไปด้วย


เราอยู่ด้วยกันมาสองปี สองปีที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต อยากตื่นนอนมาเจอข้าวแบบนี้เรื่อยไป ภาวนาให้วันคืนแสนหวานอย่าได้จบลง


ผมออดอ้อนเขาให้อุ้มท้องลูกของเรา ข้าวปฏิเสธอยู่หลายครั้ง ในครั้งที่สิบ เขาจึงตกลงด้วยท่าทางมึนๆ เพราะผมถามเขาขณะที่กระแทกตัวเข้าไปในร่างน้อยจนแทบย่อยยับ


ข้าวอุ้มท้อง อุ้มท้องลูกของผม!


ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ ข้าวตัวน้อยจะมีท้องป่องโป่งนูน คราวนี้ไม่ว่าใครก็จะไม่มีทางได้ข้าวไปอีกแล้ว เขาเป็นของผมคนเดียว เขาจะอุ้มท้องให้ผมและออกจากงาน


แต่กระบวนการอุ้มท้องของผู้ชายนั้นยากลำบาก ข้าวต้องตรวจสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต หน่วยงานของรัฐเข้ามาประเมินพวกเรา ทั้งสภาพทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ของพวกเรา หลังจากนั้น ข้าวยังต้องฉีดฮอร์โมนจำนวนมาก เข้ารับการผ่าตัดอีกหนึ่งครั้งเพื่อฝังมดลูก และยังต้องนอนนิ่งๆ เพื่อให้มดลูกเติบโตและแข็งแรงพอที่จะมีลูก


ผมกุมมือแสนสวยไว้ ขบริมฝีปาก หวังสุดใจว่าจะสามารถเจ็บปวดแทนเขาได้ ข้าวที่ตัวเล็กบอบบางนอนหน้าซีดเซียว อาเจียนเอายาบำรุงออกมาจนไม่เหลือ หลังจากที่ลูกติดแล้ว ข้าวยังต้องทุกข์ทรมานกับการแพ้ท้อง เขาวิ่งวนอาเจียนสลับกับนอนหลับ ผมทำอะไรไม่ได้เลย นึกโกรธตัวเองที่ทำให้คนที่รักเจ็บปวดขนาดนี้


ผมจึงอยากทำอะไรเพื่อข้าวสักอย่าง


แต่ถึงจะแต่งงานและมีลูกด้วยกันแล้ว ข้าวก็ยังเป็นข้าว ถึงจะเป็นภรรยาผมแล้ว แต่ยังมีส่วนที่ไม่น่ารักอยู่


ข้าวคิดเสมอว่าผมดีเกินไป เขาไม่แน่ใจในตัวผมเลย เขาบอกผมตลอดว่าหากวันหนึ่งเจอคนที่ดีกว่าให้ผมบอกเขาตรงๆ เขาจะเป็นฝ่ายไปเอง


F**ck!


เจ้าหญิงคิดอะไรเพ้อเจ้อ! ถ้าผมลงหลุมไปแล้ว ผมยังตั้งใจแน่วแน่ว่าจะนอนหลุมเดียวกับข้าว! เพื่อยืนยันว่าผมรักเขาจริงและจะไม่มีทางทิ้งไป ผมจึงคิดจะร้องเพลงให้เขา


ผมคนนี้นี่แหละจะร้องเพลง


ตั้งแต่เด็ก ผมเกลียดการร้องเพลง ตอนเด็กๆ เคยต้องไปร่วมกิจกรรมร้องเพลงของโรงเรียนในวันคริสต์มาส ผมร้องเสียงหลงจนทุกคนหัวเราะ หลังจากนั้นผมก็หันมาเอาดีทางด้านกีฬา ลืมอาชีพร็อคสตาร์ในฝันไป


ข้าวชอบฟังเพลงหนึ่ง เป็นเพลงที่พูดถึงความรักล้นใจ แต่ไม่ได้หวานแหวว ติดจะเศร้าด้วยซ้ำ เสียงนักร้องหวานใสคลอกับเปีย
โน ข้าวฟังวนไปวนมาจนผมอิจฉานักร้องในยูทูป ยิ่งเห็นหน้าตาน่ารักของสาวนักร้องแล้วผมก็รีบปิดไอแพด แล้วอุ้มภรรยาที่นอกใจผมขึ้นเตียง!


ชอบนักใช่ไหม ต่อไปนี้ผมจะร้องเพลงนี้ให้เขาเอง!


ผมจะทำในสิ่งที่ไม่ถนัดให้เขา ตอบแทนที่เขารักผม อยู่เคียงข้างผม และอุ้มท้องให้ผม!





ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมเป็นคนประเภทเพอร์เฟ็คชันนิสต์ จะร้องเพลงทั้งทีจะร้องเสียงหลงไม่ได้ ประกอบกับความทรงจำอันเลวร้ายของตัวเอง ผมจึงหาครูสอนดนตรีทันที


แต่ครูสอนดนตรีที่สามารถสอนในเวลาที่ผมว่างได้ก็หายาก ประกอบกับผมวางแผนได้อย่างหนึ่ง


เพราะข้าวเจียมตัวเสมอ ท่าทางที่วางตัวเองให้ต่ำต้อยนั้นทำให้ผมโกรธ เขาไม่เคยหึงผมเลยสักครั้ง มีแต่บอกว่าให้หาคนที่คู่ควรกว่าเขา ถ้าดวงตาสีดำขลับนั้นไม่รื้นน้ำตาอย่างเจ็บปวดแล้วล่ะก็ ผมคงทำโทษเขารุนแรงกว่านี้แน่ (ทุกครั้งที่ข้าวทำตัวแบบนี้ ผมจะกักเขาไว้บนเตียง ไปต่อที่ระเบียง จบที่ห้องครัว ถ้าเขาทำให้ผมโกรธมากๆ ผมจะเริ่มตั้งแต่ปากประตู ไล่ไปทุกห้อง ทุกซอกทุกมุมของบ้าน ยิงยาวไปจนถึงวันที่สามที่สี่)


ผมมีนักร้องที่ร้านอาหารอยู่ หล่อนเหมาะสมกับแผนการอย่างสมบูรณ์แบบ


อลิซเป็นนักร้องเสียงหวาน เป็นครูสอนดนตรีและขับร้อง เธอกำลังเก็บเงินสร้างสตูดิโอของตัวเองจึงมาทำงานที่ร้านของผม และที่สำคัญ... แววตาที่ทอดมองผมทั้งๆ ที่ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วนั้นเร่าร้อน


อลิซชอบผมแน่ๆ หล่อนเอ่ยปากยั่วยวนผมหลายครั้ง ต่อหน้าข้าวก็เคย แต่คนประสาทด้านชาอย่างเจ้าหญิงกลับไม่รู้ตัว


อลิซก็สมเป็นผู้หญิงสำส่อน พอผมเอ่ยปากถามนักดนตรีที่ร้าน หล่อนเสนอตัวทันที ผมจึงตะครุบข้อเสนออย่างรวดเร็ว


ผมจะได้ยั่วข้าวให้หึง พร้อมๆ กับสามารถร้องเพลงให้เจ้าหญิงด้วย ผมปลาบปลื้มกับแผนการมาก









ผมจงใจกลับดึก หาน้ำหอมที่อลิซใช้มาพรมบนเสื้อโค้ตให้ข้าวได้กลิ่น จงใจใช้น้ำเสียงห้วนๆ แต่ใจแทบสลายเมื่อเห็นหน้าละห้อยของเขา


ในที่สุดข้าวก็ทนไม่ไหว...


...แต่ผิดคาด แทนที่เจ้าหญิงจะโวยวายเข้ามาทะเลาะกับอลิซ ข้าวกลับสงบมาก นอกจากดวงตาและร่างกายที่สั่นเทาแล้ว เขาก็นิ่งจนน่ากลัว


"ฉันรู้... ฉันรู้... ฉันจะเป็นคนไปเอง เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการให้เธอรับผิดชอบ ฉันจะหย่า..."


ผมฟังแล้วโกรธไปทุกขุมของร่างกาย ยิ่งเห็นกระเป๋าในมือแล้วยิ่งรู้ว่าข้าวจะไปจริงๆ


"ผมไม่อนุญาต" ผมสั่งเสียงเหี้ยม แล้วลากเขาไปที่ร้านอาหาร


ในรถ ข้าวยังพูดเพ้อเจ้อว่าผมจะเลิกกับเขาซ้ำๆ ผมขบกรามแน่น ไม่คิดเลยว่าแค่จะแกล้งยั่วให้เมียหึงจะบานปลายได้ขนาดนี้


ผมพาเขาไปนั่งหน้าเวที ไม่สนใจลูกค้าที่เริ่มเข้าร้าน ดนตรีค่อยๆ เริ่มขึ้น ผมนับจังหวะในใจ รู้สึกตื่นเต้นและกังวล แต่ก็ยังพยายามมองคนตรงหน้า คนที่แสนน่ารักจนน่าสงสาร คนที่ผมรักหมดใจ คนที่เป็นแม่ของลูก


ผมร้องเพลงจนจบ ข้าวตาโต ผมรักเขาเหลือเกิน รักจนแทบถลันลงจากเวทีไปหาเขา เจ้าหญิงของผม


ผมวางกีตาร์ลง สูดลมหายใจลึก ค่อยๆ พูดสิ่งที่อยู่ในใจช้าๆ ตั้งใจให้เขารับฟังทุกคำ "นับตั้งแต่วันที่รู้ว่าคุณยอมตั้งท้องลูกของเรา... ผมดีใจมาก แต่รู้สึกผิดไปพร้อมๆ กัน ยิ่งหลังจากนั้นตอนคุณท้อง ผมเห็นคุณทรมาน เห็นคุณแพ้ท้อง ผมก็ทรมานไม่แพ้คุณเลยเจ้าหญิง ผมถึงเพิ่งรู้ว่าคุณเสียสละแค่ไหน ยอมเจ็บปวดแค่ไหน..."


"ผมอยากทำอะไรสักอย่างให้คุณ... ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้ต้องการอะไร ผมเลยคิดว่า ถ้าหากผมร้องเพลงที่คุณชอบ... เพื่อคุณ มันอาจส่งความในใจให้คุณได้บ้าง"


"ทุกคนครับ" ผมเรียกทุกคน "ที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี้ คือเจ้าหญิงของผม คือคนที่สวยที่สุดในโลก คนที่ดีที่สุดในโลก คนที่ผมรักที่สุดในชีวิต และเขาก็เป็นของผม... ของผมคนเดียว เขาได้ตั้งท้องเพื่อผม และผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณที่มีลูกเพื่อผม ข้าว... ผมรักคุณ รักคุณ"


ผมพูดจากใจ ทุกคำที่เปล่งเสียงออกไป ผมตั้งใจทุกคำ ทุกความรู้สึกของผมเป็นของข้าวเพียงคนเดียว









เมื่อกลับมาถึงบ้าน ข้าวยิ่งทำตัวน่ารัก หึงหวงแบบที่ผมอยากให้เขาทำ เจ้าหญิงแอบรื้อข้าวของของผม แล้วหยิบโทรศัพท์มาดูประวัติแชท


ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไปอาบน้ำตามที่เขาบอกแต่โดยดี แต่คนตัวเล็กหมกมุ่นกับการหาความจริงจนไม่รู้ตัวว่าผมยืนมองเขาตั้งนานแล้ว


"สนุกไหมครับ ?" ผมถามล้อๆ ข้าวสะดุ้ง เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าตระหนกเหมือนกระรอกน้อย


"เอ่อ... ฉัน... ฉันไม่ได้ตั้งใจ"


"มีกล้องวงจรปิด แล้วก็นี่"  ผมบอก เดินไปรื้อเอกสารจากกระเป๋า หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาให้


ข้าวก้มลงอ่าน 'หนังสือสัญญาจ้าง' และซักผมอีกหลายเรื่อง ผมยิ่งยินดี ส่วนกลางกายยิ่งร้อนรุ่มเมื่อเขายิ่งแสดงท่าทางหึงหวง จนกระทั่งมาถึงประโยคที่ว่า


"ทำอะไรให้ฉันเครียดรู้ไหม ฉันคิดว่าเธออยากเลิกกับฉัน นี่ถึงกับจองตั๋วกลับบ้านแล้ว"


ผมหุบยิ้มฉับ โทสะแล่นริ้วๆ ขึ้นมา "คุณว่าอะไรนะ ?"


"เธอทำฉันเครียด..."


"ไม่ใช่ตรงนั้น"


"ฉันคิดว่าเธออยากเลิก..."


"ไม่ใช่! คุณบอกจะกลับบ้าน กลับไทย! ที่นี่ต่างหากที่เป็นบ้านคุณ สามีคุณอยู่ที่นี่แล้ว คุณจะไปไหน!" ผมเดินเข้าไปกอดเขาแรงๆ "ข้าว... ทีนี่คือบ้านของคุณ เข้าใจไหมครับ ?"


เขาซุกหน้าเข้าหาอกผมอย่างน่ารัก "อืม เข้าใจแล้ว"


ผมอยากทำมากกว่านั้น ไอ้แม๊กซ์น้อยตั้งโด่แล้ว แค่กอดเขา แค่ได้ยินเสียงเขาเท่านั้น "...เสียดาย แต่ผมกอดคุณนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว" ผมเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบตาหวานๆ "อย่ามองผมแบบนั้น... คุณทั้งน่ารักทั้งสวย ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์"


ทั้งๆ ที่ผมพยายามห้ามตัวเอง แต่ข้าวกลับพูดจาแสนน่ารัก พูดคำไทยที่ผมชอบออกมาเต็มปากด้วยใบหน้าแดงก่ำ


"ฉันอยากให้'ผัว'ทำจังเลย"


ผมจึงตอบเจ้าหญิงของผมกลับไปด้วยคำที่คู่กัน "ได้ครับ 'เมีย'"



อา... เจ้าหญิงครับ ความผิดของเจ้าหญิงล้วนๆ ที่น่ารักขนาดนี้ ผมคิดขณะก้มตัวลงจูบดูดดื่ม ในใจคิดว่าคงต้องลางานให้ตัวเองอีกสามวัน

....

// ถามว่ามีสาระไหม... ไม่! มีแต่เรื่องฉาวๆ คาวๆ เยๆ ข่ะ ข้าว.คน.อวด.ผัว ข่ะ ยิ่งนานยิ่งหมั่นไส้นาง สามารถลากนังข้าวไปจิกได้ตามใจชอบข่ะ 

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
รักผัวครั้งที่ 3


ผมยิ้มแหยๆ ให้กับสามี พลางรับเอากล่องเล็กๆ มา


แม๊กซ์ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี แขนล่ำๆ อุ้มผมขึ้นจากพื้น กระซิบข้างหู "เปิดสิครับเจ้าหญิง"


เรียกเจ้าหญิงบนเตียงก็อย่างหนึ่ง แต่เรียกข้างนอกก็นับเป็นอีกเรื่อง ตั้งแต่ท้องมา เขาเรียกผมว่าเจ้าหญิงแทบทุกคำ ยิ่งหลังจากกลับมาจากร้านอาหารแล้ว แม๊กซ์ยิ่งหวานจนน้ำตาลขึ้น แรกๆ ผมก็ดีใจหรอก แต่การที่ผู้ชายอายุสามสิบมาตั้งท้อง เป็นภรรยาผู้ชายอีกคนน่ะ ยังไม่พออีกเหรอ ?


ผมยังต้องเป็นเจ้าหญิงให้เขาอีก


ถ้าเรามีลูกสาวด้วยกันล่ะ ไม่ตลกแย่หรือไงที่เรียกเจ้าหญิงในรูปพหูพจน์น่ะ (princesses)


แม๊กซ์ไม่ทันคิดหรอก สามีผมน่ะเฉลียวฉลาด เก่งกาจทุกเรื่องก็จริง แต่บางเรื่องก็เหมือนเขาใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นซิกส์แพ็คคิดแทนสมอง


ในมือผมมีกล่องผ้าเล็กๆ ประดับด้วยไข่มุกที่ยอด ล้อมด้วยเพชรเม็ดน้อยระยิบระยับ แบบที่สาวๆ เห็นเป็นต้องชอบ แต่นอกจากเพชรที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายแล้ว ผมก็ไม่ต้องการเพชรที่ไหนอีก


จริงๆ แล้วต่อให้แม๊กซ์มอบห่วงกระป๋องน้ำอัดลมให้แทนแหวนแต่งงาน ผมก็แต่งกับเขาอยู่ดี


ผมแอบถอนหายใจไม่ให้คนตัวโตที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เห็น ตีหน้าตื่นเต้นขณะเปิดกล่อง...


...เครื่องประดับชิ้นจิ๋ววางอยู่บนผ้ากำมะหยี่สีดำ


มันเป็นสร้อยทองคำขาว ตัวจี้เป็นรูปดาวหวานแหววทำจากอัญมณีหลากสี เด่นด้วยทับทิมเม็ดงามตรงกลาง ผมถอนหายใจอีกครั้งโดยไม่ปิดบัง


เรียกเจ้าหญิงยังพอรับได้ แต่เครื่องประดับสาวแตกนี่มันอะไรกัน


"คุณไม่ชอบเหรอ ?" แม๊กซ์ขมวดคิ้ว ท่าทางเป็นกังวล "ผมเลือกนานมากเลยนะ มา ลองดูหน่อย ทับทิมตรงกลางจะขับผิวคุณแน่ๆ"


ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่สาม ให้เขาวางตัวเองลงแล้วหันหลังให้ แม๊กซ์วางสร้อยเส้นบางเฉียบทาบทับลงบนลำคออย่างตื่นเต้น มือใหญ่เกี่ยวตะขอเบาๆ แล้วปัดผมยาวของผมให้มาด้านหน้า ระลำคอ ผมถูกจับให้หันกลับมา แม๊กซ์มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงพอใจ


"สวยมาก เจ้าหญิงของผมสวยที่สุด"


ผมไม่รู้ว่าในสายตาแม๊กซ์ผมเป็นยังไง แต่ผมน่ะหน้าตาบ้านๆ แบบที่เห็นได้ตามแผงเต้าหู้ทั่วไป ดังนั้นการที่คนหน้าตาหล่อคมเหมือนดาราชมผมไม่ขาดปากว่าสวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ


แม๊กซ์จุ๊ปาก นวดหัวคิ้วผมเบาๆ "เจ้าหญิง อย่าขมวดคิ้วสิครับ ไม่ดีกับลูกในท้องนะ"


ผมดันเขาออก แค่แตะตัวผมนิดเดียวตอนใส่สร้อยคอ เจ้าแม๊กซ์ในร่มผ้าก็ดีดผึงแทงก้นผมแล้ว


ถึงร่างกายจะร้อนวูบวาบตามสัมผัสเขาไปด้วย แต่ต้องอดทน บอกตัวเองว่าจะให้สามีทำตามใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นลูกคงลำบาก


"ขอบคุณนะ" ผมพูดเบาๆ แม๊กซ์ยิ้มกว้าง เดินเข้ามาใกล้ เบียดกระแซะจนแทบไม่มีช่องว่าง ท่อนลำอันเขื่องแข็งตัวจนผมร้อนตาม


"ดะ เดี๋ยว เราเพิ่งทำกันไป... ครึ่งชั่วโมงก่อนนะ!" ผมห้ามเสียงอ่อย ชายตามองกลางหว่างขาสามีแล้วกลืนน้ำลาย จริงๆ แล้วไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ ผมเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเมื่อสิบห้านาทีก่อนเอง


แต่ทำไงดี... ร่างกายเริ่มร้อนแล้ว แต่ทำบ่อยไม่ได้หรอกนะ... ถึงหมอจะไม่ห้ามก็เถอะ... แต่หมอคงไม่รู้ว่าเรามีเซ็กส์กันบ่อยขนาดนี้


อย่างน้อยๆ ต้องวันละครั้ง ถ้ามีเวลา ก่อนแม๊กซ์ไปทำงาน หลังอาหารเช้า เขาจะกินผมที่ห้องครัวครั้งหนึ่ง หรือถ้าผมไม่ง่วงจัด หลังเลิกงาน ยังไม่ทันทำข้าวเย็น แม๊กซ์ก็จัดอีกยก


พอผมท้อง เรามีอะไรกันบ่อยยิ่งกว่าตอนที่ไม่มีลูกเสียอีก อาจเพราะผมว่างเกิน ไม่ได้ไปทำงานแล้ว พอทำงานบ้านเสร็จ(ที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ เพราะแม่บ้านชาวโคลัมเบียเหมาไปทำหมด) ผมก็นั่งๆ นอนๆ ดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต คุยกับพ่อแม่ เล่นเกม อ่านหนังสือ สายๆ ก็นั่งคุยกับกลอเรีย แม่บ้านชาวโคลัมเบีย แล้วกลอเรียจะออกไปซื้อของสดสำหรับอาหารเย็นให้ ผมจะเริ่มลงมือทำข้าวเย็นตอนสี่โมงกว่า


ผมว่างจนไม่รู้จะว่างยังไง เคยบอกเรื่องนี้กับแม๊กซ์แล้ว แต่เขากลับบอกให้ผมอดทนหน้าตาเฉย ผมบอกให้เลิกจ้างกลอเรีย เพราะผมจะได้ทำงานบ้าน เราก็ประหยัดเงิน แต่เขาปฏิเสธ เขาไม่อยากให้ภรรยาท้องทำอะไร


ผมขอทวนคำ เขาไม่อยากให้ภรรยาท้องทำอะไร ทำอะไรที่ว่า คือไม่ทำอะไรเลยจริงๆ นอกจากทำอาหารเช้าและเย็นแล้ว ผมก็ว่างมาก จริงๆ แล้วเขาจะจ้างแม่ครัวให้ทำอาหารแทนด้วยซ้ำ แต่ติดที่สามีผมชอบดูผมใส่ผ้ากันเปื้อนมากเกินไป (เขาเคยขอให้ผมเปลือย นุ่งแต่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียว แน่นอนว่าผมขัดใจสามีไม่เป็น แต่เราทำกันน้อยลง เพราะบางวันกลอเรียมาทำงานเช้า แล้วมาเห็นนายจ้างสองคนกำลังกระแทกกระทั้นกันอยู่ในครัว หลังจากนั้นเราก็มีอะไรกันตอนเช้าน้อยลง โดยที่ผมโก้งโค้งให้เขาไป หวาดเสียวว่ากลอเรียจะโผล่มาเมื่อไหร่ไป)


พอเข้าสัปดาห์ที่สี่ ผมก็ทำใจแล้วว่าคงต้องว่างงานไปอย่างน้อยอีกเก้าเดือน


แม้กระทั่งไปซุปเปอร์ใกล้ๆ แม๊กซ์ยังไม่ยอมให้ผมไปคนเดียวเลย เขาเพ้อเจ้อว่าจะมีคนมาลักพาตัวผมเพราะผมไม่ยอมจ้างบอดี้การ์ด เวลาจะออกไปข้างนอก ถ้าเขาไม่อยู่ ผมต้องให้กลอเรียไปเป็นเพื่อน


ผมบ่นจนเขาคงรำคาญ ในที่สุดเขาก็หางานอดิเรกที่อยู่แต่ในห้องให้จนได้




งานที่ว่าคือ...



งานขัดเพชร



งานอดิเรกที่ไม่รู้เขาเอาสมองที่ไหนมาคิด! คงจะดูหนังไทยจำพวกคุณหญิงคุณนายกับผมมากไปแน่ๆ เขาจึงเพียรซื้อเพชรพลอยมาให้ผมขัดเล่น


สร้อยที่ผมสวมอยู่เป็นสร้อยอัญมณีเส้นที่แปด ในเซฟของเรายังมีเพชรน้ำงาม แหวน กำไลข้อมือ และเครื่องประดับที่ผมคงไม่มีวันใส่อีกกองพะเนิน


วันๆ ผมที่ว่างงาน กลับต้องมานั่งขัดเพชรแทน


ถ้าเลือกได้ ผมขอกลับไปอยู่ว่างๆ เหมือนเดิมดีกว่า


แต่ข้อดีอย่างเดียวของการบ้าซื้อเครื่องประดับของเขาคือ...


"ข้าว... ผมบอกแล้วว่าทับทิมน่ะขับผิว" เขากระซิบข้างหู ลอกคราบผมจนหมดที่ห้องนั่งเล่นนั่นแหละ ร่างกายผมเปลือยเปล่า สวมเพียงสร้อยทับทิมบนคอให้เขาชม


มือใหญ่ลูบไล้ไปตามลำคอ ริมฝีปากฝากรอยจูบไปตามทาง ผมยิ้มหวาน กระซิบข้างหู "งั้นเดี๋ยวให้รางวัลนะ... my good boy"


รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ไม่แพ้กันตอบกลับมา เขาบดเบียดจูบไล่ลงตามหน้าท้องมาเรื่อยๆ แล้ววกกลับมาที่ริมฝีปาก ป้อนจูบร้อนให้ลึกไปถึงโคนลิ้น ผมตอบกลับด้วยความร้อนแรงไม่ต่างกัน


ไฟติดแล้ว... ผมเอื้อมมือไปจับเข็มขัดหนังบนเอวสอบ รูดมันออกอย่างช่ำชอง บอกเขาทั้งๆ ที่ริมฝีปากเรายังติดกันหนึบว่า "ถอดสิ"


สามีผมเป็นเด็กดี ถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว รูดซิปลง แต่คาไว้แค่นั้น ปล่อยให้ผมลูบไล้ท่อนเนื้อบวมพองใต้กางเกงใน


"มาสิ..." ส่งเสียงออดอ้อน มือลูบซิกส์แพ๊กและล้วงเข้าไปในกางเกงใน ผ่านกลุ่มขนหยาบๆ จับความใหญ่โตด้วยมือเดียว แล้วช้อนตามอง


"ซนจริงเจ้าหญิง" เขาหัวเราะเสียงทุ้ม ผมล่ะหวังให้เขาแปลงร่างเป็นมิสเตอร์เกรย์ จับผมขังพืด ล่ามโซ่แล้วข่มขืนจริงๆ


ใบหน้าหล่อเหลาขบริมฝีปากเบาๆ ผมเตรียมจะหันหลังอวดบั้นท้ายให้ แต่แม๊กซ์กระชากต้นขาข้างหนึ่งขึ้นข้างเอว ผมตัวลอย ขาอีกข้างแทบหยั่งไม่ถึงพื้น


"อ๊ะ..." ร่างเปลือยเปล่าอยู่ในท่าแปลกประหลาดค้างเติ่ง เขาไม่รอช้า ดันกางเกงในลงแล้วต้นแขนล่ำหนาก็กระชากตัวผมให้ซบ อกผมแนบติดร่างกายเขา เนื้อต่อเนื้อ ผมสะกดกลั้นลมหายใจไม่ไหว ร่างกายร้อนผ่าว เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น ส่วนกลางร่างกายก็แข็งขืน แม๊กซ์มองลงมาด้วยสายตาระยิบระยับราวกับกลืนกินผมไปทั้งตัว


ผมหอบหายใจ ถึงยังไม่ได้คลายช่องทางเอาไว้ แต่ตอนนี้ ต่อให้เขาสอดใส่เข้ามาแล้วเลือดอาบ ผมก็ยอม ผมคิดแล้วยกขาข้างที่ติดเอวเขาขึ้นสูง อวดปากทางที่พร้อมยิ่งกว่าพร้อมให้สามี "มาสิ อื้มมม"


ความใหญ่โตค่อยๆ มุดเข้าโพรงร้อนมาทีละน้อย ความคับแน่นและแห้งฝืดทำให้ผมร้อง เจ็บจริงๆ ไม่ได้ดัดจริต แต่ความร้อนแรงในร่างมีมากกว่า ผมยืดตัวขึ้นพยายามจูบปากเขา


แม๊กซ์สนองอย่างดี จูบผมตอบ


ร้อน... ร้อน... ทั้งใหญ่ ร้อนและแข็ง มันดุนดันเข้ามาถึงช่องท้อง ผมโหย่งตัวด้วยความแสบ แต่แม๊กซ์คว้าตัวผมทั้งตัวกระแทกสวนแท่งร้อน


"อ๊ากก เจ็บ!" ไม่ไหวแล้ว เข้ามาทั้งแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ผมจิกต้นแขนเขาเชิงร้องขอให้หยุด แต่แม๊กซ์กลับตอบเสียงห้าว


"อยากได้ไม่ใช่เหรอ ?"


"ฮึกก มันเจ็บ" เขาไม่สนใจ ดวงตาคล้ายสัตว์ป่าแล้ว ผมรู้ตัวดีว่าถ้าวันนี้เขาไม่ได้รีดน้ำในตัวผมเขาจะไม่มีทางหยุดแน่ๆ


"คลายออก เดี๋ยวก็ฉีกหรอก!" จะคลายได้ขนาดไหน! ไม่ดูตัวเองบ้างมันใหญ่แค่ไหน ขนาดตอเท่ากับท่อนแขนผมไม่ฟังเสียงร้องห้าม


"อ๊ะ อย่า! อึ่ก!" ผมร้องเสียงหลง ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคล้ายฉีกขาดจากด้านล่าง เจ็บจนเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ


ผมอ้าปากค้าง


ผลจากการยั่ว เป็นยังไงล่ะ แม๊กซ์ไม่เคยทำอะไรเล่นๆ


สามีผมเข้ามาจนสุดแล้ว มิดโคนจนรู้สึกได้ถึงขนหยาบๆ ถูไถก้น ผมสูดลมหายใจลึก ละล่ำละลักบอก "มะ ไม่เอาแล้ว... เอาออกไป"


แม๊กซ์ไม่พูด ไม่ตอบ แต่เริ่มขยับ ผมกรี๊ดอีกครั้ง ท่อนลำในท้องเริ่มเสียดสี บดเบียดเนื้อภายในรุนแรง


แค่เริ่มก็แทบสลบ เอวผมชา ขาปวดหนึบ ถูกยกค้างอยู่ในท่าแปลกประหลาด ขนาดคนที่ผ่านศึกมาไม่น้อยอย่างผมยังทรมาน เขาคงรำคาญที่ผมไม่ยอมตอบสนอง สองแขนแข็งแรงจึงรองใต้บั้นท้าย แล้วยกผมตัวลอย ผมร้องหวือ สองขารีบโอบเอว


ท่านี้อีกแล้ว!


เขาจูบแก้ม "เลือดออกนิดหน่อย..." นิดหน่อย... ทำไมก้นเปียกขนาดนี้ล่ะ... ผมไม่กล้าก้มลงดู เอาเป็นว่าเชื่อเขาก็แล้วกัน ไม่เชื่อสามีก็ไม่รู้จะไปเชื่อใครแล้ว


"ขยับแล้วนะเจ้าหญิง" ผมจะห้ามเขาไหวเหรอ กลางกายผมมันหดฟีบไปหมดแล้ว เจ็บจนไม่มีเรี่ยวแรงพูด แต่ก็ยังพยักหน้าตอบ


ท่อนลำยักษ์บดเบียดกับจุดอ่อนไหวภายในอย่างเอาอกเอาใจ คล้ายกับจะขอโทษที่ทำให้เจ็บ ผมยกแขนโอบรอบคอเขาแน่น ความร้อนแรงเริ่มพุ่งเบียดความเจ็บปวด


"อ๊ะ ตรงนั้น... อึกก"


ผมเกร็งตัว ความใหญ่โตร้อนผ่าวแทงเสยขึ้นมาอย่างไม่กลัวหลวม และเริ่มเพิ่มจังหวะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถี่ยิบ ผมจิกเล็บเข้าต้นคอ เปิดปากคราง


"ฮึกก ใหญ่ แม๊กซ์... แม๊กซ์"


"ฮ้า... ข้าว เจ้าหญิง... เจ้าหญิงของผม"


แม๊กซ์จูบผมรัว ในช่วงเวลาร้อนแรง ความร้อนพุ่งสูง ผมเกร็งถี่ บีบรัดเขาแน่น ลำคอแหงนเงยขึ้นเพดาน ไม่มีอะไรให้ดูหรอก แต่มันร้อนจนทนไม่ไหว


"อึกก อ๊าาา" ไม่ไหวแล้ว... แม๊กซ์กระแทกแต่จุดตายของผม... ดวงตาผมพร่าพราย ร่างกายเกร็งกระตุก บั้นท้ายและท่อนลำเล็กๆ สั่นรุนแรงตามจังหวะกระแทก


ภาพเบื้องหน้าขาวโพลน...


เสียงกรีดร้องของตัวเองน่าจะดังมาก แต่ผมไม่ได้ยิน รู้สึกเพียงความใหญ่โตที่ขยับเข้าออกเท่านั้น


ความเสียวแปลบพุ่งสูง จนน้ำรักฉีดพ่นออกมาเลอะหน้าท้องแข็งแรง ผมอ้าปาก น้ำลายย้อยเหนียวหนืด แต่แม๊กซ์กลับดูดกินอย่างหิวกระหาย ท่อนลำเบื้องล่างเสือกไสจนร่างกายแทบชา


...คืนนี้ยังอีกยาวนาน












ผมนอนคว่ำ ตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง แม๊กซ์ทำความสะอาดร่างกายให้แล้ว เหลือแค่น้ำรักของเขาที่ยังเจิ่งนองเต็มก้น


สามีผมโรคจิต นอกจากชอบดูผู้ชายในผ้ากันเปื้อนแล้ว ยังชอบเห็นน้ำรักเต็มโพรงผมด้วย


ฉีกไหมนะ...


ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว กลอเรียจะมาหรือยัง ผมต้องทำเป็นนอนหลับสนิทในห้อง ห้ามตื่นเด็ดขาด ต่อให้กลอเรียชวนผมดูรูปลูกชายสุดฮ็อตก็ตาม


น่าอายจะแย่ ทั้งน้ำรักทั้งเสื้อผ้าเลอะเทอะเต็มห้องนั่งเล่น เมื่อคืนกลับมาที่เตียงได้ยังไงผมก็ไม่รู้ จำได้แค่ว่าตอนที่สามีปล่อยเข้ามาเป็นรอบที่สองผมก็หมดสติไปแล้ว


ผมคิดฟุ้งซ่าน พยายามขยับตัวจะไปล้างก้น แต่...


...ลุกไม่ขึ้น



แก่ขนาดนี้แล้วเหรอ! ผมกลอกตาขึ้นมองเพดาน หัวก็เต้นตุบๆ เหมือนจะมีไข้


แต่ก่อนอย่าว่าแต่เซ็กส์เลย คืนหนึ่งผมได้กับผู้ชายทีเดียวสี่คนก็ยังไหว แต่เดี๋ยวนี้เหมือนร่างกายจะเปลี่ยนไป เหมือนเคยได้ยินว่า ถ้ามีอะไรกับผู้ชายคนเดิมบ่อยๆ ข้างในจะเปลี่ยนเป็นรูปร่างของผู้ชายคนนั้น ไม่สามารถรองรับของคนอื่นได้อีก


ถ้าเป็นเรื่องจริง ข้างในผมคงหลวมโพรก ไม่ว่าของผู้ชายคนไหนเข้ามาก็คงเหมือนเอานิ้วก้อยไปแกว่งในโอ่งนั่นล่ะ


ผมซบหน้ากับหมอน ถอนหายใจยาวๆ มองผู้ชายตรงหน้า ทั้งรักทั้งหวง และไม่เข้าใจ


ใบหน้ามีมิติหล่อเหลา คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากหนา หล่อจนน่าจะควงกับนางแบบสวยๆ ได้สบาย ไหนจะทรัพย์สมบัติมากมาย สติปัญญาก็เฉลียวฉลาด น่าจะมีโง่อยู่เรื่องเดียว


เรื่องที่มารักกับผมนี่แหละ


ผมมองเขาจนเพลิน แต่แล้วตาที่ปิดสนิทก็ค่อยๆ ลืมขึ้น ผมสะดุ้ง


แม๊กซ์สบตาผม ดวงตาสีน้ำตาลคมดุก็จริง แต่ตอนนี้กลับหวานเชื่อม เขายิ้มบางๆ "นอนไม่หลับเหรอ ?"


ผมส่ายหน้า ไม่รู้ทำไมต้องทำเสียงเล็กเสียงน้อยตาม "...อยากอาบน้ำน่ะ แต่ลุกไม่ขึ้น"


"ขอโทษนะครับเจ้าหญิง ผมเสียดายน้ำในก้นคุณเลยไม่กล้าล้างออก" โรคจิตชัดๆ ผัวกู... ได้แต่คิดแล้วส่ายหน้า


"เอาเถอะ ก็เป็นแบบนี้ประจำ"


"มา ผมพาคุณไปอาบน้ำนะ" เขาบอกแล้วลุกขึ้น แต่ผมห้ามไว้


"ไม่เป็นไร นอนเถอะ วันนี้มีประชุมไม่ใช่เหรอ"


"แต่คุณลุกไม่ขึ้นนี่" ใบหน้าหล่อเหลามีท่าทางเหมือนเด็กๆ ผมหัวเราะเบาๆ ทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ในท่ากบโดนรถทับ


"ช่วยฉันลุกก็พอ เธอไปนอนเถอะ"


แม๊กซ์ไม่ตอบ ช่วยพยุงผมขึ้น ผมจะบอกราตรีสวัสดิ์ แต่ร่างสูงใหญ่กลับอุ้มผมพาดบ่า


โลกหมุนอีกรอบ เขาไม่สนใจผมที่ร้องห้าม "แม๊กซ์!"


"ข้าว!" เขาเรียกผมด้วยเสียงดุๆ "อย่าดื้อนะ!"


ผมฟังแล้วอดหยิกเนื้อแน่นๆ ไม่ได้ "เจ้าเด็กนี่!"


เขาหัวเราะเสียงห้าว เปิดไฟห้องน้ำแล้วอุ้มผมด้วยมือเดียว "อย่าทำเหมือนผมเป็นเด็ก ผมอ่อนกว่าคุณแค่สี่ปี"


"ตั้งสี่ปีต่างหาก" ผมเถียง แต่ดูเหมือนกำลังงอนมากกว่า แม๊กซ์จับคนแก่วางในอ่างอาบน้ำ คว้าเอวให้ยื่นก้นออกมา มือหนึ่งประคอง มือหนึ่งสอดนิ้วล้วงเข้าไปภายใน


ผมสะดุ้ง ซุกหน้ากับไหล่กว้าง ถามเสียงอู้อี้ "เลือด... เยอะไหม"


ได้ยินเสียงลมหายใจคล้ายถอนใจเบาๆ "นิดหน่อย..."


"เอาจริงๆ"


"น้อยกว่าครั้งที่แล้ว"


ผมหลับตา ไม่กล้ามอง เห็นผมเป็นมาโซแบบนี้แต่ก็กลัวเลือด ยิ่งไหลจากก้นแล้วยิ่งไม่น่าพิศมัย


"ก็รูคุณเล็ก" พูดออกมาได้... แต่เป็นผัวเมียกันมาตั้งสองปีแล้ว เรื่องแบบนี้ก็ควรจะคุยให้รู้เรื่องกันไปเลย ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา จากส่วนสูงของผม จากมุมที่ผมอยู่ เห็นได้แค่ปลายคางที่มีหนวดครึ้ม


เดี๋ยวเช้าๆ ต้องบังคับให้โกน


"แม๊กซ์ เราไม่ทำแบบนี้กันแล้วนะ... อย่างน้อยๆ ก็ตอนท้อง"


เขาพยักหน้า หยิบฝักบัวมาเปิดน้ำ ใช้สายน้ำอุ่นนวดปากทางให้คลายความเจ็บปวด "ผมเข้าใจ"


"แล้วจะทำตามไหม ?" ผมลงเสียงหนัก บิดเนื้อกล้ามแขน แม๊กซ์ก้มลงมาจูบกระหม่อมเบาๆ


"ทำครับเจ้าหญิง ผมสัญญา ไม่มีเที่ยวหน้าแล้ว จะรอจนกว่าคุณจะคลอด"


ก็ยังดีนะ... ผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างสบายตัว แม๊กซ์อาบน้ำอุ่นให้เหมือนอาบน้ำเด็ก ท่าทางเขาจะอาบน้ำลูกได้ดีแน่ๆ


ลูกยังไม่ทันเกิด ผมก็มอบหมายหน้าที่ให้ล่วงหน้าแล้ว


"จะนอนเลยก็ได้ เดี๋ยวผมพาคุณกลับเตียงเอง" สามีผมเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนะ แต่ความสบายที่โอบล้อม ทั้งน้ำเสียงและอุณหภูมิของฝ่ามือและน้ำอุ่น ทั้งอ้อมกอดแข็งแรงที่โอบกระชับ ผมสบายทั้งร่างกายและหัวใจ


ดวงตาค่อยๆ ปิดลง ปากยังพึมพำ "พรุ่งนี้โกนหนวดด้วยนะ..."


เขาหัวเราะ กล้ามอกสั่นสะเทือนมาถึงผม แต่เขาจะพูดอะไรหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ...









ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแม๊กซ์ก็ออกไปทำงานแล้ว ลุกขึ้นจากเตียงอย่างปวดเมื่อย แม๊กซ์วางยาไว้แผงหนึ่งให้ข้างเตียง คงกลัวว่าผมจะมีไข้


ผมเดินกระย่องกระแย่งออกจากนอนห้อง กลอเรียกำลังแพ๊คอาหารใส่กล่อง ผมเลยเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกา... เกือบเที่ยงแล้ว


"ตื่นแล้วเหรอคะ ?" แม่บ้านร่างตุ้ยนุ้ย ใส่ต่างหูห่วงเชยๆ หันมาถาม ผมพยักหน้า


"ฉันทำกับข้าวให้คุณไว้แล้วค่ะ นมสด โยเกิร์ต ควินควากับซีเรียลก็ซื้อไว้ให้แล้วนะคะ" เธอบอกอย่างกระฉับกระเฉง ผมหน้าร้อน นี่แม๊กซ์คงสั่งกลอเรียเอาไว้แล้วสินะ


"ขอบคุณครับ" กลอเรียพยักหน้ารับแล้วพูดเร็วปรื๋อติดสำเนียงสเปนต่อ


"เดี๋ยวทานยาด้วยนะคะ คุณแม๊กซิมัสสั่งไว้ค่ะ"


ผมนั่งบนโต๊ะอาหารอย่างว่าง่าย กลอเรียอุ่นซุปมันฝรั่งและเนื้อไก่ร้อนๆ มาให้ พร้อมทั้งวางยาและน้ำก่อนจะเก็บข้าวของเตรียมออกไป


"เดี๋ยวสิ กลอเรีย นั่งคุยกันก่อนไม่ได้เหรอ ?" ผมอ้อน ก็บ้านเงียบๆ น่ะน่าเบื่อจะตาย ผมไม่อยากขัดเพชรแล้วนี่นา


กลอเรียส่ายหน้า "คุณแม๊กซิมัสแนะนำครอบครัวที่อยู่ชั้น 19 ให้น่ะค่ะ นั่นก็คนรวยเหมือนกัน แต่งานหนัก มีลูกตั้งสามคน ฉันต้องรีบไปขัดส้วมแสนสนุกค่ะ" ในคำพูดหญิงละตินมีแต่การประชดประชันทุกคำ ผมมองหล่อนตาแป๋ว


"ทำไมทำงานหนักจัง"


"ถ้าคุณมีลูกคุณก็จะเข้าใจค่ะ"


"คาร์ลอสก็เป็นเด็กดีนี่ ?" ผมหมายถึงลูกชายสุดหล่อของกลอเรีย คาร์ลอสเป็นหนุ่มละตินสุดฮ็อต เล่นฟุตบอล* เรียนเก่ง ได้ทุนนักกีฬาเข้ามหาวิทยาลัย


"ค่ะ หวังว่ามันคงไม่ได้ไปทำใครท้อง" กลอเรียหน้ายุ่ง สะพายกระเป๋า "อย่าลืมนะคะว่าคนอื่นไม่ได้โชคดีเหมือนคุณ ถ้าผัวฉันรวยได้ครึ่งหนึ่งของคุณแม๊กซิมัส ฉันคงไม่ต้องมาต้มซุปให้คุณหรอกค่ะ"


ผมหัวเราะลั่น ส่ายหน้า "นี่ของผมนะ ต่อให้เป็นกลอเรียก็เถอะ ผมไม่ยกให้หรอก"


กลอเรียยิ้มขำ ตบก้นผมดังเพี๊ยะ "ร้ายนักนะคะคุณ เอาล่ะ ทานข้าวแล้วทานยานะคะ อย่าดื้อกับสามีเลยค่ะ เขาเป็นห่วงคุณ คนดีๆ แบบนี้ไม่มีแล้วนะคะ"


ผมพยักหน้า "โอเค ขอบคุณนะ"


"ค่ะ ฉันไปแล้วนะคะ ถ้าจะเอาอะไรให้ส่งข้อความมา พรุ่งนี้จะซื้อเข้ามาค่ะ"


"ขอบคุณครับ"


แล้วกลอเรียก็ออกจากห้องไป ผมถอนหายใจ ตักซุปเข้าปากอย่างหงอยๆ ตามองไปยังตู้เซฟหลังรูปภาพติดผนัง


วันนี้ก็ต้องเอาไอ้หินพวกนั้นออกมาขัดอีกแล้วเหรอเนี่ย...










"ฉันทนไม่ไหวแล้ว" ผมตะโกนในห้องคนเดียว โยนเพชรลงบนโต๊ะ คลานลงไปหยิบไอแพดขึ้นมาเล่นเกมเพลินๆ ครู่หนึ่งแล้วฟาดงวงฟาดงากับหมอน


เบื่อ! เบื่อ! เบื่อ!


ถึงกลอเรียจะค่อนขอดว่าคนทั้งโลกอยากมานั่งเบื่อแบบผมก็เถอะ แต่ความเบื่อ ความว่างเปล่านี้มันก็ทรมานเหมือนกันนะ



ผมเก็บเพชรพลอยและถอดสร้อยทับทิมบนคอใส่เซฟ หยิบของเล่นทั้งหลายที่สามีซื้อให้ ทั้งมือถือ ไอแพด เกมบอย เกมเพลย์ เครื่อง wii เกม xbox และหนังสือเป็นบ้าหอบฟางแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น


โยนของทั้งหมดลงกับกองหมอน คว้าหนังสือ Inferno มาอ่านได้สองหน้าแล้วก็เบื่อ หยิบไอแพดขึ้นมาเฟซไทม์หาพ่อแม่


เงียบ...


ไม่มีคนรับ ผมเลยโทรเข้าบ้านแทน


เสียงกริ่งดังหลายครั้งจนเกือบดับ ในที่สุดก็มีเสียงงัวเงียรับสาย "ฮัลโหล"


ผมตอบอย่างยินดี "แม่ ข้าวเองนะ"


แม่เงียบไปชั่วครู่ "หา ไอ้ข้าว เอ็งโทรมาอะไรตอนนี้ ผัวทิ้งเรอะ"


"ไม่ใช่ อย่าแช่งสิ แม่ ข้าวเบื่ออ"


"ไอ้ลูกบ้า! แค่เบื่อนี่ต้องโทรมากวนกู นี่กี่โมงแล้วมึงรู้ไหม ?"


ผมเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกา "บ่ายสอง"


"ตีสองโว้ย! กูกำลังนอน อย่าโทรมากวน!" แม่ด่าแล้ววางสายดังสนั่น ผมมองมือถืออย่างงงๆ ทำปากเบะ


ลืมไป...

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมอยากออกไปข้างนอกบ้าง หลังทำอาหารเย็นเสร็จโดยมีสามีนั่งดูอยู่เฉยๆ แล้วจึงบอกไป แต่แม๊กซ์กลับมองกลับด้วยสายตากราดเกรี้ยว


"มีใคร ?"


"ใคร ?" ผมถามกลับงงๆ วางหมูสามชั้นทอดน้ำปลาบนโต๊ะเป็นจานสุดท้าย หลังๆ มานี่แม๊กซ์ชอบกินอาหารไทย ไม่บ่นเรื่องกระเทียมแล้ว "พรุ่งนี้กินแกงเขียวหวานไหม จะได้ให้กลอเรียซื้อมะเขือมาให้"


"ผมถามว่า คุณมีใคร มีชู้อยู่ข้างนอกใช่ไหม ?" เสียงเหี้ยม ผมวางช้อนดังเคร้ง


ไอ้บ้า! นอนเน่าอยู่ในห้องทั้งวัน จะไปมีชู้กับใครได้! ขนาดเซ็กส์ทอยเอ็งยังเก็บไปทิ้งเลย! "ไม่มี! ฉันแค่เบื่อห้อง!"


"คุณมีใคร ?" ไอ้คนฉลาดยังไม่เชื่อ มองอย่างคาดคั้น ลุกขึ้นก้าวยาวๆ มากระชากแขนผมขึ้น "Son of bitch! มันเป็นใคร! มันรู้หรือเปล่าว่าคุณมี 'ผัว' แล้ว"


ภาษาไทยพูดไม่เคยชัด มีคำว่าผัวๆ เมียๆ เท่านั้นที่ออกเสียงชัดแจ๋ว ผมโกรธไม่แพ้กัน แต่ขี้เกียจทะเลาะเลยส่ายหน้า "จะมีได้
ยังไง ฉันอยู่แต่ในห้อง"


เขาปล่อยแขนผมออก แรงจนขึ้นรอยแดง


"แล้วนอกจากเธอ คงไม่มีใครหลงผิดแล้วล่ะ" ผมเสริมเบาๆ แต่แม๊กซ์ดันหูดี หันกลับมา


"ผมตาดีต่างห่าง กลัวว่าจะมีไอ้เวรตะไลที่ไหนตาดีเหมือนผมน่ะสิ!"


"ฉันเนี่ยนะ" ร้องเสียงสูงอย่างไม่เชื่อ ไม่อยากทะเลาะกับเขาจริงๆ เลยเลี่ยงไปคดข้าวใส่จานมาให้ "จะมีใครเอาอีก จะหึงอะไรก็ให้น้อยๆ หน่อย"


"คุณไม่รู้ตัวเลยข้าว..." เขาถอนหายใจ หอมแก้มผมอย่างนุ่มนวล แล้วยกแขนข้างที่เขากระชากขึ้นมาจูบเบาๆ "ขอโทษนะครับ
เจ้าหญิง... เจ็บไหม"


"ไม่หรอก... กินข้าวเถอะ" ผมตัดบท นั่งลงตรงข้าม หยิบจานของตัวเอง


"หมูนี่อร่อย" แม๊กซ์พูดอย่างเอาใจ "คุณทั้งน่ารักทั้งแสนดีแบบนี้ จะไม่ให้ผมหึงได้ยังไง"


ผมห้ามตัวเองสุดชีวิตไม่ให้กลอกตา "เอาเถอะ ว่าไงก็ว่ากัน"


"ถ้าคุณเบื่อ... ลองหาอะไรทำไหม ?" ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้ ทะเลาะกันไปยกหนึ่ง ไปจบที่เตียงเหมือนเดิม


"ไม่เอาเพชรแล้วนะ" ผมขู่


"ครับ... ลองทำอาหารไหม ?"


ผมฟังแล้ววางช้อน ไม่รู้เพราะฮอร์โมนแปรปรวนของคนท้องหรือเปล่าทำให้ตอบเสียงกระชาก "ไม่อร่อยก็ไม่ต้องกิน!"


"กินครับกิน อร่อยมาก" แม๊กซ์รีบตักต้มโคล้งถ้วยของผมเข้าปาก จะห้ามก็ไม่ทันแล้ว


เขาหน้าเสีย ต้มโคล้งของผมน่ะรสชาติคนไทย ฝรั่งอย่างเขากินเข้าไปคงเผ็ดน่าดู แม๊กซ์รีบยกน้ำขึ้นดื่ม แก้มพอง ตาบวมน่าขัน ผมหัวเราะลั่น เอื้อมมือไปตบแก้มเขาเบาๆ


"นั่นน่ะถ้วยของฉัน ฉันทำแยกหม้อให้เธอแล้ว" ชี้ไปที่อีกถ้วยหนึ่ง "เดี๋ยวเอานมให้ เผ็ดล่ะสิ"


ปากแม๊กซ์แดงจัด ตาคมมีน้ำตารื้น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ผมรินนมใส่แก้วยื่นให้อย่างขำปนสงสาร


แม๊กซ์ดื่มนมไปเกือบลิตร น่าจะอิ่มมาก แต่ก็กินอาหารที่ผมทำให้จนหมด ผมเก็บจานด้วยความรู้สึกฟูฟ่อง คนทำอาหารก็คงรู้สึกดีกันทุกคนนั่นแหละ เวลาเห็นคนกินกินจนหมด


"ผมช่วย" แม๊กซ์ที่ปากแดงๆ บวมตุ่ย น้ำตาคลอเบ้าพับแขนเสื้อเชิ้ตปราดเข้ามา ผมดันตัวเขาออกไปเบาๆ


"ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันทำเอง"


แม๊กซ์ยังรีรออยู่ ก่อนจะค่อยๆ พูด "เจ้าหญิง ผมพูดจริงๆ นะ ถ้าคุณไม่ชอบเพชร ลองหาอย่างอื่นทำก็ได้..."


"ทำอาหารน่ะเหรอ ? ไว้จะลองคิดดูนะ" ผมใช้แปรงขัดเศษอาหารออกจากถ้วยชาม แล้ววางลงบนเครื่องล้างจาน


"ที่รัก ผมพูดจริงๆ นะ" เขากอดผมทั้งๆ ที่ในมือผมเลอะเทอะ "คุณทำอาหารอร่อยอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากเห็นคุณไม่มีความสุข"


ผมฟังแล้วยิ้ม เช็ดมือให้สะอาด ตีแขนที่กอดเอวเบาๆ "ฉันมีความสุขดี แค่เบื่อนิดหน่อย ไว้จะลองเรียนทำอาหารก็ได้" ผมเว้นครู่หนึ่ง "เธอจะให้ฉันไปเรียนที่ไหน"


"พรุ่งนี้ผมจะจ้างครูมาสอนที่บ้าน" ชายหนุ่มจูบแก้มผมเต็มแรง "เด็กดี... เจ้าหญิงของผมน่ารักที่สุด"


ที่บ้าน... อีกแล้ว ผมหลับตาลงช้าๆ "เธอจะไม่ให้ฉันออกไปไหนเลยเหรอ ?"


"อย่าไป" เสียงทุ้มกระซิบ "อย่าออกไปไหนเลยเจ้าหญิง..."


"จะให้ฉันอยู่แต่ในบ้าน ?"


"ได้โปรด..." เสียงเขาคล้ายจะขาดรอนๆ "อย่าไปไหน... อย่าออกไปไกลตาผมเลยนะ... ผมหวงคุณ หึงคุณมาก ไม่อยากให้ใครเห็นคุณ ได้ยินเสียงคุณ หายใจร่วมกับคุณ..."


"เด็กขี้หึง" ผมฟังแล้วคล้ายบินได้ แม๊กซ์รักผมมาก รักจนคล้ายคนบ้า แต่นั่นก็ช่างน่าเอ็นดู


ร่างสูงโน้มตัวลงซุกหน้ากับซอกคอผม "ผมขี้หึง" เขายอมรับ "ผมรักคุณมาก มากจนแค่คิดก็ทนไม่ได้ถ้ามีใครแย่งคุณไป"


"...."


"ยิ่งคุณท้องลูกของเรา ผมยิ่งหวง"


หน้าผมคงแดงไปถึงไหนแล้วแน่ๆ แต่เขากลับกระชับอ้อมกอด จูบที่ข้างใบหู จงใจกระซิบให้ได้ยิน "ผมอยากร่วมรักกับคุณตลอดเวลา ผมหึงทุกอย่างที่อยู่ใกล้คุณ เซ็กส์ทอย เสื้อผ้า มือถือ..."


โอเค อันนี้จะโรคจิตเกินไปแล้ว เซ็กส์ทอยยังพอเข้าใจ แต่ถ้าผัวมาบอกว่าหึงกางเกงในนี่มันก็เกินรับได้ "พอๆ แม๊กซ์" ผมห้าม "ไปอาบน้ำได้แล้ว"


เขายังไม่ยอมขยับ งึมงำข้างหู "เจ้าหญิงใจร้าย... คนสวยใจร้าย... ผมรักคุณมากแท้ๆ"


ผมเงยหน้าขึ้นมองเพดาน กลอกตาอย่างห้ามไม่อยู่ เอาเถอะ...


"ไปอาบน้ำ!" ผมดันเขาออก สบสายตาเหมือนลูกหมาถูกทิ้งแล้วใจอ่อน "พรุ่งนี้ฉันจะเรียนทำอาหารที่บ้านก็แล้วกัน"


แม๊กซ์ยิ้มหวาน ปรี่เข้ามากอดอีกรอบ "เจ้าหญิงของผม! ไปอาบกับผมนะครับ!"


ไม่รอให้ผมร้อง เขาอุ้มผมด้วยวงแขนแข็งแรง ผมตีกล้ามท้องซิกส์แพ็คเขาแล้วขบกัดกล้ามแขน


มีผัวเด็กต้องคอยหมั่นเช็คร่างกาย...





จะให้ดีต้องให้ผัวเช็ค!

สายตาที่เขม้นมองจากหญิงชราทำให้ผมขนลุก


แอนเดรีย... ครูสอนทำอาหารของผมเป็นหญิงชราชาวจีน-อเมริกัน มีรายการสอนทำอาหารที่โด่งดังทางช่องเคเบิล เชี่ยวชาญด้านอาหารจีน


ไม่รู้แม๊กซ์ไปหาตัวเชฟดังระดับเซเลบริตี้แบบนี้มาจากไหน แต่ที่รู้คือต้องแพงมาก และหล่อนก็ไม่ค่อยจะชอบผมเท่าไหร่


"ใส่ผ้ากันเปื้อนค่ะ" หล่อนบอก ผมจึงหยิบผ้ากันเปื้อนสีชมพูกรุลายฉลุและติดระบายลูกไม้ที่แม๊กซ์บังคับให้ใส่ขึ้นมา หญิงชราถอนหายใจพรืด แต่ไม่ได้พูดอะไร


หลังจากนั้น ดูแอนเดรียจะอารมณ์ดีขึ้นเมื่อพบว่าผมสามารถหั่นหัวหอมได้โดยที่น้ำตาไม่ไหล ใช้มีดอย่างคล่องแคล่ว รู้ว่าส่วนไหนของมะเขือเทศที่กินได้


"นึกว่าคุณจะเป็นพวกคนรวยที่ไม่ได้เรื่องเสียอีก"


ผมยิ้ม ตอบด้วยท่าทางสุภาพ "ผมไม่ใช่คนรวยหรอกครับ"


"คุณแต่งงานกับคนรวย ก็เป็นคนรวยสิ" แอนเดรียเหลือบมองแหวนเพชรทิฟฟานีบนนิ้วผม ผมหัวเราะแหะๆ อย่างเขินๆ มือหั่นแอสพารากัสต่อไป


ชั๊วะ! เสียงเบาๆ ดังขึ้นบนเขียง ผมชะงัก มัวแต่เขินกระบิดกระบวน เอาจนได้!


แอนเดรียสะดุ้ง รีบคว้ามือผมขึ้นแล้วพาไปล้างแผลอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเหี่ยวย่นมีร่องรอยความวิตก "เจ็บไหม ?"


ผมดูบาดแผลที่ซุ่มซ่ามหั่นนิ้วตัวเองแล้วส่ายหน้า เจ็บแปล๊บๆ แผลเป็นเส้นแนวยาวสีขาวเล็กๆ ไม่ลึก "ไม่เป็นไรครับ" ผมตอบง่ายๆ ฉีกกระดาษทิชชูในครัวมาซับ แต่แอนเดรียดึงมือผมไป


"ไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาล"


ผมหัวเราะ "อย่าล้อเล่นน่าแอนเดรีย คุณก็รู้ว่าคนทำครัวต้องได้แผลอยู่แล้ว แผลนี่ก็แค่มีดบาดนิดเดียวเอง" เลือดออกสองสามหยดเห็นจะได้ แต่แอนเดรียกลับหน้าเครียดจัด เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเรียกรถ


"เดี๋ยว! คุณจะทำอะไรน่ะ!" ผมร้อง แต่หญิงชราไม่สนใจ ทำเหมือนผมเป็นลูกหลานหัวดื้อ


เมื่อเธอวางโทรศัพท์ลง ก็หันมาพูดด้วยเสียงทะมึน "ไปโรงพยาบาล หยิบโค้ตได้แล้วคุณข้าว"


"หา" ผมอุทาน หน้าตื่น "เดี๋ยวๆ แผลแค่นี้เอง เอาพลาสเตอร์ติดก็ได้ คุณไม่ต้องซีเรียส" แต่แอนเดรียเลยคำว่าซีเรียสไปแล้ว สีหน้าเธอเหมือนรายการทีวีสุดฮิตของตัวเองโดนแคนเซิล ลูกชายกลายเป็นเกย์และสามีนอกใจพร้อมๆ กัน


เธอไม่ฟังผม ดึงแขนไปยังปากประตู หยิบเสื้อโค้ตมาสวมให้อย่างรวดเร็ว ปากพึมพำ "ถึงว่าสิ... เงินเยอะปัญหาก็เยอะ"


"คุณพูดอะไรน่ะ"


โทรศัพท์แอนเดรียดังอีกครั้ง เธอรีบดันผมให้ออกจากห้อง กดลิฟต์และพาไปที่รถสีดำอย่างว่องไวผิดกับอายุ


"คุณทำเกินไปไหม ?" ผมถูกผลักมานั่งด้านหลังของรถเล็กซัส SUV หล่อนเหวี่ยงประตูปิดแล้วสั่งคนขับรถด้วยใบหน้าเคร่งเครียดปานโลกถล่ม เหมือนแผลเท่าแมวข่วนของผมรุนแรงหนักหนาสาหัส


แอนเดรียหันกลับมามอง พ่นลมหายใจออกแรงๆ "เกินไป ? ที่เกินไปน่ะผัวคุณต่างหาก! ถ้าเขารู้ว่าฉันทำคุณเลือดออก รายการทีวีฉันคงล่ม!"


"เดี๋ยวๆ แล้วรายการทีวีของคุณเกี่ยวอะไรกับแม๊กซ์ ?"


"ก็ร้านอาหารเฟรนไชส์ของแม๊กซิมัสเป็นสปอนเซอร์! ตอนนี้เขากำลังจะเซ็นสัญญาทำอาหารสำเร็จรูปโดยใช้สูตรอาหารของฉันด้วย!"


มิน่าล่ะ แม๊กซ์ถึงเรียกเชฟคิวทองมาสอนผมถึงบ้านได้


แอนเดรียขมวดคิ้วมุ่น "น่าจะเปิดไซเรน"


"เดี๋ยววววววว" ผมร้องเสียงหลง "แผลแค่นี้จะไปโรงพยาบาลทำไม!"


เธอถอนหายใจ มือกดมือถืออย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนักโทรศัพท์ก็ดัง "ไปคุยกับผัวคุณเองเถอะ!"










ผมนั่งหน้าโง่อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่วุ่นวายสุดๆ ทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยไหม แต่ผมก็ได้ฉีดยากันบาดทะยักหนึ่งเข็ม ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่ามีดทำครัวน่ะ กลอเรียขัดจนเงาวับสะอาดสะอ้าน ขนาดใช้ส่องหน้าตัวเองได้


แอนเดรียคุยโทรศัพท์เสียงเครียด แล้วแม๊กซิมัสก็วิ่งเข้าห้องฉุกเฉินมาอย่างเร่งรีบ


"เจ้าหญิง!" เรียกเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน เหมือนจะมาดูใจเมียใกล้ตาย ผมเงยหน้าขึ้นมองเหวอๆ คนไข้และหมอพากันหัน
มามอง


ถ้าไม่รู้มาก่อน ใครก็คงคิดว่าผมนอนพะงาบๆ แน่ๆ


"คุณคะ เบาเสียงด้วยค่ะ!" พยาบาลดุ เขาจึงหุบปากแล้วสาวเท้าเร็วๆ เข้ามาหาผม


"ที่รัก เป็นอะไรไหม ?" เสียงเขาละห้อย คว้ามือผมไปจูบ "เจ็บไหมคนดี..."


ผมคิ้วกระตุก เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ "ไม่เป็นไร..."


"โธ่ ที่รัก ใครทำคุณเลือดออก" เอ่อ แผลมีดบาดเท่าแมวข่วนเนี่ยนะ แอนเดรียสะดุ้งโหยง


แม๊กซ์ลูบไล้มือผมอย่างเป็นห่วง ทั้งพรมจูบและปลอบโยน แต่ผมถอนหายใจ


"แม๊กซ์"


"อย่าพูดแบบนั้น" เขาห้าม ก้มลงมองผมด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ ปากจูบมือผม "คุณเป็นหัวใจของผม... อย่าทำให้ตัวเองเจ็บตั..."


"แผลน่ะ อยู่อีกข้าง" ผมยกมืออีกข้างให้ พยักเพยิดไปที่แผลเท่าปลายเล็บบนนิ้วชี้ เล็กจนแทบมองไม่เห็น


แม๊กซ์หน้าเสีย วางมือข้างที่ไม่เป็นอะไรลง กระแอมคอให้โล่ง "แฮ่ม เดี๋ยวผมไปจ่ายเงินนะ"


ผมกลอกตา










คืนนั้นเราเลยฉลองที่ผมไม่เป็นอะไร (ทั้งๆที่ บอกทางโทรศัพท์ไปแล้วว่าไม่มีอะไร) บนเตียง แม๊กซ์จัดหนักไปห้ายกให้สาสมกับความเป็นห่วง ผมงงเล็กๆ ทั้งๆ ที่ผมป่วยหนัก(ในความคิดเขา) แล้วไหงมาลงที่ผมได้


แม๊กซ์เสร็จไปแล้ว แต่ความใหญ่โตยังไม่อ่อนตัว ผมหอบหายใจ เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา


ตีสาม...


ดีมาก... เริ่มฟัดกันตั้งแต่บ่ายสี่ มาเสร็จตอนตีสาม แทนที่จะห่วงแผลมีดบาด ควรห่วงว่าเมียแก่ตัวเองจะรับไหวดีกว่าไหม


"ผมใจหายหมดเลยรู้ไหม...." เขาพึมพำ ซบหน้าลงกับหน้าอกผม พูดไม่พอ ลิ้นเลียยอดอกไปด้วย มืออีกข้างก็บีบหน้าอกเล่นให้ผมเสียวสะท้าน


"อึก... อะ แอนเดรียไม่ได้บอกว่า ฮ้า..." เสียงหายไปกลางประโยค ปากร้อนเข้าครอบติ่งเนื้อเล็กๆ ที่หน้าอก ฟันคมขบจนผมร้องไม่เป็นภาษา "ฮึกก แค่มีด บะ บาด..."


"บอก" เสียงอู้อี้ เอื้อมมือไปนวดหน้าอกอีกข้างอย่างเท่าเทียม "แต่ผมไม่วางใจ"


"พะ... พอก่อน...." ผมดันเขาออก แต่แม๊กซ์ยังดึงดันดูดนมผมเหมือนทารก ปลายคางที่มีเคราถูไถจนผิวร้อนแสบ ทั้งๆ ที่เล้าโลมอยู่ท่อนบน แต่ในร่องก้นผมเสียดเสียวแปลบๆ


นี่สินะที่เรียกว่าคันหู


"ถ้าคุณเป็นอะไรไปผมคงใจสลาย" แม๊กซ์พูดหงอยๆ บีบนมผมเล่นทั้งๆ ที่มันแบนราบ ผมส่ายเอวโดยไม่รู้ตัว


"อึก..."


"ผมจะแคนเซิลงานกับแอนเดรียทั้งหมด" เขาฮึ่มฮั่ม บีบหน้าอกแรงขึ้นอีก ผมไม่ไหวแล้ว


"ยะ... อย่า..."


"คุณชอบ" เขาค้านอย่างดื้อดึง กัดปลายยอดหน้าอกอย่างแรงคล้ายจะยืนยัน ผมร้องคราง ความร้อนพุ่งพรวดลงไปที่หว่างขา ท่อนลำเล็กๆ ปลดปล่อยออกมาอย่างง่ายดาย


"เห็นไหมว่าคุณชอบ" ไม่ว่าเปล่า เอื้อมมือไปโยกท่อนลำผมเล่นด้วย ผมหายใจทางปากอย่างหอบเหนื่อย เขาเข้ามาวนเวียนบริเวณซอกคอ


"มะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น... อย่าแคนเซิลงานแอนเดรีย..."


ตาคมหรี่ลง นี่คิดไปถึงไหนอีกล่ะนี่ "อย่าบอกนะว่า..."


"หล่อนแก่จนเป็นอาม่าฉันได้แล้วนะ!" ผมปราม ดันหัวเขาออก ถ้ายังนัวเนียกันอยู่ มีหวังได้เสร็จอีกรอบ "แต่... แต่ อาหารสำเร็จรูปสูตรหล่อนน่าจะทำกำไรไม่ใช่เหรอ"


"อืม กำไรดีไม่น้อย"


"แล้วจะยกเลิกทำไม!? อ๊ะ!" เขาพุ่งมาตะครุบริมฝีปาก บีบปลายคางผมจนเจ็บ หลังจากนั้นสอดลิ้นเข้าไปจนถึงโคน เลาะเล็มปลายฟันทุกซี่แล้ว เขาก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากผมเหมือนสุนัขตัวโต


"อื้ม น่ารักจัง เจ้าหญิงเป็นห่วงผมด้วย... แต่ไม่ได้แล้วนะ ผมไม่ยอมให้คุณเรียนทำอาหารแล้วล่ะ"


"ฮื้อ... แค่มีดบาด..."


"ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ผมจะไม่ให้อะไรมาทำร้ายคุณทั้งนั้น" ไม่ว่าเปล่า คว้าขาทั้งสองข้างของผมให้ยกสูง โชว์บั้นท้ายและช่องทางที่มีน้ำขัง


เขาเลียริมฝีปาก "อันตรายขนาดนี้... กลับไปนั่งขัดเพชรเถอะครับเจ้าหญิง"


"อ้า อึก..." ไม่ไหวแล้ว ไม่พูดเปล่า ดันความร้อนเข้ามาด้วย ท่อนลำขนาดใหญ่สอดเข้ามาที่กลางร่อง ผมรู้สึกได้ถึงความใหญ่โตแสนร้อนแรง และเนื้อนุ่มของตัวเองที่โอบรัด


"แม๊กซ์ แม๊กซ์..."


"ครับ เจ้าหญิง" เขาโถมตัวเข้ามาจนสุด ผมสูดปากร้อง เหมือนจิ๊กซอว์กลับเข้าที่ เติมเต็มช่องท้องจนคับแน่น


"ฉันรักเธอ..."


เขาเริ่มขยับ สวนแรงส่ายสะโพกของผม ความร้อนแรงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เสียงทุ้มบอกกับริมฝีปากผมหนักแน่น "ผมรักคุณมากกว่า... มากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้อีก"



อืมมม... ริมฝีปากหวานฉ่ำ นาทีนั้นผมไม่สนใจแล้วว่าต้องไปนั่งขัดเพชรต่อหรืออะไร รู้แค่ว่า...

...รักเด็กบ้าโรคจิตคนนี้เหลือเกิน


.........

// ข่ะ ผัวกลัวเมียว่างงาน เลยหาเพชรให้ขัดเล่น  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
อวดมากมาย อวดไม่มียั้งจริงๆ

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
หมั่นไส้ ค.อ.ผ. ค่ะ  :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รำคาญจังเลยค่ะ
 :hao4:

ไม่ผัวรวยให้อวดบ้าง
 :katai4:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อิจฉานุ้งข้าว!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แมกซ์ รัก หลงใหล ข้าว สุดๆ ไปเลย
แต่ข้าวก็รักแมกซ์เด็กโรคจิตคนนี้เหลือเกิน
ผัวเมีย คู่นี้หลงใหลกันสุดๆ
คนอ่าน ก็หลงไหล เด็กโรคจิต กับ เจ้าหญิง เช่นกัน
ชอบบ  :katai2-1:
     :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านตอนแรกน้ำตาซึมเลย พอเคลียร์กันได้คือ...

ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งหึง ทั้งหวง

โอ้ยยย อวดกันเกินไปแล้ววว

 :ling1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao5: อิจฉาหนูข้าวอย่างแรง ผัวรักผัวหลงซะขนาดนั้น

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อยากมีผัวให้อวดบ้างจังเลยโว้ย :ling1:

ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
โอ้โห่ ผัวจะหลงอะๆรเบอร์น้านนนนน

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เบื่อ คอผ จริงๆ เอะอะนั่งขัดเพชรตลอด

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หึ นังข้าว

หมั่นระดับสิบค่ะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เข้ามารอติดตามงานของคุณ aimer


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ohho99

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
นึกว่าชื่อเรื่องคนอวดผัว หมั่นใส้มากข่ะ 55
ผัวเมียคู่นี้ทั้งรักทั้งหลงกันเอง
นี่ขนาดท้องนะเนี่ยจัดเต็มซะขนาดนี้
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ

+1 กดเป็ดให้กำลังใจคนเขียนค่ะ ^^

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
หมั่นนายเอกมาก 555 อวดจริงจังอ่ะ

ออฟไลน์ purpleguy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :haun4: ฟินฝุดๆ  :haun4:

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
แนะนำให้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "คนอวดผัว" ค่ะ ตรงกว่าชื่อเดิมอีก

อ้อ หมั่นข้าวแรงมากค่ะ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
555555555555ทั้งอีโรติกทั้งฮาคู่นี้ :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ร้อนแรงมาก  แล้วก็มีอารมณขันแบบแปลกๆ  55555

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ผัวมีดีให้อวดก็อวด -หน่องข้าวมิได้กล่าวไว้-

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ฮาเฮียแม๊กมากกกกก จะเยอะไปไหนคะ 555555555 :m20: :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด