ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9  (อ่าน 231656 ครั้ง)

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ถามว่าอิจฉาไหม

อิจฉาสิเธอ  :mew4:

ออฟไลน์ Onlylyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบมากกก หวาน เลี่ยน หื่น ฮา ครบรส 555555
กิ่งทองใบหยกฟุดๆ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อิจถ่าได้ผัวงี้นะไม่ต้องทำงานเอาอย่างเดียว ให้น้ำเต็มท้องเลยอิจฉา

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
อิจไหม?  => มาก!!!!

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อวดสามีตลอดนะหนูข้าววว :mew4:

ออฟไลน์ waiman

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หวาน กันจริงๆๆๆ  เมื่อไหร่ ข้าวจะคลอด ลูก เสียที   :mew1:

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ยอดเลยข้าว

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
นี่บอกเลยค่ะ ว่ากรอกตามองบนแบะปากจนเมื่อยหน้าไปหมดแล้ว อวดแรง หึ! :a5:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ผัวดีดีมันมีแต่ในนิยายใช่มั้ย

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ชั้นเกลียดความ อิจฉาป้ะ? ของนางมากกกก  :katai1: นังข้าวต้องแอบทำของใส่ผัวฝรั่งแน่ๆเลยค่ะ!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
เดี๋ยววว ทำไมอ่านๆไปเริ่มรู้สึกหมั่นข้าว ฮ่าๆๆๆ    :m20:

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
จริงๆแล้วๆเราคิดว่าเรื่องควรจะชื่อ สูด หอม ดอม ดม...รักเมียมากครับมากกว่านะ ฮาาาาาาาา ดีค่ะเนื้อเรื่อง อ่านได้เรื่อยๆ รอตอนต่อไปนะคะ  :3123:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
กลัวลูกหลุดบ้างม้ายยย  :pighaun:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :katai4:

เพิ่งอ่านจบ!!!

มันแซ่บมาก อันที่จริงคนนิรนามในเฟสก็คือคนอ่านเนี่ยแหล่ะ อิจฉาพี่ข้าว  :ling3:

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
รักผัวครั้งที่ 6

แสบ...

ผมแสบจนต้องร้องออกมา

ท่อนลำเขาที่ปักแน่นคาที่ช่องทางทำให้ผมทรมานจนอยากตายไปเสียพ้นๆ

เจ็บยิ่งกว่าครั้งแรก เจ็บยิ่งกว่า... ขาผมถูกถ่างออกกว้าง เสียงลมหายใจเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ดังขึ้นเหนือศีรษะ เขาดันตัวเข้ามาอย่างดื้อดึง

"อ๊าา เอาออกไป!"

ผมชอบเซ็กส์... แต่ทำไมไม่ว่าแม๊กซ์จะเล้าโลมมากแค่ไหน ผมกลับหาวแล้วพลิกตัวให้

ผมไม่ได้ต้องการเป็นแบบนี้

ผมเป็นผู้ชาย เข้าใจดีว่าผู้ชายต้องการอะไร สันดานเก่าๆ ของผู้ชายก็เหมือนกันหมด... ไม่ใช่ว่าไม่กลัวแม๊กซ์นอกใจหรือมั่นใจในรูปโฉมขนาดนั้น

คนอย่างแม๊กซ์จะหาสาวสวยอีกกี่คนก็ได้ จะทิ้งผมไปเมื่อไหร่ก็ได้

แต่ที่ทำให้ผมมั่นใจคือ เขาเต็มอิ่มกับร่างกายผม หากปรนเปรอสามีจนอิ่มแล้ว เขาย่อมไม่ออกไปหากินข้างนอก ผมคิดแบบนั้น

แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวจริงๆ เจ็บแสบจนต้องลืมตาขึ้นมองใบหน้าเขา แม๊กซ์อารมณ์คุกกรุ่น เขากุมมือผมไว้ พูดเสียงแผ่ว "ผ่อนคลายหน่อยเจ้าหญิง"

ผมทำไม่ได้... ผมไม่มีอารมณ์ร่วมเลยแม้แต่น้อย แต่เขายังคงเข้ามา...

เจลก็ไม่ช่วยอะไร ได้แต่ผลักไสเขาออกไป แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเท่าไหร่ แม๊กซ์ก็ยังดันเข้ามาจนสุดความยาว ผมอ้าปากกว้าง หอบอากาศเข้าปอด ตาพร่ามัวด้วยน้ำตา

"มะ ไม่เอานะแม๊กซ์ ได้โปรดเถอะ... ได้โปรด..." ผมอ้อนวอน เจ็บจนสมองชาหนึบ ความใหญ่โตร้อนผ่าวเต้นตุบๆ อยู่ในโพรงร้อน แม๊กซ์พ่นลมหายใจ

"คุณชอบ... ชอบให้ผมย่ำยีไม่ใช่เหรอ"

ผมส่ายหน้าจนผมกระจายบนหมอน แม๊กซ์ไม่สนใจเสียงร้องห้าม เขาคว้าขาผมขึ้นแล้วกระแทกเข้ามาสุดแรง!

ฉีกแน่ๆ!

ผมกรีดร้อง สองมือกุมท้องไว้ แม๊กซ์จะกระแทกโดนลูกไหม ลูกจะเจ็บไหม ยิ่งผมดิ้นรนหนี เขายิ่งมีอารมณ์ ความใหญ่โตแข็งและร้อนควานควักเข้ามาจนหนังหัวชาหนึบ

"อย่า... ไม่เอา ฮือ... ไม่เอา..."

"ข้าว ฮ้าา คุณฟิตจริงๆ"

"อึกก..." ผมสั่นสะเทือนไปตามแรง ความเจ็บแล่นไปทั่วทั้งร่าง ผมร้องไห้ออกมา พยายามปัดใบหน้าเขาออก ไม่ยอมให้กดจูบ ไม่เอาแล้ว... ไม่เอาอีกแล้ว เจ็บ...

แม๊กซ์ไม่สนใจเสียงร้องของผมเลย...

เซ็กส์ที่ถูกฝืนบังคับ... ครั้งแรกที่ผมไม่มีอารมณ์ร่วมแม้แต่น้อย... ยาวนานเหลือเกิน... ผมร้องไห้สลับกับหมดสติ เจ็บจนชาไปทั่วร่าง ช่องทางถูกฉีกออกเพื่อรองรับเขาเข้ามา

ความคิดสุดท้ายที่ล่องลอยคือ...

...ผมถูกข่มขืน...

...ผมถูกสามีข่มขืน...


...

เราไปหาหมอกาเบรียลเพื่อตรวจตามนัด ผมนัดพิชไปพร้อมกันเพื่อไปกินอาหารเที่ยงหลังจากนั้น

หมอโกรธแม๊กซ์มากเมื่อตรวจพบร่องรอยฉีกขาดที่ช่องทางและผมที่มีไข้ หมอถามหลายครั้งว่าจะแจ้งความไหม แม๊กซ์ยืนนิ่งแข็ง ผมรู้ว่าเขาก็เสียใจเหมือนกันที่รุนแรงกับผม

ผมส่ายหน้า

หมอพูดไม่ออก แต่เขียนใบสั่งยาให้มารักษาแผลที่ก้น แล้วเราก็ออกไปเจอพิชกับปาป้าที่ล็อบบี้ วันนี้พิชตรวจเสร็จก่อนผมตั้งแต่เช้า เขายังคงร่าเริงและอ่อนโยนเหมือนเคย

"หน้าซีดจัง ข้าวเป็นอะไรหรือเปล่า ?"

ผมยิ้มตอบ "ไม่เป็นไรหรอก..." แค่ยืนได้ก็เก่งแล้ว ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ผมรู้สึกตัวเองด้านชา จำได้ว่าตัวเองร้องขอให้สามีหยุดไปแค่ไหน แต่แม๊กซ์ก็ไม่สนใจ

เสียงร้องของผมไม่มีค่า

จนผมเริ่มคิดแล้วว่า ผมมีค่าแค่ไหนสำหรับเขา

แค่รูระบายอารมณ์ที่ตั้งท้องได้ ?

ไม่ว่าแม๊กซ์จะพูดอะไร ขอโทษผมแค่ไหน ใบหน้าของเขาก็พร่าเลือนเพราะน้ำตาที่เอ่อล้น แม๊กซ์ยิ่งเอาอกเอาใจ พาผมไปอาบน้ำ ร้องขอให้ผมให้อภัย

ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไร ควรรู้สึกอย่างไร

อยากอยู่กับเขาหรืออยากจากไป


ผมนั่งในอ่างอาบน้ำ กลัวว่าจะแท้งลูก... แต่ขยับตัวไม่ได้ ขณะก้มลงมองเลือดไหลเป็นทาง

หากเขาทำให้ผมเสียลูกไป... ไม่ว่าผมจะรักเขามากแค่ไหน ผมก็จะไม่มีวันให้อภัย

ไม่ให้อภัยทั้งตัวเองและเขา

แม๊กซ์ช่วยผมแต่งตัว หาซุปร้อนๆ ให้กิน กอดผมเต็มวงแขน เช้ามาผมมีไข้ เขาหาหยูกยาให้กิน ถึงกับหยุดงานเพื่อมาดูแลผม

ผมเห็นความตั้งใจจริงของเขา แต่มันชาไปหมด...

วันนี้เราจึงมาหาหมอกาเบรียล แล้วไปกินอาหารกลางวันกับพิช ผมเสียใจที่นัดพิชออกมาแล้วเป็นอย่างนี้ พิชกับปาป้าเป็นคนดี พอเรากินกันเสร็จ พวกเขาก็อวยพรให้ผมหายป่วยเร็วๆ หากดีขึ้นเมื่อไหร่ค่อยโทรไปนัดกินข้าวก็ได้

ผมกลับบ้านมาโดยมีแม๊กซ์ช่วยพยุง เขากุลีกุจอหาน้ำให้กิน "ข้าว... ดื่มน้ำหน่อยนะครับ"

ผมรับแก้วมา ดื่มน้ำอุ่นๆ จนหมด แม๊กซ์นั่งที่ปลายเท้าอย่างหมดแรง เขามองตามสายตาผมไปที่แจกันดอกกุหลาบ...

...แจกันสีขาวยังส่องประกายสวย แต่ดอกกุหลาบแดงสดเหี่ยวเฉาลงหมดแล้ว

"ผมจะให้คนมาเปลี่ยน" แม๊กซ์เอาใจ ช่วยผมถอดถุงเท้า "ข้าว... ฟังผมอยู่หรือเปล่า ?" เสียงของเขาทรมาน แต่เชื่อเถอะว่าผมทรมานกว่าเขา

ร่างสูงใหญ่เลื่อนขึ้นมานั่งข้างๆ โอบกอดผมไว้ "ข้าว... เจ้าหญิง... คุณจะไม่ให้อภัยผมเลยเหรอ ? เจ้าหญิงครับ..."

เจ้าหญิง... เขาเรียกใครกันนะ ?

สมองมึนชา ผมค่อยๆ ล้มลง ภาพใบหน้าเหลือเพียงสีสันแปลกประหลาดจนแสบตา ในหัวเต้นตุ้บๆ จนผมอยากให้มันหยุดเสียที

"เจ้าหญิง!" เสียงนั้นร้องดัง

ใครกัน ?

วงแขนอุ่นๆ ที่อุ้มผมขึ้นอย่างร้อนรนนั้นทำให้ผมร้องไห้... ทั้งรักทั้งกลัวเขา...

ในลึกสุดของจิตใจกระซิบบอกว่าให้อภัยเขาอีกสักครั้งเถอะ... อีกสักครั้ง... อีกครั้งหนึ่ง จะได้สบาย จะได้ดื่มด่ำกับความรักที่เขามีให้อย่างสบายใจ

แต่สมองที่ปวดจนเหมือนหลุดออกมานั้นสั่งห้ามเสียงกร้าว... เขาผิดสัญญามากี่ครั้งแล้ว... แล้วเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ... แล้วต่อไป... ต่อไป... เขาจะทำร้ายผมและลูกไหม...

...จะทุบตีผมไหมหากผมไม่ได้ดังใจเขา...
...จะข่มขืนผมอีกไหมหากเขาถูกผมปฏิเสธ...
...จะทำร้ายผมไหมหากเขาหึงอีก...

...แล้วที่สำคัญ... เขาจะทำให้ลูกเป็นอันตรายหรือเปล่า...
[/b]

.....

ผมหลับไปนาน กระทั่งได้ยินเสียงเรียกของโทรศัพท์ ผมควานมือหา ร่างกายไม่หนักเท่าไหร่แล้ว สมองที่เหมือนจะระเบิดก็ดีขึ้น ตัวไม่ร้อน ผมกดรับ เสียงปลายสายดังอย่างร้อนรน

"กว่าจะรับนะมึง! ทำไมแม่ติดต่อเอ็งไม่ได้เลยวะ ผัวเอ็งรับก็พูดอะไรไม่รู้เรื่อง"

ผมฟังเสียงแม่แล้วน้ำตาไหล... "ข้าวไม่สบายน่ะ"

"อ้าว... เป็นอะไร" เสียงแม่เป็นห่วง ผมสะอื้นเบาๆ

"มีไข้"

"กำลังท้องกำลังใส้ดันเป็นไข้ บอกแล้วว่าอย่าไปเมืองนอกเมืองนา แล้วใครจะช่วยดูแล" แม่บ่นไม่หยุด แต่ผมกลับยิ้ม

"ดีใจที่แม่เป็นห่วง"

"ห่วงสิ ไม่ห่วงลูกแล้วจะให้เป็นห่วงหมาที่ไหน" แม่ฮาร์ดคอร์ "แล้วยังไง ผัวมึงมันดูแลบ้างหรือเปล่า พาไปหาหมอหรือยัง"

"อือ... ไปมาแล้ว"

"ดีแล้ว ถ้ามันไม่ดีก็กลับมา เข้าใจไหม ?" ผมแปลกใจที่แม่พูดอย่างนี้ เพราะแม่เห่อเขยฝรั่งจะตาย

"ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะแม่"

แม่พ่นลมหายใจ "ผู้ใหญ่ดูแล้วรู้ ผัวมึงน่ะรักมึง... รักจนน่ากลัว แต่ที่ยอมปล่อยมึงไปเพราะเห็นรักกัน แล้วก็โตๆ กันแล้ว..." แม่เว้นวรรค เอ่ยช้าๆ "วันนี้กูตื่นมาแล้วใจไม่ค่อยดี กลัวมึงจะเป็นอะไรไป ผัวมึงคงไม่ได้ทำร้ายใช่ไหม ?"

เขาข่มขืนข้าว... ผมกลั้นสะอื้น กลืนคำนั้นลงไป หากพูดออกไป คนที่บ้านต้องรีบบินมาบังคับผมหย่าแน่ๆ

"มะ... ไม่จ้ะ" เสียงผมสั่น แม่จับความผิดปกติได้

"อย่าบอกนะว่า... มันตีมึงนะ... ตัวเล็กแค่นั้นจะเอาอะไรไปสู้มันได้... รีบกลับมา!"

ผมพยายามหัวเราะ "ไม่ใช่สักหน่อย... แม่ก็ห่วงเกินไป แล้วข้าวจะกลับได้ยังไง ไม่มีเงินซื้อตั๋วหรอก" ผมพยายามผ่อนคลาย แต่แม่กลับสวนทันควัน

"มันจะซักกี่แสน กูจะซื้อให้ หรือจะให้พวกกูไปรับ ?"

ผมขำไม่ออก แม่จริงจังมาก เซ้นส์ของคนเป็นแม่แรงจนน่ากลัว "ข้าวไม่เป็นไรจริงๆ แค่ไม่สบายนิดหน่อย"

"ให้มันแน่นะ"

"จ้ะ" แล้วเราก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ จนกระทั่งแม่วางสายไป ผมจึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง รีบดูนาฬิกา...

บ่ายสองกว่า... แม๊กซ์ไปไหนนะ

ใจหาย... เมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นเขา แต่รีบปลอบใจตัวเองว่าเขาคงไปทำงาน พยุงตัวเองขึ้นเข้าห้องน้ำ พอล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็รู้สึกดีขึ้น

แม่พูดทำให้ผมสะกิดใจ รีบตรงไปยังลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง มีครีมทาผิวสารพัดที่สามีซื้อให้วางเรียงราย ผมไม่สนใจ หยิบกุญแจที่ซ่อนอยู่ขึ้นมาไข

ผมเก็บเอกสารส่วนตัวของไทยไว้ในลิ้นชักนี้ ส่วนของไทยผมเก็บไว้เอง ส่วนของอเมริกันแม๊กซ์เก็บไว้ให้

รื้อดูทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ บัตรประชาชนของไทย...

...ไม่มี...

ผมหน้าซีด จำได้ชัดๆ ว่าต้นปีเก็บไว้ที่นี่ แล้วหลังจากนั้นก็เก็บลงลิ้นชัก ที่สำคัญ... ผมเขย่าลิ้นชักอย่างบ้าคลั่ง

พาสปอร์ตไม่มี!

กลอเรียจะขโมยไปหรือ... ไม่หรอก กลอเรียจะขโมยไปทำไม เอกสารของไทยไร้ค่าสำหรับหล่อน

ใจผมหล่นวูบ คิดได้อย่างเดียว...

...แม๊กซ์...

...

สมองเบลอไปหมด เสียงประตูห้องนอนดังจากด้านนอกทำให้ผมสะดุ้ง แม๊กซ์กลับมาแล้ว... เสียงนั่นอะไรกัน...

เสียงไขกุญแจ

ขนผมลุกชัน...

ผมอยู่ในบ้านคนเดียวทำไมต้องล็อกกุญแจห้อง...

ประตูเปิดออก ร่างสูงใหญ่ทะมึนค้ำหัว เขายืนมองผมที่นั่งบนพื้น ข้าวของกระจัดกระจาย

ดวงตาเขาส่องประกายวาบ เสียงทุ้มนุ่ม "ข้าวไม่เปิดไฟล่ะ ?" มือใหญ่เอื้อมไปกดสวิตช์ ผมรู้สึกได้ว่าตัวสั่นระริก

"ทำไมไปนั่งแบบนั้น หายดีแล้วเหรอครับ ?" เขายิ้มเย็น ผมพยายามพูดออกไป

"พาสปอร์ต... พาสปอร์ตฉันอยู่ไหน..."

เขาหัวเราะ "คุณพูดอะไรน่ะ"

"พาสปอร์ตแม๊กซ์! พาสปอร์ตของฉัน!" ผมร้องเสียงดัง ใจหดเกร็ง ชายตรงหน้าเหมือนคนแปลกหน้า เขาค่อยๆ ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ผมกลัวจนผงะถอย

"พาสปอร์ต... ผมเก็บไว้ให้ไงครับเจ้าหญิง คุณเป็นอะไรไป ? หรือ..." มือใหญ่คว้าผมจากพื้น เขาแรงเยอะมาก... หากเขาจะ...

"ทำไมตัวสั่น ? คุณจะเอาพาสปอร์ตไปทำอะไร ?"

ผมกลืนน้ำลาย ความรุนแรงที่เขาทำไว้ยังฝังอยู่ในสมอง กลัวเขาจับใจ กลัวจนไม่กล้ามองหน้า

"หรือคุณ... มีใคร ?" น้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ผลักผมลงบนเตียง "เจ้าหญิง... ไม่ว่าไอ้อีนั่นจะเป็นใคร... อยู่ที่ไหน... แต่ผมไม่ปล่อยให้คุณไปหามันหรอกนะ" เขาหัวเราะเบาๆ "คุณเป็น'เมีย'ผม... มีหน้าที่รับความรักจากผมเท่านั้น ผมไม่ปล่อยให้คุณออกไปหรอก..."

"เธอ... เธอเลยล็อกห้องงั้นเหรอ..." ใจผมกู่ร้องว่าไม่จริง ขอให้เขาโกหก ขอให้นี่เป็นเรื่องโกหก

ใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบาๆ "เจ้าหญิงคนดี... คุณจะออกไปไหนทำไม ผมจะปรนเปรอให้คุณทุกอย่าง..."

ผมหมดแรง ไม่สามารถผลักเขาที่คร่อมเหนือร่างกายได้ "แม๊กซ์... ทำไมทำกับฉันอย่างนี้..."

เขาจูบต้นคอ จุมพิตริมฝีปาก "เพราะคุณเป็นของผม"

"ฉันเป็นของเธอ... ของเธอคนเดียว... แต่เธอสัญญากับฉันแล้ว..."

"ผมรักษาสัญญา" เขายืดตัวตรง แววตาปวดร้าว "ผมให้คุณไปหาพิชตั้งสองครั้ง พาคุณไปวัดไทย พาคุณไปเดินเล่น... ผมถึงขีดจำกัดแล้วข้าว ผมทนดูคุณไปมีคนใหม่ไม่ได้!"

ผมอ้าปากค้าง "คนใหม่... ใครกัน หรือเธอหึงพิชกับปาป้าอีก!"

"ไม่ใช่พวกเขา!" แม๊กซ์เสียงเครียด ทึ้งเสื้อผ้าผมออก ยิ่งผมดิ้นหนีเขายิ่งรุนแรง ผมคลานไปจนสุดเตียง ร้องทั้งน้ำตา

"ทำไม... ทำไมพวกเราถึงกลายเป็นแบบนี้ได้... แม๊กซ์..." ผมกุมคอเสื้อไว้ เขาคลานเข้ามาคว้าเอวผม ผมตัวสั่น กลัวว่าเขาจะข่มขืนอีก

แต่แม๊กซ์กลับจับผมนั่งตัก กอดผมเงียบๆ อยู่อย่างนั้น ชายคนที่ผมไม่รู้จักหายไปแล้ว... กลายเป็นแม๊กซ์คนเดิม...

ผมสะอื้น เขาค่อยๆ เชยคางผมขึ้นเพื่อจูบซับน้ำตา เสียงขมขื่น ดวงตารวดร้าว "ผมทำคุณร้องไห้อีกแล้ว... ทำไมผมถึงเลวแบบนี้นะ... คนนั้นเป็นใครกันข้าว ? มันทำให้คุณมีความสุขกว่าอยู่กับผมใช่ไหม ?"

ผมส่ายหน้า "ใคร... ฉันไม่มีใครนอกจากเธอ... ทำไม..." ผมกัดริมฝีปาก "ทำไมถึงกล่าวหาฉันแบบนั้น... จริงๆ แล้วเธอไม่เชื่อใจฉันเลยไม่ใช่หรือไง!"

อ้อมแขนแข็งแรงนั้นกอดผมแน่นเข้า เขาซุกหน้ากับต้นคอผม เสียงสั่นเครือเหมือนเด็กน้อย "เจ้าหญิง... เจ้าหญิง... ผมไม่อยากเสียคุณไป... แต่มันชัดเจนขนาดนี้แล้ว"

"อะไรชัดเจน"

"คุณไม่มีอารมณ์กับผม... ไม่ใช่เป็นเพราะคุณมีคนอื่นหรือไง ?"

ผมฟังแล้วอึ้ง นึกย้อนกลับไปวันก่อน... แม๊กซ์พยายามเล้าโลมผมอยู่หลายชั่วโมงจริงๆ

แล้วจะว่าเขาข่มขืน... ก็ไม่เชิง ต้องเรียกว่าปล้ำมากกว่า เขาทั้งปลอบทั้งจูบทั้งบอกรัก แต่ผมดิ้นจนไม่ฟังเขาท่าเดียว

แม๊กซ์ใช้เจลจนหมดหลอดเพื่อช่วยหล่อลื่น ผู้ชายที่มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ถอยกลับยากมาก ผมก็รู้ดี แต่ยังไม่ยอมให้เขาเข้ามา... ที่เขาไม่ฟังผมห้ามเพราะ... เอ่อ ถึงจุดนั้นแล้ว ไม่ว่าใครก็คงหยุดไม่ได้จริงๆ ต่อให้เป็นผมก็เถอะ

ผมรีบดึงความทรงจำกลับมา...

...ผมร้องไห้ให้เขาหยุดเพราะเจ็บ แม๊กซ์หยุดไม่ได้จริงๆ หลังจากกระแทกเข้ามาแล้วสวนกลับ เขาเสพสมกับร่างกายผมก็จริง... แต่แม๊กซ์ไม่ได้ทำจนสุด เขากระทั้นเข้าออกก่อนจะถอดถอนออกเมื่อเห็นเลือดไหลเยิ้ม

ผมเจ็บก็จริง แต่ก็คิดว่าแม๊กซ์ห้ามตัวเองเต็มที่แล้ว ผู้ชายที่อารมณ์ถึงจุดนั้นแล้ว ผมเข้าใจดีว่าห้ามตัวเองยาก คิดแล้วก็ถอนหายใจ

แม๊กซ์ไม่ได้ข่มขืนผมหรอก...

หลังจากถอดถอนแล้วเขาเอาท่อนลำมาถูไถตรงหว่างขาแทน ผมส่ายหน้าให้ตัวเอง ทำไมถึงเพิ่งนึกขึ้นได้นะ ฟูมฟายมาหลายวัน... ส่วนที่หมดสติไปก็เพราะร้องจนหมดแรง... ทำตัวเองชัดๆ

เพราะหมดสติสลับกับฟื้นขึ้นมา เลยทำให้ความทรงจำขาดๆ หายๆ สัมผัสได้แต่ท่อนร้อนผ่าวที่ถูไถตัว...

หรือต่อให้เขาข่มขืนผมจริงๆ... ผมคงโกรธ... แล้วก็ให้อภัย

เหมือนเดิมๆ ที่ผ่านมา ผมรักเขาจนเกินไป แค่เห็นใบหน้าคมโศกสลดแล้วก็ใจหายไปด้วย เขาไม่มีความสุขผมก็ไม่มีความสุข ความรู้สึกผมผูกติดเขามากเกินไป รักเขาจนเกินไป

แล้วผมที่รักการมีเซ็กส์เป็นชีวิตจิตใจขนาดนั้นจู่ๆ ก็ไม่มีอารมณ์ เป็นใครก็ตกใจ แล้วยิ่งแม๊กซ์... คนที่หึงแรงขนาดนี้ยิ่งคิดมาก ต่อให้เป็นผมก็เถอะ ถ้าเขาไม่ยอมมีอะไรกับผม ผมก็คงคิดว่าเขามีคนอื่นเหมือนกัน

คิดตกแล้วถอนหายใจ กอดเขาตอบ "โธ่เอ๊ย"

"เจ้าหญิง..."

"ฉันไม่ได้มีใครหรอก... แค่... ไม่มีอารมณ์เท่านั้นเอง" ผมกลัวเขาเก้อสิเนี่ย...

ที่แม๊กซ์เก็บพาสปอร์ตไว้ ขังผมไว้ คงคิดเหมือนเด็กๆ นั่นแหละว่ากลัวผมจะออกไปหาคนอื่น

น่ารัก... บ้าแต่น่ารัก

"แต่ว่า แต่ว่า..." แม๊กซ์ก้มลงมอง "หรือ... ผมจะไม่ดี ?"

ผมสำลัก "แค่ก! เธอเก่งแล้วแม๊กซ์!"

"แล้วทำไม... จู่ๆ..." อย่าว่าแต่เขาไม่เข้าใจเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมส่ายหน้าตอบ

"ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน... ช่วยลุกที ปวดฉี่" ผมดันร่างใหญ่ออก ก่อนหน้านี้มองเขาเป็นคนแปลกหน้าได้ยังไงกันนะ แม๊กซ์ก็คือแม๊กซ์ เด็กน้อยแสนน่ารักที่เป็นสามีผม

"คุณเข้าห้องน้ำบ่อยจัง" แม๊กซ์ช่วยพยุงผมเข้าห้องน้ำ ผมเกาะเสื้อเขาไว้... เงยหน้าขึ้นมอง

แม๊กซ์เพิ่งกลับจากที่ทำงาน ขนาดโค้ตยังไม่ถอดเลย "ทำไมไม่ถอดโค้ตก่อน"

"ผมเป็นห่วงคุณ... วันนี้ผมหยุดงานครึ่งเช้า ตอนบ่ายก็รีบไปสะสางงานแล้วกลับมา เจ้าหญิงโกรธเหรอ ?"

"เปล่า..." รีบจนลืมถอดโค้ต แม๊กซ์รักผมมากจริงๆ ผมกระย่องกระแย่งไปกดชักโครก นั่งแปะลงอย่างเหน็ดเหนื่อย

ไข้ขึ้นทำให้หมดแรงจริงๆ ผมมองสามีที่ยืนรอผมฉี่แล้วกระอักกระอ่วน

"เอ่อ... แม๊กซ์"

"ครับ ?"

"ออกไปก่อนได้ไหม ?"

"คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นนะเจ้าหญิง ไปหาหมออีกครั้งไหม" แม๊กซ์ไม่สนใจคำขอ ยืนกอดอกรออยู่หน้าปากประตู ผมเอามือปิดหน้า กระเพาะปัสสาวะบวมโป่งจนจะราดอยู่แล้ว แต่ผมจะฉี่ยังไงทั้งที่สามียืนดูอยู่

"ฉันท้อง... คนท้องก็ฉี่บ่อยแบบนี้แหละ" อยากมุดดินหนี "ออกไปหน่อยไม่ได้เหรอ... นะ ได้โปรดเถอะ"

"ผมเป็นห่วงคุณ" แม๊กซ์ปฏิเสธชัดเจน

"ถ้าฉันอึล่ะ ?"

"ผมจะเช็ดก้นให้คุณ" ไม่มีวี่แววล้อเล่น แต่ผมตาเหลือก รีบคลานไปดันเขาออกจากห้องน้ำทั้งๆ ที่กางเกงยังคาอยู่ที่เข่า

"แต่ฉันไม่ยอม! ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้น!" ผมร้อง หน้าแดงไปถึงหู ทั้งขยะแขยงทั้งดีใจ

ดีใจแบบแหยงๆ

"เจ้าหญิง..." แม๊กซ์ไม่พอใจ ผมปิดประตูไล่ดังปัง แต่ร่างสูงใหญ่ยังยืนรออยู่หน้าประตูเหมือนหมาแสนจงรักภักดี

"อย่าโรคจิตนะ!" ผมขู่

"เจ้าหญิง..."

"พอเลย!" จะฉี่ออกไหมวันนี้ อยากร้องไห้ ปกติแค่ไปยืนฉี่ในห้องน้ำแล้วมีคนมายืนที่โถถัดไปผมก็ฉี่ไม่ออกแล้ว แล้วนี่ผัวมายืนคุมแม้กระทั่งกระบวนการฉี่!

"เปล่า... ผมแค่คิดอะไรได้น่ะ" เขาตะโกนตอบกลับมา "ถ้าคุณอาย... ผมปิดตาก็ได้!"

มันจะช่วยอะไรไหม! "เธออยู่ข้างนอกอยู่แล้ว จะปิดตาทำไม!"

"งั้นปิดหูก็ได้" แม๊กซ์อ้อนวอน

ก็เข้าท่า... ไม่เห็นไม่ได้ยินก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ผมคิดแล้วผ่อนคลาย "งั้นปิดหูเดี๋ยวนี้เลยนะ!"

ผมทำธุระเสร็จอย่างมีความสุข ฟินจนน้ำตาไหล สงสารลูกเหลือเกินที่มีพ่อแม่แบบนี้

พอล้างมือ กดชักโครกเสร็จแล้วก็เปิดประตู แม๊กซ์ยังยืนรอที่เดิม มือมีไอแพด ท่าทางยินดี ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ตัวเองหน้าด้านซื้อที่ตรวจครรภ์แล้วเขายืนรออยู่หน้าห้องน้ำ

เดจาวู

"เจ้าหญิงงงงงงงง" เขาโถมตัวมากอดผมเต็มรัก ผมร้องโอ๊ะ

"มีอะไร"

"เจ้าหญิง... ที่รัก ผมว่าผมรู้สาเหตุที่คุณไม่มีอารมณ์แล้วล่ะ" แม๊กซ์ดูตื่นเต้นเป็นเด็กๆ ผมได้แต่ลูบหลังลูบหน้าเขาปลอบ

"นี่เธอจะปล่อยผ่านไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย"

"ผมเป็นห่วงคุณนี่นา" เขาตอบ อุ้มผมไปวางที่เตียง แต่ผมกลับหัวเราะ...

จำไม่ได้เลยว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนกลัวและเศร้าขนาดไหน เพิ่งรู้ว่าคนท้องสามารถบิวด์ตัวเองได้ขนาดนี้

สามารถเปลี่ยนจากสามีแสนดีให้เป็นฆาตกรโรคจิตได้ พลังมโนของฮอร์โมนช่างน่ากลัวจริงๆ

"เธอเป็นห่วงไอ้ที่อยู่หว่างขาตัวเองมากกว่ามั้ง" ผมอารมณ์ดีพอกระทั่งแหย่เขากลับไป แม๊กซ์หน้าบูด

"ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ ไอ้นี่ก็เป็นห่วงคุณนะ" เขายิ้ม คว้ามือผมไปจับแม๊กซ์น้อยมหึมาเป็นการพิสูจน์ ผมอุทาน ร้องเสียงดัง หน้าแดงไปถึงหู

"บะ บ้า เลิกเล่นเลย!"

"ฮ่าๆ เจ้าหญิงหน้าแดงเลย... น่ารักจัง"

"ตกลงว่ามีอะไร" ผมถอนหายใจ แม๊กซ์น้อยแข็งโป๊กแล้ว ท่าทางอยากเข้ามาในตัวผมเต็มแก่ แม๊กซ์จับผมนั่งตัก โอบกอดผมจากด้านหลัง หยิบไอแพดขึ้นมาให้ดู

"ปกติคนท้องจะไม่มีอารมณ์ทางเพศในไตรมาศแรก แต่ในไตรมาศที่สองจะร้อนแรงสุดๆ เลยล่ะ"

"อ๊ะ... ถ้าอย่างนั้น" ผมเงยหน้าขึ้นมองคางเขียวๆ

"ฮื่อ ผมว่าน่าจะใช่นะ แต่ให้ชัวร์..."

"ไปถามพิชดีไหม ?"

"ผมจะบอกว่าไปหาหมอ แต่ถามพิชก่อนก็ได้ พวกคุณสนิทกันจนคุยเรื่องนี้ได้แล้วเหรอ ?"

นั่นสินะ... แต่พิชเคยถามผมตรงๆ เลยนี่ว่ากำลังมีเซ็กส์อยู่หรือเปล่า เรื่องแค่นี้น่าจะถามเขาได้มั้ง...

...พอแม๊กซ์ทัก ผมก็ชักหวั่นเหมือนกัน ผมกับพิชเพิ่งเป็นเพื่อนกันได้เดือนเดียว แต่นี่จะสนิทสนมคลุกวงในกันแล้ว

...สงสารพิชกับปาป้าจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2016 23:08:59 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
แม๊กซ์ไปส่งผมทำบุญที่วัดไทย เพราะผมเคยบอกเขาว่าถ้าทำบุญมากๆ แล้วผมจะคลอดอย่างราบรื่น เขาเอียงคอมองแต่ก็ไม่ค้าน

ผมละดีใจที่เขาไม่ได้สนใจไปกูเกิ้ลต่อว่าวัดไทยมีบทสวดให้คลอดง่ายจริงไหม

ผมอยากทำบุญไว้เยอะๆ จากคนที่เข้าวัดเพราะแม่สั่งกลับไปวัดด้วยตัวเองนี่มันช่างประหลาด ฮอร์โมนอีกแน่ๆ ที่ทำให้เป็นอย่างนี้

ผมทำบุญให้ลูก ให้แม๊กซ์ ให้พ่อแม่ น้องชายและน้องสะใภ้ หลานๆ และปู่ย่าตายาย ที่สำคัญคือพิชกับปาป้า สงสารคู่สามีภรรยาคู่นี้เหลือเกินที่ต้องมาเจอผมกับแม๊กซ์

เสร็จแล้วเราสองคนก็ไปยังร้านของพิช จูงมือกันเดินในวันหนาวๆ แบบนี้รู้สึกดีชะมัด ฟุตบาธที่นี่ก็กว้างขวางจนเราเดินเคียงคู่กันได้ ไม่ต้องจับมือกันไปหลบฝาท่อระบายน้ำไป ให้ควันจากร้านขายไก่ย่างเข้าตาไป

โรแมนติกมากๆ

วันนี้พิชกับป้านวลทำอาหารไทย เลยโทรชวนพวกเรามากินมื้อเที่ยง แม๊กซ์ลางานอีกแล้ว เขาลางานบ่อยจนผมกลัวบริษัทจะเจ๊ง กลัวว่าจะเป็นเหมือนในละครไทย ประธานบริษัทวันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่มาเฝ้าเมียกับให้นางร้ายเกาะแกะ

แต่พอโทรเช็คกับอดัมและทีนา ก็พบว่าสามีผมเคลียร์งานไว้แล้ว โปรเจคของแอนเดรียกำลังเข้าสู่ช่วงพัฒนารสชาติ ยังไม่มีอะไรน่าสนใจ ส่วนอีกโปรเจคของบริษัทลูกก็เน้นตลาดต่างประเทศ เพราะอเมริกาเจอกับสภาวะถดถอยมาหลายปีแล้ว โดยหวังว่าจะดึงยอดขายจากทั่วโลกมารักษาอาการบอบช้ำ

จริงๆ แล้วเป็นประธานบริษัทก็ไม่ง่ายเลยนะ เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา แม๊กซ์คงจะเครียดเหมือนกัน ผมที่อยู่บ้านนั่งๆ นอนๆ เลยได้แต่ตั้งใจว่าจะเป็นที่พักพิงให้เขา ให้เขากลับมาแล้วเจอแต่ความสุข ความผ่อนคลาย

นี่ว่าจะไปเรียนนวดกับพิชด้วย สเน่ห์ปลายจวักผมมีอยู่แล้ว ถ้านวดน้ำมันอโรมาเป็นด้วย... ก็ให้รู้ไปสิว่าผัวจะไม่รักน่ะ!

ผมกระชับอุ้งมือ อมยิ้มกับความคิด ร่าเริงจนแม๊กซ์หน้าบูด "ทำไมถึงดีใจที่ได้เจอชายอื่นขนาดนั้น ?" นี่คงคิดอะไรไร้สาระอีกแล้วล่ะสิ ผมหัวเราะ ลมแรงตีหน้าจนผมปลิวเข้าปาก แม๊กซ์ก้มลงมาช่วยดึงออกให้อย่างอ่อนโยน

"ฉันคิดถึงเธอต่างหาก..."

แม๊กซ์หน้าแดง "จริงเหรอ ?"

"จริงสิ"

"แน่นะ"

"อื้ม..." ทำไมมันเหมือนเพลงเลยเนี่ย จริงรึ จริงซิ แน่นะ อ๋อแน่ซิ... ผมกำลังจะกลายร่างเป็นดาวใจ ไพจิตร เราก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านพิชพอดี

เสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋ง ในร้านตกแต่งด้วยสีขาวสบายตา สว่างไสวด้วยโคมไฟที่ทำจากไม้ พิชโผล่หน้าออกมาจากเคาเตอร์

"สวัสดีครับ... อ้าว ข้าวมาแล้วเหรอ ?"

"ฮื่อ" ในร้านอบอุ่นสบาย ผมช่วยแม๊กซ์ถอดโค้ตแล้วเอาไปเก็บ ส่วนของตัวเองแม๊กซ์ก้มลงมาช่วยถอด

พิชดูพวกเราสลับกันเก็บโค้ตด้วยสายตาเอ็นดู "น่ารักจังน้าพวกคุณเนี่ย... เอาล่ะ เดี๋ยวผมให้เด็กมาดูหน้าร้านนะ" พิชพาเราไปยังหลังร้าน มีพนักงานร้านนั่งพักอยู่สองสามคน ผมยกมือไหว้ป้าๆ ส่วนแม๊กซ์ก็พยักหน้าทักทาย

บรรดาสาวๆ(เหลือ)น้อยในร้านพิชร้องทักแม๊กซ์เกรียวกราว ทั้งชมไม่หยุดว่าสามีผมหล่อขึ้นบ้าง ทักว่าวันนี้ใส่สีน้ำเงินแล้วขึ้นบ้าง จนพิชต้องปราม

พวกเราตั้งวงล้อมโต๊ะเล็กๆ หลังร้าน มีพนักงานคนอื่นๆ ที่เคยเจอกันตอนปาร์ตี้มาร่วมสมทบ บางคนมาช่วยจัดโต๊ะแล้วผละออกไปรับลูกค้า

มื้ออาหารอร่อยและทุกคนก็คุยสนุก ผมคอยช่วยแปลบทสนทนาให้แม๊กซ์เป็นระยะๆ ช่วงบ่ายเรากินกันอิ่มตื้อ ผมช่วยพิชเก็บกวาดและล้างจาน ส่วนแม๊กซ์ที่ยังปักหลักอยู่ดูท่ายังไม่ไปทำงาน

"ข้าว กลับเถอะ"

ผมหันกลับไปมอง "ต้องช่วยพิชล้างจานอีกนะ" แค่มากินฟรีก็แย่แล้ว แต่แม๊กซ์ก็ช่วยโฆษณาร้านพิชโดยการซื้อคูปองของที่นี่ไปแจกลูกน้องจำนวนไม่น้อย

"แต่ผมต้องไปทำงาน" แม๊กซ์หน้าบูด เขาลามาแค่ช่วงสายๆ ถึงเที่ยง ควบเวลาพักกลางวันไปด้วย ผมเกรงใจพิชมาก

"ไม่เป็นไรหรอก รีบไปเถอะข้าว" พิชตอบยิ้มๆ ยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาเป็นเพื่อนกับผมด้วย

"ไม่ได้หรอก เกรงใจ" ผมส่ายหน้า รีบไปดุสามี "แม๊กซ์ ทำแบบนี้มันเสียมารยาทนะ"

พิชเพิ่งเคยเห็นผมดุ เขาหัวเราะคิก รับเอาจานไปล้างน้ำเปล่า "งั้นแม๊กซ์ก็ปล่อยข้าวอยู่นี่สิ นั่งคุยกันก็ได้ ไว้เลิกงานค่อยมารับ"

ไอเดียดี ผมรีบพยักหน้า "เอางั้นก็ได้ แม๊กซ์ค่อยมารับนะ"

"แต่ข้าว..." เขางอแง ส่ายหน้ารัว "กลับเถอะนะ..."

"แม๊กซ์..."

"ข้าว..."

"แม๊กซ์..."

พิชไม่เสนอให้ผมกลับเอง เพราะรู้ว่าแม๊กซ์ต้องโวยวายแน่ๆ ขนาดผมกลับแท๊กซี่นะนั่น

"ข้าววววววว" ถ้าเป็นเด็กไทยคงกระทืบเท้าเร่าๆ ใส่ผมไปแล้ว แต่ผมก็ส่ายหน้าอย่างดุดัน

"ไม่เอานะแม๊กซ์ สัญญากับฉันว่ายังไง ?"

เหมือนผมมีลูกชาย แม๊กซ์ขบฟันกรอดๆ "....แต่..."

"ไม่เป็นไรหรอกครับ" พิชเข้ามาช่วย "ผมสัญญาว่าจะไม่พาข้าวไปไหน นั่งคุยกันอยู่ในร้านนี่แหละ ไม่พาไปนั่งหน้าร้านด้วย"

"แม๊กซ์ เถอะนะ... ฉันอยากอยู่กับเพื่อน" ผมเน้นคำว่าเพื่อน เงยหน้าขึ้นมองเขา... ตั้งใจช้อนตาอ้อน ในที่สุดแม๊กซ์ก็พ่ายแพ้ ยอมผ่อนปรน

"ก็ได้... แล้วผมจะรีบมารับนะ"

"โอเค ขับรถดีๆ ล่ะ" ผมยิ้มกว้าง ในที่สุดก็ส่งลูกชายไปโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว

...

หลังจากแม๊กซ์กลับไปแล้ว ผมกับพิชก็นั่งเมาท์มอยอยู่หลังร้าน ช่วยเขานับสต๊อกและบรรจุหีบห่อน้ำมันนวดอโรมาที่ส่งมาจากไทย

"มีหลายกลิ่นเหมือนกันนะ" ผมพูดอย่างทึ่งๆ

พิชเป็นคนทำงานเก่งมาก เขาไม่ได้มีแค่ร้านนวด แต่ขายส่งพวกสินค้าสปาอะไรแบบนี้ให้ร้านนวดอื่นๆ จนเป็นคล้ายๆ เอนเยนต์ของที่นี่ พวกร้านนวดและสปาขนาดกลางและเล็กต่างก็มาสั่งที่เขา พิชยังขายปลีกพวกสินค้าสปา อโรมาให้ฝรั่งที่นี่อีกด้วย

ผมเอานิ้วกรีดกล่องกระดาษ จับมันพับและขึ้นรูปอย่างง่ายดาย

"ฮื่อ ตอนแรกพิชก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกสปาอะไรพวกนี้มันสำหรับคนรวยทั้งนั้น"

"จริง" ผมเห็นด้วย เอาขวดน้ำมันดีไซน์สวยงามใส่กล่องกระดาษ "นี่พิชรับมาจากไหนเหรอ ?" โอท็อปทั้งนั้น

"บ้านเกิดพิชเองแหละ แม่พิชเป็นกลุ่มแม่บ้านน่ะ พิชไปจ้างเค้าออกแบบแพคเกจสวยๆ แล้วเอามาใช้ที่ร้านก่อน เห็นเข้าท่าเลยวางขายหน้าร้าน แล้วค่อยขายส่ง"

"เก่งจัง" ผมชื่นชม พลางคิดว่าบ้านเกิดตัวเองมีอะไรให้ขายบ้าง อืม มองออกไปก็ทุ่งนา มองขวาก็ควาย...

"จริงๆ แล้วถ้าขายที่จีนจะดีกว่านี้มาก เมกาน่ะตลาดเล็กลงเรื่อยๆ เศรษฐกิจแย่มาก ที่มาแรงคือจีน... แต่ก็นั่นแหละ พิชไม่ได้ทำหวังรวยขนาดนั้นหรอก แถมครอบครัวก็อยู่ที่นี่ด้วย"

"หมายความว่า... ถ้าอยู่ไทยพิชจะทำเหรอ ?" ผมทึ่งมากๆ พิชเก่งสุดๆ ทั้งขยันทั้งหัวดี

"ใช่ ทำสิ เมื่อก่อนพิชอยู่บริษัทส่งออกน่ะ พอเห็นลู่ทางบ้าง... อยากลาออกจากพนักงานเงินเดือนจะแย่ ไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเติม เก็บเงินซักก้อน แล้วลองเอาของแถวบ้านไปออกร้านหลายๆ ที่ดู" พิชยักไหล่ "ถ้าอยู่ไทยน่ะนะ... แต่ยังไม่ทันออกจากงานก็แต่งมาอยู่กับปาป้าแล้ว"

"น่าเสียดายนะ" ผมมันสันดานคนจน เห็นเงินอยู่ข้างหน้าแล้วอยากคว้าไว้ "แถวบ้านข้าวไม่มีอะไรให้ขายด้วย... มีแต่กลิ่นโคลนสาบควาย"

"อย่าล้อเล่นไปนะข้าว มีคนทำน้ำหอมกลิ่นทุ่งนามาแล้ว" พิชจริงจัง ผมอิจฉาปาป้าจังเลย ได้ภรรยาทั้งเก่งทั้งขยัน หัวก็ดี นิสัยก็เยี่ยม ใจกว้าง ใจเย็น ใจดี

"งั้นเหรอ... ฝรั่งชอบอะไรแปลกๆ เนอะ"

"คงเหมือนเราล่ะมั้งที่ชอบอะไรแปลกๆ ของฝรั่ง อย่างพิซซ่าไง ไปอยู่บ้านเราทำไมมันแพงได้ขนาดนั้นนะ"

ผมขำ แม๊กซ์ห้ามไม่ให้ผมกินจังค์ฟู๊ดโดยเด็ดขาด สำหรับที่นี่ คนรายได้น้อยถึงจะกินอาหารขยะ

"แต่ที่นี่ผักดันแพง" ผมเสริม

"นั่นสิ..."

ผมช่วยพิชพับกล่องไปได้เยอะแล้ว เร็วกว่าเจ้าของร้านเสียอีก พิชเงยหน้ามองแล้วอุทาน "โห ไวจัง ข้าวมีฝีมือนะ วันก่อนที่ทำคุกกี้มาก็อร่อย"

"จริงเหรอ" ผมเขิน

"จริงสิ มีฝีมือทางประดิดประดอยนะเนี่ย กล่องพวกนี้พิชยังงมตั้งนานกว่าจะประกอบได้"

"เมื่อก่อนเคยแกะสลักน่ะ" ผมตอบ ดีใจที่มีประโยชน์กับเพื่อนบ้าง "อ๊ะ จริงสิ ว่าจะถามพิช"

"ฮื่อ มีอะไรเหรอ ?"

"คือ... พิช ตอนท้อง... พวกเราๆ เนี่ยจะไม่ค่อยมีอารมณ์เหรอ ?"

"อารมณ์ ?"

ผมก้มหน้าต่ำ "อารมณ์ เอ่อ อย่างว่า... น่ะ"

"อ๋อ อารมณ์ทางเพศน่ะเหรอ" พิชทะลุกล้างป้อง เหมือนตอนที่ถามผมเรื่องเซ็กส์ไม่มีผิด ผมพยักหน้า คิดว่าหน้าคงแดงไปถึงไหนแล้วแน่ๆ

"พิชน่ะหมดอารมณ์กับปาป้าไปสามเดือนเลยล่ะ" หนุ่มไทยใส่แว่นตอบ โยนน้ำมันนวดที่ใส่กล่องแล้วลงหีบ "ปาป้าก็พยายามนะ... พยายามเล้าโลม แต่มันไม่มีอารมณ์อ่ะ โกรธก็มี ในที่สุดเลยต้องเอามือช่วยปาป้า"

อือหือ... รู้ลึกรู้จริง ไม่มีกั๊ก ผมมองพิชทึ่งๆ พูดออกมาได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ แถมยังเล่าจนหมดด้วยท่าทางผ่อนคลายราวกับเก็บกักไว้นานแล้ว

ไม่น่าล่ะ เขาถึงบอกว่าลำบากใจที่ไม่มีเพื่อนเกย์เลย

"กลัวผัวไปมีกิ๊กเหมือนกัน ข้าวก็รู้ว่าผู้ชายน่ะไม่ได้ระบายมันก็หารูมุดจนได้นั่นแหละ"

"เอ่อ... แล้วพิชทำไงอ่ะ"

"คุมหนักเลยล่ะ ปาป้าเค้าไม่ซีเรียสนะ อย่างว่าแหละนะ คนไม่มีอะไรให้ปิดก็ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เค้าให้พิชคุมทุกอย่างเลย พิชไปรับไปส่งที่ทำงาน กระเป๋าเงินก็ไม่มีบัตรเครดิต กลับบ้านมาก็เอาใบเสร็จมากาง... พิชหึงจนบ้าไปเลยล่ะ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถให้ความสุขปาป้าได้"

โอ้โห... สำหรับผมมันกลับกันมากกว่า

"แล้วไงต่อ" ความเผือกทำให้ผมสะกิด พิชหัวเราะ ขยับแว่น

"ก็ไม่ยังไง... ปาป้าก็ทนเอาตั้งสามเดือน ไม่รู้ทนได้ไง... โดนลูกน้องล้อด้วย แต่ปาป้าก็ไม่ว่าอะไรนะ พิชก็พยายามนะ ออนท๊อปก็แล้ว ออรัลก็แล้ว แฮนด์จ๊อบทุกแล้ว ทุกรูที่มีในตัวอ่ะจะให้ปาป้าเข้ามาหมด แต่มันไม่มีอารมณ์ไง... เลยเจอกันครึ่งทาง ให้ปาป้าเข้ามาที่ต้นขาเอา"

ผมพยักหน้ารับ ถ้าที่ต้นขาก็ไหว... เหมือนที่แม๊กซ์ทำวันก่อน

"มันเทียบกันไม่ได้หรอก แต่ต้องทนเอา เพราะถ้าเข้ามาแล้วมันจะเจ็บมาก ถึงสอดได้พิชก็ไม่มีอารมณ์ ไม่แฮปปี้"

"โห ทำไมท้องแล้วลำบากอย่างนี้ล่ะเนี่ย" ผมรำพัน พิชหัวเราะ

"แค่เกิดมาเป็นรับก็ลำบากแล้วเนอะ"

"นั่นสิ"

"ยังต้องมาตั้งท้องอีก เป็นผู้ชายแท้ๆ เมื่อก่อนมีอะไรกับใครก็ไม่ต้องกลัว ระวังแค่โรค"

"...ถูก แค่ใส่ถุงยางก็จบ ไม่ต้องแพ้ท้อง ไม่ต้องมีพุง" ก้มลงดูหน้าท้องตัวเอง แล้วดูพุงพิช อีกไม่นานผมก็จะเป็นแบบนั้น

แต่พิชยังทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉง

"พิชกี่เดือนแล้วอ่ะ ?"

"หกแล้วล่ะ เหลืออีกไตรมาศเดียว"

"โห" ผมคราง ชักกลัวขึ้นมาเหมือนกัน "ท้องใหญ่จังเลย... น้องเป็นผู้หญิงนี่ ?" พิชเคยบอกผมเมื่อตอนเจอกันครั้งแรกที่โรงพยาบาล พิชพยักหน้า

"ฮื่อ ไว้คลอดแล้วข้าวมาปาร์ตี้ด้วยนะ" พิชชอบปาร์ตี้มาก ชอบอยู่กับคนเยอะๆ มิน่าปาป้าถึงบอกว่าพิชขี้เหงา

"ได้สิ ไปแน่ๆ"

"ของข้าวก็อีกเดือนเดียวสินะ ?"

ของผมเดือนหน้าก็ต้องอัลตร้าซาวด์ดูเพศและสุขภาพของลูกแล้ว ผมตื่นเต้นขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว "ใช่แล้ว แล้วหมอกาเบรียลจะคลอดเมื่อไหร่เหรอ ?"

"เห็นว่าจะโอนคนไข้ไปให้หมอโซฟีเดือนหน้าน่ะ น่าจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น"

หมอกาเบรียลก็ได้เวลาคลอดเหมือนกัน เห็นว่ามีปัญหาต้องคลอดก่อนกำหนด แม้กระทั่งหมอที่ดูแลคนอื่นก็ยังไม่สามารถควบคุมสุขภาพตัวเองได้

ผมกับพิชจึงเริ่มเมาท์เรื่องหมอกาเบรียล เรื่องร้านนวด เรื่องรัฐบาลไทย เรื่องดารา เรื่องนักร้อง... สรรหาหัวข้อมาเมาท์ได้ไม่จบไม่สิ้น ราวกับเราเป็นเพื่อนเก่าแก่

จนกระทั่งแม๊กซ์มารับ ผมกับพิชยังเมาท์กันไม่จบ

พิชออกมาเดินส่งผมกับแม๊กซ์ที่หน้าร้าน บอกว่าจะโทรมานัดพวกเราไปกินข้าวด้วยกันอีก ผมกับแม๊กซ์รับปากแล้วกลับบ้าน

ผมคิดว่าเที่ยวหน้าจะปอกผลไม้ ทำอาหารไทยมาฝากพิช

พอมีคนชมแล้วก็ชักบ้ายออยากทำขึ้นมา

ดีใจจังที่มีเพื่อน

...

กลับบ้านมาพวกผมถอดโค้ต แม๊กซ์หอบแฟ้มกลับมาทำงานด้วย ผมแปลกใจ เพราะปกติไม่ค่อยเห็นเขาหอบงานมาทำที่บ้าน ชักกลัวเหมือนกันเพราะมัวแต่มาเฝ้าผม จะทำให้เสียงานเสียการ

ผมทำให้เขาลำบากหรือเปล่าเนี่ย

ผมช่วยถือของไปไว้ในห้องนั่งเล่น "ถ้างานเยอะ... ฉันไม่ออกไปไหนก็ได้นะ เธอจะได้ไม่ต้องมาเฝ้าฉัน" ถ้าบอกแค่ว่าไม่ต้องมาเฝ้า ผมรู้ว่าแม๊กซ์ไม่ยอมแน่ๆ ถ้าผมไม่ออกไปไหนเสีย แม๊กซ์ก็ไม่ต้องเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรครับ แค่เอามาเช็คเท่านั้นเอง" เขาพูดยิ้มๆ รับของจากมือผมไป "ขอผมทำงานก่อนกินข้าวนะ คงไปช่วยคุณทำมื้อเย็นไม่ได้"

ผมหัวเราะ "ปกติเธอช่วยอะไรที่ไหน... แล้วจะทำอะไร ?" แม๊กซ์คัดเอกสารกับโน้ตบุ๊กลุกไปไว้ที่ครัว

"ก็ทำงานไง"

"แล้วมาทำอะไรที่ครัว ?" ผมเดินตามไป แม๊กซ์ส่งผ้ากันเปื้อนให้ ยิ้มกรุ้มกริ่ม

"ก็เจ้าหญิงน่ารัก... ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วน่ารัก... ตอนทำอาหารก็น่ารัก... ผมไม่ยอมพลาดหรอก"

ผมถอนหายใจ... ผัวกูโรคจิต...

....

คืนนั้นแม๊กซ์มาจับๆ จูบๆ หอมๆ ผมหลายรอบ เอามือเล้าโลมก็แล้ว ผมจั๊กจี้แต่ปลุกอารมณ์ไม่ขึ้น

อย่างที่พิชบอกจริงๆ นี่โชคดีที่ผมมาหมดอารมณ์เอาเดือนสุดท้ายของไตรมาศแรก ไม่รู้ผู้หญิงเป็นเหมือนกันไหม อาจจะต่างออกไปก็ได้ มิน่าสามีถึงนอกใจภรรยาตอนท้อง

แม๊กซ์ยังไม่หมดความอดทน ปลุกผมมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมได้แต่มองหน้าเขาแล้วส่ายหน้า "ฉันไม่อยากทำ"

"ผมทำคุณเจ็บเหรอ ?" แม๊กซ์ยังจำคราวที่แล้วที่เขาปล้ำผมได้ ผมมองหน้าหล่อๆ ที่สลดหงอย ยกมือขึ้นลูบตามโครงหน้า

"ไม่หรอก... ฉันแค่ไม่มีอารมณ์น่ะ"

"หรือผมไม่เก่ง ?" ยิ่งถามยิ่งเศร้า ผมอยากจิ้มตาเขาเสียจริง มองผมแบบนั้นแล้วอยากเข้าไปโอ๋

"เก่งสิ... ไม่เก่งจะทำฉันท้องได้ยังไง"

"แต่คุณไม่แฮปปี้..."

"ที่รัก เธอเก่งแล้ว ทำฉันคราง ทำฉันถึง โอเค้ ?" ผมจ้องหน้าเขาเขม็ง กลัวว่าสามีจะเอาไปคิดมาก เข้าใจดีว่าสำหรับผู้ชายเรื่องแบบนี้ฆ่าได้หยามไม่ได้ "แต่เพราะฮอร์โมน ฉันท้อง ฉันเลยไม่มีอารมณ์ สงสารฉันเถอะนะ"

"เจ้าหญิง..." เสียงทุ้มๆ อ้อน ผมอ้าแขนรับเขาเข้ามา ให้สามีนอนซุกหน้าอกแบนๆ ของตัวเองได้สักพัก มือแม๊กซ์ก็เลื้อยไปเล่นหัวนม ผมสะดุ้ง

"แม๊กซ์!"

"ลองดู เผื่อฟลุกน่ะ" แม๊กซ์ตอบ หยิกติ่งเนื้อเล็กๆ แล้วเลิกเสื้อผมขึ้นอย่างไม่เกรงใจ

"แม๊กซ์!"

ปากร้อนคาบยอดอกผมไว้ ชมว่าสีสวยบ้าง นุ่มบ้าง ผมกดศีรษะเขาแนบอก ซุกหน้ากับเรือนผมสีน้ำตาล กลิ่นตุๆ แฮะ

ลิ้นร้อนโลมเลียไปทั่ว... ถูกเล้าโลมมาครึ่งชั่วโมง มันก็บวมๆ แล้ว ผมปล่อยให้เขาดูดนมเล่นเหมือนเด็กทารก มีเสียวเป็นระยะๆ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะให้เขาเข้ามา ในที่สุดแม๊กซ์ก็ยอมปล่อยออก ใช้ลิ้นตวัดเลียหนักๆ ครั้งสุดท้ายอย่างอาวรณ์

"ผมแข็งแล้ว" พูดพลางเลื่อนตัวขึ้นมาจูบ ผมอ้าปากรับลิ้นเขาเข้ามา

"อื้อ... ทำไงดี..." หัวสมองเริ่มเบลอ

"เจ้าหญิงจูบอีกสิ" สั่งราวกับที่เรากำลังทำอยู่ไม่ใช่จูบ แม๊กซ์แทบคว้านเข้ามาในลำคอ ผมนึกถึงคำพูดพิชขึ้นมาได้...

ทุกรูให้ใส่เข้ามาหมด... เพราะผู้ชายน่ะ ขอแค่มีรูก็มุดได้

ช่างเปรียบเทียบอะไรได้น่ากลัว แต่ก็จริง...

ผมไม่ชอบเลย แต่ผมเป็นภรรยาเขา... เรื่องแบบนี้ผมรู้ดี รู้ดียิ่งกว่าใคร มีประสบการณ์ตรงที่โดนนอกใจ โดนแทงข้างหลังก็เพราะแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ?

ผมจูบแม๊กซ์ตอบอย่างดุดัน

ไม่เอา! ไอ้ที่ผ่านๆ มาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ แต่กับผู้ชายคนนี้

ไม่ให้!

จะชะนีหรือเกย์สาวน้อยที่ไหนก็ไม่ให้!

เซ็กส์ไม่ใช่รัก แต่เป็นส่วนหนึ่งของความรัก และผมจะเก็บเอาไว้เอง จะหวงเอาไว้ทั้งหมด ผมผละออกมาจากริมฝีปากหนา เลียปลายคางเขายั่ว มือควานลงไปที่กางเกงนอน จับหว่างขาเขาเต็มไม้เต็มมือ ยิ้มมุมปาก

"แข็งจัง..."

"เจ้าหญิง..." แม๊กซ์คราง "อย่าซนสิครับ..."

ผมจูบเขาอีกครั้ง จงใจยั่ว "มาสิ เดี๋ยวฉันจะดูแลเธอเอง"

แล้วผมก็จูงมือเขาไปห้องน้ำ ถึงตัวเองจะค่อนข้างแห้งเหี่ยวก็เถอะ แต่ก็จงใจทอดสายตาให้ ไม่ได้สาวแตก แต่ก็ปลุกอารมณ์เขาจนแม๊กซ์แทบกระโจนมาอยู่แล้ว

ผมใส่น้ำในอ่างจนเต็ม ช่วงร่างสูงใหญ่ถอดเสื้อผ้า หยิบฟองน้ำมาช่วยเขาล้างตัว

ของแม๊กซ์ตั้งตระหง่านเหยียดตรง เหมือนร้องบอกว่าอยากมุดเข้ามาในตัวผมเต็มแก่ ถ้าเป็นปกติผมคงส่ายสะโพก รีบเอาตัวเข้าถวาย แต่ตอนนี้ได้แต่ตกใจในความใหญ่ของมัน ที่ปลายเริ่มมีน้ำใสปริ่มออกมาแล้ว

แม๊กซ์ไม่พูดอะไรเลย ยิ่งผมลูบไล้เรือนร่างเขา เขายิ่งกัดฟันแน่น ยิ่งอดทน

ผมเอาน้ำอุ่นล้างร่างกายแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยมัดกล้ามและลุกเข่าลง

ผมไม่ชอบทำแบบนี้ ไม่ชอบเลยจริงๆ

แต่เพื่อเขา...

แม๊กซ์ดูตกใจ

ผมเสยผมขึ้น เอาผมที่เกะกะหน้าขึ้นทัดหู แล้วค่อยๆ อ้าปากครอบส่วนปลายของท่อนลำ แม๊กซ์ต้องย่อเข่าลงมาเพื่อให้พอดีกับใบหน้า

ผมส่งยิ้มให้เขา เพื่อบอกว่าผมเต็มใจ "ทานละนะ" ผมกระซิบเบาๆ กับหน้าขาแข็งแรง "อย่าใจร้ายกับฉันเกินไปนะ..."

แม๊กซ์อ้าปากจะห้าม แต่ก็กลืนน้ำลายเมื่อผมเริ่มใช้ลิ้นเลียส่วนปลาย ขบเบาๆ ไปตามลำท่อน จูบไปตามทาง เสียงทุ้มครางเครือดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้รู้ว่ามาถูกทางแล้ว

ผมจำหนังเอวีได้ น่าจะประมาณนี้

ผมรับเข้าไปทั้งท่อนไม่ได้ ปากผมเล็กเกินไปจึงได้แต่รูดชักสลับกับดูดอม ส่งเสียงหวานๆ ครางไปชื่นชมไปด้วย แบบที่ตัวเองยังคิดว่าโคตรร่าน โคตรแรด โคตรกะ*รี่

"ฮื้มม... แข็งจัง...."

"ซี๊ดดด..." แม๊กซ์ชอบ โยกเอวเบาๆ เข้ากับปาก ผมใช้ลิ้นตวัด ดูดเลียไป มือนวดคลึงไปถึงลูกกลมทั้งสองข้าง ผมซุกหน้ากับพงหญ้า กลืนกินกลิ่นผู้ชายเต็มปาก คาว สาก... แต่ร้อน ผมขยับศีรษะไปตามจังหวะของเขา เอาแบบที่แม๊กซ์ชอบ... เมียจัดให้

ออรัลแล้ว ดูดเขาจนแก้มตอบ แม๊กซ์ยิ่งแข็ง ความใหญ่โตที่เท่ากับท่อนแขนผม หรืออาจจะใหญ่กว่าพองขยาย ผมตะลึง นี่มันยังใหญ่ได้อีกเหรอเนี่ย! แล้วปกติมันไม่เสยขึ้นไปถึงสะดือผมเลยเหรอ...

ด้วยความอยากรู้ เอาท่อนแขนขึ้นทาบเงียบๆ

...ความใหญ่และยาวของมัน... อย่าให้ผมบอกเลย

ดูดจนเมื่อยปาก เลียจนน้ำลายแห้ง แม๊กซ์ก็ไม่เสร็จซักที เขาเป็นคนเสร็จช้า ผมรู้ดี แต่ชักไม่ไหว กรามจะค้างแล้ว ผมอนาถสังขารตัวเอง แก่จนทำรักให้ผัวไม่ไหว

เลยตัดสินใจ ตัดใจ... กลืนน้ำลาย... เลียริมฝีปากเพิ่มความชุ่มชื้น เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาแล้วยิ้ม...

"ฉันรักเธอนะ" ผมบอกเขาเบาๆ แล้วอ้าปาก... รับท่อนลำลงคอ... กลืนมันลงไป แน่นจนจุก จนแทบอ้วก มันสอดแทรกเข้าลงไปถึงที่ไหนผมไม่รู้ อาจจะลงไปถึงกระเพาะปัสสาวะ แต่ผมก็ยังหลับตา กลืนลงไปจนปากแทบฉีก น้ำตาไหล น้ำลายเยิ้ม แม๊กซ์ครางลั่น กระดกเข้าออก สอดแทรกเหมือนเขากำลังทำรักผมผ่านทางช่องทางด้านหลัง ผมขยับศีรษะตามจังหวะเขา

"อื้อ อื้อ"

"ข้าว... ข้าว... เจ้าหญิงของผม... ของผม"

รอบกายเราร้อนแรง ผมเหงื่อหลั่งริน หายใจไม่ออก ปากถูกอุดด้วยความใหญ่โต แล้วจู่ๆ แล้วท่อนลำในปากก็สั่นระริก ผมครางฮือลั่น

"ซี๊ดดดดด!" แม๊กซ์กัดฟัน หลับตาแน่น น้ำคาวๆ ระเบิดเต็มปาก แม๊กซ์รีบดึงออก ก้มลงช่วยผมคายน้ำรักเขาออกมา

"ที่รัก... เจ้าหญิงอย่ากลืนนะ!" เขาอุ้มผมไปที่ชักโครก ลูบหลังลูบไหล่

ผมคายน้ำกามรสคาวเฝื่อนและน้ำย่อยออกมา แม๊กซ์เปิดฝักบัวช่วยผมล้างปาก ร่างสูงใหญ่พยุงผมไปพิงผนังห้องน้ำ

"เจ้าหญิง... เจ้าหญิง..." แม๊กซ์จับผมนั่งตัก "เป็นยังไงบ้างครับ ?"

ผมลืมตาขึ้นมาเขา หอบหายใจ "แม๊กซ์..."

"ครับ ?"

"เป็นยังไง ?" เสียงผมขาดห้วง เจ็บปาก เมื่อยกรามไปหมด

แม๊กซ์ชะงัก ค่อยๆ โน้มตัวลงจูบ "เจ้าหญิง... คุณไม่ต้องทำแบบนี้เลย..."

"ฮื้อ..." ผมส่ายหน้า ก้มลงมองหว่างขาเขา...

ไม่จริงนะ... เจ็บขนาดนี้แล้วยังแข็งโป้กอยู่!

แม๊กซ์หน้าเครียด "คุณอาบน้ำแล้วไปพักเถอะ"

ผมส่ายหน้า ไม่ยอมท่าเดียว ผมเป็นเมียเขานะ! "ฮื้อ ไม่เอา! เธอยังมีอารมณ์อยู่นี่..."

"ก็คุณ..." แม๊กซ์อ้าปากแล้วหุบ อ้าแล้วหุบเหมือนปลาทองหลายที ก่อนจะหลุบตาลง "ก็เจ้าหญิง... น่ารัก... ตอนที่ฝืนเอาของผมเข้าปากก็ยิ่งน่ารัก.... ปากเล็กๆ ของคุณดูดอมของผมอร่อยเชียว"

ผมหน้าแดงไปด้วย มือจับท่อนลำเขาไปด้วย กลืนน้ำลาย "ร่างกายฉันดีขนาดนั้นเลยเหรอ ?"

แม๊กซ์หน้าแดงตาม ร่างกายร้อนระอุ "ดีที่สุดในโลก"

ผมยิ้ม โหย่งตัวขึ้น ปากสั่ง "หยิบสบู่ให้หน่อย"

"เจ้าหญิง... คุณจะทำอะไร" แม๊กซ์ยื่นขวดสบู่เหลวให้ ผมเปิดฝาปั๊มออก โยนมันทิ้งไป แล้วเทสบู่ลงบนท่อนลำเขา ตอนนี้มันแข็งจัด ใหญ่โตทั้งยังมันวาว ผมเทสบู่ลงฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะสอดนิ้วลงไปที่ปากทาง

แสบ... เจ็บจัง...

สบู่เหลวเกินไป ใช้แทนเจลไม่ไหว ยิ่งตอนที่ผมไม่มีอารมณ์ยิ่งเลวร้าย ผมจ้องหน้าคมเข้มของสามีไป ยิ้มให้เขาไป นิ้วสอดเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวก็กัดริมฝีปาก

"เจ้าหญิง! พอแล้ว!" แม๊กซ์ได้สติ ดึงมือผมออก แต่ผมส่ายหน้า คลานเข่าเข้าไปชิดเขา มือใหญ่พยายามดึงให้ผมลุก แต่ผมรู้ดีว่าผมสู้แรงเขาไม่ได้ ดังนั้น...

มือจับที่ท่อนลำ แม๊กซ์ร้อง "พอ!"

ผมไม่ฟังเสียง ขยับก้นให้แล้วให้ความใหญ่โตสอดเข้าไปเต็มแรง ดันตัวลงนั่งพรวดเดียว

"อื๊ออออออ!" เจ็บ... เจ็บเหลือเกิน... ผมอ้าปากค้าง น้ำลายไหลเยิ้ม เจ็บจนเหมือนถูกฉีก ได้กลิ่นคาวสนิมมาพร้อมกับกลิ่นหอมหวานของสบู่ ผมรู้ว่าเลือดต้องออก แต่ก็ยังฝืนขยับสะโพก

"ข้าว... เจ้าหญิงของผม เอาออกเดี๋ยวนี้!" แม๊กซ์ดุ ตาวาว แต่ทำไมมันแข็งอยู่เลยล่ะ ผมรู้ว่าเขาชอบ ชอบความรุนแรง ชอบข่มขืนผม...

...และผมจะให้เขาข่มขืน

ผมไม่สนใจ ดันอกเขาออก "ทำ... ขยับสิ..."

"ไม่... ไม่... เจ้าหญิง!"

"ไม่... เข้ามาอีก... ลึกอีก" ผมหอบฮั่ก จ้องดวงตาสีน้ำตาล "ถ้าเธอไม่แตกในตัวฉัน... ฉันจะไม่ยอมให้ถอนออก"

เขาอ้าปากค้าง ผมไม่เคยเห็นแม๊กซ์อึ้งขนาดนี้มาก่อน ผมรวบรวมกำลังที่เหลือขยับตัวไปจูบเขา ส่ายสะโพกให้ท่อนลำบดเบียดเข้า ยิ่งลึกยิ่งดี ในที่สุดแม๊กซ์ก็ทนความร้อนแรงไม่ไหว เขาดันความใหญ่โตขึ้น ผมร้อง สองขาอ้ากว้าง ทำให้เขายิ่งเห็นว่ากลางกายผมหดฟีบ

"ข้าว..."

"ไม่ต้องสนใจ" ผมพูดด้วยเสียงหอบ ดันตัวขึ้นลง กัดฟันแน่น "เธอใช้ก้นฉันก็พอ..."

เรามีเซ็กส์กันก็จริง แต่เป็นเซ็กส์ที่ขื่นขมที่สุด ผมเจ็บรวดร้าวไปทั้งตัว แม๊กซ์พยายามปลุกเร้าอารมณ์ แต่ผมแสบจนปลุกไม่ขึ้น เขากระแทกเข้ามาที่จุดอ่อนไหว ผมฟื้นตัวในที่สุด แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ สั้นจนเสร็จสมไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่อยากเป็นเมียเซ็กส์ห่วยแตก จึงกดสะโพก ขมิบตอด ส่ายก้น ทำทุกอย่างให้เขาพอใจ

แม้ท่อนลำที่อยู่ในตัวผมจะมุดเข้ามุดออกอย่างแข็งขัน แต่หน้าตาแม๊กซ์ไม่ดีนัก

เขาตั้งหน้าตั้งตาสอดใส่ ปรนเปรอผม จนในที่สุดน้ำร้อนก็ฉีดพุ่งเข้ามาในตัว ผมหายใจหอบ เลือดและน้ำกามไหลย้อยออกมาปนเปกันจนเป็นสีชมพู

เมื่อเห็นน้ำรักเขาแล้วผมจึงหมดห่วง โลกมืดไปอย่างรวดเร็ว


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมฟื้นขึ้นมาอีกครั้งกลางดึก แม๊กซ์ล้างตัวผมให้แล้ว รวมถึงก้นด้วย ปกติเขาชอบคาน้ำรักตัวเองไว้ แต่เที่ยวนี้เขาเก็บกวาดจนหมด

ผมลืมตาขึ้น แม๊กซ์ยังไม่นอน แต่นั่งพิงหัวเตียง ให้ผมนอนหนุนตักเขา

"แม๊กซ์" ผมเรียกเบาๆ ปิดไฟหมดแล้วแสดงว่าแม๊กซ์ไม่ต่ออีกรอบ

"ข้าว" แม๊กซ์พยุงผมขึ้นนั่งแต่ผมเจ็บก้นจนนั่งตรงๆ ไม่ได้ แม๊กซ์หาหมอนมาให้รองถึงค่อยยังชั่วขึ้น

"ทำไมไม่นอน ?"

แม๊กซ์ดึงผมไปอยู่ในอ้อมแขน ท่าทางเหม่อลอย มือเล่นผมของผม "ที่รัก..."

"แม๊กซ์ ? คิดอะไรอยู่ ?"

"...อืม..."

"แม๊กซ์ ?" ผมกระตุ้นอีกครั้ง จูบคางสีเขียวเบาๆ ได้กลิ่นหอมของแชมพูลอยมา เขาสระผมแล้ว "แม๊กซ์ เครียดเรื่องงานเหรอ ?"

สามีผมส่ายหน้า "เปล่า... ผมคิดเรื่องคุณน่ะ"

ผมฟังแล้วตัวแข็ง ไม่จริงน่า... สองปีเองนะ "เธอ... เบื่อฉันแล้ว..." เมียเซ็กส์ห่วย เราเข้ากันไม่ได้ ร่างกายคุณไม่ตอบสนอง... ผมคิดข้ออ้างในการบอกเลิกได้เป็นล้านข้อ แต่อ้อมแขนที่รัดผมกลับแน่นขึ้น เขาจูบผมที่หน้าผาก พูดเสียงสั่นพร่า

"เจ้าหญิง... ผมทำให้คุณลำบากใช่ไหม ?"

ใจผมหดเกร็ง... ข้ออ้างนี้เพิ่งเคยเจอ ผมยันตัวเองออกจากอ้อมแขนเขา เห็นแววตาโหยหาในดวงตาสีน้ำตาล เขายื่นมือออกมาพยายามคว้าผมไว้

"ที่รัก... ที่รัก..."

"ไม่ต้องมาที่รักกับฉัน!" ผมเลือดขึ้นหน้า ข้ออ้างแม่งห่วยที่สุดที่เคยเจอ! อย่างน้อยๆ บอกว่าเซ็กส์ห่วยแตกหรือผมดีเกินไปยังดีเสียกว่า!

"ข้าว... เจ้าหญิง..." เขารีบดึงผมไปกอด แต่ผมขืนตัว แค่ขยับตัวก็ร้าวเกินทน นี่ยิ่งดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแรงจนผ้าห่มปลิวยิ่งทำให้เจ็บจนน้ำตาไหลแต่ผมไม่แคร์ ดันตัวเขาออก พอเขาเข้ามากอด ผมก็ดันออกไปอีก เราทั้งคู่หอบฮัก ผมออกแรงแต่สู้เขาไม่ไหว เลยข่วนเข้าที่หน้าหล่อๆ แม๊กซ์ไม่กล้ารุนแรงกับผม ได้แต่พยายามกอดผมไว้

"จะเลิกกับฉันใช่ไหม! เซ็กส์ฉันห่วยแตกเลยจะเลิกใช่ไหม! ได้! ฉันจะเลี้ยงลูกเอง!" ผมอาละวาด เล็บจิกแผ่นหลังเปลือยจนเลือดซิบ สองขายันหน้าท้องแข็งแรงออก ต่อให้เอาซิกส์แพ๊กมาล่อผมก็ไม่สนแล้ว!

"เจ้าหญิง! อย่าอาละวาดสิ!"

"หนอย! ข้ออ้างบัดซบ! เลิกก็เลิก!"

"เจ้าหญิง! ระวังลูก!"

ผมมองไม่เห็นอะไรแล้ว ร้องไห้โฮ "ลูกฉัน! เธอไม่ต้องยุ่ง!"

"เจ้าหญิง!" แม๊กซ์กดตัวผมไว้ ในที่สุดผมก็หมดแรงอยู่ในอ้อมกอดเขา "ใจเย็นๆ ผมไม่ได้เลิกกับคุณ"

ผมสะอื้น น้ำตากลบตาจนภาพพร่าไปหมด เหมือนลูกตาผมจมน้ำ "ฮึก... แล้วทำไม... แล้วทำไม..."

"ผมไม่ได้เลิก" แม๊กซ์ยืนยัน กดจูบผมแรงๆ "ผมรักคุณ รักคุณมากขึ้นทุกวัน"

"แต่เธอบอก..."

"ผมทำให้คุณลำบาก" เขาเชยคางผมขึ้น จ้องหน้าตรงๆ "ผมทำให้คุณฝืน... ครั้งที่แล้วผมข่มขืนคุณ ครั้งนี้ผมฝืนให้คุณมีอะไรด้วย... ผมขอโทษ"

ผ่านม่านน้ำตา ผมเห็นดวงตาสีน้ำตาลที่แสดงความสำนึกผิด ได้แต่เลื่อนมือไปแตะใบหน้าเขาเบาๆ

"ผมคิด... คิดย้อนกลับไปว่าตัวเองเห็นแก่ตัวแค่ไหน ผมทำร้ายคุณ ผิดสัญญา หลอกคุณ... เพราะผมรักคุณ อยากได้คุณมาอยู่ข้างๆ... ผมขอโทษ" น้ำเสียงเขาสั่นพร่า ผมหลุบตาลง

ทำไมผมจะไม่รู้...

ผมรู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร ที่ผมแต่งงานกับเขา เขาคิดว่าเพราะเขามอมไวน์ผม ที่ผมไปออฟฟิศกับเขา เพราะเขาคิดว่าผมไม่มีสติ

ถึงผมจะไม่มีสติจนตอบตกลง แต่ถ้าผมไม่เต็มใจ ยังไงผมก็ต้องปฏิเสธ

"ยิ่งครั้งนี้คุณฝืนเพื่อผมจนตัวเองบาดเจ็บ... ผมยิ่งทรมานรู้ไหม อย่าทำแบบนี้อีกเลย คุณทำให้ผมเจ็บปวดไปด้วย" แม๊กซ์ดึงผมไปจูบอย่างบ้าคลั่ง "เจ้าหญิง... เจ้าหญิง... ผมรู้ว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีคุณ... แต่อย่าทำแบบนี้ ผมชอบเซ็กส์ แต่ผมรักคุณมากกว่า แค่เพื่อให้ตัวเองมีความสุข แต่ต้องทำให้คุณเจ็บ... ผมไม่เอาแบบนั้น" เขากระซิบ

"ผมข่มขืนคุณครั้งหนึ่ง... ครั้งเดียวก็พอแล้ว... ผมจะไม่ทำให้คุณเจ็บปวดอีก"

ผมซบหน้ากับแผงอกแกร่ง ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม ปล่อยให้เขาจูบเพื่อเช็ดน้ำตาออกไป

"เข้าใจแล้ว... ขอโทษนะ..."

"คุณไม่ผิด ไม่มีอะไรต้องขอโทษ ที่เลวคือผมคนเดียว" แม๊กซ์ซบหน้ากับไหล่ผม "เจ้าหญิงของผม... ผมรักคุณนะ"

คำบอกรักของเขา... ทำให้ใจที่แห้งผากของผมชุ่มชื้น ร่างกายก็รุ่มร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผมหลับตาลง ซึมซับความรู้สึกนั้น "...อีกที"

"เอ๊ะ ?"

ผมยิ้ม ดันเขาออกเบาๆ แล้วถอดเสื้อออกทางศีรษะ แม๊กซ์รีบดึงเสื้อผมกลับ แต่ผมดื้อ "แม๊กซ์"

"ข้าว! จะทำอะไรน่ะ!"

ผมถอดเสื้อออกจนได้ ผลักเขาลงนอนบนเตียง คลานไปนั่งบนอกแกร่ง "บอกรักฉันอีกสิ... คราวนี้..." ผมยิ้มอายๆ แต่ขยับสะโพกที่ปวดร้าว "ทำฉันไป... บอกรักฉันไปนะ..." ผมขย่มเขาเบาๆ ให้เห็นเป้าน้อยๆ ที่เริ่มแข็ง...

แข็งตัวได้ยังไงผมก็ยังงงตัวเอง ทั้งๆ ที่สามีช่วยปลุกมาตั้งนาน แต่แค่เขาบอกรักเท่านั้นเอง...

"ไม่เอาเซ็กส์... แต่จะเอาเมคเลิฟ" ยิ่งพูดยิ่งอายตัวเอง แม๊กซ์เด้งตัวขึ้นมา ถอดกางเกงผมทันใด ผมหัวเราะกับท่าทางเร่งร้อนนั้น

"แต่ก้นคุณ..."

ผมสะบัดกางเกงออก ช่วยเขาถอดกางเกง แล้วไปนั่งบนตัก "ฉันทนได้... มาเถอะ มารักฉันหน่อย" ผมอ้าแขนกว้าง ให้เขากอด

เราสองคนกลายเป็นเนื้อเดียว ผมแทบหลอมเหลว อย่าว่าแต่มีอารมณ์เลย ต่อให้ไม่มีก็ต้องมี เขาจูบผม... เบาๆ อ่อนโยน ลูบไล้เรือนกายอย่างทะนุถนอม จูบไปทั่วตัว ทั้งหน้าอก ไหล่ หน้าท้อง... ใช้ปากมอบความสุขให้ผมกลับ ผมบิดตัวเร่า แบขาอ้าหราให้เขากินอย่างสะดวก เขาจูบไปยังต้นขา ขบกัดบริเวณที่ผมมองไม่เห็น เลียไปจนถึงปากทางที่แดงช้ำภายในเป็นแผล เขาใช้ปากปลอบประโลม แล้วเราก็ร่วมรักกันจริงๆ เราผลัดกันบอกรัก... จุมพิต ส่งยิ้มให้กัน

เราไม่เคยมีอะไรกันโดยไม่เปิดไฟมาก่อน แต่ครั้งนี้ในความมืด หัวใจเรากลับชัดเจนยิ่งกว่า

ผมได้ยินเสียงหอบลมหายใจยามเขาสอดใส่เข้ามา แม้จะเจ็บ แต่ความรักที่ท่วมท้นทำให้ผมทนไหว ค่อยๆ ขยับกาย เขาเอาใจใส่ผม ระมัดระวังทุกท่า จูบผม รักผม...

...รักแม๊กซ์

ผมรักเขา...


เรา 'ร่วมรัก' กันจริงๆ เราดำเนินไปอย่างเชื่องช้า แต่เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ เราจูบกันแล้ว จูบกันอีก แล้วยิ้มออกมาพร้อมกัน หัวใจเราสื่อสารกันได้...

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมอิ่มเอม นอนอยู่บนร่างกายแข็งแกร่ง ปล่อยให้แม๊กซ์ลูบไล้ลาดไหล่ที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

"นานๆ ทีแบบนี้ก็ดีนะ คุณยังเจ็บอยู่ไหม ?"

"อืม ปวดๆ" แต่อะไรนะ... นานๆ ที ? ผมชอบแบบนี้มากเลยนะ

แม๊กซ์จูบผมอีกครั้ง "ผมรักคุณจัง พรุ่งนี้ผมใส่ยาให้นะ แล้วกินยาด้วยนะครับ"

"อื้อ แล้วทำไมบอกว่านานๆ ที ?" ผมชักไม่พอใจแล้ว แต่สามียังไม่รู้ตัว จูบไหล่ผมอย่างมีความสุข

"ขืนทำแบบนี้ทุกวันเมื่อยแย่ เอาจังหวะเหมือนทุกทีดีกว่า"

"...."

"ทุกทีคุณร้อนแรงกว่านี้... ถึงผมจะชอบให้คุณละลายในอ้อมแขนก็เถอะ แต่..."

"แสดงว่าเธอชอบให้ฉันร่าน ?"

"แบบนี้ผมก็ชอบ แต่จังหวะมันช้าไป" แม๊กซ์เริ่มรู้ตัว จูบผมอย่างเอาใจ "เอาเหมือนทุกทีนะครับ... นะ"

ผมคำรามฮึ่ม เคยได้ยินมาว่าแต่ละคนมีจังหวะของตัวเอง ผมชอบช้าๆ แบบนี้ แต่แม๊กซ์ยังเด็ก ขืนมาจูบลูบไล้ เน้นเล้าโลมไม่เน้นสอดใส่เขาคงอึดอัดแย่ ผมพยายามคิดแบบนั้น แต่ยังอดค้อนเขาไม่ได้

"เจ้าหญิง..."

"แค่เซ็กส์น่ะจะมีกับใครก็ได้ แต่เธอร่วมรักกับคนรักได้คนเดียวนะ"

"ผมรู้แต่..." เขาอ้าปากเถียง "เซ็กส์ก็ควรจะมีแต่กับคนรักไม่ใช่เหรอ ?"

"เมื่อก่อนฉันไม่ได้รักเธอยังมีเซ็กส์กับเธอได้เลย!"

"งั้นแสดงว่าคุณยังมีเซ็กส์กับคนอื่นได้เหมือนกันสิ!" แม๊กซ์เดือดตาม

"เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ!" ผมโมโหแล้ว บรรยากาศหวานๆ หายลับไปกับตา ผมเห็นรอยเล็บตัวเองบนหน้าเขาแล้วก็ยกมือขึ้น เตรียมจะข่วนอีกรอบ "ทั้งมีเซ็กส์ทั้งร่วมรักมีกับฉันคนเดียว เข้าใจไหม!"

จากอารมณ์เดือดดาล แม๊กซ์ผ่อนลมหายใจและหัวเราะ "เข้าใจแล้วครับๆ"

ผมถอนหายใจ เอนตัวลงไปนอนซบเขาอีกครั้ง "อย่าให้รู้นะ..."

"รู้อะไร ? ผมหวงคุณขนาดนี้ยังจะหึงผมอีก"

"ทำไมเสียงระรื่นขนาดนั้น" ผมหน้าบูด

"ดีใจ..." แม๊กซ์ตอบซื่อๆ "ดีใจที่คุณหึง..."

ผมชะงัก จริงสิ... ที่ผ่านเอาแต่คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขามาตลอด แต่ตอนนี้ผมหึงได้เต็มปากแล้ว

"ผมชอบ... ให้คุณหึง" แม๊กซ์พูดอีก ลูบผมเล่นผมอมยิ้ม ซบหน้ากับกล้ามแน่นๆ

"ฮื่อ... ฉันรักเธอนะ..."

เขาก้มลงจูบเรือนผม พูดซ้ำ "คุณหึงนี่น่ารักจัง... รักคุณนะครับ เจ้าหญิงของผม"

...

ผมหลับสนิท ไม่ฝัน ไม่สะดุ้งตื่น มารู้ตัวอีกทีก็สายแล้ว วันนี้ก็เหมือนทุกวัน กลอเรียทำความสะอาดอยู่ในครัว ผมเดินขาถ่างไปหาหล่อน ทักทายเหมือนทุกๆ วัน

"อรุณสวัสดิ์"

"สายแล้วค่ะคุณ" กลอเรียเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าชื่นมื่นของผมแล้วพูดอย่างหมั่นไส้ "แหม เมื่อคืนร้อนแรงกันอีกสินะคะ อย่าลืมสิว่าคุณท้องอยู่"

ผมหัวเราะแหะๆ โผเผไปนั่งที่เก้าอี้ แต่แล้วก็ร้องโอ๊ยลั่น

ก้น! เจ็บขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!

ผมน้ำตาตกใน กลอเรียรีบวิ่งไปหาเบาะมาให้รองนั่ง ปากแซว "แหมๆ ลูกแฝดละมั้งคะ"

ผมน้ำตาเล็ด รู้สึกข้างในมันลื่นๆ แม๊กซ์ทายาไว้ให้แล้วแน่ๆ เมื่อรู้ตัวแล้วก็ถาม "แม๊กซ์ล่ะ ?"

"ออกไปทำงานแล้วค่ะ เขาฝากให้ฉันดูแลคุณด้วย" กลอเรียเดินไปยังตู้เย็น หยิบจานอาหารออกมา "จะกินเลยไหมคะ ? จะได้กินยา"

"อื้ม ฝากด้วยนะ"

แม่บ้านชาวโคลัมเบียร่างตุ้ยนุ้ยเดินไปอุ่นอาหารให้ แต่ผมตะหงิดๆ ชอบกล "วันนี้ทำแพนเค้กเหรอ ?" ปกติกลอเรียทำพวกซุป บอร์ชอะไรพวกนี้ แต่ละอย่างทำให้ผมคิดถึงแกงจืดใส่สาหร่ายที่บ้านสุดๆ ถึงจะอร่อยก็เถอะ

"ฉันไม่ได้ทำค่ะ" หล่อนยิ้มมีเลศนัย "สามีคุณต่างหากละคะ โทรมาถามวิธีทำตั้งแต่เช้า"

ผมมองตามจานแพนเค้กที่กลอเรียยกมาให้ เป็นแพนเค้กหน้าตาประหลาด ไหม้นิดหน่อย ทำจากแป้งสำเร็จ

กลอเรียยิ้มขำ "ยังสั่งให้ฉันรีบทำความสะอาดก่อนคุณจะตื่นด้วยนะ ถ้าคุณมาเห็นสภาพครัวก่อนหน้านี้แล้วจะตกใจ นึกว่าระเบิดถล่ม นี่หมดแป้งแพนเค้กไปสี่กล่อง กว่าจะออกมาได้เท่านี้"

ผมเอาส้อมจิ้ม แข็งโป๊ก แต่พอนึกถึงภาพผู้ชายตัวโตยืนหน้าเตา พยายามปลุกปล้ำกับแผ่นแป้งแล้วก็หัวเราะ หัวใจอิ่มเอม พองฟู...

ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ผมถึงนึกถึงคนนิรนามที่ส่งข้อความมาด่าผมได้ ผมบล๊อกเขาไปหลายวันแล้ว เอาเข้าจริงก็เหงาเหมือนกันนะ ผมเล่นโซเชียลก็จริง แต่ไม่ค่อยโพสต์อะไร ส่วนใหญ่เป็นภาพที่พิช พ่อแม่ น้องชายและน้องสะใภ้และเพื่อนๆ ที่ไทยแท็กมา ยังไงก็ตามทั้งหมดสู้กับภาพที่แม๊กซ์โพสต์ไม่ได้เลย ฝีมือถ่ายรูปเขาก็ห่วยพอๆ กับเล่นดนตรีและทำอาหาร แต่ก็ตั้งใจถ่ายให้ผมตลอด มีข้อความสั้นๆ ง่ายๆ หวานๆ ที่บ่อยคือชอบแคปสถานะของเรามาโชว์

อย่าง Relationship status: Married - Maximus Henderson

ไม่รู้จะโชว์อะไรบ่อยนักหนา มีเพื่อนผมมาเมนต์อย่างหมั่นไส้บ่อยๆ แม๊กซ์ใช้กูเกิ้ลทรานสเลทแล้วตอบว่า Thanks ทุกข้อความ ตอบแทนเจ้าของเฟซอย่างผมซะงั้น ขนาดข้อความที่ด่าผมว่าเป็นดอกไม้สีทอง ฝรั่งก็หน้าระรื่นบอกขอบคุณแทนเมีย เล่นเอาผมอยากเอาหัวโขกตาย

ผมคิดแล้วก็ถ่ายรูปแพนเค้กหน้าเบี้ยวๆ พร้อมข้อความขอบคุณไปให้แม๊กซ์ เราสองคนส่งข้อความกันน้อยมาก เพราะวันๆ นึงแม๊กซ์ต้องจัดการกับข้อมูลมหาศาล ต้องอ่านรายงานเยอะแยะผมไม่อยากให้มีอะไรไปหนักหัวเขาอีก นอกจากเวลาจำเป็นจริงๆ อย่างตอนที่เขาทำงานหรือผมจะฝากซื้อของแล้วกลัวว่าเขาจะลืม ผมถึงส่งข้อความ

มือเลื่อนปลดบล๊อกบุคคลนิรนาม โหย... ด่าซะยาวเชียว ข้อความ Racism ก็มา ลิงเหลืองงั้นงี้ ไอ้เจ๊กนั่นนี่ ผมหัวเราะหึๆ เอารูปแพนเค้กเมื่อครู่ส่งไป แล้วพิมพ์

My brunch... He did for me
You know, he's not good at cooking
but he did for me
that's how he loves me
LOVES ME
jealous?
JEALOS?
[อาหารมื้อสายกูไง ผัวกูทำให้
มึงก็รู้นิ ว่าผัวกูทำอาหารไม่เก่ง
แต่เค้าก็ทำให้กูนะ
เค้ารักกูขนาดไหน
รักกู
อิจฉาไหม
อิจฉาป้ะ]


ทิ้งระเบิดแล้วก็บล๊อกอีกที หัวเราะอย่างนางมารร้ายจนกลอเรียต้องโผล่หน้าเข้ามาดู "คุณหัวเราะเหมือนในละครน้ำเน่าเลย"

ผมยิ้มให้ "ผมมันตัวร้ายนี่ครับ"

"ค่า" หล่อนส่งสายตาแทนคำว่าหมั่นไส้ให้ แล้วสะบัดก้นไปดูดฝุ่นต่อ ผมหยิบน้ำเชื่อมมาราดแพนเค้ก กลอเรียใจดีหั่นสตอเบอร์รีกับกล้วยไว้ให้เป็นยาช่วยชีวิต ถึงจะไม่แน่ใจว่ากินแล้วท้องเสียหรือเปล่าแต่ผมก็กินแพนเค้กฝีมือแม๊กซ์

เนื้อหยาบเหมือนกระดาษ แข็งโป๊ก ผมตั้งใจกินจนหมด รับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเขา

กลอเรียเดินเข้ามาช่วยอุ่นนมให้ผม ถึงปากจะบ่น จะทำตาคว่ำใส่ยังไง หล่อนก็เอาใจใส่ผมมาก ไว้วันหลังผมจะอบคุกกี้ให้

"กลอเรีย คุณแพ้กลูเตนไหม ?"

"เปล่านี่คะ"

"แล้วกินพวกขนมอบได้ไหม ?"

"ได้สิคะ คุณอยากกินเหรอ ?"

ผมส่ายหน้า "คุณชอบคุกกี้ไหม ? ไว้ผมจะอบให้นะ เอาเป็นแบบนิ่มหรือแบบกรอบดี ?"

กลอเรียชะงัก ถอดถุงมือยางแล้วยื่นมาจับแก้มผม "คุณนี่น้า... เพราะเป็นแบบนี้ไง คุณแม๊กซิมัสถึงหลงคุณน่ะ"

ผมยิ้มตอบ ดื่มนมจนหมดและกินยากับน้ำ

...ใช่สิ... ใครๆ ก็รู้ว่าสามีรักผมแค่ไหน...

...อิจฉาไปเถอะ อิจฉาให้ตายเลย แล้วผมจะนอนก่ายหน้าท้องซิกส์แพ๊กเขาแล้วหัวเราะเยาะ
[/b]

ผมใช้นิ้วโป้งแตะที่หน้าจอเบาๆ โปรไฟล์ของคนนิรนามยังว่างเปล่าเหมือนเดิม

ฉันจะทำให้แกอิจฉาจนเลือดกระอัก
ฉันจะทำให้แกดิ้นทุรนทุรายตอนที่ฉันเสวยสุขกับหนุ่มรูปงาม
ฉันจะยิ้มหวานตอนที่เขาจูบ... ใช่ เขาจะจูบฉันคนเดียว รักฉันคนเดียว


ผมปลดบล๊อกอีกครั้ง พิมพ์ด้วยมือเดียว

Everybody knows how much he loves me...
don't stop texting me
I enjoy your jealousy
[ใครๆ ก็รู้อ่ะนะว่าผัวรักกู
อย่าหยุดส่งข้อความมาล่ะ
ความอิจฉาของมึงทำให้กูบันเทิงสุดๆ]


มาสิ... จะด่าอะไรก็เข้ามา...

ผมยิ้ม

ก็สามีรักผมขนาดนี้... แล้วไง ?

...

ผมกินแล้วไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาเจอกลอเรียยังทำความสะอาดตู้โชว์เลยคุ้ยตู้เย็นหาอะไรกิน มีซีเรียลบาร์อยู่

ได้ด่าคนแล้วอารมณ์ดีจนอยากกินช็อกโกแลตขึ้นมา มันมีคาเฟอีนอยู่ถึงจะน้อยก็เถอะ แต่แม๊กซ์ก็สั่งห้ามจนในบ้านไม่เหลือสักแท่ง ผมแทบตะกุยตู้เย็นแล้ว อยากกินของหวานๆ ของหวานๆ หวานๆ...

...ไปรื้อตู้เก็บอาหารแห้งดู ในที่สุดก็เจอคุกกี้ที่ทำทิ้งไว้ตอนที่ไปบ้านพิช ผมมองรอบตัวเหมือนกำลังทำผิด ให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนลอกข้อสอบเพื่อน

แม๊กซ์ไม่ชอบให้ผมกินจุบจิบระหว่างท้อง แต่ผมอยากกินนี่นา

แอบขอโทษสามีในใจ โทษลูกว่าอยากกินแล้วคว้าเข้าปาก ได้ยินเสียงหึ่งๆ ของเครื่องดูดฝุ่นอีกครั้ง กลอเรียกำลังเก็บห้องนอน แสดงว่าทางสะดวก

ไม่ได้ยอตัวเองนะ แต่คุกกี้อร่อยจริงๆ

ผมสิ้นหวังแล้ว นึกถึงสภาพตัวเองหลังคลอด น่าจะตุ้ยนุ้ยตุ๊ต๊ะพุงย้วยแน่ๆ แต่ร่างกายกลับย่อเข่าลงนั่งยองๆ ที่มุมครัว กอดโถคุกกี้เหมือนหมีพูห์กอดโถน้ำผึ้ง

เฮ้อ... ขอโทษนะแม๊กซ์ ขออีกชิ้นเถอะ

เพลิดเพลินกับขนมจนลืมสังขาร กริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ผมสะดุ้งโหยง เศษขนมกรุบกรอบร่วงกราวถึงได้รู้ตัว รีบปิดฝาแล้วลากเอาเก้าอี้มาต่อขาเก็บไว้ชั้นสูงๆ จะได้ลืมจนราขึ้น

โอ๊ยย ตัวก็เตี้ย ถ้าอ้วนล่ะก็เป็นตอม่อแน่ๆ เลย ฮือ คนน่ารักตัวเตี้ยเรียกว่าตัวเล็ก แต่ถ้าอ้วนและเตี้ยน่าจะเรียกอึ่งอ่าง

ผมไว้อาลัยให้ตัวเอง มือเปิดฝาโถอีกรอบ หยิบอีกชิ้นออกมา... ชิ้นสุดท้ายพอดี

ทันใดนั้นพลังมโนของฮอร์โมนจินตนาการไปถึงสภาพตัวเองอุ้มลูกเดินกลางถนนในนิวยอร์ก มีโฮมเลสยื่นหนังสือพิมพ์ให้อย่างสงสาร... ผมโดนผัวทิ้ง โดนสามีไล่ออกจากบ้านเพราะเป็นไอ้อ้วน เป็นเกย์ไม่พอยังอ้วนเตี้ยอีก

คิดไปก็กินไป เฮ้อ... ก่อนจะถึงวันนั้นกินตุนไว้ก่อนดีไหมเรา

"คุณข้าวคะ" กลอเรียเรียก ผมสะดุ้งอีกรอบ ยัดคุกกี้คำสุดท้ายเข้าปาก ปีนลงมาจากเก้าอี้

แม่บ้านหรี่ตา "แอบกินอะไรคะ ?"

"ไอ้อี" คุกกี้ยังคาปาก ผมส่ายหน้าจนขนมแทบร่วง กลอเรียถอนหายใจ

"หลักฐานชัดขนาดนี้ กินเลอะอีกต่างหาก" หล่อนจุ๊ปาก "กินให้เสร็จแล้วไปที่ห้องรับแขกเถอะค่ะ มีดอกไม้จากคุณแม๊กซิมัสมาส่ง"

ผมรีบกลืนคุกกี้ ส่งสายตาอ้อนๆ ให้แม่บ้าน "กลอเรีย..."

"คะ ?"

"คือ...."

"ไม่ให้บอกสามีคุณ ?" แม่บ้านยิ้มขัน "พวกคุณนี่เหมือนเด็กเลย ทานไปเถอะค่ะ"

"ไม่บอกนะ ?" ผมยื่นนิ้วก้อยออกไปให้หงอยๆ แต่กลอเรียเดินเลยไป

"บอกแน่ค่ะ คุณอยากให้ฉันตกงานหรือไง ? ไปที่ห้องรับแขกเถอะค่ะ สามีคุณส่งดอกไม้มา" โบกมือไล่เสร็จสรรพ ผมยิ้มแหยๆ ให้หล่อนแล้วเดินไปห้องรับแขกตามคำสั่ง

แม๊กซ์ยังคงส่งดอกไม้มาสม่ำเสมอ... วันนี้เป็นดอกเล็กๆ เหมือนดอกไม้ป่า จัดมาในโถกลมๆ เตี้ยๆ อันเล็กๆ สีขาวสะอาด ดอกไม้มีห้ากลีบหลากสีสัน ทั้งสีขาว สีม่วงแดงและสีฟ้า ผมดูตัวโถกลมๆ แล้วก็เห็นสิ่งที่ห้อยมา

เป็นการ์ดแข็งและสร้อยเพชร... เช่นเคย แต่วันนี้มีจี้อันเล็กๆ ที่ทรงเดียวกับดอกไม้ ผมหยิบสร้อยออกมาสวมให้ตัวเอง มือพลิกดูโถสีขาว เห็นแล้วชอบมาก ทรงกลมๆ ป้อมๆ ของมันน่ารักดี ผมยกโถดอกไม้ไปอวดกลอเรีย "กลอเรีย! ดอกไม้ล่ะ"

"ค่า ค่าเห็นแล้ว ดอก Viscaria ซะด้วย" หล่อนเดินอุ้ยอ้ายออกมาดู "แหม บานฤดูนี้พอดี คุณแม๊กซิมัสก็ช่างหา"

ผมเกาหัว "ดอก Viscaria ?" คงไม่มีความหมายให้ไปกูเกิ้ลอีกนะ

"ค่ะ ดอกนี้ปลูกง่าย ใช้เมล็ดปลูกได้ค่ะ"

ผมอุทาน "จริงเหรอ น่ารักจัง"

"ค่ะ ที่ไทยไม่มีเหรอคะ ?"

ผมส่ายหน้า น่าจะประมาณดอกกระดุมทองละมั้ง แต่มันน่ารักจริงๆ นะ ผมชอบจนยกไปไว้ที่ห้องนั่งเล่น กลอเรียบ่นตามหลังมา

"คุณนี่ก็แปลกคน ชอบอะไรง่ายๆ แบบนี้แทนที่จะชอบกุหลาบหรือลิลลี่"

ผมยิ้มให้หล่อน หยิบมือถือมาจิ้มหาความหมาย

...Will You Dance with Me?

วันนี้แปลกกว่าทุกวัน หยิบโถขึ้นมาพลิกดูการ์ด เป็นใบปิดหนังบนกระดาษแข็ง ริชาร์ด เกียร์กับเจนนิเฟอร์ โลเปซเต้นรำอยู่ตรงกลาง

ผมยิ้ม เขาจำได้...

Shall we dance ตัวหนังสือตวัดสวยของแม๊กซ์เพิ่มด้านล่าง
please, your highness?

...ตอนแต่งงานกันใหม่ๆ ผมรื้อเอาหนังมานั่งดูกับเขา หนึ่งในนั้นคือ Shall we dance ผมเป็นเกย์สาวน้อย ชอบดูหนังรักโรแมนติกที่พระเอกหล่อๆ แต่แม๊กซ์ดูได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องก็หลับ พอเขาตื่นขึ้นมาผมก็งอนงี่เง่าใส่

ไม่นึกว่าแม๊กซ์จะจำได้

ผมวางโถน้อยลง จุมพิตการ์ดเบาๆ

ขอบคุณนะครับ... ที่รักกัน

...

เที่ยงๆ แม๊กซ์โทรมาหาผม เสียงร้อนรน "ข้าว คุณกินแพนเค้กหรือยัง ?"

"กินแล้ว" ผมตอบ กำลังจะขยับปากขอบคุณแต่เสียงปลายสายร้องอ๊าก

"กินแล้ว!?"

"ทำไมเหรอ ?" หรือเขาทำตกพื้นแล้วเอามาให้ผม ? ใส่ยาพิษลงในแพนเค้ก ?

"คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?" เขาถามละล่ำละลั่ก ผมชักเอะใจ

"ไม่เป็นไรนี่"

ปลายสายผ่อนลมหายใจ "คือ... คุณไม่โกรธใช่ไหม..."

"โกรธอะไร ?"

"ก็มันไม่อร่อย" เสียงหงอยๆ "รู้งี้ผมให้กลอเรียทำก็ดี... ผมนึกยังไงไม่รู้ทำให้คุณกิน... ขอโทษนะครับ"

ผมโล่งอก นึกว่าผัวจะฆ่าหมกเพนต์เฮาส์แล้ว "ขอบคุณนะแม๊กซ์ ฉันกินได้ สบายดี"

เราส่งจุ๊บกันหลายหนก่อนวางสาย แม๊กซ์บอกผมว่าไม่ต้องทำมื้อเย็นเพราะเขาจะซื้อเข้ามา ผมตกลง คิดว่าก็ดีเหมือนกัน สังขารตัวเองตอนนี้ไม่น่าจะยืนนานๆ ไหว

ผมวางโทรศัพท์ลง

แม๊กซ์หนอแม๊กซ์... น่ารักจริง

....

แม๊กซ์บอกจะซื้อกับข้าวเข้ามา สิ่งที่อยู่ในหัวผมคือกระเพาไข่ดาวในกล่องโฟมเสริมสร้างมะเร็งที่ขายริมฟุตบาธ สตรีทฟู๊ดไทยก้าวไกลทั่วโลก

แต่นึกไม่ถึงว่า...

รถเข็นอาหารทำจากเงินเลื่อนเข้ามาในห้อง แม๊กซ์เดินเข้ามารุนหลังผมให้เข้าไปในห้องอาหาร พนักงานชายในเสื้อหูกระต่าย ใส่เสื้อกั๊กและกางเกงจีบสีดำ รองเท้าหนังมันวับเข้ามาจัดโต๊ะ เชิงเทียนเงางามวางอยู่ตรงกลางพร้อมดอกไม้จัดช่อ เทียนไขสีขาวสามเล่มถูกจุด ผ้าปูโต๊ะสีขาวถูปูจนเต็ม

ผมนั่งเหวอๆ ดูบริการระดับมิชลินแล้วดูเสื้อยืดกางเกงวอร์มตัวเอง ยังมีเศษคุกกี้ติดอยู่เลย ผมรีบแอบปัดออก แม๊กซ์ดี๊ด๊าเลื่อนเก้าอี้ให้ จูงผมนั่งลง

"แม๊กซ์ ?" ผมถามเสียงมึนๆ

"ครับ ?" เขาสะบัดผ้าวางบนตัก ผมทำตามอย่างงงๆ

"เธอบอกจะซื้ออาหารเข้ามา ?"

แม๊กซ์พยักหน้ารับ

"แล้วนี่มัน ?"

"อาหารไงครับ ผมสั่งคอร์สอาหารไทยประยุกต์มา" ตอบด้วยรอยยิ้มหล่อลากกระชากตับ ผมมึน อาหารไทยในหัวคือลาบหมูที่นั่งกินกับยาดอง แต่พอเห็นฝรั่งถือไวโอลินเข้ามาในบ้านแล้วบรรยากาศกลิ่นโคลนสาบควายก็หายวับ

แม๊กซ์มองผมตาเยิ้ม ผมมองรอบตัวแล้วกลับไปมองเขา "ต้องทำแบบนี้เลยเหรอ ?"

"ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบเหรอ ? คุณดื่มไวน์ไม่ได้ผมก็ไม่ดื่มนะ"

โน้ตตัวแรกบรรเลง ผมอยากคิดว่าแม๊กซ์ไม่รู้หรอกว่าเพลงเดี่ยวไวโอลินเพลงนี้ชื่ออะไร นักดนตรีวัยกลางคนผมยาวเล่นดนตรีคลาสสิคอย่างดื่มด่ำ ผมคิดถึงเพลงขอใจแลกเบอร์โทรที่เพิ่งปิดก่อนแม๊กซ์กลับ

ไม่ใช่ว่าไม่เคยไปร้านหรูๆ กับแม๊กซ์ อย่างตอนที่เขาขอแต่งงานก็อยู่ที่ห้องอาหารในโรงแรม แต่ไม่เคยมีห้องอาหารโรงแรมมาอยู่ที่บ้าน

อาหารจานแรกเสิร์ฟ ดีที่ผมเรียนรู้วิธีกินแบบฝรั่งมาระหว่างที่เดทกับเขาแล้วเลยไม่เคอะเขิน แต่มันประหลาดใจจริงๆ ที่มีบริกรหนุ่มหน้าตาเฉยเมยมาเสิร์ฟถึงที่

จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟ ปอเปี๊ยะสดแซลมอนชิ้นเล็กๆ พอดีคำราดซอส ผมหยิบส้อมมาจิ้มกิน อร่อยแฮะ แม๊กซ์ไม่หยุดแค่นี้ ระหว่างที่ผมเคี้ยว เขาก็รับช่อดอกกุหลาบมาจากพนักงานหญิงอีกคนหนึ่ง

กุหลาบ... สีแดงเลือด มีมอสสีเขียวๆ ติดที่โคน ผมไม่อยากถามต่อหน้าคนนอกเลยรอจนเขายื่นให้

"Rosebud moss 99 ดอก"

ผมนับเพลินๆ แม๊กซ์ก็เฉลย ใต้โต๊ะแอบหยิบมือถือมากูเกิ้ล แต่สามียิ้มให้ ล้วงเข้าไปใต้โต๊ะเอามือถือออกมาเสียก่อน ผมล่ะอาย พนักงานจะคิดไหมว่าเราล้วงๆ จับๆ อะไรกันอยู่ใต้โต๊ะ

"Rosebud moss แทนคำสารภาพรัก... จำนวนดอกหมายถึงว่า..." เขาเน้นเสียง วางมือถือลงในถาดเงินที่พนักงานหญิงมารับไป และหันมาจ้องหน้าผม สบตานิ่ง ราวกับประกาศอะไรสักอย่าง

"ผมจะรักคุณ... จนวันตาย..."

ผมหน้าแดงก่ำ หลุบตาลง ไม่กล้าสบดวงตาสีน้ำตาล แต่แม๊กซ์กลับเอื้อมมือมากุมมือผมไว้ "เจ้าหญิงของผม... ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษที่รุนแรง... ขอโทษที่ฝืน แต่ผมรักคุณเหลือเกิน..."

ผมวางช่อดอกไม้ไว้บนตัก พยักหน้าอายๆ "ฮื่อ..."

"เจ้าหญิง..."

ผมก้มหน้าต่ำลงเรื่อยๆ เพลงเพราะไม่เข้าหูเลย ได้ยินแต่เสียงทุ้มๆ ของเขา "ฉัน... ก็รักเธอ..." คำรักที่พูดบ่อยๆ แต่ทำไมมาครั้งนี้พูดยากนัก ผมพูดเสียงเบา เงยหน้าขึ้น สบตาเขานิ่ง ไม่ได้แค่อยากบอกให้เขารู้เหมือนทุกครั้ง แต่อยากให้เขาจารลงไปในใจ ไม่ใช่แค่คำรักทั่วไป ครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้ง

"ฉัน..." ผมสูดลมหายใจลึก "รักเธอ... ฉันยินดีเป็นแม่ให้ลูกของเรา... ฉันอยากสร้างครอบครัวไปกับเธอ" มือที่กุมผมอยู่กระชับมั่น ผมเห็นรอยย่นตรงหางตา แม๊กซ์ยิ้มกว้างจนตาหยี
"ขอบคุณ... ที่เลือกฉันนะ"

แม๊กซ์กุมมือผมไปจุมพิต "ผมก็ขอบคุณ... ขอบคุณที่เลือกผมนะครับ"

เรายิ้มให้กัน สบตากัน หวานยิ่งกว่าร่วมรัก

เสียงดนตรีขับกล่อมเราทั้งสอง ผมเลิกเขินอาย ชวนเขากินอาหาร กินไปคุยกันไป ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสดีอย่างนี้ ได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับหนุ่มสุดร้อนแรงที่รักผมจนหมดใจ

เรื่องที่เรานำมาคุยกันมีไม่จบไม่สิ้น ราวกับเราไม่ค่อยได้คุยกันนัก ผมรู้แล้วว่าทำไมฝรั่งถึงต้องมีบรรยากาศดีๆ แบบนี้ อาหารอร่อย การบริการไม่ขาดสาย ผมพูดมากขึ้น แม๊กซ์ก็คุยสนุก เหมือนเรากลับไปสมัยที่ยังเดทกันใหม่ๆ

ต่างกันที่ตอนนี้ในท้องมีพยานรักของเราอยู่

เมื่อของหวานมาถึง เป็นไอศกรีมวานิลลาติดทองคำเปลวกับสตอร์เบอร์รี รสหวานหอมของวานิลลาอบอวลเต็มปาก อร่อยจนหยุดไม่ได้ ยิ่งมีสตอร์เบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวานมาตัดยิ่งทำให้ผมจ้วง เรากินกันจนอิ่ม เช็ดปาก เพลงเล่นจบพอดี นักดนตรีโค้งให้พวกเรา ผมปรบมือชื่นชมถึงจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ไพเราะมาก

พนักงานมาเก็บจานไป เสียงกีตาร์มาจากที่ไหนสักที่ ผมหันกลับไปดู

เอาจริงดิ!


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
นักดนตรีหนุ่มใส่หมวกพร้อมขาตั้งไมค์ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น แม๊กซ์จับจูงมือผมไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

เพลงที่ดังอยู่คุ้นหูมาก...

แม๊กซ์โค้งตัวลง ถามเสียงทุ้ม "Shall we dance ?"

ผมอยากแทรกแผ่นดินหนี สงสัยอยู่พอดีว่านักดนตรีมาทำไม
 
มิน่าล่ะเขาถึงส่งดอก Viscaria มา แถมยังมีการ์ดที่ทำจากใบปิดหนังอีก ผมนึกว่าเขาจำได้ว่าผมชอบริชาร์ด เกียร์เสียอีก

แม๊กซ์โค้งตัวรอ ผมสับสน ไม่ใช่เรื่องจะตอบรับหรือเปล่าแบบสาวน้อยในหนังหรอก แต่ไม่รู้ว่าจะโค้งตอบหรือถอนสายบัวดี ผมเป็นเกย์ก็จริงแต่เป็นผู้ชาย

"เจ้าหญิง..." เสียงเรียกนุ่มๆ ทำให้ผมตัดสินใจได้...

...ถอนสายบัว!

เอาเถอะนะ ถวายบัวก็ทำมาแล้ว ถอนสายบัวน่าอายน้อยกว่าเยอะ แถมที่นี่ก็ไม่มีใครอื่น บ้านก็บ้านผม ผัวก็ผัวผม จะสาวนิดสาวแตกก็ช่างมันเถอะ

แม๊กซ์ยืดตัวขึ้น ยิ้มถูกใจ จับมือผมไว้แล้วโอบแน่น

ผมเต้นจังหวะวอลซ์เป็น ก็เพราะต้องออกงานกับเขานั่นแหละ แต่จะเอามากกว่านี้ไม่ได้ ผมไม่ใช่เจนนิเฟอร์ โลเปซจะได้แทงโก้เกาะเกี่ยวร่างกายบึกบึน

"ทำตัวสบายๆ แบบเต้นในงานพรอมไง" เขาโอบแผ่นหลัง กระชับแน่น ท่าทางจะไม่พาผมไปจังหวะรุมบ้า ว่าแต่จังหวะรุมบ้ามันมีใช่ไหม

จะเรียกว่าเต้นก็ยาก ผมไม่เคยไปพรอม เขาคงรู้ตัว เสริมเบาๆ "เหมือนที่คุณดูในหนังแวมไพร์หน้าซีดๆ ก็ได้"

ผมขำ หนังรักโรแมนติกของผมเขาดูไม่จบสักเรื่อง แวมไพร์หน้าซีดที่ว่าก็เรื่องทไวไลท์ แม๊กซ์มาตื่นเอาตอนฉากสุดท้ายที่เบลลาเต้นรำกับเอ็ดเวิร์ด

เพลงที่เล่นสดเป็นเพลงจังหวะกลางๆ ผมคิดว่านักดนตรีคงเร่งจังหวะให้เข้ากับการเต้นรำ

เราสองคนแค่โอบกอดกัน ขยับตัวไปตามเพลงตามใจชอบเท่านั้นเอง

มันรู้สึกดีมากๆ เลยนะ

'Well, you done done me and you bet I felt it
I tried to be chill but your so hot that I melted'


เพลงนี้ที่ผมชอบ...

ไม่ว่าจะอะไรในชีวิตผม แม๊กซ์จำได้หมด

'I fell right through the cracks, now I’m tryin to get back
before the cool done run out I’ll be givin it my best test'


อบอุ่นจัง... ลูกในท้องผมคงมีความสุขไปด้วย เรากอดกัน ยิ้มให้กัน แล้วก็จูบกัน...

...จนดนตรีจบลง ผมไม่ใช่ซินเดอเรลลา แม๊กซ์ไม่ใช่เจ้าชาย เราไม่ต้องเร่งรีบไปไหน จนนักดนตรีเก็บข้าวของออกไปแล้ว พนักงานทั้งหมดก็กลับออกไป ทั้งบ้านเหลือเราเพียงสองคน ผมยังจำโน้ตตัวสุดท้ายที่ก้องกังวาลได้ มันลอยอ้อยอิ่งอยู่ในห้อง

ผมยิ้ม เขายิ้ม

ร่างสูงใหญ่ก้มลงเพื่ออุ้มผมขึ้น รวบบั้นท้ายอยู่บนท่อนแขน ท่านี้ผมจึงอยู่สูงกว่าเขา เห็นโลกในมุมมองคนตัวสูงบ้าง แม๊กซ์โน้มตัวมาจูบพุงกลมๆ

"น่ารักจัง"

ผมหัวเราะ ใช้สองมือประคองใบหน้าคมคาย

เบลล่ามีเอ็ดเวิร์ด
บียอนเซ่มีเจย์ซี
อลิซาเบธมีมิสเตอร์ดาร์ชี
จูเลียตมีโรมิโอ
แคร์รีมีมิสเตอร์บิ๊ก


แต่ผมโชคดีกว่าพวกเขา โชคดีกว่าใครบนโลก

โน้มตัวลง ผมเคี้ยวใบมิ้นต์ที่ประดับบนไอศกรีมมาแล้ว ไม่ต้องกลัวกลิ่นกระเทียม จึงทาบริมฝีปากลงบนริมฝีปากเขาได้อย่างมั่นใจ

"รักนะ... ที่รักของข้าว"

ที่รักของผมจูบตอบกลับมา "ผมอยากหยุดเวลาไว้จัง..."

"อย่าเลย... แค่เราอยู่ด้วยกันทุกๆ วันก็โรแมนติกแล้ว" ผมยิ้มกับริมฝีปากเขา แม๊กซ์หัวเราะ

"ผมบอกคุณหรือยัง ว่าผมรักคุณมาก..."

ผมยิ้ม ยิ้มจนแก้มจะแตก "ยังเลย... ฉันขี้ลืมนะ บอกฉันบ่อยๆ"

เขาบดจูบ ผมกอดคอเขาแน่น "รักคุณครับ... รักคุณ ข้าวของผม เจ้าหญิงของผม... มามิ๊ของผม"

"ฉันเป็นของเธอ... ของแม๊กซ์คนเดียว รักนะครับ... แด๊ดดี้" ผมตอบด้วยเสียงนุ่มพอกัน

...ข้าวก็มีแม๊กซิมัส

"ว่าแต่... คุกกี้อร่อยไหมเจ้าหญิง ?" ลูกตาวาวๆ ระยิบระยับอย่างล้อเลียน ผมหัวเราะ ก้มลงดูเขา

"อร่อยสิ ชิมไหม ?"

"ไม่เชื่อ" เขาจูบผมอีก "ไม่ค่อยได้รสชาติ... ขออีกที"

เราจูบกันอีกครั้ง แม๊กซ์เริ่มเต้นรำทั้งๆ ที่ยังอุ้มผมอยู่ ทั้งๆ ที่ปราศจากเสียงเพลงหรือท่วงทำนองใดๆ ทั้งๆ ที่สองเท้าเราเปลือยเปล่า

...ข้าวคนนี้มีแม๊กซิมัสล่ะ

ต่อให้อิจฉาให้ตายยังไง ผมก็ไม่ยกเขาให้ใครหน้าไหนบนโลกหรอก จงดิ้นพราดๆ ด้วยความอิจฉาไปเถอะ

"รักนะ"

"รักคุณครับมามิ๊"

..........................................

โอ๊ยย หมั่นไส้ อะไรจะรักผัวขนาดนี้ นังแม๊กซ์อะไรจะโรแมนติกขนาดเน้

ตอนนี้มี hidden issue เรื่อง DV เบาๆ ค่ะ ในมุมมองข้าวกับมุมมองแม๊กซ์จะมองต่างกัน เช่นเรื่องเซ็กส์กับร่วมรัก ข้าวจะอ่อนไหวกว่า เพราะเป็นเกย์สาว ส่วนแม๊กซ์คิดว่ามันแค่คือ synonym ส่วนมุมมองความรักของทั้งคู่ก็ค่อนข้างต่างกัน เพราะแม๊กซ์เป็นชายแท้และยังเด็ก ส่วนข้าวแก่กว่าและเป็นเกย์ เพราะมีความรักดีๆ เลยพยายามยื้อไว้สุดชีวิตน่ะค่ะ

เรื่องนี้พอมีสาระไหมเนี่ย 555 ขอบคุณมากนะคะ  :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อยากเห็นตัวเล็กแล้ววว

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
แม๊กซ์นี่รักข้าวแปลกๆ เนอะ ^^"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อ่านกี่รอบๆๆๆๆ ก็อิจจจจจจ สครีมมากค่าาา อยากมีปั๋วอย่างพี่แม๊กซ์

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มองบนเลยจ้า อวดผัวไปอี๊กกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
หมั่นไส้แรงมากค่ะพูดเลย แต่ดีแล้วที่รักกัน
ข้าวนี่อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เดี๋ยวดราม่าเรือหาย เดี๋ยวหวานมดตกน้ำตาลตาย คนอ่านนี่เครียดดดดดด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แอบห่วงเหมือนแม่อ่าาาา
แต่ก็อิจนางมากกกกกกกกก คึคึ

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
หมั่นไส้นังข้าว ชิ!
มีผัวหล่อ รวย เด็ก เซ็กซ์เด็ด
มันก็น่าอิจฉาาาาจริงๆ อ่ะเนอะ 5555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เราก็รู้นะว่านี่นิยาย เอาขำๆ แต่เรากลับคิดว่ามันจะเป็นได้เหรอที่คนรวยมีความสามารอย่างแม็กซ์จะมีด้านมืดแบบหน้ามืดกับข้าวได้ถึงขนาดนี้ แล้วอีกอย่างคุณไปถึงขั้นให้ผู้ชายท้องไ้ด้เองแบบนี้. มันต้องผ่านการประเมินสภาพจิตทั้งผัวทั้งเมียแล้ว การเตรียมตัวและความเข้าใจจะต้องมากกว่าที่ให้กับการตั้งครรภ์ปกติโดยผู้หญิง(มดลูกแท้)ด้วยซ้ำไป ถ้าคุณไม่ได้ศึกษามาก้อน่าจะฟังหมอปรึกษาหมอบ้างว่าแต่ระยะมันต้องระวังเรื่องอะไร. มีอาการแบบไหนคือปกติ แบบไหนคือผิดปกติ
เรื่องเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์มันต้องควบคุมให้เหมาะสมนะ เหมือนๆกับเรื่องการใช้ฮอร์โมนเสริมเข้าไปแหละ เพราะผู้ชายผลิตเองไม่ได้ เห้อ เวิ่นมาทั้งหมดคือแค่อยากจะตบกะโหลกแม็กซ์ด้วยความหมั่นไส้ค่ะ. นั่นถือเป็นความไม่เคารพ(จากความรุนแรง)และลดทอนความเป็นแม่ของข้าวนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2016 18:57:52 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โอ้ย คนอวดผัว คนอวยเมีย  :z2:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
มองบนจนกว่าตาขาวจะหลุดเข้าเบ้าตา 555555555 โอ้ยยยยย อิจฉาปะ ฉันได้ยินคำนี้ทีไร จะนึกภาพปากคว่ำของแม่นางข้าวตลอด โคตรอิน 555555555555555555555

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คู่นี้ยังไง อวดได้อวดดีจริงๆ รักกันหนักมากกกกกก   :z3:

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ดิชั้นหมั่นไส้นังข้าวมากค่ะคุณพระ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด