[เรื่องสั้น] Mine!!...ของผม 3P (จบ) ตอนพิเศษ 1 up 12/10/16 P.2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Mine!!...ของผม 3P (จบ) ตอนพิเศษ 1 up 12/10/16 P.2  (อ่าน 29440 ครั้ง)

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ








Mine!!...ของผม

คำเตือน : 3P และ incest เบาๆ ใสใส ไม่ดราม่า

สารบัญ
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6
ตอนที่ 7 จบ

ตอนพิเศษ 1

 :-[


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2016 13:10:11 โดย happiness »

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
Title: Mine!!...ของผม
Author: Scottoppa


EP 1

กลิ่นหอมอ่อนๆจากคนตรงหน้าฉุดรั้งให้ปลายจมูกโด่งค่อยๆโน้มกายลงคลอเคลีย ปกรณ์แตะแต้มริมฝีปากไปตามพวงแก้มใสที่ขึ้นสีเรื่อ ดวงตาแวววาวที่สบประสานกันหรี่พับลงยามรู้สึกได้ถึงความหนุ่มหยุ่นของกลีบปากบางเฉียบทว่าอบอุ่น มันค่อยๆทาบทับลงมาบนริมฝีปากกระจับเล็ก ก่อนจะตักตวงความหอมหวานเหล่านั้นอย่างเชื่องช้า

“อื้มม...กร”

ปลายลิ้นร้อนแกล้งหยอกเย้าจนอีกคนเริ่มระทวย ทิวหมอกยื่นแขนโอบรอบคอเหนี่ยวรั้งคนขี้แกล้งเอาไว้กันตัวเองไหลลงไปกองอยู่ที่พื้น เสียงเฉอะแฉะน่าอายดังขึ้นหากแต่ไม่มีใครคิดที่จะหยุดมัน ทิวหมอกขยับกายบดเบียดเข้าหาอกกว้างตรงหน้าเช่นเดียวกับที่ปกรณ์ยินดีเผื่อแผ่อกแกร่งนั้นให้ทิวหมอกได้ซุกซบ

“อ่า...กร หยุด...หยุดก่อน”

ไอความร้อนปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของทั้งสองคน ฝ่ามือใหญ่จงใจละเลยเสียงท้วงหวานฉ่ำแล้วสอดเข้าใต้เสื้อเชิ๊ตสีหวานของคนตรงหน้าแทนเสียอย่างนั้น ใบหน้าหล่อเหล่าเต็มไปด้วยสเน่ห์และความเจ้าเล่ห์ ปกรณ์เพียงแค่กดยิ้มมุมปากลงพลางส่ายหน้าน้อยๆให้ลูกแมวตัวเล็กที่เริ่มคล้อยตาม

“ทำหน้าแบบนี้แล้วจะให้หยุด...ไม่ใจร้ายเกินไปหรือครับ?”

“แต่ว่าเดี๋ยวฟ้า...”

“ชู่วว”

ไม่เพียงแค่ส่งเสียงปราม แต่ริมฝีปากที่ห่อเข้าหากันยามเปล่งเสียงเตือนกลับจงใจให้แตะกับริมฝีปากเล็กที่เริ่มเจ่อบวม ร่างบางร้อนไปทั้งใบหน้าแล้วไหนจะฝ่ามือที่เริ่มซุกซนเกินความจำเป็นของคนขี้แกล้งนั่นอีก สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้คนตัวโตเอาแต่ใจเข้าอีกจนได้

“อ๊ะ”

ปลายนิ้วเรียวปัดผ่านและสะกิดจุดอ่อนให้หวามไหว ทิวหมอกเชิดหน้าขึ้นเมื่อปลายจมูกโด่งให้ความสนใจกับลำคอขาว ก่อนที่มันจะวกกลับมาที่ปลายจมูกรั้นเล็กๆอีกครั้ง พวกเขาไม่ลังเลที่จะแลกรสชาติความหวานให้แก่กัน และปกรณ์เองก็ไม่ลืมที่จะริดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตรงหน้าออกจนหมดไม่เหลือแม้สักเม็ด

เตียงนอนหลังใหญ่ถูกคนสองคนจับจอง ทิวหมอกเบียดกายแนบชิดหวังพึ่งไออุ่นจากแผ่นอกกว้าง แก้มขาวแดงเป็นปื้นกอปรกับดวงตาหวานฉ่ำน้ำยิ่งมองก็ยิ่งยั่วเย้าให้อยากแกล้ง กิริยาที่ไม่เคยรู้ตัวของทิวหมอกอย่างการช้อนตาขึ้นมองแบบนั้นทำเอาคนจิตแข็งอย่างปกรณ์ใจกระตุกได้ไม่ยาก

“ตัวแค่นี้ทำไมขี้ยั่วจัง”

“เราไม่ได้ยั่วสักหน่อย”

ต่อปากต่อคำได้ไม่เท่าไหร่ริมฝากปากเล็กก็ถูกครอบครองอีกครั้งโทษฐานกล้าต่อล้อต่อเถียง เสียงครางหวานหูช่างกระตุ้นเลือดร้อนๆในกายของชายหนุ่มได้ไม่ยาก เสื้อผ้าเริ่มหลุดรุ่ยรวมถึงกระดุมกางเกงยีนส์ของทิวหมอกด้วยที่ไม่รู้ว่าถูกแกะออกตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเขาไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีกนอกจากรสชาติของความคิดถึงและความโหยหาที่มีต่อกัน

ปัง!! โครมมม!!

เสียงประตูถูกกระแทกจนสองร่างบนเตียงสะดุ้งผละออกจากกัน ก่อนจะตามมาด้วยบานประตูไม้ที่เปิดออกอย่างแรงจนชนเข้ากับตู้เสื้อผ้าด้านข้าง เผยเด็กหนุ่มวัยกำลังโตคนหนึ่งที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงกอดอกอย่างเอาเรื่อง

ดวงหน้าหวานคลับคล้ายคลับคลากับเจ้าของเตียงกว้างไม่มีผิด ดวงตากลมโตที่เป็นประกายดั่งลูกกวางเช่นเดียวกันกำลังหรี่ลงมองทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ ร่างกายที่บอบบางหากแต่ก็ดูแข็งแรงทำตัวห้าวหาญขัดกับชุดนอนลายหมีน้อย มาพร้อมกับเส้นผมที่เสยปาดโชว์หน้าผากนั่นเกือบทำให้ปกรณ์หลุดขำออกมาถ้าไม่ติดว่าเจ้าเด็กนี่ดันโผล่มาขัดจังหวะเข้าเสียก่อน

“สายฟ้า...”

“จะทำอะไรหมอก! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

เสียงหวานเอ่ยครางเรียกชื่อน้องชายยามเจ้าเด็กนี่เดินดุ่มๆปีนขึ้นเตียงนุ่มอย่างถือวิสาสะ ดวงตาลูกกวางไม่เป็นมิตรใช้มองปกรณ์ทันที ก่อนที่มือเล็กๆของเด็กตรงหน้าจะผลักไหล่หนาของปกรณ์ให้ออกจากทิวหมอกด้วยแรงกำลังที่ไม่สามารถทำให้คนตัวโตอย่างปกรณ์กระเทือนได้

“ออกไปซี่ อย่ามารังแกหมอกนะเว้ย”

“สายฟ้า...อย่าทำพี่กรสิ”

“หมอกยังจะปกป้อง ‘คนนี้’ ทั้งที่ฟ้าเข้ามาช่วยหมอกหรอ!”

ใบหน้าบูดบึ้งพองลมที่แก้มจนมันตุ่ยออกมา ไหนจะจมูกรั้นที่แสนดื้อดึงเชิดขึ้นอย่างไม่พอใจนั่นอีก เจ้าเด็กนี่ลุกขึ้นเหยียบย่ำบนที่นอน ส่งเสียงฮึดฮัด เดินข้ามขาของปกรณ์ไปอย่างไม่สนใจเรื่องของมารยาทก่อนจะหอบอุ้มผ้าห่มที่กองอยู่บนปลายเตียงแล้วเดินกลับมาห่อหุ้มตัวให้ทิวหมอกที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ย

“ฟ้าโกรธอยู่นะ! หมอกไม่ต้องมายิ้มเลย...นายด้วย ยิ้มไร!”

แก้มกลมของคนเป็นพี่ดันขึ้นยามอมยิ้มขำให้กับท่าทางนักเลงโต ถึงแม้จะโกรธจะงอนแต่ก็ไม่วายทำแมนหอบผ้าห่มมาคลุมตัวให้ ท่าทางฮึดฮัดหัวเสียแบบนั้นทำให้ปกรณ์ที่นึกโมโหอยู่ในคราแรกก็ต้องยอมหลุดเสียงหัวเราะออกมาให้เจ้าเด็กขี้โมโหค้อนขวับเข้าให้เช่นกัน

“ตัวกระเปี๊ยกเดียวคิดจะมาเป็นคู่แข่งกันหรือไง”

“เราโตแล้ว! ตัวกระเปี๊ยกที่ไหน เราปกป้องหมอกได้”

“พี่ก็ปกป้องหมอกได้เหมือนกัน”

“นายมันชอบแกล้งหมอก ออกไปเลยนะ”

ร่างบางนั่งมองทั้งสองคนทะเลาะกันแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า สายฟ้าอายุห่างกับเขาสิบปีพอดี และเด็กนี่มักจะเป็นแบบนี้กับทุกคนที่เข้าหาทิวหมอกด้วยสายตาเจ้าชู้อยู่เสมอ เด็กคนนี้รู้ดีว่าใครคิดไม่ซื่อกับพี่ชายของตน และต่อมความหวงก็มักจะระเบิดออกมาอยู่เสมอจนใครๆก็นึกขยาด จะมีก็แต่ปกรณ์นี่แหละที่มองว่ามันช่างน่าตลกและน่าเอ็นดูปะปนกันไป

เขาไม่เคยคิดว่าสายฟ้าน่ารำคาญ ทว่าก็ต้องยอมรับว่าเจ้าเปี๊ยกนี่มักจะขัดขวางเวลาแห่งความสุขและความหวานชื่นมากไปหน่อยก็ตาม

“พอแล้วน่าทั้งสองคน ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้”

สายตาทั้งสองคู่หันขวับมาที่คนห้ามปรามทันที ร่างบางรู้สึกว่าอยู่ๆตัวเองก็หดเล็กลงมาเสียอย่างนั้น ตกลงแล้วคนที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมดคือทิวหมอกเอง ร่างบางเลยได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆให้ปกรณ์ และโอบกอดเจ้าเด็กขี้โมโหเพื่อง้องอนให้สายฟ้าเข้าใจ

“หมอกจะเลือกคนนี้ หรือเลือกฟ้าก็ว่ามาเลย”

ทิวหมอกสบตากับปกรณ์ แต่เหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้สนใจดวงตาอ้อนวอนอย่างนั้น ซ้ำยังเร่งเร้าให้ทิวหมอกรีบเลือกข้างอีกด้วยต่างหาก

“คือ...เรา...ต้องเลือกด้วยหรอ”

“ก็ต้องเลือกสิ เร็วๆฟ้าง่วงแล้วนะ”

มือเล็กยกขึ้นขยี้ตางัวเงีย ก่อนจะถูกปกรณ์หัวเราะเยาะใส่จนต้องเบิ่งตาของตัวเองให้โตมากขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ สายฟ้ากอดคอพี่ชายอย่างหวงแหนกึ่งบังคับทันทีจนทิวหมอกต้องลูบกลุ่มผมนุ่มของน้องแล้วเอ่ยเสียงเบาให้เจ้าเด็กขี้โมโหเข้าใจ

“เราเลือกไม่ได้หรอก กรเป็นแฟนเรานะ ส่วนฟ้าก็เป็นน้องเรา”

“ฟ้าขอเป็นพี่หมอกบ้างไม่ได้หรอ”

“ไอ้เปี๊ยกเอ้ย”

ปกรณ์หลุดเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเจ้าเด็กขี้หวงขอเป็นพี่ชาย ฝ่ามือใหญ่ของปกรณ์ยีไปบนเส้นผมที่ถูกเสยเปิดหน้าผากด้วยน้ำเปล่าจนมันคลายทรง แม้จะโดนสายฟ้าปัดออกด้วยความรำคาญ แต่ก็ยอมหยุดนิ่งยามทิวหมอกเป็นฝ่ายสางกลุ่มผมนุ่มของน้องอย่างเบามือแทน

“ไปนอนได้แล้วนะสายฟ้า พรุ่งนี้ไปโรงเรียนไม่ใช่หรอ”

“ฟ้าอยากนอนกับหมอก”

“เฮ้ย!! ได้ไง”

“ได้ดิ๊ หมอกเป็นของเรา”

ปกรณ์พ่นลมหายใจใส่เด็กตาปรือที่ซบไหล่อ้อนทิวหมอกอยู่ ง่วงแล้วก็ยังไม่วายที่จะต่อปากต่อคำ ทิวหมอกส่ายหน้าให้ทั้งสองคนแล้วก็ต้องยอมแพ้ดวงตาลูกกวางปรือๆที่ช้อนมองมาอย่างมีความหวัง ร่างบางดันน้องชายให้นอนลงไปบนเตียงกว้าง ลูบแก้มใสนั่นหนึ่งทีก่อนจะตวัดผ้าห่มที่ห่อตัวออกห่มให้เจ้าเด็กขี้โมโห

“งั้นก็นอนซะ แต่ห้ามนอนดิ้นมาทับเรานะ โตแล้วเดี๋ยวเราแบน”

“อื้อ...จุ๊บฟ้าก่อนนอนด้วย”

“เยอะจริงๆ”

สิ้นเสียงอ้อนของสายฟ้า เสียงบ่นของปกรณ์ก็ดังตามมาให้คนกลางอย่างทิวหมอกต้องลอบยิ้ม ร่างบางตั้งท่าจะโน้มตัวลงไปจุ๊บอย่างที่น้องขอ หากแต่ฝ่ามือใหญ่ของปกรณ์กลับรั้งเอาไว้แล้วเป็นตัวเองที่โน้มหน้าลงไปจุ๊บปากเจ้าเด็กขี้โมโหแทน

“ฮึ...ฝันดีนะเจ้าเปี๊ยก”

ทิวหมอกยิ้มหวานออกมาเมื่อเห็นว่าสายฟ้าหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว แถมยังยิ้มรับจุ๊บจากปกรณ์อีกด้วย นี่ถ้าเจ้าตัวรู้ความจริงขึ้นมาคงได้อาละวาดกันจนบ้านแตกไปข้างอีกแน่ๆ ร่างบางนั่งมองน้องชายที่หลับสนิทได้ไม่นาน แรงสะกิดจากปกรณ์ก็มาพร้อมกับร่างใหญ่ๆที่โอบกอดรอบเอวเขาเอาไว้

“ไปรอที่ห้องนู้นนะ”

“อื้ม...เดี๋ยวเราตามไป”

ทิวหมอกเอียงแก้มให้ปกรณ์ได้หอมเต็มฟอด พวกเขาส่งยิ้มหวานให้แก่กัน ก่อนที่ร่างสูงจะเดินนำออกจากห้องนอนไปก่อน ในเมื่อเจ้าเด็กขี้หวงยืนยันจะนอนห้องนี้ปกรณ์ก็คงจะว่าอะไรไม่ได้ ถึงอย่างไรห้องของสายฟ้าก็คงว่างพอให้พวกเขาสานต่อเรื่องราวที่กำลังทำเมื่อสักครู่ได้

***

แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่าง เจ้าเด็กขี้โมโหปรือตามองก่อนจะยิ้มหวานออกมาเมื่อหันไปด้านข้างเจอกับใบหน้าหวานของพี่ชายที่กำลังหลับพริ้ม แพขนตายาวทาบบนแก้มใสอมชมพูของทิวหมอกก่อนที่สายฟ้าจะตั้งใจยืดตัวจูบแก้มพี่หมอกของเขาให้ชื่นใจ

ทว่า...ลำตัวของเด็กหนุ่มกลับถูกแขนแกร่งของใครอีกคนกอดรัดเอาไว้จนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ สายฟ้ารีบหันหน้ากลับไปมองเจ้าของแขนปริศนาทันทีแล้วก็พบได้ว่าใบหน้าหล่อคมของปกรณ์กำลังหายใจรดต้นคออยู่จนต้องหดคอหนี

“ฮึ๊ย...ปล่อยเรานะเว้ย”

มือเล็กพยายามแกะแขนแกร่งของคนหลับสนิทออกแต่ก็ไม่เป็นผล กำปั้นเล็กๆจึงต้องทุบลงไปบนไหล่หนาพอให้ปกรณ์หงุดหงิดก่อนจะยอมคลายมือออกตามสัญชาตญาณ สายฟ้าเหยียบย่ำบนที่นอนรวมถึงการปีนตัวข้ามปกรณ์ออกมาก่อนจะกระโดดลงยืนข้างเตียงด้วยสีหน้าติดจะไม่พอใจ

“เราไม่ยอมยกหมอกให้นายหรอก ไอ้พี่กร”

พูดจบก็เดินสะบัดหน้าออกจากห้องไปทันทีก่อนจะตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะรีบอาบน้ำ รีบแต่งตัวไปโรงเรียน แล้วจะรีบมาปลุกทิวหมอก เพราะไม่ไว้ใจให้ทิวหมอกได้นอนอยู่กับไอ้พี่กรสองต่อสอง

หากแต่เพียงแค่ร่างเล็กเปิดประตูเข้าห้องไป เสื้อผ้าที่สายฟ้าจำได้ดีว่าเป็นของพี่ชายกลับเกลื่อนกลาดเต็มพื้นยาวไปจนถึงเตียงนอนของเขาที่สภาพดูไม่จืด แม้กระทั่งกางเกงในตัวจิ๋วที่ตกอยู่ข้างเตียงข้างๆกับของอีกคนแต่คนละไซส์ทำให้เลือดร้อนๆไหลเวียนขึ้นมาอยู่บนหน้าเด็กน้อยวัยสิบห้าปีได้ไม่ยาก

“ไอ้บ้า ไอ้เวรพี่ปกรณ์!”

เฮือก!

ปกรณ์สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นจากห้องนอนห้องข้างๆ นั่นทำให้ทิวหมอกที่หลับพริ้มอยู่ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองปกรณ์ด้วยความงุนงง ปกรณ์คิดว่าบางทีเขาอาจจะแค่หูฝาดไป เขาจึงส่ายหน้าให้ทิวหมอกก่อนจะจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากสวยแทนการเอ่ยคำว่าอรุณสวัสดิ์

แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะได้ใช้ภาษากายทักทายกันมากว่าเดิม เสียงดังแปดหลอดจากเด็กผู้ชายคนเดิมกลับดังขึ้นมาอีกระรอกให้ทั้งสองคนต้องมองหน้ากันแล้วหลุดสบถอย่างหยาบคาย

“ชิบหาย สายฟ้าเอาตายแน่ๆ...”



“หมอกเป็นของเราคนเดียว อยากตายหรือไงหา!!!!! ไอ้พี่ปกรณ์!!!”




TBC






เรื่องแรกสำหรับลงเล้าเป็ดค่ะ แต่ก็แต่งไว้นานแล้ว อยากลองให้ทุกคนได้อ่านดู
เรื่องนี้เคยเป็นฟิคชั่นของเรามาก่อน ตอนนี้ได้ปรับปรุงและก็แก้ไขลองแปลงมาเป็นวายธรรมดา
ตอนนี้เราแต่งจบแล้วค่ะ แต่จะขอเวลาเกลา แล้วจะทยอยมาลงให้อ่านอีกนะคะ
แล้วเจอกันตอนต่อไปค่า
 :impress2:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตามค่าาา  :katai2-1:

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องฟ้าน่ารักน่าตีจริงๆ

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
EP 2




หน้าโรงเรียนมัธยมเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนในเครื่องแบบจำนวนมาก บ้างก็ใส่แว่น ยัดเสื้อเข้าในกางเกง ผมรองทรงเรียบร้อย บางคนก็ดูฮอตไม่ต่างจากพวกดารานักแสดงเลยสักนิด แต่สภาพและบุคลิกจำพวกนั้นแตกต่างจากสายฟ้าโดยสิ้นเชิง

เด็กหนุ่มอยู่ในชุดพละของโรงเรียน ผมเผ้าถูกเสยปาดจนตั้งเปิดหน้าผากเรียกสง่าราศีอย่างที่ตนเองชอบ เสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยออกมานอกกางเกงและเครื่องหน้าหล่อเหลาแบบนั้นทำให้สายฟ้ากลายเป็นจุดศูนย์รวมสายตาของใครหลายๆคนในสนามฟุตบอล

ก็บอกแล้วว่าสายฟ้าน่ะ หล่อและแมนมาก ทั้งยังเท่จนสาวหลงกรี๊ดกันกระหึ่มทั่วทั้งสนามในตอนที่วิ่งตัดลูกบอลแล้วง้างเท้าเตะยิงเข้าโกลด์

สายฟ้าสุดจะภูมิใจในพรสวรรค์ด้านกีฬาอยู่ไม่น้อย ก่อนจะสะบัดมือเล็กน้อยเสยผมของตัวเอง และนั่นก็เรียกเสียงกรี๊ดจากข้างสนามได้อีกระรอก

เด็กหนุ่มจัดแจงหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาซับหยาดเหงื่อ เปิดขวดน้ำดื่มแก้กระหาย ไม่ลืมที่จะค่อยๆยกขวดน้ำขึ้นราดลงบนศีรษะของตัวเองให้สายน้ำมันไหลไปตามลำคอขาว ผ่านลูกกระเดือกที่ขยับรับอย่างเซ็กซี่ ซึ่งแน่นอนว่ากลุ่มเด็กสาวที่คลั่งไคล้สายฟ้าก็พากันแอบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บภาพความประทับใจไว้แล้วแชร์กันว่อนในกลุ่มโซเชียลของโรงเรียน

“ไปกินข้าวด้วยกันต่อไหมไอ้ฟ้า”

“ไม่อ่ะ...นัดหมอกไว้”

เจตน์เพื่อนสนิทเดินเข้ามากอดคอตบไหล่ แต่สายฟ้าก็ทำเพียงแค่ส่ายหน้าปฏิเสธ วันนี้หมอกจะมารับแล้วพากันไปดินเนอร์ ถึงแม้ว่าจะมีไอ้พี่ปกรณ์ติดสอยห้อยตามมาด้วยก็เถอะ แค่คิดถึงเรื่องเมื่อครั้งก่อนที่ไอ้พี่ปกรณ์บ้านั่นก่อเอาไว้ก็นึกแค้นเคืองขึ้นมาจนอดที่จะกัดฟันกรอดไม่ได้

แต่ก็อย่างว่า ถ้ามื้อนี้ไอ้พี่ปกรณ์เป็นคนจ่าย สายฟ้าก็ยินดีที่จะไปถล่มให้กระเป๋าฉีกกันไปข้างเสีย

สายฟ้าปฏิเสธเจตน์และเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะเลือกบอกลาทุกคนตรงนั้นแล้วสะพายกระเป๋าของตัวเองออกมา สองเท้าลากเอื่อยเฉื่อยไปบนทางเท้า ในใจก็คิดล่วงหน้าไปถึงมื้ออาหารที่กำลังจะมาถึง เขาอดที่จะจินตนาการถึงพิซซ่าที่เต็มไปด้วยชีสไม่ไหวแล้ว และหวังว่าพี่หมอกของเขาจะไม่ขัดเรื่องน้ำหนักขึ้นมาให้ต้องทรมานใจ

“ฟ้า...”

สองเท้าหยุดชะงัก ก่อนที่เจ้าของชื่อจะหันกลับไปมองต้นตอของเสียงหวานที่เอ่ยเรียกเขาเอาไว้ ใบหน้าสวยของหญิงสาวในเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเขากำลังส่งยิ้มหวานกลับมาให้อย่างเป็นมิตร...แต่ไม่รู้สิ สายฟ้ารู้สึกว่ามันน่าสยดสยองอย่างไรก็ไม่รู้

“มีไรหรอ”

“เราชื่อเตยนะ นั่งอยู่ข้างหลังนายในห้องน่ะ...คือว่า...เราชอบฟ้า คบกับเราได้ไหม?”

“ไม่อ่ะ”

ถ้อยคำปฏิเสธถูกกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วแทบไม่เสียเวลาคิด และมันช่างไร้เยื่อใยจนหญิงสาวตรงหน้ารู้สึกชาไปทั้งใบหน้า สายฟ้าไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจเธอ เพราะการสารภาพรักแบบนี้มักเกิดขึ้นกับตัวเขาบ่อยครั้ง เพียงแต่ในจังหวะที่เด็กหนุ่มเลือกที่จะหันหลังกลับแล้วก้าวเดินต่อ เตยกลับวิ่งเข้ามากอดแผ่นหลังกว้างของเขาเอาไว้ ก่อนจะแนบแก้มใสลงไปอย่างอ้อนวอน

“ทำไมล่ะ ลองคบกันไม่ได้เหรอ”

สายฟ้ากรอกตาเสียหนึ่งครั้ง เขาพลิกตัวหมายจะดันเธอให้ออกห่างแต่กลับไร้ผล มือผู้หญิงนี่ติดหนึบยิ่งกว่าตุ๊กแกเสียอีก เขาพยายามแงะกายของตัวเองให้หลุดจากอ้อมกอด ทว่ามันก็ไม่สำเร็จจนต้องยอมยืนนิ่งๆให้เธอสงบสติอารมณ์แทน

“ไม่ก็คือไม่...เรามีคนที่ชอบแล้ว เธอตัดใจเถอะ”

“เราเห็นฟ้าปฏิเสธทุกคนเลย ใครล่ะที่นายชอบ”

ก็แล้วจะมีใครล่ะ...ภาพใบหน้าจิ้มลิ้มของทิวหมอกฉายชัดอยู่ในหัว รอยยิ้มอบอุ่นและดวงตาเปล่งประกายยามนึกถึงทำให้สายฟ้าอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เพียงแค่เขาคิดถึงพี่ชายตัวเล็กอัตราการเต้นของหัวใจก็สั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ

ทว่า...ภาพทั้งหมดนั่นกำลังอยู่ในสายตาของใครบางคนที่ค่อยๆหุบรอยยิ้มลง ภาพที่สายฟ้ากำลังยืนกอดเด็กสาวพร้อมด้วยรอยยิ้มหวานแบบนั้น มันอดที่จะทำให้คนมาใหม่รู้สึกก้าวขาไม่ออกอย่างไรอย่างนั้น...รอยยิ้มของสายฟ้าที่เป็นของเขาคนเดียว บัดนี้น้องชายของเขามีคนที่ต้องแบ่งปันรอยยิ้มแบบนั้นให้แล้วหรือ

ทิวหมอกหลุบตาลงต่ำ ฝ่ามือเล็กกำเข้าหากันคล้ายอึดอัดใจ เขารู้ว่าสายฟ้าโตขนาดที่จะมีแฟนได้แล้ว แต่เขากลับรู้สึกไม่พอใจ บางทีเขาอาจจะแค่น้อยใจที่สายฟ้าไม่เคยมาปรึกษาเรื่องแบบนี้กับเขา หรือเขาอาจจะแค่ไม่พอใจที่น้องชายมีความลับ...ทิวหมอกคิดว่าเขาอาจจะไม่พอใจเพราะสาเหตุพวกนั้น

ร่างบางตั้งใจจะเดินหันหลังกลับ แต่สุดท้ายเสียงฝีเท้านั้นกลับเรียกให้สายฟ้ารู้สึกตัวถึงการมาของเขาเข้าจนได้

“หมอก! มานานรึยัง...นี่ฟ้ารีบออกมาเลยนะ”

“เราเพิ่งมา”

ดวงตาหวานมองน้องชายที่ผละตัวออกจากหญิงสาวตรงหน้าได้สำเร็จ ทิวหมอกเห็นเธอยกมือไหว้ให้อย่างสุภาพ ก่อนที่สายฟ้าจะรีบเดินเข้ามาหาเขาพร้อมทั้งกระโดดกอดคอทันที เพียงแต่ทิวหมอกกลับเบี่ยงตัวหนีจนน้องชายได้แต่ขมวดคิ้วงุนงง

“หมอกเป็นไรอ่ะ ไอ้พี่ปกรณ์ทิ้งหรอ? ก็ดีสิ เราไปกันสองคนสวีทดีออก”

“นินทาไรพี่ หื้ม...ไอ้เปี๊ยก”

ยังพูดไม่ทันขาดคำ มารหัวใจก็เดินหน้าหล่อมาพร้อมกับชานมไข่มุกสองแก้ว แก้วหนึ่งยื่นให้กับทิวหมอกที่รับมาถือไว้พร้อมกับรอยยิ้มขอบคุณที่ปกรณ์รู้สึกว่ามันช่างฝืนเสียเหลือเกิน ส่วนอีกแก้วก็ยื่นให้สายฟ้าที่รับได้ก็ดูดจ๊วบเสียงดังจนต้องส่ายหน้า

“ไม่ได้นินทาเลย นายอย่ามามั่ว แล้วก็เลิกเรียกเราว่าเปี๊ยกสักที เราโตแล้ว นี่ต้องให้เราย้ำนายทุกวันเลยหรือไง”

“ไม่เปี๊ยกตรงไหน ตัวแค่ไหล่”

“นายนั่นแหละที่สูงเกินไป”

สายฟ้าต่อล้อต่อเถียงกับปกรณ์ยาวเหยียด เด็กหนุ่มถูกปกรณ์ยีเส้นผมที่ตั้งใจเสยเปิดหน้าผากจนมันลู่ลงมากลายเป็นผมหน้าม้าเต่อ หากเป็นวันก่อนๆที่ทิวหมอกอารมณ์ดีคงจะยิ้มและหัวเราะไปด้วย แต่วันนี้ทิวหมอกกลับรู้สึกว่าเขาไม่โอเค...เขายังคงมองเห็นเด็กสาวคนนั้นมองน้องชายของเขาแล้วยิ้ม ก่อนจะเลือกหมุนตัวเดินนำหน้าทั้งสองคนออกไปให้ได้แต่งุนงง

“นายทะเลาะกับหมอกหรอ?”

“เปล่านี่ ก่อนหน้านี้ก็ปกติดี...เราหรือเปล่า ทำอะไรให้หมอกโกรธ”

ปกรณ์กับสายฟ้ามองแผ่นหลังเล็กของทิวหมอกที่ค่อยๆเดินห่างออกไปแล้วก็ได้แต่สับสน พวกเขาตั้งท่าจะเดินตามหากแต่เสียงหญิงสาวเพียงคนเดียวตรงนั้นเอ่ยรั้งขอคำตอบซึ่งสายฟ้าก็ลืมไปเสียสนิทว่าเธอยังอยู่ในวงสนทนานี้ เด็กหนุ่มยังคงยืนยันคำตอบเดิม ก่อนที่สายฟ้าจะเห็นใบหน้าหวานกึ่งหงิกงอของทิวหมอกที่หันมองมาแล้วรีบหันกลับไป

“หมอก! เดี๋ยวสิ รอฟ้าด้วย”

นั่นยิ่งทำให้ทิวหมอกรีบเดินจ้ำอ้าวหนีไปก่อนที่ปกรณ์จะรีบรั้งสายฟ้าเอาไว้แล้วล็อคคอเด็กหนุ่มเข้ามาใกล้เสียแทน

“ปล่อยนะเว้ยไอ้พี่ปกรณ์”

“หมอกคงหงุดหงิดอะไรอยู่ อย่าเพิ่งเลยน่า”

เพราะปกรณ์รู้ว่าทิวหมอกมีนิสัยอย่างไร พวกเขาคบกันมานาน เพียงแค่มองตาก็รู้แล้วว่าทิวหมอกคงกำลังน้อยใจหรืองอนอะไรอยู่ หากแต่ครั้งนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา แต่มันเกิดขึ้นเพราะเจ้าเด็กตัวกระเปี๊ยกคนนี้ต่างหาก และดูเหมือนว่าสายฟ้าจะไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ

“ว่าแต่...ผู้หญิงคนเมื่อกี๊ แฟนหรือไง”

“แฟนบ้าไรล่ะ เราปฏิเสธเขาไปนายก็ได้ยินนี่”

สายฟ้าทำหน้าอูม ปากยื่นใส่ปกรณ์จนคนอายุมากกว่าหลุดขำ ปกรณ์เอามือบีบปากเป็ดๆของสายฟ้าจนเด็กหนุ่มต้องสะบัดหน้าหนี

“โดนสารภาพรักบ่อยๆแบบนี้ปรึกษาพี่ได้นะ”

“นายมันคนเจ้าชู้ เราจะฟ้องหมอก จะยุให้เลิกกัน”

ปกรณ์ยักคิ้วพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แคร์กับคำขู่ นั่นยิ่งทำให้สายฟ้านึกหมั่นไส้จนอยากจะกระโดดงับหัวให้รู้แล้วรู้รอด แต่สิ่งที่อยากทำก็คงทำได้แค่ในความคิด เพราะอยู่ๆร่างสูงของปกรณ์ก็ดึงรั้งเอวเล็กของเด็กตรงหน้าเข้ามาใกล้จนใบหน้าหวานถอดแบบจากพี่ชายนั้นปะทะเข้าที่อกกว้างพอดี

“โอ้ย”

รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ขับสวนขึ้นมาบนทางเท้าทำให้พวกเขาไม่ทันระวัง โชคดีที่ปกรณ์ยังคงมีสติและรับรู้ได้ถึงอันตรายจึงรีบรั้งเด็กขี้โมโหให้หลบรถจนถึงขั้นเซเข้าซบอกกว้าง

กลิ่นหอมตามแบบฉบับผู้ชายที่คุ้นเคยมาพักใหญ่ทำให้เด็กหนุ่มซุกหน้าเข้าหาคล้ายอยากให้ปลอบประโลมอาการตกใจเมื่อสักครู่ เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าเล็กน้อยจึงได้แต่เบ้ปากแล้วขยุ้มเสื้อเชิ้ตของปกรณ์เอาไว้ระบายความเจ็บปวด

“เราเจ็บขา”

“ตรงไหน ขอพี่ดูหน่อย”

สายฟ้าไม่ได้ดื้อแพ่ง เด็กหนุ่มยอมให้ปกรณ์ประคองตัวเองมายืนพิงกำแพงเอาไว้ ก่อนที่จะเห็นว่าทิวหมอกเดินย้อนกลับมาด้วยสีหน้าตื่นๆเช่นกัน

“ตรงนี้เจ็บไหม”

ปกรณ์ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม เขาถอดรองเท้าของน้องออกให้อย่างเบามือ ฝ่ามือใหญ่กดไปตามปลายเท้าและข้อเท้าของสายฟ้าเพื่อหาต้นตอของอาการเจ็บปวด ก่อนที่เสียงแตกหนุ่มของสายฟ้าจะครางออกมายามกดถูกจุดที่รู้สึกเจ็บ

“อื้อ เราเจ็บ!”

“สงสัยขาแพลง เดินไหวไหม?”

สายฟ้ามองกลุ่มผมสีเข้มของปกรณ์ที่ง่วนกับการก้มหน้าก้มตาอยู่ที่เท้าของเขา หากแต่เมื่อร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องสบเข้ากับดวงตากลมโตที่จ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว สายฟ้ารีบเบนสายตาหนีทันทีแล้วทำเป็นแมนขยับเท้าก้าวเดิน แต่สุดท้ายก็ต้องร้องโอ้ยกลับมาอีกรอบ

“เจ็บมาเลยหรอฟ้า ไปหาหมอกันไหม...กร พาสายฟ้าไปหาหมอกันเถอะ”

“ฟ้าไม่เจ็บมากหรอก ไม่ต้องห่วงๆ”

“ยังจะทำปากดีอีก”

ปกรณ์ถอนหายใจสั้นๆใส่เด็กอวดเก่ง เขาลุกขึ้นยืนส่งของทั้งหมดให้ทิวหมอกเป็นฝ่ายถือไว้ รวมถึงยึดกระเป๋าสัมภาระของสายฟ้าส่งให้ทิวหมอกด้วย ร่างสูงยกยิ้มมุมปากขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเห็นเด็กขี้โมโหตรงหน้าเอาแต่ขมุบขมิบปากใส่ก่อนที่ปกรณ์จะหันหลังแล้วย่อตัวลงเล็กน้อยพลางเอ่ยแกมบังคับให้สายฟ้าได้ยิน

“ขึ้นมาสิ”

สายฟ้าชั่งใจมองแผ่นหลังกว้างเบื้องหน้า อยู่ๆเขาก็รู้สึกเห่อร้อนไปทั่วทั้งใบหน้า เขารู้สึกเสียฟอร์มอย่างไรชอบกลถ้าจะให้ไอ้พี่ปกรณ์ศัตรูคู่อาฆาตเป็นฝ่ายแบกเขาขึ้นหลัง แต่จนแล้วจนรอดเด็กหนุ่มก็ต้องยอมแพ้เมื่อหันไปเห็นสีหน้าห่วงใยของทิวหมอก เขาจึงได้แต่ส่งยิ้มบางๆให้พี่ชายคลายกังวลแล้วโน้มตัวลงทาบทับแผ่นหลังกว้างของปกรณ์ทันที

สองขาของเขาถูกมือของปกรณ์เกี่ยวประคองไว้ ทว่าแขนทั้งสองข้างกลับเก้ๆกังๆหาที่วางไม่ถูก

“เกาะดีดีสิ เดี๋ยวก็ร่วงลงไปหรอก”

“เรารู้แล้วน่า”

ปกรณ์ลอบยิ้มขึ้นมาเมื่อเด็กดื้อคนเดิมยอมยื่นแขนกอดคอเขาเอาไว้ สายฟ้าไม่ได้ตัวหนักไปกว่าทิวหมอกสักเท่าไหร่ เขาสามารถแบกเจ้าเด็กนี่เดินกลับบ้านได้อย่างสบายๆ...ท่าทางแผนการดินเนอร์ของพวกเขาคงต้องล้มเลิกแล้วกลับไปต้มมาม่ากินกันที่บ้านเสียแล้ว

ทิวหมอกอมยิ้มให้กับคู่กัดทั้งสองคนที่เดินนำอยู่เบื้องหน้า เขาเห็นสายฟ้าดิ้นบ้าง แกล้งรัดคอปกรณ์ให้ต้องโวยวายเสียงดังใส่บ้าง ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจมองออกไปที่ถนนข้างทาง ทิวหมอกหวังว่าจะมีแท็กซี่สักคันผ่านมาและจอดรับพวกเขา

หากแต่ทิวหมอกคงจะไม่ทันเห็นภาพยามปกรณ์กระชับคนบนหลังเพื่อไม่ให้ร่วงหล่น เช่นเดียวกับที่สายฟ้าโอบกอดรอบคอของปกรณ์เอาไว้แล้ววางปลายคางลงที่ไหล่กว้าง แก้มใสของเขาทั้งสองคนแนบชิดกันก่อนที่เจ้าเด็กขี้โมโหจะทำมึนคลอเคลียออดอ้อนโดยไม่รู้ตัว

“ขอบคุณนะไอ้พี่ปกรณ์”








TBC

============

พระยาเทครัว *w*

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ้าวเฮ้ย งานนี้พี่น้องจะทะเลาะกันไหมนี่

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ดูท่าแล้วจะเป็น 3P ที่สมดุลดีมากเลยค่ะ คือรักและหลงใหลกันเป็นวงกลม เท่าเทียม หมอกรักฟ้า ฟ้ารักหมอก กรรักฟ้า กรรักหมอก หมอกรักกร ฟ้ารักกร ไม่มีใครต้องอึดอัด ไม่ใช่รักแบบสองคนรุมรักหนึ่ง ชอบแบบนี้ที่สุดเลย แต่หาอ่านยากมาก ดีใจที่เจอเรื่องนี้ค่ะ

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
EP 3

เด็กขาแพลงส่งเสียงดังวุ่นวายหลังลงมาจากแท็กซี่ ปกรณ์ที่มีสีหน้าเหนื่อยหน่ายกับอาการดื้อเล็กๆของเจ้าเด็กขี้โมโห ตอนแรกก็เห็นว่าน่ารักเรียบร้อยดีอยู่หรอก แต่ก็เรียบร้อยน่ารักได้อยู่ครู่เดียวเท่านั้น หลังจากกล่าวขอบคุณเขาติดชิดริมใบหูแบบนั้นก็ไม่วายใช้แขนที่เริ่มมีมัดกล้ามเล็กๆรัดคอเขาจนสำลักหน้าดำหน้าแดงไปเสียหลายที เดือดร้อนให้ทิวหมอกต้องรีบวิ่งเข้ามาลูบหน้าลูบไหล่ให้ไม่หยุด

แล้วตอนนี้สายฟ้าก็ยังจะดื้อไม่ยอมขี่หลังเขาต่อทั้งที่ตัวเองแทบจะกระโดดขาเดียวแบบกระต่ายเดินอยู่แล้ว เด็กหนุ่มยืนพิงกำแพงกอดอก แถมยังเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ สายฟ้าไม่ได้อยากติดหนี้บุญคุณไอ้พี่ปกรณ์ให้มากนัก อีกอย่างนี่มันก็หน้าคอนโดของพวกเขาแล้ว เดินเองอีกนิดหน่อยคงไม่ถึงกับเจ็บมากหรอก

“ฟ้าขี่หลังกรเถอะ เดี๋ยวข้อเท้าบวม”

“ฟ้าไม่เป็นไรน่า ฟ้าแกร่งจะตายไป”

คนเป็นน้องยิ้มกว้างออกมาให้ทิวหมอกสบายใจ แต่ไม่เลย...ทิวหมอกเห็นแววตาของสายฟ้าที่มีความไม่แน่ใจอยู่ ทิวหมอกรู้ว่าน้องชายก็คงจะทำตัวเท่พูดไปแบบนั้นเพื่อให้เขาคลายความกังวล

“หมอกไม่เชื่อฟ้าหรอ นี่เดี๋ยวพรุ่งนี้ฟ้าก็วิ่งได้แล้ว...จริงๆนะ”

เมื่อเห็นสีหน้าน่ารักของพี่ชายที่เริ่มหงิกงอ สายฟ้าก็รีบย้ำอีกครั้งพร้อมทั้งจับมือเล็กๆนั่นเขย่าเบาๆด้วย...สายตาออดอ้อนเป็นลูกแมวถูกส่งมาให้ทิวหมอก ทั้งที่กิริยาแบบนี้ของสายฟ้ามักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งและทิวหมอกก็ไม่เคยรู้สึกอะไร หากแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกแปลกที่เขาไม่สามารถละสายตาออกจากใบหน้าของน้องชายได้เลยสักนิด

“แต่...แต่เราเป็นห่วงฟ้า...ฟ้าต้องเตะฟุตบอลนะ”

เสียงหวานตะกุกตะกักไปพร้อมๆกับความร้อนที่พุ่งขึ้นมาตามแก้มใส...อยู่ๆเขาก็ใจเต้นกับท่าทางและรอยยิ้มเท่ๆของสายฟ้าที่ส่งมาให้ ร่างบางพยายามจะเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็ถูกฝ่ามือนิ่มของสายฟ้าประกบเข้าที่พวงแก้มกลมนั่นเสียก่อน

“หมอกห่วงฟ้าหรอ? ห่วงมากไหม?”

“ห่วงมากๆสิ”

“ห่วงมากกว่าไอ้พี่ปกรณ์หรือเปล่า”

ร่างสูงที่ถูกพาดพิงกรอกตาใส่เจ้าของคำถามเสียหนึ่งครั้ง แต่ปกรณ์ก็อดเถียงไม่ได้เลยว่าไอ้ดวงตาวาววับยามรอคอยคำตอบจากทิวหมอกของเด็กตรงหน้าทำให้เขาเผลอหลุดยิ้มออกมาได้ไม่ยาก ร่างสูงเห็นทิวหมอกที่มองมาทางเขา คนรักของเขาส่งยิ้มบางๆมาให้ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงขออนุญาตในการตอบคำถามของสายฟ้าในครั้งนี้

“ว่าไง...หมอกห่วงฟ้ามากกว่าไอ้พี่ปกรณ์ใช่ไหม”

“ก็...ก็ต้องห่วงอยู่แล้วสิ...ฟ้าเป็นน้องชายของเรานี่”

เด็กน้อยที่ตั้งท่าจะยิ้มพึงพอใจกับคำตอบ แต่ไม่ทันได้ฟังให้จบประโยคก็เบะปากใส่ทันที สายฟ้ารู้สึกขัดใจกับคำว่า ‘น้องชาย’ ของทิวหมอกเสียจริง แต่เขาก็ไม่อยากที่จะโวยวายต่อหน้าไอ้พี่ปกรณ์มากนัก ยิ่งมีศัตรูอันดับหนึ่งยืนอยู่ด้วยแล้ว การที่จะเผยจุดอ่อนออกไปให้เห็นคงจะไม่เป็นการดี

ถึงแม้ว่าไอ้พี่ปกรณ์จะเห็นมาเยอะแล้วก็เถอะ...

“ตกลงจะขี่หลังพี่ไหม?”

“ไม่!”

“ก็ดี! งั้นอุ้มเลยแล้วกัน”

“เฮ้ยยยย...ปล่อยนะเว้ย!! ไอ้พี่ปกรณ์ ไอ้บ้า!!”

สายฟ้าโวยวายเสียงดังทันทีเมื่อถูกรวบตัวยกขึ้นพาดบ่า ศีรษะเล็กห้อยไปทางด้านหลังจนมองเห็นภาพเป็นแบบหัวทิ่มไปหมด สองเท้าที่อยู่ด้านหน้าก็พยายามดิ้น ทั้งถีบทั้งเตะจนปกรณ์ชักเริ่มหงุดหงิด ฝ่ามือใหญ่จึงตัดสิ้นใจฟาดเข้าไปที่ก้นของเด็กขี้โมโห แต่ผลที่ได้รับกลับมายิ่งน่าปวดหัวมากกว่าเดิมสองเท่า

“ไอ้โรคจิต! ไอ้บ้าพี่ปกรณ์จับก้นเราทำไม!!”

“พี่ตีเว้ย! ไม่ได้จับสักหน่อย”

“!!!!!!”

หมับ

“ถ้าจับมันต้องแบบนี้ต่างหาก”

สายฟ้าแทบถลึงตาออกจากเบ้าเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่คู่เดิมบีบเข้าที่แก้มก้นของตนเองแรงๆ แก้มขาวขึ้นสีแดงจัดขึ้นมาทันทีจนลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง เด็กน้อยรู้สึกว่าควันเริ่มจะออกมาจากหูของเขาช้าๆถ้าไม่ติดว่าภาพกลับหัวที่ตัวเองกำลังมองเห็นจะเป็นใบหน้าหวานของทิวหมอกที่คล้ายหัวเราะเขาออกมาอย่างน่ารัก

นี่เห็นว่าการโวยวายของเขาทำให้ทิวหมอกยิ้มออกมาได้หรอกนะ...เขาจะยอมให้ไอ้พี่ปกรณ์รังแกต่อไปก็ได้

พวกเขาดันทุรังกันเข้ามาจนถึงในห้องพักของทิวหมอกและสายฟ้าได้สำเร็จ เด็กน้อยถูกโยนโครมลงบนโซฟาทันที ซึ่งแน่นอนว่าปกรณ์ได้รับพลังเสียงดังแปดหลอดของเจ้าเด็กขี้โมโหสาปแช่งยาวไม่ให้ขาด ทิวหมอกส่ายหน้าให้กับทั้งสองคนก่อนที่จะรีบหายเข้าไปในห้องของตัวเอง แล้วกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกล่องปฐมพยาบาลและผ้าชุบน้ำอุ่นในมือ

“เหนื่อยไหมกร เจอฤทธิ์ฟ้าเข้าไป...เดี๋ยวเราทายาให้น้องเองก็ได้”

“เหนื่อยมากๆครับ ขอบจูบเติมพลังหน่อยได้ไหม?”

“เฮ้ย!!!!! เรานั่งอยู่ตรงนี้นะ!”

“จูบหน่อยสิหมอก”

ผู้ชายตัวสูงใหญ่แต่ทำเสียงออดอ้อนดูน่ารักในสายตาของทิวหมอกอยู่ไม่น้อย แต่มันช่างขัดหูขัดตาของเจ้าเด็กขี้โมโห ที่ทำเสียงฮึดฮัด จิ๊จ๊ะในลำคออย่างรำคาญปกรณ์เสียเต็มทน

ทิวหมอกยิ้มเขินอายยามถูกฝ่ามือใหญ่เชยปลายคางขึ้น ริมฝีปากบางทั้งสองแตะสัมผัสกันแผ่วเบาแล้วผละออก ก่อนที่ทิวหมอกจะเป็นฝ่ายเขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วแถมจุมพิตเบาๆที่ปลายคางสากให้ปกรณ์เป็นการตอบแทนความช่วยเหลือในวันนี้

“ขอบใจนะกร”

“มีอะไรก็โทรมานะครับ”

ร่างบางอมยิ้มให้กับคนรัก ก่อนที่ปกรณ์จะหอมแก้มนิ่มอีกครั้งเป็นการบอกลา ปกรณ์ยีเส้นผมของเด็กหน้ามุ่ยที่นั่งกอดอกขมุบขมิบปากต่อว่าเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยักคิ้วกวนๆส่งให้ ร่างสูงปล่อยให้สองพี่น้องได้ดูแลกันเองพลางหันหลังเดินออกจากห้องมา

ทิวหมอกมองสายฟ้าที่เอาแต่ทำปากยื่นปากยาวไม่พอใจกับฉากร่ำลาของคู่รักเมื่อสักครู่ เขาคิดว่ามันน่าตลกที่น้องชายของเขาเอาแต่ตั้งแง่เป็นศัตรูกับปกรณ์ทั้งที่อีกฝ่ายก็สุดแสนจะเอ็นดูตนเอง เพียงแต่วิธีการเอ็นดูมันช่างออกแนวหยอกล้อกันมากไปสักหน่อย

“หมอกไม่ต้องทำให้ฟ้าก็ได้นะ...เดี๋ยวฟ้าทำเอง”

“นั่งเฉยๆไปเลยน่า ทำไมถึงซุ่มซ่ามจัง”

ร่างบางยู่ปากเข้าหากันยามบ่นน้องชายตรงหน้า แต่มือเล็กก็เลือกที่จะถอดถุงเท้าออกให้อย่างอ่อนโยน ทิวหมอกใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเท้าให้สายฟ้าทั้งสองข้าง ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือกดไปตามข้อเท้าของเจ้าเด็กขี้โมโหที่เริ่มขึ้นสีช้ำจนเห็นได้ชัด

“ตรงนี้เจ็บไหมฟ้า”

“ไม่เจ็บเท่าไหร่ อ้ะ! ตรงนี้เจ็บ”

ทิวหมอกบีบหลอดยาใส่มือ ก่อนที่จะค่อยๆกดนวดไปทั่วบริเวณที่สายฟ้าบอก ฝ่ามือของทิวหมอกทั้งอุ่นทั้งนิ่มและมันก็ทำให้สายฟ้ารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มมองกลุ่มผมสีน้ำตาลที่ก้มหน้าสนใจแต่ข้อเท้าของเขาแล้วก็นึกตลกตัวเองที่อยากให้ดวงตาหวานคู่นั้นสนใจใบหน้าของตนมากกว่า

ข้างกายของสายฟ้ามีทิวหมอกอยู่ด้วยตั้งแต่เกิด พวกเขาทั้งสองคนผูกพันกันจนนึกถึงวันที่ต้องแยกจากกันไปมีชีวิตของตัวเองไม่ออก พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง เพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมงพวกเขาก็สามารถกลับมาคืนดีกันได้อย่างง่ายดาย...สายฟ้าไม่ชอบดวงตาหวานที่ไร้ประกายของทิวหมอกอย่างเมื่อตอนอยู่ที่หน้าโรงเรียน และเขาก็คิดว่าเขาจะต้องหาคำตอบนั้นให้ได้

“เมื่อเย็น...หมอกงอนฟ้าเหรอ?”

“เราเปล่า”

ทิวหมอกละมือออกจากข้อเท้าของสายฟ้าหลังจากพันผ้าให้เรียบร้อยแล้ว ร่างบางช้อนตาขึ้นมองน้องชายที่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าของสายฟ้านั้นดูจริงจัง และมันก็บังคับให้ทิวหมอกต้องเสตามองออกไปทางอื่นเพราะคำโกหกนั้น

“อย่าโกหกกันสิ มองตาเรา”

สายฟ้าโน้มตัวลงประคองพวงแก้มใสของทิวหมอกให้หันกลับมามองกัน ท่าทางของทิวหมอกนั้นดูง่ายจะตายไปทำไมเขาจะไม่รู้ เขามั่นใจว่าคงมีอะไรที่ทิวหมอกไม่พอใจอยู่ทว่าคนน่ารักไม่ยอมเอ่ยออกมา

“ฟ้ามีแฟนทำไมไม่บอกเรา ไม่อยากให้เรารู้หรอ”

“ฟ้าไม่ได้มีแฟนนะ สาบานเลย”

“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้น...ที่กอดกัน”

แววตาตัดพ้อถูกสื่อมาถึงสายฟ้าได้อย่างง่ายดาย ริมฝีปากเล็กของทิวหมอกเม้มเข้าหากันก่อนจะพยายามแกะมือของน้องชายที่ประคองแก้มเขาเอาไว้ออก ทิวหมอกไม่เข้าใจตัวเอง เขาคงจะน้อยใจสายฟ้าเอามากๆที่ไม่ยอมบอกหรือปรึกษาเรื่องแบบนี้กับเขา

“ยายบ้านั่นทำให้หมอกเข้าใจผิดแล้ว ฟ้าไม่ได้คบกับเธอนะ...ยายนั่นตื๊อเข้ามากอดเองต่างหาก”

น้ำเสียงจริงจังและสีหน้าท่าทางของสายฟ้าทำให้ทิวหมอกคลายหัวคิ้วลง เพียงแค่คำยืนยันหนักแน่นของสายฟ้าไม่กี่ประโยคสิ่งหนักอึ้งที่อยู่ในใจก็ปลิวหายไปได้โดยง่าย ฝ่ามือของสายฟ้ายังคงแนบอยู่ที่แก้มของเขา และนั่นทำให้ทิวหมอกเลือกที่จะซุกใบหน้าลงที่ฝ่ามืออุ่นนั้นอย่างออดอ้อน

“ไม่มีแฟนจริงๆนะ”

“ไม่มีสิ! จะมีได้ยังไง ก็ฟ้ามีหมอกอยู่ทั้งคน”

ถ้อยคำทีเล่นทีจริงที่สายฟ้าชอบพูดออกมาให้ใครๆต่างนึกหมั่นไส้ ทว่าวันนี้ทิวหมอกกลับรู้สึกแปลกออกไป ดวงตาหวานจ้องมองรอยยิ้มของน้องชายที่ส่งมาให้ ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายยืดตัวขึ้นแนบริมฝีปากลงกับกลีบปากหยักที่ช่างเจื้อยแจ้วนั้นอย่างรวดเร็ว

พวกเขาแตะซับริมฝีปากกันเพียงผิวเผินคล้ายกล้าๆกลัวๆ หากแต่ไม่มีใครที่คิดอยากผละออก ทิวหมอกกดจูบย้ำๆนำเด็กน้อยที่ไม่ประสา ก่อนที่สายฟ้าจะยอมเปิดปากออกให้ปลายลิ้นทั้งสองได้พบกันในที่สุด ท่าทีเงอะๆงะๆของเจ้าเด็กขี้โวยวายยิ่งกระตุ้นให้ทิวหมอกเป็นฝ่ายกวาดต้อนความหวานเหล่านั้นเอาไว้ ก่อนที่สายฟ้าจะเริ่มตอบโต้กลับจนทิวหมอกเองต้องยึดไหล่ของน้องชายเอาไว้แน่น

เสียงหอบหายใจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ พวกเขาใช้เวลาแลกรสจูบกันนานเท่าไหร่ก็ไม่มีใครนึกสน ปลายจมูกรั้นทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันไม่ต่างกับสภาพร่างกายที่บัดนี้แทบจะแนบชิดกันไปทุกสัดส่วนบนโซฟาตัวเล็ก

“ฟ...ฟ้า...ตรงนั้น...อื้มม”

ฝ่ามือของสายฟ้าถูกคนช่างยั่วยึดเอาไว้ก่อนที่มันจะถูกชักนำให้ลากไปจนทั่วทั้งแผ่นอกบาง ยอดอกที่ชูชันขึ้นด้วยฝีมือของเขาทำให้ทิวหมอกต้องกัดปากส่งเสียงครางแผ่วออกมาอยู่ข้างหู ไอร้อนที่ร่างกายทั้งสองถ่ายเทให้แก่กันแม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้นกลับทำให้ทิวหมอกอยากจะถอดเสื้อผ้าทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“หมอก...คือฟ้า ป..ปวด”

ร่างบางสบตามองดวงตาหวานของสายฟ้า มันแข็งกร้าวขึ้นผิดกับดวงตาหวานเยิ้มของเขา ปลายลิ้นเล็กเลียผ่านกกหูของน้องชายก่อนจะงับเบาๆที่ติ่งหูนั้นอย่างยั่วเย้า ไม่ต่างกับมือเล็กที่รู้หน้าที่ลูบลงไปตรงรอยนูนของกางเกงเด็กหนุ่มตรงหน้า สายฟ้าแทบลืมหายใจเมื่อทิวหมอกรูดซิปกางเกงของเขาลงก่อนจะส่งมือร้อนๆแตะมันผ่านกางเกงชั้นใน

“อื้มม...เรา...เดี๋ยวเราจะช่วยฟ้าเอง”

เสียงแหบพร่าของทิวหมอกกระซิบอยู่ข้างหูเช่นเดียวกับฝ่ามือเล็กที่ยังคงนำทางให้แก่เด็กน้อยไร้เดียงสา พวกเขาแลกจูบกันอีกครั้งและอีกครั้งโดยที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่าใครบางคนที่เพิ่งกลับออกไปเมื่อสักครู่ได้ย้อนกลับมาเอาของที่ลืมไว้

ปกรณ์มองภาพสองพี่น้องที่นัวเนียกันอยู่บนโซฟาด้วยลำคอที่แห้งผาก...

เขากำมือตัวเองแน่นก่อนจะหลับตาลง




TBC




====================

คอมพิวเตอร์เสียหนักหน่วง เลยมาช้า ขอโทษด้วยค่า
 :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2016 17:10:50 โดย happiness »

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอาแล้วๆ หนทางแห่ง 3p!!!  :katai2-1: มาต่อเร็วๆน้าาาาาาาาาาา :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ลุ้นแรง !  :mew1: 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อย่ารอช้า. รีบแจมให้ไวเลยพี่กร

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ติดตามรอตอนต่อไปเลยค่ะะะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เพิ่งมาตามอ่าน สนุกมากๆเลย  :hao7:

เราส่าคนที่จะได้กำไรที่สุดคือกรนี่แหละ o13

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
EP 4
NC 18




ปกรณ์จ้องมองสองร่างเล็กที่โอบกอดกัน ภาพที่เห็นเบื้องหน้าชักชวนให้มือของเขาสั่นระริกไม่ต่างกับอกข้างซ้ายที่เริ่มประท้วง มันไม่ใช่ความรู้สึกเจ็บปวด หากแต่มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด...ปกรณ์ไม่เคยปฏิเสธความรักที่เขามีมอบให้ทิวหมอก นั่นเพราะเขารักทิวหมอกอย่างจริงใจ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่เคยละสายตาออกจากความน่ารักน่าเอ็นดูจากสายฟ้าได้เลย

เขาคิดว่าเขาอาจจะเป็นบ้าไปแล้ว เขายังคงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเสียงครางเย้ายวนของใครสักคนหนึ่ง สายตาของเขาจ้องมองผิวขาวละเอียดของทิวหมอกที่ถอดเสื้อทิ้งลงพื้นอย่างใจร้อน ดวงตาหวานที่เคยใช้มองเขากำลังช้อนมองน้องชายของตนเองอย่างอ้อนวอน และนั่นทำให้กายเล็กของอีกคนเคลื่อนตัวทาบทับทิวหมอกเอาไว้

“อื้อ...ล...ลูบมัน เหมือนที่เราทำให้ฟ้า...อ่า แบบนั้น”

“ร้อ...น....หมอก ฟ้าร้อน”

ปกรณ์กำลังสองจิตสองใจระหว่างรีบเอาของที่ลืมไว้แล้วกลับบ้านไปเสีย เขาจะทำเป็นลืมและมองไม่เห็นเหตุการณ์ในตอนนี้  เขาคิดว่าเขาไม่ได้ซีเรียสอะไรกับมันนัก เพราะหนึ่งคือสายฟ้าเป็นน้องชายของทิวหมอก เขาไม่คิดจะระแวงสายเลือดเดียวกันอยู่แล้ว

และสอง...สายฟ้ากำลังอยู่ในช่วงวัยที่เริ่มโต เด็กหนุ่มมีสิทธิ์อยากรู้อยากลองเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งมันไม่แย่สักเท่าไหร่กับการได้พี่ชายของตัวเองเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้ ทิวหมอกไม่ได้เป็นสาวน้อย เพราะฉะนั้นคงไม่มีอะไรเสียหาย

ทว่าเขากลับมีอีกหนึ่งความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัว...หรือเขาควรที่จะเข้าไปช่วยสองพี่น้องที่นอนแข่งกันครางแบบนั้นดี

ดวงตาคมยังคงจ้องมอง...มือเล็กทั้งสองคู่ผลัดกันลูบไล้เรือนร่างของกันและกันเรียกเสียงหวานให้เปล่งออกมาเป็นระยะ ทิวหมอกเชิดหน้าขึ้นรับลิ้นร้อนจากอีกคนที่ทดลองทำตามอย่างว่าง่าย สายฟ้าขบเม้มผิวเนื้อขาวของพี่ชายตรงฐานคอ รอยชื้นที่รู้สึกได้กอปรกับความร้อนรุ่มของร่างกายพวกเขาพาให้ปกรณ์ที่มองอยู่ตัดสินใจได้ในที่สุด

พรึ่บบ!

ไฟทั้งห้องดับลงจนมืดสนิท ร่างทั้งสองผวาเข้าหากันโดยอัตโนมัติก่อนทิวหมอกจะรู้สึกได้ถึงฝ่ามือใหญ่ที่คุ้นเคยรั้งเอวบางของเขาขึ้นมานั่ง กลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ทิวหมอกอดที่จะเอ่ยปากเรียกออกมาเสียมิได้

“กร...กรเหรอ?”

“ชู่ววว ผมเอง”

ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนกลีบปากเล็ก เสียงของปกรณ์แหบแห้งคล้ายลำคอที่แห้งผากของเขา แต่ก็ยังห้ามปรามพร้อมเอ่ยคำหวานให้ทิวหมอกยอมรับจูบหวานๆอีกครั้ง หากแต่มันก็แค่ช่วงสั้นๆเท่านั้นเมื่อน้ำเสียงสั่นๆของสายฟ้าเอ่ยขัดขึ้นมาหลังรู้สึกได้ว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีพวกเขาสองคนอีกต่อไป

“หมอก...นั่นใคร...ร”

“พี่เอง”

“ไอ้...พี่ปกรณ์เหรอ...อ๊ะ!”

เด็กน้อยกัดฟันข่มความหวาบหวามจากฝ่ามือที่ซุกซนของทิวหมอก มือเล็กของพี่ชายเขายังคงทำหน้าที่ได้ดีแม้ดวงตาหวานของทิวหมอกจะยังคงเลือกสบตาคมของปกรณ์ สายฟ้าครางเสียงต่ำลงคอ เขารู้สึกเขินอายทั้งสภาพที่เป็นอยู่ ทั้งเสียงครางของตนเอง และไหนจะสายตาโลมเลียของปกรณ์ที่มันส่องประกายยามจ้องมองมายังเขาทั้งคู่

“ย...อย่ามองได้ไหมเล่า”

“ทำกันต่อสิ”

ปกรณ์หลุดหัวเราะออกมาก่อนจะก้มหน้าลงพรมจูบแผ่นหลังขาวเนียนของทิวหมอก ปลายจมูกคมเลือกฝังใต้กกหูสูดความหอมที่ชวนหลงใหลครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะเบนสายตาไปยังเด็กน้อยเพียงคนเดียวที่กัดริมฝีปากอดทนอดกลั้นต่อกิจกรรมที่กำลังจะถูกสานต่อ

“อื้มม...ส...สามคนเลยเหรอ”

“ไม่ยากเกินความสามารถหรอก”

เสียงหวานหลุดหวีดร้องออกมาเบาๆเมื่อฟันคมๆของปกรณ์ขบกัดทับรอยตรงฐานคอที่สายฟ้าสร้างไว้ บัดนี้มันขึ้นสีแดงเด่นชัดกว่าของเดิม...ฝ่ามือของปกรณ์ชำนาญการกว่าเด็กน้อยที่ไม่ประสา ดังนั้นจึงไม่ยากเลยที่เขาจะใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาทีในการปลดเปลื้องกางเกงขาเดฟตัวเล็กของทิวหมอกลงได้พร้อมชั้นในตัวจิ๋ว

ปกรณ์ไม่รอเวลาให้เสียไปมากกว่านี้ เขาจัดการขยับร่างเล็กทั้งสองให้ได้ตำแหน่งและพื้นที่ที่เหมาสม โซฟาตัวเดิมยิ่งดูเล็กลงไปถนัดตาเมื่อร่างของผู้ชายสามคนกำลังยึดครองจนแทบไร้ที่ว่าง สายฟ้าถูกทิวหมอกดันกายให้เขยิบขึ้นไปนั่งอยู่ตรงที่วางแขน ก่อนที่ตัวทิวหมอกจะถูกปกรณ์จับให้นั่งคุกเข่าลงพลางใช้สองมือนั้นยันค้ำไว้ที่เบาะนุ่ม

“ฟ้ากางขาหน่อย...อื้อออ กร ตรงนั้น..”

ฝ่ามือใหญ่ของปกรณ์เลื่อนลงต่ำอย่างรู้ใจ เขากอบกุมมันก่อนจะขยับฝ่ามือขึ้นลงช้าๆ ปลายนิ้วสวยจงใจหยอกล้อแท่งเนื้อร้อนให้ทิวหมอกต้องกำมือจิกเบาะโซฟาดับความวูบโหวงในช่องท้อง ทิวหมอกไม่สามารถหันกลับไปมองคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังเขาได้ แต่มันก็ไม่ยากเลยที่พอจะเดาได้ว่าปกรณ์คงกำลังยิ้มพึงพอใจอยู่

ปกรณ์ยังคงนวดเคล้นต้นขาด้านในของทิวหมอกอย่างชำนาญ ฝ่ามือใหญ่อุ่นร้อนไปตามอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น แก้มก้นขาวเนียนถูกหยอกเย้าบ้างตามประสา ซึ่งนั้นเรียกให้กระแสเลือดไหลเวียนขึ้นมาแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าหวานของทิวหมอกจนน่ามอง

สีหน้าบิดเบี้ยวของทิวหมอก ริมฝีปากที่ร้องครางแผ่วยามถูกปกรณ์เล้าโลม ไหนจะหยาดเหงื่อที่เกาะตามร่างกายช่างยั่วยวนให้สายฟ้าต้องหักห้ามใจ เขาไม่อยากมองภาพตรงหน้าเพราะมันยิ่งทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องมากกว่าเดิม เขารู้สึกได้ว่ากางเกงชั้นในของเขาเริ่มชื้นแฉะ หากแต่มันก็น่าอายเกินว่าที่เด็กหนุ่มจะพูดอะไรออกไป

“จูบเรา...จูบเราหน่อย”

ดวงตาหวานหยาดเยิ้มช้อนขึ้นมองใบหน้าของน้องชายที่มีสีหน้าทรมาน เด็กหนุ่มโน้มกายลงคล้ายถูกสะกดจิตก่อนจะแนบริมฝีปากเข้าประกบกันเชื่องช้า พวกเขาเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นร้อนๆเข้าหากัน กวาดต้อนความหวานในโพรงปากอย่างหื่นกระหายจนกระทั่งสายฟ้าขอยอมแพ้

เด็กหนุ่มผละออกกอบโกยอากาศเข้าปอด ก่อนจะกระซิบเสียงพร่าให้พี่ชายของเขาได้ยินเพียงคนเดียวในคำอ้อนวอนนั้น

“ช่วยฟ้าที...ฟ้าอึดอัด”

สิ้นคำขอร้องที่น่าเอ็นดู ริมฝีปากสวยที่ผละออกจากกันเมื่อสักครู่ก็แนบจูบลงเนินเนื้อที่นูนขึ้นกลางหว่างขาของเด็กหนุ่ม ทิวหมอกจูบซับมันผ่านความชื้นแฉะที่ถูกขวางกั้นอยู่ด้วยกางเกงขายาวที่ถูกปลดซิปลงมาเมื่อก่อนหน้า...ทิวหมอกกดรอยยิ้มมุมปาก ก่อนจะสั่งให้สายฟ้าจัดการปลดเปลื้องสิ่งขวางกั้นเหล่านั้นออกให้หมดเสีย

ต้นขาทั้งสองข้างกางออกกว้างทันทียามทิวหมอกคลานเข่าเข้ามาใกล้ แท่งเนื้อร้อนของเด็กหนุ่มจ่ออยู่ตรงริมฝีปากสวย ทิวหมอกไม่มีมือในการปลอบประโลมส่วนตื่นตัวของน้องชายเพราะต้องใช้ค้ำเบาะเพื่อประคองตนเองไว้ด้วย หากแต่นั่นไม่เป็นปัญหาเมื่อปลายลิ้นเล็กสีแดงที่แสนยั่วยวนนั้นจะค่อยๆเลือกเลียมันตั้งแต่โคนจนกระทั่งปลายแท่ง ซ้ำยังย้ำส่วนหัวให้เด็กน้อยหลุดเสียงครางสั่น

“อ้า...หมอก...มันเสียว”

“อื้ออ...”

ทิวหมอกกัดฟันยามถูกทั้งปกรณ์คอยแกล้งลงมือแรงๆ แต่ในขณะเดียวกันริมฝีปากเล็กก็ครอบครองส่วนอ่อนไหวของสายฟ้าไปด้วย เขาดูดดุนมันคล้ายขนมหวานที่แสนอร่อย ใช้ฟันขบไปเบาๆและมันก็น่าพอใจเมื่อสายฟ้าครางออกมาอย่างน่ารักพร้อมทั้งยังใช้มือกดกลุ่มผมของทิวหมอกให้ขยับริมฝีปากแนบชิดเข้ากับส่วนกลางลำตัวของตนเองมากขึ้น

“จ...จะทำอะไร”

เด็กหนุ่มเบิกตาขึ้นเมื่ออยู่ๆร่างสูงของปกรณ์ก็ผละออกจากพี่ชายของเขา ความมืดมิดของห้องไม่สามารถทำลายการมองเห็นได้เพราะแสงจันทร์ที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามา ร่างกายสูงใหญ่ของปกรณ์กำลังยืนเผชิญหน้ากับเขาอยู่ที่คนละฝั่งของโซฟา เข็มขัดหนังราคาแพงถูกถอดทิ้งลงพื้นไม่ต่างกับกางเกงขายาวที่ถูกปลดออก เขาถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมดสิ้นก่อนจะก้าวเดินเข้ามาใกล้

“ลองจับมันดูสิ”

ปกรณ์พูดออกมายามหยุดยืนต่อหน้าเด็กหนุ่มที่ตั้งท่าจะเบือนหน้าหนี ร่างกายเปลือยเปล่าสมส่วนด้วยมัดกล้ามตรงหน้าท้องและไรขนอ่อนๆพาให้สายฟ้าหลับตาปี๋ เด็กหนุ่มได้ยินเสียงหัวเราะของปกรณ์พร้อมกับที่ตนเองกระตุกกายปลดปล่อยความต้องการออกใส่ทิวหมอกที่รับมันไว้

“อ๊ะ...แฮ่กๆๆ...”

เสียงหอบหายใจดังขึ้นถี่คล้ายหมดสิ้นแรง เพียงแค่มองร่างกายของปกรณ์สิ่งที่สั่งสมในร่างกายกลับถูกปลดปล่อยออกมาได้โดยง่าย ก่อนที่มันจะถูกปลุกปั้นอีกครั้งเมื่อปกรณ์โน้มกายลงพรมจูบไปทั่วใบหน้าของสายฟ้า ริมฝีปากที่แตะกันเพียงแผ่วเบาคล้ายเชื้อเพลิงชั้นดีที่ลุกลามจุดไฟภายในร่างกายให้แผดเผา

ทิวหมอกเลียคราบคาวให้อย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะจูบซับและใช้ริมฝีปากขบเม้มมันเมื่อรู้สึกได้ว่าสายฟ้ายังปลดปล่อยออกมาไม่หมด

“กร...เราต้องการกร...”

ร่างกายเปลือยเปล่าของทิวหมอกสั่นระริก เขาถูกเล้าโลมคล้ายกับการกลั่นแกล้งของปกรณ์ หากนี่เป็นบทลงโทษที่ปกรณ์ตั้งใจมอบให้ เขาก็อยากให้คนรักรีบกลับมาลงโทษเขาต่อได้แล้ว การที่ปกรณ์หยุดมือไปกะทันหันแล้วเปลี่ยนมาหยอกเย้าสายฟ้าฆ่าเวลานั้นช่างทำให้ร่างกายของทิวหมอกเริ่มทรมาน

ขาเล็กทั้งสองพยายามบีบเข้าห้ากันเพื่อลดทอนความต้องการนั้นแต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผล

“กร...”

เสียงหวานครางสั่นร้องเรียกปกรณ์อย่างน่ารัก เขามองภาพสองพี่น้องตรงหน้าในสภาพสุดยั่วยวน ก่อนตัดสินใจจูบกลุ่มผมนุ่มของคนน้องแล้วกลับมาสานต่อกิจกรรมที่คนรักของเขาเรียกร้อง ปกรณ์ส่งฝ่ามือลูบแกนกายของทิวหมอกซ้ำ มืออีกข้างก็ลูบวนอยู่ที่บั้นท้ายกลมกลึง

ใบหน้าสวยข่มกลั้นความรู้สึกที่เริ่มเตลิด เสียงครางที่ทิวหมอกร้องออกมาเรียกให้สายฟ้ารู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาอีกระรอก ยิ่งเขามองเห็นภาพเบื้องหน้าที่ปกรณ์กำลังเตรียมพร้อมร่างกายตนเอง เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกกระสับกระส่าย เขาขยับเข้าใกล้ทิวหมอกอีกครั้งและเหมือนร่างบางจะเข้าใจความต้องการ

“อื้มมม...อื้อ...”

ปกรณ์หลุดยิ้มให้กับสองพี่น้อง เขายื่นมือของตัวเองออกไปตรงหน้าสายฟ้าให้เด็กหนุ่มแปลกใจ คำสั่งเรียบง่ายออกมาจากปากของปกรณ์ หากแต่สายฟ้ากลับทำตามอย่างว่าง่ายในทันที

“เลียนิ้วให้พี่ทีสิ”

ปลายลิ้นสีแดงเลียไปตามนิ้วเรียวยาวของร่างสูง คิ้วสวยขมวดมุ่นบ้าง เผลอขบนิ้วเรียวบ้างตามคลื่นอารมณ์และความรู้สึก สายฟ้าดูดดุนปลายนิ้วทั้งสามที่ปกรณ์ส่งให้ก่อนจะผละออกเมื่อปกรณ์เลือกใช้มันเป็นตัวเปิดทางด้านหลังของทิวหมอก

“อ้ะ”

“ช้าๆนะครับ...หายใจลึกๆ”

เขาเพิ่มนิ้วเข้าไปจนรู้สึกถึงความคับแน่นในร่างกายของคนรัก ทิวหมอกร้องเสียงหลงยามปกรณ์ขยับนิ้วทั้งหมดเข้าออกเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาจะเปลี่ยนเป็นกายร้อนของตนเองแทน

เสียงของผิวเนื้อกระทบกันเคล้าคลอไปด้วยเสียงครางหวานหูของทั้งสองพี่น้อง ยิ่งปกรณ์ส่งผ่านความวาบหวามมาให้เขาเท่าไหร่สายฟ้าก็ได้รับตอบกลับไปเท่าๆกัน เด็กหนุ่มกดศีรษะของทิวหมอกมากขึ้นยามเมื่อสุดปลายทางอีกครั้ง เช่นเดียวกับทิวหมอกที่ปลดปล่อยออกมาหลังจากถูกปกรณ์เอาแต่ใจแกล้งจนอดรนทนไม่ไหว

ร่างสูงขยับกายเข้าออกอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะสำเร็จความต้องการ...

พวกเขาหอบหายใจแข่งกันท่ามกลางความเงียบ เรือนร่างของทิวหมอกยังคงสวยงามแม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยรอยรักและรอยช้ำจากแรงของเขา ปกรณ์ถอดถอนแกนกายออกจากร่างบางที่หมดแรง เขาลุกขึ้นสวมกางเกงขายาวลวกๆทั้งที่ยังไม่ติดกระดุมให้เรียบร้อย เขาช้อนตัวทิวหมอกขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้ววางคนน่ารักลงบนเตียงนุ่มด้วยความทะนุถนอม

ชายหนุ่มตั้งใจจะเดินกลับไปอุ้มเจ้าเด็กขี้โมโหที่สิ้นฤทธิ์เข้ามาพักผ่อนอีกคน ทว่าสายฟ้ากลับพยายามก้าวเดินด้วยขาที่สั่นเทาตามเข้ามา และมันก็ช่างน่าขายหน้ายิ่งนักเมื่อสายฟ้ารู้สึกหมดแรงจะก้าวเดิน เด็กหนุ่มพร้อมที่จะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ถ้าไม่ติดว่าอ้อมแขนแข็งแกร่งนั่นรับเอาไว้เสียก่อน

“อย่าดื้อกับพี่ ขาก็ยังเจ็บอยู่...จะนอนกับหมอกหรือจะนอนห้องตัวเอง”

“เราไม่ได้ดื้อ เรา...เรานอนห้องเราดีกว่า”

สายฟ้าอ้อมแอ้มเอ่ยตอบเมื่อถูกช้อนตัวขึ้นอุ้มไม่ต่างจากทิวหมอกเมื่อสักครู่ เด็กหนุ่มเผลอยกมือโอบรอบคอปกรณ์แน่นก่อนจะรู้ตัวอีกทีก็ถูกวางลงบนเตียงนุ่มของตนเองแล้ว

“อาบน้ำไม่ไหวก็นอนทั้งแบบนี้แหละ”

ผ้าห่มถูกหยิบขึ้นมาคลุมให้จนถึงอก เขาเกลี่ยปอยผมให้เด็กขี้โมโหตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ปกรณ์ตั้งใจจะปล่อยให้เด็กน้อยในสายตาของเขาได้พักผ่อน หากแต่มือเล็กกลับรั้งเขาเอาไว้เสียก่อน

“พี่กร...เรื่องของพวกเรา”

“นอนซะเด็กน้อย ไม่ต้องกังวลกับมัน”

“นอนก็ได้ แต่นายห้ามรังแกหมอกต่อนะ”

“รู้แล้วล่ะน่า”

เขาหัวเราะให้กับใบหน้ามู่ทู่ของสายฟ้า ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของเด็กน้อยทิ้งท้าย...

ปกรณ์ลากเท้าตัวเองกลับมาที่โซฟาอีกครั้ง เขาทำความสะอาดมันนิดหน่อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอน...เขายังคงไม่สามารถคิดอะไรออกในตอนนี้ สิ่งที่เขาทำจึงเป็นเพียงปิดเปลือกตาลงและปล่อยเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมาให้ผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไป





TBC

=========================


ขอโทษที่ลงนิยายไม่เป็นวันเลย แล้วแต่อารมณ์คอมพิวเตอร์จริงๆค่ะ T^T

เขียนฉากแบบนี้ไม่เก่ง ยังไงจะพยายามพัฒนานะคะ

ไม่มีดราม่าแน่ๆค่า แล้วก็ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ ดีจัยส์
 :hao5:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สายฟ้าก็ยังหวงพี่ชายไม่เลิก :hao7:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องฟ้าจ๋า. อีกนิดนึงก็จะชินละ หมอกกับกรนี่เหมาะกันดีอะ. น่ารักและใจกว้าง  :katai3:
ขอบคุณค่ะ รอต่อไป

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :z1:

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนต่อไปมาเร็วๆน้าาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0

EP 5

แสงแดดสาดส่องผ่านม่านหน้าต่าง เรียกร่างเล็กของเด็กหนุ่มภายใต้กองผ้าห่มให้เริ่มขยับกายยุกยิก ดวงตากลมโตแวววาวดั่งลูกกวางค่อยๆปรือขึ้น แต่ก็ต้องหรี่ตาลงอีกเมื่อยังไม่คุ้นชินกับแสงของวันใหม่ สายฟ้าหลับตาตั้งสติอยู่อีกพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจยันกายลุกขึ้นนั่ง



อาการอ่อนล้าอ่อนเพลียยังคงมีติดตัวอยู่ แต่นั่นเนื่องจากข้อเท้าที่เผลอได้รับความกระทบกระเทือน พาให้เด็กหนุ่มไม่นึกอยากจะขยับร่างกายสักเท่าไหร่ เขาหย่อนปลายเท้าลงจากเตียงแล้วดันตัวยืนขึ้นโดยทิ้งน้ำหนักไว้ที่เท้าเพียงข้างเดียว ก่อนจะกระโดดเหยงๆเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายที่ผ่านมรสุมมาตั้งแต่เมื่อวาน

สายน้ำเย็นเฉียบเรียกสติสัมปชัญญะและห้วงความทรงจำที่ผ่านมา ใบหน้าสวยของพี่ชายที่เขาหลงใหลกำลังผุดขึ้นมาพร้อมกับความร้อนวูบวาบไปตามใบหน้าและร่างกาย เด็กหนุ่มจึงรีบยื่นศีรษะไปใต้ฝักบัวแล้วใช้มือขยี้เส้นผมอย่างรุนแรงแทนอาการใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“หยุดคิด...หยุดคิดสิวะ”

หากแต่ยิ่งห้ามความคิดตัวเองเท่าไหร่ทั้งภาพและเสียงกลับเด่นชัดเสียจนร่างกายเขาเริ่มรุ่มร้อนขึ้นอีกครั้ง ร่างกายเปลือยเปล่าขึ้นสีชมพูระเรื่อของทิวหมอก สีหน้ายั่วยวนที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ดวงตาหวานเยิ้มที่มีน้ำใสคลออยู่เต็มหน่วย และไหนจะริมฝีปากสีแดงฉ่ำที่ครอบครองร่างกายเขาเอาไว้

“อึก...ก...แฮ่ก...ก”

เสียงครางแผ่วเบาที่หลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กแหบพร่า เช่นเดียวกับฝ่ามือของตนเองที่ได้แต่นวดคลึงส่วนตื่นตัวให้ได้สงบลงไปอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางสายน้ำเย็นเฉียบในเวลาเช้า...

สายฟ้าจัดการธุระส่วนตัวต่อด้วยความรวดเร็ว แน่นอนว่าเขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นทิวหมอกหรือไอ้พี่ปกรณ์ก็ตาม ชุดนักเรียนถูกสวมใส่อย่างลวกๆ ก่อนที่มือทั้งสองข้างจะพยายามยัดชายเสื้อเข้าไปไว้ในกางเกง เขากระชับสายกระเป๋าเป้เอาไว้มั่นพลางเดินเขย่งปลายเท้าไว้ข้างหนึ่งแล้วรีบออกจากห้องของตัวเองโดยไร้ซึ่งเสียงมากที่สุด

“เฮ้ย...ทำไมมานอนตรงนี้”

ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก สีหน้าและท่าทางที่จะลอบหนีออกจากห้องก่อนทุกคนจะตื่นก็ต้องแปรเปลี่ยน เมื่อชายตัวสูงคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นในสภาพที่ล่อแหลมเกินไปสักนิด ปกรณ์ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวใดใดว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบ ท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างก็มีแค่กางเกงยีนส์ขาเดฟที่ยังไม่ทันได้รูดซิปติดกระดุมให้ดีด้วยซ้ำ

“คิดว่าหล่อแล้วจะทำอนาจารแค่ไหนก็ได้หรือไง”

สายฟ้าต่อว่าคนที่หลับไม่รู้เรื่อง เด็กหนุ่มกระเผลกขาเข้าห้องตัวเองไปอีกครั้งก่อนจะหอบผ้าห่มผืนหนาออกมาแบ่งปันคนที่กำลังนอนอนาจารทางสายตาอยู่ตอนนี้ เขาไม่มีแรงมากพอที่จะฉุดไอ้พี่ปกรณ์ให้ขึ้นไปนอนบนโซฟาดีดี และเขาก็ยังไม่อยากปลุกเรียกพี่ชายตัวโตในตอนนี้

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใคร เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงแค่คลี่ผ้าห่มออกแล้วคลุมตัวปกรณ์เอาไว้กันชายหนุ่มไม่สบาย สายฟ้าถอนหายใจสั้นๆก่อนจะยื่นฝ่ามือปัดกลุ่มผมที่ปรกหน้าของปกรณ์ออก เขามองเสี้ยวใบหน้าหล่อของแฟนพี่ชายแล้วก็ได้แต่งับริมฝีปากของตัวเอง

“ขอโทษนะพี่ปกรณ์”

เสียงหวานเอ่ยแผ่ว เช่นเดียวกับฝ่ามือเล็กที่ค่อยๆละออกจากใบหน้าของปกรณ์ ทว่าดูเหมือนคนที่หลับอยู่จะไม่ทันรู้ตัวก็คว้าฝ่ามือนุ่มข้างนั้นเอาไว้เสียก่อนแล้ว ปกรณ์ยังคงหลับตานิ่งและนั่นก็พอจะทำให้สายฟ้าวางใจที่จะระบายรอยยิ้มออกมาแล้วลูบแก้มของพี่ชายตัวโตอย่างที่ใจต้องการ

“เราจะไปโรงเรียนแล้ว ดูแลหมอกให้ด้วยนะ”

สายฟ้าดึงมือออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด เขากวาดตามองไปรอบๆห้องก่อนจะหยุดสายตาเอาไว้ที่ประตูห้องของทิวหมอก มันเป็นการยากที่จะเดินออกจากห้องไปโดยปราศจากรอยยิ้มของคนเป็นพี่ดังเช่นทุกเช้า แต่ในเมื่อวันนี้เขาเลือกที่จะหลบหน้าเอง เขาจึงทำได้แค่ตัดใจแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องมาในที่สุด

วันนี้ทั้งวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าและน่าเบื่อหน่าย การเรียนที่ไม่เข้าหัวเลยสักวิชา เพื่อนร่วมห้องและคุณครูก็ไม่เข้าตาสายฟ้าจนมีบางครั้งที่เผลอทำตัวนิสัยไม่ดีออกไป แต่ไม่น่าเชื่อว่าสาวๆจะยังคงกรี๊ดเขาอย่างเหนียวแน่น ซ้ำยังเอาไปคุยกันอีกว่าวันนี้เขาช่างดูแบดบอย

“เฮ้อ...”

ถ้าจะนับครั้งการถอนหายใจ วันนี้ทั้งวันเขาถอนหายใจไปมากกว่าที่ทำมาตลอดทั้งสิบห้าปีย่างเข้าปีที่สิบหกเสียอีก เพราะอะไรหลายอย่างเอาแต่เกาะกินความคิดและความรู้สึกเขาเอาไว้ ความรู้สึกผิดบาป ความรู้สึกกระดากอาย ความรู้สึกขัดแย้งกันในตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน

“เฮ้อ...”

“ถอนใจอะไรบ่อยๆวะ”

เสียงคุ้นเคยของคนมาใหม่เรียกให้เขารีบเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะรับขวดน้ำที่อีกคนโยนมาให้ไว้ได้ทันแล้วก็ต้องขยับยิ้มมุมปากเล็กน้อยตอบรับ

“คิดไรนิดหน่อยอ่ะ นี่ซ้อมเสร็จแล้วหรอ”

“เสร็จแล้วดิ นี่มานั่งดูหรือมานั่งเหม่อ เป็นไรวะ เล่าได้นะ”

เจตน์ปีนขึ้นมาบนอัฒจรรย์ที่เขากำลังนั่งอยู่ เพราะวันนี้สายฟ้าขาเจ็บจึงไม่สามารถลงซ้อมฟุตบอลได้อย่างเช่นทุกวัน แต่ไอ้การที่ปล่อยเขามานั่งเฉยๆดูการฝึกซ้อมของเพื่อนๆก็มีแต่จะทำให้เขายิ่งคิดฟุ้งซ่านไปไกลมากกว่าจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเกมตรงหน้า

“ที่อยากให้เล่าเพราะมึงจะเผือกเรื่องกูว่างั้น”

สีหน้าและแววตาของเจตน์มันบอกแบบนั้นอย่างชัดเจน และเสียงหัวเราะก็เป็นคำตอบที่ไม่เกินความคาดหมายเท่าไหร่

“เรื่องสาวหรอ หรือเรื่องไอ้โจ๊กโรงเรียนข้างๆ”

สายฟ้าส่ายหน้าตอบเพราะไม่ใช่ทั้งเรื่องสาวๆค่อนโรงเรียนที่พยายามจะมาสารภาพรัก หรือเรื่องของไอ้โจ๊กเด็กต่างโรงเรียนที่เป็นคู่อริ ซึ่งคำตอบแบบนั้นทำให้เจตน์ได้แต่เกาหัวแกรกๆอย่างจนปัญญา

“ถามไรหน่อยดิเจตน์ กับแฟนมึงน่ะ...ขั้นไหนแล้ววะ”

โป๊กก!

“โอ้ย! เขกหัวทำไม”

“ถามเชี่ยไรเนี่ย ไม่ขั้นไหนทั้งนั้น แค่จูบพี่เขาก็จะเอากรรไกรมาตัดปากอยู่ละ”

เจตน์ทำปากยู่พร้อมทั้งทำมือเป็นรูปกรรไกรประกอบด้วยความหัวเสีย แต่นั่นก็เรียกเสียงหัวเราะให้พวกเขาต้องขำออกมาพร้อมกันจนได้

“ถามแบบนี้อย่าบอกนะว่าไปพลาดท่าเสียตัวให้ใครมา”

“ตลกหรอ นี่ใคร...นี่สายฟ้านะครับ เสียตัวไรพูดดีดี”

เขาไม่ได้เรียกเสียตัว แต่สิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเข้าหน้าใครไม่ติดหรือนั่งถอดถอนหายใจบั่นทอนอายุตัวเองแบบนี้ก็เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนมันชักจะยุ่งเหยิงจนไม่สามารถบัญญัติออกมาได้ว่าควรอยู่ในรูปแบบไหนต่างหาก

“ขอไปนอนด้วยสักคืนสองคืนได้เปล่าวะเจตน์”

“แล้วพี่หมอกอ่ะ”

“ก็อยู่กับแฟนเขาไปดิ”

ดวงตากลมโตเหลือบมองลงไปที่พื้นสนามหญ้าเบื้องล่าง มันไม่มีความแวววาวสดใสให้ได้เห็นยามพูดถึงพี่ชายตัวเล็กดังเช่นทุกครั้ง เจตน์คิดว่าเขาจับสังเกตอาการของเพื่อนสนิทออกแต่เพียงไม่อยากเซ้าซี้ให้มากความ ไว้ถ้าสายฟ้าพร้อมเมื่อไหร่เจ้าตัวก็คงจะบอกเขาเอง สู้ให้เพื่อนของเขาใช้เวลาพักผ่อน พักความไม่สบายไปก่อนก็คงจะดี

===================

เพราะมันปาเข้าไปเป็นสัปดาห์แล้วแท้ๆที่สายฟ้าไปยอมกลับมานอนที่บ้าน เด็กหนุ่มใช้ชีวิตเป็นภาระให้เจตน์จนโดนบ่นหูชาแทบทุกวัน เขาบอกทิวหมอกว่ามีรายงานใหญ่ที่ต้องรีบทำ และตารางซ้อมฟุตบอลที่กระชั้นชิดจึงยังต้องค้างอยู่ที่บ้านของเจตน์แบบนี้และทิวหมอกก็เข้าใจมันดี

ทิวหมอกก็ต้องเข้าใจอยู่แล้ว เพราะอะไรที่สายฟ้าขอทิวหมอกก็ตามใจเขาทั้งหมด เผลอๆมันอาจจะดีสำหรับพี่ชายของเขาด้วยซ้ำที่จะได้มีเวลาอยู่กับแฟนมากกว่าจะตามสนใจและห่วงใยน้องชายตัวโข่งแบบนี้

“นั่งทำหน้าบูดอีกละ...เบียร์หน่อยไหม พรุ่งนี้วันเสาร์โรงเรียนหยุดสบายใจได้”

เจตน์ยื่นกระป๋องเบียร์ให้เขาท่ามกลางกองการบ้านที่เพิ่งจะทำเสร็จหมาดๆ หน้าจอโทรทัศน์กำลังฉายภาพกีฬาที่พวกเขาทั้งคู่ชื่นชอบหากแต่ไม่ใช่ทีมที่โปรดปราน พวกเขาพูดคุยและทะเลาะกันบ้างตามประสาเด็กวัยรุ่น และยิ่งมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในมือด้วยแล้ว ยิ่งสามารถฉุดนิสัยส่วนตัวลึกๆให้ออกมาประชันกันได้ไม่ยาก

“พี่ออยแม่งโคตรใจร้ายเลย บอกว่ากูยังเด็กเกินไป...เด็กบ้าไรวะ กูตัวโตกว่าเขาอีก”

“มึงก็ปล้ำเลยดิ”

“กูทำเป็นที่ไหน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

“อ่อนว่ะ”

เจตน์หัวเราะอย่างบ้าคลั่งชอบใจกับคำด่าของเพื่อน ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บแสบนิดหน่อยแต่นั่นก็คือความจริง

พวกเขากระดกของเหลวที่บรรจุอยู่ในกระป๋องกันเป็นว่าเล่น หากแต่เจตน์กลับหลงเหลือสติอยู่มากกว่าสายฟ้า เด็กหนุ่มนั่งมองเพื่อนที่นอนพาดหัวไปกับโซฟาแต่ในมือก็กำกระป๋องเบียร์เอาไว้แน่นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า

“ลุกไปนอนดีดีดิวะ”

“อื้อออ...หมอก”

ใบหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยฤทธิ์ของมึนเมากับเสียงอ้อแอ้แบบนั้นทำให้เจตน์นึกขำ เขาขยับหัวเข้าไปใกล้ๆเสียงงึมงำของเพื่อนแล้วก็ต้องส่ายหน้าน้อยๆให้กับความดื้อดึงและดื้อด้านของเพื่อนตัวเล็ก...ความจริงก็คิดถึงเขาแทบตาย แต่ก็ทำเป็นแมน ทำเป็นใจแข็งทั้งที่ความจริงแล้วกำลังตัดพ้อน้อยใจอยู่ต่างหาก

“ทำไมไม่ตามหาฟ้าบ้าง ทำไมไม่บอกให้ฟ้ากลับบ้าน...ทำไม...ไม่มีฟ้าก็ได้หรอ”

“................”

“ไม่คิดถึงฟ้าเลยใช่ไหม...”

กระป๋องเบียร์ในมือถูกคนตัดพ้อเขวี้ยงลงกับพื้นจนเจ้าของห้องถึงกับต้องจิ้มหน้าผากเพื่อนไปแรงๆจนหน้าหงายสักที เขาทนมองสภาพเมาเลอะเทอะของสายฟ้าอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือของเพื่อน ถือวิสาสะปลดล็อคด้วยรหัสที่เดาได้ง่ายๆและโทรออกหาคนที่อยู่ในเบอร์โทรแรกของสายฟ้าทันที

เจตน์พูดเพียงไม่กี่คำอีกฝ่ายก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงร้อนรน และเพียงไม่นานเสียงออดก็ดังขึ้นที่หน้าห้องของเขาพร้อมกับร่างของพี่ชายตัวเล็กในชุดนอนที่ยืนหอบแก้มแดงรออยู่หน้าห้อง

“ฟ้าล่ะเจตน์...ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม”

“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ พี่พามันกลับบ้านเถอะ”

ทิวหมอกเดินตามเพื่อนสนิทของน้อยชายเข้าไปด้านใน สภาพคนเมาเหมือนเด็กน้อยที่เดี๋ยวก็ทำหน้าบึ้งเดี๋ยวก็ยิ้มพร้อมกับริมฝีปากที่ขมุบขมิบบ่นอะไรเรื่อยเปื่อยจนฟังไม่ได้ศัพท์

“หมอก....”

“อื้ม เราเอง ฟ้าลุกก่อนนะ กลับบ้านกัน”

เจตน์ช่วยพยุงสายฟ้าออกมาส่งให้ที่รถ ก่อนจะปล่อยร่างเพื่อนสนิทให้นอนขดอยู่กับเบาะข้างคนขับแล้วผละออก ทิวหมอกเอ่ยขอบคุณเจตน์ที่ช่วยดูแลสายฟ้าอยู่หลายนาทีกว่าจะยอมขับรถออกมา และงานที่หนักที่สุดของคนตัวเล็กก็คือการทั้งลากทั้งพยุงน้องชายที่เริ่มตัวโตกว่าเขาให้เข้ามาให้ห้องด้วยกันให้สำเร็จ

“อื้มมม...หมอก”

“อ...อะไร”

ลมหายใจร้อนๆพ่นออกมาอยู่ที่ข้างหูเรียกให้ทิวหมอกย่นคอหนี ไหนจะกลิ่นแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งเตะจมูกจนทิวหมอกต้องทำปากยู่ตำหนิน้องชายทางสีหน้า กว่าร่างบางจะลากสายฟ้าเข้ามาในห้องได้ก็แทบจะหมดแรง หากแต่ไม่รู้ว่าเด็กขี้เมาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักจึงเอาแต่ซุกไซ้ซอกคอขาวของทิวหมอกไม่ห่าง

“ฟ้า มันจั๊กจี้นะ”

เสียงหวานที่ห้ามปรามดูจะสู้แรงดึงดันของน้องชายไม่ได้สักนิด กลิ่นกายหอมสะอาดของทิวหมอกกำลังฉุดจิตสำนึกของเด็กหนุ่มให้ดิ่งลงไม่ต่างกับคนถูกกระทำที่เริ่มคล้อยตามอย่างง่ายดาย ทิวหมอกกำลังหลับตาลงรับสัมผัสอุ่นร้อนที่กดจูบแนบลงมาตามพวงแก้มขาวก่อนที่มันจะหยุดลงตรงริมฝีปากกระจับเล็ก

พวกเขากอดรัดแลกรสจูบกันโดนไม่มีใครยอมใคร ความเฝื่อนขมจากรสเบียร์ดูเหมือนจะเข้ากันดีกับความหวานที่ติดปลายลิ้นของกันและกันจนยากจะถอนจุมพิตออก ฝ่ามือร้อนรู้หน้าที่สอดเข้าไปใต้ชุดนอนตัวบางก่อนที่จะเลื่อนไปตามผิวเนื้อเนียน ลูบไล้บีบเค้นจนทิวหมอกต้องเผลอหลุดครางให้ได้ยิน

“อื้มม...อย่างนั้น...”

ทิวหมอกคิดว่าเพราะสายฟ้าเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้ไวหรืออาจจะเพราะกำลังเมา น้องชายของเขาจึงร้อนแรงแทบไม่น่าเชื่อ ฝ่ามือร้อนรุ่มแตะเขาไปทั่วทั้งตัว ซ้ำยังบดเบียดร่างกายเข้าแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงความต้องการของเด็กตรงหน้า

“คิดถึง”

“เราก็คิดถึงสายฟ้า...อ้ะ”

สองเท้าที่ก้าวถอยสะดุดหลังพบเตียงกว้าง แผ่นหลังเล็กถูกดันให้แนบลงนอนก่อนที่ร่างของสายฟ้าจะตามทาบทับลงมา

ห้องนอนที่มืดสนิทมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องผ่านมาเพียงเล็กน้อย ทว่า...กลับเห็นเป็นเงาของคนสองคนที่กำลังกอดก่ายส่งผ่านความคิดถึงให้แก่กัน....



TBC



===========================

อีก 2 ตอนจบค่า ฝากด้วยนะคะ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2016 21:49:14 โดย happiness »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอจ้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ง้อกันดีๆนะจ๊ะ. พี่ปกรณ์ได้เวลารวมตึงค่ะ
ว้าสั้นจังเลยง่า

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เค้ารักกันมุ้งมิ้งมาก :hao7:

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออยู่น้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
EP 6



รสชาติเฝื่อนขมของแอลกอฮอล์ถูกป้อนแก่ร่างบางครั้งแล้วครั้งเล่า ทิวหมอกหอบหายใจถี่จนแผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงพร้อมกับริ้วสีแดงเต็มสองข้างแก้ม เสียงหวานครางอยู่ข้างหูอย่างอ่อนแรง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางถอดถอนจูบออก พวกเขายังคงกอดรัดซึ่งกันและกัน แบ่งปันรสชาติของความคิดถึงกันอย่างโหยหา

ปลายจมูกรั้นซุกเข้าที่ซอกคอขาวของคนด้านบน ชุดนอนที่ทิวหมอกกำลังใส่อยู่ดูเหมือนจะเกะกะขวางทางเด็กน้อยที่เอาแต่ใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามเอวคอด กระดุมถูกปลดออกอย่างง่ายดายจนเห็นถึงผิวขาวบริเวณหน้าท้องแบนราบที่ขยับขึ้นลงตามแรงหายใจ

ทิวหมอกรู้สึกตัว และรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เขาไม่ได้ขัดขืนสายฟ้า ซ้ำยังยินยอมเต็มใจให้น้องชายที่มีสายเลือดเดียวกันอย่างที่หาเหตุผลไม่ได้...เขารู้ว่านี่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง มันผิดแผกไปจากกฏเกณฑ์ธรรมชาติ ทว่าใครจะสน ในเมื่อกฎใดใดในโลกล้วนแต่สร้างมาเพื่อให้แหกกันทั้งนั้น

   “อื้ม...ม จูบฟ้า...จูบฟ้าหน่อย”

เพราะเสียงของสายฟ้าดังร้องอ้อนวอน อีกทั้งสายตาที่ทอดมองมาด้วยความต้องการเรียกให้ทิวหมอกเผลอหลุดยิ้มก่อนจะแนบริมฝีปากประทับบนกลีบปากของเด็กตัวโตที่เริ่มเอาแต่ใจ

ดวงตากลมโตปรือปรอยหวานเยิ้มยามช้อนมองน้องชายของตัวเอง ทิวหมอกเหมือนถูกมอมเมาด้วยรสชาติเบียร์ที่สายฟ้าดื่มมาก่อนหน้า แก้มที่เคยแดงปลั่งกำลังร้อนขึ้นตามจังหวะการเต้นของหัวใจยามเด็กน้อยถอดเสื้อยืดเก่าๆของตัวเองทิ้งเผยมัดกล้ามเล็กๆตรงหน้าท้อง

“ร้อนชะมัด หมอกก็ร้อนเหมือนฟ้าใช่ไหม แดงหมดแล้ว”

ฝ่ามืออุ่นประคองแก้มใสพร้อมเกลี่ยไปมาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของสายฟ้ายังติดจะอ้อแอ้คล้ายยังไม่สร่างเมา ไม่ต่างกับดวงตาลูกกวางที่ดูร้อนแรงจนทิวหมอกต้องเบนหน้าหนีเพื่อหลบสายตาแบบนั้น

เขาไม่เคยคิดเลยว่าสายฟ้าจะเซ็กซี่ได้ขนาดนี้...

“ฟ้าช่วยเราถอดเสื้อสิ”

เสียงอ้อมแอ้มบอกแบบนั้นแล้วมีหรือที่สายฟ้าจะไม่ทำตาม สาบเสื้อนอนถูกมืออีกคนแหวกออกก่อนที่ทิวหมอกจะให้ความร่วมมือในการถอดมันทิ้ง พวกเขามองหน้ากันแล้วก็ต้องเผลอหลุดหัวเราะออกมาเมื่อต่างคนต่างรีบร้อนเบียดผิวเนื้อให้แนบชิด

ท่าทางเงอะๆงะๆของสายฟ้าทำให้ทิวหมอกรู้สึกเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายสอนเด็กน้อยวัยกำลังโตตรงหน้า ทิวหมอกกระเถิบกายขึ้นพิงหัวเตียงก่อนจะดึงรั้งศีรษะเล็กที่ซุกปลายจมูกและลิ้นเล็กวนเวียนอยู่ที่อกเขาให้แนบชิดเข้ามาอีก ปลายลิ้นร้อนหยอกล้ออยู่อย่างนั้นจนเสียงหวานของเขาหลุดแผ่ว แต่นั่นยิ่งเรียกความรุนแรงจากเด็กหนุ่มได้ดีเมื่อผิวเนื้อถูกดูดและขบจนเกิดเสียง

“อ้ะ...เดี๋ยวมันแดง อย่า...อย่ากัด”

ทิวหมอกผวากอดรัดแผ่นหลังของน้องชายทันทีเมื่อสายฟ้าติดใจเสียงหวานที่กรีดร้องออกมา ฝ่ามือเจ้าปัญหาค่อยๆเลื้อยต่ำลงอย่างหมิ่นเหม่ หน้าท้องแบนราบแขม่วหนีมือยามปลายนิ้วนั้นเลือกแกล้งเขี่ยไรขนอ่อนๆที่ใต้สะดือ ความรู้สึกมวนท้องกำลังตีรื้นขึ้นไม่ต่างกับอาการกระสับกระส่ายเล็กๆ

“ย...อย่าเพิ่งจับ”

สายฟ้าล้วงฝ่ามือเข้าไปในกางเกงนอนของทิวหมอก เด็กหนุ่มควานสะเปสะปะก่อนจะแนบฝ่ามือลงตรงกลางลำตัวของพี่ชาย...เขาทำเพียงแค่แนบฝ่ามือลงกับส่วนนั้นของทิวหมอกโดยมีปราการชิ้นสุดท้ายขวางกั้น ทว่าไม่รู้ทำไมคนถูกกระทำถึงต้องบิดตัวน้อยๆแล้วรีบจับข้อมือข้างนั้นของเขาเอาไว้

“ฟ้าจะช่วยไง หมอกไม่อึดอัดหรอ”

สายฟ้าไม่ได้สนใจท่าทีปฏิเสธเล็กน้อยของทิวหมอก กลับกัน เด็กหนุ่มยิ่งจงใจนวดคลึงส่วนอ่อนไหวนั้นไม่ต่างกับครั้งแรกที่ทิวหมอกเคยทำให้เขา กางเกงนอนที่เกะกะกับกางเกงชั้นในถูกร่นลงกองไว้ที่ข้อเท้าพาให้ทิวหมอกพยายามถีบกางเกงที่ติดอยู่ออกไปให้พ้น

“อื้มม...ฟ้า...เร็ว”

ฝ่ามือที่กอบกุมส่วนอ่อนไหวขยับเร่งจังหวะตามที่ทิวหมอกสั่ง นิ้วมือทั้งสิบของสายฟ้าร้อนเช่นเดียวกับความรู้สึกของเขา ทิวหมอกเกาะไหล่ของน้องชายแน่นเพื่อดับความใจร้อนก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจกัดฟันหยุดเด็กหนุ่มเอาไว้

“หยุดก่อน..”

“หยุด? หมอกไม่ชอบหรอ”

ร่างบางส่ายหน้าจนผมกระจาย แผ่นอกบางยังคงกระเพื่อมขึ้นลงพร้อมกับริ้วแดงๆเต็มสองข้างแก้ม ทิวหมอกช้อนตามองเด็กหนุ่มที่คร่อมทับเขาอยู่ ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันก่อนจะเอ่ยกระท่อนกระแท่นพลางส่งมือเล็กแตะบนมัดกล้ามน้อยๆตรงหน้าท้องของสายฟ้าแล้วเลื่อนต่ำลงอย่างยั่วยวน

“แล้วฟ้าไม่อยากบ้างหรอ?”

“......”

“เรา...เราก็อยากทำให้ฟ้าเหมือนกัน”

เด็กหนุ่มนิ่งค้างพยายามตีความหมายที่ทิวหมอกบอก หากแต่สติที่ยังไม่เข้าที่เพราะความมึนเมา...

อาการเหวอไปนิดกับท่าทางล่อแหลมที่กำลังเป็นอยู่เรียกให้ทิวหมอกรีบโผเข้าซบไหล่ของสายฟ้าทันทีแล้วนึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป

“ทำ...ทำแบบไหนเหรอหมอก”

“แบบที่ให้เราเป็นของฟ้าไง”

เสียงหวานกระซิบแผ่วก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของกันและกัน พวกเขาสบตากันก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้น...แผ่นหลังเล็กแนบลงบนเตียงกว้างอีกครั้ง เรียวขาทั้งสองข้างของทิวหมอกแยกออกจากกันอย่างรู้หน้าที่ และมันก็เรียกเลือดลมร้อนๆพัดเข้าที่ใบหน้าของสายฟ้าได้ไม่น้อย

เรือนร่างงดงามที่สมบูรณ์แบบกำลังยั่วเย้าเขา มันไม่ต่างกับความฝันในหลายๆคืนที่ผ่านมา กลิ่นหอมที่คุ้นเคย สัมผัสที่เคยต้องการ บัดนี้ทิวหมอกกำลังมอบมันให้เขา

“แต่ฟ้าทำไม่เป็น”

“เด็กน้อย”

ทิวหมอกเอ่ยยิ้มๆพลางเป็นฝ่ายจับมือสายฟ้าให้ปฏิบัติตามคำบอก นิ้วเรียวแทรกเข้าไปทางด้านหลังอย่างเชื่องช้า เด็กหนุ่มขยับมันเล็กน้อยก่อนจะเพิ่มจำนวนนิ้วให้มากขึ้น สีหน้าของทิวหมอกถูกเขาจับจ้องอยู่ตลอดและมันเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยนึกเถียงว่าทิวหมอกช่างน่ารักแม้กระทั่งทำหน้าเหยเกอยู่แบบนี้

“ข...เข้ามาสิ เราไม่เป็นอะไร”

เสียงหวานกดต่ำข่มความรู้สึกที่ตีรื้นขึ้นมา สายฟ้ายังคงโลมเลียทิวหมอกให้รู้สึกผ่อนคลาย ทว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นกลับเรียกร้องให้เด็กน้อยสนใจและใส่ใจมันมากขึ้น...สายฟ้าก็เหมือนเด็กน้อยที่เชื่อฟังคำสั่งของคนเป็นพี่ ทิวหมอกสั่งให้ทำอะไรก็ทำ เขาไม่ขัดหรือปฏิเสธให้มากความเลยสักครั้ง

กางเกงขาสั้นถูกปลดกระดุมและซิปลงด้วยความรวดเร็ว ส่วนตื่นตัวที่กำลังขยายและแข็งขึ้นยามกำลังจะถูกใช้งาน ท่าทางที่ไม่ประสาทำเอาทิวหมอกเป็นฝ่ายดันน้องชายให้นอนราบลงไปที่เตียงก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมเด็กน้อยเอาไว้

ทิวหมอกนั่งทับหน้าท้องแข็งแรง เขาค่อยๆขยับกายถอยไปด้านหลังจงใจให้ผิวเนื้อนิ่มสัมผัสไปกับส่วนตื่นตัวของเด็กหนุ่ม ร่างบางกลั้นยิ้มเมื่อเห็นดวงตากวางของอีกคนเป็นประกายคล้ายอยากปลดปล่อยเต็มที่ ก่อนจะใช้มือกดหน้าขาของสายฟ้าเอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็จับส่วนแข็งขึงนั้นเอาไว้พลางกดกายลงช้าๆ

“อ้ะ...”

ร่างบางกลั้นใจนั่งทับมันจนมิด หอบหายใจพ่นไอร้อนออกมาก่อนจะขยับสะโพกทีละน้อย

“อื้ม...ม...ดีไหมสายฟ้า”

“ดีมาก...ครับ”

“ดีกว่าครั้งที่แล้วใช่ไหม...อ้ะ...สายฟ้า!”

ทิวหมอกร้องเสียงหลงเมื่อถูกเด็กหนุ่มพลิกให้เขาลงมานอนราบที่เตียงเองทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมกันอยู่ สายฟ้าหัวเราะชอบใจที่เห็นทิวหมอกทำหน้ายุ่งใส่ก่อนจะเป็นฝ่ายขยับร่างกายเองตามสัญชาติญาณ พวกเขาโอบกอดกันแน่นพาให้ร่างกายแนบชิดกันทุกสัดส่วน

เสียงผิวเนื้อที่กระทบกันดังแข่งกับเสียงครางหวานหู พวกเขาเรียกชื่อกันและกันส่งผ่านความคิดถึงที่ไม่ได้เจอกันเป็นสัปดาห์ อ้อมกอดที่รัดแน่น รสจูบที่มอมเมาถูกถ่ายทอดให้แก่กันจนสายฟ้านึกโทษตัวเองที่งี่เง่าหนีไปหลบหน้าอยู่กับเจตน์และทิ้งให้ทิวหมอกต้องอยู่ตัวคนเดียว(ไม่นับไอ้พี่ปกรณ์)เป็นเวลานาน

“หมอกชอบไหม”

“ชอบ”

ทิวหมอกตอบออกมาอย่างง่ายดาย เขาชอบแบบนี้ เขาชอบตอนนี้ เขาไม่เถียงเลยสักนิดว่าชีวิตที่มีสายฟ้าอยู่ด้วยกันทุกวันมันดีขนาดไหน เขาชอบจนลืมไปแม้กระทั่งแฟนหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดมา

“พวกเราทำแบบนี้...แล้วพี่กรล่ะ”

ทิวหมอกนิ่งไปกับคำถามนั้น...มันยากที่จะตอบเพราะเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะหาคำตอบในเวลานี้ ฝ่ามือเล็กลูบใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน ทิวหมอกยิ้มให้น้องชายก่อนจะจูบที่ปลายคางนั้นแทนคำตอบ

“ตอนนี้มีแค่เราก่อนนะ”

“ครับ”

เพียงสายฟ้าขยับกายอีกไม่กี่ครั้งทั้งสองก็ปลดปล่อยความต้องการ เด็กหนุ่มกอดกระชับร่างของคนเป็นพี่ไว้แน่น ความคิดมากมายกำลังตีกันในหัวให้นึกปวด ความสัมพันธ์ระหว่างปกรณ์ เขาและทิวหมอกมันซับซ้อนเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ และทางออกก็มีให้ตัดสินใจได้ไม่มากนัก

เด็กหนุ่มเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนก่อนจะจุมพิตแผ่วเบาลงบนหน้าผากมนของทิวหมอก พวกเขาปล่อยร่างกายให้เป็นอิสระต่อกัน นอนกอดกันดังเช่นที่เคยทำมาตลอดสิบห้าปี และหลับไปด้วยความอ่อนเพลียและอ่อนล้า พวกเขาอาจจะกำลังฝันดี หรือบางทีก็อาจจะฝันร้าย

ทว่า...

พวกเขาทั้งสองคงไม่ทันได้รู้...

ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนพิงประตูห้องที่ปิดสนิทนั้นเอาไว้ มือที่เคยกำลูกบิดแน่นคลายลงและถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างตัวเช่นเดียวกับร่างกายที่ทรุดลงนั่งที่พื้นอย่างหมดแรง




TBC





ออฟไลน์ scottoppa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-0
EP 7


แผ่นหลังกว้างแนบพิงไปกับประตูยามทรุดลงนั่ง ขายาวทั้งสองข้างของปกรณ์ยืดออกไปด้านหน้า เขาหอบหายใจก่อนจะผ่อนลมหายใจเข้าออกและพยายามปรับให้มันเป็นปกติ ทว่าฝ่ามือใหญ่ของตัวเองนั้นกำลังขยับถี่อยู่กับส่วนกลางลำตัว...

ใบหน้าหล่อกำลังเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เขาส่งเสียงทุ้มดังอู้อี้จับใจความไม่ได้ ก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาก็เกร็งตัวปลดปล่อยความต้องการออกมา

“อึก...แฮ่กๆ”

ปกรณ์ยังคงหายใจหนักๆ อกกว้างนั้นขยับขึ้นลงช้าๆคล้ายต้องการที่จะผ่อนคลาย เขาเงยหน้าพิงศีรษะเข้ากับประตูอย่างอ่อนแรงและอ่อนใจกับตัวเอง ใครจะไปคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเขาจะต้องมาแอบดูคนกำลังมีอะไรกันแล้วสำเร็จมันด้วยตนเองแบบนี้

ผิวเนื้อเนียนขาวที่สะท้อนแสงจันทร์ยามกอดก่ายกันและกัน ใบหน้าหวานกับดวงตาปรือปรอยยั่วเย้า ริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อที่ผลัดกันป้อนจูบ แล้วไหนจะเสียงครางกระเส่าแบบนั้นอีก ร้อยทั้งร้อยก็ต้องตกม้าตายแบบเขา ไอ้ครั้นจะเข้าไปร่วมด้วยก็กลัวว่าสายฟ้าจะหลบหน้ากันไปอีกแบบคราวที่แล้ว เขาจึงเลือกที่จะยืนมองจากตรงนี้...ตรงที่สามารถเห็นการกระทำที่น่ารักของทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน

ทิวหมอกของเขางดงามไปทั่วทั้งวงหน้าและเรือนร่าง ท่าทางที่ใจดี ใจเย็นและอ่อนหวานแบบนั้นแม้กระทั่งบนเตียงคนน่ารักก็ทำได้ไม่เคยบกพร่อง ทิวหมอกไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าตัวเองออดอ้อนได้เก่งแค่ไหน และสามารถยั่วเขาได้จนหัวปั่นไปหมด...ยิ่งได้รักก็ยิ่งหลง ผิดกับลักษณะนิสัยของเด็กน้อยอีกคน

สายฟ้าแทบจะแตกต่างกับทิวหมอกอย่างสิ้นเชิง ทั้งขี้โวยวายและใจร้อน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ปกรณ์มองว่ามันไม่น่ารัก...ทุกอย่างที่สายฟ้าทำหรือแสดงออกกลับสามารถสะกดสายตาเขาให้เอาแต่จ้องมอง เขาสามารถยิ้มในเวลาที่เครียดได้ หรือแม้กระทั่งหัวเราะในตอนที่หงุดหงิดสุดๆ เขาไม่รู้ว่าสายฟ้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างมาจากอะไร แล้วทำไมถึงทำให้เขารู้สึกเอ็นดูได้มากขนาดนี้

ปกรณ์ไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนเป็นเรื่องแปลก...เขาก็แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีความสุข ซึ่งมันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่เชื่อได้เลยว่าเขามีความสุขและเขาสามารถทำให้ทั้งสองคนมีความสุขได้เช่นกัน...

ร่างสูงจัดการกับคราบคาวของตัวเอง เขาลุกขึ้นมองบานประตูตรงหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะเสยผมลวกๆแล้วเดินเข้าอีกห้องไป ถึงอย่างไรวันนี้เจ้าเด็กขี้โมโหก็คงจะนอนอยู่กับทิวหมอก ไม่มีเวลามาโวยวายใส่เขาที่บังอาจยึดเตียงนอนกับหมอนนุ่มๆของเจ้าตัวไปหรอก อีกอย่างเขาก็รู้สึกหนักๆที่หัวชอบกล ถ้าได้พักผ่อนสักหน่อยก็คงจะดี


***

แสงแดดแผดเผาทะลุผ่านม่านหน้าต่างแม้ว่าภายในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศก็ตาม ไอความร้อนจากภายนอกกระจกใสสามารถปลุกคนขี้เซาให้รู้สึกตัวตื่นได้ไม่ยาก สายฟ้าหรี่ตาลงเพื่อปรับภาพเบื้องหน้าแล้วก็ต้องเพ่งมองนาฬิกาตรงผนังห้องเมื่อเห็นว่าเข็มสั้นกำลังจะเลยจากเลข 12 มาเป็นเลข 1 แล้ว

“อื้ดดดด โอ้ยยยยย”

ร่างโปร่งลุกขึ้นนั่งแช่อยู่บนเตียงนอน เขาบิดขี้เกียจ บิดลำตัวจนกระดูกลั่นแล้วส่งเสียงครางออกมาอย่างเต็มที่ ผ้าปูที่นอนสีเหลืองอ่อนแบบนี้ไม่ใช่ของเขา แน่นอนว่ามันเป็นของพี่ชายคนน่ารักที่หายตัวไปจากห้องนอนแล้ว เด็กหนุ่มยิ้มน้อยๆให้กับความทรงจำเมื่อคืนก่อนจะรวบเอาผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่ขึ้นมากอดแน่นอีกครั้งด้วยใบหน้าเพ้อฝัน

“หมอกนี่น่ารักชะมัดเลย”

แค่คิดถึงใบหน้าหวานกับท่าทางน่ารักๆแบบเมื่อคืน เด็กหนุ่มก็เกิดอาการหน้าแดงหูแดงใจเต้นไม่เป็นจังหวะ...สายฟ้านั่งสงบจิตสงบใจตัวเองอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจลงมาจากเตียง เขามีเสื้อยืดย้วยๆของทิวหมอกใส่ติดกายพร้อมกับกางเกงบอลยางยืดอีกตัว ก่อนจะตัดสินใจกลับไปที่ห้องของตัวเองที่ปล่อยร้างมาร่วมสัปดาห์

หากแต่เด็กหนุ่มยังไม่ทันได้เปิดประตูออก กระดาษโน้ตสีชมพูกลับแปะอยู่ในระดับสายตาให้เขาได้เห็น ก่อนจะดึงมันออกมาอ่านพร้อมรอยยิ้มที่เบ่งบานเต็มใบหน้า

‘เราไปช่วยออยทำขนมเค้ก เย็นๆจะรีบกลับมา ถ้าฟ้าหิวก็อุ่นข้าวผัดที่เราทำไว้ให้ในตู้เย็นกินก่อนนะ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง เราสบายดีเพราะเราแข็งแรง <3’

ข้อความประโยคสั้นๆแต่กลับทำให้คนเป็นน้องยิ้มแล้วยิ้มอีก อารมณ์ดีขึ้นมาอีกสิบเท่าก่อนจะฮัมเพลงเดินกลับไปห้องตัวเองในที่สุด...

สายฟ้าเปิดประตูห้องออกตามความเคยชิน เพียงแต่คราวนี้ห้องที่เขาควรจะเป็นเจ้าของกลับถูกยึดครองโดยใครก็ไม่รู้ที่ขดตัวกลมมุดอยู่ใต้ผ้าห่มของเขา สิ่งที่เห็นมีเพียงแค่กลุ่มผมสีน้ำตาลโผล่ออกมาแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพอจะนึกออกว่าใครเป็นผู้บุกรุก

“ไอ้พี่ปกรณ์! เฮ้!”

เด็กหนุ่มมองก้อนกลมๆบนเตียงนอนแล้วก็ต้องถอนหายใจ บุคคลลึกลับที่ขดตัวอยู่ยังคงนอนแน่นิ่งไม่ขยับไปไหนคล้ายกับเสียงที่เรียกเมื่อสักครู่ไม่ได้ผ่านเข้าสู่โสตประสาทเขาเลยสักนิด

“พี่กรตื่น! มานอนห้องเราได้ไง ลุกนะเว้ย”

“Zzz...”

ไร้สัญญาณตอบรับและมีเพียงแค่เสียงลมหายใจเท่านั้นตอบกลับมา สายฟ้าคิดว่าช่วงเวลาที่อารมณ์ดีเมื่อสักครู่ของเขากำลังถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆเมื่อเรียกเท่าไหร่คนแก่กว่าก็ไม่มีท่าทีว่าจะรับรู้เลยสักนิด

“ไอ้พี่ปกรณ์!!!! ตื่น! สิ! โว้ย!!”

เด็กหนุ่มตัดสินใจตะโกนสุดเสียงพร้อมกับกระโจนขึ้นไปบนที่นอน สายฟ้าตะตบก้อนกลมๆนั้นผ่านผ้าห่มก่อนจะตะเกียกตะกายตัวเองคร่อมทับปกรณ์เอาไว้พร้อมทั้งกระชากผ้าห่มลง...เขาเห็นปกรณ์ที่กำลังขมวดคิ้วแน่น และไหนจะริมฝีปากบางที่เผยอออกรับอากาศ ใบหน้าหล่อตอนนี้ซีดเซียวจนเด็กหนุ่มต้องตกใจ

“เฮ้ย...พี่กร”

“อื้มม”

เสียงครางต่ำเรียกให้ฝ่ามือเล็กยื่นไปแตะแก้มสากเพื่อเรียกสติ แต่ก็ต้องชักมือออกเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายตัวรุมๆอย่างคนเป็นไข้ แม้ว่าจะไม่ได้ร้อนจัดจนน่าใจหายแต่ก็ไม่ได้ทำให้เด็กขี้โมโหคลายความกังวลใจลงไปได้

“พี่กรตื่นก่อน...ตื่นดิ ได้ยินเสียงเราไหม...อย่าเพิ่งตายนะเว้ย”

สายฟ้าขยี้หัวตัวเองอย่างลนลานก่อนจะรีบคลานลงมาจากเตียง เด็กหนุ่มเดินวนไปรอบๆห้องหาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเท่าที่จะหาได้ ก่อนจะนั่งแหมะลงบนเตียงข้างๆคนตัวโตที่ยังนอนขมวดคิ้วอยู่

“อย่ามาตายในห้องฟ้านะ”

“...พี่...ไม่ตายง่ายๆหรอก”

ปกรณ์ค่อยๆปรือตาขึ้นมองหน้าเด็กหนุ่มที่กำลังตั้งใจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดใบหน้าของเขาอยู่ ความจริงเขารู้สึกตัวตื่นตั้งแต่สายฟ้ากระโดดทับแล้ว เพียงแต่เปลือกตาของเขาหนักอึ้งจนไม่สามารถเปิดขึ้นได้จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย จนกระทั่งได้รับสัมผัสความเย็นจากผ้าขนหนูที่เจ้าตัวกำลังเช็ดหน้าเขาให้นี่ล่ะ ถึงพอจะกระตุ้นร่างกายให้ตื่นเต็มตาได้มากยิ่งขึ้น

“โหย ตื่นขึ้นมาแล้วเถียงเราเลยนะ...ป่วยจริงป่ะเนี่ย”

“ถ้าไม่จริงจะเลิกห่วงพี่หรือไง”

ปกรณ์จับข้อมือเล็กให้หยุด ก่อนจะมองดวงตากลมโตของเด็กตรงหน้าที่พยายามเสมองออกไปทางอื่นแล้วก็เผลอยกยิ้มมุมปากเมื่อสายฟ้ารีบชักมือออกจากการจับกุมของเขา

“ใครเขาห่วงกัน...หลงตัวเอง”

สายฟ้าเบะปากก่อนจะพับผ้าขนหนูเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วแปะลงบนหน้าผากของร่างสูงเอาไว้ ท่าทางของปกรณ์ดีขึ้นกว่าตอนแรกที่เขาเห็น แสดงว่าคงไม่ได้ป่วยหนักอะไร แต่ถ้าได้กินข้าวกินยาก็คงจะหายได้ไวยิ่งขึ้น เมื่อคิดได้ดังนั้นเด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนมองคนป่วยที่กำลังมองหน้าเขายิ้มๆอยู่ เท่านั้นปากก็ไปไวกว่าสมองอีกจนได้

“ยิ้มไร นี่ป่วยหรือเป็นบ้าเนี่ย”

“เอ้า ก็พี่ดีใจมีคนเป็นห่วง...ก็ต้องยิ้มสิ”

ว่าจบปกรณ์ก็ระบายยิ้มหล่อที่ดูอิดโรยนิดหน่อยก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้เด็กหนุ่มทำหน้าแหยแล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที แต่สายฟ้าก็ยังไม่วายตะโกนเสียงดังลอดผ่านประตูมาให้ได้ยินว่าเจ้าตัวจะไปอุ่นข้าวกับเอายามาให้กิน เขาจะได้รีบหลับๆไปอีกครั้งเสียที


***

สายฟ้าหายไปอาบน้ำที่ห้องของทิวหมอกอีกครั้งก่อนจะออกมาด้วยชุดอยู่บ้านสบายๆ กลุ่มผมที่เปียกชื้นนิดหน่อยถูกมือเล็กปาดเสยขึ้นไปลวกๆพลางเดินถลกแขนเสื้อเข้าไปในครัว ข้าวผัดที่ทิวหมอกทำไว้อยู่ในกล่องถูกเด็กหนุ่มยัดเข้าใส่ไมโครเวฟทั้งอย่างนั้น ก่อนตัวเองจะเดินไปที่ตู้ยาเพื่อหายาให้คนป่วย

เด็กหนุ่มจัดการวางกล่องข้าวผัดที่เพิ่งอุ่นเสร็จไว้บนถาด ตามด้วยแก้วน้ำและยาลดไข้ที่คิดว่าใช้ได้สองเม็ด เขาเดินไปเตะประตูให้เปิดออกเพื่อเข้าไปในห้องของตัวเองที่ถูกปกรณ์ยึดครองอีกครั้ง...สายฟ้าคิดว่าไอ้พี่ปกรณ์นี่ต้องเป็นประเภทที่ป่วยแล้วไม่เจียมสังขารแน่ๆเมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวโตกำลังนอนเปลือยท่อนบนท้าลมของเครื่องปรับอากาศทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมีเสื้อยืดใส่ติดตัวอยู่

“ใส่เสื้อเดี๋ยวนี้เลยนะ ตัวเองป่วยอยู่ยังจะมาถอดเสื้อนอนอีก”

“พี่ร้อน...เสื้อตัวนั้นมีแต่เหงื่อ”

“งั้นใส่ตัวใหม่...ยังไงก็ต้องใส่เสื้อ! อย่ามาเถียงฟ้านะ”

เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มทำหน้าตาขึงขัง ปกรณ์ก็ไม่นึกอยากต่อความยาวสาวความยืด เขาได้แต่พยักหน้าแกนๆแล้วตอบครับๆให้เด็กหนุ่มพอใจก่อนจะยื่นเสื้อตัวใหม่มาให้เขาใส่...สงครามน้ำลายสงบลงทันทีเมื่อสายฟ้ายื่นข้าวผัดมาให้ เจ้าตัวคะยั้นคะยอเมื่อปกรณ์ไม่ยอมรับไปถือเองสักที คนขี้โมโหจึงเป็นฝ่ายตักข้าวให้แล้วยื่นช้อนจ่อไปที่ปากแทน

“กินดิ หมอกทำไว้ให้อ่ะ”

“แล้วฟ้ากินยัง”

“ยัง...แต่เราไม่เป็นไร นายไม่สบาย...กินดิ กินข้าวแล้วจะได้กินยา”

“งั้นก็กินด้วยกันนี่ล่ะ พี่ไม่ค่อยหิว”

สายฟ้าไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาป้อนข้าวปกรณ์หนึ่งคำ แล้วก็ตักเข้าปากตัวเองอีกหนึ่งคำ พวกเขาสองคนกินข้าวสลับกันไปเคล้ากับเสียงหัวเราะของปกรณ์บ้าง เสียงโวยวายของสายฟ้าบ้าง แต่สุดท้ายข้าวผัดในกล่องก็หมดลงอย่างน่าดีใจ...สายฟ้าส่งยาลดไข้ให้คนป่วยซึ่งปกรณ์ก็ไม่ได้อิดออด เขากลืนยาลงคอแล้วรับแก้วน้ำจากเด็กหนุ่มดื่มตามลงไป

“นอนพักไปแล้วกัน เราให้ยืมห้องก่อนก็ได้”

สายฟ้าพูดแบบใจกว้าง ก่อนจะตั้งใจเก็บภาชนะทั้งหลายออกไป ทว่า...คนป่วยกลับรั้งแขนเด็กหนุ่มเอาไว้ให้ได้แต่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

“นอนด้วยกัน...เอ้ย! อยู่ด้วยกันก่อนสิ”

“ทำไมอ่ะ โตขนาดนี้แล้วยังต้องมีคนกล่อมอีกหรอ”

เด็กหนุ่มพูดติดจะขำแต่ก็ยอมวางถาดในมือลงแล้วทิ้งตัวนั่งบนเตียงนุ่มข้างๆคนป่วย น่าแปลกที่ปกรณ์ไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้ และสายฟ้าก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจ พวกเขายังคงรู้สึกสบายๆต่อกันและนั่นทำให้สายฟ้ายอมทิ้งตัวลงนอนข้างๆปกรณ์ในที่สุด

“ขยับมาสิ”

ปกรณ์วาดแขนออกรั้งร่างเล็กของเด็กตรงหน้าเข้ามาใกล้ ไออุ่นจากร่างกายของคนป่วยพาให้สายฟ้าเผลอขยับเข้าใกล้จนสามารถหนุนอยู่บนหมอนใบเดียวกันได้ พวกเขากำลังนอนมองหน้ากัน ดวงตาของเขาทั้งคู่สบประสานกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร ก่อนที่สุดท้ายแล้วเด็กหนุ่มจะเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน

“เราขอโทษนะ”

“เรื่องอะไรครับ?”

“เรารู้ว่าพี่กรรู้...แล้วเราก็รู้ว่าเราไม่ควรทำแบบนั้นกับหมอก...แต่...แต่เราทำไปแล้วอ่ะ เราผิดเอง”

ดวงตาหวานหลุบลงก่อนจะเสตาหลบหนี ยิ่งดวงตาของปกรณ์ที่มองมาอ่อนแสงลงมากเท่าไหร่เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้น สายฟ้ารู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นเด็กไม่ดี แค่มีสัมพันธ์กับพี่ชายแท้ๆก็ว่าผิดแล้ว ซ้ำยังต้องมารู้สึกผิดกับปกรณ์อีก ทั้งๆที่เขาแคร์ปกรณ์มาก แต่ก็กลับเลือกให้ตัวเองมีความสุขโดยปราศจากความยับยั้งชั่งใจ

“มันไม่ใช่ความผิดของสายฟ้าหรอก แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของหมอก...พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เราเข้าใจ แต่รู้ไว้ว่าพี่ไม่ได้คิดมากกับเรื่องพวกนั้น”

“แต่เรารักหมอกนะ...รักมากกว่าพี่ชาย”

“พี่ก็รักเรา เอ็นดูเรามากกว่าน้องชายของแฟนเหมือนกัน”

“เฮ้! แบบนี้ไม่ได้ดิ นายเป็นแฟนหมอกนะ”

“แฟนก็รัก...น้องชายแฟนก็รักเหมือนกันไงครับ”

เด็กหนุ่มอมลมเอาไว้เต็มแก้มก่อนจะถูกรั้งตัวเข้าไปจมอยู่กับอกกว้าง ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดบริเวณหน้าผากแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว...สายฟ้าไม่อยากปฏิเสธว่ามันรู้สึกดีเอามากๆที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรความรู้สึกไม่สบายใจก็ยังคงสุมอยู่ไม่หายไปไหน

“แต่เรากลัวหมอกกับนายจะเลิกกัน”

“ไม่มีใครเลิกกับใครทั้งนั้นแหละ!”

เสียงหวานของบุคคลที่สามดังขึ้นก่อนที่ร่างของทิวหมอกจะเดินเข้ามา ร่างบางโน้มตัวลงแตะหน้าผากของคนป่วยที่นอนยิ้มอยู่บนเตียง...ปกรณ์เป็นฝ่ายส่งข้อความไปบอกทิวหมอกเองว่าเขาไม่สบายและอยู่ที่นี่ ด้วยความที่ไม่รู้ว่าสายฟ้าจะสามารถช่วยหายามาให้กินได้หรือเปล่า เขาจึงส่งข้อความไปบอกทิวหมอกเองว่าให้หาซื้อยาเข้ามาให้ด้วย

“เลิกกังวลได้แล้วนะ เรากับกรรักฟ้ามากนะรู้เปล่า”


คนเป็นพี่ส่งยิ้มหวานออกมาอย่างจริงใจให้กับเด็กน้อยที่น้ำตาคลออยู่กับอกของปกรณ์ เด็กหนุ่มสูดจมูกเข้าเร็วๆเมื่อกลัวว่าทำนบน้ำตาจะทำลายความแมนของตัวเอง แต่มันก็อดไม่ได้เมื่อเสียงของปกรณ์กลับทำให้สายฟ้ายิ่งมุดหน้าลงกับอกของคนป่วยเพื่อซ่อนความร้อนผ่าวที่กระบอกตาไว้

“พวกเรารักกันได้...พระเจ้าไม่ได้กำหนดสักหน่อยว่าคนรักกันจะต้องมีแค่สองคนเท่านั้น พวกเราไม่ได้เล่นชู้นี่ แต่มันคือความเต็มใจของพี่กับหมอก...อย่าเพิ่งกลัวอะไรเลย ความรักเป็นสิ่งที่ดีนะครับ พวกเราจะเติบโตไปพร้อมกับมันแบบนี้ดีไหม หื้ม?”

ทิวหมอกยิ้มให้กับคำพูดนั้นของคนรัก ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายจุมพิตลงกับริมฝีปากสีซีดของคนป่วย ซึ่งแน่นอนว่าทิวหมอกไม่ได้ลืมที่จะกดจูบลงไปบนกลุ่มผมนุ่มของสายฟ้าด้วย

“ฟ้าเข้าใจแล้ว”

ปกรณ์ยิ้มให้กับเจ้าเด็กขี้โมโหในอ้อมกอดที่พยักหน้ารับกับคำพูดเหล่านั้น เขากดจูบลงบนหน้าผากมนด้วยความเอ็นดู เช่นเดียวกับที่ทิวหมอกสอดตัวเข้ามาอยู่ในผ้าห่มผืนนั้นด้วยกัน ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนกอดรัดกันแน่นพร้อมทั้งส่งเสียงหัวเราะออกมา...

“แต่หมอกเป็นของฟ้าแล้วนะ นายห้ามมารังแก”

“งั้นพี่ก็รังแกเราแทนแล้วกัน”

ทิวหมอกยิ้มจนตาหยีเมื่อปกรณ์ตั้งใจพลิกตัวคร่อมทับสายฟ้าเอาไว้ เสื้อยืดย้วยๆของเด็กหนุ่มเลิกขึ้นเผยรอยรักสีแดงตรงหน้าท้องที่เดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือของทิวหมอกเมื่อคืน โดยที่ปกรณ์ก็จงใจแนบจูบร้อนๆไปที่รอยนั้น ซ้ำยังฝังรอยเขี้ยวเอาไว้ให้สายฟ้าได้แต่ดิ้นโวยวาย

พวกเขานอนเล่นกันอยู่บนเตียงนั้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ปกรณ์ที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ก็ค่อยๆขยับกายโอบกอดสองพี่น้องเอาไว้ ไออุ่นที่ส่งผ่านให้แก่กันมันยิ่งทำให้หัวใจพองโตได้อย่างน่าประหลาด

พวกเขาคิดว่ามันไม่เกี่ยวกันสักนิดกับจำนวนคนที่แตกต่างจากคู่รักคู่อื่นๆทั่วไป ทว่า...จำนวนของความสุขต่างหากที่ควรค่าแก่การนับเก็บเอาไว้

ตราบใดที่ความรักของพวกเขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน...มันก็จะยังคงเป็นความรักที่ดี





END




ขอลง2ตอนรวดจบเลยนะคะ
เพราะว่าคอมเราไม่ไหวแล้ว จะพาไปซ่อมโดยด่วน
แล้วจะเอาตอนพิเศษอีก 2 ตอนมาลงให้หลังจากนี้น้า

 :katai4:





ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
   โอ้วว ดีงาม น่ารักมากๆเลยค่ะ
พี่กรใจกว้างจัง. มีที่ว่างให้สองพี่น้องด้วย

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เป็น3พีที่น่ารักมากๆ :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด