❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33  (อ่าน 431747 ครั้ง)

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).



ผู้เป็นที่รัก.
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2017 22:13:46 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #1 เมื่อ28-08-2016 21:15:08 »

INTRO

     สองขาเรียวเล็กก้าวไปตามทางเดินที่มีคนเดินนำอยู่ข้างหน้าด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้จะเรียกมันว่าอย่างไร บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวของตัวเอง ดวงไฟสีนวลตามทางเดินไม่ได้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเลยซักนิด ทุกอย่างหนักอึ้งไปหมด แม้กระทั่งสองขาที่กำลังก้าวเดินอยู่ ณ ขณะนี้

      “เจ้านายรอคุณอยู่ในห้องแล้ว เชิญครับ” คนที่นำทางมาเอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วเดินจากไป ทิ้งให้อีกคนเผชิญหน้าอยู่กับประตูบานใหญ่ด้วยใจที่เต้นรัว กานต์รักบีบมือตัวเองที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้

     ในเมื่อตัดสินใจแล้วจงอย่าที่จะลังเล...

     คำพูดของคนเป็นแม่ที่พร่ำสอนมาตั้งแต่เด็กดังขึ้นราวกับเสริมความมั่นใจที่กำลังสั่นไหว หากเขาเปิดประตูบานนี้เข้าไปทุกอย่างในชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล...

     แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรกานต์รักบอกตัวเองว่าพร้อมจะยอมรับมัน ยอมรับผลการกระทำของตัวเอง...

     มือเล็กเอื้อมไปเคาะประตูห้องเป็นสัญญาณขออนุญาตคนที่อยู่ข้างใน ก่อนจะเปิดมันเข้าไปด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย แม้รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้แต่เมื่อกำลังจะเผชิญมันจริงๆก็อดกลัวไม่ได้

      “มาแล้วสินะ” เรือนร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องๆหนึ่งด้วยสภาพทั้งตัวมีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันหมิ่นเหม่ตรงสะโพกเพียงชิ้นเดียว เส้นผมที่เปียกชื้นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายชำระร่างกายเป็นที่เรียบร้อย กานต์รักกลืนน้ำลายก้อนเหนียวๆลงคอด้วยความยากลำบาก คราวนี้ทั้งมือและใจสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้

      “แต่งตัวให้ฉันที” คนพูดเอ่ยเพียงสั้นๆก่อนจะเดินหายเข้าไปทางห้องที่คาดว่าจะเป็นห้องแต่งตัว ปล่อยให้คนที่ยืนนิ่งตั้งแต่เข้ามายังคงนิ่งอยู่แบบนั้น แต่แล้วอย่างไรก็ต้องเดินตามเจ้าของห้องไป หากปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานคงไม่ใช่เรื่องที่ดี

     ใครๆก็รู้...แพททริก เบรนเนแเกนไม่ใช่คนที่ใจดีซักเท่าไหร่

     พอเดินตามเข้ามาในห้องก็พบเข้ากับห้องนอนขนาดใหญ่ก่อน ร่างสูงหายเข้าไปอีกห้องที่อยู่ด้านในให้กานต์รักต้องรีบเดินตาม คราวนี้เป็นห้องแต่งตัวที่ถูกตกแต่งไว้เป็นอย่างดี แล้วคนที่เขาจะต้องแต่งตัวให้นั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าโต๊ะกระจก กานต์รักค่อยๆเดินเข้าไปใกล้จนซ้อนอยู่ด้านหลังห่างจากคนตัวโตออกมาเล็กน้อย

      “ขะ ขออนุญาตเช็ดผมให้นะครับ” ที่ต้องขออนุญาตเพราะบางคนก็ถือเรื่องการจับหัวมาก จะให้คนที่อายุน้อยกว่ามาแตะต้องบางทีอาจไม่ชอบใจนัก แม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นฝรั่งแต่ที่นี่ก็เป็นเมืองไทย การจับหัวไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามกันได้ง่ายๆ

      “ผ้าอยู่ตู้สีขาวริมขวาสุด” กานต์รักถือว่านั่นคือคำอนุญาตเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ สายตากวาดมองไปตามคำพูดเมื่อครู่ พอคาดว่าเจอกับสิ่งที่ต้องการก็เดินตรงไปอย่างรวดเร็ว ตู้ใหญ่แบบติดผนังตรงหน้าถูกเปิดออก ข้างในนั้นเต็มไปด้วยผ้าเช็ดตัวทั้งผืนใหญ่และผืนเล็ก เสื้อคลุมอาบน้ำสองชุดก็ถูกแขวนไว้อย่างดีโดยที่เจ้าของไม่ได้หยิบมันออกมาใช้งาน

     มือบางถือผ้ามาไว้ในมือแล้วเดินกลับมายืนที่เดิมก่อนจะเอ่ยขออนุญาตซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ผ้าสีขาวสะอาดถูกวางลงบนหัวคนที่ยังหลับตานิ่งแผ่วเบา สองมือค่อยๆขยำและสางไปทั่วเพื่อซับน้ำออกจากเส้นผมหนา เมื่อทุกอย่างยังคงดำเนินไปด้วยความเงียบกานต์รักจึงมีโอกาสได้สำรวจอีกคนผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้า

     โครงหน้าแกร่ง คิ้วหนาเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ...

     ทุกอย่างที่รวมกันอยู่บนหน้าของผู้ชายคนนี้ช่างไร้ที่ติจนนึกอิจฉา ร่างกายก็สูงใหญ่กำยำตามเชื้อชาติยิ่งส่งเสริมให้ทุกอย่างเพอร์เฟคเข้าไปใหญ่ ลอนกล้ามเนื้อสวยงามที่เรียงตัวกันอยู่บนหน้าท้องแกร่งทำเอาคนมองอดใจสั่นไม่ได้

     เวลาลูบมันจะให้ความรู้สึกยังไงกันนะ...

     คนเผลอคิดสะดุ้งสุดตัวกับความคิดของตัวเองก่อนจะรีบดึงสายตาและสติกลับมาที่เส้นผมหนาตรงหน้าเช่นเดิม

     บ้าไปแล้ว นี่เขาคิดเรื่องอะไรกัน

      “ถ้ามันหมาดแล้วก็พอ” เสียงทุ้มเอ่ยพูดจนคนไม่ทันตั้งตัวสะดุ้ง ลองจับดูว่ามันหมาดหรือยังแล้วจึงรั้งผ้าออกเมื่อคิดว่าคงใช้ได้แล้ว ผ้าผืนเล็กถูกหย่อนลงตะกร้าที่มุมห้องก่อนจะเดินกลับมาที่เดิมอีกครั้ง...อีกคนลืมตาขึ้นมาแล้ว

      “อาบน้ำให้เรียบร้อยซะ ฉันไม่ชอบคนไม่สะอาด” พูดเสร็จก็เดินออกไปให้กานต์รักมองตามด้วยความไม่เข้าใจ แค่เช็ดผมนี่เรียกว่าแต่งตัวอย่างนั้นหรือ เขาพึ่งเข้าใจว่าคำว่าแต่งตัวของนักธุรกิจผู้มีอำนาจว่ามันคือแค่การเช็ดผมให้แห้งเพียงเท่านั้นเอง

     หมดเวลาที่จะสงสัยในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ร่างเล็กเดินไปเปิดตู้สีขาวใบเดิมแล้วหยิบทั้งผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมอาบน้ำอย่างถือวิสาสะ ออกจากห้องแต่งตัวแล้วก็รีบเดินเข้าห้องข้างกันที่ถูกเปิดเอาไว้เห็นว่าเป็นห้องน้ำก่อนจะจัดการตัวเองให้เร็วที่สุด แม้อยากถ่วงเวลาให้ช้าออกไปแค่ไหนแต่ก็ทำไม่ได้ แบบนั้นไม่ใช่ผลดีกับตัวเองแน่นอน

     ออกมาจากห้องน้ำด้วยภายในตัวเปลือยเปล่า ทั้งตัวมีเพียงชุดคลุมอาบน้ำที่ผูกสายอย่างแน่นหนาเท่านั้น

      “จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม” คนที่นอนอยู่บนเตียงกว้างเอ่ยขึ้นให้ต้องเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

      “ถอดชุดคลุมออก” คำสั่งที่ทำเอากานต์รักใจเต้นรัว มือไม้เย็นเชียบขึ้นมาฉับพลัน แม้จะเตรียมใจมาอย่างดีก็ยังแทบควบคุมจิตใจไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วมืออันสั่นเทาก็ค่อยๆคลายปมเชือกที่ผูกกันแน่นให้หลุดออกอย่างเชื่องช้า สูดหายใจลึกแล้วค่อยๆเลื่อนมันออกจากตัว ยืนนิ่งหลุบตาต่ำมองพื้น

     การยืนโชว์เรือนร่างทั้งที่ทั้งห้องเปิดไฟสว่างโล่แบบนี้ใครจะไม่อายกันบ้างหรือ

      “ขึ้นมา” ไม่ต้องถามก็รู้ว่าให้ขึ้นไปไหน มือหนาปลดเปลื้องผ้าเช็ดตัวที่ห่อหุ้มร่างกายเพียงชิ้นเดียวออกแล้วโยนลงข้างเตียง กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเปล่าเปลือย ร่างกายไร้ซึ่งเสื้อผ้าปิดบัง

     กานต์รักก้าวขาขึ้นเตียงแล้วค่อยๆคุกเข่าคลานไปหาคนที่นั่งพิงพนักเตียงอยู่อีกฝั่ง คนที่สั่งให้ขึ้นมายังคงมองด้วยสายตาที่บ่งบอกความไม่ชอบใจนักที่เขายังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ จนสองขาเรียวเล็กขยับเข้าไปคร่อมขาแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ทรุดตัวลงนั่งให้อะไรๆสัมผัสกันแนบแน่นกระแสความไม่พอใจในดวงตาคมจึงค่อยๆจางหายไป

     ข้อนิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยขึ้นมาสบตา

      “ทำให้ฉันพอใจ”

     กานต์รักเลียริมฝีปากที่แห้งผาดของตัวเองด้วยความประหม่า สายตาของคนตรงหน้าเต็มไปด้วยความดุดันจนต้องเก็บความกลัว ความกังวล ความตื่นเต้นลงไปให้ลึกถึงก้นบึ้งของความรู้สึก ใบหน้าเล็กขยับเข้าไปใกล้ให้ระยะห่างระหว่างกันลดลงไปเรื่อยๆ จวบจนท้ายที่สุดแล้วริมฝีปากบางจึงแนบกันสนิท

     ...และนั่นก็เป็นการเริ่มต้นความร้อนแรงที่แทบแผดเผากานต์รักให้มอดไหม้เป็นจุล


❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

Talk


แปะอินโทรแว๊บ~ จะมีใครอยากอ่านต่อไหมนะะะะะะ  :mew3: :mew3: (มีคนรอก็จะมา ไม่มีคนรอก็จะมา55555555...แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ >////<) ติดตามและเป็นกำลังใจให้เค้าหน่อยน๊าาา :impress2: :impress2:

FB: Writer Ex-SoulL
TW: @exsoull_
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2016 22:00:00 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #2 เมื่อ28-08-2016 21:24:56 »

เข้ามาเพราะหลงชื่อเรื่อง  รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ  :L2:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #3 เมื่อ28-08-2016 21:30:52 »

รอ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #4 เมื่อ28-08-2016 22:06:03 »

 :3123: :3123: :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #5 เมื่อ28-08-2016 22:14:20 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #6 เมื่อ28-08-2016 23:03:19 »

 :กอด1:  เปิดเรื่องมาก็ร้อนแรงแล้ว 

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #7 เมื่อ28-08-2016 23:07:40 »

:กอด1: :กอด1: :กอด1:


รออ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #8 เมื่อ29-08-2016 02:02:50 »

รอตอนต่อไปค่ะ :)

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #9 เมื่อ29-08-2016 05:49:43 »

อื้อหือ น้ำในห้อง(น้ำ)ระเหยหมดแล้วมั้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-08-2016 05:49:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #10 เมื่อ29-08-2016 09:15:15 »

ติดตามๆ เข้ามาเพราะชื่อเรื่อง อิ_อิ

ออฟไลน์ AP UFO

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #11 เมื่อ29-08-2016 17:29:27 »

ปูเสื่อรอออ :katai5:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #12 เมื่อ29-08-2016 17:31:57 »

อัยยะ รออ

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #13 เมื่อ29-08-2016 21:20:12 »

อั๊ยยะะะะะ รอออ มาแปะให้อยากแล้ว ก็รีบมาเร็วนะคะ เดี๋ยวคนอ่านช็อค 5555

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: INTRO :: 28/08/2559 p.1
«ตอบ #14 เมื่อ29-08-2016 22:10:34 »

โอ้ววววว น่าสนอย่างแรวงงงง

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 1

      “อือ...” เสียงครางผะแผ่วเล็ดรอดออกมาจากลำคอบางทันทีที่เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆขยับเปิดขึ้น ดวงตาโตกวาดมองเพดานขาวนิ่งซักพักจนความทรงจำเริ่มไหลย้อนเข้ามาในหัว

      “อ๊ะ!...อือ...อึก...พะ..คุณ...พะ...แพท...แพททริก...อื้อ”

     “อืมห์...”

     ความร้อนแรงไหลบ่าเข้ามาจนคนที่นอนนิ่งอย่างเบลอๆตื่นขึ้นมาเต็มตา พอภาพในห้วงความจำฉายชัดความเจ็บปวดตามร่างกายก็แล่นริ้วตามมาจนน้ำตาเล็ด กานต์รักทำได้เพียงนอนนิ่งๆอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้จะทำยังไงกับร่างกายของตัวเอง แม้แต่นิ้วมือยังแทบขยับไม่ได้ ข้างในเนื้อตัวก็เปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปกปิดร่างกายเอาไว้

     แอ๊ด

     เสียงประตูเปิดดังขึ้นแต่คนที่นอนอยู่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาดูได้ว่าเป็นใคร

     “ตื่นแล้วหรือครับ” บอร์ดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ที่กานต์รักจำได้ว่าเป็นคนพาตนมาส่งยังห้องนี้เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง แม้อีกฝ่ายจะไม่เห็นว่าภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่นี้ไร้ซึ่งเสื้อผ้าซักชิ้นแต่เขาก็อดกระดากอายไม่ได้

     “คะ ครับ” เสียงที่เอ่ยออกไปแทบมีเพียงแค่ลมเปล่าๆ

     ก็ไม่แปลก...เพราะกว่าจะได้หยุดร้องขออีกฝ่ายก็เป็นตอนที่สลบไปทั้งที่ตัวยังคงสะท้อนตามจังหวะการสอดกายเข้าหาของคนด้านบน

     ภาพที่แว๊บเข้ามาในหัวทำให้คนนอนนิ่งอยู่ร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งตัวจนต้องหลับตาลงเนื่องด้วยทนความอายนั้นไม่ไหว

     “คุณสามารถพักที่นี่ได้จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น ส่วนเช็ควางอยู่ตรงนี้ให้คุณระบุตัวเลขลงไปได้ตามสบาย หรือถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมสามารถบอกผมได้ครับ” กานต์รักลืมตาขึ้นมองคนพูดก่อนจะหันไปตำแหน่งที่อีกฝ่ายผายมือบอก บนนั้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจเลยซักนิด

     เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพียงแค่เท่านี้สินะ...ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วทำไมลึกๆในใจยังรู้สึกคาดหวังอีก

     อย่าคาดหวังในสิ่งที่มันไม่มีวันเป็นไปได้สิกานต์รัก...

     “...ผม แค่กๆ ขะ ขอยาแก้ปวด...กับ...ยะ ยาแก้อักเสบครับ” พยายามกลั้นความเจ็บพูดออกมาให้เป็นคำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่นานนักแต่ตอนนี้ร่างกายไม่เอื้ออำนวยให้ลุกขึ้นไปไหน ได้แต่หวังว่ายาที่เอ่ยขอจากอีกฝ่ายไปจะทำให้อาการดีขึ้นมาบ้าง

     “ได้ครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรที่คุณต้องการเพิ่มอีกไหม”

      “ไม่..ครับ...ขอบคุณมาก” อีกฝ่ายค้อมหัวลงให้เล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป สิ้นเสียงประตูที่ปิดลงกานต์รักจึงค่อยๆลองขยับตัวขึ้นนั่ง แม้จะเจ็บจนต้องร้องออกมาหลายครั้งแต่ในที่สุดก็ทำในสิ่งที่คาดหวังได้สำเร็จ

     พออยู่ในท่านั่งสิ่งที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในก็ค่อยๆไหลย้อนออกมาจนเลอะหน้าขาเต็มไปหมด ผ้าปูที่นอนก็เปรอะไปพอๆกัน แม้รับรู้ได้ว่าร่างกายโดนชำระให้สะอาดไปบ้างแล้วแต่คงเพราะบางอย่างมันเยอะจนเกินกว่าที่จะเอาออกไปได้หมด

     แค่คิดว่าสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายตอนนี้หลั่งออกมาจากใครหัวใจที่เจ็บปวดก็ค่อยๆเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

     เสียงทุ้มในลำคอแกร่ง...สัมผัสอันร้อนแรง...จังหวะหนักแน่นที่กระทั้นเข้าหา...

     ราวกับมีใครมาเปิดวิดีโอเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาในหัว กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เสียงร้องครวญครางราวจะขาดใจดังออกจากปาก เสียงครางต่ำจากอีกคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในตัว

     แต่ก็เท่านั้น...ทุกอย่างจะเป็นแค่ความทรงจำที่กานต์รักเก็บมันเอาไว้เพียงคนเดียว เพราะสำหรับคนอย่างแพททริกแล้วคงไม่มีอะไรสมควรจะจดจำ

     ก็แค่คนที่เขาซื้อมานอนด้วยเหมือนกับคนอื่นๆ จะแตกต่างได้อย่างไร

     “นี่ยาที่คุณขอ ผมจัดมาให้สามชุดเผื่อคุณจะต้องการมันอีก ถ้ารู้สึกไม่ดีตรงไหนบอกผมได้นะครับ ทางเราสามารถดูแลพาคุณไปส่งโรงพยาบาลได้”

     มัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยจนกว่าจะรู้สึกตัวว่ามีใครเข้ามาก็เมื่อบอร์ดี้การ์ดคนเดิมเอ่ยขึ้นข้างเตียงพร้อมถาดยาและแก้วน้ำ แถมยังมีถ้วยอะไรบางอย่างที่กำลังส่งกลิ่นหอมไปทั่ว

     “ส่วนนี่ก็ข้าวต้มของคุณ ทานซักหน่อยก่อนจะทานยาครับ...ผมจะวางเอาไว้ให้ตรงนี้”

     คนพูดปรายตามองลาดไหล่เนียนที่มีรอยรักสีกุหลาบเต็มไปหมดจนแทบมองไม่เห็นสีผิวจริงก่อนจะรีบขอตัวออกไปเพื่อให้คนที่รับศึกมาอย่างหนักได้พัก ไม่คิดเลยว่าคนเป็นเจ้านายจะดุเดือดถึงขนาดนั้น ปกติก็มีบ้างแต่ไม่เคยเห็นรายไหนจะหนักเช่นนี้

     กานต์รักขยับตัวอย่างยากลำบากไปใกล้โต๊ะข้างหัวเตียง เอื้อมมือไปคว้าช้อนในถ้วยขึ้นมาตักข้าวต้มเข้าปากด้วยแรงอันน้อยนิดจนช้อนแทบจะหลุดออกจากมือ ฝืนกินได้เพียงไม่กี่คำก็ต้องพอเพราะพะอืดพะอมเกินกว่าจะรับไหว อาการครั่นเนื้อครั่นตัวรุนแรงขึ้นจนปวดกระบอกตาไปหมด รู้เลยว่าไข้ได้เล่นงานเอาเขาแล้วเป็นแน่

     ยาที่ถูกจัดเป็นชุดถูกกลืนลงไปในคออย่างรวดเร็วก่อนที่จะเคลื่อนตัวลงนอนราบอีกครั้ง แม้อยากจะลุกไปจัดการกับร่างกายตัวเองแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เปลือกตาบางจึงค่อยๆปิดลงอย่างยอมแพ้

     หวังว่าตื่นขึ้นมาจะมีเรี่ยวแรงพอพาตัวเองกลับห้องได้...

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     2อาทิตย์ผ่านไป

     “คุณรักคะ...มีลูกค้าติดต่อมาจะสั่งออเดอร์สำหรับงานแต่งงานค่ะ”

     “บอกลูกค้ารอซักครู่นะครับ” มือบางละจากการวางใบมิ้นต์ลงบนหน้าเค้กเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนตรง รั้งปมเชือกผ้ากันเปื้อนที่คาดเอวออกแล้วถอดวางเอาไว้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นหอมๆของขนมเดินออกมาทางฝั่งที่เป็นส่วนออฟฟิศของร้าน พนักงานคนเดิมถือโทรศัพท์ไว้รออยู่ก่อนแล้ว

     “สวัสดีครับ...” มือบางรับเครื่องมือสื่อสารมาแล้วยกขึ้นแนบหู กรอกเสียงนุ่มๆลงไปเพื่อเริ่มบทสนทนา

     หลังจากนั้นการเจรจาเรื่องรายละเอียดงานก็ดำเนินไปราวๆครึ่งชั่วโมง จนได้บทสรุปที่ว่าให้ลูกค้าเข้ามาที่ร้านเพื่อตกลงงานกันอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อคุยกันคร่าวๆจนเสร็จเรียบร้อยกานต์รักถึงได้นั่งพักบ้างหลังจากที่วันนี้ยืนทำขนมมาทั้งวัน

     “ว่าไงบ้างคะคุณรัก” ผู้จัดการร้านเดินเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าร่างเพรียวคุยโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว

     “มีงานใหญ่เข้าเลยล่ะครับ...หลังจากปิดร้านวันนี้นัดประชุมพนักงานทุกคนทุกฝ่าย เดี๋ยวรักจะชี้แจงเรื่องรายละเอียดต่างๆ คุณไหมช่วยบอกพนักงานทุกคนด้วยนะครับ”

     “ได้ค่ะ งานนี้ต้องเหนื่อยกันอีกแล้วสินะคะ” แม้จะว่าอย่างนั้นแต่คนพูดกลับมีรอยยิ้มแต่งแต้มเต็มหน้า  ยิ่งมีงานมากเท่าไหร่ยิ่งบ่งบอกว่าถึงคุณภาพของทางร้านและพนักงานได้มากเท่านั้น ความสุขของคนทำมีเพียงเท่านี้ นั่นคือการได้เห็นคนอื่นมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ ยิ่งคราวนี้เป็นงานของระดับคนใหญ่คนโตที่เขาสามารถจะเลือกใครก็ได้แต่กลับเลือกเรายิ่งทั้งดีใจและภูมิใจ

     “ครับ...แล้วตอนนี้หน้าร้านเป็นยังไงบ้าง” เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดลูกค้าจะเข้าออกร้านเยอะเป็นพิเศษกว่าวันไหน ขนมที่ทำมาเผื่อมากมายไม่เพียงพอต่อความต้องการจนกานต์รักต้องยุ่งเข้าครัวตั้งแต่เที่ยง ทั้งอบทั้งทำขนมไม่ได้หยุดพัก พนักงานหลายคนต้องไปช่วยกันเสิร์ฟและรับออร์เดอร์จนคนแทบไม่พอ

     “คนเริ่มบางลงแล้วล่ะค่ะ นี่ก็ค่ำมากแล้ว”

     “ยังไงรักก็ฝากคุณไหมด้วยแล้วกันนะครับเดี๋ยวรักว่าจะไปเช็คของหน่อย ของหมดหลายอย่างเลย”

     “ได้ค่ะคุณรัก” เจ้าของร้านเบเกอร์รี่ชื่อดังส่งยิ้มอ่อนแล้วเดินออกมาในส่วนที่เป็นห้องเก็บวัตถุดิบเพื่อตรวจดูว่ามีของอะไรต้องซื้อเพิ่มบ้าง เช็คของและโทรสั่งของจนเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาเช็คบัญชีที่ห้องทำงานของตัวเอง

     หนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟามาตั้งแต่เช้าไม่ถูกสัมผัสเลยแม้แต่น้อยจวบจนกระทั่งในขณะที่กานต์รักกำลังจะเดินผ่านมันไป...เนื้อหาข่าวเด่นหราพาดอยู่หน้าแรกทำให้สองขาเรียวหยุดชะงักนิ่งแล้วเอื้อมมือสั่นๆไปหยิบมันขึ้นมาดู

     เดซี่ ดริกายอมรับมีหนุ่มคนคุยด้วยแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน...แพททริก เบรนเนแกรน นักธุรกิจที่สาวๆทั้งประเทศอยากได้มากที่สุด! อ่านต่อหน้า23

     ...แน่นอนว่ามือบางพลิกไปที่เลขหน้านั้นอย่างรวดเร็ว

    “ดารากับไฮโซเป็นของคู่กัน”

     นาทีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาของนางเอกสาว เดซี่ ดริกาจริงๆ ทั้งเรื่องงานที่กำลังมาแรงสุดๆสำหรับการกลับมาทวงบรรลังก์ตำแหน่งดาราขวัญใจมหาชนและเรื่องที่หน้าจับตามองมากกว่านั้นคือเรื่องความรักของเธอ ซึ่งเจ้าตัวพึ่งจะออกมายอมรับว่ามีหนุ่มที่คุยด้วยแล้ว งานนี้ทำเอาแมงเม้าทั้งหลายอยากเห็นหน้าค่าตาของหนุ่มคนนั้นเสียเหลือเกินว่าเป็นใครมาจากไหน

     แต่แล้วก็ไม่ต้องเดาไม่ต้องสงสัยกันให้เสียเวลาเมื่อมีคนตาดีแอบเห็นทั้งคู่ไปทานข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง พร้อมภาพแนบชิดสนิทสนม แล้วหนุ่มคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

     เจ้าพ่อวงการธุรกิจที่ทั้งหล่อ แซ่บ และรวยสุดๆอย่าง...แพททริก เบรนเนแกนนั่นเอง!!

     มือที่ถือกระดาษหนักเพียงไม่กี่ขีดสั่นเทาราวกับถือหนังสือเล่มหนา ความทรงจำเมื่อสองอาทิตย์ก่อนย้อนคืนมาเล่นงานจนต้องทรุดตัวลงนั่ง

     วันนั้นกานต์รักออกจากที่นั่นโดยไม่ได้สนใจเช็คที่ถูกวางไว้เลยซักนิด พาร่างกายอันสะบักสะบอมโบกแท็กซี่กลับมายังห้องของตัวเองแล้วนอนซมไข้อยู่เกือบสามวัน ร่องรอยตามร่างกายจนถึงวันนี้ยังคงเหลือจางๆให้ได้เห็น พยายามทำงานไม่นึกถึงอะไรแต่ก็เพียงเท่านั้น ยิ่งวันนี้สิ่งที่ได้รับรู้ยิ่งพลันให้ความรู้สึกวูบโหวงตีรวนขึ้นมาในอก

     แต่ถึงอย่างไรสิ่งที่ทำลงไปในวันนั้นเขาก็ไม่เสียใจเลยซักนิดเพราะทุกอย่างคือการตัดสินใจของตัวเอง

     มันดีแล้วกานต์รัก..สิ่งที่ได้แค่ฝันอย่างน้อยมันก็เคยเป็นจริง

     ก๊อก ก๊อก

     เสียงเคาะประตูดึงรั้งความคิดที่ฟุ้งซ่านไปไกลให้กลับมาอยู่กับความจริงอีกครั้ง กานต์รักยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆก่อนจะเอ่ยอนุญาตให้คนเคาะเข้ามาได้

     “คุณรักคะ To’ak Chocolate Cake หมดแล้วค่ะ”

     “อืม...ถ้างั้นก็ปิดร้านเลยครับ เดี๋ยวต้องประชุมกันต่ออีก”

     “ได้ค่ะ”

     ขนมอื่นๆในร้านก็คงเหลืออีกเพียงไม่กี่ชิ้น ปิดร้านเร็วกว่าปกติถือว่าให้ทุกคนได้พักหลังจากที่ทำงานหนักกันมาทั้งวันก็แล้วกัน
                                                           
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     “วันนี้ตารางงานนายมีเพียงเท่านี้ครับ” เสียงคนสนิทเอ่ยบอกคนที่นั่งหลับตาพิงเก้าอี้ การทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำสูบพลังงานไปอย่างมหาศาลจนรู้สึกปวดกระบอกตา แม้จะเป็นเช่นนี้เสมอแต่ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่งานหลายอย่างรุมเร้า สภาพของผู้กุมบังเหียนใหญ่จึงอ่อนล้ากว่าที่เคย

     “เรื่องที่ให้สืบไปถึงไหนแล้ว” เสียงทุ้มเย็นเอ่ยถามไปถึงอีกเรื่องพร้อมกับเปิดเปลือกตาขึ้น แม้จะมีแววเหนื่อยล้าอยู่ในนั้นแต่ความน่าเกรงขามกลับไม่ได้ลดลงซักนิด

     “พวกเรากำลังพยายามกันอย่างเต็มที่ครับ แต่แปลกที่กลับคว้าน้ำเหลวไม่ได้อะไรเลยซักอย่าง...แม้แต่ชื่อก็หาไม่เจอ”

     “แค่ผู้ชายตัวเล็กๆคนเดียวเรื่องแค่นี้ทำไมถึงทำกันไม่ได้ ให้ไปสืบมาตั้งนานแล้วยังไม่ได้เรื่องอะไรเลยหรือไง!” ผู้เป็นเจ้านายแผดเสียงใส่จนก้องไปทั่ว ทั้งหงุดหงิดและเหนื่อยล้าจนทุกอยากตีรวนกันไปหมด

     “ขอโทษครับนาย...เพียงแต่ผมคิดว่ามันมีอยู่สองเหตุผลที่เรายังสืบประวัติเขาไม่ได้ หนึ่งคือเป็นคนต่างด้าว และสอง...มันเหมือนกับว่าเขารู้ว่าเราจะตามหา เหมือนว่าตั้งใจปกปิดประวัติเอาไว้ไม่ให้ตามเจอ”

     “ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่พวกนายก็ต้องหาให้เจอเข้าใจไหม!”

     “ครับ ผมสัญญาว่าเจ้านายจะได้พบเขาแน่”

     “มันจะต้องเป็นอย่างนั้น...ออกไปได้แล้ว ฉันจะพักผ่อน” มือขวาค้อมตัวลงให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปตามคำสั่ง ขืนไม่รีบออกไปตอนนี้เกรงว่าจะโดนผู้เป็นนายอาละวาดใส่ยิ่งกว่าเดิม

     ลิ้นชักข้างโต๊ะทำงานตัวใหญ่ถูกเลื่อนให้เปิดออก มือหนาหยิบกระดาษที่วางอยู่ในนั้นขึ้นมาก่อนจะมองมันนิ่ง เช็คที่ไม่ได้ถูกหยิบไป

     “ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่านายเข้าหาฉันทำไม”

     หลายอย่างมันดูไม่ชอบมาพากล ทันทีที่รู้ว่าเช็คยังถูกวางไว้เช่นเดิมไม่ได้ถูกหยิบไปความรู้สึกบางอย่างในตัวก็กระตุ้นเตือน จริงอยู่ที่คืนนั้นไม่ได้มีการตกลงซื้อขายกันเป็นเรื่องราวนัก แต่เด็กนั่นก็รู้ว่าสิ่งแลกเปลี่ยนนั้นคืออะไร ตกลงรับข้อเสนอง่ายๆแต่กลับไม่รับเช็คกลับไป มันน่าแปลกใจจนต้องสั่งให้คนตามหา

     ลูกน้องของเขาไม่เคยทำงานผิดพลาด ประวัติของคนที่ต้องการรู้มักจะถูกรายงานภายใน15นาที แต่นี่แค่ผู้ชายตัวเล็กๆคนเดียวเวลากว่าสองอาทิตย์แม้แต่ชื่อก็ไม่พบ

     เขาเป็นนักธุรกิจ มีศัตรูอยู่รอบด้าน อะไรที่สุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเองต้องป้องกันเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะกับคนที่เข้ามาโดยไม่รู้จุดประสงค์ชัดเจนอย่างเด็กนั่น ยอมรับว่าคืนนั้นเผอเรอไปเพราะท่าทางอันใสซื่อ แม้สัญชาตญาณจะร้องบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ได้มีพิษภัยแต่ก็ยังไม่วางใจจนกว่าจะได้พิสูจน์

                                                       
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณรัก” เสียงใสเอ่ยบอกให้คนฟังพยักหน้ารับ เมนูทุกอย่างสำหรับงานแต่งถูกตระเตรียมไว้แล้วเรียบร้อย ทุกอย่างต้องไร้ข้อผิดพลาดเนื่องจากเป็นงานของคนใหญ่คนโต กานต์รักต้องการให้มันออกมาดีที่สุดให้สมกับความไว้วางใจของลูกค้า

     “งั้นก็ให้คนลำเลียงไปยังสถานที่จัดงานได้เลยครับ” ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยง ทุกอย่างต้องถูกเผื่อไว้เมื่อเกิดข้อผิดพลาดจะได้จัดการได้ท่วงทัน งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในช่วงค่ำ ยังมีเวลามากพอที่จะจัดตกแต่งบรรดาขนมทั้งหลายโดยไม่ต้องรีบร้อน

     กานต์รักมาถึงงานในตอนบ่ายโมง สั่งพนักงานลำเลียงอาหารลงในส่วนที่ทางลูกค้าแจ้งมา ดีลงานกันเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเตรียมงานในส่วนของตัวเอง หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ต้องอยู่ดูแลจนกว่างานจะจบ ต้องคอยเติมคอยควบคุมเมื่อจำนวนขนมนั้นลดลง ส่วนทางร้านของตัวเองก็ให้พนักงานอีกส่วนดูแล

     แววตาใสทอประกายเมื่อเริ่มเห็นคนเดินเข้างานมา บรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความยินดีจนแม้แต่คนนอกยังสัมผัสได้ กานต์รักชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม

     “เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเหมาะกันดีนะคะ” ผู้ช่วยสาวเอ่ยขึ้นเมื่อคู่บ่าวสาวลงมาต้อนรับแขก

     “น่ารักดีครับ ตอนแต่งงานพี่ถิงมุ้งมิ้งแบบนี้เลยไหม” คนตัวเล็กเอ่ยถามพร้อมแย้มยิ้มน้อยๆ ผู้ช่วยคนเก่งเข้ามาทำงานกับที่ร้านหลังจากแต่งงานแล้วกานต์รักจึงไม่ได้เห็นบรรยากาศอย่างนี้

     “ไม่ได้ใกล้เคียงแบบนี้เลยค่ะ...วันนั้นวุ่นวายมาก แทบเป็นลมเลย คนรวยก็อย่างนี้แหละอะไรๆเลยง่ายไปหมด”

     “คุณรักคะ เครปเค้กสตอร์เบอร์รี่เหลือน้อยแล้วค่ะ” ยังไม่ทันจะพูดอะไรกันมากกว่านั้นเสียงผู้จัดการร้านที่เดินเข้ามาจากอีกทางก็ทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก

     “เดี๋ยวรักไปดูครับ” ร่างเพรียวบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนตามธีมเดินไปยังทางที่ผู้จัดการร้านจากมา มองจำนวนเครปเค้กชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วได้แต่ครุ่นคิดว่าควรจะจัดการอย่างไรดี

     “คุณรักคะ ทางเราอยากจะขอเพิ่มเมนูเครปเค้กและช็อกโกแล็ตได้ไหมคะ มีแขกที่เราต้องจัดไว้เป็นพิเศษแล้วก็คาดว่าที่มีตอนนี้คงไม่พอแขกภายในงานแน่ เราไม่คิดว่าคนจะชอบขนมร้านคุณรักขนาดนี้ หมดเร็วยิ่งกว่าของคาวเสียอีก” ทีมงานของงานแต่งเดินเข้ามาหา ประโยคที่ได้ยินนั้นทำเอากานต์รักยิ้มออกมาอย่างเป็นปลื้ม เขาเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน

     “ขอบคุณครับ...ถ้าอย่างนั้นช่วยระบุจำนวนที่แน่ชัดมาได้ไหมครับรักจะได้จัดการได้ง่ายขึ้น ทางร้านมีส่วนที่แช่เย็นเอาไว้ขายคงพอแทนกันได้”

     “ได้ค่ะ”

     หลังจากทราบเรื่องจำนวนที่แน่ชัดแล้วกานต์รักจึงโทรบอกพนักงานที่ร้านให้นำเครปเค้กและช็อกโกแลตมาส่ง ความจริงแล้วส่วนนั้นคือส่วนที่ทำไว้สำหรับขายในวันพรุ่งนี้ แต่ยังสามารถเอามาใช้รับแขกแทนก่อนได้เพราะยังพอมีเวลาทำใหม่ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงทั้งทีมงานของงานแต่งและกานต์รักเองก็เบาใจ

     แขกเหรื่อมากมายเดินเข้ามาตักบรรดาขนมหวานจนเจ้าของยิ้มปลื้ม

     “หูย หล่อจัง” เสียงอุทานจากคนรอบข้างดังขึ้นเป็นระลอกจนคนที่กำลังจัดขนมเติมใส่ถาดเริ่มใคร่รู้ ตอนแรกกานต์รักไม่ทันสังเกตว่ารอบตัวเกิดความฮือฮากระทั่งเสียงซุบซิบเหล่านั้นดังขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อจัดขนมเสร็จใบหน้าหวานจึงเงยขึ้นมองสถานการณ์รอบตัว

     ปึก

     เสียงอุปกรณ์คีบขนมตกลงบนพื้นที่ปูพรมอย่างดีเพราะคนถือเกิดไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาฉับพลัน ราวกับโลกทั้งใบของกานต์รักกำลังหยุดนิ่ง ร่างเล็กรู้สึกเหมือนถูกสะกดด้วยสายตาคมกริบคู่นั้นจนแม้แต่หายใจยังลำบาก

     เรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีฟ้าครีมกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนสองขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว หัวใจแทบหยุดเต้นพร้อมกับสติที่ปลิวหาย ก่อนจะต้องเผชิญหน้ากันซึ่งๆหน้ากานต์รักก็หมุนตัวกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางห้องน้ำ แข้งขาสั่นจนเดินแทบไม่ตรง พยายามประคองตัวเองให้ถึงที่หมายแล้วจัดการล็อคประตูก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนชักโครก

     ขอให้จำไม่ได้...ขอให้คุณแพททริกจำเขาไม่ได้ด้วยเถอะ

     เหงื่อกาฬไหลซึมลงมาตอบกรอบหน้า หัวใจเต้นรัวถี่จนเจ็บหน้าอก

     “ใจเย็นๆสิกานต์รัก...เราไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย” อากาศภายนอกถูกสูดเข้าปอดลึกเพื่อควบคุมสติของตัวเอง ทำอย่างนั้นช้าๆหลายครั้งจนกระทั่งเริ่มรู้สึกดีขึ้น เมื่อนึกขึ้นได้ถึงการดูแลความเรียบร้อยของงานและคิดว่าอีกคนคงเดินมาเพียงแค่ตักขนมแล้วจากไปกานต์รักจึงขยับตัวลุกขึ้น

     คนอย่างเขาไม่มีอะไรให้คุณแพททริกต้องใส่ใจจดจำเสียหน่อย แม้จะต้องเจอหน้ากันอีกคนก็คงจำไม่ได้และไม่มีความจำเป็นจะต้องจำ ระหว่างเรามันเป็นเพียงคนไม่รู้กันก็เท่านั้น

     แกร๊ก

     เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้นเบาๆก่อนคนที่ขังตัวอยู่ในนั้นจะก้าวออกมา ออกไปล้างหน้าซักหน่อยคงช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

     หมับ
     
     “คิดว่าจะหนีฉันพ้นหรือไง”

     แรงกระชากตรงข้อมือไม่ได้ทำให้ตกใจเท่าคนที่อยู่ตรงหน้า คราวนี้สติและลมหายใจราวกับถูกพรากออกไปพร้อมกัน ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ ตาเบิกกว้าง

     “ที่หนีเพราะมีความผิดจริงสินะ...ในที่สุดก็เจอซักที” เสียงเย็นเยียบดังขึ้นจนหัวใจสั่นสะท้าน ไรขนอ่อนลุกเกรียวขึ้นทั่วทั้งตัว แม้จะไม่เข้าใจนักถึงสิ่งที่อีกคนพูดแต่กานต์รักก็ยังพอจับใจความได้

     คะ ความผิดอะไรกัน เขาไปทำตอนไหน

     “ผะ ผม...ไม่รู้” แรงบีบตรงข้อมือเล็กเพิ่มขึ้นพร้อมกับดวงตาคมที่ประกายไปด้วยเปลวเพลิง

     “ไม่ต้องมาแสร้งเฉไฉ!”

     เฮือก

     เสียงทุ้มตะคอกใส่จนกานต์รักสะดุ้งสุดตัว มือไม้สั่น หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ทั้งที่มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากคนตรงหน้านั้นเขย่าขวัญจนตัวสั่น

     น่ากลัวเหลือเกิน

     “ผะ ผมไม่รู้...จริงๆ...ผม...ไม่...มะ..ได้ทำ”

     “ถ้าไม่ได้ทำแล้วจะกลัวทำไม” ท่าทาง น้ำเสียง และสายตาของคนตรงหน้าแม้เป็นใครก็ต้องนึกหวาดกลัว เขาไม่รู้จริงๆว่าอะไรทำให้คนตรงหน้านั้นไม่พอใจรุนแรงขนาดนี้ หรือเพราะเป็นเขาคุณแพททริกถึงไม่พอใจ การนอนกับคนอย่างกานต์รักมันอาจเป็นเรื่องแย่จนคนตัวสูงเป็นอย่างนี้

     “ผม...ขะ...ขอโทษ” อาจเพราะคืนนั้น ในตอนนั้นมันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของอีกคน แม้จะยาวนานและหนักหน่วงก็คงเป็นเพราะอยู่ในห้วงอารมณ์ของความต้องการทางธรรมชาติ แม้รู้ตัวดีว่าเป็นคนไม่คู่ควรแต่กานต์รักยังอยากเห็นแก่ตัวตักตวงช่วงเวลานั้นเอาไว้ ที่เอ่ยคำขอโทษนั้นคือขอโทษที่เขาเป็นคนไม่คู่ควร รู้ดีว่าไม่ควรแม้แต่จะเฉียดตัวเข้าไปใกล้คุณแพททริกเลยด้วยซ้ำ

     “หึ ยอมรับว่ามีความผิดจริงๆสินะ...บอกฉันมาว่านายเป็นใคร”

     หมายความว่ายังไงกัน?

     คำถามจากคนตัวใหญ่พลันทำให้ตระหนกจนใบหน้าหวานซีดขาว พิรุธที่เจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจสังเกตเห็นจนได้แต่แสยะยิ้ม

     ไม่ว่าคนตัวเล็กนี้จะเป็นคนของฝั่งไหน แพททริกก็จะไม่เก็บเอาไว้เด็ดขาด เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครส่งเด็กนี่มา!

     “จะไม่ยอมบอกอย่างนั้นเหรอ?” กานต์รักนิ่งเงียบไม่พูด แม้จะกลัวจนแทบสิ้นสติแต่เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรออกไป แรงบีบบนข้อมือนั้นไม่ได้ลดน้อยลงจนตอนนี้เจ้าของมันเริ่มรู้สึกชา ปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้าหล่อเหลาที่สลักในความทรงจำห่างกันเพียงคืบ มันคงดีกว่านี้หากกานต์รักได้พิศมองใกล้ๆโดยไม่ใช่สถานการณ์เช่นตรงหน้า

     “มาดูกันว่าคนอย่างฉันจะทำให้นายพูดออกมาไม่ได้” ร่างเล็กถลาไปตามแรงกระชากจนตัวแทบปลิว คนตัวสูงฉุดรั้งให้เดินลึกเข้าไปภายในก่อนจะเหวี่ยงร่างที่บางกว่าถึงครึ่งเข้าผนัง แววตาของคนตรงหน้านิ่งเรียบแต่เต็มไปด้วยความดุดัน กานต์รักภาวนาขอให้มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำบ้างโดยไม่รู้เลยว่าป้ายกำลังทำความสะอาดถูกหยิบขึ้นมาแขวนพร้อมกับมีบอร์ดี้การ์ดร่างสูงยืนเฝ้า

     “อื้อ!” ใบหน้าเล็กถูกบีบด้วยฝ่ามือใหญ่ก่อนริมฝีปากได้รูปจะทาบทับลงมา สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงจนคนได้รับรู้สึกเจ็บ ตาคู่สวยมีน้ำมาคลอก่อนจะไหลลงมาตามแก้มเมื่อกลั้นเอาไว้ไม่ไหว เสื้อเชิ้ตถูกกระชากออกจากตัวจนบาดผิวให้รู้สึกแสบ
     
     ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความรุนแรง ดุดัน ไม่ได้ให้ความรู้สึกวาบหวามเช่นวันนั้นเลยซักนิด ร่างกายทั้งสั่นไหวและกลัวเกรง กานต์รักไม่กล้าขัดขืนเพราะรู้ดีว่าแรงกายนั้นยังไงก็ไม่มีทางสู้ไหว ยิ่งขัดขืนอาจยิ่งแย่

     หรือมันอาจเป็นเพราะความต้องการลึกๆของใจตัวเอง

      “อ๊ะ!” ตุ่มไตเม็ดเล็กสีเชอร์รี่บนอกถูกขยี้ดึงอย่างไร้ความปราณี กานต์รักเริ่มดิ้นเพราะขาดอากาศหายใจกระทั่งริมฝีปากคู่นั้นผละออกไปจู่โจมในส่วนที่ต่ำกว่า จากแค่บีบกลับถูกขบกัดให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกเสียดเสียวก็แทรกเข้ามาทีละเล็กจนนึกระอาใจ

     ระ รู้สึก...อย่างนั้นได้ยังไง...มะ ไม่

     “ถ้านายไม่พูด...ฉันก็จะทรมานจนนายต้องยอมพูดมันออกมา” เข็มขัดเส้นสวยถูกกระชากดึงให้หลุดออกจากล็อค กระดุมกางเกงสแล็คถูกปลดออกพร้อมกับซิบที่ถูกเลื่อนลง นิ้วแกร่งเกี่ยวทั้งกางเกงตัวนอกและตัวในออกพร้อมกันจนมันไปกองอยู่บนข้อเท้าเล็ก เปิดเผยเรือนร่างบางทั้งหมดสู่สายตา

     “มะ ไม่นะ...อย่าทำ ฮึก อย่าทำรักเลย” เสียงร้องขอน่าสงสารดังขึ้นแต่นั่นไม่ได้ทำให้คนใจดำรู้สึกอะไร กานต์รักกลัว กลัวคนตรงหน้านี้เหลือเกิน

     “ถ้าไม่อยากให้ทำก็พูดออกมา...นายเป็นใคร!” คนถูกถามทำเพียงแค่ส่ายหน้าด้วยความกลัว เมื่อเห็นดังนั้นแพททริกจึงไม่รั้งรอที่จะจัดการขั้นต่อไป แล้วมาดูกันว่าเด็กนี่จะอดทนไม่พูดได้ซักแค่ไหน

     เรียวปากได้รูปขบกัดลงมาที่เม็ดกลางหน้าอกอีกครั้ง คราวนี้ลิ้นหน้าตวัดไล้ผ่านไปพร้อมๆกับดูดดึง สัมผัสนั้นไม่ได้โหดร้ายเช่นคราแรกและมันกำลังแผดเผากานต์รักด้วยความเสียวกระสัน

     “อึก...ฮ่ะ...อะ...อื้อ” เสียงครางผะแผ่วดังขึ้นแม้จะพยายามอดกลั้น ความรู้สึกเสียวปลาบเกิดขึ้นวูบวาบไปหมดจนต้องกัดปากแน่น ยิ่งคราวที่มือใหญ่ลูบไล้บีบเค้นไปทั่วร่างกานต์รักยิ่งแทบทนไม่ไหว ร่างกายบิดเร้าไปมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น

     “หึ แค่นี้ก็รู้สึกขนาดนี้เลยสินะ” น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นเมื่อคนตรงหน้าผละออก กานต์รักหลับตาแน่นกลั้นเสียงสะอื้นจากทั้งความเสียวและความกลัวเอาไว้ ต่อมาเมื่อได้ยินเสียงรูดซิบเบาๆจึงลืมตาขึ้นมองด้วยความตระหนก ถึงกระนั้นก็ไม่ทันเมื่อคนตัวโตขยับเข้ามาใกล้แล้วรุกล้ำสอดใส่เข้ามาด้วยความรวดเร็วและรุนแรง

     “โอ๊ย...จะ เจ็บ! ฮึก รักเจ็บ” แก่นกายใหญ่สอดใส่เข้ามาโดยไร้ซึ่งการเบิกทางใดๆ ความฝืดเคืองและความเจ็บปวดแล่นริ้วจู่โจมราวกับร่างกายกำลังฉีกขาดออกจากกัน ตาดวงโตเบิกกว้างพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นทาง

     เจ็บจนไม่รู้จะอธิบายว่ามันมากขนาดไหน

     “พูดออกมาสิ! เจ็บนักก็ยอมเปิดปากออกมาว่านายเป็นคนของใคร!” ร่างสูงกัดฟันพูดพร้อมกับเสือกกายเข้าหาลึกเข้าไปอีก ใช่ว่าคนทำไม่เจ็บแต่มันน้อยนักหากเทียบกันกับร่างเล็กที่ต้องรองรับความใหญ่โตโดยไม่ยินยอมทั้งร่างกายและจิตใจ เขาจะทำให้เด็กนี่พูดออกมาให้ได้ ในเมื่อถามดีๆไม่ตอบก็ต้องทรมานจนกว่าจะยอมพูด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2016 23:13:55 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
    (ต่อ)
     
     “อึก ฮือ...รัก...ไม่รู้...ไม่ใช่” ความรู้สึกฉีกขาดยังจู่โจมกลางกายเข้ามาไม่หยุด ทั้งเจ็บ จุก ชา ตีรวนจนกานต์รักอยากจะตายไปตรงนี้ ทรมานเหลือเกิน ไม่เหมือนเช่นวันนั้นเลย ทำไมคุณแพททริกถึงได้ใจร้ายกับเขานัก

     “ฉันให้นายเลือกแล้วนะ”

     “อ๊า!” สะโพกหนั่นแน่นกระชากออกก่อนจะกระทั้นกายเข้าหาด้วยความรุนแรง มือใหญ่บีบเค้นไปทั่วร่างอีกครั้งจนคาดว่ากายบางต้องขึ้นรอยช้ำ ลำคอระหงถูกจู่โจมด้วยปากร้อนจัดอันร้ายกาจ ฟันคมขบกัดลงมาจนได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ เบื้องล่างยังคงถูกกดแช่เอาไว้จนกระทั่งฝ่ามือหนาไล้มาเรื่อยๆจนถึงแก่นกายเล็ก

     “อะ อือ...ฮือ...ฮ่ะ” แรงรูดรั้งเกิดขึ้นรวดเร็วจนคนได้รับตั้งตัวไม่ทัน ความสนใจถูกละจากความเจ็บปวดไปยังความกระสัน เรียวลิ้นร้อนไล้เลียลงบนแผลตามลำคอที่ตัวเองเป็นคนกระทำพร้อมๆกับมือที่ชักนำให้กานต์รักตกลงไปให้ห้วงความเสียวซ่าน

     ไม่...ความรู้สึก...มัน...

     น้ำใสหยาดเยิ้มเริ่มไหลออกมาจากส่วนปลายเมื่อถูกกระตุ้นหนักเข้า ช่องทางที่เจ็บจนไร้ความรู้สึกตอดรัดเรือนกายแข็งแกร่งจนเจ้าของความใหญ่โตนั้นรู้สึกได้

     “อื้อ...คะ คุณ..แพท..อึก...ไม่..ไม่ไหว” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นถูกเปล่งออกมาเมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้นด้วยมือใหญ่ แรงรูดรั้งทั้งรัวและเร็วจนกานต์รักรู้สึกรับไม่ไหว

     ไม่ไหวแล้ว...จริงๆ

     “อ๊ะ...อะ...อิ๊...อ๊าาาา” ร่างเล็กกระตุกเกร็ง เชิดหน้าขึ้นแล้วเปล่งเสียงครางพร้อมกับปลดปล่อยออกมาจนสุด ฝ่ามือหนาเลอะไปด้วยน้ำแห่งอารมณ์ กานต์รักหอบหายใจจนตัวโยนราวกับไปวิ่งมารอบสนาม

     ความรู้สึกมัน...

     “อ่ะ...อะ” แก่นกายใหญ่โตค่อยๆขยับเคลื่อนออก ฝ่ามือใหญ่ที่เปื้อนตวัดเอาน้ำขุ่นลื่นไว้ในมือก่อนจะชโลมลงบนแก่นกายตัวเองที่รั้งออกมาเพียงครึ่ง ย่อสะโพกลงเล็กน้อย แสยะยิ้มกับตัวเองก่อนจะเสือกกายเข้าไปสุดแรง

     “อ๊า” ความรู้สึกรุนแรงราวกับถูกไฟช็อตแล่นริ้วขึ้นมาจนกานต์รักผวาเฮือก ปลายแก่นกายใหญ่กระแทกเข้ามาโดนจุดที่ไวต่อความรู้สึกอย่างจัง ร่างกายที่พึ่งปลดปล่อยเริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสะโพกสอบค่อยๆขยับออกแล้วแทรกเข้ามาใหม่อย่างหนักแน่น

     ปึก...ปึก

     เสียงสะโพกกระทบกันดังหยาบโลนในความเงียบ และทุกครั้งเสียงครางหวานจะหลุดออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้น แม้จะเจ็บมากแต่ความเสียวกระสันกลับมากกว่า ยิ่งโดนกระแทกซ้ำจุดเดิมร่างกายยิ่งตอบสนองจนคนได้รับดิ้นพล่าน

     รู้สึก...อึก...เกินไปแล้ว

     “อย่าตอดฉันขนาดนั้นสิ หึ” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูจนคนที่หลับตาแน่นขนลุกเกรียว ร่างกายสะท้อนขึ้นลงแรงขึ้นเมื่อจังหวะถูกกระทั้นนั้นต่อเนื่องไม่มีหยุด แผ่นหลังบางแนบกับผนังเย็นเฉียบเสียดสีจนเกิดเสียง

     “อิ...ฮ๊ะ...อ้ะ” ตอนนี้ความรู้สึกเจ็บปวดถูกบดบังไปด้วยความเสียวแทบทั้งหมด เล็บมือที่ถูกตัดสั้นจิกลงกับผนังดังครืด ในห้องน้ำดังก้องไปด้วยทั้งเสียงคราง เสียงความเสียดสีที่เชื่อมตรงกลางกลาย เสียงอะไรต่อมิอะไรที่ยิ่งเพิ่มอารมณ์สเน่หาให้โหมกระหน่ำ

     “มะ...ไม่...อ๊ะ” ความรู้สึกรุนแรงเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างกายถูกรุกเร้ามาจนถึงจุดที่จะทนไม่ไหว กานต์รักรู้ดีว่าความรู้สึกนี้คืออะไรเมื่อมันพึ่งเกิดขึ้นไปเมื่อครู่

     กึก

     แต่แล้วในขณะที่อารมณ์พุ่งขึ้นถึงขีดสุด อีกเพียงไม่กี่จังหวะจะได้รับการปลดปล่อยทุกอย่างกลับหยุดนิ่ง แรงตอดรัดถี่รัวจนคนหยุดสะโพกเอาไว้ต้องกัดฟันแน่น

     “ถ้านายไม่พูด...ก็ไม่ต้องเสร็จ”

     “ฮึก” ความทรมานเพราะอยากปลดปล่อยแล่นริ้วให้อึดอัดจนน้ำตาไหล ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกอย่างไรนอกจากร้องไห้สะอึกสะอื้น กานต์รักลืมตาขึ้นมองคนใจร้ายแม้ภาพตรงหน้าจะพร่าเลือนไปด้วยหยดน้ำตา

     “ฮือ...คะ...อึก...คนใจร้าย” ปากบางเปล่งคำต่อว่าด้วยเสียงอ่อนระโหย ไม่รู้....เขาไม่รู้อะไรแล้ว

     เพราะความต้องการปลดปล่อยนั้นมากล้น ร่างกายเล็กจึงเริ่มขยับด้วยความอึดอัด ให้ทนอยู่นิ่งเฉยต่อไปอีกไม่ไหว กานต์รักรู้สึกเหมือนตัวเองจะต้องตายหากอยู่นิ่งๆ

     “ห้ามขยับ!” มือหนาสองข้างเลื่อนมาบีบสะโพกเล็กตรึงเข้ากับผนังด้านหลัง แพททริกเองก็รู้สึกจนปวดหนึบกลางกายไปหมด แต่ด้วยประสบการณอันโชกโชนทำให้ยังอดทนไหว ร่างเล็กส่ายไปมาไม่รู้เรื่องราวอาจเล่นงานได้จนต้องบังคับให้อยู่นิ่ง ก็เอาสิ อย่างนี้ยังจะทนไหวไหม

     “ฮะ ฮึก...ยอมแล้ว...รักยอมแล้ว” คนตัวเล็กร้องขออ้อนวอนอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป

     “ยอมแล้วอย่างนั้นเหรอ” ใบหน้าเล็กพยักหงึกหงักอย่างน่าสงสาร

     “นายชื่ออะไร” เอ่ยถามพร้อมกับคลึงสะโพกหนาไปมาอย่างเชื่องช้า กดดันด้วยความเสียวซ่านให้คนตัวเล็กต้องยอมพูด

     “กะ กานต์รัก”

     “ใครส่งนายมา”

     “ไม่มี...รักมาเอง...อะ อ๊ะ”

     “ฉันไม่เชื่อ!”

     “รักมาเองจริงๆนะ...ฮึก...”

     “ถ้าไม่มีใครส่งมาแล้วนายหนีฉันทำไม!”

     “กลัว...รักกลัว”

     “ฉันจะเชื่อนายได้ยังไงว่านายไม่ได้ถูกใครส่งมาจริงๆ” พิรุธหลายอย่างที่สังเกตเห็นมันทำให้รู้ว่าร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังสั่นงกๆนั้นกำลังปกปิดอะไรบางอย่าง

     “จริงๆ...รักสาบาน...ฮึก...จริงๆนะ” ริมฝีปากบางถูกกัดเม้มพร้อมกับสายตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความต้องการช้อนขึ้นมอง หัวใจอันด้านชาสั่นไหวกับภาพตรงหน้าจนเผลอสบดวงตาที่คลอไปด้วยหยดน้ำนิ่ง ความต้องการใหญ่โตกระตุกเบาๆจนร่างเล็กหลุดเสียงคราง

     “นายยอมให้ฉันพิสูจน์รึเปล่าล่ะ”

     “อึก อื้อ...ยอม...ยอมแล้ว”

     “ทุกอย่าง?”

     “ฮึก ทุกอย่างเลย...อะ อ๊า” ยังไม่ทันสิ้นประโยคดีสะโพกแกร่งก็โยกเข้าหาด้วยความรวดเร็ว กานต์รักถูกดันติดผนังจนร่างแทบแบน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความซาบซ่านตรงหน้า ทุกครั้งที่แก่นกายใหญ่สอดลึกแทรกซึมเข้าหาด้วยความรุนแรง ความเสียวซ่านก็จะมากล้นจนต้องระบายเสียงออกมาจากลำคอ

     เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นจนน่าอายแต่ความต้องการนั้นมากกว่า สะโพกเล็กเผลอขยับตอบรับเป็นจังหวะอย่างไร้เดียงสาจนแพททริกครางฮึมในลำคอ ไฟอารมณ์กำลังแผดเผาคนทั้งคู่ หยาดเหงื่อจากความร้อนแรงไหลท่วมตัวแต่นาทีนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ควรสนใจ

     “อ่ะ...ฮะ...อ๊ะ...อื้อ...อึ๊”

     “อืม...” แรงตอดรัดถี่รัวจนคนมีประสบการณ์โชกโชนส่งเสียงในลำคอ ยอมรับว่าเด็กนี่ตอบรับอย่างไม่ประสาแต่กลับให้ความรู้สึกมากยิ่งกว่าคู่นอนที่เชี่ยวชาญหลายคน ความคับแน่นนุ่มร้อนนั้นโอบรอบกายจนต้องขยับเต็มแรง ไม่ใช่แค่คนใต้ร่างที่กำลังทนไม่ไหว แพททริกเองก็เช่นกัน

     “อิ๊...อีกนิด...ฮึก...คุณ...แพททริก” แม้อยากจะยกมือขึ้นโอบรอบคอแกร่งแต่กานต์รักรู้ตัวดีว่าไม่คู่ควรจะทำอย่างนั้นจึงทำได้เพียงจิกเล็บลงกับผนังแข็งหรือไม่ก็กำมือเข้าหาตัวเองระบายความต้องการ ฝ่ามือใหญ่ยังคงอยู่บนสะโพกบางบังคับจังหวะพร้อมกับโถมกายเข้าหาสุดแรง ร่างเล็กสะท้านโยกจนหัวคลอน

     “อ๊ะ...อะ...อื้อ...ฮึ...อีก...แรงอีก...ฮะ” สะโพกสอบจัดให้ตามคำร้องขอ คราวนี้อ้อมแขนแข็งแรงช้อนสะโพกเล็กขึ้นจนต้องพาดขาเกี่ยวเข้ากับเอวแกร่งอย่างหาที่ยึด คนตัวใหญ่ขยับไปอยู่ใต้ร่างจนช่องทางเล็กดูดกลืนความใหญ่โตลึกล้ำยิ่งขึ้น แขนเรียวจึงถูกยกโอบลำคอแกร่งอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเกรงว่าจะตก

     มันลึก...ลึกเกินไป...ทนไม่ไหว

     พับๆๆๆ

     เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะ ทุกครั้งแก่นกายใหญ่จะถูกรั้งออกแล้วเติมเต็มเข้าไปเช่นเดิมจนสุด เน้นย้ำจุดกระสันจนขาเล็กสั่นเกร็งด้วยความเสียว

     กานต์รักทนไม่ไหว...มันมากเกิน

     “ฮึก...อ๊า...อะ...ฮ๊ะ...อ่า...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊าาาาาาห์”

     “อึก...อื้มมม” ร่างเล็กเกร็งกระตุกตอดรัดก่อนจะปลดปล่อยทุกอยาดหยดออกมาราดรดเสื้อเชิ้ตสีครีมของอีกคน แพททริกกระแทกกระทั้นกายเข้าหาเน้นๆอีกเพียงไม่กี่ทีก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปในตัวจนกานต์รักตัวกระตุกตาม บั้นท้ายแน่นยังกระแทกเข้าหาต่ออีกสามสี่ทีให้คนใต้ร่างสั่นสะท้าน น้ำรักมากมายไหลเยิ้มออกจากช่องทางเล็กจนเปรอะไปทั่วกางเกงของคนทำ

     คราวนี้คนตัวเล็กไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจนต้องซบหัวลงกับลาดไหล่กว้าง กลิ่นน้ำหอมเย้ายวนผสมกับกลิ่นเหงื่อจนกานต์รักรู้สึกแปลกๆ

     มันดูเซ็กซี่แม้เป็นเพียงกลิ่นจางๆ

    “ระ รัก...ไม่รู้...ไม่รู้จริงๆ” ประโยคนั้นถูกเอ่ยออกมาอย่างอ่อนระโหยก่อนคนในอ้อมกอดจะแน่นิ่งไป แพททริกยังไม่ได้ถอนกายออกมาจากความอุ่นร้อนจนรู้สึกเหมือนความต้องการที่พึ่งปลดปล่อยออกมาเพียงครั้งเดียวนั้นจะไม่เพียงพอ

     โชคดีเหลือเกินที่เขาตอบรับมางานแต่งนี้ ตอนแรกแพททริกจะไม่มาเพราะคิดว่าเป็นงานไม่สำคัญ แต่แซมเป็นคนเอ่ยเตือนว่าภายในอนาคตอาจได้ร่วมงานกับตระกูลของเจ้าบ่าวจึงควรผูกมิตรเอาไว้ วินาทีที่ไม่รู้จะทำอะไรเพราะเบื่อกับคนมากมายที่เข้าหาเอาหน้าจึงนึกเดินออกมาหาอะไรกิน

     จนกระทั่งคนสนิทเอ่ยบอกว่าคนที่กำลังตามหายืนอยู่ตรงนั้นสองขาจึงไม่รอช้าเดินตรงเข้าไป แต่เด็กนี่ก็หนีออกมาซึ่งถือเป็นการลงล็อคให้เขาจัดการได้ง่ายขึ้น

     แม้จะเชื่อว่าคนตรงหน้าอาจไม่รู้เรื่องและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศัตรูทั้งหลายแต่เขาจะยังไม่วางใจ ไม่เคยมีใครที่แพททริกสืบประวัติไม่ได้ เด็กนี่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น

     ขยับกลางกายออกจากความอุ่นนุ่มอย่างเชื่องช้า ชั่ววินาทีหนึ่งนั้นราวกับว่าความรู้สึกเสียดายสอดแทรกเข้ามาในอกก่อนจะถูกสลัดออกไปอย่างรวดเร็ว แก่นกายใหญ่ถูกเชื่อมด้วยน้ำรักปนด้วยเลือดจางๆบ่งบอกถึงความรุนแรง

     เป็นอีกครั้งที่มีอะไรกับเด็กนี่โดยไม่ได้ป้องกันทั้งที่ไม่เคยพลาดกับใครเลยซักคน

     “แซม ให้คนเอาชุดใหม่มาให้ฉันเปลี่ยน” แพททริกโทรสั่งคนด้านนอกแล้วกดตัดสาย ชุดนี้เปื้อนไปทั้งชุดจนไม่สามารถเดินออกจากตรงนี้ได้ มือหนาเอื้อมไปดึงทิชชู่ข้างตัวออกมาแล้วเช็ดคราบที่เลอะให้ทั้งคนสลบไสลและตัวเอง ดึงกางเกงที่ร่นไปอยู่ปลายเท้าเล็กให้ขึ้นมาอยู่เช่นเดิมพร้อมกับรูดซิบติดกระดุมให้เรียบร้อยแล้วถอดสูทตัวนอกของตัวเองซึ่งไม่ได้เปื้อนไปสวมให้ส่วนบนที่เปล่าเปลือย

     ไม่นานนักเสียงเคาะประตูหน้าห้องน้ำก็ดังขึ้นพร้อมเสียงเรียก แพททริกรั้งร่างเล็กนั่งลงบนพื้นก่อนจะผละออกมาหาลูกน้อง

     “คุณแพททริกครับ”

     “เอามา” ยื่นออกไปเพียงมือให้ลูกน้องทางด้านนอกรับคำแล้วส่งของให้ก่อนประตูจะถูกปิดลงอีกครั้ง ร่างกายกำยำด้วยกล้ามเนื้อถอดกางกางที่ถูกรูดแค่ซิบออก เสื้อเชิ้ตก็ถูกสลัดไปอีกทาง สวมเสื้อผ้าชุดใหม่เข้าไปพร้อมกับเดินกลับไปหาคนที่ไม่ได้สติ ช้อนตัวร่างที่เบาราวกับปุยนุ่นขึ้นในอ้อมกอดแล้วเดินออกไป

     “เข้าไปจัดการในห้องน้ำให้เรียบร้อย...ให้คนไปจัดการเรื่องงานของเด็กนี่ด้วย บอกว่าคนชื่อกานต์รักไม่สบายขอกลับก่อน เรื่องงานให้พนักงานคนอื่นรับผิดชอบไป”

     “ได้ครับ”

     “ไปเตรียมรถ...ฉันจะกลับ”

     “ครับนาย”

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

Talk

สงสารน้องรักกกกกกกก :o12: :o12: คุณแพททริกใจร้ายมาก :serius2: :serius2:

เขินกับการแต่งเอ็นซีมากกกก~(ไม่ถนัดเลย><) ไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาอย่างนี้เลยนะ :mew3: :mew3: เรื่องนี้ไม่ใช่แนวร้อนแรง อีโรติกดราม่านะคะ(รึเปล่า)555555 มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังในอินโทรนัก น่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงไปมากกว่านี้แล้วเพราะคนแต่งสงสารน้องรักกกกกกก :monkeysad: :monkeysad: ไม่ต้องห่วงเรื่องดราม่าค่ะ คงไม่ได้หนักหนาอะไร เราไม่ถนัดแนวน้ำตาท่วมจริงๆ

     ขอบคุณมากๆสำหรับคนที่ติดตามและคนที่ชื่นชอบในชื่อเรื่องนะคะ...อ่านแล้วคอมเม้นต์เป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆให้เค้าได้น๊าาาา(จะคอมเม้นต์เป็นกำลังใจใหญ่ๆเลยก็ได้-///-) :mew2: :mew2:



จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?ref=bookmarks
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2016 23:09:34 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุณแพททริกใจร้ายเพราะเข้าใจกันไปคนละเรื่องกับรัก
คนหนึ่งดุดันใจร้ายใส่เพราะคิดว่าเป็นคนของศัตรู
คนหนึ่งขอโทษและกลัวเพราะคิดว่าตนไม่ควรไปนอนด้วย
รอวันเขาเคลียร์กัน แต่ก่อนอื่นคุณแพททริกอย่าลืมเคลียร์เรื่องนางเอกสาวด้วยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เหมือนทั้งคู่จะเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าคะ
หรือน้องรักไปแอบชอบอีตาพระเอกของเรา?
รอตอนต่อไปค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
รักน้อยผู้บอบบาง เจ็บมากไหมมมม

อิพี่มันทำน้องแรง เลือดออกเลย  :hao5: :hao5: :hao5:

ต้อไปทำเบาๆน้องจะได้ชอบ  :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
รอออออออ

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
โถ่ววว น้องรักกก
คุณแพทริกรุนแรงจุงง

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
 :pighaun: :pighaun:
ดุเดือดกันเหลือเกินค่ะ..คุณแพทขาาาา 
เบามือกะน้องบ้างนะค๊าา  บอบช้ำทั้งกายทั้งใจแล้ววว >.<~

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ถนอมน้องหน่อยเถอะคุ้ณณณณณณ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
                                                                       
ตอนที่ 2
     
     “คนไข้มีอาการช่องทางด้านหลังฉีกขาดแต่ยังดีที่ไม่ถึงขั้นต้องเย็บ...หมอจัดยาไว้ให้แล้วเรียบร้อย ช่วงนี้ควรงดการมีเพศสัมพันธ์อย่างเด็ดขาดจนกว่าคนไข้จะหายดี อีกอย่างคือควรจะระมัดระวังและเบาแรงกว่านี้เพราะส่วนนั้นเป็นส่วนที่บอบบางมาก”
     
     นายแพทย์ประจำปรายตามองหน้าผู้มีศักดิ์เป็นหลานพร้อมกับเอ่ยย้ำ อยู่ดีๆก็ถูกเชิญมารักษาเจ้าของเรือนร่างบอบบางที่มีสภาพหนักเอาการกลางดึก เห็นแล้วอยากจะตีคนตรงหน้าซักทีสองที

     มีอย่างที่ไหนกระทำชำเราเขาหนักขนาดนั้น แม้จะไม่รู้ว่าลูกชายของเพื่อนทำอะไรบ้างแต่ดูจากอาการแล้วคงรุนแรงน่าดู

     “ครับ...ผมจะระวัง” 

     “แพทนะแพท ระวังเขาจะแจ้งตำรวจมาจับเข้าสักวัน” ดูจากสภาพการณ์แล้วคนป่วยคงไม่ได้ยินยอมพร้อมใจเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีสภาพอย่างนี้

     “หึ คุณอาก็รู้ว่าตำรวจไม่มีทางทำอะไรผมได้...รบกวนอาหมอมามากแล้ว ยังไงเดี๋ยวผมให้คนไปส่งนะครับ”

     “ถ้าอาการเขาไม่ดีขึ้นยังไงก็อย่าลืมพาไปส่งโรงพยาบาลล่ะ”

     “ครับ”

     แพททริกล่ำลาผู้เป็นทั้งหมอและอาก่อนจะให้คนไปส่งให้เรียบร้อย แพทย์ประจำตัวถูกเรียกมาเพราะใครบางคนไข้ขึ้นอย่างหนักจนเกรงว่าจะเป็นอะไร ยอมรับว่าตนนั้นทำรุนแรงแต่หากเด็กนี่ยอมพูดออกมาคงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้

     เรือนร่างสูงใหญ่ก้าวย่างเข้ามาในห้องนอนกว้างอย่างมั่นคง ทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงแล้วทอดมองใบหน้าหวานที่หลับพริ้มนิ่ง

     “กานต์รักอย่างนั้นเหรอ...ก็เพราะดี”

                                                   
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋


     “อะ อื้อ” เปลือกตาสีอ่อนขยับเปิดขึ้นพร้อมกับเสียงครางอื้ออึงในลำคอ ความรู้สึกแรกที่รับรู้คือความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย ร่างกายราวกับถูกรถสิบล้อทับจนแทบขยับไม่ได้ สมองมึนเบลอสับสนระหว่างความฝันและความเป็นจริง เผดานขาวราวกับคุ้นเคยในห้วงความจำถูกกวาดมองไปทั่ว

     ที่นี่ที่ไหนกัน...

     พยายามนึกภาพเหตุการณ์ต่างๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้างทั้งที่สติยังไม่มั่นคงนัก

     งานแต่ง...กำลังจัดขนม...คุณแพททริก!

     เหตุการณ์หลังจากนั้นเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในหัวจนกระทั่งภาพถูกตัดไป ความร้อนแรงอันโหดร้ายทำให้ดวงตากลมเบิกกว้าง กานต์รักกวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างตระหนกจนนึกขึ้นได้ว่านี่คือห้องเดิมในคืนวันนั้น ความหวาดกลัวแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจพาให้ร่างกายกระเสือกกระสนลุกขึ้น แม้จะเจ็บจนน้ำตาไหลแต่ยังไงก็ต้องพยายามลุกขึ้นให้ได้

     ตุบ

     “อะ โอ๊ย” ร่างเล็กไร้ซึ่งเรี่ยวแรงตกปุกลงบนพื้น ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาจากทุกส่วนจนกานต์รักทำได้เพียงนั่งร้องไห้เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ดั่งใจ ความเจ็บปวดตรึงทุกอย่างไว้หมดสิ้น

     แกร๊ก

     “พยายามจะหนีหรือไง” เสียงเรียบเย็นเอ่ยขึ้นทางด้านหลังพลันทำให้คนที่กำลังร้องไห้ตัวแข็งทื่อ จำได้ดีว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใครจึงไม่กล้าแม้แต่จะหันหน้ากลับไปมอง จวบจนกระทั่งคนด้านหลังเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้า กานต์รักเลยยิ่งก้มหน้าให้ต่ำลงกว่าเดิม น้ำตาแห่งความเจ็บและความกลัวไหลรวมกันไปหมด

     “ฮึก” แม้จะพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้แค่ไหนก็ยังไม่อาจห้าม ความเจ็บปวดตามร่างกายพาให้จิตใจอ่อนไหวจนควบคุมได้ไม่ดีนัก มือเล็กยกป้ายเช็ดหยดน้ำตาออกจากแก้มเนียนแต่ดูเหมือนยิ่งเช็ดน้ำสีใสกลับยิ่งไหล

     “ร้องทำไม” แพททริกทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าคนที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อเห็นกานต์รักร้องไห้ราวกับกำลังเป็นอะไร

     “ฉันถาม!” เสียงตะคอกดังขึ้นจนทำให้กานต์รักสะดุ้งกระถดกายถอยหลังด้วยความหวาดผวา ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเงยขึ้นมองด้วยความตกใจ

     “จะ เจ็บ...รักเจ็บ ฮึก” เสียงใสเอ่ยตอบกระท่อนกระแท่นพร้อมหยดน้ำตาที่ร่วงพราว ร่างเล็กสั่นไหวด้วยความกลัว

     “เจ็บแล้วจะขยับตัวทำไม” เห็นอยู่ชัดๆว่าดื้อพยายามลุกขึ้นมา ยิ่งเห็นยิ่งน่าโมโห

     คอเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่ถูกคลุมบนเรือนร่างบอบบางตกลงมาจนเห็นลาดไหล่เนียนหนึ่งข้าง ชายเสื้อก็หมิ่นเหม่อยู่ตรงขาอ่อนเรียวขาวพาให้จินตนาการถึงส่วนที่อยู่ใต้นั้น เพราะมัวแต่นั่งร้องไห้เจ้าของร่างจึงได้ไม่ทันสังเกตสภาพตัวเอง ในขณะที่แพททริกต้องสะกดใจไม่ให้นึกถึงความหอมหวานนั้นจนต้องกัดฟันกรอด

     มันผิดที่เสื้อเขาตัวใหญ่เกินไปหรือเป็นเพราะเด็กนี่ตัวเล็กกันแน่

     “ฮะ ฮึก” เสียงร้องไห้ดังเล็ดรอดออกมาจนคนฟังแสดงอาการรำคาญผ่านทางสีหน้า กานต์รักรีบกลืนน้ำตาลงไปไม่ให้คนตรงหน้าต้องหงุดหงิดไปมากกว่านี้เนื่องด้วยเพราะกลัวโดนกระทำรุนแรงเช่นในห้องน้ำ อยากบอกเหลือเกินว่าที่พยายามหนีเพราะกลัว หากแต่พูดออกไปคงโดนหนักกว่าเดิม

     “หยุดร้อง!” เสียงทุ้มตวาดก้องจนคนร้องไห้สะดุ้งกายอีกรอบ น้ำตาหยุดกึกราวกับสั่งได้ ยามมือหนาเอื้อมมาใกล้ร่างกายจึงยิ่งพยายามถอยหนีโดยอัตโนมัติ ท้ายสุดแล้วก็ไม่พ้นเมื่อร่างเล็กถูกกระชากเข้าหาก่อนจะลอยขึ้นสู่อ้อมแขนแข็งแรงของอีกคน การกระทำที่คนป่วยหลับตากัดปากแน่น หัวใจเต้นถี่รัวด้วยความกลัว

     แต่ก่อนจะได้จินตนาการภาพอันน่าหวาดผวาไปมากกว่านั้นร่างกายก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มของเตียง หัวเล็กแตะถึงหมอนและรับรู้ได้ว่าผ้าห่มผืนหนาถูกคลี่คลุมลงบนตัวอย่างลวกๆ

     “อย่าคิดที่จะหนีเด็ดขาด” แพททริกพูดเสียงเข้มให้คนที่ลืมตามองอย่างกล้าๆกลัวพยักหน้ารับหงึกหงึก ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและความกลัวแล้วได้แต่สบถกับตัวเองในใจ

     ไม่ต้องมาทำตาซื่อใส่!

     คนตัวสูงก้าวลงจากเตียงแล้วปิดประตูดังปัง กานต์รักมองการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วนั้นอย่างไม่เข้าใจนักแต่ก็ยังโล่งอกที่ไม่ถูกฆ่าไปเสียก่อน ได้แต่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงท่าไหนท่านั้นโดยไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ยามได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งร่างทั้งร่างก็เกร็งขึ้น

     “ลุกขึ้นมากินข้าว” เสียงเรียบนิ่งทำให้คนป่วยขยับตัวทำตามอย่างว่าง่าย แม้จะลำบากจนน้ำตาซึมแต่ต้องสั่งตัวเองในใจว่าห้ามร้อง

     เมนูเดิมเช่นในวันนั้นส่งกลิ่นหอมหวนจนกระเพาะส่งเสียงประท้วง ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นสลบไปนานแค่ไหนแต่ก็คงมากพอจนทำให้รู้สึกหิวขนาดนี้

     “กินซะ” มือบางรีบหยิบช้อนตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าแล้วรับเข้าปากด้วยความรวดเร็ว ประคองมืออันสั่นเทาไม่ให้ทำอาหารหกลงบนเตียงด้วยความระมัดระวัง คนตัวโตยืนจ้องจนรู้สึกเกร็งไปหมดแต่ด้วยเพราะความหิวทำให้กานต์รักตักข้าวต้มเข้าปากได้เรื่อยๆโดยพยายามไม่สั่นไหวกับสายตาคมคู่นั้น จนกระทั่งทานได้เกินครึ่งถ้วยถึงได้วางช้อนลงแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

     “ทานยาเข้าไปด้วย” แก้วเล็กมียาสีขาววางอยู่สองสามเม็ด เพราะไม่แน่ใจว่าใช่ของตัวเองหรือไม่จึงไม่ได้หยิบเข้าปากจนเมื่อได้ยินคำสั่งนั้น แต่แล้วไม่รู้ทำไมพอนึกถึงการกินยาความฝันที่กึ่งหลับกึ่งตื่นจึงแล่นเข้ามาในหัว

     ‘กินยาซะ...เปิดปาก...กลืนมันลงไป’

     ราวกับได้ยินคำพูดพวกนี้ในที่ไหนซักแห่งแต่กลับนึกไม่ออกว่าคือที่ใด กานต์รักสลัดหัวตัวเองเบาๆให้ความฝันนั้นสลายไปก่อนจะรีบหยิบยาขึ้นมาเทเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม

     “ผะ ผมอยากอาบน้ำ” ตาโตใสเหลือบขึ้นมองอย่างกล้าๆกลัวๆ ความไม่สบายตัวมากล้นจนต้องเอ่ยร้องขอเสียงเบา ยิ่งยามสัมผัสได้ว่าร่างทั้งร่างไร้อาภรณ์ซักชิ้นนอกจากเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ติดกายยิ่งทำให้อยากเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ฝ่ามือน้อยขยุ้มผ้าห่มผืนหนาแน่น ความขัดเขินแล่นริ้วขึ้นมาจนสองข้างแก้มร้อนผ่าว

     ร่างสูงนิ่งเงียบไร้การตอบรับแต่กลับขยับก้าวเข้ามาตวัดผ้าห่มออกจากกายบางจนกานต์รักผวาตาม

     “อ๊ะ” ร่างเล็กร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับแขนเรียวที่โอบตวัดรอบลำคอแกร่ง ชายเสื้อเชิ้ตเลิกขึ้นจนขาอ่อนเปิดเปลือยแทบทั้งหมด กานต์รักได้แต่เบือนหน้าหนีภาพนั้นเพราะความเขินอาย ไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองว่าอีกคนเห็นอะไรต่อมิอะไรหรือไม่ ครั้นจะเอามือดึงชายเสื้อลงมาปิดก็กลัวว่าจะตก

     ความแนบชิดที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันคาดคิดและตั้งตัวพาให้ใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำ จมูกเล็กสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมจางๆจากคนตัวสูงยิ่งทำให้นึกถึงยามมันผสมกลับกลิ่นเหงื่อเร่าร้อน

     หยุดคิดเดี๋ยวนี้นะกานต์รัก...ลามกใหญ่แล้ว!

     ดวงหน้าหวานส่ายสะบัดน้อยๆพร้อมกับหลับตาลงแน่นเพื่อทำให้ภาพเหล่านั้นหลุดออกจากหัว สั่งตัวเองว่าห้ามคิดไปไกลกว่านั้น จนกระทั่งถูกอุ้มเข้ามาวางลงในอ่างอาบน้ำกว้างจึงค่อยลืมตาขึ้นด้วยความโล่งอก

     “รีบอาบ” คนตัวโตสั่งเพียงสั้นๆก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้อีกคนได้แต่มองตาม

     กานต์รักเหลือบมองทั่วห้องน้ำกว้างที่เคยเข้ามาแล้วครั้งหนึ่งก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตติดกายออกเมื่อมั่นใจว่าอีกคนเดินออกไปแล้ว มือบางถือเสื้อตัวใหญ่ในมือเอาไว้นิ่ง ไม่อยากจะนึกว่าเจ้าของเสื้อคือคนใจร้ายแต่หัวใจก็กลับสั่นไหวเมื่อเผลอคิดไปว่าคุณแพททริกคือเจ้าของ

     ก่อนจะคิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงทุ้มราบเรียบที่เอ่ยย้ำให้รีบอาบก็ผุดเข้ามาในหัวจนต้องรีบวางเสื้อไว้ด้านข้างในตำแหน่งปลอดภัย ขยับตัวด้วยความเชื่องช้า เอื้อมมือเล็กไปเปิดน้ำอุ่นให้ไหลลงอ่าง นั่งนิ่งรอคอยพร้อมกับคิดอะไรกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อย

     ไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกพามาที่นี่ ที่ร้านจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ อยู่เฉยๆเขาก็หายตัวมาพี่ไหมกับพี่ถิงคงวุ่นและเป็นห่วงน่าดู โทรศัพท์และกระเป๋าตังค์ก็ไม่ได้ถูกหยิบมาด้วย มีเพียงแต่ตัวเท่านั้น

     แกร๊ก

     “บอกให้รีบอาบ ไม่เข้าใจหรือไง” เรือนร่างสูงใหญ่เดินทะมึงเข้ามาพร้อมผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมในมือ กานต์รักเบิกตากว้างเมื่อน้ำใสแจ๋วทำให้เห็นเรือนร่างไปถึงไหนต่อไหนไม่ต่างจากการยืนเปลือยกาย ร่างเล็กรีบกระถดหันหลังให้คนที่เข้ามาเพื่อปิดบังส่วนที่นึกอาย

     จะเดินเข้ามาไม่คิดจะส่งเสียงบอกกันก่อนบ้างเลย

     “ผะ ผมรอน้ำเต็ม” สรรพนามที่ควรพูดถูกนำมาใช้เมื่อมีสติและอารมณ์มั่นคง นึกขึ้นแล้วก็อายที่หลุดแทนตัวเองด้วยชื่อราวกับคนสนิท เสียงหวานสั่นเอ่ยตอบพร้อมกับพวงแก้มร้อนผะผ่าว รับรู้ได้ว่าอีกคนยังยืนอยู่ด้านหลังไม่ได้ขยับไปไหน

     แผ่นหลังบางเนียนขาวปรากฏสู่สายตาของแพททริก ลมหายใจหนักแน่นพลันติดขัดขึ้นมาจนต้องแสร้งเอ่ยเสียงดุ

     “มันเต็มแล้ว”

     “ถ้าอย่างนั้นคุณแพททริกช่วยออกไปก่อนได้ไหมครับ...ผมจะได้รีบอาบ”

     “แล้วอย่าให้ฉันต้องเข้ามาบอกอีก” เสียงฝีเท้าหนักแน่นห่างออกไปพร้อมกับเสียงประตูถูกปิดลง กานต์รักรีบหันมาปิดน้ำ หยิบขวดสบู่เหลวออกมาเทแล้วตีให้เกิดฟองเพื่อชำระล้างความสกปรกของร่างกาย แม้อยากจะแช่ให้ความเจ็บปวดเมื่อยล้าทุเลาลงแต่ด้วยความกลัวเกรงว่าคุณแพททริกจะเข้ามาอีกจึงต้องรีบจัดการตัวเอง

     ลูบไล้ไปทั่วตัวจนกระทั่งถึงช่องทางคับแคบ ความแสบและความเจ็บแล่นพล่านเข้าหาจนต้องเบ้หน้า กานต์รักลูบไล้ทำความสะอาดส่วนนั้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะรีบล้างตัวเอาสบู่ออก เอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาเช็ดตัวแล้วสวมชุดคลุมอาบน้ำให้เรียบร้อย

     สองขาเรียวพาตัวเองขยับก้าวเดินไปทางอ่างล้างหน้าด้วยความเชื่องช้าเพราะรู้สึกอยากแปรงฟัน ทุกย่างก้าวช่างทรมานแต่กานต์รักก็กัดฟันทนจนกระทั่งถึงที่หมาย ดวงตาใสเหลือบเห็นแปรงสีฟันอันใหม่ซึ่งยังไม่ได้ถูกแกะใช้วางอยู่ อยากจะหยิบมันขึ้นมาแต่นึกได้ว่าควรต้องขออนุญาตเจ้าของเสียก่อน

     เนื่องด้วยกว่าจะเดินมาถึงนี่ใช้แรงไปไม่น้อย ก้าวแต่ละทีก็จุกเสียดจนคิดว่าให้เดินต่ออีกคงไม่ไหวฝ่ามือเล็กจึงยกขึ้นเคาะประตูเบาๆเพื่อส่งสัญญาณให้คนด้านนอก ไม่นานนักบานประตูก็ถูกเปิดออก

     “ผมขอแปรงฟันได้ไหมครับ” กานต์รักหลุบตาต่ำร้องขอ

     “อืม”

     “ขอบคุณครับ” หมุนตัวเอี้ยวกายอย่างระมัดระวังความเจ็บปวดแล้วหยิบแปรงสีฟันขึ้นมาแกะก่อนจะก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อจัดการตัวเอง อีกคนยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกานต์รักเผลอหลุบสายตาไปมองหลายครั้ง ไร้ซึ่งคำพูดใดๆนอกจากเสียงแปรงเสียดสีกับฟันสวย จนกระทั่งเรียบแล้วใบหน้าผุดผ่องจึงเงยขึ้น

     พอได้ชำระร่างกายก็รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นจนเริ่มขยับเดินได้บ้าง เมื่อคนตัวโตจ้องมองนิ่งก่อนจะผละออกไปร่างเล็กจึงก้าวเดินตามอย่างช้าๆ

     “นอนลง” คำสั่งจากคนตรงหน้าดังขึ้นให้กานต์รักมึนงง แต่ถึงอย่างนั้นร่างเล็กก็พาตัวเองก้าวขยับขึ้นบนเตียงอย่างว่าง่ายแม้จะยังไม่เข้าใจคนตัวสูงนัก

     “นอนคว่ำ”

     “คะ คุณแพททริกจะทำอะไรครับ” ใจดวงน้อยเริ่มภวังค์ไปถึงความน่ากลัวต่างๆมากมาย ดวงหน้าหวานเอียงซบหมอนใบโตแล้วซุกหน้าลงหลับตาแน่น ไม่กล้าคาดเดาว่าอีกคนสั่งให้ทำอย่างนี้ทำไม

     “คุณแพททริก!” ชายชุดคลุมอาบน้ำถูกเลิกออกโดยคนที่ทรุดกายลงนั่งบนขอบเตียง กานต์รักเอี้ยวตัวกลับไปมองภาพน่าอายนั้นพร้อมกับหลุดเสียงร้องเรียกชื่ออีกคนด้วยความตกใจ

     บันท้ายเนียนเต่งตึงปรากฏขึ้นท่ามกลางความสว่างไสวของแสงจากภายนอก สองข้างแก้มร้อนผ่าวราบกับถูกไฟร้อนนาบใบหน้า มือแกร่งตรึงสะโพกเล็กให้แนบกับเตียงจนแทบขยับไม่ได้ กานต์รักอายเสียยิ่งกว่าอายแม้ว่าอีกคนจะทำหน้านิ่งไร้ซึ่งความรู้สึกก็ตาม

      “อยู่เฉยๆ!” ด้วยเพราะอยากปกปิดความน่าอายนั้นร่างเล็กจึงพยายามขยับกาย แม้รู้ดีว่าไม่ได้ช่วยอะไรแต่ก็ไม่สามารถทำใจนอนนิ่งให้คนอื่นจดจ้องเรือนร่างได้

     กานต์รักคิดว่าตอนนี้ตัวเองนั้นอยู่ในสภาพที่น่าอายที่สุด แต่เมื่อยามมือแกร่งจับขาเรียวให้แยกออกจากกันจึงได้รู้ว่าความน่าอายยังมีได้มากกว่านั้น

     “คุณแพททริก!”

     ชื่อของคนตัวสูงถูกร้องเรียกอีกครั้งเมื่อบั้นท้ายเนียนถูกเปิดเปลือยไม่พอสองขาเรียวยังถูกแยกออกห่างให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน อายแสนอายจนเจ้าของความอร่ามนั้นหันกลับมาซุกใบหน้าลงกับหมอนพลางกัดปากและหลับตาแน่น ไม่อยากจินตนาการภาพว่าใครบางคนมองอยู่ด้วยสายตาอย่างไรให้นึกอายยิ่งกว่าเดิม แม้จะมองไม่เห็นแต่ราวกับรู้สึกได้ว่าสายตาคมปราดมองไปทั่ว ความเห่อร้อนลามไปหมดจนผิวเนียนขึ้นสีทั้งตัว

     หากกานต์รักกัดลิ้นตายตรงนี้ได้ก็อยากจะทำ

     เสียงสวมถุงมือยางดังขึ้นในความเงียบ ก่อนจะได้หันไปมองสัมผัสเย็นวาบตรงช่องทางเล็กก็เกิดขึ้น

     “อ๊ะ คุณแพททริกจะทำอะไรครับ!” ด้วยความไม่ได้ตั้งตัวและสัมผัสเย็นๆของความนุ่มนั้นทำให้เสียงเล็กอุทานออกมาด้วยความตกใจ สะโพกบางขยับจะพลิกกลับแต่ติดตรงมือใหญ่ตรึงเอาไว้แน่น

     คนตัวโตไม่ได้สนใจจะตอบคำถามนั้น ช่องทางคับแคบที่บวมแดงถูกชำระเช็ดด้วยน้ำเกลือตามคำแนะนำของหมอ สายตาคมจ้องมองมันอย่างตั้งอกตั้งใจจนที่นอนคว่ำรีบผินหน้ากลับมาเช่นเดิมเพราะไม่สามารถทนมองภาพความน่าอายนั้นได้

     ใจดวงน้อยสั่นสะท้านจนเจ็บหน้าอก ปากเล็กก็ถูกขบกัดเอาไว้แน่นกลั้นไม่ให้เสียงที่ไม่สมควรหลุดรอดออกมา

     กานต์รักไม่กล้าทักท้วงหรือเอ่ยถามอะไรเพราะสะเทิ้นอายเกินกว่าจะส่งเสียง นึกถึงยามใบหน้าคมจดจ้องช่องทางของตัวเองแล้วพลันอยากจะให้ร่างกายมลายหายไปกับอากาศ

     ความเย็นวาบเกิดขึ้นเพราะตรงนั้นถูกเช็ดด้วยสำลีนิ่มตอกย้ำสัมผัสอันน่าอาย แต่ละนาทีที่ผ่านไปช่างเชื่องช้าราวกับมีคนรั้งเข็มนาฬิกาเอาไว้ จวบจนกระทั่งสัมผัสนุ่มเย็นนั้นผละออกไปกานต์รักถึงได้หายใจได้อย่างสะดวกขึ้นมาบ้าง

     ชายเสื้อคลุมถูกดึงลงเช่นเดิมก่อนจะได้ยินเสียงถุงมือที่ถูกถอดหลังจากทาเบตาดีนจนเรียบร้อย

     “ขะ ขอบคุณครับ” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณในลำคอ ขอบคุณที่อย่างน้อยก็ยังยอมดูแลไม่ได้ปล่อยให้เขาเป็นอะไรไปมากกว่าเดิม

     คนใจร้ายที่ยังใจดี...

     “ฉันรับผิดชอบเพราะฉันเป็นคนทำ อีกอย่าง...ตรงนั้นมันเป็นของฉัน” พูดเสร็จคนตัวสูงก็เดินออกจากห้องไปทิ้งให้คนฟังยังนอนนิ่งในท่าเดิม

     ตรงนั้นมันเป็นของฉัน...

     ตึกตัก

     มือบางยกขึ้นมาขยุ้มหน้าอกของตัวเองเอาไว้แน่น ใจดวงน้อยเต้นแรงจนนึกกลัวว่าจะเป็นโรคหัวใจ เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่อยู่ด้วยกันอีกคนทำให้หัวใจของกานต์รักเต้นแรงแทบทุกวินาที

     แม้คำพูดนั้นอาจไม่ได้หมายถึงคำหวานในด้านที่กานต์รักคิดแต่ใจเจ้ากรรมก็ยังอยากเข้าข้างตัวเอง อย่างน้อยเสี้ยวหนึ่งในความรู้สึกของคุณแพททริกก็ยังมีเขาอยู่ในนั้น แม้จะมีเอาไว้เพียงเพื่อระบายความต้องการแต่กานต์รักก็ยังรู้สึกปลื้มใจ

     เรือนร่างเพรียวค่อยๆขยับพลิกตัวนอนหงาย ดวงตาใสกวาดมองเพดานขาวนิ่งพร้อมกับได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมาในหัว

     ราวกับกำลังฝัน...การได้อยู่กับคุณแพททริกอย่างนี้มันยิ่งกว่าที่เคยจินตนาการ ไม่ว่าจะด้วยอะไรหรืออีกคนมองเขายังไงแต่เพียงเท่านี้กานต์รักก็พอใจมากแล้ว แค่หนึ่งวันก็มากพอ

     แกร๊ก

     “ใส่เสื้อผ้าซะ” แพททริกเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงที่อีกคนยังนอนนิ่งก่อนจะเอ่ยบอก เสื้อผ้าชุดใหม่ถูกเตรียมมาให้เรียบร้อยไม่ต้องให้กานต์รักใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่อีกต่อไป คนตัวน้อยขยับตัวลุกขึ้นนั่งทั้งที่ใจยังคงเต้นแรง ยื่นมือบางไปรับเสื้อผ้ามาไว้ในมือก่อนจะค่อยๆก้าวลงจากเตียงเพื่อเปลี่ยนชุดตามคำสั่ง

     ยามเห็นชั้นในตัวน้อยที่ยังไม่ได้แกะป้ายใบหน้าก็พลันเห่อร้อนขึ้นอีกครั้ง ดูจากไซส์แล้วไม่ใช่ขนาดของคนด้านนอกเป็นแน่ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ขนาดชั้นในของเขาได้อย่างไรพอสวมใส่ถึงได้พอดีราวกับจับวาง ทั้งเสื้อและกางเกงเองก็เช่นกัน

     เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วกานต์รักจึงเดินออกจากห้องน้ำ ในขณะที่คนตัวสูงยังคงยืนนิ่งอยู่ข้างเตียงตำแหน่งเดิม

     “จำเช็คใบนี้ได้ไหม” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยถามคนที่พึ่งเดินออกจากห้องน้ำมา กานต์รักหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นสิ่งที่แพททริกถือไว้ในมือ

     “...”

     “วันนั้นนายไม่ได้หยิบมันไป” แน่นอนว่ากานต์รักจำได้ดีและเป็นความตั้งใจที่จะไม่หยิบมันออกมา แม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุที่อีกคนเอ่ยถึงเรื่องนี้ว่าเพราะอะไรแต่ใจดวงน้อยก็พลันหวาดกลัวคิดไปไกล

     “...”

     “คืนนั้นเราตกลงกันว่ามันเป็นเรื่องของการซื้อขายแต่นายกลับไม่สนใจเช็คใบนี้ทั้งที่สามารถจะเขียนจำนวนเงินเป็นเท่าไหร่ก็ได้...ไม่ได้ขายตัวเพราะฉันเป็นคนแรกของนาย...ประวัติก็สืบหาไม่ได้ว่าเป็นใครมาจากไหน...”

     “...”

     “ฉันจะให้โอกาสอีกครั้ง...นายเป็นใครกานต์รัก” ทุกคำพูดที่ออกจากริมฝีปากได้รูปนั้นกานต์รักได้ยินและเข้าใจหมดทุกสิ่งอย่าง เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณแพททริกถึงได้ทำท่าราวกับเขามีความผิด เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงได้พามาที่นี่

     เพราะเรื่องราวทุกอย่างมันน่าสงสัยอย่างที่อีกคนพูด

     “ผมขอโทษ...” กานต์รักเอ่ยตอบเสียงเบา ดวงหน้าหวานก้มลงมองพื้นอย่างไม่กล้าสบสายตาคมคู่นั้น เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ ไม่สามารถอธิบายในสิ่งที่คนตัวสูงสงสัยได้

     “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ!” แพททริกตวาดลั่น มองเรือนร่างบอบบางของคนตรงหน้าด้วยแววตาวาวโรจน์ แม้ว่าจะพยายามให้โอกาสแต่คนตรงหน้ากลับทำลายมันเสียทุกครั้ง

     “ฉันให้โอกาสนายแล้วนะ...ถ้าใจดีด้วยไม่ชอบก็อย่ามาหาว่าฉันใจร้าย” เรียวขาแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก้าวเดินไม่กี่ครั้งก็ถึงตัวกานต์รัก มือใหญ่คว้าต้นแขนเล็กแล้วบีบแน่น ใบหน้าหวานเงยขึ้นมอง ดวงตาโตมีหยาดน้ำมาคลอแต่คนมองไม่คิดจะสนใจ

     “แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่มีวันคิดร้ายกับคุณ...ไม่เคยแม้แต่จะคิด”

     “ถ้าไม่คิดก็พูดออกมา! นายเป็นใคร!” ฝ่ามือหนาเขย่าแรงจนกานต์รักหัวสั่นคลอน หยาดน้ำใสที่เคยเอ่อคลอไหลลงบนแก้มนวลอย่างช้าๆ

     พูดออกไปไม่ได้...

     “...”

     ผลัก

     แพททริกสะบัดร่างเล็กลงบนเตียงก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานที่มีหยาดน้ำตานิ่ง

     “ถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันรู้เรื่องทั้งหมด...ฉันไม่เก็บนายเอาไว้แน่” เสียงทุ้มห้าวเอ่ยก้องก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้กานต์รักมองตามแผ่นหลังกว้างพร้อมกับน้ำตาที่ร่วงพราว

                                                                 
❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋ ❋

     “เครียดกับงานเหรอคะ ให้เดซี่ช่วยคุณนะ” มือบางลากไล้ตามคอเสื้อตัวแพงลงมายังกระดุมที่เรียงเป็นแถว หน้าอกอวบอิ่มจงใจเบียดแทรกกับหลังแกร่งอย่างยั่วยวน เล็บที่เคลือบด้วยสีแดงสดค่อยๆกลัดมันออกจากรังดุมจนกระทั่งแผ่นอกหนั่นแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อปรากฏแก่สายตา

     แพททริกยังคงนั่งนิ่งไม่ได้สนใจสัมผัสเหล่านั้น อารมณ์ทุกอย่างยังคุกกรุ่นอยู่ในอกจนต้องหาที่ระบาย ในหัวคิดแต่เรื่องของกานต์รักจนนึกหงุดหงิดใจ

     ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมถึงไม่พูดมันออกมา!

     “มีอะไรบอกเดซี่ได้นะคะ” แขนเรียวโอบตวัดลำคอแกร่งจากทางด้านหลัง ซบหน้าเข้ากับข้างแก้มของแพททริกอย่างออดอ้อน

     “...”

     “เดี๋ยวเดซี่จะทำให้คุณลืมความเครียดเอง” ลิ้นร้อนลากไล้ตั้งแต่ใบหูลงมาตามลำคอแกร่ง ปลุกเร้าอารมณ์คนตัวสูงด้วยสัมผัสอันเย้ายวน ก่อนเรือนร่างบางระหงจะผละออกแล้วเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้า แอ่นกายทรุดตัวนั่งคร่อมลงบนตักของชายหนุ่มพร้อมกับขยับริมฝีปากเข้ามาทาบทับอย่างเชื่องช้า

     ลิ้นเล็กชอนไชดูดดึงเข้าหาในขณะที่แพททริกยังคงเฉยแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสจากดาราสาว สะโพกอิ่มบดเคล้าให้ใจกลางสัมผัสกันอย่างช้าๆด้วยความจงใจ กระโปรงตัวน้อยรัดติ้วเลิกขึ้นจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน ในขณะที่ทั้งห้องมีเพียงเสียงเรียวลิ้นดูดกลืนดังขึ้นในความเงียบ

     “ว๊าย” เสียงร้องอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นเมื่ออีกคนผละออกแล้วพลิกกายบางให้เป็นฝ่ายนอนราบกับโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะทาบทับลงมา เรียวปากร้อนจู่โจมเข้าหาอย่างรวดเร็ว ชุดเดรสที่ตั้งใจใส่มาเพื่อเอาใจนั้นถูกฉีกทึ้งอย่างไม่ใยดี

     เสียงหวานกรีดร้องครวญครางอย่างสุขสมเมื่อถูกเติมเต็มอย่างเร่าร้อน แพททริกเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็คในทุกๆด้าน เรื่องบนเตียงเช่นกัน ยามร่างใหญ่กระทั้นกายเข้าหาด้วยความรุนแรงเสียงครวญครางอันสุขสมกลับยิ่งดังขึ้น สองร่างรัดรึงหยัดกายเข้าหากันโดยไม่มีใครยอมใคร

     แพททริกเสือกไสกายเข้าหาเพื่อระบายความรู้สึกครุกกรุ่นของตัวเอง ไม่ได้สนใจเรือนร่างที่บิดเร้าด้วยความเสียวซ่านเลยซักนิด ความหงุดหงิดทุกอย่างถูกระบายออกมาผ่านกิจกรรมอันเร่าร้อน จวบจนกระทั่งอีกคนสลบไสลไปเพราะร่างกายทนรับศึกหนักต่อไปไม่ไหว

     เรือนร่างสูงใหญ่ขยับออกเมื่อปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่นับไม่ได้ ถุงยางเกลื่อนเต็มพื้นก่อนอันสุดท้ายจะถูกโยนตามลงมา แพททริกผละกายออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองจนเรียบร้อยก่อนจะทิ้งคนสลับไสลไว้ในนั้นอย่างไม่ใยดี

     “จัดการเรื่องเช็คด้วย”

     “ครับนาย”

                                                     
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋


ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
     (ต่อ)

    ก๊อก ก๊อก

     เสียงเคาะประตูดังขึ้นในความเงียบปลุกคนที่นอนสลบไสลให้รู้สึกตัวอย่างช้าๆ กานต์รักลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดพร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งที่ลามไปหมดทั้งหัวและดวงตา

     แกร๊ก

     เพราะไร้การตอบรับจากคนข้างในคนเคาะจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา ก่อนแสงไฟในห้องจะสว่างโล่ขึ้นจนคนพึ่งรู้สึกตัวต้องหลับตาลงอีกครั้ง

     “ขอโทษค่ะ แต่นี่ดึกมากแล้วคุณควรจะทานอะไรซักหน่อย” แม่บ้านผู้สูงวัยเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ ความเป็นมิตรฉายชัดบนใบหน้าใจดีนั้นจนกานต์รักรู้สึกสบายใจ

     “ขอบคุณครับ...แต่ผมไม่หิวเลย” เสียงแหบพร่าของคนพึ่งตื่นนอนเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มเศร้า รู้สึกตื้อไปหมดจนทำให้ความอยากอาหารนั้นหายไป แม้ว่าอาหารในถาดจะหน้าตาน่าทานแค่ไหนก็ตาม

     “ไม่หิวก็ทานซักหน่อยเถอะค่ะ คุณต้องทานยา” กานต์รักมองหน้าคนพูดอย่างอึดอัดใจ

     “...ก็ได้ครับ” รอยยิ้มใจดีระบายบนใบหน้าอ่อนโยนก่อนร่างท้วมอุ้ยอ้ายจะวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง

     “ขอบคุณครับ”

     “เดี๋ยวอีกซักหน่อยป้าจะเข้ามาเก็บนะคะ” กานต์รักรับคำในลำคอ รอยยิ้มหวานถูกส่งไปให้อีกคนอย่างขอบคุณ พอประตูห้องนอนถูกปิดลงร่างเล็กจึงขยับนั่งบนขอบเตียบ เอื้อมมือไปตักอาหารเข้าปากอย่างเชื่องช้า แต่สุดท้ายทานไปได้เพียงไม่กี่คำมือบางก็รวบช้อนเข้าหากัน ดื่มน้ำแล้วหยิบยาเข้าปาก

     นัยน์ตาหวานเศร้ามองออกไปข้างนอกผ่านทางหน้าต่างบานเล็กอย่างเหม่อลอย

     “ทานไปกี่คำกันคะ” เพราะมัวแต่คิดอะไรไปไกลจนไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านล่วงเลยมานานแค่ไหน แม่บ้านคนเดิมเดินกลับเข้ามาอีกครั้งเห็นอาหารในถาดที่แทบไม่พร่องลงเลยซักนิดแล้วได้แต่มองคนรุ่นหลานอย่างเห็นใจ

     “ผมไม่หิวเลยครับ”

     “คุณแพททริกเธอไม่ใช่คนใจร้ายหรอกค่ะ...” ผู้ที่ผ่านและเห็นอะไรมามากมายเอ่ยไปถึงอีกเรื่องจนร่างบางหยุดชะงักนิ่ง

     “อดทนหน่อยนะคะ แล้ววันหนึ่งความเป็นคุณจะทำให้คุณแพททริกเห็นแล้วใจอ่อนเอง”

     เธอผ่านโลกมามากมาย รับใช้แพททริกมาตั้งแต่ตอนอีกคนยังเป็นหนุ่ม แววตาเศร้าหวานจากเด็กคราวหลานประกายด้วยความซื่อจนนึกเอ็นดู เรือนร่างบอบบางราวกับแก้วใสที่พร้อมจะแตกทุกเมื่อหากแตะต้องแรงช่างดูน่าทะนุถนอม อีกไม่นานผู้เป็นนายจะต้องทนใจแข็งกับเด็กคนนี้ไม่ไหว รางสังหรณ์บางอย่างบอกอย่างนั้น

     “...มันคงไม่มีวันนั้นหรอกครับ” กานต์รักเอ่ยตอบเสียงเบา รู้ตัวดีเสมอว่าคนอย่างเขามันเป็นได้เพียงเท่านี้ แค่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน แม้จะเป็นเพราะสาเหตุนั้นแต่มันก็ดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้คุณแพททริกทำดีหรือมองเขาในแง่ดีเลย

     “อย่าคิดมากไปเลยนะคะ ตอนนี้คุณควรจะพักผ่อน...เดี๋ยวป้าจะเอาเสื้อผ้าชุดใหม่เข้ามาให้ค่ะ” เรื่องของเจ้านายพูดมากไปก็ไม่ดี แม่บ้านคนเก่าคนแก่ที่ถูกเรียกมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวจึงเสเปลี่ยนไปเรื่องอื่น

     “ขอบคุณครับ...เอ่อ จะเป็นไรไหมครับถ้ารักอยากจะรู้ว่าคุณป้าชื่ออะไร” คุยกันมาซักพักหากแต่ยังไม่ได้เอ่ยถามถึงชื่อเสียที กานต์รักแย้มยิ้มน้อยๆอย่างขออนุญาต

     “ป้าชื่อน้อยค่ะ แล้วคุณล่ะคะ”

     “กานต์รักครับ...เรียกว่ารักเฉยๆก็ได้”

     “พ่อกับแม่คงรักคุณมากเลยนะคะ” คนฟังระบายรอยยิ้มเต็มหน้าหวานเมื่อได้ยินประโยคนั้น

     กานต์รัก...กานต์แปลว่าเป็นที่รัก เป็นชื่อที่มีความหมายเต็มไปด้วยรัก แม่เคยบอกว่าอยากให้เขาเติบโตมาเป็นที่รักของคนรอบข้าง  เติบโตด้วยความรักอันมากมายของพ่อกับแม่  เป็นคนที่มีใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

     “ครับ รักมาก” ยามนึกถึงใบหน้าผู้ให้กำเนิดดวงหน้าหวานนั้นอ่อนละมุนจนคนมองสัมผัสได้ถึงความรักอันอบอุ่นของครอบครัวที่เด็กคนนี้เกิดมา ไม่แปลกใจเลยหากคนตรงหน้าจะดูอ่อนโยนและบริสุทธิ์ขนาดนี้

     “ยังไงป้าขอตัวก่อนนะคะ จะได้เอาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนอาบน้ำ”

     “ครับ”

     ชุดนอนขายาวพอดีตัวถูกสวมใส่บนร่างหลังจากกานต์รักอาบน้ำชำระร่างกายตัวเองจนเรียบร้อย นาฬิกาบนผนังห้องบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มเศษแล้ว ความอ่อนล้าจากจิตใจและร่างกายพาให้คนที่ก้าวขึ้นเตียงค่อยๆหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทรา

     ในความฝันนั้นกานต์รักได้ยินใครบางคนกระซิบอะไรบางอย่างจากที่ไหนซักแห่ง

     “ฝันดี”

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋
:กอด1: :กอด1:

จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/?ref=bookmarks
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2016 22:11:44 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
กานต์รักปิดบังอะไร?
สงสัยมากกกก

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กานต์รักเป็นใคร!!! บอกมาน๊าาาา~
รอตอนต่อไปจ้า
รีบมาต่อไวๆ


 :m5: :m5: :m5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด