❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33  (อ่าน 431564 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
มีแต่ความสงสัยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จริงๆแล้วกานต์รักเป็นใครกันแน่เนี่ย?

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
มีแต่ความสงสัยลอยวนเวียนเต็มไปหมด

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมถึงบอกไม่ได้ล่ะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
รักปิดบังอะไรไว้ เรื่องครอบครัวเหรอ
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ทำไมไม่บอกๆไป

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
กานต์รักทำแบบนี้ทำไมหนอ
สงสัยๆ  :serius2:  :angry2:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
รอติดตามม

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 3

     “ทานให้เยอะกว่านี้หน่อยเถอะนะคะ”

     “รักทานไม่ลงแล้วจริงๆครับ” เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมกับเบ้หน้าน้อยๆ อาการไม่อยากอาหารยังคงเหมือนเดิมไม่ดีขึ้นซักนิด ตอนเช้ากานต์รักก็ทานอาหารได้เพียงสามสี่คำเท่านั้น แม่บ้านผู้คอยดูแลได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

     “ทานน้อยขนาดนี้เดี๋ยวก็ป่วยขึ้นมาอีกหรอกค่ะ” เห็นเด็กคนนี้ทานข้าวแล้วเธอนึกถึงหลานชายตัวน้อยที่บ้าน กว่าจะกินข้าวได้แต่ละทีนั้นต้องกล่อมแล้วกล่อมอีก วันนี้คะยั้นคะยอให้กานต์รักทานอะไรบ้างแต่คนตัวเล็กก็ทานลงไปแค่เท่าแมวดม

     “รักดีขึ้นมากแล้วครับ”

     “ดีขึ้นแต่ก็ยังต้องทานยาอยู่นะคะ ถ้าขืนคุณรักยังทานน้อยอยู่แบบนี้เดี๋ยวคงได้ป่วยขึ้นมาอีก”

     “รักไม่เป็นไรจริงๆครับ ขอบคุณป้าน้อยที่เป็นห่วงนะครับ” ใบหน้าหวานระบายยิ้มอ่อนโยนให้คนที่แก่กว่า ไม่ใช่ว่าไม่อยากทานอะไรให้ได้เยอะเพียงแต่หากฝืนเอาเข้าปากไปก็กลืนไม่ลงอยู่ดี

     “รักขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ เป็นห่วงเรื่องงานมากเลย” ไม่รู้ว่าป่านนี้ที่ร้านจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง ถึงจะเชื่อมั่นในตัวพนักงานทุกคนแต่ยังอดเป็นห่วงไม่ได้

     “ป้าไม่มีสิทธิ์อนุญาตหรอกค่ะ เรื่องนี้คุณรักต้องขอคุณแพทริกนะคะ” คนฟังหน้าเศร้าลงทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น ป่านนี้คุณแพททริกคงโกรธจนไม่อยากจะมองหน้ากันแล้ว

     “ก็เขาไม่อยู่ให้รักขอนี่ครับ” กานต์รักเอ่ยเสียงเบาราวกับรำพันกับตัวเอง ใบหน้าหวานเศร้าเบือนไปมองวิวข้างนอกของตึกสูงระฟ้าพร้อมกับปล่อยให้ความรู้สึกที่ไม่แจ่มใสนักล่องลอยไปไกล

     ไม่รู้เลยว่าจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน...

     “เดี๋ยวป้าไปเอายามาให้ทานนะคะ” คนแก่ได้แต่มองภาพนั้นแล้วถอนหายใจ เธอไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรนอกจากดูแลกานต์รัก เห็นเด็กรุ่นลูกเศร้าซึมแล้วก็อดสงสารไม่ได้

     นัยน์ตาโศกเหม่อมองท้องฟ้ากว้าง ปล่อยให้ห้วงความคิดล่องลอยไปกับก้อนเมฆซึ่งกำลังเคลื่อนห่างออกไป หากคนเราเป็นเหมือนเหล่านกที่โผบินได้ตามใจก็คงดี กานต์รักจะบินมองความสวยงามของโลกใบนี้ไปเรื่อยๆ ยามปีกมันกางออกแล้วเคลื่อนที่ได้เหนือทุกสิ่งมันจะรู้สึกอย่างไรบ้างนะ

     “ทานยานะคะคุณรัก” กานต์รักรั้งความคิดตัวเองกลับมาแล้วหันไปมองแก้วยาในมือที่เหี่ยวย่นตามอายุ ส่งยิ้มให้ป้าน้อยอย่างขอบคุณแล้วรับยาเข้าปากก่อนดื่มน้ำตาม ร่างกายนั้นยังไม่ทันได้หายดีซักเท่าไหร่จึงต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอ

     “ป้าน้อยไปพักเถอะครับ ไม่ต้องคอยดูแลรักตลอดก็ได้” ตั้งแต่เช้ามาอีกคนคอยตามดูแลไม่ห่าง แม้เขาจะทำแค่เพียงนั่งนิ่งแต่ป้าน้อยก็ยังอุตสาห์วนเวียนอยู่ใกล้ๆ

     “ป้าไม่มีอะไรทำหรอกค่ะ หน้าที่ของป้ามีแค่คอยดูแลคุณรัก”

     “เหรอครับ...ถ้าอย่างนั้นรักอยากได้หนังสืออะไรก็ได้ซักสามสี่เล่ม ป้าน้อยพอจะหาให้ได้ไหมครับ” ยามบ่ายว่างๆเช่นนี้นอกจากอ่านหนังสือแล้วกานต์รักก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ไม่รู้ด้วยว่าตนนั้นมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้หากได้หนังสือซักเล่มคงแก้เบื่อได้ไม่น้อย

     “ได้ค่ะ ซักครู่นะคะ”

     เมื่อคนดูแลผละออกไปเรือนร่างเพรียวจึงลุกออกจากโต๊ะอาหารมายังมุมโซฟาซึ่งเหมาะแก่การอ่านหนังสือ โซฟาสีขาวสะอาดตาตั้งอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น ตรงหน้าเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเบื้องล่างได้ทั้งหมด กานต์รักเอื้อมมือไปลูบไล้กระจกนั้นอย่างแผ่วเบา หลับตาลงแล้วตัดทุกเรื่องราวออกจากหัวให้ความรู้สึกจมไปกับความมืดมิด

     ไม่อยากคิดเรื่องอะไรเลย

     “นี่ค่ะคุณรัก”

     “ขอบคุณครับ” เปลือกตาสีอ่อนเปิดขึ้นแล้วหันไปหยิบหนังสือสามเล่มในมือของแม่บ้านผู้ใจดี กานต์รักขยับมาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา ถอดสลิปเปอร์ออกจากเท้า เอนกายลงนอนราบแล้วเปิดหนังสือในมืออ่านอย่างช้าๆ

     ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงคนที่บอกอยากอ่านหนังสือก็เคลิ้มหลับไปเพราะฤทธิ์ยา

✻✻✻✻✻✻✻✻✻✻✻✻✻✻✻

     “ไม่ยอมทานอะไรเลยค่ะ กินข้าวไปแค่มื้อละสามสี่คำเอง” แพททริกยืนฟังคำรายงานของหัวหน้าแม่บ้านแล้วขมวดคิ้วมุ่น ปรายตามองคนที่หลับอยู่บนโซฟาพลางสูดหายใจเข้าปอดลึกแล้วผ่อนออกอย่างช้าๆ

     ดื้อด้าน

     “แล้วทานยาครบไหม”

     “ครบค่ะ” ยังพอเบาใจที่ไม่ได้ดื้อไปมากกว่านั้น แพทริกพยักหน้ารับแล้วสั่งให้แซมไปส่งแม่บ้านเพื่อกลับไปดูแลบ้านใหญ่ พรุ่งนี้ค่อยให้กลับมาอีกครั้ง

     เรียวขาแกร่งก้าวย่างไปหาคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟา ตอนนี้เป็นเวลากว่าหกโมงเย็น เด็กนี่นอนไม่เป็นเวล่ำเวลาแบบนี้ไม่รู้ว่าตอนกลางคืนจะหลับได้อีกหรือเปล่า

     แพทริกส่ายหน้าให้กับภาพนี้เล็กน้อยก่อนจะถอดสูทตัวนอกออกอย่างนึกรำคาญเมื่อวันนี้ต้องสวมมันตลอดทั้งวัน มือหนารั้งเนคไทให้หลุดออกจากคอแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวลงมาสามเม็ด พาดทุกอย่างเข้ากับพนักโซฟาที่อีกคนนอนอยู่ พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก

     “อะ อื้อ” เสียงคราวแผ่วในลำคอดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กเริ่มขยับตัว แพทริกยืนจ้องคนตัวเล็กนิ่งเพื่อรอให้อีกคนตื่นขึ้นมาอย่างใจเย็น

     ดวงตาโตเปิดขึ้นก่อนจะกวาดมองเพดานอย่างช้าๆแล้วหลับตาลงอีกครั้ง กานต์รักขยับตัวลุกขึ้นทั้งที่ตายังคงปิดสนิท สะบัดหัวตัวเองสองสามทีเพื่อดึงสติอันมึนเบลอจากการพึ่งตื่นนอนให้กลับมา

     “อ๊ะ คุณแพทริก” คราวนี้ตาดวงโตลืมขึ้นเต็มตาเมื่อเห็นเรือนร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ทางด้านหลังของโซฟา คนตัวสูงทำเพียงแค่ปรายตามองแล้วผละออกไป กานต์รักรีบขยับตัวลุกตามด้วยความรวดเร็ว ฝ่ามือน้อยรั้งชายเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวแพงเอาไว้ก่อนจะรีบชักมือกลับเมื่อรู้ว่าเผลอตัวทำเรื่องไม่สมควร แต่สัมผัสบางเบานั้นกลับทำให้สองขาแกร่งหยุดนิ่ง

     “ขอโทษครับ” คนด้านหลังเอ่ยเสียงแผ่ว

     “ผมขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกคนทำท่าจะขยับเดิน ประโยคนั้นทำเอาแพทริกหันขวับกลับมา

     “ฉันไม่ให้ จะโทรบอกคนอื่นว่าถูกฉันขังไว้รึไง”

     “ปะ เปล่านะครับ...ผมแค่อยากโทรถามเรื่องงาน” กานต์รักรีบอธิบายเมื่ออีกคนคิดไปไกล เขาไม่เคยคิดจะบอกให้ใครช่วยเลยซักนิด รู้ดีว่าเรื่องทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเพราะตัวเอง

     “หึ เจ้าของร้านเบเกอร์รี่สุดหรู...ก็ไม่ได้จน เลยไม่ต้องการเงินสินะ”

     แพทริกส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างค่อนขอด แน่นอนว่าเรื่องร้านของหวานอะไรแบบนั้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ทำอยู่จึงไม่เคยนึกสนใจ เจ้าของร้านอย่างกานต์รักก็ไม่ค่อยออกสื่อจึงไม่แปลกนักที่ลูกน้องจะตามหาตัวไม่เจอ หากไม่เจอในงานแต่งเมื่อวันก่อนคงไม่มีทางรู้เลยว่าเด็กนี่เป็นใคร

    ถึงอย่างนั้นก็มีเพียงสิ่งเดียวที่รู้ในตอนนี้คือบ้านของกานต์รักมีฐานะพอสมควร

     “...” กานต์รักนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป

     “ฉันจัดการเรื่องงานของนายแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องใช้โทรศัพท์” ทันทีที่พูดจบแพทริกก็หมุนตัวออกจากห้อง กานต์รักมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย

     ร่างเล็กลากเท้าเดินอย่างเชื่องช้าไปยังห้องนอน จัดการล้างหน้าล้างตาตัวเองก่อนจะออกมานั่งที่โซฟาตัวเดิม เหม่อมองดวงดาวพราวระยับที่เคียงคู่กับพระจันทร์บนฟากฟ้า

     กระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง ก่อนเรือนร่างสูงใหญ่หน้าตาขมวดขึงจะเดินเข้ามาหา

     “กินข้าวซะ จะได้กินยา” หากบอกว่าไม่หิวคงโดนอีกคนตวาดใส่กานต์รักจึงยอมขยับตัวลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ต่างคนต่างทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกันก่อนจะมีบอร์ดี้การ์ดร่างสูงเดินเข้ามาจัดอาหารขึ้นบนโต๊ะและวางยาไว้ให้ข้างๆ

     เมื่อเห็นแพทริกตักข้าวเข้าปากกานต์รักถึงได้หยิบช้อนของตัวเองขึ้นมาตักอาหาร กว่าจะกลืนได้แต่ละคำนั้นช่างยากเย็นนักในความรู้สึก ทนกินไปได้เพียงสี่คำก็รู้สึกว่าไม่ไหว

     “ทานเข้าไปให้หมด” แพทริกมองคนที่รวบช้อนเข้าหากันแล้วเอ่ยสั่งเสียงเข้ม

     “ผมอิ่มแล้วครับ” กานต์รักก้มหน้าลงแล้วเอ่ยตอบ

     “กินข้าวให้หมดจาน ฉันสั่ง” คนฟังแทบน้ำตาคลอเมื่อได้ยินดังนั้น แต่เพราะไม่อยากทำให้อีกคนไม่พอใจจึงยอมจับช้อนแล้วตักข้าวเข้าปากอีกครั้ง

     “อึก” ฝืนทานได้เพียงสองคำร่างเล็กก็รู้สึกกลืนไม่ลงจนในที่สุดร่างกายก็ขย้อนมันออกมา กานต์รักลุกพรวดแล้ววิ่งไปทางห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว อาเจียนเอาทุกอย่างออกจนหมด

     แพทริกสาวเท้าก้าวตามมาจนถึงห้องน้ำ มองอีกคนที่ยืนโงนเงนอยู่จนต้องขยับเข้าไปรั้งร่างเล็กเข้าหาตัว

     “คะ คุณแพทริก” กานต์รักเพ้อชื่ออีกคนออกมาเสียงเบา รู้สึกแย่จนต้องหลับตาลงแน่น ร่างสูงช้อนตัวของกานต์รักขึ้นในอ้อมกอดก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอน

     “แซม โทรตามอาหมอด่วน!” แพทริกโทรสั่งคนสนิทเสียงเข้มก่อนจะกดตัดสาย มองใบหน้าหวาดซีดเผือดแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน เด็กนี่ป่วยบ่อยเกินไป ก็เป็นเพราะไม่ยอมทานข้าวร่างกายถึงได้อ่อนแอซูบผอมอย่างนี้

     “ผะ ผมไม่เป็นไร” กานต์รักเอ่ยพูดเสียงแผ่ว

     “เงียบไปซะ!” แพทริกตวาดก้อง ถ้าไม่ได้รับการตรวจและยืนยันจากแพทย์เขาไม่มีทางไว้วางใจเด็ดขาด

     ไม่นานนักหมอก็มาถึง แพทริกผละออกให้ผู้เป็นอาได้ตรวจรักษาโดยที่ไม่ได้ขยับไปไหนไกล ร่างสูงยืนจังก้าอยู่ข้างเตียงคอยมองทุกขั้นตอนนิ่ง

     “คนไข้มีอาการเครียดลงกระเพาะ ต้องพยายามทำใจให้สบายไม่คิดเรื่องต่างๆมากนะครับ เดี๋ยวหมอจะจัดยาแก้เครียดและยานอนหลับให้แต่พยายามไม่กินมันเลยจะดีที่สุด”

     “ครับ” คนป่วยรับคำเสียงเบา

     “อาการไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร ทำใจให้สบายแล้วก็ต้องพยายามทานอาหารด้วยนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของจิตใจคนไข้เอง ถ้าไม่อยากป่วยต้องพยายามนะครับ”

     “ผมจะพยายามครับ”

     “โอเค เรียบร้อยแล้วงั้นหมอขอตัว...แพท ออกไปคุยกับอาข้างนอก” คนเป็นอามองหน้าหลานนิ่งแล้วเอ่ยบอก เก็บอุปกรณ์การตรวจทุกอย่างเข้าที่ให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาโดยมีคนร่างสูงเดินตาม

     “อาไม่รู้ว่าเราสองคนมีเรื่องอะไรกัน แต่พยายามอย่าทำอะไรให้คนไข้เครียดมากนัก ตอนนี้อาการยังไม่รุนแรงแต่ถ้าหากเขายังคิดมากหรือมีเรื่องอะไรอีกอาการจะยิ่งหนัก”

     “ผมจะพยายาม” แพทริกถอนหาย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างที่ผู้เป็นอาแนะนำได้หรือไม่

     “แล้วก็ต้องทำให้คนไข้ทานอาหารให้ได้เยอะๆ เน้นเมนูที่เขาชอบหรืออะไรที่รสชาติไม่เลี่ยนนัก”

     “ครับ”

     “อากลับก่อนล่ะ อ้อ...ส่วนยาชุดก่อนคนไข้ก็ยังต้องกินจนกว่าจะหมดนะ” แพทริกรับคำแล้วเดินไปส่งผู้เป็นอาถึงหน้าห้องก่อนจะเดินกลับมายังห้องนอนอีกครั้ง เรือนร่างบอบบางมองตามทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ใบหน้าขาวซีดเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้าง

     “ชอบกินอะไร” ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง ยกมือขึ้นกอดอกแล้วเอ่ยถาม แม้กานต์รักจะไม่ค่อยเข้าใจสาเหตุที่ถูกถามนักแต่ก็พยายามครุ่นคิดเพื่อให้คำตอบ

     “...ยำ” คนป่วยพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันมาตอบ “ยำครับ”

     “พูดมาให้หมด” กานต์รักพยายามนึกอีกครั้งถึงสิ่งที่ชอบและสิ่งที่อยากทานในตอนนี้ก่อนจะต้องส่ายหน้าเมื่อไม่นึกอยากอะไรอีกเลย

     “ผมชอบกินแค่ยำ ถ้ากินก็คงกินได้มากกว่าอย่างอื่นครับ” ความจริงแล้วกานต์รักนั้นทานอาหารได้หลายอย่างอยู่บ้างเพียงแต่แค่ตอนนี้ในหัวมันตื้อไปหมดไม่อยากกินอะไรเลยซักอย่าง ที่พอจะนึกได้ก็มีแค่ยำเท่านั้น ถ้าให้กินคงจะกินได้มากกว่าอย่างอื่น

     “ข้าวล่ะ เดี๋ยวก็แสบท้องแล้วได้ป่วยขึ้นมาอีก”

     “ผมชอบกินข้าวกับยำหมูยอ” กานต์รักก้มหน้าตอบเสียงเบาเพราะกลัวว่าจะโดนดุอีกที่ชอบกินอะไรแบบนี้

     “ทำอาหารขึ้นมาใหม่ เอาเมนูยำทุกยำที่มันมีบนโลกใบนี้...ที่สำคัญต้องมียำหมูยอ” ได้ยินเสียงอีกคนเอ่ยขึ้นถึงได้รีบเงยหน้าขึ้นมอง ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่าคุณแพทริกนั้นโทรสั่งอาหารให้แต่เนื่องด้วยเพราะกลัวว่าจะเป็นอาหารของตนจึงต้องรีบเอ่ยบอก

     “ผมไม่ทานเผ็ดนะครับ” ดวงตาคมปรายมามองก่อนจะเอ่ยสั่งคนปลายสาย

     “ทุกอย่างไม่เผ็ด” มือหนาผละโทรศัพท์ให้ห่างจากหู กดตัดสายแล้วเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงเช่นเดิม

     “หัดกินให้มันเยอะๆ กินอย่างกับแมวดมอย่างนี้ถึงได้ป่วยออดๆแอดๆ” แพทริกเอ่ยบอกคนป่วยด้วยเสียงติดหงุดหงิด เพราะเคยสัมผัสลูบไล้ไปถึงไหนต่อไหนถึงรู้ดีว่าเด็กนี่ผอมแค่ไหน ยิ่งตอนนี้ดูเหมือนราวกับว่าร่างบางจะผอมลงกว่าครั้งที่เจอกันในคืนนั้นเสียอีก

     ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิด

     “ผมจะพยายามครับ” กานต์รักรับปากเพราะไม่อยากให้อีกคนต้องเดือดร้อนวุ่นวาย อาจเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้สมองไม่ได้หยุดคิดถึงมีอาการเช่นนี้ รู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นเป็นคนคิดมาก หากได้คิดอะไรแล้วก็มักจะคิดอยู่อย่างนั้น ยากที่จะสลัดมันออกจากหัว

     “ก็ดี”

     สิ้นคำสองคำนั้นห้องทั้งห้องก็อยู่ในความเงียบ มือบางถูกบีบเข้าหากันเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาคมที่มองมา ภาวนาให้มีคนนำอาหารขึ้นมาส่งจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้อีกต่อไป แล้วคำขอของกานต์รักก็เป็นจริงเมื่อโทรศัพท์ของคนตัวใหญ่ดังขึ้นอีกครั้งในเวลาต่อมา

     “จะเดินเองหรือต้องให้อุ้ม” แพทริกวางสายแล้วปรายหางตาถาม

     “เดินเองครับ” กานต์รักรีบตอบเสียงรัว การใกล้ชิดกันมันอาจดีต่อความรู้สึกหากแต่ไม่ได้ดีต่อใจดวงน้อยที่ต้องทำงานหนักเลยซักนิด กลัวว่าตนนั้นจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่จนอีกคนรับรู้ เพราะฉะนั้นกานต์รักขอเลือกหนทางที่ปลอดภัยกับใจตัวเองเสียดีกว่า

     ร่างเล็กค่อยๆขยับลุกขึ้นนั่ง สูดหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แม้จะโงนเงนเล็กน้อยแต่ยังพอทนได้ไหว เมื่อแพทริกเห็นว่าอีกคนไม่ได้ทรุดลงไปก็เดินออกจากห้องให้กานต์รักก้าวเดินตาม

     มาถึงโต๊ะอาหารตากลมโตก็เบิกขึ้นกว้าง เมนูยำมากมายหลายชนิดละลานตาจนคิดว่าไม่มีทางที่คนสองคนจะทานได้หมด

     “นั่งลงแล้วก็กินซะ” ร่างบางยังคงยืนนิ่งจนแพทริกต้องเอ่ยย้ำ ก่อนกานต์รักจะค่อยๆทรุดตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม กวาดสายตามองเมนูยำตรงหน้าด้วยความอึ้ง

     “ทะ ทำไมมันเยอะขนาดนี้ล่ะครับ”

     “ไม่ต้องถาม มีหน้าที่กินก็กินให้มันเยอะๆ” กานต์รักหลุบสายตาต่ำมองจานข้าวเมื่อเสียงทุ้มดุเอ่ยขึ้น รอบตัวพลันตกอยู่ในความเงียบกระทั่งได้ยินเสียงช้อนส้อมกระทบจานข้าวจากอีกฝั่งถึงได้เหลือบสายตาขึ้นไปมอง เห็นคนตัวสูงเริ่มลงมือทานอาหารจึงเริ่มทานของตัวเองบ้าง

     ทันทีที่ตักเมนูยำหมูยอเข้าปากใบหน้าหวานก็อมยิ้มพลางพยักหน้าน้อยๆกับตัวเองเมื่อรับรู้ได้ถึงรสชาติของความอร่อย คนที่ทำเหมือนไม่สนใจเหลือบสายตามองร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้าม เบาใจหน่อยที่ดูเหมือนว่าเด็กนี่จะกินได้เยอะขึ้น

     กานต์รักตักชิมทุกเมนูทุกจานจนพอใจ กระทั่งทานข้าวไปได้ครึ่งหนึ่งถึงได้รวบช้อนส้อมเข้าหากันบ่งบอกว่าอิ่ม

     “ผมอิ่มแล้วครับ” หากฝืนกินมากกว่านี้คงไม่พ้นต้องวิ่งไปอ้วกอีกเช่นเมื่อก่อนหน้า

     “อืม” แพทริกทำเพียงแค่รับคำ รู้แล้วว่าอีกคนคงพยายามกินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้าวจานนั้นไม่น้อยเลย กินได้ถึงครึ่งก็ถือว่าดีแล้ว

     “อีกซักหน่อยค่อยกินยา”

     “ครับ” กานต์รักมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามทานข้าวไปเงียบๆ ไม่รู้ว่าคุณแพทริกนั้นชอบกินข้าวกับยำเช่นเขาไหมแต่ร่างสูงก็ตักเข้าปากไปได้เรื่อยๆไม่ได้พูดอะไรออกมา ในความรู้สึกของกานต์รักนั้นมันเป็นอาหารที่อร่อยที่สุด แต่บางคนกลับมองว่าแปลกที่เขาชอบทาน

     แพทริกนั่งทานข้าวกับยำไปเรื่อยๆจนกระทั่งข้าวในจานหมดลง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ทานอะไรแบบนี้ รสชาติก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไหร่

     “ทานยาเสร็จก็ไปอาบน้ำ” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยบอกอีกคนที่พึ่งทานยาลงไป กานต์รักพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นยืนเดินกลับเข้าห้องนอนไปอย่างเชื่องช้า แม้อยากจะจัดการเรื่องถ้วยจานบนโต๊ะแต่ไม่กล้าเอ่ยถามเพราะอีกคนสั่งให้ไปอาบน้ำ หน้าที่ของเขาตอนนี้คือทำตามที่คุณแพทริกบอกเท่านั้น

     ร่างเล็กในชุดนอนตัวโคร่งเดินออกจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากโข กานต์รักขยับเอนกายนอนลงบนเตียงแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เนื่องด้วยเพราะนอนไปเมื่อตอนบ่ายตอนนี้เลยไม่รู้สึกง่วงเลยซักนิด เมื่อไม่ว่าจะพลิกตัวยังไงก็ไม่อาจข่มตาหลับได้ร่างเล็กจึงขยับลุกขึ้นจากที่นอน เดินออกจากไปด้วยความเงียบ

     กานต์รักคิดว่าจะไปนั่งดูดาวที่โซฟาตัวเดิมจึงเดินมายังห้องนั่งเล่น ก่อนจะต้องชะงักนิ่งเมื่อเห็นว่ามีคนตัวสูงนอนอยู่ ดูท่าแล้วคุณแพทริกคงเหนื่อยน่าดู เพราะหน้าที่และความรับผิดชอบนั้นมากล้นเหลือเกิน

     “พักผ่อนบ้างนะครับ” ร่างเล็กก้มลงไปมองใบหน้าคมที่หลับพริ้มแล้วกระซิบเสียงเบา ก่อนจะผละออกแล้วเดินเข้าห้องนอนมาอีกครั้งเพื่อหยิบผ้าห่ม

     ผ้าห่มผืนบางถูกคลี่คลุมเรือนร่างสูงใหญ่ที่นอนเกือบเต็มโซฟาอย่างแผ่วเบา ยามหลับนั้นคนใจร้ายก็ดูเหมือนไม่มีพิษภัยอะไร แต่ถึงอย่างนั้นในยามปกติกานต์รักก็ไม่เคยนึกเกลียดหรือโกรธคุณแพทริกเลย

     หมับ

     “อ๊ะ” ในจังหวะที่กานต์รักกำลังจะผละออกข้อมือเล็กกลับถูกฉวยแล้วกระชากดึงจนคนไม่ได้ตั้งตัวถลาล้มลงมาหาคนที่นอนอยู่บนโซฟา

     ยามเมื่อใบหน้าหวายเงยขึ้นจากอกแกร่งที่มีผ้าห่มพาดทับจึงเป็นจังหวะที่สองสายตาสบกันนิ่ง

     “ทำแบบนี้ทำไม” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจ จ้องมองดวงตากลมโตใสซื่อแล้วนึกคิดว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้กานต์รักต้องปิดบัง เพียงแค่บอกมาเท่านั้นมันยากนักหรือยังไง

     “ผะ ผมขอโทษ”

     “ฉันเบื่อที่จะฟังคำนี้ของนายเต็มทน” กานต์รักนิ่งเงียบ อยากจะเอ่ยมากกว่านั้นหากแต่เพราะตัวเองพูดอะไรออกไปไม่ได้ มองใบหน้าคมที่ห่างกันเพียงคืบพร้อมกับเอ่ยคำที่ร่าสูงไม่อยากฟังนั้นเพียงในใจ

     “ถ้าคุณรู้แล้ว...จะปล่อยผมไปไหมครับ” แค่อยากรู้ว่าต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน ซักวัน...วันนั้นก็ต้องมาถึง

     “ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเก็บนายเอาไว้” ประโยคที่ได้ยินนั้นทำให้คนฟังนิ่งงัน แม้จะรู้ตัวดีอยู่แล้วหากแต่พอได้ยินมันอย่างชัดเจนใจดวงน้อยก็พลันเจ็บแปลบขึ้นมา ลมหายใจพลันหยุดชะงักไปในทันที

     นั่นสินะ...

     “วันหนึ่งคุณก็คงได้รู้”

     “แน่นอน ไม่มีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วไม่ได้รู้...กานต์รัก อักษราวณิช” เจ้าของชื่อนั้นตัวแข็งทื่อจนคนใต้ร่างสัมผัสได้ สิ่งที่แพทริกพูดมันสื่อความนัยถึงบางอย่าง ไม่ใช่แค่บอกว่ารู้ชื่อและนามสกุลหากแต่มันหมายความว่าทุกอย่างกำลังจะถูกสาวเรื่องราวไปเรื่อยๆ

     กานต์รักไม่ได้แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้หากแต่ถ้าคุณแพทริกพูดมันหมายความเวลาของเขาที่จะได้อยู่ตรงนี้มันกำลังจะหมดลงในวันใดวันหนึ่ง

     “ผม...” ก่อนจะทันได้เอ่ยขอตัวเสียงโทรศัพท์ของคนตัวสูงก็ดังขึ้น กานต์รักจึงได้โอกาสขยับตัวผละออกแล้วลุกขึ้น ปากบางเม้มเข้าหากัน สายตาเศร้าเหลือบมองคนที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ก่อนจะค่อยๆเดินห่างออกมาเข้าไปยังห้องนอน

     ประโยคสุดท้ายที่จับใจความได้ว่าแพทริกคุยกับใครทำให้อีกคนนอนไม่หลับจนกระทั่งเกือบถึงเช้า

     ‘เดี๋ยวผมออกไปหา คุณใจเย็นๆก่อนเดซี่’

TBC.

สงสารน้องรักกกก กานต์รักขอกำลังใจรัวๆๆๆๆๆๆ   :mew6: :mew6:
ปล.อาจจะสั้นไปหน่อยนะคะเพราะตัวหนังสือมันเกินหนึ่งรีพลายเลยต้องตัดตรงนี้ อีกส่วนเดี๋ยวยกไปตอนหน้าเลยเนอะ


จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2016 19:05:22 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น่าสนใจๆๆ รักเข้าหาแพทริคทำไมหว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมต้องทำให้อยากรู้~~~

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
โอ้ยยย อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตกลงว่าเหตุผลของกานต์รักที่ไม่ยอมบอกคืออัลไล :ling1:

อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อะไรที่เป็นความลับที่บอกไม่ได้หรือรัก?

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
รักมีความลับอะไร

ออฟไลน์ Candy CAT

  • ชิบหาย!!!........ไปหมดแล้วสมงสมองกู- -''
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ความลับอะไรหว่า??? #ปักค่ะ!!! :-[

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
หมั่นไส้พระเอก  :m16: :m16: :m16:

รัก เพราะมัน.......เป็นความลับที่อยู่ในใจ เป็นความลับที่อยู่ข้างใน แต่ไม่รู้จะยอกเธอได้อย่างไร~~~~~~~  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

เรื่องที่แล้ว หวานละมุน เรื่องนี้ ร้อนแรงฝุดๆ
จะดราม่าไหม?

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ความลับอะไรอ่ะ

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ค้างจัง มีเรื่องอะไรกันมาก่อนรึเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ขอพระเอกใหม่ให้กานต์ด่วนเจ้าชู้ไม่เลิกอย่างนี้ไม่ไหว

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอบคอมเม้นต์

@lizzii : ทำไมน๊าาาา :mew3: :mew3:

@sirin_chadada : คนแต่งขอโทษษษษษ  :mew2: :mew2:

@jeaby@_@ : มาแว๊วววว

@dilokrittisak : มาแล้วค่ะๆ รอลุ้นกันว่าทำไม

@BAKA : มันก็ไม่เชิงความลับน๊าแต่กานต์รักพูดออกไปไม่ได้~

@maemix : กานต์รักแค่พูดออกไปไม่ได้ :mew2:

@Candy CAT : น้ำท่วมปากเนอะ ไม่ใช่ความลับแต่พูดไม่ได้ ต้องติดตาม :mew3:

@wikawee : คนอะไรใจร้ายเนอะะะะะะ

@Billie : ไม่ดราม่าๆ คนแต่งไม่ถนัดค่ะะะะ

@kothan : ต้องติดตามมม

@Chise : ดีใจจังที่มีคนเห็นประเด็นนี้>< คุณแพทไม่มีอะไร แต่กานต์รัก... :mew3:

@TaecKhun Imagine Love :  :กอด1: :กอด1:

@โอ : คุณแพทไม่ได้เจ้าชู้น๊าา คือเขาก็มีผญมาเกี่ยวพันเรื่อยๆอ่ะเนอะ ทั้งหล่อและรวยขนาดนี้...ต้องรอดูตอนหลงน้องรักแล้วน๊า คุณแพทไม่สนใจใครเลยยย :impress2: :impress2:

**********************

อยากคุยกับนักอ่านเลยมาตอบคอมเม้นต์ค่ะะะะ ขอบคุณมากๆเลยยย เยิฟฟฟฟฟ
ปล. มีตอนสั้นๆพิเศษของคุณแพทริกกับกานต์รักในเฟส ใครอยากอ่านตอนเขาหวานกันแล้วเข้าไปอ่านได้น๊าาา  :mew1: :mew1:
แปะๆ https://www.facebook.com/notes/writer-ex-soull/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%87/897133813763630
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2016 20:37:46 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 4

     วันต่อมาแพทริกแวะมาทานข้าวเย็นพร้อมกานต์รักเพื่อดูว่าอีกคนทานอะไรได้มากขึ้นบ้างหรือไม่ เพราะวันนี้มีผลไม้โปรดที่ป้าน้อยเตรียมเอาไว้เลยทำให้ร่างเล็กนั้นทานได้เยอะขึ้นจนเริ่มเบาใจ

     หลังจากนั้นแพทริกต้องลงไปยังชั้นทำงานเพื่อประชุมเรื่องโปรเจกต์ใหม่ที่กำลังวางแผนต่อ การประชุมกินเวลาไปจนกระทั่งดึกดื่นกว่าทุกอย่างจะได้ข้อสรุป ผู้กุมอำนาจใหญ่คลึงหัวตาตัวเองเบาๆเพื่อไล่ความเมื่อยขบ

     “นายจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านไหมครับ” โจเซฟผู้เป็นมือซ้ายเอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังเดินออกจากห้องประชุม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืน

     “ไม่ล่ะ คืนนี้คงต้องนอนที่นี่ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าอีก”

     “แต่ว่าคุณกานต์รัก...” มือขวาอย่างแซมเอ่ยขัดขึ้นก่อนจะต้องเงียบเสียงลงเมื่อผู้เป็นตวัดสายตามามอง

     “เรื่องของฉันฉันจัดการเอง พวกนายก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว”

     “ครับ/ครับ” ลูกน้องคนสนิททั้งสองหันมาสบตากันก่อนจะค้อมหัวลงรับคำสั่ง เดินตามผู้เป็นนายมาจนถึงหน้าลิฟต์ก่อนจะต้องแยกย้าย

     แพททริกเดินมาจนถึงห้องพักที่มีอีกคนอาศัยอยู่ ก้าวขายาวๆแล้วตรงเข้าไปยังห้องนอน

     แกร๊ก

     กานต์รักที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเบือนสายตาจากหน้ากระดาษไปยังผู้ที่เปิดประตูเข้ามา จะว่าเป็นป้าน้อยก็ไม่ใช่ในเมื่อผู้ดูแลนั้นกลับไปตั้งแต่เมื่อตอนสองทุ่มแล้ว

     “คุณแพทริก...มีอะไรหรือเปล่าครับ” จะว่าแปลกใจก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะตัวเองนั้นอยู่ในที่ที่คุณแพทริกเป็นเจ้าของ ไม่ว่าอีกคนจะเดินเข้าเดินออกหรืออยู่ตรงไหนย่อมมีสิทธิ์ทั้งนั้น แต่ในยามวิกาลเช่นนี้ทำไมคนตัวสูงถึงยังอยู่ที่นี่ นึกว่ากลับไปพร้อมป้าน้อยแล้วเสียอีก

     “ฉันจะเข้ามาอาบน้ำ” คนฟังขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อได้ยิน

     “อ่า ครับ” กานต์รักทำแค่เพียงพยักหน้ารับเบาๆเพราะไม่มีสิทธ์ถามมากกว่านั้น ที่นี่เป็นของคุณแพทริก อีกคนจะทำอะไรตรงไหนย่อมได้

     แพททริกเหลือบสายตามองคนที่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อก่อนจะเดินเลยเข้าไปยังทางห้องน้ำ ที่ต้องอาบในห้องนอนนี้เนื่องจากเสื้อผ้าอยู่ในนั้น ใช้เวลาไม่นานนักก็จัดการตัวเองจนเรียบร้อย ร่างกายนั้นอยากพักผ่อนเต็มแก่

     “คุณแพทริกมีอะไรหรือเปล่าครับ” กานต์รักเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเรือนร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดอยู่ปลายเตียง

     “ไม่มี...ถึงเวลานอนฉันก็ต้องนอน แปลกตรงไหน”

     “อะ อะไรนะครับ!” ยิ่งยามร่างสูงเดินอ้อมมายังเตียงอีกฝั่งกานต์รักยิ่งรู้สึกตระหนก

     “ฉันจะนอนที่นี่ ตกใจทำไม” คนฟังนั้นอยากจะตอบกลับไปเหลือเกินว่ายังจะถามอีกหรือ

     เพราะที่นี่นั้นมีห้องนอนอยู่เพียงห้องเดียว เตียงเดียว ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอีกคนจะนอนตรงไหน ปกติแล้วกานต์รักไม่รู้ว่าแพทริกพักที่ใด แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขานอนคนเดียว อยู่คนเดียวในตอนกลางคืนจนกระทั่งถึงเช้าโดยมีคนเฝ้าอยู่หน้าประตูเท่านั้น

     “งั้น...เดี๋ยวผมไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้ครับ” คิดภาพยามนอนอยู่บนเตียงเดียวกันแล้วพลันเหตุการณ์ในคืนนั้นก็แล่นเข้ามาในหัวจนต้องรีบผุดลุกขึ้น

     “ทำไม กลัวฉันทำอะไรหรือไง” แพทริกขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า ท่าทางลุกลี้ลุกลนราวกับกลัวเขายังไงอย่างนั้น

     “ปะ เปล่าครับ แต่คุณคงนอนสบายมากกว่า”

     “เตียงก็ใหญ่ขนาดนั้น ฉันไม่ใช่คนนอนดิ้น” ยิ่งเห็นท่าทางไม่อยากอยู่ใกล้กันของอีกฝ่ายยิ่งไม่อยากทำให้สมหวัง อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหากต้องนอนบนเตียงเดียวกันนั้นกานต์รักจะทำยังไง

     “แต่ผมนอนดิ้นครับ” เสียงสั่นเอ่ยตอบระรัว ยกข้ออ้างที่คิดว่าจะทำให้หลุดพ้นจากการต้องนอนเตียงร่วมกันออกมา นาทีนี้ต่อให้ต้องนอนพื้นหรือแม้กระทั่งนอนในห้องน้ำกานต์รักก็ยอม

     “เหรอ ไม่เป็นไรฉันไม่ถือ...นอนลงไปได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันมีงานเช้า ไม่มีเวลามาเถียงเรื่องที่นอนกับนายหรอกนะ”

     เรื่องมีงานเช้านั้นแพทริกไม่ได้แค่ยกขึ้นมาอ้าง หากแต่เพราะมีงานเช้ามากจริงๆคืนนี้ถึงได้เลือกนอนที่นี่ ช่วงนี้คงต้องอาศัยห้องนี้อยู่ซักพักเพราะกำลังมีโปรเจกต์ใหม่จึงยุ่งเกินกว่าจะกลับไปนอนที่บ้านได้

     “ตะ แต่ว่า...” อยากจะเอ่ยแย้งทว่าดวงตาคมนั้นกลับมีแววกดดันจนใบหน้าหวานซีดเผือด ในที่สุดกานต์รักก็จำต้องหย่อนตัวลงนั่งแล้วเอนกายนอนเพราะไม่กล้าขัดคำสั่ง แพทริกมองคนที่ห่มผ้าผืนหนาขดตัวอยู่ขอบเตียงปริ่มจะตกก่อนจะเดินมาปิดไฟหัวเตียงให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด

     ยามที่นอนยวบยาบลงเพราะคนตัวใหญ่ก้าวขึ้นมากานต์รักยิ่งกระถดกายชิดเตียงมากขึ้น ใจดวงน้อยสั่นไหวจนต้องกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น การใกล้ชิดอีกคนทำให้หัวใจนั้นต้องทำงานหนักกว่าปกติ ยังดีที่มีผ้าห่มอยู่สองผืนไม่อย่างนั้นกานต์รักคงต้องนอนหนาวไปทั้งคืนเป็นแน่

     กระทั่งเวลาผ่านไปคนที่กลัวเกร็งกลับหลับไปอย่างง่ายดาย ในขณะที่คนมีงานเช้านั้นนอนพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมา

     ให้ตายเถอะ! เด็กนี่ใช้ครีมอาบน้ำยี่ห้ออะไรกัน

     ยามร่างบางขยับตัวทีกลิ่นหอมอ่อนๆนั้นก็จะกระจายออกมาจนคนที่ควรนอนเพราะมีงานกลับข่มตาหลับไม่ลง บางอย่างภายใต้กางเกงนอนเนื้อดีพลันจะดุนดันขึ้นมาอยู่รอมร่อ

     นาฬิกาพรายน้ำบนผนังห้องบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาจะตีหนึ่งเข้าไปแล้ว ในขณะที่คนต้องตื่นตอนตี4ยังไม่มีวี่แววว่าจะหลับ

     “อืม...” เสียงครางในลำคอดังขึ้นจากคนเพ้อละเมอยิ่งทำให้แพทริกขบกรามแน่น ท้ายสุดแล้วจึงตัดสินใจว่าจะลุกออกไปนอนที่โซฟาด้านนอก ไม่อย่างนั้นคืนนี้คงไม่ได้หลับไม่ได้นอน

     หมับ

     ราวกับฟ้ากลั่นแกล้งยิ่งกว่าเดิมเมื่อในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นนั้นเรือนร่างบอบบางของคนที่นอนอยู่ข้างกันก็พลิกมาหาแล้วตวัดแขนโอบรอบเอวสอบ ขาเรียวก็พาดหมับราวกับกำลังกอดก่ายหมอนข้าง ส่งผลให้กลิ่นหอมอ่อนๆนั้นยิ่งเล่นงานคนนอนไม่หลับเข้าอย่างจัง

     “อือ...”

     d*mmit!!

     โอเค เขาผิดเองที่อยากจะแกล้งเด็กนี่ ทั้งที่เจ้าตัวก็บอกแล้วว่านอนดิ้น แต่ใครจะไปรู้ว่าการนอนดิ้นคือดิ้นไปกอดคนอื่นแบบนี้

     ลมหายใจบางเบาที่รินรดบนต้นคอแกร่งทำให้เจ้าของกลับรู้สึกว่ามันร้อนราวกับไฟกำลังแผดเผา ลมหายใจของแพทริกติดขัดจนเหงื่อไหลซึมตามกรอบหน้าทั้งที่ในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ สุดท้ายจึงต้องพยายามแกะร่างบอบบางออกจากตัวอย่างช้าๆแล้วรีบลุกออกจากห้อง

     ร่างสูงเดินตรงไปยังตู้เย็นแล้วรินน้ำใส่แก้วกระดกขึ้นดื่มอึกๆ หวังว่าความเย็นนั้นจะช่วยดับอารมณ์ร้อนรุ่มลงไปได้ ไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะข่มตาหลับลงหรือเปล่าเมื่อกลิ่นหอมจากเรือนร่างนั้นยั่งกรุ่นติดอยู่ที่ปลายจมูก

✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻


     “ป้าบอกความลับอะไรของคุณแพทริกให้ฟังเอาไหมคะ” กานต์รักหันไปมองคนข้างตัวทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น มือบางที่กำลังตีส่วนผสมของขนมเข้าหากันหยุดชะงัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าผู้อาวุโสกว่าพูดราวกับรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรใบหน้าหวานจึงซับสีเลือดน่ามอง

     “คุณแพทริกชอบทานช็อกโกแลตมากเลยนะคะ สามารถทานได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับช็อกโกแลต...โดยเฉพาะเค้ก กินทีนี่เป็นปอนด์เลยค่ะ” คนแก่มองเด็กรุ่นลูกอย่างนึกเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางนั้น ไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมาก็รู้ว่าใบหูแดงระเรื่อนั้นกางฟังเก็บทุกรายละเอียดที่เธอพูดออกไป

     “ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะว่าผู้ชายตัวโตอย่างนั้นจะชอบทานอะไรแบบนี้” กานต์รักขบคิดกับตัวเองเมื่อได้ยินประโยคที่คนดูแลเปรยออกมาให้ฟัง วันนี้นั้นป้าน้อยมาพร้อมกับส่วนผสมของขนมและเครื่องมือต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ เจ้าของร้านเบเกอร์รีตาโตด้วยความดีใจก่อนจะรีบเข้าครัวตั้งแต่เที่ยงเพราะความตื่นเต้น

     “วันนี้ป้าเลยซื้อผงโกโก้และช็อกโกแลตต่างๆมาเผื่อซะเยอะเลยนะคะ”

     “งั้น...เดี๋ยวรักทำเค้กช็อกโกแลตเพิ่มอีกก็ได้ครับ” เพราะที่ทำนั้นไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่นักเมื่อได้ยินว่าอีกคนชอบกินกานต์รักเลยมีความคิดว่าควรจะทำเพิ่ม

     “ทำเผื่อคนอื่นแล้วอย่าลืมทำเผื่อตัวเองนะคะ...คุณรักต้องทานให้เยอะกว่านี้หน่อย” แม้วันนี้กานต์รักจะทานได้เยอะขึ้นเพราะเมนูยำแต่เธอก็ยังอยากให้คนตัวเล็กนั้นทานให้ได้มากกว่านี้อีก

     “ครับ...รักจะทานให้เยอะๆเลย” หากเป็นพวกขนมอย่างนี้ยังพอทานได้มากหน่อย อาจเพราะเป็นสิ่งที่ชอบจึงคิดว่าน่าจะทานได้มากกว่าอย่างอื่น

     ตลอดทั้งวันกานต์รักจึงขลุกอยู่กับการทำขนมเพราะช่วยให้ไม่ต้องฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างในหัวจะถูกตัดออกแล้วมีความสุขอยู่กับแค่ส่วนผสมของขนมต่างๆตรงหน้า ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเกือบสี่โมงเย็นขนมหลากหลายเมนูจึงถูกวางเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะอย่างเสร็จสับ

     “หน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย คุณรักเก่งจังนะคะ”

     “ลองทานดูนะครับว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง” มือบางตัดแบ่งขนมต่างๆออกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วตักใส่จานให้คนที่แก่กว่าได้ลิ้มลอง

     “อร่อยทุกอย่างค่ะ ไม่หวานเกินไปคนแก่ทานได้”

     “ถ้าอย่างนั้นรบกวนป้าน้อยเอาไปแบ่งคนอื่นๆด้วยนะครับ รักทำซะเยอะเลย”

     “ได้ค่ะ แต่พวกเมนูช็อกโกแลตต่างๆคงจะแบ่งให้ใครไม่ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นคุณแพทได้อาละวาดแน่”

     “เขาอาจจะไม่ชอบฝีมือรักก็ได้ครับ” เสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบา

     “ลองให้ชิมก่อนสิคะ...เชื่อป้าว่าคุณแพทต้องทานทั้งหมดนี้แน่ๆ”

     “ครับ”

     “งั้นป้าเอาขนมออกไปให้คนอื่นๆก่อนนะคะ เยอะขนาดนี้เดี๋ยวจะเสียของทิ้งเปล่าๆ” กานต์รักพยักหน้ารับก่อนจะแย้มยิ้มน้อยๆ ด้านนอกนั้นมีคนอยู่มากมาย ทั้งตึกนี้เป็นตึกของแพทริก เบรนเนแกน ขนมที่ทำคงแบ่งได้ไม่ถึงเสี้ยวของจำนวนคนเลยด้วยซ้ำไป

     ดวงตากลมโตกวาดมองเมนูช็อกโกแลตต่างๆตรงหน้าแล้วอมยิ้มกับตัวเอง ไม่รู้ว่าอีกคนจะชอบฝีมือของตัวเองหรือไม่ ป้าน้อยบอกแล้วว่าวันนี้คุณแพทริกจะเข้ามาที่นี่ตอนเย็นๆ ตอนนี้เป็นเวลากว่าสี่โมงแล้ว กลิ่นขนมอบอวลไปทั่วตัวจนกานต์รักคิดว่าคงต้องอาบน้ำเสียหน่อย

     หลังจากอาบน้ำเสร็จเมื่อไม่มีอะไรทำกานต์จึงเดินถือจานขนมมานั่งตรงโซฟากลางห้องรับแขก นั่งดูโทรทัศน์ที่ป้าน้อยเปิดทิ้งเอาไว้ไปเรื่อยๆ

     “คุณรักคะ คุณแพทริกกำลังจะขึ้นมาแล้วค่ะ” คนที่พึ่งกลับเข้ามาในห้องเดินมาหาแล้วเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้ม

     “อ่า ครับ” กานต์รักพยักหน้ารับพร้อมกับยกมือขึ้นมาเกาแก้มแก้เก้อโดยไม่รู้ตัว ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันมากไปกว่านั้นบานประตูกว้างก็ถูกเปิดออก ป้าน้อยส่งยิ้มให้ก่อนจะผละออกไป

     “กลิ่นช็อกโกแลต? ทั้งหมดนั่นของใคร” แพทริกเดินเข้าห้องมาก่อนจะเดินตามกลิ่นหอมอบอวลของขนม ใบหน้าคมขมวดคิ้วเมื่อเห็นหลากหลายเมนูช็อกโกแลตวางอยู่บนโต๊ะอาหาร ดวงตาคมวาวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นขนมโปรดเรียงรายอยู่ตรงหน้า คนทำจึงเดินเข้ามาหาอย่างช้าๆ

     “วันนี้ป้าน้อยเอาส่วนผสมมาให้ทำขนมครับ”

     “แล้ว?” เรื่องนั้นแพทริกรู้อยู่แล้วเพราะเขาเป็นคนสั่งเอง

     “ผมไม่มีอะไรทำเลยทำมันออกมาเยอะไปหน่อย” แต่บนนี้คือกานต์รักตั้งใจทำเพื่ออีกคนทั้งนั้น

     “สรุปทั้งหมดนี่ของใคร เมื่อกี้ที่ขึ้นมาก็เห็นแบ่งว่าคนอื่นไปแล้วนี่”

     “อันนี้...ของคุณแพทริกครับ” กานต์รักเอ่ยตอบเสียงเบาไม่กล้าสบตา

     “ฉัน?” ใบหน้าเล็กพยักรับอย่างช้าๆ

     แพททริกรั้งแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก หยิบส้อมที่วางอยู่ข้างๆราวกับตั้งใจเตรียมไว้ขึ้นมาตักชิม ในตอนที่ลิ้นรับรู้ได้ถึงรสชาติของขนมสีน้ำตาลเข้มนี้ใบหน้าคมก็ผ่อนคลายลงแทบจะในทันที

     “เป็นยังไงบ้างครับ” คนทำเอ่ยถามอย่างลุ้นๆ

     “อืม อร่อยดี” คราวนี้กานต์รักแย้มยิ้มกว้างจนคนที่กำลังตักขนมชะงักไปทันตา ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะได้เห็นรอยยิ้มหวานระบายเต็มหน้าเช่นนี้ ยอมรับว่ายามใบหน้าหวานประดับด้วยรอมยิ้มกว้างมันน่ามองเสียจนเผลอจ้องไม่ละสายตา ก่อนที่อีกคนจะรู้ตัวแพทริกก็ดึงสายตาตัวเองกลับมาแล้วทำเป็นสนใจขนมตรงหน้าต่อ

     ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้เขาโดนเด็กนี่เล่นงานไม่หยุดเลยหรือไง!

     “รักทำน้ำผึ้งมะนาวไว้ด้วย คุณแพททริกอยากจะลองทานไหมครับ...มันทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ดีมากเลย” คนพูดนั้นหลุดแทนชื่อตัวเองโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้ว่าความตั้งใจของตัวเองทำให้คนอื่นชอบก็รู้สึกดีเสียจนเผลอหลุดนิสัยส่วนตัวออกมาจนหมด

     “อืม” แพทริกตอบรับเสียงเข้ม มองท่าทางที่ดูสดใสนั้นแล้วต้องทำทีเป็นไม่สนใจ บอกตัวเองเอาไว้ว่าอย่าใจอ่อนเพียงเพราะท่าทางซื่อๆนี้

     “งั้นเดี๋ยวรักไปเอาให้นะครับ” ยิ่งคราวได้ยินเสียงอีกคนเรียกแทนตัวเองด้วยชื่ออีกครั้งในหัวก็พลันนึกไปถึงยามเสียงหวานครางสั่นเอ่ยร้องขอด้วยความเสียวกระสัน

     ให้ตายเถอะ แค่นี้ก็เป็นเอามากแล้วแพทริก คิดบ้าอะไรวะ!

     “นี่ครับ” แก้วน้ำผึ้งมะนาวถูกวางลงตรงหน้าในขณะที่เจ้าของร่างบางนั้นยืนสิ่งยิ้มน้อยๆให้ กานต์รักไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิดว่าท่าทางที่ออกมาจากธรรมชาติของตนนั้นกำลังทำให้ใครอีกคนหายใจผิดจังหวะ

     “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว จะไปทำอะไรก็ไป” แพทริกเอ่ยบอกเสียงเข้ม กระแอมไอกับตัวเองเล็กน้อยก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ มือหนาแสร้งตักขนมเข้าปากจนคนฟังนั้นค่อยๆผละออกไปเนื่องจากไม่อยากรบกวน สายตาคมเผลอมองตามแผ่นหลังบอบบางจนกระทั่งอีกคนกลับไปนั่งดูโทรทัศน์เช่นเดิม

    ไม่รู้ทำไมพอมองรอยยิ้มนั่นแล้วกลับรู้สึกแปลกๆ

     ท่าทางอันอ่อนหวานเรียบร้อยนั้นเป็นเอกลักษณ์ของกานต์รัก ใบหน้าหวานมักจะระบายยิ้มน้อยๆจนคนอื่นรู้สึกสบายตายามได้มอง แพทริกจะมองอีกคนดีกว่านี้หากไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

     ยอมรับว่าคืนนั้นพอใจในตัวของกานต์รักมาก มากจนอยากจะให้มีครั้งต่อมา...

     “อร่อยไหมคะคุณแพท” หัวหน้าแม่บ้านเดินเข้ามาหาร่างสูงที่นั่งกินขนมโปรดหลากหลายเมนูหมดไปกว่าครึ่งด้วยความรวดเร็ว

     “อืม อร่อยดี” ไม่ได้แปลกใจนักกับรสชาติเพราะร้านของกานต์รักนั้นมีลูกค้าเยอะพอสมควร ยิ่งคราวได้สืบเรื่องราวจึงยิ่งรู้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านขนมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในเรื่องของความอร่อย

     “อย่ากินจนทานข้าวไม่ได้เสียล่ะค่ะ” ประโยคนั้นมีแววเหย้าหยอกเสียจนคนตัวสูงขมวดคิ้ว ก่อนจะทันได้พูดอะไรร่างท้วมของผู้สูงวัยก็เอ่ยขอตัวแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าของขนมมากมายพวกนี้

     แม้จะได้ยินคำเตือนนั้นหากแต่มือใหญ่กลับไม่ได้หยุดการตักขนมเข้าปาก ตาคมกริบกวาดมองทุกอย่างบนโต๊ะแล้วคิดในใจว่าจะจัดการมันให้หมด

✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻ ✻


     “คุณแพททานจนหมดเลยค่ะ” แม่บ้านผู้ดูแลเอ่ยบอกเมื่อคนที่ถูกพูดถึงนั้นเดินออกจากห้องไปเพื่อทำงานต่อ แพทริกไม่ได้ทานข้าวเย็นเลยด้วยซ้ำคงเพราะอิ่มจากการทานขนมมากมายบนโต๊ะ

     “รักดีใจครับที่เขาชอบ” รอยยิ้มหวานถูกจุดขึ้นบนใบหน้าจนคนมองนั้นยิ้มตาม

     “คุณรักทำอร่อยมาก ใครๆก็ชอบค่ะ วันหลังทำอีกนะคะ”

     “ขอบคุณครับ”

     คนถูกชมยิ้มเป็นปลื้มก่อนจะนึกไปถึงร่างสูงที่พึ่งเดินออกจากห้องไป ไม่รู้ว่าเมื่อเช้าคุณแพทริกตื่นนอนแล้วออกไปตอนไหนเนื่องจากตอนที่เขาตื่นขึ้นมานั้นก็ไม่เห็นอีกคนเสียแล้ว แค่คิดว่าคืนนี้ต้องนอนร่วมห้องกันอีกใจเจ้ากรรมก็พลันเต้นรัวขึ้นมา
 
     กานต์รักคิดไว้แล้วว่าคงต้องรีบนอนให้หลับก่อนที่คุณแพทริกจะกลับมา จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งนั้น...

     หากแต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วกลับไม่อาจข่มตาหลับลงได้ กายบางพลิกตัวบนเตียงไปมาจนย่างเข้าสู่วันใหม่มาได้ห้านาที ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ความตื่นเต้นยิ่งครอบงำ จนในที่สุดแล้วต้องลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปยังโซฟาตัวโปรด คิดว่าหากทำเป็นหลับอยู่ตรงนี้ อีกคนก็จะได้นอนในห้องเพียงคนเดียว

     แกร๊ก

     ไม่นานนักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นให้คนที่นอนไม่หลับรีบแสร้งหลับตา แต่แล้วเสียงต่างๆที่ได้ยินกลับทำให้ร่างเล็กต้องขยับตัวลุกขึ้นนั่ง

     “โจเซฟแกพยุงเจ้านายดีๆสิวะ”

     “ฉันพยุงดีแล้วเว้ย แกนั่นแหละที่ต้องพยุงดีๆ”

     เสียงทะเลาะกันดังขึ้นจนกานต์รักรีบเดินเข้าไปหาต้นตอ ยามเห็นสภาพของคนทั้งสามตรงหน้าตาดวงโตก็เบิกขึ้นด้วยความแปลกใจ

     เรือนร่างสูงใหญ่ถูกหิ้วปีกโดยคนสองคน แพทริกนั้นหลับคอพับคออ่อนแทบไม่ได้สติ กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจนกานต์รักต้องเบือนหน้าหนี

     “มีอะไรกันเหรอครับ”

     “อ่า...คุณรัก คือว่าเจ้านายไปงานเลี้ยงมาครับเลยมีสภาพเป็นอย่างที่เห็น” ความจริงแล้วนั้นแพทริกเป็นคอที่คอแข็งมาก หากแต่วันนี้ในงานเลี้ยงได้มีโอกาสเจอเพื่อนฝูงมากมายจึงเกิดการดวลเหล้ากันขึ้น แล้วแต่ละคนนั้นก็คอแข็งพอๆกัน พากันซัดทั้งเหล้า ไวน์ วอดก้าจนมีสภาพเป็นอย่างที่เห็น

     ร่างเล็กเดินตามคนทั้งสามมาจนกระทั่งถึงในห้องนอน บอร์ดี้การ์ดร่างสูงหอบแฮกจนตัวโยนเมื่อพาเจ้านายมาถึงที่หมายได้สำเร็จ

     “ยังไงพวกเราก็ฝากดูแลคุณแพทริกด้วยนะครับ”

     “อะ อะไรนะครับ...เดี๋ยวสิครับ!” กานต์รักมองตามคนสนิทของแพทริกที่เดินออกจากห้องด้วยความรวดเร็วอย่างตกใจกับประโยคก่อนหน้า เสียงเล็กเอ่ยเรียกเสียงหลงหากแต่ทั้งสองช่างจากไปรวดเร็วเหลือเกิน นัยน์ตาใสหันกลับมามองคนที่ไม่ได้สติอยู่บนเตียงกว้างอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี

     กลิ่นแอลกอฮอล์นั้นรุนแรงและดูจากสภาพแล้วคนตัวสูงต้องไม่สบายตัวเป็นแน่

     กานต์รักสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำกว้าง หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาชุบด้วยน้ำแล้วบิดให้หมาด ก่อนจะเดินกลับมาหาคนเมาขนเตียงอีกครั้ง

     ความเย็นชืดสัมผัสลงบนใบหน้าคมอย่างช้าๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดๆจนกานต์รักได้แต่ส่ายหัวเล็กน้อยกับภาพตรงหน้า ไม่รู้ว่าดื่มไปมากมายขนาดไหนถึงเมาได้ขนาดนี้ มือบางซับผ้าไปตามกรอบหน้าให้แพทริกอย่างแผ่วเบา แม้อีกคนจะพลิกหน้าหนีด้วยความรำคาญบ้างแต่ร่างบางก็ยังใจเย็นเช็ดใบหน้าและลำคอแกร่งให้จนเรียบร้อย

     เพราะในห้องนั้นไม่มีอ่างสำหรับใส่น้ำกานต์รักจึงต้องเดินกลับมาซักผ้าในมือเบาๆแล้วบิดให้หมาดเพื่อกลับไปเช็ดตัวให้แพทริกอีกครั้ง

     “อืม...” เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอเมื่อผ้าเปียกชื้นลากไล้ไปยังแขนทั้งสอง จากนั้นมือบางอันสั่นเทาก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเนื้อดีของอีกคนออกกระทั่งสาบเสื้อสองข้างหลุดออกจากกันเปิดเผยเรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเต็มตาแต่กานต์รักก็ยังอดสะเทิ้นอายไม่ได้

     หากไม่เช็ดตามตัวให้ก็กลัวว่าแพทริกจะไม่สบายตัว กว่าจะกลั้นใจปลดกระดุมเสื้อได้นั้นในอกสั่นไหวจนแทบหัวใจวาย ยิ่งยามได้เห็นท่อนบนเปล่าเปลือยกานต์รักยิ่งรู้สึกราวกับจะเป็นลม

     มือเล็กค่อยๆไล้เช็ดไปตามกายแกร่งอย่างแผ่วเบา คนเมาเริ่มพลิกตัวไปมาด้วยความรู้สึกมวนท้อง กระทั่งความรู้สึกนั้นหนักขึ้นจนต้องเปล่งเสียงออกมา

     “อื้อ...จะ...อ้วก” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อแอ้ทำให้กานต์รักตาเบิกกว้าง วางผ้าผืนเล็กลงบนพื้นข้างเตียงก่อนจะขยับเข้ามาพยุงคนตัวสูงให้ลุกขึ้นนั่ง หวั่นกลัวเหลือเกินว่าแพทริกจะอ้วกออกมาตรงนี้ เป็นห่วงก็แต่ว่าเตียงกว้างจะเลอะจนอีกคนนอนไม่ได้

     “อดทนไว้ก่อนนะครับ” แม้จะหนักแสนหนักแต่คนตัวเล็กกว่าครึ่งนั้นก็พยายามประคองร่างสูงมาจนถึงห้องน้ำกว้างได้สำเร็จ ยังดีที่แพทริกยังพอลากเท้าเดินได้ไม่อย่างนั้นกานต์รักคงไม่สามารถพามาจนถึงที่

     ดวงตาคมสะลึมสะลือพยายามเปิดขึ้น ความรู้สึกพะอืดพะอมเล่นงานจนกระทั่งเห็นอ่างล้างหน้าอยู่ตรงหน้าใบหน้าคมจึงรีบก้มลงแล้วขย้อนเอาทุกสิ่งอย่างออกมา สัมผัสบางเบาลูบไล้ตามแผ่นหลังกว้างให้ความรู้สึกดีขึ้นท่ามกลางความอึดอัดภายใน กระทั่งรู้สึกว่าในท้องไม่มีอะไรแล้วแพทริกจึงคลำมือไปเปิดน้ำให้ทุกอย่างไหลลง มือหนารองน้ำขึ้นมาแล้วกวักล้างหน้าสองสามที

     “เป็นยังไงบ้างครับ” เพราะความเป็นห่วงทำให้กานต์รักเผลอเอ่ยถามขึ้นโดยลืมปกปิดน้ำเสียงอันร้อนรน มือบางยังคงลูบไล้ไปเรื่อยๆหวังให้อีกคนรู้สึกดีขึ้น

     แพทริกยืดตัวตรง แม้จะยังมีสติไม่มากนักแต่ก็รับรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังนั้นเป็นใคร ใบหน้าคมหลับตานิ่งแล้วค่อยๆหมุนตัวกลับมา กานต์รักเอื้อมมือไปหยิบผ้าที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์แล้วซับหยดน้ำออกจากใบหน้าให้อย่างลืมตัว

     กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนร่างบางตรงหน้าทำให้แพทริกรู้สึกดีขึ้นได้อย่างประหลาด ยืนนิ่งให้คนตัวเล็กเช็ดหน้าโดยไม่ได้เอ่ยอะไร

     “ขนม...” แม้จะสร่างเมาขึ้นมาบ้างแล้วหากแต่สตินั้นยังคงกลับมาไม่เต็มที่นัก ประโยคนั้นทำให้คนที่กำลังวางผ้าลงบนเคาท์เตอร์หยุดชะงัก

     “คุณแพทริกว่าอะไรนะครับ”

     “หอม...ขนม...กิน” ดวงตาคมปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า ความพร่ามัวตรงหน้าทำให้ต้องหรี่ตามองเพื่อปรับความคมชัด กระทั่งในความพร่าเลือนนั้นเห็นขนมสีสดอยู่ตรงหน้าคนเมาจึงขยับเข้าไปหา หวังว่าขนมหวานกลิ่มหอมนี้จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

     “อื้อ” กานต์รักช็อคจนทำได้เพียงยืนนิ่งเมื่อริมฝีปากได้รูปพึมพำกับตัวเองแล้วทาบทับลงมาแนบชิด ลิ้นร้อนไล้เลียเรียวปากบางราวกับกำลังละเลียดขนมหวาน ฝ่ามือน้อยขยุ้มกางเกงนอนตัวเองแน่น ในใจสั่นรัว ยิ่งยามเรือนร่างใหญ่บดเบียดเข้าหาจนกายแกร่งเปล่าเปลือยแนบชิดพาให้สติของกานต์รักหลุดลอย ราวกับถูกอีกคนมอมให้เมาไปด้วยสัมผัสวาบหวาม

     “อืม...หวาน...ชอบ” แพทริกพึมพำในลำคอยามดูดดึงไล้ชิมความหอมหวานตรงหน้า ยิ่งสัมผัสยิ่งต้องการมากขึ้นจนลิ้นหนาค่อยๆสอดแทรกแนบชิด กว้านต้อนภายในทุกซอกทุกมุมจนเกิดเสียงแผ่วเบา

     เสียงหวานใสครางสั่นในลำคอเมื่อถูกเล่นงานด้วยลิ้นหนา ไรฟันขาวถูกกวาดต้อนไปทั่วก่อนลิ้นเล็กจะถูกดูดดึงอีกครั้ง กระทั่งเกือบจะหมดลมหายใจร่างเล็กจึงพึ่งรู้สึกตัวว่าควรผละออก อาจเพราะคนเมานั้นไม่มีแรงมากนักกานต์รักจึงละเรียวปากออกได้สำเร็จ

     หากแต่ความร้อนรุ่มนั้นกลับไล้ตามลงมาจนถึงลำคอระหง

     “อ๊ะ...คะ คุณแพท” ยามใบลิ้นร้อนไล้เลียความเปียกชื้นไปตามลำคอกานต์รักก็เอ่ยเรียกด้วยเสียงสั่นพร่า ขณะยังหายใจหอบแฮกอีกคนก็เปลี่ยนการจู่โจมลงมาเรื่อยๆ  มือหนาลากไล้เข้ามาในชายเสื้อสัมผัสผิวเนื้อเนียนไปมาด้วยความแผ่วเบา ทิ้งความร้อนผ่าวจากฝ่ามือไว้ทุกที่จนร่างบางต้องขบปากแน่น

     ทุกอย่างพาให้สติที่เหลือน้อยนิดของกานต์รักปลิวไปด้วยความหวามไหว ปล่อยให้ทุกสัมผัสนั้นเลยเถิดไปเรื่อยๆอย่างไม่อาจห้าม

TBC.

 :mew3: :mew3:



จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2016 20:45:57 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คุณแพทเมาจริงๆ ปะเนี่ยยยยยย คึคึ

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาลงต่อเร็วๆน๊าาาา


 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เห็นกานต์เป็นขนม ก็ทานซะอิ่มละสิ

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
กานต์รักเป็นใครกันแน่น้อ
มีความหลังอะไรกะคุณแพททริกแน่ๆ
ถ้ายอมพลีกายขนาดนี้ น้องต้องมีความรักให้แน่นอน รักแรก? หรือเพราะแพททริกทำอะไรให้รัก แต่เจ้าตัวไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ประเด็นน่าจะใหญ่กว่านี้ เพราะไม่ยอมบอกอะไรเลย คือหนูจะยอมให้้้เขาเสียบหล่นๆตั้งห้าหกทีแบบฟรีๆไม่ได้นะคะ

ออฟไลน์ Red_sister

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ชอยแนวนี้จังงงง นิยายช่างน่าติดตาม สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องรักของพี่ โอเคไหมลูก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด