❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33  (อ่าน 431532 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

กินคนทำขนมซะงั้น

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุณแพททริกกิน ขนม อร่อยไหม
 :impress2: :impress2:
อยากรู้ความลับของรักจริงๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
 :hao7: :hao7: :hao7:
ปักรัวๆๆ
ชอบผช.สายโหดที่ชอบกินของหวาน ถึงเเม้จะเป็นช๊อคโกแลตก็เถอะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Omg นั่นไม่ใช่ขนมนะคณ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ค้างจัง รอๆๆๆ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
คุณแพทแอ๊บเมาไหม 55555
รักน่ารักกก

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คุณแพทมีความเนียนนะคะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คุณแพทอ่ะ ชิ

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 :m25:โดนกินอีกแล้ว อย่ารุนแรงกับหนูรักนะ :serius2:

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
สรุปคือนางเอกแค่อยากเสียตัวครั้งแรกให้พระเอก   :hao3:

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
ตอนที่ 5

     แสงแดดร้อนยามเที่ยงทอแสงกล้าจนกระทบสาดส่องเข้ามาภายใน เรือนร่างสูงใหญ่ที่นอนคว่ำบนเตียงกว้างหายใจเข้าออกสม่ำเสมอค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ความหนักอึ้งในหัวแล่นริ้วเล่นงานจนคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม แขนแข็งแกร่งโอบตวัดไปด้านข้างเพื่อหวังคว้าเรือนร่างหอมกรุ่นเข้ามากกกอดเฉกเช่นเมื่อคืน

     หากแต่ความว่างเปล่าที่ได้พบนั้นกลับทำให้เปลือกตาจำต้องเปิดขึ้นช้าๆด้วยความหงุดหงิด กวาดมองไปรอบห้องก่อนจะวกสายตากลับมาข้างตัว

     หายไปไหน?

     แพทริกขยับตัวขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า อาการหนักอึ้งราวกับมีก้อนหินถ่วงอยู่ในหัวทำให้ต้องหลับตาลงนิ่ง ในความมืดนั้นพานทำให้สมองฉายภาพเรื่องราวเมื่อคืนขึ้นมาอย่างชัดเจน

     ตอนแรกนั้นเมาจริง พอได้อ้วกออกไปถึงได้เริ่มรู้สึกตัวมากขึ้น ขณะที่กำลังกินขนมกลิ่นหอมนั้นใช่ว่าจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร มันเหมือนอยู่ระหว่างความฝันกึ่งๆกับความจริง กระทั่งยิ่งสัมผัสจึงทำให้รู้สึกตัวมากขึ้น หากแต่ตอนนั้นความคิดที่จะหยุดการกระทำลงไม่ได้อยู่ในหัวเลยซักนิด

     จากห้องน้ำประคองทั้งตัวเองและร่างเล็กมาจนถึงเตียง ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างไม่รู้จบสิ้นไปตอนไหน ผ้าปูเตียงยับยู่ยี่ คราบอะไรบางอย่างเปรอะเลอะ ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างดุเดือด

     เรือนร่างกำยำไร้สิ่งปกปิดลุกขึ้นยืนอย่างเซนิดๆก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ให้สายน้ำเย็นฉ่ำช่วยดึงสติที่ยังมึนเบลอให้กลับเข้าที่ เมื่อจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกจากห้อง

     กลิ่นหอมฉุยของอาหารบางอย่างทำให้แพทริกเดินตาม ความหิวเริ่มประท้วงจนขายาวสาวเท้าเร็วขึ้น ก่อนจะได้เห็นเรือนร่างบอบบางของคนที่ตัวเองกกกอดทั้งคืนกับหัวหน้าแม่บ้านกำลังง่วนอยู่หน้าเตา

     “อ้าวคุณแพท ตื่นแล้วเหรอคะ”

     เสียงคนข้างตัวเอ่ยขึ้นพลันทำให้คนที่กำลังคนซุปอยู่ตัวแข็งทื่อ ใจดวงน้อยกระตุก มือบางหยุดชะงัก ยามคิดว่าด้านหลังของตัวเองนั้นมีใครบางคนยืนอยู่ความร้อนผ่าวก็ลามไปทั่วทั้งตัว ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนฉายวาบขึ้นมาในหัวจนแก้มนวลขึ้นสี

     “อืม ทำอะไรกัน”

     “กำลังทำอาหารเที่ยงค่ะ มีแต่อาหารที่ช่วยแก้อาการแฮงค์สำหรับคุณแพททั้งนั้น...รอซักครู่นะคะ อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว”

     แพททริกพยักหน้ารับแต่สายตากลับมองไปยังแผ่นหลังบอบบางของใครบางคนนิ่ง คนแก่แย้มยิ้มน้อยๆก่อนจะทำทีเป็นหันกลับไปสนใจการทำอาหารต่อ

     ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เธอเข้าห้องมาในตอนเจ็ดโมงเช้า โดยปกติแล้วกานต์รักจะออกจากห้องมาราวๆช่วงแปดโมง หากแต่วันนี้กว่าร่างเล็กนั้นจะออกมาก็ปาเข้าไปสิบโมงซึ่งถือว่าสายกว่าทุกวัน รอยแดงตามลำคอขาวที่พยายามซ่อนเท่าไหร่ก็ไม่มิดปรากฏให้ได้เห็นยามอีกคนขยับตัวจนคนผ่านอะไรมาเยอะยกยิ้ม

     พอจะขยับร่างกายทีเห็นใบหน้าหวานนิ่วหน้าแล้วก็อดสงสารไม่ได้ จากรอยตามลำคอลงไปยังลาดไหล่เนียนที่เห็นแวมๆกานต์รักคงโดนคุณแพทริกเอาแต่ใจใส่ไม่น้อย

     “ซุปได้ที่หรือยังคะคุณรัก” ผู้ดูแลเอ่ยถามคนที่คนซุปไปมาอย่างเหม่อลอย ขณะที่คนตัวสูงยังยืนอยู่อย่างนั้นไม่ได้ขยับไปไหน

     “ดะ ได้แล้วครับ” ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปปิดเตาให้เรียบร้อย ปากบางเม้มเข้าหากันอย่างประหม่าเมื่อต้องหันกายกลับไปเผชิญกับคนที่ทำให้หัวใจทำงานหนัก

     “เชิญคุณแพทนั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ” ได้ยินดังนั้นเรือนร่างสูงใหญ่จึงเดินมาทรุดกายลงนั่งบนโต๊ะอาหารซึ่งอยู่ในส่วนเดียวกันกับห้องครัว อาการหนักๆในหัวยังคงมีอยู่จนต้องคลึงขมับเบาๆ หากได้กินอะไรร้อนๆหวังว่าคงจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

     “เห็นคุณรักบอกว่าเมื่อคืนคุณแพทเมามากวันนี้เลยมีแต่อาหารแก้แฮงค์ทั้งนั้นเลยนะคะ”

     โจ๊กกลิ่นหอมฉุย ซุปร้อนๆ น้ำมะนาว และช็อกโกแลตถูกวางลงตรงหน้า แพทริกกวาดตามองอาหารก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังคนที่ทรุดตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม

     “เรียบร้อยแล้วงั้นเดี๋ยวป้าขอตัวลงไปข้างล่างก่อนนะคะ” หัวหน้าแม่บ้านรู้ดีว่าไม่ควรจะอยู่เป็นก้างขวางคอของคนทั้งคู่ คนแก่จึงแย้มยิ้มให้ใบหน้าหวานที่ดูกระอักกระอ่วนนิดๆอย่างให้กำลังใจก่อนจะเดินออกจากห้อง

     กานต์รักนั่งก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับใครอีกคน ขณะที่สายตาคมก็มองมายังร่างบางไม่วางตา

     “ทำไมไม่ปลุกฉัน” แพทริกเอ่ยถามเสียงนิ่งทั้งที่ในใจนั้นยังงงกับตัวเองว่าทำไมต้องถามคำถามที่ไร้สาระนี้ราวกับเพื่อเพียงหาเรื่องคุย ประโยคที่ทำให้กานต์รักสะดุ้งนิดๆ

     “เอ่อ...ผมคิดว่าคุณแพทริกน่าจะปวดหัวมากเลยไม่ได้ปลุกครับ” แม้จะงงกับคำถามจากคนตัวสูงหากแต่กานต์รักก็เอ่ยตอบเสียงแผ่วด้วยใจที่สั่นระรัว

     ใครจะกล้าปลุกกัน...

     แพทริกมองคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก่อนจะตัดใจลงมือทานอาหาร ต่างฝ่ายต่างทานข้าวไปเงียบๆโดยมีสายตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กเป็นระยะจนนึกหงุดหงิดตัวเอง เมื่อคืนแม้จะเมาแต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าอีกคนนั้นคอยดูแลอยู่ตลอด ยามมือบางลูบไล้แผ่นหลังกว้างไปมาอย่างแผ่วเบามันทำให้รู้สึกดีเสียจนใจที่ด้านชากำลังรู้สึกวูบไหวโอนอ่อน

     ความแข็งกระด้างทั้งหมดกำลังจะถูกหลอมเหลวด้วยความอ่อนโยนของคนตรงหน้า...

     สิ่งที่แพทริกกลัวมาตลอด

    “ทำไมต้องมีช็อกโกแลต” เมื่อทานโจ๊กและซดน้ำซุบจนช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแพทริกก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย มือหนายกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มพร้อมกับรอฟังคำตอบ

    “ช็อกโกแลตช่วยเรื่องอาการเมาค้างได้ครับ...เมื่อวานป้าน้อยซื้อมาทำขนมซะเยอะ ผมเห็นว่าคุณแพทริกชอบเลยคิดว่าน่าจะช่วยได้ดี”

     กานต์รักวางช้อนลงช้าๆเมื่อทานเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเอ่ยตอบ ตอนนี้นั้นเขาเริ่มทานอาหารได้เยอะขึ้นแล้วเพราะป้าน้อยขยันสรรหาอะไรมาให้กินตลอด ยิ่งได้ทำกับข้าวเองเลยทำให้อาหารถูกปากมากกว่าเดิม

    “ไม่เห็นเคยได้ยิน”

    “แล้วปกติเวลาแฮงค์คุณแพทริกทำยังไงครับ” เสียงเล็กเอ่ยถามอย่างลืมตัว ดวงตาใสแจ๋วช้อนมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยความอยากรู้

    “กาแฟ”

    “ผมไม่ได้ชงให้เพราะคิดว่าตอนนี้คงไม่เหมาะจะดื่มมัน” กานต์รักพูดตามความคิดของตัวเองออกมา ในขณะที่แพทริกจ้องมองปากบางสีสดที่ขยับตามจังหวะการพูดนิ่ง

    รู้สึกเหมือนอยากจะกินขนมอีก...

    ความคิดที่ทำให้ต้องยกแก้วน้ำมะนาวเย็นเฉียบขึ้นมาจิบแก้กระหาย ความเปรี้ยวที่ได้รับนั้นช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้เป็นอย่างดี

     “ผมขออนุญาตเก็บจานเลยนะครับ” เมื่อเห็นคนตัวสูงเช็ดปากหลังจากที่ดื่มน้ำมะนาวไปเกินกว่าครึ่งแก้วกานต์รักจึงเอ่ยบอก
 
     การได้ทำงานบ้านเองเล็กๆน้อยๆแบบนี้มันช่วยลดอาการเบื่อและความคิดฟุ้งซ่านลงไปได้บ้าง อีกอย่างนั้นเพราะอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่เพียงแค่อยู่เฉยๆไปวันๆ

     แพทริกขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินดังนั้น

     “ป้าน้อยไม่ได้เป็นคนทำหน้าที่นี้หรือไง”

     “ผมขอทำเองครับ...อ๊ะ” กานต์รักอุทานออกมาเสียงเบาจนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามลุกพรวดเข้ามาประชิดตัวด้วยความรวดเร็ว เพียงเพราะจังหวะการลุกที่เร็วเกินไปนั้นทำให้ความเจ็บเสียดทางด้านล่างเล่นงานจนเสียหลัก หากแต่อ้อมแขนแขนแกร่งที่ตวัดโอบรอบตัวกลับช่วยประคองไม่ให้ล้มลงไป

     สัมผัสใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนร่างเล็กตั้งตัวไม่ทัน และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือมันทำให้ใจดวงน้อยเต้นรัวจนเจ็บหน้าอกไปหมด

     “ขะ ขอบคุณครับ”

     “ถ้าเจ็บแล้วจะทำทำไม นั่งอยู่เฉยๆ” เสียงทุ้มเอ่ยเข้ม ดูท่าทางก็รู้ว่าเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้คนในอ้อมกอดนั้นระบมไม่น้อย จะย่างก้าวเดินทีจะนั่งทีนั้นเห็นว่าต้องนิ่วหน้าอยู่ตลอด ยังจะอวดเก่งลุกขึ้นล้างจานพวกนี้อีก

     “ผะ ผมไม่เป็นไรครับ” ดวงตากลมโตหลบวูบเมื่อเห็นคนตัวโตจ้องมองนิ่ง เมื่อครู่คงเป็นแค่เพราะลุกเร็วเกินไปเนื่องจากลืมว่าร่างกายตัวเองนั้นไม่ค่อยปกติจึงเป็นเช่นนี้ หากเดินช้าๆก็ยังพอทนไหว

     “...”

     “...ไม่ทำก็ได้ครับ” สุดท้ายกานต์รักก็ทนสายตาคมนิ่งที่จ้องมองมาไม่ได้จึงต้องเอ่ยออกไปเสียงเบา ใบหน้าเล็กก้มลงจนแทบจะชิดอกตัวเอง

     พอได้ยินคำตอบที่พอใจอ้อมแขนแข็งแรงจึงค่อยๆคลายออก เมื่อยืนเองได้อย่างมั่นคงร่างเล็กจึงขยับตัวถอยห่างออกมาอีกนิด เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์เครื่องหรูของอีกฝ่ายดังขึ้น กานต์รักไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหากได้ยินเสียงแพทริกรับคำปลายสายไม่กี่คำก่อนจะกดวาง

    “ฉันมีประชุม...แต่ตอนเย็นจะกลับมาทานข้าวด้วย”

    เสียงทุ้มเอ่ยสั่งเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็วให้คนฟังได้แต่กระพริบตาปริบๆมองตาม ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องบอกกัน

     ราวกับว่าจะให้รอ...

     แม้ปกติโดยส่วนมากแล้วคนตัวโตจะทานข้าวเย็นพร้อมกันอยู่แล้วก็ตาม

     รอยยิ้มหวานถูกจุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อนึกถึงประโยคเมื่อครู่ แม้ประโยคนั้นจะถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่มันทำให้ใจดวงน้อยรู้สึกราวกับกำลังฟูฟ่องจนคับอก

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

    แพทริกกลับมาเพื่อทานข้าวเย็นราวๆช่วงหนึ่งทุ่ม อาหารทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อยทันทีที่มาถึง

    “คุณรักทำเองทั้งหมดเลยนะคะ ป้านั้นมีหน้าที่แค่ช่วยเล็กๆน้อยๆ แถมยังมีนามะช็อกโกแลตสำหรับคุณแพทอีกด้วย”

     คนแก่พูดไปพร้อมกับระบายยิ้มเมื่อกานต์รักนั้นอาบน้ำยังไม่ออกมา จึงเป็นโอกาสดีที่แพทริกจะได้รับรู้ว่าคนตัวเล็กนั้นเป็นคนน่ารักขนาดไหน

    “วันนี้ทำขนมอีกแล้วหรือไง” แพทริกเอ่ยถามเสียงเรียบ ดวงตาคมประกายความพอใจชั่ววูบก่อนเจ้าของจะรีบทำให้มันเลือนหายไป แต่ถึงกระนั้นผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าก็ยังสังเกตเห็น

    “ก็ทำแค่ขนมให้คุณแพทนี่แหละค่ะ คุณรักเห็นว่าคุณแพทชอบเลยทำไว้ให้”

     มือที่เหี่ยวย่นตามอายุวางจานขนมลงเป็นอย่างสุดท้ายพร้อมกับลอบยิ้มเมื่อเห็นแพทริกมองตามไม่วางตา ขนาดเธอเป็นคนแก่ มองขนมที่คนหนุ่มสาวชอบแล้วยังคิดว่าหน้าตามันช่างน่าทานนัก หากยิ่งเป็นคนที่ชอบมากอยู่แล้วเช่นคุณแพทริกคงไม่พ้นจะชอบใจ

   ร่างเล็กที่เดินออกจากห้องมาช้าๆมองหน้าผู้ดูแลอย่างฉงนเมื่อคนทั้งสองที่ต่างอายุพร้อมใจกันมองหน้า กานต์รักทรุดตัวลงนั่งในตำแหน่งของตัวเองทั้งที่ตายังเบิกนิดๆด้วยความสงสัยว่าป้าน้อยกับคุณแพทริกนั้นกำลังคุยเรื่องอะไรกัน

    “คุณรักมาแล้ว งั้นทานข้าวกันเลยนะคะ”

     กานต์รักเหลือบสายตามองแพทริกเล็กน้อยก่อนจะต้องเบือนหลบเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมาอยู่ก่อนแล้ว หัวหน้าแม่บ้านลอบมองคนทั้งคู่ก่อนจะแอบยิ้มในใจพร้อมทั้งลงมือตักข้าวใส่จาน เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงถอยห่างออกจากห้องไป

    ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเช่นอย่างเคย เมื่อกานต์รักเห็นคนตรงข้ามเริ่มทานข้าวจึงลงมือทานของตัวเองตาม คนร่างบางนั่งกินข้าวไปเงียบๆก่อนจะต้องเงยหน้าขึ้นขวับเมื่อผัดผักถูกตักมาวางใส่จานให้จากใครบางคน

    “หัดกินผักบ้างจะได้โตซักที” แพทริกเอ่ยบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั้นไม่ค่อยตักจานผัดผักซักเท่าไหร่ ดูท่าแล้วคงจะไม่ได้ชอบทานนัก พอเห็นผักสีเขียววางอยู่บนจานใบหน้าหวานจึงจ้องมองนิ่ง

    “กิน” คนเจ้าคำสั่งเอ่ยย้ำอีกครั้งจนมือบางต้องตักผักบนจานเข้าปาก แท้จริงแล้วกานต์รักไม่ได้ถึงขั้นเกลียดหรือทานผักไม่ได้เพียงแต่ก็ไม่ค่อยทานมากนัก หากแต่เท่านี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

    เพียงแต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือหัวใจของตัวเองนี่สิ ยามต้องข่มใจและข่มท่าทางที่แสดงออกภายนอกให้นิ่งนั้นช่างยากเหลือเกิน ริมฝีปากสีสดคอยแต่จะฉีกออกยิ้มอยู่เรื่อยจนต้องกลั้นเอาไว้เสียปวดแก้ม ใครจะรู้เล่าว่ามือที่ถือช้อนอยู่นั้นกำแน่นด้วยความสะทกสะเทิ้นและลิงโลด

    ดีใจ...มากๆเลย

    “...ปะ ป้าน้อยบอกว่าคุณชอบทานแกงกะทิ...งั้น...ทานเยอะๆนะครับ”

     กานต์รักกลั้นใจตักอาหารให้อีกฝ่ายคืนบ้างก่อนจะก้มหน้าลงงุดแล้วเอ่ยพูดด้วยความรวดเร็ว วันนี้อาหารทั้งโต๊ะนั้นเขาล้วนตั้งใจทำในสิ่งที่คุณแพทริกชอบ ป้าน้อยบอกว่าแกงกะทิคือสิ่งที่คนตัวสูงชอบที่สุด

    “ตั้งใจทำเอาใจฉันหรือไง” แพทริกเอ่ยพูดไปอย่างนั้นไม่ได้จะว่าอะไรซักนิด ขณะที่มือใหญ่ก็ตักอาหารคำนั้นเข้าปากอย่างช้าๆ ตั้งแต่เห็นแม่บ้านตั้งโต๊ะก็รู้ได้ทันทีว่ามื้อนี้ตั้งใจทำเพื่อใครเพราะทุกเมนูนั้นล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบทั้งหมด

    “ปะ เปล่าครับ”

    “รีบกินข้าวของตัวเองได้แล้ว...ถ้าวันนี้กินหมดจานจะให้รางวัล”

    “รางวัลอะไรครับ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความรวดเร็ว นัยน์ตาใสทอประกายแวววับจนแพทริกส่ายหน้าให้กับความเด็กนั้น

     โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความเข่งขรึมที่พยายามแสดงออกกำลังลดน้อยลง ราวกับทั้งสองกำลังเผยความเป็นตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ

    “กินให้หมดแล้วค่อยถาม”

    “ครับ”

     กานต์รักรับคำเสียงแข็งขันก่อนจะรีบลงมือทานข้าวในจานของตัวเอง แม้จะทานได้เยอะขึ้นแล้วหากแต่ข้าวในจานนั้นก็ยังไม่เคยหมดลงเลยซักครั้ง เมื่อมีของมาล่อแบบนี้แน่นอนว่ากานต์รักจะตั้งใจทานมันให้หมด แพทริกมองท่าทางเหมือนเด็กของคนตรงหน้าแล้วลอบยิ้มกับตัวเองอย่างนึกขัน เหมือนกำลังเลี้ยงลูกไม่มีผิด

    เสียงช้อนกระทบจานข้าวที่เกลี้ยงเกลาดังขึ้นในความเงียบ ก่อนมันจะถูกวางลงบ่งบอกว่าข้าวในจานนั้นหมดแล้วเป็นที่เรียบร้อย หน้าท้องแบนราบตึงขึ้นด้วยความอิ่มจนกานต์รักต้องลูบมันแผ่วเบา นานมากแล้วที่ไม่ได้กินข้าวเยอะขนาดนี้

    “ผมทานหมดแล้วครับ” เสียงใสเอ่ยกังวาน คนที่ทานข้าวเสร็จก่อนซักพักจึงจ้องมองนิ่งก่อนจะพยักหน้ารับรู้

    “อยากได้ของขวัญขนาดนั้นเลย?”

    “ก็...นิดหน่อยครับ” ดวงตาใสไม่กล้าสบกันก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบาทั้งที่ในใจนั้นอยากบอกเหลือเกินว่าไม่ว่าอะไรหากมาจากคุณแพทริกกานต์รักก็อยากได้ทั้งนั้น ยามที่ยังมีโอกาสก็อยากจะเก็บเกี่ยวทุกสิ่งอย่างเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

    “หึ พยายามยัดเข้าไปขนาดนั้นคงไม่นิดแล้วมั้ง...ฉันจะให้โอกาสนายขอก็แล้วกัน อยากจะได้อะไร?”

     กานต์รักเบนสายตากลับมาสบกับคนตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะนึกคิดในใจว่าตัวเองนั้นอยากจะได้อะไร ริมฝีปากบางถูกขบเม้มเพราะกำลังใช้ความคิดก่อนมันจะถูกขยับออกเพื่อเอื้อนเอ่ยสิ่งที่อยากได้

    “ผม...อยากขอใช้โทรศัพท์ครับ อยากโทรไปถามเรื่องงานที่ร้าน” คำขอนั้นไม่ได้ต่างจากที่แพทริกคิดไว้นัก คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าสิ่งที่กานต์รักขอต้องเป็นเรื่องนี้

    “ได้ ฉันอนุญาต”

    “จริงเหรอครับ?!” คนตัวสูงไม่ได้ตอบคำถามนั้นหากแต่หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูส่งให้คนที่ดวงตาเป็นประกาย

    “ฉันให้เวลา5นาที”

    “ครับ!” จะเพียงกี่นาทีกานต์รักก็พอใจแล้ว ขอเพียงแค่ได้ถามไถ่ว่าที่ร้านเป็นอย่างไรบ้างให้ได้เบาใจลง
 
     มือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่ถูกปลดล็อคไว้อย่างเรียบร้อย กดเบอร์ผู้จัดการร้านที่จำได้ดีแล้วกดโทรออก เสียงสัญญาณดังขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งปลายสายก็กดรับ

    (สวัสดีค่ะ)

    “คุณไหม...นี่รักเองนะครับ”

    (คุณรัก!! ไม่สบายเป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นหรือยัง แล้วตอนนี้คุณรักอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่จะกลับมาที่ร้าน ทุกคนเป็นห่วงนึกว่าจะเป็นอะไรไปซะแล้ว)

     ได้ยินเสียงผู้จัดการร้านดังมาตามสาย ทุกประโยคที่ได้ยินนั้นทำให้กานต์รักต้องเหลือบสายตามองคนที่กอดอกนั่งอยู่ตรงข้าม ทุกอย่างคงเป็นสิ่งที่คุณแพทเอ่ยบอกไป

    “รักดีขึ้นมากแล้วครับแต่ไม่แน่ใจว่าจะกลับเมื่อไหร่ ที่โทรมาเพราะอยากจะถามว่าที่ร้านมีปัญหาอะไรไหม เป็นยังไงกันบ้างครับ”

    (ที่ร้านเรียบร้อยดีค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ...พวกเราช่วยกันดูแลอย่างเต็มที่ ทุกอย่างถ้าคุณรักกลับมาสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดเลยค่ะ)

    “ยังไงรักต้องฝากคุณไหมหน่อยนะครับ ในระหว่างที่ไม่อยู่นี้รักให้สิทธิ์คุณไหมจัดการได้ทุกอย่างเลย”

    (ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ...ว่าแต่คุณรักโอเคนะคะ วันนั้นอยู่ๆก็หายไปเลยแล้วใครก็ไม่รู้เดินมาบอกว่าคุณรักไม่สบาย กระเป๋าตังกับโทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาไป พี่เก็บไว้ให้ที่โต๊ะทำงานนะคะ...นี่ถ้าเขาไม่มีรูปว่าคุณรักสบายดีพวกเราคงจะไปแจ้งความแล้ว)

    “รักสบายดีครับ เดี๋ยวรักต้องวางแล้ว...ยังไงก็ฝากร้านแล้วก็ฝากดูแลพนักงานทุกคนด้วยนะครับ”

    (ได้ค่ะคุณรัก)

    “ขอบคุณครับ ไว้ถ้ามีโอกาสรักจะโทรหาอีกนะครับ”

    (ค่ะ สวัสดีค่ะ)

    โทรศัพท์ถูกตัดสายไปก่อนกานต์รักจะส่งคืนให้ผู้เป็นเจ้าของ ได้ยินว่าที่ร้านไม่มีปัญหาอะไรก็เบาใจ ลมหายใจถูกพ่นออกมาบางเบาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสบายใจที่ค่อยๆถูกจุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน

    “ถ้าเป็นเด็กดีก็จะมีรางวัลให้อีก” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นยามเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า มือหนาเอื้อมไปหยิบนามะช็อกโกแลตที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำเข้าปากก่อนจะเคี้ยวรับความรสชาติอย่างช้าๆ

    “คุณแพทริกพูดแล้วนะครับ” แววตาใสแจ๋วจ้องมองใบหน้าคมเป็นประกายวาววับ ทั้งเรื่องรางวัลที่ถูกนำมาล่อและขนมที่อีกคนหยิบทาน

    “อืม” แพทริกตอบรับพร้อมกับเคี้ยวขนมในปากไปเรื่อยๆ กระทั่งดูนาฬิกาบนข้อมือว่าได้เวลาแล้วจึงผุดลุกขึ้นในขณะที่ขนมในจานนั้นเหลือเพียงแค่ไม่กี่ชิ้น

    กานต์รักมองคนที่หันมาสบตากันเล็กน้อยก่อนร่างสูงนั้นจะลุกเดินออกจากห้องไป เพราะคุณแพทริกมีงานต้องจัดการต่อ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันอีกคนจะเข้ามาอีกทีตอนไหน

     ยามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วกานต์รักได้แต่นั่งยิ้มกับตัวเอง มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลย

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2016 23:36:08 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
    (ต่อ)

     สัมผัสอบอุ่นแข็งแรงโอบล้อมรอบตัว กานต์รักซึ่งนอนอยู่อมยิ้มกับตัวเองแม้จะยังหลับตาด้วยความรู้สึกสบาย วันนี้ช่างเป็นเช้าที่ฝันดีเป็นที่สุด ร่างเล็กขยับตัวให้ได้ตำแหน่ง สูดเอากลิ่นหอมสะอาดในความฝันนั้นราวกับกำลังเติมพลัง

    หอมและสบายจัง

    เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆขยับเปิดขึ้นเมื่อนอนจนเต็มอิ่ม แสงสว่างยามเช้ากระทบเข้าตาจนต้องหรี่ลงแล้วเปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง ก่อนความรู้สึกที่เกิดขึ้นรอบตัวจะต้องทำให้ใบหน้าหวานยามพึ่งตื่นหันไปมองรอบข้าง แล้วดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นจนแถบถลนหลุดออกจากเบ้าเมื่อเห็นว่าความสบายนั้นมาจากอกอุ่นๆของใครบางคน

    กานต์รักนิ่งไปในทันทีราวกับทุกสตาฟเอาไว้ ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเผลอขยับมากอดคุณแพทริกตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าอีกคนเข้ามานอนเวลาไหนเลยด้วยซ้ำไป ร่างกายเกร็งไปทุกส่วน อยากขยับออกหากแต่อ้อมแขนแข็งแรงกลับรัดเอาไว้แน่น

    ตายแน่ๆเลยรัก

แม้จะหายใจนั้นยังลำบากเพราะไม่กล้าหายใจแรงใบหน้าคมยามหลับที่อยู่ใกล้ชิดพานทำให้จิตใจกานต์รักเตลิดไปไกล เพ่งมองความสมบูรณ์แบบตรงหน้าแล้วได้นึกคิดว่าคุณแพทนั้นช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาจริงๆ

    “มองขนาดนี้ฉันจะโดนนายกินหรือเปล่า”

    เฮือก

    เสียงทุ้มดังขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้คนที่กำลังพินิจใบหน้าสลักเหลาสะดุ้งเฮือกราวกับคนมีความผิด ยิ่งยามสายตาคมลืมขึ้นมาสบกันกานต์รักยิ่งอยากจะดำดินลงไปเสียตรงนี้

    “คะ คุณแพทตื่นแล้วเหรอครับ”

    “ตื่นตั้งแต่นายขยับซุกเข้าหาแล้ว”

    ประโยคแห่งความอายนั้นทำให้ใบหน้านวลแดงปลั่งขึ้นมาทันทีด้วยความขัดเขิน ถ้าหากว่าอีกฝ่ายตื่นแล้วทำไมไม่ปล่อยเขาเล่า เห็นนอนนิ่งกานต์รักจึงคิดว่าคุณแพทริกยังไม่ทันตื่น

    “ผมขอโทษครับ...เอ่อ คุณแพทช่วยขยับออกไปหน่อยได้ไหมครับ ผมจะได้ลุก” เสียงเล็กเอ่ยบอกแผ่วเบาด้วยความสะเทิ้นอาย ใบหน้าหวานก้มหลบเป็นพัลวันเพราะไม่กล้าสู้หน้า

    “นายก็ขยับออกไปสิ เป็นคนขยับเข้ามากอดเองนี่”

     กานต์รักตาโตกับประโยคนั้นเมื่อได้ยินอย่างชัดเจน แม้จะพอรู้อยู่แล้วเพราะคนอย่างคุณแพทริกนั้นหรือจะหันมากอด ต้องเป็นเขานี่แหละที่นอนปัดป่ายไปทั่วจนไปกอดคนตัวโตเข้า

    “ผะ ผมขยับไม่ได้ครับ”

     อ้อมแขนแข็งแรงนั้นไม่ยอมคลายลงเลยซักนิด ราวกับครีมเหล็กกักกันไม่ให้ออกไปไหนจนต้องเอ่ยพูดเสียงเบา หากออกจากสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความอายนี้ได้กานต์รักก็ไม่มีรีรอเลยซักนิด เพียงแต่ราวกับอีกคนกำลังแกล้งกัน ปากบอกให้ขยับออกแต่การกระทำนั้นไม่ใช่เลย

    “ขยับออกไม่ได้หรืออยากกอดฉัน” แพทริกแกล้งเอ่ยให้คนตรงหน้าตัวแดงขึ้นมายิ่งกว่าเดิม ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าการแกล้งเด็กนี่ก็เป็นเรื่องที่สนุกเหมือนกัน ดูซิว่ากานต์รักจะจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไง

    “คะ คุณแพทริกอย่าแกล้งผมสิครับ”

    “ฉันแกล้งเหรอ? แกล้งตอนไหน...นี่ต่างหากที่เรียกว่าแกล้ง”

     แขนแข็งแรงโอบรัดให้เอวเล็กแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิมจนกานต์รักผวาด้วยความตกใจ ความใกล้ชิดนั้นมากเสียจนทำให้อะไรภายใต้ผ้าห่มคนละผืนแนบกันสนิท ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังทำให้คนโดนแกล้งสัมผัสอะไรได้บางอย่างอยู่ดี

    มะ มัน...เหมือนจะ ขะ แข็งตัวเลย

    “คุณแพท...อย่าแกล้งรักเลยนะครับ...นะ”

     ไม้ตายสุดท้ายถูกยกขึ้นมาใช้เมื่อจนตรอก ยามขออะไรพ่อกับแม่แล้วไม่ได้กานต์รักมักจะใช้ลูกอ้อนเข้าช่วยเสมอ คราวนี้ก็เช่นกัน เพราะกลัวว่าหัวใจตัวเองจะวายตายไปซะก่อนกับความใกล้ชิดนี้จึงพยายามหาทางเอาตัวรอด ดวงตาหวานช้อนขึ้นมอง ปากบางถูกขบกัดเล็กๆเนื่องด้วยความประหม่า

    แพทริกเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตอนนี้ใครกันที่โดนแกล้งกันแน่

    ให้ตายเถอะ! ปกติกลิ่นหอมอ่อนจากกายบางนั้นก็เล่นงานเขามากพอสมควรอยู่แล้ว ยิ่งน้ำเสียงและหน้าตาอันออดอ้อนยิ่งทำให้อารมณ์ยามเช้าของผู้ชายเตลิดไปไกลจนด้านล่างเริ่มปวดหนึบ

    สองแขนที่โอบรัดเรือนร่างนุ่มนิ่มจึงต้องรีบคลายออก ฟันขาวถูกบดกัดจนกรามขึ้นสันเพื่อระงับอารมณ์อันพลุ่งพล่านของตัวเอง

    กานต์รักขยับลงจากเตียงอย่างรวดเร็วเมื่อได้โอกาส ก้าวเท้าเร็วๆไปทางห้องน้ำแล้วปิดประตูดังปัง ร่างเล็กทรุดกายครูดลงกับประตู มือบางกุมหัวใจตัวเองเอาไว้แน่น

    ไม่ดีเลย...ไม่ดีต่อหัวใจของตัวเองเลย

    ขณะที่คนตัวสูงบนเตียงนั้นยังคงต้องนอนนิ่งเพื่อข่มอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ ลมหายใจร้อนถูกสูดเข้าปอดลึกแล้วผ่อนออกอย่างช้าๆ หากแต่ภาพและน้ำเสียงเมื่อครู่กลับติดตาจนต้องสะบัดผ้าห่มออกแล้วลุกจากที่นอนก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     เวลาล่วงเลยผ่านมาจนกระทั่งกานต์รักอาศัยอยู่ที่นี่ครบหนึ่งสัปดาห์ ทุกๆวันเจ้าของร้านเบเกอรี่จะทำขนมที่มีส่วนผสมจากช็อกโกแลตเอาไว้ให้เสมอจนแพทริกเริ่มเคยชิน ยามเปิดตู้เย็นคราใดต้องมีของโปรดอยู่ในนั้นให้สามารถหยิบทานได้ตลอด
 
     แม้งานจะเริ่มคล่องตัวมากขึ้นหากแต่ทำไมแพทริกถึงยังไม่รู้สึกอยากกลับไปนอนบ้านเลยซักนิด

     “เชิญค่ะคุณแพท” เสียงแม่บ้านเอ่ยขึ้นยามเห็นผู้เป็นนายเดินเข้ามาในส่วนของโต๊ะอาหาร กับข้าวยามเช้านั้นถูกคนหน้าหวานจัดการเตรียมไว้ให้เรียบร้อย วันนี้กานต์รักทำอาหารแบบอเมริกันเบรกฟาสต์ สลับสับเปลี่ยนกับโจ๊กหรือข้าวต้มเพื่อไม่ให้อีกคนนั้นเบื่อ

     ไข้ดาว แฮม ไส้กรอก ขนมปังและผักถูกจัดวางใส่จานเป็นอย่างดี ไม่อยากจะบอกว่าตอนนี้แพทริกนั้นคุ้นชินกับการทานอาหารฝีมือกานต์รักไปเสียแล้ว ทั้งตอนเช้าก่อนไปทำงานและตอนเย็นจะต้องทานข้าวด้วยกันจนมันเริ่มก่อตัวเป็นกิจวัตรประจำวัน

     “วันนี้คุณแพทออกมาช้า ไม่ต้องรีบไปทำงานหรือครับ” กานต์รักเอ่ยขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างเริ่มทานอาหาร ความเคยชินนั้นทำให้กล้าพูดกล้าเอ่ยถามมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

     “อืม วันนี้เข้างานแค่ตอนบ่าย” เสียงเรียบเอ่ยตอบพร้อมกับตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ บรรยากาศนั้นแม้จะไร้ซึ่งบทสนทนาหากแต่ไม่ได้ทำให้อึดอัดเลยซักนิด กานต์รักมีความสุขกับช่วงเวลาที่เรียบง่ายเช่นนี้เหลือเกิน

     ไม่มีบทสนทนาระหว่างกันที่มากกว่านั้น เมื่อทานข้าวเรียบร้อยกานต์รักก็ทำหน้าที่เก็บจานชามบนโต๊ะไปล้าง ภาพที่แพทริกเริ่มชินตา คนตัวสูงนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารแล้วเหลือบมองแผ่นหลังบอบบางขณะกำลังล้างจานนิ่ง

     ไม่จำเป็นต้องทำแต่เด็กนี่ก็ยังทำ

     ทุกวันนี้ได้ยินป้าน้อยชมกานต์รักไม่หยุดเสียจนนึกว่าทั้งสองกลายเป็นแม่ลูกกันไปแล้ว

     แพทริกผุดลุกขึ้นเมื่อนั่งย่อยจนได้ที่ ร่างสูงหายเข้าไปในส่วนของห้องทำงานเพื่อเช็คเอกสารเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาด้านนอกอีกครั้ง เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นพร้อมกับเสียงโทรทัศน์ทำให้ร่างสูงหมุนตัวไปทางนั้นด้วยความรวดเร็ว

     กานต์รักที่กำลังนั่งดูซิทคอมอยู่หัวเราะกับมุกต่างๆเหล่านั้นอย่างตลกขบขัน ด้วยความเพราะเป็นคนเส้นตื้นไม่ว่าอะไรก็ทำให้หัวเราะได้ทั้งนั้น

     “อ๊ะ คิก คุณแพทริก”

     ใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มกว้างเสียจนคนทรุดตัวลงนั่งข้างๆจ้องมองนิ่ง สายตาคมหันไปมองโทรทัศน์ด้วยความสงสัยว่ามันตลกอะไรนักหนา

     จากความสงสัยนั้นกลายเป็นว่าทำให้แพทริกนั่งดูโทรทัศน์ไปด้วยกัน และทุกครั้งที่เสียงหัวเราะของคนข้างตัวดังขึ้นก็อดจะส่ายหัวเบาๆไม่ได้ มุกละบาทสองบาทก็ทำให้เด็กนี่หัวเราะได้ไม่หยุด

     “คิก คุณแพทไม่ตลกหรอครับ ฮ่ะๆ” กานต์รักหันมาถามเมื่อเห็นอีกคนยังคงนั่งนิ่ง

     “ไร้สาระ”

     “ตลกดีออกครับ” กานต์รักนั้นทั้งพูดไปทั้งกลั้นขำไป

     “ฉันจะนอน” อยู่ดีๆแพทริกก็เอ่ยขึ้นจนกานต์รักต้องละสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์หันมามอง ใบหน้าหวานเอียงลงเล็กน้อยด้วยความสงสัย

     “คุณแพทจะนอนตรงนี้เหรอครับ...งั้นเดี๋ยวผมออกไปก็ได้”

     “อืม จะนอนตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยตอบก่อนจะเอนกายลงนอนโดยที่พาดหัวมาบนตักของกานต์รักซึ่งมีหมอนวางอยู่ การกระทำที่ทำให้ร่างบางตัวแข็งทื่อ

     “นวดขมับให้หน่อย” แพทริกเอ่ยสั่งทั้งที่ยังหลับตา อยู่ดีๆก็รู้สึกอยากให้อีกคนนวดคลายเส้นไล่ความเมื่อยขบให้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ผ่อนคลายตัวเองด้วยวีธีนี้ และรู้ดีว่าหากเขาสั่งนั้นร่างเล็กไม่มีทางจะปฏิเสธ ยามมือนิ่มวางลงบนขมับพร้อมกับเอ่ยคำขออนุญาตพานทำให้ความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานบรรเทาลดลง

     กานต์รักนั้นทั้งมือสั่นและใจสั่น การกระทำของคนตัวสูงที่ไม่ตั้งตัวนี้จู่โจมเขาเข้าอย่างจัง มองใบหน้าที่หลับพริ้มบนตักของตัวเองด้วยใจที่เต้นแรง

     อย่าทำให้รักต้องรู้สึกไปมากกว่านี้เลย

     มือบางนวดคลึงตามขมับและกรอบหน้าคมไปเรื่อยๆอย่างแผ่วเบาจนทำให้คนที่รู้สึกสบายยิ่งกว่าอะไรค่อยๆผล็อยหลับไปบนตักเล็กทั้งอย่างนั้น

TBC.

     หวานนนนนนน เขาหวานกันแล้ว :mew3: :mew3:
     ขอโทษที่มาช้าค่ะ จะสอบมิดเทอมแล้วเพราะฉะนั้นไม่มีเวลาเลย ช่วงนี้อาจมาช้าหน่อยนะคะ :mew6: :mew6:
    เป็นกำลังให้คนแต่ง น้องรักแล้วก็คุณแพทเยอะๆนะะะะ :mew6: :mew6:

จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/ (ทวงกันมาเยอะก็จะพยายามทิ้งหนังสือมาปั่น><)
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เป็นแพทริกที่ให้โอกาส(ที่อาจจะเรียกได้ว่าไม่ได้ตั้งใจ)ให้รักได้ใกล้ชิด ได้มีอิทธิพลกับใจสินะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
มดขึ้นแล้วค่าา :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

เขาจะหวานกันมากขึ้นใช่ไหม ? อ้าาาาา

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: :mew1: :mew1:
+เป็ด  ให้กานต์รัก อิอิ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เขาหวานกันจังเลยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เขาหวานกันสุดๆเลยอ่ะะะ งื้อออ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ซึมซับเข้าไปทีละนิด อีกไม่นานคงขาดกันไม่ได้

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เดี๋ยวแพทริกก็ไปไหนไม่รอดแล้วว~ หึๆ :hao7:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หวานมากกกกก เหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันเลยทีเดียว คึคึ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 6

     คนตัวสูงที่นอนทอดยาวไปทั้งโซฟาโดยอาศัยตักเล็กหนุนนอนค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่ใบหน้าหวานซึ่งหลับคอพับลงมา

     แพทริกรีบขยับกายลุกขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าเผลอหลับไป ตัวเขานั้นใช่น้อยเสียเมื่อไหร่ ป่านนี้ขาเล็กๆของกานต์รักคงชาไปหมดอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็ไม่คิดจะผละออก ยังอุตสาห์เสียสละตักให้ได้นอนจนเผลอหลับไปด้วยกัน

     มือหนาค่อยๆดึงหมอนบนตักของคนหลับออกแล้ววางมันลงยังปลายโซฟาอีกด้าน ก่อนจะขยับช้อนตัวกานต์รักให้นอนลงในตำแหน่งที่สบายตัว

     นัยน์ตาสีนิลกวาดมองใบหน้าหวานที่หลับพริ้มนิ่ง กว่าจะทันได้รู้ตัวเรียวปากร้อนของตัวเองก็ทาบทับลงบนหน้าผากเนียนเกลี้ยงเกลา ทิ้งสัมผัสอยู่ชั่วครู่ก่อนจะผละออกอย่างเชื่องช้า ครั้นยามรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปแพทริกกลับไม่ได้นึกแปลกใจซักนิด

     ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างไม่อาจปฏิเสธ แม้ยังไม่แน่ใจนักแต่ทว่าก็ไม่ได้ขี้คลาดจนไม่กล้ายอมรับว่ามันคืออะไร

     ความอ่อนโยนอันบริสุทธิ์ของกานต์รักไม่ใช่เรื่องโกหก นั่นคือสิ่งที่ลึกๆแล้วแพทริกสัมผัสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเจอ

     ดวงตากลมโตใสซื่อ ท่าทางเรียบเรื่อยอ่อนหวาน ทุกสิ่งอย่างนั้นดึงดูดใจจนเขาต้องให้คนเข้าไปติดต่อ และทั้งหมดเหล่านั้นมันกำลังละลายบางอย่างในใจอันแข็งแกร่งของแพทริกให้พังลงอย่างช้าๆ

     ความรู้สึกมันปกปิดกันไม่ได้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรหากแต่สิ่งที่สงสัยคือทำไมถึงต้องปิดบังกัน...

     เรือนร่างสูงใหญ่ผละออกห่างจากโซฟาก่อนจะหมุนตัวเข้าห้องแล้วจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงไปยังชั้นทำงาน ใช้เวลาช่วงบ่ายทั้งหมดไปกับการตรวจงานทุกอย่างจนเรียบร้อยจึงกลับขึ้นห้องมาอีกครั้ง

     “อืม...แต่รักว่ามันยังจืดไปหน่อยนะครับ เติมเครื่องปรุงอีกซักหน่อยน่าจะโอเค”

     เสียงหวานใสดังขึ้นให้ได้ยินเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาภายในห้องกว้าง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเวลานี้นั้นแม่บ้านผู้ดูแลกับคนโปรดของเจ้าตัวกำลังทำอะไร

     เมื่อยามร่างท้วมหมุนกายกลับมาเห็นผู้เป็นเจ้านายก็อมยิ้มน้อยๆให้ก่อนจะปลีกกายออกไปอย่างรู้งาน แพทริกขยับกายเข้าไปใกล้ร่างเล็กที่กำลังง่วนกับการทำอาหารเย็นจนกระทั่งยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง

     “ได้หรือยังครับป้าน้อย” เมื่อไม่ได้รับสัญญาณตอบรับกานต์รักจึงหมุนตัวกลับมา

     “อ๊ะ คุณแพท...ตกใจหมดเลยครับ” เรือนร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ทางด้านหลังให้คนไม่รู้สะดุ้งน้อยๆยามหันมาเผชิญ

     “ทำอะไร”

     “ราดหน้าครับ...คุณแพทรอซักครู่นะครับ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” ใบหน้าหวานแย้มยิ้มพร้อมกับเอ่ยบอก คนฟังเหลือบสายตาไปมองอาหารบนเตาที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนก่อนจะพยักหน้ารับ

     “อยากกินช็อกโกแลต”

     “วันนี้มีช็อกบอลแต่ทานข้าวเสร็จแล้วค่อยทานดีกว่าครับ...เดี๋ยวรักทำกับข้าวให้แป๊บนึง”

     เสียงหวานใสเอื้อนเอ่ย มือบางเอื้อมมาหยิบเครื่องปรุงแล้วหมุนตัวกลับไปจัดการอาหารบนเตาต่อ สรรพนามยามเผลอตัวถูกใช้โดยที่เจ้าของนั้นไม่ได้เอะใจซักนิด แพทริกจ้องมองร่างบางอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้ขยับไปไหน มองท่าทางทะมัดทะแมงขณะหยิบจับทุกอย่างด้วยความเพลิดเพลิน

     “เสร็จแล้ว~ อ้าว...ยังอยู่ตรงนี้อีกเหรอครับ” กานต์รักนึกว่าอีกคนขยับไปนั่งรอที่โต๊ะแล้วเสียอีก

     “เสร็จแล้วใช่ไหม”

     “ครับ คุณแพทนั่งรอที่โต๊ะได้เลยเดี๋ยวผมยกไปให้ครับ...ว่าแต่ป้าน้อยหายไปไหนนะ”

     ร่างเล็กพึมพำก่อนจะหันไปหยิบถ้วยแล้วตักอาหารที่ตัวเองทำใส่อย่างน่าทาน คนที่เดินไปนั่งรอตามคำสั่งอยู่ก่อนแล้วมองอาหารที่ถูกวางลงตรงหน้าก่อนกานต์รักจะเดินกลับไปจัดการของตัวเองแล้วกลับมาทรุดตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม
 
     “ลองทานดูนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง” กานต์รักเอ่ยบอกแพทริกพร้อมรอยยิ้มละไม เคยชินเสียแล้วกับการทำอาหารให้อีกคนทาน ในทุกๆวันนั้นต้องคอยคิดเมนูอยู่ตลอดว่าจะทำอะไรโดยมีป้าน้อยคอยช่วยแนะนำ

     “อร่อย” เมื่อตักคำแรกเข้าปากโดยไม่ปรุงแพทริกก็เอ่ยตอบออกไป กานต์รักทำอาหารคาวได้เก่งไม่แพ้การทำขนม และเพราะฝีมือนี้ทำให้น้ำหนักของเขาขึ้นมาถึงสามกิโล

     “งั้นก็ทานเยอะๆนะครับ” กานต์รักพูดด้วยความปลื้มใจเมื่อเห็นอีกคนนั้นชอบอาหารที่ตนทำ ก่อนคนตัวเล็กจะลงมือทานอาหารของตัวเองบ้างโดยมีแพทริกเหลือบมองร่างบางไปเงียบๆตลอดมื้ออาหาร

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     “คุณแพทหาอะไรอยู่หรือเปล่าครับ” เรือนร่างเพรียวทอดกายพิงพนักเตียงอ่านหนังสือเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเรือนร่างสูงใหญ่เดินเข้าออกห้องน้ำเป็นรอบที่สามพร้อมด้วยท่าทางหัวเสียราวกับกำลังหงุดหงิดอะไรบางอย่าง

     “เสื้อ” แพทริกเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงแล้วเอ่ยตอบเสียงห้วน

     “เสื้ออะไรครับ ผมช่วยหาไหม”

     “เสื้อเชิ้ตสีชมพู เจอแล้วแต่มันยับ”

     แพทริกพึ่งได้รับข้อความเมื่อซักครู่ว่ามีการเปลี่ยนธีมงานเป็นสีชมพู แน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่คนอย่างเขาแทบจะไม่มีเสื้อผ้าสีนี้ติดตู้เอาไว้เพราะเป็นสีที่ช่างไม่เข้ากันนัก งานนั้นก็เริ่มค่อนข้างเช้า หากให้คนจัดการพรุ่งนี้คงไม่ทันจึงต้องลองค้นดูตู้เสื้อผ้า จำได้เลือนรางว่ามีอยู่หนึ่งตัวที่เคยใส่ไปงานอะไรซักอย่าง และเพราะมันไม่ค่อยได้ใช้นักแม่บ้านจึงพับเก็บเอาไว้ในลิ้นชัก

     “อ่า ถ้าอย่างนั้นที่นี่มีเตารีดหรือเปล่าครับ” มือบางวางหนังสือในมือลงแล้วขยับมานั่งตัวตรงข้างขอบเตียง ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ประโยคนั้นทำให้แพทริกชะงักไป

     “นายรีดเป็น?”

     “ครับ อาจจะไม่เรียบกริบนักแต่ก็ใส่ได้ไม่น่าเกลียด แล้วก็ไม่ทำเสื้อไหม้แน่นอน” กานต์รักเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

     แพทริกเงียบไปอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาเห็นกานต์รักทำเป็นแทบจะทุกอย่าง ทั้งล้างถ้วย ทำขนม ทำอาหาร นี่ยังรีดผ้าเป็นอีก

     “ว่ายังไงครับ...ที่นี่มีเตารีดหรือเปล่า หรือว่าคุณแพทกลัวผมจะทำเสื้อไหม้”

     “มีห้องซักรีด”

     “โอเค งั้นช่วยพาผมไปหน่อยได้ไหมครับ”

     แพทริกจ้องมองใบหน้าหวานละมุนนิ่งก่อนจะเดินกลับมาเอาเสื้อแล้วเดินนำกานต์รักออกไปยังห้องซักรีดซึ่งแทบไม่เคยได้ใช้งาน ส่วนมากนั้นจะเป็นหน้าที่ของแม่บ้านข้างล่าง ห้องนี้จึงมีแค่เผื่อเอาไว้ยามฉุกเฉิน ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคราวที่ต้องได้ใช้

     “เหมือนไม่เคยมีคนใช้งานเลย” คนที่เข้ามาในนี้เป็นครั้งแรกกวาดสายตามองไปรอบๆแล้วรำพันกับตัวเอง ทุกอย่างนั้นดูสะอาดราวกับเป็นของใหม่แกะกล่อง ทั้งเครื่องซักผ้า โต๊ะรีดผ้า และเตารีด ดูเหมือนมันจะยังไม่เคยถูกใช้งานเลยแม้แต่ครั้งเดียว

     ร่างบางไม่รอช้าเดินไปเสียบเตารีดเข้ากับปลั๊ก ก่อนจะเปิดไฟเบาๆแล้วลองถูไปบนโต๊ะเพื่อทดสอบ

     “มาครับ เดี๋ยวผมรีดให้” กานต์รักหันไปพูดกับคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างตัว คนตัวสูงจึงยื่นเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนในมือส่งให้

     เสื้อเชิ้ตเนื้อดีถูกวางลง กานต์รักเริ่มรีดคอเสื้อก่อนเป็นอันดับแรกก่อนจะย้ายมายังแขนเสื้อทั้งสองข้างซึ่งต้องใช้สมาธิและความตั้งใจเป็นพิเศษเนื่องจากกลัวว่าจะทำให้กลีบแตก

     ความตั้งใจนั้นทำให้เหงื่อไหลซึมออกมาตามกรอบหน้าหวาน แพทริกยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกอุ่นๆในใจ เขาเคยเห็นผู้เป็นแม่ทำแบบนี้ให้ทั้งพ่อและตัวเองบ้าง หากแต่ไม่เคยสนใจว่าต้องมีคนอื่นมาทำให้เช่นอย่างที่แม่ทำ

     แพททริกคิดเสมอว่าเพราะมีเงินและทุกอย่างเรื่องแบบนี้จึงไม่จำเป็นนัก ทว่าพอเห็นอีกคนตั้งใจทำอะไรแบบนี้ให้ความรู้สึกดีกับแผ่ซึมไปทั่ว

     “นายรีดเสื้อผ้าเองหรือไง” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นในความเงียบ เห็นท่าทางคล่องตัวราวกับว่าอีกคนนั้นทำอยู่เป็นประจำ

     “ครับ ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร ทำเองก็สนุกไปอีกแบบ ถ้างานยุ่งจริงๆค่อยส่งร้าน” คนตอบหันมาพูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม กานต์รักรีดแขนเสื้อทั้งสองข้างจนเสร็จเรียบร้อย เนื้อผ้านั้นเรียบกริบจนต้องยิ้มกับตัวเองด้วยความภูมิใจ

     “ใครสอน?”

     “แม่ครับ...แม่เป็นคนสอนให้ทำทุกอย่างเลย บอกว่าเวลาไปอยู่ที่ไหนจะได้ไม่ลำบาก” กานต์รักยิ้มกว้างยามเอ่ยถึงผู้หญิงที่ให้กำเนิดซึ่งอาศัยอยู่ต่างประเทศ

     ทุกอย่างที่ทำเป็นนั้นเพราะผู้เป็นแม่สั่งสอนและคอยหัดให้ทำมาตั้งแต่เด็กๆ แม้ว่าจะมีคนคอยจัดการเรื่องพวกนี้ให้พร้อมสับหากแต่ท่านก็ยังสอนเพื่อให้ทำอะไรด้วยตัวเองเป็น

     แพทริกมองอีกคนรีดเสื้อให้ไปเรื่อยๆ มือเล็กจัดเสื้อเข้ามุมก่อนจะลูบไล้ให้เรียบแล้วเอาเตารีดทาบทับลงไป ทุกการกระทำดูง่ายดายและคล่องตัว ร่างบางพิถีพิถันกับเสื้อตัวนี้จนกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาไปพอสมควร

     “พอใส่ได้ไหมครับ” คนถูกถามจ้องมองผลงานของกานต์รักนิ่งเมื่อมันถูกสวมใส่ไม้แขวนให้เรียบร้อย คำตอบของประโยคคำถามนั้นแพทริกอยากบอกว่ามันยิ่งกว่าใส่ได้เสียอีก กานต์รักรีดได้ไม่ต่างจากแม่บ้านเลยซักนิด

     “อืม”

     “ถ้าคุณยังไม่โอเคผมรีดให้อีกรอบได้นะครับ” ระดับแพทริก เบรนเนแกน เสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นย่อมต้องเนี้ยบไร้ที่ติ กานต์รักเองก็ไม่ได้เก่งระดับแม่บ้านมืออาชีพ แม้จะพยายามรีดให้ดีแค่ไหนหากแต่มันก็อาจจะยังไม่ดีพอ

     กลัวว่าคุณแพทริกจะขายหน้าหากใส่เสื้อตัวที่ไม่เรียบนัก

     “มันดีแล้ว” เมื่อได้ยินคำยืนยันจากร่างสูงอีกครั้งกานต์รักถึงได้เบาใจ

     “งั้นเดี๋ยวผมเอาไปแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าให้นะครับ พรุ่งนี้คุณแพทจะได้หยิบมาใส่ได้เลย”

     กานต์รักส่งยิ้มให้คนที่สูงกว่าก่อนจะเดินออกจากห้องให้อีกคนปิดไฟในนั้นแล้วเดินตามมา

     เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนเรียบกริบถูกแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าในส่วนเดียวกับห้องน้ำอย่างระมัดระวัง ร่างเล็กหมุนตัวกลับมาหาคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเมื่อเรียบร้อย

     “เรียบร้อยแล้วครับ”

     สองสายตาสบกันยามกานต์รักหันกลับมา นัยน์ตาคมทอดมองจนร่างเล็กต้องเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพราะรู้สึกราวกับคนตรงหน้าอยากจะพูดอะไร

     เรือนร่างสูงใหญ่ขยับเข้ามาชิด ก่อนริมฝีปากเล็กจะได้เอ่ยถามเรียวปากได้รูปก็ฉกวูบลงมา

     คราแรกนั้นกานต์รักตกใจจนแน่นิ่งไป ก่อนจะรู้ว่าโดนจูบก็เมื่อริมฝีปากบางถูกไล้เลียละเลียดขบเม้มอย่างแผ่วเบา มือหนายกขึ้นมาไล้ข้างแก้มนุ่มและบังคับให้ได้ทิศทางที่ต้องการ อีกข้างนั้นก็วางลงบนเอวคอดแล้วรั้งให้กานต์รักขยับเข้ามาแนบชิด ดวงตาโตค่อยๆปรือปิดลงเพื่อซึมซับทุกความรู้สึกทุกการสัมผัส

     เรียวลิ้นร้อนไล้เลียตามรอยแยกของปากบางราวกับขออนุญาตก่อนจะค่อยๆแทรกเข้าหาความอ่อนนุ่มโดยที่อีกคนนั้นก็ยินยอมพร้อมใจ ความหวามไหวแล่นพล่านไปทั่วยามลิ้นเล็กถูกดูดกลืนอย่างอ่อนโยน สัมผัสที่บางเบายิ่งกว่าครั้งไหนๆ

     เมื่อถูกกระตุ้นตามแรงอารมณ์กานต์รักจึงเผลอตอบสนองกลับอย่างไร้เดียงสา และนั่นทำให้แพทริกครางฮือในลำคออย่างพึงพอใจ

     มือหนาเค้นคลึงสะโพกบางไปมาเบาๆ ขณะที่เรียวลิ้นก็ยังไม่หยุดกวาดต้อนความหอมหวานตรงหน้า กระทั่งต้องตัดใจถอดถอนริมฝีปากออกเมื่อสัมผัสได้ว่าคนในอ้อมแขนนั้นกำลังจะหมดลม

     “ขอบใจ” แพทริกเอ่ยกระซิบข้างหูของคนที่ซบหน้าเข้ากับไหล่กว้างอย่างอ่อนแรง เสียงหอบหายใจเล็กๆดังขึ้นในความเงียบ กานต์รักยังคงมึนเบลอจากจูบเมื่อครู่จึงยังไม่เข้าใจนักว่าที่อีกคนเอ่ยหมายถึงเรื่องใด

     มือหนาที่กำลังโอบเอวเล็กลูบไล้แผ่นหลังบางไปมาอย่างแผ่วเบา กระทั่งความรู้สึกอบอุ่นนั้นทำให้กานต์รักผ่อนคลายลงจนทิ้งน้ำหนักพิงร่างสูงไปทั้งตัว ใบหน้าเล็กก็เอียงซบราวกับลูกแมวตัวน้อย

     “...ไม่เป็นไรเลยครับ” แม้จะยังไม่เข้าใจนักหากแต่เสียงหวานก็เอ่ยตอบเสียงแผ่ว

     ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรแต่สำหรับกานต์รักแล้วเขาพร้อมจะทำเพื่ออีกคนทั้งนั้น...

     ไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานแค่ไหนที่ทั้งสองยังอิงแอบแนบชิด กระทั่งแพทริกเป็นคนค่อยๆผละออก มองใบหน้าหวานเนียนนิ่งก่อนจะเอ่ยบอกเมื่อเห็นว่านี่คงเป็นเวลาดึกมากแล้ว

     “ดึกแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนมือใหญ่จะเอื้อมมาคว้าฝ่ามือเล็กกระชับเข้าหาแล้วเดินนำกลับเข้ามายังห้องนอน
 
     แพทริกดันร่างเล็กให้นั่งลงบนเตียงก่อนที่จะเดินไปปิดไฟทั่วห้องจนเหลือเพียงดวงเดียว กานต์รักมองตามคนตัวสูงอย่างเงียบๆ ความรู้สึกอุ่นละมุนยังคงติดอยู่รอบกายและค่อยๆแทรกซึมเข้าไปถึงข้างใน

     ถ้าหากตอนนี้เป็นความฝัน มันเป็นฝันที่ไม่กานต์รักอยากตื่นเลย

     “ดึกแล้วก็ควรจะนอน” แพทริกเอ่ยบอกคนที่ยังนั่งนิ่งก่อนจะก้าวขึ้นเตียงอีกด้าน เมื่อได้ยินคำสั่งจากร่างสูงกานต์รักจึงเอนกายลงนอน ร่างกายทำตามคำประกาศิตนั้นทุกอย่าง

     อ้อมแขนแข็งแรงตวัดคว้าร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด อีกหนึ่งความเคยชินในทุกค่ำคืน หากกานต์รักไม่เผลอขยับมากอดแพทริกก็จะเป็นฝ่ายกอดเสียเอง ยามตื่นมาเรือนร่างบอบบางจึงตกอยู่ในอ้อมแขนใหญ่จนกานต์รักเองเริ่มคุ้นชิน หากแต่วันนี้พอโดนกอดซึ่งๆหน้าก็อดใจเต้นไม่ได้

     “ฝันดี” เสียงทุ้มเอ่ยบอกในความเงียบก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียงให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด กานต์รักหลับตาลงกักเก็บทุกสัมผัสและความรู้สึกให้ซึมลึกเข้าไปถึงหัวใจ

     “ฝันดีครับ” สิ้นเสียงหวานที่เอ่ยตอบกลับมา คนทั้งสองก็ค่อยๆหลับตาลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมๆกัน

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     “ช่วงนี้เจ้านายดูอารมณ์ดีนะครับ” แซมเอ่ยเหย้าผู้เป็นเจ้านายพร้อมกับอมยิ้มล้อเลียน แม้แต่โจเซฟที่ยืนอยู่อีกฝั่งก็หันมามองอย่างเห็นด้วยเช่นกัน

     “ฉันก็ปกติ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบก่อนจะแสร้งทำเป็นอ่านเอกสารในมือต่อ หากแสดงท่าทางอะไรออกไปยิ่งทำให้ลูกน้องหาเรื่องแซวได้อีก

     “แต่ผมกับแซมไม่คิดอย่างนั้นนะครับ”

     “พวกนายจะพูดอะไร”

     “พวกผมแค่รู้สึกว่าช่วงนี้ดูเจ้านายมีความสุขเป็นพิเศษ...เป็นเพราะใครบางคนหรือเปล่าครับ” แพทริกปิดเอกสารในมือลง ดวงตาคมกวาดมองผู้เป็นลูกน้องที่เปรียบดั่งเพื่อน รู้แล้วว่าทั้งสองคนนั้นกำลังไล่ต้อนเรื่องของกานต์รัก

     “ไม่ต้องมาอยากแซว เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหนแล้ว”

     “หึ โอเคครับ ถ้าเจ้านายอยากจะเปลี่ยนเรื่องผมเปลี่ยนให้ก็ได้...เราไม่สามารถรู้อะไรเกี่ยวกับคุณกานต์รักได้เลยครับ ผมรู้สึกเหมือนว่าใครบางคนตั้งใจปกปิดมันไว้ และเหมือนเขารู้แล้วว่าตอนนี้เรากำลังตามสืบอยู่”

     “ไม่รู้เลยเหรอว่าเป็นคนของฝั่งไหน” แพทริกเอ่ยถาม

     “ไม่รู้อะไรเลยครับ...ผมกับโจเซฟเลยลองไปสืบฝั่งที่เป็นศัตรูใหญ่ๆของเราแทน อันนี้มั่นใจได้ว่าคุณกานต์รักไม่ได้เป็นพวกของใครซักคน”

     “ผมว่า...คุณกานต์รักไม่น่าจะเข้ามาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ดี อยู่กับเจ้านายใกล้ชิดขนาดนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีจะทำร้ายอะไร เพียงแต่สิ่งที่น่าสนใจคือเขาเป็นใครกันทำไมเราถึงสืบข้อมูลอะไรไม่ได้เลย” โจเซฟรายงานเจ้านายตามที่ตัวเองและแซมวิเคราะห์

     “อืม ยังไงก็พยายามต่อไป ฉันอยากรู้เรื่องราวของเด็กนี่มากกว่านี้”

     “ที่อยากรู้เป็นเพราะอะไรกันแน่ครับ จับเขาขังไว้ไม่ให้ห่างตัว บ้านใหญ่ก็แทบไม่ยอมกลับไปนอน...คงไม่ใช่แค่เพราะกลัวว่าจะเป็นคนของศัตรูแล้วล่ะ” แซมเอ่ยออกมาพร้อมหรี่ตามอง

     “ดูท่าว่าพวกนายอยากจะซ้อมการป้องกันตัวกับฉันใช่ไหม ไม่โดนไม่นานแล้วหนิ”

     แพทริกเอ่ยเสียงเข้มจนคนสนิททั้งสองก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แซมและโจเซฟรู้ดีว่าหากได้ซ้อมกับผู้เป็นนายมันคือการโดนลงโทษดีๆนี่เอง สู้กันทีไรพวกเขาอ่วมจนมีสภาพยับเยิน ในเมื่ออีกคนนั้นถูกฝึกอย่างโหดมาตั้งแต่เด็ก แม้พวกเขาจะตัวใหญ่และถูกฝึกมาดีแค่ไหนก็ยังต้องยอมแพ้

     “ฉันว่าเราไปดูเรื่องร้านของคุณกานต์รักกันดีกว่าว่ะโจเซฟ”

     “ฉันก็ว่าอย่างนั้น...งั้นเชิญเจ้านายทำงานครับ พวกเราขอตัวก่อนซักครู่”

     มือซ้ายและขวาค้อมตัวลงให้ผู้เป็นนายอย่างทำความเคารพแล้วรีบเดินออกจากห้องไปก่อนจะโดนซ้อมจริงๆ เรื่องร้านของกานต์รักแพทริกส่งคนไปจัดการดูแลอยู่เสมอ แม้พนักงานที่นั่นจะยังระแวงบ้างแต่เพราะมีรูปถ่ายยืนยันว่ากานต์รักสบายดีและความเป็นแพทริก เบรนเนแกนทุกอย่างจึงเรียบร้อย

     และเพราะมีงานเข้ามาให้ตรวจดูมากมายและมีประชุมเรื่องผลกำไรของบริษัททำให้วันนี้นั้นแพทริกกลับขึ้นห้องช้ากว่าทุกวัน เวลาล่วงเลยเข้าสู้วันใหม่มาถึงสองชั่วโมงกว่าที่ร่างสูงจะถึงห้องซึ่งอยู่ชั้นบนสุด ยามเปิดประตูเข้าไปมีเพียงไฟเปิดอยู่ไม่กี่ดวงเพื่อไม่ให้ทั้งห้องนั้นตกอยู่ในความมืด แพทริกก้าวเท้าไปเรื่อยๆกระทั่งถึงห้องนอนที่มีใครบางอยู่

     แกร๊ก

     แต่แล้วยามเห็นร่างเล็กที่ควรหลับกำลังนอนพิงกายกับพนักเตียงเพื่ออ่านหนังสือกลับทำให้ต้องแปลกใจ

     “ทำไมยังไม่นอนอีก” คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันมุ่นพร้อมกับเอ่ยเสียงเข้ม

     กานต์รักมองคนที่ตนเฝ้ารอก่อนริมฝีปากสีสดจะถูกขบเม้มเข้าหากันอย่างประหม่า จะให้บอกได้อย่างไรว่าทำยังไงตัวเขาก็นอนไม่หลับเมื่อไม่มีอีกคนนอนอยู่ข้างกันเช่นทุกคืน

     “ผมไม่นอนไม่หลับครับ” เสียงเล็กเอ่ยแผ่วเบา ใบหน้าหวานก้มลงมองหนังสือในมือเพราะไม่กล้าสบตา

     “ทำไมนอนไม่หลับ” แพทริกเอ่ยถามเสียงเข้มยิ่งกว่าเดิม ดึกขนาดนี้แล้วยังดื้อไม่ยอมนอน ตัวเองใช่ว่าร่างกายจะแข็งแรงมากนัก

     ประโยคคำถามนั้นทำให้คนที่ไม่รู้จะตอบยังไงทำเพียงแค่ส่ายหน้า

     “ฉันจะไปอาบน้ำ ออกมาแล้วต้องนอน”

     “ครับ” กานต์รักรับคำเสียงเบา เมื่อแพทริกเดินเข้าไปในส่วนของห้องน้ำมือบางจึงวางหนังสือลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วขยับตัวลงนอน

     เปลือกตาสีอ่อนปิดลงตามคำสั่งหากแต่ประสาทสัมผัสทุกส่วนยังคงทำงานคอยฟังว่าเมื่อไหร่แพทริกจะออกมา กระทั่งผ่านไปไม่นานนักเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น ต่อมาห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดเมื่ออีกคนปิดไฟ เตียงอีกฝั่งยวบลงตามน้ำหนักของคนที่ทรุดตัวลงมา

    “ต้องให้ตบตูดนอนหรือเปล่าถึงจะนอนได้” ยามอ้อมแขนแข็งแรงรั้งร่างเล็กเข้าไปในอ้อมกอดเสียงทุ้มเรียบก็เอ่ยขึ้น แพทริกนั้นรู้ดีว่าอีกคนยังไม่นอน

     “ผะ ผมโตแล้วนะครับ” กานต์รักขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบเสียงแผ่ว เขาไม่ใช่เด็กสามขวบเสียหน่อย ที่ยังนอนไม่หลับแค่เพราะยังไม่ชินก็เท่านั้น

     ใครกันเล่าที่ทำให้ติดนิสัยต้องนอนซุกตัวเข้ากับอ้อมกอดอุ่นนี้...คุณแพทริกนั่นแหละที่ทำให้เขาเสียนิสัย

     “โตแล้วก็นอนซักที”

     “ครับ...ฝันดีนะครับคุณแพทริก”

     แปลกที่พอได้อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของอีกคนความง่วงกลับครอบงำเข้ามาทันที เสียงหัวใจที่เต้นอย่างหนักแน่นมั่นคงอยู่ข้างหูราวกับเป็นยาขับกล่อมให้หลับใหล ก่อนจะหลุดเข้าสู่ห้วงนิทรานั้นกานต์รักรับรู้ได้ถึงสัมผัสหนักๆที่กดลงบนกลางหัวก่อนทุกอย่างจะมืดสนิท

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋



ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
     (ต่อ)

     “เจ้านายครับ มีคนมาขอพบคัรับ” โจเซฟเดินเข้ามารายงานให้แพทริกที่กำลังนั่งเซ็นต์เอกสารสำคัญอยู่เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าของมือซ้ายมีความเข่งครึมจนคนเป็นเจ้านายต้องขมวดคิ้ว

     “ใคร?”

     “เขาไม่ยอมบอกครับ...บอกแค่ว่าเป็นเรื่องของคุณกานต์รัก”

     “ให้เข้ามาได้”

     รางสังหรณ์บางอย่างกำลังตัวร้องเตือนจนแพทริกรู้สึกวูบโหวงในอก กระหวัดหวนคิดไปถึงใบหน้าหวานยามหลับพริ้มอยู่บนเตียงแล้วรู้สึกแปลกๆ เมื่อเช้าเขาออกจากห้องเช้ามากร่างเล็กที่นอนดึกกว่าทุกวันจึงไม่ทันได้ตื่นขึ้นมาทำอาหารให้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ไม่ได้ทานเข้าเช้าฝีมือของกานต์รัก 
 
     แกร๊ก

     คนทั้งสองที่เดินเข้ามานั้นรูปร่างสูงใหญ่พอๆกับโจเซฟและแซม อาจเพราะเป็นคนต่างชาติเหมือนกันจึงมีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึง การแต่งกายเองก็แทบจะเหมือนกัน ราวกับเป็นบอร์ดี้การ์ดของใครซักคน

     “ไม่ทราบว่าพวกคุณมีธุระอะไร” เป็นแพทริกที่เอ่ยถามขึ้นก่อนด้วยภาษาอังกฤษ

     “เรามาเพราะเรื่องของคุณกานต์รัก...คุณจับเขามาขังไว้ที่นี่นานเกินไปแล้ว” คนฝั่งขวาเอ่ยเข้าเรื่องโดยไม่อ้อมค้อมหรือพูดเกริ่นให้เสียเวลา ประโยคที่ทำให้แพทริกรู้สึกเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบหัว

     “แล้วพวกคุณเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับกานต์รัก”

     “พวกผมไม่ได้มาเพื่อตอบคำถามนี้ เรามาพบคุณเพื่อบอกว่าจะพาคุณกานต์รักกลับไป...เรื่องที่คุณพยายามไม่ต้องสืบให้เหนื่อยเปล่า คุณไม่มีทางรู้หากพวกเราไม่ยอม ถ้ากังวลว่าคุณกานต์รักจะเป็นคนที่ไม่หวังดีด้วยเรื่องนั้นทางเบรนเนแกนไม่ต้องเป็นห่วง คุณกานต์รักไม่ใช่คนที่จะมุ่งร้ายต่อคุณ ครอบครัว หรือว่าต่อบริษัทของคุณใดๆทั้งสิ้น”

     ประโยคยาวเหยียดที่ผู้มาพบเอ่ยพูดไม่ได้เข้าหัวแพทริกเลยซักนิดนอกจากคำว่าจะพากานต์รักกลับไป กรามแกร่งถูกบดเข้าหากันแน่น ในใจร้องเตือนว่าเขาไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหนพาเด็กนั่นไปทั้งนั้นไม่ว่าจะใครก็ตาม!

     “ฉันไม่ยอมให้พวกนายพาเขากลับไป!”

     “คุณจะต้องยอม” อีกฝ่ายเองก็ไม่ยอมแพ้กัน และแพทริกไม่จำเป็นต้องพูดอะไรไปมากกว่านั้นให้เสียเวลา ลิ้นชักข้างโต๊ะทำงานกว้างถูกเลื่อนออก มือหนาหยิบปืนที่อยู่ในนั้นออกมาก่อนจะเล็งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

     “ฉัน-ไม่-ยอม!” แต่ละคำถูกเปล่งออกมาช้าๆชัดๆพร้อมกับแววตาที่วาวโรจน์ ไม่ใช่แค่แพทริกที่ชักปืนออกมาแต่โจเซฟและแซมเองก็คว้าปืนที่ข้างเอวแล้วเล็งไปยังหัวของคนทั้งสองเช่นกัน

     “พวกเรามาบอก ไม่ได้มาขออนุญาต” ข้อนิ้วแกร่งขึ้นนกทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นโดยไม่มีรอ แพทริกกำลังจะลั่นไกอย่างไม่ลังเลหากแต่โทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะกลับดังขึ้นเสียก่อน เขาจะไม่สนใจซักนิดหากชื่อบนจอนั้นไม่ใช่ชื่อของผู้เป็นบิดา

     “ฮัลโหล” แพทริกเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ ขณะที่มืออีกข้างยังอยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างมั่นคง

     (แพทริกแกฟังพ่อนะ...ปล่อยตัวคนที่แกจับมาไปซะ)

     “ทำไม!” แพทริกคำรามก้องเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเอ่ยประโยคแรก มีหลายสิ่งที่อยู่ในหัวหากแต่มันอัดแน่นจนพูดออกไปได้เพียงเท่านั้น พ่อเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แล้วทำไมต้องบอกให้ปล่อยกานต์รักไป

     (พ่อเองก็ไม่รู้ว่าทำไม และไม่รู้ว่าคนที่แกจับมาเป็นใคร...แต่เราต้องปล่อยเขาไป ถ้าแกไม่ทำอย่างนั้นธุรกิจทุกอย่างของเรามันสามารถสลายไปได้ภายในพริบตาทันที!)     

     “ไม่จริง!”

     (มันคือเรื่องจริงแพท เขาทำได้...พ่อไม่เคยก้าวก่ายชีวิตแกเลยซักครั้ง คิดว่าคนอย่างพ่อจะพูดอะไรแบบนี้เล่นๆหากมันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงอย่างนั้นหรือ แกไม่มีทางเลือกอะไรทั้งนั้นนอกจากปล่อยเขาไปซะ...คนที่แกจับมาคือคนที่เราแตะต้องไม่ได้)

     มือที่ถือปืนอยู่กำแน่นจนมันแทบจะหักลงคามือ แพทริกมองคนสองคนตรงหน้าด้วยสายตาวาวโรจน์

     “ก็ได้ครับ...ผมจะทำอย่างนั้น”

     ท้ายสุดแล้วแพทริกจึงต้องยอมรับ หากผู้เป็นพ่อถึงขั้นโทรมาบอกเช่นนี้มันหมายความว่าถ้าเขายังดันทุรังทุกอย่างจะต้องพังพินาศลงอย่างที่พ่อบอก เบรนเนแกนแข็งแกร่งมากและพ่อเขาไม่ใช่คนที่จะยอมอะไรง่ายๆเช่นกัน มันต้องมีอะไรเกิดขึ้น

     (โอเค ตอนนี้แกจัดการตามนั้นซะแล้วเราค่อยคุยกัน การยอมถอยไม่ใช่การยอมแพ้ หากแต่คนฉลาดจะต้องไม่วู่วาม เข้าใจใช่ไหมแพท)

     “...ครับ” มือหนากดตัดสายโทรศัพท์แล้ววางมันลง ความรู้สึกในอกนั้นร้อนราวกับมีไฟมาสุมเป็นร้อยๆ เพียงแค่คิดว่าคนตรงหน้าจะมาพากานต์รักไปมือที่ถือปืนอยู่ก็พานอยากจะลั่นไก

     “ที่พวกเรามาวันนี้ไม่ได้ต้องการมาเพื่อเป็นศัตรู...ที่ต้องทำเพราะรู้ว่าคุณคงไม่ยอมง่ายๆจนต้องบีบบังคับ เราไม่ได้มีเจตนาจะทำลายทางเบรนเนแกนแต่อย่างใด ถ้า...คุณยอมปล่อยคุณกานต์รักให้กลับไป”

     “...”

     “เราบอกคุณได้แต่เพียงว่า...ความปลอดภัยของคุณกานต์รักคือสิ่งที่ทำให้เรามาในวันนี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นและเราต้องการให้คุณกานต์รักอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทางคุณ...ส่วนเรื่องส่วนตัวของคุณกับคุณกานต์รักนั้น คุณคงต้องจัดการเองแต่ยังไม่ใช่ในเวลานี้”

     “...”

     “พวกเราขอตัว” คนทั้งสองเอ่ยบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป แพทริกมองตามจนทั้งคู่หายลับไปกับสายตา ก่อนมือหน้าจะเบนปลายกระบอกปืนไปยังผนังด้านข้าง

     ปัง!

     ร่างสูงใหญ่ของผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีอำนาจที่สุดในเบรนเนแกนหลังจากผู้เป็นบิดาวางมือกำลังยืนกัดฟันนิ่ง กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายเกร็งแน่น แพทริกกำปืนที่พึ่งลั่นไกไปเมื่อครู่จนมือขึ้นข้อขาว ในหูอื้อไปหมดเพราะความรู้สึกที่ตีกันมากมายในหัว

     “เจ้านายครับ คนที่เฝ้าหน้าห้องรายงานมาว่ามีคนพาคุณกานต์รักออกไปแล้วครับ” แซมเอ่ยบอก

     แพทริกยืนนิ่งไม่ตอบอะไรทั้งนั้น ทุกภาพในหัวหมุนวนเพียงแค่ภาพของใครบางคนและมีเพียงคำถามที่ว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง เกิดขึ้นตอนไหน คนพวกนั้นทำไมถึงพากานต์รักไปได้

     เด็กนั่นเป็นใคร แล้วทำไมใจเขาถึงต้องร้อนรนขนาดนี้...

TBC.

     มิดทงมิดเทอมอะไร ไม่สนใจ555555555 มาอัพนิยายดีฝ่า :really2: :really2: 
     หมดเวลาของคุณแพทแล้วค่ะ น้องรักโดนพรากจากอกไปแล้ว อิอิ o18 o18 คุณแพทนั้นมีความโมโหหนักมาก! ตอนหน้าจะเฉลยปมของกานต์รักที่ทุกคนอยากรู้(เพราะอยากให้ถึงฉากหวานไวๆ :mew3: :mew3: ) พอจะรู้กันหรือยังคะว่ากานต์รักเป็นใครรรร
     ขอกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะะะะะ

จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/ (ทวงกันมาเยอะก็จะพยายามทิ้งหนังสือมาปั่น><)
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2016 17:09:31 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
มาให้อยาก(รู้)แล้วจากไปปปปปปป

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทางบ้านกานต์รักก็มีอิทธิพล(มากกว่าเลย)สินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด