ภารกิจที่ 15 : หลุมของใคร“ผิด!” จุนถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ไอ้พี่เบตจะเสียงดังใส่เขาทำไมวะ ก็บอกแล้วว่าโง่ไม่ได้ฉลาดเหมือนตัวเองนี่หว่า
“ตรงไหนครับ” จุนพยายามสงบสติอารมณ์และเปล่งเสียงให้ดูเรียบร้อยที่สุดออกมา เขารู้น่าว่าตอนนี้อีกฝ่ายคือครู เป็นคนที่เสีย
สละเวลามานั่งสอน แถมเปิดแอร์เย็นๆ ให้นั่งเรียนกันสบายๆ
จุนและเขียวหอบหนังสือกองโตมาตามสัญญาที่ทิเบตให้ไว้ ว่าจะสอนวิชาที่เขาไม่ถนัดให้แตกฉาน สถานที่นัดคือคอนโดของ
ทิเบตกับอินทรีย์ ห้องกว้างขวางและเย็นสบาย
“ทำได้ไหม” จุนเหลือบตาไปมองอินทรีย์ ทำไมโทนเสียงคนสอนมันต่างกันนักวะ แล้วไอ้ตัวอย่างข้อสอบเก่าที่เอามาให้ทำ มัน
ออกไปแล้วเถอะ ปีนี้จะออกเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ จุนพาลพาโลเมื่อไม่ได้รับความเสมอภาคในการติว
“ได้ครับ” เขียวพยักหน้า อินทรีย์กับทิเบตสอนเข้าใจง่าย เขาเข้าใจเนื้อหาขึ้นมาก
“&฿+@$#%.........จะฟังไหม” เสียงดุของคนสอนทำเอาจุนสะดุ้ง รีบเบือนหน้ากลับมายิ้มแหยๆ ให้ครูจอมโหด
“อีกทีได้ไหม” จุนยกนิ้วชี้ขึ้น ทำคอย่น
“ใจเย็นๆ สิวะเบต ลูกศิษย์มึงกลัวจนเรียนไม่รู้เรื่องแล้ว” อินทรีย์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของจุน
“กลัวจนเรียนไม่รู้เรื่องหรือเรียนไม่รู้เรื่องเอง”
“ใช่ ผมโง่” ไม่มีเสียล่ะที่จุนจะปฏิเสธ คนเป็นครูควรเข้าใจพื้นฐานของลูกศิษย์จะได้สอนได้ถูกวิธี ไม่ใช่เอาแต่ดุเขาแบบนี้
“เห็นไหม” ทิเบตยกมือกุมขมับ อยากถามว่าไอ้ตัวแสบมันสอบติดมหาลัยเข้ามาได้อย่างไร
“สงสัยเขาจับฉลากเอา”
“อะไรนะ!” ทิเบตงง ไอ้ตัวจุ้นมันพูดอะไรของมัน จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“กำลังคิดใช่ไหมล่ะว่าผมสอบติดมาได้ยังไง ดูหน้าก็รู้แล้ว” ไอ้ตัวจุ้นเชิดจมูกขึ้นสูง ทิเบตขำจนหลุดเสียงหัวเราะออกมา
“จุนไม่ได้โง่ครับ บางวิชาจุนเก่งมากโดยเฉพาะวิชาคำนวณ จุนถึงสอบติดคณะนี้” เขียวรีบแก้ตัวให้จุน ไม่อยากให้ใครมองเพื่อนไม่ดี
“มึงไม่ต้องแก้ตัวให้กู โง่แค่บางวิชาก็คือโง่ กูรับตัวเองได้”
“ถ้ายอมรับว่าตัวเองโง่เขาเรียกว่าไม่โง่” ทิเบตยกมือลูบหัวเจ้าตัวจุ้น น้ำเสียงอ่อนลงจนจุนรู้สึกได้ จุนหันไปมองเขาสงสัยว่าผีตัว
ไหนเข้าสิงทิเบต ช่วยสิงทั้งวันเลยได้ไหม เขาขี้เกียจโดนดุอีก
“ หิวกันหรือยัง” อินทรีย์ยกมือขึ้นนวดต้นคอ พวกเขานั่งติวกันมาเกือบสามชั่วโมงเต็ม
“พักหน่อยก็ดี” ทิเบตเห็นด้วย
“สั่งอะไรมากินเถอะง่ายดี” ระหว่างสองหนุ่มกำลังปรึกษากัน จุนสบตากับเขียว พยักพเยิดให้เพื่อนเป็นคนพูด
“ให้พวกผมทำไหมครับ” เขียวหวานเสนอตัวตามที่ได้ตกลงกับจุนไว้ ว่าพวกเขาจะเลี้ยงข้าวตอบแทน
“หือ? หมายถึงทำอาหารเหรอ” อินทรีย์เลิกคิ้วเมื่อได้ยินข้อเสนอ
“ครับ” เขียวพยักหน้า
“ว่าไงเบต”
“ไม่กินมาม่าไม่เอาปลากระป๋อง” ทิเบตประกาศชัดเจน ไอ้ตัวจุ้นมันทำอร่อยอยู่หรอก แต่ถ้าไม่จำเป็นกินของที่มีประโยชน์ย่อมดีกว่า
“โธ่ทำมาเป็นดูถูก พอสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจแล้วจะมาง้อพี่มาม่าเขา” จุนหมั่นไส้คนเรื่องมากจึงพูดออกมาดังๆ ก่อนเบิกตากว้าง
เมื่อเห็นสีหน้าอับอายของเขียวหวาน ฉิบหาย!
“อืม..ฉันง้อพี่มาม่าของนายบ้างเหมือนกันแต่เฉพาะวันที่ขี้เกียจ” จี๊ดมาก สภาพความพองของกระเป๋าต่างกันมันเป็นแบบนี้นี่เอง
“ไม่ใช่มาม่าหรอกครับพี่เบต” เขียวรีบพูดแทรก เพื่อกู้หน้าเพื่อนที่แตกละเอียดและยังโกยขึ้นมาประกอบไม่เสร็จ
“ เดี๋ยวผมกับจุนไปซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้ๆ แล้วจะรีบกลับมาทำ อยากทานอะไรกันครับ แต่ผมถนัดเฉพาะอาหารไทย” เขียวเล็ง
เอาไว้ตั้งแต่ตอนนั่งรถมา เขาเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กอยู่ไม่ไกลนัก
“อะไรก็ได้เอาที่ถนัดเถอะ” ทิเบตพูดกับเขียวแต่ตายังมองหน้าจุน ไอ้ตัวจุ้นมันทำเขาขำได้ทั้งวันจริงๆ
“พี่ไปส่งเอง” อินทรีย์เสนอตัว เขาไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะได้อยู่กับเขียวหวาน
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปกับจุนสองคนได้” เขียวเอาเพื่อนมาเป็นเกราะกำบัง
“จะไปกันยังไง ร้านเหมือนอยู่ใกล้แต่ถ้าเดินไปจะใช้เวลา กว่าจะกลับทางนี้หิวพอดี” อินทรีย์ฉลาดพอที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง
เขาจับจุดเขียวหวานได้
“ถ้าอย่างนั้น..” เขียวลากเสียงส่งสายตาไปขอความคิดเห็นเพื่อน
“ตกลงครับ” จุนรีบตอบรับ ร้อนๆ แบบนี้นั่งรถไปก็ดีเหมือนกัน
“อิน มึงก็ช่วยเขียวซื้อของเลยสิ ไม่ต้องไปกันหลายคน จุนจะได้อยู่เรียนต่อ”
“อ้าว! เมื่อกี้ใครพูดว่าพักหน่อยก็ดี” จุนทวนคำ เขาได้ยินนะอย่าทำมาเป็นเนียน
“อยากสอบผ่านไหม” เงียบ จุนกัดปาก เขาไม่ได้ไล่เสียหน่อยผีตัวนั้นออกไปทำไมวะ ไอ้พี่เบตสายโหดกลับมาอีกแล้ว
“มึงไปเถอะ” จุนก้มหน้ารับความโง่ของตัวเองแต่โดยดี
“หะ!” เขียวตกใจที่โดนเพื่อนทิ้ง ทำไมเอาตัวรอดอย่างนี้วะ
“จะเรียกเพื่อนทำไมพี่ไม่กัดเราหรอกน่า ไปได้แล้ว” อินทรย์ลุกขึ้นยืนถือโอกาสจับแขนเขียวดึงให้ลุกขึ้นตาม เด็กหน้าหวานเซ
ตามแรงเขา ดีที่ไม่ร้องโวยวาย
“เดี๋ยว ผมหยิบกระเป๋าก่อน”
“ไม่ต้องเดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
“ไม่ได้ๆ พวกผมอยากเลี้ยงขอบคุณ”
“แค่ทำให้ทานก็พอแล้ว”
“แต่ผมต้องเอาโทรศัพท์”
“มีอะไรให้เบตโทรเข้ามือถือพี่”
“ผมไปอยู่แล้วน่า หยิบกระเป๋าแป๊บเดียว”
“ได้” อินทรีย์ยิ้มถูกใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยอมแพ้ แต่เขาไม่คิดจะปล่อยมือจากข้อมือเล็กที่กำอยู่ อินทรีย์เดินตามเขียวไปหยิบกระเป๋า
ที่วางบนโซฟา
“หยิบสิ” อินทรีย์ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเขียวมองมือของเขา
“ปล่อยแขนผมก่อน”
“มือเดียวก็หยิบได้”
“ผมต้องเอาเป้ขึ้นสะพายหลัง” อินทรีย์รู้สึกเหมือนได้ยินเขียวตะโกนว่า โว้ย! ผ่านทางสายตา ดวงตาวาววับบ่งบอกว่าเขียวอยาก
โดดข่วนหน้าเขา
“อีกนานไหม กูหิว” เสียงเรียบๆ ดังมาจากโต๊ะกินข้าวที่ใช้นั่งติวหนังสือ เขียวสะบัดแขนจนหลุด หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายหลัง
“ไปได้แล้วครับ”
“ขอมือ” อินทรีย์แบมือไปตรงหน้าเขียว
“ผมไมใช่หมา”
“ไม่ได้ยินหรือว่าเบตหิวแล้ว”
“พี่อินก็ไปสิครับจะยืนอยู่ทำไม” เขียวขัดใจความดื้อดึงกับเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย
“มือ”
“เฮ้อ! วุ่นวายกันจริงๆ คนจะติวหนังสือไม่มีสมาธิพอดี อะ..ขอมือก็ให้มือ” จุนจับมือเขียวยัดใส่มืออินทรีย์ ไม่มีใครรู้ว่าจุนเดิน
มาตอนไหน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
“เหี้ยจุน!”
“คนหนึ่งอยากได้กระเป๋าคนหนึ่งอยากได้มือ สมปรารถนาทั้งคู่ ทีนี้จะไปกันได้หรือยัง”
“หึหึ ได้แล้ว” อินทรีย์หัวเราะถูกใจ กุมกระชับมือเล็ก ออกแรงดึงเบาๆ ให้เขียวหวานเดินตาม
“รีบๆ กลับมานะ ติวเตอร์ผมหิว ขืนมาช้าจะกินหัวผมก่อน” จุนตะโกนตามหลัง เขาแอบยิ้มดวงตาวาววับ มองเพื่อนรักและอินทรีย์
เดินออกจากห้องไป
ใครว่าภารกิจเขามีแค่แย่งรถจากเกมพนัน เขียวมีภารกิจช่วยโชแปง เขาก็มีภารกิจแฝงในการช่วยอินทรีย์ ไม่มีใครรู้ความคิดชั่ว
ร้ายที่จุนเพิ่งคิดได้เมื่อคืน หลังจากที่กลับไปตรึกตรองอยู่นาน จุนก็คิดไว้ว่าเขียวหวานเพื่อนเขาหน้าตามันน่ารัก ตัวก็เล็ก
บอบบาง ชาตินี้จะหาเมียได้หรือ ผู้หญิงคนไหนจะมองคนที่น่ารักกว่า มองไปมองมาเขาก็เห็นอินทรีย์นี่แหละที่เหมาะสม เพศ
ไม่ตรงกับที่อยากได้แต่ไม่น่าจะใช่ปัญหา เขามั่นใจว่าเหมาะสมกันดีแล้ว
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ปล่อยได้แล้วครับ ผมไม่ชอบให้คนมองแปลกๆ” เขียวกระตุกมือเพื่อให้อินทรีย์รู้ตัว คนบ้าอะไรจับมือเขามาตลอดทางแม้กระทั่ง
ในรถก็ไม่เว้น ลงรถมาก็ยังอุตส่าห์เดินปรี่เข้ามาหา คว้ามือเขาไว้ราวกับกลัวหลงทาง
“ครับผม” อินทรีย์ยอมปล่อยแขนแต่เปลี่ยนมาโอบบ่าเขียวแทน
“พี่น้องกัน” คำพูดช่างไม่ตรงกับดวงตา มันวิบวับเสียจนเขียวต้องยอมหลบ เขาจ้องต่อไม่ได้จริงๆ หัวใจมันสั่นไหวจนรู้สึกได้
“อยากทานอะไรครับ” เขียวเดินอยู่หน้าตู้แช่ผัก เนื่องจากเป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดเล็ก จึงมีของให้เลือกไม่มากนัก
“อยากทำอะไรให้พี่ทาน”
“ผมไม่ได้คิดไว้ กะจะให้จุนเป็นคนคิด”
“พี่ตามใจเขียว”
“สัญญาว่าจะตามใจเราทุกอย่าง” เขียวกำลังอ้าปากจะพูดว่าช่วยคิดหน่อยเป็นอันต้องหุบฉับ เขาเบือนหน้าไปมองทางอื่น ทำไม
ต้องเขินด้วยวะ
“ถ้าตามใจจริงคงไม่คอยบังคับผมแบบนี้” เขียวรีบพูดหลังตั้งสติได้
“งอนพี่เหรอครับ” โอ๊ย! ไอ้บ้าพี่อิน สนุกกับการทำให้เขาเขินมากหรือไง
“ผมไม่พูดกับพี่แล้ว” เขียวหยิบผักใส่ตะกร้า อย่าถามว่าเขาได้ผักอะไรมาบ้าง คำว่าหยิบมั่วยังน้อยไป จุนนะจุน กลับไปต้องมี
เคลียร์ทำบ้าอะไรของมึงวะ
“เขียว”
“เขียวหวานครับ”
“คนดีพี่อยากทานอันนี้” เขียวขำก็ขำแต่ต้องพยายามทำหน้าบึ้ง มองอินทรีย์ชูกล่องขนมตีหน้าเจี๋ยมเจี้ยม
“ไหนบอกให้ผมเป็นคนเลือก” เขียวแกล้งทำเสียงดุ อยากให้อภิสิทธิ์เขาดีนักต้องลองใช้เสียหน่อย
“มันอร่อยนะครับ” อีกนิดเดียวเขียวเกือบหลุดหัวเราะออกมา ดีที่เขายั้งเอาไว้ได้ทัน คนบ้าอะไรทำเสียงเหมือนเด็กสามขวบ
อ้อนอยากกินขนม
“อร่อยจริงๆ ไอ้เบตชอบกินกับเบียร์” เขียวแกล้งถอนใจออกมายาวๆ ทำเหมือนรำคาญเสียงอ้อนของอินทรีย์ เขายื่นมือออกไป
หยิบกล่องขนมจากมืออีกฝ่ายมาใส่ไว้ในตะกร้า
“ผมซื้อให้พี่เบต”
“ครับผม” คนขานรับหน้าบาน หยิบอีกกล่องใส่ตะกร้าหน้าตาเฉย
“เดี๋ยวๆ ทำไมสองกล่อง”
“เบตมันกินเยอะเชื่อพี่” เขียวจะทำอะไรได้นอกจากยืนถอนใจให้กับความเนียนของอีกฝ่าย ร้ายจริงๆ
เขียวเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เขาเลือกของที่ต้องการไปเรื่อยๆ แต่ไม่ยอมเอาผักไปคืนกลัวอีกคนจับได้ว่าเขาเขิน ของเริ่มเต็ม
ตะกร้า เขียวจึงก้มลงเช็คว่ายังขาดอะไรอีกบ้าง
“พี่ไม่ช่วยถือตะกร้านะ” จู่ๆ อินทรีย์ก็พูดเรื่องถือของขึ้นมา เขียวเงยหน้ามองด้วยความสงสัย ทำไมต้องพูด เขาไม่ได้ขอเสียหน่อย
แค่นี้เขาถือเองได้สบาย
“เพราะพี่รู้ว่าเขียวเกลียดการถูกมองว่าเหมือนผู้หญิงใช่ไหม พี่ไม่เคยเห็นเขียวเป็นผู้หญิง ที่พี่ชอบเขียวเพราะเขียวเป็นผู้ชายน่ารัก
ทุกครั้งที่พี่มองเขียวยังเป็นผู้ชายเสมอ อย่าห่วงไปเลย”
เขียวไม่รู้ว่าอินทรีย์เข้ามานังในใจในหัวสมองเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงจับจุดอ่อนข้อนี้ของเขาได้ เขาไม่เคยสนใจผู้ชายที่เข้ามาก็
เพราะทุกคนทำเหมือนว่าเขาเป็นผู้หญิง วิธีพูดวิธีแซวมันทำให้เขาไม่พอใจ จนบางครั้งเขาอยากตะโกนออกไปดังๆ ว่าเขาก็เป็น
ผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน
“คะ..ครับ” เขียวติดอ่าง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี จู่ๆ เขาก็รู้สึกตื้อขึ้นมา
“มาพี่ถือให้”
“อ้าว!” เขียวยังไม่ทันซาบซึ้งกับความเข้าใจของอีกฝ่ายดี ก็ถูกแย่งตะกร้าไปถือหน้าตาเฉย อะไรของพี่อินวะ
“พี่ไม่ได้ถือให้ผู้หญิงพี่ถือให้คนที่ชอบ ไม่มีใครอยากให้คนที่เราชอบลำบาก” เขียวได้แต่ยืนหน้าแดง มองคนถือตะกร้าเดิน
ผิวปากนำไปข้างหน้า ชาตินี้จะมีวันที่พวกเขาตามรุ่นพี่กลุ่มนี้ทันไหม
หัวใจเอ๋ย ได้โปรดเต้นช้าลงสักนิด อย่าเสียงดังไปเลย ไว้หน้าเจ้าของบ้างเถิด
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin