เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์ ตอนพิเศษ p4 27/10/59 ย้ายได้ค่าจบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์ ตอนพิเศษ p4 27/10/59 ย้ายได้ค่าจบแล้ว  (อ่าน 43283 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2016 19:04:55 โดย Silvan »

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์

   บทนำ
   
What the hell!!!
   
นี่มันอะไรกันฟะ ทำไมผมต้องหมั้นกับเจ้าสไลม์สีทองมีปีกตรงหน้านี่ด้วยอ่ะ ผมเงยหน้ามองดูท่านพ่อท่านแม่ด้วยความฉงน ก็เจ้าตัวตรงหน้านี่อ่ะมันไม่มีรูปร่างอย่างมนุษย์เสียด้วยซ้ำอ่ะ ซวยจริงๆเกิดชาติใหม่ทั้งทีทำไมท่านพ่อท่านแม่ถึงทำกับผมอย่างนี้……
   
ครับ ผมชื่อฟีล่าครับ ชาตินี้ของผมผมเกิดเป็นมังกรน้ำ ผมมีดวงตาสีเขียวและเส้นผมสีฟ้ากับผิวที่ขาวอมชมพูเสียจนน่าชื่นชม ใครๆก็ชมว่าผมรูปงามทั้งนั้นแม้แต่ท่านพี่ที่ว่ารูปหล่อสุดสุดยังชมผมว่าสวยอยู่บ่อยๆ อันที่จริงก็ไม่ค่อยชอบหรอกที่ถูกชมว่าสวยแต่ช่วยไม่ได้นี่ผมห้ามความคิดคนอื่นเขาได้ที่ไหน
   
ผมจำเรื่องราวในชาติก่อนได้อย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่ที่จำได้แม่นคือก่อนตายผมเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีที่พลานามัยสมบูรณ์พร้อมครับ ก็ง่ายๆรถชนตายถึงได้มาอยู่ตรงนี้ไง
   
ปัจจุบันตอนนี้ผมในวัยเจ็ดขวบกำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ ว่าด้วยการถูกจับหมั้นกับเจ้าชายเผ่าสไลม์ซึ่งสไลม์ในโลกนี้ไม่ต่างกับสไลม์ที่ผมเห็นในสื่อบันเทิงเมื่อชาติก่อนของผมเท่าไหร่นัก
   
เจ้าพวกนี้มีหลายขนาดและหลายสีสัน รูปร่างเป็นก้อนกลมๆและโปร่งแสง หากว่าคุณๆคิดว่าพวกสไลม์กระจอกก็นับว่าคิดผิด เพราะในโลกที่ผมเกิดใหม่สไลม์ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกรและเป็นศัตรูคู่อาฆาตตลอดการเสียด้วย

   แล้วทำไมผมถึงได้จับพลัดจับพลูหมั้นกับสไลม์ได้นะหรือ ก็ท่านพ่อท่านแม่น่ะสิ พยายามจะสงบศึกกับราชาสไลม์ด้วยการยกผมให้แต่งงานกับเจ้าชายเผ่าสไลม์
   
ให้ตายสิเอาอะไรมาคิดกันนี่ ผม กับเจ้าสไลม์สีทองมีปีกตัวขนาดเท่าลูกบอลนี่นะจะแต่งงานกันในอนาคต ถามหน่อยเถอะเราจะมีเซ็กส์กันอีท่าไหนอ่ะ ขอโทษเถอะที่ผมหยาบคาย ไม่สิที่สำคัญกว่านั้นผมกับเจ้าสไลม์นี่น่าจะเป็นตัวผู้ด้วยกันทั้งคู่ จะมีลูกด้วยกันได้ยังไงวะ
   
โห คำถามล้านแปดแปลเปลี่ยนใบหน้าของผมให้บิดเบี้ยว ผมชี้นิ้วไปยังเจ้าชายสไลม์แล้วแผดเสียงถามพวกผู้ใหญ่ที่เป็นตัวตั้งตัวตีให้ผมเป็นคู่หมั้นกับเจ้าสไลม์ตรงหน้า

   “ท่านพ่อท่านแม่ครับถ้าข้าคิดไม่ผิดเจ้าตัว..เอ้ย…เจ้าชายนาดีลเป็นผู้ชายใช่ไหมครับ อย่างนี้ถึงแต่งงานไปเราก็มีทายาทไม่ได้สิ”

   “มีได้สิเจ้าชายฟีล่า โดยปกติพวกเราเผ่าสไลม์จะสืบพันธ์ด้วยการคลอดด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคู่อยู่แล้ว เรื่องทายาทเจ้าชายอย่าได้กังวลไป”

   What the fuck!!!   

   ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม ราชาสไลม์สีทองตัวมหึมาบอกว่าพวกสไลม์สืบพันธ์ด้วยการแบ่งร่าง แล้วอย่างนี้จะแต่งงานทำไมอ่ะ ปุจฉาเจ้าชายสไลม์เกิดมาด้วยการที่ราชาคลอดออกมาเองด้วยหรือเปล่า ตอนนี้เครื่องหมายคำถามในจินตานาการลอยอยู่เหนือหัวของผมเต็มไปหมด

   “แต่ถ้าหากว่าเจ้าอยากจะคลอดเอง เผ่าสไลม์เราก็มีวิธีทำให้เจ้าคลอดบุตรได้นะเจ้าชาย นาดีลบุตรชายของเราก็คลอดออกมาด้วยมารดาที่เป็นชายต่างเผ่าเช่นกัน”
   
คำพูดของราชาสไลม์เฉลยอะไรได้หลายอย่าง เล่นเอาผมขนลุกเลยให้ตายสิพับผ่า ผมยอมให้เจ้าชายสไลม์แบ่งร่างออกมาเองยังจะดีเสียกว่า ถ้าหากว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับเจ้าสไลม์ตัวนี้ได้แล้วล่ะก็
   
“ท่านพ่อท่านแม่ครับน้องยังเด็กไปหรือเปล่าครับที่จะมีคู่หมั้น ทำไมไม่รอให้เขาโตก่อนแล้วค่อยให้เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง”
   
Good job มากท่านพี่เอียน ผมหันไปยิ้มให้ท่านพี่ที่อายุห่างจากผมสี่ปีอย่างมีความหวัง ให้ตายสิถ้าจะมีใครที่เข้าข้างผมก็มักจะเป็นท่านพี่เอียนนี่แหละ
   
“เงียบนะเอียน พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้ว” ท่านแม่เอ่ยเสียงเย็นเพียงท่านแม่ปลายตาเย็นเยียบไปท่านพี่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้อีก
   
ตายล่ะวาผมต้องยอมเป็นคู่หมั้นให้เจ้าสไลม์สีทองมีปีกตัวนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วหรือนี่ ให้ตายสิใครก็ได้ปลุกผมให้ตื่นทีเถอะ




ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบ น่าสนใจ ตามต่อละ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
แปลกดีค่ะ จะรอติดตามน้า   แฟนซีด้วย

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
น่าสนใจ  น่าสนุก
ขอติดตามค่าาา

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่1
   
“งื้อ สบายจุงเบย” ผมพึมพำขณะนอนหลับ ตอนนี้ผมกำลังหลับสบายอยู่บนเตียงอุ่นๆของผม ผมได้ยินเสียงนกที่ด้านนอกหมายความว่าเวลานี้น่าจะเป็นตอนเช้าแล้ว แต่ก็นั่นแหละผมยังไม่อยากตื่นเลย เพราะผมรู้สึกอุ่นสบายราวกับถูกห่อหุ้มด้วยอะไรบางอย่าง
   
เดี๋ยวนะถูกห่อหุ้ม!!!
   
ผมรีบลืมตาขึ้นมา พอลืมตาขึ้นมาได้ผมก็แผดเสียงโวยวาย เพราะอะไรนะหรือก็เจ้าชายนาดีลเอาอีกแล้วนะสิ เขาเข้ามานอนกับผมแถมยังกลืนกินผมเข้าไปในร่างของเขาเสียด้วย ใช่แล้วตอนนี้ผมอยู่ในร่างสไลม์โปร่งแสงสีทองมีปีกซึ่งขยายขนาดให้ใหญ่พอจะกลืนกินผมเข้าไปได้
   
“ปล่อย ปล่อยข้านะ”

ผมใช้กำปั้นทุบผิวหนังจากด้านในร่างของนาดีล จริงๆแล้วพวกสไลม์นั้นนุ่มนิ่ม แต่บทจะทำให้แข็งขึ้นมาพวกเขาก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแกร่งได้ยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก แต่ไม่ใช่กับตอนนี้เสียทีเดียว พนังในร่างของเจ้าชายนาดีลนั้นยืดหยุ่นไม่ว่าผมจะทุบเท่าไหร่ก็ไม่เจ็บมือ ผมเคยใช้เวทมนต์โจมตีนาดีลจากภายในปรากฏว่านาดีลจะเปลี่ยนสีไปตามธาตุของเวทย์มนต์ยกตัวอย่างเช่นถ้าใช้น้ำโจมตีเขาจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า
   
แน่นอนว่าการเปลี่ยนสีมาจากการที่เขาดูดซับพลังการโจมตีเวทย์ให้หายไป โจมตีทางกายภาพก็ไม่ได้ โจมตีทางเวทย์ก็ไม่ได้ หมายความได้อย่างเดียวคือต้องรอให้เจ้าชายนาดีลคายผมออกด้วยตัวเอง
   
“เจ้าบ้า เจ้าบ้า เจ้าบ้า ปล่อยข้าออกไป” ผมอาละวาดเหมือนทุกที ถึงหนึ่งสัปดาห์มานี้จะโดนเล่นงานเกือบทุกวัน แต่จะให้ทำใจชินนี่ผมทำไม่ได้หรอก
   
“ถ้าหากเจ้ายังไม่ปล่อยข้าออกไปล่ะก็ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนข้าจะถอนหมั้นเจ้าให้ได้” พอผมยื่นคำขาด เจ้าชายนาดีลก็พองตัวร่างของเขาเปลี่ยนเป็นสีซีดๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูและกลับเป็นสีทอง เปลี่ยนไปมาตามลำดับก่อนจะแตกออกดังป๊อบ นั่นแหละผมจึงหลุดออกมาจากภายในของเจ้าชายนาดีล
   
เจ้าชายนาดีลไหลย้วยเป็นน้ำไปตามพื้นก่อนจะค่อยๆจับเป็นก้อนกลมๆอีกครั้งคราวนี้เขาอยู่ในขนาดปกติเท่ากับลูกบอลไม่ได้ใหญ่พอจะกลืนกินผมเข้าไปอย่างเมื่อครู่
   
“ข้าปล่อยเจ้าแบบนี้ หมายความว่าเจ้าจะไม่ถอนหมั้นข้าแล้วสินะ”
   
ชิ! ผมอยากจะต่อยหน้าเขานักถ้าเขามีหน้าให้ต่อย แต่ก็นั่นและเขาเป็นสไลม์ตัวนุ่มนิ่มถึงผมทุบเขาไปเขาก็ไม่เจ็บ มีแต่ผมนั่นแหละที่จะเจ็บใจ
   
“ข้าบอกเจ้าแล้วใช่ไหมว่าห้ามกลืนข้าเข้าไปอย่างนี้อีก” ผมกอดอกยืนค้ำหัวเขาด้วยท่าทีเอาเรื่อง ผมจำได้นะว่าเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว
   
“ก็ข้าเป็นห่วงเจ้านี่แล้วก็ไม่รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นกับเจ้าเมื่อไหร่ หากว่าเจ้าอยู่ในร่างของข้า เจ้าจะปลอดภัยนะ”
   
“ก็บอกว่าข้าไม่เป็นไรไง ข้าอยู่ในอาณาจักรของข้า ข้าจะบาดเจ็บได้ยังไง เจ้าสไลม์หน้าโง่”
   
ผมชี้หน้าด่าเขาป่าวๆ ให้ตายสิยิ่งอยู่ใกล้เจ้าชายนาดีลผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนขี้โมโห มันน่าโมโหไหมล่ะ เพราะมันไม่ใช่แค่เวลานอนที่เขาฉวยโอกาสกลืนกินผมหรอก แต่เวลาปกติ ถ้าเกิดว่าเขาตัดสินใจว่าผมอยู่ในอันตรายเขาก็จะทำมันอีกเช่นกัน
   
“ทำให้ว่าที่คู่หมั้นเดือดร้อนได้แบบนี้ ถ้าจะให้ดีน่าจะสำนึกตัวนะว่าตัวเองเหมาะสมจะเป็นคู่หมั้นอยู่อีกไหม”
   
“ท่านพี่เอียน” ท่านพี่เข้ามาในห้องของผมในสถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่นพอดี พอเห็นหน้าท่านพี่ผมก็คลายจากความหงุดหงิด ผมกระโดดเข้าไปเกาะแขนท่านพี่ออดอ้อนเหมือนเคย
   
“ท่านพี่ช่วยบอกเจ้าชายนาดีลทีสิว่าให้เลิกทำแบบนี้เสียที” ผมปลายมองดูนาดีลตอนนี้เขากำลังพองตัวและตีฟองปุดๆภายในร่างกลมๆโปร่งแสงของตัวเอง รู้ล่ะว่าเขาต้องไม่พอใจเพราะเขาตีฟองไปด้วยปลิ้นปากไปด้วยเหมือนเด็กๆ
   
“เฮ้อถ้าพี่ช่วยได้พี่คงทำไปแล้วคิดหรือว่าพี่ไม่พูดเรื่องนี้กับท่านพ่อท่านแม่” ผมปลายตามองเจ้าชายนาดีล ให้ตายสิผมเกลียดเขานักเพราะเขาเป็นสไลม์จอมกวนประสาทที่สุด ตอนนี้เขากำลังพองตัวจนใหญ่เท่ากับขนาดกลืนวัวเข้าไปได้ทั้งตัวและกำลังยิ้มกว้างดวงตาของเขาวิบวับเป็นประกายแบบดวงดาวยามค่ำคืนเลยเชียวล่ะ
   
“แต่อย่าได้ใจไปล่ะ” ท่านพี่ปลายตาจิกไปยังเจ้าชายนาดีล “พี่ว่าจะลองพูดถึงธรรมเนียมระหว่างชายหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานดูซักครั้ง อันที่จริงหากยังไม่แต่งงานไม่ว่าที่ไหนเขาก็ไม่ให้นอนห้องเดียวกันหรอก”
   ผมอดขำไม่ได้ เพราะตอนนี้เจ้าชายนาดีลกลายเป็นสไลม์สีซีดๆและเริ่มย้วยไปตามพื้น
   
“ท่านจะไม่พูดเรื่องนี้กับท่านพ่อตาแม่ยายใช่ไหม” เจ้าชายนาดีลถามเสียงระโหย เขายังยืดย้วยเป็นน้ำอยู่บนพื้น
   
“แน่นอนว่าข้าต้องพูด” ผมยิ้มกว้างให้ท่านพี่ก่อนจะส่งยิ้มเยาะให้เจ้าชายนาดีล เราสองพี่น้องพากันออกจากห้องนอนของผมทิ้งให้เจ้าสไลม์บ้านั้นย้วยอยู่บนพื้นต่อไป
   
ผมโดนเกาะติดไปเสียทุกที่ ในขณะเดียวกันผมก็เกาะติดท่านพี่เอียนอยู่เหมือนกัน ผมหงุดหงิด ท่านพี่เอียนเองก็ดูหงุดหงิด พวกเราสองพี่น้องหงุดหงิดที่มีสไลม์สีทองมีปีกเกาะติดกับพวกเราไปเสียทุกที่ ให้ตายสินี่เรายังไม่ได้หมั้นกันอย่างเป็นทางการเลยนะ
   
“นี่ เจ้าชายนาดีล เว้นระยะห่างจากว่าที่คู่หมั้นบ้างไม่ดีหรือ” ท่านพี่เอียนกล่าวเตือนได้ตรงใจผมนัก ผมละอยากให้เขาอยู่ห่างๆผมบ้างซักหนึ่งวันก็ยังดี
   
“การคอยดูแลว่าที่คู่หมั้นก็เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งนะ” เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้างขณะกระพรือปีกพรึบพั่บบินตามพวกเราที่เดินหนีมาติดๆ
   
“อย่างนั้นเจ้าชายนาดีลคงจะตามเรามาใช่ไหมหากพวกเราจะแอบกันออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก”
   
ผมมองดูท่านพี่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา คิดไม่ถึงว่าคนที่ไม่เคยทำผิดกฎอย่างท่านพี่จะพูดออกมาแบบนี้ แอบหนีพวกผู้ใหญ่ไปเล่นนอกปราสาทหรือ ฟังดูอันตรายแต่ช่างหอมหวานชวนดึงดูดนัก ตั้งแต่เกิดมาจนอายุได้เจ็ดปีผมไม่เคยออกไปนอกปราสาทเลย ดังนั้นพอท่านพี่เปิดประเด็นผมก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
   
“ท่านจะพาคู่หมั้นของข้าออกไปจริงหรือ ท่านไม่กลัวว่าน้องชายจะเป็นอันตรายหรือไง ด้านนอกยังมีพวกต่อต้านการเขียนสัญญาสงบศึกอยู่นะ ท่านก็รู้นี่ว่าสัญญาสงบศึกจะครบถ้วนก็ต่อเมื่อข้ากับฟีล่าฉลองงานหมั้นกัน”
   
“หากท่านกลัวก็ไม่ต้องตามมานะ” พอกล่าวจบท่านพี่เอียนก็กลายร่างเป็นมังกร เพราะท่านพี่มีอายุได้สิบเอ็ดปีแล้วร่างมังกรของท่านพี่จึงใหญ่พอให้ผมขึ้นไปนั่งบนหลังได้
   
“ล่าก่อนเจ้าชายนาดีล” ท่านพี่พาผมบินออกไปนอกวัง ผมมองดูร่างสไลม์สีทองมีปีกที่ค่อยๆเล็กลงไปเรื่อยๆจากบนท้องฟ้าจนมองไม่เห็นอีก
   
“ท่านพี่คิดแผนสลัดเจ้าชายนาดีลแบบนี้ออกได้ยังไง” ผมถามหลังจากท่านพี่พาบินมาจนถึงทุ่งดอกไม้นอกเมือง
   
“พี่ก็แค่วัดใจกับเขาเท่านั้น ว่าเขาจะกล้าหาญแค่ไหน ที่ไหนได้เขาขี้ขลาดมากกว่าที่คิด” ท่านพี่หัวเราะหึหึ แล้วเด็ดดอกไม้มาเสียบที่หูของผม อันที่จริงผมไม่ค่อยชอบแบบนี้หรอกเพราะมันดูผู้หญิงจ๋าชอบกล แต่ก็ไม่ได้รังเกลียดเพราะเป็นการกระทำของท่านพี่ที่ผมเคารพ
   
“ฮ่าฮ่าฮ่า นึกไม่ถึงว่าเราจะมีโอกาสทองถึงขนาดนี้” โดยไม่ทันตั้งตัวเจ้าของเสียงจู่โจมท่านพี่จนกระเด็นลอยไปกระทบกับหินก้อนยักษ์ ไวจนผมงง รู้ตัวอีกที มังกรสีแดงตัวใหญ่ก็ยืนค้ำหัวผมอยู่ ผมสลับมองระหว่างเจ้ามังกรแดงกับท่านพี่พบว่าท่านพี่หมดสติไปเพราะแรงกระแทก
   
“ฮ่าฮ่าถ้าจับเจ้าชายไป ราชาคงจะทบทวนเรื่องสงบศึกกับพวกสไลม์สินะ” จังหวะนั้นเองผมร่ายเวทย์ซัดลูกบอลน้ำเข้าใส่มันหวังว่ามันจะได้ผล แต่เพราะพลังเวทย์ของผมยังอ่อนเกินไป เจ้ามังกรแดงเพียงใช้กรงเล็บปัดลูกบอลน้ำก็แตกกระจายทันที
   
“เลิกดิ้นรนแบบเปล่าประโยชน์น่า” มังกรแดงใช้กรงเล็บตรึงผมไว้กับพื้น ตอนนี้ได้แต่นึกถึงคำพูดของเจ้าชายนาดีลขึ้นมา ทั้งโกรธตัวเองและเสียใจอย่างหนักที่เมินเฉยต่อคำเตือนของเจ้าชายนาดีล ทว่าในตอนนั้นก้อนกลมๆสีทองที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูงก็ปะทะเข้าที่ใบหน้าของมังกรแดง ผมแทบตกตะลึงเพราะมันคือเจ้าชายนาดีลนั่นเอง
   
“กรร” มังกรแดงละมือจากผมและพยายามจัดการกับเจ้าชายนาดีล แต่เจ้าชายนาดีลนั้นโจมตีด้วยการดีดตัวเองเข้าใส่มังกรแดงครั้งแล้วครั้งเล่า มังกรแดงร้องด้วยความเจ็บปวด ในตอนนั้นมังกรแดงก็เซแถดๆล้มลงมาจะทับตัวผม
   
เร็วกว่าที่ใครจะคาด เจ้าชายนาดีลพุ่งเข้ามาหาผมไปพร้อมกับพองตัว เขากลืนกินผมเข้าไปในร่างเหมือนอย่างที่เคยทำ
   
ตึง
   
เสียงของหนักๆล้มทับลงมาบนร่างของผม ผมหลับตาปี๋ แต่เมื่อไม่รู้สึกว่าเจ็บตัวหรืออึดอัดจึงลืมตาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผมมองโลกภายนอกจากภายในร่างที่โปร่งแสงของเจ้าชายนาดีล
   
ตอนนี้ร่างของเจ้าชายนาดีลเป็นสีเทา และร่างของเขาแข็งเหมือนเหล็กกล้า เพราะถึงจะโดนมังกรแดงยักษ์ล้มทับแต่ก็ยังคงสภาพรูปทรงเอาไว้ได้โดยไม่บุบสลาย
   
“ทนอึดอัดแป๊บนึงนะ” นาดีลน่าจะพูดกับผม หลังจากที่เขาพูดจู่ๆเขาก็บีบอัดร่างกายจนเล็กลงเกือบจะเท่ากับตัวผมแล้วพองร่างขึ้นฉับพลัน เขาขยายร่างใหญ่โตกะทันหันจนดีดร่างของมังกรแดงกระเด็นออกไป และนั่นยิ่งทำให้เจ้ามังกรยักษ์โกรธมากขึ้น
   
“หนอยไอ้สไลม์บัดซบ” มังกรเตรียมจะพุ่งเข้าใส่พวกผม แต่จังหวะนั้นเจ้าชายนาดีลก็เกร็งร่างขณะที่เกร็งร่างเขาก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
   
“อาจจะมึนหัวหน่อยนะ” เจ้าชายนาดีลบอกผม ก่อนจะดีดร่างสีน้ำเงินของตัวเองเข้าใส่มังกรแดง เขาดีดร่างเข้ากระแทกเจ้ามังกรแดงหลายครั้ง ทุกครั้งที่ดีดโดนกระแสไฟฟ้าจำนวนมากจากร่างกายของเจ้าชายนาดีลจะส่งผลกระทบต่อร่างของมังกรแดง ใช่แล้วมังกรแดงถูกไฟช๊อตจนชาทุกครั้งที่นาดีลดีดตัวเข้าใส่
   
“ไหวไหมฟีล่า” เจ้าชายนาดีลถาม
   
“ไม่ไหวมึนหัวไปหมดแหล่ว” ได้ยินดังนั้นเขาจึงคายผมออกในที่ปลอดภัย ก่อนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นๆ แล้วอ้าปากกลืนกินมังกรแดงเข้าไปในคำเดียว
   
“อ๊ะ กะ…กินเข้าไปทำไม….” ผมขนพองสยองเกล้าไปหมด ผมน่าจะเดาได้จากประสบการณ์ในชาติก่อนของผม แต่ผมก็อยากจะให้มันไม่เป็นอย่างที่ผมคิด
   
“กำลังย่อยรอแป๊บน้า” เจ้าชายนาดีลพูดกับผมด้วยน้ำเสียงระรื่นสุดๆ ภายในร่างอันใหญ่โตของเขาผมเห็นมังกรแดงกำลังถูกน้ำย่อยในร่างย่อยจนค่อยๆเปื่อย
   
“กลัวหรือ” เจ้าชายนาดีลถามผม พอเห็นผมอึ้ง เจ้าชายนาดีลก็เปลี่ยนสีตัวเองเป็นสีทึบตอนนี้ผมไม่สามารถมองเห็นมังกรแดงได้อีกแต่ก็รู้ตัวล่ะว่ามันกำลังถูกย่อย
   
ให้ตายสิผมน่าจะรู้นะว่าพวกสไลม์มันโหด อย่างพวกสไลม์ในเกมส์ดังๆก็ล้วนแต่ขาโหดกันทั้งนั้น ผมควรจะจำเอาไว้ในหัวว่าไม่ควรจะไปมีเรื่องกับเจ้าชายนาดีล
   
เอิ๊ก
   
ผมกระพริบตาปริบๆเมื่อได้ยินเสียงเจ้าชายนาดีลเรออกมา เขาคงย่อยมันเสร็จแล้วใช้เวลาแค่ห้านาทีเองเท่านั้นด้วย ไวอย่างเหลือเชื่อ ตอนนี้เจ้าชายนาดีลค่อยๆหดขนาดตัวลงก่อนจะกระโจนเข้ามากลืนผมเข้าไปอีกครั้ง
   
“ไม่ ไม่น้า “ ผมโวยวายเสียงดัง แน่ล่ะหากเขาเผลอย่อยผมไปล่ะจะทำไง
   
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะพาเจ้ากลับปราสาทเท่านั้น ฮิฮิ ข้าจะเผลอย่อยคู่หมั้นที่น่ารักอย่างเจ้าได้ไงล่ะ แต่ถ้านอกใจก็ไม่แน่นะ” ตอนท้ายประโยคจู่จู่เขาก็เปลี่ยนร่างเป็นสีทะมึนๆ ผมใจหายวาบแต่พอเขาเปลี่ยนสีกลับเป็นปกติแล้วหัวเราะเสียงใสผมก็อาละวาดอยู่ในร่างของเขาเพราะโกรธที่เจ้าชายนาดีลแกล้ง
   
“กลับกันเลยไหม”
   
“จะกลับได้ยังไงท่านพี่ยังนอนสลบอยู่เลย” ผมท้วง
   
“จริงด้วยแฮะ” พอสำนึกได้ว่าลืมอะไรไปนาดีลก็อ้าปากแล้วกลืนท่านพี่เข้ามาด้วยอีกคน ก่อนจะกระพือปีกพาพวกเราบินกลับไปยังปราสาทด้วยความเร็วจนผมอดทึ่งไม่ได้

   

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
อย่าเปลี่ยนร่างกลับเป็นคนน่ะเจ้าชาย
ชอบร่างแบบนี้รักกันแปลกๆดี
และที่สำคัญอยากเห็น nc กับนายเอก
ทั้งๆที่ร่างเป็นสไลม์แบบนี้แหล่ะค่ะ555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ้าชายนาดีล แข็งแกร่ง
ปกป้องฟีล่า คู่หมั้นได้สบายเลย
นาดีล ดูรักฟีล่า นะ ตามดูแล ปกป้องตลอด
ขนาดฟีล่าเพิ่งเจ็ดขวบเอง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เด็กเลี้ยงแมว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พระเอกเป็นสไลม์ อื้อหืมมม นี่มโนล่วงหน้าไปยันบทอัศจรรย์ละจ้ะ  :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่2

   
หลังจากผ่านงานฉลองหมั้นเมื่อปีที่แล้ว เจ้าชายนาดีลกับราชาสไลม์ก็อยู่กับพวกเราตลอดฤดูใบไม้ผลิก่อนจะพากันกลับอาณาจักรไสลม์ไป
   
ปีนี้ผมอายุได้แปดขวบ และกำลังเริ่มฝึกฝนอาวุธและเวทย์มนต์ตามลำดับ ผมทำได้ไม่ดีนักในการฝึกอาวุธ แต่ทำได้ดีที่เดียวในการฝึกเวทย์มนต์ ผมเริ่มใช้เวทย์มนต์น้ำได้รุนแรงขึ้น และตอนนี้ก็มีความสนใจในศาสตร์แห่งการรักษา เพียงแต่ว่ายังไม่ได้เริ่มเรียนก็เท่านั้น
   
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจแรงจนท่านพี่เอียนที่ฝึกซ้อมอาวุธลดอาวุธลง
   
“เป็นอะไรไปฟีล่า”
   
“ก็นี่มันฤดูใบไม้ผลิแล้วนี่ครับ”
   
“อ้อจริงด้วย” ท่านพี่ทำสีหน้าบูดบึ้ง เห็นได้ชัดว่าท่านพี่เองก็ไม่ชอบใจเหมือนกันและน่าจะรู้แล้วว่าผมถอนหายใจเพราะอะไร ก็จะอะไรเสียอีกเล่า หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิย่อมหมายถึงการมาของเจ้าชายนาดีล พวกผู้ใหญ่ตัดสินว่าทุกทุกปีจะเปิดโอกาสให้ผมกับนาดีลได้อยู่ด้วยกัน จึงได้เลือกเอาฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่นาดีลจะมาอยู่ที่ปราสาทของเรา
   
“แต่พี่ยังไม่ยอมแพ้เรื่องหาวิธีถอนหมั้นระหว่างเจ้ากับเจ้าชายนาดีลนะ”
   
ท่านพี่ลูบหัวผมไปมา แต่ก็นั่นแหละตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องหมั้นเท่าไหร่แล้ว ถ้าจะคิดให้ดี ยังไงเจ้าชายนาดีลก็เป็นแค่สไลม์อ่ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่าทำเป็นไม่รู้สิ คุณน่าจะเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร
   
ผมหมายถึงเรื่องบนเตียงไงครับ ในเมื่อเขาเป็นสไลม์ผมไม่เห็นหนทางไหนที่เราจะร่วมรักกันได้ นี่เป็นข้อดีหนึ่งอย่าง เพราะอย่างน้อยผมก็ไม่ต้องร่วมรักกับผู้ชายด้วยกันอ่ะ
   
แล้วอีกอย่างนะผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะอยู่กับเขาเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ตอนนี้ผมยังจะแหยงเขาอยู่จนยังไม่สามารถเป็นเพื่อนสนิทได้ก็ตาม แต่ผมจะพยายามครับ สู้สู้นะ!!!ฟีล่า
   
หลังจากที่ผมตัดสินใจว่าจะวางสถานะของเจ้าชายนาดีลไว้ตรงไหน วันถัดมาเจ้าชายนาดีลกับคณะก็เดินทางมาถึง เขามาถึงในตอนช่วงเย็นของวันที่สดใส
   
“ฟีล่า” พอเจ้าชายนาดีลเห็นผม เขาก็โดดเข้าหาแล้วกลืนผมเข้าไปในร่างโปร่งแสงของเขาทันที ผมไม่ตกใจเท่าไหร่เพราะชาชินแต่ท่านพี่ถึงกับรักษาท่าทีเอาไว้ไม่อยู่ชักดาบออกมาหมายจะฟันเจ้าชายนาดีลให้ขาดกลางเสียให้ได้
   
“ใจเย็นน่าเอียน”
   
“ใช่แล้วจ๊ะเอียนเก็บดาบเถอะ” ท่านพ่อกับท่านแม่ห้ามปรามท่านพี่เอียนพร้อมกับหัวเราะคิกคิก ดูเหมือนการที่ผมถูกงาบเข้าไปทั้งตัวดูจะเป็นเรื่องขำขันของท่านพ่อท่านแม่ แต่ท่านพี่เอียนดูจะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งท่านพี่เก็บดาบลงอย่างไม่เต็มใจ
   
“คิดถึ๊งคิดถึง” นาดีลพูดด้วยเสียงระริกระรื่น พร้อมกับโยกตัวไปมาราวกับจะเหกล่อมผมที่อยู่ด้านในร่างของเขา ฮึ่ม!! อดทนไว้ ผมว่าผมควรจะชินได้แล้ว แต่นี่มันก็ผ่านไปหลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เจออะไรแบบนี้ ดังนั้นผมจึงอดหงุดหงิดไม่ได้
   
“เจ้าชายนาดีลคงจะรักฟีล่ามากสินะคะ แหม โชคดีของฟีล่าที่คู่หมั้นทั้งรักทั้งหลงแบบนี้” ไวพอพอกับที่ท่านแม่จบประโยคร่างโปร่งแสงของนาดีลเปลี่ยนเป็นสีชมพูแล้วแตกดังป๊อบ ผมหลุดออกจากภายในของนาดีลแล้ว ตอนนี้เขายืดย้วยเป็นน้ำอยู่บนพื้น
   
“ท่านแม่ยายอย่าพูดเรื่องจริงสิครับ ข้าอายนะ” ท่านพ่อท่านแม่หัวเราะครืนใหญ่ แต่ผมนี่สิที่เกิดอาการหมั้นไส้ ท่านพี่เอียนเองก็ไม่ต่างกัน ผมเห็นท่านพี่กัดฟันกรอด คงจะหมั้นไส้พอๆกับผมนั่นล่ะไม่น่าจะมีอะไรมาก
   
“ฟีล่าเราไปอาบน้ำกันเถอะ พี่ฝึกอาวุธมาทั้งวันรู้สึกเหนียวตัว” ท่านพี่จับมือผม ผมคิดว่าไปอาบน้ำก็ดีเหมือนกันเพราะนี่มันก็เย็นมากแล้ว ดังนั้นจึงปล่อยให้ท่านพี่ลากจูงออกไปจากที่ตรงนั้นแต่ทว่า
   
“จะไปอาบน้ำกันหรือ ให้ข้าไปอาบด้วยสิ” ท่านพี่หยุดชะงักการก้าวเดินแล้วหันคอกลับไปมองด้วยใบหน้าที่เหมือนกับยักษ์ก็ไม่ปาน

   “ท่านว่าอะไรนะครับ” ท่านพี่ยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
   
“ข้าว่าจะขออาบกับพวกเจ้าด้วยไง แหมทำเป็นไม่ได้ยินนะ คนซื่อบื้อ” นาดีลปลิ้นปากแล้วตีฟองปุดๆในร่างดูแล้วช่างน่าหมั้นไส้นัก
   
“ข้าว่าข้าขอปฏิ….”
   
“ให้เจ้าชายนาดีลไปอาบน้ำด้วยสิจ๊ะ” ท่านพี่ยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านแม่ก็เสนอแนะ ผมเห็นนะท่านพี่กัดฟันกรอดอีกแล้ว ผมละปลาบปลื้มจริงๆทีท่านพี่ทั้งรักทั้งเป็นห่วงผมขนาดนี้
   
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามมาสิครับเจ้าชาย” เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้าง พริบตาที่เจ้าสไลม์ร่างสีทองมีปีกจะกระโจนเข้ามาตะครุบกลืนผมเข้าไปอีกครั้ง ผมชี้หน้าเจ้าชายนาดีลข่มขู่เขาก่อนที่เขาจะทำได้สมใจ
   
“หากกลืนข้าเข้าไปอีกล่ะก็ เจ้าก็ไม่ต้องมาอาบน้ำกับข้า” ได้ฟังดังนั้นนาดีลก็ห่อเหี่ยวลงทันใด เขาเปลี่ยนเป็นสีซีดๆแล้วไหลย้วยเป็นน้ำไปตามพื้น ตอนนี้เขาเคลื่อนตามพวกผมมาในสภาพไหลย้วยไปตามทางด้วยรูปร่างที่เหมือนเมือกสีซีดๆ
   
เมื่อไปถึงห้องอาบน้ำท่านพี่ก็เปลื้องผ้าออก แต่ผมนี่สิที่ยังไปไม่ถึงไหน อาจเป็นเพราะกระดุมเสื้อผมดันไปอยู่ที่ด้านหลัง ผมจึงยักแย่ยักยันพยายามเอื้อมมือไปแต่ไม่ถึงซักที
   
“ใครก็ได้ช่วยปลดกระดุมให้ที” ผมพูดว่าใครก็ได้แต่ก็นั่นแหละผมไม่ได้หมายถึงเจ้าชายนาดีลแน่ๆ แต่เพราะดันพูดว่าใครก็ได้ เจ้าชายนาดีลจึงตีความว่าเขาน่าจะช่วยได้ ฉับพลันร่างที่เคยย้วยเป็นเมือกใสก็เปลี่ยนเป็นทรงกลมและพองขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าชานาดีลกระโจนเข้าใส่แล้วกลืนกินร่างของผมเข้าไปอีกแล้ว
   
“ทำอะไรน่ะ” ท่านพี่โวยวายยกใหญ่ แน่นอนไม่ใช่แค่ท่านพี่ผมก็โวยวายด้วยเหมือนกัน
   
“ปล่อย ปล่อยข้านะนาดีล” ผมอาลาวาดทุบตีนาดีลจากภายในร่าง แต่นาดีลยังทำเฉย ตอนนี้ท่านพี่ชักดาบออกมาเสียแล้ว
   
“ปล่อยฟีล่าเดี๋ยวนี้นะ เจ้าไสลม์ชั้นต่ำ”
   
“ใจเย็นน่าแค่จะถอดเสื้อผ้าให้เองน้า” เจ้าชายนาดีลหัวเราะระรื่น ตอนนี้เองที่ผมเพิ่งสังเกต เสื้อผ้าของผมกำลังถูกกรดจากภายในร่างกายของเจ้าชายนาดีลละลาย
   
“อึก…..ไม่นะ” ผมหวีดร้อง น่าอายน่าอายที่สุด ตอนนี้เสื้อผ้าของผมถูกละลายและกำลังเปิดเผยร่างเปลือยทีละนิดอย่างหมิ่นเหม่ มันทำให้ความทรงจำในอดีตชาติวิ่งผ่านเข้ามาในสมองเหมือนแผ่นฟิล์ม ความทรงจำที่ว่าก็คือความทรงจำที่ผมเคยดูอนิเมะxxxที่ตัวร้ายโปะสไลม์เพื่อจะย่อยเสื้อผ้าของนางเอกแล้วลงมือข่มขืนก่อนที่พระเอกจะมาช่วย
   
สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างจากสาวน้อยที่ถูกลวนลาม เจ้าสไลม์บ้ามันลวนลามผมอยู่ชัดๆ ตอนนี้ผมส่งเสียงร้องให้ท่านพี่ช่วยเอาผมออกไป แต่ทว่าท่านพี่กลับยืนตะลึงมองดูเสื้อผ้าของผมค่อยๆถูกย่อยและหลุดออกจากร่างทีละชิ้น ให้ตายสิมันน่าดูตรงไหน มีอะไรให้ตกตะลึงอ่ะครับท่านพี่
   
“ท่านพี่ เอาข้าออกไปที” ผมทุบร่างนาดีลจากภายในแล้วตะโกนให้ท่านพี่ช่วย โชคดีที่ท่านพี่ได้สติ ท่านพี่ใช้ดาบฟันลงมาอย่างแรง แต่ดาบอันคมกริบดันดีดกลับเมื่อสัมผัสถูกร่างของนาดีล
   
“บัดซบ” ท่านพี่สบถ ตอนนี้ท่านพี่เริ่มร่ายเวทย์โจมตีใส่นาดีลอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่เวทย์มนต์ที่อันตรายนักแต่ก็รุนแรงมากสำหรับเด็กวัยสิบสองอย่างท่านพี่ ตอนนี้ร่างของนาดีลเปลี่ยนเป็นสีแดง สีน้ำเงิน และสีฟ้าตามธาตุของเวทย์มนต์ทีท่านพี่ใช้โจมตี ซึ่งก็คือไฟ สายฟ้า และน้ำ ตามลำดับ
   
“บ้าเอ๊ยนี่มันอะไรกัน” ท่านพี่หอบแฮ่กๆดูเหมือนจะเริ่มจนปัญญา ทำไงได้ถึงจะช่วยตอนนี้ก็สายไปแล้ว ผมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าในร่างของนาดีลไปเสียแล้ว
   
“ว๊ายผิวข๊าวขาว เนียนนุ่มมากอีกด้วย” นาดีลทำเสียงกระเส่าตอนนี้ร่างของเขาเป็นสีชมพูแปร๊ด เจ้าบ้าเอ๊ยอย่าบอกนะว่าเห็นร่างเปลือยของผมแล้วเกิดชอบขึ้นมาอ่ะ แต่ผมสงสัยนะ สไลม์อย่างเจ้าชายนาดีลจะมีอารมณ์ใคร่เหมือนสัตว์เทวะที่แปลงร่างเป็นมนุษย์อย่างพวกเราได้หรือเปล่า
   
“ปะ ปะอาบน้ำกันเถอะ” เขาคายผมออกมาหลังจากพูดจบ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะอารมณ์ไหนโกรธ ทึ่ง หรือว่า เสียใจ แต่ท่านพี่นี่สิส่งสายตามองเจ้าชายนาดีลอย่างมาดร้ายเชียวล่ะ
   
“ถูสบู่ให้หน่อยสิ ฟีล่า” เจ้าชายนาดีลสั่งผม ผมนี่อึ้งไปเลย หลังจากเขาทำเรื่องอุกอาจอย่างการลวนลามผม เขายังทำเฉยสั่งให้ผมปรนนิบัติเขาได้อีกเหรอ แต่ก็เอาเถอะถ้าเขากล้าสั่งผมก็กล้าทำแหละ
   
เย็นวันนั้นท่านพี่ดูจะสงบปากสงบคำกว่าปกติ ในขณะที่นาดีลดูมีความสุขที่ได้อาบน้ำกับผม เจ้าสไลม์บ้านี่ใช้งานผมอย่างกับทาส ทั้งถูสบู่ทั้งราดน้ำให้ แต่ก็ช่วยไม่ได้นะในเมื่อร่างกายของเขามันนุ่มนิ่มไปหมดเหมือนสัตว์เล็ก ดังนั้นผมจึงสนุกไม่น้อยที่ได้อาบน้ำให้เขาล่ะ
   
เช้าวันถัดมาผมตื่นขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจนัก ตอนนี้ผมอยู่ในร่างนุ่มนิ่มของเจ้าชายนาดีล ให้ตายสิถึงจะเตือนหรือด่ายังไงเขาก็ไม่เข้าใจง่ายๆ
   
“ปล่อยจะไปอาบน้ำ” เขาไม่ยอมปล่อยผม แต่พาผมเด้งดึ๋งไปตามทางจนไปถึงห้องอาบน้ำ ผมเดาะลิ้นอย่างหัวเสีย มันสบายก็จริงแต่ผมแค่ไม่อยากให้เขามาวุ่นวายกับผม
   
“ให้ช่วยถอดเสื้อผ้าให้ไหม”

   “อย่าแม้แต่จะคิด ข้าถอดเองได้” ผมขู่ฟ่อ เจ้าชายนาดีลค่อยๆคายผมออกจากร่าง เมื่อเป็นอิสระ ผมก็เริ่มเปลื้องผ้าแล้วอาบน้ำ
   
หลังจากนั้นใช้เวลาจนถึงเที่ยง ผมเข้าเรียนกับพวกอาจารย์หลายท่าน พอเรียนครบทุกวิชาผมก็รีบมุ่งหน้าไปหาท่านพี่โดยมีเจ้าชายนาดีลบินตามมาติดๆเหมือนเป็นเงา
   
“ขอโทษนะฟีล่า พี่ว่าจะฝึกเวทย์มนต์กับอาวุธเพิ่มขึ้น” ท่านพี่บอกผมหน้าเศร้าๆ แต่ไม่วายมองนาดีลด้วยสายตาอาฆาตแค้น ผมเดานะว่าพี่ชายคงรู้สึกเสียหน้าที่จัดการกับนาดีลไม่ได้เลย ดังนั้นจึงเพิ่มเวลาการฝึกเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว
   
ให้ตายสิ พอไม่มีท่านพี่เล่นด้วยผมก็เหงานะ ผมนั่งหงอยให้เจ้าชายนาดีลดูเป็นเวลานานนับชั่วโมงจนแม้แต่จอมทะเล้นอย่างนาดีลยังห่อเหี่ยวตามไปด้วย
   
“ไปเล่นนอกปราสาทกันดีไหม”
   
“เอ๋” ผมเอียงคอมองดูเจ้าสไลม์สีทองมีปีกตัวขนาดเท่าลูกฟุตบอลด้วยความฉงน สงสัยว่านับจากก่อเรื่องไปเมื่อปีที่แล้วท่านพ่อท่านแม่จะยังยอมให้ผมออกไปเล่นนอกปราสาทอีกหรือ แต่ ทว่า พอนาดีลเป็นผู้ขอทำไมมันกลับง่ายกว่าที่คิดก็ไม่รู้
   
“เอาพวกทหารตามไปด้วยดีไหมจ๊ะ” ท่านแม่ถาม นาดีลบอกว่าเขาจะพาองครักษ์ส่วนตัวของเขาไป ท่านแม่จึงได้เลิกเป็นห่วง บ่ายวันนั้น ผมกับนาดีลจึงออกไปเที่ยวเล่นกันในทุ่งดอกไม้ที่ผมเคยออกไปเมื่อปีที่แล้ว
   
“ฟีล่าชอบดอกไม้หรือ”

   “ใครๆเขาก็ชอบดอกไม้กันทั้งนั้นแหละ” ผมเบ้ปากใส่เจ้าชายนาดีล ตอนนี้ไม่ห่างไปนัก พวกสไลม์องครักษ์พยายามตั้งกระโจมและเตรียมอาหารให้ผมกับนาดีล
   
“อ่าจริงสิ ในป่าข้าเห็นมีดอกไม้สวยๆกว่านี้อีกนะ เดี๋ยวจะไปเอามาให้” นาดีลกุลีกุจอ

   “อ๊ะรอด้วยสิ” ผมบอกแล้ววิ่งตามเขาที่บินช้าๆนำผมเข้าไปในป่าติดๆ

   ในป่าของที่โลกนี้ต่างกับโลกที่ผมเกิดในชาติก่อนอยู่หลายอย่าง ต้นไม้ดอกไม้ดูจะสวยงามกว่าสมกับเป็นโลกแฟนตาซีจนผมอดตะลึงไม่ได้ นาดีลพาผมลึกเข้าไปในป่า ลึกขึ้นลึกขึ้น จนในที่สุด ก็พบกับทุ่งดอกไม้ที่อยู่ท่ามกลางป่าลึก
ที่ตรงกลางของทุ่งดอกไม้ ผมเห็นอัญมณีสีรุ้งอันใหญ่เด่นเป็นสง่าอยู่ที่ตรงนั้น
   
“นั่นอะไรน่ะ ไม่ใช่ดอกไม้นี่” ผมถามเขา เพราะตอนแรกเขาบอกว่าจะพามาดูดอกไม้ชัดๆ   

“นั่นเป็นหินคริสตัลที่หายากน่ะนานนานจะเกิดขึ้นในป่าซักที นอกจากนั้นจะเกิดเฉพาะในที่ที่มีแต่ดอกไม้ ดังนั้นจะเรียกว่าเป็นดอกไม้ก็ไม่แปลกใช่ไหม”
   
นาดีลกระซิบบอกผม เขาดูตื่นเต้น ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะทึ่งนะแหละ เนื่องจากในโลกของผมหินสวยงามจะเกิดตามภูเขา แต่เจ้าหินคริสตัลนี่ดันเกิดในป่าเสียนี่
   
“อยากได้ไหม”
   
ผมส่ายหน้าไปมา ถึงมันจะสวยก็จริงแต่มันจัดอยู่ในสถานะเครื่องประดับมากกว่า ผมจึงไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่นาดีลนี่สิ เขาบินไปแล้วถอนมันออกจากบริเวณนั้นมาอย่างรวดเร็ว
   
จังหวะที่นาดีลง่วนอยู่กับการเก็บอัญมณีนั้นผมก็นึกอะไรสนุกๆได้ ผมจะแกล้งแอบเขาดีกว่า ให้เขาตกใจเล่นแล้วก็โผล่มาจ๊ะเอ๋แบบขำๆ
   
คิดได้อย่างนั้นผมก็เริ่มเดินหาที่ซ่อนที่พอจะหลบได้ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจจะหลบหลังดอกไม้ดอกใหญ่ใกล้ๆนั่น ผมหัวเราะคิกคิกตั้งใจจะรอจังหวะให้เจ้าชายนาดีลผ่านมาทางที่ผมแอบอยู่ แต่ทว่า
   
“อ๊ะ” ผมถูกเถาของเจ้าดอกไม้ขนาดยักษ์มัดจนเป็นบ๊ะจ่างในพริบตา เวลาลำบากอย่างนี้ผมพยายามร่ายเวทย์น้ำโจมตีดอกไม้ยักษ์ แต่แทนที่จะทำให้มันบาดเจ็บหรือว่าปล่อยตัวผม เจ้าดอกไม้นี่มันดันชอบที่ผมซัดลูกบอลน้ำใส่ซะงั้น
   
แย่แล้วๆๆๆ นี่ผมจนมุมอีกแล้วหรือนี่ ในตอนที่ผมเริ่มจะภาวนาให้เจ้าชายนาดีลหาผมเจอเสียที เขาก็หาผมพบได้จริงๆ เจ้าชายนาดีลพองตัวจนใหญ่โตก่อนจะกลืนทั้งผมทั้งดอกไม้ยักษ์เข้าไปพร้อมกัน

   อั๊ยยะ!!! นี่เขาคิดจะย่อยมันอีกแล้วหรือ เขาลืมไปหรือเปล่าว่าผมยังตัวติดกับเจ้าดอกไม้นั่น เขาอาจจะลืมคิดไปก็ได้ ก็ใช่สิ เขาเป็นแค่สไลม์น้อยๆจะฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ได้ไง ตอนนี้ผมเริ่มจะร้องไห้ด้วยความกลัว ผมหลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บปวดจากการโดนกรดในร่างของนาดีลย่อยไปพร้อมกับเจ้าดอกไม้ยักษ์

   “เจ้านี่น้า ถ้าไม่มีข้าอยู่ คงจะอยู่ไม่ได้แน่ๆ” นาดีลพูดกับผม ผมลืมตาขึ้นเมื่อไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด หลังจากลืมตาผมพบว่าเจ้าดอกไม้ดอกยักษ์กำลังถูกย่อยอย่างรวดเร็ว แต่กรดในร่างของนาดีลนั้นไม่ได้ย่อยตัวผมไปด้วย ตอนนี้เองผมก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ตอนที่เขาย่อยเสื้อผ้าผม ผมก็ไม่ถูกย่อยไปด้วยนี่นะ
   
“ อึก….ขอบใจนะ” ผมยังสะอื้นอยู่นิดๆเพราะเพิ่งผ่านห้วงเวลาแห่งความตายมา ตอนนี้ผมเริ่มคิดนะว่าจะไม่ทำตัวเกเรหรือดื้อแพ่งใส่นาดีลอีก ก็ทำไงได้ล่ะผมสร้างความเดือดร้อนจนต้องให้นาดีลช่วยเป็นครั้งที่สองแล้วนี่นะ
   
ถ้าจะให้พูดผมสำนึกในบุญคุณของเขาจริงๆที่ช่วยผมเอาไว้เสมอๆ ดังนั้นไม่แปลกใช่ไหมที่ผมจะรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้เขาทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมออกจะรำคาญด้วยซ้ำ
   
“นี่ ปล่อยข้าออกไปสิ ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” พอหายกลัวผมก็เรียกร้องให้เขาปล่อยผมออกจากภายในร่างกาย
   
“ไม่ได้” เจ้าชายนาดีลปฏิเสธพอถูกขัดใจผมก็ชักจะออกอาการดื้อแพ่งขึ้นมาอีกแล้ว
   
“ทำไมเล่า”
   
“ก็ถ้าเจ้าไปเจอพวกอันตรายอีกแล้วข้าไปไม่ทันล่ะ” ตอนนี้ร่างนุ่มนิ่มของเจ้าชายนาดีลเป็นสีทะมึน ดูจากสีแล้วท่าทางเขาจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก

   “แต่ว่าข้าอยากเดินเอง” ผมลองยืนกรานความต้องการด้วยเสียงอ่อยๆอีกครั้ง
   
“ไม่ได้” ผมคอตกกับคำขาดของเจ้าชายนาดีล แน่ล่ะถ้าเขาบอกว่าไม่ได้ ในเมื่อผมอยู่ในร่างเขาแล้วต่อให้ผมอาละวาดผมก็ไม่มีทางได้ออกไป ที่สำคัญผมไม่มีหน้าไปอาละวาดใส่คนที่มีบุญคุณในการช่วยชีวิตผมได้หรอก
   
“แต่ว่าน้า…..” เจ้าชายนาดีลลากเสียงยาวอย่างมอนสเตอร์เจ้าเล่ห์
   
“แต่ว่าอะไรหรือ”

   “ถ้าเจ้าจูบข้าล่ะก็นะฟีล่า ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นอิสระก็ได้ ดีไหมล่ะ”
   
จูบ!!! แค่จูบเองหรือ?ให้ตายสิผมไม่รีรอรับข้อเสนอทันที แค่จูบกับสไลม์เองมันจะยากตรงไหนล่ะ แต่ทว่าเขาเรียกร้องให้ผมจูบเขาที่ปาก
   
ตอนนี้ผมจึงจดจดจ้องๆว่าตรงไหนกันแน่ที่คือปากของเขา แน่นอนปากของสไลม์นั้นกว้าง แต่เวลาปิดปาก เราจะแทบมองไม่เห็นว่าปากของสไลม์นั้นอยู่ตรงไหน เพราะร่างกลมๆนุ่มๆนั่นกลืนกันเป็นเนื้อเดียวไปหมด

   แต่วินาทีถัดมาผมก็ยอมรับกับตัวเองว่าความรู้ของผมมันน้อยไป เจ้าชายนาดีลบีบปากจู่จนเป็นปากเล็กขนาดพอเหมาะให้ผมจูบได้เสียนี่ เป็นภาพที่ทั้งน่าขันและน่าหมั้นไส้
   
“เอ่อ….อือ…” ผมลังเล แต่เมื่อถูกเร่งเร้ามากมากเข้า ผมก็แนบจูบลงไปที่ปากจู่นั่น
   
นุ่มนิ่มไปหมด นี่คือความรู้สึกที่ได้จากการจูบ เอาล่ะเมื่อคิดว่าการจูบปากน่าจะเพียงพอได้แล้วผมจึงขยับปากถอนจูบแต่เจ้าชายสไลม์บ้าๆดันใช้ปากดูดตัวผมเข้าไปในร่างเสียอีก บ้าที่สุด!!!
   
“ทำอะไรเนี่ย” ผมโวยวายอาละวาดในร่างของเขา บ้าบ้าที่สุดนี่มันจูบหรือว่าอะไรกันแน่ นี่มันเป็นการกลืนเข้าแบบทานอาหารเสียมากกว่าด้วยซ้ำ ขยะแขยง ขยะแขยงสุดสุด
   
“เข้าเรียกว่าจูบแบบดูดดื่มนะน้า” เจ้าชายนาดีลที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีชมพูแปร๋นพูดด้วยเสียงลั๊นลา โกรธ นี่กลายเป็นว่าผมต้องมาอยู่ในร่างของเขาอีกแล้ว และเขาก็ไม่ทำตามสัญญา เจ้าชายนาดีลพาผมบินกลับบ้านทั้งที่ผมยังอยู่ในร่างเสียอย่างนั้น
   
ให้ตายเถอะ
   
“ไอ้สไลม์จอมลวงโลก” ผมได้แต่ร้องตะโกนอย่างหัวเสียอยู่ในร่างของนาดีลระหว่างที่เขาพาผมกลับปราสาท


ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ขุ่นพี่เอียนนี่ จะเป็นตัวร้ายป่ะ

ออฟไลน์ Minzero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ทำไม...ชั้นขำว่ะยามนึกภาพตามไอ้ตอนจูบดูดดื่ม55555 :ruready

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
น่ารักกกกกก
ตลกอ่ะ555555

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
นึกถึงโพริ่งแองเจิ้ลในแร็ค

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ฮาแบบแปลกๆ สรุปว่าชอบค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สไลม์ แข็งแกร่ง ปกป้องฟีล่าสบายๆ เลย :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
นารักตัง555 หมั่นไส้นาดีล

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่3
   
ผมอดมองดูสร้อยคอประดับคริสตัลสีรุ้งที่ได้มาเมื่อปีที่แล้วจากเจ้าชายนาดีลไม่ได้ พอมองเจ้าสิ่งนี้แล้วก็นึกถึงหน้าเจ้าชายนาดีลปฏิเสธไม่ได้ว่าผมคิดถึงเขามากอยู่เหมือนกัน ป่านนี้เจ้าชายสไลม์บ้าๆนั่นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
   
นั่นแหละ ผมไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้พบหน้าเขา แต่อีกไม่นานหรอก ตอนนี้ผมอายุได้สิบขวบแล้ว ร่างมังกรของผมเองใหญ่พอที่จะบินข้ามดินแดนไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นการเดินทางไปอาณาจักรไสลม์ครั้งนี้ผมจึงบินไปด้วยตัวเองกับ พวกทหารองครักษ์ที่พากันติดตามมาด้วย
   
พวกคุณอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงไปที่อาณาจักรสไลม์ ก็ท่านพ่อท่านแม่น่ะสิ ท่านตัดสินใจตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วว่าจะให้ผมไปเยี่ยมที่อาณาจักรไสลม์ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นในฤดูใบไม้ผลิ เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะต้องไปอยู่ถาวรที่นั่นหลังแต่งงาน
   
ผมใช้เวลาบินอยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ในที่สุดก็ถึงอาณาจักรสไลม์จนได้ ผมและคณะค่อยๆร่อนลงบนพื้นดินที่หน้าปราสาทอันใหญ่โตของอาณาจักรสไลม์
   
พอร่อนลงพื้นเรียบร้อยพวกผมก็กลายร่างเป็นมนุษย์ ทหารองครักษ์ที่มาด้วยกันยื่นสารส่งให้ทหารสไลม์รับไป ใช้เวลาไม่นานนักเมื่อทหารสไลม์กลับมา พวกเขาก็เชิญพวกผมเข้าไปในปราสาท

   ปราสาทของอาณาจักรสไลม์นั้นใหญ่โตมากพอที่พวกมนุษย์จะประกอบกิจกรรมต่างๆได้ ตอนแรกผมคิดว่าปราสาทของพวกเขาจะเล็กพอพอกับขนาดของพวกเขาเสียอีก
   
แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น พวกเก้าอี้ เครื่องใช้ต่างๆ เป็นขนาดใช้สอยแบบอย่างของพวกที่มีร่างเป็นมนุษย์ทั้งหมด ทำเอาผมแปลกใจไม่น้อยทีเดียว
   
ผมและคณะเดินตามทหารสไลม์ไปจนถึงห้องโถงขนาดใหญ่ ที่นั่นบนบัลลังค์มีราชาสไลม์สีทองขนาดใหญ่อยู่ตรงนั่น และข้างๆมีชายหนุ่มผู้งดงามคนหนึ่งยืนอยู่เคียงกัน
   
“ถวายความเคารพราชาและราชินี” ทหารสไลม์พากันส่งเสียงนำ ผมกับคณะทำตามอย่างนอบน้อม ด้วยเหตุนี้ผมจึงเดาได้ว่าผู้ชายหน้าตางดงามคนนั้นน่าจะเป็นราชินีของอาณาจักรสไลม์ไม่ผิด
   
“ไม่ต้องมากทำเนียมหรอกเจ้าชายฟีล่า ยังไงเจ้าก็เหมือนเป็นลูกของข้าอีกคนนะ” ราชาสไลม์พูดกับผมอย่างเป็นกันเอง  ตอนนี้เองที่จู่จู่กล่องดำก็ผุดขึ้นในความคิดของผม ราชินีคนงามตรงหน้าน่าจะเป็นแม่ของเจ้าชายนาดีลและมีราชาสไลม์สีทองร่างยักษ์เป็นพ่อ
   
จากที่ราชาสไลม์เป็นผู้เล่า เขาบอกว่าราชินีเป็นคนคลอดเจ้าชายนาดีลออกมาด้วยตัวเอง อั๊ยยะ!! แล้วทำไงถึงคลอดออกมาได้ง่ะ อยากรู้อยากรู้ขึ้นมาติดหมัด

   “เจ้าชายนาดีลเสด็จแล้ว” เสียงแซ่ซ้องของทหารสไลม์ทำให้รู้ว่าเจ้าชายนาดีลมาถึง
   
เอ๊ะ!! มันแปลกๆอยู่นะ ปกติเวลาเจอหน้ากัน เจ้าชายบ้านั้นต้องกระโจนเข้ามากลืนกินผมเข้าไปอย่างทุกครั้ง แต่นี้แค่ยิ้มทักทายให้ผมแล้วก็บินเข้าไปออดอ้อนออเซาะท่านแม่ของเขา
   
What???
   
แปลกมาก บอกไม่ได้ว่ารู้สึกดีหรือไม่ดี เพราะในอกของผมมันรู้สึกหวิวๆยังไงชอบกล ไม่ชอบเลยแฮะความรู้สึกแบบนี้
   
“ท่านฟีล่าคงหิวเราไปทานอาหารกันดีกว่า นี่ก็เที่ยงพอดีเลย” ผมตอบรับคำชวนของราชินีหรือท่านแม่ของนาดีล หลังจากร่วมโต๊ะอาหารผมถึงได้รู้ว่า ท่านราชินีมีชื่อว่าท่านฟรานซิส
   
ตอนนี้ผมหมั้นไส้เจ้าชายนาดีลอย่างหนัก ก็อะไรล่ะ ปกติเขาต้องมาวอแวกับผมอยู่ตลอด แต่พออยู่ต่อหน้าท่านแม่คนงามเขาก็เมินผมสนิท จะว่าไงดีล่ะตอนนี้ผมอธิบายอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเลย ให้ตายสินี่ผมเป็นอะไรไปกันแน่นะ
   
แต่ก็นั่นแหละยิ่งมองดูท่านแม่คนงามของนาดีลมากเท่าไหร่ ถึงจะงดงามแค่ไหนแต่เขาก็เป็นผู้ชายแน่ๆล่ะ ไอ้ที่ผมสงสัยอยู่ตอนนี้ก็เลยฉวยโอกาสถามมันไปเสียเลย

   “ท่านฟรานซิสครับ”
   
“เรียกท่านแม่สิจ๊ะ” ท่านฟรานซิสบอกผม
   
“ครับท่านแม่…คือข้าอยากรู้ว่า ราชามาริกกับท่านแม่ทำอย่างไรถึงได้คลอดเจ้าชายนาดีลออกมาได้” อยากรู้จริงๆอ่ะให้ตายสิ ถึงจะพยายามจินตนาการอยู่หลายอย่างก็เถอะ แต่มันก็สู้รู้ความจริงจากปากผู้มีประสบการณ์ไม่ได้ซักนิด
   
“เออ….” ตอนนี้ราชาสไลม์กับเจ้าชายนาดีลหัวเราะชอบอกชอบใจ แต่ท่านฟรานซิสนี่สิหน้าแดงแปร๊ดเหมือนเอาสีแดงมาทา
   
“เอ่อ….คือ เอาไว้ถึงเวลาเจ้าชายนาดีลบุตรเราจะเป็นผู้บอกเจ้าเองนะฟีล่า” ราชามาริกตอบแทนท่านฟรานเซสที่พยักหน้าหงึกๆทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ ตอนนี้เจ้าชายนาดีลส่งยิ้มกว้างมาให้ผมดูเขาจะชอบอกชอบใจอะไรบ้างอย่าง ผมอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากให้เจ้าชาย
   
แต่อดติดใจไม่ได้จริงๆอ่ะ มันเป็นเรื่องน่าอายขนาดนั้นเชียวเหรอ สไลม์กับมนุษย์ ผมจินตนาการการร่วมรักระหว่างสองเผ่าพันธุ์ไม่ออกจริงๆอ่ะ ให้ตายสิ แต่ถ้ามันน่าอายมาก อาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้ อดขนพองสยองเกล้าไม่ได้เลยแฮะ
   

หลังจากทานอาหารเสร็จ ท่านฟรานเซสก็แนะนำให้นาดีลพาผมชมรอบๆเมือง เจ้าชายนาดีลก็พาผมไปตามที่ร้องขอ แต่น่าแปลกเขาไม่เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการผมอยากทุกที ก็อะไรล่ะ ก็ไอ้การกลืนผมเข้าไปในร่างแล้วพาเดินเหมือนทุกทีไง
   
“นี่คือเพื่อนสนิทของข้าเองนะฟีล่า” เจ้าชายนาดีลแนะนำสไลม์สีแดงให้ผมรู้จัก สไลม์สีแดงตัวนี้มีชื่อว่าราอูล
   
“ยินดีที่ได้รู้จักท่านคู่หมั้น ข้าราอูลครับ”
   
“อา….ยินดีที่ได้รู้จักนะราอูล” ผมทักทายเขากลับ หลังจากนั้นพวกเราก็พากันเดินไปรอบๆเมือง เป็นอีกครั้งที่ผมเกิดหงุดหงิด ก็อะไรล่ะเจ้าชายนาดีลเล่นเอาแต่พูดกับราอูลจนลืมผมไปเลย โอ๊ยผมอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูกเลยล่ะ
   
“นี่” ผมลองเรียกเจ้าชายนาดีลจากด้านหลัง ก็ใช่สิเขาเดินนำหน้า ทิ้งผมเดินเคียงคู่ไปกับเพื่อนของเขาราวกับไม่มีผมอยู่เลยนี่

   “นี่ ได้ยินหรือเปล่า”
   
พอผมเริ่มจะเสียงดัง เจ้าชายนาดีลกับราอูลก็หันกลับมามอง นาดีลนั้นทำหน้าสงสัย แต่ราอูลนั้นทำสีหน้าแปลกๆ
   
“มีอะไรสนุกๆทำบ้างไหม ข้าเบื่อ” ผมบอกความต้องการออกไป

   “แทนที่จะถามว่ามีอะไรสนุกๆบ้างไหม น่าจะถามกลับบ้างว่าท่านคู่หมั้นทำอะไรเป็นบ้างไหมต่างหากนะครับ”

   “เอ๊ะ” ผมเอียงคอมองดูราอูล ชักงงว่าเจ้าสไลม์สีแดงนี่หมายความว่าอย่างไร
   
“อ่าว อย่าลืมสิครับ ว่าท่านกำลังจะมาเป็นเจ้าสาวให้เจ้าชายของเรา แน่นอนว่าคุณสมบัติเฉกเช่นนักรบของเจ้าชายเราได้รับการพิสูทธิแล้วจากการที่ช่วยท่านหลายครั้งหลายหน….”  ผมอึ้ง แต่ก็อดถลึงตาใส่เจ้าชายนาดีลไม่ได้ นี่เขาเอาเรื่องน่าอายของผมไปเล่าให้เพื่อนของเขาฟังด้วยหรือนี่ แต่เจ้าสไลม์บ้านั้นดันทำไม่รู้ไม่ชี้แถมผิวปากอีกแน่ะ โกรธแล้วนะ
   
“แล้วยังไง”  ผมถามราอูลเสียงห้วน ไม่มีการถนอมน้ำใจใดใดทั้งนั้น
   
“ก็คุณสมบัติของเจ้าสาวไงล่ะครับ ตามที่ข้าฟังมาท่านต่อสู้ไม่เก่ง ดังนั้นการบ้านการเรือนน่าจะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ”
   
ชะ!!! พูดอะไรของนายกันวะ เจ้าสไลม์แดงนี่ เอาเหตุผลอะไรมาวัดว่าสู้ไม่เก่งจะต้องเก่งงานบ้าน ผมไม่เก่งงานบ้านทั้งชาตินี้และชาติที่แล้วนั่นแหละ ไม่อยากจะอวดหรอก
   
“ทำอะไรได้บ้างล่ะครับ ปักผ้า ทำอาหาร…” ผมอึกอักเมื่อราอูลเริ่มไล่คุณสมบัติของเจ้าสาว แถมเจ้านาดีลยังจ้องมาตาเป็นประกาย จะกดดันกันหรือไงวะครับ
   
“ข้าทำไม่เป็นทั้งนั้นแหละ ก็ข้าเป็นผู้ชายนี่” ผมบอกไปตามตรง แน่ล่ะจะโกหกทำไม
   
“ทำไม่ได้ก็ต้องหัดทำครับ” ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าถูกราอูลไล่ต้อนให้เดินไปตามทางราวกับทหาร โดยมีเจ้าชายนาดีลกระพรือปีกบินตามมา เสียงผิวปากของนาดีลกวนประสาทผมที่สุดเลย

   “ข้าชื่อมาธาร์ค่ะท่านฟีล่า ข้าเป็นแม่ของราอูล” แม่ของราอูลเป็นสไลม์สีเขียวตัวใหญ่ ผมรู้จากเธอว่าเธอเป็นแม่นมให้เจ้าชายนาดีล
   
“เริ่มจากทำขนมปังกันดีไหมคะท่านฟีล่า” ผมพยักหน้าหงึกหงัก ตอนนี้นี่เองที่ผมได้เห็นการนวดแป้งอย่างน่าอัศจรรย์ของพวกสไลม์
   
“ท่านฟีล่าลองทำบ้างนะคะ” ผมลองนวดแป้งดูบ้าง ไม่ยากอย่างที่คิด แต่แปลกใจว่าทำไม ราอูลถึงได้เริ่มทำด้วยเหมือนกัน
   
“ข้ากลัวท่านคู่หมั้นจะเหงาแค่นั้นล่ะครับ” อ๊ะนี่ผมแค่ใช้สายตาเท่านั้นเองนะ เขารู้ได้ไงอ่ะ ให้ตายสิเป็นพวกประหลาดเหมือนเจ้าชายนาดีลไม่ผิด
   
“เอาล่ะที่นี้ก็จุดเตา” หวานหมูผมล่ะแค่จุดเตาใครก็ทำได้ ผมใช้เวทย์มนต์บทหนึ่งสร้างไฟขึ้นมา มันไปได้ด้วยดีล่ะ แต่มันแย่ตรงที่ว่า เตาทำขนมในโลกนี้ยังเป็นเตาขนมแบบโบราณ ที่ต้องคอยดูอยู่ตลอดเวลาว่าขนมจะสุกเมื่อไหร่ นี่ล่ะ สุดท้ายขนมปังของผมที่ทำออกมาก็ดูเกรียมอย่างเห็นได้ชัด ผิดกันกับของราอูล
   
“น่าเสียดายนะคะ แต่ก็ไม่แย่เท่าที่คิดหรอก” ถึงจะพยายามปลอบใจ แต่เห็นรอยยิ้มเจื่อนๆของมาธาร์ผมก็เข้าใจดีล่ะ แถมราอูลยังพูดไม่รักษาน้ำใจเสียอีก
   
“แหม ท่านคู่หมั้น อย่าบอกนะว่าจะเอาขนมปังนี่ให้เจ้าชายของเรากิน ขืนกินเขาไปได้ท้องเสียพอดี” ผมคอตก ตอนนี้ได้แต่ยืนมองนาดีลกินขนมปังที่ราอูลเป็นคนทำ เจ้าชายบ้ากินไปชมไปว่าขนมปังของราอูลอร่อยอีกต่างหาก

   น้อยใจ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่ก็ห้ามความรู้สึกไม่ได้ ในตอนนั้นผมฉวยโอกาสที่เจ้าชายนาดีลสวาปามขนมที่ราอูลและมาธาร์ทำไม่เลิกปลีกตัวออกมาพร้อมกับขนมปัง
   
“ให้ตายสิ ก็แค่ครั้งแรกเอง ทำไมต้องทำท่าเหมือนข้าเป็นคนไร้ความสามารถขนาดนั้นด้วยนะ” ผมบ่นไปเรื่อย ตอนนี้ผมเดินเตร่ออกมานอกเมือง ไม่มี่พวกทหารยามสไลม์เฝ้าอยู่ คงจะกำลังผลัดเปลี่ยนเวรล่ะมั้ง
   
ผมเดินหาที่เหมาะๆ มองหาที่ที่จะมีนกมากมากเพื่อจะโปรยขนมปัง แต่จู่จู่ผมก็ร่วงลงไปด้านล่างโดยไม่ทันตั้งตัว
เจ็บ เจ็บไปหมดทั้งตัว ผมเงยหน้าขึ้นมองจากหลุมด้านล่าง คงมีนายพรานขุดเพื่อดักสัตว์แน่แน่
   
ผมตัดสินใจจะแปลงร่างเป็นมังกรบินขึ้นจากหลุม แต่แย่แล้ว!! หลุมมันเล็กเกินไปร่างมังกรของผมถ้าจะกางปีกบิน ปีกของผมมันกว้างกว่าหลุมลึกนี่มาก
   
คอตก นี่ผมประสบเคราะห์กรรมเพราะความสะเพร่าของตัวเองอีกแล้วหรือนี่ อยากร้องไห้ แล้วก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ 
   
“บ้า บ้าที่สุด เพราะเจ้าชายสไลม์บ้าๆนั่นแหละ” ผมโวยวาย รู้อยู่ว่าไม่ใช่ความผิดของนาดีล แต่เพราะทั้งกลัว เสียใจ น้อยใจ จึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ไปโทษว่าเป็นความผิดของเขาไป
   
“ ฟีล่า” อา….เขาเจอผมแล้ว ผมหยุดร้องไห้ทันที และทำเมินเฉยเจ้าชายนาดีล แต่จะให้เฉยได้ไงในเมื่อเขาโดดลงมาในหลุม ขยายขนาดแล้วอ้าปากพยายามจะกลืนผมเข้าไปในร่างเหมือนเคย
   
“ไม่ต้องเลยนะ ข้าออกไปเองได้” ผมปฏิเสธเขาด้วยที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญา
   
“โกรธอะไรข้าหรือเปล่าฟีล่า” เจ้าชายนาดีลลดขนาดลงมาจนเท่าลูกฟุตลบอลอีกครั้ง
   
“ข้ามีสิทธิโกรธด้วยหรือไง ในเมื่อเจ้าไม่สนใจข้าอีกแล้วนี่”
   
“ใครบอกว่าข้าไม่สนใจฟีล่ากันฮึ”

   “ก็การกระทำของเจ้าไงล่ะ……” พอผมบอกเขาไปด้วยเสียงเย็นชา นาดีลก็ทำสีหน้าฉงน ผมจึงอดไม่ได้ที่จะบอกความในใจออกไป ทั้งเรื่องแปลกที่เขาไม่เข้ามาคลอเคลียอย่างเคย ทั้งเรื่องที่เขาเอาแต่สนใจท่านแม่และเพื่อนของเขา
ปลอยให้ผมเหงา
   
“อ้า…..นี่ฟีล่าหึงข้าหรือ”
   
“ไม่ได้หึงเฟ้ย” ตอนนี้ผมหน้าแดงไปหมด ไม่รู้ว่าอายหรือว่าโกรธ แต่ผมอนุมานเอาเองว่าผมอยู่ในระยะหวงเพื่อนซึ่งเป็นอาการของเด็กในวัยนี้ก็เป็นได้
   
“ข้าไม่ได้หึงเจ้าซักนิด” แทนคำตอบจู่จู่นาดีลก็กลืนกินผมเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดวูบเดียวออกจากหลุมลึก ว่องไวจนผมคิดอะไรไม่ทัน
   
“ข้าไม่ได้ทำเมินเจ้านะ แต่ข้าเอาเรื่องที่เจ้าหงุดหงิดเสมอเวลาที่ข้าเขาใกล้ไปปรึกษาราอูล เขาก็บอกข้าว่าให้ข้าเว้นระยะห่างแล้วให้ความเป็นส่วนตัวกับเจ้าบ้าง ไม่นึกเลยว่าจะทำให้ฟีล่าเหงา”
   
“ข้าไม่ได้เหงาเสียหน่อย” ผมอ้อมแอ้มตอบไป ยอมรับว่าตอนนี้เริ่มจะเสียใจแล้วที่บอกความในใจออกไปจนหมด ผมได้แต่นิ่งเงียบให้เจ้าชายนาดีลพาร่างผมไปตามทางโดยไม่ต่อต้าน

   “ ฟีล่า….ฟังนะ….” ผมคอยฟังอย่างเงียบๆ รอดูว่าเขาจะพูดอะไร

   “เจ้าอาจจะไม่เชื่อ แต่ข้าหลงรักเจ้าตั้งแต่แรกเห็นแล้วล่ะ แล้วข้าก็เป็นคนรักเดียวใจเดียวเสียด้วยสิ แค่อยากจะบอกเอาไว้ว่าข้าไม่มีวันหมดรักเจ้าง่ายๆแน่ เข้าใจนะ”

   ใบหน้าของผมเห่อร้อน ตลกตรงที่ผมเกิดความรู้สึกนั้นกับเจ้าสไลม์เสียได้ ใครๆก็หน้าแดงทั้งนั้นล่ะถ้าหากว่าถูกสารภาพรักร้อนแรงอย่างนี้
   
ไม่นะ ตอนนี้ผมกลายเป็นหนุ่มประหลาดที่มีรสนิยมประหลาดไปแล้วหรือนี่ ผมพยายามปฏิเสธตัวเองว่าไม่ได้เริ่มชอบเจ้าชายนาดีล แต่ทำอย่างไรได้ล่ะผมไม่สามารถหยุดให้ตัวเองรู้สึกดีกับคำบอกรักของนาดีลได้เลย ให้ตายสิ ผมเป็นอะไรไปแล้ว




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
เราเริ่มจิ้นไปถึง nc แล้วอ่ะ คงหนุบหนับๆน่าดู

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
น่ารัก  สนุก  ตลก
และฟินมาก
ถึงพระเอกจะเป็นสไลม์555
จริงๆเราไม่ชอบอ่านแนวแฟนตาซี
แต่เรื่องนี้บรรยายได้อย่างน่ารัก  ไม่เบื่อเลย
อยากติดตามอยากรู้ไปทุกตอน
อดจะเอ็นดูหนูฟีล่าไม่ได้ 
แอบอยากให้ราชาและราชินีสาธิตวิธีการมีลูกให้ดูจัง
ขำ มาก ฮ่าๆๆ

ปล.อยากให้อัพทุกวันจัง   แอบเหลือบไปเห็นคนเขียนอัพเว็บอื่นไปแล้วหลายตอน
แต่เรายังไม่อ่านหรอกน่ะ  เราจะรออ่านที่นี้   จะได้เม้นท์ให้ทุกตอนเลย ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2016 11:22:20 โดย คนอ่าน »

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่4

   
ปีนี้ผมอายุได้สิบเอ็ดขวบแล้ว หลังจากผ่านช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีที่แล้ว ไม่รู้ทำไมปีนี้ผมเฝ้ารอฤดูไบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงอย่างใจจดใจจ่อ ผมไม่ปฏิเสธว่าผมเฝ้ารอที่จะได้พบกับเจ้าชายนาดีล
   
พวกคุณคงแปลกใจที่ตอนนี้ผมเริ่มชอบเจ้าชายนาดีลขึ้นมาแล้ว ก็แน่ล่ะ ตอนไปอยู่ที่อาณาจักรสไลม์ผมสนุกน่าดูเลย เจ้าชายนาดีลชวนผมทำนู้นทำนี่ไม่ได้หยุด เราเข้าป่า ไปเที่ยวที่น้ำตก ฝึกทำอาหาร เรียนหนังสือ หรือแม้แต่นอนด้วยกัน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมสนิทกับเขาจนเรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันม๊ากมากไปแล้ว
   
จะว่าไปตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะแปลกๆ ผมรู้สึกว่าร่างกลมๆนุ่มๆสีทองมีปีกของนาดีลนั้นช่างน่ารัก นั่นยังรวมไปถึงนิสัยที่บางครั้งก็ช่างแกล้งของเขาอีกด้วยแต่โดยปกติแล้วเจ้าชายนาดีลนั้นมีนิสัยกล้าหาญและเปิดเผยเสียเป็นส่วนใหญ่
   
เมื่อก่อนผมอาจจะไม่ชอบที่เขามาวอแว แต่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว เพราะผมรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดีมากกว่าที่คิด ส่งผลให้ปีนี้ผมเฝ้ารอคอยการมาเยี่ยมเยือนของนาดีลทั้งๆที่ปีก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ และแล้วเวลานั้นก็มาถึง
   
“นาดีล” พอได้เห็นหน้าผมก็เข้าไปกอดเจ้าชายนาดีลก่อนที่เขาจะทำอะไรเสียอีก ตอนนี้เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้างและกำลังหัวเราะชอบอกชอบใจ
   
“แหมคู่หมั้นรักกันดีจริงๆ” ท่านแม่พูดไปยิ้มไป ท่านพ่อเองก็ยิ้มอยู่เช่นกัน แต่ทำไมนะท่านพี่เอียนทำหน้าบึ้งตึงเสียจนผมแปลกใจ
   
“ท่านแม่ให้นาดีลนอนกับข้านะครับ” ผมขอร้องท่านแม่ ก็นั่นแหละนับจากที่ผมรู้สึกว่าเจ้าชายนาดีลน่ารัก ผมก็ค้นพบว่าผมชอบนอนกอดร่างนุ่มนิ่มของเจ้าชายนาดีลมากกว่าที่คิด ที่ค้นพบได้ก็เพราะตอนไปพักที่อาณาจักรสไลม์ผมกับเจ้าชายนาดีลมักจะนอนด้วยกันบ่อยครั้ง
   
“ได้สิจ๊ะลูกรัก” พอท่านพ่อท่านแม่อนุญาตพวกเราก็ดีใจกันยกใหญ่ หลังจากวันนั้นผมกับนาดีลก็ทำตัวติดกันไปเสียทุกที่
   
“หมู่นี้เจ้าเอาแต่ทำตัวติดกับเจ้าชายนาดีลนะน้องพี่” จู่จู่ท่านพี่ก็พูดขึ้นมาระหว่างที่พวกเรานั่งทานกลางวันกันในสวนดอกไม้ของปราสาท
   
“เอ่อ….” ผมรู้สึกอึดอัดที่จะตอบเพราะท่านพี่น่ะสิเล่นใช้สายตาของสัตว์ร้ายจ้องมองมาที่ผม
   
“แหมท่านพี่ก็ข้ากับฟีล่าเป็นคู่หมั้นกัน เราจะสนิทกันมันจะแปลกตรงไหนล่ะ” นาดีลตอบคำถามแทนผมนั่นยิ่งทำให้ใบหน้าของท่านพี่ดูร้ายกาจขึ้นไปอีก
   
“ฟีล่าไหนเจ้าเคยบอกว่าเกลียดที่ต้องเป็นคู่หมั้นของเจ้าหมอนี่ไง”
   
“เอ่อ….คือ…..ข้า…..” ผมไม่สบายใจต่อคำถามและการแสดงออกของท่านพี่เลย อย่างแรกผมไม่เข้าใจว่าท่านพี่โกรธอะไรอยู่แน่ อย่างที่สองผมลำบากใจกับคำพูดทำร้ายจิตใจของท่านพี่ที่อาจจะทำร้ายนาดีล ถึงแม้ว่ามันจะเคยเป็นความคิดจริงๆของผมมาก่อนก็ตาม แต่ทว่าก็ตอนนี้ผมไม่ได้เกลียดนาดีลแล้วนี่นา
   
“ฟีล่าเจ้าเกลียดข้าอย่างนั้นหรือ” เจ้าชายนาดีลหันมาถามผม ให้ตายสิผมลำบากใจชะมัด
   
“ข้าเคยเกลียดเจ้า แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าข้าชอบนิสัยเจ้านะ แล้วข้าก็คิดว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ถึงแม้จะตะขิดตะขวงใจเรื่องที่เราเป็นคู่หมั้นกันอยู่นิดหน่อย”
   
“ทำไมถึงตะขิดตะขวงล่ะ” นาดีลกระพริบตาปริบๆ เอาวะถ้าเขาอยากรู้ผมก็จะตอบ
   
“ก็เจ้าเป็นสไลม์นี่ร่างกายของเจ้าแตกต่างจากข้ามาก แถมเราสองคนยังเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่” ผมชี้แจงให้เขาเห็นกำแพงสูงที่กั้นระหว่างเราให้เจ้าชายนาดีลเข้าใจ ตอนนี้ท่านพี่แสยะยิ้มดูแล้วช่างร้ายกาจ
   
“เอาเถอะถึงเจ้าจะไม่มั่นใจในตัวข้า แต่ข้ามั่นใจว่าจะทำให้ฟีล่ามีความสุขได้ไปทั้งชีวิตนั่นแหละ” ผมยิ้มน้อยๆให้เขา อันที่จริงผมยอมรับเรื่องที่เป็นคู่หมั้นกับเจ้าชายนาดีลได้แล้วนั่นก็เพราะผมค้นพบว่าผมชอบเขามากกว่าที่คิด อีกอย่างเราสองคนถึงเป็นคนละสายพันธ์กันแต่ก็สามารถอยู่ด้วยกันแบบเพื่อนสนิทไปทั้งชีวิตได้ ซึ่งผมได้ตัดสินใจเอาไว้แล้ว
   
“ข้า…ข้าก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับเจ้าในฐานะเพื่อนสนิทไปทั้งชีวิตนี่แหละ” เจ้าชายนาดีลส่งเสียงไม่ชอบใจพร้อมทั้งปริ้นปาก แน่นอนว่าเขาตีฟองปุดๆในร่างโปร่งแสง
   
“เราเป็นคู่หมั้นกัน พอถึงเวลาเราในที่สุดเราจะกลายเป็นสามีภรรยากันต่างหาก ฟีล่าจอมซื่อบื้อ….เอาเป็นว่าท่านพี่คงเห็นแล้วว่าฟีล่าไม่ได้เกลียดข้าอีกต่อไป ท่านเข้าใจแล้วนะ” ท้ายประโยคเจ้าชายนาดีลหันไปพูดกับท่านพี่ ท่านพี่เอียนขบฟันเข้าหากันดังกรอด ผมไม่เคยเห็นท่านพี่เคยโกรธใครขนาดนี้มาก่อน หรือแม้แต่ทำสีหน้าแบบนี้ให้ผมเห็นไม่เคยเลยจริงๆ
   
หลังจากนั้นท่านพี่ก็แปลกๆไป ท่านพี่เอียนคอยหลบหน้าหลบตาผม ทำเอาผมหดหู่ใจเพราะไม่เคยถูกท่านพี่เอียนทำแบบนี้กับผมมาก่อนเลย ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าท่านพี่โกรธอะไรกันแน่
   
“ฟีล่าเป็นอะไรไป” เจ้าชายนาดีลถามผมขณะที่เราทานกลางวันด้วยกัน พอถูกเรียกผมก็พึ่งรู้ตัวว่าผมเอาแต่เหม่อลอย ยอมรับล่ะว่าผมพยายามคิดหาวิธีการคืนดีกับท่านพี่ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าท่านพี่โกรธอะไรอยู่นั่นแหละ
   
“ก็ท่านพี่เอียนนะสิ หมู่นี้ท่านพี่เอาแต่หลบหน้าข้าตลอดเลย” ผมระบายความขัดข้องออกไป
   
“ข้าขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมท่านพี่ของเจ้านี่เป็นพี่ชายแท้ๆหรือเปล่า”
   
“ถามอะไรอย่างนั้น ก็ต้องพี่ชายแท้ๆสิเจ้าบ้า” ผมเอ็ดนาดีลเบาๆ ไม่ได้โกรธอะไรหรอก แต่หงุดหงิดเล็กน้อยกับคำถามที่ดูแปลกๆของอีกฝ่าย
   
“ข้าว่าไม่มีอะไรหรอกมั้งอาจจะหวงเจ้าก็ได้ ก็หมู่นี้ข้ากับเจ้าตัวติดกันตลอดเลยนี่นะ”
   
พอนาดีลพูดขึ้นมาผมก็นึกขึ้นได้ หมู่นี่ผมเอาแต่เล่นสนุกอยู่กับนาดีลจนลืมท่านพี่เอียนไปเสียสนิท ทำไงได้ท่านพี่เอาแต่ฝึกฝนวิชาต่างๆจนเวลาว่างไม่ค่อยมีเลยนี่นะ
   
“อย่างนั้นทำไงดีล่ะ นาดีลช่วยคิดหน่อยสิ”
   
“ถึงข้าจะเหงาเล็กน้อย แต่เจ้าไปเล่นกับพี่ชายเจ้าบ้างก็ได้น้า”
   
“อ้าวแล้วจะไม่ไปด้วยกันหรือ” ผมถาม
   
“ก็ท่านพี่เจ้าเขาไม่ค่อยชอบข้า ข้าว่าเจ้าไปง้อเพียงลำพังจะดีกว่านะ” ผมเริ่มจะเห็นด้วยกับนาดีล ผมเริ่มจะรู้เลาๆว่าท่านพี่ไม่ชอบนาดีลเอามากๆ อาจจะเป็นเพราะคล้อยตามผมที่ผมเคยเกลียดนาดีลก็เป็นได้ แต่ไม่เป็นไรผมจะค่อยๆทำให้ท่านพี่เอียนเป็นมิตรกับนาดีลให้ได้ หากท่านพี่ลองคบหากับเขาดูรับรองว่าท่านพี่ต้องชอบนิสัยนาดีลแน่ๆ
   
ผมรีบวิ่งไปตามหาท่านพี่ ผมถามพวกสาวรับใช้ให้วุ่นวายไปหมด จนรู้ว่าท่านพี่อยู่ที่ลานฝึกอาวุธผมจึงรีบไปที่นั่นทันที
   
เมื่อไปถึงผมเห็นท่านพี่อยู่บริเวณทางเดินใกล้ๆกับหัวมุมกับท่านเสนาบดี ตอนนั้นผมก็มีความคิดดีดีว่าจะแกล้งให้ท่านพี่ตกใจเสียหน่อยจึงย่องเข้าไปบริเวณมุมอับรอจนท่านพี่พูดคุยเสร็จ
   
“ท่านก็รู้ว่าท่านไม่ใช่บุตรชายแท้ๆของราชาและราชินี แต่ท่านก็อย่าลืมสิว่าท่านเป็นถึงบุตรของราชาคนก่อน”
   ผมตกใจกับคำพูดของท่านเสนาบดี ความจริงที่ว่าท่านพี่ไม่ใช่พี่แท้ๆของผมทำเอาผมอึ้งอยู่ไม่น้อย
   
“ท่านรู้ไหมว่าราชาและราชินีวางแผนจะยกบัลลังค์ให้เจ้าชายฟีล่าหลังจากเข้าพิธีวิวากับเจ้าชายสไลม์ที่น่าชังนั่น ท่านคิดดูสินอกจากจะยกบุตรชายให้แต่งงานกับศัตรูยังจะยกบัลลังค์ให้มันครองอีก แล้วตัวท่านล่ะจะเหลืออะไร”
   
ตกใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นึกไม่ถึงว่าท่านพ่อท่านแม่จะวางแผนเอาไว้เช่นนี้ ท่านพี่ยังคงนิ่งเงียบปล่อยให้เสนาบดีพูดต่อไป
   
“ข้าสนับสนุนท่านเสมอนะเจ้าชายเอียน เพราะอย่างไรท่านก็คือหลานข้า เป็นบุตรชายเพียงผู้เดียวที่ลูกของข้าคลอดออกมา ขอเพียงท่านพูดคำเดียวข้าพร้อมจะสนับสนุนท่านในทุกๆทาง”
   
หลังจากพูดจบเสนาบดีก็จากไปโชคดีที่เสนาบดีเดินไปอีกทางไม่ได้เดินมาทางที่ผมหลบอยู่ แต่ท่านพี่นี่สิเดินมาและพบกับผมเข้าพอดี
   
“ฟีล่า”
   
“ท่านพี่”
   
หลังจากนั้นพวกเราสองคนก็พากันมายังห้องนอนของท่านพี่เอียน เราสองคนอยู่ที่ริมระเบียง ที่นั่นสายลมอุ่นพัดมาเป็นระลอก ผมมองดูทัศนียภาพของเมืองที่เห็นได้ชัดจากห้องของท่านพี่เอียน
   
“เจ้าคงได้ยินที่เสนาบดีพูดกับข้าแล้ว”  ไม่นึกว่าท่านพี่จะเปิดประเด็นเร็วแบบนี้ ตอนนี้ผมเป็นกังวลใจอย่างหนักกลัวว่าท่านพี่เอียนจะเปลี่ยนไป
   
“ข้าไม่สนหรอกท่านพี่ ถึงแม้พวกเราจะไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆแต่ข้าจะรักท่านในฐานะพี่ชายแบบนี้ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง” ผมยืนยันด้วยความจริงใจ แต่ไม่รู้ทำไมท่านพี่มีสีหน้าเจ็บปวด ด้วยเกรงว่าท่านพี่จะร้องไห้ผมโถมเข้ากอดรัดท่านพี่ที่ตอนนี้ตัวสูงกว่าผมไปไกลมากเพราะอายุได้สิบห้าปีแล้ว
   
“ท่านพี่เชื่อข้าเถอะ ข้าจะเป็นน้องของท่านตลอดไป และท่านไม่ต้องกังวลข้าไม่มีวันแย่งบัลลังค์อันเป็นสิทธิของท่านพี่ไปอย่างเด็ดขาด”
   
ท่านพี่ไม่พูดอะไรออกมาซักคำทำเอาผมที่กอดเอวเอาไว้ใจเสีย ผมเงยหน้าขึ้นมองท่านพี่ ท่านพี่ทำสีหน้าปวดร้าวหนักยิ่งกว่าเก่า
   
“ทั้งบัลลังค์และตัวเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นของข้า” ท่านพี่ไม่ร้องไห้อีกแล้วแต่ท่านมีสีหน้าดุดันจนผมนึกกลัว ผมไม่ได้ยินว่าท่านพี่พูดว่าอะไร นั่นก็เพราะสายลมหนักที่พัดแรงและเพราะท่านพี่พูดกระซิบเสียงแผ่วราวกับจะสาบานกับตัวเอง


   

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เขินท่านพี่เอียนมาก
นางแอบชอบฟีล่าแน่ๆเลย
จะเกิดรัก 3 เส้าระหว่างคนกับสไลม์ไหมน่ะ 5555
ทำไมถึงเขียนได้สนุก   น่ารัก  ไม่น่าเบื่อแบบนี้*0*
ทั้งๆที่พล็อตแนวเด็กๆมากเลยน่ะ
ถ้าคนเขียนไม่เก่งจริง  เราคงทิ้งไว้กลางทางแน่ๆ
แต่เรื่องสนุกมากๆ
เราจะอ่านไปจนกว่าจะตายกันไปข้าง
ขอบคุณมากๆค่ะที่วันนี้ใจดีลงให้อีกตอน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก็ตะหงิดๆใจ ว่าเอียน กับฟิล่า ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ
เอียน ดูรักฟิล่า เกินน้องจริงๆ
รอ ตอนต่อไป
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่5
   
อีกไม่นานจะมีงานฉลองครบรอบวันเกิดอายุสิบห้าของผม ผู้คนในปราสาทและอาณาจักรพากันวุ่นวายเพื่อเตรียมการอย่างยิ่งใหญ่ อันที่จริงผมไม่อยากให้จัดงานอะไรอย่างนี้ เคยปฏิเสธท่านพ่อท่านแม่ไปทุกปี แต่ก็ไม่สามารถขัดใจพวกท่านได้
   
นอกจากนั้นปีนี้งานฉลองวันเกิดของผมยังมีความสำคัญมากกว่าทุกปี ท่านพ่อท่านแม่เตรียมจะจัดงานอภิเษกให้ผมกับเจ้าชายนาดีล
   
รู้สึกว่ามันเร็วไปหน่อย ไม่สิ ไม่แค่หน่อยแล้วล่ะ ชาติที่แล้วของผมเด็กอายุสิบห้ายังอยู่ในช่วงวัยเรียนอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่ท่านพ่อกับท่านแม่นี่สิไม่รู้จะร้อนใจอะไรนักหนา
   
ตอนแรกผมก็พยายามค้านที่จะจัดงานแต่งงานเร็วแบบนี้ ผมคัดค้านตั้งแต่ปีที่แล้ว เจ้าชายนาดีลก็เหมือนกันแทนที่จะช่วยพูดกันบ้าง เขากลับเอาแต่หัวเราะชอบใจ ไม่มีท่าทีจะหวงแหนอิสระของตัวเองบ้างเลย
   
ให้ตายสิถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขามีใจให้ผม แต่แต่งงานเร็วขนาดนี้ ผมคิดว่าไม่นานเราทั้งคู่อาจจะมีปัญหาชีวิต ประมาณว่าพออยู่ด้วยกันตลอดเวลาจริงๆอาจจะเข้ากันไม่ได้
   
แต่ปัญหามันไม่จบแค่ที่เราสองคนนี่สิ ปัญหาคือถ้าการแต่งงานของเราไม่ราบรื่น ความสัมพันธ์แบบมิตรภาพของเผ่ามังกรกับเผ่าสไลม์ก็จะไม่ราบรื่นไปด้วย คิดๆดูแล้วนี่มันเรื่องใหญ่เชียวล่ะ
   
ที่ผมยอมแต่งงานกับนาดีล อย่างแรกสุดคือเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเผ่า ถึงแม้จะไม่อยากก็เถอะ อย่างที่สองที่ผมยอมแต่งกับเขาต้องยอมรับว่าผมค่อนข้างชอบพอเขามากกว่าที่คิด ชอบในแบบที่เขาเป็นสไลม์นี่แหละ
   
ชอบแบบเป็นคู่หู ชอบแบบเพื่อนสนิท เหมือน ซาโตชิกับปิกาจู ผมคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเจ้าชาย
นาดีลลึกซึ้งกันในรูปแบบนี้แหละ
   
ตามแผนที่ท่านพ่อท่านแม่วางเอาไว้ หลังจากฉลองงานวันเกิดของผมก็จะจัดงานแต่งงานของผมกับเจ้าชายนาดีลในวันถัดไปทันที ถ้าบอกว่าไม่ตื่นเต้นก็ต้องเรียกว่าโกหก
   
แต่งงานนะครับ ถึงจะกับผู้ชายแถมไม่ใช่มนุษย์ด้วยก็เถอะ ตอนนี้ผมสงสัยนะว่าหลังแต่งงาน ผมจะต้องย้ายไปอยู่กับนาดีลที่อาณาจักรสไลม์หรืออยู่ที่อาณาจักรมังกรเหมือนเดิม
   
ผมคิดนะว่าทางที่ดีให้ผมไปอยู่ที่อาณาจักรสไลม์ดีกว่า เพราะถ้าไม่อย่างนั้นผมก็กลัวว่าท่านพ่อท่านแม่จะยก
บัลลังค์ให้กับผม นั่นก็เพราะปัจจุบันทั้งท่านพี่ทั้งผมไม่มีใครอยู่ในตำแหน่งรัชทายาท ดังนั้นบางครั้งเจ้าชายนาดีลจึงบอกผมว่าผมเองก็มีสิทธิที่จะขึ้นครองราชเช่นกัน
   
โถ่ๆๆๆเอาอะไรมาคิดกันนะ จะให้คนที่ไม่ประสาอย่างผมขึ้นครองประเทศ เชื่อเขาเลย ผมทำไม่ได้แน่ๆ ไหนจะงานเอกสารมากมาย ไหนจะประชาชนที่ต้องดูแล ถ้าเลือกได้ผมขอไม่รับภาระจะดีกว่า
   
อีกอย่างท่านพี่เอียนปีนี้อายุได้19 ท่านพี่เอียนนั้นยิ่งเติบโตก็ยิ่งสมบูรณ์พร้อม จนบางครั้งผมอดปลื้มที่มีพี่ชายอย่างท่านพี่เอียนไม่ได้
   
และไม่ว่าจะในทางลับหรือทางแจ้ง ผมก็มักจะสนับสนุนให้ท่านพี่ขึ้นครองราช ผมพยายามชี้ให้ท่านพ่อท่านแม่เห็นเสมอๆว่าท่านพี่นั้นเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นมากกว่าผมด้วยการทำตัวไม่เอาไหน
   
ยกตัวอย่างเช่นเวลาซ้อมการต่อสู้ผมก็เอาแต่โดดบ้างไม่ตั้งใจ เวลาเรียนก็แกล้งตอบคำถามไม่ได้บ้างทำให้ท่านอาจารย์ปวดหัวบ่อยๆ ผลที่ได้ก็ทำให้ท่านพ่อท่านแม่อ่อนอกอ่อนใจไม่น้อย
   
บางครั้งพวกท่านพ่อท่านแม่ก็พูดว่าจะไม่เก่งวิชาป้องกันตัวก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยในวิชาการปกครองควรจะทำให้ดีกว่านี้ นั่นล่ะผมได้แต่อมยิ้ม ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เข้าใจหรืออ่อนด้อยในวิชาการปกครองแต่หลักๆเลยคือผมแกล้งตอบคำถามผิดๆไป ท่านพ่อท่านแม่จะได้ตัดใจเลิกหวังให้ผมครองบัลลังค์คู่กับนาดีลเสียที
   
ตอนนี้ผมเดินอยู่ในปราสาทตามหาท่านพี่เอียน จริงๆก็แค่อยากจะอ้อนท่านพี่บ้างแล้วก็ทวงของขวัญวันเกิดที่ท่านพี่สัญญาว่าจะให้ แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมไม่พลาดแน่ๆ ปีที่แล้วท่านพี่พาผมไปเที่ยวนอกอาณาจักรเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ไม่รู้ว่าปีนี้จะให้อะไร ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะไปเที่ยวที่ไกลแบบปีที่แล้วอีก เพราะท่านพ่อท่านแม่ไม่ค่อยอนุญาตให้ผมออกนอกอาณาจักรเสียเท่าไหร่
   
"ฟีล่า ได้ข่าวจากพวกสาวใช้ว่าตามหาพี่อย่างนั้นหรือ" หลังจากที่ตามหาท่านพี่ไม่พบจนยอมแพ้ จู่จู่ท่านพี่เอียนก็มาหาถึงยังห้องส่วนตัว ผมรีบวิ่งเข้าไปหาท่านพี่ด้วยท่าทางดีใจ
   
"ก็ใช่สิครับ"
   
"ตามหาพี่มีอะไรหรือ"  ผมฉีกยิ้มกว้างกว่าเก่า พลางแบมือยื่นไปตรงหน้าท่านพี่
   
"ของขวัญวันเกิดของข้าล่ะครับ" ท่านพี่หัวเราะเบาๆก่อนจะใช้กำปั้นเคาะกะโหลกผม
   
"เจ็บนะท่านพี่ ตีข้าทำไม" หลังจากเคาะกะโหลกยังไม่พอ ท่านพี่เอียนใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มซ้ายแก้มขวาของผมจนใบหน้าของผมยืดตึงและผิดรูป ให้ตายสิทำไมต้องรุนแรงด้วยนะ
   
"ท่านพี่ พอ พอก่อน" ผมร้องโอดโอยและพยายามบอกให้ท่านพี่ปล่อยมือจากแก้มของผม ในที่สุดท่านพี่ก็ยอมปล่อยมืออย่างอิดออด
   
"ท่านพี่ใจร้าย"  ผมใช้มือทั้งสองข้างลูบแก้มเพื่อบรรเทาอาการเจ็บนิดๆที่เกิดจากการดึงของท่านพี่ ตอนนี้ท่านพี่ยิ้มจนตาหยี ในตอนนั้นจู่จู่ท่านพี่ก็ใช้มือเชยคางผมแล้วจุมพิตเบาๆลงมาที่หน้าผาก
   
"ถ้าอยากได้ของขวัญก็ต้องรอ"
   
"ท่านพี่ ท่านพี่จะไม่บอกหน่อยหรือว่าท่านจะให้อะไรกับข้า" ผมยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่างน้อยๆก็อยากจะรู้ก่อนอ่ะว่าท่านพี่จะให้อะไรกันแน่ ทว่าในตอนนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นที่หน้าห้อง
   
"เข้ามาได้" ผมบอก ไม่รอช้าทหารนายหนึ่งก็เข้ามาในห้องพร้อมกับยื่นสารบางอย่างให้ท่านพี่ ท่านพี่เปิดอ่านมัน แน่ล่ะผมอยากจะรู้ด้วยเหมือนกัน ผมพยายามยืดตัวขึ้นไปให้เท่าๆกันกับท่านพี่
   
"อยากอ่านหรือ" ท่านพี่ถามยิ้มๆก่อนจะยื่นม้วนกระดาษมาให้ผมอ่าน 'เตรียมการพร้อม คืนนี้เป็นเวลานัดของเรา' ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนเอาไว้อย่างนี้ ผมกระพริบตาปริบๆมองท่านพี่ด้วยความสงสัย
   
"ท่านพี่นี่คือจดหมายรักใช่หรือเปล่า" ผมลองหยั่งเชิงถาม เพราะเนื้อหาของจดหมายมันบอกชัดว่านัดแนะให้ท่านพี่ไปทำอะไรบางอย่าง เอาล่ะสิ ท่านพี่อาจจะมีคนรักแอบเอาไว้ก็ได้ ทำไมนะผมไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย ท่านพี่ออกจะหล่อเหลาและฉลาดจะเป็นไปได้ยังไงที่ท่านจะไม่มีคนรักเลยซักคนทั้งที่ถูกผู้หญิงตามห้อมล้อมขนาดนี้
   
"ท่านพี่ อย่าโกหกข้านะท่านมีคนรักแล้วใช่หรือไม่" ท่านพี่หัวเราะน้อยๆให้กับท่าทางที่ออกไปทางคาดคั้นของผม
   
"ถ้าพี่มีคนรักแล้วเจ้าจะทำอย่างไร"
   
"ก็ต้องยินดีด้วยสิครับ บางทีท่านก็ทำให้ข้ากังวลนะเรื่องที่ท่านไม่ชายตาแลสาวๆคนไหนเลย ถึงมันออกจะเร็วเกินไปแต่ข้าก็อยากอุ้มหลานนะท่านพี่" ผมระรื่นสุดๆดีใจกับท่านพี่ที่ท่านมีคนรักเสียที แต่ท่านพี่นี่สิกลับทำหน้านิ่งสายตาของท่านพี่ที่มองมายังผมดูปวดร้าวชอบกล ทำไมนะ ทำไมท่านพี่ถึงทำสายตาแบบนั้น
   
"ท่านพี่เอียน เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ ท่านทำหน้าเหมือนกำลังเจ็บปวด"  ตอนนั้นจู่จู่ท่านพี่ก็คว้ามือของผมขึ้นไปทาบที่บริเวณหัวใจของท่านพี่ ผมงงไปหมดแต่ก็ปล่อยให้ท่านพี่ทำตามใจ
   
"ถ้าบอกว่าข้าเจ็บที่ใจล่ะ"
   
"เอ๊ะ" ผมเอียงคอมองดูท่านพี่ แปลกใจกับคำพูดคำจาที่ดูแปลกไป
   
"ถ้าข้าบอกว่าข้าเจ็บที่ใจเจ้าจะช่วยรักษาเยียวยามันไหม"
   
"แน่นอนสิครับก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา" ผมยิ้มกว้าง ไม่รู้ทำไมวันนี้ท่านพี่มาแปลก แต่รอยยิ้มหยันซึ่งติดจะดูร้ายกาจบนใบหน้าของท่านพี่ทำให้ผมต้องหุบยิ้มด้วยความงง ไม่เข้าใจจริงๆทำไมวันนี้ท่านพี่ดูอารมณ์แปรปรวนไปหมด
   
"หลังจากเฉลิมฉลองวันเกิด เจ้าจะแต่งงานกับเจ้าชายนาดีลสินะ" ผมผงกหัวหงึกหงักให้กับคำถามของท่านพี่
   
"หากว่าอยากเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะ ถ้าเจ้าไม่ชอบเจ้าไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับนาดีลหรอก" ท่านพี่พูดกับผมด้วยสีหน้าอ่อนโยนดังเช่นปกติ อดจะดีใจไม่ได้ล่ะท่านพี่ก็ยังเป็นท่านพี่ยังคงเป็นห่วงผมเช่นเดิม แต่เรื่องแต่งงานกับนาดีลนั้นผมตัดสินใจไปนานแล้ว และไม่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิเสธจะมีผลดีต่อส่วนรวมและตัวผมตรงไหน
   
"ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้ากับนาดีลเราเข้ากันได้ดี" เป็นอีกครั้งที่สีหน้าของท่านพี่เปลี่ยนไปเป็นดุดันดูร้ายกาจ การเปลี่ยนสีหน้าฉับพลันทำให้ผมสะดุ้ง พริบตาเดียวเช่นกันท่านพี่เหมือนจะรู้ว่าผมกลัว ท่านพี่เปลี่ยนสีหน้ากลับมาอ่อนโยนเช่นเดิม
   
"พี่ต้องขอตัวก่อนนะ นี่ใกล้จะได้เวลานัดแล้ว ฟีล่าก็นอนพักผ่อนเสียเถอะ" ท่านพี่บอกลาอย่างกะทันหัน ผมสับสนไปหมด หลังจากที่ท่านพี่ออกจากห้องไปก็ได้แต่ครุ่นคิดหาสาเหตุของสีหน้าที่เอาแต่เปลี่ยนไปมาของท่านพี่กับอาการซึ่งดูไม่ปรกติ


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ดีใจจังเลยค่ะที่มีคนเข้ามาเม้นมากกว่าที่คิด

คุณคนอ่านชมเราจนเราเท้าไม่ติดพื้นแล้วค่ะ55555

คือนิยายเราเรื่องนี้เราเขียนเองยังคิดเลยว่ามีจุดที่น่าเบื่ออยู่หลายจุด

เพราะฉะนั้นจะรีบทยอยเอาลงจนไล่ตอนปัจจุบันที่เอาลงในเว็บอื่นให้ทัน

จะได้ชดเชยตอนที่น่าเบื่อจนเม้นไม่ลงไป55555

กลัวไม่มีคนเม้นค่า :hao5:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
กรี๊ด อยู่ดีๆก็อยากเชียร์พี่เอียน

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่6
   
ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเนื่องจากเสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอก ไม่รอช้าผมรีบลุกจากเตียงเดินตรงไปที่ประตูเพื่อเปิดออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
   
“กรุณากลับเข้าไปในห้องครับท่านฟีล่า” เมื่อผมเปิดประตูออกไปก็พบกับทหารที่ด้านนอกพวกเขาไม่ใช่ทหารธรรมดาแต่เป็นถึงระดับนายกอง ผมรู้ได้จากการแต่งตัวของเขา ผมประหลาดใจอย่างมากที่พวกเขามาเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องและห้ามไม่ให้ไปไหน
   
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ผมถามเสียงแข็งและไม่ยอมทำตามง่ายๆ
   
“กรุณาเข้าไปด้านในเถอะครับท่านฟีล่าอย่าให้พวกเราลำบากใจ” พวกทหารทำหน้าตาขึงขัง แต่เสียงอึกทึกที่ยิ่งนานยิ่งดังต่อเนื่องทำให้ผมไม่ไว้ใจ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจร่ายเวทย์น้ำใส่พวกเขาแล้วฉวยโอกาสวิ่งหนีมา
   
“จับท่านฟีล่าเอาไว้” พวกทหารที่ถูกผมเล่นงานวิ่งไล่ตามไม่ลดละ เมื่อออกมายังทางเดินผมพบว่าพวกทหารของอาณาจักรเรากำลังสู้รบกันเอง เกิดอะไรกันแน่นะ ตอนนี้ผมสับสนไปหมด ในตอนนั้นคนที่ผมนึกถึงเป็นคนแรกคือท่านพี่เอียน ผมพยายามวิ่งตามหาท่านพี่ แต่พวกทหารจำนวนมากก็พยายามไล่จับผม แต่ก็ใช่ว่าจะจับผมได้ง่ายๆ
   
“ล้อมท่านฟีล่าเอาไว้” ตอนนี้ผมถูกพวกทหารล้อมเอาไว้ ผมจนมุมอยู่ที่สวนดอกไม้ของปราสาท ตอนนี้ผมไม่ไว้หน้าใครร่ายทั้งเวทย์น้ำและเวทย์มนต์ทุกอย่างที่ผมเรียนมาโจมตีเข้าใส่เหล่าทหารซึ่งพยายามจะจับผมกลับไปอย่างไม่ลดละ

“เฮ้ยพวกแกระวังอย่าให้ท่านฟีล่าบาดเจ็บนะ” ทหารซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าตะโกนบอก แต่ก็สายไปแล้วดูเหมือนว่าในกลุ่มทหารจะมีพวกที่บันดาลโทสะจากการจู่โจมสะเปะสะปะของผม เขาพุ่งเข้ามาหมายจะจัดการกับผมด้วยดาบ เนื่องจากไม่มีอาวุธ ผมจึงกลายร่างเป็นมังกรแล้วก็จัดการกับพวกที่คิดจะเข้ามาทำร้ายได้อย่างละมุนละม่อม
   
“บ้าเอ๊ยกลายร่างจนได้” หนึ่งในทหารที่ล้อมผมเอาไว้สบถออกมา ตอนนี้ผมกลายร่างแล้วและพร้อมจะจัดการพวกปลาซิวปลาสร้อยที่เข้ามาระรานผมด้วย
   
ผมเป็นมังกรน้ำครับตามปกติ พวกมังกรจะใช้เวทย์มนต์ได้ตามธาตุที่ตัวเองถือกำเนิด จะมีบ้างบางประเภทที่สามารถใช้เวทย์มนต์ธาตุอื่นได้อย่างเก่งกาจ ยกตัวอย่างเช่นท่านพี่เอียน ถึงท่านพี่จะเป็นมังกรไฟแต่ก็สามารถใช้เวทย์มนต์ธาตุอื่นได้คล่อง ตัวผมเองนอกจากธาตุน้ำที่ตัวเองใช้เป็นปกติก็ใช้เวทย์มนต์ธาตุอื่นได้บ้าง
   
แต่ที่ใช้แล้วรุนแรงที่สุดเห็นจะเป็นธาตุน้ำธาตุประจำของผม ดังนั้นผมจึงไม่รอช้า ใช้ร่างมังกรบินขึ้นไปในอากาศ ใช้เวทย์มนต์บทใหญ่สร้างมวลน้ำจำนวนมหาศาลแล้วใช้น้ำโถมเข้าหาพวกทหารจำนวนมากที่กรูกันเข้ามาหมายจะเล่นงานผม
   
“อ๊ากกกกกกกก” เสียงโหยหวนของพวกทหารดังไปทั่ว พวกเขาถูกน้ำซัดและไหลไปตามแรงคลื่นที่บ้าคลั่ง ในตอนนั้นโดยไม่คาดคิดท่านพี่ก็ปรากฏตัวขึ้น
   
“ฟีล่า กลับร่างเดิมเดี๋ยวนี้” ท่านพี่ที่ลอยตัวอยู่เหนือคลื่นยักษ์สั่งผม ด้วยความโล่งใจที่ได้พบหน้าคนที่ไว้วางใจผมหยุดอำนาจเวทย์มนต์ของตัวเองก่อนจะบินเข้าไปหาท่านพี่ในร่างมังกร
   
“ท่านพี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ”
   
“กลับร่างเดิมก่อน” ท่านพี่ยืนยันคำสั่งเดิมด้วยเสียงนุ่มนวล ในที่สุดผมก็ยอมทำตามในที่สุด
   
“ท่านพี่ครับทำไมพวกทหารของพวกเราถึงได้สู้กันเอง” ท่านพี่ไม่ตอบคำ แต่จับมือผมแล้วจูงมือนำไป ผมเดินตามไปอย่างเสียไม่ได้
   
“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นตอบสิครับ” ไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย ท่านพี่เอียนดูแปลกไปกว่าที่เคย การที่ท่านพี่เลือกที่จะไม่พูดทำให้ผมเกิดความไม่ไว้วางใจ ในตอนนั้นนายทหารระดับนายพลซึ่งผมคุ้นหน้าก็เข้ามารายงานบางอย่างกับท่านพี่
   
“ราชาและราชินีอยู่ในที่คุมขังเรียบร้อยแล้วฝ่าบาท” ผมแทบไม่เชื่อหู ผมค่อยๆแหงนหน้ามองดูท่าทีของท่านพี่
   
“ท่านพี่โกหกใช่ไหม” ผมอยากจะให้ท่านพี่ตอบออกมาว่ามันไม่ใช่ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าท่านพี่จะทำเรื่องเลวทรามอย่างการก่อกบฏ
   
“ท่านพี่ครับบอกข้าสิว่ามันไม่จริง” ผมถามเขาอีกครั้ง แต่ท่านพี่กลับไม่สนใจผมท่านพี่ออกคำสั่งกับพวกทหาร
   
“จัดการกับพวกกระด้างกระเดื่องให้หมด ข้ามีธุระกับฟีล่าอีกเดี๋ยวจะตามไป” คำพูดของท่านพี่เป็นเสมือนคำตอบ และผมเริ่มจะอาละวาดไม่เชื่อฟังท่านพี่อีกต่อไป
   
“ท่านพี่ปล่อยข้านะ ข้าจะไปหาท่านพ่อท่านแม่” ผมบอกพร้อมกับพยายามขืนตัวไม่ให้ท่านพี่เอียนลากจูงไปตามทาง แต่ไหนเลยจะสู้แรงของท่านพี่ได้ เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมเชื่อฟังง่ายๆ โดยไม่ทันคาดคิดท่านพี่จัดการร่ายเวทย์มนต์บางอย่างใส่ผม ในตอนนั้นจู่จู่หนังตาผมก็เริ่มหนักใช่แล้วผมสลบไปแทบจะในทันที
   
เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่านอนอยู่บนเตียงและไม่ได้อยู่คนเดียวท่านพี่เองก็อยู่ในห้องด้วย ผมใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองตอบท่านพี่ที่มองมายังผมด้วยแววตาอ่อนโยน
   
“ท่านพี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่”
   
“อีกไม่นานเราจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกัน” เหมือนว่าคำพูดของผมจะแสดงออกทางสีหน้าท่านพี่ลูบหัวผมเบาๆแล้วพูดกับผมด้วยเสียงที่ราวกลับจะปลอบโยน “อย่าตกใจไปนักสิ พี่ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรที่ไหนเจ้าก็น่าจะรู้”
   
“เลวร้ายสิท่านพี่ทำได้อย่างไรท่านก่อกบฏ แล้วท่านพ่อท่านแม่ล่ะ ท่านจะทำอย่างไรกับพวกเขา”
   
“พี่สัญญาว่าจะไม่ฆ่าพวกเขาถ้าเจ้าตกลงจะเป็นราชินีครองอาณาจักรมังกรเคียงข้างพี่”
   
“จะได้อย่างไรท่านพี่ ข้ามีคู่หมั้นแล้ว”
   
“ถอนหมั้นมันจะยากเย็นแค่ไหนกันเชียว” ท่านพี่ส่งยิ้มละมุนละไมมาให้ท่านพี่กุมมือผมแล้วใช้มือลูบเบาๆราวกลับจะปลอบโยน
   
“ท่านพี่คงลืมไปแล้วว่าการแต่งงานของข้ากับเจ้าชายนาดีลเป็นสาระสำคัญในสนธิสัญญาสงบศึก ท่านจะยอมให้แผ่นดินลุกเป็นไฟอย่างนั้นหรือ” ผมพยายามชี้ให้เห็นข้อเท็จจริง ในตอนนี้ดวงตาของท่านพี่วาวโรจน์ประดุจเสียร้าย แล้วท่านพี่ก็หัวเราะออกมาด้วยท่าทางร้ายกาจ
   
“ป่านนี้เจ้านาดีลมันคงตายไปแล้วละมั้ง พี่ส่งกองทัพของพี่ลอบโจมตีมันระหว่างเดินทางมาอยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรมังกร”
   
ราวกับว่าหัวใจของผมได้ล่วงลงไปกองที่พื้นจริงๆ เจ้าชายนาดีล เจ้าชายสไลม์รูปทรงกลมสีทองนุ่มนิ่มกับปีกสีขาวน่ารักน่าชังนั่น เขาถูกจัดการไปแล้วนะหรือ นั่นหมายความว่าผมจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกแล้ว โดยไม่ตั้งใจน้ำตาผมไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้
   
“ท่านพี่ทำได้อย่างไร ท่านฆ่าคู่หมั้นของข้า ไม่เพียงแค่นั้นท่านยังคิดทำลายอาณาจักรเราด้วยหรือ”
   
“รบกับพวกสไลม์ก็ช่างมันปะไร ไหนๆพวกเรากับมันก็ไม่เคยจะอยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว หลังจากเราแต่งงานกัน พี่จะฉวยโอกาสที่พวกมันยังตามหาเจ้านาดีลอยู่บุกโจมตีพวกมันโดยไม่ให้ตั้งตัว”
   
ท่านพี่บ้าไปแล้ว ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้ท่านพี่เลิกความคิดโง่ๆ ที่มากไปกว่านั้นผมไม่เข้าใจอย่างหนักทำไมท่านพี่ถึงยอมเสียทุกอย่างเพื่อที่จะแต่งงานกับผม ท่านพี่รักผมอย่างนั้นหรือ แต่ถึงกระนั้นจะยอมให้ท่านพี่ทำตามใจไม่ได้ ดังนั้นผมตัดสินใจจะจัดการกับท่านพี่ก่อนจะไปช่วยท่านพ่อท่านแม่ ผมวางแผนจะทำให้ท่านพี่สลบแล้วจับท่านพี่เป็นตัวประกัน
   
“อ๊ะ….อะไรกัน” ผมงงไปหมดเมื่อไม่สามารถกลายร่างเป็นมังกรได้ตามที่ใจคิด ท่านพี่เหมือนจะรู้ว่าผมต้องการอะไร ท่านพี่ส่งยิ้มน้อยๆมาให้อย่างสบายอารมณ์
   
“คิดจะกลายร่างเป็นมังกรมันไม่ง่ายนักหรอก”
   
ผมพยายามหาสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะทำให้ผมกลายร่างไม่ได้ แต่คิดจนหัวแทบระเบิดก็ยังไม่เข้าใจ
   
“ท่านพี่ร่ายเวทย์มนต์สาปข้าไว้หรือ”
   
“แหวนแต่งงานของเราไงฟีล่า แหวนต้องสาปนี่ทำให้เจ้าไม่สามารถใช้เวทย์มนต์หรือกลายร่างเป็นมังกรได้” ตอนนี้ผมสังเกตเห็นแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของผมแล้ว ผมพยายามอย่างหนักที่จะถอดมันออกจากนิ้ว
   
“อย่าเสียเวลาเลยฟีล่า มันจะถอดออกได้ก็ต่อเมื่อข้าตายแล้วเท่านั้น หรือไม่ก็ข้าเป็นคนถอดให้เจ้าเองซึ่งมันไม่มีวันนั้นแน่ๆ”
   กล่าวจบท่านพี่ก็ขยับกายเข้าหาผม ท่านพี่คว้าเอาผมเข้าไปกอดรัดก่อนจะประทับจูบลงมาบนหน้าผาก
   
“ข้ารักเจ้านะฟีล่า แม้เจ้าจะไม่เต็มใจแต่อีกไม่นานเราจะสมรักกันอย่างแน่นอน” ท่านพี่หลับตาพริ้มแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหมายจะจุมพิตผมแต่ผมเบือนหน้าหนี ผมรับไม่ได้จริงๆที่เขาทรยศทั้งผมและท่านพ่อท่านแม่ หากจะบอกว่าเขาทำเพราะรักผม มันก็มีอีกตั้งหลายวิธีไม่ใช่หรือ ทำไมไม่บอกรักผมเสียตั้งแต่ก่อนหน้านั้นล่ะ ท่านพี่มีเวลาอยู่ข้างๆผมตั้งมากมาย หากเราสองคนรักกันผมเชื่อว่าท่านพ่อท่านแม่ต้องยอมรับฟัง
   
แต่นี่ท่านกลับจับท่านพ่อท่านแม่ไปขัง นอกจากนั้นยังสั่งฆ่านาดีล ด้วยเหตุผลพวกนี้ทำให้ผมโกรธท่านพี่จนไม่อยากจะมองหน้าด้วยซ้ำ
   
“เจ้าไม่ห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อท่านแม่อย่างนั้นหรือฟีล่า” ผมหันไปมองท่านพี่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ทำไมกันนะทั้งที่ท่านพ่อท่านแม่ก็ดีต่อท่านพี่มาก
   
“ทำไมทั้งที่ท่านพ่อท่านแม่ดีต่อท่านพี่มากขนาดนั้น”
   
“จูบข้าสิฟีล่า” ท่านพี่ยังคงดื้อแพ่ง ในตอนนี้ผมไม่กล้าเสี่ยงขัดขืนเพราะไม่รู้ว่าท่านพี่จะลงมือทำอะไรกับ

ท่านพ่อท่านแม่บ้าง ผมจึงได้ยื่นริมฝีปากขึ้นไปจูบท่านพี่ คิดว่ามันจะจบอย่างง่ายๆในระยะเวลาพริบตา แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ท่านพี่กอดรัดผมแน่นและใช้ปลายลิ้นดุนดันให้ผมเปิดปากก่อนจะสอดปลายสิ้นเข้ามาพัวพันกับลิ้นของผมอย่างจาบจ้วงรุกเร้า
   
“อึก…..อื้อ….” อยากจะผลักท่านพี่ออก ผมหายใจหายคอแทบไม่ทัน ท่านพี่ร้อนแรงและดุดันจนผมตัวสั่นเทา ใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าท่านพี่จะผละจากผม
   
“เจ้าอยากรู้สินะว่าทำไมข้าถึงทำอย่างนี้” ตอนนี้ท่านพี่ทำสีหน้ายโส ผมได้แต่รอคำตอบ
   
“เพราะข้าไม่พอใจที่ท่านพ่อท่านทำสัญญาสงบศึกกับราชาสไลม์ ไอ้เจ้าราชาสไลม์นั่นมันฆ่าพ่อที่แท้จริงของข้า มันฆ่าราชาองค์ก่อนในสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างเผ่ามังกรกับเผ่าสไลม์”
ผมทรุดลงกับพื้น นึกไม่ถึงว่าท่านพี่จะมีความแค้นกับราชามาริก ท่านพ่อท่านแม่ไม่เคยเล่าให้ผมฟัง ผมสับสนไปหมด แต่ก็เริ่มไม่แปลกใจที่ท่านพี่จะจงเกลียดจงชังเจ้าชายนาดีลมากยิ่งกว่าใคร

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่7
   
เป็นเวลาสามวันแล้วนับจากที่ท่านพี่หายหน้าไป ระหว่างนั้นพวกสาวใช้จะนำเสื้อผ้าและอาหารเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ผม ตอนนี้ผมถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในห้องและไม่สามารถรับรู้ข่าวสารด้านนอกได้เลย
   
“ท่านพ่อท่านแม่จะเป็นอย่างไรบ้างนะ” ผมพึมพำกับตัวเอง สามัญสำนึกเตือนผมให้รับรู้ว่าหากยอมเชื่อฟังท่านพี่เอียนท่านพ่อท่านแม่จะปลอดภัย
   
“ต้องยอมแต่งงานกับท่านพี่เอียนจริงๆหรือนี่” พอคิดว่าจะต้องแต่งงานก็อดนึกถึงเจ้าชายนาดีลไม่ได้ ท่านพี่บอกว่าได้ส่งคนไปฆ่าเขา แต่ผมไม่อยากให้เจ้าชายนาดีลตายเลย ยอมรับว่าเสียใจมากและคิดถึงเขาอย่างยิ่ง
   
“เจ้าบ้านาดีลเอ๊ย ทั้งที่คิดว่าจะเก่งกว่านี้แท้ๆ ดันมาพลาดท่าจนได้นะ” ระบายความอัดอั้นด้วยการขว้างหมอนไปยังตู้เสื้อผ้า ไม่ได้ช่วยอะไรนักแต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น
   
“นาดีล” ผมได้แต่เรียกชื่อของเจ้าชายสไลม์ ยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่ผมเดือดร้อนเขามักจะมาช่วยผมได้ทันท่วงทีเสมอ ตอนนี้ก็เหมือนกันผมอยากให้เขามาช่วยผมกับท่านพ่อท่านแม่
   
ทว่าในตอนที่ผมกำลังเศร้าและหมดหนทางดวงตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่ระเบียงห้อง ให้ตายสิผมเห็นมือคน เจ้าคนที่ว่ากำลังปีนป่ายขึ้นมาทางระเบียงแล้วในที่สุดเขาก็กระโดดขึ้นมายืนบนพื้นในส่วนของระเบียงอย่างสง่างาม
   
“แอบเข้ามาได้ยังไงนี่” นั่นคือคำแรกที่ผมถามคนแปลกหน้า “ไม่สิถ้าเข้ามาได้เจ้าก็ต้องออกไปได้สินะ”
   ผมถลาเข้าไปหาเจ้าคนที่ผมอนุมานไว้ว่าน่าจะเป็นโจรแล้วเริ่มต้นทำการค้ากับเขา
   
“นี่ถ้าหากเจ้าพาข้ากับท่านพ่อท่านแม่หนีไปยังอาณาจักรสไลม์ได้ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม” เจ้าโจรเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ท่าทางของเขาดูสับสนก็แน่ล่ะจะมาฉกฉวยสิ่งมีค่าแต่กลับถูกเจ้าของบ้านขอให้พาหนีเสียอย่างนั้น อาจจะเห็นว่าผมคิดสั้น แต่ทำไงได้ผมมีทางเลือกแค่ทางนี้
   
“นี่เจ้าจะบอกว่าไว้ใจคนแปลกหน้าอย่างข้าอย่างนั้นหรือ” เจ้าโจรเปิดปากพูดออกมาเป็นครั้งแรก “แล้วเจ้าว่าจะให้รางวัลอย่างงดงามนี่จะให้อะไรกันล่ะ”
   
เจ้าโจรยกยิ้มยียวน เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้สังเกตใบหน้าเจ้าโจรนี่ชัดๆ หากจะบอกว่าเป็นโจรป่าถ้านับจากการมองดูด้วยตาเปล่าไม่รวมพฤติกรรมคงไม่มีใครคิดว่าเป็นโจรแน่ๆ เพราะรูปลักษณ์ของเจ้าโจรคนนี้ช่างหล่อเหลาเป็นความหล่อเหลาแบบที่หามองไม่ได้ง่ายๆ
   
“เจ้าคงไม่รู้สินะว่าข้าเป็นใคร ข้าคือฟีล่า เจ้าชายอันดับสองของอาณาจักรมังกร ถ้าเจ้าช่วยพาข้าและท่านพ่อท่านแม่ไปหาคู่หมั้นที่อาณาจักรสไลม์ได้แน่นอนว่าคู่หมั้นของข้าต้องตอบแทนเจ้าอย่างเต็มที่แน่”
   
“อ้อ……ที่แท้ก็เจ้าชายฟีล่าคนงามนี่เอง ถึงว่ารูปลักษณ์ช่างงามล้ำเหนือคนทั่วไป” ตอนนี้เจ้าโจรบ้าส่งยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยมาให้ ให้ตายสินี่อย่าบอกนะว่าเจอพวกโจรปล้นสวาท ตอนนี้ผมเริ่มระแวงขึ้นมาแล้ว เพราะเจ้าโจรบ้านี่เริ่มขยับเข้ามาใกล้จนเกินความจำเป็น
   
“นี่เจ้าชาย” เจ้าโจรบ้ากระซิบที่ข้างหูของผม “ไม่ได้ข่าวหรือว่าเจ้าชายนาดีลโดนโจมตีระหว่างการเดินทางจนหายสาบสูญ”
   
ผมหน้าซีดเผือด พยายามปักใจว่าเรื่องที่ท่านพี่บอกนั้นไม่เป็นเรื่องจริง แต่เมื่อได้รับคำยืนยันจากเจ้าโจรก็รู้สึกใจหาย นาดีลนะนาดีล อย่าบอกนะว่าเจ้าตายไปแล้วจริงๆ ผมไม่อยากจะยอมรับความจริงข้อนี้เลย
   
“ข้าเชื่อว่านาดีลจะต้องมีชีวิตอยู่ และข้าจะเดินทางไปหาเขาที่อาณาจักรสไลม์พร้อมกับท่านพ่อท่านแม่ด้วย”
   
“เจ้าพูดถึงขนาดนี้ เจ้ารักเจ้าชายสไลม์นั่นหรือไง”

   “อะ…..อะไรนะ” ถูกล้วงลึกขนาดนี้ผมชักจะประหม่า
   
“ว่าไงล่ะเจ้ารักเจ้าชายสไลม์นั่นหรือไง”
   
“ร…เรื่องนั้น ก็เขาเป็นคู่หมั้นข้าก็….ข้า…” เอ๊ะ ทำไมผมต้องตอบคำถามเจ้าโจรบ้านี่ด้วยนะคิดได้ผมก็ตวัดตาวาวมองขู่ “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
   
“เอาเถอะไม่ตอบก็ไม่เป็นไร ข้าเดาได้จากพฤตอกรรมของเจ้าชายแล้วล่ะ เพราะถ้าเจ้าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเจ้าชายนาดีล เจ้าคงยอมแต่งงานกับราชาเอียนไปแล้วใช่ไหมล่ะ”
   
“เอ๊ะ” ผมทำหน้าตกใจ ไม่เข้าใจว่าเขามารับรู้เรื่องของผมได้อย่างไร
   
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยเจ้าชายน้อย ว่าที่ราชาองค์ใหม่ประกาศไปทั่วว่าจะแต่งงานกับเจ้าหลังจากขึ้นครองบัลลังค์” ตอนนี้ไม่รู้ทำไมเจ้าโจรทำสีหน้าร้ายกาจเหมือนกับไม่พอใจผมขึ้นมาเสียอย่างนั้น
   
“แน่ใจนะว่าเจ้าไม่อยากแต่งงานแล้วขึ้นเป็นราชินีของเผ่า มันดีกว่าจะต้องแต่งงานกับสไลม์ที่ไม่มีแม้แต่ร่างกายของมนุษย์ไม่ใช่หรือ”
   ไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้าโจรบ้านี่ต้องการอะไรกันแน่ ผมเม้มปากเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธ
   
“ข้ากำลังจ้างเจ้าให้พาข้ากับท่านพ่อท่านแม่ไปที่อาณาจักรสไลม์อยู่นะ หากว่าข้าอยากจะแต่งงานกับท่านพี่เอียนเหตุใดข้าจะต้องว่าจ้างเจ้าด้วยล่ะ” ผมตวาดเขาก่อนจะมารู้สึกเสียใจที่หลัง ผมเสียงดังเกินไปตอนนี้นางกำนัลเคาะที่หน้าประตูของผม
   
“ท่านฟีล่าคะเกิดอะไรขึ้น”
   
“ข้าฝันร้าย ไม่ต้องเข้ามานะข้าจะนอนแล้ว” เหมือนว่าพวกเธอจะเชื่อ ผมกับเจ้าโจรเราจ้องตากันอย่างเงียบๆอยู่หลายอึดใจ
   
“ตกลงเจ้าจะช่วยข้าไหม” ผมเริ่มจะท้อใจเสียแล้ว หากไม่มีคนนอกคอยช่วยพาผมไปหาท่านพ่อท่านแม่แล้วพากันหนี ผมที่ถูกผนึกทั้งร่างมังกรและพลังเวทย์เอาไว้จะทำอะไรได้
   
“เจ้าจะให้อะไรเป็นสิ่งมัดจำล่ะ” แทนคำตอบผมถอดสร้อยขอประดับคริสตัลที่เจ้าชายนาดีลให้เป็นของขวัญแก่ผมเมื่อนานมาแล้วให้เจ้าโจร เจ้าโจรผิวปากชอบใจทันที
   
“ของหายากนะ ใครกันหนอที่ให้เจ้าของสิ่งนี้แก่เจ้า”
   
“คู่หมั้นของข้า” ผมตอบเสียงห้วน
   
“คู่หมั้นของเจ้าคงจะรักเจ้าน่าดูสินะ” ผมไม่ตอบคำถามของเจ้าโจร แต่ผมรู้ล่ะว่านาดีลเขารักผมมาก
   
“แล้วนี่เจ้ามีแผนแล้วหรือยัง” ให้ตายสิพอถูกเจ้าโจรสะกิดผมก็นึกขึ้นมาได้ ผมยังไม่มีแผนการใดใดทั้งนั้น และที่แน่ๆผมไม่รู้ว่าท่านพ่อท่านแม่ถูกขังเอาไว้ที่ไหน ตอนนี้หน้าของผมแดงก่ำด้วยความอดสูและอับอายต่อความเขลาของตัวเอง แต่เจ้าโจรบ้านี่กลับหัวเราะ
   
“ไร้เดียงสาจริงๆน้าเจ้าชาย ไม่อยากจะเชื่อว่าข้าจะยอมร่วมมือกับเด็กน้อยที่ไม่ได้เตรียมแผนการอะไรไว้เลย” เจ้าโจรบ้าหัวเราะไม่เลิกทั้งแสยะยิ้มร้าย ตอนนี้ผมอับอายอย่างหนักแต่ก็เถียงไม่ได้เพราะผมไม่ได้คิดแผนการอะไรไว้จริงๆ รู้สึกดีนิดหน่อยที่ถูกต่อว่าแค่คำว่าไร้เดียงสา ไม่ได้ถูกปรามาศด้วยคำที่รุนแรงกว่านั้น
   
“คบเด็กสร้างบ้านจริงจริ๊ง” เจ้าโจรบ้าโลงศีรษะไปมาแล้วทำเสียงจิจ๊ะในปาก
   
“เจ้าจะยอมเสียสละตัวเพื่อท่านพ่อท่านแม่ได้ไหมล่ะ” เจ้าโจรแสยะยิ้มร้าย ผมได้แต่มองดูรอยยิ้มนั้นอย่างหวาดหวั่น
   
ผมนั่งรอการมาของท่านพี่อยู่ในห้อง ตอนนี้เจ้าโจรหลบอยู่ในห้องของผมกินอยู่ด้วยกันมาหนึ่งวันแล้ว  แผนที่เจ้าโจรเป็นคนบอกจะเริ่มก็ต่อเมื่อท่านพี่มาพบกับผมที่ห้องนี้
   
“ฟีล่าพี่เข้าไปนะ” ในที่สุดท่านพี่ก็มา ไม่รอช้าเจ้าโจรรีบเข้าไปหลบที่ใต้เตียงของผม
   
“ท่านพี่” พอท่านพี่เข้ามาผมก็โผเข้ากอดท่านพี่ทันทีแล้วเริ่มบีบน้ำตา
   
“ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่” ท่านพี่ดูลนลานกว่าที่คิด ท่าทางของท่านพี่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยอย่างน้อยท่านพี่ก็ยังมีหัวใจกับเขาบ้าง
   
“ท่านพี่ข้ามาคิดดูแล้วข้าเองก็ไม่ได้รังเกียจท่าน หากท่านสาบานว่าจะรักข้าเพียงผู้เดียวตลอดไปข้าก็พร้อมจะแต่งงานกับท่าน”

   “จริงหรือฟีล่า” ท่านพี่เลิกคิ้วขึ้นดูท่าทางเหมือนไม่เชื่อที่ผมพูด “เจ้ามีข้อแม้อะไรหรือเปล่า”
   ท่านพี่ฉลาดนักผมได้แต่ก้มหน้าปาดน้ำตาแล้วพยักหน้าหงึกหงึก
   
“หากท่านพี่ไม่ว่าอะไรให้ข้าได้พบกับท่านพ่อท่านแม่ซักครั้ง” ตอนนี้ท่านพี่ทำสีหน้าเลื่อนลอยคล้ายจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง มันทำให้ผมลุ้นระทึกกลัวว่าแผนการของผมจะไม่บรรลุผล
   
“เจ้าพูดออกมาแล้วนะว่าจะยอมแต่งงานกับพี่ เจ้าไม่มีสิทธิเปลี่ยนใจอีกแล้วนะ” ผมพยักหน้าหงึกๆ หลังจากนั้นท่านพี่ก็จูงมือผมพาผมไปยังท้องพระโรงซึ่งเคยเป็นที่ว่าราชการของท่านพ่อท่านแม่ ที่นั้นผมได้พบกับท่านพ่อท่านแม่
   
“ไปหาพวกท่านสิ” ท่านพี่บอกผม แต่ตอนนี้ผมตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกเพราะตรงหน้ามีคริสตัลรูปร่างท่านพ่อท่านแม่ตั้งอยู่ตรงกลางท้องพระโรง
   
“อย่าได้ทำหน้าเช่นนั้น ท่านพ่อท่านแม่ร่ายเวทย์มนต์สาปร่างกายให้หลับไปเช่นนี้ ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าท่านพ่อท่านแม่จะตื่นจากการหลับใหลก็ต่อเมื่อท่านอยากจะตื่นเอง ระหว่างนี้ต่อให้ทุบทำลายหรือใช้เวทย์มนต์ใดใดโจมตี พวกท่านก็ไม่มีวันบุบสลาย”
   
พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ตอนนี้ท่านพี่ปล่อยให้ผมอยู่ตามลำพังกับท่านพ่อท่านแม่ที่กลายเป็นหินคริสตัล เมื่ออยู่ตามลำพังผมค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาท่านพ่อท่านแม่
   
“ท่านพ่อท่านแม่ครับข้าจะทำอย่างไรต่อไปดี” ผมเฝ้าแต่ถามคำถามนี้อยู่หลายนาที ผมคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไป ยอมแต่งงานกับท่านพี่หรือ แต่ผมไม่ได้คิดเช่นนั้นกับท่านพี่ นอกจากนั้นท่านพี่ยังลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะทำสงครามกับพวกสไลม์ หากเป็นเช่นนั้นจริงเผ่ามังกรจะลำบากอีกมาก
   
“นาดีลถ้าเจ้าอยู่กับข้าด้วยก็ดีสิ” ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าหากไปที่อาณาจักรสไลม์แล้วจะได้พบกับเจ้าชายนาดีล ถ้ามีเขาอยู่ตอนนี้คงจะช่วยแก้ปัญหาที่ผมคิดไม่ตกได้ดีขึ้น
   
“ว่ายังไง” หลังจากที่ท่านพี่พาผมกลับมาที่ห้องท่านพี่ก็ขอตัวไปสะสางงานต่อดังนั้นตอนนี้ผมจึงยืนคิดว่าจะตอบคำถามเจ้าโจรอย่างไรดี
   
“ตกลงว่าเจ้ายังอยากหนีไปที่อาณาจักรสไลม์อยู่ไหม” เจ้าโจรถามผมอีกครั้งหลังจากผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
   
“อึกอักอย่างนี้คงไม่อยากไปที่อาณาจักรสไลม์แล้วล่ะสิ เจ้าคงอยากแต่งงานกับราชาเอียนมากกว่าสินะ ก็ช่วยไม่ได้นะเขาทั้งหล่อและฉลาดน่าดูเลยนี่”
   
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าโจรนี่ต้องคอยประชดประชัน ตอนนี้ผมเครียดไปหมด เรื่องความปลอดภัยของท่านพ่อท่านแม่ผมวางใจได้เปราะหนึ่ง แต่ถ้าหากผมหนีไปขอความช่วยเหลือจากราชามาริกเผ่ามังกรกับเผ่าสไลม์จะต้องทำสงครามครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
   
“เจ้าว่าท่านพ่อท่านแม่จะอยู่ในสภาพนั้นตลอดไปไหม”
   
“ตามที่เจ้าเล่าให้ฟังก็คงจะอยู่ในสภาพนั้นจนกว่าพวกท่านจะพอใจล่ะมั้ง” เจ้าโจรยักไหล่
   
“เจ้าลองคิดดูแล้วกันแต่ไม่ว่าเจ้าจะเลือกทางไหน สงครามก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี”
   
ผมเห็นด้วยกับเจ้าโจร ผมคิดนะว่าการที่ท่านพ่อท่านแม่ต้องอยู่ในสภาพนั้นอาจเป็นเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับท่านพี่ และการที่ไม่ยอมคืนร่างเดิมนั่นก็เป็นเพราะไม่เห็นด้วยกับการครองบัลลังค์ของท่านพี่ด้วยเช่นกัน
   
อยากพบ อยากพบหน้าเจ้าชายนาดีลอีกครั้งหนึ่ง ถ้าไปที่อาณาจักรสไลม์อาจจะได้พบกันอีกครั้งก็เป็นได้ หากให้เลือกด้วยใจเหนือกว่าเหตุผลแล้วล่ะก็ผมก็อยากที่จะไปยังอาณาจักรสไลม์อีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นค่อยเริ่มคิดต่อไปว่าจะทำอะไรต่อคงยังไม่สายไปกระมั้ง ผมก็ได้แค่ปลอบใจตัวเองอยู่แบบนี้


ออฟไลน์ Minzero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มารอตอนต่อไปปป :katai4: :katai4://ปาดอภัยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด