ตอนที่13
เช้าตรู่ของวันใหม่ก่อนที่จะเดินทางผมกับเจ้าชายนาดีลที่ตอนนี้อยู่ในร่างมนุษย์ เดินลงมายังชั้นล่างของโรงแรมเพื่อที่จะรับประทานอาหารเช้าที่นั่นพวกเราพบกับโรสและพ่อนั่งรออาหารเช้าอยู่
"พี่เดียน่า พี่ดีน" โรสโบกมือหยอยๆ
"มานั่งด้วยกันสิคะ" ผมไม่รอช้าทำตามคำชวนของโรส ผมพาเจ้าชายนาดีลไปร่วมโต๊ะกับโรสและพ่อ
"อรุณสวัสดิ์ครับ" ผมเอ่ยทักพ่อของโรสพอเป็นพิธี คนถูกทักส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้ ให้ตายสิเหมือนเขาไม่เต็มใจจะให้พวกผมมานั่งด้วยอย่างไรชอบกล
"โรสสั่งอะไรไปบ้าง" ผมถาม
"เราสั่งซุปกับขนมปังไปค่ะ" ผมพยักหน้าแล้วคิดว่าเช้าๆอย่างนี้ทานอาหารเบาๆก็ดีเหมือนกันจึงเรียกบริกรมาสั่งอาหารเลียนแบบโรสบ้าง
"ข้าอยากทานเนื้อนะที่รัก" เจ้าชายนาดีลกระซิบบอกผม ผมจึงสั่งอาหารกับบริกรให้เขาเพิ่ม
"ท่านพี่เดียน่าอยู่ในชุดนี้สวยมากเลยค่ะ" ผมยิ้มให้โรส ถึงแม้ว่าลึกๆจะไม่ค่อยชอบนักที่ต้องแต่งตัวแบบนี้แต่ทำอย่างไรได้ก็กำลังปลอมตัวเพื่อหลบหนีอยู่นี่นา
"แล้วตกลงพี่เดียน่ากับพี่ดีนจะเดินทางไปที่ไหนกันคะ" พอถูกล้วงลึกผมก็อดไม่ได้ที่จะลอบส่งสายตาขอความเห็นกับเจ้าชายนาดีล พอเห็นเขาพยักหน้าผมก็บอกออกไปตามตรง
"เราจะเดินทางผ่านชายแดนทางทิศใต้ไปน่ะ" ผมตอบแค่พอให้เข้าใจแต่เลี่ยงตอบสถานที่ที่จะไปจริงๆ
"ถ้าอย่างนั้นเราก็เดินทางไปด้วยกันได้อีกหน่อยสิคะ" โรสที่ค่อนข้างกระตือรือร้นหันไปขอร้องพ่อของเธอ ผมตั้งตัวไม่ติด
"นะคะท่านพ่อท่านพ่อบอกเองนี่นาว่าจะเดินทางไปทางลัดแล้วก็ต้องผ่านชายแดนทางใต้เหมือนกัน"
"ก็ถ้าลูกอย่างให้พวกเขาเดินทางไปกับเราพ่อก็ไม่ว่าอะไรหรอก อีกอย่างต้องตอบแทนบุญคุณที่อุตส่าจ่ายค่าที่พักให้อีกด้วย"
"อย่างนี้ก็ต้องตอบแทนบุญคุณกันไปมาไม่จบไม่สิ้นสิ" จู่ๆเจ้าชายนาดีลก็เอ่ยขึ้นมา ผมชักเห็นด้วยกับเขานะว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่โรสนี่สิมองมาที่พวกเราด้วยสายตาเว้าวอน
เฮ้อ.....ผมได้แต่ถอนหายใจ ผมเข้าใจว่าโรสคงจะเหงาและกลัวที่ต้องไปแต่งงานกับคนแปลกหน้าทั้งที่อายุยังน้อย เอาเถอะเดินทางไปกับโรสด้วยอีกหน่อยก็แล้วกัน
"ถ้าโรสอยากให้พี่กับดีนเดินทางไปด้วยล่ะก็ พี่ก็ขอรบกวนอีกนิดแล้วกัน" โรสยิ้มจนแก้มปริ หลังจากพวกเรารับประทานอาหารเรียบร้อย ทั้งหมดก็เริ่มต้นออกเดินทาง
"พี่เดียน่าคะดูนั่นสิดอกไม้สวยจังเลยนะคะ" ผมได้แต่ยิ้มเพราะตลอดการเดินทางในครั้งนี้โรสดูจะร่าเริงเป็นพิเศษ เธอชี้ชวนให้ผมดูทัศนียภาพและของสวยงามไปตลอดทาง
"อยากลงไปเก็บดอกไม้ตรงนั้นจังเลยค่ะ ถ้าเอาประดับผมพี่เดียน่าคงจะงดงามมากขึ้นแน่ๆ" ผมยิ้มน้อยๆให้กับความต้องการแบบเด็กสาวของโรส นึกไม่ถึงว่าโรสจะขอให้พ่อของเธอหยุดรถแล้วลงไปเก็บดอกไม้จริงๆ
"ท่านพ่อคะช่วยหยุดก่อนได้ไหมคะข้าอยากเก็บดอกไม้ตรงนั้น" ตอนแรกนึกว่าพ่อของโรสจะไม่อนุญาตแต่ก็ยอมหยุดระหว่างทางปล่อยให้ลูกสาวทำตามใจ ก็นะพ่อลูกกันจะตามใจกันแบบนี้ผมก็ไม่แปลกใจ
"ท่านพี่เดียน่าไปด้วยกันนะคะ" ถูกโรสจูงมือแล้วพาไปยังทุ่งดอกไม้ที่พวกเราเดินทางผ่าน อดตามใจโรสไม่ได้เพราะลึกๆแล้วผมเอ็นดูเธออยู่
"ท่านดีนดื่มชาซักนิดไหมครับ" ผมได้ยินคำเชิญชวนจากพ่อของโรสผมหันไปมองดูเจ้าชายนาดีลเมื่อเห็นเขาพยักหน้าแทนคำตอบผมจึงเดินลึกเข้าไปในทุ่งดอกไม้ปล่อยให้ เจ้าชายเผ่าสไลม์นั่งดื่มชากับพ่อของโรส
"พี่เดียน่าคะ ข้าจะทำมงกุฏดอกไม้ให้นะคะ" หลังจากรวบรวมดอกไม้ได้จำนวนมากโรสก็เริ่มลงมือประดิดประดอยนำดอกไม้หลากสีมาทำตามใจต้องการ เมื่อเธอสร้างมงกุฏดอกไม้สำเร็จเธอนำมันมาประดับบนหัวของผม
"ลั๊นลา" โรสฮัมเพลงไปเรื่อยแล้วเริ่มต้นทำมงกุฏดอกไม้อันต่อไป ผมไม่อยากจะขัดใจเธอแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หากชักช้าไม่รีบเดินทางโรสจะเข้าหมู่บ้านถัดไปไม่ถัดค่ำ เธออาจจะต้องนอนกลางดินซึ่งตรงนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอ
"โรส เรารีบกลับไปดีกว่าไหม" โรสยังคงฮัมเพลงเบาๆและทำเป็นไม่สนใจ แต่ไม่นานนักเธอก็ยิ้มเศร้าๆแล้วหยุดการทำมงกุฏดอกไม้
"ขอโทษนะคะพี่เดียน่า"
"ขอโทษทำไม"
"ข้าแค่อยากจะยืดเวลาเดินทางให้นานอีกหน่อย คือข้ากลัวนะค่ะ" ถึงเธอไม่บอกผมก็เดาได้ โรสคงไม่อยากแต่งงานกับลูกชายพ่อค้าที่พ่อแนะนำแน่ๆ คงจะกลัวอนาคตจึงได้พยายามยืดเวลาออกไป
"แต่ว่าข้าควรจะทำใจให้ได้สินะคะ" โรสพยายามยิ้มผมได้แต่ลูบศีรษะเธอไปมาเป็นการปลอบโยน ในตอนนั้นผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองดูเจ้าชายนาดีล
เขาหลับ เจ้าชายนาดีลกำลังนอนหลับ ให้ตายสินี่เขายังนอนไม่พออีกหรือไงนะ ตอนนี้พ่อของโรสเดินตรงเข้ามาหาพวกเรา
"โรสไปกันเถอะ" เมื่อมาถึงพ่อของโรสก็จับมือโรสแล้วลากจูงเหมือนเร่งรีบ ผมตั้งใจจะเดินตามพวกเขาไปทว่าในตอนนั้น ชายแ ปลกหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเรา
"อ้าวให้ตายสิ นี่พวกแกยังอยู่อีกหรือ" ชายแปลกหน้าถามด้วยท่าทางยโส ตอนนี้ผมเริ่มประมวลความคิดอย่างรวดเร็วและเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
"ข้ากับลูกสาวกำลังจะไปขอรับ ท่านเองก็อย่าลืมเงินรางวัลของเรานะขอรับ" คำตอบชัดเจนขึ้นเมื่อได้ฟังบทสนทนาของทั้งคู่ ผมอดส่งสายตาตั้งคำถามไปยังโรสไม่ได้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าเธอรู้เห็นเป็นใจด้วยไหม
"ไปสิลูกพ่ออย่าดื้อ" แทบจะได้รับคำตอบในทันทีโรสมีสีหน้างุนงงอย่างที่สุด
"พ่อคะคนแปลกหน้านี่เป็นใคร"
"อย่าอยากรู้นักเลยน่าไปเร็ว"
พ่อของโรสพยายามดันร่างโรสให้เดินไปตามทาง จังหวะนั้นโรสก็สลัดหลุดจากพ่อของเธอแล้ววิ่งมาหาผม คงจะสงสัยว่าทำไมผมไม่เดินตามไปด้วย แต่ในจังหวะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสายตาของผมกลายเป็นเหมือนภาพเคลื่อนไหวอย่างช้าๆขณะที่โรสวิ่งเข้ามาหาชายแปลกหน้าก็ซัดมีดตรงมาที่ผมเช่นกัน มันรวดเร็วจนผมขยับเข้าหาเธอไม่ทันการ
"โรสหลบไป" ผมพยายามบอกเธอ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้มีดที่ถูกซัดมาจำนวนมากปักเข้าตามร่างกายของเธอจนมิดด้าม และมีดพวกนั้นก็พุ่งผ่านเฉียดร่างผมไปจนผมได้บาดแผลเช่นกัน
"โรส" ผมถลาเข้าไปรับร่างของโรสที่ร่วงไปกองกับพื้น เธอหมดลมหายใจไปแล้วดวงตาคู่สวยของเธอยังคงลืมอยู่บอกชัดว่าเธอตายอย่างกระทันหัน
"โธ่โรส ไม่น่าโง่เลย" พ่อของโรสเริ่มต้นร้องไห้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าเหี้ยมเกรียมของชายแปลกหน้าพ่อของโรสก็วิ่งหนีไปทิ้งผมให้เผชิญหน้ากับศัตรูตามลำพัง
"เอ้าดิ้นรนเสียหน่อยสิ ข้าไม่ชอบฆ่าคนที่ไม่มีทางสู้หรอกนะ" ศัตรูของผมโยนดาบลงมากองตรงหน้า ผมปลายตามองสิ่งนั้น ยอมรับว่ายังอาลัยที่ต้องปล่อยมือจากร่างไร้วิญญาณของโรส แต่ผมก็เก็บดาบที่พื้นขึ้นมา
"ได้ข่าวว่าเจ้าชายถูกผนึกพลังเอาไว้ อย่างนั้นข้าจะสู้กับเจ้าด้วยเชิงดาบล้วนๆก็แล้วกัน"
ตอนนี้ผมกับศัตรูล้วนตั้งท่าพร้อมปะดาบ แทบจะในทันทีฝ่ายตรงข้ามตวัดดาบลงบนแขนของผม เรียกเลือดแรกจากผมได้
"ถามอะไรหน่อยเจ้าคือเจ้าชายฟีล่าใช่ไหม" ศัตรูถามผม ผมอดเหยียดยิ้มเย้ยหยันมันไม่ได้
"เจ้าเล่นงานข้าทั้งที่ไม่แน่ใจนี่นะ" ศัตรูของผมหัวเราะฮาฮาพร้อมกับกระโดดข้ามหัวผมแล้วตวัดดาบย้อนกลับมายังแผ่นหลังที่ไร้การคุ้มกัน ด้วยคาดเอาไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนั้นผมหันกลับแล้วปัดเอาดาบออกได้ทันท่วงที
"แหมถึงจะไม่แน่ใจ แต่สัญชาติญาณมันบอกว่าเจ้าต้องใช่คนที่ข้าตามฆ่าแน่ๆ" กล่าวไปพร้อมกระหน่ำแทงดาบเข้ามามากมายผมพยายามหลบอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่วายได้รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ
เร็ว ผมคิดได้ว่าผู้ชายคนนี้มีความเร็วเหนือกว่าผมมาก เขาไม่น่าจะใช่คนธรรมดา
"เจ้าเป็นชาวมังกรสินะ" ผมถาม
"อา.....เป็นนักฆ่าที่ท่านเสนาบดีเลี้ยงดูมากับมือเลยล่ะ...อุ๊บในเมื่อเจ้ารู้แล้วก็สมควรจะตายได้แล้วนะ" นักฆ่าของคาลอสเข้าโจมตีผมเต็มกำลังด้วยแรงที่มากกว่า เขากระหน่ำฟันลงมาจนผมต้องตั้งรับและเอาแต่หลบ แต่ก็นั้นแหละเล่นโถมเข้าหาขนาดนี้ ผมจึงฉวยจังหวะที่เข้าถลันเข้าหาซัดทรายเข้าใส่ดวงตา
"อ๊ากกกกกก" เจ้านักฆ่าร้องโหนหวนผมไม่รอช้าแทงดาบไปที่มันจนทะลุกลางอก
"ฮ่าๆๆๆๆๆ" คนถูกแทงหัวเราะร่วน ผมได้แต่เดาะลิ้น ลืมไปเลยว่าสำหรับเผ่ามังกรอย่างเราแค่นี้คงไม่ตายง่ายๆ
ตอนนี้ต่อหน้าต่อตาผมเจ้านักฆ่าค่อยๆกลายร่างทีละนิด ผมก้าวเท้าถอยหลังพยายามคิดว่าจะต่อสู้อย่างไร้กับมังกรตัวใหญ่ทั้งที่ตนเองถูกผนึกความสามารถเอาไว้ทั้งหมด
แต่แทบไม่มีใครคาดคิดเจ้าชายนาดีลที่ผมคิดว่าเขาหลับเพราะถูกวางยาก็พุ่งพรวดเข้ามาใช้ดาบที่อยู่บนพื้นตัดคอของเจ้านักฆ่าขณะที่กำลังพยายามกลายร่างขาดสะบั้นในดาบเดียว หัวของเจ้านักฆ่าที่กลายเป็นมังกรไปแล้วกลิ้งขลุกๆมาตรงหน้าของผม ผมมองดูมันด้วยสายตาเย็นชา
สาสมแล้ว ผมไม่มีความเห็นใจมันซักนิด เพราะว่าเจ้านี่เป็นคนฆ่าโรสที่ผมเอ็นดูนักหนา
"ทำไมมาช่วยช้าจัง" ผมถามเจ้าชายนาดีลที่ตอนนี้ส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้
"ข้าขอโทษนะฟีล่า ตอนแรกข้าคิดว่าจะยอมตามน้ำดื่มชาที่สงสัยแล้วค่อยขับพิษออกทางผิวหนัง แต่ว่าจำนวนพิษที่มีมันมากไปหน่อยเลยต้องเสียเวลานาน เจ้าคงจะไม่โกรธข้าสินะ" เจ้าชายนาดีลทำหน้าเศร้าๆ ผมรู้ว่าเขาสำนึกผิดมากแค่ไหน ผมจะโกรธเขาได้อย่างไร ต้องโกรธตัวเองสิที่ทำให้โรสต้องมาผัวพันจนถึงแก่ความตาย
"เป็นความผิดของข้าที่ทำให้โรสต้องมาตาย" ผมกล่าวโทษตัวเองแต่นาดีลเหมือนไม่เห็นด้วย
"จะใช่ได้อย่างไร ข้าไม่เห็นเหตุการณ์ก็จริง แต่คนผิดคือเจ้าพ่อบ้านั่นที่ขายเราต่างหาก"
"แต่ว่านาดีล....ข้า" ขอบตาผมร้อนผ่าว คำพูดต่อมาของผมจุกอยู่ที่อก สะอื้นโดยไร้เสียงจนไม่สามารถกล่าวคำพูดต่อไปได้
"ข้าผิดเองที่ไม่ได้คิดล่วงหน้าหรือเตือนเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้" เจ้าชายนาดีลเข้ามากอดรัดผม
"ข้าควรจะเตือนเจ้าว่าระหว่างหลบหนีเราไม่ควรให้ความสนิทสนมกับใคร"
"ไม่ เจ้าไม่ผิด ข้าต่างหากที่ผิด หลายครั้งที่ข้าควรจะเข้าใจได้ด้วยตัวเอง แต่ข้าก็ยังเอาแต่ทำตัวไร้เดียงสา สุดท้ายเหตุการณ์เลวร้ายก็เกิดขึ้นจนได้"
"ฟีล่า" เจ้าชายนาดีลเชยคางผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบตา เขาโน้มใบหน้าลงมาหมายจะจูบผม เขาคงอยากปลอบโยนแต่ผมไม่มีอารมณ์เช่นนั้นผมจึงเบือนหน้าไม่ยอมรับจูบของเจ้าชายนาดีล
"เราต้องฝังศพให้โรสนะ" ผมบอกเจ้าชายนาดีลแล้วเดินเข้าไปหาศพโรสที่นอนอยู่บนพื้น
"ให้ข้าช่วยเถอะ" นาดีลอาสา ในวันนั้นเราสองคนช่วยกันสร้างหลุมศพให้กับโรสที่จากไปด้วยวัยอันไม่สมควร และตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะตระหนักถึงสถานการณ์ซึ่งน่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆได้หลังจากที่ตนเองนั้นคิดน้อยจนเกินไป
:katai
วันนี้เอามาลงตอนเดียวคะแถมค่อนข้างจะดราม่าอีกต่างหากหวังว่าจะมีคนเม้นเราบ้างน้า5555 กลัวไม่มีคนเม้น
อ๋ออีกนิดค่ะ เรามีข้อความถึงคุณคนอ่าน
เรื่องncก่อนที่คุณคนอ่านจะมาชี้แนะเรา เรามีncอยู่ในใจหลายฉากค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนเขียนncไม่ค่อยเก่ง
และเรื่องนี้เรายังลังเลว่าจะจัดเต็มncดีไหม เพราะเราพยายามเขียนให้มันมุ้มมิ้งไปตลอดทั้งเรื่องกลัวจะไม่เข้ากับเนื้อหา
แต่ก็นั่นแหละพอคุณคนอ่านมากระตุ้นเรา เราก็ปรึกษากับน้องสาวเราอย่างคร่ำเคร่งถึงความเป็นไปได้
คือต้องบอกว่าเราคิดไว้หลายอย่างมาก แต่ก็เขียนออกมาแล้วค่ะ และได้เอาลงที่ธัญวลัยแล้ว ไม่รู้ว่าจะถูกใจคุณคนอ่านหรือเปล่า
ตอนนี้หลักๆคือเราเองยังไม่แน่ใจเลยว่าncอันนี้คนอ่านจะถูกใจกันหรือเปล่า เพราะไม่ใช่ncแบบจัดเต็มอะไร ออกแนวพยายามให้มันเบาๆลงด้วยซ้ำ 555555
อยากให้คุณคนอ่านไปลองอ่านดูแล้วคอมเม้นให้จังเลยค่ะ แต่ถ้าจะรอเราลงเรื่อยๆที่เล้าเป็ดจนถึงตอนนั้นก็ได้นะคะ
ขอบคุณที่ชี้แนะแนวทางค่ะ