บทที่ 25
นมโต vs ก้นใหญ่ !!
“แล้วยังไง ‘ก้น’ กูใหญ่กว่า ‘นม’ มึงละกัน” ผมตอกหน้ายัยนมโตนั่นทันที ไม่พูดพงพูดเพราะมันละ มาหาเรื่องหยามผมขนาดนี้ เดียวเจอไอ้นนท์
“กรี้ดดดดด แก” พอโดนผมสวนใส่ ก็กรี้ดลั่น ดิ้นพะงาบๆชี้นิ้วมาที่ผม ส่วนผมยืนเท้าเอว ยกคิ้วกวนตีนใส่แม่ง
กูพูดเรื่องจริงโว้ย ทำเป็นรับไม่ได้
“เก็บนมสิลิโคนบวมๆของมึงไปซะ ไอ้อิทมันไม่ชายตามองหรอก” ผมว่า แสยะยิ้มเล็กน้อยอย่างเหนือกว่า อย่างไอ้อิทมันจะสนทำไมนมบวมๆแบบนั้น
มันต้องก้นผมนี่
เฮอะ รู้สึกว่าจะภูมิใจที่มีก้นใหญ่ก็วันนี้
“แกรู้ได้ยังไง พี่อิทเขาชอบแบบฉัน ไม่สนใจเกย์ที่แต่งตัวรุ่มร่ามอย่างแกหรอก ไหนที่บอกก้นใหญ่ ฉันไม่เห็นจะใหญ่ตรงไหน” เธอว่า มองผมเหยียดๆตามเคย ไม่วายชี้นิ้วมาที่กางเกงเบอร์ใหญ่ของผม
แหม ไม่รู้จักของดีใต้ร่มผ้าซะแล้ว
“ใหญ่ไม่ใหญ่ ก็ทำไอ้อิทคลั่งได้แล้วกัน” ผมบอก แล้วเอามือลูบก้นอวบๆของผมเป็นท่าทางประกอบ
“แกอย่ามาโกหก พี่อิทไม่บ้าไปหลงก้นเกย์แบบแกได้หรอก” เธอยังคงไม่ยอมเชื่อสิ่งที่ผมพูด พอเธอพูดแบบนั้น ผมเอามือป้องปากร้องโอ้โหในใจทันที
มึงรู้จักมันน้อยไปซะแล้ว นังนมโตเอ๋ย
“หลงไม่หลงกูไม่รู้ แต่ที่รู้ๆมันแทบจะมุดก้นกูเลยนะครับ” อันนี้พูดเรื่องจริง ไม่อิงมโนใดๆทั้งสิ้น ไอ้นนท์เจอกับตัว ไอ้นนท์สัมผัสได้
“อร้ายยยย อีบ้า กูไม่เชื่อมึงหรอก คอยดูนมอย่างกูนี่แหล่ะ จะทำให้พี่อิทหลง จนโงหัวไม่ขึ้น” เธอว่าอย่างมั่นใจ เผลอขึ้นกูมึงกับผมซะงั้น นิสัยจริงโพล่ออกมาละ
“งั้นคืนนี้ลองดูกันไหมหล่ะ ว่าก้นอย่างกู กับนมอย่างมึง ไอ้อิทมันจะเอาหน้าไปซบไว้ที่ไหน” ผมท้าเธอทันที ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าไอ้อิทมันเจอนมบวมๆของยัยนั่นแล้วจะเป็นไง แต่ผมมั่นใจแน่ๆว่าก้นผมชนะชัวร์
มั่นก้นไว้ก่อนหล่ะวะ ใหญ่ขนาดนี้ไม่มีทางแพ้แน่
“ได้ ที่ไหนว่ามา” เธอว่า แล้วยืนกอดอก ท่าทางมั่นอกมั่นใจนั่นทำให้ผมเบ้ปากแรง
“สี่ทุ่มที่ผับ OOR” ผมบอก ผับนี้ผมไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่ แต่ได้ยินว่าผับนี้มีแต่ของดี ผมอยากลองไปหลายครั้งแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสดีเลยทีเดียว
“ถ้าใครแพ้ ต้องทำตามอีกฝ่าย” เธอยื่นข้อเสนอมาให้ผม และผมก็เห็นว่ามันเข้าท่าดี คอยดูนะ ยัยนมโตนี่ผมจะทำให้ลีบจนฝ่อเลยแม่ง
“ตกลง” ผมรับคำท้า
“แกเตรียมตัวแพ้ได้เลย” เธอพูดเสียงเยาะ จนผมนี่เฮอะในลำคอทันที ก่อนเชิดหน้าตอบนางไป
“หึ บอกตัวเองก่อนไหม ระวังหน้าแตกเก็บนมวิ่งกลับบ้านไม่ทันหล่ะ” ผมเย้ยใส่บ้าง ไม่รู้ว่าไปบ้าชอบไอ้อิทได้ยังไง ถึงไม่รู้ว่ามันโรคจิตขนาดไหน แล้วที่ว่ามั่นหน้ามั่นโหนกว่าจะชนะผมอีก
มันยังเร็วไปโว้ย
“คอยดูละกัน อย่างแกกับฉันใครมันจะแน่” ว่าแล้วนางก็เดินชนไหล่ผมเชิดสะบัดตูดจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเพื่อนของนางที่ไม่มีบทสนทนาหรือร่วมวงเลยสักนิด
“เออ คอยดูละกัน” ผมหันหลังตอบเธอไป ก่อนจะเข้าห้องน้ำของตัวเองซะที หลังจากเสียเวลาปะทะคารมย์กับยัยนมโตนั่น ป่านนี้ไอ้เต้เทข้าวผมทิ้งแล้วมั้ง ว่าแล้วผมรีบๆเข้าให้มันเสร็จๆดีกว่า
“มึงไปฉี่หรือไปขี้” พอผมรีบวิ่งมา ดูคำพูดของไอ้เต้ที่ทักผม
“ฉี่โว้ย ดมดูได้” ผมยื่นมือไปให้มันดม แต่โดนมันชี้นิ้วใส่ เตือนกลายๆว่า ถ้ามึงแตะตัวกูเมื่อไหร่ กูโบกมึงแน่ และแน่นอนผมสัมผัสรังสีอัมหิตนั้นได้ ผมจึงรีบหดมือกลับทันที
“กินๆหิวมาก” ผมจึงเปลี่ยนเรื่อง หยิบจานข้าวของตัวเองมาซัดทันทีด้วยความหิวโหย
“สมควร” ไอ้เต้มันแขวะผมอีก ส่วนผมหรอ ได้แต่ยักไหล่ไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว ส่วนไอ้เต้มันกินเสร็จแล้ว เหลือแต่รอผมเท่านั้น ดีหน่อยช่วงบ่ายผมมีเรียนตอนบ่ายครึ่ง ผมดูเวลาแล้ว เหลือตั้งชั่วโมงหนึ่ง ดังนั้นผมไม่รีบๆ
“กลับพร้อมกูมั้ยวันนี้” จู่ๆไอ้เต้ก็ถามขึ้น ผมที่กำลังกินอยู่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมา
“ไม่รู้ว่ะ เดียวดูก่อน เผื่อไอ้อิทมันมารับ” ผมตอบ ก่อนจะชะงักไป เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของไอ้เต้ ผมรู้ว่าแม่งไม่ถูกกันไง
“กลับกับกูก็ได้ ไม่เห็นต้องให้มันมารับ” มันว่า ผมถึงกลับรีบหยิบน้ำแล้วดื่ม ตามข้าวไปทันทีกลัวมันติดคอ ก่อนจะตอบมันไป
“วันหลังละกัน กูสัญญา” ผมบอก พร้อมพยักหน้ารับปากอย่างหนักแน่น พอไอ้เต้เห็นผมพูดแบบนั้นมันถึงกับถอนหายใจ แล้วพยักหน้าส่งๆให้ผม
“เออๆ” มันตอบ แล้วก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ ส่วนผมก็เก็บลายละเอียดในจานให้หมด เพราะผมเรียนหลายชั่วโมง เกิดหิวขึ้นมาจะยุ่งเอา ระหว่างที่เก็บส่วนที่เหลืออยู่ผมก็นึกขึ้นได้ว่าคืนนี้ผมท้ายัยนมโตนั่นไว้นี่หนา
เกือบลืมเลย
“ไอ้เต้!”ผมเรียกมันเสียงดัง จนไอ้เต้สะดุ้งแล้วมองผมตาเขียว
“อะไร กูตกใจหมด เสียงดังเพื่อ” มันด่า หน้าเน่อนี่อารมณ์เสียสุดๆ สงสัยผมไปทำเกมส์ในโทรศัพท์มันสะดุด
“วันนี้กูกลับพร้อมมึงนะ” ผมบอก เปลี่ยนโหมดโคตรเร็วเลยผม
“อะไรของมึงอีก ไหนบอกจะให้ไอ้เวรนั่นมารับไม่ใช่ไง๊” มันสวนผม แต่มีหรือผมจะสะทกสะท้าน ผมมีเรื่องให้ต้องทำนี่หว่า
“กูเปลี่ยนใจแล้ว กูจะให้มึงพาไปซื้อของ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย” ผมบอกเสียงจริงจัง
“มึงก็ให้มันไปเป็นเพื่อนดิ อ่อกูลืมไป แฟนมึงหนิ” ไอ้เต้มันยังคงแขวะและแซะผมกับไอ้อิทไม่เลิก แต่ถ้าผมให้ไอ้อิทไปเพื่อน ผมคงไม่ได้ซื้อของหรอก
ไม่งั้นกูไม่ชวนมึงหรอกโว้ย ไอ้หอก
“จะไปไม่ไป” คราวนี้ผมขึ้นเสียงจริงจังบ้าง บ่งบอกว่ากูไม่เล่นนะครับ กูซีเรียส คืนนี้กูมีภารกิจ
“ซื้อไร” มันถามกลับ เมื่อเห็นน้ำเสียงผม ก็เป็นอันตอบตกลงอ้อมๆว่าจะกลับพร้อมผม
“กางเกง” ผมตอบ
“ซื้อทำไมวะ หรือมันคับอีกแล้ว นั่นไง กูว่าแล้วก้นมึงใหญ่ขึ้น” มันว่าเองเสร็จสรรพ ชี้นิ้วผมขึ้นลงระหว่างหน้าผมกับก้นสุดรักของผมตอนนี้
“เปล่าโว้ย กูอยากได้ใหม่เฉยๆ” แม่งแถไปอีกผม ยังคงไม่ยอมรับตรงๆ ก้นใหญ่รู้แค่ผมคนเดียวก็พอแล้ว
“แถจนก้นถลอกแล้วสัส” อ้าวเสือกรู้อีก
“เออ จะพากูไปเปล่าวะ แม่ง” ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง คืนนี้ชี้เป็นชี้ตายเลยนะเว้ย มึงไม่เข้าใจกูเลยหรือไง
“กูบอกยังว่าไม่ไป” มันบอก
“เวลากูซื้อมึงอย่าห้าม อย่าขัดกูเข้าใจมั้ย” ผมกำชับมันไว้ก่อน ไอ้เต้กับไอ้อิทนิสัยพอๆกันที่ไม่ชอบให้ผมใส่กางเกงฟิตๆจนเห็นรูปร่างสัดส่วน
แต่คืนนี้ผมจะโชว์ไง
เอาแม่งให้ฟิตเปรี๊ยะเลย
“ทำไมวะ” ไอ้เต้ถามอย่างสงสัย มันคงรู้แน่ๆว่าผมจะทำอะไร
“ กูมีศึกต้องประจัน อ้ายนนท์คนนี้จักแพ้ไม่ได้” ผมว่า พร้อมทำท่าประกอบชี้นิ้วตวัดไปมา
“เออ เรื่องของมึง” มันตัดจบง่ายๆ มันคงเอือมกับมุกแป๊กๆของผม หรือรำคาญเกินจะฟังเหตุผลว่าทำไม มันไม่ถามไรอีก ก่อนลุกขึ้นแล้วเอาจานข้าวของมันไปเก็บ ส่วนผมนี่วิ่งตามมันเลยทีเดียว
วาร์ปไปตอนสี่โมงเย็น ไวเหมือนโกหก ไวอย่างหลอกลวง ผมกับไอ้เต้ลากสังขารตัวเองออกจากห้องด้วยใบหน้าอิดโรย หลังจากเข้าเรียนสามชั่วโมงด้วยเนื้อหาโคตรซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ไอ้นนท์ไม่เข้าใจมากๆ
Rrr Rrr
ผมกำลังจะเดินไปขึ้นรถกับไอ้เต้ แรงสั่นโทรศัพท์ของผมก็สะเทือนกระเป๋ากางเกง หลังจากผมปิดเสียงไว้ ผมจึงล้วงขึ้นมา พอจะเดาออกว่าเป็นใคร เพราะแม่งรู้ตารางเรียนผมหมดไง
ติ้ด
“วันนี้ไม่ต้องมารับ กูมีธุระ” พอผมรับผมก็รีบชิงพูดออกไปก่อน
“กลับกี่โมง” ไอ้อิทถามขึ้น ผมจึงลังเลชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะปฏิเสธมันไม่ให้มารับยังไงดี
“สี่ทุ่ม กูมีทำรายงานที่เร่งทำส่งอาจารย์ เสร็จแล้วกูจะโทรบอกมึงเอง” ผมโกหกไป
“อืม ตั้งใจทำงานหล่ะ โทรหากูด้วยนะครับ” มันบอก ไม่ห้ามไม่ซักอะไรเลยเว้ย ทำเอาผมงง ถึงกับไปไม่เป็นเลย ไหนบอกให้ผมโทรหามันอีก
มันพูด ครับ ด้วยโว้ย
“อะ เออ” อึกอักเลยกู
“คิดถึงวะ” มันบ่นงุ้งงิ้งในโทรศัพท์ แต่ประเด็นคือผมได้ยินไง
เกิดอะไรขึ้นกับมัน
“คิดถึงกูบ้างป่ะ” มันถามอีกเหมือนอ้อนหน่อยๆ จนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก มันร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้ อยู่ๆปากแม่งเผยอยิ้มเอง จนไอ้เต้มอง ผมถึงรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว
“ไม่โว้ย แค่นี้แหล่ะ” ผมจึงตัดสายทิ้งทันที แล้วเดินไปขึ้นรถที่ไอ้เต้มันยืนรออยู่ ไอ้เต้มันก็ไม่ได้แซวหรือพูดอะไร พอผมกับมันนั่งประจำที่ มันก็ขับออกไปทันที ส่วนผมก็กำมือถือไว้แน่น ในใจก็แทบจะระเบิด
มึงจะน่ากลัวเกินไปแล้วไอ้เหี้ยอิท!
ขับรถได้ไม่นานไอ้เต้มันพาผมมาห้างที่อยู่ในเมือง พอลงจากรถผมก็เดินนำมันไปตรงไปชั้นเสื้อผ้าของผู้ชายทันที ที่มีหลากหลายสไตค์ หาใส่ได้สำหรับผม
“มึงจะเอาแบบไหน” ไอ้เต้มันถามขึ้นหลังจากผมแวะเข้าร้านขายกางเกงยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งราคามันพอสู้ไหว หรือมันต้องมีของที่ผมอยากได้อยู่ในนั้น ผมถึงแวะเข้าไป
“เอาแบบยืดได้” ผมบอก ไอ้เต้แม่งคิ้วชนกันทันที ผมเห็นดังนั้นผมจึงชี้หน้ามันบอกว่า อย่าขัด บอกมันกลายๆว่า กูถามมึงแค่ตอบเท่านั้น
“ยีนส์หรือผ้านิ่ม” มันถาม แล้วมันก็เดินดูกางเกงและเสื้อไปพร้อมกัน
“เอาแบบผ้าลื่นนิ่มๆ สีดำ” ผมบอกสิ่งที่คิดไว้ จากนั้นไอ้เต้มันก็ไปถามพนักงานให้ผม ส่วนผมก็ยืนรอเป็นคุณชายทันที
“นี่คะ” พนักงานยื่นกางเกงที่ผมรีเควสไปมาให้ ผมรับมาแล้วจับลูบๆคลำๆดู ก่อนกางและลองยืดดูว่ามันสามารถยัดเอาก้นผมเข้าได้หรือเปล่า
“ผมขอลองได้ไหมครับ” ผมถามพนักงาน
“ได้ค่ะ เชิญห้องเลยได้เลยคะ” พนักงานผายมือเชิญผมไปยังห้องลองเสื้อผ้า ไอ้เต้มันก็ไม่สนใจผมอีก มันมัวแต่ดูกางเกงของมันอยู่ ผมจึงหยิบกางเกงแล้วเดินไปห้องลองเสื้อผ้าทันที
พอเข้ามาในห้อง ผมกวาดตามองข้างในรอบๆที่เป็นกระจกสี่ด้าน สะท้อนเงาผมเต็มไปหมด ก่อนเงยมองดูตามเพดานว่ามีกล้องหรือเปล่า เห็นผมเป็นผู้ชายแบบนี้ ผมก็กลัวนะเว้ย เดียวมีคลิปฉาวผมออกไป
เมื่อดูแล้วไม่มีอะไร ผมจึงถอดกางเกงตัวเองออก จนเหลือซับในสีขาวของผม จากนั้นก็หยิบกางเกงผ้าลื่นสีดำขึ้นมา ผมเพิ่งรู้ว่ากางเกงมันเวาด้วย แต่ก็ดี ยิ่งมันเวายิ่งทำให้ก้นผมโดดเด่น
ว่าแล้วผมก็จัดการสวมใส่มันอย่างรวดเร็ว ผ้ามันยืดหยุ่นใส่ง่ายกว่าที่ผมคิด แต่ไฮไลมันอยู่ที่ตรงก้นผมนี่สิ ผมจึงดึงกางเกงขึ้น ครอบรัดก้นอวบของผมเข้าไปในกางเกง
ใส่ได้เว้ย พอดีด้วย
เมื่อยัดก้นผมเข้าไปในกางเกงหมด ผมก็จัดการรูดซิบข้างหน้า ที่มันพอดีกับผมราวกับออกแบบมาเพื่อผมโดยเฉพาะ ก่อนจะมองตัวเองในกระจก
แม่เจ้าโว้ยยยยย
ผมอ้าปากค้าง เกือบแหกปากออกมา ก่อนจะรีบเอามือปิดปาก เมื่อเห็นสภาพตัวเองในกระจก กางเกงที่รัดแน่นกระชับทุกสัดส่วนโดยเฉพาะก้นผมที่งอนโตโดดเด่นเกินใคร แถมกางเกงมันรัดจนเห็นรูปร่างก้นผมชัดเจน ผมลองเอามือจับแล้วบีบดู
อื้อหือออออออ
เต็มไม้เต็มมือ
แค่สัมผัสเบาๆเนื้อก้นผมก็โอบรัดนิ้วผม บวกกับผ้าที่ผมใส่อยู่มันทำให้ก้นผมนิ่มมากกว่าเดิม ผมชักมือออกอย่างตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าก้นผมจะร้ายกาจเพียงนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้อิทมันถึงหลงขนาดนี้ ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างสะใจในความคิดตัวเอง
คืนนี้มึงชนะแน่ไอ้นนท์
ผมจึงถอดกางเกงเอาไว้เหมือนเดิม แล้วใส่ตัวเก่งของผมอย่างรวดเร็ว เดินออกจากห้องลองเสื้อตรงไปหาพนักงานทันที
“ผมเอาตัวนี้ครับ” ผมยื่นกางเกงให้พนักงาน พร้อมกับทำหน้าสะใจพร้อมสำหรับคืนนี้ พนักงานจึงรีบรับกางเกงจากผมแล้วไปห่อใส่ถุงให้ผม
“เชิญชำระเงินทางด้านนี้เลยคะ” พนักงานรีบมาเชิญผมไปเสียเงินให้กับกางเกงที่จะเป็นอาวุธทำร้ายล้างยัยนมโตนั้น
หลังจากเสียเงินให้กับกางเกงราคาเกือบพันไปแล้ว ผมก็กอดมันอย่างหวงแหนและหัวเราะอยู่คนเดียว จนไอ้เต้มันคงทนไม่ไหว ว่าผมเป็นบ้าหรือเปล่า
“มึงคิดจะทำอะไร บอกกูมาเลย” มันหยุดแล้วเท้าเอวถาม หน้ามันโคตรสงสัย จะให้ผมบอกยังไงดีหล่ะ ว่าวันนี้มีศึกดวลก้นกับนม
“กูอยากลองใส่บ้างไม่ได้ไง๊” ผมแถอีกรอบ
“แล้วมึงจะหัวเราะกอดกางเกงแน่นทำไม” ไอ้เต้ มันยอมไม่เชื่อที่ผมแถไป ถ้าบอกตามตรงเดียวมันก็ค้านหัวชนฝา บอกว่าผมไร้สาระอีก
“กูชอบไง กางเกงมันดี” ผมยักคิ้วตอบ ก่อนเสหน้ามองอย่างอื่น แล้วเดินนำมันไปขึ้นรถหลังจากได้ของที่ต้องการ
“เออใช่ดิ เดียวนี้มีความลับกับกู” มันว่าอย่างนอยด์ๆทำหน้าบูด เดินขึ้นรถไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วออกรถไม่คุยกับผมอีก เห็นมันพูดแบบนั้นผมรู้สึกไม่ดีไง
เออ บอกก็ได้ว่ะ
“คืนนี้กูจะไปผับ”
เอี๊ยด
พอบอกไปแล้วแม่งเหยียบเบรกกะทันหันไม่บอกไม่กล่าวกันเลย ไอ้นนท์คนนี้แทบพุ่งออกจากรถ ก่อนจะหันไปด่ามัน แต่พอเห็นหน้ามันแล้ว แม่งหุบปากแทบไม่ทัน
“ไปผับ? กางเกงตัวนี้” มันว่าเสียงนิ่ง ชี้มาที่กางเกงที่ผมกอดอยู่
“อะ เออ” ผมตอบแล้วพยักหน้า ก่อนจะยกมือห้ามมันเมื่อมันกำลังจะอ้าปากด่าผม
“กูมีเหตุผลเว้ย ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งโกรธกู” ผมบอก
“เหตุผลเหี้ยอะไร ถ้าคำตอบมึงไม่มีน้ำหนักพอ กูจะเผามันทิ้งจริงๆไอ้กางเกงเวรนั่น” มันว่าพร้อมจะกระชากกางเกงผมจากอ้อมอก ผมนี่รีบเอี้ยวตัวหลบอย่างสุดกำลัง ปกป้องสุดชีวิต
“มีผู้หญิงมาท้ากู ว่านมกับก้นกูใครจะชนะ” ผมว่าเสียงเริ่มเบาลงเรื่อยๆลอบมองหน้ามันไปด้วย
“ท้าเพื่อ แล้วมึงก็ไปรับคำท้าอะนะ” สงสัยคำตอบผมยิ่งทำให้มันโกรธมากกว่าเดิม
“เออไง กูอยากเอาชนะ มันมาว่ากู ที่สำคัญมันเป็นเด็กไอ้อิทด้วย” คราวนี้ผมหงุดหงิดบ้าง ผมไม่ยอมแพ้นังนมโตนั่นหรอก
“อยากประกาศว่าเป็นแฟนไอ้เหี้ยนั่น” มันแขวะ แล้วออกรถต่อทันที
“เปล่าโว้ย กูจะทำให้ยัยนมโตนั่นรู้ว่า ไอ้อิทมันบ้าก้นมากกว่าบ้านมอย่างมันแค่นั้น” ผมรีบบอก แล้วปฎิเสธส่ายหัวอย่างรวดเร็วกับคำพูดของไอ้เต้ ผมจะไปเปล่าประกาศทำไม
“แค่มึงทำอยู่นี่ก็ประกาศแล้วสัส” มันหันมาด่าผม จากนั้นมันก็ตั้งหน้าขับรถต่อ ส่วนผมจิ๊ปากอย่างขัดใจและไม่ยอมรับ ที่มันพูดแบบนั้น ก่อนเบือนหน้าหันมองข้างนอกนั่งคิดว่าจะทำยังไงกับยัยนมโตคืนนี้ดี
คืนนี้สนุกแน่
พอใกล้ 4 ทุ่มผมเตรียมตัวพร้อมรบเต็มที่ ก้มสำรวจตัวเองว่าพร้อมสำหรับคืนนี้หรือเปล่า ที่ผมเลือกไปที่ผับนั่นเพราะมันไกลจากมอผมมาก และมันสะดวกที่ใครจะจำผมไม่ได้หรือรู้จักผม เป็นอันว่าคืนนี้ผมลืมอายได้เลย
และขอเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำแบบนี้
คืนนี้ไอ้นนท์ต้องชนะ
ผมส่องกระจกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวสีดำมาพันรอบเอว เพื่อปกปิดก้นอันอวบตึงแน่นเปรี้ยะของผมไว้ ก่อนมันจะไปประจันกับยัยนมโตนั่น เสร็จแล้วผมก็ออกจากห้องไปที่ผับตามนัด โดยพกความมั่นใจไปเต็มที่
พอมาถึงผมก็เข้าไปข้างใน สอดส่องหายัยนมโตนั่นทันที เธอน่าจะมารอผมอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะเห็นเธอนั่งอยู่กับเพื่อนที่มาด้วยกันเมื่อวาน วันนี้เธอใส่ชุดรัดติ้วอวดนมอย่างเต็มที่ เธอใส่เกาะอกสีแดงและแหวกร่องนมของเธอ ทำให้เธอดูเซ็กซี่เข้าไปอีก ผมมองผู้ชายที่อยู่รอบๆเธอถึงกับจ้องตาไม่กระพริบ
ทำเอาผมเสียความมั่นใจไปเลยทีเดียว
ผมจึงตบก้นตัวเองเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองอีกครั้ง ผมไม่สนสายตาของผู้ชายที่อยู่ในนี้ ศึกครั้งนี้มันมีผู้ชายเพียงคนเดียวที่จะมาตัดสิน คือไอ้อิทต่างหาก ต่อให้ผู้ชายในนี้ทั้งหมดมองเธอ ถ้าไอ้อิทไม่มองซะอย่าง ผมก็ชนะ แถมสะใจด้วย
นมโตก็เท่านั้น สู้ก้นอย่างผมก็ไม่ได้
ว่าแล้วผมก็เดินฝ่าคนไปหาเธอทันที และเธอเหมือนจะเห็นผมแล้วเช่นกัน ก่อนจะลุกแล้วเดินอาดส่ายนมมาประจันหน้ากับผม
“สารรูปดูไม่ได้เลยนะ” คำทักทายจากเธอหลังจากที่เจอผม แล้วสายเธอก็มองสำรวจเสื้อผ้าผมที่ใส่มาคืนนี้ แล้วหัวเราะเยาะ
“ไม่ต่างกัน” ผมว่า แล้วยกยิ้มขึ้นมามองเธอเหมือนกันที่แทบจะเอานมฟาดหน้าผมอยู่แล้ว
“ไหนพี่อิท” พอโดนผมส่วนใส่เธอก็หน้าตึงแล้วถามหาคนตัดสินทันที ผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาไอ้อิท ไม่นานมันก็รับสายผม
“อยู่ไหน” คำทักทายแรกของมัน หลังจากที่ผมปิดเครื่องตั้งแต่หกโมงเย็น เสียงมันดูขุ่นๆและหงุดหงิดที่ผมปิดเครื่องหนี
“ผับ OOR มารับกูที” ผมบอก ปรายตามองเธอเล็กน้อยอย่างเหนือกว่า
“มึงไปทำอะไร เดียวกูรีบไป รอหน่อย” ไอ้อิทว่าเสร็จมันก็วางสายทันที ผมจึงเก็บมือถือใส่กระเป่ากางเกงไว้เหมือนเดิม แล้วมาประจันหน้ากับเธอต่อ
“เดียวมันมา” ผมบอก
“ใครจะเริ่มก่อน” เธอพูดขึ้นมาหลังจากที่ผมคุยเสร็จ
“เธอก่อนละกัน อยากดูเหมือนกันว่าจะใช้นมอ่อยไอ้อิทยังไง” ผมว่า ต้องให้เกียรติชะนี เอ้ย สตรีก่อน
“หึ คอยดูก็แล้วกัน” เธอบอกกรีดยิ้มที่เต็มไปด้วยลิปสติกแดงมองมาที่ผม
ระหว่างนั่งรอ ใช้เวลาเกือบสิบนาทีกว่าไอ้อิทจะมาถึง ผมรับโทรศัพท์แล้วบอกให้มันเดินเข้ามาข้างใน ส่วนผมก็นั่งรออยู่โต๊ะมุมหนึ่ง เพื่อรอดูว่าหลังจากไอ้อิทมา ยัยนมโตนั่นจะทำอย่างไร
พอเห็นไอ้อิทยัยนมโตนั่นก็เดินเข้าไปหาไอ้อิทอย่างรวดเร็ว ตอนแรกผมเห็นสีหน้าไอ้อิทมันตกใจเล็กน้อยที่มันมองนมของยัยนั่น จนผมเผลอกำแก้วเหล้าแน่น ส่วนยัยนมโตก็เกี่ยวคอไอ้อิทเอาไว้
“พี่อิท เฟิร์นคิดถึงพี่จัง” ว่าแล้วเอานมบดเบียดไอ้อิทไปมา ส่วนไอ้อิทแม่งยืนนิ่งให้ยัยนั้นถูไถอยู่อย่างนั้น และผมเพิ่งรู้ว่ายัยนมโตชื่อเฟิร์นหลังจากนางแทนชื่อตัวเอง
“ปล่อยพี่ก่อนเฟิร์น” ไอ้อิทพยายามเอามือที่เกี่ยวคอของมันออก แต่ยัยนมโตนั่นไม่ยอมเปลี่ยนเอามือไอ้อิทมาจับนมของเธอแทน พอผมเห็นดังนั้น
ผมนี่ลุกขึ้นเลย
“เฟิร์น!” ไอ้อิทมันทำหน้าตกใจ แล้วมองซ้ายมองขวาอย่างรนๆ คิดว่าผมจะมาเห็น พยายามเอามืออกจากยัยนมโตนั่น แต่ยัยนั่นกับจับมือไอ้อิทแนบชิดนมนางไปอีก
แต่ที่แน่ๆ กูเห็นแล้วโว้ย
“เฟิร์นรู้ว่าพี่อิทชอบ ตอนนั้นยังจับและขย้ำจนช้ำหมดเลย” ยัยนมโตว่าเสียงดัง จนคนที่อยู่ใกล้หันมามอง และคนจะเริ่มมุงดูเป็นบางส่วน นึกว่ามีคนมาล้วงกันกลางผับ ส่วนผมที่ลุกขึ้นอยู่แล้ว ยืนกำแก้วเหล้าแน่น อยากจะปาใส่หัวมันทั้งสองจริงๆ
“เฟิร์นปล่อยพี่ก่อน” ไอ้อิทมันยังคงทำเหมือนสุภาพบุรุษ พูดดีๆไม่กระโชกหรือกระชากยัยนั่นออก งั้นแสดงว่ามันเห็นนมดีกว่าก้นผมหรอ
มึงกล้ามากไอ้อิท
จากนั้นนางก็ก้มไปกระซิบอะไรไม่รู้กับไอ้อิท ต่อมาไอ้อิทมันก็พูดขึ้นมาจนยัยนมโตฟังแล้วหน้าบาน ก่อนจะหันมายิ้มอย่างสะใจใส่ผม และมันก็ดังพอที่ทำให้ผมได้ยินด้วย
“พี่ต้องชอบนมมากกว่าอยู่แล้ว”
ไอ้เหี้ยอิท มึงตายแน่!!!
จะทยอยๆลงให้นะ