ตอนที่ 6
เขาเป็นอะไรกัน
เคยได้ยินมาว่า สิ่งที่เราไม่สามารถเรียกคืนได้มีแค่ 3 อย่างในชีวิต
นั่นคือ เวลา คำพูด และ ความรู้สึก ต่อให้อยากจะได้มันคืนกลับมาเพื่อย้อนไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ ผมโคตรจะเข้าใจมันเลย
นี่ถ้ามีไทม์แมชชีนจริงๆบนโลกนี้ก็ดีน่ะสิ
ผมอยากจะโกรธไอ้ว่านมากที่มันไม่ยอมส่งซิกอะไรบอกผมสักนิดว่าบุคคลที่สามที่เรากล่าวถึงได้มายืนอยู่ด้านหลัง แต่ดูจากหน้าตาเอ๋อๆของมันแล้วก็พอเดาออกว่ามันคงสติหลุดคิดไม่ทัน
สุดท้ายก็เลยต้องปล่อยไปให้เหมือนกับเวลาที่เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว จนตอนนี้เจ้าของความสูงที่มากกว่าผมถึง 20 เซนฯมาทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างตัวผมโดยไม่มีใครเชื้อเชิญ
“เดี๋ยวผมรอตรงนี้แล้วกัน โรมไปสั่งเถอะ” คุณชายผิวขาวราวอาบน้ำด้วยโอโม่พยักหน้ารับแล้วเดินไปยังหน้าเค้าท์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม
ความเงียบกินพื้นที่ในโต๊ะที่ผมนั่งหลังจากโรมเดินผ่านไปไม่เกิน 10 วินาที ไอ้ว่านชิงตัดปัญหาด้วยการหยิบไอโฟนของมันขึ้นมาเล่น ส่วนผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยหันหน้าเอานิ้วถูกำแพงแม่งเลย
“หาหวยหรือไง”
“......” กูไม่ตอบซะอย่าง แต่เลิกขัดกำแพงชาวบ้านเปลี่ยนเป็นแงะปูนที่จะหลุดเล่นแทน
“ยังไม่ได้กินข้าวหรอ ถึงแคะปูนมาแดก”
“......” ผมหยุดการกระทำตรงหน้าแล้วหันไปค้อนอีกคนทันที แต่พอโรมเดินกลับมานั่งลงข้างไอ้ว่านซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไอ้หล่อเดือนมหา’ลัยคนที่กุมหัวใจผมเอาไว้ในกำมือ มันก็เลิกสนใจที่จะแกล้งผมแล้วหันไปหาโรมทันที เล่นเอาผมอารมณ์ดิ่งวูบเหมือนตกลงจากที่สูง พอเขาเลิกสนใจตัวเอง
“สั่งเสร็จแล้วหรอ”
“อืม...ผมสั่งโอริโอ้ปั่นมาให้คุณด้วย”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วยูไปไหนต่อหรือเปล่า” สุภาพชนคนเดียวในโต๊ะหันมาถามผมบ้าง ทำให้ผมยิ้มให้อีกฝ่ายกลับไป
“เดี๋ยวมีเรียนต่อตอนบ่ายสามน่ะ”
“อืม ผมก็มีเรียนตอนบ่ายสองครึ่ง แล้วนี่....”
“อ่อ ลืมแนะนำไปเลย นี่ว่าน เพื่อนเราเรียนอยู่ศึกษาศาสตร์” ไอ้ว่านเงยหน้าขึ้นมาจากไอโฟนของตัวเองก่อนจะส่งยิ้มให้คนรอบโต๊ะ
“คนที่หอบดอกไม้ช่อใหญ่ๆมาให้ตอนประกวดเดือนนี่ ขอบใจนะเพื่อน เพราะมึงเลยทำให้กูได้ป็อบปูล่าโหวต” แทบอ้าปากค้างกับความสถุนของแทนคุณที่ส่งไปทักทายไอ้ว่านเพื่อนผม ทั้งที่อยู่ต่อหน้าโรม
“อ่อ นั่นน่ะไม่ใช่ของกูหรอก ของมันน่ะ” มันที่ว่า คือการส่งสายตามาให้ผมที่นั่งตรงข้ามคนพูด เล่นเอาทั้งโรมและแทนคุณหันมามองทางผม
“หืม...จริงหรอนี่”
“แสดงว่ายูชอบคุณมากๆเลยนะนั่น”
“มะ...ไม่ใช่” ผมรีบละล่ำละลักตอบ แต่เสียงที่ออกมาดันติดขัดอย่างกับคนติดอ่าง
“อย่างนี้ต้องให้บัตรคิวในการจีบแบบระดับวีไอพีแล้วล่ะ”
“ไปกันใหญ่แล้ว เพราะมึงเลยเชี่ยว่าน” ผมรีบแก้ตัว พร้อมหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนตัวเอง ซึ่งไอ้ว่านแค่ยักไหล่ไอด้อนแคร์ แล้วหันไปสไลด์มือถือต่อ พอจะอ้าปากพูดต่อ เสียงคนมาใหม่ก็ดังแทรกขึ้นมา
“นมปั่นหวานน้อยกับโอริโอ้ปั่นครับ” เครื่องดื่มที่โรมสั่งไว้มาวางลงตรงหน้า ก่อนพี่เจ้าของร้านที่เดินมาเสิร์ฟจะเดินจากไป
“ได้แล้ว ไปกันเลยมั้ย”
“อืม ไปเลยก็ได้ ยูจะไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปกับว่านน่ะ” ผมว่าแล้วหันไปมองไอ้ว่านที่เงยหน้าขึ้นมาจากไอโฟนแว่บนึง แล้วก็ฉีกยิ้มแหยๆให้ผม
“กูไปส่งมึงไม่ได้แล้ว”
“อ้าว ไมวะ”
“ก็เนี่ย พี่เต้ไลน์มาหากู จะให้ไปซ้อมกับวงแก ที่กูเคยบอกไง เห็นว่าจะให้ลองเล่นจริงวันเสาร์นี้แต่ไปซ้อมให้ชินก่อน” ผมพยักหน้ารับเออออ แต่ตาก็พยายามจับผิดว่ามันโกหกเพื่อจะทิ้งผมหรือเปล่า
“งั้น ยูไปด้วยกันสิ เดี๋ยวให้คุณไปส่งที่คณะ” ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่ไอ้ว่านตัวดีก็ชิงตัดหน้าผมก่อน
“ดีเลยๆ เราฝากเพื่อนเราด้วย ขอบคุณมาก” ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้ว่านที่มันก็ยังคงเหมือนเดิมคือไม่ใยดี
“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวโรมจะเข้าคลาสช้า” จบคำพูดของแทนคุณ ร่างสูงก็ลุกขึ้นจากโต๊ะก่อน ตามด้วยโรมที่หันไปส่งยิ้มให้ว่านที่กำลังโบกมือบ๊ายบายให้พร้อมยิ้มตาปิด
“มึงกำลังเล่นเชี่ยไรเนี้ยว่าน” ผมกระซิบกระซาบรอดไรฟันเมื่อโรมเดินพ้นโต๊ะไป
“ป่าวนิ กูไม่ได้เล่น แต่กูกำลังให้มึงเอาจริง ไหนๆ ไอ้แทนคุณมันก็บอกให้มึงจีบแล้วนี่”
“เขาพูดเล่นเฉยๆมั้ย”
“ก็เพราะมึงคิดแต่แบบนี้ไง มันถึงย่ำอยู่กับที่” ไอ้ว่านรีบตอบกลับก่อนมันจะวางไอโฟนลงหลังจากที่มันพิมพ์อะไรจึ่กๆลงไป
“กูไม่รู้หรอกนะว่า หวานใจมึงน่ะมันกำลังเล่นอะไร แต่ในเมื่อเขาทอดสะพานมาให้มึงขนาดนี้แล้ว ก็ลองดูไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
“แต่กู....”
“เชี่ยยู กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงจะจีบมันติดหรือไม่ติด แต่อย่างน้อยมึงก็ได้โอกาสนั้นมาแล้ว มันก็ดีกว่ามึงทิ้งโอกาสนั้นไปไม่ใช่หรอวะ”
“..........”
“ถ้าสุดท้ายแล้ว มันมีแต่ทำให้มึงแย่ลงก็แค่ถอยมา กูยินดีเป็นส้วมให้มึงขี้ใส่” ไอ้ว่านว่าพร้อมกับตบลงมาที่แขนผมเบาๆ
“ไปเถอะ แม่งหันมามองมึงตาเขียวละ”
“เออ.....ขอบคุณนะเชี่ยว่าน” มันแค่ส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะโบกมือไล่ใส่ผมอย่างกับไล่หมา
แทนคุณวนรถอ้อมมหา’ลัยมาส่งโรมที่คณะเภสัชฯก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่าโรมมีเรียนก่อนผม ซึ่งมันไม่ได้ทำให้โรมเข้าคลาสสายเลยสักนิดถ้าพ่อเดือนมหา’ลัยจะไปส่งผมก่อน ทั้งที่คณะของผมอยู่ไกลจากหลังมอไม่เท่าไหร่
“ตอนเย็นให้ผมมารับไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมให้เพื่อนไปส่ง” โรมบอกแค่นั้นก่อนจะเปิดประตูลงจากรถของแทนคุณไป ส่วนเจ้าของรถก็มองตามเพื่อนตัวเองที่เดินเข้าตึกไปจนลับสายตา
ผมมองภาพนั้นตรงหน้าพร้อมกับความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัว ผมจับเค้าลางของความสัมพันธ์นี้ได้ เป็นเพราะสายตาของแทนคุณที่มองตามหลังของโรมไป มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ส่งโรมหน้าห้างแล้ว สายตาแห่งความห่วงใย หลงใหล
หัวใจผมปวดหนึบ แต่ผมก็เฝ้าหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร
แค่ได้รักผมก็มีความสุขแล้ว
บางที สิ่งที่ไอ้ว่านมันพูดอาจจะถูก ถ้าผมได้ลองทำสิ่งที่หัวใจสั่ง มากกว่ามัวแต่กังวลถึงความผิดหวัง ตะกอนที่เกาะอยู่ก้นบึ้งลึกๆของจิตใจ มันอาจจะกวนขึ้นมาให้ผมว้าวุ่นก็จริง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อผมสลัดคราบตะกอนเหล่านั้นทิ้งได้ ผมจะไม่รู้สึกกับมันอีก มันจะเป็นแค่เพียง เศษเสี้ยวของความทรงจำเท่านั้น
เอาล่ะ ดราม่ากับตัวเองเล็กน้อยแล้วผมก็ตั้งใจแล้วว่า....
“ยู....มึง......มึงอะ”
“ห๊ะ!” ผมสลัดตัวเองออกจากห้วงความคิด พร้อมกับมองหน้าคนเรียก ที่เริ่มแสดงออกถึงความสถุนให้ผมเห็น
“กูเรียกตั้งนาน นึกว่าหลับในตายไปแล้ว”
“ปากเสีย” ผมตอกกลับอย่างลืมตัว ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ แล้วมองอีกฝ่ายนิ่งๆ
“ย้ายก้นมานั่งข้างหน้าได้แล้ว กูไม่ใช่สารถี” ผมเบ้ปากกรอกตามองบนเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูลงจากที่นั่งด้านหลังแล้วย้ายไปนั่งข้างคนขับ
ช่วยบอกทีเถอะว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของแทนคุณ ไอ้ภาพลักษณ์สุภาพบุรุษจุฑาเทพที่เห็นบนโลกอินเตอร์เนตนี่คือสร้างภาพทั้งนั้นใช่มั้ย ตอบ!
รถยุโรปสีขาวสัญลักษณ์สี่ห่วงของแทนคุณมาจอดเทียบที่หน้าตึกคณะของผมเรียบร้อยด้วยความเร็ว 40 กม. ต่อ ชั่วโมง ในเวลาไม่ถึง 10 นาที
“ขอบคุณที่มาส่ง”
“อือ”
อีกฝ่ายรับคำในลำคอ แต่ไม่ได้หันมามองอะไรผมเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ส่วนผมกำลังปลดเบลท์ออกจากตัวเพื่อเตรียมลงจากรถ แต่ทันทีที่มือแตะประตูเตรียมเปิด อีกฝ่ายก็รั้งแขนผมไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน” แทนคุณพูดออกมาพร้อมกับละมือออกจากแขนผมแล้วหยิบเอาไอโฟนของตัวเองมาส่งให้ผมแทน
“อะไร”
“เมมเบอร์กับไลน์มึงให้ด้วย” ผมขมวดคิ้วมุ่นแต่ยังไม่รับมือถือที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ เจ้าตัวถึงได้จิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วจับยัดใส่มือผมแทน
“ให้ว่องครับ อย่าลีลา” ผมอ้าปากหวอ ก่อนจะงับปากเมื่อสมองประมวลผล แล้วก้มลงมองไอโฟนในมือตัวเอง
แต่คุณรู้ไหม พอผมกดปุ่มเพื่อที่จะสไลด์หน้าจอปลดล็อก ภาพสกรีนวอลล์ของไอโฟนในมือผมมันขึ้นเป็นภาพของคุณและโรมที่ถ่ายคู่กัน ในภาพเหมือนโรมถูกบังคับให้ถ่ายรูป ที่เป็นฝีมือเซลฟี่ของเจ้าของเครื่อง หน้าโรมมีความเหวและ ตาตี่นั้นโตขึ้นด้วยความตกใจเพียงเพราะว่า ถูกใครอีกคนหอมแก้ม
ภาพที่เห็นนั้นทำให้ผมกลานเป็นคนที่ลืมวิธีหายใจ
หลังจากเรียกสติคืนเข้าร่างได้แล้ว นิ้วอันสั่นเทาก็เลื่อนหน้าจอเข้าสู่เมนูโทรศัพท์ แล้วพิมพ์ตัวเลขสิบหลักเซฟลงเครื่องให้อีกฝ่ายก่อนยื่นไอโฟนกลับคืนให้เจ้าของ
“แค่เซฟเบอร์ไลน์ก็ขึ้นแล้ว”
“อือ”
“ไปนะ ขอบคุณอีกทีที่มาส่ง” ผมเปิดประตูจะลงจากรถอีกครั้ง
“เดี๋ยว” อีกคนก็รั้งเอาไว้ด้วยคำสั้นๆ ทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าอีกฝ่ายที่ยังคงมองที่ผมอยู่
“ที่กูพูดในร้านน่ะ”
“......”
“เรื่องที่ให้มึงจีบ”
“จะบอกว่า...ล้อเล่นใช่มั้ย” ผมถามออกไปพลางฝืนฉีกยิ้มให้อีกฝ่าย ตอนนี้อยากหนีจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้เต็มทน
ถ้าแทนคุณบอกว่า ใช่ กูล้อเล่น ผมจะขอลาออกจากการเป็นแฟนคลับมันจริงๆ....ความรู้สึกกูไม่ใช่ของเล่นนะโว้ย!!
เห็นมั้ยน้ำตากูกำลังจะไหล เขื่อนใกล้แตกแล้วไอ้หล่อ!
“เปล่า ที่กูจะบอกก็คือ....”
“..........”
“มึงเป็นคนแรกนะ ที่กูอนุญาตให้จีบ อย่าทิ้งโอกาสล่ะ”
“ห๊ะ!”
“นี่กูกำลังอ่อยมึงอยู่นะ” จบประโยคนั้น แทนคุณก็ส่งยิ้มให้ผม จนรอยยิ้มที่โชว์ลักยิ้มบุ๋มสองข้างโดยเฉพาะข้างซ้ายที่ชัดเจนกระแทกตาทะลุแว่นเข้ามาเต็มๆ
“ไปเรียนได้แล้วครับ” ไม่พูดเฉยๆ ยังตีเพี๊ยะเข้าที่หน้าผากผมเรียกสติอีก
“เจ็บนะเว้ย”
“ก็ตีให้เจ็บไง ทำหน้าเอ๋อเป็นเด็กดาวน์เชียว”
“อะ...ไอ้บ้า!”
แม่เง้ยยย ทำอะไรไม่ได้ก็ด่าไปก่อนแล้วกัน เสร็จแล้วก็หันหลังเปิดประตูลงจากรถอีกคนอย่างว่องไว แต่ยังเดินไม่ถึงสิบก้าว เสียงตะโกนเรียกชื่อผมจากข้างหลังก็ทำให้ต้องหันกลับไปมอง
“ยู!”
ไอ้หล่อเดือนมหา’ลัยมันลงจากรถมาเรียกชื่อผมครับ อือหือ...ไม่ต้องบอกว่าเสียงดังแค่ไหน เพราะบริเวณหน้าคณะที่นิสิตพลุกพล่านช่วงบ่ายสองกว่าๆนี่ หันมามองกันให้รึ่ม
“ตั้งใจเรียนนะครับ”
พูดจบมันก็โบกมือให้ผม ก่อนจะมุดเข้ารถแล้วขับออกไป ทิ้งให้ผมยืนเด๋อด๋าอยู่ตรงนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดพร้อมเสียงซุบซิบ และสายตาอีกหลายสิบมองตรงมาที่ผม
ไอ้หล่อเล่นกูอีกแล้วมั้ยล่ะ
ถามหนังหน้ากูบ้างว่าหนากี่เซน
ตอนนี้เลยได้แต่ก้มหน้างุดๆ เดินขึ้นตึกให้ไวที่สุด
และอย่างน้อยหัวใจที่ฟีบเหมือนถูกปล่อยลมก็พองขึ้นมาได้ แถมยังเต้นแรงอย่างมีชีวิตชีวา
เล่นอ่อยขนาดนี้
ก็ไม่ขัดศรัทธาคุณเขาละกัน
ผมจะทำตามเสียงของหัวใจ ผมจะลองดูสักตั้ง
ผลลัพธ์ของมันออกมาเป็นยังไง ผมก็จะยอมรับมัน
กูใส่เกียร์เดินหน้าจีบจริงๆแล้วนะเว้ย!
สู้!!!
ผมกลับมาถึงหอพักแล้ว และพบว่าพักนี้หอในของผมมันจะกลายเป็นของผมไปคนเดียวอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเพื่อนร่วมห้องสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งก็มาจากตารางเรียนที่เราไม่ค่อยตรงกัน กับอีกส่วนใหญ่คือการที่พวกนั้นไปพักหอเพื่อนในคณะนั่นเอง
ผมวางกระเป๋าลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ เหลือบตามองโทรศัพท์ตัวเองที่จงใจลืมเอาไว้ แล้วก็ลอบถอนหายใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แล้วตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาเปิดดู
โอโห! นี่ถึงขั้นต้องถอดแว่นมาเช็ดแล้วสวมใหม่อีกรอบ นึกว่าตาฝาด
45 สายไม่ได้รับ คละกันจาก ไอ้ว่าน 2 สาย ที่คาดว่าจะเป็นการโทรมาชวนไปกินข้าว อีก 10 สายจาก แม่ 5 สายจากพ่อ 3 สายจากพี่ไอพี่ชายสุดหล่อของผม 8 สาย จากวีน้องสาวผม และที่เด็ดสุด 17 สายจากอันอัน
มีข้อความมาอีกหลายฉบับแต่พอผมเปิดเข้าไปดูก็เป็นแค่แจ้งเตือนว่าเบอร์เหล่านั้นติดต่อผมไม่ได้
ผมตัดสินใจโทรกลับไปหาแม่ก่อน พร้อมบอกว่าลืมมือถือไว้ที่ห้องก่อนจะคุยสารทุกข์สุขดิบกับท่านไป ซึ่งจริงๆท่านแค่โทรมาถามว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะกลับบ้านหรือเปล่า เพราะพี่ไอกลับมาบ้านนั่นเอง แต่ผมก็บอกไปว่าผมติดไปค่ายอาสากับมหา’ลัย ท่านเลยไม่ได้ว่าอะไร ผมไม่ได้โทรกลับไปหาพ่อกับวีเพราะอยู่ด้วยกันกับแม่ พอโทรกลับไปหาพี่ไอก็ไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องเดียวกับที่แม่โทรมานั่นเอง เลยคุยกันอีกเล็กน้อยแล้ววางไป
ต่อจากนั้นผมก็เลยโทรไปหาอันอัน แต่คุณเธอตัดสายทิ้งผมเลยวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะดังเดิม เพราะผมทำการแวะซื้อเกี๊ยวกุ้งซีพีจากในเซเว่นมาด้วยเลยซัดจนแน่นท้อง แล้วทำการเปิดโน๊ตบุ๊คของตัวเอง ระหว่างนั่งรอวินโดว์รัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นโชว์ชื่ออันอันที่โทรกลับมา
(เกี๊ยววว เราโทรหาตั้งหลายสายไม่รับเลย)
“ขอโทษที พอดีเราลืมโทรศัพท์น่ะ” ขออนุญาตอิ๊บที่พูดความจริงไม่ครบว่าจงใจลืม
“แล้วนี่อันอันโทรมาตั้งหลายสายมีอะไรหรอ”
(ก็ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอก คือว่า....เราจะโทรมาขออนุญาตเกี๊ยว)
“ขออนุญาต? เรื่องอะไรหรอ ถึงกับต้องโทรมาขออนุญาตเราด้วย”
(ก็ตอนนี้น่ะ เกี๊ยวไม่รู้หรอกว่ามีคนหลังไมค์มาหาเราเยอะขนาดไหนว่าอยากให้ทำเพจตัวเล็กตัวโต)
ตาขวาผมกระตุกกึกๆ หลังจากที่อันอันพูดจบ
(เกี๊ยวโอเคมั้ยอะ ถ้าเกิดว่าเราจะสนองนี้ดความต้องการของแฟนคลับ)
“มันจะดีหรอ เรากับแทนคุณไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมถามกลับไป แม้ว่าในใจจะตื่นเต้นกับความดังของตัวเองอย่างไม่สามารถหลอกความรู้สึกของตัวเองได้
(อันนั้นมันคือเรื่องของอนาคตนะเกี๊ยว ปัจจุบันก็เป็นคู่จิ้นแบบคุณโรมไปก่อนได้ไง นะๆ)
“แต่คุณโรมเขาไม่เห็นจะมีเพจไม่ใช่หรือไง”
(ก็แหม...โรมเขาไม่เล่นเฟซฯอ่ะ ให้ทำไง)
“แล้วแฟนคลับคุณคนอื่นๆเขาโอเคหรอ เราอ่ะไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าอันอันจะทำ”
(งั้นถือว่า เราทำได้ใช่ไหม เราจะได้ไปบอกน้องเจ้า)
“อ่า.....”
(แค่นี้นะจ๊ะหนุ่มน้อย เจ๊เอิญมารับแล้ว ไว้เจอกันจ๊ะ)
ปิ๊บ!
เสร็จสรรพก็วางสายไป ผมได้แต่ส่ายหน้ากับความทะเล้นของเพื่อนสาวคนนี้ พอรู้สึกว่าอาหารย่อยได้ที่แล้วเลยเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้เรียบร้อย ก่อนจะมานั่งประจำที่หน้าโน๊ตบุ๊คของตัวเอง
พอเปิดเข้าไปที่เว็บไซต์อย่าง Facebook ที่มักเข้าประจำทุกวันผมก็ต้องตะลึงงันอีกครั้งเมื่อเห็นตัวเลขแจ้งเตือนขอเพิ่มเพื่อนเกินหลักร้อยภายในไม่ถึงวัน สาเหตุมาจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊คคนนั้นที่เป็นแฟนคลับของแทนคุณ ผมจำได้แม่น คุณที่ใช้ชื่อว่า
อยู่บนคาน มันหนาวจริง อย่าให้รู้นะว่าเป็นใครผมจะ......
จะทำอะไรไม่รู้ ช่างมันเถอะ
ตอนนี้ทำได้แค่กดรับเพื่อนที่ส่งคำขอมาโดยสกรีนแล้วว่า บุคคลเหล่านั้นไม่ได้ขอเป็นเพื่อนเพื่อมาขายตรง เลขจำนวนเพื่อนในเฟซฯของผมจากที่มีอยู่แค่ 200 คนนิดๆตอนนี้เลยเพิ่มพรวดเดียวมาเกือบห้าร้อยแล้ว และหลังจากที่ผมรับเพื่อนไปจนเกือบหมด ก็มีแจ้งเตือนมาจากหน้าวอลล์หรือในอินบ็อกซ์บ้าง อย่างเช่น
‘ขอบคุณที่รับแอดนะคะ’
‘ขอบคุณที่รับเป็นเพื่อนนะครับ’
‘น้องยูน่ารักจังเลย รับแอดพี่แล้วด้วย’
‘พี่ยู....หนูขอเป็นแฟนคลับนะคะ หนูหลงรักหนุ่มแว่น’
‘อ๊าย หนุ่มน้อยรับเจ๊เป็นเพื่อนด้วย น่ารักจริงๆ ม๊วฟฟฟ’
และเมื่อทำการรับคนสุดท้ายที่ส่งคำขอมาครบแล้วผมก็ทำการรีเฟรชหน้าฟีดข่าว ไล่ดูความเคลื่อนไหวของแทนคุณอย่างที่ทำจนมันกลายเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้เสียแล้ว จะมีก็แต่ช่วงนั้นแหละที่พ่อเดือนเขาแกล้งผมให้รู้สึกว่า เฟซบุ๊คเป็นแอพพลิชั่นหรือเว็บไซต์ที่น่ากลัว
แต่ตอนนี้ ผมขอบอกเลยว่า ผมจะไม่ย่ำอยู่กับที่อีกแล้ว
เพราะผมตั้งปณิธานแล้วว่าจะเดินหน้าจีบ!!
โอเค เวิ่นเว่อล่องลอยอยู่ในเฟซฯของแทนคุณแล้วก็พบว่าเจ้าตัวยังไม่ได้อัพเดทอะไร ผมก็กดออกมา ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้า Youtube เปิดเพลงฟัง
ตึดึดึ่ง!
TK Krittidumrong: .......
บะหมี่ เกี๊ยว: ????
TK Krittidumrong: โรมกลับห้องยัง
บะหมี่ เกี๊ยว: ยัง
TK Krittidumrong: อือ
ผมมองข้อความสามข้อความจากแทนคุณที่ส่งมา ตลอดกว่าสองปี ผมไม่เคยคุยกับเขาเกิน 1 ประโยคไปจากครั้งนั้น และไม่เคยคิดด้วยว่าเขาจะทักผมมาก่อน แต่ดูตอนนี้สิ ผมมีความสำคัญที่เขาจะนึกถึงด้วย
แม้มันจะไม่ได้เกี่ยวกับผมหรอก
ฟึ่บ!
เสียงแจ้งเตือนจากสัญลักษณ์ลูกโลก พร้อมตัวเลขที่ขึ้นมา ผมเปิดเข้าไปดู แล้วเห็นว่ามีแท็กมาจากรักคุณครับ แฟนเพจ จึงกดเข้าไปดู
รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก
TK Krittidumrong และ
บะหมี่ เกี๊ยว ในโพสต์
ได้รับอนุญาตในการเปิดเพจให้ ทีมตัวเล็กตัวโต ฟินจิ้นให้ดิ้นตาย ที่นี่เลยค่ะ
ตัวเล็กตัวโต หนุ่มแว่นมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กพ่อเดือนสุดหล่อ แถมคุณตัวเล็กยังห่วงความรู้สึกของ แฟนๆคุณโรม เราเลยสร้างพื้นที่เล็กๆให้ได้ฟินไปด้วยเพื่อความเท่าเทียม
ทีมคุณโรม แค่เพื่อนจริงๆนะหรอ ขอความฟินจงสถิตในตัวคุณ เย้! แอดมิน จ.จาน
299 Likes 103 Comments
ไม่ถึง 2 นาทีก็มีไลค์เข้ามาเกินกว่าร้อย พร้อมด้วยคอมเม้นต์ของกลุ่มแฟนคลับที่เป็นสาววายหนุ่มวายเข้ามากรี๊ดกร๊าด และไม่พลาดที่ผมจะเข้าไปกดติดตามเพจทั้งสองไว้ด้วย
และไม่นานเจ้าของผู้ใช้เฟซฯนามว่า TK Krittidumrong ก็ได้ทำการไลค์เพจทั้งสองด้วยเช่นกัน ผ่านไปไม่นานก็เริ่มมีแฮชแท็กทีมตัวเล็กตัวโตกับทีมคุณโรมหลังจากที่แทนคุณได้ทำการคอมเม้นต์
TK Krittidumrong กดติดตามเรียบร้อยครับ
‘แทนคุณ ทีมอะไร เรา #ทีมคุณโรม นะ’
‘กรี๊ดดด กดทั้งสองเพจเลยหรอออ ไม่นะ ต้อง #ทีมคุณโรม อย่างเดียวสิ อ๊ากกก’
‘แทนคุณคะ สังกัดไหนคะ บอกเจ๊หน่อยน้า เจ๊ #ตัวเล็กตัวโต คริๆ’
TK Krittidumrong ^^ สังกัดยังไม่มี แต่สังกะสีมีไว้มุงหลังคาครับ
‘กรี๊ดดด คุณเล่นมุขอะไร #ไว้อาลัยสามวิ’
‘5555555555 แทนคุ๊ณณณณ ฮาไปไหน’
‘ฮากลบเกลื่อนหรอคุณ’
หลังจากนั้นแทนคุณก็หายไป ผมถึงได้เข้าไปส่องแฟนเพจของตัวที่ตอนนี้คาดว่าน้องเจ้าขากับอันอันคงทำการอัพเดทความเคลื่อนไหวในเพจแน่ๆ เพราะมันมีไลค์พร้อมแท็กมาให้ผมเยอะเสียเหลือเกิน
ก่อนที่จะมีคนโพสต์ลงในเพจของคุณโอดครวญทำนองว่า โรมไม่เล่นเฟซฯแล้วจะแท็กยังไง กระแสคุณโรมเสียเปรียบชัดๆ จนกระทั่งน้องเจ้าเข้าไปแจ้งว่า ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าโมเม้นต์ของคุณโรมมันมีมานานแล้วและอีกอย่างก็มีโมเม้นต์เยอะกว่าคู่จิ้นป้ายแดงอย่างตัวเล็กตัวโต เพียงเท่านั้นกระแสคุณโรมเลยเบาอารมณ์ลง
แต่แล้วกระแสตัวเล็กตัวโตก็ร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ ต้นเหตุมาจาก คนเดียวที่ตั้งแต่ได้ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ผมก็ถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งและทำงานเข้ามาตลอดเวลา
เช่นเดียวกับสเตตัสกระแทกตาจนเลนส์แว่นเกือบแตก ณ เวลานี้
TK Krittidumrong ได้แสดงความรู้สึกเขิน
เขา –
บะหมี่ เกี๊ยว บอกว่าจะจีบผมครับ ผมต้องทำยังไงดี ?
1,589 Likes 411 Comments
ไม่ถึง 20 นาทีก็ไลค์ทะลุพัน แถมคอมเม้นต์จากแฟนคลับตัวเล็กตัวโต รวมไปถึงคุณโรมที่เข้ามาทะลุหลักร้อย
‘อร๊ายยย อะไรยังไง ล้อกันเล่นอยู่หรือเปล่า #ตัวเล็กตัวโต’
‘คุณพูดจริงหรือเปล่าคะ ตอบหน่อย’ พร้อมแท็กผม
เปรี้ยว ชนิสรา ฉันตกข่าวอะไรหรือเปล่าเนี้ย ทำไมแกไม่บอกกกกกกกก –
AunAun AunchitaAunAun Aunchita อันนี้ไม่รู้ ฉันจะกรี๊ดดดด
‘น้ำตาจะไหล ห้ามหวั่นไหวนะคุณ #ทีมคุณโรม สตรอง!’
คุณคิดว่าผมควรจะทำยังไงกับกระแสที่แทนคุณเล่นอยู่ตอนนี้ดี....ถ้ายังจำได้ผมบอกแล้วนะว่าผมจะเดินหน้า เพราะฉะนั้นทางเดียวที่ผมคิดออกตอนนี้คือ ผมต้องโต้ตอบ
บะหมี่ เกี๊ยว ได้โพสต์
บอกเองไม่ใช่หรอ ว่าให้จีบได้น่ะ –
TK Krittidumrongจบตอน มาคุยกันเถอะ ! ปั่นมาลงให้จนได้
แต่ว่าพรุ่งนี้คงไม่ได้ปั่นมาลงให้นะคะ เพราะว่า พรุ่งนี้เรายุ่ง ! เอิ๊กกกกกกกก
และก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ที่เป็นกำลังใจให้มีแรงปั่นมากๆเลยค่ะ