ตอนที่ 11“ถ้านายไม่หยุดรังควานเราอีก เราจะไม่ปรานีนายอีกแล้ว!!” คำพูดเด็ดขาดที่สุดของเตชานุที่อิทธิพลเพิ่งได้ยิน ก่อนจะเดินออกจากตัวหอประชุม แต่แท้ที่จริงแล้วคิดหรือว่าคำพูดขู่เขาแบบนั้นจะทำให้เขาหยุดจริงๆ ไม่มีอะไรมากำหนดบังคับอิทธิพลได้ ถ้าเขาคิดจะหยุดจริงๆ คงไม่ต้องดิ้นรนทำทุกอย่างตามมาเรียนถึงมหาวิทยาลัยแห่งนี้หรอกจริงไหม?...
เขาแน่วแน่กับความคิดตัวมากกว่าใครอื่นเป็นไหนๆ เขาตั้งใจมา เรียนที่นี่เพื่ออะไรกัน ก็เพื่อเตชานุคนเดียวอย่างไรล่ะ ต้องการเจอหน้า ต้องการในเวลาร่วมเซ็กส์ และต้องการแสดงความเป็นเจ้าของถึงแม้เขาจะรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมันผิดวิสัยคนปกติ แต่เขาเชื่อว่าเขาเป็นคนปกติ ที่อยู่ในคราบของคนโรคจิตเท่านั้น ทันทีที่เตชานุทำให้เขามั่นใจว่าจะไม่มีใครอื่น คราวนั้นเขาก็พร้อมแล้วที่จะทำดีในแบบที่เป็นอยู่จริงๆ ไม่ใช่การใส่หน้ากากทำตัวโหดร้าย
ครืดดดด ครืดดดดด มือถือสั่นอยู่บนโต๊ะในห้องพัก หน้าจอปรากฏชื่อของหญิงสาว ในตอนนี้เขากำลังคบหาอยู่ แต่เป็นคบแบบเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไร อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็เป็นฝ่ายเสนอตัวให้เขาเองตั้งแต่ทีแรก โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย พื้นเพเดิมของหญิงสาวที่โทรมานี้ ทำอย่างกับเขาไม่รู้อย่างนั้นล่ะว่าเธอผ่านมือชายหนุ่มมาแล้วกี่คน นี่คงคิดหวังจะจับคนรวยอย่างเขาอีกคนก็เท่านั้น ไม่สำเร็จหรอก ละครแกล้งตบตาจบแล้ว
แตกต่างไปจากเตชานุสิ้นเชิง ที่ปฏิเสธเขาทั้งทางกายและจิตใจมาโดยตลอด เขาเพียบพร้อมภายนอกทุกอย่าง แต่สุดท้ายร่างบางก็ไม่คิดสนใจเขาอยู่ดี เพราะอะไรนั้นคำตอบอยู่ในหัวใจของอิทธิพลนานแล้ว นั่นคือคำว่า เกลียด คำเดียวของเตชานุอย่างไรล่ะ!
“ครับแพรว” เขารับสายอีกฝ่าย พร้อมกับเรียกรุ่นพี่คนนี้ราวกับรุ่นเดียวกัน
“อิททำไมรับสายแพรวช้าจังคะ ” เธอตำหนิด้วยวาจานิดๆ
“พอดีเพิ่งออกมาจากห้องน้ำครับ” ชายหนุ่มเสแสร้งแกล้งโกหก
“มิน่าล่ะ เอ่อ... แพรวเพิ่งรู้เรื่องซ้อมดาวเดือน อิทโดนต่อยเจ็บมากไหมคะ”
“เรื่องเล็กน้อยครับ”
“แพรวห๊วงห่วงอิทมากเลยนะคะ คืนนี้ให้แพรวไปหาที่คอนโดนะ ”
“ไม่ต้องมาหรอก อยู่กับผู้ชายคนอื่นไปเถอะแพรว”
“ทำไมอิทพูดแบบนี้คะ!” เธอทำน้ำเสียงตกใจ
“แล้วจะให้ผมพูดแบบไหน เมื่อเช้าผมเห็นแพรวไปกับไอ้สถาปัตย์ปีสามนั่น ”
“อะ...อิท เห็นด้วยหรอคะ?”
“ผมไม่ได้โง่นะแพรว ต่อไปไม่ต้องโทรมาหาผมอีก ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะดึงแพรวมาช่วยแล้ว ผมจะทำสิ่งนั้นด้วยตัวผมเอง ถ้าแพรวไม่หยุดตื้อผม แพรวเจอดีแน่!” อิทธิพลขู่หญิงสาวอย่างจริงจัง
“!!!”
ผู้หญิงปลายสายดูท่าทางน่าจะอึ้งมาก แต่ชายหนุ่มก็กดตัดสายไปแล้ว สตรีเพศสมัยนี้เป็นได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ เพื่อเงินแล้วทำได้ทุกอย่างสินะ แต่นั่นมันก็แค่ไม่กี่คนหรอก แล้วคำถามคือ ทั้งๆที่รู้แต่ทำไมเขาถึงยังฝืนคบแพรวเรื่อยมาจนกระทั่งเมื่อครู่ที่เรื่องนี้จบไป
ก็เพราะว่าผู้หญิงพวกนี้ติดกับดักง่ายไง เขาชักจูงยื่นมือมาเพื่อให้คนตัวเล็กของเขาหึงหวงบ้างก็เท่านั้น แต่ตอนนี้คงต้องหาเป้าหมายใหม่เสียแล้ว หรือไม่ก็ไม่ต้องมีเลย เพราะเท่าที่ดูๆอยู่ เต้ยไม่มีทางหึงเขาเลย มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วจริงไหม
“ไม่สนใจกูต่อไปให้ตลอดลอดฝั่งเถอะ เต้ย จิตใจมึงอ่อนไหวยิ่งกว่าอะไรดี กูจะทำให้มึงรักกูให้ได้ ในวิธีของกูเอง ฮึฮึ”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ ต่อไปนี้ เกมทุกอย่างมันกำลังเริ่ม ทั้งที่อีกฝ่ายคงคิดว่ามันจบสินะ คิดหรอว่าคำขู่นั้นจะได้ผล ไม่มีทางหรอก ฮึฮึ
...
...
...
สี่วันต่อมา...คณะแพทยศาสตร์
วันหยุดแบบนี้เต้ยสละเวลามานั่งอ่านหนังสือเรียนที่ห้องสมุดคณะ ถึงแม้ปีนี้เขาจะยังไม่ได้เข้ามาเรียนในคณะก็ตาม แต่ห้องสมุดที่นี่ก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว บริรักษ์ติดธุระกับทางบ้าน จึงต้องขอตัวกลับไปก่อน เย็นวันอาทิตย์ถึงจะกลับมา
แต่เขาไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวหรอกนะ เพราะมีพี่ชายมาทำหน้าที่เป็นองครักษ์แทนหนึ่งวัน แต่ตอนนี้แค่เขายังไม่มาเท่านั้นเอง
“!!!”
อ่านไปได้ไม่ถึงไหน เตชานุกลับรู้สึกตัวเย็นวาบ ไปทั่วทั้งตัว ราวกับกำลังมีคนจ้องมองมาจากทิศทางไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้ว่าดวงตานั้นอยู่ตรงไหน เขาเป็นใครกัน... คงไม่ใช่อิทธิพลใช่ไหม?
เต้ยผละจากหน้าหนังสือ แล้วกวาดสายตามองไปรอบตัวอย่างช้าๆ แต่กลับไม่มีใครอยู่ในรัศมีของดวงตาดวงนี้เลย มีแต่รุ่นพี่คณะที่นั่งอ่านหนังสือกระจายตัวอยู่จุดต่างๆอย่างสงบเงียบ
“คงไม่ใช่อิทธิพลหรอก” ร่างบางคิดในใจ ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อไป
ครืดดดดดด เสียงลากเก้าอี้อย่างเบามือจากทางด้านหลังเขา ทำให้เต้ยตกใจอีกครั้ง พร้อมกับจะหันไปดู
แต่ท้ายที่สุด ใบหน้าเครียดกังวลใจของเต้ยก็คลี่คลายลงไป เพราะใครคนนั้นเป็นพี่ชายของเขาเอง แต่ไม่ใช่แค่พี่ต้อมหรอกที่มา แต่มาพร้อมกับพี่แชมป์อีกด้วย
“สวัสดีครับพี่แชมป์”
“สวัสดีครัช น้องเต้ยยย ห้องสมุดคณะแพทย์ต้อนรับทันตะสุดอินดี้คนนี้ป่ะ”
แชมป์พูดจาในสไตล์ของตัวเองทันทีที่นั่งลงเก้าอี้ รอยยิ้มที่ส่งมานั้นทำให้เต้ยแอบนึกไม่ได้ว่า พี่แชมป์คนนี้เคยโกรธใครเป็นรึเปล่า!
“ต้อนรับสิครับพี่” ไม่รู้ว่าจริงๆได้รึเปล่า แต่เตชานุก็รีบตอบกลับไปแล้ว
“พอดีเพื่อนพี่มันอยากมาเจอหน้าเต้ย เต้ยคงไม่ว่าอะไรนะ” ต้อมทำสีหน้าเหมือนไม่อยากให้มายังไงไม่รู้
“เอ๋?” ร่างบางทำหน้างง
“ไอ้ต้อม บอกความจริงไปแบบนี้ไม่ดีเลยนะเว้ย” แชมป์หน้าตื่นเล็กน้อย
“อ้าวหรือว่ามึงไม่ได้คิดจะจีบน้องกูวะแชมป์” ต้อมเปรยต่อ
“จีบหรอครับ?” ตัวเล็กทวนคำพูดที่ได้ยินอีกรอบ พี่ชายสองคนนี้เล่นอะไรกันอยู่
“เอ่อ...ครับใช่ครับ พี่แชมป์ขอตอบอย่างแมนๆ พี่ชอบน้องมาก น้องน่ารัก รู้จักกันยังไม่จุใจ พี่เลยขออนุญาตไอ้ต้อมพามาหา
น้องอีก น้องเต้ยจะรังเกียจพี่ไหมถ้าพี่จะขอนั่งด้วยคน”
แชมป์จ้องมองรอเอาคำตอบ ตัวเล็กหันไปสบตาพี่ชาย แต่อีกฝ่ายกลับยกไหล่ทำสีหน้าไม่ยี่หระ ราวกับว่า...ตามใจน้องสิ ประมาณนั้น
“ไม่รังเกียจครับ”
“ดีเลยครับ งั้นรับดอกกุหลาบขาวทีนะ พี่อุตส่าห์เดินไปซื้อแถวตลาดใกล้ๆตรงนี้เลย”
ดอกกุกลาบตูมสีขาวอยู่ในพลาสติกใสห่ออย่างดีโผล่ยื่นออกมาให้ตรงหน้า จะว่าไปพี่แชมป์นี่เป็นคนคิดจริงทำจริงน่าชื่นชมมาก แต่ว่า...เต้ยกลับไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขานะสิ
“แต่ผม...”
“พี่รู้ว่าเต้ยไม่ได้คิดอะไรกับพี่ แต่ขอให้พี่แสดงฝีมือพี่หน่อยละกัน อยากจะรู้นักว่าจีบหนุ่มตัวเล็กจะยากกว่าจีบผู้หญิงรึเปล่า น้า
น้าน้า” หนุ่มทันตะสุดอินดี้ทำสีหน้าออดอ้อนสุดฝีมือ ท้ายที่สุดเต้ยก็รับดอกไม้ดอกนั้นมาจนได้
“ขอบคุณนะครับพี่แชมป์”
“ไม้ต้องขอบคุณเลยครับ พี่แชมป์ยังมีอีกหลายๆดอก เดี๋ยวจะตามมาในเร็ววันแน่นอน”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องพูดครับ พี่แชมป์รู้ว่าน้องเต้ยไม่ชอบดอกกุหลาบ ไอ้ต้อมบอกพี่เอง แต่ให้พี่ได้จีบน้องเต้ยในแบบของพี่เถอะนะ พี่อยากจะรู้เหมือนกันว่าดอกกุหลาบดอกที่เท่าไหร่จะทำให้น้องเต้ยชอบพี่ได้ อย่าลืมล่ะ...ห้ามทิ้งดอกไม้พี่นะครับ พี่จะรอนับดอกไม้พวกนี้ในวันที่พี่ทำสำเร็จ ”
“จะทำสถิติหรอครับ อิอิ” เต้ยอดไม่ได้ที่จะหลุดขำและถามไป
“เปล่าครับ พี่แค่จะประเมินตัวเองว่าจะจีบน้องเต้ยน่ารักคนนี้ พี่ต้องใช้ใจไปเท่าไหร่ เพราะดอกไม้หนึ่งดอกคือหัวใจพี่หนึ่งดวง” แชมป์ตอบพร้อมกับวาจาเป็นตัวของตัวเอง
“อะแห่มมม แคร๊กๆๆ” ต้อมนั่งฟังอยู่นานพอสมควร จนถึงขั้นอดกระแอมแทรกเพื่อนสนิทไม่ได้ เพราะคำพูดที่หวานจนน้ำตาลยอมแพ้แบบนั้นไม่ไหวจริงๆ
“ทำเป็นไอ เจ็บคอ ไอ้ต้อม!!!” หนุ่มสะกินเฮดหันไปเอ็ดเพื่อนเบาๆ
“นี่ไอ้แชมป์ อย่าหยอดคำหวานให้มาก น้องชายกูยังไงก็เป็นผู้ชายนะเว้ย มันไม่ชอบแบบนี้เท่าไหร่หรอก”
“อ้าว ก็กูจะจีบในแบบฉบับของกู น้องเต้ยเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่กูจีบเนี่ย ถ้าไม่เวิร์คกูจะเปลี่ยนสไตล์กูเอง มึงอยู่เฉยๆไปเลย ไม่ต้องออกความคิดเห็น”
“อ้าว! ให้ได้แบบนี้สิเพื่อนกู” ต้อมพึมพำเบาๆ ก่อนจะพากันลุกไปหาหยิบหนังสือมาอ่าน เป็นเพื่อนน้องชาย
ผ่านไปนานถึงสองชั่วโมง แต่ร่างบางก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอ่านซักที จนตอนนี้ทันตแพทย์หนุ่มหล่อคนละสไตล์สองคนเริ่มจะเฉาตายไปกับโต๊ะหนังสืออยู่แล้ว
“เต้ย พอแล้ว...จะอ่านอะไรเยอะแยะครับ นี่ก็เพิ่งต้นเทอมเองน้า จะเอา A ทุกตัวหรือไง?”
“ถ้าได้ก็ดีครับ แต่เต้ยไม่รู้จะทำอะไร วันหยุดแบบนี้พี่ต้อมก็ไม่พาไปเที่ยว เต้ยก็ต้องหาหนังสือมาอ่านสิ”
“งั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องอ่าน พี่จะพาไปเดินห้างแล้วกัน MBK หรือ สยามดี?”
“แล้วแต่พี่ต้อมเลยคร้าบบบ” เต้ยดีใจมาก ที่สุดท้ายพี่ชายก็ยอมพาไปเที่ยวซักที
“แต่ตอนนี้พี่หิวแล้วเต้ย ไปหาอะไรกินกันเถอะ เที่ยงแล้วนะคนดี” มือหนาคว้าเข้าจับขยับน้องชายเบาๆ
“ได้ครับ ปลุกพี่แชมป์ด้วยนะพี่เต้ย ไปกินด้วยกันนี่แหละ ”
“หลับเป็นตายอีกแล้ว ไอ้นี่” ต้อมชำเลืองมองเพื่อน แต่เวลาแชมป์หลับนั้นน่ารักมากเลย แม้แต่เต้ยเองก็ต้องชม ทำไมกันนะ ผู้
หญิงเหล่านั้นถึงได้ปฏิเสธหนุ่มจอมทะเล้นอินดี้คนนี้ไปหมด ทำไมไม่ลองเชื่อใจพี่แชมป์บ้าง ดูก็รู้ว่าพี่เขารักเดียวใจเดียว แค่ติดเฟรนลี่ไปหน่อย เตชานุได้แต่มองแล้วคิดไปเรื่อย
“ไอ้แชมป์ ตื่นเว้ย!” มือหนาพาดแก้มพี่เบาๆ
“อืออออ” เสียงร้องครางราวกับกำลังฝันหวานสะดุดลง ดวงตาคู่นั้นค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ
“ตื่น! กูกับเต้ยจะไปหาอะไรกินกัน มึงก็ไปด้วยนี่แหละ”
“เออๆ ให้กูไปเก็บหนังสือเล่มนี้ก่อนแล้วกัน”
“อื้ม! พี่ต้อมก็ไปเก็บด้วยสิครับ เต้ยว่าเต้ยจะไม่กลับมาอีกแล้ว ว่าจะกลับห้องพักเลย”
“อืมดีเหมือนกัน พี่จะได้ไปส่ง ตอนบ่ายพี่ต้องไปคณะด้วยสิ เต้ยรอพี่อยู่นี่นะ เดี๋ยวไปเก็บหนังสือแป๊บเดียว”
“ครับ”
ทันที่สองหนุ่มรุ่นพี่เดินหายลับไปกับชั้นวางหนังสือมากมาย กลับมีใครบางคนเดินเข้ามาหาเต้ยที่โต๊ะทันที แต่
หน้าตาท่าทางดูไม่คุ้นหน้าเลย แต่เขาคนนั้นกลับยื่นกระดาษบางอย่างมาให้ ไม่มีคำพุดใดๆสนทนากัน ซึ่งแรกเริ่มเต้ยก็ต้องชั่งใจพอสมควร แต่สุดท้ายก็รับกระดาษพับทบแผ่นนั้นมา
ผู้หญิงคนเมื่อครู่เดินจากไป ส่วนกระดาษที่พับทบนั้นเต้ยกลับมองมันอย่างแปลกใจมาก เขาไม่รอช้าที่จะคลี่กระดาษนั้นออกมาดู แต่แล้วก็เจอเข้าให้กับประโยคปริศนา น่ารังเกลียด?
“อย่าแรดให้มากนะมึงอ่ะ กูหวง กูห่วง กูหึง กุหลาบขาวนั่นทิ้งไปซะ” ท้ายกระดาษมุมขวา เขียนที่มาของจดหมายไว้ว่า จากผัวมึง ผัวมึงคือใครนั้น เต้ยแทบไม่ต้องเดา นี่แสดงว่าความรู้สึกหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้เหมือนมีใครจ้องมองเขาอยู่ก็ต้องเป็นความจริงแน่นอน เขาไม่ได้รู้สึกไปเอง อิทธิพลอยู่แถวนี้จริงๆด้วย!!
“ไปกันเถอะเต้ย พี่ไปเก็บหนังสือเรียบร้อยแล้ว”
เสียงพี่ชายของเขาเรียกสติกลับคืนมา ร่างบางเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างเร่งรีบ และต้อมจับพิรุธนั้นไม่ได้ด้วย เต้ยรีบเดินจับข้อมือพี่ชายไว้แน่น และร่างสูงเป็นใจมาก รีบประสานมือกับเต้ยแทนทันที สิ่งนี้คงจะพอทำให้เต้ยคลายกังวลใจได้บ้าง
...
...
...
ค่ำคืนวันเดียวนั้นเอง เตชานุต้องอยู่ในหอพักคนเดียว เขาเปิดทีวีดูเป็นเพื่อนเพื่อไม่ให้เงียบเหงาเกินไป แอบชำเลืองมองกุหลาบสีขาวที่พี่แชมป์ให้มา ดอกไม้ที่เขาไม่ชอบแต่ไม่ถึงกับเกลียด ถูกตัดแต่งให้สวยงาม แล้วปักอยู่ในขวดน้ำดื่มที่มีน้ำอยู่ครึ่งขวด พลางนึกไปถึงคำพูดของเจ้าของดอกไม้ที่ว่า...
“...พี่แชมป์รู้ว่าน้องเต้ยไม่ชอบดอกกุหลาบ ไอ้ต้อมบอกพี่เอง แต่ให้พี่ได้จีบน้องเต้ยในแบบของพี่เถอะนะ พี่อยากจะรู้เหมือนกันว่าดอกกุหลาบดอกที่เท่าไหร่จะทำให้น้องเต้ยชอบพี่ได้ อย่าลืมล่ะ...ห้ามทิ้งดอกไม้พี่นะครับ พี่จะรอนับดอกไม้พวกนี้ในวันที่พี่ทำสำเร็จ ”“พี่มีความพยายามสูงมากนะ แต่พี่คงพยายามผิดคนแล้วครับพี่แชมป์” ร่างบางเปรยเบาๆก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าตัวเอง
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เตชานุตกใจเล็กน้อย หรือว่าบอลจะกลับมาแล้ว...แต่คุณชายบอกจะกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือไง ลองโทรหาบอลดูดีกว่าเพื่อความแน่ใจ
“ตูดดดดด ตูดดดดด” ร่างบางรอปลายสายกดรับ พร้อมกับจ้องมองดูทางประตูที่มีเสียงเคาะต่อเนื่อง
แต่ท้ายที่สุด บอลก็ไม่ได้กดรับสายของเขา
ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูยังดังต่อเนื่อง ตอนนี้เต้ยหวั่นใจมาก แต่...ไม่แน่อาจจะเป็นพี่ต้อมมาหาก็ได้
“พี่ต้อมหรอครับ!” เตชานุตะโกนถามออกไป แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาเลย สรุปเป็นใครกันแน่!
ฟิ้ววว กระดาษพับทบสีขาวถูกสอดเข้ามาภายในช่องประตูด้านล่าง ร่างบางรีบเดินไปหยิบมาคลี่อ่านทันที
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ผัวมาหาแล้ว!”“อิท!!!”
ร่างบางเดินถอยหลังไปหลายก้าวโดยอัตโนมัติ ทุกอย่างเริ่มทำให้เขากลัวอีกครั้ง เขานึกว่าจะคุยกันรู้เรื่องตั้งแต่วันนั้นแล้วเสียอีก ทำไมอิทธิพลไม่ยอมหยุด ทำไมพูดยากดื้อรั้นแบบนี้ เงียบไปสักพักใหญ่ๆ กลับมีบางสิ่งทำอะไรกับประตูแทน
แกร๊ก!!! เสียงไขประตูดังขึ้น ดวงตาของเต้ยเบิกโพง เพราะมองไปที่กลอนประตูด้านใน เขายังไม่ได้ล็อค ว่าแล้วเขาก็รีบวิ่งไปที่บานประตูเพื่อล็อคกลอนนั้นทันที แต่...คงไม่ทันแล้ว
แอดดดด บานประตูถูกเปิดออก พร้อมกับชายหนุ่มในชุดลำลองเสื้อยืดสีดำ กับกางเกงยีนกรมท่า ใกล้ๆกันนั้นคือพี่คุมหอ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประตูถึงเปิดไขเข้ามาได้
“ขอบคุณพี่มากนะครับที่มาเปิดให้ คราวหลังผมจะไม่ลืมกุญแจอีก” ร่างสูงตอบอีกคนไปอย่างหน้าตาเฉย
“ไม่ใช่นะครับพี่ คนนี้ไม่ใช่เมทผม” เต้ยรีบตะโกนบอกปฏิเสธทันที
“อ้าว สรุปยังไงกันแน่ครับน้อง” พี่คุมหอหันมาถามคาดคั้นกับผู้มาเยือน
“เราสองคนทะเลาะกันอยู่ครับ พี่ไม่ต้องห่วง ผมเคลียร์กับเต้ยได้”
“อ่อโอเค คุยกันดีๆล่ะ อย่าทะเลาะวิวาทเด็ดขาด”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่เคย ทะเลาะวิวาท! กับเพื่อนคนนี้เลย” อิทธิพลยิ้มแสยะ แต่รอยยิ้มนั้น เต้ยรู้ดีว่าอิทธิพลหมายถึงอะไร
“พี่ไปแล้วนะ”
พี่คุมหอเดินกลับไป พร้อมกับร่างสูงที่ถลาก้าวเข้ามาในห้องแล้วล็อคประตูทันที อิทธิพลมองหน้าอีกฝ่ายที่ตัวเล็กกว่าอย่างแน่นิ่ง เตชานุไม่เข้าใจเลยว่าดวงตาไร้ความรู้สึกนั้นกำลังจะสื่อและบ่งบอกอะไรเขา
“ทำไมนายยังไม่เลิกตามเราอีกอิท นายต้องการอะไร!”
“ต้องการมึงไง! ” ร่างสูงตอบไปตามความรู้สึก
อิทธิพลจะกวาดสายตามองไปทั่วห้อง จนกระทั่งเตะตาเข้ากับดอกกุหลาบสีขาวในขวดน้ำ ใบหน้านิ่งเรียบค่อยๆขมวดคิ้วเข้าหากัน ท้ายที่สุดก็หันขวับกลับมามองร่างบางอย่างเหลืออดแทน
“กูบอกมึงเมื่อตอนเที่ยง ว่าให้เอาดอกไม้ดอกนี้ไปทิ้ง กูไม่ชอบ ทำไมมึงยังเก็บไว้!!!”
พรึบ!!! เต้ยวิ่งอย่างเร็วไปคว้าหยิบขวดน้ำที่มีดอกกุหลาบขาวนั้นมาซ่อนไว้ด้านหลังทันที
“อย่ามาแตะต้องดอกไม้ดอกนี้นะ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยอิท ไม่อย่างนั้นเราจะโทรบอกคุณพ่อจริงๆด้วย” ตัวเล็กขู่ แต่นั่นทำให้ร่างสูงยิ้มแสยะที่มุมปาก
“เอาดิ โทรเล้ย!!! ถ้าพ่อมึงรู้ กูก็แค่บอกพ่อกูไปขอขมาแล้วหมั้นหมายกับมึง เรื่องจะได้จบๆ คราวนี้ใครหน้าไหนแม่งก็คาบมึงไป
แดกไม่ได้แล้ว”
“หยาบคาย ความคิดต่ำ ชั่วช้า สารเลวจริงๆ”
“ที่กูมาหามึงเพราะกูอยากมาหา ไม่ได้อยากมาทะเลาะ ส่งดอกกุหลาบนั่นมา”
“ไม่!!! นี่ของพี่แชมป์ นายไม่มีสิทธิ์”
“กูบอกให้เอามา!!!”
พรวดดดดด หมับ! อิทธิพลถลาเข้าไปหาร่างบางอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแย่งกุหลาบสีขาวในขวดน้ำซ่อนอยู่ข้างหลังเต้ยไปอย่างง่ายดาย เขากวาดสายตามองทั่วห้องอีกครั้งจนกระทั่งเห็นถังขยะอยู่ไม่ไกลนอกระเบียงห้อง
“อย่า!!! อิท อย่าทิ้ง ฮึก ฮือออ อิทอย่าทำ”
ร่างบางเดินตามหลังไป พร้อมกับเอามือเรียวเล็กนั้นรั้งแขนอีกคนไว้ แต่ไม่เป็นผลเอาเสียเลย
“ชอบมากใช่ไหมไอ้ดอกไม้ผัวชู้คนใหม่เนี่ย!”
มือหนาดึงดอกกุหลาบออกจากขวดน้ำ พร้อมกับเอามือบดขยี้หักก้านเป็นเสี่ยงๆชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างไม่ปราณี แล้วโยนลงถังขยะไปอย่างไม่ใยดี
“ฮือออออ อิท!! ทำไมนายเลวได้ขนาดนี้ นายไม่ใช่คน!!!”
“จะด่าอะไรก็ด่าไป แต่คำพูดและน้ำตาของมึง กูชอบมากเลยเต้ย อารมณ์กูเริ่มก่อตัวอีกแล้ว”
“!!!” ร่างบางดวงตาเบิกโพง เขารู้ว่าร่างสูงไมได้ล้อเล่น แต่เขาจะทำจริงๆ เต้ยก้าวถอยหลังกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับใครบางคนเดินตามเข้ามาช้าๆ
“อย่าเข้ามานะ ฮือออ ขอร้องล่ะ”
“เลิกกลัวผัวได้แล้วเต้ย กูคิดถึง มึงมากกกก!!!!” อิทธิพลเค้นเสียงกัดฟันพูด ดูสีหน้าและท่าทางในเวลานี้อิทธิพลเหมือนคนโรคจิต โรคประสาทไม่ผิดเพี้ยน ตอนนี้เต้ยรึสึกกลัวมาก
“อิท! อิทอย่าทำแบบนี้เลยนะ อิท!!! เราขอร้อง ต่อไปเราจะไม่รับดอกไม้กับพี่แชมป์อีก นายพอใจไหม”
ร่างสูงชะงักไปที่ได้ยินคำพูดอีกฝ่าย ทั้งที่เขาไมได้บังคับใดใดเลย แต่นั่นมันทำให้เขาพอใจไม่น้อย
“ก็ดี!!! พูดง่ายแบบนี้สิ”
แขวก!!! มือหนารูปซิปกางเกงยีนลง พร้อมกับงัดเอาท่อนเนื้อใหญ่ที่ขยายตัวไม่เต็มที่เท่าไหร่ออกมาโชว์
“อิท! จะทำอะไร?”
“ถามโง่ๆอีกแล้ว ว่าที่คุณหมอเมียของกูเนี่ย” ร่างสูงแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างตัวเอง ดวงตาที่โมโหตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นหื่นกามแทน
“อมซะสิ น้ำรักมันรอมึงอยู่นะ!!!”
พรึบ พรวดดดดด อิทธิพลถลาจับคางอีกฝ่าย พร้อมบีบให้เต้ยอ้าปาก พอได้ช่องโหว่พอเหมาะ เขาก็ยัดท่อนเนื้อนั่นเข้าไปทันที ทุกอย่างเกิดเร็วมาก เต้ยไม่มีทางเดาใจได้ทันว่าอิทธิพลจะทำอะไรด้วยซ้ำ
“อ่า..... อ่า... อมเข้าไปอีก ลึกๆ”
“ครัก อะ แครก”
เสียงอู้อี้จากเต้ยที่ตอนนี้ราวกับหายใจไม่ออก แต่ก็ต้องทำออรัลต่อไปอย่างหยุดไม่ได้ น้ำตามันไหลอาบแก้ม
ไม่ยอมหยุด หรือว่าคืนนี้เขาคงไม่พ้นมัจจุราชชั่วร้ายคนนี้ได้แล้วสินะ...
ตอแหล เลวววววว เลวมากกก ทำได้ทุกอย่างจริงๆๆ ก่อนจะแสดงความเป็นเจ้าของ มะรึงถามน้องเต้ยกะรูด้วยยยยยย
คุณชายบอล ทำไมไม่อยู่ ทำอะไรซักอย่างหน่อยสิเต้ย ไม่สตรองตามที่ขู่มันเลยย รึไม่ก็กัดมังกรให้มันด้วนไป
เลย ชอบให้ออรัลนัก (เดี๋ยวๆๆ คนแต่งโรคจิตไปป่ะ) มาต่อแล้วนาจา