[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1  (อ่าน 3362 ครั้ง)

ออฟไลน์ Meomay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
PAT1

   อีก100วันจะสอบ GAT PAT แล้วและแน่นอนว่าผมอ่านหนังสือไม่ทัน!!! ผมไม่อยากให้คณะวิศวะไฟฟ้ามันอยู่ไกลเกินเอื้อมผมเท่าไหร่ สมัครโควตาไปแล้วก็ไม่ติด อย่างน้อยก็ขอคะแนน GATPAT ออกมาดีๆหน่อยเหอะ เผื่อผมจะเก็บไปแอดติดกับเขาบ้างถ้าสอบตรงไม่ติดอ่ะนะ มันเฟลมาหลายรอบมากจนแม่ผมถึงขั้นโทรหาเพื่อนแม่แล้วหาติวเตอร์ให้ผมเลยทีเดียว

   ตอนนี้ผมกำลังเดินไปยังร้านกาแฟกลางสยามอยู่ เพื่อจะไปเรียนติวเตอร์ครั้งแรกในชีวิตผมเนี่ย ปกติผมก็เรียนพิเศษธรรมดา เรียนตามโรงเรียนกวดวิชาเล็กๆบ้าง ไม่ก็เรียนกับโรงเรียนกวดวิชาดังๆที่เรียนกับทีวีไม่ก็คอมพิวเตอร์บ้าง แต่เนี่ยอ่ะครั้งแรกที่เรียนกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ตาต่อตา ยังดีที่แม่หาเป็นติวเตอร์ผู้ชายให้ผม เพราะถ้าเป็นผู้หญิงมาเนี่ยผมคงจะไม่มีสมาธิเรียนแน่ๆ ก็โรงเรียนผมมันโรงเรียนชายล้วน ทำให่การมานั่งอยู่กับผู้หญิงเนี่ยมันเป็นเรื่องยากพอประมาณ

   Q_request : พี่นั่งอยู่ริมหน้าต่างใส่เสื้อสีฟ้าชมพูนะ

   ผมก้มลงมองข้อความมือถือจากแอพสีเขียวแล้วก็พยักหน้ารับตัวเองเบาๆ แหม่...ขนาดเสื้อยังต้องบอกสีมหาลัยขนาดนี้มั้ย เออ กูรู้แล้วว่ามึงเรียนเก่ง

   เออสิ...คนเชี่ยไรสอบ PAT1 ได้ 180 คะแนน ไอ้เข้ คนหรืออะไรวะ ไหนจะสอบ GATอังกฤษได้ 130 ขอเรียกมันว่าอัจฉริยะได้มั้ย ผมทำอังกฤษทีไรๆคะแนนก็แถวๆ60ตลอด

   จริงๆแม่ก็อยากให้ผมเรียนวิทย์ทั้งสามวิชาด้วยนะ แต่คือผมเรียนพิเศษมาเยอะเกินพอแล้วแล้วคะแนนก็ไม่ได้น่าละอายจนเกินไป มีก็แต่เลขเนี่ยแหละที่แม่ด่าเข้าด่าเย็น ก็คนมันทำไม่ได้อ่ะจำให้ทำยังไงวะ!! เลขมันไม่ใช่วิชาที่จะอ่านๆแล้วตอบได้เหมือนวิชาอื่นแบบอย่างน้อยก็พอหาหลักการมั่วได้ แบบภาษาอังกฤษทำอะไรไม่ได้อย่างน้อย Conversation ก็ได้หน่อยๆป่ะวะ แต่เลขมันแบบภาษาเอี้ยไรก็ไม่รู้ มองๆแล้วแม่มยากกว่าภาษาเมียนมาร์ประเทศเพื่อนบ้านอีกแม่ม ไอ้แรกๆเซต ตรรกศาสตร์ เออ ผมโอเคมันพอมั่วได้ พอชีวิตเริ่มมีตัว i เริ่มมีกราฟ เริ่มมีเซต้า ไหนจะถั่วงอกอีก ชีวิตนี้ผมก็ขอบอกเลิกเลขตลอดกาล
 
   แต่ด้วยความที่ว่าเป็นลูกชายคนเดียวและพ่อกับแม่อยู่มหาลัยมหากาพย์นี้มาทั้งคู่ ไอ้การที่ลูกชายจะไม่ได้เข้าที่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใช่มั้ย ก็ตอนพ่อกับแม่เข้าการแข่งขันเข้ามันยังไม่เยอะเท่าผมนี่!!

   “สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้พี่ ‘คิว’ ที่แม่ค่อนข้างภาคภูมิใจแทนพ่อแม่พี่เขาจริงๆ อวยกันซะจนหมั่นไส้ หน้าอ่ะเคยเห็นในรูปในแชตแล้ว แต่เอาเข้าจริงตัวจริงหล่อกว่าในรูปเล็กน้อย แล้วก็เตี้ยกว่าในรูปด้วย พอเห็นหน้าตัวจริงแว๊บแรกปุ๊บผมก็มองได้เลยว่าไอ้เวรนี่แม่งแค่หน้าก็ฉลาดแล้วอ่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้ใส่แว่นไม่ได้อะไร

   “น้องชื่อไรนะ”

   “ไนท์ ครับ”

   “โอเค พี่แนะนำตัวก่อนเนอะ เจอกันครั้งแรก” ผมพยักหน้าส่งๆนั่งฟังสรรพคุณพี่เขาไปว่า พี่เรียนมหาลัยใกล้ๆสยาม พร้อมกับเรียนคณะบัญชี ติดเข้ามหาลัยด้วยอันดับต้นๆ กำลังเรียนอยู่ปีสาม ทำกิจกรรมและเรียนไปพร้อมกันได้อย่างดี เพราะพี่รู้จักแบ่งเวลาบลาๆๆๆๆๆๆๆ โอเค๊ น้องโอเคมากกกก

   “ทำไมพี่ถึงต้องตั้งใจเรียนให้คะแนนเยอะขนาดนั้นอ่ะ” ผมมองหน้าพี่เขาแล้วถามด้วยหน้าแหยงๆเล็กน้อย

   “ไม่รู้ดิ ชอบมั้ง พี่ว่ามันสนุกดี เวลาเบื่อๆก็นั่งทำโจทย์” ไอ้เชี่ย นี่คนหรืออะไรวะ

   “ทำไมไม่ชอบอะไรเหมือนคนอื่นแบบ เตะบอล เล่นเกม ถ่ายรูปอ่ะ” พี่เขาทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนที่จะส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ ผมเลยยิ่งงงเข้าไปอีก

   “อาจจะเพราะว่ากลุ่มเพื่อนด้วยมั้ง เพื่อนพี่ทุกคนก็ชอบทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ชอบอ่านหนังสือกันมากกว่า เวลาเตะบอลแล้วเหงื่อออกเยอะอ่ะ เล่นเกมก็เคยนะแต่พี่เล่นไม่ค่อยเก่งโดนด่าเยอะพอประมาณ ส่วนถ่ายรูปไม่ทำเลย ถ่ายทีไรเพื่อนด่าตลอด” ผมหัวเราะตอบพี่เขาไปนิดหน่อย ก่อนที่พี่เขาจะขอดูใบเกรดที่ผ่านๆมากับการบ้านที่โรงเรียน “ตอนพี่ดูไปซื้อไรกินก่อนก็ได้” ผมพยักหน้ารับพี่เขาพร้อมกับเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ซื้อของมา พอเดินกลับมาเท่านั้นแหละ

   “ทำไมอ่ะพี่”

   “จะเข้าวิศวะจริงเหรอ” เหมือนโลกทั้งใบผมแตกเพร้งลงตรงหน้า พี่เขาเป็นคนนิ่มๆนะเว้ย แบบพูดอะไรนุ่มนิ่มๆ เรียบร้อยๆ แต่พอเจอคำนี้เข้าไปด่าว่าไอ้เชี่ยผมยังเจ็บน้อยกว่าเล้ย เอาเข้าจริงด่าพ่อผมยังเจ็บน้อยกว่านี้เลย

   “ครับ...”

   “รู้มั้ยว่าเรียนวิศวะเจอแคลกี่ตัว”

   “อย่าด่าผมเลยพี่ ถ้าผมเก่งผมคงไม่มาเรียนกับพี่หรอก”

   “ไม่ได้นะไนท์ อีกแค่ร้อยวันแกทำอะไรไม่ทันหรอก นอกจากนอนวันละสามชั่วโมงไม่เกินอ่ะ” พี่เขาต้องการจะฆ่าผมให้ตายตรงนี้ใช่มั้ยวะเนี่ย!! แล้วผมก็โดนพี่เขาด่าจนคิดว่าเย็นนี้กลับไปผมต้องอ่านหนังสือแล้วล่ะ สงสัยนี่สินะที่เรียกว่าจิตวิทยา

   วันนี้เรียนไม่ได้เยอะอะไรเท่าไหร่ เพราะส่วนมากพี่เขาจะถามนู่นนั่นนี่ผม เรียนแค่เรื่องเมตริกซ์อย่างเดียว ย้ำว่าอย่างเดียว แต่ผมได้การบ้านมาเกือบสองร้อยข้อ แล้วคือพรุ่งนี้ต้องทำมาส่งพี่เขาไง ข้อไหนไม่ได้ก็เว้นเอาไว้ตามที่บอก

   “แล้วกลับบ้านยังไงเนี่ย” พี่เขาถาม ทำเอาผมไม่อยากตอบเลย

   “คือ...เดี๋ยวไปซื้อหนังสือกับเพื่อนต่อ”

   “อ้าวเหรอ ไปศูนย์หนังสือใช่ป่ะ พี่จะไปเหมือนกันเดี๋ยวไปพร้อมกันๆ พี่มีบัตรนักศึกษาจะได้ลดได้” ผมหน้าเหวอทันทีก่อนที่จะรีบไลน์หาเพื่อนว่าไปศูนย์หนังสือ คือตอนแรกว่าจะไปกินหลังเลิกเรียนไง ไหงตอนนี้เงินที่จะกินดันปลิวไปกับหนังสือล่ะเนี่ย เออช่างมันเหอะ ทำเพื่ออนาคตบ้างก็ดี...

   “คะแนนอังกฤษเป็นไงบ้างเหรอ”

   “60-90 คะแนน...” พี่เขาพยักหน้ารับทันทีที่ผมตอบไป แล้วหยิบหนังสือเล่มนึงขึ้นมา รับรองว่าผมยังไม่มีเล่มนั้น...

   “เล่มนี้เดี๋ยวซื้อให้ สัญญาว่าจะทำจบในสัปดาห์นี้” ผมไม่ตอบพี่เขา พี่เขาเลยเอาหนังสือเคาะหัวผมทีนึง เออกูรู้แล้วว่าไม่ใช่ประโยคที่กูจะแสดงความคิดเห็นอะไรได้ คือกูแค่ต้องทำให้เสร็จ

   “ถ้าเลขพี่แนะนำเล่มนี้นะ” พี่เขาชี้นิ้วให้ผมมองตาม “แต่ไม่ต้องซื้อก็ได้ๆ เดี๋ยวพี่เอาโจทย์ให้ทำ” คือพวกฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เป็นอะไรที่ผมทำเรื่อยๆอยู่แล้วเพราะว่าผมทำได้ไง ผมหวังจริงจังมากๆว่าอย่างน้อย PAT2 อย่างน้อยผมก็ต้องเกินร้อยอ่ะ เพราะผมพอจะสำเหนียกตัวเองได้ว่าผมจะเข้ามหาลัยอะไร คือปกติทำข้อสอบเก่าคะแนนผมก็เกินร้อยไง ผมเลยเริ่มโอเคก่อนที่จะมาเครียดเลขเนี่ยแหละ

   พอซื้อเสร็จผมก็ออกมารอเพื่อนผมหน้าศูนย์หนังสือ พี่เขาเลยยืนอยู่เป็นเพื่อนผม พอสังเกตดีๆพี่เขาเตี้ยกว่าผมนิดนึง

   “เจอพี่พูดไปนิดเดียวดูสลดไปกว่าตอนแรกเยอะเลยนะเนี่ย” พี่เขาพูดพร้อมกับยิ้มจางๆให้ผม ผมเลยหันไปหัวเราะหึหึตอบพี่เขาไปเล็กน้อย “เอาน่า สู้ๆ ว่าที่วิศวะกรไฟฟ้า เดี๋ยวปีหน้ามาอยู่มหาลัยเดียวกันแล้วจะไปหาบ่อยๆ” ไม่พูดเปล่า เอามือมาลูบหัวผมอีกต่างหาก

   คือไม่ใช่อะไรเว้ย...ทำไมต้องใจเต้นอะไรขนาดนี้วะ พี่เขาเป็นผู้ชายนะเว้ย!! ไม่ใช่ๆๆๆ มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น ผมแค่คิดไปเอง ใช่ๆ คือปกติมันก็เต้นแบบนี้อยู่แล้วเวลาโดนจับหัว เอ้อ!! ผมแค่ชอบให้คนจับหัว ไม่ได้อะไรพี่เขาเว้ย!!

   “ผมจะพยายามครับ” คือหน้าร้อนมากเว้ย คือร้อนมากกกก ยังดีที่เพื่อนผมวิ่งเข้ามาหาพอดี พร้อมกับยกมือไหว้พี่เขาพอดี พี่เขาก็ยิ้มๆแล้วโบกมือให้เบาๆ

   “พี่เป็นติวเตอร์ไอ้ไนท์ใช่ป่ะพี่”

   “อื้ม ใช่แล้ว”

   “เพื่อนพี่คนไหนเป็นติวเตอร์บ้างป่ะพี่ ผมอยากเรียนอังกฤษมากๆๆๆ เลยพี่จะเข้าหมอแต่คะแนนอังกฤษ 9วิชา ผมได้แค่ 30 คะแนนอ่ะพี่ มันวิกฤตมากกก” ผมเหลือบมองหน้ามันด้วยความรู้สึกแบบ อีตอแหล มึงแค่อยากได้ติวเตอร์ คะแนนอังกฤษ9วิชามึงอ่ะเกินครึ่งไอ้เชี่ย มึงอ่ะแม่งเทพทุกวิชาแล้ว!! ไม่ก็มันทำชุดล่าสุดแล้วคะแนนน้อยล่ะมั้งมันเลยอยากได้ติวเตอร์

   “เรียนเก่งกว่าไนท์มั้ย”

   “มันเก่งกว่าผมเยอะพี่ แม่งตอแหลว่าคะแนนตัวเองไม่ดี” พี่คิวหัวเราะทันที ก่อนที่จะรับปากไปว่าจะหาติวเตอร์ให้ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่พ้นคณะอักษร ดูแล้วพี่เขาน่าจะเฟรนด์ลี่มากๆเลยแหละ น่าจะรู้จักคนค่อนข้างเยอะ

   “สาธุขอให้เป็นสาวๆสวยๆน่ารักๆสักคน”

   “เอาที่มึงสบายใจเลยไอ้นัท” ผมมองหน้ามันหน่ายๆนิดหน่อย บอกแล้วมันไม่ได้ตั้งใจจะเรียนขนาดนั้น!!




   พอกลับถึงบ้านผมก็เหนื่อยจนสายตัวจะขาดแล้ว พอเหลือบไปเห็นกระเป๋าที่มีโจทย์ร้อยกว่าข้อยัดอยู่ในนั้นแล้วก็ได้แต่หลับไม่ลงต้องหยิบมานั่งทำ เอาเข้าจริง...คือถ้าผมทำโจทย์ได้มันก็สนุกแหละ แบบวันนี้...ผมทำเมตริกซ์ได้ ที่ไม่ได้ก็คือข้อที่มันไปผสมๆกับอย่างอื่น แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้น

   Q_request : 08xxxxxxxx นี่เบอร์เพื่อนพี่ ส่งให้เพื่อนแกด้วยนะๆ

   Q_request : ทำโจทย์ด้วยนะ fighting!! ห้ามนอนจนกว่าจะเสร็จไม่ก็เอาไปทำที่โรงเรียนด้วย!!

   Q_request : Sent you a sticker

   ผมมองแล้วก็อดอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้......... ไอ้บ้า!!!! ไม่ได้ยิ้มเว้ยยยย เอ้อ ที่ยิ้มอ่ะแค่พี่เขาหาติวเตอร์ให้เพื่อนผมได้แล้วเฉยๆ โอ๊ยยย อะไรวะเนี่ย!!

   เออนั่นแหละ แต่ที่ผมทำโจทย์เสร็จทั้งหมดเหลือ10ข้อทำไม่ได้อ่ะ ไม่ใช่เพราะข้อความที่พี่เขาส่งมานะเว้ย!!





   “ตาดำเชียว” พี่เขาแอบทักผมเบาๆ เออดิ ทำโจทย์มึงไง ไหนจะอังกฤษที่มึงสั่งอีก

   “เก่งเว้ย จะทำก็ทำได้นี่หว่า” ไม่พูดเปล่าๆเอามือมาลูบหัวกันด้วย ไอ้บ้าเอ๊ยยยยยยยยยย จะบอกให้ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะไอ้ความรู้สึกเนื้อสั่นๆใจเต้นตุบๆเนี่ยคือชอบให้ทำแบบนี้ไม่ใช่หรือไงวะ!!

   “ถ้าขยันได้แบบนี้ทุกวันนะคะแนนไม่แย่หรอก อีกอย่างนะ คนส่วนมากพอถึงวันที่สิบก็จะเริ่มขี้เกียจแล้ว” ผมก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้นนั่นแหละ นอกซะจากว่าพี่ลูบหัวผม.......คิดซะว่าเมื่อกี้ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นออกไปแล้วกัน

   อาจจะเพราะว่าหลังจากที่ผมไม่ได้สอบได้ที่1 พ่อกับแม่ก็เลิกทำแบบนี้กับผมไป ตอนที่ผมยังสอบได้ที่1อยู่ พ่อกับแม่จะลูบหัวแล้วชมว่าผมเก่งบ่อยๆ แต่พักหลังมานี้ พอผมเริ่มทำเลขไม่ได้คะแนนผมก็ไม่ได้อยู่ที่1 จนพ่อกับแม่ก็เฉยๆจนเหมือนว่าไอ้การกระทำแบบนั้นมันไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็อาจจะเพราะว่าผมโตขึ้นด้วยล่ะมั้ง

   “ถ้าติดวิศวะไฟฟ้าจริงเดี๋ยวพี่เลี้ยงบุฟเฟ่ต์แซลม่อน700บาทเลยเอาป่ะๆ” ผมพยักหน้ารับทันที แหมข้อเสนอแบบนี้มาทำไมผมจะไม่รับล่ะ เวลาผมเรียนกับพี่เขาไม่เคยเรียนได้สองชั่วโมงตามที่ตกลงกันไว้สักทีเพราะเกินตลอด แต่พี่เขาก็ไม่ได้คิดเงินเพิ่มนะ เพราะว่าผมเรียนเป็นคนสุดท้ายของวัน เลิกสองทุ่มก็คงจะไม่มีใครมาต่อแล้วมั้ง...พี่เขาก็ชอบชวนคุยบ้าง พาไปส่งรถไฟฟ้าบ้างเป็นเรื่องปกติ





   วันนี้ผมง่วงจริงจัง แต่ก็โผล่มาโรงเรียนจนได้ ถึงตอนนี้จะเก้าโมงแล้วก็เถอะ

   “มึงงง เมื่อวานเรียนกับพี่ติวเตอร์เว้ย!!!” เพื่อนรักผม ไอ้นัทว่าที่หมอ มันเรียกผมพร้อมกับทำหน้าสลดจริงจัง

   “ว่ามา”

   “ไอ้เชี่ย เป็นผู้ชาย” ผมหัวเราะพรืดออกมาทันทีที่มันเบะหน้าเบะตา “นอกจากจะตัวเหมือนหมีขาวเก็บพลังงานเตรียมจำศีลละนะ ยังปากเสียชิบหายอีกมื๊งงง กูร้องไห้เลยอ่ะเมื่อวาน ไอ้เข้ มันบอกว่ากูเคยชินกับความด้อยพัฒนาของประเทศเหรอเลยเอาแต่หลงคิดว่าภาษาไทยคือที่สุด กูไม่คิดบ้างเหรอว่ารู้ภาษาเดียวอ่ะเหมือนลิงชิมแปนซี คือแม่งด่ากูเป็นลิงชิมแปนซีจนกูร้องไห้ได้อ่ะไอ้เชี่ย!!” ผมหัวเราะแทบน้ำตาจะไหล

   “อีกอย่างเว้ย คือกูไม่เคยทำโจทย์จับเวลาข้อละนาทีครึ่งแบบจริงจังเว้ย พี่เขาวางโจทย์มาตรงหน้าแล้วให้ทำจับเวลาอย่างกับกุเป็นนักกีฬาว่ายน้ำไอ้เวร ยังไมทันอ่านเหี้ยอะไรก็หมดเวลาละโคย พอรวมคะแนนเสร็จแม่งด่ากูว่าเป็นชิมแปนซี คะแนนไม่ถึง 1/5 ลิงชิมแปนซีก็ทำได้ ไอ้เชี่ยอยากถอดรองเท้าแล้วเอาตบหน้ามากกก”

   “กูว่ากูโชคดีที่เจอพี่คิว” ผมยังคงหัวเราะต่อ

   “แต่คือยอมรับว่าแม่งเก่งจริงเว้ย คือตอนที่แม่งสอนกูนะมันก็เล่นเกมมือถืออยู่เว้ย ไม่ถือหนังสือไม่ถือโพยอะไรทั้งนั้น แถมกูถามอะไรมันตอบได้หมด เจอศัพท์ห่าเหวอะไรมันก็บอกได้โดยไม่แปลอ่ะ กูเลยถามพี่มันไปว่าเคยเรียนต่างประเทศมั้ย มันบอกว่าไม่ แต่มันดูหนังอะไรงี้เป็นภาษาอังกฤษ แต่ที่เทพกว่านั้นคือมันพูดญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสได้เว้ย โคตรนับถือ”

   “แต่เมื่อกี้มึงด่าเหมือนไม่นับถือพี่เขาเลยนะเว้ย”

   “นับถือบางเรื่อง”
   




   เย็นนี้ผมมาถึงที่เรียนเร็วกว่าปกติเพราะ...ในไลน์พี่เขาเขียนว่า Happy Birthday to me นั่นแหละ ผมเลยมาเดินหาซื้อของขวัญให้พี่เขา เอาเข้าจริงเวลาผ่านไปแป๊บเดียว...ก็เหลืออีกแค่ 50 วันแล้วที่จะสอบGATPAT บอกได้เลยว่าคะแนนผมดีขึ้นเป็นกราฟที่สวยเลยทีเดียว ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมค่าเรียนกับพี่เขาถึงแพง นอกจากนั้นยังจองตัวลำบากอีก

   สุดท้ายผมก็ตัดสินใจซื้อปากกาที่มันเลือกสีใส่ข้างในเองได้ ผมเลือกลายไม่ถูกเลยได้ลายตัวทานูกิมา ไส้ไส้ละ50บาท กับตัวปลอก 70 บาท รวมๆแล้วแม่งแพงบรรลัย แต่ไม่เป็นไร ผมขอบคุณพี่เขาจากใจจริงๆที่ขุดคะแนนผมขึ้นมาได้ถึงจุดนี้

   “วันนี้มาก่อนพี่ซะได้ ขอโทษทีๆ เพื่อนเรียกค่อนข้างเยอะ” ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าพร้อมกับจะหยิบของขวัญให้พี่เขา ก่อนที่จะเจอผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเรียกพี่เขา พอเห็นแล้วอดนึกถึงติวเตอร์ที่ไอ้นัทบรรยายสรรพคุณเอาไว้ หมีขาว...กล้ามบึก...หน้าโหด...ปากเสีย

   “อันนี้ของกู อันนี้เพื่อนชะนีที่คณะฝากมาให้ กูว่าจีบมึงชัวร์เลย” พี่เขาวางตุ๊กตาหมีสีชมพูพาสเทลที่บอกว่าเป็นของตัวเอง พร้อมกับกล่องใส่ปากกาที่เหมือนกับผมเป๊ะๆแล้วบอกว่าอันนั้นของเพื่อนผู้หญิงที่คณะ ไอ้เชี่ย..เข้าใจความรู้สึกที่ซื้อของขวัญเหมือนกันแล้ว แม่งเฟลสัส แต่ไม่เป็นไร ผมหน้าด้าน

“แต้งกิ้วนะมึง ฝากแต้งกิ้วเพื่อนมึงด้วย” เอาเข้าจริงเห็นถุงของขวัญพี่เขาเต็มมือเลยย โอ้โห ความฮอตของคนเรานี่

“เอาเถอะๆ ไปละๆ มีว่าที่หมอที่ต้องสอน แม่งเรียนเก่งอยู่แล้วเสือกหาเรื่องมาให้กูด่า” ผมรู้ทันทีว่านี่แหละติวเตอร์ที่เพื่อนผมด่าเช้าด่าเย็นมาให้ฟังเกือบๆยี่สิบวันแล้ว เอาเข้าจริงก็ตลกดี พี่เขาดูเป็นผู้ชายโหดๆแต่อาจจะเพราะว่าอยู่คณะอักษรศาสตร์ละมั่งเลยออกจะดูใจคอมุ้งมิ้งพอประมาณ

“เอาการบ้านมาดูซิ ขอเดาว่าทำไม่ได้เยอะ”  ผมพยักหน้ารับพร้อมกับยื่นชีทไป “วนมาตรีโกณทีไรคะแนนแย่ตลอด” ผมท่องอะไรก็ท่องได้นะ แปลกที่ทำไมท่องตรีโกณไม่ได้สักทีวะ พอมาพิสูจน์สูตรเสือกทำโจทย์ไม่ทัน2นาที...

“แป๊บนะพี่คิว” พี่เขาพยักหน้าพร้อมกับวงปากกาแดงต่อ

“อันนี้ให้ HBD นะพี่”

“เหยยย ซื้อมาให้ด้วยอ่ะ” พี่เขาทำท่าดีใจจนออกนอกหน้า ผมงี้หน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที “แกะเลยได้ป่ะ” ผมพยักหน้ารับพี่เขาไปก่อนที่พี่เขาจะแกะของขวัญเลย ขอย้ำว่าแกะเลยโดยที่อันของสาวคณะอักษรยังไม่ได้แกะ พอแกะเสร็จก็ยิ้มแป้นมองปากกาที่ผมซื้อทันที “อันนี้โคตรแพงเลยนะเว้ย รวยเหรอไง” เออรวย ไม่รวยจะเรียนกับมึงได้เหรอไงวะ

“มีความสุขมากๆนะพี่”

“ขอบคุณมากเลยเว้ย โอ๊ยย ดีใจ เป็นลูกศิษย์คนแรกที่ให้ตรงวันเลยนะ” ผมหัวเราะทันที ว่าแล้วพี่เขาก็เก็บปากกาอันเก่าใส่ประเป๋าไปแล้วใช้อันที่ผมให้แทน แบบนี้สาวไม่ติดตรึมเลยเหรอไงวะเนี่ย ขนาดผมเป็นผู้ชายอยู่ด้วยแล้วใจยังเต้นตุ๊มๆต่อมๆเลย ไหนจะหน้าร้อนหลายครั้งมากเวลาอยู่ด้วย พี่เขาเป็นคนที่น่ารักและเฟรนด์ลี่ได้ธรรมชาติมาก ตอนแรกก็นึกว่าพี่เขาเฟคอะไรทำนองนั้น แต่เจอกันมา50กว่าวันจะว่าเฟคก็ไม่ใช่แล้วล่ะ เหนื่อยแทน อีกอย่างนะ ผมเจอพี่เขาทุกวัน50วัน โดยที่พี่เขาไม่หยุดสอนเลย แปลกมาก ขอเดาว่าต้องมีความรับผิดชอบมากๆจริงๆถึงจะจัดเวลาได้ดีขนาดนี้ “ว่าแต่ไนท์เกิดวันไหนวะ”

“วันสอบ PAT1 พอดี”

“คือดวงแกเหมาะเจาะกับPAT1เว้ย มันกำลังบอกว่าแกจะได้คะแนนดี” ผมหัวเราะกับการอวยของพี่เขานิดหน่อย แต่วันนี้ก็ถือว่าราบรื่นดี พักนี้พี่เขาสั่งการบ้านน้อยลง แต่เป็นโจทย์ที่ยากมากขึ้น และแน่นอนว่าผมยังใช้เวลาทำเท่าๆเดิม แต่ผมเริ่มเอาโจทย์ที่อื่นมานั่งทำมากขึ้น พร้อมกับอ่านวิชาอื่นไปในตัว

อีกอย่างคือพักหลังมานี้ผมเริ่มเรียนที่โรงเรียนน้อยลงเยอะมาก อย่างวิชาบางวิชาเช่นการงานอาชีพ สุขศึกษา ผมเริ่มไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่ แต่อ่านๆเอายี่สิบนาทีก่อนสอบแล้วเข้าสอบ เวลาในคาบก็เอาแต่ทำโจทย์ๆๆ โดนด่าบ้างบางครั้งแต่ไอ้นัทก็เถียงแทนผมตลอดเพราะมันก็ทำเหมือนกัน ยิ่งหลังๆมานี้หนักสุดๆวิชาพละผมเริ่มโดดมานั่งอ่านหนังสือห้องสมุดแล้ว





20 วันแล้วสินะ...จะสอบแล้ว ใจหนึ่งรู้สึกไม่พร้อม อีกใจก็..ไม่พร้อมอยู่ดี

อีกอย่าง วันนี้เรียนกับพี่คิววันสุดท้ายแล้ว

“ฮู่วว เราอยู่กันมา 90 วันแล้ว เป็นไงบ้าง” พี่เขาตรวจข้อสอบชุดล่าสุดที่ผมทำแล้วพยักหน้าชมเบาๆ คือมันเป็นชอบ พ.ศ.ล่าสุด อีกอย่างคะแนนผมไม่แย่มาก เลยได้รับคำชมเพียบ อีกนิดหน่อยคือวันนี้พี่เขาเสียงแหบมาก เหมือนจะป่วยพอประมาณ แต่ก็หอบสังขารมาสอนอยู่ วันนึงพี่เขาก็สอน 4 คน ทำให้ตอนมาเจอผมสภาพดูย่ำแย่พอประมาณ

“พี่ควรนอนพักบ้างนะ”

“วันสุดท้ายแล้ว ได้นอนยาวๆเลย” พี่เขาบอกว่าให้เหลือสิบวันเอาไว้เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุดก่อนสอบ อ่านหนังสือสบายๆ ทำโจทย์ปกติ พยายามทำตัวให้ไม่ป่วย นอนให้พอ กินให้อิ่ม อย่าไปเจออะไรที่กระทบกระเทือนใจ ทำนองนั้น ซึ่ง...ไอ้ที่กระทบกระเทือนใจผมที่สุดก็ไม่ได้เจอพี่คิวเนี่ยแหละ

“จะบอกว่าแกเป็นคนนึงที่พี่สอนแล้วภูมิใจว่ะ” ผมหัวเราะเบาๆทันที “คือส่วนมากจะเจอแต่เด็กที่เก่งอยู่แล้วแล้วมาเตรียมเอาคะแนนเกิน 150 เกิน 180 กัน แต่แบบแกเป็นเด็กคนนึงที่จะเอาแค่ให้ถึง90พี่ก็ว่าตลกดี ไม่เคยสอน แต่เอาจริง ถ้าแกได้เกิน90แบบที่ทำอันนี้อ่ะ แกก็ชนะเด็กเกิน80%ของประเทศแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเพราะแกขยันเว้ย น้อยครั้งที่จะเจอเด็กที่ทำโจทย์มาเท่าจำนวนที่สั่ง ไม่วายขอเพิ่มอีก คือพี่นับถือใจแกว่ะ”  แล้วพี่เขาก็ลูบหัวผมอีกครั้ง ผมเริ่มเขินอีกแล้ว

กลัวว่าพอเลิกเรียนแล้วผมจะไม่มีข้ออ้างมาหาพี่เขา...เอาไงดีวะ อยากบอกชอบนะ แต่ไม่กล้าอ่ะ

“สิบวันนอนให้พอนะ ท่องศัพท์เยอะๆ สูตรฟิสิกส์ท่องดีๆ อ่านความถนัดวิศวะด้วย” ผมพยักหน้ารับพี่เขาก่อนที่จะเดินออกมาจากร้านพร้อมกัน พี่เขาพาผมไปส่งรถไฟฟ้าเหมือนทุกวันวันนี้อยู่คุยกันดึกพอสมควร นี่ก็สามทุ่มกว่าๆแล้ว คนค่อนข้างน้อยพอประมาณเลยแหละ

“ถ้าผมติดพี่ต้องให้รางวัลผมจริงๆนะ อย่าลืมนะ”

“ไม่ลืมเว้ยย” อีกอย่างนะ...คืออาจจะเพราะว่าพี่เขาเฟรนด์ลี่แคร์คนอื่นล่ะมั้ง พี่เขายังใช้ปากกาของผมอยู่เลยด้วย มันน่าดีใจตรงนี้แหละ เล่นเอาผมมโนไปหลายอย่างมาก แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้ว่าเวลาพี่เขาสอนคนอื่นพี่เขาก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า

“พี่คิว”

“หืม” พี่เขาหันหน้ามาทำตาแป๋วๆใส่ผมไม่วายกระพริบปริบๆมองอีกต่างหาก

“ผมชอบพี่ว่ะ”

“พี่ก็ชอบแกเว้ย” ว่าแล้วก็ยิ้มแป้นโชว์ฟัน ผมงี้ถอนหายใจยาวๆทันที ผมรู้ว่าพี่เขารู้ว่าผมจะบอกว่าอะไร แต่ที่ตอบมาอ่ะ คือเปลี่ยนเรื่องคุยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ซึ่งผมไม่ยอมเว้ย

“ผมชอบพี่แบบอยากได้เป็นแฟนอ่ะ” พี่เขาค่อยๆหุบยิ้มก่อนที่จะแสร้งทำเป็นมองทางอื่น

“ไว้คุยกันวันรับน้องเนอะ” ว่าแล้วก็กลับมายิ้มอีกครั้งหนึ่งแล้วโบกมือลาผม...

“แสดงว่าถ้าผมติดพี่จะยอมเป็นแฟนผมเหรอ”

“อยากรู้ก็สอบให้ติดสิ” ว่าแล้วพี่เขาก็หันหลังเดินกลับไป ทีงี้ผมยิ่งยิ้มกับตัวเองหนักขึ้นไปอีก โอ๊ยยย งานนี้ไม่ติดไม่ได้แล้วเว้ย!!!!! สาธุๆๆๆๆ ถ้าติดนอกจากจะได้มหาลัยยังได้แฟนอีกนะเว้ย!!!





เออนั่นแหละ คะแนนผมออกมาค่อนข้างสวยงามจัดว่าดีกว่าที่คิดด้วยซ้ำ ส่วนPAT3 ความถนัดวิศวะผมว่ามันออกจะน้อยไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี แต่สำหรับเรื่องนั้นช่างมันเถอะ เพราะผมยื่นคะแนนไปแล้ว เหลือแค่รอให้ถึงเดือนเมษายนเพื่อที่จะรู้ผล แต่ก่อนหน้านั้น...นี่เดือนมีนาคมครับ

คะแนน กสพท ออกไง แล้วจะได้รู้กันว่าใครจะได้เป็นหมอบ้าง

ผมนั่งอยู่ที่บ้านไอ้นัทที่เอาแต่นั่งเครียดรอคะแนนออก ผมพยายามช่วยให้มันไม่คิดมาก เอาแค่ว่ามันไม่มีทางหลุด4อันดับแน่ๆ แต่ดูแล้วมันคงหวังกับที่1เอาไว้มาก

ผมเป็นคนกดเปิดเข้าเว็ปให้มัน ส่วนมันเอาแต่หลับตาเหมือนกับดูหนังผีทำนองนั้น

“ได้อันดับ4ว่ะ” ผมบอกมันไปทีงี้มันเบิกตาโพร่งมามองทันทีทีนี้ผมหัวเราะก๊ากออกมาทันที

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” แล้วบ้านมันก็แตกทันที ณ จุดนั้นครับ มันติดอันดับหนึ่ง...โรงพยาบาลที่มันชอบไปเดินส่องมากที่สุด แถมด้วยแว๊บไปวังหลังไปหาอะไรกิน นั่นแหละครับมันติดพร้อมกับหอมแก้มผมซ้ายขวาวิ่งลงชั้นล่างไปบอกแม่มันทันที ทีงี้สงสัยแม่มันได้ปิดซอยเลี้ยงเลยก็ว่าได้ ผมหัวเราะทันที คือมันอ่ะถ้าหลุดจะหลุด4อันดับ เพราะมันเลือกทุกตัวที่คะแนนใกล้กันมาก แต่พอมันได้แบบนี้แล้วผมก็บอกได้คำเดียวครับ คือแม่งสุดยอดจริงๆ แม่งเก่งจริง

“กูจะเป็นหมอแล้วมึง อีก6ปีๆๆๆๆ” ผมหัวเราะแทนมันทันที เหลือต่อไปก็ของผมสินะ..





เออนั่นแหละ ผมเข้าใจความรู้สึกมันแล้วที่ต้องลุ้นหลับตาอยู่หน้าคอม ไอ้นัทเป็นคนเปิดเว็บคอยกด F5 ให้ผมอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งคะแนนออกแล้วนั่นแหละ...4อันดับเหมือนกันๆๆๆๆ ขอให้รอดเถอะสาธุ!! อันดับไหนก็ได้ๆๆๆๆ

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เออมันกรี๊ดแทนผมแล้ว บ้านแตกแทนไปแล้ว ผมลืมตาขึ้นมองสาขาที่ตัวเองติด “วิศวกรรมเคมี” ไม่รู้เชี่ยไร เอาแค่ว่าตอนนี้ผมดีใจมาก กรีดร้องตามมันอยู่ในห้องกันสองคน ไฟฟ้งไฟฟ้าไม่ติดช่างแม่งติดอันดับ2ผมก็กรี๊ดจนบ้านจะแตกอยู่แล้วเนี่ย

ประเด็นคือ เย็นนี้ที่กินข้าวเป็นหนึ่งในวันที่ผมรู้สึกดีที่สุด ทั้งพ่อกับแม่ชมผมพร้อมกับ...ลูบหัวผม แค่นี้แหละที่ผมต้องการ แค่นี้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าน้ำตาผมไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แค่นั้นแหละแม่ก็ดึงผมเข้าไปกอดพร้อมกับผมที่สะอื้นทั้งๆที่ข้าวเต็มปาก คือข้าววันนี้แม่งอร่อยฉิบหาย ผมเคยบอกว่าผมเรียนหนักมากเพื่อที่จะเข้ามหาลัย เพื่อที่จะมีอนาคตที่ดี แต่บอกเลยตอนนี้ผมรู้แล้วที่ผมพยายามมาตลอดมันเพื่ออะไร มันเพื่อที่ว่า...ผมจะได้รับคำชมจากพ่อกับแม่นั่นแหละ





“ยิ้มขนาดนั้นอ่ะ ข่าวดีใช่มั้ย”

   “ไม่ได้กินบุฟเฟต์แซลมอนอ่ะ” ผมทำปากยื่นพร้อมกับมองหน้าพี่เขา ก็ผมไม่ได้ติดวิศวะไฟฟ้านี่นา “แต่อยากได้อันนี้” ผมชี้นิ้วไปที่พี่คิว พี่เขาเลยหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆทันที

   “บอกก่อน สรุปติดอะไร”

   “อันดับสอง วิศวะเคมี”

   “เหยยยย เก่งว่ะ!!!” ว่าแล้วก็เอามือมาขยี้หัวผมพร้อมกับยิ้มแป้นจนแก้มจะแตกเลยก็ว่าได้ “แต่อดกินแซลมอนนะ”

   “พอเลยย เลิกเปลี่ยนเรื่อง” ผมทำแก้มป่องมองพี่คิวทันที

   “ทำไมตอนนั้นที่เรียนอยู่ไม่น่ารักขนาดนี้ ทำไมตอนนี้ต้องมาทำตัวน่ารัก” นั่นแหละ พี่เขาดึงแก้มผมด้วย ตอนนี้น่าจะหน้าแดงไปถึงหูแล้วล่ะมั้งเนี่ย “บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอไง บอกว่าค่อยคุยตอนรับน้อง” ผมทำปากยู่อีกครั้งหนึ่ง ทำไมว๊า ทำไมต้องรอแต่รับน้องๆๆ อยู่ได้ ติดแล้วเป็นแฟนไม่ได้เหรอไงวะ

   “ทำไมอ่ะ”

   “แล้วไงอ่ะ”

   “ไม่ต้องมากวนเลยพี่คิว” ผมหรี่ตามองพี่เขาพร้อมกับที่พี่เขาเบี่ยงหน้าไปทางอื่นแล้วหัวเราะผม ผมก็ได้แต่ขยับตัวเดินตามสายตาพี่เขา นี่ก็เอาแต่หลบผมอยู่นั่นแหละ น่าหมั่นไส้

   “เออน่า รอรับน้องก่อนนน“

   “ทำไมอ้ะ ก็อยากรู้” ผมคะยั้นคะยอต่อ ยังไงวันนี้ก็อยู่ด้วยกันทั้งวัน ยังไงก็จะคะยั้นคะยอแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
   .
   .
   .
   “อยากได้เกียร์”


โม้โม้ : เห็นเค้าว่ากันว่าปีนี้ GATPAT ปีสุดท้ายแหละ 55555 เห็นน้องชายเรียนพิเศษอย่างเยอะเลยเอามาแต่งเป็นนิยายซะเลยแล้วกัน ขอบคุณทุกท่านที่กดเข้ามาอ่านน๊าาา ฝากเม้นติชมหน่อยน๊าา ในใจก็แอบอยากได้เม้นแหละ แต่แค่มีคนกดเข้ามาอ่านเค้าก็ดีใจแล้ว > <
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ BeautifulGirl

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #1 เมื่อ26-09-2016 12:10:23 »

โอ้ยยยย น่ารักกกกก #อย่าลืมใส่กฎเล้านะคะ #เดี๋ยวกระทู้ปลิว

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #2 เมื่อ26-09-2016 13:16:15 »

แอร๊ยยยย พี่คิวน่ารักมากมายยย
ไนท์รอเอาเกียร์ไปให้พี่เขานะ อิอิ
ปล. อย่าลืมแปะกฎเล้าเน้ออออ

ออฟไลน์ Magicfunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #3 เมื่อ26-09-2016 19:51:47 »

น่ารักจัง มาต่ออีกน้าาาา

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #4 เมื่อ01-10-2016 22:16:50 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ someone0243

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #5 เมื่อ01-10-2016 23:33:43 »

โอยยยยยย เห็นชื่อเรื่องแล้วหลอนที สิ้นเดือนมันจะมาล้าว :sad4: :z3:  :ling3:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #6 เมื่อ02-10-2016 01:04:07 »

โอ๊ย น่ารักมาก :กอด1:
พี่คิวมีจุดประสงค์อย่างงี้นี่เอง หุหุ :katai3:

ปล. สอบแพทหนึ่งสมัยนั้นคะแนนกากมาก ฮ่าๆ



ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #7 เมื่อ27-10-2016 22:22:16 »

น่ารักนะ แต่..ใครเมะ ใครเคะคะเนี่ยยยยย สงสัยมากกก

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #8 เมื่อ06-11-2016 00:23:11 »

โอ้ยยยน่ารักกกก
ทำไมปีเราสอบมันไม่มีโมเม้นไรงี้บ้างอะ
ติวเตอร์ด่าทีน้ำตาซึม ไม่มีความฟริ้งงี้เลย
กระตุ้นได้จริงแต่เฟลไปก่อนนะไรงี้5555
ต้นเรื่องนี่ก้ว่าชัดๆละ แน่ๆเลย โดนเด็กกินแน่ๆ
พี่มันละมุนน่ารักอบอุนขนาดนี้
ท้ายเรื่องตำแหน่งสั่นคลอนค่ะ55555
น้องน่ารักมุ้งมิ้งขี้อ้อนไปอีกดิ อิพี่เลยกลายเปนเมะร่าเริงขี้อ่อยเลย555
แหมมม "อยากได้เกียร์" โอเค๊ นี่ไม่ได้อ่อยใช่มั้ย
ขอบคุณค่าา

ออฟไลน์ peaceminus1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #9 เมื่อ16-11-2016 00:11:43 »

คร่าาาาา เกียร์ค่า 55555
แหมๆ ตอนแรกนึกว่ามีอะไร ทำไมรอวันรับน้อง
กรี้ดดด ฉันก็อยากได้เกียร์บ้าง  :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
« ตอบ #9 เมื่อ: 16-11-2016 00:11:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #10 เมื่อ24-09-2018 10:43:03 »

อะโหยยยยน่ารักกก อยากได่เกียร์บ้างจังงงง

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #11 เมื่อ24-09-2018 13:17:36 »

น่าร้ากกกกกกกก

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] PAT1
«ตอบ #12 เมื่อ24-09-2018 14:16:15 »

เอ็นดู..อยากอ่านต่อ  :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด