• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 313199 ครั้ง)

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สู้ๆนะจริงใจ งานช้างชัดๆ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ตลกจริงใจ
ขำความหมั่นหน้าของจริงใจ
สู้เขานะลูก

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
จริงใจสู้ๆ เดี๋ยวภัคก็ใจอ่อน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ่อนโยน จริงใจ...มันดูขัดกับภาพลักษณ์จริงใจก่อนหน้านี้เลยเนอะ ฮาาาาา

จะคอยดูและเอาใจตช่วยนะจริงใจ สู้ๆ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เอาใจช่วยให้สำเร็จนะจริงใจจะได้ปวดหัวเรื่องพี่หมูน้อย

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: จริงใจแมนมากรุกแบบแมนๆนี่เน้อ

ออฟไลน์ hoshichi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
จริงจ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อะไรจะหล่อ และมีความพยามเบอร์นั้น
ขอสักคน ห่อกลับบ้านได้มั้ยยยยยยย
ภัคใจอ่อนไวๆนะลูก อิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 พี่ว่าจริงใจควรผุกมิตรกับพี่ทิวา  อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จริงใจสู้ๆ เอาชนะใจภัคให้ได้นะลูก ถ้าไม่ได้พี่รับเคลมเอง :hao7:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ NOPKAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-1

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
เอาแล้วๆๆ จิงใจเดินหน้าเต็มกำลังได้เลยย.   :a2:

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 10
ผมกับวันซวย ๆ







   “ไง ไอ้เสือ” ผมยืดตัวตรงพร้อมกับยืนขึ้น วางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะแล้วยกมือไหว้คนที่เข้ามาใหม่

   “สวัสดีครับ คุณปู่”

   “ไหว้พระเถอะ เอ้า นั่ง ๆ” ปู่ตบไหล่ผมปุ ๆ แล้วให้นั่งลงข้าง ๆ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ปู่ก็ยังแข็งแรง และยังหล่อด้วย

   “ไหนพระครับ?”

   “บ๊ะ! เด็กนี่มันกวนจริงวุ้ย!” ปู่บ่น ขนาดพ่อที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ยังหัวเราะขำ

   วันนี้ผมตามพ่อเข้าบริษัทด้วย มาศึกษางานและช่วยงานพ่อไปในตัว ผมที่ปิดเทอมและกำลังว่างจึงไม่ขัดอะไร ได้เงินใช้ด้วยไงประเด็น อีกอย่างผมก็เริ่มศึกษางานตั้งแต่อายุสิบห้าแล้ว ที่บ้านไม่ได้บังคับหรอกครับ พ่อกับแม่ไล่ด้วยซ้ำเวลาผมเข้าไปวอแว ท่านบอกว่าเป็นเด็กก็ควรไปเล่นตามประสาเด็ก อย่าเพิ่งเข้ามาหาเรื่องเครียดใส่ตัว พอมาถึงตอนนี้แล้วซึ้งมาก ทำไมไม่เชื่อพ่อกับแม่วะ

   “อย่าไปคุยกับจริงใจมากเลยครับพ่อ ปวดหัวเปล่า ๆ”

   “นั่นสิ พ่อก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

   “อ้าว” แย่แล้วไง ทำไมเข้ากันดีขนาดนี้ นี่จริงใจไง จักรพรรดิไงครับ จำกันไม่ได้เหรอ? ผมแกล้งทำหน้ามุ่ย ปู่หัวเราะ พ่อเองก็วางปากกาแล้วเดินมานั่งกับเราที่โซฟาชุดใหญ่ในห้องทำงาน

   ก๊อก ก๊อก

   เสียงประตูดังขึ้น ไม่นานคนเคาะก็เดินเข้ามา ผมแอบหันไปเบ้ปาก พ่อที่นั่งข้าง ๆ เห็นก็ขำเล็กน้อย

   “คุณพ่อเข้าบริษัททั้งทีทำไมไม่บอกวิเลยคะ?”

   “ฉันก็โตจนใกล้เข้าโลงแล้ว ไปไหนมาไหนเองได้”

   “แต่วิเป็นห่วงคุณพ่อนะคะ”

   “ขอบใจมากวิ” ปู่ตอบสั้น ๆ ผมหันหน้าไปหาพ่อ ก้มหน้าลงนิดหน่อยแล้วกลอกตา พ่อคงเห็น ถึงได้เขกหัวผมด้วยการบังหน้าว่าลูบหัวแบบนี้ ทำไงได้ ก็คนมันไม่ชอบนี่หว่า

   เจ้าของเสียงแว้ด ๆ นั่นคือคุณป้าวิภา ภรรยาของลุงจอห์น ซึ่งลุงจอห์นเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของพ่อผมและลุงเป็นลูกคนโตด้วย ผมไม่ค่อนกินเส้นกับป้าวิภาเท่าไหร่ เพราะท่านต่างหากที่ชอบตั้งแง่กับเรา หาว่าเราจะมาแย่งสมบัติบ้างล่ะ ทำดีประจบเอาหน้าบ้างล่ะ น่ารำคาญ ว่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง ตระกูลอัศวโยธินทร์ถือว่าเป็นตระกูลดังนะครับ เราก็รวยมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษแล้วป่ะ ไม่ใช่เพิ่งรวย พูดไปแล้วเดี๋ยวคนเขาจะหมั่นไส้เอา

   ทุกวันนี้บางทียังมีความรู้สึกว่าอยากเอาเงินมาพับเรือเล่นแล้วปล่อยให้ลอยไปสายน้ำเลย ก็แย่ละ หมายถึงว่า ทางนี้ก็มีพอแล้ว มากเกินไปด้วยซ้ำ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปแย่งสมบัติอะไรเลย มันไร้สาระ นี่ปีอะไรแล้ว การแย่งสมบัติมันควรจะหายไปได้แล้วหรือเปล่า และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราสามคนใช้นามสกุล อัศวโยธินทร์ หรือนามสกุลแม่ แทนที่จะใช้นามสกุลพ่อ นั่นก็คือ ฉัตรบดินทร์รัตน์

   ผมว่าก็ดี ไม่วุ่นวาย ขนาดไม่ได้ใช้นามสกุลฝั่งคุณปู่ยังถูกจิกขนาดนี้ ถ้าใช้แล้วจะขนาดไหน ไม่รู้ป้าวิภาจะอกแตกตายเลยหรือเปล่า ผมว่าแม่ฉลาดและวิเคราะห์ไว้ได้ดีมากเลย

   “อุ๊ย หลานมาด้วยเหรอ? ไม่สวัสดีป้าหน่อยหรือจ๊ะ เด็กสมัยนี้ไร้มารยาทเสียจริง”

   นั่นไง เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าน่ารำคาญ

   “สวัสดีครับ” ยกมือไหว้ ป้าวิภารับไหว้ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ผมกดยิ้มมุมปากแล้วพูดต่อ “เห็นว่าคุณป้าวิภากำลังคุยกับคุณปู่อยู่ ผมจึงไม่ขัดให้เสียมารยาทน่ะครับ ต้องขอโทษด้วยหากทำให้คนสมัยคุณป้าไม่พอใจ”

   “จริงใจ” พ่อปรามเสียงเข้ม ป้าวิภาจิกตาใส่แทบถลน คงอยากกรี๊ดเต็มทน

   “โจเลี้ยงลูกยังไงถึงได้พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้”

   “ผมก็เลี้ยงตามปกติแหละครับพี่วิ จริงใจเป็นเด็กซื่อตรงเขาก็พูดไปตามที่คิด แถมยังเป็นเด็กผู้ชาย คำพูดจึงแข็งกระด้างแบบนี้ เพราะเขาประจบประแจงไม่เป็น”

   แทบลุกขึ้นยืนปรบมือ นอกจากน้าเจ้าแล้วก็พ่อนี่แหละครับที่ผมจัดให้เป็นไอดอลบนหิ้ง โคตรคูล

   ป้าวิภาฟึดฟัด แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ปู่ก็รับรู้ถึงสงครามเล็ก ๆ นี้ ท่านถอนหายใจเบา ๆ ผมยิ้มเผล่ ไม่ได้สำนึกอะไรหรอก

   “เจ้าจอห์นไปไหนล่ะวิ? ไม่มาด้วยกันรึ?”

   “คุณจอห์นคุยงานอยู่ค่ะ วิทราบจากเลขาว่าคุณพ่อมา จึงรีบมาหาก่อน นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว คุณพ่อหิวหรือยังคะ วิมีร้านอาหารดีต่อสุขภาพแนะนำค่ะ”

   “เอาสิ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”

   “ค่ะ” ป้าวิดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แต่ก็รับคำของคุณปู่

   “วิภากลับไปช่วยเจ้าจอห์นทำงานก็ได้ เดี๋ยวฉันจะเดินดูบริษัทสักหน่อย จริงใจไปกับปู่ไหม?”

   “จริงใจยังเด็ก ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกค่ะ วิไปด้วยดีกว่านะคะคุณพ่อ”

   “ผมขอไปทำงานก่อนแล้วกัน ให้จริงใจอยู่ศึกษางานกับผมดีกว่า ตอนเที่ยงเจอกันครับพ่อ” พ่อผมพูดแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน ซึ่งมีป้ายบ่งบอกชัดเจนว่าตำแหน่งนั้นคือ ‘ประธานบริษัท’

   “เอางั้นเหรอ อืม ๆ ก็ได้” คุณปู่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะออกจากห้องทำงานของพ่อผมไป ส่วนป้าวิภา ท่านหันมองจิกพวกเรานิดหน่อย แล้วสะบัดหน้าออกไปเช่นกัน

   ผมกับพ่อมองหน้ากัน พ่อไหวไหล่ แล้วก้มทำงานของตัวเอง ผมกลับไปนั่งลงที่เดิม มองแฟ้มเอกสารกับโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างกันแล้วชั่งใจว่าจะหยิบอะไรดี...

   “แฟ้มไง ลังเลอะไรคุณ”

   “ก็แย่ละ...” จำใจปัดโทรศัพท์มือถือออกไปแล้วคว้าแฟ้มเล่มหนามาเปิดอ่าน “พ่อครับ... อยากกลับบ้าน”

   “หึหึ อย่างอแงครับ”

   ก็นะ เบื้องบนพูดมาขนาดนี้แล้ว ทำไมโลกถึงได้โหดร้ายกับผู้ชายอายุสิบเจ็ดปีอย่างผมนัก




   “สวัสดีครับคุณลุง”

   “สวัสดีครับ” ลุงจอห์นรับไหว้พร้อมยิ้มใจดีมาให้ ผิดกับภรรยาอย่างชัดเจน ไม่รู้ทำไมลุงจอห์นถึงได้ไปตกลงปลงใจกับป้าวิภาได้ แต่ก็นะ พวกเขาคงรักกัน ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของผม

   เมื่อทุกคนมาครบแล้ว จึงเดินทางไปร้านอาหารที่ป้าวิภาแนะนำด้วยรถตู้หนึ่งคัน ผมกับพ่อนั่งเบาะคู่แถวหน้า ส่วนแถวถัดไปนั้นคือป้าวิภา ลุงจอห์นและคุณปู่ กว่าจะผ่านการจราจรมาถึงร้านอาหารได้ก็เล่นเอากระเพาะแทบย่อยตัวเอง ทีแรกกะจะชวนแม่มาทานด้วยกัน แต่จากระยะทางแล้วคงต้องเปลี่ยนจากมื้อเที่ยงเป็นมื้อเย็นแทน

   พ่อกับแม่ไม่ได้ทำงานที่เดียวกันครับ อัศวโยธินทร์ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แม่ผมจึงเข้าไปบริหารตรงนั้นและตอนนี้ก็มีน้าเจ้าคอยช่วยอยู่ด้วย ฉัตรบดินทร์รัตน์ก็มีธุรกิจของตัวเอง และพ่อผมก็เป็นคนบริหารอยู่ ตามหลักการแล้วตำแหน่งนี้ควรจะเป็นของลูกคนโตใช่ไหมครับ มันมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้พ่อผมต้องมารับตำแหน่งนี้แทนลุงจอห์น และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ป้าวิภาเกลียดเราด้วย


   ผมเปิดประตูรถเองก่อนที่คนรถจะมาเปิดให้ และลงไปเป็นคนแรก อากาศข้างนอกร้อนมากจนนึกหงุดหงิดขึ้นมา ออกมาโดนแดดไม่นานเหงื่อก็ออก ทุกคนเข้าไปในร้านก่อนแล้ว ผมกับพ่อเดินรั้งท้าย ท่านส่งเงินหนึ่งพันห้าร้อยบาทมาให้ และผมก็รับมาอย่างรู้งานโดยที่พ่อไม่ต้องบอกอะไร เดินกลับมาที่รถ เคาะกระจกฝั่งคนขับ ลุงคนรถลดกระจกลงมา หน้าตาดูตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่มาก

   “มีอะไรหรือครับ คุณจริงใจ?” ลุงถามพร้อมกับเปิดประตูออกมายืนนอกรถ

   ผมส่งเงินที่พ่อให้มาให้ลุง “พ่อฝากมาครับ ให้ลุงไปหาอะไรทาน”

   “โอ๊ย ไม่เป็นไรครับคุณ ลุงไม่หิว ค่อยกลับไปกินก็ได้”

   “เที่ยงแล้วครับ รับไปเถอะ กว่าเราจะทานเสร็จก็อีกนาน กลับไปลุงก็ต้องทำงาน ไม่มีเวลาทานหรอก”

   “โธ่... ผมเกรงใจจริง ๆ ครับ”

   “อย่ากังวลเลยครับ แถวนี้มีร้านอาหารหลายอย่าง ลุงอยากทานอะไรก็ทานเลยนะ” ยัดเงินในมือใส่กระเป๋าเสื้อให้ลุง เพราะถ้ารอให้ลุงหยิบเอาเองคงต้องใช้เวลากล่อมนาน

   “มันเยอะนะครับ ตั้งพันห้าเชียว”

   ผมถอนหายใจ เสียงเริ่มเข้มขึ้น “ลุงครับ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องกังวลนะครับ สิ่งที่ลุงต้องทำตอนนี้คือทานข้าวเที่ยง ส่วนเงินนั่น ถ้าว่ามันเยอะ ก็เก็บไว้ซื้อของอร่อยไปฝากลูกลุงก็ได้นี่ครับ ผมหิวแล้วนะ ถ้าลุงยังไม่ไปทานข้าวผมก็ไม่ได้ทานอ่ะ”

   ลุงทำหน้าลำบากใจ ผมก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้หรอก มันจำเป็น

   “ขอบคุณครับคุณจริงใจ ขอบคุณครับ”

   “เฮ้ย! ไม่ต้องไหว้ครับ เดี๋ยวผมอายุสั้นกันพอดี”

   “คุณจริงใจกับท่านประธานเมตตาลุงมากจริง ๆ ขอบคุณมากครับ”

   “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวทานเสร็จแล้วผมโทรไปนะ”

   “ครับ คุณจริงใจ”

   บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร.... ยังจะให้บอกอีกเหรอ? ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะมัวแต่กินข้าวอย่างเดียว ผู้ใหญ่เขาก็คุยเรื่องงานกัน ผมคุยบ้างเวลาถูกถาม แต่เสียงส่วนใหญ่จะมาจากป้าวิภามากกว่า ผมทานอิ่มไปแล้ว แต่ยังต้องนั่งอยู่ก่อนตามมารยาท พ่อคงรู้ จากการขยับตัวยุกยิกของผม ถึงได้ไล่ให้ออกมาข้างนอก

   เลือกร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามเป็นที่นั่งรอผู้ใหญ่ สั่งเครื่องดื่มมาหนึ่งแก้วกับขนมหวานอีกสองอย่าง รสสัมผัสของเนื้อเค้กนุ่ม ๆ ทำเอานึกถึงจันทร์เจ้ากับจ๋าจ้าขึ้นมา แต่เอาไว้ก่อนเถอะ ถ้าซื้อไปคงไม่ถึงมือสองคนนั้น เพราะผมจะจัดการก่อน มันก็ไม่ได้อร่อยมากหรอกครับ แต่ก็อร่อยนั่นแหละ ถูกปากก็กินได้

   ระหว่างทานก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วย ผมกลายเป็นคนติดโทรศัพท์จริง ๆ ก่อนหน้านั้นจะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ แต่ตอนนี้ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เพราะตัวหอมคนเดียว จะว่าไปตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วผมก็ยังไม่ได้เจอเขาอีก ไม่มีข้ออ้างไปเจอครับ และผมก็ไม่รู้จะไปทำไม รู้แต่อยากเจอ นั่นเลยทำให้ระหว่างเราไม่มีคำพูดอะไรมาก ผมมีโซเชียลของเขาทุกอย่างก็จริง แต่ผมไม่ใช่ไฟลัมที่จะทักไปก่อน มันเก้อ ๆ ป่ะวะ เกิดเขาไม่ตอบหรือบล็อกไปเลยนี่หมาเลยนะ

   แต่คนที่ผมคุยด้วยจะเป็นเพื่อนเขามากกว่า พี่พีทนั่นแหละ พี่เขาน่ารักนะครับ แทะโลมผมบ้างแต่ก็ช่วยส่งข่าวตัวหอมให้ แต่การที่บอกว่ามีใครมาจีบตัวหอมอยู่บ้างนี่มันใช่เรื่องไหม แต่ที่บันเทิงสุดก็น่าจะเป็นคนที่ชื่อพี่เก่ง พี่แม่งฮา ผมบังเอิญเจอครั้งหนึ่ง วันสองวันก่อนนี่เองมั้งครับ ดูไม่มีพิษมีภัยดี และตอนนี้ผมก็ทำให้เขากลายเป็นคนส่งข่าวผมเรียบร้อย...

   ณภ. @pkaknp 2h
   แฟน?

   หือ? อะไรวะ กดเข้าไปในโปรไฟล์ แต่ก็ไม่มีข้อความอะไรที่ขยายคำว่าแฟนที่เขาโพสต์เลย เชี่ย! อยากรู้เลยเนี่ย เกิดอะไรขึ้นวะ

   ณภ. @phaknp 2h
   ทำไมโมโห

   ณภ. @phaknp 58m
   อีเหี้ย งง

   ณภ. @phaknp 55m
   ช่างแม่ง

   เดี๋ยว เพ้ออะไรเนี่ย! เขาพูดถึงเรื่องอะไรกัน ช่างแม่งละกัน พ่อโทรตามพอดี เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ไว้ค่อยวอแวก็ได้วะ ไม่ถามจ้าตัวเองก็ถามเพื่อนเขาก็ได้

   กลับมาบริษัทอีกครั้ง มองพ่ออย่างเว้าวอน แต่คุณจิรภาสกลับแค่ปรายตามองและแสยะยิ้มเท่านั้น เท่านั้นไม่พอ โยนแฟ้มใส่หน้าผมอีก ทำไมโลกถึงได้โหดร้ายนัก ที่เขาบอกว่ามนุษย์โหดร้ายก็เป็นเรื่องจริงสินะ ผมเชื่อแล้ว เอกสารที่มีแต่ตัวเลขทำเอาผมปวดหัวตุบ ๆ เฮ้อ... น่าเบื่อ ถ้าไม่ติดว่าได้เงินก็ไม่ทำหรอกนะ

   ครืด ครืด

   เหลือบมองโทรศัพท์สลับกับมองหน้าท่านประธาน พ่อไม่ได้สนใจอะไร ผมจึงยื่นมือไปคว้ามา

   [feb.no.9]: phaknp just posted a photo.

   phaknp สนุกเหรอ

   เป็นรูปภาพที่ตัวหอมทำหน้าบึ้งและมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของเขา คนนั้นวางคางบนหัวตัวหอม หลับตาลงหนึ่งข้างและยิ้มกว้าง

   ผมหน้าบึ้ง กลอกตาไปมา ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มก่อนจะกด report แล้วโยนมือถือทิ้งไป ผมกดรีพอร์ตเขามากกว่ากดถูกใจอีกมั้ง ก็ไม่ชอบ ถึงแม้คนที่เขาถ่ายด้วยจะเป็นเพื่อนเขาก็เถอะ ทำไมต้องถ่ายกับผู้ชาย ทำไมต้องทำหน้ายั่ว ทำไมต้องชอบโชว์เนื้อหนัง ผิวขาว ๆ ให้คนอื่นเห็น ผมโคตรหงุดหงิดเลย หวงทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ โวยวายก็ไม่ได้ สักวันจะเส้นเลือดในสมองแตกไม่ก็อกแตกตาย

   “คุณจักรพรรดิครับ”

   “ครับ ท่านประธาน”

   “ทำงานครับ”

   “หมดเวลางานแล้วนะครับท่านประธาน”

   “คุณทำงานเสร็จหรือยัง?”

   “ยังครับ”

   “ครับ ในเมื่อทำงานไม่เสร็จคุณก็ยังกลับไม่ได้ หรืออยากเอากลับไปทำที่บ้าน?”

   “ไม่ครับ”

   “งั้นก็ทำงานไปครับ ผมจะพักสักหน่อย”

   อ้าว ไหงงั้นล่ะคุณพ่อ ได้แต่แย้งอยู่ในใจ สิ่งที่พูดออกไปคือ...

   “ครับ...” รับคำเสียงอ่อย ก้มหน้าไปทำงาน




   ผมตรวจเอกสารที่พ่อให้มาไปเรื่อย ๆ คิ้วก็ขมวดเรื่อย ๆ เช่นกัน ความผิดปกตินั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ก่อนจะถือแฟ้มนั้นลุกไปหา

   “พ่อครับ ผมว่าตรงนี้มันแปลก ๆ”

   “หืม? ตรงไหนครับ?”

   “นี่ไง ตัวเลขจากตรงนี้กับตรงนี้ไม่เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่รายการเหมือนกัน ตัวเลขมันไม่น่าต่างกันมากขนาดนี้ไม่ใช่เหรอครับ?” ผมใช้ปลายดินสอชี้ขณะอธิบาย สบตากับพ่อ ท่านขมวดคิ้วเป็นปม ผมส่งแฟ้มเอกสารนั้นไปให้พ่อดู

   “จริงด้วยแฮะ จากฝ่ายบัญชีใช่ไหม?”

   “ครับ”

   “อืม เก่งมากจริงใจ” พ่อตบไหล่ผมและยิ้มให้อย่างชื่นชม ผมควรดีใจไหมวะ มันหน่วงแปลก ๆ

   “มีคนยักยอกเงินบริษัทเหรอครับ? ถ้าเขาทำ ทำไมถึงได้ทิ้งหลักฐานไว้แบบนี้ล่ะ?”

   “นั่นสิ คงต้องสืบสักพัก”

   “พ่อจะบอกใครไหม?”

   ท่านส่ายหน้า “ไม่ครับ”

   หน้าผมเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “ทำไม?”

   “ถ้าจะหลอกคนอื่นให้ได้ ก็ต้องหลอกคนของเราให้ได้เช่นกัน”

   “อ่า...”

   “จริงใจเอาไปก๊อปปี้ให้พ่อหน่อยครับ” ผมรับเอกสารนั้นมา ในห้องทำงานของพ่อมีเครื่องปริ้นท์และเครื่องถ่ายเอกสารอยู่ผมจึงไม่จำเป็นต้องออกไปด้านนอก เมื่อจัดการเรียบร้อยก็ส่งคืนให้พ่อ “ขอบคุณครับ จริงใจไปพักเถอะ เดี๋ยวพ่อทำเอง”

   “ผมอยากช่วย”

   “อยากไปเล่นที่ฝ่ายบัญชีไหม?”

   “พ่อจะให้ผมไปสืบเหรอ?” ความรู้สึกตอนนี้มันทั้งอยากทำและไม่อยากทำไปพร้อม ๆ กันที่ไม่อยากเพราะผมไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย แต่ที่อยากทำก็ไม่เพราะไม่ต้องการให้มีคนทุจริตอยู่ในบริษัท ถ้าปู่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ยังไม่แน่ใจ

   ครืด ครืด ครืด

   เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น แค่ปรายตามองทำเท่านั้น ตอนนี้คืออยากนั่งนิ่ง ๆ แต่ในหัวครุ่นคิดว่าใครแม่งทำเรื่องแบบนี่ จำนวนตัวเลขที่ต่างกันไม่ใช่น้อยเลย แล้วอีกคำถามคือ ทำมานานแค่ไหนแล้ว

   “ไม่ดูโทรศัพท์ล่ะ”

   “ไม่มีอารมณ์ครับ”

   “หึหึ ดูหน่อยสิ เผื่อคนส่งข้อความมาจะมีเรื่องด่วน”

   เรื่องด่วนก็ควรโทรมาสิ ไม่ใช่ส่งข้อความมาแบบนี้ ถึงอย่างนั้นผมก็คว้าโทรศัพท์มาดูอยู่ดี

   17:43 นี่จันทร์เจ้าเอง : จริงจายยยยยยย
   17:43 นี่จันทร์เจ้าเอง : มารับโหน่ยยยยยย
   17:43 นี่จันทร์เจ้าเอง : พี่อยู่คอนโดทิวา~~
   17:43 นี่จันทร์เจ้าเอง : ถึงแล้วโทรมาน้าาาาา
   17:44 นี่จันทร์เจ้าเอง : จุ๊บ ๆ

   “ก็แย่ละ” ผมพึมพำ เงยหน้าไปหาท่านประธานบริษัท “จันทร์เจ้าให้ไปรับครับ”

   “อืม ไปสิ”

   “แล้วเอกสารนั่น...”

   “พ่อจัดการเอง ไปรับพี่เถอะ ขับรถระวังด้วยล่ะ”

   “ก็ได้ครับ ก็ได้....!” รับคำอย่างจำใจ เก็บของของตัวเองใส่กระเป๋าจากนั้นจึงออกไปจากห้องทำงาน ต้องไปรับไอ้หมูอีก จิ๊!

   ยืนอยู่หน้าลิฟต์ ลังเลว่าจะใช้ลิฟต์ผู้บริหารหรือลิฟต์ทั่วไปดี แล้วผมก็เลือกลิฟต์สำหรับพนักงานหรือบุคคลทั่วไปครับ บรรยากาศค่อนข้างวังเวงเพราะเลยเวลาเลิกงานมาแล้ว แต่ยังมีพนังงานประปรายที่ยังนั่งทำงานกันอยู่ สายตาคมเหลือบมองตัวเลขที่แสดงเลื่อนผ่านไป ก่อนมันจะหยุดที่ชั้นชั้นหนึ่ง และมีคนเข้ามา ผมก้าวถอยหลังไปอยู่ที่มุมของกล่องโดยสาร เพื่อให้คนมาใหม่ได้มีพื้นที่

   “อุ๊ย...” พวกเขาดูตกใจที่เห็นผม มองหน้าเพื่อนร่วมงาน ปรึกษากันผ่านสายตาว่าจะเข้ามาหรือเปล่า

   “เชิญครับ” ผมบอกออกไป พวกเขายิ้มเจื่อน ๆ แล้วเดินเข้ามา แต่มีคนหนึ่งที่โทรศัพท์เข้าพอดี

   “พวกแกไปก่อนเลยก็ได้ ผู้จัดการโทรมา”

   “เอ่อ...” เพื่อนที่เขามาก่อนอึกอัก มองหน้าผม สลับกับเพื่อน

   ทำไมต้องเกรงใจผมด้วยวะ แค่เป็นลูกชายเจ้าของบริษัทแค่นั้นเอง ผมไม่เข้าใจมนุษย์เลย

   “รอได้ครับ” บอกพร้อมยกริมฝีปากให้ขยับเป็นรอยยิ้ม

   “เสียเวลาคุณจริงใจหรือเปล่าคะ?”

   “ไม่ครับ”

   คนที่อยู่ในลิฟต์ยิ้มให้ผมอีกที แล้วหันไปคุยกับเพื่อน ผมถึงได้ฟังบทสนทนาระหว่างคนที่ยังไม่เข้ามากับปลายสาย

   “ท่านประธานเหรอคะ? ไม่ทราบค่ะ แต่คุณจริงใจลงมาแล้วค่ะ”

   ผมเลิกคิ้วเมื่อมีชื่อตัวเองอยู่

   “พ่อยังไม่กลับครับ”

   “เอ่อ... คุณจริงใจบอกว่าท่านประธานยังไม่กลับค่ะ ... ค่ะ สวัสดีค่ะ” เธอวางสาย ก้าวเข้ามาในลิฟต์ ถอนหายใจเสียงดัง ซ้ำยังปาดเหงื่อ “ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา”

   “ไม่เป็นไรครับ แล้ว... ผู้จัดการถามถึงท่านประธานทำไมเหรอครับ?”

   “อ๋อ ผู้จัดการบอกว่า เหมือนเอกสารจะติดไปกับเอกสารที่ให้ท่าประธานน่ะค่ะ ก็เลยจะกลับมาเอา แต่ไม่แน่ใจว่าท่านกลับหรือยัง”

   “อ๋อ...” ครางรับคำ ก้มมองป้ายพนักงานที่คล้องคอของพวกเขา “ฝ่ายบัญชีเหรอครับ?”

   “ค่ะ”

   อ่า... ผู้จัดการแผนกถามถึงท่านประธาน เพราะมีเอกสารของเขาติดไป และจะมาเอาคืนใช่ไหม คงไม่ได้หมายถึงเอกสารที่ผมเพิ่งตรวจหรอกนะ... ผมเม้มปาก ไม่นานลิฟต์ก็ลงมาถึงชั้นกราวนด์ ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมาแล้วพิมพ์ข้อความส่งไปหาพ่อ ไม่กี่วินาทีก็มีข้อความตอบรับกลับมา ผมเก็บมันลง ในจังหวะที่เงยหน้าขึ้นก็เจอเข้ากับผู้จัดการแผนกบัญชีท่าทางเร่งรีบ คงจะรีบจริง ๆ เพราะไม่ได้มองผมที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากลิฟต์เลย

   เอาเถอะ ไว้ก่อนแล้วกัน





   ผมยืนพิงรถคุณเกรย์ระหว่างรอจันทร์เจ้าลงมาหลังจากโทรไปบอกว่ามาถึงแล้ว หมวกกันน็อกไม่ได้ถอด เพียงเปิดช่องกระจกขึ้นเท่านั้น ไม่นานคนที่รอก็มา แต่มาพร้อมกับใครอีกคน ผมส่งสายตาให้รู้ว่าอารมณ์ไม่ดี

   “ถึงแล้วโทรมาด้วย”

   “อือ ๆ พี่ก็นอนพักเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ”

   “ครับผม!” คนของรับคำพร้อมตะเบะมือเหมือนทหาร และเรียกชื่อต้องห้ามขึ้นมา “ภัค!”

   ก็แย่ละ

   “สวัสดีครับ” ร่างบอบบางเจ้าของชื่อหยุดชะงักและเดินมาหาคนเรียกแทนการเข้าตึก “มีอะ...ไร?” คำสุดท้ายที่เปร่งออกมานั้นแทบไม่ได้ยิน แววตาของตัวหอมดูตกใจเมื่อเห็นว่าผมก็อยู่ด้วย เขามองผมแวบหนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี ผมยืดตัวตรงทันที คนของพี่แม่งเล่นผมละ จันทร์เจ้าที่ไม่รู้เรื่องก็ทำหน้าโง่อยู่นั่น

   “งั้น... เราไปละนะ”

   “คนนี้ที่มีข่าวกับพี่กาลใช่ป่ะ?” เสียงตัวหอมดังขึ้น ผมชำเลืองมองจันทร์เจ้า ไอ้หมูแสยะยิ้ม ทำให้ผมอยากรู้ว่าข่าวที่ว่านั่นคืออะไร

   “อือ” ทิวากาลตอบรับสั้น ๆ เขาจับมือของจันทร์เจ้าเอาไว้ไม่ปล่อยให้มาหน้าผม ผมกลอกตาขึ้นฟ้า ริมฝีปากเหยียดตรง ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม

   “พี่เรียกภัคไว้ทำไมอะ?”

   “ทักเฉย ๆ อ๋อ รพินทร์อยู่ข้างบน”

   “เหรอ? ยัยนั่นมาทำไม งั้นภัคขอไปห้องพี่นะ”

   “จะไปได้ยังหมู” ผมพูดเสียงห้วน ส่งสายตาไปให้ว่าเบื่อและรำคาญสุด ๆ ทำไมต้องพูดกับคนอื่นเสียงหวานแบบนั้นด้วย แล้วไม่ทักผมสักคำ เราไม่รู้จักกันเหรอ หรือยังไง?

   หงุดหงิดว่ะ

   “อือ ๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ” ไอ้หมูปลดมือแฟนออก รับหมวกกันน็อกจากผมไปสวม แหงนหน้าให้เช็กความเรียบร้อยให้ หมุนตัวกลับไปหาคนของตัวเองแล้วโบกมือหยอย ๆ ก่อนจะปืนขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายรถ ยังไม่ทันที่พี่จะตั้งตัวผมก็ออกรถไป

   หงุดหงิดไง มีอะไรล่ะ

   ตอนติดไฟแดง ไอ้หมูสะกิดยิก ๆ บอกว่าหิว แวะทานอะไรก่อนกลับบ้านได้ไหม เพราะกลับบ้านไม่ทันมื้อเย็นอยู่แล้ว อือ หิวเหมือนกัน ผมเลยแวะร้านอาหารร้านหนึ่ง จะได้ถามเรื่องข่าวที่ตัวหอมพูดถึงด้วย

   “เรื่องข่าวที่คนนั้นพูดคืออะไร?”

   “อ๋อ... มีกิ๊กเก่าทิวามาหาเรื่องพี่อ่ะ เขาบอกว่าพี่ไปแย่งแฟนพี่รหัสตัวเอง พี่ซันนี่ไง ที่เคยเล่าให้ฟัง”

   “แล้วแย่งป่ะ?”

   “บ้าหรอ พี่ซันนี่กับทิวาไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พี่ไม่ได้แย่ง พี่ฟางอ่ะมั่ว คือพี่ฟางชอบทิวาไง ชอบมากด้วย ก็เลยมาโวยวายใส่พี่ แถมยังด่าพี่อีก ตอนนั้นนะ องค์ท่านเกือบประทับแล้ว แต่ทิวามาก่อน” ไอ้หมูหยุดเล่า เคี้ยวอาหารแก้มตุ่ย ไม่ได้สนใจเลยว่าคนฟังจะอารมณ์ค้าง ต้องมาหัวร้อนให้พี่ด้วยใช่ไหม?

   “ตอนที่พี่ฟางด่าพี่แรง ๆ นะ ทิวาตบเพี๊ยะเข้านี่” จิ้มแก้มตัวเองประกอบคำพูดและทำหน้าแหยง “หน้าพี่ฟางสะบัดเลย เสียงนี่ดังสนั่น น่ากลัวมาก”

   ผมหงุดหงิดคนของพี่มากที่ปล่อยให้กิ๊กเก่ามาทำร้ายพี่ชายผม แต่พอไอ้หมูเล่าถึงตอนที่คนนั้นตบหน้าคนชื่อฟางอะไรนั่นไป มุมปากของผมก็ยกเป็นรอยยิ้มแสยะโดยไม่รู้ตัว จันทร์เจ้าบอกว่ายิ้มของผมสยองกว่าทิวากาลตบผู้หญิงอีก

   ....ก็แย่ละ



   ทานข้าวกันเสร็จก็ไม่ได้เวลากลับบ้าน แต่วันนี้ไม่รู้เป็นความซวยฉิบหายอะไรนักตั้งแต่เจอป้ามหาภัยจนรู้ว่ามีคนยักยอกเงินบริษัท มาเจอตัวหอมเมินแต่ใช้เสียงสองคุยกับคนของพี่ และยังมารู้ว่าพี่โดนรังแก เหมือนเอาหัวไปจุ่มลาวาภูเขาไฟที่กำลังปะทุ และสุดท้ายนี้คือเจองูเห่าเลื้อยผ่านหน้ารถ.... ผมเบรกเอี๊ยด

   ไอ้หมูด้านหลังกระแทกกับผมโครมใหญ่ อสรพิษร้ายชูคอแผ่แม่เบี้ยมองเรา ผมพยายามนิ่ง ทำใจเย็นและพยายามไม่ขยับตัว จนกระทั่งงูตัวนั้นเลื้อยผ่านไป และกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ครบสามสิบสอง จันทร์เจ้าดูตื่นเต้นมากที่เจองูเห่ากลางทาง ชมว่าเท่ไม่หยุดปากว่างูขยายคอได้

   เท่พ่อม... จะโดนมันฉกอยู่ละ

   หนีความวุ่นวายมาบนห้อง เลื่อนจอโทรศัพท์ไปมา มองรายชื่อผู้ติดต่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทักไปดีไหม ถ้าทักไปจะตอบหรือเปล่า... โอเค ในที่สุดผมก็ส่งข้อความไปจนได้ แต่รออยู่นานก็ไร้การตอบรับ เดาะลิ้น โยนมือถือไปบนเตียงไร้ทิศทางแล้วจึงไปยังที่นั่งประจำนั่นก็คือกลองชุด โดยไม่ทันเห็นว่าโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอคว่ำเพราะถูกโยนนั้นมีแสงสว่างส่องขึ้นมา...



   20:34 J9 : *สติ๊กเกอร์โง่ๆ*
   21:07 naphak : what?











----------------------------
feb.no.9  คือแอคหลุมของเจ้าเด็กปีศาจ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้าเด้อ ♥

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ขนาดว่าจริงใจยังไม่ได้เป็นแฟนนะ อาการออกขนาดนี้แล้ว ถ้าได้ขึ้นชื่อว่าแฟนตัวหอมไม่แย่หรอกหรือเนี่ย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รู้สึกกรรมตามจริงใจทันมากกกก 55555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
จริงใจเป็นเด็กฉลาด เก่งบัญชีซะด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เกลียดการรีพอร์ทของนางจริงๆ 55555

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ถ้าจะขนาดนี้นะจริงใจ 55555555555555555555555555

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
จริงใจเป็นผู้ชายที่เก่ง แต่นิสัยเเสียเยอะแยะเบย 5555  นิสัยลูกคนกลาง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น่ารักอะ เมื่อไหร่จะได้คุยกันจริงๆจังๆซักทีเนี่ย

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เรื่องงานปรึกษาป๋า



เรื่อง ลั้ลลาปรึกษาพี่ฟ้าได้



แต่เรื่องหัวใจ นี่ปรึกษาน้าเจ้าดีที่สุด



เพราะ ขนาด วิถีคนแมนๆ แบบ เพลิงฟ้า  น้าเจ้ายังปราบมาแล้ว



คาดว่า วิทยายุทธ ย่อมเหนือ กว่าผู้ใดทั้งหมด แม้แต่ พี่ทิวาก็ยังไม่สู้

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เด็กปีศาจ มีความสามารถจริงๆ
ไปบริษัทศึกษาดูงาน
ขนาดอารมณ์ค่อนข้างขุ่นมัว
ยังสามารถตรวจเจอเอกสารที่ตัวเลขไม่ตรงกัน
แสดงว่ามีการยักยอกเงินบริษัท
หวังว่าป้าวิภา จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะ
อนาคตผู้บริหาร ประธานบริษัทชัดๆ
เห็นด้วยกับลูกหมูที่ว่าจริงใจ ยิ้มร้ายน่าสยอง
ตอนที่ลูกหมูเล่าเรื่องพี่กาล ตบหน้าพี่ฟาง
ก็จริงใจ ห่วงใย รักพี่ชายนี่นะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
วันหัวร้อนๆ ของจริงใจ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จริงใจเป็นเด็กขี้บ่น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด