• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 313237 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ใจเย็นๆนะจริงใจ

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฮืออออ เมื่อไรจะรักกันนน :ling1:   

รอตอนต่อไปนะคะ :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ฮ่าๆ จริงใจอย่างหัวร้อน   :m20:

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 11
ผมกับแมลงสาบงี่เง่า






   [ณภัค]

   ผมขมวดคิ้วมองข้อความจากเด็กประหลาดที่ส่งสติ๊กเกอร์โง่ ๆ มาหนึ่งตัว ทว่าพอผมตอบกลับไปกลับไม่ได้รับการเปิดอ่านด้วยซ้ำ อะไรของมันวะ ไอ้เด็กเวรนี่ ผมล่ะเกลียดจริง ๆ เจ้าเด็กนั่นเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำให้ผมเสียความเป็นตัวเอง

   ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์กับเด็กนั่นมันเริ่มมายังไง ตั้งแต่วันที่หลงทางแล้วไปเจอเด็กเด๋อนั่นเหรอ แล้วทำไมต้องตามติดผมแจแบบนี้ ผมไม่ชอบเด็ก ผมไล่มันไปไกล ๆ แต่ก็ยังมีเรื่องให้มาเจอกันอยู่ดี หนึ่ง เพื่อนผมชอบหวีดเด็กนั่น สอง ผมต้องตอบแทนที่เด็กนั่นช่วยหาทางกลับบ้าน สาม ผมต้องตอบแทนที่เด็กนั่นช่วยเป็นแฟนอุปโลกน์ตบตาไอ้พี่ภีม ซึ่งมันไม่ได้ผลเท่าไหร่

   ไม่ค่อยเข้าใจ แม้เด็กนั่นจะทำท่าทางเหมือนกับว่าชอบผม แต่เร็วไปหรือเปล่า เจอกันไม่นาน ไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอด้วยซ้ำ หรือชอบเพราะรูปลักษณ์ภายนอก?

   “เหม่อไรเมีย” ชำเลืองมองคนพูดพลางคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ คลื่นเดินมานั่งข้าง ๆ ในมือมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วย คลื่นคือหนึ่งในเพื่อนของผม รู้จักกันตั้งแต่มัธยม กับแฝดมันอีกคนชื่อคราม ตอนนี้ป่วนอยู่ในครัวกับพีท คงหาอะไรทานกัน พินทร์ไม่อยู่ นางบอกมีพรีเซนต์งาน แทบจะตายคากองผ้า ทำมาพูด เห็นออกไปนั่นไปนี่บ่อย ๆ จะตายบ้าอะไรกัน

   “เปล่า”

   “เดี๋ยวนี้หัดตอแหลกับกูเหรอ?”

   “เหี้ยไรเนี่ย ออกไป๊!!” ผมแหวไอ้คลื่น กวนตีนชะมัด คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วย แต่หงุดหงิดเรื่องอะไรผมก็ไม่อาจทราบเหมือนกัน ราวกับมันสะสมมานานและค่อย ๆ ปริแตก

   “เป็นไรวะ”

   “หงุดหงิดมึง ออกไป”

   “เมนส์ไม่มาไง?” ผมมองคลื่นด้วยหางตา ให้รู้ไปเลยว่าผมไม่เล่น มันยกมือขึ้นสองข้างคล้ายยอมแพ้ แต่การแสดงสีหน้าช่างขัดแย้งกับการกระทำ

   ผมเลิกสนใจคลื่น ก้มหน้ามองโทรศัพท์มือในมือ หมุนเล่นไปมา ผ่านมาหลายนาทีแล้ว ทำไมยังไม่ตอบ? แล้วไงล่ะ ทำไมผมต้องมาสงสัยอะไรแบบนี้ด้วย ยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนลุกขึ้นแล้วไปที่ครัว

   “ไง”

   “ไม่ไง มีอะไรกินบ้าง?” ผมถามคราม แฝดน้องของคลื่น สองคนนี้เป็นแฝดที่เหมือนกันมาก ไม่ว่าจะหน้าตา สีผม สีตา ส่วนสูง หรือรูปร่าง คนอื่นไม่มีทางแยกออก ผมที่สนิทมาก ๆ เป็นเพื่อนกันมานาน ยังแยกไม่ออกบางครั้ง แต่ว่าหากมีใครคนใดคนหนึ่งเปิดปากพูดขึ้นมาเท่านั้นแหละ แยกได้แน่นอน นอกเสียจากว่ามันจะแกล้งเล่นละคร

   “พีทกินหมดแล้ว หิวเหรอ?”

   ตวัดตามองพีท มันลอยหน้าลอยตาไม่แยแส แดกเยอะแล้วมาบ่นอ้วน น่ารำคาญ

   “ไม่หิวอ่ะ แต่ได้กินอะไรก็ดี หนีไอ้คลื่นมา”

   “หึ” ครามหัวเราะในลำคอ ยกยิ้มมุมปากเท่ ๆ ก่อนหมุนตัวไปหาอะไรในตู้เย็น

   ถึงคลื่นกับครามจะเป็นแฝดที่เหมือนกันมาก แต่นิสัยค่อนข้างต่างกัน คลื่นเป็นคนกวน ๆ อารมณ์ดีมากจนน่ารำคาญ ทำตัวน่ารำคาญด้วยบางที พูดจาไม่รู้เรื่อง เพ้อเจ้อไปเรื่อย ปากหมา มารยาทมีแต่ไม่ชอบใช้ ส่วนครามจะนิ่งกว่า กวนบ้างบางที ไม่ได้เป็นคนเย็นชาแต่ไม่ชอบพูดมาก มารยาทและนิสัยดีกว่าพี่เยอะ อะไรที่คลื่นเป็น ถ้าครามจะตรงกันข้ามทันที

   “คุยกับใคร?” ผมถามพีท มันเงยหน้ามาเหยียดยิ้มดูแคลน แล้วจิ้ม ๆ โทรศัพท์ตัวต่อ อีนี่ เดี๋ยวเอาช้อนตีจมูกหัก

   “น้องจริงใจ” ชื่อที่ออกมาทำให้ผมชะงักไปนิดหน่อย จริงใจ? ไอ้เด็กเวรนั่นน่ะเหรอ และเหมือนมันจะคิดว่าผมไม่เชื่อ ถึงได้โชว์ให้ดู และคนที่มันคุยก็ไม่ใช่เด็กนั่นจริง ๆ ดูเหมือนจะกวนประสาทผมมากกว่า

   “ใครคือจริงใจวะ!?” ไอ้เหี้ยคลื่นโผล่เข้ามา แถมยังแย่งสปาเก็ตตี้ที่ครามเพิ่งเอามาให้ผมไปกินหน้าตาเฉย แต่... สปาเก็ตตี้ซอสครีมตอนสามทุ่มครึ่งเหรอ? เอางั้นเหรอคราม

   ตอนนี้เราสี่คนเลยนั่งกันอยู่ที่เคาน์เตอร์ในส่วนครัว ผมมาที่นี่เพราะคลื่นโทรมางอแงใส่ว่าโดนสาวทิ้ง อกหัก เศร้า อยากอยู่กับเพื่อน ร้อยทั้งร้อยคือมันตอแหล แต่ผมก็มานั่นแหละครับ หน้าอย่างมันไปทิ้งเขามากกว่า ทำมาพูดมาโดนทิ้ง หาเรื่องเมาก็ไม่จำเป็นต้องอ้างแบบนี้

   คลื่นโทรมาหลังจากที่ผมแยกกับพินทร์แล้ว ยัยนั่นจึงไม่ได้มาด้วย วันนี้ผมค่อนข้างอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้า เพ้อลงโซเชียลไปหลายโพสต์ เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย เลิกเรียนก็ไม่ได้ไปไหน ตรงกลับคอนโดทันที ทว่าโดนพี่กาลเรียกเอาไว้ก่อน

   เราสองคนพักที่เดียวกันแต่คนละชั้น ผมค่อนข้างตกใจที่เห็นเด็กประหลาดอยู่ด้วย แต่พอเห็นเด็กปีหนึ่งแก้มยุ้ยก็พอเข้าใจอะไรขึ้น งงนิดหน่อย เด็กคนนั้นมีข่าวกับพี่กาลได้ยังไง มีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ? นั่นแหละ พอพี่กาลบอกว่าเขาเป็นคนของพี่เขาและเป็นพี่น้องกันกับเด็กเวรนั่นผมก็ยังมึนอยู่ เลยไม่ได้พูดอะไรมาก

   ไอ้บ้านั่น ทำราวกับไม่รู้จักกัน แล้วทำมาพูดว่าอยากเจอผม ความย้อนแย้งนั้นมันอะไรกัน แต่นั่นก็ดีแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นคงได้ตอบคำถามพี่กาลแน่ ๆ

   “กิ๊กอีภัค”

   อีเหี้ย!

   “ฮะ!!? ใครวะ ทำไมกูไม่รู้จัก เดี๋ยวนี้มีอะไรไม่บอกหรอภัค” คลื่นโวยวาย มีครามกอดอกกดดันอยู่ไม่ไกล

   “ไม่ใช่กิ๊ก อีพีทมันเพ้อไปเรื่อย”

   “แล้วเด็กมันเป็นใคร?”

   “คนที่ช่วยตอนหลงทาง” ผมตอบเสียงเรียบ พยายามรีบตัดบท ทว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิด

   “แล้วก็สาระแนไปให้น้องเขาหลอกเป็นแฟน” เพราะพีทมันสุมไฟมานี่ไง

   “เจ้าของแขนในรูป?” ผมกลอกตา ครามฉลาดมาก แค่นิดเดียวก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว และการกระทำของผมดูเหมือนจะเป็นคำตอบให้คราม

   “อ๋อ แดกเด็กตั้งแต่เมื่อไหร่วะเมีย มึงชอบคนอายุมากกว่าไม่ใช่เหรอ?”

   “ใช่ไง กูกับเด็กนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แค่เลี้ยงข้าวขอบคุณที่ช่วย”

   “ไม่บอกล่ะว่าโดนเด็กมันจีบ”

   “อีพีท!!”

   “ความจริงย่ะ!” พีทยักไหล่ไม่แยแส ผมอยากเอาซอสครีมละเลงหน้ามันจริง ๆ

   “เล่าสิ เป็นมายังไง” ครามพูด อีพีทระริกระรี้เล่าให้ฟัง บรรยายสรรพคุณเด็กนั่นแถมไปด้วย

   “ที่พีทเล่าก็ดูเหมือนจะดี”

   “ไม่ดูเหมือนค่ะ! น้องเขาดีจริง ๆ มึง หน้าดี หุ่นดี ฐานะดี ดีทุกอย่าง เพื่อนมึงเล่นตัวไม่สนเขา”

   “ก็กูไม่ชอบ”

   “เด็กมันคุกคามมึงเหรอ?” คลื่นว่า

   “คุกคามเหี้ยไร เจอกันนับครั้งได้ เบอร์โทรมีน้องมันโทรหามึงป่ะ” พีทมันพูดใส่อารมณ์ก่อนหันมาถามผม ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ เจ้าเด็กนั่นไม่โทรหาผมเลยนอกจากให้เลี้ยงข้าว “แต่น้องเคยโทรมาหากูว่ะ แต่ถามเรื่องมึง ข้อความงี้เหมือนกัน รำ”

   ผมคิ้วขมวด “ถามอะไร?”

   “ถามว่าทำไมมึงชอบคนอายุมากกว่า กูเลยบอกมึงคิดว่าคนอายุมากกว่าดูแลมึงได้ แล้วน้องก็บอกตรรกะมึงเหี้ย”

   ผมนิ่ง พูดไม่ออก แต่ไอ้คลื่นหัวเราะเสียงดัง ครามเองก็หัวเราะแต่ไม่เล่นใหญ่เท่าพี่ชาย อะไรกัน ทำไมมาขำอะไรแบบนี้

   “มีคนคิดเหมือนกูแล้วว่ะ ฮ่าฮ่า”

   “กูเพื่อนมึงไหม?” ผมตบไหล่คลื่นเต็มแรง “แล้วตรรกะกูไม่ได้เหี้ยด้วย!”

   ไม่เป็นผมจะไปรู้อะไรกัน

   วางส้อมในมือลง ก่อนคว้าน้ำมาดื่ม หมดอารมณ์จะกิน

   “ขอไวน์หน่อย” ผมบอกคราม เพื่อนตัวสูงพยักหน้าแล้วรินไวน์ส่งมาให้

   “เปิดใจหน่อยดิ เผื่อคบเด็กแล้วเวิร์ก”

   “ครามก็เป็นไปกับพวกนี้เหรอ?”

   “ไม่ลองก็ไม่รู้ ให้โอกาสตัวเองหน่อย”

   ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น ผมแกว่งแก้วไวน์ในมือไปมา ความรู้สึกตีกันมั่วจนหงุดหงิด



   ตีสอง ผมกลับมาถึงคอนโด จากตอนแรกคิดจะพักที่ห้องของแฝด แต่เพราะไม่ได้เมาอะไรจึงกลับบ้านตัวเอง อีกอย่างพวกเราแค่นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ถึงคอนโดก็อาบน้ำเปลี่ยนชุด ผมนอนหงายอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ มองโคมไฟบนเพดาน ปล่อยใจให้หลุดลอย น่าแปลกที่ไม่นึกอยากออกไปไหน ทั้งที่ปกติผมไม่น่ามานอนโง่ ๆ บนเตียงแบบนี้

   กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

   ตาเรียวลืมขึ้นเมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังมาให้ได้ยิน เอื้อมมือไปคว้ามาดู ยกมือขยี้ตาและป้องดวงตาจากแสงไฟที่ยังคงเปิดเอาไว้ คิ้วโก่งขมวดมุ่นขณะเปิดเข้าไปดูคนที่กล้ารบกวนกลางดึก

   02:34 J9 : ที่บ้านมึงสอนให้ทักคนอื่นมาตอนตีสองครึ่งเหรอ
   02:34 J9 : กูไม่ว่าง และถึงว่างก็ไม่ไป เพื่อนแฟนมึงน่ารำคาญ
   02:35 J9 : เหี้ย!!!
   02:35 J9 : ผิดแชท ขอโทษครับ

   ผมกลอกตา ขยับพลิกตัวนอนตะแคง แตะปลายนิ้วไปบนหน้าจอและกดพิมพ์ข้อความก่อนส่งออกไป

   02:36 np : บ้านนายไม่สอนให้ดูชื่อก่อนกดส่งเหรอ
   02:36 J9 : ไม่ครับ
   02:36 J9 : ไร้สาระ พ่อแม่ผมไม่สอนหรอก
   02:38 np : -_-
   02:38 J9 : ยังไม่นอนเหรอครับ หรือตื่นเพราะผม
   02:39 np : คิดว่าไงล่ะ
   02:40 J9 : พิมพ์ไม่ถนัดเลย ผมโทรไปนะ

   ผมกลอกตาอีกครั้งกับข้อความล่าสุดที่ถูกส่งมา ไม่นานเสียงเรียกเข้ามือถือของผมก็ดังขึ้น

   Incoming call...
   freak boy

   ปล่อยให้เสียงเรียกเข้าดังอยู่สักพักจึงกดรับ มีเพียงความเงียบที่ลอยเคว้งอยู่ ระหว่างผมกับเด็กนั่นไม่มีใครพูดอะไร ในเมื่อเด็กนั่นไม่พูด ผมก็ไม่จำเป็นต้องพูด

   (“ยังไม่นอนเหรอครับ?”)

   “นอนแล้วจะรับสายนายไหม?”

   (“ก็คิดว่าคงตื่นมาเพื่อรับสายผม”)

   “หลงตัวเอง” เบ้ปากส่งไป แม้ปลายสายจะไม่เห็น ไอ้เด็กเวรนี่กวนประสาทให้ผมหัวเสียอยู่เรื่อย แบบนี้ไงผมเลยไม่ชอบ

   (“ก็อยากให้คุณหลงบ้างเหมือนกัน เบื่อจะหลงตัวเองแล้ว”)

   “........”

   (“เขินเหรอครับ เงียบเลย”)

   “หุบปาก!!”

   (“หึหึ”)

   “ไปนอนซะไอ้เด็กเวร ไม่ต้องไปโรงเรียนหรือไง”

   (“ผมปิดเทอมครับ รู้สึกจะเคยบอกไปแล้วนะ”)

   “รีบนอนสิ ไปเดตจะได้หน้าสดใส สาวจะได้หลง”

   (“ก็แย่ละ เดตบ้าบออะไรวะ”)

   “อ้าว ข้อความที่ส่งมานั่นจะไปเดตไม่ใช่เหรอ”

   (“ใช่ก็แย่แล้ว เพื่อนผมต่างหาก”)

   “.......”

   (“ผมไม่ไปหรอก ไม่ชอบเพื่อนของคนที่มันไปเดตด้วย”)

   “เหรอ”

   (“ทำไม หึงผมเหรอ”)

   “หึงก็เหี้ยแล้ว”

   (“หึหึ คุณรู้ได้ยังไงว่านั่นคือผม?”)

   “......” จริง ๆ ในตอนแรกก็ไม่รู้หรอก เพราะผมไม่ได้มีเด็กนั่นในรายชื่อผู้ติดต่อ นอกจากเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไป และผมไม่ได้เปิดให้แอดเฟรนด์จากเบอร์มือถือด้วย ผู้ต้องสงสัยคนแรกและคนเดียวก็คือพีทนั่นแหละ ไม่รู้ว่ากบฏอะไรผมบ้าง เดาจากชื่อที่เด็กนั่นตั้งก็เดาไม่ออกหรอก แต่ที่ผมรู้ก็เพราะ... “รูปนาย”

   (“อ่า...”)

   ถึงจะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่แต่ก็พอจะรับรู้ได้แหละน่า และผมก็เดาถูกด้วย

   “..........”

   (“คุณไม่นอนล่ะครับ ดึกขนาดนี้แล้ว เมื่อไหร่จะโตเต็มวัย”)

   “ไอ้เด็กเวร!!!”

   (“อย่าโกรธสิครับ ผมแต่แซวเอง”)

   “เพื่อนเล่นเหรอ”

   (“ไม่อ่ะ คุณไม่ใช่เพื่อน แล้วไม่อยากเป็นเพื่อนด้วย”) ผมเงียบ ไม่พูดอะไรแล้ว คว้าตุ๊กตาหมีขาวมาก่าย นอนฟังความเงียบและหาวออกมา (“ง่วงแล้วเหรอครับ?”)

   “อือ...”

   (“งั้นนอนเถอะ ผมไม่กวนแล้ว หลับให้สนิทนะครับ”) สักพัก สัญญาณถึงได้ถูกตัดไป ผมมองโทรศัพท์ในมือนิ่ง ก่อนโยนมันทิ้ง พลิกตัวกลับมานอนหงาย หลับให้สนิทงั้นเหรอ... ครั้งแรกเลยแฮะที่มีคนบอกแบบนี้ ส่วนใหญ่เขาจะบอกให้นอนฝันดีทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?

   เด็กประหลาดนี่มันประหลาดจริง ๆ

   เอาล่ะ ตาของผมจะปิดแล้ว เลิกคิดเรื่องไร้สาระเสียที




   ร่างบางขยับตัวบนเตียงกว้าง สองแขนเหยียดสุดบิดตัวไล่ความขี้เกียจทั้งยังหลับตา สักพักตาเรียวจึงค่อย ๆ ปรือขึ้น แสงจากแดดที่ลอดผ่านม่านเข้ามาแยงเข้าจนต้องหลับลงอีกครั้ง โคมไฟที่เปิดไว้ทั้งคืนนั้นดับไปแล้วด้วยการตั้งเวลาเปิดปิดของมัน ผมไม่ชอบความมืดจึงต้องเปิดไฟนอน ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ

   เหวี่ยงหมีขาวและสะบัดผ้าห่มออกไป ยกมือลูบหน้า บิดตัวอีกครั้งแล้วจึงลุกขึ้น ไปทำธุระในห้องน้ำ เวลานี้สิบโมงครึ่งเข้าไปแล้ว ความจริงผมต้องตื่นตั้งแต่เช้าด้วยซ้ำ หลับสนิทเสียจนไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก พลาดเลคเชอร์ตอนเช้าไปอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าไปตอนนี้ก็คงทันแค่ช่วงท้าย  ชะงักมือที่กำลังแต้มครีมบนใบหน้า ผมมองตัวเองที่คิ้วขมวดอยู่ในกระจก จู่ ๆ เสียงแหบห้าวของใครบางคนก็ดังเข้ามา กลอกตาขึ้นฟ้า สะบัดหัวไม่สนใจ

   ‘หลับให้สนิทนะครับ’

   เหอะ! ไงล่ะ สนิทจนไม่ตื่นสาย เด็กบ้านั่นต้องสาปผมแน่ ๆ ทำให้ผมไปเรียนไม่ทันแบบนี้

   เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วจึงออกมาหาอาหารเช้าทาน ได้กาแฟมาหนึ่งแก้วและขนมปังปิ้งทาเนยโง่ ๆ สำหรับคนทำอาหารไม่เป็นอย่างผมแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว



   ครืด

   เสียงเลื่อนประตูห้องเลคเชอร์เกิดจากฝีมือของผม นักศึกษาในห้องรวมทั้งอาจารย์ที่กำลังบรรยายต่างมองมาที่ผมเป็นตาเดียว

   “ถ้าจะมาครึ่งชั่วโมงสุดท้ายแบบนี้ ไม่ต้องมาก็ได้มั้งคุณณภัค” เสียงอาจารย์เอ่ยผ่านไมโครโฟน ผมผงกหัวแทนคำขอโทษแล้วจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะว่างด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเฉยเมย ไม่แยแสกับสายตาของใครหลายคนที่มองมา

   “ทำไมมาป่านนี้ล่ะภัค?”  เบลล์ หญิงสาวผู้มีตำแหน่งดาวคณะเมื่อปีที่แล้วสะกิดถามผมที่นั่งอยู่ด้านหน้าเธอ เบลล์ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมคลาส คุยกันได้แต่ผมไม่สนิท ส่วนใหญ่ผมจะอยู่คนเดียวเสียมากกว่า แต่พักหลังชักจะได้คุยกับเธอเยอะขึ้นเพราะต้องทำงานด้วยกัน

   “ตื่นสาย” ตอบสั้น ๆ สายตามองไปด้านหน้า บนโต๊ะของผมมีเพียงกระเป๋าวางอยู่ ไม่ได้เอาปากกามาจดอะไรทั้งนั้น แค่ครึ่งชั่วโมงสุดท้าย มาทันก็ถือว่าโอเค เพราะเป็นช่วงอาจารย์เช็กชื่อพอดี

   “มาทันเวลาพอดีนะณภัค” ผมไม่ตอบอะไรอาจารย์ที่เอ่ยแซว ปรายตามองกลุ่มที่นั่งถัดไปข้าง ๆ ที่ซุบซิบเสียงดังจนน่ารำคาญ ที่บ้านแม่ไม่ให้พูดเหรอ ต้องมาปลดปล่อยกันที่มหาวิทยาลัยแบบนี้ น่ารำคาญ ประเด็นที่พวกนั้นพูดกันก็ไม่พ้นเรื่องผมหรอก

   “ว่างนานเลย ไปไหนดีภัค?” เบลล์เข้ามาหาหลังอาจารย์ออกไป เธอพิงสะโพกกับโต๊ะเลคเชอร์ที่อยู่ข้างผม แอบกลอกตานิดหน่อยเมื่อกระโปรงสั้น ๆ นั่นร่นขึ้น เรื่องของเขา ช่างเถอะ

   “......”

   “ไปทานข้าวกันไหม?”

   “ไม่ไปกับเพื่อนเหรอ?”

   “ภัคก็เพื่อน ชวนอยู่นี่ไงจ๊ะ”

   “โทษนะ ไปด้วยไม่ได้ มีนัดแล้ว” มองไปด้านหลังเห็นกลุ่มเพื่อนของเบลล์รอกันอยู่ พวกนั้นกำลังแต่งหน้าเติมแป้ง บางคนก็ส่งสายตาเหยียด ๆ มาให้ผม เรื่องที่มีนัดก็แค่ยกขึ้นมาอ้าง ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปไหน แต่ไม่มีทางไปกับเบลล์แน่นอน สงครามโลกครั้งที่สามได้เกิดขึ้นแน่

   “ว้า เสียดายจัง ไว้ครั้งหน้าแล้วกันนะ”

   “อือ”

   “มาสักทีนะเบลล์ ไปคุยกับมันทำไม” เสียงแหลมน่ารำคาญจากผู้หญิงในกลุ่มนั้นดังมาให้ได้ยินเมื่อเบลล์เดินกลับไปหาเพื่อน พอผมมองไปตรง ๆ ก็พากันหลบสายตา พวกเก่งแต่ปาก


   ผมนั่งอยู่ห้องเลคเชอร์สักพักถึงได้ลงไปข้างล่าง เหลือบันไดอีกสองขั้นผมจะถึงพื้น เท้าทั้งสองหยุดชะงัก อยากกลับขึ้นไปข้างบนชะมัด แต่คงไม่ทันแล้ว

   “ภัค” ปรายตามองเจ้าของเสียงด้วยสายตานิ่งเฉย “ภัคยังไม่หายโกรธพี่เหรอ?”

   “พี่ขอโทษ”

   “เบื่อจะฟังแล้ว ไปให้พ้น” ผมบอก ก่อนเดินผ่านเขาไปโดยไม่หันกลับไปมอง แต่เสียงตะโกนของเขาทำให้ผมต้องหยุดเดิน

   “ให้โอกาสพี่นะ พี่รักภัค!”

   “เลิกเล่นละครได้แล้ว มันน่ารำคาญ!”

   “พี่พูดจริง ๆ พี่รักภัค! ดีกันนะครับ!”

   Good timing เลือกเวลาได้ดีจริง ๆ คนกำลังลงจากตึกเพื่อไปทานอาหารเที่ยงเสียด้วย ผมกลอกตา มองคนที่คุกเข่าและตะโกนบอกรักผมด้วยสายตารำคาญ คิดว่าจะบังคับผมด้วยการทำแบบนี้ต่อหน้าคนมาก ๆ งั้นเหรอ โทษนะ สายตาของคนพวกนั้นไม่ผลอะไรกับผมหรอก งี่เง่าสิ้นดี ผมเคยคบกับคนโง่แบบนี้ได้ยังไงกัน

   “งี่เง่า” ผมพูดเสียงไม่ดังมาก แต่ก็พอให้หลายคนได้ยิน เดินออกมาไม่เท่าไหร่ก็ไม่ยินเสียงซุบซิบดังขึ้น

   “นั่นพี่ภีมนี่ มาทำอะไรน่ะ เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ”

   “ทำไมพี่ภีมต้องมาง้อณภัค หาได้ดีกว่าแท้ ๆ น่าสงสารพี่เขาจัง”

   “ณภัคเล่นตัวว่ะ ทั้งที่คงอยากได้พี่ภีมจนตัวสั่น”

   “ทำไมพี่ภีมต้องมาง้อคนอย่างนั้นด้วย”

   “ดูสิ ขนาดพี่ภีมคุกเข่าขอโทษยังเฉยได้อีก มั่นหน้าจริง ๆ”

   “คิดว่าสวยเลือกได้หรือไงกันน่ะ ผ่านผู้ชายมากี่คนแล้วแต่พี่ภีมยังรักขนาดนี้ ไม่สำนึกบ้างเลย”

   “ไม่คืนดีก็ดี พี่ภีมจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้”

   “เล่นตัวไปก็ไม่ดูแพงขึ้นมาหรอก ยี๋!”

   สารพัดที่คนจะพูด

   คนพวกนี้ว่างกันมากหรือยังไง วัน ๆ เอาแต่นินทาคนอื่น ใส่ใจเรื่องของตัวเองมากเท่านี้ไหม ใช้ชีวิตตัวเองให้ดีหรือยัง มายุ่งเรื่อยคนอื่นอยู่ได้

   พวกแกมันน่ารำคาญยิ่งกว่าแมลงสาบทั้งโลก!

   ณภ. @naphaknp 1s
   Stupid.
   (พวกโง่เอ๊ย!)


   
   โป๊ก!

   “โอ๊ย!!” ผมหยุดอารมณ์ฉุนเฉียวเอาไว้แล้วหันไปมองต้นเสียงร้อง ก่อนจะเจอชายหน้าตี๋ ตัวสูง แต่ผอม เดินกุมศีรษะตัวเองมาทางผม “น้องภัค!!!”

   ถอนหายใจ หมุนตัวจะเดินกลับทางเดิม แต่โดนดักทางเอาไว้เสียก่อน

   “น้องภัคจริง ๆ ด้วย น้องภัคปาก้อนหินโดนพี่เก่ง ดีใจจัง”

   นี่ก็น่าปวดหัวพอ ๆ กับพวกงี่เง่านั้นเลย ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแบบนี้

   “ขอโทษด้วย ไม่ตั้งใจ” เพราะกำลังหงุดหงิด ผมจึงคว้าก้อนหินแถวนั้นปาไปมั่ว ๆ ใครจะคิดว่าไปโดนใครเข้า

   พี่เก่งยิ้มกว้าง ส่ายมือไปมาเหมือนเด็ก ๆ “ไม่ พี่เก่งไม่โกรธ พี่เก่งรักน้องภัค”

   ผมเหยียดริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนพยักหน้าคล้ายรับรู้ พี่เก่งคือคนที่ตามจีบผมตั้งแต่เข้าเรียนใหม่ ๆ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ ถึงผมจะชอบคนอายุมากกว่า แต่พี่เขาก็ห่างไกลจากสเป็กผมมากอยู่ดี เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับผมหรอก ออกจะเป็นคนดี ดีเกินมนุษย์ปกติด้วยซ้ำ ติดก็ตรงที่ตื้อเกินไปนี่แหละทำให้ผมรำคาญและนิสัยง้องแง้งเหมือนเด็กนั่นอีก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนนิสัยแบบนี้อยู่บนโลก

   “น้องภัคทานข้าวหรือยังครับ ไปทานกับพี่เก่งไหมครับ?”

   “ไม่หิว”

   “งะ น้องพักควรทานนะครับ เดี๋ยวพี่เก่งจะฟ้องลูกพี่น้องจริงใจ”

   “อะไรคือลูกพี่น้องจริงใจ?”

   “แฟนน้องภัคไงครับ พี่เก่งให้ลูกพี่น้องจริงใจเป็นลูกพี่เพราะเท่มาก ๆ แต่ลูกพี่น้องจริงใจอายุน้อยกว่าพี่เก่ง พี่เก่งเลยเรียกแบบนี้ เท่ใช่ไหมล่า~~?”

   ควรทำหน้ายังไงดี หน้าตาพี่เขาออกจะภูมิใจขนาดนั้น เกิดทำหน้าแปลก ๆ ไปคงได้รู้สึกผิดอีก คนนี้ยิ่งบ่อน้ำตาตื้น นึกถึงวันที่ไอ้เด็กประหลาดบอกว่าเป็นแฟนผมแล้วพี่เก่งร้องไห้โทรไปฟ้องแม่ก็ปวดหัวจิ๊ดขึ้นมา หลอกคนอื่นไม่ได้ แต่หลอกพี่เก่งได้เฉย...

   แล้วนี่... ไปเป็นลูกพี่ ลูกน้องกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เด็กนั่นจะเทคโอเวอร์คนรอบตัวผมไปหมดเลยใช่ไหม ตั้งแต่พีทแล้วด้วย คลื่นครามเองก็เหมือนจะถูกใจทั้ง ๆ ที่ฟังแค่พีทเล่าและไม่ได้เห็นหน้าด้วยซ้ำ

   “อ่า...”

   “ลูกพี่น้องจริงใจบอกว่าถ้าเจอน้องภัค ให้บอกน้องภัคทานข้าวด้วย น้องภัคผอมไป พี่เก่งเห็นด้วยกับลูกพี่น้องจริงใจครับ น้องภัคไปทานข้าวนะ”

   “ไม่หิว”

   “พี่เก่งจะบอกลูกพี่น้องจริงใจ” ไม่ว่าเปล่า หยิบโทรศัพท์มากดพิมพ์ยิก ๆ เสร็จแล้วก็เงยหน้ามายิ้มแฉ่งใส่ผม ไม่นานก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา ทั้งจากของพี่เก่งและของผม

   12:18 J9 : ทานข้าวดิครับ

   อืม เชื่อละว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันจริง ๆ พี่เก่งแหงนหน้ามองผม ก้มลงไปกดโทรศัพท์อีก ไม่นานโทรศัพท์มือถือในมือผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง

   12:21 J9 : พี่เก่งบอกคุณดูอารมณ์ไม่ดี มีเรื่องอะไรเหรอครับ?

   “พี่เก่งไปไหนก็ไปเหอะ”

   “น้องภัคไปทานข้าวนะครับ เดี๋ยวลูกพี่น้องจริงใจงอนน้า”

   งอนบ้างอนบออะไรเล่า! ช่างหัวมันสิ!

   “ไม่อยากกิน ไม่หิว! พี่เก่งจะไปไหนก็ไป อยากโดนผมเหวี่ยงหรือไง!!”

   “พี่เก่งเคยโดนน้องภัคเหวี่ยงแล้ว พี่เก่งมีภูมิต้านทานครับ!”

   “ว้อย!!!”

   กริ๊ง!

   12:25 J9 : ให้ผมไปทานด้วยไหม เผื่อจะอยากอาหารขึ้นมา
   12:26 np : ฉันจะไม่อยากอาหารเพราะนายนั่นแหละ!
   12:26 J9 : เอางั้นก็ได้ แต่ไปหาอะไรทานนะครับ ผมเป็นห่วง

   ผมจิปากหงุดหงิด เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงไม่ตอบอะไรอีก

   “น้องภัคไปไหนครับ!!”

   “กินข้าว!!!”

   ฮึ่ย! น่ารำคาญทั้งลูกพี่ลูกน้อง ไม่แปลกที่จะเป็นพันธมิตรกันได้

   ต้องไปทำบุญหน่อยไหม เผื่อจะหลุดจากสิ่งน่ารำคาญพวกนี้เสียที










---------------------------------
แฮ่ พาร์ทณภัคบ้าง หลุดคาแรคเตอร์เหมือนจริงใจไหม 55555555555555
ว่าแต่... ไหน ใครมันพูดว่าจะอ่อนโยนนะ หรือนี่คือการแสดงความอ่อนโยนของเจ้าเด็กปีศาจ
อาจจะมีคำผิดอยู่บ้างนะคะ ถ้าเจอก็บอกกันบ้าง ; w ;
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้า บายยยยยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2016 05:23:03 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าบอกว่าตอนนี้ชอบลูกน้องพี่เก่งมากสุดอ่ะ 555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เด็กปีศาจ พูดจาอ่อนโยนก็เป็น
จุดอ่อนของเด็กปีศาจ คือ ณภัค นี่เอง :mew1: :mew1: :mew1:
พวกแมลงสาบน่ารำคาญจริงด้วย :z6: :z6: :z6:
พวกดีแต่ปาก อิจฉาภัค มีปัญหาทางจิต ละสิ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ณภัคก็คือณภัคอ่ะ โอ่ย...ยอมๆจริงใจมันเถอะเนอะ พี่เก่งน่ารักค่ะ...หาสามีให้แกทีนะ มีเมียไม่ได้หรอก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่เก่งจะตลกไปไหน เรียกจริงใจได้แบบฮามาก เราอ่านวนสามรอบว่าพี่เก่งเรียกว่าอะไรนะ 55555

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
จริงจายยยยยย ดีงามมม

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ใครจะได้ปราบใครกันแน่น้าาาา
คบเด็กปีศาจดีกว่าเห็นนๆนะภัคร 555
ปลุความเป็นปีศาจเวลาหลุดพอๆกัน  :m20:

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โอ่ยยยย  :katai5: ขำจริงใจอะ5555555555 พิมพ์ไม่ถนัดเดี๋ยวโทรหานะ :hao7: เอามุกนี่มาจากไหนน

รอตอนต่อไปงับบบ :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ขนาดตัวไม่อยุ่ยังมคนเป็นหูเป็นตา ออร๊ายยย

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ลูกพี่น้องจริงใจ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เราอ่านยังรำคาญไปกับภัคด้วยเลย

ออฟไลน์ mjpnta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พี่เก่งตลกดี 55555

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
อ่ะแน่ะๆ เริ่มจะหวั่นไหวกับเด็กแล้วสิตัวหอมมมมม  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอคนใจอ่อนคบเด็ก

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ภัคเด็กดูแลได้ดีเหมือนกันน้า o18 ชอบพี่เก่งนะต๊องดี55555

ออฟไลน์ thepoe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
555555 ขอขำให้กับบทบาทพี่เก่ง
ชอบนิสัยของเจ้าเด็กปีศาจจจจ
อ่านไปขำไป น่ารักกกก

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 12
ผมกับคนอายุมากที่ตัวเล็กกว่า








   “ฮายยยยยยย~~~” พลิกหมอนขึ้นปิดหูหลังจากได้ยินเสียงน่ารำคาญดังมา “จริงจายยยยยย”

   “รำคาญ!!”

   “งุ้ย จริงใจคนดี ไปส่งพี่ชายไปเรียนหน่อยสิคร้าบ~~”

   “จริงจายยยย” ผมตวัดผ้าห่มออก มองหน้าพี่ชายอย่างหงุดหงิด และเอาหมอนฟาดหัวกลม ๆ นั่นไปที จันทร์เจ้าหน้ามุ่ย ลูบหัวตัวเองป้อย ๆ “จริงใจไปส่งพี่หน่อยนะ... พี่ตื่นสาย ถ้าจริงใจไม่ไปส่งต้องไม่ทันแน่เลย”

   “........”

   “ใช้คุณฟักทองไม่ได้ด้วย รถติดมาก ๆ จริงใจนะ”

   “ออกไป” ผมบอกเสียงเรียบ  แต่จันทร์เจ้าไม่ยอมปล่อยให้ผมได้นอนต่อ หน้าโง่ ๆ นั่นพยายามอ้อนวอน ตากลมโตกำลังบีบน้ำตาให้ผมตกหลุมพราง

   “จริงใจอ่า...” หลับตาลง ไม่มองหน้าจันทร์เจ้า มืออ้วน ๆ นั่นวางแหมะบนต้นแขนแล้วเขย่า ๆ ผมเลือกที่จะไม่สนใจ พยายามนอนต่อแต่มันไม่หลับแล้ว

   เวลาผ่านไปสักพัก เสียงรอบด้านเงียบกริบ ผมลืมตาขึ้น ไม่คิดว่าไอ้หมูออกไปแล้วหรอกเพราะไม่ได้ยินเสียงประตู เหลือบตาไปมองสบ ตากลมแดงช้ำน้ำตาคลอหน่อย แววตาสั่นระริกดูมีความหวัง ผมตัดสินใจลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำไป นอนยังไงก็ไม่หลับแล้ว ทำไมวันหยุดของผมต้องมาพังพินาศเพราะหมูผีนี่ด้วย

   ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เข้าบริษัทกับพ่อแล้วแท้ ๆ ผมควรได้พักผ่อนให้เต็มที่สิ สูญเสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ วันเสาร์ที่จะถึงนี้ยังต้องไปซ้อมดนตรีอีก ให้ตายเถอะ! ไหนเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาผมเพิ่งไปค่ายมวย ครูฝึกให้ซ้อมจนแทบเดินไม่ไหว ไม่รู้จะเคร่งอะไรนักทั้งที่ผมไม่ใช่นักกีฬาแท้ ๆ ไม่มีเวลาว่างแล้ว จะไปเจอตัวหอมก็ไม่มีข้ออ้าง หงุดหงิดชะมัด!

   “ขอบคุณคร้าบ~” ไอ้หมูผีส่งเสียงทะเล้นเมื่อผมขับรถมาจอดให้ถึงหน้าตึก

   “ไปได้แล้ว เหม็นหน้า”

   “ก็ได้ จริงใจขับรถระวังนะ บั๊บบัย” จันทร์เจ้าเขย่งขึ้นมาจุ๊บกระจกบังลมแล้ววิ่งออกไป ผมเองก็ออกจากตรงนี้เหมือนกัน ต้องหาอะไรกินสักหน่อย ก่อนออกจากบ้านยังไม่ได้ทานอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะมีหมูมาบลัฟว่าจะสาย เข้าเรียนไม่ทันบ้างล่ะ อาจารย์จะล็อกห้องบ้างล่ะ ถ้าไม่มัววอแวผมก็ขับรถมาเรียนทันอยู่แล้วป่ะวะ

   ทำไมบาปกรรมต้องมาตกที่ผมด้วย

   แล้วการการนอนตื่นสายในวันปิดเทอมของผมก็พังพินาศเพราะจันทร์เจ้า...

   บิดกุญแจดับเครื่องยนต์ ถอดหมวกกันน็อกออก แทรกก้านนิ้วเข้าไปใต้กลุ่มผมแล้วเสยขึ้น ก่อนจะสวมหมวกสแนปแบ็กโดยหันปีกหมวกไปไว้ด้านหลัง แล้วจึงเข้าไปในร้านอาหารของคนรู้จัก เพื่อทานอาหารเช้าตอนสิบเอ็ดโมง

   “โอ๊ะ! น้องจริงใจนี่นา” เลิกคิ้วมองคนเรียก พี่พีทนั่นเอง ข้างพี่เขาคือตัวหอม และฝั่งตรงข้ามมีผู้ชายที่หน้าเหมือนกันสองคนนั่งอยู่ จากความที่ผมสะสมข้อมูลอยู่นานทำให้รู้ว่าสองคนนั้นคือแฝดที่ชื่อคลื่นและคราม และชอบลงรูปคู่กับตัวหอมของผมด้วย มิหนำซ้ำยังเรียกตัวหอมว่าเมียบ่อย ๆ

   “สวัสดีครับ” ผมค้อมศีรษะลงเล็กน้อย

   “นั่งด้วยกันนะคะ”

   “อ่า... ไม่ดีกว่าครับ” ผมปฏิเสธ ก็อยากอยู่ใกล้ตัวหอมนะ ข้อเสนอของพี่พีทโคตรเกื้อผลประโยชน์ให้ผมเลย แต่เวลานี้มันอาจไม่สมควรเท่าไหร่ พวกเขาก็อยู่กับเพื่อน ซึ่งผมไม่ได้สนิทอะไรเลย จะร่วมโต๊ะด้วยมันก็พิลึกป่ะวะ ผมอึดอัดไงเอาตรง ๆ

   อีกอย่างคือ... สายตาและสีหน้าของตัวหอมโคตรไม่ต้อนรับ

   “น้องจริงใจ...” บอกเลย เสียงอ่อน ๆ กับตาอ้อน ๆ ของพี่พีทไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรนอกจากเฉย ๆ

   “โต๊ะว่างก็มี” เสียงตัวหอมดังขึ้น

   เขาจะรู้ไหม ว่าการที่แสดงออกว่าไม่อยากให้ผมอยู่ใกล้ ๆ ยิ่งกระตุ้นให้ผมอยากวอแว ถ้าพี่พีทตื้ออีกทีผมนั่งเลย มีที่ว่างข้างตัวหอมด้วย

   “นั่งด้วยกันสิ”  หนึ่งในแฝดเอ่ยขึ้น ผมคิ้วขมวดเพราะไม่แน่ใจว่าคือใคร ตัวหอมถลึงตาใส่เพื่อน แต่เพื่อนเขาแค่ไหวไหล่

   “งั้นรบกวนด้วยครับ”

   “นั่ง ๆ ค่ะ” พี่พีทรีบบอก ผมเลื่อนเก้าอี้ข้างตัวหอมออกแล้วนั่งลง ยักคิ้วให้เมื่อเขาหันมองทำหน้าบึ้งใส่ ปากอิ่มขยับบ่นไม่ได้ศัพท์ ส่งสายตาอาฆาตมาให้ผมอยากเต็มที่

   “ชื่ออะไรวะ?”

   “จริงใจครับ”

   “ชื่อแปลกว่ะ เจ๋ง”

   “พี่ชื่อเจ๋งหรอครับ?”

   “เอ้า เด็กมันกวนตีนว่ะ เอาไงดี”

   “เอาเรื่องนี่หว่า” อีกคนพูดขึ้น ท่าทางนิ่งกว่า “จีบภัคเหรอ?”

   ถามตรง ๆ งี้เลยดิ แล้วผมจะตอบไงวะ

   เงยหน้าจากเมนู สบตากับคนถาม “ครับ”

   ถามตรง ๆ ก็ตอบตรง ๆ ไงครับ งงอะไรกันเหรอ

   “ตอบคำถามได้สมชื่อ”

   “เห็นมะ ชุ้นบอกแล้วว่าน้องจริงใจของกูดีเว่อร์ ๆ” พี่พีทจีบปากจีบคอว่า “น้องจริงใจขา สองตัวนั้นเพื่อนพวกพี่เอง คลื่นกับครามจ้ะ” พี่พีทแนะนำ ผมก็ผงกหัวรับรู้ ก่อนหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยว

   จริง ๆ จะไม่ดูเมนูก็ได้นะ มาทานบ่อย แต่ไม่ได้เล่า

   “เมีย กูว่าโอเค มึงอย่าเล่นตัวเลย” ตัวหอมกลอกตากับคำพูดของเพื่อน ผมจะโอเคนนะถ้าพี่คลื่นไม่เรียกตัวหอมว่าเมีย

   “ชอบมึงก็จีบดิ”

   “ก็แย่ละ” ผมพึมพำเบา ๆ เอาโทรศัพท์มาเล่นเกม รู้แหละว่าเสียมารยาท แต่อึดอัด พวกเขาก็ดูอัธยาศัยดีนะ ซึ่งผมไม่ใช่ไง จะให้มาคุยกับคนไม่สนิทมันก็แปลก ๆ ไม่น่ามานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเขาเลย หาเรื่องจริง ๆ

   “มาทำอะไรแถวนี้” ทุกคนดูพร้อมใจกันเงียบเมื่อตัวหอมถามขึ้น ผมยังเลิกคิ้วสูงเลย ไม่คิดว่าเขาจะถาม

   “คิดว่าไงครับ?”

   “หาเรื่องเจอฉันเหรอ?”

   ผมหัวเราะ ตัวหอมเริ่มจิปากและทำหน้าบึ้ง

   “ก็แย่ละ ผมมาส่งพี่ ไม่ได้หาเรื่องเจอคุณเลย มั่นหน้านะเราอ่ะ”

   พี่พีทกับพี่แฝดหัวเราะ โดนตัวหอมสะบัดค้อนไปให้วงใหญ่

   “เพื่อนเล่นเหรอ”

   “อายก็อย่าพูดมากให้ขยี้ดิครับ”

   “ไอ้เด็กเวร!”

   “หึ”

   “เส้นเล็กหมูน้ำต----- อ้าว เหี้ย!” ผมหันไปมองต้นเสียงซึ่งเป็นคนที่เอาก๋วยเตี๋ยวกับลูกชิ้นลวกที่ผมสั่งไปมาเสิร์ฟ ตัวหอมกับเพื่อน ๆ ขมวดคิ้วมองหน้าข้าวฟ่างที่ปล่อยเหี้ยมาเพ่นพ่าน มันก้มหัวเป็นการขอโทษ แต่ชี้หน้าผมแทน มึงทำงี้กับลูกค้าเหรอ?

   “ไร?”

   “มึงมาได้ไง!?”

   “ขับรถมาสิ”

   “ไม่ ๆ หมายถึงมาร้านเนี่ย ปกติมึงไม่มาแถวนี้ไม่ใช่เหรอ”

   “เสือก” ผมว่า ข้าวฟ่างทำหน้าเอ๋อ ๆ กอดถาดไม้มองหน้าผม อย่างที่บอกไปว่าร้านนี้มันร้านคนรู้จัก ซึ่งก็คือร้านของพี่ชายข้าวฟ่างครับ ส่วนไอ้ฟ่าง บางวันมันก็มาช่วยพี่เสิร์ฟ อย่างเช่นวันนี้ “ทำไมหมูสีแปลก ๆ วะ?”

   ใช้ตะเกียบเขี่ยเนื้อหมูที่สีคล้ำผิดปกติอย่างข้องใจ

   “ก็ปกติป่ะ” มันชะโงกมาดู “แล้วนี่มึงจะบอกได้ยังว่าทำไรแถวนี้”

   “ส่งจันทร์เจ้า” ตอบพลางปรุงก๋วยเตี๋ยวไปด้วย ไอ้ฟ่างพยักหน้ารับรู้ แต่ก็ขมวดคิ้วอีกเมื่อมองเพื่อนร่วมโต๊ะของผม เมื่อมันอ้าปากผมก็พูดขึ้นก่อนที่มันจะถามอะไรที่ผมไม่อยากตอบออกมา “อย่าพูดมากฟ่าง ไปทำงานมึงไป”

   แล้วมันก็เดินกอดถาดจากไปแบบงง ๆ

   “ใคร?”

   “รุ่นพี่” ตอบสั้น ๆ สมกับคำถามสั้น ๆ คนรับคำตอบก็จิปากขัดใจไปตามเรื่องราว ผมไม่ได้อธิบายเพิ่ม ตอนนี้หิวจนจะแทะโต๊ะอยู่แล้ว

   ก๋วยเตี๋ยวร้านพี่ข้าวโอ๊ตก็ยังอร่อยอยู่ดีนั่นแหละ ต่อให้ไม่ปรุงก็อร่อย มาทานแล้วไม่จบที่ชามเดียวครับ กินเส้นกับลูกชิ้นไปก็ปกติดี แต่มันมาพีคที่เนื้อหมู ผมชะงักไป คิ้วขมวดมุ่น รสชาติแปลก ๆ ของเนื้อหมูทำให้ผมรีบดึงกระดาษเช็ดปากออกมาแล้วคายมันทิ้ง กูควรจะไม่แดกตั้งแต่เห็นว่าสีมันแปลกแล้ว... วางตะเกียบ ยกน้ำขึ้นดื่มล้างปาก ดันชามก๋วยเตี๋ยวออกไป กลิ่นแม่งยังคลุ้งในปากอยู่เลย

   “ไม่อร่อยเหรอคะ?” พี่พีทถาม

   “เปล่าครับ หมูเน่า”

   “เฮ้ย!” พวกพี่เขาร้องตกใจ ผมยกมือเรียกข้าวฟ่าง

   “ว่า?”

   “หมูเน่า”

   “เหี้ยละ ได้ไงวะ”

   ผมยังไม่อยากเชื่อเลย คือร้านมาตรฐานดีมากไงครับ วัตถุดิบที่ใช้ก็สดใหม่ ผมก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรกนี่แหละ

   “จริง ๆ”

   “มึงคิดไปเองเปล่า ร้านกูสดใหม่ทุกวันยิ่งกว่าขนมปังนะเว้ย”

   “กูใคร?”

   “จริงใจสายแดก”

   “มึงลองแดก” ดันชามไปให้มัน ไอ้ฟ่างมันก็คีบเนื้อหมูเข้าปาก และสิ่งที่มันทำหลังจากนั้นคือคายออกมา

   “ฉิบหายละ เฮีย!!!!” ข้าวฟ่างวิ่งแจ้นเข้าไปหลังร้าน

   “เน่าจริงเหรอคะ?”

   “ลองไหมครับ?” พี่พีทรีบส่ายหน้าทันที อือ อย่าลองเลยดีกว่า

   “จริงใจ”

   “สวัสดีครับ” ยกมือไหว้พี่โอ๊ต ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน

   “ข้าวฟ่างมันบอกว่าหมูเน่า จริงเหรอ?”

   “อือ ไม่เชื่อก็ลองสิ ผมไม่ดิสร้านพี่หรอก” พี่ข้าวโอ๊ตลองไป ปฏิกิริยาก็ไม่ต่างกันกับผมและข้าวฟ่าง

   “แย่ละ เป็นไปได้ไง เดี๋ยวพี่สั่งใหม่ให้ ขอโทษด้วยนะครับ”

   “ครับ ไม่เอาหมูแล้วนะพี่”

   “โอเค ๆ” พี่ข้าวโอ๊ตไปแล้ว เห็นไปคุยกับพนักงานหน้าเครียดด้วย ก็สมควรจะเครียดแหละครับ สำหรับผมมันไม่อะไร เพราะรู้จักกันอยู่แล้ว แต่กับคนอื่นก็ค่อนข้างลำบากหน่อย ถ้าเขาเอาไปพูดต่อ ร้านก็เสียชื่อ

   ผมจิ้มลูกชิ้นลวกที่สั่งต่างหากกินเล่นไปพลาง ร้านแม่งคนเยอะ เมื่อไหร่กูจะได้แดก

   “เออ นึกยังไงมาจีบเมียพี่ครับ?” จู่ ๆ พี่คลื่นก็ถามขึ้นมา คนข้าง ๆ ผมสำลักบะหมี่ไปเลย

   “ไม่ตอบได้ไหมครับ?”

   “น้องบอกมึงเสือกค่ะ”

   “หุบปากครับนังเมียน้อย!” พี่คลื่นชี้หน้าพี่พีท “ไม่รู้เหรอว่าภัคไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า”

   “รู้ครับ”

   “แต่ก็ยังจีบเนี่ยนะ เหมือนไม่มีความหวังอะไรเลยนะ ท้อตายห่า”

   “พวกมึงหุบปากแล้วแดกกันเงียบ ๆ จะตายไหม?” ตัวหอมพูด สีหน้าหาเรื่องและดูหงุดหงิด “นายก็ไม่ต้องตอบอะไรพวกมันทั้งนั้น น่ารำคาญ”

   ผมเบะปาก เป็นจังหวะที่มีคนเอาก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟให้พอดี ผมจึงเลิกสนใจแล้วหันมาก้มหน้าก้มตากินแทน คือ หิวมาก ยังไม่กินอะไรตั้งแต่เช้า นี่คือมื้อแรก แล้วดันได้รอนานด้วย

   “ขอโทษนะครับ ขอผมนั่งด้วยนะ” ชำเลืองมองคนที่เสนอหน้าเข้ามา ไอ้ข้าวฟ่างนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามผมและข้างพี่คลื่น ความหน้าด้านของมันแก้ไม่ได้จริง ๆ สินะ

   “ไปทำงานมึงสิ”

   “กูพัก” มันว่า ยิ้มหน้าลูกหมาใส่ตัวหอมกับเพื่อน พวกพี่เขาก็งง ๆ ไอ้เด็กห่านี่ใคร ทำไมเสนอหน้ามานั่งด้วยแบบนี้ “มึงไม่ต้องไปกับพ่อมึงเหรอ?” ผมส่ายหน้า

   วันนี้ผมไม่เข้าเพราะท่านประธานบอกไว้ว่าไม่ต้องเข้าไปก็ได้ ในส่วนของการทุจริตในบริษัทก็พอจะคืบหน้าไปแล้วบ้าง พ่อบอกมาแบบนั้น แต่ก็ยังไม่บอกรายละเอียดลึก ๆ อะไรกับผม

   “เพื่อนน้องจริงใจเหรอคะ?”

   “ครับ ผมเป็นเพื่อนจริงใจ แต่เป็นรุ่นพี่มัน ชื่อข้าวฟ่างครับ พี่คนสวยชื่ออะไรครับ”

   ผมกลอกตา กับความไอ้ข้าวฟ่าง เออ เรื่องของมึง

   “แหม ปากหวานจังนะเรา พี่ชื่อพีทค่ะ”

   “ชื่อน่ารักเหมาะกับหน้าเลยนะครับ” ผมกลอกตาอีกรอบ พี่พีทเขินตัวบิดไปละ “แล้วพี่คนสวยอีกคนล่ะครับ?”

   “จักรพรรดิ”

   “กูไม่ได้ถามมึง!”

   ผมยักคิ้วข้างหนึ่ง ไม่ตอบโต้ตอบอะไรมัน ปล่อยให้คุยกันไปก็ได้ว่ะ ข้าวฟ่างมันพูดมาก อัธยาศัยดีจนเกินพอดี เลยเข้ากับคนง่าย บวกกับด้วยตำแหน่งหัวหน้าวงและร้องนำของมัน ทำให้มันต้องเอนเตอร์เทรนด์คน ความพูดมากของมันก็มาจากตรงนั้นแหละ

   “เออ มึง วันเสาร์นี้อย่าลืมนะเว้ย”

   “กูจะลืมเพราะมึงย้ำบ่อย ๆ” บอกครั้งเดียวผมก็เข้าใจแล้ว ถ้าย้ำบ่อยซ้ำซากผมจะรำคาญ อย่างที่บอกไปว่าวันเสาร์มีนัดซ้อมดนตรีที่ห้องซ้อมประจำ

   “ขอโทษจ้า” มันยกมือขึ้นท่วมหัวด้วยท่าทางกวนตีน

   อยากโบกกะโหลกมันสักที แต่ผมก็ไม่ทำ ลุกออกจากโต๊ะ สั่งไอศกรีมกะทิมะพร้าวอ่อนกับชานมไข่มุกมาทานเป็นของหวาน

   “เมื่อวานกูเอากีตาร์ไปเปลี่ยนสาย เจอไอ้เหี้ยนั่นด้วย”

   “ใคร?”

   “พวกหัวใจวาย”

   เรียกชื่อเขาซะเสีย พวกหัวใจวายคือกลุ่มวงดนตรีที่ไม่ค่อยถูกกับพวกผมเท่าไหร่ครับ จริง ๆ วงนั้นชื่อ Heart Attack ด้วยความอคติเลยเรียกเสียหายแบบนี้แหละ ความไอ้ฟ่าง

   ผมไหวไหล่ “ช่างมัน”

   “เล่นดนตรีกันเหรอน้อง?” พี่คลื่นถาม

   “ครับพี่ พวกผมฟอร์มวงกันมานานละ”

   “เฮ้ยจริงดิ พวกพี่ก็เคยฟอร์มแต่ตอนนี้เลิกไปแล้วว่ะ”

   “โห พี่เล่นตำแหน่งไรอ่ะ ผมเป็นร้องนำกับกีตาร์ ส่วนไอ้จริงใจมันเป็นมือกลอง”

   “กีตาร์ดิ สาวกรี๊ดเยอะ”

   “ไม่จริง ผมเล่นกีตาร์ไม่เห็นจะมีคนกรี๊ดเยอะเหมือนไอ้จริงใจเลย กลองบังหน้าแต่แฟนคลับอย่างเยอะอ่ะ เวลาเล่นก็ใส่หมวกปิดหน้าปิดตา คุยก็ไม่ค่อยคุย หยิ่งจะตายไม่รู้คนชอบเยอะได้ยังไง”

   อันนี้จากจิตใจเบื้องลึกละ

   “ของแบบนี้มันอยู่ที่หน้า”

   “ถุย!”

   “ฮ่าฮ่า อันนี้เรื่องจริงว่ะ นี่ไอ้ครามก็ตีกลองเหมือนกัน” ข้าวฟ่างตาเป็นประกาย คุยจ้อกับพี่แฝดยาวเลยงานนี้ ตัวหอมก็คุยกับพี่พีท ส่วนผมเหรอ? จ้วงไอติมกะทินี่ไง มะพร้าวอ่อนหอม ๆ อร่อยมาก

   “อยากกินเหรอ?” ถามคนที่จ้องถ้วยไอศกรีมผมตาเป็นประกายเสียงเบา ตัวหอมช้อนตาขึ้น กูแทบหัวใจวาย ตาโคตรแป๋ว พอเขาได้สติก็กลับมาทำตาแข็งเหมือนเดิม หันหน้าไปหาพี่พีทเหมือนเดิมด้วย

   โคตรเด็กน้อย

   “เอาไหมครับ? ผมสั่งให้”

   “.....อือ” ผมหัวเราะหน่อย ๆ ลุกไปสั่งไอศกรีมมาให้เขาหนึ่งถ้วย ไม่รู้ว่าทานอะไรบ้างผมเลยเลือกมาแค่มะพร้าวนั่นแหละ หน้าตาเขาดูเป็นคนกินยาก เอาเบสิคไปแล้วกัน ไม่อยากจะมีปัญหา

   “มีให้แค่นังภัคเหรอคะ?” เสียงพี่พีทค่อนแขวะเมื่อผมวางถ้วยไอศกรีมให้ตัวหอม

   “อ่า... พี่พีทอยากทานเหรอครับ?”

   “จะสั่งให้พี่เหรอคะ?” ยิ้มหวานมาเชียว

   ผมชี้นิ้วไปที่ข้าวฟ่าง “สั่งกับพนักงานเลยครับ”

   “ค่ะ!”

   ผมยกกำปั้นปิดปากขณะอ้าปากหาว กินอิ่มแล้วก็ง่วงเลย ผมก็ไม่ได้ขี้เกียจอะไรนี่หว่า อาจเพราะตื่นเช้าด้วยมั้ง เมื่อคืนก็นอนดึก

   “กินเสร็จก็ง่วงเลยนะคะ น่าเอ็นดู”

   หรี่ตาลง ทำไมมันดูย้อนแย้งกันจังวะ พี่พีทปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต ผมก็ไม่ได้อะไร ไม่ถือละ พี่คลื่นพี่ครามก็สาดกูมึงให้พวกผมระเนระนาด หลังจากที่เสวนากันเรื่องดนตรีกับกีฬา เหมือนจะถูกคอ แลกเบอร์กับข้าวฟ่างแล้วเรียบร้อย

   “มึงจะไปไหนต่อไหมวะ?”

   “กลับบ้าน ทำไม?”

   “ลูกค้าเยอะ” จะให้กูเป็นเด็กเสิร์ฟแน่ ๆ ผมจึงทำหน้านิ่งดักคอมัน “น่ามึง... กลับบ้านก็ไม่มีไรทำ หรือมึงอ้างวะ มีนัดกับสาวแหงะ?”

   แหงะหน้ามึง...

   “ก็แย่ละ กูง่วง” หาวใส่หน้าแม่ง ปาดก้านนิ้วเช็ดน้ำตาที่หน้าตา ตอนนี้ตาเริ่มจะเคือง ๆ นิดหน่อย กูต้องนอน โหยหาเตียง

   “จิ๊ ไม่ได้ดั่งใจเลยว่ะ” มันบ่น “พวกพี่จะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?”

   “ไม่แล้ว อิ่มฉิบหาย” พี่คลื่นว่า

   “พวกพี่กินกันเยอะโคตรอ่ะ อร่อยอ่ะดิ” ชามที่วางซ้อนกันนี่ก็ค่อนข้างสูงนะ   

   “มึงให้น้อย”

   “ไอ้แสรดดดดดด” ไอ้ฟ่างทำท่าจะฟาด ผมยักไหล่ “น้อยบ้าไร มาตรฐานโว้ย!”

   “โวะ พวกมึงนี่ เช็กบิลเลย”

   “จะกลับแล้วหรอครับ”

   “เออ” พี่คลื่นตอบสั้น ๆ ไอ้ฟ่างเบะปากทำคิ้วตก

   “เอ้า บทจะไปก็ไปกันหมดเลยงี้เหรอ โฮ ฟ่างเศร้า”

   “พวกกูมีเรียนกันครับ ไอ้ห่า”

   “แหมพี่ เราสนิทกับเร็วเน้ออออ”

   “กูเป็นคนเฟรนด์ลี่” พี่คลื่นโบกหัวข้าวฟ่างประกอบคำพูด มันหน้ามุ่ย ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ล้วงเอาสมุดเล็ก ๆ ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนแบบครึ่งตัวออกมา มันเหลือกตาขึ้นเพดาน ก่อนเอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่เสียบอยู่ในกล่องออกมา

   “xxx บาทครับ”

   “ของกูเท่าไหร่วะ?”

   “รวมเลย ไอ้คลื่นจ่าย”

   “อ้าว ทำไมน้องครามพูดกับพี่แบบนี้ล่ะจ๊ะ”

   “อ่ะ” เพราะพี่แฝดกำลังตีกันอยู่ ตัวหอมของผมจึงเป็นคนส่งธนบัตรสีม่วงไปให้ข้าวฟ่าง แขนเฉียดหน้าผมไปนิดเดียวเอง โคตรหอมเลย

   ข้าวฟ่างรับเงิน วิ่งไปที่แคชเชียร์ก่อนเอาเงินทอนกลับมา

   “ขอบคุณครับผม ไว้ครั้งหน้ามาใหม่นะครับ”

   ก่อนออกจากร้าน ข้าวฟ่างดึงแขนผมไว้แล้วกระซิบถึงเรื่องหมูเน่าที่ผมเพิ่งประสบพบเจอมา... มันบอกว่า พนักงานยกกล่องมาผิด อันนั้นคือที่จะเอาไปทิ้ง พอเปิดกล่องใหม่ปุ๊บ แจ็กพอร์ตเข้าที่กูเลยครับ กูโดนคนเดียวด้วย สัดหมา








(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3



   โฮ่ง ๆ แง่ง ๆ

   “เฮ้ย!” ผมตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นหมาพันทางตัวหนึ่งกำลังกัด ๆ แทะ ๆ ยางรถลูกรักผมอยู่

   ไอ้หมา มึง!!

   ก้าวสามขุมเข้าไปใกล้ ย่อตัวลงนั่ง กวักมือเรียกไอ้หน้าหมาเข้ามา เออ มันก็ฟังว่ะ ผมยกมือขึ้น ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกคว้าข้อมือไว้เสียอย่างนั้น หันไปมองคนทำ ผมบิดข้อมือตัวเองออก แต่ถูกกำไว้แน่น ตัวหอมทำหน้าโกรธ ๆ ข้างหลังก็มีเพื่อนของเขาสามคนยืนเรียงกันเป็นแบ็ก

   “อะไรของคุณ?” ผมถาม ออกแรงกระชากมือตัวเองออก เคาะหัวไอ้หมาเบา ๆ ก่อนลูบหัวมัน ดึงมือกลับมาเปิดประเป๋า ค้นเอาถุงขนมสำหรับสุนัขออกมา เทใส่มือแล้วยื่นไปให้ไอ้หมา ลิ้นยาว ๆ แลบออกมากวาดขนมในมือถือผม

   “อั๊ย! หล่อ สูง ไนซ์ รักสัตว์ เป็นมิตรกับเกย์ ลิมิเต็ดอิดิทชั่น มีขายที่ไหนวะ กูพร้อมโอนมาก อยากได้!” เสียงพี่พีทดังแว่วมา ผมทิ้งตัวนั่งบนฟุตปาธ วางถุงขนมเอาไว้แล้วคว้าถุงลูกชิ้นมาแทน โทษนะหมู ให้หมามันไปก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าจันทร์เจ้ากับจ๋าจ้ารู้ว่าผมเอาของที่ซื้อฝากมาให้หมากินจะไม่คุยกับผมกี่นาที

   “กูนึกว่าจะเตะหมา”

   “ก็แย่ละ ผมจะเตะทำไมวะ”

   “ก็ร้องซะเสียงดัง เมียกูหน้าแหกเลยเนี่ย ฮ่าฮ่า”

   อ๋อ ที่มาคว้ามือผมไว้อ่ะนะ แหงนหน้าขึ้นมองหน้าตัวหอม เขาดูอึ้ง ๆ หน่อย เสหน้ามองไปทางอื่น ไม่สบตาผม

   “พวกกูไปละนะ ไว้เจอกัน” พวกพี่แฝดขอตัวไปก่อน ได้ยินว่าเรียนคนละที่กันกับตัวหอม แล้วพี่แฝดทั้งสองคนก็ไม่ได้เรียนที่เดียวกันด้วย งงในงง

   “มึงให้น้องจริงใจของกูไปส่งนะ”

   “อิเหี้ย”

   “กูมีเรียนต่อเนี่ย มึงไม่มีเรียนอะไรก็กลับ ๆ ไป ภาระฉิบหาย รถมีก็ไม่เอามาใช้ น้องจริงใจขา พี่ฝากไปส่งอิภัคได้ไหมคะ?”

   มองหน้าพี่พีทสลับกับตัวหอม ก่อนจะพยักหน้า “ครับ”

   “ว้าย น่ารักที่สุด พี่ไปก่อนนะคะ” พี่พีทบอกแล้ววิ่งออกไปเลย ทิ้งตัวหอมยืนฟึดฟัด ผมซ่อนรอยยิ้มไว้ใต้สีหน้านิ่ง ๆ ไม่อยากแสดงออกอะไรให้เขารู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม

   “ไปไหนครับ?”

   “กลับ”

   “เดี๋ยวไปส่ง รอก่อนแป๊บหนึ่งได้ไหม ไอ้หมายังกินลูกชิ้นไม่หมดเลย”

   คนอายุมากที่ตัวเล็กกว่าทำหน้าเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ขยับถอยหลังไปยืนในร่มหน้าร้านพี่ข้าวโอ๊ต เออ กูนี่ก็มานั่งป้อนลูกชิ้นหมูให้หมาตอนเที่ยงเนาะ คิดว่าเป็นเป็นพืชเหรอวะ มึงไม่ได้สีเขียว ไม่มีคลอโลฟิลด์ สังเคราะห์แสงไม่ได้! แดดเผาไปละ ผิวผมแดงแน่

   “ไปกันครับ” ยังป้อนไม่หมดหรอก แต่วาง ๆ ไว้แถวนั้นให้มันกินเองกับเทขนมหมาเอาไว้ด้วย บอกตัวหอมพลางบีบเจลใส่มือ เช็ด ๆ ถู ๆ ทำความสะอาด

   เพราะผมชอบจับเล่นชอบจับหมาแมวนี่ไงเลยต้องพกไว้ติดตัวตลอด น้ำลายหมามันสกปรกไง แบคทีเรียก็เยอะ บางคนเขาก็ไม่ชอบให้หมามันเลียมือเลียหน้า แต่ผมว่ามันล้างออกได้นะ ได้เห็นหูตั้ง ๆ หางกระดิกอย่างตื่นเต้นของพวกหมาข้างถนนที่ได้กินอะไรจากมือแล้วก็คุ้มแหละ

   และขนมนั่น ผมก็พกตลอดเช่นกัน ได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศเพลิงฟ้า เห็นพี่ฟ้าทำมาห้าหกปีแล้วเลยทำตามบ้าง เวลาเจอหมาหรือแมวข้างถนนอะไรพวกนี้ บางทีก็เล่นด้วย เอาขนมให้มันกินบ้าง ไม่ก็ซื้อหมูปิ้งมาแบ่งกันกิน แต่ก็ไม่ทุกครั้งที่เจอหรอกครับ แล้วแต่สถานการณ์ จันทร์เจ้ากับจ๋าจ้าก็ได้รับวัฒนธรรมนี้มาเหมือนกัน มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรหรอก แต่ทำแล้วรู้สึกสบายใจดี เวลาเห็นหมาแมวตัวผอม ๆ ได้กินอะไรงี้มันก็เหมือนช่วยต่อชีวิตเขาป่ะวะ

   เออ นั่นแหละ

   ส่งมือไปให้ตัวหอมจับ เขาเมินว่ะ แต่จับไหล่ผมแทน เมื่อตัวหอมนั่งเรียบร้อยแล้วผมจึงออกรถไป ด้วยความที่เบาะด้านหลังมันจะสูงหน่อย ทำให้เขาเอนตัวมาด้านหน้าซึ่งจะชนกับผม มือเล็ก ๆ เกาะอยู่ที่เอว อยากดึงให้มากอด แต่เยอะไป ผมก็ไม่ค่อยชอบ รุงรัง ไว้ก่อนแล้วกัน

   ซ่อนรอยยิ้มไว้ภายใต้หมวกกันน็อกใบใหญ่ ขับรถไปตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงคอนโดมิเนียมหรู



   “หาววว” อ้าปากหาวขณะที่เลื่อนกระจกบังลมขึ้น ยื่นมือไปปลดล็อกสายรัดให้ตัวหอมแล้วถอดหมวกออกให้ มือเล็กสอดเข้าไปใต้กลุ่มผม เสยขึ้นจัดทรงด้วยใบหน้าหงุดหงิด ผมโคตรง่วงเลย ตาจะปิด แสบตายิ่งกว่าตอนอยู่ร้าน กลับไปนอนที่ร้านข้าวฟ่างแล้วค่อยกลับบ้านไหมวะ กลัวจะแหกโค้งตายห่าก่อนจีบตัวหอมติด

   “ขอบใจ”

   “ครับ ผมไปละ”

   “เดี๋ยว!” หันกลับไปมคนเรียก “เอารถไปจอดแล้วตามมา”

   ฮะ? อะไรวะ? ตัวหอมทำหน้านิ่ง ๆ กอดอกกดดัน ถึงผมไม่ค่อยเข้าใจจุดประสงค์สักเท่าไหร่แต่ก็เอารถไปจอดตามที่เขาบอก เลือกที่ทำเลดี ๆ หน่อย จำได้ว่าคนของพี่ก็พักที่นี่ เกิดแจ็กพอร์ตมาเจอผมไม่อยากมีปัญหากับจันทร์เจ้า

   “ชวนผมขึ้นห้องเหรอ?”

   “ไร้สาระ”

   “อ้าว แล้วให้ตามมาทำไมครับ?” แกล้งทำเป็นซื่อทั้งที่รู้อยู่แล้ว ตัวหอมฟอร์มเยอะ ไม่พูดอะไรตรง ๆ หรอก ผมเดินตามตัวหอมออกจากลิฟต์ เสมองไปทางอื่นเมื่อเขากดรหัส แล้วเดินตามอีกคนเข้าไปในห้อง

   คนของพี่เคยบอกว่าตัวหอมหวงโลกของตัวเอง ห้องเขามีแค่คนสนิทที่มีสิทธิ์ย่างกรายเข้ามา แต่ตอนนี้ผมซึ่งยังเป็นคนอื่นได้เข้ามาว่ะ ห้องของเขามีของตกแต่งเยอะแยะไปหมด หากแต่ดูลงตัว มันไม่รกเพราะของทุกอย่างถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม

   “นั่งสิ” นั่งลงที่โซฟาตามที่เขาบอก ถกแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอก (แจ็กเก็ตถอดแขวนไว้ที่ตู้โถงทางเข้าแล้ว)

   “มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

   “เปล่า”

   “อยากให้ผมอยู่ด้วยเหรอ?”

   “หลงตัวเอง”

   “หึ ผมง่วงนะครับ จะกลับบ้านไปนอน”

   “ก็นอนสิ”

   หือ? เลิกคิ้วขึ้น เจ้าของห้องจ้องไปที่โทรทัศน์เครื่องใหญ่ มุมปากของผมยกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขารู้ใช่ไหมว่าผมง่วง เขาเป็นห่วงผมใช่ไหม...

   “เป็นห่วงผมเหรอครับ?” ตัวหอมหันหน้ามา ด้วยเพราะผมเพิ่งขยับเข้าไปใกล้เขา นั่นจึงทำให้ปลายจมูกของเราชนกัน

   “เหอะ” มือขาวดันหน้าผมออกพร้อมทั้งขยับออกไปด้วย

   ทำปากเป็ดแบบจันทร์เจ้า ขยับไปนั่งพิงมุมโซฟา

   “ห้องทิวากาลอยู่ไหนเหรอครับ?”

   “ชั้น 28” ถัดไปสี่ชั้น... “ทำไม?”

   “เปล่า ถามเฉย ๆ”

   “พี่กาลกับ...พี่ชายนาย?” ผมพยักหน้าเมื่อเขาดูไม่มั่นใจ “เป็นแฟนกันเหรอ?”

   “เปล่า ผมยังไม่ให้เป็นแฟน”

   “หมายความไง? เขาก็ชอบกัน”

   ยักไหล่หน่อย ๆ “ก็นั่นแหละ แต่ผมไม่ชอบไง”

   “หวงพี่ว่างั้น?”

   “อือ”

   “เด็กชะมัด”

   “ตอนนี้จะหวงคุณด้วย แต่ไม่มีสิทธิ์” ตัวหอมทำหน้าประหลาด “ทำไมพี่คลื่นต้องเรียกคุณว่าเมีย?”

   “คิดว่าไงล่ะ?” หน้าตาเจ้าเล่ห์ฉิบหาย

   “เรียกเล่น ๆ”

   “ไม่คิดว่าฉันเป็นเมียคลื่นจริง  ๆ เหรอ ไม่งั้นคลื่นจะเรียกแบบนั้นทำไม?”

   “ก็แย่ละ”

   “Best friend on the bed ไรงี้”

   “on the bed ก็เหี้ยเหอะ”

   “หึ”

   หัวหอมโคตรร้าย เขาปั่นหัวผม คนตัวเล็กที่อายุมากกว่าขยับเข้ามาใกล้ เท้าแขนไว้ที่พนังโซฟากักผมไว้ สบตากับเขา ดวงตาเรียวรีวาววับไม่น่าไว้ใจ

   “นายไม่เคยมีเหรอ เซ็กส์เฟรนด์อะไรทำนองนั้น”

   “มีก็แย่ละ”

   “เคยมีเซ็กส์หรือยัง?” ทำไมถามตรงจังเลยวะ!

   “หึ” สั่นหัวประกอบกับคำตอบ แฟนสักคนยังไม่เคยมี จูบแรกก็ยังไม่เสีย ผมยังบริสุทธิ์นะครับ ทำเป็นเล่นไป

   “นายมันเด็ก”

   เกลียดว่ะ ไม่ชอบเลย ทำไมสบประมาทกันด้วยวะ

   “แล้วไงครับ?”

   “ฉันไม่ชอบ”

   “แล้วยังไง? เพราะผมไม่เคยเรื่องเซ็กส์เหรอ ตรรกะอะไรวะ”

   “......”

   “คุณชอบใครสักคนเพราะอะไรเหรอครับ? เรื่องบนเตีย--- อื้อ!”

   พูดยังไม่ทันจบ ริมฝีปากสีแดงก็แนบลงมาที่ปากผม ผมได้แต่เบิกตาโตด้วยความตกใจ ตัวแข็งทื่อเป็นหิน ตัวหอมบด ๆ เบียด ๆ ริมฝีปากอยู่สักพักแล้วผละออก หัวคิ้วขมวดมุ่น หน้ายุ่ง ตาขุ่น

   “จูบก็ไม่เป็น อย่าบอกนะไม่เคยจูบด้วย” ผมเงียบและนั่นคือคำตอบ “เหอะ! ไม่ได้เรื่องเลย เด็กชะ---- อือ!!”

   เมื่อกี้ตกใจต่างหากเลยไม่ได้จูบตอบ ผมกดริมฝีปากตัวเองที่ปากดี ๆ ของเขา ล็อกท้ายทอยอีกคนเอาไว้ก่อนจะดันให้คนตัวเล็กนอนราบไปกับพื้นโซฟา ส่วนตัวผมอยู่ด้านบน คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ยังไม่ได้พิสูจน์ก็มาตัดสินกันแล้ว ไม่เคยปฏิบัติใช่ว่าจะไม่เป็นนี่หว่า แล้วเป็นไงล่ะ โอนอ่อนกับจูบเด็ก ๆ ของผมเฉย เสียงชื้นแฉะของลิ้นที่เกี่ยวพันกันดังไปทั่วหู ใช้ก้านนิ้วปาดน้ำที่ไหลเลอะมุมปากคนอายุมากกว่าออกขณะที่เรียวลิ้นยังเกี่ยวกระหวัดกัน ผมเอียงหน้าเพื่อปรับมุมให้จูบได้ถนัดขึ้น มือเล็กส่งมาคล้องคอ จิกขยุ้มเสื้อผมบางจังหวะ ขาเรียวยกขึ้น ใช้หัวเข่าเสียดต้นขาของผม แต่ก่อนที่อะไรจะเกินเลยไปมากกว่านั้นหรือก่อนที่เราจะขาดอากาศหายใจตายกันก่อนเสียงโทรศัพท์ของตัวหอมก็ดังขึ้นมา...

   นั่นแหละ... เขาถึงได้ผลักผมออก

   ใบหน้าสวยส่อแววหงุดหงิด คว้าโทรศัพท์มือถือมากดรับสาย ผมมองคนที่นอนคุยโทรศัพท์ จ้องไปที่ริมฝีปากของเขา จากปกติที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงไปกันใหญ่ เผลอยื่นมือไปเกลี่ยริมฝีปากอิ่มอย่างไม่รู้ตัว เจ้าของเจลลี่นุ่มชะงัก ตาเรียวตวัดมอง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เรียวลิ้นสีแดงแลบออกมาเลียปลายนิ้วผมอย่างยั่วเย้า ขณะที่ขาเรียวก็ทำหน้าที่ของมัน....ด้วยการเสียดสีกับเป้าผมนี่ไง

   ทำไมชอบยั่วงี้วะ แล้วกับคนอื่นก็ทำแบบนี้เหรอ? คิดแล้วเซ็ง ผมจึงผละออก ปล่อยตัวหอมคุยโทรศัพท์ไป เหมือนจะคุยเรื่องงาน กะจะแซวเรื่องเคลิ้มกับจูบเด็ก ๆ ของผมสักหน่อย แต่ช่างเถอะ เอาไว้ก่อนแล้วกัน


   จากนั้นเสียงรอบตัวก็คล้ายถูกตัดไป ผมไม่ได้ยินเสียงอะไร เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ก่อนจะหลับไปในที่สุด...










----------------------------------------
แกรรรรรรรรรรรร เขาจูบกันแร้วววววววววววววว
พี่ภัคใจเย็น ๆ เดี๋ยวเด็กมันจะหัวใจวายตายก่อน
น้องจริงใจยังบริสุทธิ์ไร้มลทิน แม้แต่จูบแรกก็ยังไม่เสีย หงิง~

ขอโทษที่มาอัพช้าเด้อ แล้วก็อาจจะมีคำผิดอยู่ เดี๋ยวมาแก้นะคะ มาอัพก่อนกลัวว่าจะดึก
และที่เงียบ ๆ จากในเพจหรืออะไรก็ไม่ได้หายไปไหนนะคะ ....หลับค่ะ ; __ ;
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านจ้า หวังว่าจะเอ็นดูเด็กปีศาจที่เด๋อ ๆ และพี่ภัคที่หลุดคาแรคเตอร์กันนะคะ
ไว้เจอกันตอนหน้าคร้าบบบบบ จะรีบมาเร็ว ๆ ฮือออออ
บายยยยยยยยยยยยยยย ♥

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ไม่เด็กแล้ววววววว จูบกระชากวิญญาณแบบนี้

ภัคดูอ่อนไปเลย 5555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เอาอีกๆ
อยากเห็นตัวหอมยั่วจริงใจเยอะๆ

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อะโห้ยยยยยยยยยย จริงใจโดนอ่อยแล้ว :katai1:

รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1: ค้างมากมายยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด