โฮ่ง ๆ แง่ง ๆ
“เฮ้ย!” ผมตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นหมาพันทางตัวหนึ่งกำลังกัด ๆ แทะ ๆ ยางรถลูกรักผมอยู่
ไอ้หมา มึง!!
ก้าวสามขุมเข้าไปใกล้ ย่อตัวลงนั่ง กวักมือเรียกไอ้หน้าหมาเข้ามา เออ มันก็ฟังว่ะ ผมยกมือขึ้น ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกคว้าข้อมือไว้เสียอย่างนั้น หันไปมองคนทำ ผมบิดข้อมือตัวเองออก แต่ถูกกำไว้แน่น ตัวหอมทำหน้าโกรธ ๆ ข้างหลังก็มีเพื่อนของเขาสามคนยืนเรียงกันเป็นแบ็ก
“อะไรของคุณ?” ผมถาม ออกแรงกระชากมือตัวเองออก เคาะหัวไอ้หมาเบา ๆ ก่อนลูบหัวมัน ดึงมือกลับมาเปิดประเป๋า ค้นเอาถุงขนมสำหรับสุนัขออกมา เทใส่มือแล้วยื่นไปให้ไอ้หมา ลิ้นยาว ๆ แลบออกมากวาดขนมในมือถือผม
“อั๊ย! หล่อ สูง ไนซ์ รักสัตว์ เป็นมิตรกับเกย์ ลิมิเต็ดอิดิทชั่น มีขายที่ไหนวะ กูพร้อมโอนมาก อยากได้!” เสียงพี่พีทดังแว่วมา ผมทิ้งตัวนั่งบนฟุตปาธ วางถุงขนมเอาไว้แล้วคว้าถุงลูกชิ้นมาแทน โทษนะหมู ให้หมามันไปก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าจันทร์เจ้ากับจ๋าจ้ารู้ว่าผมเอาของที่ซื้อฝากมาให้หมากินจะไม่คุยกับผมกี่นาที
“กูนึกว่าจะเตะหมา”
“ก็แย่ละ ผมจะเตะทำไมวะ”
“ก็ร้องซะเสียงดัง เมียกูหน้าแหกเลยเนี่ย ฮ่าฮ่า”
อ๋อ ที่มาคว้ามือผมไว้อ่ะนะ แหงนหน้าขึ้นมองหน้าตัวหอม เขาดูอึ้ง ๆ หน่อย เสหน้ามองไปทางอื่น ไม่สบตาผม
“พวกกูไปละนะ ไว้เจอกัน” พวกพี่แฝดขอตัวไปก่อน ได้ยินว่าเรียนคนละที่กันกับตัวหอม แล้วพี่แฝดทั้งสองคนก็ไม่ได้เรียนที่เดียวกันด้วย งงในงง
“มึงให้น้องจริงใจของกูไปส่งนะ”
“อิเหี้ย”
“กูมีเรียนต่อเนี่ย มึงไม่มีเรียนอะไรก็กลับ ๆ ไป ภาระฉิบหาย รถมีก็ไม่เอามาใช้ น้องจริงใจขา พี่ฝากไปส่งอิภัคได้ไหมคะ?”
มองหน้าพี่พีทสลับกับตัวหอม ก่อนจะพยักหน้า “ครับ”
“ว้าย น่ารักที่สุด พี่ไปก่อนนะคะ” พี่พีทบอกแล้ววิ่งออกไปเลย ทิ้งตัวหอมยืนฟึดฟัด ผมซ่อนรอยยิ้มไว้ใต้สีหน้านิ่ง ๆ ไม่อยากแสดงออกอะไรให้เขารู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม
“ไปไหนครับ?”
“กลับ”
“เดี๋ยวไปส่ง รอก่อนแป๊บหนึ่งได้ไหม ไอ้หมายังกินลูกชิ้นไม่หมดเลย”
คนอายุมากที่ตัวเล็กกว่าทำหน้าเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ขยับถอยหลังไปยืนในร่มหน้าร้านพี่ข้าวโอ๊ต เออ กูนี่ก็มานั่งป้อนลูกชิ้นหมูให้หมาตอนเที่ยงเนาะ คิดว่าเป็นเป็นพืชเหรอวะ มึงไม่ได้สีเขียว ไม่มีคลอโลฟิลด์ สังเคราะห์แสงไม่ได้! แดดเผาไปละ ผิวผมแดงแน่
“ไปกันครับ” ยังป้อนไม่หมดหรอก แต่วาง ๆ ไว้แถวนั้นให้มันกินเองกับเทขนมหมาเอาไว้ด้วย บอกตัวหอมพลางบีบเจลใส่มือ เช็ด ๆ ถู ๆ ทำความสะอาด
เพราะผมชอบจับเล่นชอบจับหมาแมวนี่ไงเลยต้องพกไว้ติดตัวตลอด น้ำลายหมามันสกปรกไง แบคทีเรียก็เยอะ บางคนเขาก็ไม่ชอบให้หมามันเลียมือเลียหน้า แต่ผมว่ามันล้างออกได้นะ ได้เห็นหูตั้ง ๆ หางกระดิกอย่างตื่นเต้นของพวกหมาข้างถนนที่ได้กินอะไรจากมือแล้วก็คุ้มแหละ
และขนมนั่น ผมก็พกตลอดเช่นกัน ได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศเพลิงฟ้า เห็นพี่ฟ้าทำมาห้าหกปีแล้วเลยทำตามบ้าง เวลาเจอหมาหรือแมวข้างถนนอะไรพวกนี้ บางทีก็เล่นด้วย เอาขนมให้มันกินบ้าง ไม่ก็ซื้อหมูปิ้งมาแบ่งกันกิน แต่ก็ไม่ทุกครั้งที่เจอหรอกครับ แล้วแต่สถานการณ์ จันทร์เจ้ากับจ๋าจ้าก็ได้รับวัฒนธรรมนี้มาเหมือนกัน มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรหรอก แต่ทำแล้วรู้สึกสบายใจดี เวลาเห็นหมาแมวตัวผอม ๆ ได้กินอะไรงี้มันก็เหมือนช่วยต่อชีวิตเขาป่ะวะ
เออ นั่นแหละ
ส่งมือไปให้ตัวหอมจับ เขาเมินว่ะ แต่จับไหล่ผมแทน เมื่อตัวหอมนั่งเรียบร้อยแล้วผมจึงออกรถไป ด้วยความที่เบาะด้านหลังมันจะสูงหน่อย ทำให้เขาเอนตัวมาด้านหน้าซึ่งจะชนกับผม มือเล็ก ๆ เกาะอยู่ที่เอว อยากดึงให้มากอด แต่เยอะไป ผมก็ไม่ค่อยชอบ รุงรัง ไว้ก่อนแล้วกัน
ซ่อนรอยยิ้มไว้ภายใต้หมวกกันน็อกใบใหญ่ ขับรถไปตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงคอนโดมิเนียมหรู
“หาววว” อ้าปากหาวขณะที่เลื่อนกระจกบังลมขึ้น ยื่นมือไปปลดล็อกสายรัดให้ตัวหอมแล้วถอดหมวกออกให้ มือเล็กสอดเข้าไปใต้กลุ่มผม เสยขึ้นจัดทรงด้วยใบหน้าหงุดหงิด ผมโคตรง่วงเลย ตาจะปิด แสบตายิ่งกว่าตอนอยู่ร้าน กลับไปนอนที่ร้านข้าวฟ่างแล้วค่อยกลับบ้านไหมวะ กลัวจะแหกโค้งตายห่าก่อนจีบตัวหอมติด
“ขอบใจ”
“ครับ ผมไปละ”
“เดี๋ยว!” หันกลับไปมคนเรียก “เอารถไปจอดแล้วตามมา”
ฮะ? อะไรวะ? ตัวหอมทำหน้านิ่ง ๆ กอดอกกดดัน ถึงผมไม่ค่อยเข้าใจจุดประสงค์สักเท่าไหร่แต่ก็เอารถไปจอดตามที่เขาบอก เลือกที่ทำเลดี ๆ หน่อย จำได้ว่าคนของพี่ก็พักที่นี่ เกิดแจ็กพอร์ตมาเจอผมไม่อยากมีปัญหากับจันทร์เจ้า
“ชวนผมขึ้นห้องเหรอ?”
“ไร้สาระ”
“อ้าว แล้วให้ตามมาทำไมครับ?” แกล้งทำเป็นซื่อทั้งที่รู้อยู่แล้ว ตัวหอมฟอร์มเยอะ ไม่พูดอะไรตรง ๆ หรอก ผมเดินตามตัวหอมออกจากลิฟต์ เสมองไปทางอื่นเมื่อเขากดรหัส แล้วเดินตามอีกคนเข้าไปในห้อง
คนของพี่เคยบอกว่าตัวหอมหวงโลกของตัวเอง ห้องเขามีแค่คนสนิทที่มีสิทธิ์ย่างกรายเข้ามา แต่ตอนนี้ผมซึ่งยังเป็นคนอื่นได้เข้ามาว่ะ ห้องของเขามีของตกแต่งเยอะแยะไปหมด หากแต่ดูลงตัว มันไม่รกเพราะของทุกอย่างถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม
“นั่งสิ” นั่งลงที่โซฟาตามที่เขาบอก ถกแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอก (แจ็กเก็ตถอดแขวนไว้ที่ตู้โถงทางเข้าแล้ว)
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า”
“อยากให้ผมอยู่ด้วยเหรอ?”
“หลงตัวเอง”
“หึ ผมง่วงนะครับ จะกลับบ้านไปนอน”
“ก็นอนสิ”
หือ? เลิกคิ้วขึ้น เจ้าของห้องจ้องไปที่โทรทัศน์เครื่องใหญ่ มุมปากของผมยกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขารู้ใช่ไหมว่าผมง่วง เขาเป็นห่วงผมใช่ไหม...
“เป็นห่วงผมเหรอครับ?” ตัวหอมหันหน้ามา ด้วยเพราะผมเพิ่งขยับเข้าไปใกล้เขา นั่นจึงทำให้ปลายจมูกของเราชนกัน
“เหอะ” มือขาวดันหน้าผมออกพร้อมทั้งขยับออกไปด้วย
ทำปากเป็ดแบบจันทร์เจ้า ขยับไปนั่งพิงมุมโซฟา
“ห้องทิวากาลอยู่ไหนเหรอครับ?”
“ชั้น 28” ถัดไปสี่ชั้น... “ทำไม?”
“เปล่า ถามเฉย ๆ”
“พี่กาลกับ...พี่ชายนาย?” ผมพยักหน้าเมื่อเขาดูไม่มั่นใจ “เป็นแฟนกันเหรอ?”
“เปล่า ผมยังไม่ให้เป็นแฟน”
“หมายความไง? เขาก็ชอบกัน”
ยักไหล่หน่อย ๆ “ก็นั่นแหละ แต่ผมไม่ชอบไง”
“หวงพี่ว่างั้น?”
“อือ”
“เด็กชะมัด”
“ตอนนี้จะหวงคุณด้วย แต่ไม่มีสิทธิ์” ตัวหอมทำหน้าประหลาด “ทำไมพี่คลื่นต้องเรียกคุณว่าเมีย?”
“คิดว่าไงล่ะ?” หน้าตาเจ้าเล่ห์ฉิบหาย
“เรียกเล่น ๆ”
“ไม่คิดว่าฉันเป็นเมียคลื่นจริง ๆ เหรอ ไม่งั้นคลื่นจะเรียกแบบนั้นทำไม?”
“ก็แย่ละ”
“Best friend on the bed ไรงี้”
“on the bed ก็เหี้ยเหอะ”
“หึ”
หัวหอมโคตรร้าย เขาปั่นหัวผม คนตัวเล็กที่อายุมากกว่าขยับเข้ามาใกล้ เท้าแขนไว้ที่พนังโซฟากักผมไว้ สบตากับเขา ดวงตาเรียวรีวาววับไม่น่าไว้ใจ
“นายไม่เคยมีเหรอ เซ็กส์เฟรนด์อะไรทำนองนั้น”
“มีก็แย่ละ”
“เคยมีเซ็กส์หรือยัง?” ทำไมถามตรงจังเลยวะ!
“หึ” สั่นหัวประกอบกับคำตอบ แฟนสักคนยังไม่เคยมี จูบแรกก็ยังไม่เสีย ผมยังบริสุทธิ์นะครับ ทำเป็นเล่นไป
“นายมันเด็ก”
เกลียดว่ะ ไม่ชอบเลย ทำไมสบประมาทกันด้วยวะ
“แล้วไงครับ?”
“ฉันไม่ชอบ”
“แล้วยังไง? เพราะผมไม่เคยเรื่องเซ็กส์เหรอ ตรรกะอะไรวะ”
“......”
“คุณชอบใครสักคนเพราะอะไรเหรอครับ? เรื่องบนเตีย--- อื้อ!”
พูดยังไม่ทันจบ ริมฝีปากสีแดงก็แนบลงมาที่ปากผม ผมได้แต่เบิกตาโตด้วยความตกใจ ตัวแข็งทื่อเป็นหิน ตัวหอมบด ๆ เบียด ๆ ริมฝีปากอยู่สักพักแล้วผละออก หัวคิ้วขมวดมุ่น หน้ายุ่ง ตาขุ่น
“จูบก็ไม่เป็น อย่าบอกนะไม่เคยจูบด้วย” ผมเงียบและนั่นคือคำตอบ “เหอะ! ไม่ได้เรื่องเลย เด็กชะ---- อือ!!”
เมื่อกี้ตกใจต่างหากเลยไม่ได้จูบตอบ ผมกดริมฝีปากตัวเองที่ปากดี ๆ ของเขา ล็อกท้ายทอยอีกคนเอาไว้ก่อนจะดันให้คนตัวเล็กนอนราบไปกับพื้นโซฟา ส่วนตัวผมอยู่ด้านบน คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ยังไม่ได้พิสูจน์ก็มาตัดสินกันแล้ว ไม่เคยปฏิบัติใช่ว่าจะไม่เป็นนี่หว่า แล้วเป็นไงล่ะ โอนอ่อนกับจูบเด็ก ๆ ของผมเฉย เสียงชื้นแฉะของลิ้นที่เกี่ยวพันกันดังไปทั่วหู ใช้ก้านนิ้วปาดน้ำที่ไหลเลอะมุมปากคนอายุมากกว่าออกขณะที่เรียวลิ้นยังเกี่ยวกระหวัดกัน ผมเอียงหน้าเพื่อปรับมุมให้จูบได้ถนัดขึ้น มือเล็กส่งมาคล้องคอ จิกขยุ้มเสื้อผมบางจังหวะ ขาเรียวยกขึ้น ใช้หัวเข่าเสียดต้นขาของผม แต่ก่อนที่อะไรจะเกินเลยไปมากกว่านั้นหรือก่อนที่เราจะขาดอากาศหายใจตายกันก่อนเสียงโทรศัพท์ของตัวหอมก็ดังขึ้นมา...
นั่นแหละ... เขาถึงได้ผลักผมออก
ใบหน้าสวยส่อแววหงุดหงิด คว้าโทรศัพท์มือถือมากดรับสาย ผมมองคนที่นอนคุยโทรศัพท์ จ้องไปที่ริมฝีปากของเขา จากปกติที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงไปกันใหญ่ เผลอยื่นมือไปเกลี่ยริมฝีปากอิ่มอย่างไม่รู้ตัว เจ้าของเจลลี่นุ่มชะงัก ตาเรียวตวัดมอง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เรียวลิ้นสีแดงแลบออกมาเลียปลายนิ้วผมอย่างยั่วเย้า ขณะที่ขาเรียวก็ทำหน้าที่ของมัน....ด้วยการเสียดสีกับเป้าผมนี่ไง
ทำไมชอบยั่วงี้วะ แล้วกับคนอื่นก็ทำแบบนี้เหรอ? คิดแล้วเซ็ง ผมจึงผละออก ปล่อยตัวหอมคุยโทรศัพท์ไป เหมือนจะคุยเรื่องงาน กะจะแซวเรื่องเคลิ้มกับจูบเด็ก ๆ ของผมสักหน่อย แต่ช่างเถอะ เอาไว้ก่อนแล้วกัน
จากนั้นเสียงรอบตัวก็คล้ายถูกตัดไป ผมไม่ได้ยินเสียงอะไร เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ก่อนจะหลับไปในที่สุด...
----------------------------------------
แกรรรรรรรรรรรร เขาจูบกันแร้วววววววววววววว
พี่ภัคใจเย็น ๆ เดี๋ยวเด็กมันจะหัวใจวายตายก่อน
น้องจริงใจยังบริสุทธิ์ไร้มลทิน แม้แต่จูบแรกก็ยังไม่เสีย หงิง~
ขอโทษที่มาอัพช้าเด้อ แล้วก็อาจจะมีคำผิดอยู่ เดี๋ยวมาแก้นะคะ มาอัพก่อนกลัวว่าจะดึก
และที่เงียบ ๆ จากในเพจหรืออะไรก็ไม่ได้หายไปไหนนะคะ ....หลับค่ะ ; __ ;
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านจ้า หวังว่าจะเอ็นดูเด็กปีศาจที่เด๋อ ๆ และพี่ภัคที่หลุดคาแรคเตอร์กันนะคะ
ไว้เจอกันตอนหน้าคร้าบบบบบ จะรีบมาเร็ว ๆ ฮือออออ
บายยยยยยยยยยยยยยย ♥