• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 313236 ครั้ง)

ออฟไลน์ hoshichi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ตอนนี้เป็นตอนที่ชอบที่สุดในเรื่องตั้งแต่อ่านมา อาจจะมีคลายปมจากตอนที่แล้วที่ภัคเปิดใจ เลยทำให้ทุกอย่างดูสมูธขึ้น
ในตอนนี้ก็เหมือนสองฝั่งเปิดมากขึ้น พูดยาก
คนนึงปากแข็ง อีกคนขี้กลัวขี้กังวลปิดกั้น
มันเลยออกมาเทาๆ นี่เหมือนเติมสีฟ้า สีชมพูเข้าไป

อยากให้หันหน้าคุยกันทั้งสองฝ่ายแบบเปิดเลยนะ
แต่คิดว่าภัคก็ชอบน้องแล้วแหละ เหลือวัดใจหลังเจอพี่คิง

ส่วน จจ นั้นนนนนนน ตอนนี้ก็แรงอยู่ ส่วนเรื่องมายด์นี่รืออออ จะช่วยเพื่อนหรอ????

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยย ใจหนอใจ ไม่มีความชัดเจน มีแต่จริงใจ

ณภัคใจมาทางวอแวบอยนะ แต่เหมือนยังไม่อยากบอก
จริงใจก็ชัดเจนนะ แต่ขอแค่รอคำยืนยัน พยายามเข้านะ จริงใจก็ได้อยู่ตอนพีคเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 34
ผมกับอาการงอแง





   “จริงใจไม่ชอบเหรอ เราไม่ดูหนังแล้วก็ได้นะคะ” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยถามก่อนส่ายหน้าเป็นคำตอบ

   “เปล่าครับ ไปซื้อตั๋วเถอะ”

   “ก็ได้ค่ะ ถ้าจริงใจเป็นอะไรบอกมายด์นะ”

   “ครับ” มายด์เดินไปซื้อตั๋วหลังจากที่ผมตอบรับ เหลือเวลาอีกประมาณสิบห้านาทีจะถึงเวลาหนังฉาย จึงเลือกที่จะหาที่นั่งรอแถวนั้น เพราะต่อให้จะไปเดินเล่นหรือหาอะไรทานมันก็ไม่พอ

   ผมเอาโทรศัพท์ที่แบตเตอร์รี่ใกล้จะหมดขึ้นมาเล่นเกม เพราะไม่มีอะไรจะคุยกับมายด์ เผลอไม่นานสิบห้านาทีก็ผ่านไปแล้ว เราเดินเข้าไปในโรงพร้อมกับคนอื่น ๆ ผมให้มายด์เลือกที่นั่งก่อน ส่วนตัวเองค่อยนั่งทีหลัง ระหว่างที่หนังยังไม่ฉายก็คุยกันนิดหน่อย ผมเออออไปตามเรื่องราว เมื่อไฟค่อย ๆ หรี่ลงจนดับไป เราก็เงียบ ไม่ได้พูดอะไรกันอีก

   หนังที่มายด์เลือกมาเป็นหนังรักโรแมนติก ซึ่งมันไม่ใช่ทางของผม ค่อนข้างน่าเบื่อ ผ่านไปแค่ยี่สิบนาทีก็อ้าปากหาววอด ไขว้แขนกอดอกแล้วหลับตาลง เสียงค่อนข้างดัง แต่คนจะนอน ตรงไหนก็นอนได้ทั้งนั้นแหละ

   “จริงใจ”

   “...” ผมลืมตาขึ้นเมื่อถูกเขย่าตัว คิ้วขมวดเล็กน้อยแล้วมองไปรอบ ๆ หนังจบไปแล้วและคนก็ไม่มีเหลือ นอกจากผมกับมายด์และแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาด

   “จริงใจหลับทั้งเรื่องเลย” เธอว่างอน ๆ เกือบจะช่างแม่งแล้วแต่นึกออกก่อนจึงยกมุมปากขึ้นนิดหน่อยแล้วยื่นมือไปวางบนหัวของมายด์

   “ไปกันครับ”

   “จริงใจน่ะ!”

   “หืม?”

   “เหมือนมายด์มาดูหนังคนเดียวเลย”

   “....ขอโทษครับ ดีกัน” ยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเพื่อน

   “ก็ได้ แค่ครั้งหน้าห้ามหลับนะคะ”

   “ครับ”

   ถ้าครั้งหน้ามันมีจริงน่ะนะ

   หลังจากดูหนังไปเราก็มาอยู่ในร้านอาหารที่มายด์เป็นคนเลือก

   “ถ่ายรูปกันไหม?”

   “ไม่กลัวเนตรเห็นเหรอครับ?” เกิดเดธแอร์ขึ้นมาทันที ผมเม้มปากในขณะที่มายด์หน้าเจื่อน เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วก้มหน้า

   “เนตรไม่สนใจหรอก”

   “หืม ทำไมล่ะ?”

   “ช่วงนี้เนตรไม่สนใจมายด์เลย ชวนไปไหนก็บ่ายเบี่ยงตลอด”

   “คิดมากหรือเปล่า”

   “ไม่หรอก เนตรต้องเบื่อมายด์แน่ ๆ เลยจริงใจ จริงใจเป็นเพื่อนสนิทเนตรนี่นา จะเข้าข้างเพื่อนใช่ไหมล่า”

   “เปล่าครับ ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ”

   “เฮ้อ... บางทีมายด์ก็เบื่ออ่ะ แล้วก็มีความรู้สึกอยากเลิกขึ้นมาด้วย”

   “อยากเลิกก็เลิกสิ”

   “เราไม่กล้าบอก....”

   ผมเลื่อนมือไปจับมือเล็กเอาไว้ “ปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก เผลอ ๆ อาจจะแย่กว่าเดิม อีกอย่าง... ถ้าเนตรรู้เรื่องของเรา”

   “........”

   “บอกเลิกเนตรเถอะนะครับ”

   “...อืม ค่ะ”

   บิงโก!

   ผมยกยิ้มในใจ ปล่อยมือของมายด์ออกเนื่องจากอาหารถูกยกมาเสิร์ฟพอดี หลังจากทานข้าวเสร็จ มายด์อยากเดินดูของ ผมเองก็เดินดูเป็นเพื่อน จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณสองชั่วโมง  มายด์กลับไปแล้วแต่ผมยังอยู่ที่ศูนย์การค้า ตอนนี้เวลาสองทุ่มแล้ว มีนัดซ้อมดนตรีกับวงตอนสามทุ่มครึ่ง

   วันนี้คงต้องค้างที่คอนโดอีกตามเคย ดึก ๆ ผมก็ไม่อยากขับรถนะ ยิ่งเป็นมอเตอร์ไซค์แล้ว ความอันตรายมันยิ่งสูงกว่ารถยนต์

   “เฮ้ย”

   ความบังเอิญมีอยู่จริง... ผมยกมือไหว้คนอายุมากกว่าสี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า พี่คลื่น พี่คราม พี่พีทและพี่พินทร์

   “มาทำอะไรวะ?”

   “ดูหนังครับ” ตอบพี่คลื่น กวาดสายตามองหาเพื่อนของเขาอีกคน แต่ไม่เจอ คิ้วขมวดเข้าหากัน และแล้วความคิดไปเองก็พัดเข้ามา ไม่ใช่ อาจจะไม่ว่างมากับเพื่อนก็ได้

   “คนเดียวเหรอคะ?”

   “เปล่าครับ” แล้วพวกเขาสี่คนก็มองผมด้วยสายตาคมกริบ ผมยักไหล่ ไม่ได้กลัวอะไร ก็เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด “เพื่อนพวกพี่อีกคนล่ะครับ?”

   พวกเขามองหน้ากันและไม่มีใครตอบคำถามของผม เหมือนสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมาจะย้ำว่าความคิดไปเองของผมมันจริงไปแล้ว 70% และพี่ครามก็ทำให้ความคิดของผมมันเป็นจริง 100%

   “ไปทานข้าวกับพี่คิง”

   กูว่าแล้ว

   ผมเดาะลิ้น พยักหน้าสองสามที

   บอกไปหรือยังว่าผมเกลียดเซนส์ของตัวเอง ถ้าบอกแล้วก็จะบอกอีก

   “เอ่อ... น้องจริงใจ”

   “ครับ?”

   “ไม่คิดมากนะคะ”

   “หึ”
   ผมต้องคิดมากอะไรล่ะ เขายังไม่คิดเลย ป่านนี้คงมีความสุขกับรักแรกไปแล้วมั้ง


   เบื่อว่ะ อยากดื่มเบียร์ขึ้นมาเฉยเลย

   “ผมขอตัวนะ”

   “เฮ้ย เดี๋ยวดิ ไปกินข้าวกับพวกกูไหม?”

   “ไม่ล่ะครับ ผมทานแล้ว” ปฏิเสธคำชวนของพี่คลื่นไป ผงกหัวให้พวกเขาเป็นเชิงบอกลา แต่ยังไม่ได้ก้าวไปไหน ก็มีตัวอะไรไม่รู้ว่าเกาะหลังผม

   “I got you! (จับนายได้แล้ว!)” ผมชะงักไปกับน้ำเสียงและสำเนียงคุ้นหู พอหันไปมองก็เจอกลุ่มผมสีแดงที่เห็นบ่อย ๆ จากเด็กฝรั่งอายุสิบห้าที่ค่อนข้างสนิทกัน มิเกลในชุดนักเรียนโรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมแพงฉิบหายกำลังฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันทั้งหมดพลางลงจากหลังผมแล้วมายืนข้าง ๆ แทน

   “ไง?”

   “ไม่ไง ยูเดินโคตรเร็วเลย ไอตามเกือบไม่ทัน”

   “หืม เจอนานแล้วเหรอ?” มิเกลพยักหน้าหงึกหงัก

   “Who are them? (ใครอะ?)”

   “เสือก” ตอบไปคำเดียวสั้น ๆ มิเกลจิปากขัดใจก่อนจะหันไปจ้องพวกเขาสี่คนแล้วฉีกยิ้มไปให้

   เป็นลูกนักธุรกิจก็ต้องยิ้มให้เป็น…
   “น้องจริงใจมาดูหนังกับน้องคนนี้เหรอคะ?” พี่พีทถาม และมีพี่แฝดที่ส่งสายตาเอาเรื่องมาให้ ผมไม่ได้ตอบอะไร
มิเกลก็ถามไปด้วยประโยคที่ทำเอาแทบกุมขมับ

   “Your playmate? (กิ๊กยูเหรอ?)”

   Playmate ก็เหี้ยแล้ว

   “Nope! They are my crush’s friends (ไม่ใช่เว้ย! พวกเขาเป็นเพื่อนของคนที่ไอชอบ)”

   “What the freak! (อะไรเนี่ย!)”

   มิเกลเบิกตาโตไม่ต่างจากพี่พีทกับพี่พินทร์ เด็กฝรั่งหันมามองผมแล้วเขย่าแขนไปมา

   “จริงเหรอ! Do you have a crush!? Oh my god. The world will know about this. (ยูมีคนที่ชอบแล้วจริง ๆ เหรอ? เหยดดดดด โลกต้องรู้เรื่องนี้)”

   ผมแย่งโทรศัพท์ในมือของมิเกล แล้วลากตัวมันออกมา พลางกดลบข้อความที่พิมพ์ไว้ทิ้งไปด้วย

   ฉิบหายเถอะ นอกจากพี่ชายผมที่เหมือนเป็นโทรโข่งแล้ว ฝั่งยุโรปก็มีมิเกลนี่แหละ

   ถ้าอยากประกาศเรื่องอะไรแต่ไม่อยากพูดเองก็บอกมิเกลได้เลย การรักษาความลับไม่มีในหมู่เพื่อนสนิท

   ระหว่างที่เดิน ๆ กันอยู่ก็มีคำถามจากมิเกลดังมาไม่หยุดหย่อนจนผมรำคาญ ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง สุดท้ายก็ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามกลับว่าเจ้าตัวมาทำอะไรที่นี่

   “มาดูร้านกับปาปา เห็นยูแวบ ๆ เลยรีบวิ่งตาม”

   “อ้าว แล้วอาควอทซ์ไม่ว่าหรือไง?”

   “No บอกปาปาแล้วว่าจะมาตามจับ Jay nine and he บอก OK!” เกลียดการทำพูดไทยหนึ่งประโยคแล้วอังกฤษสามประโยคของมันฉิบหาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าผมก็ติดการพูดแบบนี้มาเหมือนกัน และเจย์ไนน์คือชื่อที่มิเกลใช้เรียกผม

   “อืม จะไปไหนต่อ?”

   “Wherever you go, I will go with you. (แล้วแต่ว่ายูจะไปไหน ไอจะไปด้วย)” พูดจบก็ยิ้มจนตาหยี ถ้าเป็นคนอื่นคงมีละลายไปบ้าง แต่ผมรู้จักมิเกลมาตั้งแต่เด็ก อย่าปล่อยให้เปลือกนอกหลอกเอาได้ นี่มันเด็กผีชัด ๆ

   “Fuck (ก็แย่ละ)”

   “But first, let me buy some foods. So hungryyyyy (แต่ก่อนอื่น ไปซื้ออะไรกินก่อนนะ หิวมากกกกกก)”

   ถูกมิเกลลากไปสั่งอาหารแบบ take away มาด้วยปริมาณที่สามารถเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านได้ จากนั้นผีฝรั่งก็เกาะผมมาที่ห้องซ้อมด้วย ไอ้สามคนที่เหลือตาลุกวาวมองมิเกลเหมือนของแปลก นาน ๆ จะได้เจอตัวจริงเพราะปกติเห็นแค่ในทีวีไม่ก็นิตยาสารหรือตามหนังสือพิมพ์

   ไอ้ฟ่างมากระซิบถามว่าทำไมผมถึงไปรู้จักกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอย่าง มิเกล เมเยอร์ อัครไพศาลกุล ได้ เมื่อผมตอบกลับว่าขนาดสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอย่างมันผมยังรู้จัก ทำไมนะรู้จักมิเกลไม่ได้ จากนั้นไอ้ฟ่างก็เงียบปาก และเลิกวอแวผมไป เพราะจะไปวอแวมิเกลแทน เด็กฝรั่งนั่นก็ใจดี ยิ้มให้เขาไปทั่วแถมยังคุยเล่นด้วยไม่หยุด

   ผมกลับคอนโดเกือบเที่ยงคืน… ซ้อมเสร็จห้าทุ่มครึ่งแต่ออกมานั่งกินฟาสต์ฟู้ดที่ร้านฝั่งตรงข้ามกับมิเกลระหว่างที่รอมิสเตอร์วินเซนต์มารับกลับ




   จังหวะการเดินของผมค่อย ๆ ลดระดับลงเมื่อออกจากลิฟต์มาแล้วเจอใครบางคนนั่งกอดเข่าอยู่ที่หน้าประตูห้องของตัวเอง ย่อตัวคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ยื่นมือออกไปสัมผัสกลุ่มผมนุ่ม กลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นทำเอาผมแสยะยิ้มออกมา คนที่นอนหลับสะดุ้งตื่น ตาเรียวแดงช้ำเล็กน้อยจากอาการง่วงนอน

   “ไปไหนมา…?” ผมไม่ตอบ ลุกขึ้นจากพื้นแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง ตัวหอมยังอยู่ในชุดนักศึกษา ไม่ต่างจากผมที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน

   เดินไปที่ห้องนอนก่อนที่มือเล็กจะยื่นมาโดนตัว พออาบน้ำออกมาแล้ว ก็เจออีกคนนั่งเหม่ออยู่ที่ปลายเตียง

   “ไปอาบน้ำ”

   “คุยกันก่อน”

   “ไปอาบน้ำครับ” คนถูกสั่งเม้มปากแต่ก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำไป ผมถอนหายใจเฮือก เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตเตอร์รี่หมดตั้งแต่เย็นไปชาร์จ

   กึ่งนั่งกึ่งนอนโง่ ๆ อยู่บนเตียงพลางควงไม้กลองไปด้วย สายตาผมมองไปข้างหน้า ในหัวครุ่นคิดเรื่องอะไรหลายอย่าง เสียงสายน้ำกระทบกับพื้นดังออกมาให้ได้ยิน สักพักมันก็หยุดลงก่อนที่เจ้าของร่างบอบบางจะเดินออกมา ผมมองตามเขาไปเงียบ ๆ มองคนอายุมากกว่าขยับไปตรงนู้นตรงนี้โดยไม่พูดอะไร แม้อีกคนจะส่งสายตาสงสัยมาก็ตาม

   เมื่อแต่งตัวเสร็จ เขาก็ปีนขึ้นมาบนเตียง ผมวางไม้กลองไว้ที่โต๊ะ มองหน้าณภัคนิ่ง ๆ พออีกคนหลบตาก็แสยะยิ้มออกมาอีกครั้ง

   “ทำไมนายไม่รับโทรศัพท์?”

   “แบตหมด” พูดแล้วชี้โทรศัพท์ที่ชาร์จแบตค้างไว้

   “ไปดูหนังมาเหรอ?”

   “ครับ ดูหนังเสร็จก็ไปกินข้าวด้วยกัน”

   “เหรอ... แล้วก็เพิ่งกลับมาเหรอ?”

   “อืม เพิ่งกลับเพราะซ้อมดนตรีอยู่ คุณล่ะ เป็นไงบ้าง?”

   “..........”

   “มีความสุขไหม? เจอเขาแล้วใจเต้นแรงมากหรือเปล่า? ดีใจขนาดไหนที่ได้เจอกัน ลืมผมไปเลยป่ะ!?” ณภัคสะดุ้งเมื่อผมตะคอกเสียงดังในประโยคสุดท้าย ผมดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น เผลอไม่พอใจจนได้ ก็ว่าจะไม่หัวร้อนแล้วนะ แต่พอเห็นหน้าเขาแล้วมันไม่ไหวจริง ๆ

   พยายามทำความเข้าใจ เมื่อคิดอีกที ทำไมกูต้องเข้าใจด้วยวะ

   “นายจะไปไหน?”

   “ข้างนอก” ตอบเสียงห้วนแล้วเดินออกไปพร้อมกับผ้าห่มสำรองในตู้และโทรศัพท์ ผมกดเปิดเครื่อง ระหว่างที่รอก็ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาด้วยความหัวเสีย

   ดึกขนาดนี้แล้วยังมีร้านอาหารหรือบาร์เปิดอยู่ไหมวะ ผมต้องการเบียร์จริง ๆ นะ หงุดหงิดมาจากไหนแค่มีมันผมก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ดีที่ในตู้เย็นยังมีเหลือ ผมเหลือบตามองคนที่เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ พลางยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าปาก มืออีกข้างกำลังไล่ดูข้อความที่ถูกส่งมาใช้ช่วงเวลาที่ไม่มีแบตเตอร์รี่

   “นายไม่ง่วงเหรอ?”

   ผมไม่ได้ตอบตัวหอมเพราะเพ่งสายตาไปที่ข้อความของเพื่อนสนิท ไอ้เนตรส่งมาตอนประมาณสี่ทุ่มได้

   มายด์บอกเลิกกูแล้วว่ะ
   โล่ง แต่ก็หน่วงเหี้ย ๆ
   ใครวะที่ทำให้เขาบอกเลิกกูได้
   ทำไมมึงไม่ตอบกูอะ
   ไอ้เหี้ยเอ๊ย เศร้าอ่อน ๆ ค่อนไปปานกลาง
   อยากกินไมโลปั่นย้อมใจ
   ฮือ


   กูไง... ใครที่มึงถามถึงอ่ะ

   พ่นลมหายใจออกจากปากด้วยความรู้สึกผิด เนตรคงชอบมายด์มากอยู่พอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่ตามจีบแต่แรก อีกอย่างถ้าหากเธอไม่นอกใจเพื่อนผม ถ้ามายด์ซื่อสัตย์กับเนตร พวกเขาคงคบกันไปได้นานกว่านี้ และผมเอาจะไม่ต้องเอาตัวเองไปเป็นมือที่สามเพื่อทำให้มายด์บอกเลิกเนตร เพราะไอ้เวรนั่นไม่ยอมพูดออกไปด้วยเหตุผลที่งี่เง่าฉิบหาย

   00:37 J9 : *ส่งรูปเบียร์ในมือ*

   หลังจากตอบกลับภูวเนตรแล้ว ผมก็ไล่บล็อกช่องทางการติดต่อกับมายด์รวมทั้งลบเบอร์และรีมูฟโปรไฟล์หลังบล็อกทิ้งไปด้วย

   จบสิ้นแล้วกับผู้หญิงคนนี้ ผมไม่ต้องฝืนยิ้มเพื่อเล่นละครอีกต่อไป

   “ง่วงก็ไปนอน”

   “ไม่”

   “อือ แล้วแต่” ผมพูดก่อนกรอกเบียร์เข้าปาก ส่งตาขวาง ๆ ไปมองคนที่อยู่ด้วยเมื่อเขาแย่งมันจากมือผมไปดื่มจนหมด หงุดหงิดที่เขาดื่มหมดนั่นแหละ ในระหว่างที่ตัวหอมเอากระป๋องเปล่าไปทิ้งผมก็ปรับโซฟาให้กลายเป็นที่นอน สะบัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้

   “จะนอนตรงนี้เหรอ...?”

   “อืม” ครางตอบเสียงอ่อย ๆ ของณภัค ผมไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ “ปิดไฟให้ด้วยนะ ขอบคุณครับ”

   “นอนด้วย”

   ผมถึงกับเปิดผ้าห่มออก ตอนนี้ตัวหอมนั่งทับส้นเท้าอยู่ข้าง ๆ ผม หน้าจ๋อยจนรู้สึกขำขึ้นมาแวบหนึ่ง ใครจะคิดว่าจะได้เห็น ณภัค ไชยพัฒน์สวัสดิ์ แสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา พอผมเหยียดแขนออกไปด้านข้างเขาก็ทิ้งตัวลงมาหนุนหัวกับแขนของผมทันที

   อ้อนขนาดนี้แล้วจะเอาอะไรไปใจแข็งได้ ถามหน่อยเถอะ

   “อย่าเย็นชากับฉันได้ไหม...”

   เคยรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไหมครับ?

   ถ้าเคย เราคือเพื่อนกัน

   “...ตอนได้เจอพี่คิง ฉันดีใจและก็ตื่นเต้นมากเลย”

   “อืม”

   “ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนี่นา จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงล่ะ” ผมนอนฟังเขาเล่าไปเงียบ ๆ มีบ้างที่ส่งเสียงขัดใจออกไป พอผมจะหลับ เขาก็ปลุกผมขึ้นมา เวรกรรมอะไรต้องมาฟังคนที่ชอบเพ้อถึงรักแรกของเขาวะ

   “ยังรักเขาอยู่ไหม?”

   “รัก”

   ก็เดาคำตอบไว้แล้ว พอได้ยินจริง ๆ ไม่คิดว่าจะจุกขนาดนี้ กูนี่พูดไม่ออกเลย

   “รัก แต่มันไม่เหมือนเมื่อก่อน…”

   “เมื่อก่อนเป็นยังไง?”

   “เมื่อก่อนอยากอยู่ด้วย และคิดถึงตลอด อยากอยู่ใกล้ ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีก็ได้”

   “เหรอ แน่ใจเหรอครับ?”

   “อืม ฉันคงเลิกยึดติดกับพี่คิงแล้วแหละ.. คงเพราะเจอคนที่ทำให้รู้สึกมากกว่าแล้ว” ผมมองเพดานระหว่างที่ฟังเขาพูดแล้วพ่นลมหายใจออกมา คนอายุมากกว่าขยับตัวนอนคว่ำ และตั้งศอกกับพื้นโซฟาเท้าคางมองหน้าผม นิ้วเล็ก ๆ ยื่นมาจิ้มที่หัวคิ้ว

   “คิ้วขมวดเป็นโบว์”

   “ผมไม่ได้บอกให้คุณเลิกชอบเขานะครับ ถ้ายังชอบเขาอยู่ก็ชอบไปเถอะ เดี๋ยวไปก็เฟดตัวเองไปเองนั่นแหละ”

   “ไม่ให้ไป”

   “หึ ไม่อยากคุยกับคุณแล้วว่ะ ไปนอนไป”

   “ไม่ไป นายเป็นบ้าเหรอ ไม่คุยก็งอแงใส่ พอคุยก็งอแงยิ่งกว่าเดิม เด็กบ้า เอาใจยาก”

   “ไม่ได้บอกให้เอาใจ”

   “อือ ถ้าไม่ทำก็งอแงอีก ทั้งงอน ทั้งประชด นิสัยไม่ดี เด็กเปรต”

   “พูดถึงตัวเองเหรอ?”

   “หึ” เขาส่งเสียงออกมาใบหน้าเชิดขึ้น ปลายนิ้วเล็ก ๆ นั่นยังคงรุงรังกับหน้าของผมอยู่ ตอนนี้มันเลื่อนจากคิ้วไปที่ข้างแก้มและไล้ขึ้นลงไปมา “นายรู้ไหม ตอนที่เจอพี่คิงฉันแทบสติแตกเลย แต่สักพักหน้านายก็เข้ามาอยู่ในหัว จู่ ๆ ก็กลัว ถ้านายรู้ จะโกรธฉันหรือเปล่า”

   “…..”

   “ทำไมต้องทำให้ฉันเป็นบ้าด้วย”

   “อ้าว ไม่ได้บ้าอยู่แล้วเหรอ?”

   ปึก!

   เพราะความปากไวทำให้ได้รับกำปั้นหนัก ๆ ทุบมาที่อก เจ็บใช้ได้

   “ไอ้เด็กเวร”

   “หึ นอนได้แล้วครับ ดึกแล้ว”

   “ไม่อยากนอน”

   “ไปคุยกับเพดานนะ ผมจะนอน” ตัวหอมหน้าบึ้ง ผมหลับตาลงแล้วยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบนตา

   “อยากคุยกับนายนี่… ไปดูหนังสนุกหรือเปล่า?”

   “ไม่อ่ะ น่าเบื่อ”

   “หึ จะนัดไปเจอกันอีกไหม?”

   “ไอ้เนตรโดนบอกเลิกแล้ว”

   “นายโดนเพื่อนโกรธแน่”

   ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะอยากนอนมาก ๆ ตอนนี้มันตีหนึ่งเข้าไปแล้ว ตัวหอมยังขยับตัวยุกยิกไปมา แต่ผมไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง ผมอยากหลับจริง ๆ นะ เหนื่อยจนแทบไม่อยากขยับตัวเลยด้วยซ้ำและเกือบจะหลับไปแล้วถ้าหากว่าไม่มีปลายนิ้วซน ๆ มาเขี่ยใบหน้าไปมา

   เกือบจะลืมตาขึ้นไปดุถ้าหากเขาไม่พูดอะไรขึ้นมาก่อน...

   “ฉันไม่รู้ว่ารักนายหรือเปล่า”

   “......”

   “แต่ตอนนี้ฉันไม่มีนายไม่ได้”

   จากนั้นก็มีสัมผัสเบา ๆ กดลงที่ริมฝีปากของผม...

   ความเงียบเข้ามาแทนที่เมื่อไม่มีใครพูดอะไร

   
   เปรี้ยง!!!

   “เฮือก!”

   ผมลืมตาขึ้นทันทีเมื่อเสียงฟ้าร้องดังเข้ามา ณภัคสะดุ้งจนตัวโยน เขากำผ้าไว้แน่น นัยน์ตาเรียวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว ด้านนอกฝนกำลังตก ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันตกตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะไม่ได้ยินอะไรเลย จากนั้นไม่นานไฟในห้องก็ดับลง เหลือเพียงความมืดกับความทรมานของใครอีกคน...

   ตัวหอมเงียบจนผมไม่ได้ยินเสียง ผมเอื้อมมือไปคว้าเขามา พบว่าเขาตัวแข็งทื่อ รีบควานหาโทรศัพท์เพื่อเปิดไฟฉาย แม้มันจะสว่างไม่มาก แต่ช่วยทำให้ณภัคมองเห็น

   “ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่ครับ”

   “อึก...”

   “ผมอยู่กับคุณนะครับ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว”

   “ฉะ ฉัน... หายใจ ไม่ออก”

   “อย่าเกร็งครับ ใจเย็น ๆ นะ”

   “อึก”

   “คุณรออยู่นี่นะ ผมจะไปหาไฟฉาย”

   “ไม่ อย่า อย่าไป!”

   ตอนนี้ตัวหอมเหมือนเสียสติ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดปลอบและกอดเขาไว้ ลมหายใจของเขายังคงหนักหน่วงเหมือนคนหายใจลำบาก อาการเกร็งของเขาทำให้ผมกลัว จากที่ตัวเล็กอยู่แล้ว ตอนนี้เขายิ่งเล็กนิดเดียว สองมือยกขึ้นปิดหูของตัวเองแล้วเอาแต่ส่ายหน้าไปมาทั้งยังหลับตา ริมฝีปากพึมพำด้วยคำที่ทำเอาผมอึดอัดตามไปด้วย

   “ไม่ ไม่เอา ปล่อยภัคออกไป ปล่อย”

   “ปล่อยภัค ปล่อย!”


   “ณภัค!!” ผมเรียกชื่อเขาเสียงดัง แต่อีกคนเหมือนไม่ได้ยินเสียงที่ผมส่งออกไปเลย

   “แม่ช่วยด้วย แม่ช่วยภัคด้วย ฮึก”

   “ภัค!! ตั้งสติหน่อย มองหน้าผม”

   “ไม่ ไม่ไป อึก ปล่อยนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้”

   “ณภัคลืมตาหน่อย ผมจริงใจไง วอแวบอยของคุณไง” ผมเอ่ยอย่างใจเย็นและแกะมือของเขาที่ปิดหูอยู่ออกไป แสงสว่างจากไฟฉายทำให้ผมเห็นว่าเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

   “วะ วอแวบอยเหรอ...”

   “ครับ ผมอยู่นี่ อยู่กับคุณ”

   “ฮึก”

   “ชู่ ไหนบอกจะไม่ร้องไห้แล้วไงครับ”

   ครืน! เปรี้ยง!

   “เฮือก!”

   ตัวหอมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อฟ้าร้องมาอีก อาการที่เหมือนจะดีขึ้นกลับไปเป็นแบบเดิม ตัวสั่นจนต้องกอดไว้แน่นกว่าเดิม ผมตัดสินใจกดริมฝีปากของตัวเองลงไปเพื่อปิดปากสีสดที่เอาแต่พูดคำเดิม ๆ วนไปวนมาไม่หยุด ผมไม่รอให้เขาปรับตัวอะไรทั้งนั้น ประคองท้ายทอยเอาไว้แล้วขบเม้มริมฝีปากนิ่มเบา ๆ ก่อนจะดันให้นอนราบไปกับโซฟา...

   “แฮ่ก...” เขาหอบหายใจเมื่อผมผละออก ปาดนิ้วเช็ดน้ำลายออกจากริมฝีปากและมองเข้าไปในมองตาฉ่ำปรือ ตัวหอมนิ่งไปแล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะจูบของผมหรือเพราะไฟฟ้าที่กลับมาสว่างอีกครั้ง ผมโน้มลงไปจูบที่หน้าผากชื้นเหงื่อเบา ๆ ก่อนจะเช็ดมันออก

   “ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ ผมอยู่นี่นะ”
   .
   .
   .


   ตื่นมาอีกทีก็เกือบเที่ยง ที่นอนข้าง ๆ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ผมเข้าไปล้างหน้าแล้วเดินออกจากห้องนอน เห็นประตูระเบียงถูกปิดไม่สนิทจึงเดาเอาไว้ว่าณภัคอยู่ตรงนั้น

   “ตื่นนานแล้วเหรอครับ?”

   “อืม” อีกฝ่ายตอบรับสั้น ๆ ผมก้าวไปยืนหันหลังพิงราวระเบียงเพื่อมองเขา ขนาดยืนอยู่ห่างแบบนี้ยังได้กลิ่นหอมฟุ้งมาถึงนี่

   “หิวไหม ไปหาอะไรกินกัน”

   “ไปอาบน้ำสิ”

   ขี้เกียจ… ตอบในใจ แต่ก็เดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อที่จะอาบน้ำ วันนี้เป็นวันเสาร์ การตื่นสายขนาดนี้จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ว่า ผมต้องไปค่ายมวยตอนบ่ายสองครึ่ง ออกกำลังกายบ้าง ช่วงนี้กินเยอะจนจะเป็นจันทร์เจ้าเวอร์ชั่นสองแล้ว

   “กระเป๋าอะไร?”

   “ชุด”

   “นายจะไปไหน”

   “ไปค่ายมวยครับ” ตัวหอมขมวดคิ้วมองแล้วก็หน้าบึ้งใส่ “อะไรครับ?”

   “จะทิ้งฉันเหรอ?”

   “ทิ้งก็แย่ละ คุณจะไม่กลับบ้านตัวเองหรือไง”

   “ไม่กลับ เอาคีย์การ์ดนายมา”

   “เฮ้ย ได้ไง”

   จะมาขอคีย์การ์ดแล้วเข้าออกเมื่อไหร่ก็ได้งี้เหรอ เกินไปแล้ว! ถึงจะชอบเขาแต่ผมก็หวงโลกของตัวเองมากนะเว้ย ขอมีพื้นที่ของตัวเองหน่อยเถอะ แค่นี้ก็เข้ามาในโลกของผมมากแล้ว ตัวหอมยังคงยืนยันว่าจะขอคีย์การ์ดผมให้ได้ ขอโทษนะ ผมให้ไม่ได้




   “ณภัค!” เสียงตะโกนเรียกชื่อทำให้ผมกับตัวหอมหยุดชะงักและหันไปมองอัตโนมัติ ณภัคพ่นลมหายใจและกรอกตาไปมาเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

   “ภัคมาทำอะไรเหรอ อ้าวน้อง สวัสดีจ้า”

   “กินข้าว” ตัวหอมตอบสั้น ๆ

   หลังจากที่ตีกันเรื่องการ์ด ผมก็พาเขามาหาอะไรกินแถวที่พักของตัวหอม(เพราะจะมาส่งเขาด้วย) ขณะที่กำลังจะกลับก็ถูกเพื่อนของเขาเรียกเอาไว้ จึงต้องหยุดคุยอย่างช่วยไม่ได้ ผมไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาเท่านั้น

   “ไม่เจอภัคไปเรียนเลย เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?”

   “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”

   “อ่า... แล้ววันจันทร์จะไปเรียนไหม? เราเก็บชีทไว้ให้ด้วยนะ ถ้าจะเอาก็บอกได้เลย”

   “อืม ขอบใจ”

   “จ้ะ แล้วนี่ทานข้าวเสร็จแล้วเหรอ เราว่าจะไปหาอะไรทาน ถ้ายัง ไปด้วยกันไหม?” เธอพูดพร้อมกับยิ้มให้เราสองคน ถ้าตัดนิสัยและการกระทำที่ดูเฟค ๆ ออกผมว่าเพื่อนร่วมคณะของตัวหอมก็ดูเป็นคนดีนะครับ เธอช่วยตัวหอมในเรื่องเรียน และคอยพูดคุยด้วย ซึ่งไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า ในเมื่อมันไม่ได้แย่กับตัวหอม จึงไม่ได้ใส่ใจ

   ถ้าต้องมาเสแสร้งแกล้งทำดีด้วย คนที่อึดอัดของคือตัวของผู้หญิงคนนั้นแหละ

   ผมว่ามันไม่น่าจะมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นเลยนะ

   ไม่รู้สิ แค่รู้สึกแปลก ๆ อาจเป็นเพราะผมเคยได้ยินเพื่อนของเธอพูดถึงตัวหอมของผมในทางที่ไม่ดี แม้จะไม่ได้ร่วมพูดทับถม แต่ว่าก็ไม่ได้ห้ามนี่ ไม่ใช่เหรอ?

   “ภัค” ผมเรียกตัวหอมคล้ายจะเร่ง

   “โทษทีนะ เรากินไปแล้ว ขอตัวนะ มีธุระต้องไปทำ”

   “โอเคค่ะ ไว้เจอกันที่ม.น้า”

   เราเดินออกมาจากตรงนั้น ไม่ได้จับมือ แค่เดินข้าง ๆ กันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงรถ ผมบอกกับเขาก่อนจะไปที่รถของตัวเองว่าถ้าไม่อยากอยู่คนเดียวก็ไปหาเพื่อน แม้จะหน้างอแต่ก็พยักหน้ารับ แอบแกล้งแหย่บอกให้ไปหารักแรกของเขา สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสายตาขวาง ๆ

   การที่เขาต้องการผมมากกว่าผู้ชายคนนั้นถือว่าผมชนะ

   แค่นั้นก็พอใจละ

   แยกกับตัวหอมก็ไปยังค่ายมวยที่อยู่ไกลออกไป ใช้เวลาในกลายเดินทางนานพอสมควร ยิ่งถนนค่อนข้างลื่นจึงต้องระวังและขับช้ากว่าปกติ ได้แต่ภาวนาอย่าให้ฝนตกลงมาก่อนที่จะถึงที่หมาย ไม่อย่างนั้นผมเปียกเป็นลูกหมาแน่ ๆ ...ใช้เวลาอยู่ที่ค่ายไปหลายชั่วโมง ครูฝึกซ้อมผมหนักมาก ไม่รู้ว่ามีใครทำอะไรให้ท่านโมโห อ๋อ... ผมเองที่ไปกวนครูก่อน โดนจัดหนักเลยเป็นไงล่ะมึง

   หลังจากนั้นก็กลับคอนโดเพื่อที่จะเตรียมตัวไปซ้อมดนตรีในตอนเย็น ผมได้คุยกับตัวหอมอยู่นิดหน่อย เขาไม่ได้งอแงขอคีย์การ์ดอีก ตอนนี้เขาอยู่กับเพื่อน คงพอจะมีเรื่องอะไรให้ทำพอไม่ให้เบื่อบ้าง ผมเลือกที่จะเก็บข้อความของเขาไว้ตอบทีหลังเพราะอยากให้เขาใช้เวลากับเพื่อนโดยไม่ต้องสนใจโทรศัพท์และผม

   ก็พอจะรู้ว่าทำอะไรอยู่จากข้อความของพี่พีท ที่พิมพ์มาบอกและบางครั้งก็ถ่ายรูปมาให้

   ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความสบายใจของผมคือรอยยิ้มของณภัค

   ตลกดี








---------------------------------------
ความณภัคคือ คิงเป็นคนที่อยู่ภัคตอนที่ภัคแย่มาก ๆ (ช่วงที่แม่เสียและทะเลาะกับพ่อ) คอยดูแลเป็นที่พึ่ง คอยให้กำลังใจ ไม่เคยหายไปไหน
ความอ่อนโยนและความห่วงใยจากคิงทำให้ภัครักคิงมาก
ในส่วนของจริงใจ สำหรับภัค จริงใจไม่ใช่ไทป์ของภัคเลย แถมเจอกันครั้งแรกก็ค่อยข้างอคติ ทั้งอายุที่เด็กกว่าและความกวนประสาทของจริงใจ
แต่พออยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นมันก็กลายเป็นว่าภัคผูกพันธ์กับจริงใจไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว ถึงอย่างนั้นก็ไม่แน่ใจอยู่ดีว่ารักจริงใจไหม เพราะยังคิดถึงพี่คิงอยู่ (ซึ่งอาจจะไม่ได้คิดถึงแบบคนรักแล้วก็ได้)
มันอารมณ์ประมาณว่า คนหนึ่งเขาช่างดีกับฉันจะทิ้งเขาลงได้ไง คนหนึ่งเคยทิ้งไปแต่รักไปไม่เคยจางหาย งี้
ภัคลังเล ใช่ ภัคยังไม่แน่ใจในตัวเอง เลยไม่อยากพูดอะไรออกเพราะกลัวมันจะไม่ใช่ความรู้สึกจริง ๆ
คนหนึ่งก็คนที่รักมาก แต่อีกคนก็คือคนที่ทำให้ปั่นป่วนอ่ะเนอะ เฮ้อ ; _ ;
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
ไว้เจอกันตอนหน้าคับ ♥

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนแรกที่อ่านคือประทับใจทุกอย่างในเรื่องนี้
แต่ถึงตอนนี้บอกเลยว่าเหนื่อยกับทุกอย่างเหมือนกัน
จนอ่านข้ามไปข้ามมา หาจุดลงตัวไม่ได้เลย

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เปงแฟนกันเรยค่า

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
แงงงงสงสารวอแวบอยยย :hao5:

รอตอนต่อไปงับบบบ o13 :bye2:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
เอาจริงยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิดอะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
สงสารจริงใจ
มารักกับเจ้มาลูกมาๆๆ
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
เนตร หนูน่ารักนะลูก
อ่ะ...ยื่นไมโลปั่นเพิ่มวิปครีม
 :laugh:

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คิดถึงวอแวบอย
 :mew1:

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
หวังว่าหลังจากที่จริงใจงอแงแล้วภัคมาง้อคงสบายใจขึ้นนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตัวหอม ชัดเจนมากขึ้น ยอมเปิดความในใจ
 “ไม่ไป นายเป็นบ้าเหรอ ไม่คุยก็งอแงใส่ พอคุยก็งอแงยิ่งกว่าเดิม เด็กบ้า เอาใจยาก”
   “ไม่ได้บอกให้เอาใจ”
   “อือ ถ้าไม่ทำก็งอแงอีก ทั้งงอน ทั้งประชด นิสัยไม่ดี เด็กเปรต”

  “ฉันไม่รู้ว่ารักนายหรือเปล่า”
   “แต่ตอนนี้ฉันไม่มีนายไม่ได้”
ซึ่งแต่ก่อนอย่าหวังจะได้ยินคำพูดแบบนี้

มายด์ ยอมบอกเลิกกับเนตรแล้ว
คงไม่มีอะไรที่ทำให้จริงใจ ต้องติดต่อกับมายด์อีก
จริงใจ ทำเพื่อเนตรเพื่อนรักจริงๆ
ไม่รู้เนตร ควรปรับเปลี่ยนตัวเองเรื่องนี้หรือเปล่า
ที่ว่าจะไม่เป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน
ในเมื่อมายด์ เป็นฝ่ายทำไม่ถูก คบซ้อน  :z6: :z6: :z6:
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มิเกลน่ารักจัง อยากให้เข้ามายุ่งกับจริงใจมากๆ อยากเห็นภัคดิ้นบ้าง นางมัวๆหม่นๆ มาตลอดไม่ชัดเจนซักที  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ไม่ชัดเจนอ่า

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
 :ling1:เป็นแฟนกันเถอะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ความวุ่นวายที่แท้จริง

จริงใจก็ยังเป็นจริงใจ ถ้าไม่อ่อนให้ ก็จะใจแข็งพอตัวเลย จริงใจจะคิดว่าณภัคไม่รักก็ไม่แปลก
แต่ตอนนี้ยิ่งไม่แปลก ถ้าจริงใจจะดีใจเวอร์ที่ณภัคบอกว่า ขาดไม่ได้ 5555

ณภัคน่ารักนะ มีความอ้อน มีความงอแง แถมรู้ด้วยว่าต้องบอก
ชีวิตอยู่กับบาดแผลมานาน น่าสงสารมากเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไรนะ ณภัคมีวอแวบอยของตัวหอมไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เมื่อมีครั้งแรกมันก็ต้องมีครั้งต่อไป สู้เราเป็นรัดครั้งสุดท้าย ชนะกว่าเห็นๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ไม่ชัดเจนสักที...

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
แต่ก่อนอ่านค้างถึงตอนนี้ล่ะออกเลย แบบรับไม่ไหว เหนื่อยใจ ขี้เกียจลุ้นรอใจแข็งล่ะจะกลับมาอ่านต่อ เฮ้อ คนละฟีลกับรักแล้วรอหน่อย รำคาญตรรกะบ้าบออะไรของมันทั้งคู่ แค่บอกกันแค่นี้จะตาย เอาต้องเอาอะไรไปง้างปาก ถ้าอ่านช่วงสอบนะ มีสมองตายไปข้าง คิดหนักคิดหนา โอ๊ยยยย ชีวิตณภัคก็ไม่รู้จะซวยอะไรนักหนา โพดโพ! เหนือสิ่งอื่นใดอยากคาบหัวทั้งคู่เลย บ้ะ ตับกันก็สองรอบแล้ว ถ้าไม่รักไม่ชอบกันจะทำลงอ่อวะ หัวร้อนนนน อินนนน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2017 21:22:22 โดย buathongfin »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เมื่อไรจะชัดเจนอ่ะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ค่อยเป็นค่อยไปกันสินะ

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ก็แย่ละ  :a5: ภัคอย่าสับสนนานนะ สงสารวอแวบอยอ่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ณภัคมีความง้อวอแวบอยนะตอนนี้ ณภัคกลัวเสียงฟ้าร้องมากเลย มีปมอะไร

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
จริงใจนี่เอาแต่ใจพอสมควรเลยนะ แต่ณภัคเริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว สู้ๆ อีกนิดเดียวอย่าเพิ่งเบื่อล่ะวอแวบอย

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ยังคงคลุมเครือกันต่อไป เฮ้อออออ...
เมื่อไหร่จะชัดเจนกันล่ะน้อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด