• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 313191 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
รอต่อไป รอให้ให้ความเด็กของนางสองคนหายแล้วพร้อมจะรับฟังกันมากกว่านี้ เรารู้สึกว่านี่คือชีวิตคนจริงๆที่หาเหตุผลมาอธิบายความรู้สึกไม่ได้แต่ความผูกพันมามีอยู่นะ หน่วงมากๆ แต่เราลุ้นทุกตอนว่าเมื่อไรมันจะได้กันจริงๆสักที ปัญหาก่อนคบนางเยอะขนาดนี้ หวังว่าตอนรู้จักใจกันดีกว่านี้นางจะรักกันน้ำตาลขึ้นจอนะ

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เราทีมภัค บอกก่อนเลย5555555
จากที่ไรท์เขียนในสปอยล์ว่า จริงใจเข้าใจผิด มันเท่ากับว่าเรื่องนี้จริงใจผิดมะ55555 จริงใจทำตัวเป็นผู้ใหญ่มาตั้งนาน อยู่ๆ ก็มาช่างแม่ง เทแม่ง บล็อคแม่ง ทั้งที่ยังไม่ถามเลยอ่ะ เออก็บอกได้แค่ว่าเธอเทเองนะจริงใจ ถ้าภัคไม่วิ่งตามความสัมพันธ์มันก็จะชิทจริงๆ นั่นแหละ

เนื้อเรื่องมันเฉื่อยจริง แต่เราเบื่อกับนิสัยงงๆ ของจริงใจมากกว่าค่ะ555
เรื่องนี้เป็น 1 ในเรื่องที่เรามักจะเข้ามาเช็กในเล้านะคะว่าอัพหรือยัง555 เราตามอยู่

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เรื่องมันดูยืดยาว แต่จริงๆแล้วเราว่าทามไลน์ชีวิตเรามันก็มีเรื่องมากเรื่องน้อยแตกต่างกันไป นิยายก็เช่นกัน
ยังตามอ่านวอแวบอยอยู่เรื่อยๆนะคะ
นี่สายโหดรอให้น้องจริงใจเทอยู่ตั้งนาน ฮ่าๆๆ
ทั้งสองฝ่ายก็คงต้องรู้จักปรับตัวกันไปเรื่อยเนอะ
ทีนี้ตาพี่ภัคเป็นฝ่ายโคจรรอบตัวน้องบ้างละ :hao3:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ภัครต้องรุกแล้วแหละ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เอาจริงๆ อ่านรวดเดียวจรถึงตอนปัจจุบันเนี่ย
สงสารจริงใจมากนะ ส่วนภัคคือสงสารแค่ปมในอดีตอะ
อย่าที่ใครๆเค้าว่า คนที่รักมากกว่า เจ็บกว่าเสมอ
จริงใจคือคนที่เริ่มชอบก่อน เข้าหาก่อน จีบก่อน
พยายามทำความเข้าใจก่อน วิ่งตามซ้ำๆ
พอดหนื่อย จะหยุดจะพัก ภัคก้กลับมาสนใจ
เห้ยย คือน้องมันไม่ใช่ของตายไง นึกจะมาก้มางี้
ถึงจริงใจจะเข้าใจผิดจริงๆก้เถอะ แต่ออกมาเจอกันลับหลังนี่ก้2รอบละนะ
จริงใจไปดูหนังกับมายด์ตอนไหนเพื่ออะไรก้บอกภัคก่อนไง
แค่ภัคคือไม่บอก ละถ้าไม่ไปเจอเองก้ไม่รู้ว่าจะบอกมั้ย
มันก้น่าคิดถ้าเรื่องแบบนี้เป็นเราที่ไปยืนจุดเดียวกะจริงใจนะ
ว่าที่เราเจอและรู้เองเนี่ย2ครั้งนะ แล้วมันมีครั้งที่3 4 5 ที่เราไม่รู้รึป่าว
เหมือนพี่ภัคดิสเครดิตตัวเองไปเรื่อยๆเพราะเหนน้องมันแพ้ทางอะ
จริงใจก้ผิดนะที่ไม่ยอมฟัง แต่เอาจจริงๆในจุดนั้นอะ เปนเราคงไม่พร้อมฟังทันทีหรอก
เหมือนโดนหักหลังซ้ำๆไงไม่รู้
โกรธพี่ภัคเลยอะ พูดว่าสำคัญแต่การกระทำไม่เคยพยายามรักษาน้องไว้เลย
จะเคืองจนกว่าจะสำนึกกกเลยอะ สวสารจริงใจจ
รอค่าาาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เข้าใจว่าเหมือนจริงใจผิดที่ไม่ยอมคุย
แต่ที่เบื่อมากกว่าคือภัคอ่ะ ทำอะไรให้เคลียร์ๆหน่อยดิ ทำแบบนี้เหมือนจริงใจเป็นของตายมากอ่ะ

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
จริงใจจ๋า :mew2:

ออฟไลน์ Erh

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เราโรคจิตแน่ๆ ตอนนี้ไม่เชียร์ให้จริงใจฟังณภัคเลยจ้า แต่เชียร์ให้จริงใจใจแข็งนานๆ กลัวว่าจริงใจจะใจไม่แข็งจริงนี่แหละ อย่ารีบใจอ่อนนะ ไม่งั้นจริงใจได้กลับไปเป็นของตายเหมือนเดิมแน่ ให้ณภัคเป็นฝ่ายพิสูจน์ให้เห็นบ้างเหอะ ว่าจริงใจสำคัญจริงๆอะ

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 36
ผมกับระเบิดแห่งอารมณ์






   [ ณภัค’s ]

   “โว้ย! รำคาญ” พีทร้องขึ้นด้วยความหงุดหงิด แถมยังมองผมด้วยความไม่พอใจอีก อะไรกันเล่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย คนผิดคือพวกที่นินทาผมต่างหากล่ะ

   สาเหตุมันมาจากตอนที่เราเดินเข้ามาที่ร้านกาแฟแล้วมีคนที่รู้จักผมคุยกัน มันก็เป็นเรื่องปกติที่เจอแทบทุกวัน นินทากันสนุกปากโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริงหรือไม่ ผมชิน ชินกับการถูกตราหน้าว่าง่าย ร่าน หรือมั่วผู้ชาย แต่ถึงจะรู้สึกว่าชินชากับมัน เอาเข้าจริงลึก ๆ ผมก็โกรธที่มีคนมาว่าแบบนี้

   ผมถูกเพื่อนด่าบ่อย ๆ ว่าทำไมไม่ยอมแก้ตัวหรือปฏิเสธไป เคยแล้ว... แต่ไม่มีใครเชื่อ จึงคิดว่า ช่างเถอะ จะอธิบายคนที่มีอคติต่อเรา มามองเราในแง่ดีทำไม มันเสียเวลา ในเมื่อเขาไม่ต้องการจะฟัง คำพูดที่จะพูดออกไป ก็เป็นแค่คำแก้ตัวสำหรับพวกเขา

   “เป็นบ้าเหรอ?”

   “เออ กูจะแดกหัวมึงแล้วอีเวร หงุดหงิดมึงมากกว่าพวกเด๋อนั่นอีก”

   “ประสาท”

   “จิ๊! ทำไมมึงไม่พูดไปวะว่าข่าวที่มึงร่านเนี่ยถูกใส่สี”

   “ไม่มีประโยชน์หรอก พูดไปก็หาว่าแถ ช่างแม่ง”

   “กูอยากยีหน้ามึงกับพื้นมากภัค”

   “ก็แย่ละ” พีทถลึงตาใส่ผมก่อนจะไปจิกตามองพวกขี้นินทา

   จุดเริ่มต้นของเรื่องพวกนี้มันมาจากตอนผมอยู่ปีหนึ่ง และตอนนั้นมีรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับผม ผมเองก็คุยไปตามปกติเพราะไม่รู้ว่าเขาเข้ามาเพราะมีจุดประสงค์อะไร ก็คิดแค่ว่าเป็นรุ่นพี่เท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่งมันก็เกิดเรื่องขึ้น
จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงเข้าหาผมถึงคณะแล้วบอกว่าผมไปแย่งแฟนเธอท่ามกลางนักศึกษาเป็นสิบ ๆ คน ผมกลายเป็นคนผิดทั้ง ๆ ที่แฟนของเธอเข้ามาคุยกับผมก่อน ผมกลายเป็นคนร่านทั้ง ๆ ที่อยู่เฉย ๆ ข่าวลือเรื่องผมมั่ว คั่วผู้ชายไม่เลือกหน้าแพร่สะพัดออกไป ตั้งแต่นั้นมาผมก็กลายเป็นคนร่านไปเลย

   สนุกดี

   ถือเป็นสีสันให้ชีวิต

   วันนี้ผมมีนัดไปทานข้าวกับพี่คิงและณภัท และตอนนี้พี่คิงก็มารับแล้ว ผมจึงต้องแยกกับพีท

   “เป็นไงบ้างครับ?”

   “เหนื่อยครับ อยากเรียนจบแล้ว”

   “จบแล้วยิ่งเหนื่อย” ผมย่นจมูกกับคำพูดของพี่คิง พี่เขาหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปมองถนน ระหว่างนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่น เสิร์ชชื่อเข้าไปดูโปรไฟล์ของเด็กปีศาจเหมือนเคยตัว ทั้ง ๆ ที่ก็ดูไม่ได้เพราะมันตั้งไพรเวทไว้แต่ผมก็ยังเข้าไปทุกวัน

   ไม่รู้เป็นบ้าอะไร

   “ยิ้มอะไรครับ?”

   “อ๊ะ! เปล่าครับ” รีบกดล็อกหน้าจอที่ค้างอยู่โปรไฟล์น้องจ๋าจ้าแต่เป็นโพสต์รูปเด็กปีศาจแล้วรีบเก็บใส่กระเป๋า ได้ยินเสียงพี่คิงหัวเราะดังมา หน้าผมก็ร้อนเห่อ อายจนต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น



   “ตกใจอะไรครับ?”

   “ไม่ให้ตกใจได้ยังไงกัน...” พี่คิงแย้มยิ้มในขณะที่ผมมองหน้าพี่เขาด้วยความงุนงง ก่อนหน้านั้น... ก่อนหน้าที่ณภัทจะขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ พี่คิงบอกว่าเขามีแฟนแล้วและกำลังจะหมั้นกัน ผมตกใจมาก ไม่เคยรู้ว่าพี่คิงมีแฟน และไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะเร็วแบบนี้

   แฟนพี่คิงเป็นคนไทยที่ไปเรียนต่างประเทศและพักอยู่ละแวกเดียวกัน พวกเขาจึงทำความรู้จักกันจนความสัมพันธ์พัฒนามาเป็นคู่รัก วูบหนึ่งตอนที่ได้ฟัง หัวใจผมมันบีบอัดจนเจ็บไปชั่วขณะก่อนจะค่อย ๆ คลายออกแล้วเปลี่ยนเป็นความโล่งแทน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น คิดว่าตัวเองจะเสียใจมาก มากกว่าที่มานั่งทำหน้าเอ๋อ ๆ เพราะกำลังมึนงง

   “หึหึ”

   “พี่คิงรู้ได้ยังไงว่ารักเขา”

   “อืม... พูดยากแฮะ ถ้าภัครักใครสักคน ภัคจะรู้เอง”

   ผมขมวดคิ้ว ถ้ารู้แล้วจะถามพี่คิงทำไมกัน

   “ตอนนี้ภัครักใครอยู่หรือเปล่าครับ?” จ้องหน้าพี่คิงนิ่ง คนอายุมากกว่าก็จ้องผมอยู่เหมือนกัน พี่เขายกยิ้มเล็กน้อยแต่อ่อนโยนตามแบบฉบับของตัวเอง “ไม่มีเหรอ?”

   “อือ...”

   “งั้น... ตอนพี่ถาม ภัคนึกถึงใครเป็นคนแรกครับ?”

   คราวนี้ผมเงียบ ไม่ตอบอะไรพี่คิงแถมยังไม่ยอมสบตาอีกด้วย เฉไฉด้วยการตักอาหารทาน

   นึกถึงใครเป็นคนแรกงั้นเหรอ... ไม่อยากจะตอบเลย แต่หลังจากฟังคำถามของพี่คิงจบ ก็มีใบหน้าของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ผมไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่เจอครั้งแรก ผมยังบอกอีกว่าจะไม่มีทางชอบเด็กนั่นแน่นอน

   ...วอแวบอยนั่นไง

   “ให้พี่ทายไหมครับ?”

   “ทายอะไรกัน พี่คิงจะรู้เหรอว่าภัคชอบหรือรักใครอยู่”

   “หึ ถึงได้ขอทายนี่ไง อืม... คนนั้นไหมนะ ที่ภัคโพสต์รูปเขาลงแต่ไม่เห็นหน้าสักรูป”

   “.....”

   “The boy that you calls ‘Wo wae boy’”

   “พะ พี่คิง...”

   “ว้าว! พี่ทายถูกด้วย”

   “พี่คิงรู้ได้ยังไง... พี่ติดตามภัคอยู่เหรอครับ?” พี่คิงพยักหน้าเป็นคำตอบ “ทำไมภัคไม่รู้ ทำไมถึงไม่ติดต่อภัคมาเลยล่ะครับ?”

   ตอนนี้ผมรู้สึกว่าขอบตาตัวเองมันร้อน ๆ ความน้อยใจวิ่งเข้าใส่จนแทบเซ

   “ที่พี่ไม่ติดต่อภัคเลย เพราะพี่อยากให้ภัคตัดใจและไม่อยากให้ภัคคิดถึงพี่”

   “วะ ว่ายังไงนะ... พี่คิง พี่คิงรู้เหรอว่าภัคคิดยังไง...”

   “รู้ครับ แต่พี่ไม่พูดเพราะเห็นว่าภัคเป็นน้อง”

   “เหอะ... ให้ตายสิ” ผมแหงนหน้าขึ้นแล้วกะพริบตาถี่ ๆ

   “และที่พี่พูดวันนี้ เพราะพี่มั่นใจ ว่าภัคตัดใจจากพี่ได้แล้ว” ผมเงียบ ไม่ตอบอะไรพี่คิงกลับไป ณภัทกลับเข้ามาและมองระหว่างผมกับพี่คิงเหมือนอยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น นั่งได้ไม่นานณภัทก็ลุกออกไปอีก ท่าทางหัวเสียพอสมควร

   “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ”

   “หึ!” ผมเชิดหน้าใส่พี่คิง พี่เขาส่งมือมาขยี้ผมก่อนจะละออกไป ผมลอบถอนหายใจออกมา มั่นใจงั้นเหรอ... ผมไม่ได้รักพี่คิงแล้วจริง ๆ เหรอ แถมพี่คิงยังบอกอีกว่าวอแวบอยคือคนที่ผมรัก

   ถ้าเป็นอย่างที่พี่คิงพูด ผมก็บอกเด็กนั่นได้โดยไม่ต้องลังเลอะไรอีกแล้วใช่ไหม?

   “ยิ้มแบบนี้นึกถึงเด็กคนนั้นอยู่เหรอครับ?”

   “พี่คิงน่ะ!” ผมแหวใส่ ก้มหน้าหลบสายตาที่ส่งมาล้อเลียนไปมองจานอาหารบนโต๊ะก่อนจะม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปาก พอเริ่มจะควบคุมตัวเองได้แล้วผมจึงเงยหน้าขึ้นกะจะยิ้มให้พี่คิง ที่ทำให้ผมหลุดออกจากความรู้สึกอึดอัดเวร ๆ นั่นสักที แต่ว่าพอผมเงยหน้าขึ้นมา สิ่งที่ผมเห็นกลับไม่ใช่ใบหน้าหล่อ ๆ ของพี่คิง

   สายตาของผมมองเลยออกด้านนอกร้านผ่านกระจกใส เด็กผู้ชายตัวสูงในชุดนักเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งกำลังมองผมอยู่ ดวงตาของผมค่อย ๆ เบิกขึ้นช้า ๆ เด็กบ้านั่น... ฝนตกแบบนี้ทำไมไม่รู้จักพกร่ม

   พอหายตกใจก็ต้องขมวดมคิ้ว เมื่อเห็นวอแวบอยแสยะยิ้ม รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แถมยังกลัวอะไรก็ไม่รู้... ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่มุมปาก

   “กินเลอะเป็นเด็กเลย” ไม่ได้ตอบอะไรกลับพี่คิง เพราะผมละสายตาจากเด็กปีศาจนั่นไม่ได้ จักรพรรดิแค่นยิ้มออกมาคล้ายจะเย้ยหยันอะไรสักอย่าง ...แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

   ผมลุกพรวดขึ้นจนพี่คิงและณภัทที่เพิ่งเข้ามาผงะไป รีบวิ่งออกไปนอกร้น แต่ว่าเด็กนั่นก็หายไปแล้ว ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหา แต่สายฝนที่สาดลงมาหนัก ๆ ทำให้ทุกอย่างพร่ามัวไปหมด ผมไม่รู้ว่าเด็กนั่นเดินไปทางไหน... ยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิด หงุดหงิดตัวเองที่ช้าเกินไป เด็กบ้านั่นต้องคิดไปเองแน่ ๆ ผมจะทำยังไงดี ทุกวันนี้เหมือนจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ยังไม่เคลียร์เลย ถ้าจักรพรรดิเข้าใจว่าผมยังรักพี่คิงอยู่มันต้องไม่ยอมคุยกับผมแน่

   “ออกมาทำไม?” ไม่ได้ตอบคำถามณภัท เพราะกำลังพยายามโทรศัพท์ไปหาอีกคนแต่กลับไม่มีการรับสายเลย ผมหอบหายใจหนัก ๆ ก่อนตัดสินใจไปตามอีกฝ่าย คงจะเลือกว่าจะไปทางไหน แต่เพียงแค่ผมวิ่งออกไปไม่เท่าไหร่ก็ถูกมือใหญ่ของพี่ชายลากกลับเข้าไปยืนใต้กันสาด

   “ปล่อย!”

   “จะไปไหนครับ?” ผมสะบัดแขนให้หลุดจากณภัท แล้วจากนั้นก็วิ่งออกไปทางฝั่งขวา “เป็นบ้าอะไร! ไม่เห็นเหรอว่าฝนมันตก!”

   ณภัทตะคอกเสียงดังพร้อมกับดึงผมกลับเข้าไปในร้าน แม้ผมพยายามแกะมือหนาออกยังไงก็ไม่ได้ผล ผมกัดปากตัวเอง ขอบตาร้อนผ่าวอย่างขัดใจ และโกรธพี่ชายตัวเอง

   “เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น”

   “จู่ ๆ ก็วิ่งออกไปตากฝน” ณภัทพูดพลางคว้าเสื้อสูทที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้มาคลุมให้ผม มือของพี่กำลังปัดผมและเช็ดหยดน้ำที่เปียกไปตามใบหน้าออกให้แต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก มัวแต่พยายามส่งข้อความและติดต่อไอ้เด็กบ้านั่น ผมจะร้องไห้แล้วจริง ๆ เพราะเจ้านั่นไม่ยอมตอบหรือรับสายผมเลย

   “มีเรื่องอะไรภัค?”

   “พี่คิง... เด็กนั่น ...ไอ้เด็กบ้านั่น”

   “โอเค พี่เข้าใจแล้วครับ มึงปล่อยน้องก่อน” พี่คิงว่าแล้วหันไปบอกณภัท ก่อนจะพูดดักเหมือนรู้ว่าเพื่อนตัวเองจะถามอะไร “เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังทีหลัง”

   “ภัคกลับนะ...”

   “ภัคมากับพี่จะกลับยังไง ฝนตกขนาดนี้อีก รอก่อนครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

   “แต่...”

   “ไม่ดื้อกับพี่นะครับ นั่งลงแล้วทานข้าว” พี่คิงบอกเสียงเข้ม ผมนั่งลงอย่างจำใจ หลังจากที่ดูจนแน่ใจแล้วว่าผมจะไม่ขัดคำสั่ง จึงเรียกณภัทออกไปคุย ถ้าอารมณ์ปกติ ผมคงไม่อยากให้พี่คิงบอกภัทเพราะมันไม่น่าใช่เรื่องสำคัญอะไรที่ต้องรู้ แต่ตอนนี้... จะรู้ไม่รู้ก็ช่างมันเถอะ

   สอดมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมของตัวเอง ผมโทรศัพท์ไปหาจักรพรรดิตั้งหลายครั้งแต่ทุกครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ คืออีกฝ่ายไม่ยอมรับโทรศัพท์ของผมเลย แม้กระทั่งข้อความ พิมพ์จนนิ้วจะล็อกอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันไม่ชัดเจน การที่เด็กนั่นมาเห็นผมอยู่กับพี่คิงอาจจะทำให้เข้าใจไปว่าผมเลือกพี่คิง แต่ทำไมล่ะ ทำไมไม่ให้ผมได้อธิบายเลย

   ผมมันแย่จนไม่สมควรจะได้รับโอกาสพูดอะไรเลยเหรอ?

   ที่พี่คิงบอกว่าถ้าผมกำลังรักใครสักคนอยู่ ผมจะรู้ว่าคำตอบมันคืออะไร ...ตอนนี้ ผมว่าผมรู้แล้วนะ

    (“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...”)

   เสียงอัตโนมัติดังมาให้ได้ยินเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่ทราบ ตอนนี้ผมอยู่ที่คอนโด โดยมีณภัทเป็นคนมาส่ง เขาโกรธอยู่พอสมควรที่ผมไม่บอกอะไร แต่จากสภาพของผมแล้ว ณภัทจึงไม่พูดอะไร นอกจากลูบหัวเบา ๆ และบอกว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะโอเค ก่อนที่เขาจะกลับไป

   ทิ้งตัวลงที่โซฟา เอาโทรศัพท์ออกมาอีกครั้ง เมื่อโทรออกไป ผลที่ได้มันก็เหมือนเดิม ตอนนี้เจ้าเด็กนั่นกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ว่างเหรอ หรือแค่ไม่อยากคุยกับผม เลื่อนรีเฟรชหน้าโปรไฟล์ที่ถูกตั้งเป็นไพรเวทเอาไว้ไปเรื่อย ๆ อย่างเลื่อนลอย ก่อนจะคิดได้ว่าถ้าโทรหาเจ้าตัวไม่ได้ก็ควรจะโทรไปหาคนใกล้ตัวแทน

   คนใกล้ตัวของจักรพรรดิที่ผมรู้จักและมีคอนแท็กต์กันก็มีแค่น้องจ๋าจ้าเท่านั้น...

   (“สวัสดีค่า”)

   “น้องจ๋าจ้าว่างไหมครับ?”

   (“ว่างค่ะ พี่ภัคขามีธุระอะไรเหรอคะ?”)

   “คือ... พี่โทรหาพี่ชายจ๋าจ้าไม่ได้ครับ”

   (“เอ๊ะ อาจจะมีปิดเครื่อง สักครู่นะคะ”) น้องบอก หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้ยินเสียงของน้องตะโกนคุยกับพี่ชายอีกคน (“พี่จันทร์เจ้าขา โทรหาพี่จริงใจติดเปล่าคะ? // ติดคร้าบ เพิ่งคุยเมื่อกี้เอง กำลังจะกลับแล้ว มีอะไรเหรอ? // แฮะ เปล่าค่า”)

   (“พี่ภัคขา ยังอยู่ไหมคะ?”)

   “ครับ... พี่ได้ยินแล้ว...”

   (“อ่า... ยังไงพี่ภัคลองดูอีกทีนะคะ เดี๋ยวถ้าพี่จริงใจกลับมาถึงบ้านแล้วจ๋าจ้าจะบอกพี่จริงใจให้โทรกลับหาพี่ภัคด้วย”)

   “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้อง ขอบคุณมากครับ”

   ปล่อยมือลงตามแรงโน้มถ่วง ผมเอนศีรษะไปด้านหลัง มองเพดานแล้วกะพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะหลับตาลง ความรู้สึกของผมตอนนี้มันชาไปหมดและไม่รู้จะอธิบายมันออกมายังไงดี ตอนรู้ว่าพี่คิงจะไปเรียนต่อต่างประเทศผมยังไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้เลย

   ไหนคนที่บอกว่าจะไม่ไปไหน

   ไหนคนที่บอกว่าจะอยู่กับผม

   และไหนคนที่บอกว่าเป็นของผม...




   “เป็นอะไรหรือเปล่าภัค สีหน้าไม่ค่อยดีเลย?” ผมส่ายหน้าช้า ๆ ให้เบลล์ สภาพผมคงแย่มาก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถาม เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ พอเช้ามาตาก็บวมช้ำ คอนซิลเลอร์ก็กลบไม่มิด ซอมบี้ดี ๆ นี่เอง ระหว่างที่เรียน... ผมไม่รู้เรื่องเลย เพราะใจจดจ่ออยู่แต่กับเรื่องอื่น คอยมองโทรศัพท์บ่อย ๆ ด้วยความหวังว่าจะมีสายโทรเข้าจากคนที่กำลังรอบ้าง แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังคงนิ่งสงบ

   วันนี้ผมเลือกที่จะทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัยเพราะไม่มีอารมณ์จะออกไปกินข้างนอก แม้แต่พีทยังแปลกใจ

   “มึงได้คุยกับผัวเด็กของมึงไหม?” ผมถามพีท มันมองหน้าและทำหน้างง ลืมไป... ผัวแม่งมีหลายคน เจอใครหล่อก็เรียกเขาว่าผัวหมด “จริงใจ”

   “อ๋อ ไม่ว่ะ น้องไม่ได้ทักกูมาและกูก็ไม่มีเรื่องจะคุยด้วย ทำไม?”

   “.....”

   “ทะเลาะกันเหรอ?”

   “นิดหน่อย เด็กนั่นมันเข้าใจผิด”

   “อ้าว แล้วมึงโทรหาน้องยัง อธิบายให้เข้าใจสิวะ”

   “โทรแล้ว แต่... โดนบล็อก”

   “my gosh!!!” พีทอุทานเสียงดัง มันถึงกับวางช้อนส้อมลงเพื่อยกมือขึ้นทาบอก “ยังไง! ไหนเล่า ตั้งแต่เมื่อไหร่!?”

   “เมื่อวาน... เด็กนั่นเห็นกูอยู่กับพี่คิงแล้วก็เดินหนีไปเลย พอกูจะตามไปก็ไม่เจอแล้ว แถมโทรไปก็รับสาย ส่งข้อความก็ไม่ตอบ แล้วแม่งก็บล็อกกู ไอ้เหี้ย ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว!” พูดไปขอบตาก็ร้อนผ่าว ผมกำมือแน่น บังคับไม่ให้ตัวเองแสดงความอ่อนแอออกมา

   “มึง... แคร์น้องเขามากเลยรู้ไหม?”

   “เพิ่งรู้ตอนนี้นี่แหละ”

   “ถ้าติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ก็ไปเจอตัวเลยสิวะ มึงต้องบอกน้องว่ามึงรู้สึกยังไง”

   ผมเม้มปาก มันค่อนข้างสับสน ซึ่งผมไม่รู้ว่าทำไม ผมกลัว กลัวว่าจะโดนผลักไส ซึ่งผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น เด็กนั่นทำให้ผมเคยชินกับการมีมันอยู่ข้าง ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มาเดินจากไปแบบนี้ แล้วผมจะทำยังไง...

   “ยังไงกูก็อยู่กับมึงอ่ะ เดี๋ยวตามแฝดกับชะนีมาอยู่กับมึงด้วยเลย”

   “หึ คลื่นครามด่ากูตายห่า”

   “จริง สมน้ำหน้ามึง กั๊กฉิบหาย อีเวร”

   อ้าว... กูผิดเฉยเลย

   เมื่อทานข้าวเสร็จ พีทขอตัวกลับไปก่อนเพราะต้องไปเตรียมตัวพรีเซนต์ ส่วนผม...นั่งอยู่ที่โรงอาหารจนกระทั่งถึงเวลาเรียนจึงเข้าคลาส ช่วงบ่ายนี้ผมมีสติมากขึ้น ไม่ค่อยวอกแวกไปสนใจโทรศัพท์แล้ว เพราะยังไงมันก็ไม่มีสายจากจักรพรรดิอยู่ดี ตั้งใจเอาไว้ เลิกเรียนแล้วผมจะไปคุยกับเด็กนั่นให้รู้เรื่อง ถึงแม้จะไม่มั่นใจเลยว่าต่อให้ไปแล้วจะเจอหรือเปล่า...








(มีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2017 22:08:05 โดย HEARTBREAKER »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3





   “นี่ พวกแกรู้ป่ะ ณภัคโดนผู้ชายเทเว้ย” ขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองอยู่ในบทสนทนา จึงหยุดและยืนฟัง ว่าคนพวกนั้นจะพูดอะไรต่อ

   เรื่องที่ผมโดนทิ้ง คงมีคนได้ยินจากเมื่อกลางวันที่ผมคุยกับพีทแล้วเอามาเล่าต่อ ลืมไปเลยว่ามีพวกชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่เยอะ ไม่รู้ว่าใส่สีตีไข่กันไปถึงไหนแล้ว

   “หืมมมม พี่ณภัคอ่ะนะ นางไม่เทเขาแล้วเหรอ?”

   “แหมแก ต้องมีโหมดโดนเทบ้างสิ อยากเห็นหน้าผู้ที่เทนางจริง ๆ ว่างานดีขนาดไหน”

   “นั่นสิ หรืออาจจะงั้น ๆ แต่เทเพราะเบื่อนางงี้ ว้ายยย”

   “ว่าไปแก ณภัคนั่นดอกฟ้าเชียวนะ จะโดนเบื่อได้ยังไง คิคิ”

   “ไม่แน่นะโว้ย นางก็ผ่านอะไร ๆ มาเยอะ อาจไม่ถึงใจผู้แล้วป่ะ จากดอกฟ้าก็กลายเป็นดอกหญ้า แล้วก็ถูกทิ้งงี้”

   ผมเหยียดยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาผู้หญิงกลุ่มนั้นที่คุยกันอย่างสนุก ที่ตรงนี้มีหลาย ๆ คนที่นั่งเล่นหรือทำงานกันอยู่ ระดับเสียงที่พวกเธอพูดก็ไม่ได้เบาเลยสักนิด แน่นอนว่าคนอื่นต้องได้ยิน และมันก็แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของผมมันต้องแย่ไปมากกว่าเดิม ทว่า...เมื่อผมเข้าไปให้พวกนั้นเห็น เสียงที่คุยกันก็เงียบไป พร้อมใบหน้าที่แสดงออกมาว่าตกใจ

   “เมื่อกี้... พูดว่าอะไรนะ?”

   “เอ่อ...”

   “พูดให้มันเก่งเหมือนลับหลังหน่อย!” ผมตะคอก แต่คนพวกนั้นก็ยังเงียบ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ท่าทางน่าสมเพชจนต้องแค่นหัวเราะ คนเราก็เก่งแต่ลับหลัง พออยู่ต่อหน้ากลับหดหัวเข้ากระดอง

   “จะพูดเรื่องฉันก็พูดไป แต่พูดเรื่องที่มันเป็นความจริงหน่อยเถอะ กลัวคนไม่รู้เหรอว่าโง่ถึงได้แสดงมันออกมามากขนาดนี้”

   “.......”

   “รู้จักใช้สมองให้เก่งเหมือนปากด้วยนะ คิดบ้างก่อนจะทำอะไร อ๋อ ลืม คงคิดไม่ได้เพราะไม่มี ถ้าโลกนี้มีซอมบี้ พวกเธอรอดทั้งกลุ่มแน่”

   “จะมากเกินไปแล้วนะคะ!” หลังจากที่เงียบมานาน หนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นมา ผมเลิกคิ้ว อะไรคือมากเกินไปงั้นเหรอ?

   “หืม ด่าคนอื่นได้แต่พอโดนบ้างก็ไม่พอใจแบบนี้เหรอ? ไม่น่ารักเลยนะคนดี” ผมก้าวเข้าไปใกล้อีกอีกก้าว ก่อนจะไล่มองหน้าเด็กพวกนี้ทีละคน “ถ้าทำผิดกับคนอื่นไว้ สิ่งที่ต้องพูดคืออะไรนะ?”

   “ขอโทษ...ค่ะ” พูดออกมาคล้ายจะไม่เต็มใจ เด็กปีหนึ่งกลุ่มนี้รีบเก็บของกันใหญ่ ผมเหยียดยิ้มออกมา ตอนด่าอย่างกับโทรโข่ง พอขอโทษอย่างกับลำโพงพัง เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

   “เดี๋ยว” ผมเรียกไว้

   “มีอะไรอีก..คะ?”

   “ดอกหญ้าอย่างฉันก็โดนเบื่อง่าย ๆ และโดนทิ้งง่าย ๆ นั่นแหละ...” ผมเว้นช่วงจังหวะ ระบายยิ้มบางก่อนจะพูดต่อ “จะไปสู้ดอกทองอย่างพวกเธอได้ยังไง”

   สิ้นคำพูดของผม เด็กพวกนั้นก็แสดงออกทางสีหน้าว่าไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีคนหัวเราะขึ้นมา คงอายจนต้องรีบหนีไป ...เมื่อเข้ามานั่งในรถแล้ว ผมก็เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วลองโทรหาวอแวบอยอีกครั้ง แม้จะหวังให้อีกฝ่ายรับสาย แต่ความเป็นจริงผมก็ยังไม่สามารถโทรหามันได้อยู่ดี

   ฝ่าการจราจรมาจนถึงคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่พักหลังมานี้มาบ่อยพอสมควร ผมผ่านเข้าไปในตึกอย่างง่ายดายเพราะพนักงานคุ้นหน้า กดลิฟต์ไปยังชั้นที่ต้องการ เมื่อมาถึงก็ตรงไปยังประตูห้องห้องหนึ่ง รออยู่นานหลังจากกดกริ่งก็ไม่มีคนออกมาเปิดประตูเลย ผมเป่าลมออกจากปาก เจ้าเด็กนั่นอาจจะไม่อยู่ที่นี่ ผมพยายามนึก ที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ว่าจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน

   และสิ่งที่ผมนึกออกตอนนี้คือซ้อมดนตรี

   “โทษนะครับ วง Histasia ซ้อมอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ?” ผมพุ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์ทันทีที่เข้ามาในตึก จำได้แค่ว่าจักรพรรดิเคยบอกว่าห้องซ้อมประจำอยู่แถวนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน จนต้องถามคนที่อยู่แถวนี้มา

   “ซ้อมอยู่ค่ะ” เธอตอบหลังจากเช็กข้อมูลในคอมพิวเตอร์ กว่าจะรู้ว่าอยู่ห้องไหนก็เสียเวลาไปหลายนาที เพราะเป็นกฎที่ระบุไว้ว่าหากไม่มีความจำเป็นอะไรจะไม่ให้คนอื่น(ที่ไม่ได้ลงชื่อใช้ห้องซ้อม)เข้าไปเพราะเป็นการรบกวนคนที่ซ้อม แต่ในกรณีที่มีแจ้งเอาไว้ก่อนจะเป็นข้อยกเว้น ผมต้องอ้างว่าเอาของมาให้หนึ่งในนั้น เธอถึงยอมบอกมา

   ยิ่งเข้าใกล้จุดหมาย ผมก็ยิ่งเกิดอาการประหม่า หัวใจเต้นแรงและไรผมมีเหงื่อออก รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องยังไงก็ไม่รู้ ถ้าจักรพรรดิเย็นชาใส่ผม ผมจะทำยังไงนะ จะทำยังไงล่ะ ก็พยายามต่อไปไงโว้ย!

   ยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง มองลอดเข้าไปผ่านช่องกระจกตรงประตู เห็นแค่วาฬ พวกเขากำลังซ้อมอยู่ ผมรู้ว่ามันเป็นการรบกวน แต่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ...ยกมือขึ้นเคาะประตูก่อนจะหลบไปยืนอีกด้าน ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างในจะได้ยินหรือเปล่า แต่ผมภาวนาให้ใครสักคนได้ยินและออกมาเปิดประตูให้ผม...

   “อ้าว... สวัสดีครับ” ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ไปให้ข้าวฟ่างที่โผล่ศีรษะออกมา “มาหาจริงใจใช่ไหม เข้ามาสิครับ” เด็กอายุน้อยกว่าเปิดประตูให้กว้างขึ้นแล้วเบี่ยงตัวออก ผมเม้มปาก สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงเดินตามข้าวฟ่างเข้าไป

   เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ทุกเสียงในห้องก็เงียบลง ผมกำสายกระเป๋าบนไหล่ตัวเองแน่น วาฬกับไจ่ไจ๋ส่งเสียงทักทายมาให้ ยิ้มกลับไปให้พวกเขาหน่อย ๆ เพราะสายตาผมจ้องไปยังเด็กผู้ชายที่อยู่ในชุดนักเรียนไม่เป็นระเบียบ เสื้อสีขาวแนบชิดไปกับแผ่นอกเพราะเหงื่อที่ซึมออกมา ทั้งยังปลดกระดุมออกไปสองเม็ดด้วย

   ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะหัวใจเต้นแรงได้ขนาดนี้...

   “งุ้ยยยย มีกำลังใจมาแบบนี้พี่จริงใจสู้ตายแน่อ่ะ!” ไจ่ไจ๋ว่าเสียงใส ไม่ได้สังเกตหน้าพี่ชายเลยว่ามันนิ่งขนาดไหน รวมทั้งแววตานั้นด้วย จักรพรรดิแสยะยิ้มและแค่นเสียงในลำคอ สายตาว่างเปล่าที่มองมาทำให้ผมเย็นวูบไปทั้งตัว

   “เชิญนั่งเลยครับพี่สะใภ้ เดี๋ยวไจ๋โชว์ฝีมือการเล่นคีย์บอร์ดที่เจ๋งที่สุดให้ดู” น้องเล็กสุดของวงยังคงพูดเจื้อยแจ้ว ข้าวฟ่างกับวาฬก็เล่นไปกับไจ่ไจ๋ด้วย มีเพียงคนเดียวที่ยังนิ่งเฉยนั่นก็คือจักรพรรดิ...

   “อ้าวไอ้เวร เล่นสิโว้ย!”

   “เลิก วันนี้พอแค่นี้”

   “อันแนะ! จะรีบกลับไปกับพี่ภัคล่ะสิ ไจ๋รู้ทัน”

   “ไร้สาระ” น้ำเสียงราบเรียบจนผมต้องเหลือบตาขึ้นด้านบน ไม่อย่างนั้นน้ำตาคงร่วงมาแน่ ตั้งแต่เจอกับเด็กนี่เกราะที่ผมใช้ป้องกันตัวเองมันก็ค่อย ๆ ร้าวไป ความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้นมันก็แสดงออกมาบ่อยขึ้น ทั้งห้องเงียบไปอีกครั้ง เด็กอีกสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ดูเหมือนว่าจะเริ่มจับกระแสบางอย่างได้แล้ว...

   “พวกมึงซ้อมไปแล้วกัน กูกลับละ” จักรพรรดิบอกเพื่อนแล้วเก็บของก่อนจะออกจากห้องซ้อมไปโดยไม่ให้ใครถามอะไร

   “มี...เรื่องอะไรกันเหรอครับ?”

   “นิดหน่อยน่ะ”

   “อ่า...” จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร แต่พอผมออกจากห้องก็มีเสียงตะโกนของไจ่ไจ๋บอกมาว่าสู้ ๆ

   ผมรีบวิ่งลงจากตึก มองหาว่าจักรพรรดิไปทางไหน คว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่จะได้ข้ามถนน เด็กนั่นหันมองด้วยสายตาเอาเรื่องพร้อมกับมือที่สะบัดออก แต่ด้วยความหน้าด้านของตัวเองจึงยื่นมือไปคว้าไว้อีกครั้ง

   ต่อให้โดนสะบัดออกสักกี่ครั้งผมก็จะตามคว้ามันทุกครั้งนั้นแหละ!

   “คุยกันก่อน”

   “......”

   “ขอร้องเหอะ คุยกันก่อนได้ไหม” จักรพรรดิสะบัดมือผมออกอีกครั้งแล้วเดินข้ามถนนไป แต่ผมก็ยังคงตามไปอยู่ดี ในเมื่อไม่ไล่ ก็ถือว่าให้โอกาสผมได้พูดก็แล้วกัน...

   “น้องจริงใจ!”

   Shit!

   ผมสบถอยู่ในใจ จ้องไปคนมาใหม่เขม็ง แล้วจักรพรรดิดันหยุดให้มันเข้ามาทักอีก

   “วันนี้ค้างที่นี่เหรอ?”

   “ไม่รู้ มีอะไร?”

   “โห เสียงแข็งเว่อร์ อารมณ์ไม่ดีเหรอครับ?” จักรพรรดิยืนเงียบไม่ได้ตอบกลับ “แค่มาทักทายเอง...”

   “อือ ขอตัว”

   “เดี๋ยว!!” เด็กเวรนั้นเรียกไว้แล้ววิ่งไปดักหน้า ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่ชอบใจ ทำไมต้องมายุ่งด้วยวะ! “พรุ่งนี้เข้าประชุมด้วยนะ”

   “ประชุมอะไร?”

   “ประชุมสีไง ประธานสีบอกไว้”

   “เหรอ อืม”

   “น้องจริงใจจะขึ้นห้องเลยเปล่า ไปด้วยสิ” ผมรีบดึงแขนจักรพรรดิแล้วลากไปที่ลิฟต์เร็ว ๆ ไอ้เด็กเวรอีกคนทำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งเห็นผม เล่นละครโคตรไม่เนียน ระหว่างที่ลิฟต์เปิดก็มีเสียงคนเรียกมันพอดี ผมจึงผลักจักรพรรดิเข้าไปด้านในและกดปิดทันทีแม้จะได้ยินเสียงตะโกนบอกให้รอก็ตาม

   หึ! รอก็โง่สิ!

   “มีอะไรก็รีบพูดแล้วกลับไปซะ” จักรพรรดิเอ่ยขึ้นเมื่อมาถึงห้องพัก ผมหลับตาลงเพื่อตั้งสติและควบคุมตัวเองไม่ให้พาลเพราะหัวร้อนกับเรื่องเมื่อสักครู่ เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกที เด็กผู้ชายที่อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายก็จ้องผมอยู่ สายตายังเรียบนิ่งและเฉยชาเหมือนเดิม...

   “เรื่องเมื่อวาน... มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”

   “ผมคิดอะไร?”

   “คิดว่าฉันรักพี่คิง”

   “หึ เหรอ”

   “ก็นาย... ฉันโทรไปนายก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ แถมยัง... บล็อกฉันอีก มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะจริง ๆ เมื่อวานไปกินข้าวกับพี่คิงก็จริงแต่ว่าณภัทก็ไปด้วย ตอนนั้นภัทไปอยู่เพราะไปคุยโทรศัพท์พอดี มันไม่มีอะไรจริง ๆ นะ”

   “......”

   “พูดอะไรบ้างสิ...”

   “กลับไป”

   “มะ ไม่เอา”

   “เอาตรง ๆ ป่ะ ตอนนี้ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณเลย แม้แต่ชื่อก็ไม่อยากจะได้ยิน”

   ผมนิ่งอึ้ง มองคนพูดตาค้าง ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ในใจวูบโหวงก่อนที่มันจะสั่นรัวด้วยจังหวะที่บีบแน่น ทั้งน้ำเสียง สีหน้า และแววตา เป็นเครื่องบ่งบอกว่าสิ่งที่พูดออกมา มันมาจากความรู้สึกข้างในจริง ๆ

   “นาย...”

   “หยุดไว้ตรงนี้เหอะ”

   “ไม่ ไม่เอา!”

   “ไม่เอาอะไร จะมีผมไว้ทำไม ในเมื่อคุณก็มีคนของคุณแล้วนี่! เผื่อเลือกเผื่อทิ้งเหรอ ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือไง ไปหาคนนั้นของคุณดิ!!” ผมสะดุ้งทุกครั้งที่จักรพรรดิตะคอกเสียงดัง ดวงตาคมแดงก่ำจ้องผมเขม็ง “อ๋อ กลับมาหาผมเพราะเขาไม่เลือกคุณใช่ป่ะ เขาก็แค่มีแฟน แย่งมาสิครับ”

   “ฉันกลับมาหานายเพราะฉันเลือกนายต่างหาก!!”

   “เลือกผม? หืม นี่มุกเหรอ ต้องขำไหม” เด็กตัวสูงก้าวเข้ามาใกล้ มือใหญ่นั้นคว้าไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วบีบแน่น ใบหน้าผมเหยเกเพราะความเจ็บแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป “อย่ามาพูดว่าเลือกผมทั้ง ๆ ที่คุณไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกอะไรให้ผม!”

   “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่มี! ถ้าไม่มีแล้วฉันจะมาหานายวันนี้ทำไม จะพยายามโทรหาเพื่ออธิบายทำไม! ถ้าไม่มี ไม่รู้สึกอะไร ฉันไม่สนใจนายหรอก นายคิดว่าฉันตามง้อทุกคนหรือไง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเป็นนาย ฉันจะแคร์ไหม!! ถ้าหากไม่รู้สึกอะไรกับนาย ฉันจะหวงนายกับไอ้เด็กเวรนั้นเพื่ออะไร!!”

   “คุณก็แค่หวงก้างเท่านั้นแหละ ไม่ได้หวงผมหรอก เลิกให้ความหวังผมสักทีสิวะ!! คนที่คุณหวงคือคิง ไม่ใช่จักรพรรดิ!! แล้วเป็นยังไง พอรู้ว่าเขามีแฟน พอรู้ว่าเขาจะหมั้น เหมือนจะขาดใจตายเลยไหมครับ?”

   “เลิกงี่เง่าสักทีไอ้เด็กเวร! ทำฉันปั่นป่วนขนาดนี้แล้วยังจะพูดอะไรแบบนี้อีกเหรอ ใช่ ฉันจะขาดใจตายเลยล่ะ แต่ไม่ใช่เพราะรู้ว่าพี่คิงมีคนรัก แต่มันเป็นเพราะนายต่างหาก! เพราะนายไม่สนใจฉัน เพราะนายตัดขาดทุกอย่างกับฉัน! เห็นหน้าฉันไหม เห็นสภาพโทรม ๆ นี้หรือเปล่า รู้ไหมมันเป็นเพราะอะไร เพราะคิดมากเรื่องนายจนนอนไม่ได้ไงเล่า!!!”

   “......”

   “กับพี่คิง... มันเป็นอดีตไปแล้ว นายก็รู้แล้วว่าเขามีแฟน ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นเล่า ฉันมันเลวจนแย่งแฟนคนอื่นได้เลยหรือไง...” เสียงของผมค่อย ๆ แผ่วไป ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อความรู้สึกหลาย ๆ อย่างแล่นเข้ามาพร้อมกัน ทั้งโกรธ โมโห เสียใจ และน้อยใจ... ทำไมถึงได้มองผมอย่างนี้ ทำไมถึงบอกให้ผมไปแย่งแฟนคนอื่น ไม่รู้เหรอว่าผมเกลียดคนประเภทนี้ขนาดไหน... ผมรู้ว่าคนที่โดนแย่งแฟนความรู้สึกแย่ขนาดไหน ผมเจอมากับตัวเอง และผมก็เคยเห็น...แม่ของผมที่เป็นทุกข์เพราะถูกแย่งคนรัก

   แล้วทำไม... ผมต้องทำในสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดด้วย

   “ฮึก” ก้มหน้าลงต่ำและพยายามกัดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น มันดูงี่เง่ามากที่ต้องทำอะไรแบบนี้ แต่ผมไม่อยากให้จักรพรรดิได้ยินเลย ผมกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าบีบน้ำตา ไม่ว่าผมจะทำอะไรตอนนี้เด็กนี่ก็คงมองผมไม่ดีแล้วล่ะ

   “ฉันขอโทษที่ที่ทำให้นายต้องรำคาญเพราะความลังเลของฉัน แต่ฉันกลัว... ถ้าหากให้ใจนายไปและยอมง่าย ๆ นายจะทิ้งฉันง่าย ๆ เหมือนกัน ฉันระแวงความรักเพราะมันทำให้ฉันต้องเจ็บปวด ถ้าการกระทำของฉันทำให้นายหงุดหงิดใจ ฉันขอโทษ”

   “ทั้ง ๆ ที่พยายามไม่หวั่นไหวเมื่อนายดูแลเอาใจใส่ สร้างกำแพงไม่ให้นายก้าวเข้ามา ไม่อยากมีนายอยู่ในชีวิต เพราะถ้าวันไหนถูกทิ้ง ฉันจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนาย...”

   “ครั้งนี้... เป็นการถูกทิ้งที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะตายเลย” ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหน้าเด็กมัธยมปลายที่คอยตามติดชีวิตผมมาตลอดสามสี่เดือนนี้ เด็กผู้ชายที่ทำให้คนเกลียดความวุ่นวายอย่างผม รู้สึกรักความวุ่นวายขึ้นมา...

   “ฉันชอบนาย”

   “.......”

   “ชอบนาย...จริง ๆ ต่อให้พูดหรือไม่พูดนายก็จะทิ้งฉันอยู่แล้ว ฉันเลือกที่จะพูดดีกว่า”

   “เลิกเพ้อได้หรือยัง?”

   “มันน่ารำคาญใช่ไหม รู้หรอก...”

   “รู้แล้วก็หุบปากสักที! แม่งเอ๊ย!!!” ผมสะดุ้งเฮือกเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ยังเรียกขวัญจากการตกใจกลับมาไม่ได้ก็ต้องตกใจซ้ำอีกเมื่อคอเสื้อถูกกระชาก แวบแรกคือรู้สึกกลัว กลัวโดนต่อย เพราะเจ้าเด็กนี่หน้าโหดมากทั้งแววตาที่เกรี้ยวกราด แต่แล้วมันก็ไม่เป็นอย่างที่ผมคิด

   จากที่นึกว่าจะถูกกระชากเข้าไปต่อย กลับกลายเป็นจูบแทน... ริมฝีปากเป็นกระจับนั้นกระแทกใส่ปากผมค่อนข้างแรง เจ็บ... แต่โวยวายไม่ได้ เด็กตัวสูงเลื่อนมือไปกดท้ายทอยผมเอาไว้ ริมฝีปากก็คอยขบเม้ม ทั้งยังกัดอีกต่างหาก ผมหลับตาลง ปล่อยตัวให้อีกฝ่ายปล้ำจูบอย่างตะกละตะกราม แขนเรียวเอื้อมขึ้นโอบรอบคอคนอายุน้อยกว่า เอียงใบหน้ารับสัมผัสให้ถนัดมากยิ่งขึ้น เผยอริมฝีปากรับเรียวลิ้นร้ายเข้ามา ก่อนจูบตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน...

   ...ขอเวลาผมไปคุยกับเด็กเอาแต่ใจให้รู้เรื่องก่อนนะครับ







-------------------------------
ยาวมากเลย แต่ไม่อยากตัด เดี๋ยวจะยืดไปอีก ตาลายหน่อยนะคะ ; _ ;
จากตอนที่แล้วที่จริงใจน็อตหลุด จริงใจรู้ว่าคิงเป็นแฟนของพี่สาวตัวเอง แต่ภัคไม่รู้ว่าคิงมีแฟนแล้ว เด็กเด๋อของเราเลยคิดไปไกลว่าภัคยังรักคิงอยู่ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านงับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2017 22:08:37 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z2: :z2:
รออยู่นะอยากหายคาใจ จริงใจนี่มันเรียกว่าซื่อบื้อได้เป่า ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เคลียร์ให้รู้เรื่อง จริงใจฟังมั้ง

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
  o7 o7 น้ำตาไหลพรากกกก...ในที่สุดก็ยอมรับและพูดกันตรงๆซะที

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ถ้าจริงใจไม่ฟังนะ จะยุให้ภัคไปหาใหม่จริงๆ ด้วย 5555

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ตอนนี้อยู่ทีมภัค  แหม๋...ก็เด็กมันงอแงอะ สงสารคนที่เขาตามง้อ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
เห้อก็เด็กอะ รู้สึกว่าจริงใจก็ยังเอาแต่อารมณ์ตัวเองอยู่
สงสารณภัคอะ โถ่ แต่ก็นะ
ผิดทั้งสองคนนั่นละ ก็ทำให้เขาไม่ไว้ใจเอง
จากนี้ก็ค่อยๆคุยกันดีๆแล้วกัน

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
จริงใจฟังภัคหน่อยย

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
สงสารภัคคคค จริงใจโหมดนี้น่ากลัวมาก กลัวแล้ว
รอต่อค่ะ ดีกันแล้วใช่มะเนี่ยตกลง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฮือออออ ค้างงงงง :sad4:

รอตอนต่อไปนะคะ :impress2:

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เข้าใจกันเร็วๆ นะ มาต่ออีกนะคะ รออ่านอยู่กำลังสนุกเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :เฮ้อ: นึกว่าจะดราม่ากันยาวซะแล้ว

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เคลียร์กันให้เข้าใจนะคะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แม้ณภัค ลังเล ไม่แสดงท่าทีว่าชอบจริงใจเหมือนกัน
เพราะอดีตที่พ่อทำกับแม่ เอาเพื่อนแม่เป็นเมีย และเพราะกลัวการถูกทิ้ง
จริงใจ ก็ใจร้อนเกิน ทำไมไม่ยอมฟังที่มาที่ไป อะไรเลย
อยู่ๆ ก็บล็อกเฉยเลย ดูไม่มีเหตุผล
ทำตัวไม่มั่นคงทางอารมณ์ แต่จริงใจก็เด็กจริงๆ
ถ้ารักครั้งนี้ไปไม่รอด ก็เพราะตัวเองมีส่วนทำให้มันพังด้วยเช่นกัน

ณภัค กล้าดีที่เข้าหาเด็กปีศาจ พูดๆให้รู้เรื่อง
จะเลิกก็เลิกแต่บอกให้รู้เหตุผล
และบอกว่าชอบไปเลย พระเจ้าจอช มันยอดมาก  :ling1: :ling1: :ling1:
สุดท้ายก็ดีกันแบบซาบซ่านหัวใจ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ชอบบบ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ที่ณภัค ด่าพวกดอกทองทั้งหลาย ก็ณภัคเป็นแค่ดอกหญ้านี่นะ
ดี โดนซะมั่ง ว่าเขาไม่ดี แล้วคนดีที่ไหนนินทาคนอื่นดังลั่นสนั่นเลย
ด่าเขาได้ ก็ต้องโดนด่ากลับได้เช่นกัน หึ หึ  ไม่โกงกันนะ   :z6:  :hao3:

ที่ณภัค โดนเม้าท์นินทาไม่เลิก มันมาจากไอ้เลวที่มาจีบณภัคทั้งที่มีแฟนแล้ว
แล้วชะนีแฟนแทนที่จะด่าแฟนตัวเอง ก็มาด่าณภัคซะนี่ มันน่านัก
ก็ไอ้แฟนเลวของตัวเอง มันดีสินะ มันถึงมาจีบคนอื่นทั้งที่มีแฟนคาอยู่รึ
มันต้องด่าแฟนตัวเองก่อนสิ น่าเบื่อจริงๆคนประเภทนี้  :z6: :z6: :z6:

รำคาญตัววุ่นวายที่เข้าหาจริงใจ แชมเปญล่ะสิ
ท่าทางจะชอบจริงใจ ถึงมาจุ้นไม่เลิก
ต้องให้จริงใจ แสดงความปีศาจออกมาละมั้ง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เด็กปีศาจจะครองโลกกก

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พอกันทั้งคู่เลย ภัคก็มีความลังเล แต่ก็เข้าใจได้ว่ามีเรื่องราวสะเทือนใจเยอะ
แต่จริงใจก็ไม่ฟังไรเลย
คุยกันตรงๆ แบบนี้ดีสุดๆแล้ว

ตอนนี้ภัคเยี่ยมมาก

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด