CH 28 ทบทวน
“พ่อ”
เพียงแค่คำเดียวทำให้บรรยากาศภายในห้องเงียบงัน กฤตมองบิดาสลับกับคนที่กอดกับหลานตัวเองอยู่กลางห้องอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ตอนที่พวกเขารู้ว่าภามหายไปแล้วพบของตกเกลื่อนอยู่บนพื้นห้อง พ่อของเขาปราดสายตามองเพียงนิดเดียวก็ออกปากให้พามาที่นี่ ในตอนแรกไม่มีใครเชื่อเพราะคิดว่าพ่อเริ่มเลอะเลือน แต่พอเห็นสายตาของพ่อทุกคนก็จนใจยอมเอารถออก ระหว่างการเดินทางเจ้าศิลป์ก็อธิบายให้ฟังว่ารู้จักชื่อกรณ์กับอินได้อย่างไร มันดูน่าเหลือเชื่อราวกับเรื่องโกหก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าคือคำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงผิวแทนท่าทางเด็ดขาดคือพี่ชายของเขา...พี่กรณ์
“ไม่เอา” เสียงของภามกระตุ้นให้ทุกคนรู้สึกตัว เด็กหนุ่มสั่นไปทั้งร่าง ภาพอดีตและปัจจุบันกำลังทำให้เขาสับสน ดวงตาเบิกโพลงมองคนบนรถเข็นด้วยใบหน้าซีดเผือด
ขยะแขยง!แกมันโง่! “ไม่เอา!! ออกไปนะ ออกไป๊!”
“ภาม!” ดีนพยายามรั้งร่างของน้องที่กำลังดิ้นรนสุดแรง “ภามพี่อยู่นี่ มองหน้าพี่สิ ภาม!!”
ดวงตาแดงช้ำสั่นระริกมองคนรักตรงหน้า ภามส่ายหัวไปมาสะอึกสะอื้นขาดช่วงเพราะหายใจไม่ทัน
“คนนั้น..อึก มีปืน....ไม่เอาแล้ว ฮึก ไม่อยากเห็นอีกแล้ว”
เลือดสีแดงและร่างไร้วิญญาณ ไม่เอาอีกแล้ว
ชายหนุ่มกอดน้องเอาไว้แน่น ถึงจะโดนจิกแขนจนเลือดซึมแต่เขาก็ไม่สนใจ กลัวเหลือเกิน กลัวว่าถ้าคราวนี้ปล่อยมือจากน้องไปเขาจะไม่มีวันได้น้องกลับมาอีกตลอดกาล
“ไม่ทำแล้วครับ” ดีนจูบขมับคนรักแรงๆ “ไม่มีปืน ไม่มีอะไรแล้ว ใจเย็นๆคนดี” พยายามลูบหลังให้สงบลง แต่เปล่าเลยสองมือของน้องกลับปัดป้องผลักดันเขาสุดแรง
“อย่ามาจับ” ผลักคนรักสุดแรงแล้วถอยไปจนชิดกำแพงห้อง ภามหายใจติดขัดทรมานเหมือนจะตาย เขามองโซฟาตรงหน้าพลันภาพในอดีตก็ซ้อนทับกลายเป็นร่างสูงใหญ่จมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
“ไม่!!พี่กรณ์!! อย่าทิ้งผมไป พี่กรณ์!!” กุมหัวกรีดร้องดังลั่นก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นสะอึกสะอื้น ยิ่งพอชายหนุ่มเข้ามารั้งตัวเข้ากอดคนร้องก็ทั้งจิกทั้งข่วน แล้วทิ้งตัวลงหายใจหอบกระชั้นด้วยใบหน้าซีดขาว
“ภาม!” คนเป็นแม่ที่เพิ่งลงจากเครื่องตั้งใจเซอร์ไพรส์ลูกชายแต่กลับโดนเซอร์ไพรส์เสียเอง เธอได้ยินเรื่องที่ศิลป์เล่าแล้วไม่อยากจะเชื่อ แต่อาการของลูกชายเห็นได้ชัดว่าไม่ปกติ หล่อนปาดเช็ดน้ำตาอยากเข้าไปกอดลูกใจจะขาด ภามฝันเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ลูกชายเธอทรมานกับมันมานานแค่ไหนแล้ว
ยังไม่ทันที่เธอจะได้พุ่งตัวเข้าไปหาลูก ก็ถูกมือใหญ่คว้าต้นแขนเอาไว้ “พี่กฤต!?”
“อินทัช” กฤตเป็นฝ่ายเดินเข้าไป แต่เขาต้องหยุดชะงักกลางทางเมื่อทั้งสองคนมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว “ไม่มีใครแยกพวกเธอสองคนอีกแล้ว” เขานั่งยองๆลงให้สายตาเท่ากับหลานชาย “พวกคุณพ่อเสียใจมากรู้ไหม”
พอเห็นว่าทั้งสองคนหยุดฟังก็เริ่มเอ่ยต่อ
“ห้องนี้..ไม่สิ ตึกนี้ทั้งตึก คุณพ่อซื้อเอาไว้แล้ว” ชายวัยห้าสิบยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ “ส่วนห้องนี้ให้คนทำความสะอาดทุกวัน ซ่อมแซมของเสียหายมาตลอด30ปี” เขาผายมือไปรอบตัว ตั้งใจพูดแทนคุณพ่อที่ตอนนี้แค่จะเอ่ยอะไรออกมาสักคำก็ทรมานจนแทบจะไม่ไหวแล้ว “ของในกล่องเหล็กพ่อก็เป็นคนเก็บเอาไว้” เหลือบตามองชายหนุ่มที่มีดวงตาสีเทาอมเขียวแปลกตา
วันนั้นพ่อเอื้อมมือหยิบพวงกุญแจห้องจากกองเลือด กอบกุมไว้ในมือเรียกชื่อลูกชายคนโตพร้อมน้ำตาพรั่งพรู
“พ่อ..รักและคิดถึงพี่มาตลอดนะ พี่กรณ์..”
หยดน้ำตาอุ่นๆ เอ่อขึ้นที่ขอบตาก่อนจะไหลลงบนผิวแก้มสายตาอบอุ่นและเสียงพูดอ่อนน้อมราวกับน้องชายในอดีตพยายามต่อรองพี่ชายครั้งอยากได้อะไร ดีนเลื่อนสายตาไปยังชายชราผอมแห้งบนรถเข็น หัวใจกระตุกเมื่อเห็นน้ำตาบนใบหน้าซูบผอมนั่น
พ่อผอมขนาดนี้
พ่อป่วยขนาดนี้
พ่อที่เคยหยิ่งทระนงกำลังอ่อนแอเหลือเกิน
“อินทัช....” คราวนี้กฤตเลื่อนสายตามาหาหลานชาย ดวงตาของภามยังมีความหวาดกลัวอย่างชัดเจน “พ่อของเธอก็เสียใจมากเช่นกัน”
“อึก” เด็กหนุ่มขยำเสื้อคนรักอีกครั้ง คำว่าพ่อทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว
“พ่อของเธอร้องไห้..” กฤตหวนนึกถึงอดีตอันแสนไกล เขาจำได้ไม่เคยลืมเลย
--
หลังจากจัดการเรื่องตำรวจและเคลียร์สถานที่เกิดเหตุได้เรียบร้อย ร่างไร้ชีวิตของทั้งคู่ถูกทำความสะอาดจนดูเหมือนแค่หลับไปเฉยๆ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายตั้งใจจัดงานศพอย่างเร่งด่วนเพราะทำใจไม่ได้กับการสูญเสียคนเป็นที่รัก“ผมขอ..” คนเป็นบิดาของอินทัชเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า ข้างกายมีลูกสาวที่ดวงตาแดงช้ำมาแทนคุณแม่ที่ทำใจไม่ได้จนล้มหมอนนอนเสื่อ “ขอให้จัดงานศพทั้งสองคนด้วยกัน ตั้งโลงไว้ข้างกัน” น้ำตาของคนเป็นพ่อไหลออกมาไม่ขาดสายเขาพรากลูกจากคนที่รัก รวมถึงพรากชีวิตของเด็กๆ อย่างน้อยขอให้ได้ทำอะไรให้ทั้งคู่ได้บ้างแม้มันจะสายไปแล้วก็ตามครอบครัวที่ต่างหัวใจสลายไม่มีใครต่อต้านความคิดนี้ ก่อนที่จะนำร่างทั้งสองคนใส่โลงเพื่อวางเคียงข้างกัน บิดาของอินทัชยังคงลูบใบหน้าลูกชายด้วยความรักอย่างถึงที่สุด คนเป็นพ่อก้มลงจูบหน้าผากลูกล่ำลาครั้งสุดท้ายลูกชายที่รอมานานแสนนานลูกคนสำคัญที่ราวกับหลับไป“พ่ออาจจะไม่ใช่พ่อที่ดี” เขาหยิบด้ายสีแดงออกมาแล้วบรรจงผูกไว้ที่ข้อมือลูกชาย “แต่พ่อรักลูก รักมาก” เมื่อมั่นใจว่าผูกจนแน่นดีแล้วก็ลากด้ายไปที่อีกร่าง ดวงตาทอดมองคนที่ลูกรักมากมายเหลือเกิน เขากลืนก้อนสะอื้นแล้วพยักหน้าให้บิดาอีกฝ่ายจับแขนเย็นชืดขึ้นแล้วผูกด้ายกับข้อมือเอาไว้“ด้ายสีแดงจะนำพาให้พวกเธอทั้งคู่กลับมาพบกันอีก” พูดพลางพันด้ายช้าๆ “ชาตินี้ไม่สมหวังแต่ชาติหน้าพ่อขอให้พวกเธอได้พบกันอีกครั้ง” สิ่งที่พ่อทำให้ได้มีไม่มากนัก แต่พ่อก็พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว “พ่อฝากน้องด้วยนะกรณ์ ดูแลน้องด้วย..” ฝากดูแลแก้วตาดวงใจของพ่อด้วย---
“พ่อ...พ่อ...” ภามรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีน้ำตาเหลืออีกต่อไปแล้ว ถ้าเลือดมันไหลออกมาแทนได้มันคงไหลออกมาหมดตัว หัวใจของอินทัชร่ำไห้เสียใจ พอๆกับคนที่กกกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขน
ดีนรู้ดีว่ากรณ์ในตัวเขากำลังอาละวาดด่าทอตัวเอง เพียงเพราะยอมแพ้ เพียงเพราะไม่สู้ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายสร้างความเสียใจให้กับทุกคน บาปที่ติดตัวมาเอาคืนด้วยการทำให้พวกเขาจำได้แล้วทรมานทั้งเป็น
การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย มันคือการหนีที่เห็นแก่ตัว
กฤตกล้ำกลืนน้ำตา ตอนที่รู้ว่าพี่กรณ์ตายเพราะอะไรเจ้ากาจน์โกรธพ่อจนไม่ยอมเจอหน้า อาละวาดร้องไห้ขังตัวอยู่ในห้องเป็นเดือนๆ สุดท้ายก็ขอย้ายไปเรียนต่ออเมริกาจนพบกับแม่ของภามที่นั่น
---
“พี่กฤตลูกผมคลอดแล้ว!”วันที่มีโทรศัพท์มาจากน้องชายที่ห่างหายกันไปนาน ทำเอานายตำรวจต้องขอลาพักร้อนหอบหิ้วลูกชายไปดูน้องคนใหม่ของครอบครัว“น่ารักว่ะ” กฤตแตะแก้มยุ้ยที่นอนหลับสนิทในเตียงเด็ก เจ้าตัวน้อยทำปากมุบมิบแล้วหลับต่อ ดูเลี้ยงง่ายน่าเอ็นดู“ลูกชายละพี่..ชื่อน้องภาม” กาจน์ลูบมือน้อยๆของลูกอ่อนโยน “ภามที่หมายถึงพลัง ต่อสู้ทุกสิ่งทุกอย่าง”คุณลุงหมาดๆหลุบตาลง เขายิ้มเมื่อเห็นปากเล็กๆขยับราวกับกำลังยิ้มเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง “ไง..เจ้าภาม”พี่กรณ์ได้ยินไหม หลานที่พี่เป็นคนตั้งชื่อเกิดมาแล้วนะ...---
กาจน์ไม่เคยกลับมาหาพ่ออีกแม้จะเรียนจบจากอเมริกาแล้ว ทำให้ไม่เคยรู้ว่าพ่อเสียใจแค่ไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้น พ่อพร่ำบอกว่าสิ่งเลวร้ายที่ตัวเองเคยทำตอบแทนด้วยการพรากเลือดในอกต่อหน้าต่อตา ยิ่งตอนที่รู้ว่าเจ้ากาจน์ป่วยหนักยังไม่ยอมปริปากบอกครอบครัวสักคำ ไอ้น้องบ้านั่นไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำวันที่มันนอนอาการโคม่าอยู่โรงพยาบาลพ่อนั่งมองมันด้วยสายตายังไง เมื่อเสียลูกชายไปถึงสองคนทำให้พ่อล้างมือจากวงการเงินกู้ ทำตัวเองให้สะอาดและอยู่เพื่อรักษาสัญญา
“พี่กรณ์ ..หลังจากงานศพ พวกเราก็ยังติดต่อบ้านอินทัช จนวันที่พ่อของอินป่วยหนักและกำลังจะจากไป พ่อรับปากคุณลุงเอาไว้ว่าจะดูแลทุกสิ่งทุกอย่างของพวกพี่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องของครอบครัวหรือคอนโดห้องนี้”
ไม่ว่าจะช่วยดูแลอันทิกาพี่สาวคนเดียวของอินยามอยู่ตัวคนเดียว รวมถึงที่ดินโฉนดทุกอย่างของคอนโดนี้ที่เพิ่งโอนกันเสร็จสิ้น คนในตึกกลุ่มสุดท้ายกำลังจะย้ายออกสิ้นเดือน พ่อพยายามทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่ร่างกายตัวเองจะไม่ไหว
“อย่าโกรธพ่อเลยนะพี่ อย่าโกรธพวกพ่อเลยนะอิน พวกเขาเจ็บเหลือเกินแล้ว”
ดีนกระชับร่างในอ้อมแขนมากขึ้น พวกเขามองสบตากัน คำสอนของหลวงพ่อเมื่อครั้งไปไหว้พระปีใหม่ก็ย้อนกลับมาย้ำสติอีกครั้ง
การยกโทษให้กันคือสิ่งสำคัญนะโยม“พี่เสียใจ” ชายหนุ่มจับมือน้องขึ้นมาจูบซ้ำๆที่อุ้งมือ “พี่ขอโทษที่ไม่เข้มแข็ง พี่ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องทุกข์ทรมาน” ก้มลงจูบหน้าผากเปียกชื้น พลางเกลี่ยเส้นผมทัดหูให้ “เพราะพี่มันโง่เห็นแก่ตัว แต่ตอนนี้พี่รักทุกคน รักพ่อรักแม่ พี่น้อง..และรักอินมากเหลือเกิน” ก้มลงแนบหน้าผากกับคนรัก เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ขอโทษจริงๆคนดี”
ไม่อยากเห็นน้องทุกข์ด้วยความโกรธอีกต่อไปแล้ว
เด็กหนุ่มเหม่อมองคนรักด้วยสายตาสับสนมากมาย เขาลูบใบหน้าคร้ามคมเรื่อยไปจนถึงขมับ สัมผัสรอยปานจางๆที่มันจางขึ้นกว่าเดิม หัวใจอินทัชแกว่งไหว ความรู้สึกข้างในกำลังสับสน เขาเลื่อนสายตาไปยังคนที่อยู่ตรงประตู มองชายชราที่ใบหน้าเปียกชุ่มด้วยน้ำตาท่าทางเหนื่อยอ่อน จนถึงมารดาที่สะอึกสะอื้นกลัวลูกจะทิ้งเธอไป
ในเมื่อทำผิดมาแล้วก็ต้องจำ ไม่ควรทำซ้ำอีกครั้ง
อินทัชเคยนึกว่าตัวเองเข้มแข็งที่สุด แต่กลับไม่ใช่เลย เขาอ่อนแอจนความโกรธครอบงำความคิดของตัวเอง รักมากยิ่งโกรธมาก ผิดหวังมากยิ่งเจ็บมาก พี่กรณ์ยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำทุกอย่าง สำนึกผิดและยอมรับผลของมันแต่โดยดี มีแต่เขาที่ยังดื้อรั้น ต่อต้านความทรงจำเลวร้ายไม่เปิดรับความจริง ได้แต่หนีไปเรื่อยๆและกล่าวโทษคนรัก
“ผม..ขอโทษ”
เด็กน้อยพูดติดสะอื้น “ผมขอโทษ....” สองมือโอบกอดรอบไหล่กว้าง ซุกหน้ากับแผ่นอกปล่อยให้น้ำตาไหลอีกครั้ง “ผมรักพี่”
...
“อินรักพี่กรณ์นะ”...
รัก
รัก
ความรักแผดเผาพวกเขาจนมองไม่เห็นทาง ก่อนที่จะลุยเข้าไปให้บาดเจ็บ บางครั้งก็ควรถอยออกมาแล้วมองหาวิธีก้าวผ่านไปด้วยกันชายหนุ่มส่ายหัวไปมา เขาขยับรอยยิ้มพร้อมน้ำตา คิดถึงเหลือเกิน..
“พี่ก็รักอิน”เป็นครั้งแรกในรอบ30ปีหลังจากที่หมดลมหายใจ วันนี้..คือวันที่พวกเขาได้พบกันจริงๆ
ด้ายสีแดงจะนำพาคู่รักที่ไม่สมหวังได้กลับมาพบกันอีกครั้ง..(ต่อรีพลายหน้าค่ะ)