CH 29 ตลอดไป
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายทุกอย่างก็เข้าสู่ปกติ ช่วงปิดเทอมใหญ่ภามตัดสินใจไม่ไปอเมริกากับครอบครัวแต่ขอลงเรียนซัมเมอร์ที่มหาวิทยาลัยพร้อมกับเพื่อนในแก๊งค์อย่าง ทีม มะนาวและเดล พวกเขาลงเรียนแค่สองตัวและแบ่งเวลาให้กับชมรมมากขึ้น เพราะหลังจากหนังสั้นของชมรมการแสดงได้รางวัลที่สองทำให้มีสมาชิกสมัครเข้าชมรมเพิ่มขึ้นอีกมากมายและด้วยอานิสงค์ของหนังสั้นที่ให้เครดิตชมรมอาหารไทยเต็มที่ทำให้ชมรมของภามเองก็พลอยฟ้าพลอยฝนมีสมาชิกเพิ่มเช่นกัน
วันนี้ชมรมอาหารไทยเปิดสาธิตการทำอาหารเพื่อแนะนำเด็กใหม่ทั้งหลาย ภามมองหัวหน้าชมรมกำลังสาธิตการทำข้าวแช่ให้สมาชิกฟัง วิธีการที่วุ่นวายมากมายตั้งแต่เลือกข้าว นำมาล้าง นำมาต้มจนเข้าสู่ขั้นตอนนึ่งข้าว เล่นเอาแต่ละคนจดรายละเอียดมือเป็นระวิง เขาได้แต่อมยิ้มรอกินของอร่อยๆ ส่วนตัวเองก็กลับมาให้ความสนใจการสาธิตวิธีทำขนมไทยบ้าง
“ภามกะทิได้แล้ว” พี่เดชหนุ่มร่างยักษ์ประจำชมรมยกกะทิอบควันเทียนมาวางไว้ให้ วันนี้เขาผสมกะทิกับน้ำกลิ่นใบเตยหอมน่ากิน “ส่วนอันนี้น้ำใบเตยคั้นแล้ว” เลื่อนน้ำสีเขียวเข้มส่งมาไว้ข้างกัน
เด็กหนุ่มมองน้ำใบเตยแล้วอดขำไม่ได้ นึกถึงคนตัวโตที่เคยมาช่วยเขาคั้นน้ำใบเตยจนเลอะไปหมด
“วันนี้ผมจะสาธิตขนมที่เอาไว้กินเย็นๆชื่นใจ ขนมนี้มีชื่อว่าขนมอินทนิล เป็นขนมไทยโบราณหาทานยาก” ภามเริ่มต้นสาธิตด้วยการหยิบแป้งมันเทใส่น้ำใบเตยแล้วคนให้เข้ากันกลายเป็นสีเขียวตุ่น
“จริงๆส่วนผสมไม่มีอะไรมากครับ แต่จะลำบากตรงที่ต้องกวนแป้งให้สุกซึ่งใช้เวลานาน” เมื่อแป้งเข้ากันดีกับน้ำแล้วเขาก็ค่อยๆเทลงกระทะทองเหลือง ใช้ไฟอ่อนสำหรับกวนแป้ง กลิ่นหอมของใบเตยกรุ่นละมุนจนสมาชิกแต่ละคนลูบท้องด้วยอาการเผลอตัว
จากแป้งเหลวสีขุ่นกวนง่ายเริ่มจับตัวเป็นก้อนแล้วเปลี่ยนเป็นก้อนแป้งสีเขียวใสนุ่มหนืดในเวลาต่อมา
“พอแป้งใสได้ที่ให้ลดไฟลงอีกแล้วใส่น้ำตาลลงไป” พูดพลางทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เขากวนจนน้ำตาลละลายผสมเขากับแป้งจนหมด “เสร็จแล้วให้ยกแป้งวางพักไว้ที่อ่างน้ำแข็งนะครับ แป้งจะได้เย็นลงสำหรับปั้นเป็นก้อน” ย้ายแป้งขนมมาพักรอจนมันเย็น ระหว่างนั้นเขาก็เตรียมถ้วยพลาสติกเล็กๆ ตักน้ำกะทิหอมๆใส่ถ้วยเตรียมเอาไว้
“ปั้นเป็นก้อนเล็กขนาดพอดีคำแบบนี้นะครับ” ล้างมือจนสะอาดจุ่มน้ำเล็กน้อยแล้วหยิบแป้งนุ่มนิ่มกึ่งเหลวด้วยปลายนิ้ว จากนั้นก็หย่อนแป้งลงน้ำกะทิที่เตรียมไว้ทีละก้อนทีละก้อน
“ใส่มะพร้าวอ่อนสักหน่อยตามด้วยน้ำแข็งก็อร่อยได้แล้วละครับ”
พี่เดชตักน้ำแข็งใส่ถ้วยก่อนจะแจกจ่ายให้ทุกคนได้ลองชิม กลิ่นหอมของใบเตยรสชาติหวานมันเหมือนขนมชั้นผสมลอดช่องชักชวนให้คนที่เพิ่งเคยได้ลิ้มลองตักเข้าปากคำแล้วคำเล่า เนื้อขนมนุ่มจนแทบไม่ต้องเคี้ยว หลายคนยกมือสอบถามเพิ่มเติมจนเสียงดังให้ลั่นไปหมด
ขนมแต่ละถ้วยแจกจ่ายจนหมดเกลี้ยง หลังจบช่วงตอบคำถามและให้ทุกคนได้พักผ่อน ภามเองก็นั่งพักเปิดสมุดจดพลางครุ่นคิดว่าอาทิตย์หน้าจะสาธิตอะไรให้ดูอีก การที่ได้มาทำขนมกับชมรมทำให้เขามีสมาธิมากขึ้น ได้อยู่กับตัวเองและได้ถามใจตัวเอง
ตลอดเกือบสามเดือนพี่ดีนไม่เคยมาให้เห็นหน้า หากแต่ส่งข้อความมาหาทุกวันไถ่ถามเรื่องทั่วไป กินข้าวหรือยัง นอนหลับไหม สอบเป็นยังไง พี่ดีนยังคงเป็นพี่ดีนที่มีสเปซให้เขาคุยกับตัวเองเสมอ ภามเองก็ตอบข้อความทุกครั้งบางวันก็ส่งภาพขนมไปให้
เหมือนพวกเขากำลังเรียนรู้กันใหม่ ขนาดทีมยังหมั่นไส้บอกว่าทำตัวเหมือนคนเพิ่งจีบกัน
“ภาม..กับดีนยังคบกันใช่ไหม” เดชที่ทยอยเก็บถ้วยเปล่าจากสมาชิกเดินมายืนพักข้างๆ เขาไม่เห็นแฟนของรุ่นน้องโผล่มาสักครั้งซึ่งมันดูผิดปกติและภามเองก็ไม่เอ่ยถึงด้วย
ภามพลิกสมุดโน๊ตมาที่หน้าแรกแล้วลูบโพสต์อิทเล็กๆที่มีลายมือตวัดชวนคิดถึงแปะเอาไว้ เวลาผ่านมาเกือบปีเขายังคงเก็บมันเอาไว้อย่างดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รับมาพร้อมขวดน้ำส้มแทนคำขอบคุณ
“ผมกับพี่ดีนไม่เคยเลิกกัน”
คำว่าห่างกันสักพักไม่ได้หมายความว่าต้องจากกันไปไกล ไม่ได้หมายความว่าเลิกติดต่อ แต่หมายถึงทิ้งระยะให้คิดว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรมากกว่า
“พี่เดชว่าอาทิตย์หน้าทำขนมอะไรดีครับ” เปลี่ยนเรื่องถามความคิดเห็นรุ่นพี่แทนที่ เดชคลายหัวคิ้วยุ่งๆ ก่อนจะขยี้หัวรุ่นน้องแล้วยัดเศษกระดาษใส่มือ
“คนกินขนมเขาฝากมาให้” พยักหน้าให้ภามที่ทำหน้าเป๋อเหลอ
ภามคลี่เศษกระดาษที่พับเอาไว้ลวกๆ หยุดชะงักเมื่อเห็นลายมือคุ้นตาแบบเดียวกับที่อยู่บนโพสต์อิทเมื่อกี้
ไม่เคยลืมริมฝีปากบางเม้มแน่น เขาหลับตาลงกลั้นความร้อนผ่าวที่หัวตา
“ผมรู้แล้วล่ะว่าจะทำอะไร” สอดกระดาษแผ่นนั้นไว้ในสมุด ตั้งใจจะหากาวมาแปะเก็บไว้กับโพสต์อิทแผ่นนั้น
เดชเลิกคิ้วแล้วยิ้มให้น้อง
“อะไรล่ะ”
“ผมอยากทำขนมลืมกลืน”
ก่อนปิดซัมเมอร์เพียงไม่กี่วันก็มีเรื่องให้คนในแก๊งค์ตื่นเต้นตกใจ เมื่อเดลกระซิบบอกว่าตกลงปลงใจคบกับพี่อเล็กซ์เป็นที่เรียบร้อย สาวสวยตาสีเทาอมเขียวยิ้มกว้างเล่าให้ฟังว่าตอนแรกพี่อเล็กซ์มาบ่นเรื่องพี่ดีนให้ฟังแถมแอบมาหาจุดอ่อนพี่ชายด้วยการเข้าทางน้องสาว คุยไปคุยมาทะเลาะกันไปทะเลาะกันมารู้ตัวอีกทีก็นัดกินข้าวดูหนังจนรู้สึกดีๆด้วยกันทั้งคู่
เห็นว่ากว่าจะคบกันได้พี่ดีนกับพี่ดอนเล่นซะงอมไปเหมือนกัน
พอเพื่อนซี้ประกาศตัวว่าไม่โสด มะนาวก็ยกมือสารภาพอ้อมแอ้มว่าคุยกับหนุ่มที่ชมรมว่ายน้ำอยู่ ผลจากการไปเฝ้าเพื่อนเชียร์เพื่อนบ่อยๆ เลยได้ของแถมเป็นรุ่นพี่ปีสี่หน้าตาใจดีซะอย่างงั้น เจ้าทีมเลยแสยะยิ้มตั้งท่าจะไปล้อรุ่นพี่ที่ชมรมให้อายม้วนไปข้างนึง
“เออภาม” ทีมทักขึ้นเมื่อนึกออก ในมือยังถือถุงเลย์ลังเลว่าจะแกะไม่แกะดี
“หือ” เงยหน้าขึ้นจากมือถือ
“ขนมลืมกลืนที่ฝากไป คนที่ชมรมบอกว่าขอบคุณมากนะ” ตัดสินใจแกะถุงแล้วกินไปสักสามชิ้นก่อนจะตัดใจมัดปากถุงแน่นหนา
“อ้อ อื้อ...” คลี่ยิ้มบางๆ แล้วเลื่อนสายกลับมาที่มือถืออีกครั้ง แอพสีเขียวที่เพิ่งเด้งเตือนขึ้นมาปรากฎภาพขนมลืมกลืนจากคนที่แสนคิดถึง แก้มขาวแดงเรื่อเล็กน้อยกับข้อความกับคำชมของพี่ดีน
หัวใจของเขามันเต้นแรง
---
ท่ามกลางความฝันอันเลือนลางเด็กหนุ่มยืนมองรอบตัว เขาสะท้านเฮือกเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ที่ไหน โซฟาตัวนั้นโต๊ะตัวนั้น..เขาไม่เคยลืมไปจากหัวใจ
ห้องคอนโดของกรณ์กับอิน
ภามตัวสั่นสะท้านรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่พร้อมที่จะเห็นภาพเลวร้ายนั่นอีก แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงหันขวับมื่อเสียงประตูห้องดังขึ้น เด็กหนุ่มอ้าปากค้างเมื่อเห็นคนที่กำลังก้าวเข้ามาในห้อง
ร่างสูงใหญ่ผิวขาวกำลังหัวเราะร่วน ในขณะที่อีกคนกำลังโวยวายเบะปากเอาแต่ใจ ทั้งคู่โต้เถียงกันสักพักก่อนที่โผกอดกันแน่นพร้อมรอยยิ้มระบายบนใบหน้า
พี่กรณ์กับอินทัช..
ไม่มีภาพเลวร้ายที่เด็กหนุ่มกลัวแต่อบอวลไปด้วยความสุขละมุนละไม
เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความยินดีที่กำลังก่อตัวขึ้นมา ภามหยุดชะงักเมื่อสบตาเข้ากับอินทัช เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะมั่นใจว่าอินทัชกำลังมองเขาจริงๆ
อินยังคงกอดคนรักแน่นแนบใบหน้ากับไหล่กว้าง ดวงตาของเขามองเลยมายังเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วค่อยๆคลี่ยิ้มอ่อนโยน ริมฝีปากขยับเป็นคำพูดสั้นๆ ไร้เสียงแต่ดังก้องในสมองของภาม
ขอบคุณภามยิ้มกลับแทนคำตอบ พลันภาพตรงหน้าก็ค่อยๆ จางหาย ความร้อนผ่าวที่หัวตากลั่นออกมาเป็นน้ำตาไหลช้าๆ สู่ผิวแก้ม เหมือนส่วนหนึ่งของตัวเองกำลังจากไป ทั้งดีใจเสียใจปนเปกันไปหมด จนเมื่อภาพกลับมาชัดอีกครั้งเขาถึงเห็นว่าอีกมุมหนึ่งของห้องปรากฎร่างของคนที่รักที่สุดกำลังยืนมองอยู่ด้วยสายตาอ่อนโยนดังเช่นทุกครั้ง แล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็เอ่อท้นหนักขึ้นอย่างห้ามไม่ไหว
เขาคิดแล้ว ทบทวนแล้ว เขาใจทุกอย่างแล้ว และมั่นใจว่าตัวเองรักผู้ชายคนนี้จริงๆ
“พี่..ดีน”
เฮือก
ร่างโปร่งสะดุ้งตื่นจากฝัน ภายในห้องมืดมิดมีเพียงแสงจากนาฬิกาพรายน้ำที่ส่องแสงบอกเวลาตีสอง ภามแตะแก้มตัวเองสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้น
ใส่ชุดแบบนี้น่ารักดี
หน้าเหมือนปลาปั๊กเป้าเลย
เชื่อใจพี่ไหม
พี่รอมานาน..และจะไม่รออีก
สัญญานะ
พี่รักภาม
ภามอย่าไปไหนนะ
เสียงสะอื้นดังแผ่วในห้องกว้าง สองมือของเด็กหนุ่มกอบกุมแท็กสีเงินแสนสำคัญที่ได้รับมาจากคนรักแนบแน่น น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลซึมหายไปในผืนผ้า
“ผมจะไปไหนได้..” ภามทวนคำพูดของตัวเอง “ในเมื่อผมเป็นของพี่”
สายสร้อยสีเงินพันเข้ากับนิ้ว ภามปรือตาฉ่ำน้ำมองสายสร้อยบนมือ พาลนึกถึงวันที่ไปหาพี่ดีนที่คณะท่ามกลางเสียงหยอกล้อของพี่ๆ ด้ายสีแดงที่เขาเลือกขึ้นเชื่อมโยมกับนิ้วก้อยของพี่ดีนโดยบังเอิญ
นี่มันคู่แท้
เขาจำได้ว่าใครสักคนพูดขึ้นมา เด็กหนุ่มกำสร้อยในมือแน่น
ในเมื่อด้ายเก่าโดนตัดไปทำไมเราจะสร้างใหม่ไม่ได้..ภามสะบัดผ้าห่มแล้วรีบลงจากเตียง เปิดไฟควานหากุญแจรถกับมือถือ ไม่สนใจแล้วว่าตอนนี้จะกี่โมงกี่ยาม เขาอยากเจอพี่ดีน อยากเจอใจจะขาด อยากบอกความรู้สึกมากมายให้พี่ดีนฟัง
พอคว้าของที่ต้องการได้ก็พุ่งตัวไปที่ประตู แต่เมื่อเปิดประตูออกก็ชนเข้ากับแผ่นอกแข็งๆเต็มแรงจนเกือบหงาย แต่โชคดีที่อีกฝ่ายรั้งต้นแขนเขาไว้ได้ทัน
ดวงตาเด็กหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้มาเยือนยามค่ำคืนชัดๆ กุญแจห้องและมือถือร่วงหล่นโดนลืมทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ก่อนที่ภามจะกระโจนทั้งร่างเข้ากอดคนที่แสนคิดถึงเต็มแรง
“พี่!!” เสียงร้องเรียกสั่นพร่า สองมือไล่สัมผัสตามใบหน้าคมคายเพื่อตอกย้ำตัวเองว่ามันไม่ใช่ความฝัน
“ผมคิดถึงพี่” ปาดเช็ดน้ำตาตัวเอง “ผมรักพี่ดีนนะ รักพี่มาก” คำบอกรักปนสะอื้นตะกุกตะกัก
ดีนรวบกอดคนรักไว้ในอ้อมแขนแน่นพรมจูบใบหน้าน้องด้วยความรู้สึกเปี่ยมล้น ก่อนหน้านี้เขาฝันเห็นกรณ์กอดกับอินทัช หมอนั่นหัวเราะร่วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข จนเมื่อกรณ์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขายิ้มให้แล้วค่อยๆจางหายไปกลายเป็นภามที่กำลังมองเขาด้วยสายตาอาวรณ์ หัวใจของดีนกระตุกวูบ ความคิดถึงเข้าครอบครองจนทนไม่ไหวทำให้เขาขับรถมาหาน้องทันที
ไม่รออีกแล้ว ให้เวลามามากเกินไปแล้ว
“พี่ก็รักภาม คิดถึงภาม” ปิดประตูแล้วอุ้มน้องกลับเข้ามาในห้อง “พี่ไม่รอแล้วนะ พี่ไม่ทนแล้ว” กดจูบบนริมฝีปากบางย้ำๆ จนน้องแทบหายใจหายคอไม่ทัน ริมฝีปากบางแดงช้ำจนเห็นได้ชัด
“ผมรู้..ผมขอโทษ” หลับตาลงเมื่อพวกเขาทั้งคู่ทิ้งตัวลงบนที่นอนยุ่งเหยิง เสื้อนอนลื่นหลุดออกไปจากร่างกายด้วยฝีมือของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน ริมฝีปากเผยอตอบรับลิ้นอุ่นร้อนเกี่ยวพัน อยากสัมผัสกันและกันให้มากที่สุด
มือสั่นๆพยายามถอดเสื้อนอนคนรักออกบ้าง ต่างคนต่างช่วยกันดูทุลักทุเลแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดถึง ทันทีที่ทั้งสองร่างเปลือยเปล่า ร่างสูงใหญ่ก็บดเบียดร่างน้องเอาไว้ทั้งตัว
ภามลูบมือไปตามแผ่นหลังกว้าง สัมผัสที่แสนคิดถึงและกลิ่นหอมประจำตัวของพี่ดีนทำให้เขารู้สึกร้อนไปทั้งร่างกาย จูบหวานๆถูกป้อนให้จนแทบสำลัก ต่างผลัดกันสัมผัสลูบไล้ไปทั้งตัว
“อ้ะ..”
คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันยามริมฝีปากร้อนผ่าวของพี่ดีนลากลงต่ำไปที่ท้องน้อย วนเวียนขบกัดจนสะท้านไปทั้งตัว อีกทั้งมือใหญ่อบอุ่นยังครอบครองยอดอกทั้งสองข้างบีบเคล้นจนมันแดงก่ำ
“พี่ดีน..” ภามหายใจหอบกระชั้น เขาเบียดตัวเข้าหาคนรักด้วยความวาบหวามและนั่นยิ่งกระตุ้นให้คนที่กำลังรุกไล่ควบคุมตัวเองแทบไม่ไหว
รัก คิดถึง ใจจะขาดเด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีครางกระเส่าเมื่อลิ้นเปียกชื้นแตะที่ช่องทางด้านหลัง สะโพกโดนยกขึ้นสูงจนน่าอายไม่กล้ามอง ภามเกร็งร่างเมื่อลิ้นร้อนสอดแทรกลึกแทนสารหล่อลื่น ไล้เลียจนเปียกชุ่มและเผื่อแผ่ไปยังส่วนอ่อนไหวที่แข็งจนเจ็บ รู้สึกเหมือนโดนกินไปทั้งตัว
ดีนหยุดชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงจิกที่ต้นขา เขาขบกรามแน่นเมื่อปลายนิ้วของน้องลากต่ำลงไปกึ่งกลางลำตัว ลูบไล้หน้าท้องที่เกร็งเป็นลอน
“อึก....ภาม”
“พอ..แล้ว” ภามข่มความอายปรือตามองคนรักด้วยใบหน้าแดงก่ำ พลางเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก “พี่...เข้ามา” ลากปลายนิ้วต่ำลงไปอีกจนถึงส่วนที่แข็งขืนน่าตกใจ
สิ้นคำอนุญาตความร้อนผ่าวก็สอดแทรกผ่านช่องทางเล็กแคบแทบจะในทันที ภามกัดปากแน่นกลั้นเสียงร้องจนริมฝีปากห้อเลือด เจ็บเสียดแต่สุขสม อุ่นร้อนไปทั้งตัว
“กอดผม...กอดผมแน่นๆ” สองมือเกี่ยวกอดโอบรอบลำคอแข็งแรงกดจิกปลายนิ้วเมื่อรู้สึกเจ็บ
ดีนหยัดตัวสอดลึกจนสุดทาง เขาผ่อนลมหายใจกับความแน่นร้อนผ่าวจนแทบขยับตัวไม่ไหว สองแขนโอบกอดน้องเอาไว้จนร่างของภามลอยขึ้นมาจากเตียง ราวกับเด็กน้อยในอ้อมแขนที่กำลังซุกตัวหาความอบอุ่น
“รัก...” เสียงทุ้มต่ำกระซิบริมใบหู
...แล้วการเคลื่อนไหวก็เริ่มต้นขึ้น
เตียงนอนหลังกว้างส่งเสียงเอี้ยดเป็นจังหวะหนักๆ ปนเปกับเสียงหอบครางกระเส่าของทั้งคู่ ภามขยุ้มหมอนหนุนครางเครือหวีดร้องเมื่อโดนกระทั้นจุดเร้าภายในจนร่างกายแอ่นโค้งเพราะทนไม่ไหว จากขนาดร่างกายที่แตกต่างทำให้เด็กหนุ่มจุกเสียดแต่มันยังไม่พอ
“พี่..ลึก...ลึกกว่านี้” เด็กหนุ่มไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำพูดอ้อนวอนแบบนี้ยิ่งจุดไฟปรารถนาของชายหนุ่มให้มากขึ้นไปอีก
ดีนดันต้นขาขาวออกกว้างแล้วตัดสินใจจูบปิดปากเด็กดื้อ สอดลิ้นพัวพันไปพร้อมๆกับการกระทั้นร่างหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบเนื้อน่าอายจนภามแดงก่ำไปทั้งตัว เด็กหนุ่มเลื่อนมือข้างหนึ่งลงต่ำสัมผัสส่วนที่เชื่อมต่อกันและกัน รู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นและการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
อยากกอดกันให้ลึกซึ้งที่สุด
อยากรักกันให้มากที่สุด
อ้อมแขนกว้างกอดคนรักแน่น ดีนสบถกับสัมผัสจากปลายนิ้วของน้องตรงปากทางแดงก่ำอีกทั้งรู้สึกได้ถึงแรงบีบกระชับภายใน เขาเร่งจังหวะจนภามร้องเสียงหลงละมือมากอดไหล่เอาไว้ ใบหน้าแดงก่ำสะบัดหงายหายใจหอบถี่ครางเครือเรียกชื่อเขาซ้ำๆ
“พี่...พี่ดีน...อึก...อ๊า!!” เสียงหวีดร้องดังพร้อมกับเสียงคำรามต่ำ ต่างปลดปล่อยออกมาเต็มแรง
ภามรู้สึกภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปวูบนึง เขาหลับตาลงหายใจหอบหนักรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ถูกปลดปล่อยเข้ามาในร่างกายจนล้น เนื้อแนบเนื้อไม่มีอะไรขวางกั้น
“โอเคไหม” ดีนจูบแก้มชื้นเหงื่อหนักๆ แล้วประคองน้องนอนลงบนเตียงเบามือ
เด็กหนุ่มปรือตามอง สองมือยกขึ้นไขว่คว้าหาคนรักอีกครั้ง
“กอดผม”
ได้โปรดกอดกันเอาไว้ อย่าจากกันอีกเลย
แสงสว่างลอดผ่านผ้าม่านที่ปิดเอาไว้ลวกๆ ดีนดึงเชือกให้ผ้าม่านแง้มออกมากกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับในห้อง เขากับภามยังไม่ได้นอน ต่างคนต่างกอดกันมองหน้ากันจูบกันซ้ำๆแทนคำพูดมากมาย
“ง่วงไหม” ลูบขอบตาแดงช้ำอย่างเอ็นดู
ภามส่ายหัวแล้วซุกกอดคนรักแน่น เก็บเกี่ยวความอบอุ่นจนเต็มที่ พี่ดีนบอกว่าจะมาอยู่ด้วยกันจนกว่าจะเปิดเทอมใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สงสัยเดลได้ล้อเขาเละเทะอีกแน่
“คิดถึงพี่ อื้อออออ” อุบอิบพูดเบาๆ แต่ก็โดนดึงแก้มจนร้องลั่น
“ภามเป็นคนขอห่างกันเองนะ” ทำหน้าดุใส่จนอีกฝ่ายมุดหน้าเข้าใต้ผ้าห่มโผล่มาแต่ตา
“ก็ตอนนั้น..สับสน” พยายามแก้ตัว
“แล้วตอนนี้ละครับ” ช้อนตัวน้องให้ขึ้นมานอนเกยบนอก
“ไม่แล้ว” ยิ้มกว้างให้คนรัก “ผมรักพี่ดีน” ขยับขึ้นแตะริมฝีปากเบาๆ เอาใจ
“พี่ก็รักภาม” ลูบหัวทุยแล้วชะงักเมื่อนึกขึ้นมาได้ เขาขยับตัวขึ้นนั่งจับให้น้องนั่งเป็นก้อนบนตัก “สามเดือนที่ผ่านมาพี่ก็ได้คิดอะไรมากมายเหมือนกัน” เขาวางคางบนไหล่เล็กกอดเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน
“พี่เปลี่ยนนามสกุลแล้วนะ”
“หา” ภามทำตาโตเหลียวหันมามองคนรักงงๆ “เปลี่ยนทำไม เปลี่ยนไปเป็นอะไร”
ท่าทางเหวอสนิทเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่ม
“พี่ไม่ใช่รัฐนนท์ วงศ์เนตรแล้ว แต่เป็น รัฐนนท์ ฉัตรโภคิน”
..
ฉัตรโภคิน..
“พี่..” เด็กหนุ่มเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นการขอขมาให้กับคุณพ่อของอินทัช เพื่อเป็นการขอโทษให้อิน..” กดจูบที่หลังมือน้อง “อย่าร้องไห้นะ ฮึบเร็ว”
จากที่จะร้องภามเกือบหัวเราะออกมาเพราะโดนปลอบด้วยคำพูดแบบเด็กๆ เขาทำท่าฮึบแล้วโถมกอดชายหนุ่มทั้งตัว
“ขอบคุณครับ...”
ดีนลูบหลังน้องเบาๆ ดวงตาสีสวยเหลือบมองโต๊ะหัวเตียงเห็นกระเป๋าสตางค์ตัวเองวางทิ้งเอาไว้ เขาสะกิดคนบนตักแล้วพยักพะเยิดหน้า
“หยิบกระเป๋าสตางค์ให้พี่หน่อย”
ถึงจะงงแต่ภามก็ขยับตัวเอื้อมไปหยิบกระเป๋าให้ ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเจ็บแปลบที่สะโพก ความเฉอะแฉะที่หว่างขาน่าอายจนแก้มใสแดงก่ำ และดูเหมือนคนพี่จะรู้ถึงได้ช่วยนวดให้เบาๆ
ไม่อยากจะนับว่ากอดกันไปกี่ครั้งตลอดคืน
“เปิดเลย”
เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย ภามเม้มปากมองค้อนคนรักเล็กน้อย แก้มสองข้างแดงก่ำเมื่อเห็นโพสต์อิทใบเก่าที่เขาเคยเขียนให้สอดอยู่ในช่องใส่รูป
“พี่รู้เหรอว่าเป็นผม” เขาจำได้ว่าวันนั้นที่ห้องสมุดไม่ได้เขียนชื่อตัวเองลงไปสักหน่อย
“รู้สิ” จูบขมับจนน้องตัวเอน “เปิดซิบตรงช่องใส่เหรียญที”
ภามรูดซิบแล้วพยายามหยิบของในช่องแคบๆนั้น ทันทีที่ปลายนิ้วแตะโดนเขาก็ชะงักมองคนรักอย่างลังเล
“พี่..ดีน”
“หยิบออกมาเลย” ดวงตาสีสวยอ่อนละมุนจนคนมองใจสั่น ในที่สุดนิ้วยาวก็เกี่ยวเอาของด้านในออกมาจนได้
แหวนสีทองแบบค่อนข้างเก่า บนตัวเรือนมีตัวอักษรลงยาเอาไว้ มองเพียงปราดเดียวภามก็จำได้ขึ้นใจเพราะแหวนวงนี้..เคยเป็นของเขาเมื่อนานแสนนานมาแล้ว
แหวนของอินทัช
“พี่ได้มาจากคุณยายอัน แหวนประจำตระกูลฉัตรโภคินที่จะส่งต่อให้ลูกชายคนโต ตอนนี้พี่คือลูกชายคนโตของบ้านนั้น” เอากระเป๋าสตางค์วางไว้ข้างกายแล้วจับมือน้องขึ้นจูบเบาๆ
“อาจจะดูไม่ค่อยลงทุน แต่นี่คือสิ่งสำคัญและมีค่าที่สุดในตอนนี้ที่พี่มี” หยิบแหวนสวมเข้าที่นิ้วกลางให้เด็กน้อยก่อนจะจูบที่นิ้วซ้ำอีกครั้ง เขายิ้มจางๆให้กับน้ำตาที่เริ่มหยดลงบนหลังมือพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ
ภามโถมตัวเข้ากอดคนรักอีกครั้ง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ใบหน้าซุกอยู่กับลาดไหล่กว้างไม่รู้จะแสดงออกยังไงให้อีกฝ่ายรู้ว่ารักเหลือเกิน
“เรียนจบแล้วมาอยู่ด้วยกันนะ” ลูบแผ่นหลังเนียนอ่อนโยน
เด็กหนุ่มพยักหน้างุดๆ
“อื้อ”
“อยู่ด้วยกันตลอดไป”
“อื้อ”
“จะไม่จากกันไปอีกแล้ว”
“ไม่อีกแล้ว.....”
สัญญานะว่าจะตามหากันจนเจอสัญญานะว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป(ต่อreplyถัดไปค่ะ)