ตอนพิเศษ ขนมไทย " Must กอด"
เขียนสั้นๆ แก้คิดถึงน้อง ^^ ชื่อขนมภาษาอังกฤษจริงๆเขียนว่า Muscat ค่ะ
วันนี้เป็นวันหยุดของร้านอาหารเล็กๆ ในซอยที่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก เจ้าของร้านวัย26ตั้งใจเพิ่มวันหยุดเป็นพิเศษให้พนักงานหลังจากทำงานติดกันมาหลายวันและเผื่อให้บางคนกลับบ้านต่างจังหวัด ถึงอย่างงั้นคนที่ไม่ค่อยอยู่นิ่งก็อดใจไม่ไหว ลุกขึ้นมาทำขนมจนกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งครัว
ร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ เดินลงมาจากชั้นสอง เขาตั้งใจลางานวันนี้โดยเฉพาะเพราะนานๆจะได้หยุดพร้อมคนรักสักที ดีนเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะกลิ่นหอมวันนี้ไม่ยักจะเป็นกลิ่นกะทิหรือใบเตยเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่กลับเป็นกลิ่นนมเนยเหมือนเค้ก เขาเดินเข้าไปในครัวเป็นจังหวะเดียวกับคนรักกำลังยกถาดออกจากเตาอบพอดี
“คัพเค้ก?” ช่วยน้องถือถาดขนมมาวางบนโต๊ะพลางโน้มหน้าลงสัมผัสแก้มอีกฝ่ายเบาๆด้วยริมฝีปาก
“ให้เดาครับ” ภามอมยิ้ม ขนมในถาดเนื้อเนียนฟูมีเหลืองอ่อนน่ากิน
ดีนมองอุปกรณ์ที่น้องวางเตรียมไว้ด้วยความสนใจ มะพร้าวขูดฝอย สีผสมอาหาร ไข่ขาว?? เขานึกไม่ออกจริงๆว่าคืออะไรเลยได้แต่เดามั่วซั่ว
“เค้กมาม่อน?” นึกถึงขนมหวานๆ ที่เคยเห็นในห้าง
ภามยังคงส่ายหัว เจ้าตัวเอาสีผสมอาหารผสมเข้ากับมะพร้าวขูดแยกเป็นถ้วยๆ มีทั้งสีฟ้า สีชมพู สีเขียว สีเหลือง จากนั้นก็จัดการผสมน้ำตาลตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีจนมันฟูตั้งยอดสวยแล้วเอาไปป้ายบนหน้าขนม ดูยังไงก็ครีมบนหน้าคัพเค้กชัดๆ
ดีนขยับรอยยิ้มเมื่อเห็นภามเหยาะสีผสมอาหารลงบนครีม จัดการเอาไม้ปลายแหลมวนๆบนครีมจนเกิดลวดลายน่าเอ็นดู
เขาชอบตอนน้องตั้งใจทำขนมที่สุด เพราะตอนนั้นภามเองก็มีความสุขที่สุดเช่นกัน“อ้าว อบอีกรอบเหรอ” เอ่ยถามเมื่อเห็นน้องเอาถาดขนมใส่เตาอีกครั้ง
“อบแค่พอให้ครีมเป็นสีนวลๆครับผม ตกลงเดาออกไหม ผมให้เวลาถึงแค่อบขนมเสร็จนะ” เปิดเตาไฟบนไว้3นาที แล้วพลิกตัวพิงสะโพกไว้ที่เคาท์เตอร์ครัวมองสบดวงตาสีสวยของคนรักด้วยแววตาซุกซน “เดาไม่ถูกต้องยอมพาผมไปกินไอติมที่ร้านเปิดใหม่ด้วย”
เจ้าตัวแสบต่อรองทั้งๆที่รู้ว่าสุดท้ายคนใจอ่อนก็ต้องพาตัวเองไปกินอยู่ดี จนกระทั่งเสียงเตาอบดังเตือนว่าเสร็จแล้วเป็นอันว่าหมดเวลา
ดีนยกสองมือพลางถอนใจยิ้มๆ “ยอมแพ้ครับ”
ภามยิ้มกว้างเขาเอาขนมอบขึ้นมาวางบนโต๊ะอีกครั้ง คราวนี้จัดการเอามะพร้าวขูดหลากสีวางลงบนหน้าครีมจนครบทุกถ้วย
“อันนี้เป็นขนมไทยชื่อว่า “มัศกอด” ครับ เป็นขนมไทยโบราณที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ผมทำแบบหวานกำลังดีกินกับชากาแฟอร่อยๆ” หยิบส่งให้คนรักหนึ่งชิ้น ส่วนที่เหลือเจ้าตัวก็จัดแยกเอาไว้ “ผมทำเผื่อคุณยายกับคุณลุงด้วย ไว้แวะเอาไปฝากกัน”
“อา..นี่เหรอขนมมัศกอด” มือใหญ่พลิกขนมในมือ เขายังขอยืนยันว่านี่มันคัพเค้กแบบไทยชัดๆ
“พี่รู้จักเหรอครับ” เก็บขนมใส่กล่องเพื่อที่จะแช่เย็นเอาไว้ก่อน อากาศร้อนบ้านเราจะทำเอาเมอแรงบนหน้าเค้กละลายเสียหมด
“เคยได้ยินกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานไหม” ลองกัดขนมดูแล้วพบว่ามันไม่หวานมากอย่างที่น้องว่า เนื้อเค้กนุ่มลิ้นชวนให้กินได้เพลินๆ แบบนี้เจ้าเดลคงจะชอบน่าดู
“อ้อ..” ภามเงยหน้าขึ้นจากตู้เย็นแล้วทำท่าคิด “มัสหมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง อันนี้ใช่ไหมครับ” หัวเราะกับตัวเองเพราะท่องได้แค่ไม่กี่ท่อนเท่านั้น ที่จำได้เพราะคุ้นหูเนื่องจากเขาเรียนนานาชาติมาตลอด พวกกาพย์กลอนนี่ไม่ถนัดจริงๆ
“ใช่ แล้วเคยได้ยินท่อนนี้ไหม...” เสียงทุ้มต่ำเริ่มเอื้อนเอ่ย
“มัศกอด...กอดอย่างไร”ภามสะดุ้งโหยงเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมากระซิบริมหู เขารีบปิดตู้เย็นแล้วพลิกตัวหันมาเผชิญหน้ากับคนรักเพื่อปกป้องตัวเองโดยด่วน
“
น่าสงสัยใคร่ขอถาม..” ดวงตาสีเทาอมเขียวพราวระยับจนคนสบตาด้วยหน้าแดงจัด
“
กอดเคล้นจะเห็นความ” ลำแขนแข็งแรงคล้องกอดรอบเอวเอาไว้แล้วรวบให้ร่างกายชิดติดกันไม่ให้โอกาสน้องได้หนี
“พะ พี่..”
“
ขนมนาม...นี้ยังแคลง” กดจูบลงบนริมฝีปากบางบดคลึงแผ่วเบาๆ
ภามหลับตาพริ้ม กลิ่นหอมและรสหวานของขนมถูกส่งต่อจากริมฝีปากคนรัก รุกเร้าดุนดันจนต้องเผยอปากตอบรับสัมผัสหวาม สองมือบีบต้นแขนอีกฝ่ายแน่นขึ้นตามจูบที่เริ่มจะร้อนแรงขึ้นตามลำดับ
“แฮ่ก....อืม...ข้าว ข้าวเช้า” ประท้วงเบาๆ เมื่อโดนดันไปจนชิดเคาท์เตอร์ ท่าทางอาหารเช้าที่ทำเอาไว้จะเป็นหมันก็งานนี้
“อืม..”ริมฝีปากร้อนแตะไล้ไปตามลำคอ “ตอนนี้อยากกินมัศกอดมากกว่า” ขบลำคอขาวจนขึ้นรอย “อยากรู้ด้วย...ว่าต้องกอดยังไง”
คนฟังหน้าแดงเถือกร้อนผ่าวไปทั้งตัว ภามบ่นอุบอิบกับตัวเองว่าไม่น่าเปิดโอกาสให้คนนิสัยไม่ดีเลย แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร
ดีนขยับรอยยิ้มแล้วเบียดตัวกับน้องมากขึ้น
อาหารเช้าวันนี้หอมไปด้วยนมเนยหวานติดปากจริงๆ