“เป็นไงมั่ง ไปเรียนไหวมั้ย”ผมตื่นมาตอนเช้าก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเข้ามาดูมันในห้องนอนอีกรอบ
“อืม...ดีขึ้นมากแล้ว วันนี้เรียนบ่าย คงไปไหว นี่พายจะกลับห้องแล้วเหรอ”
“เดี๋ยวลงไปซื้อข้าวมาไว้ให้ กินแล้วก็กินยานะ พายจะไปธนาคารน่ะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวทิวลงไปกินเองได้ ตอนนี้ยังไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกิน จะได้กินยา”
“ใจดีจัง...อยากป่วยนานๆ เลย”ทิวพูดพร้อมซุกหน้าลงบนหมอน ทำหน้าดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่น
“ถ้าป่วยนานไม่ใจดีแบบนี้หรอก นี่เห็นว่านานๆ ป่วยทีเลยดูแลต่างหาก”
“ก็นั่นแหล่ะ ถ้าพายอยู่หอเดียวกับทิวก็ดีสิ ทิวจะได้มีคนดูแล”
“นี่เพื่อนนะโว้ย ไม่ใช่คนใช้ แล้วหอนี้ก็โคตรแพง พายไม่มีปัญญาหรอก”
“ก็บอกให้มาอยู่ด้วยกัน หารสองไง”เอาอีกแล้วไง มันวกเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว
“ไม่ไหวหรอกทิว นอนไปๆ เดี๋ยวจะไปซื้อข้าวมาทิ้งไว้ให้ อย่าลืมกินล่ะ”
“เปลี่ยนเรื่องทุกทีเลย ก็ได้ เจอกันที่คณะนะ”ทิวพูดจบก็ยกผ้าห่มคลุมปิดหน้า แถมหันหลังให้ผมอีก มันงอนผมหรือไงเนี่ย ความจริงน่าจะชินได้แล้วนะ ชวนมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ปีสอง ผมก็ปฏิเสธตลอด จนจะเรียนจบแล้ว มันยังไม่เลิกชวนอีก
หลังจากซื้อข้าวไปทิ้งไว้ให้ทิว ผมก็ตรงกลับมาที่หอตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนชุดอีกรอบแล้วก็ออกไปธนาคาร ตอนนี้ได้เงินเดือนมาแล้ว ถึงจะทำไม่เต็มเดือนแต่ก็เยอะกว่าที่เก่าอีกครับ
“แม่ พายโอนเงินไปให้แล้วนะ เดือนนี้น้อยหน่อยเพราะพายทำโทรศัพท์หาย”ผมมาโอนเงินส่งไปให้แม่ทุกสิ้นเดือนครับ
“แล้วจะโอนมาทำไมล่ะพาย เก็บไว้ซื้อโทรศัพท์ก่อนก็ได้ แม่เองก็พอมี เดือนที่แล้วตัดเสื้อหลายตัวอยู่”
“ไม่เป็นไร แม่เก็บไว้นะ ตอนนี้พายได้งานใหม่ เงินดีกว่าที่เก่าเยอะเลย”
“เหรอลูก แล้วงานหนักมั้ย ไปเรียนไหวนะ”แม่มักจะเป็นห่วงผมเรื่องเรียนเสมอ ผมเคยขอลาออกมาทำงานหาเงินช่วยแม่ แต่แม่ไม่ยอม อยากให้ผมเรียนสูงๆ จะได้มีงานดีๆ ทำ โตขึ้นจะได้ไม่ลำบากแบบแม่
“ไหวครับ งานสบาย นั่งคิดเงินอย่างเดียว ทำที่ร้านอาหารของเพื่อน แม่ไม่ต้องห่วงนะ”
“ทำกับเพื่อนก็ดี กลับดึกๆ จะได้มีเพื่อน แล้วพายจะกลับบ้านเมื่อไหร่ลูก”
“คงอีกนานเลยน่ะแม่ งานใหม่พายต้องทำวันหยุดด้วย เพราะลูกค้าจะเยอะมาก แม่มีอะไรหรือเปล่า”บ้านผมก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่หรอกครับ นั่งรถไปเกือบสองชั่วโมงก็ถึง แต่...ไม่ค่อยมีเวลาเลยครับ
“ไม่มีอะไรหรอก แต่มะม่วงที่บ้านน่ะเต็มต้นเลย พายมาจะได้เก็บไปกิน ลูกล่างๆ ก็มีคนเขาสอยกันไปหมดแล้ว เหลือแต่สูงๆ น่ะ”
“กว่าพายจะได้กลับมันคงล่วงหมด แม่ให้คนอื่นเก็บไปเถอะ ไม่ก็ทำมะม่วงกวนเก็บไว้หรือส่งมาให้พายก็ได้ พายอยากกิน”
“งั้นแม่ทำมะม่วงกวนให้พายดีกว่า จะได้เอาไปแจกเพื่อนด้วย”
“ครับ งั้นแค่นี้นะแม่ เดี๋ยวพายต้องไปเรียนแล้ว”
“จ้า พักผ่อนเยอะๆ นะ”
“ครับ แม่ก็เหมือนกันนะ”ผมวางสายจากแม่ก็รีบนั่งรถไปมหาวิทยาลัย แล้วก็ต้องแปลกใจครับ เจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
“พายมาทำอะไรแถวนี้”
“มาธนาคารน่ะ แล้วต่อล่ะ”ใช่ครับ ต่อยืนโหนอยู่ใกล้ผม ไม่คิดว่าจะเจอมันนอกร้านอาหารได้นะครับ แล้วฐานะแบบมันไม่มีรถขับเหรอเนี่ย
“หอเราอยู่เลยธนาคารเมื่อกี้ไปสองซอยน่ะ”
“เหรอ แล้วนี่จะไปไหนน่ะ....เฮ้ย! เรียนที่เดียวกันเหรอ ไม่เห็นรู้มาก่อน”ผมมองชุดมันดีๆ มันใส่ชุดนักศึกษาและหัวเข็มขัดเป็นตรามหา’ลัยเดียวกับผมด้วย
“ฮ่าๆๆ ไอ้ทิวไม่เคยบอกล่ะสิ เรียนที่เดียวกัน ต่อเรียนสถาปัตย์”
“ตึกก็ใกล้กันแต่ไม่คุ้นหน้าเลยว่ะ”เรียนจนจบจบแล้ว แต่ไม่ยักจะเคยเห็นหน้ามัน
“จะไปคุ้นได้ไง นานๆ ไปเรียนที ส่วนมากทำงานส่งแล้วให้เพื่อนเช็คชื่อแทน ตื่นเช้าไปเรียนแบบไอ้ทิวไม่ไหวว่ะ”
“เล่นดื่มหนักกันทุกคืน ตื่นไหวก็บ้าแล้ว”ผมแอบกัดมันเล็กๆ ก็เห็นก่อนทำงาน ระหว่างงาน หรือหลังทำงาน พวกมันก็กินเหล้ากันทั้งวง กินตลอดเวลา ขนาดไอ้ทิวยังกินเลย เพียงแต่ไม่บ่อย แล้วก็กินน้อยครับ มันกลัวโดนจับ เดี๋ยวพ่อมันยึดรถคืน
“โหหห...ด้วยนี้มีกัดนะ หือเหรอ”ต่อไม่พูดเปล่า เอามือมากำคอผมแล้วเขย่าเบาๆ ด้วย ตอนแรกก็เกือบตกใจ แต่เพราะเชื่อใจว่ามันแกล้งเล่นเลยไม่กลัวเท่าไหร่ แล้วก็ยกมือตีหัวมันไปหนึ่งที
“ไอ้บ้า เล่นเป็นเด็กๆ ยิ่งคบยิ่งประสาทเหมือนไอ้ทิวไปทุกวัน แรกๆ ยังดูน่ากลัวอยู่เลย”
“พูดงี้มีเคืองนะเนี่ย เอาไปเปรียบกับไอ้ทิวได้ไง ไอ้นั่นน่ะ....หึหึ...ไม่บอกดีกว่า ปล่อยให้รู้เอง”
“เฮ้ย อะไรวะ มีปิดบัง ไอ้ทิวทำไม”
“ฮ่าๆๆ ไม่บอก ไว้ค่อยรู้เอง แต่...จ้างให้ก็ไม่กล้าไปเทียบกับไอ้ทิวหรอก นั่นน่ะ...ขั้นเทพแล้ว”
“พูดไรวะ ฟังไม่รู้เรื่องเลย ไม่บอกก็ไม่บอก ไปเรียนดีกว่า”ผมขี้เกียจซักมันครับ ถึงหน้ามหา’ลัยพอดี เดินไปกดกริ่ง ต่อก็เดินตามลงมา
วันนี้ต่อมันบอกว่ามาส่งงานเฉยๆ ครับ ไปส่งตอนไหนก็ได้ มันเลยตามผมมาที่คณะด้วย บอกว่าจะมาหาทิว มันก็เพิ่งรู้จากผมนี่แหล่ะว่าทิวไม่สบาย
“ทำไมมาด้วยกันได้วะ”ทิวทำหน้าเหวอทันทีที่เห็นต่อเดินคู่มากับผม
“กูไปรับพายที่ห้องมา มีไรเปล่า”ต่อยกคิ้วกวนๆ ให้ ทิวเลยชี้หน้าทำปากขมุบขมิบว่าฝากไว้ก่อน ผมล่ะไม่เข้าใจพวกมันเลยว่าเป็นเพื่อนสนิท หรือคู่กัด เห็นด่ากันตลอด
“เจอกับต่อมันบนรถน่ะ แล้วทิวเป็นไง ดีขึ้นมั้ย”ทิวดูหน้าตาสดใสขึ้นครับ แต่ยังดูโทรมๆ อยู่
“มึนๆ เมื่อยๆ ตัวนิดหน่อย แต่ไม่ปวดหัวเท่าเมื่อวานแล้ว พยาบาลเก่ง”ทิวพูดแบบอวดๆ ใส่ต่อ ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะอวดทำไม
“เออๆ แล้วกินข้าวเที่ยงยัง”
“ยัง รอกินพร้อมพาย จะกินไรล่ะ เดี๋ยวทิวเลี้ยงเอง”
“เลี้ยงกูด้วย กูไปด้วย”ต่อพูดขึ้นมาก่อนที่ผมจะปฏิเสธทิว
“เรื่องไร กูไม่ได้ชวนมึงสักหน่อย”ทิวเองก็เถียงกลับทันที
“ลำเอียงเหรอมึง พายดูทิวมันดิ อุตส่าห์ตั้งใจมาดูอาการ แทนที่จะขอบใจดันไล่กันทางอ้อมเฉยเลย”
“ฮ่าๆๆ แล้วต่อมาฟ้องพายทำไม พายไม่ใช่ผู้ปกครองมันนะ”
“....หึหึ...น้อยไปสิ”เอาอีกแล้ว วันนี้ต่อมันพูดให้ผมงงหลายเรื่องแล้วนะ
“ไอ้ต่อ ปากมากนะมึง”ทิวชี้หน้าต่อแบบคาดโทษ สายตามันไม่มีแววขี้เล่นอยู่เลยครับ เพิ่งเคยเห็นทิวทำหน้าดุแบบนี้ ผมเองยังแอบกลัวนิดๆ เลย
“อะไร กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย ตกลงว่าไง จะพากูไปเลี้ยงด้วยเปล่า”ต่อก็ลดน้ำเสียงหยอกล้อลงมาพูดนิ่งๆ ท่าทางมันคงกลัวทิวโกรธเหมือนกัน...แต่มันจะโกรธเรื่องอะไรล่ะ
“เลี้ยงก็ได้วะ แล้วตกลงพายอยากกินอะไร อีกตั้งเกือบชั่วโมงแน่ะ ไปกินข้างนอกกันมั้ย”
“กินที่โรงอาหารนี่แหล่ะ ประหยัดดี สะดวกด้วย”ผมจะเอาเงินเก็บไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ตอนนี้ต้องประหยัด ถึงมันบอกจะเรียกก็เถอะ เพื่อนกันไม่เห็นจำเป็นต้องเลี้ยงอะไรแพงๆ เลย
“ไม่เป็นไร ทิวเลี้ยงไง นะ ไปกินข้างนอกกัน เข้าสายนิดหน่อยเดี๋ยวฝากสนเช็คชื่อให้”
“ไม่เอา เลี้ยงข้าวราดแกงก็พอแล้ว เปลืองเงิน”
“เงินทิวนะ ไม่เป็นไร ทิวอยากเลี้ยงไง ไปนะ ร้านอาหารญี่ปุ่นก็ได้ ใกล้ๆ อยากกินพอดี”จากมาดดุๆ เมื่อกี้กลับมาเป็นลูกแหง่อีกแล้วครับ งอแงเหมือนเด็กเลย อยากกินเองแล้วจะมาให้ผมเลือกร้านทำไม
“แพงจะตาย ไม่เอา ไม่กินหรอก อยากกินก็ไปกับต่อสองคนสิ”
“ไม่เป็นไรหรอกพาย ทิวมันรวยให้มันเลี้ยงน่ะแหล่ะดีแล้ว ไปเถอะ อยากกินเหมือนกัน”ต่อพูดไม่ดูตัวเอง ฐานะพวกมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก
“นะๆ ต่อมันยังเห็นด้วยเลย นานๆ กินที”นานๆ ของทิวนี่ทุกสัปดาห์เลยครับ ผมก็เกรงใจ เลยไม่ค่อยไปกับมัน บางครั้งมันก็ต้องไปนั่งกินคนเดียว สงสารก็สงสาร แต่มันแพงจริงๆ นี่
“อืม ก็ได้ แต่ไม่ต้องสั่งแพงๆ มากินอีกนะ ไว้เงินเดือนออกค่อยมากินใหม่ พายจะช่วยออก แต่วันนี้เพิ่งโอนตังค์ให้แม่ ไม่มีจริงๆ”
“ครับๆ ไม่เป็นไร ไปๆ จะได้รีบกลับมาเรียน”ทิวรีบฉุดมือผมให้ลุกตามเลยครับ สงสัยจะอยากกินมาก ต่อก็เดินหัวเราะตามหลังเรามา ทิวขับรถออกมาแป๊ปเดียวก็ถึง ร้านคนเยอะมาก แต่ยังพอมีที่ว่าง พวกเราเข้าไปนั่งโต๊ะในสุด
“พายอยากกินอะไรสั่งเลยนะ เต็มที่”
“ไม่สั่งหรอก ทิวอยากกินไรก็สั่งเถอะ”
“ไม่เอาๆ พายสั่งนะ ทิวอยากเลี้ยง ตอบแทนข้าวต้มกับข้าวผัดเมื่อเช้าไง”
“ราคาไม่กี่บาทเอง แต่นี่มันแพงกว่า ทิวอยากกินไรก็สั่งมาเลย พายกินเหมือนทิวนั่นแหล่ะ”ง่ายดีครับ ให้สั่งเองก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรอร่อย เพราะปกติสั่งตามราคา อันไหนถูกๆ ก็สั่งอันนั้น
“ได้ๆ งั้นทิวสั่งให้นะ มึงล่ะต่อ สั่งไรก็สั่งนะเว้ย แต่อย่าแพงมาก ไม่งั้นจ่ายเอง”
“ลำเอียงชิบหายเลยมึง อย่าให้กูชื่อพายบ้างนะ จะเอาให้แม่งหมดตัวเลย”
“เอาให้มึงชื่อพาย แล้วน่ารักให้ได้อย่างพายก่อนนะ กูถึงจะยอมหมดตัว”
“..........”ไอ้คำพูดของทิวนี่มันฟังแล้วแปลกๆ นะครับ พอผมเงียบ ต่อก็เงียบ แล้วทิวก็เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา
“เอ่อ...น้องๆ สั่งอาหารหน่อย”อืม..เป็นการอธิบายคำพูดตัวเองได้ดีมากเลยทิว มันกวักมือเรียกพนักงานมาสั่งทันทีเลย ไอ้ต่อก็เอาเมนูปิดหน้าแล้วนั่งหัวเราะจนตัวสั่น ผมก็ได้แต่นั่งงง
ทิวสั่งอาหารมาเยอะมากเลย มันชอบกินปลาดิบมาก สั่งมาเต็มโต๊ะเลย ต่อเองก็ท่าทางจะกินอาหารพวกนี้บ่อยๆ สั่งมาหลายอย่างเหมือนกัน น่ากินทั้งนั้น แต่ถ้าจะกินหมดคงต้องทำเวลาหน่อย
“ทิวสั่งชาเย็นมาทำไม ยังไม่หายดีเลย”ผมเริ่มบ่นทันทีที่เครื่องดื่มมาเสิร์ฟ มันสั่งน้ำกีวี่ปั่นมาครับ ผมก็คิดว่ามันสั่งอะไร เพราะชาร้อนของผมกับต่อได้นานแล้ว มีมันนี่แหล่ะที่ยังไม่ได้
“ก็อยากกินเปรี้ยวๆ ชุ่มคอดี”ทิวพูดไปก็ดูดน้ำในแก้วกินไปด้วย แล้วยังหันมาทำหน้าเหมือนสดชื่นเสียเต็มประดา ถ้าไข้กลับผมจะหัวเราะให้
“เปลี่ยนกัน เอาชาร้อนไปกิน เดี๋ยวพายกินของทิวเอง”ผมแย่งแก้วของทิวมา แล้วเลื่อนถ้วยชาไปให้มันแทน
“…..ก็ได้ พายกินแก้วของทิวไปนะ อร่อยมากๆ”แปลกครับ ทิวมันยอมง่ายๆ เลย
“หึหึ...เจ้าเล่ห์ปนน้ำเน่านะมึง”
“เรื่องของกู”แล้วมันก็ยังคงเถียงกันแบบที่ผมไม่เข้าใจต่อไป
------------------------------------------------------------------------
พระเอกเป็นใครหนอ เขาคือคนไหน??
