
มาแระๆๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 8หลังจากวันนั้นก็ดูเหมือนทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ พวกนี้มันโกรธง่ายหายเร็วครับ เห็นเงียบๆ ได้วันเดียว วันต่อมาอย่างกับนกกระจอกแตกรัง แย่งกันพูดเหมือนไม่ได้เจอกันมาเป็นปี
“พรุ่งนี้วันเกิดไอ้โบ้ พายไปเที่ยวด้วยกันนะ”จิ๋วเดินมาหาผมที่เคาน์เตอร์ ตอนนี้ให้ทิวเปิดเพลงอยู่ครับ ทุกคนเลยนั่งพักกันในห้อง เดี๋ยวค่อยออกมาร้องอีกรอบ
“แต่พรุ่งนี้พายทำงานนี่ เลิกตั้งเที่ยงคืน พวกจิ๋วไปสนุกกันเถอะ”พรุ่งนี้เป็นวันหยุดพวกมัน อีกอย่างผมก็ไม่ค่อยสนิทกับโบ้มาก วันเกิดแบบนี้มันคงขนเพื่อนคนอื่นไปอีกเยอะ ถ้าไปด้วยคงรู้สึกแปลกๆ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเลิกงานทิวมันก็มารับเองแหล่ะ ไปเถอะนะ จิ๋วจะได้มีเพื่อน ไม่งั้นพวกมันต้องจับกรอกอีกแน่ๆ”ปกติจิ๋วจะดื่มน้อยมากครับ ส่วนผมไม่ดื่มเลย ถ้านั่งกินกันในร้าน คนอื่นจะไม่ค่อยบังคับจิ๋วมาก เพราะจิ๋วจะอ้างว่าไม่ดื่มเป็นเพื่อนผม
“แล้วไปเลี้ยงกันที่ไหน ผับเหรอ”
“ใช่ แต่คงไปต่อที่บ้านมันด้วย พายน่าจะเลิกงานพอดี นะ ไปเถอะ”จิ๋วจับแขนผมเขย่าใหญ่เลย เห็นแล้วก็ขำ ชอบทำท่าทางน่ารักแบบนี้ คนอื่นถึงชอบแกล้งมัน แล้วก็ตามใจมันตลอด ไม่เว้นแม้แต่ผม
ตอนแรกผมบอกว่าจะตามไปที่ร้านเอง ไม่ต้องให้ใครมารับ แต่ทิวไม่ยอม บอกว่าเดี๋ยวเลิกงานจะมารับ เพราะผมไม่เคยเที่ยว ไปไม่ถูกแน่ๆ ก็จริงของมันครับ
“เฮ้ย เมาเปล่าเนี่ย หน้าโคตรแดง”เลิกงานปุ๊ป ทิวก็โทรมาบอกว่ารออยู่หน้าร้าน พอมาถึงรถ เห็นมันยืนสูบบุหรี่พิงรถอยู่
“ไม่เมาๆ ขึ้นรถสิ”พอมันเห็นผมก็รีบโยนบุหรี่ลงพื้นแล้วเอาเท้าดับไฟทันที ผมไม่ได้เกลียดคนสูบบุหรี่หรอกนะครับ เพียงแต่ผมไม่สูบ ทิวก็เลยไม่เคยสูบต่อหน้าผม
ทิวขับรถออกมาไม่ไกล แค่เข้าซอยแล้วก็เลี้ยวไปเลี้ยวมาจนงง โผล่มาอีกทีเจอทางเข้าหมู่บ้านจัดสรร ดีแล้วที่ผมไม่มาเอง มีหวังแท็กซี่ได้ไล่ลงจากรถ โทษฐานบอกทางไม่รู้เรื่อง
บ้านของโบ้เป็นบ้านสองชั้นครับ มันเช่าอยู่กับเพื่อนที่มหาลัย ค่าเช่าคงแพงน่าดู ถึงจะดูเหมือนหารกันหลายคนก็เถอะ
“พายมาแล้วเหรอ มาๆ มารู้จักเพื่อนโบ้”เดินเข้าไปด้านใน โบ้นั่งถอดเสื้อกวักมือเรียกผม ตัวมันแดงทั้งตัวเลย ท่าทางจะเมา
โบ้แนะนำผมให้เพื่อนๆ มันรู้จัก รวมๆ แล้วน่าจะประมาณยี่สิบคนได้ จำชื่อไม่ไหวหรอกครับ ได้แต่พยักหน้าให้ ผมเลือกที่จะไปนั่งข้างจิ๋ว ไม่กินเหมือนกัน อย่างน้อยจะได้มีเพื่อน...ที่ยังคุยรู้เรื่อง
“พายยยย...มา ชนๆ”โบ้ลุกขึ้นเดินเซๆ มาข้างๆ ผมพร้อมแก้วเหล้าในมือ แค่เห็นสีก็รู้สึกขมคอแล้ว
“พายมันไม่ดื่ม มึงอย่าไปบังคับมันดิ”จิ๋วรั้งมือของโบ้เอาไว้ แต่โบ้ไม่ยอม จะให้ผมดื่มให้ได้
“อย่ายุ่งน่า พายดื่มๆ วันเกิดโบ้นะ ดื่มให้โบ้หน่อยนะครับ”โบ้มาแปลกครับ ปกติมันจะไม่ค่อยชวนผมคุย แต่นี่...พูดซะเพราะ แถมทำหน้าอ้อนๆ ด้วย กลุ่มนี้มันขี้อ้อนทั้งกลุ่มเลยหรือไง
“ไอ้ทิว มึงห้ามโบ้หน่อยดิวะ”จิ๋วบอก แต่ทิวกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ มันหันมามองผมแป๊ปเดียวก็หันกลับไปใหม่
“แก้วเดียวนะ เดี๋ยวอ้วก อายเพื่อนเปล่าๆ ว่ะ”ผมรับแก้วมา อย่างน้อยไม่มีของขวัญให้ก็ตามใจเจ้าภาพแทนแล้วกัน
ผมรับแก้วมาดื่ม พร้อมๆ กับเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ไอ้จิ๋วที่ห้ามตอนแรก รสขมปร่าในคอทำให้อยากคายทิ้ง แต่เพราะทุกคนมองอยู่ผมเลยกลั้นใจดื่มต่อไปจนหมดแล้วคว่ำแก้วให้ดู
“เก่งๆ...จุ๊บ”ไอ้โบ้ไม่พูดเปล่า เอามือลูบหัวผมแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มผมด้วย ผมเองกำลังมึนๆ งงๆ พอตั้งตัวได้ โบ้ก็เดินกลับไปนั่งที่เดิมแล้ว ผมมองเลยจิ๋วไป เห็นต่อนั่งหัวเราะจนตัวงอ แต่จิ๋วทำหน้าซีดๆ ผมมองตามสายตาจิ๋วไปด้านหลัง ก็เห็นทิวมองอยู่
“เมาเหรอพาย”ทิวแตะไหล่เบาๆ ผมส่ายหน้าให้ช้าๆ ไม่เมาหรอกครับ ผมเองก็เคยดื่มมาบ้าง แต่ไม่ชอบ เลยไม่ค่อยดื่ม
“ดื่มอีกมั้ย มีเหล้าปั่นด้วยนะ เพื่อนโบ้มันทำเป็น”ทิวลูบแก้มข้างที่โบ้เพิ่งหอมไป ผมไม่ค่อยแปลกใจในการกระทำของโบ้ เพราะมันชอบแกล้งจิ๋วแบบนี้บ่อยๆ แต่แปลกใจทิวมากกว่า...มันลูบแบบเช็ดๆ แถมยังหันไปบอกให้เพื่อนโบ้ทำเหล้าปั่นให้ผมด้วย
ผมไม่เคยดื่มเหล้าปั่นมาก่อน แต่สีฟ้าดูสบายตาดี พวกผู้หญิงที่อยู่ในบ้านส่วนใหญ่ดื่มเหล้าปั่นกันครับ ผมกับจิ๋วได้รับมาหนึ่งเหยือก ให้แบ่งกันกิน อึกแรกที่ดื่มไปก็หวานๆ เย็นๆ ดีครับ ถึงจะรู้ว่าผสมเหล้าแต่ก็กินง่ายกว่า มิน่าบางคนถึงชอบกิน
“ไม่ไหวแล้วว่ะ เริ่มมึนๆ แล้ว”ผมดันแก้วเหล้าปั่นที่จิ๋วเทให้คืน แค่นี้ก็รู้สึกว่านั่งไม่ค่อยตรงแล้ว
“เมาเหรอพาย”จิ๋วถาม ผมก็พยักหน้าตอบไป มึนหัวครับ พูดไม่ค่อยออก แต่ยังพอมีสติ
“ไปนอนพักบนห้องโบ้ก่อนมั้ย เดี๋ยวพาไป”จิ๋วคงเห็นว่าผมนั่งไม่ไหวแล้วเลยออกปากชวน ผมก็เห็นด้วย ถ้านั่งต่อมีหวังหงายหลังแน่ๆ
“จะไปไหน”พอลุกขึ้นทิวก็ดึงมือผมไว้เลย
“พายมันเมา กูจะพาไปนอนห้องไอ้โบ้ก่อน”จิ๋วช่วยพยุงผมให้ยืนตรงๆ ได้ยินเสียงเพื่อนๆ แซวผมกันใหญ่
“ไม่ต้อง กูพาไปเอง”ทิวลุกขึ้นแล้วพยุงผมให้เดินตาม ยิ่งเดินยิ่งเวียนหัวครับ หวานๆ นี่เมาไม่รู้ตัวเลย กว่าจะเดินขึ้นบันไดได้แต่ละขั้น ถ้าทิวไม่กอดเอวผมไว้ มีหวังได้กลิ้งลงไปแน่ๆ
ทิวพยุงผมเข้ามานอนบนเตียง แล้วก็หาผ้าชุปน้ำมาเช็ดหน้าให้ผมด้วย แต่รู้สึกจะเช็ดแรงไปหน่อยนะครับ
“....สะอาดแล้ว ไม่ต้อง....ถูมากหรอก”ผมปัดมือมันออกจากหน้าผมแล้วพลิกตัวหนี
“ทำไมปล่อยให้โบ้มันหอมแก้มล่ะ”
“......ไม่ได้ปล่อย......”มันจะมาวุ่นวายอะไรกับผมตอนนี้เนี่ย คนยิ่งง่วงๆ อยู่
“หันมาก่อนพาย”
“อะไร.....จะนอน”
“......นอนก็นอน แต่ทิวนอนด้วย พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับนะ”ทิวมันจะพูดอะไรผมก็ไม่สนใจอีกแล้วครับ หันหน้าเข้าหาผนังอย่างเดียว ทั้งมึนทั้งง่วง
“อื้อ.....อึดอัด”ทิวมันล้มตัวลงนอนด้านหลัง แถมยังดึงผมไปกอดไว้เสียแน่น คางเกยอยู่บนไหล่ พูดอะไรฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ผมเมาหรือมันเมา
“…..ทำไร”
“ทิวอยากหอมแก้มพาย....นะ”
“...จะหอมทำไม ผู้ชายเหมือนกัน”
“แล้วทำไมโบ้มันหอมได้ล่ะ”ทิวพูดจบก็ไม่รอฟังคำตอบผมเลย มันจับตัวผมให้พลิกตัวมาหามันแล้วก็หอมแก้มผมทันที ผมว่าไอ้ทิวมันเป็นประเภทขี้อิจฉาน่ะครับ นิสัยลูกคนเล็ก อยากได้อะไรต้องได้ เห็นคนอื่นทำอะไร ตัวเองก็ต้องทำบ้าง และต้องมากกว่าด้วย เพราะมันหอมผมทั้งหน้า แถมยังกอดผมไว้แน่น จนตัวผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดมันทั้งตัวเลย
“.....อึดอัดว่ะทิว”ผมพยายามดันตัวเองออกมา แต่มันไม่ปล่อยสักที
“อย่าดิ้นนะครับ นอนๆๆ”ทิวพูดเบาๆ แล้วก็ลูบหลังผมด้วย ไอ้ผมก็ว่าง่าย เขาบอกให้นอนก็นอน เลิกดิ้นแล้วนอนนิ่งเลย
รุ่งเช้าผมตื่นมาตกใจแทบแย่ อยู่ดีๆ มีหน้าคนลอยอยู่ตรงหน้า ผมรีบผลักออกอย่างแรงจนมันตกเตียงไปเลย พอนึกขึ้นได้ว่าเป็นไอ้ทิวก็สายไปแล้ว มันนั่งเอามือคลำก้นตัวเอง ทำหน้าหงุดหงิดจนผมต้องรีบช่วยดึงมันขึ้นมานั่งบนเตียง พอขอโทษมันสักพัก มันก็หายโกรธนะครับ แลกกับการหอมแก้มผม เฮ้อ...หมู่นี้รู้สึกจะโดนมันแกล้งอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อย
“เวลาเพื่อนหยอกแบบนั้นพายไม่กลัว ไม่รู้สึกอะไรแล้วเหรอ”วันนี้ก็มาหาพี่หน่อยเหมือนเดิม เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น พี่เขาเหมือนสมุดไดอารี่สำหรับผมเลยนะ
“ก็....ไม่นะครับ เพราะคบมานานแล้วสนิทมากด้วยมั้ง พายรู้ว่ามันแกล้งก็เลยไม่กลัวน่ะ”
“แล้วถ้าไม่ใช่การแกล้งล่ะ พายจะกลัวมั้ย”
“เฮ้ยพี่ เพื่อนกัน มันไม่คิดอะไรกับผมหรอก ถ้าเป็นไอ้จิ๋วก็ว่าไปอย่าง ไอ้นั่นมันตัวเล็กน่ารัก”ถ้ามีผู้ชายมาจีบจิ๋วนี่ ผมเฉยๆ นะครับ เหมือนกับที่รู้ว่านุ ผมว่าสองคนนี้น่ารัก ใครเห็นก็ชอบ ดูน่าปกป้องน่ะครับ
“แต่พายก็น่ารักนะ ตัวก็เล็ก ถ้าเทียบกับผู้ชายคนอื่น คือ...จะบอกว่าหล่อก็ใช่ แต่ออกแนวน่ารักมากกว่าน่ะ”
“พี่อย่าชมกันแบบนี้ดิ ผมเขินเป็นนะ”
“ฮ่าๆๆ หน้าแดงเลย ไม่แหย่ก็ได้ ที่ถามเมื่อกี้ก็แค่ลองถามดู พายลองคิดดูดีๆ นะ ว่าถ้ามีผู้ชายมาชอบ พายจะรู้สึกแบบไหน พี่จะได้วิเคราะห์ได้ว่าพายยังฝังใจอยู่หรือเปล่า”
“ทำไมล่ะพี่ ถ้าผมรังเกียจก็แปลว่าผมฝังใจอยู่เหรอ”
“เปล่าๆ มันวิเคราะห์ได้หลายอย่างน่ะ เอาไว้เจอแบบนั้นจริงๆ ค่อยมาเล่าให้พี่ฟัง”วันนี้พี่หน่อยให้คำถามกลับไปคิดเป็นการบ้านด้วย ผมเองก็ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้ การที่จะคิดว่าใครจะมาชอบตัวเองเนี่ย กับผู้หญิงผมยังไม่เคยหวัง แล้วจะให้คิดถึงผู้ชายเนี่ยนะ...มันจะเป็นไปได้เหรอ
“พายทำอะไรอยู่”นุมาเคาะประตูห้อง ผมเลยเดินมาเปิดให้แล้วก็กลับมานอนบนเตียงเหมือนเดิม นอนรอเวลาทำงานครับ
“นอนเล่น กำลังจะไปทำงาน”
“นุมีเรื่องปรึกษาน่ะ คุยได้เปล่า”
“มีอะไรล่ะ อีกเกือบชั่วโมงเพื่อนถึงมารับ”
“อืม คือ...แฟนนุน่ะ...เขาบอกว่าจะให้นุย้ายไปอยู่หอแถวๆ ที่ทำงาน เพราะมันใกล้มหาลัยด้วยน่ะ”
“ไหนนุบอกว่าหอแถวนั้นมันแพงกว่าที่นี่ไม่ใช่เหรอ”หอนี้ใกล้ที่ทำงานเก่าของนุ และถูกด้วยครับ
“ก็ใช่ แต่...เขาจะช่วยน่ะ พายว่านุย้ายดีมั้ย”
“ไม่รู้สินุ แล้วแต่สะดวกนะ แต่...พายคงเหงาน่าดู”ปกติผมกับนุต้องทักกันทุกวัน ไม่เช้าก็เย็น เรียนก็ไม่ได้เรียนด้วยกัน ที่ทำงานก็ไกลกัน แล้วถ้าไม่ได้อยู่ใกล้กันอีก...ผมคงเหงาน่าดู
“พาย....นุก็เหงาเหมือนกัน ไม่อยากย้ายเพราะต้องห่างพายนี่แหล่ะ เพื่อนสนิทนุก็มีพายคนเดียว”
“ขอบใจนะ แต่นุคิดดีๆ ก่อนดีกว่า เอาตามสะดวกก็ดี ถ้าย้ายจริงๆ พายสัญญาว่าจะไปหาบ่อยๆ”ผมลูบหัวนุเบาๆ ไม่ว่านุจะเลือกแบบไหน ผมก็มั่นใจว่าเราจะยังเหมือนเดิม นุเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นคนที่ผมรู้สึกว่าต้องคอยดูแล ไม่อยากปล่อยไปครับ
ผมมาทำงานด้วยอารมณ์เบลอๆ วันนี้มีหลายเรื่องให้คิดเหลือเกิน ไหนจะคำถามของพี่หน่อย ไหนจะเรื่องนุ
“วันนี้ทำไมเงียบจัง”ทิวถามขณะขับรถกลับมาส่งผมที่หอ เริ่มชินกับการมีราชรถแล้วครับ
“คิดอะไรนิดหน่อย”
“มีเรื่องอะไรบอกทิวได้นะ”
“เพื่อนสนิทข้างห้องเขาจะย้ายออกน่ะ”
“สนิทมากเหรอ”
“ก็มากนะ คุยกันทุกวัน ถ้าว่างก็กินข้าวด้วยกันตลอด คิดแล้วมันเหงาๆ น่ะ ไม่ค่อยอยากให้เขาย้ายเลย แต่...ก็ต้องแล้วแต่นุเขา”แฟนนุคงเป็นห่วงมั้งครับ กว่าจะกลับถึงห้อง แถมยังอยู่ในซอยอีก ดึกๆ มันก็เปลี่ยว
“ไม่เป็นไรนี่ครับ ถ้าเหงาเดี๋ยวทิวไปอยู่เป็นเพื่อน ย้ายไปอยู่ห้องข้างๆ เลยดีมั้ย”ทิวจับหัวผมโยกไปมา เสียงที่ปลอบเบาๆ ทำให้รู้สึกดีขึ้น แล้วก็อดคิดถึงคำถามพี่หน่อยเมื่อเช้าไม่ได้.....ถ้ามีผู้ชายมาชอบผม...ผมจะเป็นยังไง
“ทิว....ทิวว่าอย่างพายนี่จะมีผู้ชายมาจีบมั้ย”ถามจบปุ๊ป ทิวชะงักจนรถเสียหลักเลี้ยวแฉลบออกข้างทางเลย ดีว่าดึกแล้ว ไม่มีรถตามมา ไม่งั้นได้นอนหยอดข้าวต้มแน่ๆ
“ตกใจอะไรวะ ถามแค่นี้เอง”ผมจับหน้าอกตัวเอง ใจหายหมดเลย
“ก็....ถามอะไรแปลกๆ หรือว่ามีใครมาจีบอีกแล้ว”ทิวค่อยๆ ขับออกไปใหม่ แต่ช้ากว่าเดิม
“อย่าใช้คำว่าอีกแล้วได้มั้ยวะ”ทิวมันพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติที่จะมีผู้ชายมาจีบผมงั้นล่ะ
“ก็เห็นลูกค้าชอบขอเบอร์นี่ ไม่เรียกว่าจีบให้เรียกว่าอะไร”
“เออๆ ช่างเหอะ ไม่ถามแล้ว”ขี้เกียจเถียงครับ ยังตกใจอยู่
“อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องดิ บอกมาก่อนว่าถามทำไม มีใครมาจีบอีกบอกมาเลย”
“ก็บอกว่าไม่มีไง ถามเฉยๆ ผู้ชายที่ไหนจะบ้ามาจีบผู้ชายด้วยกัน”
“ไม่เห็นเป็นไร สมัยนี้ไม่มีใครถือแล้ว ขนาดไอ้โบ้ไอ้ต่อยังมีเลย”
“เฮ้ย จริงดิ”
“ก็จริงน่ะสิ แล้วมันก็เล่นด้วยหมดแหล่ะ ทิวถึงไม่ชอบให้มันกอดหรือหอมแก้มพายไง ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรหรือเปล่า”
“งั้นเหรอ....อืม”ผมก็แปลกใจนิดหน่อย ดูไม่ออกเลยนะครับ แต่ที่สำคัญ....ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจมันสองคน....แค่แปลกใจเท่านั้นเอง
“ทำไม รู้สึกไม่ดีเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ ทิวบอกพวกนั้นแล้วว่าอย่ามายุ่งกับพาย ที่มันทำกับพายมันก็ทำเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไรหรอก ไม่ต้องกลัวนะ”
“อืม ไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่...แปลกใจนิดหน่อย”
“รังเกียจ....พวกนั้นมั้ย”
“เฮ้ย! ไม่ได้รังเกียจนะ เพื่อนกัน เพียงแค่แปลกใจน่ะ เห็นมันแมนๆ เถื่อนๆ ไม่คิดว่าจะ...แบบนั้นน่ะ”
“ไอ้พวกนี้มันก็แบบนี้แหล่ะ รักสนุกไปเรื่อย ใครเข้าหามันก็เอาหมดแหล่ะ ไม่สนหรอกว่าผู้หญิงผู้ชาย เผลอๆ ชอบผู้ชายมากกว่าอีก ไม่ยุ่งยากดี”ทิวพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ แล้วเพื่อนมันเกือบทั้งกลุ่มก็เป็นแบบนั้น...แล้ว....
“เอ่อ...ทิว..ก็ด้วยเหรอ”
“หืมม์.......พายคิดว่าไงล่ะ”
------------------------------------------------------------------------------------
ป.ล. ไปดูการ์ตูนแป๊บ เดี๋ยวมาต่ออีกตอน (ตอนดึกๆ มั้ง)

ป.ล. จากผู้แต่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องยาว...และคนแต่งรวบรัดไม่เป็น การดำเนินเรื่องอาจช้าไปบ้าง...ก็เพราะ...มันต้องเป็นแบบนั้น..
และเป็นความพอใจส่วนตัวของคนแต่งด้วย....ขอบคุณ