มาแล้วๆๆ พี่ตั้ม

------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 20.1กว่าจะได้กินข้าวก็ต้องเถียงกับมันอีกรอบ เรียกว่าเสียงแหบกันไปข้างนึง มีอย่างที่ไหนจะพาผมไปกินข้าวร้านของทิว ถ้าไปมีหวังได้โดนทิวซักตายเลย หายไปไม่บอกแถมยังติดต่อไม่ได้ ถ้าผมกลับไปคนเดียวแล้วคุยเรื่องงานก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่นี่...มันดันจะพาไปนั่งกินข้าวในฐานะลูกค้าต่างหาก
“พามาร้านอื่นแล้วก็ช่วยทำหน้าให้มันเจริญอาหารหน่อย”เอากับมันสิ จะบังคับผมไปทุกอย่างเลยหรือไง
“จะบังคับแม้แต่สีหน้าเลยรึไง”
“ใช่”มันยอมรับอย่างหน้าตาเฉย ไม่ได้มีสีหน้าล้อเล่นด้วย ถ้าอยากให้ผมเจริญอาหารนะ ควรเอาหน้ามันออกไปไกลหูไกลตาจะดีมาก
“ไอ้บ้า”
“แล้วไง”มันพูดคำนี้อีกแล้ว อะไรๆ ก็แล้วไงๆๆ
“..........”หมดเรื่องพูดเลย ด่าเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะท้าน อาหารตรงหน้าก็น่ากินดีอยู่หรอก แต่คนร่วมโต๊ะนี่สิที่ไม่ค่อยน่ามอง เงยหน้าทีไรก็เจอหน้ามัน ก้มสนใจอาหารอย่างเดียวดีกว่า
“หิวนักรึไงถึงไม่พูดไม่จา”มันไม่พูดเปล่า เอาช้อนมาเคาะจานข้าวผมด้วย ไร้มารยาทจริงๆ
“เวลากินข้าวใครเขาให้พูดกัน”
“ไม่ใช่เด็กที่พูดตอนกินข้าวแล้วจะติดคอหรือสำลักนะ”
“อะไร”ผมเงยหน้าขึ้นมามอง ไม่เข้าใจคำพูดมันครับ
“ทำไม หรือว่าไม่รู้ว่ามันเป็นอุบายเพื่อให้เด็กกินข้าวดีๆ ไม่มูมมาม”ที่มันพูดก็พอเข้าใจนะครับ แต่ผมไม่ใช่เด็กนี่
“....นั่นก็เพราะมันเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ข้าวเต็มปากใครจะอยากพูดมั่ง”ผมต้องหยุดกินข้าวเพื่อเถียงกับมันอีกรอบเหรอเนี่ย
“ก็เคี้ยวให้หมดแล้วค่อยพูดสิ เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้รึไง”สรุปมันจะเอาชนะให้ได้ใช่มั้ยเนี่ย
“.....ช่างคุณ ผมไม่พูดใครจะทำไม”
“ก็พูดมาตั้งเยอะแล้ว ใครจะทำอะไรได้อีก”
“......”เซ็งมัน เกลียดมัน ถือว่าคราวนี้มันชนะก็แล้วกัน....รู้งี้ไม่น่าต่อปากต่อคำด้วยเลย มีแต่เข้าตัวตลอด ไอ้ท่าทางอารมณ์ดีนี่ก็เหมือนกัน การแกล้งผม ทำให้ผมจนมุมได้นี่คงเป็นเรื่องสนุกสำหรับมันมากเลยใช่มั้ย
และแล้วสิ่งที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงก็หนีไม่พ้น ผมนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่...มันคงทำให้คนข้างๆ หงุดหงิดพอดู
“ถ้ามันลำบากนักเดี๋ยวจะเข้าไปพูดให้ดีมั้ย”
“ไม่ต้องยุ่ง”
“งั้นก็รีบๆ เข้าไปลาออกซะ ก่อนที่จะเปลี่ยนใจเดินเข้าไปในร้านด้วย”
“อย่าเร่งสิ กำลังทำใจอยู่”
“ทำใจบ้าอะไรนักหนาวะ แค่เดินไปบอกว่าขอลาออกเนี่ย”เอาอีกแล้ว พอเถียงหน่อยก็อารมณ์เสีย เหตุผลมันต้องถูกต้องเสมอเลยใช่มั้ยเนี่ย
“โว้ย! อย่างคุณมันจะไปเข้าใจอะไร รออยู่นี่แหล่ะ แล้วไม่ต้องตามเข้าไปนะ ไม่งั้นผมจะไปฟ้องนุว่าคุณทำอะไรกับผมบ้าง”
“เรื่องของมึง”นึกแล้วว่ามันต้องตอบแบบนี้ คนอย่างมันเคยสนใจอะไรบ้างมั้ยเนี่ย
“ไอ้โรคจิต”ผมรีบเดินออกจากรถแล้วปิดประตูเสียงดังเพื่อระบายความโกรธและหงุดหงิด ทุกย่างก้าวที่เดินเข้าไปในร้านทำเอาหัวใจแทบจะหยุดเต้น รู้สึกถึงสายตาของเพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงานด้วยกัน เสียงเพลงในร้านทำให้รู้ว่า...วงของทิวกำลังเล่นอยู่ ผมพยายามเดินแอบๆ ไปหาพี่ธารที่เคาน์เตอร์ ทันทีที่เขาเห็นผมก็หน้าบึ้งขึ้นมาทันที
“พาย! หายไปไหนมา ทำไมไม่บอกล่วงหน้า ปล่อยให้ตามหากันจ้าละหวั่น”
“ขอโทษครับพี่....พายมีเรื่องด่วนจริงๆ”ผมยกมือไหว้แล้วก็ก้มหน้ารับผิดทุกอย่าง
“เรื่องอะไรของเรา ไปคุยกับพี่ด้านใน”พี่ธารฉุดข้อมือผมเดินเข้าไปในห้องทำงาน ผมไม่กล้ามองไปทางเวที ไม่รู้ว่าทิวรู้มั้ยว่าผมมา....ไม่รู้ว่า.....ห่วงผมขนาดไหน
เคยเข้ามาคุยงานกับพี่ธารในห้องนี้ก็หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกประหม่าขนาดนี้ ผมบอกพี่ธารไปว่ามีปัญหาทางบ้านก็เลยต้องรีบกลับด่วน แล้วก็ไม่สะดวกทำงานที่นี่แล้ว พี่ธารก็คิดว่าผมมีปัญหากับใครในร้าน ผมต้องยืนยันอยู่นานว่าเป็นปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับเวลาทำงาน ผมขอที่จะไม่รับเงินเดือนของเดือนนี้ ถึงแม้จะทำไปเกือบครึ่งเดือนแล้วก็ตาม
“เรื่องเงินเดือนน่ะพี่จะโอนให้วันหลัง พายทำงานแลกเงิน ไม่ต้องมาเกรงใจอะไรพี่ แต่พี่ขอเลยนะ เราน่ะเป็นเพื่อนสนิทเจ้าทิวมัน มีอะไรก็คุยกับพี่ ปรึกษาพี่ได้ พี่เห็นพายเป็นน้อง อยู่ดีๆ ก็หายไปไม่บอกใครสักคน ทิวมันก็ไม่มีสมาธิทำงาน เอาแต่ตามหาเราทั้งคืน”
“ขอโทษครับ”ผมคงไม่ต้องถามทิวแล้วมั้งว่าเป็นห่วงผมขนาดไหน ยิ่งฟังพี่ธารพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด กี่ครั้งแล้วที่ผมทำให้ทิวเป็นห่วง เฮ้อ...ผมเองก็อยากคุยกับทิวเหมือนกันนะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ผมไม่รู้ว่ามันจะบ้าได้ขนาดไหน ผมปกป้องครอบครัวตัวเองได้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะปกป้องทิวได้ แล้วคนใจร้อนแบบทิว ถ้าเกิดเผชิญหน้ากับมันเมื่อไหร่...เดาได้เลยว่ามีเจ็บหนักกันบ้างล่ะ
“เอาเถอะ ต่อไปนี้มีปัญหาอะไรก็มาหาพี่ได้ พี่พร้อมให้พายกลับมาที่นี่เสมอนะ แวะมาเยี่ยมพี่บ้าง”
“ครับ.....งั้นพายกลับก่อนนะครับ”ผมยกมือไหว้พี่ธารอีกครั้ง รู้สึกขอบใจอย่างสุดซึ้งจริงๆ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้พูดคุยกัน แต่ก็รู้ว่าพี่เขาห่วงผมจริงๆ ผมแวะไปเอากระเป๋าที่ค้างไว้ในล็อคเกอร์....มาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน...แต่ผมก็ผูกพันธ์กับสถานที่...และพนักงานที่นี่แทบทุกคน.....รู้สึกใจหายเหมือนกัน
“พาย!”เสียงทิวดังขึ้นด้านหลัง พอผมหันกลับมาก็ปะทะทิวเต็มๆ ตัว ทิวกอดผมไว้แน่นจนรู้สึกเจ็บ คางผมเกยไว้บนไหล่ข้างซ้าย มองออกไปด้านนอกเห็นพวกจิ๋วกับต่อยืนอยู่
“....ทิว”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ทิวมาแล้ววววววววว

แฟนคลับทิว กดโหวตๆๆๆ
