-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 23.2ทิวขับรถพาผมมาที่คอนโด ตลอดทางทิวนั่งเงียบ ผมก็เงียบ ผม...ไม่รู้ว่าทิวคิดอะไรอยู่....ส่วนผม...นั่งคิดว่าจะบอกทิวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นดีมั้ย หรือว่าจะปิดบังไว้ก่อน ผมรู้ว่าทิวเป็นคนใจร้อนและเอาแต่ใจตัวเองขนาดไหน ถ้าทิวรู้แล้วบุกไปหามัน ผมไม่อยากเดาเลยว่าจะเกิดเรื่องใหญ่โตขนาดไหน คนใจร้อนกับคนบ้า....ใครจะชนะ
“พายยังตัวอุ่นๆ อยู่เลย นอนพักก่อนมั้ย มียามากินหรือเปล่า หรือจะไปหาหมอ”ตลอดทางที่ขึ้นมาบนห้อง ทิวจับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย เหมือนกลัวว่าผมจะหายไปอีกอย่างนั้นแหล่ะ
“ไม่ต้องหรอกทิว พายมียา แค่เป็นไข้เฉยๆ”ผมนั่งลงบนโซฟา ส่วนทิวรีบไปเปิดแอร์ หยิบน้ำหยิบขนมมาบริการผมเต็มที่ เห็นทิวดีกับผมแบบนี้ ผมก็ยิ่งหนักใจ
“เหรอ ไม่เป็นไรแน่นะ ถ้ามีอาการอะไรบอกทิวเลยนะ ใกล้ๆ นี่มีคลีนิคอยู่”ทิวเดินมานั่งลงข้างๆ พร้อมดึงมือผมไปกุมเอาไว้หลวมๆ อีกครั้ง
“อืม ไม่เป็นไรหรอก”ผมพยายามจะเว้นระยะห่างจากทิว เพราะกลัวว่าร่องรอยตามตัวจะเล็ดรอดออกมาให้ทิวเห็น
“.........พาย...บอกทิวมาตามตรงนะ ทำไมต้องลาออก แล้วหายไปไหนทำไมกลับมาป่วยแบบนี้ อย่าโกหกทิวนะ คราวก่อนก็ทีนึงแล้ว”ทิวดึงมือผมไปกุมไว้บนหน้าขา พร้อมกับเลื่อนตัวเข้ามาใกล้
“.........แม่พายไม่ค่อยสบายน่ะ ที่บ้านก็มีเรื่องยุ่งๆ วันนั้นเลยต้องรีบกลับ ส่วนเรื่องงาน.....ตอนนี้พายมีงานใหม่แล้ว เพื่อนแม่เขาอยากให้พายไปช่วยทำบัญชีให้น่ะ มันกระทันหัน พายเลยไม่ได้บอก"ผมพูดไปก็ต้องแอบเอานิ้วไขว้ไว้ข้างหลัง บาปจริงๆ เลย หาเรื่องแช่งแม่ตัวเองเนี่ย ถ้ามีข้ออ้างที่ดีกว่านี้ก็อยากจะยกมาพูดแทนเหมือนกัน
"จริงๆ เหรอ"ทิวถามย้ำ สีหน้าเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ผมเลยต้องย้ำลงไปอีกครั้ง
"จริงสิ"
"แล้วไปทำอะไรมาถึงป่วยแบบนี้"
"ก็....ติดไข้จากแม่ไง นั่งรถไปๆ กลับๆ มันก็เลยเป็นหนักขึ้น เมื่อยตัวไปหมดเลยเนี่ย"ผมแกล้งยกมือมานวดแขนขาตัวเองเบาๆ ไม่กล้ามองหน้าทิวเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าคราวนี้ทิวจะเชื่อคำโกหกผมมั้ย
"ก็บอกแล้วว่าให้ทิวไปส่ง ดูสินั่งรถใครไปก็ไม่รู้ เบียดไปเบียดกลับแล้วเป็นไงล่ะ ปากแห้งหมดเลย เจ็บคอมั้ย เดี๋ยวหาน้ำอุ่นให้กินดีกว่า"ทิวพูดจบก็รีบลุกตรงไปที่ครัว ผมลอบถอนหายใจเบาๆ ที่ทิวไม่ซักอะไรมากกว่านี้
ผมนอนฟังทิวบ่นนั่นบ่นนี่บนเตียงนอน ถึงจะยอมรับว่ายังเพลียๆ อยู่แต่กลับอยากนอนคุยกับทิวมากกว่า ส่วนทิวก็เอาแต่บังคับให้ผมหลับอยู่ได้ ถึงขนาดจะร้องเพลงกล่อม แต่ยิ่งทำให้ผมขำมากกว่า เขาว่าความสุขจะอยู่กับเราไม่นานท่าจะจริง เพราะนอนคุยกันเพลินๆ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมมันก็ดังขึ้นมา
"อ้าวพาย เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่แล้วเหรอ รุ่นใหม่เลยนี่"ทิวลุกขึ้นนั่งตามผมที่รีบลุกเพื่อควักโทรศัพท์ออกมาอย่างรีบร้อน ไอ้รุ่นใหม่รุ่นเก่าผมไม่รู้หรอก แต่คิดว่าคงแพงเกินกว่าที่ผมจะซื้อไหวแน่ๆ
"เอ่อ....เขาให้พนักงานใช้น่ะ เครื่องเก่ากับเบอร์พายก็เลยเอาให้แม่ไปแล้ว"ภายในวันเดียวผมต้องโกหกอีกกี่ครั้งเนี่ย
"มิน่าโทรไม่ติดเลย แล้วพายจะไม่รับเหรอ"ทิวส่งสายตาแกมสงสัยมา โทรศัพท์ในมือยังไม่หยุดส่งเสียงร้อง ถ้าผมไม่เห็นชื่อคนโทรก็คงจะกดรับโดยไม่ลังเลอยู่หรอก
"แป๊ปนะทิว สงสัยโทรมาคุยเรื่องงานน่ะ"ผมชั่งใจระหว่างเดินออกไปคุยนอกห้อง กับ...คุยต่อหน้าทิว แต่สงสัยทิวจะเลือกให้ผมแล้วล่ะ เพราะเล่นเอาหัวมาหนุนตักผมเฉยเลย
ผมตัดสินใจกดรับเบอร์ที่โชว์ชื่อว่า Office T. ไอ้ตัวอักษรในวงเล็บก็คงเดาได้ไม่ยากอยู่แล้ว เพราะมันเป็นชื่อย่อเจ้าของเครื่องนี้เอง
“ครับ”ผมยกมือป้องปากและกดโทรศัพท์แนบหูให้มากที่สุด กันเสียงคนพูดจะเล็ดลอดออกมาให้คนที่นอนอยู่ได้ยิน
“ทำอะไรอยู่ ทำไมรับช้า”แม้ไม่ได้เห็นหน้า แต่ก็รู้ว่าคนพูดกำลังโมโหและกำลังข่มน้ำเสียงตัวเองอยู่
“เรียนอยู่ครับ มีธุระอะไรหรือเปล่า”ผมพยายามฝืนพูดสุภาพกับมันเต็มที่ อยากให้ทิวเข้าใจว่าคุยเรื่องงานจริงๆ
“ลงมาได้แล้ว จะรออยู่หน้าคอนโด”
“หา?!!.....หมายความว่า..”
“อย่าให้ต้องขึ้นไปตามนะ เร็วๆ ด้วย”มันพูดจบก็วางสายไป ส่วนผมเหงื่อแตกผลั่กทั้งๆ ที่ห้องเปิดแอร์จนเย็น นี่มัน...ตามผมมาเหรอ.....ซวย..ซวยของจริงเลย
“เป็นอะไรพาย ทำหน้าตาตื่นเชียว”ทิวแหงนหน้ามองพร้อมยกมือรูปแก้มผมเบาๆ
“เอ่อ....ทิว....พอดีพายมีงานด่วนน่ะ เดี๋ยวพายขอกลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้”ผมคิดอะไรไม่ออกแล้วครับ ทิวได้ยินผมพูดก็รีบลุกขึ้นนั่งแล้วจับแขนผมไว้ก่อนที่ผมจะลุกจากเตียง
“เดี๋ยวทิวไปส่งนะ”
“เอ่อ....ได้ ไปส่งป้ายรถเมล์ก็พอนะ”ผมคิดว่าคงขัดทิวได้ยากเรื่องการรับส่งผม แต่ให้ไปส่งป้ายรถเมลล์แล้วค่อยนั่งย้อนกลับมาหามันที่หน้าคอนโดทิวก็ได้ ระยะทางไม่ไกลกันมาก
“ไปส่งที่ร้านเลยก็ได้ ทิวจะได้รู้ว่าพายทำงานที่ไหนไง”
“เฮ้ยไม่ได้!!....คือ...พายต้องไปบ้านเขาน่ะ ไม่ได้ไปที่ร้าน แต่เดี๋ยวพายกลับไปเอาของที่ห้องก่อน”ผมรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน แค่ลงไปข้างล่างก็ยังไม่รู้จะพ้นสายตามันได้หรือเปล่าเลย
“งั้นทิวไปส่งที่ห้องก็ได้”
“เอ่อ...”ผมว่าบาปของการโกหกและแช่งแม่ตัวเองคงตามมาทันแล้วล่ะ แล้วผมจะยังเหลือเหตุผลอะไรปฏิเสธมันได้อีกเนี่ย
“ทำไมเหรอ ไปสิ พายจะได้รีบๆ ทำธุระ เผื่อตอนเย็นว่างจะได้ไปหาทิวที่ร้านไง จิ๋วมันบ่นคิดถึงอยู่นะ”ทิวลุกขึ้นพร้อมกับจูงมือผมออกมาจากห้องนอนด้วย กว่าจะตั้งสติได้ก็เดินตามทิวมาที่รถเรียบร้อย แอบเหลือบมองไปหน้าคอนโดก็เห็นรถยนย์คันหรูจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมรีบยัดตัวเองเข้าไปนั่งในรถทิวทันที ไม่รู้ทำไม แต่คงดีกว่าให้มันเห็นแล้วตามมาลากผมตรงนี้
ทิวขับรถออกจากคอนโด ผมแกล้งก้มหน้าหาของในกระเป๋าตอนที่ผ่านหน้ารถมัน ไม่สงสัยหรอกนะครับว่าจะพ้นมันหรือเปล่า เพราะ......มันขับตามมาแล้ว
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ป.ล. พายเอ๊ยย งานเข้าแล้วลูก
