^
^
เจาะไข่

-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนพิเศษ....น่ารัก...แต่ไม่ได้รักนานๆ ครั้งผมถึงจะได้กลับเข้ามาใช้ชีวิตในตัวเมืองใหญ่แบบนี้ เดิมทีผมก็ไม่ค่อยชอบอะไรที่มันวุ่นวายอยู่แล้ว แต่คราวนี้โอกาสพิเศษจริงๆ ผม...อยากลอยกระทงที่แม่น้ำเจ้าพระยา ความต้องการของผมครั้งนี้ถูกคนข้างตัวบ่นว่าบ้าเทศกาลอีกตามเคย แต่แค่นึกภาพกระทงใบเล็กใบใหญ่ที่ลอยเป็นร้อยๆบนน้ำ มีแสงเทียนเล่มเล็กๆ ให้ความสว่าง...แค่นึกยิ้มออกแล้ว
"แล้วเอาไง จะไปนั่งที่ออฟฟิศหรือไปที่ร้าน"พอขับรถเข้ามาในเมืองได้ คนขับก็เริ่มหาทางไล่ผมทันที
"แล้วพี่จะไปไหนล่ะ"
"จะแวะไปดูบัญชีที่ร้านก่อน"
"อืม....แล้วไปออฟฟิสนานมั้ยล่ะ"
"ก็สักสองสามชั่วโมง เย็นๆ ก็ต้องรีบออกน่ะ เดี๋ยวรถติด"
"งั้นพายไปด้วยสองที่เลย จะได้ไม่ต้องวนมารับ"ไม่ใช่ว่าไม่อยากห่างกันหรอกนะ แต่รู้นิสัยต่างหาก ลองถ้าตอนเย็นมารับผมแล้วรถติดมากๆ นะ มีหวังได้อดไปลอยกระทงแน่ๆ เผลอๆ อาจเจอชิ่งหนีไปกินเหล้ากับเพื่อนด้วยซ้ำ
"ตามใจ เบื่อแล้วอย่าทำหน้าหงิกแล้วกัน"เขาพูดจบผมก็แทบจะหน้าหงิกตามที่บอกทันที แต่เก็บอาการไว้ก่อน รอให้ลอยเสร็จค่อยว่ากัน
อันที่จริงหน้าผมเริ่มควบคุมไม่ได้ตั้งแต่ออกจากร้านแล้ว ไม่ต้องรอไปถึงออฟฟิศหรอก รถจะติดอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ผมต้องนั่งกินขนมที่หยิบมาจากร้านบนรถแทนอาหารกลางวัน แต่คนขับไม่ค่อยทุกร้อนกับการกินเท่าไหร่ เมื่อเช้าเล่นกินข้าวไปสองชามแล้วค่อยปลุกผม กะว่าผมต้องไม่ไปแน่ๆ เพราะเวลาตื่นสายแล้วผมจะพาล แต่...เขาคิดผิดเพราะผมยอมอดข้าวเพื่อมีเวลาอาบน้ำแต่งตัว
จากร้านก็มานั่งเปิดหนังดูเพื่อรบกวนคนที่นั่งทำงาน ปกติก็ไม่ค่อยมีใครว่าอะไรผมอยู่แล้ว ผมเลย...ทำตามใจตัวเองเต็มที่ ดูหนังจบหนึ่งเรื่องงานก็เสร็จพอดี ผมรีบเดินนำคนขับไปขึ้นรถ ตอนนี้สี่โมงกว่าแล้ว รถเริ่มติดทุกเส้น โดยเฉพาะทางที่ผมจะไป กว่าจะไปถึงก็หกโมงกว่า เราจอดรถไกลจากท่าพระจันทร์มาก จะหารถมอฯไซต์นั่งต่อก็มีคนเรียกใช้เยอะจนไม่มีว่าง ผมเดินลากขาตามคนตัวสูงที่บ่นตลอดทางว่าร้อน กว่าจะมาถึงท่าพระจันทร์เล่นเอาหมดแรง เกือบเป็นลม ดีว่าอากาศช่วงนี้เริ่มเย็น ไม่งั้นผมคงเปลี่ยนใจกลับตั้งแต่วนหาที่จอดรถแล้ว
"หาอะไรกินก่อนแล้วกัน"สั้นได้ใจความ แสดงว่าหงุดหงิดเต็มที แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร แทบทุกร้านเต็มหมด แถมมีคนยืนรอคิวยาวเหยียด
"เดี๋ยวพายซื้อพวกที่ขายข้างทางมาให้กินแล้วกัน ไม่ต้องนั่งร้านหรอก เสียเวลารอ"
"อืม...ไปซื้อลูกชิ้นร้านนั้นด้วย อยากกิน"พูดจบก็เดินนำไป ผมเดินแทรกผู้คนตามไปจนถึงหน้าร้าน ซึ่งคนที่เดินมาก่อนเลือกเสร็จเรียบร้อย หมดค่าลูกชิ้นไปหกสิบบาท ซื้อน้ำเปล่าอีกสองขวด ผมรีบมองหาร้านขายเค้ก เพราะจำได้ว่าเคยกินไม่กี่ครั้งแต่ติดใจรสชาติมาก
"ไปซื้อเค้กกัน"
"เมื่อเที่ยงก็กินแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่เบื่อรึไง"
"ร้านนี้อร่อย ตามมาเร็ว"ผมรีบเดินเบียดคนมาหน้าร้านเค้ก ร้านนี้อร่อยจริงๆ ราคาไม่แพงด้วย
ระหว่างที่ผมยืนเลือกเค้กก็เหลียวมองคนที่มาด้วยกัน...แต่...ไม่ได้มองผม...ไม่ได้มองเค้ก...แต่...มอง...เด็กที่...ยืนอยู่ข้างๆ ผมแทน ยอมรับครับว่าน่ารักมากๆ ขนาดผมยังแทบจะมองตาค้างเลย น่ารักแบบ...เหมือนผู้หญิง แต่ดูดีๆ ก็รู้ว่าเป็นผู้ชาย ตัวเล็กมากๆ
"จะกินแต่เค้กช็อคโกแล็ตหรือไงเจ ไม่เอาอันอื่นปนไปบ้างล่ะ"พอได้ยินเสียงคนที่ยืนถัดไปพูดผมเลยแอบมองหน้า อยากรู้ว่า...เพื่อนหรือ...เป็นแบบผม
"ก็เจชอบแต่ช็อคโกแล็ตนี่ พี่เอ็กซ์อยากกินอันไหนก็เลือกไปต่างหากสิ"
"อืม....ก็เอาเหมือนกันนั่นแหล่ะ"ดูจากคำพูดและท่าทางแล้วไม่ใช่เพื่อนกันแน่นอน แถมคนนี้หล่อมากด้วย คู่นี้ดู...สมกันดี
"อ้าว แล้วจะให้เจเลือกอันอื่นไปทำไมล่ะ"
"เอาไปเผื่อคนอื่นไง"
"เผื่อใคร โก้กับตี๋มันก็ชอบเหมือนเจนี่แหล่ะ พี่เอ็กซ์น่ะไม่รู้เรื่องเลย"
"ครับๆ พวกมันชอบเหมือนเจ หรือโดนเจบังคับให้ชอบเหมือนกันก็ไม่รู้ ขนาดพี่ยังต้องกินตามเจเลยเนี่ย"
"งั้นไม่ต้องกินตามเลย ซื้อไปนี่ไม่ต้องกินเลยนะ ไม่ต้องจ่ายให้ด้วย เจกินเองจ่ายเอง"คนตัวเล็กพูดจบจ่ายเงินแล้วก็เดินงอนไปเลย ผมแอบยืนอมยิ้มกับท่าทางน่ารักน่าชังแบบนั้น
"ไม่เดินตามน้องเขาไปเลยล่ะ"ไม่ได้หึงนะครับ แต่เล่นมองซะเหลียวหลังผมก็เลยอดพูดไม่ได้
"อ้าว แล้วไม่บอก งั้นจ่ายเสร็จก็รีบตามไปนะ"เขาพูดแล้วทำท่าจะเดินไปจริงๆ...ไม่ใช่แค่ทำท่า...แต่เดินไปจริงๆ ผมจ่ายเงินแล้วรับกล่องเค้กมาเสร็จก็เห็นเขายืนอยู่หน้าร้านขายกระทง...ที่มีสองคนนั้นยืนอยู่
"มาเลือกสิ จะได้รีบลอยรีบกลับ"พอเห็นผมยืนอยู่ข้างหลังเขาก็กวักมือเรียก น้องสองคนนั้นหันมามองผม แถมผมยังบังเอิญไปสบตากับคนตัวเล็กๆ นั่นด้วย สบตาไม่เท่าไหร่ น้องคนนั้นส่งยิ้มมาให้ด้วยนี่สิ เล่นเอาผมไม่กล้าเดินไปตรงนั้นเลย
"เอาอันไหนก็ได้"ผมเดินก้มหน้าไปยืนข้างๆ เขา ไม่กล้าเงยหน้ากลัวน้องข้างๆ จะมองมาอีก รู้สึกอายอะไรก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
"เอาอันใหญ่ไปอันเดียวแล้วกัน"เขาพูดจบก็เลือกกระทงแล้วจ่ายเงิน ผมเดินตามออกมาจนมาถึงเรือ ไม่รู้ว่าน้องสองคนนั้นเดินไปทางไหน ผมว่าที่ตัวเล็กนั่นยิ้มให้ผมต้องเป็นเพราะแอบจับได้ว่าผมแอบมองแน่ๆ
ปกติเรือจะเป็นเรือข้ามฝาก แต่วันนี้เป็นเรือที่ไว้ลอยกระทง พอขึ้นเรือผมก็พยายามมายืนริมๆ เพราะไม่อยากถูกเบียดอยู่ตรงกลาง ระหว่างที่เรือแล่นออกมาจากท่าผมก็มองไปบนผิวน้ำ ถึงตอนนี้จะไม่ดึกมาก แต่...กระทงจำนวนไม่น้อยนั่นก็ยังดูสว่างไสวและสวยอย่างที่คิดเอาไว้
"อธิฐานสิ"กระทงใบใหญ่ที่จุดเทียนเรียบร้อยถูกยื่นมาไว้ในมือ ผมยกกระทงจรดหน้าผากแล้วอธิฐานในใจ คำขอในใจไม่ได้มีอะไรพิเศษ แค่คำขอเหมือนคนทั่วๆ ไป...ขอให้มีความสุข....ผมคิดว่า...เป็นสิ่งเดียวที่ผมควรขอ และก็...ขออภัยสิ่งที่เคยทำไม่ดีกับแม่น้ำทุกสายด้วย...เพื่อว่า...ปีหน้าผมจะได้ลอยกระทงสวยๆ แบบนี้อีก
พอเรือกลับมาเทียบท่า ผมก็ถูกจับแขนกึ่งลากเดินออกจากฝูงชนทันที คนที่มาด้วยไม่รู้ได้อธิฐานอะไรหรือเปล่า แค่ยกแตะหน้าผากแค่พริบตาก็เอาลง
"เนี่ยนะที่อยากมา ยังไม่พอห้านาทีเลยมั้งเนี่ย นึกว่าจะได้นั่งเรือไปตามแม่น้ำดูวิวซะอีก"นึกแล้วว่าท่าทางแบบนี้ต้องไม่พอใจ ไอ้ที่อยากดูวิวมันก็มี แต่ก็แพงด้วยไง แบบนี้สบายดี ได้กินของอร่อยด้วย
"ก็แค่นี้แหล่ะ ให้ดูวิวบนเรือมันก็แพงกว่านี้สิ"เปล่าครับ ไม่ใช่เสียงผม ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เป็นเสียง....น้องตัวเล็กนั่น ไหงมาเดินอยู่ข้างๆ พวกผมได้เนี่ย
".......รู้งี้พาไปลอยที่อื่นดีกว่า"
"ปีหน้าก็ไม่ต้องมาแล้วกัน"
"พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบ....."น้องตัวสูงพูดค้างทันทีที่มองเลยมาเห็นผม
"อะไร....อ้าว"พอคนที่เดินข้างๆ หยุดพูดไป น้องตัวเล็กข้างผมเลยหันมามองบ้าง คราวนี้ผมก็เลย...ซวย...ไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่บทสนทนามันดันคล้ายกันต่างหาก
"มองอะไร"ผมแค่คิดนะ ไม่ได้พูด คนที่พูดน่ะ...ยืนค้ำหัวผมอยู่นี่ไง แถมอยู่ดีๆ ไปถามน้องเขาแบบนี้ได้ไง เป็นเพราะผมมองก่อนต่างหาก
"ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจ"น้องตัวเล็กพูดซะน่าสงสารเลย คงกลัวคนที่มากับผมมากแน่ๆ น้องตัวสูงเลยรีบรั้งแขนให้ยืนชิดมากขึ้นกว่าเดิม เอ่อ...คู่นี้เขา...เปิดเผยดีนะ
"แล้วคุณล่ะมองอะไร"ท่าทาง...น้องตัวสูงก็คงไม่เบาเหมือนกันถึงได้ถามกลับแบบนี้
"ก็เห็นน้องคนนี้น่ารักดีเลยมอง"เอ่อ....นี่ก็...ตรงจริง แต่...ตรงผิดเวลา ที่สำคัญ...เป็นคำตอบที่ไม่เข้าหูผมเท่าไหร่
"งั้นมองกันไปนะ พายกลับล่ะ"ผมเดินเลี่ยงออกมาโดยไม่คิดจะหันกลับไปอีก ไม่ได้หึงนะครับ แค่...รู้สึกว่า..มันไม่ควรพูดแบบนั้น
ผมเดินก้มหน้ามาเรื่อยๆ จนถึงที่จอดรถ น่าแปลกที่ขากลับไม่เหนื่อยเท่าตอนแรก คนขับก็เดินมาถึงรถไล่ๆ กับผม ทีแรกนึกว่าจะคุยกับสองคนนั้นต่อซะอีก พอปลดล็อคประตูผมก็รีบเข้าไปนั่ง ไม่ได้สนใจคนข้างๆ เท่าไหร่
"เป็นอะไรอีกล่ะ"
"เปล่า"
"ตอบดีๆ"
"......ก็ทำไมต้องไปหาเรื่องสองคนนั้นด้วยล่ะ"
"ไม่ได้หา ก็ไอ้เด็กนั่นเล่นจ้องเอาๆ ก็ต้องมีหงุดหงิดบ้างสิ หรือว่าชอบที่โดนมอง"นั่นไง กลายเป็นผมผิดซะงั้น
"ก็พายไปมองน้องเขาก่อน เห็นน่ารักดีเลยมองนานไปหน่อย น้องเขาก็เลยมองกลับมา แค่นั้นเอง"ก็น้องตัวเล็กนั่นน่ารักจริงๆ นี่ครับ ผมว่าจิ๋วน่ารักแล้ว เจอน้องคนนี้ชิดซ้ายไปเลย
"ไอ้โย่งนั่นน่ะนะน่ารัก เอาตรงไหนมองเนี่ย"
"......โย่ง....พายหมายถึงน้องตัวเล็กนั่นต่างหาก"
"ก็พี่หมายถึงคนตัวสูงๆ ที่มันจ้องพายนั่นไง"
"เฮ้ย!! ไม่เกี่ยวนะ พายไม่ได้มอง"ความจริงแค่มองผ่านๆ ครู่เดียว ก็หล่อดีแค่นั้น
"ไม่ได้ไปมองมันก็แล้วไป นึกว่าชอบ"
"ใครกันแน่ชอบ เห็นจ้องน้องตัวเล็กนั่นตอนซื้อเค้กซะตาละห้อย แถมยังเดินตามอีก"
"....ก็น่ารักดี...แต่ก็แค่นั้น..."
"หมายความว่าไง พายว่าน้องเขาน่ารักมากเลยนะ พายยังมองตาค้างเลย"
"ก็น่ารักไง แต่ก็แค่นั้น...ไม่ได้รัก มองไปก็เท่านั้น"
"..........อืม...กลับบ้านกันเถอะ"
"มาแค่นี้ไม่รู้จะมาทำไม อยู่บนเรือยังไม่พอหายเหนื่อยเลย ปีหน้าไม่มาแล้วนะที่นี่น่ะ ถ้าอยากลอยเดี๋ยวพาไปที่อื่น"คนขับเริ่มสตาร์ทรถแล้วขับออกไปท่ามกลางการจราจรที่วุ่นวาย เสียงบ่นยังคงดังเรื่อยๆ ตลอดทาง แต่...ไม่รู้สิ....ผมว่า...เทศกาลลอยกระทงนี่.....อบอุ่นดีนะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
